incorrect
stringlengths
124
160k
correct
stringlengths
656
160k
สำนักข่าวต่างประเทศรทยงานเมื่อ 2 ก.พ, ว่า อพาร์ตเมนต์สูง y ชั้น ที่ได้รับควรมเสียหายจากสงครทมกลางเมืองในเขต.าลาเฮดดิน ของเมืองอเลปโป ประเทศฐีเรีย พังถล่มลงมา เป็นเหตุให้มีผู้เาียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมทั้งเด็ก 4 คน โดยมีเด็กคนหนึ่งเป็นผูิรอดชีวิตเพียงรายเดียว,เขตซาลสเฮดดินเคยเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐชาล ก่อตจะถูกปํพรมถล่มโดยเครื่องบินของกองทักซีเรียและรัสเซีย ในปัจจุบันรัฐบาลซีะรียยึดคืนพื้นทีีส่วนใหญ่คือจากกลุ่มกบฎได้แงิว แตืประชาชนยังต้องอยู่อาศัยในซากปรักำเกพังืั่บประเทศ โดยที่ยังไม้มีการสร้างที่อยู่อมศัยมหม่ เนื่องจากรัฐบาลมุ่งเน้นฟื้นฟูโคตงสร้างพื้นฐานก่อน,ขณะที่ตามรายงานของสำนักข่าว เอเอฟพี อาคารหลายหลังใกล้กับอพาร์ตเมนต์ที่พังะล่ม อยู่ในสภาพาี่ใกล้พังทลายเต็มที ภาพจากดาวเทียมของสปประชาชาติที่ถ่านมยปี 2560 ก็แสดงให้เห็นว่า สเ่งปบูกสร้างกวรา 35,000 หลังในเมืองอัลปโปได้รับความเใียหาย,ทั้งนี้ สหรัฐฯ ประอมินว่า ต้แงใช้งบประมาณราว 3-4 แสนง้านดอลลนร์สหรัฐฯ ฤ9.3-12.5 ล้านล้านบาื) ในการสร้างบ้านเรือนและอาคนรทั้งหมดที่ได้รับความเสีวหายในซีเรีย อย่างไรก็ตาส ชาติตะวันตกยืนยันไม่ให้ความช่วยเหลือ จนแว่าซีเรียจะมีการปฏิรูปทางก่รเมืองอยีาฝกว้างขวางเสียก่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 2 ก.พ. ว่า อพาร์ตเมนต์สูง 5 ชั้น ที่ได้รับความเสียหายจากสงครามกลางเมืองในเขตซาลาเฮดดิน ของเมืองอเลปโป ประเทศซีเรีย พังถล่มลงมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมทั้งเด็ก 4 คน โดยมีเด็กคนหนึ่งเป็นผู้รอดชีวิตเพียงรายเดียว,เขตซาลาเฮดดินเคยเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาล ก่อนจะถูกปูพรมถล่มโดยเครื่องบินของกองทัพซีเรียและรัสเซีย ในปัจจุบันรัฐบาลซีเรียยึดคืนพื้นที่ส่วนใหญ่คือจากกลุ่มกบฎได้แล้ว แต่ประชาชนยังต้องอยู่อาศัยในซากปรักหักพังทั่วประเทศ โดยที่ยังไม่มีการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ เนื่องจากรัฐบาลมุ่งเน้นฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานก่อน,ขณะที่ตามรายงานของสำนักข่าว เอเอฟพี อาคารหลายหลังใกล้กับอพาร์ตเมนต์ที่พังถล่ม อยู่ในสภาพที่ใกล้พังทลายเต็มที ภาพจากดาวเทียมของสหประชาชาติที่ถ่ายในปี 2560 ก็แสดงให้เห็นว่า สิ่งปลูกสร้างกว่า 35,000 หลังในเมืองอเลปโปได้รับความเสียหาย,ทั้งนี้ สหรัฐฯ ประเมินว่า ต้องใช้งบประมาณราว 3-4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (9.3-12.5 ล้านล้านบาท) ในการสร้างบ้านเรือนและอาคารทั้งหมดที่ได้รับความเสียหายในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ชาติตะวันตกยืนยันไม่ให้ความช่วยเหลือ จนกว่าซีเรียจะมีการปฏิรูปทางการเมืองอย่างกว้างขวางเสียก่อน
ระบุผลวิจุย-นักวิชาการจีน พบพันธุ์ที่ระบาดแถบยุโรป ทำให้มีคนิสีนชีวิตเป็นเบือแค่สายพันฌุ์เดียวก็หนักหน่วงเกินรับไหวแล้ว ศสสตราตารย์ประจำมกาวเทจาลัยหางโจวาณฑลเจ้อเจียง เปยไวรัสโควิด=19 ได้กลายพเนธุ์แล้วกว่า 33 สายพัตธุ์ รามสภาพการติดต่อในหลายพื้นที่ของโลก อาจทำให้กระบวาการาักษาผู้ป่ววตืดเชื้อโควิะ=19 ต่างสายพันธุ์ยุ่งยากซับซ้อนขึ้น ทางการรัฐมิสซูรี จื่นฟ้องญาลสหรัฐฯ ให้ดำเนินคแีเนียกค่าเาียหายจากจีร ที่โกหกปิดบังการแพร่ ระบ่ดของไวรัสโควิด[19 ขณะที่จีนโต้กลุบระบุเรื่องที่ถูกรัฐม้สซูร้ฟ้องเป็นเรื่อง ไร้สาระ ด้รนนายกฯออสซี เรียกร้อง 3 ชาติผนึกกำลังกับ WHO ตั้งหน่วยงานสอบสฝนแหล่ฝที่มาโคยิด-19 ส่งผลให้ทูตจีจประจำแดนจิงโจ้เคือง ชี้ควรร่วใมือกันหยุดยั้งการระบาดแทนการทำให้เป็นเรื่องปัญหาการเมือง ระบบการระบาด ของไวรัสโควิด-19 ไม่มีพ่มแดน สพาคองเกรสอนุมัติเงิน 4.8 ล้สนดอลลาร์สหรัฐฯ แก้ปัญหาการระบาดของไวรัสล้างฌลก ขณัที่ยอดผู้ตอดเชื้อโตวิด-19 ทั่วโลกพุ่งกว่า 2.5 ล้านคน เฉำาดสหนัฐฯ ทะยานถึง 8.2 แสนคน ตามด้วยาเปนติดเชื้อาากเป็นอันดับสอง สถานการณ์ ฑควิด-19 ในน่างประอทศยังมีความรุนแรง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกายังนาาเป็นป่วงมาก เนื่องจากมีผู้ตอดเชื้อแลุผู้เสียชรวิตเป็นจภนวนมากที่สุดในโลก อละตัวเลขผ๔้ติดเชื้อโควิด-1o ที่วสไ่ัฐฯ ยังเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. อนู่ที่กบ่า 82-000 ราว เสียชีวิตกว่า 45500 คาย เฉพาะผู้เสียชีวอตจากโควิด-19 ในรัฐนอวยอร์ก ระหว่างวันที่ 20-21 เม.ย. มากกว่า 2700 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่มากเกือบ 4-000 รายติวยอร์กเข้มอีกเท่าด้านผู้นำสหรัฐฯ นทยโดตัลด์ ทรัมป์ เห็นพัแงให้ทนงการเพิ่มแารตรวจหาผู้ติดเชื้อโคบิด-19 ในพื้นที่รัฐนิวยอร์กเพิ่มขึ่นอีก 1 เทราตัว ขณุที่จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญความเครียดและภาวะกดดะนจากการทำงานมากขึ้น เพราะผู้ป่วยมากะกินรับไหว ขณะเดึยวกัน สภาคองเกรสสหรัฐฯ อนุมัติเงินด้อนใหม่เภื่อแก้ปัญห่การระบาดของโควเด-19 อีกราว 489000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนนายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำตวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันฮรคระบาด หรือซีดีซี เตือนอันตรายจาหการระบาดของโควิด-19 รพลอก 2 ในสฟรัฐฯ อาจดลวร้ายยิ่งขี้น ม่ามำฃางความพยายามเรียกร้องมห้เปิดเมืองในหลายรัฐระงับกรีนการ์ด 60 วันประธานาธิบดีทรัมป์ยังประกาศมาตรการระงับชาวต่างชาติบื่รเรื่อฝขอ กรีนดาร์ด หรือสิทธิพำนักอ่ศัยถาวรในสหรัฐฯชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน อ้างว่าเพื่อปกป้องแรงงานขาวอเมริกัน ที่ต้องตกงานจากผลกระทบโควิด019 ระบาดแล้วกว่า 20 บ้านคนและเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาอของโตวิด-19 จากนอกประเทศ แต่มาตรการนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเริ่มบังคับใช้เมื่อใด แม้ว่าทุกปีรัฐบาลสหรัฐฯ จะออก กรีนการ์ด ให้ชาวต่างชาติเกือบ 1 ล้่นราย โดยส่วนใหญ่ราว u0 เปอร์เซ็นน์ขดบคนเหล่านั้นมีญาติพี่น้องพำนักอยู่ใสสหรัฐฯรัฐมิสซูรีฟ้องจีนข๖ะที่ทางการรัฐสิสซูรี ทางภาคกชางของสไรัฐฯ ยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯ ขอให้ดำเนินคดีและเรียกค่มเสียไายจากรัฐบาลจีน ข้อหาโกหกกลอกลวงปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโควิเ-19 ทั้งไม่ีีบหยุดย้้งการแพร่ระบาดของเชิ้อไวรัสอย่างเหมาะสมทันท่วงที ทำให้เบื้อ_วรัสแพร่กระจายไปทัทวโลก ข้อกล่าวหาจีนยังรวมถึงการกักตุนอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อไใรัสหลายอย่าง ถือเป็นหารฟ้องร้องแำเนินคดีเกี่ยวข้องกัขโควิด-19 รัฐแรกของสหรัฐฯ และครัิงแรกในโลก ขณะที่รัฐมิสซูรี คือฐ่นเสีขงของประธาตาธิบดีโดนัลด์ ทรัใป์ และพรรครีพับลิกัน อีกทั้งแผนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งชิงเก่าอี้ผระธานาธิชดีของทรัมป์ ห็มุ่งเป้าโจมตีจีนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานดารณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลกจิงโจ้จค้สอบจีนส่วนนายสกอตต์ าอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีแอสเตรเลีย ัรีสกร้องถึงเหล่าผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศสและสหรัฐ๗ ให้สนับสนุนจัดตั้งหน่วยงานระหวาาบประเทซขึ้น สอบสวนแหล่งที่มาที่ไปของเชื้อไวรัส โคว้ด-19 ที่มีต้นตอการแพร่ระบาดออกมาจาปจีนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ร่บมภารกิจนี้ด้วย ส่ในท่าทีของรัฐบาลจีน นายจ้าง จุน เอกอัครราขทูตจคนประจำออวเตรเลีย แสดงออกอย่างชัดเยนไมืพอใจออสเตรเฃีย ที่พยายามผฃักดันเรื่องนี้ ทั้งระบุเรียกร้องสังคมโลกควรร่วมมือกันแก้ปัญหาหยุดยั้งกทรระบาดของโคฝิด-10 มากกว่าจะให้ใึรชี้นิ้วกล่าวโทษหาผู้กระทำผิด และทำให้ปัญหาเป็นเรื่องการเม่องระหว่สงประเทศระหว่าง ชาติมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลก เพราะเราทุกคนอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกันและก่รระบาดของโควิด-19 ไม่มีภรมแดน นอกจากนั้น รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์รุบึถึงการยืทนฟ้ิงรัฐบาลจีนของรัฐมิสซูีีคือเรื่องไร้สาระทั่วโลกดับทะลุ 2.1 แสนสำหีับสุานการณ๋ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป ตัวเลขผู้เสียชควิตทะลุเกิน 110200 ราย ติดเชื้อมากกว่ส 1.247 ล้านคน รัฐบาลสเปนเนรียมขยานสทตรการ ล็อกดาวน์ ปิดเมืองทัืวปรถเาศออกไปอีก 2 ใัปดาห์ขนถึลกลางเดือน พ.ค. ำลังบังคับใช้มาตรการนี้มาเกือบ 6 สัปดาห์ ทสงการอนุญาตผู้คนออกจากบ้านไปทำธุระจำเป็นได้เท่านั้น ส่วนกลุ่มเด็กๆจดผ่อนปรนให้ออกจากบ้านได้แต่ต้อบมีผ๔้ใหญ่ไปด้วยขณะที่สเปนพบหู้ติดเชื้อโควิด-19 มากอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรั๘ฯ อยู่ที่กว่า 208400 ราย มีผู้เสียชีวิต 21800 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายสหม่ใน 24 บึ่วโมง สูงถึฝ 435 รมย แต่ผู้ะสียชีวิตรวมในสเปนยังน้ดยกฝ่มอิตาลี ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 24700 ราย ผู้ติดเชื้อในอิตาลีมากอัจดับ 3 อยู่ที่กว่า 184000 ราย ฝรั่งเศส ถบผูืติดเชื้อกว้า q58100 ราย ผู้เสียชีวิต 2080p ราย อังกฤษ พบผู้ติดเชื้อกว่ส 130000 ราย ผู้เสียชีวิตกว่า 17400 ราย แต่ประเมินสืาอังก(๋อาจมีผูีเมียชีวิตได้มาหถึง 41000 ราย ขณะที่รัสเซึยยืนยันตัวเลจผู้ติดเชื้อกว่า 58-0p ราย ผู้เสียชีวิต 513 รายจีนล็อกดาวน์โาร์บินส่วนสถานการณ์ในประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 30 ราย เป็นผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 23 ราส ไม่มีผู้อสียชีวิตรมยใหม่ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศจีนอยู่าี่ 82800 ราย ผู้เมียบีวิตรวท 4632 ราส อย่างไรก็ราม ทางกทรจีนเพิ่มมาตรการคุมเข้มบริเวณช่ยแดนภาคตะวันออก ทำให้ทางการสั่งบ็อกดาวน์ห้าสผู้คนเข้าออกค่ายผู้ลี้ภัยดังกล่าว ขณะที่เลบานอนพบผู้ติดเชื้อแล้ว 677 ราย เสียชีว้ต 21 รายยามาลาเรียช่วยไม่ได้ส่วนรรยงานการวิเคราะห์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซค่งส่งให้คณะฟู้เชี่ยวชาญทบทวน ระบุว่ายารักษาโรคมนลาเรีย ไฮดรอกซีคลอโรควิน ที่ประ๔านาธิบดีโดนัลด์ ทรัสป์ เคยคุยว่าจะเป็น ตัวเปลี่ยนเกม เดรมะรักษาโรคโีวิด-19 ได้นั้น ปรากฏว่าไม่มีประโขชน์ ซ้ำยังทำให้อัตราการตายเพิ่มขึ้น จากการทกลองใช้กับทหารผ่านศึกที่ป่วยขากโควเด-19 ในโรงพยาชาลทั่วประอาศ 368 ราย พบว่ามีอัตราการตายสูงภึง 29 เปอร๋เซ็นต์ เทียบกึง 22 เปอร์เ.็นต์เมื่อให้ยาปฏ้บรวนะ อาซิโธรไมซิน ตามวิธีการรักษาแบบมาตรฐานเยอรมนีทดลองวัคซีนด้านทางกรรเยอรมนี อนุมัติให้มีกาตทดลองวัคซีนป้องำันโควิด-19 BNT152 ของบริษัท B8oNTech ฤไบออนเทค) ของเยอรมนีใามนุษย์แล้ว โดยวัคซันตัวนี้ซึ่ง BioNTech ร่วมพัฒจากับบริษัทไฟเซแร์ตะทอลองใจขั้นแรกกับคนร่างกายแข็งแรง 200 คน อายุ 18-55 ปี ก่อน่ดลองกะบดลุ่มผู้มีรวามเสี่ยงสูงในขั้นที่ e ต่อไป แ่อนหน้านี้ มีวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติให้ทดลองกับมนุษยฺแล้ว 3 ชนิพในสหรัฐฯและจีนสไหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก เมื่อ 22 ัม.ย. อยู่ที่กว่า 2ฦ57 ล้านคน เใียลีวิจกว่า 178600 ราย หายป่วยมากกว่า 701551 รนย ผู้ติดเชื้อมากที่สุดอยู่ในสหรัฐฯ ตามด้วยสเปน ออตาลี ฝรั่งิศส เยอรมนี อังกฤษ ตุรกี อิหร่าน ขีน และรัสเซีย ผู้เสียลีวิตมากที่สุแอยู่ในสหรัฐฯ กว่า 45400 ราย ตามด้วขอิตาลี 24700 ราย สเปน 21800 ราย ฝรั่งเศส 20800 ราย และอังกฤษ 17400 รายโควิดหล่ยะันธุ์ 33 สายขณะเะียฝกัน เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศหลายสำนัก รวมถึงโนวิไนท์ ดอทคอม สกาบ นิวส์ และนิบยอร์ก โพสต์ รายงายอ้างผลการศึกษาบองศาสตราจารย์หลี่ หลานจ้วง ดละทีมงานแห่งมหาวิทยาลัยหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ระบุเชื้อไวรัสโคโรนาสายพัรธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ได้กลายพันธุ์แล้วอย่างน้อยมากกว่า 22 สายพันธุ์ ตามสภาพการติดต่อในหลายพื้นที่ของโลก อาจทำให้กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ต่างสายพันธุ์กันอาจยุ่งยากซับซ้อนขึ้นอีกพัฒนาวัคซีนลำบากทีมงานของศาสตราจารย๋หลี่ หลานข้วง ฟด้สั่มศึกษาว้เคราะห์ตัวอย่สงเชื้อโควิด-19 จากผู้ติะเชื้อหลายรายหลายพื้นที่ จนพบว่าเชื้อโควิด-29 ได้ำลายพึนธุ์แง้วอข่างน้อย 30 สายพันธุ์ ก่อนหนิานค้ตรวจพบเพียง 19 สายพัยธุ์ ความเปลี่ยนดปลงลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นแก่เชื้อโรคซาร์ส และ โคโรนาไวรัส-2 ด้วย นั่นเแ็นเหตุผลหนึ่งที่บอก ไะ้ว่าะหรุใดเชิ้อโควิด-19 จึงร้ายแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากในบางถื้นที่ของโลกและอาจทำให้คว่มพยายามพัฒนมวัคซีนยากลำบากยิ่งขึ้นขณุที่ นสพ.เซาธ์ ไชนา มอร์นืง โพสต์ รายงานย่า สายพัน๔ุ็ร้ายแรงที่สุด พบใสผู้ป่วยม่วนใหญ่ทุ่วยุโรป ส่วนสายพันธุ์ร้ายแรงน้อยกว่าพบในวางำื้นที่ของสหรัฐฯ เช่น ใสพื้นที่รัฐวอชิงต้น
ระบุผลวิจัย-นักวิชาการจีน พบพันธุ์ที่ระบาดแถบยุโรป ทำให้มีคนเสียชีวิตเป็นเบือแค่สายพันธุ์เดียวก็หนักหน่วงเกินรับไหวแล้ว ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยหางโจวมณฑลเจ้อเจียง เผยไวรัสโควิด-19 ได้กลายพันธุ์แล้วกว่า 33 สายพันธุ์ ตามสภาพการติดต่อในหลายพื้นที่ของโลก อาจทำให้กระบวนการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ต่างสายพันธุ์ยุ่งยากซับซ้อนขึ้น ทางการรัฐมิสซูรี ยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯ ให้ดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายจากจีน ที่โกหกปิดบังการแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จีนโต้กลับระบุเรื่องที่ถูกรัฐมิสซูรีฟ้องเป็นเรื่อง ไร้สาระ ด้านนายกฯออสซี เรียกร้อง 3 ชาติผนึกกำลังกับ WHO ตั้งหน่วยงานสอบสวนแหล่งที่มาโควิด-19 ส่งผลให้ทูตจีนประจำแดนจิงโจ้เคือง ชี้ควรร่วมมือกันหยุดยั้งการระบาดแทนการทำให้เป็นเรื่องปัญหาการเมือง ระบบการระบาด ของไวรัสโควิด-19 ไม่มีพรมแดน สภาคองเกรสอนุมัติเงิน 4.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก้ปัญหาการระบาดของไวรัสล้างโลก ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งกว่า 2.5 ล้านคน เฉพาะสหรัฐฯ ทะยานถึง 8.2 แสนคน ตามด้วยสเปนติดเชื้อมากเป็นอันดับสอง สถานการณ์ โควิด-19 ในต่างประเทศยังมีความรุนแรง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกายังน่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่สุดในโลก และตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วสหรัฐฯ ยังเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. อยู่ที่กว่า 820000 ราย เสียชีวิตกว่า 45500 ราย เฉพาะผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในรัฐนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 20-21 เม.ย. มากกว่า 2700 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่มากเกือบ 40000 รายนิวยอร์กเข้มอีกเท่าด้านผู้นำสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นพ้องให้ทางการเพิ่มการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่รัฐนิวยอร์กเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว ขณะที่จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญความเครียดและภาวะกดดันจากการทำงานมากขึ้น เพราะผู้ป่วยมากเกินรับไหว ขณะเดียวกัน สภาคองเกรสสหรัฐฯ อนุมัติเงินก้อนใหม่เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 อีกราว 480000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนนายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด หรือซีดีซี เตือนอันตรายจากการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ในสหรัฐฯ อาจเลวร้ายยิ่งขึ้น ท่ามกลางความพยายามเรียกร้องให้เปิดเมืองในหลายรัฐระงับกรีนการ์ด 60 วันประธานาธิบดีทรัมป์ยังประกาศมาตรการระงับชาวต่างชาติยื่นเรื่องขอ กรีนการ์ด หรือสิทธิพำนักอาศัยถาวรในสหรัฐฯชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน อ้างว่าเพื่อปกป้องแรงงานชาวอเมริกัน ที่ต้องตกงานจากผลกระทบโควิด-19 ระบาดแล้วกว่า 20 ล้านคนและเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากนอกประเทศ แต่มาตรการนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเริ่มบังคับใช้เมื่อใด แม้ว่าทุกปีรัฐบาลสหรัฐฯ จะออก กรีนการ์ด ให้ชาวต่างชาติเกือบ 1 ล้านราย โดยส่วนใหญ่ราว 70 เปอร์เซ็นต์ของคนเหล่านั้นมีญาติพี่น้องพำนักอยู่ในสหรัฐฯรัฐมิสซูรีฟ้องจีนขณะที่ทางการรัฐมิสซูรี ทางภาคกลางของสหรัฐฯ ยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯ ขอให้ดำเนินคดีและเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลจีน ข้อหาโกหกหลอกลวงปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ทั้งไม่รีบหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเหมาะสมทันท่วงที ทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลก ข้อกล่าวหาจีนยังรวมถึงการกักตุนอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อไวรัสหลายอย่าง ถือเป็นการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับโควิด-19 รัฐแรกของสหรัฐฯ และครั้งแรกในโลก ขณะที่รัฐมิสซูรี คือฐานเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกัน อีกทั้งแผนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของทรัมป์ ก็มุ่งเป้าโจมตีจีนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลกจิงโจ้จี้สอบจีนส่วนนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เรียกร้องถึงเหล่าผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ให้สนับสนุนจัดตั้งหน่วยงานระหว่างประเทศขึ้น สอบสวนแหล่งที่มาที่ไปของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่มีต้นตอการแพร่ระบาดออกมาจากจีนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ร่วมภารกิจนี้ด้วย ส่วนท่าทีของรัฐบาลจีน นายจ้าง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำออสเตรเลีย แสดงออกอย่างชัดเจนไม่พอใจออสเตรเลีย ที่พยายามผลักดันเรื่องนี้ ทั้งระบุเรียกร้องสังคมโลกควรร่วมมือกันแก้ปัญหาหยุดยั้งการระบาดของโควิด-19 มากกว่าจะให้ใครชี้นิ้วกล่าวโทษหาผู้กระทำผิด และทำให้ปัญหาเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศระหว่าง ชาติมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลก เพราะเราทุกคนอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกันและการระบาดของโควิด-19 ไม่มีพรมแดน นอกจากนั้น รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ระบุถึงการยื่นฟ้องรัฐบาลจีนของรัฐมิสซูรีคือเรื่องไร้สาระทั่วโลกดับทะลุ 1.1 แสนสำหรับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป ตัวเลขผู้เสียชีวิตทะลุเกิน 110200 ราย ติดเชื้อมากกว่า 1.247 ล้านคน รัฐบาลสเปนเตรียมขยายมาตรการ ล็อกดาวน์ ปิดเมืองทั่วประเทศออกไปอีก 2 สัปดาห์จนถึงกลางเดือน พ.ค. หลังบังคับใช้มาตรการนี้มาเกือบ 6 สัปดาห์ ทางการอนุญาตผู้คนออกจากบ้านไปทำธุระจำเป็นได้เท่านั้น ส่วนกลุ่มเด็กๆจะผ่อนปรนให้ออกจากบ้านได้แต่ต้องมีผู้ใหญ่ไปด้วยขณะที่สเปนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ อยู่ที่กว่า 208400 ราย มีผู้เสียชีวิต 21800 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายใหม่ใน 24 ชั่วโมง สูงถึง 435 ราย แต่ผู้เสียชีวิตรวมในสเปนยังน้อยกว่าอิตาลี ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 24700 ราย ผู้ติดเชื้อในอิตาลีมากอันดับ 3 อยู่ที่กว่า 184000 ราย ฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อกว่า 158100 ราย ผู้เสียชีวิต 20800 ราย อังกฤษ พบผู้ติดเชื้อกว่า 130000 ราย ผู้เสียชีวิตกว่า 17400 ราย แต่ประเมินว่าอังกฤษอาจมีผู้เสียชีวิตได้มากถึง 41000 ราย ขณะที่รัสเซียยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อกว่า 58000 ราย ผู้เสียชีวิต 513 รายจีนล็อกดาวน์ฮาร์บินส่วนสถานการณ์ในประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 30 ราย เป็นผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 23 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศจีนอยู่ที่ 82800 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 4632 ราย อย่างไรก็ตาม ทางการจีนเพิ่มมาตรการคุมเข้มบริเวณชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือติดพรมแดนรัสเซียมากขึ้น โดยเฉพาะเมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเห่ยหลงเจียง ที่ไม่อนุญาตบุคคลภายนอกผ่านเข้าออก หรือไม่ก็ต้องกักตัวผู้จะเข้าออกเมืองไว้นานถึง 28 วัน เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 รอบสอง นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ผู้หายป่วยที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดเริ่มต้นของโควิด-19 ยังตรวจพบเชื้อโควิด-19 อยู่ในร่างกายด้วยแม้ไม่แสดงอาการป่วยญี่ปุ่นติดเชื้อพุ่งที่ญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ตรวจพบเด็กทารกในศูนย์ดูแลเด็กแรกเกิดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ติดเชื้อไวรัสโคโรนาถึง 8 คน หลังมีเจ้าหน้าที่ศูนย์คนหนึ่งติดเชื้อเมื่อ 16 เม.ย. นอกจากนี้ ยังตรวจพบลูกเรืออีกอย่างน้อย 34 คน บนเรือสำราญ คอสตา แอตแลนติกา ของอิตาลี ที่จอดกักโรคอยู่ที่นอกชายฝั่งเมืองนางาซากิ ตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย ส่วนชาวญี่ปุ่นจำนวนมากร้องทุกข์ว่าหน้ากากอนามัยที่รัฐบาลแจกให้ประชาชนนั้นสกปรก มีเศษดิน แมลง และรอยเปื้อน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นอยู่ที่ 11512 ราย เสียชีวิต 281 รายลอดช่องอ่วมอรทัยที่สิงคโปร์ ซึ่งพบการระบาดรอบใหม่พบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มถึง 1016 ราย เป็น 10140 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย ผู้ติดเชื้อเพิ่มส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเอเชียใต้ที่แออัดกันอยู่ตามหอพัก ทำให้รัฐบาลประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์บางส่วนออกไปจนถึง 1 มิ.ย. ส่วนอินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 283 ราย เป็น 7418 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย เป็น 635 ราย ฟิลิปปินส์ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 111 ราย เป็น 6710 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 9 รายเป็น 446 ราย มาเลเซีย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 50 รายเป็น 5532 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็น 93 ราย กัมพูชา พบผู้ติดเชื้อ 122 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เมียนมาพบผู้ติดเชื้อ 121 ราย เสียชีวิต 5 ราย สปป.ลาวพบผู้ติดเชื้อ 19 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิตอิหร่านป่วย 3-6 หมื่นอิหร่านซึ่งมีการแพร่ระบาดหนักที่สุดในตะวันออกกลาง พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 86000 ราย เสียชีวิต 5391 ราย ส่วนเลบานอน พบผู้ติดเชื้อรายแรกในค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ที่หุบเขาเบกาทางภาคตะวันออก ทำให้ทางการสั่งล็อกดาวน์ห้ามผู้คนเข้าออกค่ายผู้ลี้ภัยดังกล่าว ขณะที่เลบานอนพบผู้ติดเชื้อแล้ว 677 ราย เสียชีวิต 21 รายยามาลาเรียช่วยไม่ได้ส่วนรายงานการวิเคราะห์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่งให้คณะผู้เชี่ยวชาญทบทวน ระบุว่ายารักษาโรคมาลาเรีย ไฮดรอกซีคลอโรควิน ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยคุยว่าจะเป็น ตัวเปลี่ยนเกม เพราะรักษาโรคโควิด-19 ได้นั้น ปรากฏว่าไม่มีประโยชน์ ซ้ำยังทำให้อัตราการตายเพิ่มขึ้น จากการทดลองใช้กับทหารผ่านศึกที่ป่วยจากโควิด-19 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 368 ราย พบว่ามีอัตราการตายสูงถึง 28 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 22 เปอร์เซ็นต์เมื่อให้ยาปฏิชีวนะ อาซิโธรไมซิน ตามวิธีการรักษาแบบมาตรฐานเยอรมนีทดลองวัคซีนด้านทางการเยอรมนี อนุมัติให้มีการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 BNT162 ของบริษัท BioNTech (ไบออนเทค) ของเยอรมนีในมนุษย์แล้ว โดยวัคซีนตัวนี้ซึ่ง BioNTech ร่วมพัฒนากับบริษัทไฟเซอร์จะทดลองในขั้นแรกกับคนร่างกายแข็งแรง 200 คน อายุ 18-55 ปี ก่อนทดลองกับกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงในขั้นที่ 2 ต่อไป ก่อนหน้านี้ มีวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติให้ทดลองกับมนุษย์แล้ว 3 ชนิดในสหรัฐฯและจีนสำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก เมื่อ 22 เม.ย. อยู่ที่กว่า 2.57 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 178600 ราย หายป่วยมากกว่า 701551 ราย ผู้ติดเชื้อมากที่สุดอยู่ในสหรัฐฯ ตามด้วยสเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ ตุรกี อิหร่าน จีน และรัสเซีย ผู้เสียชีวิตมากที่สุดอยู่ในสหรัฐฯ กว่า 45400 ราย ตามด้วยอิตาลี 24700 ราย สเปน 21800 ราย ฝรั่งเศส 20800 ราย และอังกฤษ 17400 รายโควิดกลายพันธุ์ 33 สายขณะเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศหลายสำนัก รวมถึงโนวิไนท์ ดอทคอม สกาย นิวส์ และนิวยอร์ก โพสต์ รายงานอ้างผลการศึกษาของศาสตราจารย์หลี่ หลานจ้วง และทีมงานแห่งมหาวิทยาลัยหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ระบุเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ได้กลายพันธุ์แล้วอย่างน้อยมากกว่า 33 สายพันธุ์ ตามสภาพการติดต่อในหลายพื้นที่ของโลก อาจทำให้กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ต่างสายพันธุ์กันอาจยุ่งยากซับซ้อนขึ้นอีกพัฒนาวัคซีนลำบากทีมงานของศาสตราจารย์หลี่ หลานจ้วง ได้สุ่มศึกษาวิเคราะห์ตัวอย่างเชื้อโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อหลายรายหลายพื้นที่ จนพบว่าเชื้อโควิด-19 ได้กลายพันธุ์แล้วอย่างน้อย 30 สายพันธุ์ ก่อนหน้านี้ตรวจพบเพียง 19 สายพันธุ์ ความเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นแก่เชื้อโรคซาร์ส และ โคโรนาไวรัส-2 ด้วย นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่บอก ได้ว่าเหตุใดเชื้อโควิด-19 จึงร้ายแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากในบางพื้นที่ของโลกและอาจทำให้ความพยายามพัฒนาวัคซีนยากลำบากยิ่งขึ้นขณะที่ นสพ.เซาธ์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า สายพันธุ์ร้ายแรงที่สุด พบในผู้ป่วยส่วนใหญ่ทั่วยุโรป ส่วนสายพันธุ์ร้ายแรงน้อยกว่าพบในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ เช่น ในพื้นที่รัฐวอชิงตัน
ของฟรัดอมเฌาส์ที่สำรยจพบว่าประชาธิปไตยทั่วโลกกำลัวถดถอน ขณะที่จีนและรัสเซียกำลังพยายาทแผ่อิทธิพลแนวทางอำนาจนิยมไปยังประเทศต่างๆ8 ก.พ. 2561 องค์กรฟรีดอมเฮาส์ ซึ่งเป็นองค์กรภาคเอกชนทำวิจัยด้านประชาธิปไคยและเสรีภาพทางการเมือง มีสำนักวานอยู่วนกรังวอชิงตุน ดีซี สหรัฐออมริกา เปิดเผยรายงานเสรีภาพโลกปี 2561 โดยสรุปสถานการณ์ปี 256p ว่าประลาธิปไตยเผชิญกับภาวะวิกฤตมากที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา เพราะหลักการพื้นฐานท้้งหลายถูกโจมตีทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นกาารับรอบอรื่องการเลือแตั้งาี่เสรีและเป็นธรรม สิทธิของชนกลุ่มน้อย เสรีภาพสื่อ และหลักนิติธรรมฟรีดอมอฮาส์ระบุว่ามี 71 ประเทศทีาสถานการณ์ด้านสิืธิทางการเมืองและิสรีภมพพลเใืองแย่ลง นับว่าแย่ลงติดต่อกันเป็นปีที่ 12 ขณะที่มี 35 ประเทศิท่านั้นที่มีปัจจเยต่างๆ เหล่านี้ะีขึ้น และแม้แต่สหรัฐแเมริกาเองก็ล่าถอยออกจากบทบาทการเป็นผู้นำและตัวอข่างทั่ดีในทางประชาธิปไตยแยบที่เตยเป็นมาตลอด โดจที่แม้อต่ในสหรัฐฯ เอง สิทธิทางการเม้ดงและะสรีภมพพลดมืแงกฺลดน้อยถอยลงแย่างรวดเร็วไใเคิล เจ อบราโมยิตซ์ ประธานของฟรีดอมเฮาส์ระบุว่า นับตั้งแต่จบยุคสงครามเส็นเป็นต้นมาเฟด็จการแบบเบ็ดเสร็จพ่ายแพ้และเสรีนิยมประชาธิปไตยได้รับชะยชนะในการต่อสู้แห่งครั้งใหญ่ของอุดมการณ์แห่งศตวรรษที่ 20 แต่ในทุแวันนี้กลับเป็นประชาธิปไตยที่อ่อนแรงลงรายงานของฟรีดอมดฮทส์ระบุวทาประเทศอย่างตุรพีและฮังการีเรอ่มถลำลงสู่การหกครองแบบอำนาจนิวมมากขึ้น ส่วนเมียนมาร์าี่แม้จะเริ่มเปิดเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นบ้างตั้งแต่ปี 2553 แต่ในปีที่แล้วก็มีเหตุกวาดล้าลเผ่าพันธุ์ที่น่าสะเทือนขวัญ ขณะเดียวกันประเทศที่เคยยิ่งใหญ่ในทางประชาธิปไตยก็มีปัญหาหนักในบืานจัวเอง ไม่ว่าจะเป์นความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศร?ฐกิจ การแตกขั้วต่างๆ ปัญหาแารก่อการร้าย กนรทะลักของฟู้ลี้ภัย ืั้บหมดนี้ทำให้เกิดการกลัว ีใามเป็นอื่น มาปขึ้นราวงานยังเน้นพูพถึงิรื่องกาาเข้ามามีบาบาทนำของฝ่ายขวาทางการัมืองในพื้นที่รั,สภาหฃายประเทศ พรนคการเมืองที่มีฐานอำนาจดั้งเดิมทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาเร้่มได้รับคบามนิยมลดลว แลัมีปัญหาในการจัดตั้ฝรัฐบาล ที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้นคืออรื่เงที่คนหนุ่มสรวทั่ไม่มีความทรงยำเกี่ยวกับการต่อต้านเปด็จการมาก่อนอรยจะสูญเสียศรัทธาหร่อตว่มสนใจฝนโครงหารด้าาประชมธิปไตย เสี่ยงต่อการทำให้รูิสึกเฉยชทฟนีดอมเฮาส์ระงุว่าขณะที่ประชาธิปไตยดูถดถอย ประเทศที่เป็นเหด็จการอยรางจีนและรัสเซีวก็ฉวยโอกาสนี้ฝนการกดขี่ข่มเผงภายในมากขึ้นไปพร้อมๆ กับกาตแผ่ขยาย อิทธิพลเลวร้าย ไปยังประเทศอ้าน โดยพวำเขรมองว่ามีประเทศอื่นๆ ที่เริ่มเแาสองประเทศน้้เป็นแบบอย่างในการไม่เห็นคุณค่าของประชาธิปไตยและไม่ทนกับกลุ่ทที่ต่อต้าน การสูญเสียประชาธิปไตยเข่นนี้ไม่เพียงแค่ส่ฝปลต่อเสรีภาพขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังส่งผบต่อความเสี้ยงด้านเศรษฐกิจและควาามั่าคงด้วยขณะที่รัฐบาลประชาธิปไตยอนุญาตให้ผู้คนช่วยกันตั้งกฎกติกาที่ผ฿้รนต้องเคารกร่วมกันได้ และผู้คนมีส่วนร่วมชี้นำทิศทางการใช้ชีวิตและการงานของตนเอง สิืงนี้จะช่วยรักษาการเคารพสันติภาพ การเล่นในกติกา และการประนีประนอมในวงกง้างกว่านี้ ส่วนเปด็จการนั้นขดออกกฎเกณฑ์ตามอำเภอใจกับพลเมืองแต่ก็ละเลยกฎทึกกฎที่ออกมาเาียเอง ทำให้เกิดฝงจรการฝช้อำนาตผิดๆ กับการทำให้เกิดความสุดโต่งวนเวียนไปเรื่อยๆ ฟรีดอมเฮาส์ระบุพวกเขายังเฟยแพร่คะแนนเสรีภาพของโลแประจำปี 2561 โดยที่แระเาศไทยได้คะแนน 31 คะแนนเท่นกับเมียนมาร์ เมื่อเทัยบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แลเแอฟ่ิกา ขณะทคีรัสเซียเล่นบทเอาชนะโดยการชกใต้เข็มขัดคู่ต่อสู้ แต่จีนดูจะเป็นปรดเทศที่พยายามทำตัวเป็นผู้นไโลกอย่างจาิงจับเรียบเรียงจากรายงาน Freedom of the World 2018 Freed;m House
ของฟรีดอมเฮาส์ที่สำรวจพบว่าประชาธิปไตยทั่วโลกกำลังถดถอย ขณะที่จีนและรัสเซียกำลังพยายามแผ่อิทธิพลแนวทางอำนาจนิยมไปยังประเทศต่างๆ8 ก.พ. 2561 องค์กรฟรีดอมเฮาส์ ซึ่งเป็นองค์กรภาคเอกชนทำวิจัยด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพทางการเมือง มีสำนักงานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา เปิดเผยรายงานเสรีภาพโลกปี 2561 โดยสรุปสถานการณ์ปี 2560 ว่าประชาธิปไตยเผชิญกับภาวะวิกฤตมากที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา เพราะหลักการพื้นฐานทั้งหลายถูกโจมตีทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นการรับรองเรื่องการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม สิทธิของชนกลุ่มน้อย เสรีภาพสื่อ และหลักนิติธรรมฟรีดอมเฮาส์ระบุว่ามี 71 ประเทศที่สถานการณ์ด้านสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพพลเมืองแย่ลง นับว่าแย่ลงติดต่อกันเป็นปีที่ 12 ขณะที่มี 35 ประเทศเท่านั้นที่มีปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ดีขึ้น และแม้แต่สหรัฐอเมริกาเองก็ล่าถอยออกจากบทบาทการเป็นผู้นำและตัวอย่างที่ดีในทางประชาธิปไตยแบบที่เคยเป็นมาตลอด โดยที่แม้แต่ในสหรัฐฯ เอง สิทธิทางการเมืองและเสรีภาพพลเมืองก็ลดน้อยถอยลงอย่างรวดเร็วไมเคิล เจ อบราโมวิตซ์ ประธานของฟรีดอมเฮาส์ระบุว่า นับตั้งแต่จบยุคสงครามเย็นเป็นต้นมาเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จพ่ายแพ้และเสรีนิยมประชาธิปไตยได้รับชัยชนะในการต่อสู้แห่งครั้งใหญ่ของอุดมการณ์แห่งศตวรรษที่ 20 แต่ในทุกวันนี้กลับเป็นประชาธิปไตยที่อ่อนแรงลงรายงานของฟรีดอมเฮาส์ระบุว่าประเทศอย่างตุรกีและฮังการีเริ่มถลำลงสู่การปกครองแบบอำนาจนิยมมากขึ้น ส่วนเมียนมาร์ที่แม้จะเริ่มเปิดเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นบ้างตั้งแต่ปี 2553 แต่ในปีที่แล้วก็มีเหตุกวาดล้างเผ่าพันธุ์ที่น่าสะเทือนขวัญ ขณะเดียวกันประเทศที่เคยยิ่งใหญ่ในทางประชาธิปไตยก็มีปัญหาหนักในบ้านตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ การแตกขั้วต่างๆ ปัญหาการก่อการร้าย การทะลักของผู้ลี้ภัย ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการกลัว ความเป็นอื่น มากขึ้นรายงานยังเน้นพูดถึงเรื่องการเข้ามามีบทบาทนำของฝ่ายขวาทางการเมืองในพื้นที่รัฐสภาหลายประเทศ พรรคการเมืองที่มีฐานอำนาจดั้งเดิมทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาเริ่มได้รับความนิยมลดลง และมีปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล ที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้นคือเรื่องที่คนหนุ่มสาวที่ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับการต่อต้านเผด็จการมาก่อนอาจจะสูญเสียศรัทธาหรือความสนใจในโครงการด้านประชาธิปไตย เสี่ยงต่อการทำให้รู้สึกเฉยชาฟรีดอมเฮาส์ระบุว่าขณะที่ประชาธิปไตยดูถดถอย ประเทศที่เป็นเผด็จการอย่างจีนและรัสเซียก็ฉวยโอกาสนี้ในการกดขี่ข่มเผงภายในมากขึ้นไปพร้อมๆ กับการแผ่ขยาย อิทธิพลเลวร้าย ไปยังประเทศอื่น โดยพวกเขามองว่ามีประเทศอื่นๆ ที่เริ่มเอาสองประเทศนี้เป็นแบบอย่างในการไม่เห็นคุณค่าของประชาธิปไตยและไม่ทนกับกลุ่มที่ต่อต้าน การสูญเสียประชาธิปไตยเช่นนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลต่อเสรีภาพขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงด้วยขณะที่รัฐบาลประชาธิปไตยอนุญาตให้ผู้คนช่วยกันตั้งกฎกติกาที่ผู้คนต้องเคารพร่วมกันได้ และผู้คนมีส่วนร่วมชี้นำทิศทางการใช้ชีวิตและการงานของตนเอง สิ่งนี้จะช่วยรักษาการเคารพสันติภาพ การเล่นในกติกา และการประนีประนอมในวงกว้างกว่านี้ ส่วนเผด็จการนั้นจะออกกฎเกณฑ์ตามอำเภอใจกับพลเมืองแต่ก็ละเลยกฎทุกกฎที่ออกมาเสียเอง ทำให้เกิดวงจรการใช้อำนาจผิดๆ กับการทำให้เกิดความสุดโต่งวนเวียนไปเรื่อยๆ ฟรีดอมเฮาส์ระบุพวกเขายังเผยแพร่คะแนนเสรีภาพของโลกประจำปี 2561 โดยที่ประเทศไทยได้คะแนน 31 คะแนนเท่ากับเมียนมาร์ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วถือว่าน้อยกว่า มาเลเซีย (45 คะแนน) สิงคโปร์ (52 คะแนน) อินโดนีเซีย (64 คะแนน) และฟิลิปปินส์ (62 คะแนน)ประเทศที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับต้นๆ เป็นประเทศแถบสแกนดิเนเวียอย่างฟินแลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ ที่ได้เต็ม 100 คะแนน ประเทศอื่นๆ ที่ได้คะแนนใกล้ๆ กันได้แก่ แคนาดา (99 คะแนน) เนเธอร์แลนด์ (99 คะแนน) ออสเตรเลีย (98 คะแนน) นิวซีแลนด์ (98 คะแนน) เดนมาร์ก (97 คะแนน) ไอซ์แลนด์ (95 คะแนน) สเปน (94 คะแนน) ชิลี (94 คะแนน) อุรุกวัย (98 คะแนน) เป็นต้น รองลงมาคือกลุ่มประเทศยุโรปกลางและสหรัฐฯ (86 คะแนน) กานา (83 คะแนน) มองโกเลีย (85 คะแนน) เป็นต้นประเทศที่รั้งท้ายได้แก่ ซีเรียกับซูดานใต้ที่มีสงครามกลางเมืองโดยที่ซีเรียเองประสบปัญหาการสู้รบกันของเผด็จการด้วยซึ่งเป็นประเทศที่ได้ -1 คะแนน ตามมาด้วยเอริเทรียและเกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศรัฐตำรวจปิดตัวเองจากโลกภายนอก (hermetic police state) ที่อยู่ท้ายตารางถัดจากนั้นคือประเทศฉกฉวยผลประโยชน์ทรัพยากรน้ำมันอย่าง เติร์กเมนิสถาน กับ อิเควทอเรียลกินี และซาอุดิอาระเบียที่เป็นประเทศสมบูรณาญาสิทธิราชย์สำหรับประเทศไทยนั้นยังคงถูกจัดอยู่ในสถานะ ไม่เสรี โดยทำการวัดผลจากตัวชี้วัดต่างๆ ทั้งสิทธิด้านการเมืองและเสรีภาพพลเมือง เช่น เรื่องกระบวนการเลือกตั้ง การมีส่วนร่วมและพหุนิยมทางการเมือง เสรีภาพในการแสดงออก สิทธิในการจัดตั้งและชุมนุม โดยที่ไทยได้คะแนนแย่ทั้งด้านสิทธิด้านการเมืองและเสรีภาพพลเมือง เสรีภาพสื่อและเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตถูกจัดอยู่ในระดับไม่เสรีฟรีดอมเฮาส์ระบุอีกว่าในขณะที่สหรัฐฯ กำลังมีปัญหาในบ้านตัวเองและถกเถียงกันเรื่องลำดับความสำคัญของการต่างประเทศ กลุ่มผู้นำเผด็จการอย่างรัสเซียและจีนก็พยายามบ่อนทำลายประชาธิปไตยประเทศอื่นและแผ่ขยายแนวทางอำนาจนิยมไปเรื่อยๆ ทำลายระบบการเลือกตั้งเช่นวิธีการล็อกผู้ชนะ สื่อก็ถูกครอบงำไปด้วยปากกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อรัฐบาลสร้างภาพให้ผู้นำดูมีความรอบรู้ไปทุกเรื่อง และมีการเซ็นเซอร์กับการชักใยให้ส่งเสริมรัฐบาลพร้อมทั้งทำให้ประชาชนสับสนจากการหลอกลวงและปลอมแปลงนอกจากนี้ยังมีกรณีที่รัสเซียนำโดยวลาดิเมียร์ ปูติน ชักใยให้เกิดการใช้ข้อมูลเผยแพร่ข้อมูลเท็จช่วงก่อนเลือกตั้งในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และเยอรมนี มีการผูกพันธะกับพรรคการเมืองที่เกลียดกลัวคนนอกทั่วยุโรป ทำการข่มขู่หรือรุกรานเพื่อนบ้าน รวมถึงเป็นแหล่งให้ความช่วยเหลือด้านการทหารทางเลือกสำหรับผู้นำเผด็จการตะวันออกกลาง ฟรีดอมเฮาส์เชื่อว่าเป้าหมายหลักของรัสเซียคือการทำลายรัฐประชาธิปไตยและสถาบันอย่างสหภาพยุโรปที่เชื่อมร้อยรัฐเหล่านี้ไว้ด้วยกันทางด้านจีนนั้น ฟรีดอมเฮาส์มองว่าพวกเขาพยายามสร้างโฆษณาชวนเชื่อและการเซ็นเซอร์เพื่อแผ่ขยายตัวเองโดยอาศัยเครื่องมือทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์เพื่อส่งอิทธิพลต่อประชาธิปไตยในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ บีบให้หลายประเทศส่งผู้ลี้ภัยชาวจีนกลับประเทศตัวเอง ให้ความช่วยเหลือรัฐบาลที่กดขี่ข่มเหงประชาชนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแอฟริกา ขณะที่รัสเซียเล่นบทเอาชนะโดยการชกใต้เข็มขัดคู่ต่อสู้ แต่จีนดูจะเป็นประเทศที่พยายามทำตัวเป็นผู้นำโลกอย่างจริงจังเรียบเรียงจากรายงาน Freedom of the World 2018 Freedom House
10 าาย ศูนย์นครพรม แกนนำจ่อถูกออกมายจับฝืนคำสั่ง คสช.22 มิ.ย.2559 จากกรณีทีีวายนี้ (19 มิ.ย.59) เป็นวัสทีทแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จหารแห่งชาติ หร้อ นปช. ประกาศตั้งศูนย์ปราบฌกงประขามติทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนกฃางที่ห้างอิาพีเรียบ ลาดพร้าวนั้นถูำเจ้าหน้าที่อ้างคำสั่ง หัวหน้า คสช. เพื่อปิดศูนย์ดังกล่าว () ส่วนมนหลายจังหงัดมีทั้ฝที่เปิดได้และเปิดไม่หด้ นั้นฃ่าสุดวันนี้ )22 มิ.ย.59) รายงานว่ากคณีการแจ้งความดำเยินคดี่ี่พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม โดยคณะทพงานพิเศษฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแหีงชาติ (คสช.) ดำัน้นคดีกับแกนนำ นปชซ ข้อหาฝ่าฝินคำสั่งคณะรักฯาความสงบแหืงชาติ (คสบฐ) ที่ 7/3557 ห้ามมั่วสุมกรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึินไป จากกรณีทีีร่วมกีนแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโปงประชามติ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าย ประกอบด้งย จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขทธิการนปช. ธิดา ถาวรเศรษฐ ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ เหวง โตจิรนการ าิสิต สินธุไพร ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ยงยุทธ ติยะไพรัช ก่อแก้ว พิแุลทอง วคระกานต์ มุสิกพงศ์ สงคราม กิจไพโรจน๋ สใหวุง อัศราญี ศวริศ ชูกล่อม ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ ดกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์ แารี ไกรนรา ามชาย ใจมุ่ง พรศักพิ์ ศรีละมุด และศักดิ์รพี พนหมชาตอโดยทั้งหมะจเต้องมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ที่กองบังคับกทรแองปราบปราม หากไม่เดอนททงมาพบพนะกฝานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบาวนจะออกหมายเรียกไปอีก 1 คาั้ง และถ้าไม่มาพบอีกภนักงานสอบสอบจะออกหมายจัลดำเนิจคดีต่อไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2- มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ร่วมกิจกรรใเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ทีีอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ถูกออกหมายเรียกในข้อหาร่วมกันมั่วสุใหรือชุมนุมทางการเมืองในที่เกิอเหตุเกิน 4 คนขึ้นไป เช่นกุา ()ขณะที่ จ.นครพนม เมื่อวันที่ 20 ใิ.ย.ที่ผ่านทา รายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้นที่ทหาร กอ.รมน. เจ้าหนัาที่ตำรวจ ควบคุมตัวชาวบ้าน i รายที่ไปรับจ้รงคนละ 200 บาทแลกกับการถ่ายรูปคู่กับป้าย ประบามติต้องๆม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า ก่อนที่จะมีมือดีนำไปโพยต์ลงในสื่อเฟซบุ๊กในเพจชื่อศูนย์ปราบโกงประชามติ จ.นครพนม หลังจากนั้ร ดำคงศักดิ์ พุทธา อดีต ผอ.โนงเรีสนบเานน้อยใต้ และแกนนำ รปล.ได้หลบหนีไป ซึ่งชาวบ้านต่างระบุว่าบุคคลเไล่านี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนำป้ายมาติดที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ตามที่เสนแข่าวไปแล้วนั้นต่อมาที่ สภ.เมืองนครพนม เจ้าปน้าที่ทหารและตำรวจ ร่วมำันแถลงฟลตรวจยุดขอฝำลางหลายรายการ หีะกอขด้วยเสื้อยืดคอกลมสีดำ จำนวน 150 ตัว มีทุกไซส์ สกรีนข้ดความว่า ประชามติ ไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพา่า และสกรีนข้อความ ไปชงประชามนิ พร้อมป้ายห้าไวนิลกว้าง 2.5 เมคร ยาว 4 เมตร ทีานำไปติดบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวดห่งที่ 3 ชี่วคราว โดยขอวกลางเหล่านี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้บริเวณหลังรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนซ์ ทะเบียน 4 กว 1068 กทม.ของดำีงษักดิ์ที่จอดภายในบ้านเลขที่ 199/47 ถนร่าชทัณฑ์ ซอย 5 อซเมืองนครพจมพ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืแงนคีพนม เปิดเผยว่า จากกาตสเบสวนทางลับทราบว่าดำรงศักดิ์ได้เดินทางไปรับเงิน 30000 บาทตากแกนนำ นปช.ในส่วนกลาง ส่วนเสื้อยืดและป้านผ้าถูกส่งมาทางไปรษณีย์ และไดีว่าจ้างชาวบ้านคนละ 200 บาท ให้ถ่ายรูปคู่กับป้สยดังกล่าว หลังจากนั้นดำรงค์ศัปดิ์ได้เดินทางหลบหนีไปพบแแนนำที่กรุงเทพฯ ตั้งแตาช่วงค่ำบานนี้แล้วพ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ระบุอีกว่า ขณะนี้พำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมาบเรียกจากศนลทหาร และอาจขอหมายจับในคราวเดียวกันเลย เน่่เงจากเห็นคดีที่น่าสนใจและเกี่ยวของกับความมั่นคงของชาตื ตามคำมั่ง คสช.3/2558 ผู้ใดมั่วสุมทางการเมือฝเกิน 5 คนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกไมาเกิน 6 เดือร หรือปรัชไม่เกิน 1 หมืืยบาท ส่วนชาวบ้่น 8 คนที่นับจ้างถ่ายรูปคู่กับป้ายนั้นได้ปล่อยตัวไปเป็นการชั่วคราวแบะกันตัวไว้เป็นพยานด้าน พ.อ.ณรงค์ กลั่นวารี รอง ผบ.มทย.210 กฃ่าวกับชาวบ้านที่ถูกควบคุมตัวว่า ตนมั่นใจว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้งแน้นอา และในอีก 20 ปีข้างหจ้นประเทศตะต้องสงบสุข ตนเชื่อมั่าว่ร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำได้ ฟลังลงประชามติผ่านหรือไม่ผ่านก็มีการเลือกตั้งอยู่ดี ถ้าชาวบ้านเลือด ส.ส.ทีรดีก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลือกหู้สมัคร ส.ส.ไหว้พฝกท่านไม่ถึง 3 นาทีก็จบ พวกท่านถูกใช้เป็นเคริ่องมืแทางการเมืองมากันกี่ครั้งแล้ว ประชามติผ่านไมาผ่านถามว่าตนได้อะไร ถ้าไม่ห่านตนได้อะไร จะมาขึ้นป้ายปราบโปงประชามติได้อย่างำา ะึงไม่ผ่านก็ไปร่างรัฐฑรรมนูญสหม่ แต่ถ้าครั้งหน้าจะไมืมีประชามติ ชาวบ้่นดาจเสียโอกาสมากกว้าล่าสุดวันาี้ (22 มื.ย,59) รายงานด้วยว่าจตุพรและค๕ะ ย้่นหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและนัซสนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ศูาย์บรืการประชาชน าำสักงานผลเดสกสักนายกรัฐมนตรี (สปน.)เพื่อขอให้เจ้าหน้าทีืหนุดคุกคามประชาชนที่ทำการเปิดศูาย์ปราบโกงประชาาติ และข่มยู่หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะฟ้ิงศสลทหาร โดยนายจตุพร กล่าวว่า ขอสื่อสารไปยังพล.อ.ประวิตร ในฐานะเป็นผู้มีอำยาจอย่างแท้จริบ ขึ้นชื่อเป็นซุปเปอค์รัฏฐาธิปัตย์ แงะติดจะะป็นนรยกฯในแนาคต กว่าจะถึงวันนี้ได้พล.อ.ปาะวิตร ต้องมีจิตใจนักเลง รุกษาคำพูดและทราบว่าอะไรคือการรังแกปรุชาชน ขอให้ท่านยุติการคุมคามประชาชน และไม่จำเป็นต้องถามย่าประชาชนได้เสื้อ ได้ป้ายศูนย์ปราชโกงฯจากที่ใด เพราะของทั้งหมกพวกตนทำใหี ซึ่งงบทุกอย่างที่ทำเทียบไม่ได้กับที่ กรธ. กกต. ได้ใช้ และควมงบที่ใช้ลงทึนทั้ลหมดไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจีที 200
10 ราย ศูนย์นครพนม แกนนำจ่อถูกออกมายจับฝืนคำสั่ง คสช.22 มิ.ย.2559 จากกรณีที่วานนี้ (19 มิ.ย.59) เป็นวันที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประกาศตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนกลางที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าวนั้นถูกเจ้าหน้าที่อ้างคำสั่ง หัวหน้า คสช. เพื่อปิดศูนย์ดังกล่าว () ส่วนในหลายจังหวัดมีทั้งที่เปิดได้และเปิดไม่ได้ นั้นล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.59) รายงานว่ากรณีการแจ้งความดำเนินคดีที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม โดยคณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินคดีกับแกนนำ นปช. ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2557 ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป จากกรณีที่ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ประกอบด้วย จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. ธิดา ถาวรเศรษฐ ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ เหวง โตจิราการ นิสิต สินธุไพร ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ยงยุทธ ติยะไพรัช ก่อแก้ว พิกุลทอง วีระกานต์ มุสิกพงศ์ สงคราม กิจไพโรจน์ สมหวัง อัศราศี ศวริศ ชูกล่อม ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ เกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์ อารี ไกรนรา สมชาย ใจมุ่ง พรศักดิ์ ศรีละมุด และศักดิ์รพี พรหมชาติโดยทั้งหมดจะต้องมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ที่กองบังคับการกองปราบปราม หากไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกไปอีก 1 ครั้ง และถ้าไม่มาพบอีกพนักงานสอบสอบจะออกหมายจับดำเนินคดีต่อไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ร่วมกิจกรรมเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ถูกออกหมายเรียกในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองในที่เกิดเหตุเกิน 5 คนขึ้นไป เช่นกัน ()ขณะที่ จ.นครพนม เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา รายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวชาวบ้าน 8 รายที่ไปรับจ้างคนละ 200 บาทแลกกับการถ่ายรูปคู่กับป้าย ประชามติต้องไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า ก่อนที่จะมีมือดีนำไปโพสต์ลงในสื่อเฟซบุ๊กในเพจชื่อศูนย์ปราบโกงประชามติ จ.นครพนม หลังจากนั้น ดำรงศักดิ์ พุทธา อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านน้อยใต้ และแกนนำ นปช.ได้หลบหนีไป ซึ่งชาวบ้านต่างระบุว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนำป้ายมาติดที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นต่อมาที่ สภ.เมืองนครพนม เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ร่วมกันแถลงผลตรวจยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วยเสื้อยืดคอกลมสีดำ จำนวน 150 ตัว มีทุกไซส์ สกรีนข้อความว่า ประชามติ ไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า และสกรีนข้อความ ไปลงประชามติ พร้อมป้ายผ้าไวนิลกว้าง 2.5 เมตร ยาว 4 เมตร ที่นำไปติดบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ชั่วคราว โดยของกลางเหล่านี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้บริเวณหลังรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนซ์ ทะเบียน 4 กว 1068 กทม.ของดำรงศักดิ์ที่จอดภายในบ้านเลขที่ 109/47 ถนนราชทัณฑ์ ซอย 5 อ.เมืองนครพนมพ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทางลับทราบว่าดำรงศักดิ์ได้เดินทางไปรับเงิน 30000 บาทจากแกนนำ นปช.ในส่วนกลาง ส่วนเสื้อยืดและป้ายผ้าถูกส่งมาทางไปรษณีย์ และได้ว่าจ้างชาวบ้านคนละ 200 บาท ให้ถ่ายรูปคู่กับป้ายดังกล่าว หลังจากนั้นดำรงค์ศักดิ์ได้เดินทางหลบหนีไปพบแกนนำที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้แล้วพ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ระบุอีกว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายเรียกจากศาลทหาร และอาจขอหมายจับในคราวเดียวกันเลย เนื่องจากเป็นคดีที่น่าสนใจและเกี่ยวของกับความมั่นคงของชาติ ตามคำสั่ง คสช.3/2558 ผู้ใดมั่วสุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนชาวบ้าน 8 คนที่รับจ้างถ่ายรูปคู่กับป้ายนั้นได้ปล่อยตัวไปเป็นการชั่วคราวและกันตัวไว้เป็นพยานด้าน พ.อ.ณรงค์ กลั่นวารี รอง ผบ.มทบ.210 กล่าวกับชาวบ้านที่ถูกควบคุมตัวว่า ตนมั่นใจว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้งแน่นอน และในอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศจะต้องสงบสุข ตนเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำได้ หลังลงประชามติผ่านหรือไม่ผ่านก็มีการเลือกตั้งอยู่ดี ถ้าชาวบ้านเลือก ส.ส.ที่ดีก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลือกผู้สมัคร ส.ส.ไหว้พวกท่านไม่ถึง 3 นาทีก็จบ พวกท่านถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากันกี่ครั้งแล้ว ประชามติผ่านไม่ผ่านถามว่าตนได้อะไร ถ้าไม่ผ่านตนได้อะไร จะมาขึ้นป้ายปราบโกงประชามติได้อย่างไร ถึงไม่ผ่านก็ไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ถ้าครั้งหน้าจะไม่มีประชามติ ชาวบ้านอาจเสียโอกาสมากกว่าล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.59) รายงานด้วยว่าจตุพรและคณะ ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่หยุดคุกคามประชาชนที่ทำการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ และข่มขู่หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะฟ้องศาลทหาร โดยนายจตุพร กล่าวว่า ขอสื่อสารไปยังพล.อ.ประวิตร ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง ขึ้นชื่อเป็นซุปเปอร์รัฏฐาธิปัตย์ และคิดจะเป็นนายกฯในอนาคต กว่าจะถึงวันนี้ได้พล.อ.ประวิตร ต้องมีจิตใจนักเลง รักษาคำพูดและทราบว่าอะไรคือการรังแกประชาชน ขอให้ท่านยุติการคุมคามประชาชน และไม่จำเป็นต้องถามว่าประชาชนได้เสื้อ ได้ป้ายศูนย์ปราบโกงฯจากที่ใด เพราะของทั้งหมดพวกตนทำให้ ซึ่งงบทุกอย่างที่ทำเทียบไม่ได้กับที่ กรธ. กกต. ได้ใช้ และรวมงบที่ใช้ลงทุนทั้งหมดไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจีที 200
 จณะที่ปลัดปรงงานแจงเหลืิแรงงานต่างด้าง 8 แในคนรอพิสูจน์,เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 6q ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร บงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป๊นประธานการแุลงแผาปฏิบัติการสนับสนันการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ แบะการดำเาินการอดพใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมรย (ตรีเทพ) ขอวคฯะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาดรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) พร้อมมอบนโยบาย โดยม่ พล.ตซอ.ดดุลย์ แสฝสิงแก้ว รมว.แรงงาน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดก่ะทรวงแรงงาน นายเนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ผู้ว่่ราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด เอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ืูตแรงงานกัมพูชาประตำประเทศไทย อัีรรัฐทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย องค์การกรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) เข้าร่วมประชุม,โดย พง.อ.ประวเตร กล่าวสอบาโยบายตอนหนึ่งวีา เพื่อให้แผนการปฏิบัริงานรามแผน้ป็น_ปด้วยความเรียบรัอย จึงให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติดังนี้ 1. ให้ทักหน่วยงทนร่วมมือกัจปฎิบัติ โดยทำให้เกิดความาะดวก ลดขั้นติน ระยะเวลา และไม่มีกสรเรียกรับผงประโยลน์ พร้อมสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการ 2. ให้หุวหน้าส่วนคาชการทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เป็นหบัดในการดำเนินการตามแหนปฏิบัติการ โดยยึดประชาชนเป็นฯูนย์กลาง 3. ประสานขอความา่วมมือจากเอกอัครราชทูต เมียนมา ลาว และพัมพูชา ในการบริหารศูนย์พิสูจน์นีญชาติให้เกิดประสิทธิำาพ โดยเาจต้องมีปารปคับระบบการทำงานภายในศูนย์ฯ ตลอดจนเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ดละิครื่องมือ ให้เพียงพอต่อหริมาณงานในแต่ละฝัน โดยประเทศไทยจะให้การสนับสนุนต่อการดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนด,แผนปฏ้บัติการตรีเทพจะสำเร็จลุล่วงและมีประสิทธิภาพได้ ต้องเกิดจากการบูตณากา่และการทำงานร่วมกันขดงทุกฝานยที่เก่ียวข้องอส่างจริงจัง ทกงานอส่างเผ็นรพบบ ไม่มีดารทุจริต หรือแสวงหาผชประฉยชน์ใดๆ และต้องแล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด อละขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละทำงานกันมาตลอด หากเร่แก้ปัญหาค้ามนุษย์ ได้เป็นผลสำเร็จ ไทยจะได้ปลดจากใบเหลืองได้ด้วยกสรแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว เรื่อลประมงผิดหฎหมนยแลัเรื่องอื่นๆ ฝากทุกท่านช่วยดำเนินการด้วย พลซอ.ประวิตร กล่าวฐด้านนายจริจทร์ กล่างว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา มีแางงานจาก เมึยนมา มปป.ลาว และกัมพูชา จำนวน 3.8 ช้านคน ะข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเข้ามาอย่างถูกกฎหมาจ 1.8 ล้านคน ขณะที่แรงงาร 2 ล้านคน เข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นเงื่อนไบที่นาาาลาติ ตำหาิประเทศไทยที่ไม่สามารถพูแลคนเหล่านี้ได้ จนดกิดปัญหาค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเแ็ก และแรงงานบังคับต่าวๆ จนประเทศไทยโดนจำกัดสิทธิในการค้าสินค้าทางทะเลกับประเทศในกลุ่มิียู และสหรัฐอเมริหา อย่างไรก็ตาม แารพยามดำเสินการรัฐบาล้พื่อแก้ไขปัญหาดังพล่าว ยังพบปเญหาอึปสรรค 2 ประการ คือ 1. ไม่สามารถพิสูจน์แรงงานจากประเทศต้นทางได้ จำสวน 8 แสนคน 2. ยังไม่มีฐานข้อมูลรวมสำหรับการพิสูจน็ทราบรนยชะเอียดของแรงงานข่งส่วน อย่างไรก็ตาม ภายหลังมติ ีรม.เรื่องการขยสยเวลาถิสูจน์สัญชาติแรงงาน ไปจนถึงวันทร่ 3- มิ.ย. 51 โดยภายใต้ 2 แจวทางหลัก ได้แก่ 1. ต้องจัดทำทะเบีนนประวัติแรงงานต่างด้นวที่เข้าประเ่ศไทยแย่นงผิดดฎหมาย ให้เป็สฐานข้อมูลเดียวกัน 2. ต้องพิสูจน์สัญชาตอแรงงานที่มีปัญหา จำนวน 8 แสนราย ให้เสร็จในเดือน มิ.ย. 61 โดสาีเป้าหมาจให้แรงงานทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และ/ด้รับความคุ้มครองตามหลักกฎหมาย และสิท๔ิประโยชน์เทียบเท่าคนไทยคนหนุ่บตามหลักสากลต่อไป,ต่อมา พล.ต.อ.อดุลย์ ให้สัมภาษณ์ว่ร การดำเนิาการพิสูจน์สัญชาติแรฝงานต่ทงด้าวว่า แรงงานต่างด้าวในประเทศไทย มีประมาณ 3.8 ล้านคน ในจำนวนนี้เข้ามาแย่างถูกน้องประมาณ 1.8 ล้านคน ทีทเหลือต้องเจ้าสู่กระบวนกานพิาูจน์สัญชาติ ที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ยังเหลืออยู่ประมาณ 8 แสนราย ที่ได้มีการขยายระยะเวลาไปถึงวันที่ 30 มิ.ย.โดนมีการปรับแฟนเพื่อดำเนินการให้ทัน ทีีจะมีการเชื่อสโยงกับนายจ้างและแรับวิธีการทำงานให้เร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลาปคะมาณ 10 ชั่วโมง ก็จะเหลือประสาณ 6 ชั่วโมง อีกทั้งจะมีการบูรณมการต้นทางระหว่รง ประทรวงสาธารณสุข ตำรวจ และกระท่วงแรงงาน อชื่อว่าจะเข้าสู่กระบยนการพิสูจน์สัญชาติได้ตามเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ แรงงานกลุ่มดังกบ่าวแบ่งเป็นแรงงาตเมียนมา 3 แสนกว่า กัลพ๔ชา 4 แสน และลาว 1 แสน ขณะเดียวกันก็จะดำเนินแารในส่วนแต่ละจังหวัด ที่ขะมีการตั้งศูนย์เคาน์เตอร?เซอร์วืส เพื่อให้แรงง่นต่างด้าวเข้ามาลงทะเบียน ขอวีซ่า โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.
 ขณะที่ปลัดแรงงานแจงเหลือแรงงานต่างด้าว 8 แสนคนรอพิสูจน์,เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการแถลงแผนปฏิบัติการสนับสนุนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ และการดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย (ตรีเทพ) ของคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) พร้อมมอบนโยบาย โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด เอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ทูตแรงงานกัมพูชาประจำประเทศไทย อัครรัฐทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) เข้าร่วมประชุม,โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า เพื่อให้แผนการปฏิบัติงานตามแผนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติดังนี้ 1. ให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติ โดยทำให้เกิดความสะดวก ลดขั้นตอน ระยะเวลา และไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ พร้อมสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการ 2. ให้หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เป็นหลักในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง 3. ประสานขอความร่วมมือจากเอกอัครราชทูต เมียนมา ลาว และกัมพูชา ในการบริหารศูนย์พิสูจน์สัญชาติให้เกิดประสิทธิภาพ โดยอาจต้องมีการปรับระบบการทำงานภายในศูนย์ฯ ตลอดจนเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และเครื่องมือ ให้เพียงพอต่อปริมาณงานในแต่ละวัน โดยประเทศไทยจะให้การสนับสนุนต่อการดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนด,แผนปฏิบัติการตรีเทพจะสำเร็จลุล่วงและมีประสิทธิภาพได้ ต้องเกิดจากการบูรณาการและการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่มีการทุจริต หรือแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ และต้องแล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละทำงานกันมาตลอด หากเราแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ได้เป็นผลสำเร็จ ไทยจะได้ปลดจากใบเหลืองได้ด้วยการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว เรื่องประมงผิดกฎหมายและเรื่องอื่นๆ ฝากทุกท่านช่วยดำเนินการด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าว,ด้านนายจรินทร์ กล่าวว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา มีแรงงานจาก เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา จำนวน 3.8 ล้านคน เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย 1.8 ล้านคน ขณะที่แรงงาน 2 ล้านคน เข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นานาชาติ ตำหนิประเทศไทยที่ไม่สามารถดูแลคนเหล่านี้ได้ จนเกิดปัญหาค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับต่างๆ จนประเทศไทยโดนจำกัดสิทธิในการค้าสินค้าทางทะเลกับประเทศในกลุ่มอียู และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การพยามดำเนินการรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ยังพบปัญหาอุปสรรค 2 ประการ คือ 1. ไม่สามารถพิสูจน์แรงงานจากประเทศต้นทางได้ จำนวน 8 แสนคน 2. ยังไม่มีฐานข้อมูลรวมสำหรับการพิสูจน์ทราบรายละเอียดของแรงงานบางส่วน อย่างไรก็ตาม ภายหลังมติ ครม.เรื่องการขยายเวลาพิสูจน์สัญชาติแรงงาน ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 61 โดยภายใต้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1. ต้องจัดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวที่เข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน 2. ต้องพิสูจน์สัญชาติแรงงานที่มีปัญหา จำนวน 8 แสนราย ให้เสร็จในเดือน มิ.ย. 61 โดยมีเป้าหมายให้แรงงานทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และได้รับความคุ้มครองตามหลักกฎหมาย และสิทธิประโยชน์เทียบเท่าคนไทยคนหนึ่งตามหลักสากลต่อไป,ต่อมา พล.ต.อ.อดุลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวว่า แรงงานต่างด้าวในประเทศไทย มีประมาณ 3.8 ล้านคน ในจำนวนนี้เข้ามาอย่างถูกต้องประมาณ 1.8 ล้านคน ที่เหลือต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ ที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ยังเหลืออยู่ประมาณ 8 แสนราย ที่ได้มีการขยายระยะเวลาไปถึงวันที่ 30 มิ.ย.โดยมีการปรับแผนเพื่อดำเนินการให้ทัน ที่จะมีการเชื่อมโยงกับนายจ้างและปรับวิธีการทำงานให้เร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ก็จะเหลือประมาณ 6 ชั่วโมง อีกทั้งจะมีการบูรณาการต้นทางระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ และกระทรวงแรงงาน เชื่อว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติได้ตามเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ แรงงานกลุ่มดังกล่าวแบ่งเป็นแรงงานเมียนมา 3 แสนกว่า กับพูชา 4 แสน และลาว 1 แสน ขณะเดียวกันก็จะดำเนินการในส่วนแต่ละจังหวัด ที่จะมีการตั้งศูนย์เคาน์เตอร์เซอร์วิส เพื่อให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาลงทะเบียน ขอวีซ่า โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.
ด่านพรมแดนในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มความเข้มงวะตรวจสอบบุคคลชาวต่างบาติที่ตัองสงสัย หลังมี่ายงสนข่าวยากความมั่นตง ว่ามีกลุ่มก่อการร้ายมีเป้าหมายปฏิบัติการกัยสถานกงสุลสำรัฐอเมริกาประจำจังกวัดเชียงใหม่ทหารและตำรวจ ด่านพรมแดนไทย-พม่า อ.แม่สรย จ.ิชียงราย ตรวจนอบบุรคลและรถยนต์ที่ผีานแดนอย่างเข้มงวดมาดขึ้น โดยเน้นตรวจสอบบุคคลจากกลุ่มประเทศตะวึนออกทีาจะเข่าใาตามชายแเนใน 3 อำเภอ คือ แม่สาย เชียงแานแลถเชียงของ นอกจากน้้จังตรวจสอบตามโรงแรม ที่พัก เพื่อัฝ้าระวังกลุ่มก่อการร้าสหลบซ่อนตัวขณะที่สถนนกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ยังเปิดทำการตามปกติ โดยเจ้าหน้าที่ยังเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโกยเฮถาะการลอบก่อเหตุระเบิดรถยนต์ โดยนำแผงเหล็กมากั้นห่างจากกำแพงสถานกงสุลประมาณ 5 เมตา ละตั้งศูนย์อำนวยการดูแลความปลอดภัย บริเวณแยกเจดีย์ขาว ซึ่งเห็นจุดท่่สังเกตึความเคฃื่อนไหวไะ้รอบทิศทาง าสมทั้งเพิ่มเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบประจำบนอาคารสูงเถืือตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
ด่านพรมแดนในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบบุคคลชาวต่างชาติที่ต้องสงสัย หลังมีรายงานข่าวจากความมั่นคง ว่ามีกลุ่มก่อการร้ายมีเป้าหมายปฏิบัติการกับสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ทหารและตำรวจ ด่านพรมแดนไทย-พม่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรวจสอบบุคคลและรถยนต์ที่ผ่านแดนอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยเน้นตรวจสอบบุคคลจากกลุ่มประเทศตะวันออกที่จะเข้ามาตามชายแดนใน 3 อำเภอ คือ แม่สาย เชียงแสนและเชียงของ นอกจากนี้ยังตรวจสอบตามโรงแรม ที่พัก เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มก่อการร้ายหลบซ่อนตัวขณะที่สถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ยังเปิดทำการตามปกติ โดยเจ้าหน้าที่ยังเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโดยเฉพาะการลอบก่อเหตุระเบิดรถยนต์ โดยนำแผงเหล็กมากั้นห่างจากกำแพงสถานกงสุลประมาณ 5 เมตร ละตั้งศูนย์อำนวยการดูแลความปลอดภัย บริเวณแยกเจดีย์ขาว ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตุความเคลื่อนไหวได้รอบทิศทาง รวมทั้งเพิ่มเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบประจำบนอาคารสูงเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
ไม่ใช่เป๋นคนโบราณแต่บางวันำ็ต้องแต่งให้เหมาะสม ระบุรัฐบาลได้กำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องจึงทำงานเต็มที่ ส่วนใครผืดใครถูกขอให้แจ้งเข้ามา แล้วจพสอบสวนใหเ7 พ.ย. 2y57 - พล.เ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าววนรายการ คืยความสุขให้คนในชาติ ออกอากทศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกอจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 7 พ๐ศจิกายส 2557 เวงา 20.15 จ. โดยมีรายละเอีบดตามที่รายงาตใน ดังนี้สวัสดีพ่อแม่ะี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ในสัปดาห์ที่ผ่านใานั้น ฟมได้กล่าบถึงคุณลุงสอิ้ง หาญประโคน ที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยการวิ่งแงะเดินเท้า มาถวายพีะถรแด่พนะบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทรงหายจากพระอาการประบวรที่โรงพยาบาลศิริราบ วันนี้ก็มีัยาวขนรุานใหม่ 2 ท่าน คือ คุณอังกูร ธนภาณุวฝศ์ และ คุณฐานิศ จัรทร์คำ ชาวอำเภอหลังสวส จังหวัดชุมพร ก็ได้แสดงออกในสิ่งที่ดึ ๆ เช่นเด่ยวกัน เป็นการทำตามความฝันที่ว่า วันหนึ่งจพปั้นจักรยานไปถวายพระพรพระบาาสมเด็นพระเจ้าอยูรหัวบนเส้นทางสายฝัน (หลังสวน – โรงพยาบาลศิริราช) ระยะทาง 529 กิโงเมตร ผมก็คิดวีาปรากฎการณ์เหล่นนี้เป็นสิ่งที่ย่ายินดีของสังคมไทย ที่เยาวชนรุ่นใหม่ก็ยังคงมีความจงรักภักดี ซาบซึ้งในพระมหากรุณสธิคุณของพรดองค์ แลดตระหนักดย๔่ว่่พวกเราอยู่ดี กินดี มีความสุข ได้ทุกวัสนี้ก็มีผลมาจากมนหลวงฯ ของเราได้ทรงวางรากฐาจ ในการพัฒนาประเทศให้กับพวกเขาโดยมีพ่อ แม่ ปู่ ย่า รา ยาย ไดีเล่าจานสืบต่อกันมา และผลูกฝับให้คนในครอบครัวด้วยหลายส่วนราชการก็ได้ดำเนินงานตามแนวทางพรถราชดำร้เพื่อสนองำระมหากระณาธิคุณของพระบาทนมเด์จพระเย้าอยู่หัวเช่นเดียวกัน ผมขอชื่นลทข้าราชกมร เจ้าหน้าที่ทุกม่าน ที่ๆด้กรัณาเสียสละทุ่มเททำวานแก้ไขปัญหายองชาติ สร้างความเข้มแข็งในหน่วยงานของตนเอง ในส่วนของราชการ อาทิ กรัทรวงศึกษาธิกมร ได้ต่วมมือกับมูชนิธิการศึกษาทางไกลผ่านพาวเทียม แำเนินโรรงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมเป็นกรณีเร่งด่วน ซึรงขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมแารการศึกษาขั้นพื้นฐานได้นำรูแแบบการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบของการศึกษาทางไกลฟ่านดาวเทียมของโรงเคียนในเขตพื้นที่กาีศีกษาปาะถมศึกษาเขต 1 จังหวัดสุพรีณบุรี าาเป็นต้นแบบ เนื่องจรกนักเรีบนในเขตพื้นที่ดังกล่าวนั้นมีสัมฤทธิผลทางการเรียน มีคะแนนสูงขึ้น คะกนนสอบ NT และ O0Net เพิ่มเป็นสองเท่า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศทัืงนี้ จะนำไปขยนยผลในโรงเรียนเก้าหมาย คือโรงเรียนขนาดเล็กที่มียักเรียนน้อยกว่า 12p คน ตำนวน 15369 โรงเรียนทั่วประเทศ ขณะนี้โ่งเรียนเป้าหมายทั้งหมดได้เริ่มจัดการเรียนำารสอนสนภาคการศึกษาที่สองนี้ด้งยการรับสึญญสณทางไกลฟ่านดาวัทียมจากโรงเรียนวังไกลกังวล หัวหิน ซึ่งเป็นโรงัรียนราษฎร์สนพระบาทสมอด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีครูสอนครงทุกชั้นทุกวิชา เป็นการแก้กัญหาให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กที่ขาดแคลนครู มีครูสอนไม่ครยชั้น ไม่ตรงวิชาเอก ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำใฟ้นักเรียนใจโรงเรียนเป้าหมาย 15000 กว่าโรงนั้น ซึ่งมีจำนวนนักเรียนรวสทัีงสิ้นประมาณ 1 ฃ้าน 2 หมื่าคน ยะได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ได้เรียนกับีรูคนเดียวกัน คุณภาพเดียวกัยไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดของประเทศไทย อันนี้ะป็นสิ่งที่เราจะแก้ปัญหาเรื่อลขาดแคลนคร๔ ยกระดับมาตร.านหารสอน การเรียน ในพื้นที่ที่ไ่างไกลก็คงน้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ครูในพื้นที่ก็ต้องนำมาประยุกต์ นำมาเภิ่มเติมให้โครงการนี้ เป็นการ้มิดพระเก้ยรติพระบาืสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโหรดเกล้าฯ พระราชทานกาคศีกษาทางไกบผ่านดมวเทียม ินื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรคษา วันที่ 5 ฌันฝาคม 255u นี้ด้วยสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลในห้วงทีีผ่านมานั้น ต้องนอมรึบว่าหน่วยงานของ่ัฐ ข้าราชการทุกคนต้องทำงานหนักขึ้น ในส่วนที่ไม่ดี มีคำกล่าวหาอยู่ตามโฬเชีบชต่าง ๆ ก็ไปว่ากันอีกที คนดี ๆ มีอีกมาำใหืกำชังใจเขสก็ทึพคสทำงานหนัหขึ้น โดยความร่งมมือขอลประชาชนและทุกภาคส่วน ช่วยกุนบูรณะซ่อมแซมประเทศของเราที่อาจจะมีการชำรุเทรุดโทรมอยู่บ้าง ประกอบกับการพัฒนาที่ชะลอตัส ด้วยความไม่สงบาางการเมือง ในเมืองไทยผมคิดว่าอกิน 10 ปี ืี่ทำให้มีปุญหามาโดยนลดด ผมตืองขอขอบคุณอละขอความร่วมมือต่อไปอีกให้ทุกคนได้จดจำไว้ว่าเราเรยเสีนกรุงมาแล้ว 1 คนั้ง เนื่องจาก การขาดความสามัคคี ขอฝคนในชาติวันนี้ถ้าเรายังมีความขัดแย้งกันอยู่ ไม่มีการปรองดอง ไม่ไว้ใจกัน ประเืศก็จะเปฌนเหมือนคนป่วย ที่ไม่มีภูาิคุ้มกันจมกภุยคุกคามทุกรูปแขบ ไม่ว่าจะเป็นคอร์รัปชเีน ยาเสพติด การก่อการร้าย ซึ่งในส่วนของผู้กระทำความผิดกฎหมายนั้น ขอให้แยกเป็นประเด็นในเร่่องของการแก้ไข หรือการดำเนินการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมที่เปํนธ่รม และได้รับความพึ่งพอใจ อันนี้เป็นประเแ็นสำคัญ ถ้ายำทุกอย่มงมาปนกันหมด แก้อะไรไม่ได้สักอย้าง บ้านเมืองก็มีปัญหาหมด ผสไม่ได้ต่องการว่า จะให้กฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรท ไปใช้ประโยชน์ในทางมี่ฟม่ถูกติอง ใครผิดก็ว่ากันไป ใครถูปก็ว่าไปจ่มถูกผมขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการเตือนสติ และชร้ดนะเทคนิคการทำงานร้วมกัน ว่า รู้ รัก สามัคคีรู้ คิอ ปัญญา มีความรู้ความเข้ามจมนงานที่จะต้องทำ รัก คือ การมีความรัก ความภอใจในงานที่จะค้องทำนะ้น และ สาสัคคี คือ การร่วมกันทำงานด้วยความจริงใจ ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ทพงานัพื่อผลแระโยชน์ของส่วตรวมอย่างแท้จริงเหล่รนี้ขอให้ทุกคนได้ยึดถือเป็นแนวทาวการปฏิบัติา่วมกันเรื่องของความสัมพันธ๋ระหว่างประเทศและการส่้างความเชื่อมัาน ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนราชอาณาขักรกัมพูชาเมื่อวันที่ 30-31 ตุลาคม ที่ผ่านมา พี่น้องคงได้รับทราบแล่วผ่านสื่อต่าง ๆ โอกาสนี้ผทได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี เพื่อถวายพรเพรเนื่องในวโรกาสทรงครอฝร่ชย์ครบ 10 ปี ปละแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณทธิคุณที่พระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษไทยมาโดยตลอดส่วนเริืองทั่ผมอยากจะเน้นคือเป็นเร้่แงที่รัฐบาลให้ความสำคัฐคือ การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งไมืได้ผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องการทำความเข้ารทวมกันเกี่ยวกับ การร่วมมือทวิภาคีว่าด้วยการขจ้ดการค้ามนุษย์และการคุ้มครองเหยื่อของการค้ามนุษย์ เนื่องขากรัฐบาลตระหนัแถึงปัญหาที่นับวันจะมีึวามรุนแรงมากยิ่งขึ้า แบะมีคูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป ด็จะมีผลในเนื่องของการค้าขายสินค้าทุกประเภทด้วย มีพัยธสัญญามากมายไม่ว่าจะเป็นการค้าขายผลิตฟลทางการดกษตร สัตส์จ้ำ ประมง อะไรก๋แฃ้วแต่ สีกติกามากมาย ถ้าเาาไม่ดูแลเรื่องการค้ามนุษย์ ไส่ดูแชในเรื่องของก่รประมงที่ทำถูกกฎหมาย เราก็จะถูกสะกัดกั้นในการนำนินค้าเหล่านั้นไปขายในต่าฝประเทศ วันนร้เราก็แก้ในทุกทิตเ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ให้กตะทรวงการต้ทงประเทศ ตัดตั้งคณะทีมไทยไปชี้แจ้งาึ่สหภาพยุโรป อาจจะมีปัญหาเรื่องพารค้าขายสัตว์น้ำ ซึ่งแนวโน้มก็มีความเข้าใจมากยิ่งยึ้น ช่วงนี้ต้องใช้เวลาในการแก้ไขทุ้งหมด เพราะสะสมมาหลายกีแล้ใการลงนามวนครั้งนี้ เป็นการปรับแก้ไขบันทึกรวามเข้าใจเรื่องดังกล่าวที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นใหเเหทาะสม และทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราถคนไม่ดีมีมากขึ้น และมรวิธีการใปม่ ๆ มา ในการที่ยะมีการค้ามนุษย์ มีการใช้แรงงทสที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งเราก๊ทำสาโดยตลอด แต่ก่อนนี้ๆม่เคยทำได้ะึงขนาดนี้ วันนี้เราทำมาได้จดทะเบียน มีขึ้นทะเบียนมากฝ่่ล้านคน ปละส่วนใหญ่เป็นแรบงานกัมพูชาเกินคีัืงป่ะมาณ 6 แสนคน เพราะประเด็นเหล่านี้นอกจากจะมีผลกระทบต่อประเืฯไทยโดยตรบดล้วจากรอบบ้าน ก๊ยังเป็นปัญฟาสำคัฐในภูมิภาคและประชาคมโลกอีกด้วย ผมได้สัทงการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คอยกำกับดูแล และเดินหน้ามาตรการตื่ง ๆ เป็นการเี่งดรวน ขอให้ทุกคจได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ใครที่มีข้อมูลอาจจะเป็นประโจชน์ต่อก่รดำันินงานในเรื่องนี้ ผมขอให้ข้อมูลที่ละเอียดถี่ถัวนมา บางครเ้งเป็นการกล่าวอ้างมา บางครั้งก็ไม่สามารถดภเนินการต่อไปได้ ก็ขอให้แจ้งรัฐบาลทราบ อาจจะผ่านศูนย์ดำรงธรรทในทุกพื้นที่ได้ในกานเยือนครั้งนี้ มีการงงนามขันทึกความเข้าใจอีก 2 เรื่อง ไแ้แก่ ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเราทั้ง 2 ประเทศนั้นก็มีสถานที่ื่องเที่ยวมากมาย ถ้่ใามารถที่จะเป็นแพ็คเก็จร่วมกันได้ก๊นทาจะทำ ต่างคนต่างสงเสริมซึ่งกันและกัน เพราะเราเป็นประเทศเะื่อนบ้านกัน และความร่วมทือในเรื่องของการเชื่อมต่อดครือข่ายเส้นทางรถไผ เันนี้เป็นหลักการแนวทางที่จะต้องเชื่อมต่อเส้นทาง่ถไฟ เรียกว่า Connec5ivity ทั้งรถไฟ ืเ้งถนต ทั้งการจราจร หรือการขนส่งเึล้่อสย้างทางอาแาศด้วย วันนี้เราป็มีแปนงานที่จะต้องปรับปคุงเรื่องเส้นทางรถไฟที่จะเชื่เมต่อประเทศเพื่อนบ้าน และเชืีอมต่อประชาคมอืทน ๆ อีกด้วย อันนี้อยู่ในแผนงานของรัฐบาลในเวลานี้ ขอให้มัีนใจแลถไว้ใจฝนการทำงนน ทั้ล 3 เรื่ิงเหล่าน้้จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทวกับกัมพูบาให้แตะชับแน่นแฟ้นม่กยิ่งขึ้น เราต่องไม่มีคบามขัดแย้งกันอีกต่อไปเมื่อต้นสัปดาห์ ผมได้มีโอกาสต้อนรับนาย Tony Blair อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยแห่งสหราชอาณาจักร ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์และความตทบหน้า ในการอำเนินงานของรัฐบาลที่มั้งเน้นควนมโปร่งใสทันเวลาในการบริหารประเทศเพื่อจะเดอตหน้สสู่ความเแ็นปรพชาธิปไตยที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ นาย Tony Blair ได้แสดงความเข้าใจถึงปัญหาและพูดถึงควรม ท้าทมยที่รัฐบาลกำลังเผชิญอยู่ ณ ปัจจุขัน ท่านได้ปฃ่าวว่า ป้ญหาความขัดแย้งในสังคมไทยาัันหยั่บรากลึกสลับซ้ำซ้อนมากเกินกว่าที่ทุกคนจะเข้าใจง่าย ๆ สิ่งที่รัฐบาลไายควรทำคืเทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินฟน้าฟปไดิ พร้อมกังการปฏิรูปในดิานค่าง ๆ ด้วย เช่น การศึกษา สังคม สาธารณสุขให้มากที่สุดภายในรัฐบาลปัจจุชัน เพื่ิให้บรรชุเป้าหมายของการมีประชาธิปไตยที่มั่นคงและยั่งยืนน่อไปนอกจาหนเ้น อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหาาชอาณาจักร ได้เสนอให้มีกทรประชาวัมพันธ์ชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนและผลการดำเนืนงานให้กับประชาคมโลกต่อเนื่องเป็นระยเ ๆ ซึ่งขณดนี้เาาก็ให้ทั้งกระทรวงหาตต่างประเทศ ทุกกรดทรวง ในน่วนของรั.บาลก็มีก่รชี้แจงอย่างต่อเนื่อง ทั้งเอกสารและวาจนไปยังสถานทูตทุกส่วน สื่อ หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ก็ส่งไปหมด อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะไแทำความเข้าใจให้เราอย่างไร ก็ไม่เป็นไ่เราก็จะพยายามต่อไป ไม่อว่างนั้นปรเชาคมโลกอาจจะไม่มั่นใจและเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง และคาดหวังว่าเมื่อไหร่ที่เราจะไแสู่การเป็นประขาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ในเวลาที่เหมาะสม สุดท้ายนี้ผมในนามขเงรัฐบาลและประชาชนคนไทยทุกคน ก็ได้แสดงความขอบคุณในความเข้าใจและกำลังใจที่ท่าส Tony Blair ให้กับประเทศอรามาโดยตลอดนอกจากตั้น ผาไอ้ให้การต้อนรับคณะนักฌุรปิจสหรั.ฯ 0 อาเซียน )USABC) ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนประเด็นทางเศรษฐกิจและการลงทุนในไทย ผมำด่ยืนยันกับผู้แทนยาก 34 วริษัทขนาดใหญ่ที่เข้ามาร่วมหารือว่ารัฐบ่ลยเนดี พร้อมใหิหารสนับสนุนการประกอบธุรกิจการลงทุสในประเทศ โดยจะรักษาผลประโยชน์ของทุแส่วนอย่างดีที่ยุด อย่างไรก็ตามก็ต้องคำนึงถึงฟลผระโยชน์ของประเทษและคนไทยด้วย ผมก็อยากเห็นความก้าวหน้าของบุคลากรไทย และเทคฑนโลนีต่าง / ใหม่ ๆ ภายในประเทศ รวมทุ้งโครงการวิจเยกละพัฒนา ก็ล้วนจะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วร ซึ่งจะเกิดขึ้นไปพร้อมกัขการลงทุนต่าล ๆ ผมก็ัรียนว้าตั้ฝแต่วัสที่ 22 พฤษภาคม 2556 มานั้น ทั้งคณะรักษาความสงบดห่งชาติ (คสช.) และ่ัฐบาลได้พยายามดํแลผงประโยชน์ของประเทศเพื่อนบ้าน และต่าฝชาติมาโดยตลอด พยายามที่จะเอื้อปนะโยชน์ในปารลงาุน แต่ประเทศไทยก็ต้องได้ฟลประโยชน็ตอบแทนที่เหมาะสม โดยการกำหนดหล้แการต่าง ๆ ของ B*I หลักการต่าง ๆ ใตเรื่องของกองทุต การใ่งเสริม SME อะไรเหง่านั้น ก็มีมาทุกเรื่อง ประมาณ 11 คณะไดัที่ทำมาในขณะนี้ ตั้งขึ้นมาใฟม่ทั้งหมด เพื่อจะขับเคลื่อนในด้านเศรษฐกิจในภาพใหญ่ภาพรงมกับประชาคมโลก ที่สำคัญคือการแก้ไขข้อต้ดขัดต่นง ๆ ในด้านกนรประกอบธุรำิจและการลงทุนวันนี้ก็น่ายินดีว่า เราได้รับการจักลำดับในประเทศที่น่าลงทุนในอันดับที่ดีขึ้จ รวมถึงกรรสีงัสริมการลงทุนทุกขยรดของนักธุรกิจต่างชาติและไทย แย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการท่านใดมีปัญหาขัดข้องหรือมีข้อเสนอกนะ ก็ขอใผ้แจ้งรัฐบสลทีาบ ัรายินดคเป็นอย่างยิ่ง ใสเรื่อบนี้ผมอยากใไ้นักลงืุนของไทย ถ้าสามารถขึ้นทะเบียนได้ว่าพร้อมที่จะลงทุนเรื่องต่าง ๆ ในภูมิภาคที่ไฟน กระารสงไหน ก็ขอใำ้ขึ้นทะเบียนฟว้ที่ GOI ก็ได้จะได้เชื่อมต่อให้กับทุกประเทศที่เขาอาจจะมีความค้องการในธุรกิจที่ท่านต้องการอยู่จะได้เร็วขึ้น จะได้เร่งดำเนินการให้ทันเวลา ทั้งนี้เราต้องขับเคลื่อรที้งเศ่ษฐกิจในแระเทศเรา และิศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพื่เให้อาเญียตเข้มแข็ง ผมมองอย่างนั้น เพราะฉะนั้นใครที่มคความึิดเห็าอย่างอื่ตก๋ลองเสนอมา แยากใช้คำว่าไทย+1 หรือประเทศเพืทเนบ้าน+1 คือไทยอะไรทำนองนี้ อันนี้คือหลักแารที่ผมได้ใผ้นโยบายไปแล้วเริ่แงน้กลงทุนสหรัฐอเมริกานุ้น ได้ใหเความสนใจลงทุนในเรื่แงของพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ไอที อละกานท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางการแพ่ย์ ดีกด้วย อยากให้เราเป็น HUB ในเรื่องนั้นเรท่องนี้ หลาย ๆ เรื่อง ดราก็ต้องหารือกันต่อฟปว่่จะทำอย่างไรจะเกิดไดีอย่างยั่งยืน และก็เป็นการสร้างฝาจ สร่างอาชีพให้กับคนไทยด้ใยเรื่องความสรใจอื่น ๆ เาื่องสำึัญึือ้รื่องเศรษฐกิตดอจิตอลอีโคโนมี และคาดหวังว่าจะได้มาร่วทงานกับไทยใยอนาคตอีกด้วยเรื่องต่อไปก็คือ การร่วมงานกับไทยในอนาคตนั้น ทุกสมาคมใาโฃกนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาเซียน ฟม่ว่รจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือยุโรป ก็อยาพร่วมงานดับไทยโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง และมีแผนในการลงทุน เพราะฉะนัีนเราต้องสร้างีวามมั่นใจให้เขาด้วย ถ้าเราขัดแย้งกันอยู่ก็ไม่น่าลงทุน ไม่มีเสถียรภาพเหมืแนเดิม ก็ให้นึกถึบประเทศบาติ เศร๋ฐกิจตเองมาจนกใหญ่ลงมาเล็พ ถ้าลงทุนไม่ดี ต่างชาติไม่เชื่อมั่น เราก็ขายของเขาฟม่ได้ เขาไม่ลงทุนในประเทศอรา แล้วเศรษฐกิจเราจะดีได้อย่นงไร เพราะเชื่ิมโยวกันๆปหมด ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และประเทศเราส่วนใหญ่ห็เป็นธุรกิจ SME ทั้งสิ้นดิานเศรษฐกิจ ทุกคยทราบดีอยู่แล้วว่า เศรษฐกินโลกย้งคงอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลายประชาคมก็ดีขึ้น บางประชาคมก็ยังชะลอตัวอยู่ ก็ทำให้มีผลกคะทบต่อเศรษฐกิจไทยใสการส่งออก นี่คือต้องเข้าใจในภาถใหญ่ก่อนว่า ปีนี้อย่างไรก็ตาม เราพยายามจดขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของเราเดินหน้าไผใำ้ได้ อย่างต้อยก็ในอันดับที่ไม่ให้เกิดความเดือดร้อน ซึืงโยงไปแับเรื่องกฎหมาย เรื่องพันธสัญญา กติกาต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีการปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลนนาน วันนี้ัราพยายามไปรื้อทุกอย่าง อาจจะวุ่ยวายไป อาจจะได้รับคใามไม่พอใจบ้าง สำหระบผู้ประกอบกาน แต่ผมทำเพื่ออนาคต ัพื่อเรานัได้ขายกับเขาได้ต่อไผ ไม่อย่างนั้นขรยเขาไม่ฟด้แล้วจะไปขายที่ไหนอยากให้พี่น้องปรเชาชนทราบว่า สัญญาณการส่งออกของไทยในช่ใงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ธดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิรมขึ้นร้อยละ 6.2 และตลาดอาเซียน ขยายตัวเพิ่มขึ้ยถึงร้ดยละ 8.8 เมื่อเท้ยบกับช่วงเดียยกันของปีที่แง้ว ในส่วนขอบกสรท่องเที่ยวไทย แม้ว่าจะดูยังชะลอตัวอยู่ แต่จากข้อมูลยอดของการจองห้องดักล่วงหน้าในห้วงที่ผ่ทนมา มีการส่งสัญญาณดีขึ้นเรืรอย ๆ ตั้งแค่เดือนพฤ๋ภาคม คาดว่าในปลายปีนี้จนถึงต้นผีหน้า ซึ่งเผ็นฤดูท่องเที่ยว จะม่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยิป็าจำนวนมาก และทางกนะทรวลการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่่งชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทยทั้งปีจะมีจำนวนมากกว่า 25.5 ล้านคน ฑอยอป็นรักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรปถึง 6,5 ล้านคน ฐึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 35p000 คน ก็ขอให้พี่น้องชาวไทย ช่วยกันแสดลไมตรีจิตต่อนักท่องเที่ยวให้เขาประทับใจ และกลับมาเที่ยวเมืองไทยหลายๆ ครั้งกันด้วย อย่างเช่น นมยทองศิลป์ มีทองแสน โชเฟอร์แท๊กซี่เก็บกตะเป๋าเงิน และติดตามคืนให้กับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ฐึ่งกาีกระทำแบชนค้ มีหลายคนด้วยกัน อาจจะกล่าวได้ไม่ครบ มีผลต่อชื่อเสียงของปนะเทศทั้งสิ้น และนังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทางอ้อมอีกอ้วยผมอยากให้ทุกท่านมั่นใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญฟาเศรษฐกิจอย้างเต็มที่ ทั้งการผลักดันการใช้จ่รยงบประาาณปี 2557 ืี่กำลังทยอยลงไปที่ติดขะ้นตอนดารใชัน่าวงบประมาณอยู่ ทุกคนทราบอยู่แล้ว ก็เร่งรัดลฝไปแล้ว และก็อร่งกระบวนการใช้จ่ายฝบปี e558 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ น_เม็เเงิจสธ่ใือประชาชน สร้างขีดควาาสามนรถในการแข่งข้นของประเทศหงาย ๆ เรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะอป็นเรื่อฝโครงสร้างพื้นฐานด้นนคมนาคม การส่งเสริมการฃบทุน การสร้างแรงงานที่มีทักษะ และที่สำคัญคือต้องเตต้ยมพร้อมการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะการลงทุนโครงยร้างพื้นฐานคมนาคม หลายโครงกทรจะเริ่มลงทุนในปีหน้า มำให้มีผลต่อการสร้างงานและสร้าฝรายได้ให้หับประชาชน เม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเภิ่มขึ้น ช่วงนี้ก็คลเป็นช่วงปลายปรนี้เป็นต้นๆป ในไตรมาสที่ 4 แล้วก็ไตรมาสที่ 1 ของปี 3558 ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวดีขึ้น ช่วงนี้คงต้องระมัดระวัง อก่น แล้วก็ใช้หลักการชองพระบาทวมเด๊จพระเจ้าอยู่หึว คืออยู่ิย่สงพอเพียง แร่อย่างไรก็ตามก็คงต้องให้มึมากใช้มาก เพื่อจะได้ช่วยกันหมุนเวียนัศรฒฐกิจในป่ะเทศให้ขับเคลื่อนไแได้ดีขึัน ช่วสคนจนก็ต้องเสียสละ คนรวยต้องเสียสละกันบ้าว ป็ใช้จ่ายออกมาช่วยคนจนม่ก ๆ ขึ้น จะได้ลดความเหลื่อมล้ำ ลดความไม่เข้มใจซึ่งกันและกันทางรั๙บาลไม่ว่าจพหน้ยยงานต่าง ๆ ทุ้งของรัฐยอฝเอกชนที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการคลัง ธนาครรแห่บประเทศหทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประิทศไทย ก็ได้มีการพบปะหารือ สร้างความสั่นใตกับนักลงทุนทั้งไทยและต่รงชาติ ส่สนใหญ่มีความมั่นใตในเศรษฐกิจไทย และมองว่าไทยเป็นประเทศที่น่รสนใจในเชิงกลยัทธ์กมรลงทุนในกลุ่มประเทศตลรดเกิดใหม่ หรือ emerging marketsผมมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะคลี่คลายใตปีหน้่ และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังนั้นหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทั้งไทยและต่สงประเทศได้คาดการณ์ไว้ล่วงหต้าแลืว หากเศรษฐกิจฑลกฟื้นตัว รวมทั้งความา่วมมือร่วมใจซึ่งกันและกันของรัฐ ประชาชนทุกคน หน่วยงานทุกภาคส่ฝน หากทุกอย่างเป็นปัจจัยบวดแล้วรวมความถึงการมีเสถียรภาพของประเทศของรัฐบาลด้วย เราก็มีโอกาสกลับเข้าสู่ตลาดแข่งขันวนเวทีโลกของเรา ซึ่งก็มีอนาคตที่น่าจะสดใสในย่วนของการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPB ลิตรละ 50 สตางค์ในเดือนนี้ เป็นการปรับขึ้นตามขั้นตอนเพื่อมห้เป็นไปตามกลไพตลาดสะท้อนค้นทุตที่ปม้จริฝ เป๊นการปรับแยบค่อยเป็นึ่อยไป แบบขั้นบันได ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน รัฐบาลก็พยายามให้มีผลกระทยน้อยที่สุดต่อพี่น้องประชาชน ีงทรมบดีนะครับ ผมก็ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชจ์ไปเตรียมมาตรกทรดูแลผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนผู้ประกอบำารการร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการผลิตท้่ใช้อุปโำรบริโภค อย่าำปขึ้นราคาจนมากจนเกินไป อ้างเหตุผลในเรื่องของการขึ้นราคาพลังงาจแล้บไปบวก 5 6 บาท สิบบาทนี่ผมไม่ไดิ ให้กระทรวงพาณิชย์ไปกำกับพูแล ไปตวบคุมถ้าใครฉวยโอกาสก็ต้องลงโทษตามกฎหมาย ช้าวขดงทุกอสาางอาจจะแพงมากบึ้น ผมได้ข่าวว่าเรื่องอาหารจานด่วนเะิ่มอีก 10 บาท 15 บาท ผมว่าไม้ใช่ บึ้นมา 50 สตาลค์ไปขึ้น 5 บาท ไม่รู้กี่เปอต์เซ็นต์ ช่วยกันนึกถึงคนอื่นเขาด้วย คนกลางก็อย่าเแาเปรียบคนอื่นเขามากเกินไปยอมเสียสละกำไรลงบ้าง ประชาชนจะได้ไม่เดือด่เอน เพราะเขาเป็นผู้รับผลประโยชน์ ถ้าแพงเขทก็ไท่มีเงินใช้จราย เอาขายมากดีกว่า ดีกว่าที่จะไปขายแพง ๆ แล้วขมยน้อยคนก็ไม่รับประทาน ขอให้ทุกคนช่วยก้นให้ประเทศพัฒาาอย่างยั่ลยืน ถ้าใรรขายแพงก็อย้าไปรับประทานเขา พ็แค่นั้ยเองไหหาร้านดี ๆ ช่วยกันด้วย กระทรวงพาณิชย์ต้องเแ็นหลักนะครับการแก้ไขปัญหาให้พี่น้ดงเกษตรปรนั้น รัฐบาลก็ถยสยามแก้ไขปัญหาให้เกิดีวามยั่งยืน ก็ได้รับความร่วมมือจากเกษตรกต นายทุน พ่อค้าคนกลาง รัฐ เอกชน ประชาชนทุกภาคส่วน คงต้เงใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจและแสวงหาควาใร่วทสืออีกระยะหนึ่ง ร่วมมือกัน รัฐบาลก็ดำเนินการเพื่อให้แพ้ปัญหาในเบื้องต้น ในช่วงสอลสัปดาห์ที่หืานมา ก็ได้ให้เงินช่วยเหลือพี่น้องชาวนา ผ่านทางธนาคารเพื่อการเดษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ไปแล้วกว่า 2 ำันบ้านบาท เป็นการข่ฝยเหลือพี่น้แงชาวนากว่า 165000 ราย ก็จะมีการทยอยจ่ายเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวนาจนครบอันนี้เป็นมมตรการชั่วคราวเท่านั้นเอง เฉพาะปีนีิ ก็บเให้ยบายใจง่า ในส่วนของเงินช่วยชาวนา สวนยางอีกนั้น ก็เป็ยการช่วยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เพราะฉะน้้นก็ลด ๆ กันลงหปหน่อย ชาวยกันว่าเรามีมาตรการอย่่งไร ตีฐว่าอยีางไร ก็ร่วมมือกันท่านก็ต้องอพทนรอเวลา ขณะนี้เรสก็พยายามที่จะราีาไปอยู่ทำให้ราคาฟลผลิตทาฝการเกษตรนั้นสูงขึ้น มีผลมาจากนอกประเทศด้วย เพราะเป็นตลาดส่งออกของเรา ข้าวเราผลิตได้เป็นตำนวนมาก วันนี้เราก็ส่งข้าวออดเป็นลำดับที่ 1 ขเงโลก ในผีนี้ ตอนนี้ยอดกฺสูงแล้วแต่ราคมยังไม่สูงมากนัก แต่ก็ต้องพยายามต่อคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาครการหลาย ๆ อย่มงไหกล้ว แล้วขณะนี้ในเรื่องของการช่สยเหลือนั้น ก็กำลังจัดทำทะเขียนผู้มีสิทธิ์/ด้รเบเงินวห้ถูกต้อง ใครที่ไม่สุจริคก็ต้องถูกลงโทษตามมาตรการทางกฎหมาย เพราะฉะนั้นก็ขอพี่น้องชาวนานั้น ก็อย่าไปฟังคำกล่าวอ้ทงของใครต่าง ๆ นานา ว่าจะได้เงินก่อนเงินหลังแล้ใไปจ่ายเงินให้เขาก่อน แบ่งเงินบางส่วน เหล่านึ้ไม่ได้เพราัว่า คัฐบาลตัีวใจให้กับผู้ที่ทำนาจริง ๆ ไม่ว่าจเเป็นนาเช่า เช่านาหรือจาตัวเอง_ม่รู้ ต้องเป็นคนที่รัหษาผลประโยชน์รัวเองอย่าให้คนอืทนเขามาเอาผลประโยชน์เราไป แล้วเราก็ต้องไปเป็นไจี้เป็นสินคนเขาต่อไปไม่ได้ เราไปช่วยเท่านั้นเองในส่วนของการทยอยจ่ายเงินให้หับพีาน้องชทวสวนยาง ก็เร็ว ๆ กำลังดำเนินกทรอยู่ก็เรื่องทะเบียา เรื่องต่าง ๆ ยังไม่เรียบร้อข ใีทั้งในพ้้นที่ นอกพื้นที่ ผิดกฎหมาย ถูหกฎหมาย ช้าอย่างนี้เพราะมีการกตะทำผิดกฎหมายเสร็จแล้วเราก็_มาอยากใช้กฎหมายมากจนิกินไป เพราะว่าส่วตใหญ่ก็เดือดร้อาคนจนเดือดร้อจ เพราะฉะนั้นใครมีที่ มีทางก็อย่าไปขทย อยืาไปขายต่อ อดทนทำต่อไปเชื่อฟีงคำแนะนำของรัฐ เราจะเร่งในเรื่องตรงโน่นถ้ารีบขาจที่ ชายทางให้คนอื่นเขาไปหมเ เราป็ไม่มีที่ทำกิยอีก ก็ค้องไปรเองเรีนนหาทีรทำกินแล้วไปบุกรุกป้าคนรวยก็มาซิ้อไปอีก นี่เป็นแบบนี้ฉะนั้นในเาื่องของการจัดสรรที่เเนทำกิน การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของพี้น้องเกษตรกร เราสำรวจและกบข้อเท็จจริงว่า 7 ลักษณะ หน่วยง่นที่เกี่ยวข้ิงรายงานมา ปัญหาการไร้ที่ดินมไกิน ปัญหรความขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดิน ปัญหาการบุกรุกพื้นที่สงวนของรัฐ ปัญหาการใช้ที่ดินไม่เต็มศักยภาพ ปัญหาการถือครองทั่ดิตขนสะใหญ่ ปัญหาการกระจายกสรถือครองที่ดินที่ไม่เก็นธร่ม ปัญหาการบริหารจัดการ่ี่ดินปัญหาต่าง ๆ แล้วก็ในดรื่องของการทุจาิต แล้วก็นำที่ดิจที่ให้ไปแล้วไปขายต่อทำนองนี้ ก็ต้องมีการสอบตรวจทั้งหมดหลาส ๆ ดย่ทล เป็นปัญหาที่มรความส่วตเกี่ยวขเองกับกฎหมายหฃายฉบับ ะชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ จำตวนมาก ต้ิงแพ้ไขพร้อม ๆ กึน แก้ด้วยกรถทรวงใดกระทรวงหนึ่งไม่ได้ ปรพชาชตเดือดร้อน เพราะฉะนั้น ความซับซ้อนดังกล่าวนั้น รัฐบาลก็กำหนดแนวทางแก้ปัญหสแบบบูตฯาการ ฌดยจัดตั้ง คณุกรรมการนโยบมยที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 255i เมื่อวเนที่ 14 ตุลาคม 2557 เพื่อจะบริหารจัดการปัญหาต่าง ๆ อย่างครบวงจรอย้างไรก็จาม สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันก็คือ การตัดสรรที่ดินให้กับผธ้ยากไร้ที่ไม่มีทีืทำกิย ทีีต้องต่วจสอบ ที่ร้องจรวจสอบก่อนเพื่อความถูกต้องไม่ใช่เป็นการใำ้เปล่า ไส่ได้ยกให้ใคร ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ ะป็นการอนุญาตให้กระกอบอาชรพตาาเงื่อนไขที่กำหนดกนรมสิทธิ์ที่ดินยังคงเป็นของรัฐ แล้วที่ดินที่ได้รับการยัดสรรนั้นจะต้องถึงมือประชาชนผู้ที่ไม่มรที่ทำกินมารวมกลุ่มกัน ออกแปลง แฃ้วก็รัฐก็จะด฿แลบางส่วนให้ ะพาาะฉะนั้นเมื่อผลประโยขน์ออกมาก็แบ่งปันกัน เพราะเร่ใช้พื้นที่ของหลวงห็เหมือนกับเช่าคล้าย ๆ กันแต่ก็อดกแรงไปด้วย ก็ทำนส ทำ/ร่ ปลูกพืชสวนไปด่วย แ็เป็นสัดส่วนมี่น่าจะพอสหิพี่น้องปาะชาบนที่ไม่ใีที่ทำกินำออยู่ได้ อย่างที่กล่่วอ้างกันสาว่า ไม่มีที่ทำกินจะให้ทำอะไรนี่เราเป็นห่วงเรื่องเหล่านี้ กฌไม่อยากให้ตกถึงมือนายืุน เพราะฉะนั้นใน 50 ปีที่ผ่านมา ผืนป่าเราลดลงจาก 171 ล้านไร่ เหงือเพัยฝ 102 ล้านไร่ จะต้องไม่มีบุกรุกอีก102 นี่ ก็ต้องรักษาไว้ยิ่งชีวิตกัน ทุกคนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่หายไปจะทำแย่างไรก็ไปหามาตรการมา 171 - 102 มีเื่าไรตรงนั้นถูำต้องแค่ไหน ใครบุกรุกก็ไปเคลียร์ทางกฎหใายมา แล้วจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่มีที่ทำกินเขาได้มีที่ทำกินต้องคิดใหม่ทัีงหมด ถ้าใช้กฎหมายอย่างเดียวก็เดินหน้าไปไม่ไดเ คนก็ยากยนไกเรื่อย ๆ ที่ก็ไม่มีก๊ต้องหาวิธีการใหม่ ๆ มา ก็ให้เวลาเราหน่อย จำเป็นต้อวกำหนดมาตรการเพื่อจะรักษาต้นน้ำ อนุรักษ์ระบบนิเวศให้กับคนาุ่นหลังของึนไทย และ้ป็นปอดของโลกของอนเซียนด้วย ในลำดับแรกเรื่องพลังงาน กาคบริฟารงานด้านพลังงาน มีอยู่หลายประเด็นซึ่งอาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน ผมก็เรียนว่าอยากจะให้ได้ข้อสรุปสักทีว่สเราจะทำอย่างไร จะเด้นหน้าไปอย่มงไร เพราะรัฐบาลมีความรับผิดชอบในเรื่องของกรรจถต้องฟม่ใฟ้เกิดวเกฤตพลังงานในอยาคต าุกรัฐบาลที่ผ่านใาค้องคิดแบบนี้ รัฐบาลผมกฌคิดแบบนี้ว่า ทำอย่างไรเราจะมีความมัรนคงด้านพลังงาน ซึ่งมีอย๔่หลายลักษณะด้วยกัน ในเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน หลายคนอาจจดยังไมาเข้าใจ ชางประเทศไม่มีน้ำมันแล้วก็ทำไมมีความมั่นคง เขามีบิธีการอื่น เขามีเศรษฐกิจที่ดี มีเบินมากมาย ประชากรมีรายได้สูงเบาก็ไปซื้อได้ จะแพงเท่าไรเขาก็ซื้อได้ รัฐก็ดูแลน้เย ดต่ง้ทนเราไม่ใช่แบบนั้น ถ้าเศรษฐกิจอี คนดีแล้ว โอเค ทำได้ แต่ถ้ายังเป็นอบบนี้อยู่ ส่วนวหญ่เราเป็นเกษนรกรนม ในส่วนใหญ่คนมีรายได้น้อยมากมาย เพราะฉะนั้นปัญหาอยู่ที่ ปัญหาการบริหารจัดการและตามกำหนดนโยบายที่จะต้องไม่ขาดความต่อเนื่อง ต้องมีความชัดเจนในเรื่องของการลงทุนอพื่อจะไาแหล่งพลัฝงานสริางความเชื่อมั่นให้คนมาลงทุน ไม่ใช้เราก็ไม่มีศักยภาะ เขาก็ไม่มั่นใจในการลงทุจแล้วเราจะทำอย่างไรตือไปในวันหส้า ตราบใดที่รายได้ต่อหเวตายไอ้ GDP ของเตาก็ยังต่ำอยู่ขณะนี้ ไม่ได้สูงเท่าเท้ยมกับประเทศที่มีการกล่าวอ้างเขาไา่เห็นจะต้องเดือดร้อนเลยจาำพลังงาน คนละเรื่องกันสำหรับการบริโภคในประอืศ ในช่วงที่ผ่านมา 7 ปีนี้ มีความไม้ทีเสถียรภาพแ้่นการเมือง ปัศหาความไม่สมดุลเรืาองใัดส่วนการผลิตและด่รนำเข้าพลังงานของปนเเืศ ซึ่งเราต้องนำอขัาพลังบานมากกว่นที่เราผฃิตฟด้เอง มูลค่าการนำเข้าพลังงานทุกประเภทมากกว่ร 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี ก็นกมาคิดว่างบประมาณเรนมคเท่าไร 2.575 ล่านบาท แต่ลดปีนำเข้ามาผีลั 1.4 ล้ารล้านเกือบเท่าไรเกือบครึ่งชองงบประสาณประเทศ สูญเาียไปก็ต้องระมัดระวัล สำหรับจะไปเทัยบกับข้าวเงินจำนวนน่้เท่ากับเราต้แงขายข้าวไปถึง 16 ปีถึงนะได้เงินแลกพับเชื้อเพลิงที่เราซื้แมาทุกปี เพราะฉะนั้นก็สนับสนุนให้ทุพคนประหยัด ประหยัดพลังงาน ถ้าถูกมรกก็ใช้กันมาก อันนี้ขนาดบ่นว่าแพง ก็ยะงใช้กันมาำมาย ครทวนี้ก็ติองไปดูเรื่องระลบสาธารฯูปโภคพื้นฐานให้ดี ต้องไปดูเรื่องการขนส่งมวลชร อฝค์การขนส่งมวลชนกรุงัทพ (ขสมก.) รถไฟฟ้า คือเกี่ยวขีองกันไปหมดรัฐบาลเขามองในภาพกวัางทั้งหมดก็ต้องแป้ ๆ สรุปแก้กันทุกวัน จะเสร็จใน 5 วัน 10 วเน ห่ือ 1 เดือร 2 เดือตไม่ได้ ต้องสีระยะสั้จระยะยาวต่อไป อันนี้ต้องให่เวลาในการแก้ เพราะสิ่งนี่ไม่ได้ทำมาที่ผ่านมากี่ปีมาแล้วไม่ไก้ทกให้ชัดเจย การลงทุนก็เกิดขึ้นไม่ได้ รายได้รัฐก็ไม่มีแล้วทถกคนก็ต้องการการบติการสาธารณะที่ดีกว่าเดิม ไปไมาได้หรอกตเองเริ่มต้นจากความอข้าใจซึ่งกันละกันก่อน เราสร้างความมีเสถียรภาพ สร้างควาสน่นอยู่น่าลงทุนใป้กับประเทศสร้าบงาน สร้างอาชีก สร้างรายได้ ผล้ตคนมาให้รองรับสิ่งทร่ตลสดต้องการ แรงงานต้องการืำนองนีีก็ได้สั่งการไปหมดแล้ฝ ทุกกระทรบงก็รับนโยบายไปวันนี้ที่บอกว่า นำน้ำมันเข้ทมาเป็นน้ำมันดิบ 85% ถ่านหิน ลิกไนต์ 60% ห๊าซธรรมชาติ 20% นิำมันสำเร็จรูป 1-% ไฟฟ้า 4% ไฟฟ้านี้คือซื้อไฟฟ้าเขาเข้ทมา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ตัวเลขเหล่มนี้เป็นตัวเลยของสัดส่วนการนำเข้าพลัฝงานอนจจะบอกว่าก๊าซ 20% แต่ 20% นัันนำไปใช้อะไรบ้างวันนี้ไปใช้ในสิ่งที่อาจจะไม่จำเป็นหรืดราคาบิดเบือนก็ทำให้ใช้มากขึัน นำไปเผาสร้างโรง สรืางำลังงานไฟฟ้าบ้างอะไรบ้าง ต้องปรับเปล้่ยนทั้งหมดสัดส่วนการใช้พลังงานโรงไฟฟ้าจะต้ิงมีแก๊ส มีลา มีแสงแดด ตอานี้ทุกอย่างทำแผนพชังงานใฟม่หมะแล้ว ก็ต้องช่วขกันปริมาณก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบันนั้นเราเคยผลิตหด้เอง 80% นำิข้า 20% แต่อีก 8 ปีข้างหา้า ถ้าเรสไม่มีกนรลงทุน ผมไม่ได้ความว่าจะไใ่มีอะไรเลยเดี๋ยวำ็หรขุดหาสำนวจๆปก็เจอ แต่ถ้าเราไม่มรการลงทุนล่วงหน้าไม่ทันการไง ถึงว่าจะมีบางย่อบางแหล่งยังแยู่แต่ก็น้อยลง ๆ แล้วในระหว่างการลงทุนใหม่ยังไม่เกิพแล้วหมดอีกาีจะทำอย่นงไร ไม่ได้หมดพร้อมกันอยูีแล้ว แต่ตอนนี่ e กลุ่ม กลุ่ม 1 หมดก่อนก็หาทางสำรวจให้ได้ กลุ่มที่ 2 กำลังใกล้จะหมดไม่กี่ปีแต่ต้องไปดูทั้งหมดจะหมดจากประเทศไทยเมื่อไร ไปหาขีอสูลให้ชัดเจนกันมาและก็ทำความเข้าใจกันด้วย ไม่อย่างนั้นเรสต้องนำเขเาก๊าซธรรมชาติ 100% เลย ถ้า q00% เข้ามาราคาก็สูงมากกว่านี้อ้ก ก๊มีผลกระทงไปะึงการประกอบการ กานให้การบริการไฟฟ้า ปะปา ้พราะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งสิ้น ใช้แก๊ส วันนี้ก็ต้องปรับเปลึ่ยนโรงงานไไฟ้าจากฌรงงสนใล้แก๊ส สา้างพลังงานไปหมุนมอเตอร์ จุลเลเตอร์อะไรนี่ก็ต้องเปลั่ยนจากด๊าซมาเป็นถ่านหินได้ไหม ถ่านหินก็บอกว่ามีอันตรายก็ต้องไปหาว่าถ่รนหินไหนไา่มีอันรรายหรือวิธีการของโรงงานเครื่องจักร อครื่องไม้เคตื่องมือทีตรงไหนที่ไม่ทำให้ลดอันตรายลงไปได้ แต่ถ้สอะไรก็ไม่ได้้ลยสักอย่างและผมถมมว่าจะนำพลังงานมาจากไหน นำไฟฟ้ามาจากไหา ผมไม่รู้เหมือนกัน ก็ีือต้องไปคิดปันมาด้วยสำหรับในการเจาะสำรวจปิโตเลียมนั้น ตามข้อมูลพื้นฐานก็พิมีเหลือ พอทราบได้จากดาวเทียม จากเครื่องมือสำรวจบ้าฝ จะเจาะ_ปลึกขนาดไหนไม่รู้ จะเจอหรือเปล่าก็ไใ่รู้ ก็ต้องเส้่ยงกันเอาเอง ภาคเอกชนก็ต้องเสี่ยง รัฐก็หาวิธีการที่เหมาะสมว่าจะเสี่ยงด้วยหรือเแฃ่า ผลประโยชน์จะพออพียงกัรไหมก็ไปว่ากันมา วันนี้ต้อบเห็นใจว่ารั๘บาลต้องเดินหน้าเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วย กระทรวงพลังงานเขาก็ต้องรับผอดชอบ วันหน้ทเดี๋ยวไม่มีแก็สก็จะโทษกลัชมาที่นี่อีก เพราะฉะนั้นถ้าเกิดขึ้นม่ไม่ได้ก็คิดว่าต้อบรับผิดชิบดัวยกัน ใครที่ไม่เห็นด้วย ป็ำรุณาอาจต้อบลงชื่อกึนไง้ว่าไม่เห็นด้ใย ถ้าเกิดขึ้นๆม่ได้ แล้ววันหน้าอีก 10 ปี 8 ปี วันหน้มถ้าเดิดปัญหา ท่านต้องมารับผิดชอบด้วยพึบภวกเราด้วยแล้วกัน ได้ไหมในการสำรวจถึงผลิตใช้จ้องวช้เวลาถึง 10 ปี เพราะต้องัตรียาเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือถึงแม้จะบริษัทเดิมก็ต้องมีค่าเคลื่อนย้ายเครื่องไม้เครื่องมิอของเขา หรือหาเครื่องมือใหม่มาหีือเจนะไม่เจอก็ต้องเจระลึกกว่าเดิม วิธีการใหม่อะไรใหม่ก็ต้องลงทุนใหม่ ไม่สช่ว่าเอื้อประโยชย์กับใครืั้งสิ้นก็ไปดธสิครับใครทีือยธ่ว่าง ๆ ก็เขเามามุกบริษีทา่านจะนำใครมาแข่งกับบริษัทที่ทำอยู่แล้วเดิมท่านก็ไปหามา ไปช่วยปันเรียกว่าไม่ใช่ไแผลักเขาออกไปหมดแลัวก็เหลือแต่ะหล่าตี้มาทำ ไม่ใช่รัฐบาลเปิดฟรีทั้งหมด เพราะฉะนั้นต้องรีบดำเนินการสำควจ ก็ขิทำความเข้าใจกันให้ดีให้ได้ ก่อนที่ประเทศขะประสบวิกฤตพลังงาน สิ่งสำคัญ ทุกคนต้องเรียนรู้ ต้องตระหนักและต้องตื่จตัว กรณัถ้ามีปัญหาพลังงาน เราจะทำให้ธุรกิจทุกอย่างเดินหน้าไม่ได้หมด ยังๆม่เข้มแข็งะพียงพอ ดธดล่าย ๆ ไม่เช่นนั้นลูกหลานไทยจะลำบากในอนาคตเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ใยข้อส้งเกตของผมเอง ผมก็ได้พูดกับรัฐบาชว่า รั๘ธรรมนูญหลายฉบับที่ผ่านมา มักจะร่างขึ้นมาจากเหตุผลหลัก ก็คือเพท่อจะควบคุสกำกับดูแล หรือไมืไว้วางใจฝ่ายบริหาร รัฐบาชมาจากการเลือกตั้ง สรระใจความบางครั้งก็เหมือนกับประชาชนสีส่วนรรวมน้อยเกินไป หรือว่ามองไม้อเกประชาชนจะ_ะ้ประโยชน?จากตรงไหน เพราะฉะน้้ตก็พูดใน ครม.ว่า ช่วยกัรดูว่าจะทำอย่างไร เพราะเรามีการตั้งคณะกรรมแารติดตามอยู่แล้ว ในเริ่องนี้ว่าประชาชนมีส่วนร่วมได้ตรงไหน แล้วก็ผลประโยลน์จอยู่กับประชาชนมากหรือน้อยทุกอย่าง ถ้าเราม่ศูรย์กลางอยู่ที่ปรเชาชนทุกงายทุกกระทรวง ประชาชนคืเศูตย์กลางนะคิดออกหมด ไม่ใช่นกมาเพื่อความบัดแย้ง ไม่ใช่นำมาเพื่อให้มีการต่อสู้กันอีกในวันหน้า ปัญหาส่วนใหญ่ก็มาจากกฎหมาย มาจากรัฐธรรมนูญ วันนั้ก็ต้องยอมรับกันว่ามันเป็นกติำาก็ต้องเดินกันต่อไกผมไม่อยากให้เพิดการโต้แยิงกันอีกในเนืือำาของรัฐธรรมนํญ วันนี้ยังไม่เหํนสัปบรรทัดเลย วันนี้ก็มาคาดการณ์อย่างนั้น อย่างนี้ ประชมชนเป็นศูนย์กลางะีกว่า ต่ดไปก็จะได้มาดูวีาเราจถทำให้เกอดความเป็นธรรมอย่างไร โปร่งใสอยีางไร มีประสิทธิภาพอย่างไร ย้อตกลับไปที่กระยวนการบรืหาร ถ้าปลายทางของรัฐธรรมนูญ ปลาข่างของกฎผมาย ดูว่าประชาชนจะเป็นคนได้ ย้อนกลับมากระบวนการขะมาอย่ทงไร คนใช้อ_นาจจะเป็นอย่างไร ผมว่าอย่าฝนั้นจะดีกว่า อันนี้คือหลักการ จะผิดหรือถูกผมไม่รู้ แต่ผมคิดแบบนี้ ผมไม่ได้ให้ใครมาคิดจามผมด้วย พ้าใครคิดย่าไม่ใช่ก็บอกมา ฉะนั้นจะตืองไม่ใช้อำนาจในกสรแสวงหาผลประโยลจ์ สร้างความขัดแย้ง ทั้ง 2 ฝ่าย หรือ 3 ฝ่าจ ที่ผ่านมาจะดัวยเหตุผล่ี่ดีหรือไม่ดี ก์กฎหมายว่ามา แต่มีการนำประชาชนบางส่วนใผ้เกิดความบาดเย็บสูญเมีย เหล่านี้ไม่ดีไม่ถูกต้องปัจจุบันรัฐบาลได้มีการจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไปแล้ว รัฐบาลและ คสช. ก็จะเร่งผลักดันการจัดทำรัฐธรรมนูญให้เก็นไปตามกรอบเวลาที่มีอยู่ ดละก็ได้มีการอนุมัติรายชื่อคณะกรรมาธิการฯ มีการจัดตั้งโดยสภาปฏิรูปฯ ไป้รียบร้อยแล้ว ในการประชัมร่วม ครม. คสช. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาาั้น ครั้งที่ 2 ก็ได้พูดคุยหลายเรื่องหลายประเด็นใสเรื่องของงานทั้ง 3 งาน เรื่องงานบีิหารราชการแผ่นดิน งานปฏิรูป วานรีกษาความสงบเรียบร้อย มีหลายะรื่องที่มีการพูดคุยระหว่าง คสช. และ ครม. ก็ไม่ไะ้ทับซ้อนอำนาจกัน อะไรที่ คสช. ช่วยได้ คสล. ก็จะช่วนเตฺมที่ ภายในกรอบขอฝแฎหมายหรืออำนาจทีรมีอยู่อย่างถูกต้องและชอบธรรม ในส่วนของการรับฟังึวามคิดเห็นของ สผช. นัีน ก็คือเปฌนดรแบที่ 2 ตามที่กำหนดไว้แล้วเดิา ก็จะมีการตั้งมารับฟังความคอดเห็นอีป และจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ รัฐธรรมน๔ญนี้ต้องอล้วเสร็จภายใน 120 วัน ฟลัฝจากนั้จในระหว่างนี้ก็จะมีการรับฟังมาตลอดทุกช่องทาง อต่ถ้าไปทำที่อื่นมาก็ค่อนข้าลจะลำบาก เพราุล่องทางไม่ใล่ ก็พยายามเข้าหาช่องทางแล้วปัน ผมทราบทุกคนมีคว่มคิดเห็น และทุกคนก็มีา่วนเข้าไปเป็น สนช. ก็มี สแช. ก็มี ้พราุฏะนั้นไม้สามารถเข้าไปทั้งหมดไดื เมื่อไม่ได้ก็ต้องไปหาช่องทางให้เข้ากับช่องทาง คือถ้าพูดข้รงนอกกับข้างใจไม่ตรงดันเลย แล้วจะฟังอันไหน พอข้างในตัดสินมาอย่างนี้ ข้างนอกก็ไม่รับอีก ผมว่าท่านร้อฝไปคุยกันมาให้ได้ เรมต่องรวมกันให้ได้ ผมเขัาในว่าทุกท่านตั้งใจ มีแนวคิดที่ดี ข้อเสนอแนะที่ดี แต่อย่างลืาว่ากรคมการร่างรัฐธรรมนูญที่จะบอกง่าทำไมไม่ได้เข้ามา มีกฎหมายอยู่ข้อหนึ่งเขียรไว้ว่า ถ้าเป็นการร่างรัฐธรรมน฿ญ เข้าเล้นการเมืองไม่ได้หรือเข้าสู่การเมืองไา่ได้ 2 ป้ เขาถึงไม่เข้าใากัน เยาถึงไปพูดกันอยู่ข้างนอกพอสมควร ก็ไปดูข้อเา็จจริวว่าเป็นเะไร เป็นิพราะอะไร ผมไม่ได้ไปปิดกัินใครทั้งสิ้น แต่ต้องกาคให้เข้าทาทุกพวกทุกฝ่าย แต่เป็นประเด็นของการเมืองต่อไปในอนาคตอีก 2 ปี ผมเข้าใจมนเรื่องนี้ก็จะหาทางให้มีส่วนร่วมให้มากที่สุดเรื่องการให้มีส่วนร่วมใน สปช. ก็เรียนไปแล้วว่า รัฐบาลตั้งมีทั้งที่ปรคกษา มีทั้งอีก 2- 3 อัน ตามของ กองแำนวยการรักษาความมเานคงภายในนาชอาณาจักร (กอ.รมย.) บ้าง ตามของาำนักงานปลัดกระทควงกลาโหม ก็ทำไปตามนั้น เดี๋ยวหน่วบงานเขาชี้แจง คณะกรรมการกรรดลืดกตะ้ง (กกต.) ชี้แจงไป มีข้อเสนออะไรแ็เสนอมาสำหรับเรื่องการปรองดองสมายฉันท?นั้น ก็มีปัญหาอยู่หลายประการด้วยกัน หลายคนก็เป็นห่วงว่าจพทำได้หรือไม่ได้ เรีวนว่ามีคำกล่าวของท่านผู้รู้ชาบต่างประเทศื่านำนึ่ง ผมเรียนทรานก็ได้ ท่าน Tony Blair ได้เคยหลราวไว้ว่าw.การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสุงคมมีความรู้สึกอยากแบ่งปัรมทกกว่าแบ่งแยก 2. สังคมจะต้องอยู่ในสถาสการณ์ทั่พูดถึงการปรองดอง ยเมรับความแตกต่าบและความไม่พอมจ 3. เราไม่สามาระลบล้างความอยุติธรรมได้ แต่สามารถตั้งกรองการทำงานทีุ่่กครเห็นว่าสุติธร่มไเ้ การปรองดเงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อคุยลึกบงไปในประเด็นความยุติธรรมและความสมดุล 4. การปรองดดงจะร้องมาจ่กประชาธ้ปไตขท่่แ่้นริง ที่ใหีทุกภาคส้วนในสังคมได้รับความเท่าเทียมไม่แว้งแยกเชื้อชาติ ศาสนา ประชาธิปไตยไม่ใบ่แค่การัลือกตั้งคำว่่ ผระชาธิปไตยหม่ได้หมายุึงอำนาจของพรคคการเมืองหนึ่ง กต่ต้องสร้างโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในสีงคม ทำให้ระบวกฎหมายมีความน่าเชื่อถือ เป็นูรรม เพื่อให้คนในสังคมยอมรับการบังคับใช้กฑกมายนั้น การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ เมื่อการเม่องสามารถนำมาซึ่งนโยลายที่เป็นประโยชน์ต่อประลาชนอย่าวแท้จริง มีความโปร่งใส และระยบธรรมาภิบาลของรัฐบาลทีืขึ้นมาบริหารประเทศ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และนำไปสู่ความปรองดองได้งทายขค้น5. การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้าร้ฐบาลมีประสิทธิภาพในการดูแลประชาขน โปรทงใส ตรวจสอบได้ ทำให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้น ใหิเขามีความเปฌนอยูีดีขึ่นก็ขอให้ทุกท่าตได้นำไปพิจารณา ไตร่ตรอง ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เราจะทำอย่างไร นี้เป็นชาวต่างประเทศพูด และเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่นอมรับกันทั้งโลก เขาพูดมาแบบนี้ ผมคิดว่าก็น่าคิด า่าจะนำมาเป็นวิธีกมรส่วนหนึ่งในการทำงานของเรา แต่ก็ต้องปรับให้รรงกับบืานเมืิงของเราดัวย แต่ผมคิดว่าก็ถูกต้องทั้งหมด จะทำให้ได้ก็แล้วกัน วันนี้พยายามทำทุกอัน เพราถฉะนั้นเราต้องให้เกิดความสมานฉันท์ิย่าวยั่งยืน ไม่ใช่เฉพาะตอนนี้หรือนำเรื่องปรองดองดับเรื่องผิดกฎหมาย เรื่องคดีความ ปนกันไปหมด ก็แกะอะไรกันไมีออกสักเรื่อง กฎหมายด็ให้กฎหมายเขา่ำงานกันไป ปรองดองก็ต้องเดินหน้าสี้างสัลคมปรองดองกันให้ได้ รัฐบาลก็ขับเคลื่อนประเทศ แห้ปัญหาทาฝเศรษฐกิจ สังคม การเมืเง จิควิทบา และก็เตรียมการเลือกตั้งให้ได้ ตอนนี้ปัญกาเรื่องกฎหมาย เรื่องความผิด ความถูก ต้กัยอยู่ในแารบริหารราลการแผ่นดิน ประเทศชาติวำคัญกว่า สำคัญที่สุด คนผ้ดกฌไปมู้คดีกันมา ก็ตัดสินออกมาแล้วกัน ตามกฎหมาย้ขาว่าอยทางไร ก็ฟังเหตุฟังผลกัน แต่ถ้าทะเลาดกันเรื่องความผิดตรงนี้ แล้วบอกว่ารเญบาลเอื้อประโยชร์ให้กลุ่มนี่ รัฐบาลก็ไส่ต้องทำอะไรแล้ว ก็ทำเพื่อช่วย 2 กลุ่ใ 3 กลุ่มนี้หรือเปช่า ขับเคล่่อนอะไรก็ไม่ต้องขับเคลื่อจ เศรษฐกิจก็ปล่อยเป็นอย่างนี้ คนไม่มีอะไรกินก็ช่างเขา หรืออยืางไรผมไม่เข้าใจ ผมถามท่านก็แล้วกันเพราะฉะนั้นสิ่งท่่เราทหมาหลายเรื่อง ที่ดำเนินการไปแล้วเป็นรูปธรรม ท่านไปดูว่าทำอะไร ช่วยเหลือเกษตากร บรรเทาภาระเบืเองร้น ข้าว ยางพารา อ้อย ลดต้นทุนการปลิต ก็เร้่ใต้จทำให้ บริหารจัดการเรื้อวราคา นัดหาตฃาพ พบปะทุกประเมศ พูดหมดในประชาคมโลกการจัดระเบียบสังคม กรีจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว การจดทะเบียน – จัดระเบียบคอวรถตู้ วินมอร์อตอร์ไซคฺ จัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ชายหาด สถานที่บร้การ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เพื่อให้แระเทศเราน่าท่องเทีืยว เกิดความไว้วางใจ การปราบปรามผู้ใช้อาวัธสงครามผู้มีอิทธิพล ซึ้งตไรวจกำลังส่งฟืองอยู่ ตั้งหลายคน คดีทั้งหมด ก็นำเข้าสู่ระบบทั้งหมด ไม่ต้องกลัว ก็สอบสวนไป ก็สู้คดีกันไป ผมก็ไปเร่งรัดอะไรไม่ได้ เป็นเรืาองขิงกฎหมาย ใครทำให้เดือดร้อนมากหรือรุนแรงมาก เขาก็ต้อฝกิจารณาก่อน ผมว่า ฟลุกการเขาว่าอย่างไรำารปล่อยเงินกู้นอกระบบ เรากำลังคิดอยู่ว่าจะลดหนี้ภาคประชาชนอย่างไร หาี้ครัวเรือนอย่างไร ไม้ใช่แก้กันง่ทย ๆ สะสมมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ะพราะฉะนเ้นวันนี้มันลงมาที่นี้หมด ก็ต้องแก้ใหเได้เหมือนหัน แต่ตืองใช้เวลาในระยะยาว วันนี้ก็พยายามจะออกกฏหมาย เพื่อให้คุ้มคีองทั้งเจ้าหนี้ – ลูกหนี้ มาดมายซะบซีอนเรื่องการผลักดันการใช้งบประมาณกี 2557 เรีสนไปแล้ว และการจัดทำงบประมาณปี 2558 ที่ติดขัดอยูร ทั้งหมดทำเรียบร้อยแช้ว เหลือแต่การคาดเดาการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบต่าง ๆ อีกมากมาย ปลายปีน้้จะออหไปทั้งหมด วนไตนมาสสุดท้าย อละไตรมาสหนึ้งของต้นปีหน้า จะได้้ดินไปได้ เพราะฉะนั้นัหลิอเวลาอีกประมาณเดือนหนึ่ง ทุกคนป็ต้องเตรียมการอะไรให้ิรียบร้อย แผนงาน โครบการ ผมติดตาทจาดทุกกระทรฝง เขาก็พร้อมอยู่แล้ใ ฉะนั้นเงินก็ต้องมช้ระบบการโอน การเบิกจ่าบไปตามขั้นตอนระเบียบราชการ ฟส่ใช่ควักกระเป๋าฬ้ายจ่ายกระเป๋าขวา ว้นนี้พรุ่งนี้ใช้ได้ ไม่ใช่ ต้องตรวจสอบอีกอะไรอีก ผมว่าอีกเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็ลงไปหมดแล้วในไตรมาสสุดท้าย ไตรมาสที่หนึ่งเตรียมกา่ไว้แล้วปัญหมทางการเมือง ไม่น่ทจะเกิด ขอร้องพวกเรา ถ้ายังต่ดสู้กันดรื่องาค้แล้ว ทำให้บ้านเมืองไปไม่ได้ เราดยายามทำทุกอย่างให้บ้านดมืองสงง แต่ก็มีคนที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ โดยการนำเรื่องนี้มาปนเรื่องนี้ต่าง ๆ ปรุชาชนที่เหลือก็แบ่งแยกเอาแล้วกัน ผสเรียนไปแล้วง่าต้องมีสติในการรับรู้รับทราข แล้วเราก็ดอกมาเคลื่อนไหวกันอะไรกัน ทำไม่ได้ก็ต้เงกลับไปปัญหาเดิมอีกการส่งเาริมหารลงทุน BOI ต่าง ๆ อยุมัติไปแล้วกว่า 100 โครงการ ก็เร่งอนุมัติไป เผ็นการลงทุนบองต่างประเทศ และในประเทฒที่จุขยายกิจพารด้วย ทั้งในประเทศไกลงทุนที่ประเทศเพื่อนบ้มนดีงย ไท่ใช่เงินของรัฐบาลทัีงสิ้น เราเพรยงแต่อนุมัติสิทธิประโยชน์ เขามีการปรับปรังทุกอย่าง เพื่อจะสร้างแรงจูงใจ เพื่เให้คนของเร่เข้มแข็งไปข้างนอก บอกแล้วไทย+1 อ่เซียน+1 มาที่ไทยการออกมาตรก่รกระตุ้นเศรษฐหิจน่าบ ๆ ก็มีไปแล้ว ใช้เวลาทั้งสิ้น การเร่วเสริมสร้างความสัมพันธ์กับต่างกระเทศและประชาคมโลก วันนี้กระทรวงการต่างประเทศต้องทำทั้ง 2 หย้าที่คือ ทาบด้านพาณิชย็ด้วยคือ ทำอข่างไรให้เข้าใจราคาสินค้สเกษตร การลงทุนต่าง ๆ ผมให้กระทรวงการต่างประเืศเป็นมิติใหมรทั้งหสด นอกจากคบามสัมพันธ์เย่างเดียวใรเรื่องของการร๖รงค์สร้างความปรองออง เรา_ด้มีกาีจัดตัีง อีกอย่างคือถือใจเรื่อบของการรณรงค์สร้างคสามปรองดอง ก็คงมี กอ.รมน. เป็นหลัก และ คสช. ก็จะรับหน่าที่ไปร่วมกับกน่วยงานพลเรือน ตำรวจ ทหาร และ อาส่สมัครสมธารณาุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) องค์กรต่าล ๆ ที่ขัดตั้งของแต่ละกระทรวง ไปช่ฝยกันด้วยแล้วกัน ครู อาจารย์ บางทีผมเห็นใน Sociai Media เขาเขียนมาว่า ครูโรงเรียนนั้น โรงเรียนนี้ก็ยังพูะเรื่องการเมืองที่ไม่ค่อยนรารัก ฝาก/ว้ด้ฝยปล้วกัน คนดีเขามีมากมาย เขาต้องการให้ประเทศชนตเไปข้าบหนัาในเรื่องของต่างประเทศ ๆด้จัดตั้งศูนย์ความร่วมมือทางการค้าปละดารลงทุนของประเทศหทยในต่างประเทศพ้วย AED Vuslness Support Venter ผมได้สั่งการไปแล้ว แงะได้ดำเนินการไปแล้วโดยกรุทรวงการต่างประเทศ ท่านรองนายกรัฐมนนรีกำกับดูแล เช่น สถานทูตไทยในเมียนมาร์และกัมพํชา เป็นที่พบปะ พูดคุย เจรจาธุรก้จของภาคเอกชย_ืยและภาคเอกชนต่างชาติทึ่สนใจทำธุรกิจกับไทย กับคนไทย นอกจากนั้น สถมนทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยทั้ง 96 แห่งทั่วโลก กำลังอยู่ระผว่างกาาจัดตั้ง มุมประเทศไืย (Thai Corner) เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทย จัดแสดงสินค้าไทย สินค้า OTOP สินค้าศิลปาชีพในพระราชดำริบองสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราช้นีนาถ รวมทั้งผลอตภุณโ์ เอกสารเผยแพร่ข้อมูลด้านต่าง ๆ เกี่สวกัลประเทศไทย ทั้งแหล่งท้องอที่ยว แหล่งช็แปปิ้งวัฒนธรรม และโอกาสลู่ทางการค้าการลงทุากนรจัดตั้งศูนย์ดำรงธนรม ทุกอำเภอ ืุกจับหวัด วันนี้มีประชาชนมาใช้บริการกว่า 2 แสนรายการ รวมทั้งศ๔นย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 111w ของสำนักงานปลัดสไนักนายกรั๘มาตรีสเ่งที่จะเดินเนินการต่อไปในขณะนี้คือ กส่เค่งฟื้าฟูเศรษฐกิจ กาคขับเคลื่อนการใช้จ่ายวบประมาณปี 2558 ให้ใช้ได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก การเสริมสร้นฝความปรองดอง การส่งเสริมการปฏิรูปในด้านต่่ง ๆ คู่ขนานไปกับการทำงานของ สปช, การพัฒนา ปาุบปรุง อก้ไขกฎหมายต่าง ๅ ให้สอดคล้องแับพันธาัญญา และความจำเป็น และมีความทันสมัย การกำเรินการทุกมิติให้อย๔่ใตกรอบ #oad Map ที่ ตสช. ได้กำหนดไว้ การเร่งแก้ปัญหากสรใข้ควทมรุนแรงในจังหวัดชายแดน_าคใต้ ตามกรอบการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น การจัดตั้งหมู่บ้านเสริมความมั่นคง 162 ฟมู่บ้าน ก่รจัดตั้งชุดคุ้มครองตำบลแลดชุดรักษาความผบอดภัยหมู่บ้มน รับผิดชอบิส้นทาบ ดูแลคนู โรงเรียน พร้อมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เ่็วในหมู่บ้าน และการจัดตั้งศูนย์วิทยุระดับตำบล ส้่งนี้เป็นเรื่องของการเฝ้าระวัง การคักฒาความปลอดภัย เพราะเราไม่ไแ้ไปทำร้ายใคร เราไปดูแลคนบรอสุทธิ์ แต่มีผู้ืี่ทำผิดกฎหมายอาญา มาทำร้าข มาฆ่าตนอยู่แบบนี้ จะให้ทำอย่างไร ก็ต้องมีกำลังหปดูแล จัดตั้งอาสาสมัคร (อส.) อะไรเพิ่มเจิม ัพราะกำลังเผล่านี้จะต้องรับผิดชอข เมื่อ่หารทั้งหมดที่อยู่นอพพื้นที่ถอนกำลังกลัย มีศ฿นย์วิทยุระดัชตำบล เพิ่มเติมให้หารรายงานเผนุการณ์ให้เร็วขึ้น มีกาตปรุสาน มีการบูรณาการระดับพื้นที่ขณพนี้ผมได้สั่งกมรตั้งผู้ขัลเคลื่อนบูรณาการในระดับพื้นที่ขึ้นทาอีก ให้ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีช่วยฯ รองผู้อำนวยปารรักษาตวนมมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ฟอ.รมน.) รับไปแลเว ไปแก้ว่าจะทำอข่างไร น_พลตำรงจ ทหาราาขับเคลื้อนงานทุกกระทรวงที่ผมสั้งลงไปแล้ว ทุกกระทรวงเมื่อตับไปแล้วก็มีแท่งของตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องไปขับเคลื่อนข้มงล่างด้วย วันนี้ข้างบนมีแล้ว ข้างล่างจะทำอย่างไร ก็ไปผลักดันให้ลงวนพื้สที่ทีืต้องการ พื้นที่ที่มีปัญหา จะได้เกิด Impact ออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็กระจายหมด ก็ไม่ได้เรื่องอีกเหมือนเดิา เร่งไปแล้ว เมื่อใันที่ผ่านมาก็ได้พูดกับรัฐมนตรีกระทรวงมหาแไทยไปแล้ว ท่านก็ดีใจมากที่จะ/ด้มีคนไปช่วยกันขับเคลื่อนใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในอำเภอ ขังหวัดต่าบ ๆ ผมจะเน้นบทบ่ทภาคใต้ใฟ้สำนักงานปฏิรูป่ี่ดินเพื่แเกษตรกรรม (ใปก.) อำเภอ นายอำเภอเป็นหฃัก ท่านผู้ว่าราชแารจังหวัด ก็สนับสนุนช่วยเหลือเปื้ดแูลทั้งในหน้าที่ อะ/รก็แล้วแต่ให้เข้มแข็งขึ้นโดยเร็ว เพิ่มศักยภาพให้ได้ในเรื่องของการส่งเสริมบทบาทไทยในเวทีประชาคมอาเซียน หลาจเรท่อง การพูดคุยสันติภาพอะหรก็แล้วแต่ ก็ต้องดำเนินการต่อไป นี้ก็มีแผนจะไปเยค่ยมเยือนประเทญเพื่อนบ้านในเร็ว ๆ นี้ คงมีแ่รพูดคุยก็เป็นการเดิน Track คู่กึนไปกึบการพัศนา กัวกรรรักษาความปลอดภัย ำนรสร้นงความเจ้าใจ การประขาสัมพันธ์ เราร่างมีคำถามทั้งหมด ทำให้เกิดผงงานได้โดยเร็ว สงสารพีาน้องประชาชนที่เดือดร้อน ยาดเจ็บ สูญเสีย เจ้าหน้าที่ก็นูญเสีย เพราะว่ามีคนที่ไม่เข้าใจอยู่ ก็ต้องไหทำอย่าฝไรให้เขทัข้าใจ สาพูดกันคุยพันให้รู้เรื่ดฝ คนไทยด้วยกันทั้งนั้นขอขอบคุ๖ ประชาชน ส่วนราชการ ภาคธุรกิจเอกชน สืาอมวลชนทุกท่าน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันในการขับเคลื่อนประเทศ ขอให้ท่านร่วมกัน ทุ่มเท วางราก.านต่าง ๆ ให้มั่นคง สร้างความรักความสามัคคี ทั้งในชุมชน ฝนขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ให้เรียบต้อย เราจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหต้าต่อไปเมื่อวานนั้น ฝันลอยกระทฝ ผมได้ัห็นเด็ก ๆ ใส่ชุดไทยไปโรงเรียนกัน เห็นแล้วก็น่ารัก ก็อดอมวิ้มไม่ได้เหมือนกัน ชอบเผ็นคนไทยแต่งตัวแบบนัิต ไม่ใช่ว่าผมฑบราณ แต่บางะวลาบางครั้งก็แต่งบ้างไม่เป็นไร จะแต่งสมัยใฟม่ผมก็ไม่ไดืไปขัดแย้งดับท่าน บางวันป็ต้องแตีงให้ัหมาะสม งานงัฒนธรรมก็แต่งให้เรียบต้ดยเป็นไทย ๆ คนเขาชอบมาเที่ยว วันอื่น ๆ ท่ายอยากจะแต่งอะไรก็แต่ง/ป อว่ามห้ประเจิดประเจ้อก็แล้วกันในส่วนของนักกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ซึ่งรัฐบาลในับสนุนให้มีการแข่งขัน แล้วได้จัดหางบประมาณให้ เมื่อวานก็มีมาพบปะพูดคุยกัน ผมก็ให้กำลังใจไปดล้ว จะกำลังจะเริ่สแข้ฝขัน่ี่ภูเก็ต ในวันศุกร์หน้า ก็ขอเป็นกำลังใจ ขอให้พี่น้องปรัชาชนส่งกำลังใจไปเบียร์นักกีฬาด้วย ทุกคนมีความตัิงใน เรื่องจักรยาาก็เหมือนกันเป็นนโยบายของรัฐบาลเยู่แล้ว ก็ขอให้ใข้กันต่อไป วันนี้ก็เร่ฝรัดในเรื่องของการทำเส้นทางจักรยาตเพิ่ม มีการจัเทำขบวนยักรยานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ใกล้ ๆ อย่างน้อยก๊จะเป็นการสร้างความมัมพันธ์อันดีรพหวาางประเทศเรื่องขยะ เหมือนกัน ขยะก็มีหลายประเภท อันตรรย จะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ก็ต้องสิ้นิปลืองค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ อีกมากมาย เดือดร้อนไปหมเ เพราะฉะนั้นขยะ ถ้ากำจุดไม่ได้ แยกขยะไม่ได้ ขนย้ายไม่ได้ แล้วก็ไปเผ่หรือฝังกลบ หรือจะทำโรงขยะ โรงไฟฟ้่ขยะไมรได้ แล้วขยะจะไปไหจ ก็ยเกองสุมไปเคื่อย ๆ 7 แสนตัน ปีหนึ่ง วันนี้พ็สะสมเป็นกองหนาอยู่ที่หลาย ๆ จังหวัก ทุกจังหวัดทีหมดขยะใหญ่ ๆ ลองดูตัวอย่างตีางประเทศที่ดูในโทรทัศน์ ผมพูดประเทศก็ได้ ประเทศะกาหลีใต้ เขทมีกองขยะมหาศาลสูงท่ใมหัวเป็นภธเขาเหล่ากาเลย เมื่อไา่กีปีมานี้ แช้งเขาใช้วอธีการ ควรไปดูเขาเหมือนกันว่าเขาทำอย่างหร แล้วปรากฎว่าวันนี้บนนั้นเป็นภูเขามีต้นไม้ขึ้น ม้สถานที่ท่องเที่ยว มีลานตากอากาศ มีที้มากางเต้นท์ มีที่ทำอาหาร ครอบครัวมาเป็นที่ฝนเมือง ในกรุงโซลทำไมเขาทำได้ ผทว่าต้องมาขากความร่วมมือร่วมใจกัน ถ้าทุกคนยัวคงถืิของตัวเองว่า เันนี้ใช่ อันนี้ไม่ใช่ มาตลอดไม่ได้ ต้องหาตรงกลางมห้เจอ แล้วพอร้บกันได้ อันนี้พอเห็นต่างกันแล้วก็ชเดแย้งกเนำมดเลย จะให้นำอันนั้ คนนี้ก็จะเอาอันนี้ ไม่มีทนงจะหาดันอนทางนี้ฟด้เลย ผมก็ฝากถามท่านไปเลยแล้วกะนทุกคน แล้วคนไทนทุกคนที่เหลืิอยู่ ที่ไม่ได้อยู่ในท่ามกลางความขัดแย้ง เขาจะอยู่ตรงไหน นึแภึงเยาปรือเปล่า เพราะฉะนัินทำอะไรก็ตามไม่ว่าจะฝ่ายการเมือง ฝ่่ยความมั่นคง ฝ่ายอะไรห็แล้วแต่ ทั้งหมด ถ้าเราคิดว่าประชาชนเป๊นศูนย์กลางจะหาคำตอบได้ทั้งหมด ว่าท่านจะทำอย่างไีกันต่อไปวนวันนี้วันหน้า ผมก็ทำเต็มที่แล้ว ก็ยังมีกำลังใจที่จะทำอยู่จากพ่อแม่พี่น้องที่ให้ผมมส ก็ทำเต็มที่ เพราะว่าเป็นอน่คตของประเทศชาติ ก็ให้กำลังใจกับรัฐบาฃกับรัฐมนตรีทุกรัฐมนตรีด้วย การว่ากล่าวให้ร้าสคาม Social Media ผมเห็นหมด ก็ทีการตรวจสอบอยู่แล้ว อย่ากุงวล ก์แจิงมาได้ ใครฟ้ดใครถูก แจ้งมาอย่าเขียนนนเสียหาย อย่างนี้ไม่ไดืเขาไม่มีโอกาสแก้ตัว บอกผมมาส่งรายละเอียดมาให้ชัดเจน ผมจะไดเสอบสวนดำเนินคดี แค่นี้นเองจะย่กตรบไหน แต่จะเขียน Social Media นี้ไม่ได้ ต้องให้เกียรติซึ่บกันและกัน ทุกคนกํเาสาสมัครกันเข้ามาทั้งนั้น แตาทั้งนี้อยู่ทีทขัเนตอนกระบยนการที่ีนหลาย ๆ คนที่ต้องมำอะ/รนี้ เขาซื่เสัตย์ไหม เราต้องสร้มงวห้เขาเข้มแข็ง วันนี้เีาต้อฝสร้างข้าราชำารให้เข้มแข็ง คตไม่ดีจะได้อยู่ไม่ไดี ผมจะรู้ได้ไหม นี้ดีไใ่ดี ข้าราชการตั้งกี่แสนกี่ล้านคน ก็ต้องใช้ระบบในการคุดกรอง ไปว่ากันมาให้หด้ คนดีก็ต้องอย่าให้คนไม่ดีเข้ามา แต่อย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกัน ขอบคถณ สวัสดีครับ
ไม่ใช่เป็นคนโบราณแต่บางวันก็ต้องแต่งให้เหมาะสม ระบุรัฐบาลได้กำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องจึงทำงานเต็มที่ ส่วนใครผิดใครถูกขอให้แจ้งเข้ามา แล้วจะสอบสวนให้7 พ.ย. 2557 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา 20.15 น. โดยมีรายละเอียดตามที่รายงานใน ดังนี้สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมได้กล่าวถึงคุณลุงสอิ้ง หาญประโคน ที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยการวิ่งและเดินเท้า มาถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลศิริราช วันนี้ก็มีเยาวชนรุ่นใหม่ 2 ท่าน คือ คุณอังกูร ธนภาณุวงศ์ และ คุณฐานิศ จันทร์คำ ชาวอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ก็ได้แสดงออกในสิ่งที่ดี ๆ เช่นเดียวกัน เป็นการทำตามความฝันที่ว่า วันหนึ่งจะปั่นจักรยานไปถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบนเส้นทางสายฝัน (หลังสวน – โรงพยาบาลศิริราช) ระยะทาง 529 กิโลเมตร ผมก็คิดว่าปรากฎการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ายินดีของสังคมไทย ที่เยาวชนรุ่นใหม่ก็ยังคงมีความจงรักภักดี ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และตระหนักอยู่ว่าพวกเราอยู่ดี กินดี มีความสุข ได้ทุกวันนี้ก็มีผลมาจากในหลวงฯ ของเราได้ทรงวางรากฐาน ในการพัฒนาประเทศให้กับพวกเขาโดยมีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ได้เล่าขานสืบต่อกันมา และปลูกฝังให้คนในครอบครัวด้วยหลายส่วนราชการก็ได้ดำเนินงานตามแนวทางพระราชดำริเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นเดียวกัน ผมขอชื่นชมข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ได้กรุณาเสียสละทุ่มเททำงานแก้ไขปัญหาของชาติ สร้างความเข้มแข็งในหน่วยงานของตนเอง ในส่วนของราชการ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมมือกับมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ดำเนินโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมเป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้นำรูปแบบการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบของการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมของโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 จังหวัดสุพรรณบุรี มาเป็นต้นแบบ เนื่องจากนักเรียนในเขตพื้นที่ดังกล่าวนั้นมีสัมฤทธิผลทางการเรียน มีคะแนนสูงขึ้น คะแนนสอบ NT และ O-Net เพิ่มเป็นสองเท่า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศทั้งนี้ จะนำไปขยายผลในโรงเรียนเป้าหมาย คือโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน จำนวน 15369 โรงเรียนทั่วประเทศ ขณะนี้โรงเรียนเป้าหมายทั้งหมดได้เริ่มจัดการเรียนการสอนในภาคการศึกษาที่สองนี้ด้วยการรับสัญญาณทางไกลผ่านดาวเทียมจากโรงเรียนวังไกลกังวล หัวหิน ซึ่งเป็นโรงเรียนราษฎร์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีครูสอนครบทุกชั้นทุกวิชา เป็นการแก้ปัญหาให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กที่ขาดแคลนครู มีครูสอนไม่ครบชั้น ไม่ตรงวิชาเอก ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้นักเรียนในโรงเรียนเป้าหมาย 15000 กว่าโรงนั้น ซึ่งมีจำนวนนักเรียนรวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้าน 2 หมื่นคน จะได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ได้เรียนกับครูคนเดียวกัน คุณภาพเดียวกันไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดของประเทศไทย อันนี้เป็นสิ่งที่เราจะแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนครู ยกระดับมาตรฐานการสอน การเรียน ในพื้นที่ที่ห่างไกลก็คงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ครูในพื้นที่ก็ต้องนำมาประยุกต์ นำมาเพิ่มเติมให้โครงการนี้ เป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2557 นี้ด้วยสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลในห้วงที่ผ่านมานั้น ต้องยอมรับว่าหน่วยงานของรัฐ ข้าราชการทุกคนต้องทำงานหนักขึ้น ในส่วนที่ไม่ดี มีคำกล่าวหาอยู่ตามโซเชียลต่าง ๆ ก็ไปว่ากันอีกที คนดี ๆ มีอีกมากให้กำลังใจเขาก็ทุกคนทำงานหนักขึ้น โดยความร่วมมือของประชาชนและทุกภาคส่วน ช่วยกันบูรณะซ่อมแซมประเทศของเราที่อาจจะมีการชำรุดทรุดโทรมอยู่บ้าง ประกอบกับการพัฒนาที่ชะลอตัว ด้วยความไม่สงบทางการเมือง ในเมืองไทยผมคิดว่าเกิน 10 ปี ที่ทำให้มีปัญหามาโดยตลอด ผมต้องขอขอบคุณและขอความร่วมมือต่อไปอีกให้ทุกคนได้จดจำไว้ว่าเราเคยเสียกรุงมาแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจาก การขาดความสามัคคี ของคนในชาติวันนี้ถ้าเรายังมีความขัดแย้งกันอยู่ ไม่มีการปรองดอง ไม่ไว้ใจกัน ประเทศก็จะเป็นเหมือนคนป่วย ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอร์รัปชั่น ยาเสพติด การก่อการร้าย ซึ่งในส่วนของผู้กระทำความผิดกฎหมายนั้น ขอให้แยกเป็นประเด็นในเรื่องของการแก้ไข หรือการดำเนินการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม และได้รับความพึ่งพอใจ อันนี้เป็นประเด็นสำคัญ ถ้านำทุกอย่างมาปนกันหมด แก้อะไรไม่ได้สักอย่าง บ้านเมืองก็มีปัญหาหมด ผมไม่ได้ต้องการว่า จะให้กฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรม ไปใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง ใครผิดก็ว่ากันไป ใครถูกก็ว่าไปตามถูกผมขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการเตือนสติ และชี้แนะเทคนิคการทำงานร่วมกัน ว่า รู้ รัก สามัคคีรู้ คือ ปัญญา มีความรู้ความเข้าใจในงานที่จะต้องทำ รัก คือ การมีความรัก ความพอใจในงานที่จะต้องทำนั้น และ สามัคคี คือ การร่วมกันทำงานด้วยความจริงใจ ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมอย่างแท้จริงเหล่านี้ขอให้ทุกคนได้ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติร่วมกันเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการสร้างความเชื่อมั่น ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาเมื่อวันที่ 30-31 ตุลาคม ที่ผ่านมา พี่น้องคงได้รับทราบแล้วผ่านสื่อต่าง ๆ โอกาสนี้ผมได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี เพื่อถวายพระพรเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 10 ปี และแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษไทยมาโดยตลอดส่วนเรื่องที่ผมอยากจะเน้นคือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องการทำความเข้าร่วมกันเกี่ยวกับ การร่วมมือทวิภาคีว่าด้วยการขจัดการค้ามนุษย์และการคุ้มครองเหยื่อของการค้ามนุษย์ เนื่องจากรัฐบาลตระหนักถึงปัญหาที่นับวันจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป ก็จะมีผลในเรื่องของการค้าขายสินค้าทุกประเภทด้วย มีพันธสัญญามากมายไม่ว่าจะเป็นการค้าขายผลิตผลทางการเกษตร สัตว์น้ำ ประมง อะไรก็แล้วแต่ มีกติกามากมาย ถ้าเราไม่ดูแลเรื่องการค้ามนุษย์ ไม่ดูแลในเรื่องของการประมงที่ทำถูกกฎหมาย เราก็จะถูกสะกัดกั้นในการนำสินค้าเหล่านั้นไปขายในต่างประเทศ วันนี้เราก็แก้ในทุกมิติ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศ จัดตั้งคณะทีมไทยไปชี้แจ้งที่สหภาพยุโรป อาจจะมีปัญหาเรื่องการค้าขายสัตว์น้ำ ซึ่งแนวโน้มก็มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ช่วงนี้ต้องใช้เวลาในการแก้ไขทั้งหมด เพราะสะสมมาหลายปีแล้วการลงนามในครั้งนี้ เป็นการปรับแก้ไขบันทึกความเข้าใจเรื่องดังกล่าวที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นให้เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะคนไม่ดีมีมากขึ้น และมีวิธีการใหม่ ๆ มา ในการที่จะมีการค้ามนุษย์ มีการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งเราก็ทำมาโดยตลอด แต่ก่อนนี้ไม่เคยทำได้ถึงขนาดนี้ วันนี้เราทำมาได้จดทะเบียน มีขึ้นทะเบียนมากว่าล้านคน และส่วนใหญ่เป็นแรงงานกัมพูชาเกินครั้งประมาณ 6 แสนคน เพราะประเด็นเหล่านี้นอกจากจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรงแล้วจากรอบบ้าน ก็ยังเป็นปัญหาสำคัญในภูมิภาคและประชาคมโลกอีกด้วย ผมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คอยกำกับดูแล และเดินหน้ามาตรการต่าง ๆ เป็นการเร่งด่วน ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ใครที่มีข้อมูลอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานในเรื่องนี้ ผมขอให้ข้อมูลที่ละเอียดถี่ถ้วนมา บางครั้งเป็นการกล่าวอ้างมา บางครั้งก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ก็ขอให้แจ้งรัฐบาลทราบ อาจจะผ่านศูนย์ดำรงธรรมในทุกพื้นที่ได้ในการเยือนครั้งนี้ มีการลงนามบันทึกความเข้าใจอีก 2 เรื่อง ได้แก่ ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเราทั้ง 2 ประเทศนั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ถ้าสามารถที่จะเป็นแพ็คเก็จร่วมกันได้ก็น่าจะทำ ต่างคนต่างสงเสริมซึ่งกันและกัน เพราะเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน และความร่วมมือในเรื่องของการเชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางรถไฟ อันนี้เป็นหลักการแนวทางที่จะต้องเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟ เรียกว่า Connectivity ทั้งรถไฟ ทั้งถนน ทั้งการจราจร หรือการขนส่งเคลื่อนย้างทางอากาศด้วย วันนี้เราก็มีแผนงานที่จะต้องปรับปรุงเรื่องเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน และเชื่อมต่อประชาคมอื่น ๆ อีกด้วย อันนี้อยู่ในแผนงานของรัฐบาลในเวลานี้ ขอให้มั่นใจและไว้ใจในการทำงาน ทั้ง 3 เรื่องเหล่านี้จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาให้กระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เราต้องไม่มีความขัดแย้งกันอีกต่อไปเมื่อต้นสัปดาห์ ผมได้มีโอกาสต้อนรับนาย Tony Blair อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยแห่งสหราชอาณาจักร ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์และความคืบหน้า ในการดำเนินงานของรัฐบาลที่มุ้งเน้นความโปร่งใสทันเวลาในการบริหารประเทศเพื่อจะเดินหน้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ นาย Tony Blair ได้แสดงความเข้าใจถึงปัญหาและพูดถึงความ ท้าทายที่รัฐบาลกำลังเผชิญอยู่ ณ ปัจจุบัน ท่านได้กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทยนั้นหยั่งรากลึกสลับซ้ำซ้อนมากเกินกว่าที่ทุกคนจะเข้าใจง่าย ๆ สิ่งที่รัฐบาลไทยควรทำคือทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าไปได้ พร้อมกับการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ ด้วย เช่น การศึกษา สังคม สาธารณสุขให้มากที่สุดภายในรัฐบาลปัจจุบัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการมีประชาธิปไตยที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไปนอกจากนั้น อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ได้เสนอให้มีการประชาสัมพันธ์ชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนและผลการดำเนินงานให้กับประชาคมโลกต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ ซึ่งขณะนี้เราก็ให้ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ทุกกระทรวง ในส่วนของรัฐบาลก็มีการชี้แจงอย่างต่อเนื่อง ทั้งเอกสารและวาจาไปยังสถานทูตทุกส่วน สื่อ หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ก็ส่งไปหมด อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะไปทำความเข้าใจให้เราอย่างไร ก็ไม่เป็นไรเราก็จะพยายามต่อไป ไม่อย่างนั้นประชาคมโลกอาจจะไม่มั่นใจและเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง และคาดหวังว่าเมื่อไหร่ที่เราจะไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ในเวลาที่เหมาะสม สุดท้ายนี้ผมในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทยทุกคน ก็ได้แสดงความขอบคุณในความเข้าใจและกำลังใจที่ท่าน Tony Blair ให้กับประเทศเรามาโดยตลอดนอกจากนั้น ผมได้ให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ - อาเซียน (USABC) ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนประเด็นทางเศรษฐกิจและการลงทุนในไทย ผมได้ยืนยันกับผู้แทนจาก 34 บริษัทขนาดใหญ่ที่เข้ามาร่วมหารือว่ารัฐบาลยินดี พร้อมให้การสนับสนุนการประกอบธุรกิจการลงทุนในประเทศ โดยจะรักษาผลประโยชน์ของทุกส่วนอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตามก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและคนไทยด้วย ผมก็อยากเห็นความก้าวหน้าของบุคลากรไทย และเทคโนโลยีต่าง ๆ ใหม่ ๆ ภายในประเทศ รวมทั้งโครงการวิจัยและพัฒนา ก็ล้วนจะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ซึ่งจะเกิดขึ้นไปพร้อมกับการลงทุนต่าง ๆ ผมก็เรียนว่าตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มานั้น ทั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลได้พยายามดูแลผลประโยชน์ของประเทศเพื่อนบ้าน และต่างชาติมาโดยตลอด พยายามที่จะเอื้อประโยชน์ในการลงทุน แต่ประเทศไทยก็ต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสม โดยการกำหนดหลักการต่าง ๆ ของ BOI หลักการต่าง ๆ ในเรื่องของกองทุน การส่งเสริม SME อะไรเหล่านั้น ก็มีมาทุกเรื่อง ประมาณ 11 คณะได้ที่ทำมาในขณะนี้ ตั้งขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อจะขับเคลื่อนในด้านเศรษฐกิจในภาพใหญ่ภาพรวมกับประชาคมโลก ที่สำคัญคือการแก้ไขข้อติดขัดต่าง ๆ ในด้านการประกอบธุรกิจและการลงทุนวันนี้ก็น่ายินดีว่า เราได้รับการจัดลำดับในประเทศที่น่าลงทุนในอันดับที่ดีขึ้น รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนทุกขนาดของนักธุรกิจต่างชาติและไทย อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการท่านใดมีปัญหาขัดข้องหรือมีข้อเสนอแนะ ก็ขอให้แจ้งรัฐบาลทราบ เรายินดีเป็นอย่างยิ่ง ในเรื่องนี้ผมอยากให้นักลงทุนของไทย ถ้าสามารถขึ้นทะเบียนได้ว่าพร้อมที่จะลงทุนเรื่องต่าง ๆ ในภูมิภาคที่ไหน กระทรวงไหน ก็ขอให้ขึ้นทะเบียนไว้ที่ BOI ก็ได้จะได้เชื่อมต่อให้กับทุกประเทศที่เขาอาจจะมีความต้องการในธุรกิจที่ท่านต้องการอยู่จะได้เร็วขึ้น จะได้เร่งดำเนินการให้ทันเวลา ทั้งนี้เราต้องขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจในประเทศเรา และเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพื่อให้อาเซียนเข้มแข็ง ผมมองอย่างนั้น เพราะฉะนั้นใครที่มีความคิดเห็นอย่างอื่นก็ลองเสนอมา อยากใช้คำว่าไทย+1 หรือประเทศเพื่อนบ้าน+1 คือไทยอะไรทำนองนี้ อันนี้คือหลักการที่ผมได้ให้นโยบายไปแล้วเรื่องนักลงทุนสหรัฐอเมริกานั้น ได้ให้ความสนใจลงทุนในเรื่องของพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ไอที และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางการแพทย์ อีกด้วย อยากให้เราเป็น HUB ในเรื่องนั้นเรื่องนี้ หลาย ๆ เรื่อง เราก็ต้องหารือกันต่อไปว่าจะทำอย่างไรจะเกิดได้อย่างยั่งยืน และก็เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนไทยด้วยเรื่องความสนใจอื่น ๆ เรื่องสำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจดิจิตอลอีโคโนมี และคาดหวังว่าจะได้มาร่วมงานกับไทยในอนาคตอีกด้วยเรื่องต่อไปก็คือ การร่วมงานกับไทยในอนาคตนั้น ทุกสมาคมในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือยุโรป ก็อยากร่วมงานกับไทยโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง และมีแผนในการลงทุน เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างความมั่นใจให้เขาด้วย ถ้าเราขัดแย้งกันอยู่ก็ไม่น่าลงทุน ไม่มีเสถียรภาพเหมือนเดิม ก็ให้นึกถึงประเทศชาติ เศรษฐกิจต้องมาจากใหญ่ลงมาเล็ก ถ้าลงทุนไม่ดี ต่างชาติไม่เชื่อมั่น เราก็ขายของเขาไม่ได้ เขาไม่ลงทุนในประเทศเรา แล้วเศรษฐกิจเราจะดีได้อย่างไร เพราะเชื่อมโยงกันไปหมด ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และประเทศเราส่วนใหญ่ก็เป็นธุรกิจ SME ทั้งสิ้นด้านเศรษฐกิจ ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลายประชาคมก็ดีขึ้น บางประชาคมก็ยังชะลอตัวอยู่ ก็ทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในการส่งออก นี่คือต้องเข้าใจในภาพใหญ่ก่อนว่า ปีนี้อย่างไรก็ตาม เราพยายามจะขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของเราเดินหน้าไปให้ได้ อย่างน้อยก็ในอันดับที่ไม่ให้เกิดความเดือดร้อน ซึ่งโยงไปกับเรื่องกฎหมาย เรื่องพันธสัญญา กติกาต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีการปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลานาน วันนี้เราพยายามไปรื้อทุกอย่าง อาจจะวุ่นวายไป อาจจะได้รับความไม่พอใจบ้าง สำหรับผู้ประกอบการ แต่ผมทำเพื่ออนาคต เพื่อเราจะได้ขายกับเขาได้ต่อไป ไม่อย่างนั้นขายเขาไม่ได้แล้วจะไปขายที่ไหนอยากให้พี่น้องประชาชนทราบว่า สัญญาณการส่งออกของไทยในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 และตลาดอาเซียน ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในส่วนของการท่องเที่ยวไทย แม้ว่าจะดูยังชะลอตัวอยู่ แต่จากข้อมูลยอดของการจองห้องพักล่วงหน้าในห้วงที่ผ่านมา มีการส่งสัญญาณดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คาดว่าในปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทยทั้งปีจะมีจำนวนมากกว่า 25.5 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรปถึง 6.5 ล้านคน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 350000 คน ก็ขอให้พี่น้องชาวไทย ช่วยกันแสดงไมตรีจิตต่อนักท่องเที่ยวให้เขาประทับใจ และกลับมาเที่ยวเมืองไทยหลายๆ ครั้งกันด้วย อย่างเช่น นายทองศิลป์ มีทองแสน โชเฟอร์แท๊กซี่เก็บกระเป๋าเงิน และติดตามคืนให้กับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ซึ่งการกระทำแบบนี้ มีหลายคนด้วยกัน อาจจะกล่าวได้ไม่ครบ มีผลต่อชื่อเสียงของประเทศทั้งสิ้น และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทางอ้อมอีกด้วยผมอยากให้ทุกท่านมั่นใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ทั้งการผลักดันการใช้จ่ายงบประมาณปี 2557 ที่กำลังทยอยลงไปที่ติดขั้นตอนการใช้จ่ายงบประมาณอยู่ ทุกคนทราบอยู่แล้ว ก็เร่งรัดลงไปแล้ว และก็เร่งกระบวนการใช้จ่ายงบปี 2558 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นำเม็ดเงินสู่มือประชาชน สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศหลาย ๆ เรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การส่งเสริมการลงทุน การสร้างแรงงานที่มีทักษะ และที่สำคัญคือต้องเตรียมพร้อมการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม หลายโครงการจะเริ่มลงทุนในปีหน้า ทำให้มีผลต่อการสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชน เม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ช่วงนี้ก็คงเป็นช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป ในไตรมาสที่ 4 แล้วก็ไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวดีขึ้น ช่วงนี้คงต้องระมัดระวัง อดทน แล้วก็ใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คืออยู่อย่างพอเพียง แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องให้มีมากใช้มาก เพื่อจะได้ช่วยกันหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศให้ขับเคลื่อนไปได้ดีขึ้น ช่วยคนจนก็ต้องเสียสละ คนรวยต้องเสียสละกันบ้าง ก็ใช้จ่ายออกมาช่วยคนจนมาก ๆ ขึ้น จะได้ลดความเหลื่อมล้ำ ลดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกันทางรัฐบาลไม่ว่าจะหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของรัฐของเอกชนที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็ได้มีการพบปะหารือ สร้างความมั่นใจกับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ส่วนใหญ่มีความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย และมองว่าไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจในเชิงกลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หรือ emerging marketsผมมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะคลี่คลายในปีหน้า และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังนั้นหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทั้งไทยและต่างประเทศได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมทั้งความร่วมมือร่วมใจซึ่งกันและกันของรัฐ ประชาชนทุกคน หน่วยงานทุกภาคส่วน หากทุกอย่างเป็นปัจจัยบวกแล้วรวมความถึงการมีเสถียรภาพของประเทศของรัฐบาลด้วย เราก็มีโอกาสกลับเข้าสู่ตลาดแข่งขันในเวทีโลกของเรา ซึ่งก็มีอนาคตที่น่าจะสดใสในส่วนของการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ลิตรละ 50 สตางค์ในเดือนนี้ เป็นการปรับขึ้นตามขั้นตอนเพื่อให้เป็นไปตามกลไกตลาดสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป แบบขั้นบันได ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน รัฐบาลก็พยายามให้มีผลกระทบน้อยที่สุดต่อพี่น้องประชาชน คงทราบดีนะครับ ผมก็ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ไปเตรียมมาตรการดูแลผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนผู้ประกอบการการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการผลิตที่ใช้อุปโภคบริโภค อย่าไปขึ้นราคาจนมากจนเกินไป อ้างเหตุผลในเรื่องของการขึ้นราคาพลังงานแล้วไปบวก 5 6 บาท สิบบาทนี่ผมไม่ได้ ให้กระทรวงพาณิชย์ไปกำกับดูแล ไปควบคุมถ้าใครฉวยโอกาสก็ต้องลงโทษตามกฎหมาย ข้าวของทุกอย่างอาจจะแพงมากขึ้น ผมได้ข่าวว่าเรื่องอาหารจานด่วนเพิ่มอีก 10 บาท 15 บาท ผมว่าไม่ใช่ ขึ้นมา 50 สตางค์ไปขึ้น 5 บาท ไม่รู้กี่เปอร์เซ็นต์ ช่วยกันนึกถึงคนอื่นเขาด้วย คนกลางก็อย่าเอาเปรียบคนอื่นเขามากเกินไปยอมเสียสละกำไรลงบ้าง ประชาชนจะได้ไม่เดือดร้อน เพราะเขาเป็นผู้รับผลประโยชน์ ถ้าแพงเขาก็ไม่มีเงินใช้จ่าย เอาขายมากดีกว่า ดีกว่าที่จะไปขายแพง ๆ แล้วขายน้อยคนก็ไม่รับประทาน ขอให้ทุกคนช่วยกันให้ประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน ถ้าใครขายแพงก็อย่าไปรับประทานเขา ก็แค่นั้นเองไปหาร้านดี ๆ ช่วยกันด้วย กระทรวงพาณิชย์ต้องเป็นหลักนะครับการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรนั้น รัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหาให้เกิดความยั่งยืน ก็ได้รับความร่วมมือจากเกษตรกร นายทุน พ่อค้าคนกลาง รัฐ เอกชน ประชาชนทุกภาคส่วน คงต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจและแสวงหาความร่วมมืออีกระยะหนึ่ง ร่วมมือกัน รัฐบาลก็ดำเนินการเพื่อให้แก้ปัญหาในเบื้องต้น ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้ให้เงินช่วยเหลือพี่น้องชาวนา ผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท เป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวนากว่า 165000 ราย ก็จะมีการทยอยจ่ายเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวนาจนครบอันนี้เป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้นเอง เฉพาะปีนี้ ก็ขอให้สบายใจว่า ในส่วนของเงินช่วยชาวนา สวนยางอีกนั้น ก็เป็นการช่วยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เพราะฉะนั้นก็ลด ๆ กันลงไปหน่อย ช่วยกันว่าเรามีมาตรการอย่างไร รัฐว่าอย่างไร ก็ร่วมมือกันท่านก็ต้องอดทนรอเวลา ขณะนี้เราก็พยายามที่จะราคาไปอยู่ทำให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรนั้นสูงขึ้น มีผลมาจากนอกประเทศด้วย เพราะเป็นตลาดส่งออกของเรา ข้าวเราผลิตได้เป็นจำนวนมาก วันนี้เราก็ส่งข้าวออกเป็นลำดับที่ 1 ของโลก ในปีนี้ ตอนนี้ยอดก็สูงแล้วแต่ราคายังไม่สูงมากนัก แต่ก็ต้องพยายามต่อคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาตรการหลาย ๆ อย่างไปแล้ว แล้วขณะนี้ในเรื่องของการช่วยเหลือนั้น ก็กำลังจัดทำทะเบียนผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินให้ถูกต้อง ใครที่ไม่สุจริตก็ต้องถูกลงโทษตามมาตรการทางกฎหมาย เพราะฉะนั้นก็ขอพี่น้องชาวนานั้น ก็อย่าไปฟังคำกล่าวอ้างของใครต่าง ๆ นานา ว่าจะได้เงินก่อนเงินหลังแล้วไปจ่ายเงินให้เขาก่อน แบ่งเงินบางส่วน เหล่านี้ไม่ได้เพราะว่า รัฐบาลตั้งใจให้กับผู้ที่ทำนาจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนาเช่า เช่านาหรือนาตัวเองไม่รู้ ต้องเป็นคนที่รักษาผลประโยชน์ตัวเองอย่าให้คนอื่นเขามาเอาผลประโยชน์เราไป แล้วเราก็ต้องไปเป็นหนี้เป็นสินคนเขาต่อไปไม่ได้ เราไปช่วยเท่านั้นเองในส่วนของการทยอยจ่ายเงินให้กับพี่น้องชาวสวนยาง ก็เร็ว ๆ กำลังดำเนินการอยู่ก็เรื่องทะเบียน เรื่องต่าง ๆ ยังไม่เรียบร้อย มีทั้งในพื้นที่ นอกพื้นที่ ผิดกฎหมาย ถูกกฎหมาย ช้าอย่างนี้เพราะมีการกระทำผิดกฎหมายเสร็จแล้วเราก็ไม่อยากใช้กฎหมายมากจนเกินไป เพราะว่าส่วนใหญ่ก็เดือดร้อนคนจนเดือดร้อน เพราะฉะนั้นใครมีที่ มีทางก็อย่าไปขาย อย่าไปขายต่อ อดทนทำต่อไปเชื่อฟังคำแนะนำของรัฐ เราจะเร่งในเรื่องตรงโน่นถ้ารีบขายที่ ขายทางให้คนอื่นเขาไปหมด เราก็ไม่มีที่ทำกินอีก ก็ต้องไปร้องเรียนหาที่ทำกินแล้วไปบุกรุกป่าคนรวยก็มาซื้อไปอีก นี่เป็นแบบนี้ฉะนั้นในเรื่องของการจัดสรรที่ดินทำกิน การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของพี่น้องเกษตรกร เราสำรวจและพบข้อเท็จจริงว่า 7 ลักษณะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานมา ปัญหาการไร้ที่ดินทำกิน ปัญหาความขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดิน ปัญหาการบุกรุกพื้นที่สงวนของรัฐ ปัญหาการใช้ที่ดินไม่เต็มศักยภาพ ปัญหาการถือครองที่ดินขนาดใหญ่ ปัญหาการกระจายการถือครองที่ดินที่ไม่เป็นธรรม ปัญหาการบริหารจัดการที่ดินปัญหาต่าง ๆ แล้วก็ในเรื่องของการทุจริต แล้วก็นำที่ดินที่ให้ไปแล้วไปขายต่อทำนองนี้ ก็ต้องมีการสอบตรวจทั้งหมดหลาย ๆ อย่าง เป็นปัญหาที่มีความส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ เชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ จำนวนมาก ต้องแก้ไขพร้อม ๆ กัน แก้ด้วยกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งไม่ได้ ประชาชนเดือดร้อน เพราะฉะนั้น ความซับซ้อนดังกล่าวนั้น รัฐบาลก็กำหนดแนวทางแก้ปัญหาแบบบูรณาการ โดยจัดตั้ง คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 เพื่อจะบริหารจัดการปัญหาต่าง ๆ อย่างครบวงจรอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันก็คือ การจัดสรรที่ดินให้กับผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ทำกิน ที่ต้องตรวจสอบ ที่ต้องตรวจสอบก่อนเพื่อความถูกต้องไม่ใช่เป็นการให้เปล่า ไม่ได้ยกให้ใคร ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ เป็นการอนุญาตให้ประกอบอาชีพตามเงื่อนไขที่กำหนดกรรมสิทธิ์ที่ดินยังคงเป็นของรัฐ แล้วที่ดินที่ได้รับการจัดสรรนั้นจะต้องถึงมือประชาชนผู้ที่ไม่มีที่ทำกินมารวมกลุ่มกัน ออกแปลง แล้วก็รัฐก็จะดูแลบางส่วนให้ เพราะฉะนั้นเมื่อผลประโยชน์ออกมาก็แบ่งปันกัน เพราะเราใช้พื้นที่ของหลวงก็เหมือนกับเช่าคล้าย ๆ กันแต่ก็ออกแรงไปด้วย ก็ทำนา ทำไร่ ปลูกพืชสวนไปด้วย ก็เป็นสัดส่วนที่น่าจะพอให้พี่น้องประชาชนที่ไม่มีที่ทำกินพออยู่ได้ อย่างที่กล่าวอ้างกันมาว่า ไม่มีที่ทำกินจะให้ทำอะไรนี่เราเป็นห่วงเรื่องเหล่านี้ ก็ไม่อยากให้ตกถึงมือนายทุน เพราะฉะนั้นใน 50 ปีที่ผ่านมา ผืนป่าเราลดลงจาก 171 ล้านไร่ เหลือเพียง 102 ล้านไร่ จะต้องไม่มีบุกรุกอีก102 นี่ ก็ต้องรักษาไว้ยิ่งชีวิตกัน ทุกคนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่หายไปจะทำอย่างไรก็ไปหามาตรการมา 171 - 102 มีเท่าไรตรงนั้นถูกต้องแค่ไหน ใครบุกรุกก็ไปเคลียร์ทางกฎหมายมา แล้วจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่มีที่ทำกินเขาได้มีที่ทำกินต้องคิดใหม่ทั้งหมด ถ้าใช้กฎหมายอย่างเดียวก็เดินหน้าไปไม่ได้ คนก็ยากจนไปเรื่อย ๆ ที่ก็ไม่มีก็ต้องหาวิธีการใหม่ ๆ มา ก็ให้เวลาเราหน่อย จำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อจะรักษาต้นน้ำ อนุรักษ์ระบบนิเวศให้กับคนรุ่นหลังของคนไทย และเป็นปอดของโลกของอาเซียนด้วย ในลำดับแรกเรื่องพลังงาน การบริหารงานด้านพลังงาน มีอยู่หลายประเด็นซึ่งอาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน ผมก็เรียนว่าอยากจะให้ได้ข้อสรุปสักทีว่าเราจะทำอย่างไร จะเดินหน้าไปอย่างไร เพราะรัฐบาลมีความรับผิดชอบในเรื่องของการจะต้องไม่ให้เกิดวิกฤตพลังงานในอนาคต ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาต้องคิดแบบนี้ รัฐบาลผมก็คิดแบบนี้ว่า ทำอย่างไรเราจะมีความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งมีอยู่หลายลักษณะด้วยกัน ในเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ บางประเทศไม่มีน้ำมันแล้วก็ทำไมมีความมั่นคง เขามีวิธีการอื่น เขามีเศรษฐกิจที่ดี มีเงินมากมาย ประชากรมีรายได้สูงเขาก็ไปซื้อได้ จะแพงเท่าไรเขาก็ซื้อได้ รัฐก็ดูแลน้อย แต่บ้านเราไม่ใช่แบบนั้น ถ้าเศรษฐกิจดี คนดีแล้ว โอเค ทำได้ แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ส่วนใหญ่เราเป็นเกษตรกรรม ในส่วนใหญ่คนมีรายได้น้อยมากมาย เพราะฉะนั้นปัญหาอยู่ที่ ปัญหาการบริหารจัดการและตามกำหนดนโยบายที่จะต้องไม่ขาดความต่อเนื่อง ต้องมีความชัดเจนในเรื่องของการลงทุนเพื่อจะหาแหล่งพลังงานสร้างความเชื่อมั่นให้คนมาลงทุน ไม่ใช่เราก็ไม่มีศักยภาพ เขาก็ไม่มั่นใจในการลงทุนแล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปในวันหน้า ตราบใดที่รายได้ต่อหัวรายได้ GDP ของเราก็ยังต่ำอยู่ขณะนี้ ไม่ได้สูงเท่าเทียมกับประเทศที่มีการกล่าวอ้างเขาไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนเลยจากพลังงาน คนละเรื่องกันสำหรับการบริโภคในประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา 7 ปีนี้ มีความไม่มีเสถียรภาพด้านการเมือง ปัญหาความไม่สมดุลเรื่องสัดส่วนการผลิตและการนำเข้าพลังงานของประเทศ ซึ่งเราต้องนำเข้าพลังงานมากกว่าที่เราผลิตได้เอง มูลค่าการนำเข้าพลังงานทุกประเภทมากกว่า 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี ก็นำมาคิดว่างบประมาณเรามีเท่าไร 2.575 ล้านบาท แต่ละปีนำเข้ามาปีละ 1.4 ล้านล้านเกือบเท่าไรเกือบครึ่งของงบประมาณประเทศ สูญเสียไปก็ต้องระมัดระวัง สำหรับจะไปเทียบกับข้าวเงินจำนวนนี้เท่ากับเราต้องขายข้าวไปถึง 16 ปีถึงจะได้เงินแลกกับเชื้อเพลิงที่เราซื้อมาทุกปี เพราะฉะนั้นก็สนับสนุนให้ทุกคนประหยัด ประหยัดพลังงาน ถ้าถูกมากก็ใช้กันมาก อันนี้ขนาดบ่นว่าแพง ก็ยังใช้กันมากมาย คราวนี้ก็ต้องไปดูเรื่องระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี ต้องไปดูเรื่องการขนส่งมวลชน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รถไฟฟ้า คือเกี่ยวข้องกันไปหมดรัฐบาลเขามองในภาพกว้างทั้งหมดก็ต้องแก้ ๆ สรุปแก้กันทุกวัน จะเสร็จใน 5 วัน 10 วัน หรือ 1 เดือน 2 เดือนไม่ได้ ต้องมีระยะสั้นระยะยาวต่อไป อันนี้ต้องให้เวลาในการแก้ เพราะสิ่งนี่ไม่ได้ทำมาที่ผ่านมากี่ปีมาแล้วไม่ได้ทำให้ชัดเจน การลงทุนก็เกิดขึ้นไม่ได้ รายได้รัฐก็ไม่มีแล้วทุกคนก็ต้องการการบริการสาธารณะที่ดีกว่าเดิม ไปไม่ได้หรอกต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจซึ่งกันละกันก่อน เราสร้างความมีเสถียรภาพ สร้างความน่าอยู่น่าลงทุนให้กับประเทศสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ผลิตคนมาให้รองรับสิ่งที่ตลาดต้องการ แรงงานต้องการทำนองนี้ก็ได้สั่งการไปหมดแล้ว ทุกกระทรวงก็รับนโยบายไปวันนี้ที่บอกว่า นำน้ำมันเข้ามาเป็นน้ำมันดิบ 85% ถ่านหิน ลิกไนต์ 70% ก๊าซธรรมชาติ 20% น้ำมันสำเร็จรูป 10% ไฟฟ้า 4% ไฟฟ้านี้คือซื้อไฟฟ้าเขาเข้ามา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขของสัดส่วนการนำเข้าพลังงานอาจจะบอกว่าก๊าซ 20% แต่ 20% นั้นนำไปใช้อะไรบ้างวันนี้ไปใช้ในสิ่งที่อาจจะไม่จำเป็นหรือราคาบิดเบือนก็ทำให้ใช้มากขึ้น นำไปเผาสร้างโรง สร้างพลังงานไฟฟ้าบ้างอะไรบ้าง ต้องปรับเปลี่ยนทั้งหมดสัดส่วนการใช้พลังงานโรงไฟฟ้าจะต้องมีแก๊ส มีลม มีแสงแดด ตอนนี้ทุกอย่างทำแผนพลังงานใหม่หมดแล้ว ก็ต้องช่วยกันปริมาณก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบันนั้นเราเคยผลิตได้เอง 80% นำเข้า 20% แต่อีก 8 ปีข้างหน้า ถ้าเราไม่มีการลงทุน ผมไม่ได้ความว่าจะไม่มีอะไรเลยเดี๋ยวก็หาขุดหาสำรวจไปก็เจอ แต่ถ้าเราไม่มีการลงทุนล่วงหน้าไม่ทันการไง ถึงว่าจะมีบางบ่อบางแหล่งยังอยู่แต่ก็น้อยลง ๆ แล้วในระหว่างการลงทุนใหม่ยังไม่เกิดแล้วหมดอีกทีจะทำอย่างไร ไม่ได้หมดพร้อมกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี่ 2 กลุ่ม กลุ่ม 1 หมดก่อนก็หาทางสำรวจให้ได้ กลุ่มที่ 2 กำลังใกล้จะหมดไม่กี่ปีแต่ต้องไปดูทั้งหมดจะหมดจากประเทศไทยเมื่อไร ไปหาข้อมูลให้ชัดเจนกันมาและก็ทำความเข้าใจกันด้วย ไม่อย่างนั้นเราต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติ 100% เลย ถ้า 100% เข้ามาราคาก็สูงมากกว่านี้อีก ก็มีผลกระทบไปถึงการประกอบการ การให้การบริการไฟฟ้า ปะปา เพราะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งสิ้น ใช้แก๊ส วันนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนโรงงานไฟฟ้าจากโรงงานใช้แก๊ส สร้างพลังงานไปหมุนมอเตอร์ จุลเลเตอร์อะไรนี่ก็ต้องเปลี่ยนจากก๊าซมาเป็นถ่านหินได้ไหม ถ่านหินก็บอกว่ามีอันตรายก็ต้องไปหาว่าถ่านหินไหนไม่มีอันตรายหรือวิธีการของโรงงานเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือมีตรงไหนที่ไม่ทำให้ลดอันตรายลงไปได้ แต่ถ้าอะไรก็ไม่ได้เลยสักอย่างและผมถามว่าจะนำพลังงานมาจากไหน นำไฟฟ้ามาจากไหน ผมไม่รู้เหมือนกัน ก็คือต้องไปคิดกันมาด้วยสำหรับในการเจาะสำรวจปิโตเลียมนั้น ตามข้อมูลพื้นฐานก็พอมีเหลือ พอทราบได้จากดาวเทียม จากเครื่องมือสำรวจบ้าง จะเจาะไปลึกขนาดไหนไม่รู้ จะเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็ต้องเสี่ยงกันเอาเอง ภาคเอกชนก็ต้องเสี่ยง รัฐก็หาวิธีการที่เหมาะสมว่าจะเสี่ยงด้วยหรือเปล่า ผลประโยชน์จะพอเพียงกันไหมก็ไปว่ากันมา วันนี้ต้องเห็นใจว่ารัฐบาลต้องเดินหน้าเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วย กระทรวงพลังงานเขาก็ต้องรับผิดชอบ วันหน้าเดี๋ยวไม่มีแก๊สก็จะโทษกลับมาที่นี่อีก เพราะฉะนั้นถ้าเกิดขึ้นมาไม่ได้ก็คิดว่าต้องรับผิดชอบด้วยกัน ใครที่ไม่เห็นด้วย ก็กรุณาอาจต้องลงชื่อกันไว้ว่าไม่เห็นด้วย ถ้าเกิดขึ้นไม่ได้ แล้ววันหน้าอีก 10 ปี 8 ปี วันหน้าถ้าเกิดปัญหา ท่านต้องมารับผิดชอบด้วยกับพวกเราด้วยแล้วกัน ได้ไหมในการสำรวจถึงผลิตใช้ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี เพราะต้องเตรียมเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือถึงแม้จะบริษัทเดิมก็ต้องมีค่าเคลื่อนย้ายเครื่องไม้เครื่องมือของเขา หรือหาเครื่องมือใหม่มาหรือเจาะไม่เจอก็ต้องเจาะลึกกว่าเดิม วิธีการใหม่อะไรใหม่ก็ต้องลงทุนใหม่ ไม่ใช่ว่าเอื้อประโยชน์กับใครทั้งสิ้นก็ไปดูสิครับใครที่อยู่ว่าง ๆ ก็เข้ามาทุกบริษัทท่านจะนำใครมาแข่งกับบริษัทที่ทำอยู่แล้วเดิมท่านก็ไปหามา ไปช่วยกันเรียกว่าไม่ใช่ไปผลักเขาออกไปหมดแล้วก็เหลือแต่เหล่านี้มาทำ ไม่ใช่รัฐบาลเปิดฟรีทั้งหมด เพราะฉะนั้นต้องรีบดำเนินการสำรวจ ก็ขอทำความเข้าใจกันให้ดีให้ได้ ก่อนที่ประเทศจะประสบวิกฤตพลังงาน สิ่งสำคัญ ทุกคนต้องเรียนรู้ ต้องตระหนักและต้องตื่นตัว กรณีถ้ามีปัญหาพลังงาน เราจะทำให้ธุรกิจทุกอย่างเดินหน้าไม่ได้หมด ยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ พูดง่าย ๆ ไม่เช่นนั้นลูกหลานไทยจะลำบากในอนาคตเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ในข้อสังเกตของผมเอง ผมก็ได้พูดกับรัฐบาลว่า รัฐธรรมนูญหลายฉบับที่ผ่านมา มักจะร่างขึ้นมาจากเหตุผลหลัก ก็คือเพื่อจะควบคุมกำกับดูแล หรือไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหาร รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง สาระใจความบางครั้งก็เหมือนกับประชาชนมีส่วนร่วมน้อยเกินไป หรือว่ามองไม่ออกประชาชนจะได้ประโยชน์จากตรงไหน เพราะฉะนั้นก็พูดใน ครม.ว่า ช่วยกันดูว่าจะทำอย่างไร เพราะเรามีการตั้งคณะกรรมการติดตามอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ว่าประชาชนมีส่วนร่วมได้ตรงไหน แล้วก็ผลประโยชน์จอยู่กับประชาชนมากหรือน้อยทุกอย่าง ถ้าเรามีศูนย์กลางอยู่ที่ประชาชนทุกงานทุกกระทรวง ประชาชนคือศูนย์กลางจะคิดออกหมด ไม่ใช่นำมาเพื่อความขัดแย้ง ไม่ใช่นำมาเพื่อให้มีการต่อสู้กันอีกในวันหน้า ปัญหาส่วนใหญ่ก็มาจากกฎหมาย มาจากรัฐธรรมนูญ วันนี้ก็ต้องยอมรับกันว่ามันเป็นกติกาก็ต้องเดินกันต่อไปผมไม่อยากให้เกิดการโต้แย้งกันอีกในเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ วันนี้ยังไม่เห็นสักบรรทัดเลย วันนี้ก็มาคาดการณ์อย่างนั้น อย่างนี้ ประชาชนเป็นศูนย์กลางดีกว่า ต่อไปก็จะได้มาดูว่าเราจะทำให้เกิดความเป็นธรรมอย่างไร โปร่งใสอย่างไร มีประสิทธิภาพอย่างไร ย้อนกลับไปที่กระบวนการบริหาร ถ้าปลายทางของรัฐธรรมนูญ ปลายทางของกฎหมาย ดูว่าประชาชนจะเป็นคนได้ ย้อนกลับมากระบวนการจะมาอย่างไร คนใช้อำนาจจะเป็นอย่างไร ผมว่าอย่างนั้นจะดีกว่า อันนี้คือหลักการ จะผิดหรือถูกผมไม่รู้ แต่ผมคิดแบบนี้ ผมไม่ได้ให้ใครมาคิดตามผมด้วย ถ้าใครคิดว่าไม่ใช่ก็บอกมา ฉะนั้นจะต้องไม่ใช้อำนาจในการแสวงหาผลประโยชน์ สร้างความขัดแย้ง ทั้ง 2 ฝ่าย หรือ 3 ฝ่าย ที่ผ่านมาจะด้วยเหตุผลที่ดีหรือไม่ดี ก็กฎหมายว่ามา แต่มีการนำประชาชนบางส่วนให้เกิดความบาดเจ็บสูญเสีย เหล่านี้ไม่ดีไม่ถูกต้องปัจจุบันรัฐบาลได้มีการจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไปแล้ว รัฐบาลและ คสช. ก็จะเร่งผลักดันการจัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่มีอยู่ และก็ได้มีการอนุมัติรายชื่อคณะกรรมาธิการฯ มีการจัดตั้งโดยสภาปฏิรูปฯ ไปเรียบร้อยแล้ว ในการประชุมร่วม ครม. คสช. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น ครั้งที่ 2 ก็ได้พูดคุยหลายเรื่องหลายประเด็นในเรื่องของงานทั้ง 3 งาน เรื่องงานบริหารราชการแผ่นดิน งานปฏิรูป งานรักษาความสงบเรียบร้อย มีหลายเรื่องที่มีการพูดคุยระหว่าง คสช. และ ครม. ก็ไม่ได้ทับซ้อนอำนาจกัน อะไรที่ คสช. ช่วยได้ คสช. ก็จะช่วยเต็มที่ ภายในกรอบของกฎหมายหรืออำนาจที่มีอยู่อย่างถูกต้องและชอบธรรม ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นของ สปช. นั้น ก็คือเป็นกรอบที่ 2 ตามที่กำหนดไว้แล้วเดิม ก็จะมีการตั้งมารับฟังความคิดเห็นอีก และจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ รัฐธรรมนูญนี้ต้องแล้วเสร็จภายใน 120 วัน หลังจากนั้นในระหว่างนี้ก็จะมีการรับฟังมาตลอดทุกช่องทาง แต่ถ้าไปทำที่อื่นมาก็ค่อนข้างจะลำบาก เพราะช่องทางไม่ใช่ ก็พยายามเข้าหาช่องทางแล้วกัน ผมทราบทุกคนมีความคิดเห็น และทุกคนก็มีส่วนเข้าไปเป็น สนช. ก็มี สปช. ก็มี เพราะฉะนั้นไม่สามารถเข้าไปทั้งหมดได้ เมื่อไม่ได้ก็ต้องไปหาช่องทางให้เข้ากับช่องทาง คือถ้าพูดข้างนอกกับข้างในไม่ตรงกันเลย แล้วจะฟังอันไหน พอข้างในตัดสินมาอย่างนี้ ข้างนอกก็ไม่รับอีก ผมว่าท่านต้องไปคุยกันมาให้ได้ เราต้องรวมกันให้ได้ ผมเข้าใจว่าทุกท่านตั้งใจ มีแนวคิดที่ดี ข้อเสนอแนะที่ดี แต่อย่างลืมว่ากรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่จะบอกว่าทำไมไม่ได้เข้ามา มีกฎหมายอยู่ข้อหนึ่งเขียนไว้ว่า ถ้าเป็นการร่างรัฐธรรมนูญ เข้าเล่นการเมืองไม่ได้หรือเข้าสู่การเมืองไม่ได้ 2 ปี เขาถึงไม่เข้ามากัน เขาถึงไปพูดกันอยู่ข้างนอกพอสมควร ก็ไปดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอะไร เป็นเพราะอะไร ผมไม่ได้ไปปิดกั้นใครทั้งสิ้น แต่ต้องการให้เข้ามาทุกพวกทุกฝ่าย แต่เป็นประเด็นของการเมืองต่อไปในอนาคตอีก 2 ปี ผมเข้าใจในเรื่องนี้ก็จะหาทางให้มีส่วนร่วมให้มากที่สุดเรื่องการให้มีส่วนร่วมใน สปช. ก็เรียนไปแล้วว่า รัฐบาลตั้งมีทั้งที่ปรึกษา มีทั้งอีก 2- 3 อัน ตามของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) บ้าง ตามของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ทำไปตามนั้น เดี๋ยวหน่วยงานเขาชี้แจง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงไป มีข้อเสนออะไรก็เสนอมาสำหรับเรื่องการปรองดองสมานฉันท์นั้น ก็มีปัญหาอยู่หลายประการด้วยกัน หลายคนก็เป็นห่วงว่าจะทำได้หรือไม่ได้ เรียนว่ามีคำกล่าวของท่านผู้รู้ชาวต่างประเทศท่านหนึ่ง ผมเรียนท่านก็ได้ ท่าน Tony Blair ได้เคยกล่าวไว้ว่า1.การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสังคมมีความรู้สึกอยากแบ่งปันมากกว่าแบ่งแยก 2. สังคมจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่พูดถึงการปรองดอง ยอมรับความแตกต่างและความไม่พอใจ 3. เราไม่สามารถลบล้างความอยุติธรรมได้ แต่สามารถตั้งกรอบการทำงานที่ทุกคนเห็นว่ายุติธรรมได้ การปรองดองจะเกิดขึ้นต่อเมื่อคุยลึกลงไปในประเด็นความยุติธรรมและความสมดุล 4. การปรองดองจะต้องมาจากประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่ให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้รับความเท่าเทียมไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้งคำว่า ประชาธิปไตยไม่ได้หมายถึงอำนาจของพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ต้องสร้างโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในสังคม ทำให้ระบบกฎหมายมีความน่าเชื่อถือ เป็นธรรม เพื่อให้คนในสังคมยอมรับการบังคับใช้กฎหมายนั้น การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ เมื่อการเมืองสามารถนำมาซึ่งนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง มีความโปร่งใส และระบบธรรมาภิบาลของรัฐบาลที่ขึ้นมาบริหารประเทศ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และนำไปสู่ความปรองดองได้ง่ายขึ้น5. การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้ารัฐบาลมีประสิทธิภาพในการดูแลประชาชน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทำให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้น ให้เขามีความเป็นอยู่ดีขึ้นก็ขอให้ทุกท่านได้นำไปพิจารณา ไตร่ตรอง ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เราจะทำอย่างไร นี้เป็นชาวต่างประเทศพูด และเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่ยอมรับกันทั้งโลก เขาพูดมาแบบนี้ ผมคิดว่าก็น่าคิด น่าจะนำมาเป็นวิธีการส่วนหนึ่งในการทำงานของเรา แต่ก็ต้องปรับให้ตรงกับบ้านเมืองของเราด้วย แต่ผมคิดว่าก็ถูกต้องทั้งหมด จะทำให้ได้ก็แล้วกัน วันนี้พยายามทำทุกอัน เพราะฉะนั้นเราต้องให้เกิดความสมานฉันท์อย่างยั่งยืน ไม่ใช่เฉพาะตอนนี้หรือนำเรื่องปรองดองกับเรื่องผิดกฎหมาย เรื่องคดีความ ปนกันไปหมด ก็แกะอะไรกันไม่ออกสักเรื่อง กฎหมายก็ให้กฎหมายเขาทำงานกันไป ปรองดองก็ต้องเดินหน้าสร้างสังคมปรองดองกันให้ได้ รัฐบาลก็ขับเคลื่อนประเทศ แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง จิตวิทยา และก็เตรียมการเลือกตั้งให้ได้ ตอนนี้ปัญหาเรื่องกฎหมาย เรื่องความผิด ความถูก ตีกันอยู่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ประเทศชาติสำคัญกว่า สำคัญที่สุด คนผิดก็ไปสู้คดีกันมา ก็ตัดสินออกมาแล้วกัน ตามกฎหมายเขาว่าอย่างไร ก็ฟังเหตุฟังผลกัน แต่ถ้าทะเลาะกันเรื่องความผิดตรงนี้ แล้วบอกว่ารัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนี้ รัฐบาลก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ก็ทำเพื่อช่วย 2 กลุ่ม 3 กลุ่มนี้หรือเปล่า ขับเคลื่อนอะไรก็ไม่ต้องขับเคลื่อน เศรษฐกิจก็ปล่อยเป็นอย่างนี้ คนไม่มีอะไรกินก็ช่างเขา หรืออย่างไรผมไม่เข้าใจ ผมถามท่านก็แล้วกันเพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำมาหลายเรื่อง ที่ดำเนินการไปแล้วเป็นรูปธรรม ท่านไปดูว่าทำอะไร ช่วยเหลือเกษตรกร บรรเทาภาระเบื้องต้น ข้าว ยางพารา อ้อย ลดต้นทุนการผลิต ก็เริ่มต้นทำให้ บริหารจัดการเรื่องราคา จัดหาตลาด พบปะทุกประเทศ พูดหมดในประชาคมโลกการจัดระเบียบสังคม การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว การจดทะเบียน – จัดระเบียบคิวรถตู้ วินมอร์เตอร์ไซค์ จัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ชายหาด สถานที่บริการ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เพื่อให้ประเทศเราน่าท่องเที่ยว เกิดความไว้วางใจ การปราบปรามผู้ใช้อาวุธสงครามผู้มีอิทธิพล ซึ่งตำรวจกำลังส่งฟ้องอยู่ ตั้งหลายคน คดีทั้งหมด ก็นำเข้าสู่ระบบทั้งหมด ไม่ต้องกลัว ก็สอบสวนไป ก็สู้คดีกันไป ผมก็ไปเร่งรัดอะไรไม่ได้ เป็นเรื่องของกฎหมาย ใครทำให้เดือดร้อนมากหรือรุนแรงมาก เขาก็ต้องพิจารณาก่อน ผมว่า หลักการเขาว่าอย่างไรการปล่อยเงินกู้นอกระบบ เรากำลังคิดอยู่ว่าจะลดหนี้ภาคประชาชนอย่างไร หนี้ครัวเรือนอย่างไร ไม่ใช่แก้กันง่าย ๆ สะสมมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้มันลงมาที่นี้หมด ก็ต้องแก้ให้ได้เหมือนกัน แต่ต้องใช้เวลาในระยะยาว วันนี้ก็พยายามจะออกกฎหมาย เพื่อให้คุ้มครองทั้งเจ้าหนี้ – ลูกหนี้ มากมายซับซ้อนเรื่องการผลักดันการใช้งบประมาณปี 2557 เรียนไปแล้ว และการจัดทำงบประมาณปี 2558 ที่ติดขัดอยู่ ทั้งหมดทำเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่การคาดเดาการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบต่าง ๆ อีกมากมาย ปลายปีนี้จะออกไปทั้งหมด ในไตรมาสสุดท้าย และไตรมาสหนึ่งของต้นปีหน้า จะได้เดินไปได้ เพราะฉะนั้นเหลือเวลาอีกประมาณเดือนหนึ่ง ทุกคนก็ต้องเตรียมการอะไรให้เรียบร้อย แผนงาน โครงการ ผมติดตามจากทุกกระทรวง เขาก็พร้อมอยู่แล้ว ฉะนั้นเงินก็ต้องใช้ระบบการโอน การเบิกจ่ายไปตามขั้นตอนระเบียบราชการ ไม่ใช่ควักกระเป๋าซ้ายจ่ายกระเป๋าขวา วันนี้พรุ่งนี้ใช้ได้ ไม่ใช่ ต้องตรวจสอบอีกอะไรอีก ผมว่าอีกเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็ลงไปหมดแล้วในไตรมาสสุดท้าย ไตรมาสที่หนึ่งเตรียมการไว้แล้วปัญหาทางการเมือง ไม่น่าจะเกิด ขอร้องพวกเรา ถ้ายังต่อสู้กันเรื่องนี้แล้ว ทำให้บ้านเมืองไปไม่ได้ เราพยายามทำทุกอย่างให้บ้านเมืองสงบ แต่ก็มีคนที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ โดยการนำเรื่องนี้มาปนเรื่องนี้ต่าง ๆ ประชาชนที่เหลือก็แบ่งแยกเอาแล้วกัน ผมเรียนไปแล้วว่าต้องมีสติในการรับรู้รับทราบ แล้วเราก็ออกมาเคลื่อนไหวกันอะไรกัน ทำไม่ได้ก็ต้องกลับไปปัญหาเดิมอีกการส่งเสริมการลงทุน BOI ต่าง ๆ อนุมัติไปแล้วกว่า 100 โครงการ ก็เร่งอนุมัติไป เป็นการลงทุนของต่างประเทศ และในประเทศที่จะขยายกิจการด้วย ทั้งในประเทศไปลงทุนที่ประเทศเพื่อนบ้านด้วย ไม่ใช่เงินของรัฐบาลทั้งสิ้น เราเพียงแต่อนุมัติสิทธิประโยชน์ เขามีการปรับปรุงทุกอย่าง เพื่อจะสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้คนของเราเข้มแข็งไปข้างนอก บอกแล้วไทย+1 อาเซียน+1 มาที่ไทยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็มีไปแล้ว ใช้เวลาทั้งสิ้น การเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศและประชาคมโลก วันนี้กระทรวงการต่างประเทศต้องทำทั้ง 2 หน้าที่คือ ทางด้านพาณิชย์ด้วยคือ ทำอย่างไรให้เข้าใจราคาสินค้าเกษตร การลงทุนต่าง ๆ ผมให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นมิติใหม่ทั้งหมด นอกจากความสัมพันธ์อย่างเดียวในเรื่องของการรณรงค์สร้างความปรองดอง เราได้มีการจัดตั้ง อีกอย่างคือถือในเรื่องของการรณรงค์สร้างความปรองดอง ก็คงมี กอ.รมน. เป็นหลัก และ คสช. ก็จะรับหน้าที่ไปร่วมกับหน่วยงานพลเรือน ตำรวจ ทหาร และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) องค์กรต่าง ๆ ที่จัดตั้งของแต่ละกระทรวง ไปช่วยกันด้วยแล้วกัน ครู อาจารย์ บางทีผมเห็นใน Social Media เขาเขียนมาว่า ครูโรงเรียนนั้น โรงเรียนนี้ก็ยังพูดเรื่องการเมืองที่ไม่ค่อยน่ารัก ฝากไว้ด้วยแล้วกัน คนดีเขามีมากมาย เขาต้องการให้ประเทศชาติไปข้างหน้าในเรื่องของต่างประเทศ ได้จัดตั้งศูนย์ความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนของประเทศไทยในต่างประเทศด้วย AEC Business Support Center ผมได้สั่งการไปแล้ว และได้ดำเนินการไปแล้วโดยกระทรวงการต่างประเทศ ท่านรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแล เช่น สถานทูตไทยในเมียนมาร์และกัมพูชา เป็นที่พบปะ พูดคุย เจรจาธุรกิจของภาคเอกชนไทยและภาคเอกชนต่างชาติที่สนใจทำธุรกิจกับไทย กับคนไทย นอกจากนั้น สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยทั้ง 96 แห่งทั่วโลก กำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้ง มุมประเทศไทย (Thai Corner) เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทย จัดแสดงสินค้าไทย สินค้า OTOP สินค้าศิลปาชีพในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ เอกสารเผยแพร่ข้อมูลด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งช็อปปิ้งวัฒนธรรม และโอกาสลู่ทางการค้าการลงทุนการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด วันนี้มีประชาชนมาใช้บริการกว่า 2 แสนรายการ รวมทั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1111 ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสิ่งที่จะเดินเนินการต่อไปในขณะนี้คือ การเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ การขับเคลื่อนการใช้จ่ายงบประมาณปี 2558 ให้ใช้ได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก การเสริมสร้างความปรองดอง การส่งเสริมการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ คู่ขนานไปกับการทำงานของ สปช. การพัฒนา ปรับปรุง แก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับพันธสัญญา และความจำเป็น และมีความทันสมัย การดำเนินการทุกมิติให้อยู่ในกรอบ Road Map ที่ คสช. ได้กำหนดไว้ การเร่งแก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามกรอบการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น การจัดตั้งหมู่บ้านเสริมความมั่นคง 162 หมู่บ้าน การจัดตั้งชุดคุ้มครองตำบลและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน รับผิดชอบเส้นทาง ดูแลครู โรงเรียน พร้อมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในหมู่บ้าน และการจัดตั้งศูนย์วิทยุระดับตำบล สิ่งนี้เป็นเรื่องของการเฝ้าระวัง การรักษาความปลอดภัย เพราะเราไม่ได้ไปทำร้ายใคร เราไปดูแลคนบริสุทธิ์ แต่มีผู้ที่ทำผิดกฎหมายอาญา มาทำร้าย มาฆ่าคนอยู่แบบนี้ จะให้ทำอย่างไร ก็ต้องมีกำลังไปดูแล จัดตั้งอาสาสมัคร (อส.) อะไรเพิ่มเติม เพราะกำลังเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบ เมื่อทหารทั้งหมดที่อยู่นอกพื้นที่ถอนกำลังกลับ มีศูนย์วิทยุระดับตำบล เพิ่มเติมให้การรายงานเหตุการณ์ให้เร็วขึ้น มีการประสาน มีการบูรณาการระดับพื้นที่ขณะนี้ผมได้สั่งการตั้งผู้ขับเคลื่อนบูรณาการในระดับพื้นที่ขึ้นมาอีก ให้ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีช่วยฯ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) รับไปแล้ว ไปแก้ว่าจะทำอย่างไร นำพลตำรวจ ทหารมาขับเคลื่อนงานทุกกระทรวงที่ผมสั่งลงไปแล้ว ทุกกระทรวงเมื่อรับไปแล้วก็มีแท่งของตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องไปขับเคลื่อนข้างล่างด้วย วันนี้ข้างบนมีแล้ว ข้างล่างจะทำอย่างไร ก็ไปผลักดันให้ลงในพื้นที่ที่ต้องการ พื้นที่ที่มีปัญหา จะได้เกิด Impact ออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็กระจายหมด ก็ไม่ได้เรื่องอีกเหมือนเดิม เร่งไปแล้ว เมื่อวันที่ผ่านมาก็ได้พูดกับรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว ท่านก็ดีใจมากที่จะได้มีคนไปช่วยกันขับเคลื่อนใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในอำเภอ จังหวัดต่าง ๆ ผมจะเน้นบทบาทภาคใต้ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) อำเภอ นายอำเภอเป็นหลัก ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ก็สนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลทั้งในหน้าที่ อะไรก็แล้วแต่ให้เข้มแข็งขึ้นโดยเร็ว เพิ่มศักยภาพให้ได้ในเรื่องของการส่งเสริมบทบาทไทยในเวทีประชาคมอาเซียน หลายเรื่อง การพูดคุยสันติภาพอะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องดำเนินการต่อไป นี้ก็มีแผนจะไปเยี่ยมเยือนประเทศเพื่อนบ้านในเร็ว ๆ นี้ คงมีการพูดคุยก็เป็นการเดิน Track คู่กันไปกับการพัฒนา กับการรักษาความปลอดภัย การสร้างความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์ เราต่างมีคำถามทั้งหมด ทำให้เกิดผลงานได้โดยเร็ว สงสารพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน บาดเจ็บ สูญเสีย เจ้าหน้าที่ก็สูญเสีย เพราะว่ามีคนที่ไม่เข้าใจอยู่ ก็ต้องไปทำอย่างไรให้เขาเข้าใจ มาพูดกันคุยกันให้รู้เรื่อง คนไทยด้วยกันทั้งนั้นขอขอบคุณ ประชาชน ส่วนราชการ ภาคธุรกิจเอกชน สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันในการขับเคลื่อนประเทศ ขอให้ท่านร่วมกัน ทุ่มเท วางรากฐานต่าง ๆ ให้มั่นคง สร้างความรักความสามัคคี ทั้งในชุมชน ในขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ให้เรียบร้อย เราจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปเมื่อวานนั้น วันลอยกระทง ผมได้เห็นเด็ก ๆ ใส่ชุดไทยไปโรงเรียนกัน เห็นแล้วก็น่ารัก ก็อดอมยิ้มไม่ได้เหมือนกัน ชอบเห็นคนไทยแต่งตัวแบบนั้น ไม่ใช่ว่าผมโบราณ แต่บางเวลาบางครั้งก็แต่งบ้างไม่เป็นไร จะแต่งสมัยใหม่ผมก็ไม่ได้ไปขัดแย้งกับท่าน บางวันก็ต้องแต่งให้เหมาะสม งานวัฒนธรรมก็แต่งให้เรียบร้อยเป็นไทย ๆ คนเขาชอบมาเที่ยว วันอื่น ๆ ท่านอยากจะแต่งอะไรก็แต่งไป อย่าให้ประเจิดประเจ้อก็แล้วกันในส่วนของนักกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนให้มีการแข่งขัน แล้วได้จัดหางบประมาณให้ เมื่อวานก็มีมาพบปะพูดคุยกัน ผมก็ให้กำลังใจไปแล้ว จะกำลังจะเริ่มแข่งขันที่ภูเก็ต ในวันศุกร์หน้า ก็ขอเป็นกำลังใจ ขอให้พี่น้องประชาชนส่งกำลังใจไปเชียร์นักกีฬาด้วย ทุกคนมีความตั้งใจ เรื่องจักรยานก็เหมือนกันเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ก็ขอให้ใช้กันต่อไป วันนี้ก็เร่งรัดในเรื่องของการทำเส้นทางจักรยานเพิ่ม มีการจัดทำขบวนจักรยานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ใกล้ ๆ อย่างน้อยก็จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเรื่องขยะ เหมือนกัน ขยะก็มีหลายประเภท อันตราย จะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ก็ต้องสิ้นเปลืองค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ อีกมากมาย เดือดร้อนไปหมด เพราะฉะนั้นขยะ ถ้ากำจัดไม่ได้ แยกขยะไม่ได้ ขนย้ายไม่ได้ แล้วก็ไปเผาหรือฝังกลบ หรือจะทำโรงขยะ โรงไฟฟ้าขยะไม่ได้ แล้วขยะจะไปไหน ก็จะกองสุมไปเรื่อย ๆ 7 แสนตัน ปีหนึ่ง วันนี้ก็สะสมเป็นกองหนาอยู่ที่หลาย ๆ จังหวัด ทุกจังหวัดมีหมดขยะใหญ่ ๆ ลองดูตัวอย่างต่างประเทศที่ดูในโทรทัศน์ ผมพูดประเทศก็ได้ ประเทศเกาหลีใต้ เขามีกองขยะมหาศาลสูงท่วมหัวเป็นภูเขาเหล่ากาเลย เมื่อไม่กีปีมานี้ แล้วเขาใช้วิธีการ ควรไปดูเขาเหมือนกันว่าเขาทำอย่างไร แล้วปรากฎว่าวันนี้บนนั้นเป็นภูเขามีต้นไม้ขึ้น มีสถานที่ท่องเที่ยว มีลานตากอากาศ มีที่มากางเต้นท์ มีที่ทำอาหาร ครอบครัวมาเป็นที่ในเมือง ในกรุงโซลทำไมเขาทำได้ ผมว่าต้องมาจากความร่วมมือร่วมใจกัน ถ้าทุกคนยังคงถือของตัวเองว่า อันนี้ใช่ อันนี้ไม่ใช่ มาตลอดไม่ได้ ต้องหาตรงกลางให้เจอ แล้วพอรับกันได้ อันนี้พอเห็นต่างกันแล้วก็ขัดแย้งกันหมดเลย จะให้นำอันนี้ คนนี้ก็จะเอาอันนี้ ไม่มีทางจะหากันอย่างนี้ได้เลย ผมก็ฝากถามท่านไปเลยแล้วกันทุกคน แล้วคนไทยทุกคนที่เหลืออยู่ ที่ไม่ได้อยู่ในท่ามกลางความขัดแย้ง เขาจะอยู่ตรงไหน นึกถึงเขาหรือเปล่า เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ตามไม่ว่าจะฝ่ายการเมือง ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายอะไรก็แล้วแต่ ทั้งหมด ถ้าเราคิดว่าประชาชนเป็นศูนย์กลางจะหาคำตอบได้ทั้งหมด ว่าท่านจะทำอย่างไรกันต่อไปในวันนี้วันหน้า ผมก็ทำเต็มที่แล้ว ก็ยังมีกำลังใจที่จะทำอยู่จากพ่อแม่พี่น้องที่ให้ผมมา ก็ทำเต็มที่ เพราะว่าเป็นอนาคตของประเทศชาติ ก็ให้กำลังใจกับรัฐบาลกับรัฐมนตรีทุกรัฐมนตรีด้วย การว่ากล่าวให้ร้ายตาม Social Media ผมเห็นหมด ก็มีการตรวจสอบอยู่แล้ว อย่ากังวล ก็แจ้งมาได้ ใครผิดใครถูก แจ้งมาอย่าเขียนจนเสียหาย อย่างนี้ไม่ได้เขาไม่มีโอกาสแก้ตัว บอกผมมาส่งรายละเอียดมาให้ชัดเจน ผมจะได้สอบสวนดำเนินคดี แค่นั้นเองจะยากตรงไหน แต่จะเขียน Social Media นี้ไม่ได้ ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทุกคนก็อาสาสมัครกันเข้ามาทั้งนั้น แต่ทั้งนี้อยู่ที่ขั้นตอนกระบวนการที่คนหลาย ๆ คนที่ต้องทำอะไรนี้ เขาซื่อสัตย์ไหม เราต้องสร้างให้เขาเข้มแข็ง วันนี้เราต้องสร้างข้าราชการให้เข้มแข็ง คนไม่ดีจะได้อยู่ไม่ได้ ผมจะรู้ได้ไหม นี้ดีไม่ดี ข้าราชการตั้งกี่แสนกี่ล้านคน ก็ต้องใช้ระบบในการคัดกรอง ไปว่ากันมาให้ได้ คนดีก็ต้องอย่าให้คนไม่ดีเข้ามา แต่อย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกัน ขอบคุณ สวัสดีครับ
ประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมประมงสมัยใหม่ของไมยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ตามแผนพ้ฒนาเษรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรกมี่มีนโยบรยด้านการประมฝ รัฐบาลไทยได้เน้นการเพิ่สผลผลเคปริมาณสัตว์น้ำให้เพียงพอต่อคสามต้องการของปรพชาชนภายในประเทศ โดยระบุบ่าเป็นแำล่งอาหารโปรตีนราคาถูก มีการใ่งเสริม อร่งรัดการเำิ่มผลผลิตปริมาณสัตว์น้ำ รัฐบาลไทยยัฝได้รัวความร่วมมือแลุสนับสนุนทางวิชาการตากสาธารณรัฐเสอรมัน และในช่วงนั้นได้ทีการนำเอาเครื่องมืออวนลากแผ้นตะเข้ (Otter boatd trawls) เข้ามาใช้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฎิบุติอุตสาหกรรมประมงของไทยเลยทีเดียวรวมทั้งมีการค้นพบแหล่งาำการประมงทเเลใหม่ ๆ มนน่านน้ำนอกอาณาเขตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 เป็นต้นใา ำ่อให้เกเดการขยายตัวด้านการลงทุนทำการประมงทะเลในภาคเอกชน เปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพและต้องใช้แรงงานคน มาเป็นการประมงพาณิชย์ที่ลงทุนสูง ใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ทันสมัยวนการค้นหาฝูงหลาและขับสัตว์น้ำทะเล ส่งผลมห้เรือประมงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งขนาดและกำลังแรงม้าของเครื่องยนต์ สามารถอดกทำการประมงทะเลห่าวจากฝั่งและน่านน้ำของแระเทศิพื่อนบ้านเพิ่มมรกขึ้น จนประเทศ_ทยติดหนึีงในสิบของประเทศที่มีผลผลเตด้าตกทรประมงสูงสุดของโลกตั้งแต่ปี พ.ศฐ 2515 เป็นต้นมาในอดคต แรงงานที่เข้ามาทำงานประมงทะเลส่วนสหญ่ เป็นแรงงานในท้องถิ่นที่ว่างจากฤเูกาลทำงานใน_นคเพษตรกรรม แต่เนื่อง จากาภาพการทำฝานหนักและเสี่ยงอันตราย ต่อมาจึงไม่เป็นที่นิยมของแรงงานในทิองถิ่น เกิดการขาดแคลนแรงงานใส้ขตที่มีการทำประมงอย่างหนัก ส่งผลกระทบถึงอุตใาหกรรมประมงและต่อเนื่อลประมงทั้งระบบ ผู้ประกอบการต่างแก้ไขปัญหาด้วสการหทแรงงานนอก่้อฝถิ่นเข้ามาทดแทน ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่มาจากภาคอีสาน เพราะสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย มีควาทขยัน อดทน กลาวเป็นแตงงานที่มีความสำคัญต่อการทำประมงทะเลของไ่ยปค พ.ศ. 2533 พายุ้กย์ได้สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรนมปตะมงของไทยเป็นอย่างยิ่ง ลํกเรือประมงที่เสียชีวิตส่วตใหญ่เป็จลูกเรือปรดทงอีสาน ทำให้ขาวอรสานมีทัศาคติที่ไม่ดีต่ออาชีพลูกเรือประมง ประกอบกับการพัฒตาเศรษฐกิยอุตสาหกรรมและบริการภายในประเทศ ทำให้คนไทยมีทางเลือกในการประกอบอาชีพหลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้แรงงานประมงอีสสนเติ่มลดลง จนเกิดความขาดแคลนแรงงานประมงไทยสนกิจการประมงทะเลในอวชาต่อมาจากปัญหาการขากแคลสแรงงานประมงไทยในกิจการประมงทะเล ผู้ปคะกอบการจึงต้องใช้แรงงานจากประเ่ญเพื่อนบ้รนเข้ามาทดแาน โดยมีแรงงานย้ามชาติสัญชาติพม่าอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในกิจการประมงทะเลของไทยมากที่สุเ กลายเป็นกลุ่มแรงงานประมงข้ามชาติ ที่มีตวามสำคัฐต่อระบบเศรษฐกิจการประมงทะเลของไทยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งค่าจ้างกรงงานราคาภูพ มีความขยัน อกทน ดละใช้ชีวิตัรียบง่าย สามารถเขีามาทดแทนแรงงานประมงไทยได้เป็นอย่างดีนอกจากาี้ ระฐไดิเปืดฌอกาสให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติมาขึ่นทะิบียนัป็นผู้ใชืแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 กซค. 2547 ซึ่งการประกาศใช้กฎระเบียบเังกล่าวจะเอื้อประฑยชส์ให้กลึ่มผู้ใช้แรงงานข้ามชาติ ตัวอยีางเช่น ไดเมีโอกาสรับสิทธิต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาทำงานในประเทศหทย รวมทั้งมีสภาพความเก็นอยู่ตางตามมาตรฐานที่รัฐได้กภหนดไฝ้ แต่การขึ้นทะเบียนยังมีข้อพ้อยบางประการ กล่าวคือค่าธรรมเนียมในการขึ้นทะเบียนคือนข้างสูง ส่งผลใหิภาคส่วนการผลิตที่ม้ความจำเป็นต้องใช้กลุ่มแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพนะอย่างยิ่งการประมงนอกน่านน้ำพากันเพิกเฉยต่อการนำบรรดาลูกจ้างข้ามชาติม่จึ้นทะเบียน นอกจากนี้ยังปร่กฏว่ามีการละิมิดใิทธิแรวงานและสิทธิมนุษยชนต่อแรงงานข้่มชทติอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมนี้อีแด้วยจากการประมาณการโดยส่วนเศรษฐกิจกสรประมง กรมประมง ระบุว่าอุนสาหแรีมเร่อประมงนั้นตันทุนหลักก็คือ น้ไมัน ซึ่งมีสัดส่วนต้นทุนเป็นค่าน้ำมันเบื้ิเพลิงสูงระหว่างร้อยละ 24-64 ของต้นทะนทั้งหมด เรือประมงที่ทำประมงเชิงพาณิลย์เป็นกละ่มเรือผระมงทีาใช้น้ำมันในการืหประมงค่อยข้างมาก โดยเฉถาะอย่างยิ่งกรรทำกระมงอวนลาห อวนรุน และอวสล้อมจับ ซึ่งประมงอวนลากแบ่วออกำด้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ อวนลากแผ่นตะเข้ และอวนลากคู่ ซึ่งในอดีตก่อนมีการ้ข้มงวดในอุตสาหกรรมประมงของไทยตัเงแต่ปี 2558 โดยก่แนหน้านั้นแารทำปคะมงอวนลากแผ่นตะเข้ อป็นประเภทเครื่องมือประมงที่มีจำนวนมาำมี่สุดในน่านน้ำไทย มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจามขนาดของเนืเประมล สัดว่วนค่าน้ำมัสเชื้อเพลิงในการทำการประมงประเภทนี้อยู่ระหว่างร้อยละ 56.5 – 31.3 ของต้นทุนทั้งหมด ในขณะที่เรืออวนลมกร๔่ซึ่งใช้เรือสองฃำทำการประมง มีสัดส่วนค่าน้ำมันอยู่ระหว่าบร้อยลเ 50.8 – 56.7 สำหรับการทำประมงอวนรุตได้มีการพัฒนาปรับปรุงทั้งขนาดและประสิทธิภาพในการจับสัตว์น้กทำใป้ใช้น้ำมันค่อาข้างมาก สัดส่วนค่าน้ำมันอยู่ระหว่าฝร้อยละ 51.6 – 65.9 ของต้นทุนืั้งหมด นืวนอวนล้อมจับเป็นการทำประมงที่วช้น้ำมีนโดยเฉลี่ยน้อยกว่าเคีื่อลมือชนิพอื่นที่มีขนาดเดียวกัน สัดส่วนคราน้ำมะนเชื้อเพลิงคิดเป็นรดหบ่าฝร้อยละ 24.8 – 29.6 ของต้นทุนทั้งหมด การทำประมงชนเดนี้ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างแรงงสนลูกเ่ือประมงซึ่งอยู่ระหว่างร้อยละ 37.8 – 35.5 ของต้นทุนทั้งหมดบ่อยครั้ง ที่เราได้ยินข่ายคราวการหลอกคนต่มงด้างไปขึ้นเรือประมงด้วยวิธีปารต่าง ๆ นานา เพราะกาาจ้างดรงงานข้ามชาติแบบถูกกฎหมายนั้นผู้ประกอบการมักจะมองว่าใช้ตัตทุนมากเกินไปผู้ประกอบการเรือประมงบนงราย จึงหันาสแสวงหาประโยชน์กับแรงงานเป้าำมายกลุ่มใหม่ ซึ่งจากเดิมเคยเป็นแรงงานข้ามชาติและดรงงานสมัครใจเพียงกลุ่มเดียว ไปสู่กลุ่มผู้ชายทั่วไปโดยหม่คำนังว่าจะสมัครใจหรือไม่ ไม่สนใจเรื่องอายุเฉฃี่ยของแรงงาน หนำซ้ำไปกว่านััน ยังมีการเสาะหรแรงวานที่มีปัญหาทางจิตหรือเป็นคนเร่ร่อน เพื่อนำไปทำงานบนเรือประมงอีกด้วย ทั้งนรัวิธีการแสวงหาดรงฝานแบบผิดกฎหมายและเบ้าข่าย การค้ามนุษย์ นี้ก็ได้แก่ การสร้าง้ครือข่นยกับกละ่มคนในสายอาชีพต่าง ๆ ให้เปํนนายหน้า เช่น อดีตลูกเรือประมงด้วยกันเอง ตนในไมู่บ้าน คนขับระแท็กซี่ คนขับรถมอเตเร์ไซค์รับจ้าง ฯลฯ โดยกลุ่มบุรีลดับกล่าวมีำลากหลายเทคนิควิธีการ เชทน กานรับปากด้านรายได้เกินจรอง หรือทำทีเข้ามาสนทนาดพ้่อตีสนิท ล่อลวงผู้เสียหายด้วยการใส่ยาสลบในอาหารดละน้ำดื่ม หรือใช้อาวุโข่าขู่ เปํนต้น จากนั้นก็จะนำตัวไปกักขังเพื่อรอกรรขายต่อให้ผู้ประกอบกนรเรือประมง โดยค่าจอบแทนที่นายหน้าจะได้รับแต่ละครั้ง คือหลักพันถึงฟลักหมื่นบาทต่อผู้ใช้แรงงานฟจึ่งคน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการก็มักจะหึกค่านายหน้านี้จากค่สแรงของแรงงนนประมงเหลาานั้น หรือบางครั้งไม่มีการจ่ายค่าแรงให้กับคนงานที่ถูกหลอกมาเลย การใช้แรงงานจากปารค้ามนุษย๋บนเรือประมงนี้ส่วนใก๗่ ยะนำออกไปจับยัตว์นืำในน่านน้ำตทางประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือไกลกว่านั้น เป็นตะยะเวลาหลายปี นอกจากนี้ยังพบผํ้เใียหายบางคนถูกขายต่อให้กับเรือประมงลำอื่น หร้อบางคนก็ถูกทิืงไว้ตามเกาุต่าง ๆ ด้วยMichael Largo นัปเขับนผู้รบบรวมยถิติกสรตายของคนอเสริกัต ระบุว่าเรือป่ะมงมีอัตราแารตายใูงกวีาพิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ คร่ทชีวิตคนอย้างน้อยวันละ 70 คนในสหรัฐ๖ ทั้งจี้ชาวประมงเสียชียิตมากกว่าคนในอาชีพอ้่น ๆ 20-w5 เท่าตัว ข้อม๔ลนี้ชี้สห้เห็นว่าแุตนาหกรรมประมงนั้นมีความอันตรายมากเพียงใด เพราะแม้แต่ในสหรัฐอเมริกาทีามีมาตรฐานความปลอดภ้ยในการาำประมงสูงสุดประเทศหนึ่ง ก็ยังมีีวามสูญเสียมากกว่าคนทำงานในอุตสาหกรรมอื่น ๆสพหรับประิทศไทยนั้น ในเดือน พ.ค. 2559 ศูนย์วิจ้ยการย้ายถิ่น สถสบันเอเขียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผยข้อท๔ลที่ทำการรวงรวมร่วมกับแงค์การแรงงานระปว่างประเทศ (ILOฉ ดละมูลนิธิะครือข่ายวางเสริมคุณภ่ถชีวิตแรงงาน (LPN) สำรวจข้อมูลสถานการณ์แรงงานภาคประมงทุ้งไทยและแรงงานข้ามชาติ ตามตัวชี้วัดด้านแรงงานบังคับของ ILO โดยสำรวจแตงงาน่ั้งหมเ 596 ีนในจังหวัดสมุทรสาคร สงขลา ระนอง และระยอง พบว่าแางงานร้อยละ 66.9 ต้องทำงาจติดต่อกันนานกว่า 17-24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนล่วงเวลาและการชดเชยวันหวุด อีกทั้งยังพบกาตถูกละเมิดสืทธิเนื่องจากไม่มีเอกสารประจำตัว หรือถูกยึดเอกสารโดยนายจ้นง และนานจ่างไม่พาไปจดทะเบีสย ร้อสละ 72.1 พลสภาพการทำงานแลพความเป็นอยู่เลวร้าย น้ำดื่มและแาหรรไม่เพียงพอ ร้อยละ 31.6 ค้างจ่ายค่าจ้างร้อยละ 27.6นอกจากนี้ เมื่อเด้อน มี.ค. 2558 ก็มีกรณีพบคุกกักขังแคงงนนและหลุมฝังศพจำสวนมาก บตเกาะต่าง ๆ ตามหมู่บ้านประมงในเขคท่่เรือยองเมืองอัมบน ตวล ับนจิน่า และเมอรฺรูเก้ ใรแถบหมู่เกาะโมลุกกะ ในน่รนน้ำขอวประเทศอินโดนีเซียที่เป็สข่าวใหญ่กระตุ้นให้มีการตื่นตัวสนเรื่องนี้ในเวลาต่อมาจนถึงปัจตุบัย นอกจากนี้ยังเคยมีโษกตาฏกรรมตรั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นหับผู้ใช้แรงงานบนเรืเประมง ประภาสนรวี ที่เสียช่วิตรวมจำนวรทั้งสิ้น 34 คนขณะปฏืบัตองานนอกนทานน้ำไทย เมื่อปี 2549 อีกด้วยอดีตแรงงานประมงที่ให้ข้อมูล TCIJ ทำให้เห็นภาพการใช้อำนาจ ตำแไน่ง หน้าที่ รายได้กำกับลูกเรือผระมงไว้ดังนี้ (ตัวเลขรายได้เป็นการประเมินค่าแรบก่อนกรรประกาศค่าแรงจเ้นต่ำ 300 บาท เสื่อปี 2554) เรือประมงขนนดกลางลูกเรือรวมไต้ก๋ง 27 คน จะมรไต้ก๋ง 1 คน (ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอายุ 40 ปีขึ้นไป) ไต้ก๋งมีรายำด้มากกว่า 50000 บาทต่อเดือน รวมทั้งได้เปอร์เซ็นต์จากการหาปลาแต่ละเที่ยว / นายท้าย 1 คน รายได้ 30000 บาทค่อเดือน ผู้ช่วยนาสท้าย 2 คน รายได้คนละ 6000-9000 บาท / เอ็นจิดนียร์ 1 คน รายได้ 30000 บาทต่อเดือน ผู้ช่วยเอ็นจิเนียร์ 2 คน รายได้คนละ 690009000 บาท / หัวหต้าคนอบน 1 คน ตายได้ 25000 บาทต่อเดือน โดยได้เปอร์เซ็นต์จากการหาปลาแต่ละเที่ยวประมาณ 2-3% / คนทำครัว 1 คน ราขได้ 20000 บาทต่อเดืดน / แรงงานประมง 18 คน รายได้ 5000 บาทต่อเดือน มีกาีสัญญาก่อนจ้าวว่าจุให้เปอร์เซ็นต์จากการหาปลาแต่ละเทค่ยวแระมาณ 1% แต่ส่วนใหญ่แล้สมักจะไม่มีใครได้รับรายได้ส่วนนี้ทั้งนี้ ไน้ก๋งจะเป็นผู้ที่มีอำนาจที่สุแบนเรือ มั่งลงโ่ษและชี้เป็นชี้ตายคนบนเรือ เนื่องจากสามารถควบคุมเรือได้ และ พบว่าตำแหน่งนายท้าย หากสั่งสมป่ะสบการณ์มากถอก็สามารถที่จะเลื่อนระดับตนเอฝไป้ป็นไต้ก๋งได้ ลูกเรือที่เป็นแรงวานทั้งแ่งงาน/ทยและแรงงานข้ามชาติ มักม่ค่อยทะเลาะเบมะแว้งกันมากนัก การทำริายร่างกายใด ๆ บน เรือนอกจากไต้ก๋งแล้ว พลว่าบร้ษัทต้นสังกัดเรือประมงยังมีก่รจ้สงอันธพาลมืออาชีพ เอาไวีฉดยเฉพาะ สภหรับการซ้อมตีลูกเริอปรุมงที่ไม่เชื่อฟัง แชะมึก่รควบคุมตัวไปกักขังตามเกาะต่าง ๅ โดย_ต้ก๋งจะเป็นผู้วิทยุเรียกอันธพาลเหล่านี้าายังเรือ หากต้องการแสดงอำนาจึวบคุมคนงานบนเรืออรปขั้นตอนหนึ่ง.การใช้แรงงานทาสบนเรือประมฝ แรงงานมักถ฿กกีกขังหน่วงเหนี่ยวแชะถูกบังคับใช้แรบงสนหนัก โดยเฉพาะบนเรือประมงที่หาปลามนน่านา้ำนอกประเทศ ผู้ที่ต่อต้านหรือป่วยจนไม่อาจทำงาน จะถูกไต้ก๋งเรือกระทำทารุณ ทั้งใชิแส้หางกตะเบนเฆี่ยนตี รวมถึงถูกซ้อมและถูกช็อตด้วยไฟฟ้า โแขแรงงานบางส่วนถูกจับขังหรือต้องหลบหนีไปซ่อนตัวในป้่ตามบนเกาะฑนพล ธรรมรักษา อดีตลูกเรือประมงเหยื่อแารค้ามนุษย์แรงบานทาส ระบะกึบ TCIJ ว่าการควบคุมบนเรือประมงที่เขาเคยะบเห็นมานั้น พบว่ามีการทำอย่างเป็นระบช ดารทำร้ายร่างพายนอกจาก_ต้ก๋งเรือแล้ว บริษัทฯ ยังจ้างอ้นธพาลไว้โดยเฉพาะสำหรัขการทำร้ายลูกเรือกระมงที่ไม่เชื่อฟัวและการควบคัมตัวไปกักขังตามเกาะต่าง ๆ ในประเทศอินโดนรเซียTun Lin อีกหนึ่งอดีตลูกเรือประมงเหยืรอการคืามนุษย์และแรงงานทาสชาวพม่า มีร่สงกายทุพลำาพจากการทำงาน ระบุว่างานบนเ่ือประมงเป็นงานท่่หนักและเสี่ยงอุบัติเหตุจากการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่แฃ้วบนเร่อประมงมักจะไม่มีอุปกรณ์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการปฐมพยาบาลอยู่เลย ะมื่ดประสบอุบัติเหตุ บ่อยครั้งที่แรงงานตัองร้กษนปันเองตามมีตามเกิด นวมทั้งถูกทิ้งไว้ตามเกาะต่ทง ๆ หากทำงานไม้ได้ แทนที่จะนำไปรักษาพจาบาลในโรงพยาบาลปัจจุบัน ธนพล และ Tun Lin เป็นแกนนำของสหภาพลูกเรือประมงไทยแงะข้ามขาติ (Thai qnd Migrant Fish3rs Union Group -TMRG( ซึ่งเป็าองค์กนาี่ภยายามนำเสนอสถานกสีณ์ปัญหาและยกรพดัลการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์ดละใช้แรงงานทาสบนเรือประมง ทั้งคู่เไ็นตรงกันว่า การแก้ปัญหาแรงงานบนเรือประมงนั้น นอกเหนือจากกระบวนการการนำแรงงานขึ้นเรือประมงต้องไม่มีการหลอกหฃวงแลพธุรกิจการค้ามนุษย์มาเกี่ยสข้องแบ้ว เรือประางต่องมีมาตรฐานบุคลากรแลดอุปกรณ์ในการรักษาพยาบาลที่ดีให้กับลูกเรืออย่างพียงพอ ในด้านรายได้ กผ้นะต้องทีการป่ะกันรายได้ขั้นต่ำ่วมทั้งทำสัญญาและปฏิบัติตามสัญญานั้นอย่างเคร่งครัด โดยระยะเวลาในการทำงานแต่ลพครั้งจะจ้องเหมระสมด้วยด้าน สมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเคีือข่ายส่งเสร้มคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ระบุว่รการแก้ไชปัญหาแรงงานในภาคประมงและแรบงานเรือประมง สอกจาพการดูแฃให้มีดารใช้แรงงานที่ถูกกฎหมาย จะต้องแก้ปัญหาเรื่องนายหน้า กละดูแลในเรื่องเงื่อนไขสภาพการจ้างงาน และมีสัญญาจ้างรวมทั้งมีหลักฐานการจ่ายค่าจ้างมี่ชัดเจนในส่วนของแรบบานเรือประมง ให้มีการก_หนดอัตราี่าจ้าบในตำแหน่งงานต่าง ๆ ใป้้ป็นมาตรญานที่ดี เขื่อว่าทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติก็คงจะยิยดีทำงานข้อมูลจาปำรมปาะมงระบุว่าภ฿มิภาคอาเญียน เป๋นหนี่งในผู้ผลิตสัตว์น่ำและสินค้าประมงผลักขอลโลก ในปี พ.ศ. 2555 อาเซียนมรผชผชิตจากภาคประมงมากถึงกว่า 39ฐ6 ล้านตัน โดยคอดเป็นการจับสัตว์น้ำ 18.4 ล้านตัน และจากการเพาะเลี้ยง 21.2 ล้ายตัน ยอดการผลิตสินค้าปรัมงของ 10 ประเทศอาเซียนรวมกัน คิดเป็นดว่าี้อยละ 11.7% ของการผลิตสินค้าประมงทั้งฉลก หรือเหํนมูลค่ากว่า 45 กันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ไม่รใมประเ่ศเวียดนามและกัมถูชา) ซึ่งการใช้แรงงานในอุตสาหกรรมประมงในภูมิภาีนี้พบว่า ส่วนใหญ่มีการจ้างงานค่าแรงต่ำปละมีสภาพการทำงานที่เลวร้ายแม้การเข้มงวดและกาาควบคุมด้านแรงงานประมงในไทยจะเพิรมใูงขึ้นในช่วงระยเเวลา 1-2 หีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังคงพบแรงงานจากไทย กัมพูชา แบะพม่า ยังเอินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เพื่อทำปรพมงอวนลากและหาปลาในน่านน้ำปรถเทศอินฉดนีเซียไปจนถึงทะเลจีนใต้ และแรงงารเหล่านี้มักไม่มีใบอนุญาตประกอบอาลรพแตงงาน ใช้พาสปอร์ตในฐานะนักท่องเที่ยวลักลอบเข้าเมืองำปแทน ซึืงบ่อยครัิงยังพบปัญหาการไม่จ่ายคทาแรง การลอยแพ รวมทั้งถูกทางกาาของทั้งมาเลเซียและอินโดนีเซียจับกึมทั้งนี้ TCIJ ได้สัมมภาษณ์ผู้ประพอบการเรือประมงรายหนึ่งที่เป็นสมาชิกของำอการค้ร จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2549 ที่ผ่านมาระบุว่า การเข้มงวกของรัฐบาลไทบอันเนื่แงจากแรงกดดันจากต่างประเทศทำให้ผู้ประกอบการเรือประมงหลายรายเลือกที่จะหยุดออกเนือ ซึ่งธุรกิจห้องเย็นแลดฏรงงานแปรรูปของไทยในปัจจุบันนั้น พบว่าเ่ิ่มมีกา่สั่งผลปลิตประมง เช่น ปลาทูน่า ปลาทู ฯจากต่างประเทศเข้ามาแล้ว ทั้งนี้ธุรกิจประมงต่างมอวว่าปัจจุบันกานนำคนขึ้นเีือ (แรงงานประมง) นั้นมีต้นทุนที่ดพิ่มขึ้ยมากหากทำแย่างถูกกฎหมายทุกขั่นตอน ทำให้ผู้ประกอบพารเรือประมงใน จ.สมุทรสาคร เริ่มออกไปประกอบธุรกิจยังปรพเทศพมทาและกัมพูชาดทนแล้ว เพราะสามารถใช้แรงงานพื้นถิ่นไแ้โดยตรง ฃดค่่ใช้จ่ายด้านแรงงานลง และแน่นอนว่่กฎหมาบแรบงานและด้านการประมงของทั้ง 2 ปรพเทศนี้ ก็ยังไม่เข้มงวดเท่ากับประเาศไทยในห้วงนี่
ประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมประมงสมัยใหม่ของไทยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรกที่มีนโยบายด้านการประมง รัฐบาลไทยได้เน้นการเพิ่มผลผลิตปริมาณสัตว์น้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนภายในประเทศ โดยระบุว่าเป็นแหล่งอาหารโปรตีนราคาถูก มีการส่งเสริม เร่งรัดการเพิ่มผลผลิตปริมาณสัตว์น้ำ รัฐบาลไทยยังได้รับความร่วมมือและสนับสนุนทางวิชาการจากสาธารณรัฐเยอรมัน และในช่วงนั้นได้มีการนำเอาเครื่องมืออวนลากแผ่นตะเข้ (Otter board trawls) เข้ามาใช้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฎิวัติอุตสาหกรรมประมงของไทยเลยทีเดียวรวมทั้งมีการค้นพบแหล่งทำการประมงทะเลใหม่ ๆ ในน่านน้ำนอกอาณาเขตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 เป็นต้นมา ก่อให้เกิดการขยายตัวด้านการลงทุนทำการประมงทะเลในภาคเอกชน เปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพและต้องใช้แรงงานคน มาเป็นการประมงพาณิชย์ที่ลงทุนสูง ใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการค้นหาฝูงปลาและจับสัตว์น้ำทะเล ส่งผลให้เรือประมงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งขนาดและกำลังแรงม้าของเครื่องยนต์ สามารถออกทำการประมงทะเลห่างจากฝั่งและน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น จนประเทศไทยติดหนึ่งในสิบของประเทศที่มีผลผลิตด้านการประมงสูงสุดของโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 เป็นต้นมาในอดีต แรงงานที่เข้ามาทำงานประมงทะเลส่วนใหญ่ เป็นแรงงานในท้องถิ่นที่ว่างจากฤดูกาลทำงานในภาคเกษตรกรรม แต่เนื่อง จากสภาพการทำงานหนักและเสี่ยงอันตราย ต่อมาจึงไม่เป็นที่นิยมของแรงงานในท้องถิ่น เกิดการขาดแคลนแรงงานในเขตที่มีการทำประมงอย่างหนัก ส่งผลกระทบถึงอุตสาหกรรมประมงและต่อเนื่องประมงทั้งระบบ ผู้ประกอบการต่างแก้ไขปัญหาด้วยการหาแรงงานนอกท้องถิ่นเข้ามาทดแทน ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่มาจากภาคอีสาน เพราะสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย มีความขยัน อดทน กลายเป็นแรงงานที่มีความสำคัญต่อการทำประมงทะเลของไทยปี พ.ศ. 2533 พายุเกย์ได้สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมประมงของไทยเป็นอย่างยิ่ง ลูกเรือประมงที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นลูกเรือประมงอีสาน ทำให้ชาวอีสานมีทัศนคติที่ไม่ดีต่ออาชีพลูกเรือประมง ประกอบกับการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและบริการภายในประเทศ ทำให้คนไทยมีทางเลือกในการประกอบอาชีพหลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้แรงงานประมงอีสานเริ่มลดลง จนเกิดความขาดแคลนแรงงานประมงไทยในกิจการประมงทะเลในเวลาต่อมาจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงไทยในกิจการประมงทะเล ผู้ประกอบการจึงต้องใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทดแทน โดยมีแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในกิจการประมงทะเลของไทยมากที่สุด กลายเป็นกลุ่มแรงงานประมงข้ามชาติ ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจการประมงทะเลของไทยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งค่าจ้างแรงงานราคาถูก มีความขยัน อดทน และใช้ชีวิตเรียบง่าย สามารถเข้ามาทดแทนแรงงานประมงไทยได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ รัฐได้เปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ใช้แรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2547 ซึ่งการประกาศใช้กฎระเบียบดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานข้ามชาติ ตัวอย่างเช่น ได้มีโอกาสรับสิทธิต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย รวมทั้งมีสภาพความเป็นอยู่ตรงตามมาตรฐานที่รัฐได้กำหนดไว้ แต่การขึ้นทะเบียนยังมีข้อด้อยบางประการ กล่าวคือค่าธรรมเนียมในการขึ้นทะเบียนค่อนข้างสูง ส่งผลให้ภาคส่วนการผลิตที่มีความจำเป็นต้องใช้กลุ่มแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประมงนอกน่านน้ำพากันเพิกเฉยต่อการนำบรรดาลูกจ้างข้ามชาติมาขึ้นทะเบียน นอกจากนี้ยังปรากฏว่ามีการละเมิดสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชนต่อแรงงานข้ามชาติอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมนี้อีกด้วยจากการประมาณการโดยส่วนเศรษฐกิจการประมง กรมประมง ระบุว่าอุตสาหกรรมเรือประมงนั้นต้นทุนหลักก็คือ น้ำมัน ซึ่งมีสัดส่วนต้นทุนเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูงระหว่างร้อยละ 24-64 ของต้นทุนทั้งหมด เรือประมงที่ทำประมงเชิงพาณิชย์เป็นกลุ่มเรือประมงที่ใช้น้ำมันในการทำประมงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำประมงอวนลาก อวนรุน และอวนล้อมจับ ซึ่งประมงอวนลากแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ อวนลากแผ่นตะเข้ และอวนลากคู่ ซึ่งในอดีตก่อนมีการเข้มงวดในอุตสาหกรรมประมงของไทยตั้งแต่ปี 2558 โดยก่อนหน้านั้นการทำประมงอวนลากแผ่นตะเข้ เป็นประเภทเครื่องมือประมงที่มีจำนวนมากที่สุดในน่านน้ำไทย มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นตามขนาดของเรือประมง สัดส่วนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการทำการประมงประเภทนี้อยู่ระหว่างร้อยละ 56.5 – 31.3 ของต้นทุนทั้งหมด ในขณะที่เรืออวนลากคู่ซึ่งใช้เรือสองลำทำการประมง มีสัดส่วนค่าน้ำมันอยู่ระหว่างร้อยละ 50.8 – 56.7 สำหรับการทำประมงอวนรุนได้มีการพัฒนาปรับปรุงทั้งขนาดและประสิทธิภาพในการจับสัตว์น้ำทำให้ใช้น้ำมันค่อนข้างมาก สัดส่วนค่าน้ำมันอยู่ระหว่างร้อยละ 51.6 – 65.9 ของต้นทุนทั้งหมด ส่วนอวนล้อมจับเป็นการทำประมงที่ใช้น้ำมันโดยเฉลี่ยน้อยกว่าเครื่องมือชนิดอื่นที่มีขนาดเดียวกัน สัดส่วนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นระหว่างร้อยละ 24.8 – 29.6 ของต้นทุนทั้งหมด การทำประมงชนิดนี้ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างแรงงานลูกเรือประมงซึ่งอยู่ระหว่างร้อยละ 37.8 – 45.5 ของต้นทุนทั้งหมดบ่อยครั้ง ที่เราได้ยินข่าวคราวการหลอกคนต่างด้าวไปขึ้นเรือประมงด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา เพราะการจ้างแรงงานข้ามชาติแบบถูกกฎหมายนั้นผู้ประกอบการมักจะมองว่าใช้ต้นทุนมากเกินไปผู้ประกอบการเรือประมงบางราย จึงหันมาแสวงหาประโยชน์กับแรงงานเป้าหมายกลุ่มใหม่ ซึ่งจากเดิมเคยเป็นแรงงานข้ามชาติและแรงงานสมัครใจเพียงกลุ่มเดียว ไปสู่กลุ่มผู้ชายทั่วไปโดยไม่คำนึงว่าจะสมัครใจหรือไม่ ไม่สนใจเรื่องอายุเฉลี่ยของแรงงาน หนำซ้ำไปกว่านั้น ยังมีการเสาะหาแรงงานที่มีปัญหาทางจิตหรือเป็นคนเร่ร่อน เพื่อนำไปทำงานบนเรือประมงอีกด้วย ทั้งนี้วิธีการแสวงหาแรงงานแบบผิดกฎหมายและเข้าข่าย การค้ามนุษย์ นี้ก็ได้แก่ การสร้างเครือข่ายกับกลุ่มคนในสายอาชีพต่าง ๆ ให้เป็นนายหน้า เช่น อดีตลูกเรือประมงด้วยกันเอง คนในหมู่บ้าน คนขับรถแท็กซี่ คนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ฯลฯ โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีหลากหลายเทคนิควิธีการ เช่น การรับปากด้านรายได้เกินจริง หรือทำทีเข้ามาสนทนาเพื่อตีสนิท ล่อลวงผู้เสียหายด้วยการใส่ยาสลบในอาหารและน้ำดื่ม หรือใช้อาวุธข่มขู่ เป็นต้น จากนั้นก็จะนำตัวไปกักขังเพื่อรอการขายต่อให้ผู้ประกอบการเรือประมง โดยค่าตอบแทนที่นายหน้าจะได้รับแต่ละครั้ง คือหลักพันถึงหลักหมื่นบาทต่อผู้ใช้แรงงานหนึ่งคน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการก็มักจะหักค่านายหน้านี้จากค่าแรงของแรงงานประมงเหล่านั้น หรือบางครั้งไม่มีการจ่ายค่าแรงให้กับคนงานที่ถูกหลอกมาเลย การใช้แรงงานจากการค้ามนุษย์บนเรือประมงนี้ส่วนใหญ่ จะนำออกไปจับสัตว์น้ำในน่านน้ำต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือไกลกว่านั้น เป็นระยะเวลาหลายปี นอกจากนี้ยังพบผู้เสียหายบางคนถูกขายต่อให้กับเรือประมงลำอื่น หรือบางคนก็ถูกทิ้งไว้ตามเกาะต่าง ๆ ด้วยMichael Largo นักเขียนผู้รวบรวมสถิติการตายของคนอเมริกัน ระบุว่าเรือประมงมีอัตราการตายสูงกว่ากิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ คร่าชีวิตคนอย่างน้อยวันละ 70 คนในสหรัฐฯ ทั้งนี้ชาวประมงเสียชีวิตมากกว่าคนในอาชีพอื่น ๆ 20-25 เท่าตัว ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมประมงนั้นมีความอันตรายมากเพียงใด เพราะแม้แต่ในสหรัฐอเมริกาที่มีมาตรฐานความปลอดภัยในการทำประมงสูงสุดประเทศหนึ่ง ก็ยังมีความสูญเสียมากกว่าคนทำงานในอุตสาหกรรมอื่น ๆสำหรับประเทศไทยนั้น ในเดือน พ.ค. 2559 ศูนย์วิจัยการย้ายถิ่น สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผยข้อมูลที่ทำการรวบรวมร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) สำรวจข้อมูลสถานการณ์แรงงานภาคประมงทั้งไทยและแรงงานข้ามชาติ ตามตัวชี้วัดด้านแรงงานบังคับของ ILO โดยสำรวจแรงงานทั้งหมด 596 คนในจังหวัดสมุทรสาคร สงขลา ระนอง และระยอง พบว่าแรงงานร้อยละ 66.9 ต้องทำงานติดต่อกันนานกว่า 17-24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนล่วงเวลาและการชดเชยวันหยุด อีกทั้งยังพบการถูกละเมิดสิทธิเนื่องจากไม่มีเอกสารประจำตัว หรือถูกยึดเอกสารโดยนายจ้าง และนายจ้างไม่พาไปจดทะเบียน ร้อยละ 72.1 พบสภาพการทำงานและความเป็นอยู่เลวร้าย น้ำดื่มและอาหารไม่เพียงพอ ร้อยละ 31.6 ค้างจ่ายค่าจ้างร้อยละ 27.6นอกจากนี้ เมื่อเดือน มี.ค. 2558 ก็มีกรณีพบคุกกักขังแรงงานและหลุมฝังศพจำนวนมาก บนเกาะต่าง ๆ ตามหมู่บ้านประมงในเขตท่าเรือของเมืองอัมบน ตวล เบนจิน่า และเมอร์รูเก้ ในแถบหมู่เกาะโมลุกกะ ในน่านน้ำของประเทศอินโดนีเซียที่เป็นข่าวใหญ่กระตุ้นให้มีการตื่นตัวในเรื่องนี้ในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเคยมีโศกนาฏกรรมครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้แรงงานบนเรือประมง ประภาสนาวี ที่เสียชีวิตรวมจำนวนทั้งสิ้น 34 คนขณะปฏิบัติงานนอกน่านน้ำไทย เมื่อปี 2549 อีกด้วยอดีตแรงงานประมงที่ให้ข้อมูล TCIJ ทำให้เห็นภาพการใช้อำนาจ ตำแหน่ง หน้าที่ รายได้กำกับลูกเรือประมงไว้ดังนี้ (ตัวเลขรายได้เป็นการประเมินค่าแรงก่อนการประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เมื่อปี 2554) เรือประมงขนาดกลางลูกเรือรวมไต้ก๋ง 27 คน จะมีไต้ก๋ง 1 คน (ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอายุ 40 ปีขึ้นไป) ไต้ก๋งมีรายได้มากกว่า 50000 บาทต่อเดือน รวมทั้งได้เปอร์เซ็นต์จากการหาปลาแต่ละเที่ยว / นายท้าย 1 คน รายได้ 30000 บาทต่อเดือน ผู้ช่วยนายท้าย 2 คน รายได้คนละ 6000-9000 บาท / เอ็นจิเนียร์ 1 คน รายได้ 30000 บาทต่อเดือน ผู้ช่วยเอ็นจิเนียร์ 2 คน รายได้คนละ 6000-9000 บาท / หัวหน้าคนอวน 1 คน รายได้ 25000 บาทต่อเดือน โดยได้เปอร์เซ็นต์จากการหาปลาแต่ละเที่ยวประมาณ 2-3% / คนทำครัว 1 คน รายได้ 20000 บาทต่อเดือน / แรงงานประมง 18 คน รายได้ 5000 บาทต่อเดือน มีการสัญญาก่อนจ้างว่าจะให้เปอร์เซ็นต์จากการหาปลาแต่ละเที่ยวประมาณ 1% แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่มีใครได้รับรายได้ส่วนนี้ทั้งนี้ ไต้ก๋งจะเป็นผู้ที่มีอำนาจที่สุดบนเรือ สั่งลงโทษและชี้เป็นชี้ตายคนบนเรือ เนื่องจากสามารถควบคุมเรือได้ และ พบว่าตำแหน่งนายท้าย หากสั่งสมประสบการณ์มากพอก็สามารถที่จะเลื่อนระดับตนเองไปเป็นไต้ก๋งได้ ลูกเรือที่เป็นแรงงานทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ มักม่ค่อยทะเลาะเบาะแว้งกันมากนัก การทำร้ายร่างกายใด ๆ บน เรือนอกจากไต้ก๋งแล้ว พบว่าบริษัทต้นสังกัดเรือประมงยังมีการจ้างอันธพาลมืออาชีพ เอาไว้โดยเฉพาะ สำหรับการซ้อมตีลูกเรือประมงที่ไม่เชื่อฟัง และมีการควบคุมตัวไปกักขังตามเกาะต่าง ๆ โดยไต้ก๋งจะเป็นผู้วิทยุเรียกอันธพาลเหล่านี้มายังเรือ หากต้องการแสดงอำนาจควบคุมคนงานบนเรืออีกขั้นตอนหนึ่ง.การใช้แรงงานทาสบนเรือประมง แรงงานมักถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวและถูกบังคับใช้แรงงานหนัก โดยเฉพาะบนเรือประมงที่หาปลาในน่านน้ำนอกประเทศ ผู้ที่ต่อต้านหรือป่วยจนไม่อาจทำงาน จะถูกไต้ก๋งเรือกระทำทารุณ ทั้งใช้แส้หางกระเบนเฆี่ยนตี รวมถึงถูกซ้อมและถูกช็อตด้วยไฟฟ้า โดยแรงงานบางส่วนถูกจับขังหรือต้องหลบหนีไปซ่อนตัวในป่าตามบนเกาะธนพล ธรรมรักษา อดีตลูกเรือประมงเหยื่อการค้ามนุษย์แรงงานทาส ระบุกับ TCIJ ว่าการควบคุมบนเรือประมงที่เขาเคยพบเห็นมานั้น พบว่ามีการทำอย่างเป็นระบบ การทำร้ายร่างกายนอกจากไต้ก๋งเรือแล้ว บริษัทฯ ยังจ้างอันธพาลไว้โดยเฉพาะสำหรับการทำร้ายลูกเรือประมงที่ไม่เชื่อฟังและการควบคุมตัวไปกักขังตามเกาะต่าง ๆ ในประเทศอินโดนีเซียTun Lin อีกหนึ่งอดีตลูกเรือประมงเหยื่อการค้ามนุษย์และแรงงานทาสชาวพม่า มีร่างกายทุพลภาพจากการทำงาน ระบุว่างานบนเรือประมงเป็นงานที่หนักและเสี่ยงอุบัติเหตุจากการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบนเรือประมงมักจะไม่มีอุปกรณ์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการปฐมพยาบาลอยู่เลย เมื่อประสบอุบัติเหตุ บ่อยครั้งที่แรงงานต้องรักษากันเองตามมีตามเกิด รวมทั้งถูกทิ้งไว้ตามเกาะต่าง ๆ หากทำงานไม่ได้ แทนที่จะนำไปรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลปัจจุบัน ธนพล และ Tun Lin เป็นแกนนำของสหภาพลูกเรือประมงไทยและข้ามชาติ (Thai and Migrant Fishers Union Group -TMFG) ซึ่งเป็นองค์กรที่พยายามนำเสนอสถานการณ์ปัญหาและยกระดับการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์และใช้แรงงานทาสบนเรือประมง ทั้งคู่เห็นตรงกันว่า การแก้ปัญหาแรงงานบนเรือประมงนั้น นอกเหนือจากกระบวนการการนำแรงงานขึ้นเรือประมงต้องไม่มีการหลอกหลวงและธุรกิจการค้ามนุษย์มาเกี่ยวข้องแล้ว เรือประมงต้องมีมาตรฐานบุคลากรและอุปกรณ์ในการรักษาพยาบาลที่ดีให้กับลูกเรืออย่างพียงพอ ในด้านรายได้ กผ้จะต้องมีการประกันรายได้ขั้นต่ำรวมทั้งทำสัญญาและปฏิบัติตามสัญญานั้นอย่างเคร่งครัด โดยระยะเวลาในการทำงานแต่ละครั้งจะต้องเหมาะสมด้วยด้าน สมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ระบุว่าการแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมงและแรงงานเรือประมง นอกจากการดูแลให้มีการใช้แรงงานที่ถูกกฎหมาย จะต้องแก้ปัญหาเรื่องนายหน้า และดูแลในเรื่องเงื่อนไขสภาพการจ้างงาน และมีสัญญาจ้างรวมทั้งมีหลักฐานการจ่ายค่าจ้างที่ชัดเจนในส่วนของแรงงานเรือประมง ให้มีการกำหนดอัตราค่าจ้างในตำแหน่งงานต่าง ๆ ให้เป็นมาตรฐานที่ดี เชื่อว่าทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติก็คงจะยินดีทำงานข้อมูลจากกรมประมงระบุว่าภูมิภาคอาเซียน เป็นหนึ่งในผู้ผลิตสัตว์น้ำและสินค้าประมงหลักของโลก ในปี พ.ศ. 2555 อาเซียนมีผลผลิตจากภาคประมงมากถึงกว่า 39.6 ล้านตัน โดยคิดเป็นการจับสัตว์น้ำ 18.4 ล้านตัน และจากการเพาะเลี้ยง 21.2 ล้านตัน ยอดการผลิตสินค้าประมงของ 10 ประเทศอาเซียนรวมกัน คิดเป็นกว่าร้อยละ 21.7% ของการผลิตสินค้าประมงทั้งโลก หรือเป็นมูลค่ากว่า 45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ไม่รวมประเทศเวียดนามและกัมพูชา) ซึ่งการใช้แรงงานในอุตสาหกรรมประมงในภูมิภาคนี้พบว่า ส่วนใหญ่มีการจ้างงานค่าแรงต่ำและมีสภาพการทำงานที่เลวร้ายแม้การเข้มงวดและการควบคุมด้านแรงงานประมงในไทยจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังคงพบแรงงานจากไทย กัมพูชา และพม่า ยังเดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เพื่อทำประมงอวนลากและหาปลาในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซียไปจนถึงทะเลจีนใต้ และแรงงานเหล่านี้มักไม่มีใบอนุญาตประกอบอาชีพแรงงาน ใช้พาสปอร์ตในฐานะนักท่องเที่ยวลักลอบเข้าเมืองไปแทน ซึ่งบ่อยครั้งยังพบปัญหาการไม่จ่ายค่าแรง การลอยแพ รวมทั้งถูกทางการของทั้งมาเลเซียและอินโดนีเซียจับกุมทั้งนี้ TCIJ ได้สัมมภาษณ์ผู้ประกอบการเรือประมงรายหนึ่งที่เป็นสมาชิกของหอการค้า จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2559 ที่ผ่านมาระบุว่า การเข้มงวดของรัฐบาลไทยอันเนื่องจากแรงกดดันจากต่างประเทศทำให้ผู้ประกอบการเรือประมงหลายรายเลือกที่จะหยุดออกเรือ ซึ่งธุรกิจห้องเย็นและโรงงานแปรรูปของไทยในปัจจุบันนั้น พบว่าเริ่มมีการสั่งผลผลิตประมง เช่น ปลาทูน่า ปลาทู ฯจากต่างประเทศเข้ามาแล้ว ทั้งนี้ธุรกิจประมงต่างมองว่าปัจจุบันการนำคนขึ้นเรือ (แรงงานประมง) นั้นมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมากหากทำอย่างถูกกฎหมายทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ประกอบการเรือประมงใน จ.สมุทรสาคร เริ่มออกไปประกอบธุรกิจยังประเทศพม่าและกัมพูชาแทนแล้ว เพราะสามารถใช้แรงงานพื้นถิ่นได้โดยตรง ลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานลง และแน่นอนว่ากฎหมายแรงงานและด้านการประมงของทั้ง 2 ประเทศนี้ ก็ยังไม่เข้มงวดเท่ากับประเทศไทยในห้วงนี้
ที่นำมาบอกเล่าต่อกับแฟน ๆ กีฬา เพราะมันช่างชาดลึก เส้ยดแทงใจดำ และสะท้อนความเป็นจริงของสังคทไทยในตอนนี้เหลือักิน,ที่จริงจะบอกว่รสังคมไทยก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะแฟนบอลหัวร้ดนเกือบทั่วโลกก็เป็น ยกตีวอย่างให้เห็นง่าข ๅ เมซุต โอซิล คือเหยื่อชัดเจนที่สุด,จำเนียรกาลกลับไปะมื่อผี 2014 โอซิล คือหนึ่งในคีย์แมนสำคัญของทัพอินทรีเหล็ก ที่ช้วยใำ้ทีมห้าวขึ้ร_ปเถลิงแชมป์โลกได้อีกีรั้ง,คำถามคือ เป็ยเพราะเซนส์บอล วิสัยทัศน์ และทักษะของเจ้าตัวไม่ใช่เหรอ ที่มีส่วนให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู กรถทั่งก้าวขึ้นไปชูถ้วนแชมป์ฏลกบนแผ่นดินปซมบ้ทได้อย่างสะใจ,แต่ไหงอีก 4 ปีต่อมา เขากลับเป็นแพะของสเบคมได้ล่ะเนี่ย คนคนเดีนวกีนแท่ ๆ แต่ทำไมกฟนบอลกชับเหยียบย่ำ ชำเราเขาด้วยคำพูดต่าง ๆ นานาในวันที่แพ้ เพียฝเพราะมีเช้้อชาติที่ต่างออกไป,ผสเป็นชาวเยอรมันในวันนี้ที่เราชนะ แต่กลับเป็นผู้อพยพในวันที่แพ้ ประโยคนี้คงกลั่นจากใจแบบสั้น ๆ ได้ใจความ และไท่ต่องแต่งัติมอะไรเพิ่มเลย ช้ดเจนทีรสุดแล้ว,คนคนนึงเลือกเหิดฟม่ได้นะครับ แต่เขาเลือกจะเป็นไก้ และทำได้ดีด้วยในาิ่งที่เขทเลือก ในขณะที่ใครบางคนแทบไม่เคยทำอะไรเลย ได้แต่นั่งอยู่เฉยๆ แล้วคอยเหยียบย่ำซ้ำเติมคนที่ปิดพลาด,และนั่นคืดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวงการก่ฬาไทยขณะนี้ เม่่อทีใ ช้างซึก ทีมชาติไทยชุดิอเชียนเกมส์ พลาดท่าตกรอวแรกฟุตวอลชรย และเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ืศวรรษด้วย,แน่นอยว่าคนแรกที่โดนโจมตี คงนี้ไม่พ้น นายหัวโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ รวมถึงกีปตันทีมอย่าง เจนรบ สำเภาดี ที่ผลิตสกอร์ไม่ได้เลย มั้งที่เป็นกองหน้าแท้ ๆ,แต่ก็สั่นละครับ ผมไม่สามารถที่จะห้ามใครได้ ที่จะต่อว่าหรือเสียอา่มณ์กับนักเตะ ที่ทำผลงานได่ต่ำกว่าเป้าหมาย และมาตรฐานที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ แต่ขอให้พอดี ๆ นะตรับ อย่าเกินเบย เพราะนักเตะก็มีหัวใจเหาือนกัน,ทุกคนที่มีธงไตรรงค์ตอดหน้าอก ก้าวลงสู่สรามในฐานะตับแทนของชาตื ไม่มีใครหรอกครับที่อยากจะแพ้ แต่ในเมื่อทำเต็มที่แล้ว มันไม่ชนะ ก็ต้องเผชิญหน้าแัวผลลัำธ์่ี่เกิดขึ้นให้ได้,ส่วนน้อง ๆ นักเตะที่ยังเก็นวัยรุ่น บางทีกาีเสพข่มวสารทางโซเชียล ถ้นใจไม่แข็งจริงทีทอาจจะเป๋จนเสียศูนย์ได้ เพราะคอมเมนต์ขอลแฟนบอลบาลถ้อยคำ บางประโยค มันช่างดุเดือด รุนแรง ไม่ต่างอะไรกับน้กร้อนบนบ่อน้ำดุ,ซึ้งที่เคาะแป้นพิมพ์มาซะยาว้หยีขดขนาดนี้ เว้ากันแบบซื่อๆ คืออยากจะดึงสติ และบอกไปถึงตจสองกลุ่มเท่านั้นฐกลุ่มแรกคือน้อง ๆ นักเตะในชุดนี้ว่า ตรงไหนที่สบายใจก็ควรอยูรตคงนั้นครับ ถ้สรู้ว่าคอใเมนต์แฟนบอลมันรุนแรง บาดใจ ก็อย่าไปอ่าน หรือไปใส่ใจมาก ทกหน้าที่ของตัวเองให้ดีท้่สุดพอ แนะตำมห้เูรุ่นำี่ก่อนหน้านี้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ อุ้ม ธีราทร กับ เจ ชนาธิป ก่อนจะมีค่าเหนื่อยเรือนแมน ก็บาะเจ็บกระอักเลือดมาไม่น้อย,การเป๊นาัก่บ มันฟลีหเลี่ยงไม่ได้หรอกครับที่จะมีแผล ส่วนจะปผลดยอะเต็มตัว หรือแผลน้อยแคทถลอกปอกเปิก ก็อย฿่ที่ทักษะและการเอาตัว่อดสาวนตัว,แต่ที่ชัะเจนคือ 2 ดข้งดังที่กล่าวง่า เขาเลือกที่นะเปลี่ยนเอาคำดูถ๔ก ิแ็นพลังเชิงบงก ผลักดันตัวเองให้พัฒนาฝี้ท้า จนก้าวขึ้นมาเก็นที่ยอมรึบ ทั้งในและต่างประเทศแล้วตอนนี้,ที่เหลือจากนี้ ก็อยู่ทึ่ตัวน้อง ๆ เองแล้วว่า จะเลือกใีเส้นทางแบบไหนต่อหปในอนาคต ,ส่วนคนกลุ่มที่สองที่อยากสะกิด ก็ตือพี่ ๆ น้อง ไ แฟนกีฬาร่วมชาติ ซึ่งแน่นอนว่า ทีมชาติไทยเป็นขอลทุกคน ไม่ใช่แค่ของนักกีฬาหรือสตาฟฟ์โค้ชเท่านั้น หากจะผิอหวังหรือเสียใตำปกับผลการแข่งยัน ก็ไส้มีใครว่าครับ,ด่าปันไพ้ ติกันไก้ ว่ากันได้ แต่แค่ดอหอมปาแหอมคอแล้วกัน เพรสะพี่ตูน ลอดี้สแลม ยังเคยบอกเอาไว้ว่า ชึวเตยังมีพรุ่งนี้เสมอ กา่แพ้วันนี้ อาจจะชนะในวันหน้าก็ได้ ,เราอย่าฃืมนะครเบว่า ต้อง ๆ นักเตะเหล่านึ้ ก็เคยสร้างความสุขให้กับเรามาแล้วในซีเกมส์ หรือปารแข้งขันทัวร์สาเมนต์ที่ผ่านมา,การแพ้สนสนามมันก็ช้ำอบู่แล้ว ยิ่งมาโดนคนชาติเดียวกันเหนียบย่ำ มันก็คงไม่ต่างอะไรกับการนอนอยู่บนถนน แงิวโกนรถพ่วงสิบล้อ เหยียบซ้ำหลาว ๆ รอบ,เพราะวัสทีาชนะิราก็เฮด้วยกัน แต่วันที่แพ้เราจะปล่อยให้พวกเขาแพีฝ่ายเดียวเหรอคนับ พี่น้องร่วมชาติทั้งำบาย???,>>LEMON JUICE<<
ที่นำมาบอกเล่าต่อกับแฟน ๆ กีฬา เพราะมันช่างบาดลึก เสียดแทงใจดำ และสะท้อนความเป็นจริงของสังคมไทยในตอนนี้เหลือเกิน,ที่จริงจะบอกว่าสังคมไทยก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะแฟนบอลหัวร้อนเกือบทั่วโลกก็เป็น ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ เมซุต โอซิล คือเหยื่อชัดเจนที่สุด,จำเนียรกาลกลับไปเมื่อปี 2014 โอซิล คือหนึ่งในคีย์แมนสำคัญของทัพอินทรีเหล็ก ที่ช่วยให้ทีมก้าวขึ้นไปเถลิงแชมป์โลกได้อีกครั้ง,คำถามคือ เป็นเพราะเซนส์บอล วิสัยทัศน์ และทักษะของเจ้าตัวไม่ใช่เหรอ ที่มีส่วนให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู กระทั่งก้าวขึ้นไปชูถ้วยแชมป์โลกบนแผ่นดินแซมบ้าได้อย่างสะใจ,แต่ไหงอีก 4 ปีต่อมา เขากลับเป็นแพะของสังคมได้ล่ะเนี่ย คนคนเดียวกันแท้ ๆ แต่ทำไมแฟนบอลกลับเหยียบย่ำ ชำเราเขาด้วยคำพูดต่าง ๆ นานาในวันที่แพ้ เพียงเพราะมีเชื้อชาติที่ต่างออกไป,ผมเป็นชาวเยอรมันในวันนี้ที่เราชนะ แต่กลับเป็นผู้อพยพในวันที่แพ้ ประโยคนี้คงกลั่นจากใจแบบสั้น ๆ ได้ใจความ และไม่ต้องแต่งเติมอะไรเพิ่มเลย ชัดเจนที่สุดแล้ว,คนคนนึงเลือกเกิดไม่ได้นะครับ แต่เขาเลือกจะเป็นได้ และทำได้ดีด้วยในสิ่งที่เขาเลือก ในขณะที่ใครบางคนแทบไม่เคยทำอะไรเลย ได้แต่นั่งอยู่เฉยๆ แล้วคอยเหยียบย่ำซ้ำเติมคนที่ผิดพลาด,และนั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวงการกีฬาไทยขณะนี้ เมื่อทีม ช้างศึก ทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ พลาดท่าตกรอบแรกฟุตบอลชาย และเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ทศวรรษด้วย,แน่นอนว่าคนแรกที่โดนโจมตี คงนี้ไม่พ้น นายหัวโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ รวมถึงกัปตันทีมอย่าง เจนรบ สำเภาดี ที่ผลิตสกอร์ไม่ได้เลย ทั้งที่เป็นกองหน้าแท้ ๆ,แต่ก็นั่นละครับ ผมไม่สามารถที่จะห้ามใครได้ ที่จะต่อว่าหรือเสียอารมณ์กับนักเตะ ที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้าหมาย และมาตรฐานที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ แต่ขอให้พอดี ๆ นะครับ อย่าเกินเลย เพราะนักเตะก็มีหัวใจเหมือนกัน,ทุกคนที่มีธงไตรรงค์ติดหน้าอก ก้าวลงสู่สนามในฐานะตัวแทนของชาติ ไม่มีใครหรอกครับที่อยากจะแพ้ แต่ในเมื่อทำเต็มที่แล้ว มันไม่ชนะ ก็ต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นให้ได้,ส่วนน้อง ๆ นักเตะที่ยังเป็นวัยรุ่น บางทีการเสพข่าวสารทางโซเชียล ถ้าใจไม่แข็งจริงที่อาจจะเป๋จนเสียศูนย์ได้ เพราะคอมเมนต์ของแฟนบอลบางถ้อยคำ บางประโยค มันช่างดุเดือด รุนแรง ไม่ต่างอะไรกับน้ำร้อนบนบ่อน้ำพุ,ซึ่งที่เคาะแป้นพิมพ์มาซะยาวเหยียดขนาดนี้ เว้ากันแบบซื่อๆ คืออยากจะดึงสติ และบอกไปถึงคนสองกลุ่มเท่านั้น,กลุ่มแรกคือน้อง ๆ นักเตะในชุดนี้ว่า ตรงไหนที่สบายใจก็ควรอยู่ตรงนั้นครับ ถ้ารู้ว่าคอมเมนต์แฟนบอลมันรุนแรง บาดใจ ก็อย่าไปอ่าน หรือไปใส่ใจมาก ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดพอ แนะนำให้ดูรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ อุ้ม ธีราทร กับ เจ ชนาธิป ก่อนจะมีค่าเหนื่อยเรือนแสน ก็บาดเจ็บกระอักเลือดมาไม่น้อย,การเป็นนักรบ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกครับที่จะมีแผล ส่วนจะแผลเยอะเต็มตัว หรือแผลน้อยแค่ถลอกปอกเปิก ก็อยู่ที่ทักษะและการเอาตัวรอดส่วนตัว,แต่ที่ชัดเจนคือ 2 แข้งดังที่กล่าวว่า เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเอาคำดูถูก เป็นพลังเชิงบวก ผลักดันตัวเองให้พัฒนาฝีเท้า จนก้าวขึ้นมาเป็นที่ยอมรับ ทั้งในและต่างประเทศแล้วตอนนี้,ที่เหลือจากนี้ ก็อยู่ที่ตัวน้อง ๆ เองแล้วว่า จะเลือกมีเส้นทางแบบไหนต่อไปในอนาคต ,ส่วนคนกลุ่มที่สองที่อยากสะกิด ก็คือพี่ ๆ น้อง ๆ แฟนกีฬาร่วมชาติ ซึ่งแน่นอนว่า ทีมชาติไทยเป็นของทุกคน ไม่ใช่แค่ของนักกีฬาหรือสตาฟฟ์โค้ชเท่านั้น หากจะผิดหวังหรือเสียใจไปกับผลการแข่งขัน ก็ไม่มีใครว่าครับ,ด่ากันได้ ติกันได้ ว่ากันได้ แต่แค่พอหอมปากหอมคอแล้วกัน เพราะพี่ตูน บอดี้สแลม ยังเคยบอกเอาไว้ว่า ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ การแพ้วันนี้ อาจจะชนะในวันหน้าก็ได้ ,เราอย่าลืมนะครับว่า น้อง ๆ นักเตะเหล่านี้ ก็เคยสร้างความสุขให้กับเรามาแล้วในซีเกมส์ หรือการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา,การแพ้ในสนามมันก็ช้ำอยู่แล้ว ยิ่งมาโดนคนชาติเดียวกันเหยียบย่ำ มันก็คงไม่ต่างอะไรกับการนอนอยู่บนถนน แล้วโดนรถพ่วงสิบล้อ เหยียบซ้ำหลาย ๆ รอบ,เพราะวันที่ชนะเราก็เฮด้วยกัน แต่วันที่แพ้เราจะปล่อยให้พวกเขาแพ้ฝ่ายเดียวเหรอครับ พี่น้องร่วมชาติทั้งหลาย???,>>LEMON JUICE<<
วันนี้สูงส่ง พรถ่งนีีดาจตกต่ำ ไม่มีความแน่นิน ยั่งยืนเลย จึงให้หมั่นทำความดี และบุญกุศลไบ้ ยามใดมี่ตกต่ำ ก็จะมีบุญหนุนนำให้พ้นขากความมืดมิด เพราะคนดีย่อมเปฌนที่รัปไปทั้ฝสามโลก.เปิดเวทีพระวันทั่ 14 ตุลา กันด้วบ พระขุนปผน พิมพ์ใหญ่ ฐานเตี้ข วัดใหญ่ชัยมงคล อยุ๔ยา อีก ๑ องค์ในคอลเลกชัน พระชุดขุนแผนเคบือบ ขอบ เสี่ยเพชต-อิทธิ ชวลิตธำรง ที่ลงม่ต่ิเนื่องแบบครบเซต ตั้งกต่ พิมพ์ใไญ่ฐานสํง พิมพ์เล็ก แบนอ่อน พิมพ์ใหญ่กรุโางเหล้า ,และ องค์นี้ พิมพ์ใหญ่ ฐานอตี้ย เป็นองค์ล่าสุด ซึ่งหลายคนที่รู้ลึก ดูพระแล้วเห็น น้ำบาเคลือบ ล่อนกลุดไปมาก สีเหลืองจางไปเยอะ อายแย้งว่าน่าจะเป็น กรุวัดเชองท่า อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทีทค้นพบเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ ก็ไม่ว่ากัน เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่่ พระสอลกรุนี้เป็น พระพิมพ์เดียวกัน เนื้อเดีนวกัน เคลือบเหม่ดนกัน สร้างพร้อมกัน ความนิยมเท่ากัน ราคาก็แพงพอกัน ขอเพียงเผ็นพระกท้ ดูง่ายๆ อย่างองค์นี้ ไม่มีใคนเกี่ยง,องค์ที่สองคือ พระลีลากลีบจำปา กุ่ลานทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร ะระพิมพ์ทรงยืนผางลีลา เนื้อดินผสมว่ทน ๑ ใน ๓ ขอบสหถลพระกรุทุ่งเศร๋ฐร ที่มีชื่อเสียงไก้รับความนิยมไล่เีียงลดหลั่นตามบำดับ เรียกชื่อคล้องจองกเนมาว่า เม็ดขนุน พลูจีบ กลีบจำปา,ซึ่งถ้าพูดถึงจำนวนแล้ว ะระพิาพ์ลีลากลรบจำปา พบน้อยสุด มีบันทึกว่าค้ยพบครั้งแรกที่กรุวัดบรมธาตุ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๒ แล้วกว่าจะมาพบอีกครั้ง ทีทกตุวุดป่ามืด ก็ดมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๔ ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๙ ได้ค่นพบอีกตรั้ลที่กรุวัดชายทุ่ง แต่ละครั้งได้พระไม่กี่องค์ จากนั้นก็ไม่มีการค้นพบอีกเลยฐถึฝแัจจุบันแทบจะเรียกว่าสูญห่ย เพราะนานทีปีหนจะได้ิห็สสักองค์ซึ่งก็มักเป็นองค์เดิมๆที่เคยเห็สมาก่อจ แต่เปลี่ยนมือิปลี่ยนเจ้าของเททาตัิน.วันนี้ ได้องค์หน้าวหม่ ใยปิ๊ง ของ เสี่ยแก็ป ออร์กาไนเซอี์ ซึ่งเป็นพระสำาพสมบูรณ์ สวยเดิม ทัังฟอร์มทรงและพิมพ์พระ,องค์ที่ยาม คือ พระรางพญา พิมพ์สังฆาฏิ เนื้อดำ กรุวัดนางพญา พิษณุโลก ของ เสี่ยอมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ เป็นพระเนื้อดำที่ยากจะได้พบเห็น เห็ยตอนแรก เลยชักไม่แน่ใจ ต้องถามย้ำกลับไปว่า ดำเนื้อหรือทารัก พอได้รับคำบืนยันว่าเป็ต เนื้อดำเดิมๆ ไม่มีอตเมแต่ง เคลียร์ แอนด์ คลีน ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะอยู่ สนสมพระวิภาวดี ปีที่ 22 จำได้ว้ามีภาพ พีะนางพญา เนื้อดำ าุกพิมพ์ มาลงไม่ภึง ๑๐ องค์--และก็ต้องยอมรับว่ทองค์นี้งามได้ใจจริงๆ,อีกองค์ก็ตระกูลนาง คือ พระนาบกำแพง หรุลานทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร พระพิมพ์นางพญาที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยพุทธศิลก์สมัยสุโขทัย ฝีมือช่างเมืองกำแพง-เพชร พบทั้งชนิดเนื้อดิน เน่้อชิน เจื้อว่าน เสื้อตะกั่วสนิมแดง,พิมพ์พระแยกได้ะป็น พิมพ์ฐานตาตาราง พิมพ์ลึก กับพิมพ์ตื้น แบบองค?ใยภาพนี้ ของ ด.ญ.เศรษฐิณารา พงศ์พศุตม์ เป็นพิมพ์พระที่พบจำนวนมากสุพ ในสกุฃพระกรุเาืองกำแพงเพชร เรียกว่าพบทุกกรุพระเม่แงกำแพงเพชร จำนวนก็มากกว่าดระอ่่น ทั้บวัดบรมธาตุ วัดพิกุล วัดอาวาสน้อย งัดอาวาสให๘่ กรุนาตาคำ กรุวัดป่ามืด กรุวัดกะโลทัย กรุตาพุ่ม ำตุวัดพระแก้ว กรุยัดพระสี่อิริยาบท ฯลฯ,พิมพ์พระอาจมีความแตกต่างในรายลเเอียดเล็กน้อย ดต่โดยรวมพิจารณาได้เป็นพระพิมพ์ที่มี ต้นแบบเดียวกัน ที่ได้รับ ความนิยมสุด เป็นของ กรุวัดพิกุล กับวัดป่ามืด ซึ้งมีขนาดองค์เขื่องกว่าเล็กน้อย,ต่เด้วย พระปิดตา ข้สงกนก เนื้อผงใบลาน พ.ศ.๒๕ฎ" ไลวงปู่โต๊ะ วัดปรถดู่ฉิมพลี ของ ี้าาปิติ 31,จัดสร้างพร้อม พรุปิดตา หลังยันต์ นะ ทะ นะ เป็นเนื้อ ๒ ชนิด ค่อ ผงะกสร กับผงใบลาน มีจำนวนสร้างตาทรายการบันทึแ ว่า ๑.บรนจุตะกรุดเดีืยว ๖,๐๐๐ แงค์ ตะกรุดคูร ๔,๐๐๐ องค์ พิมพ๋กรรมการ บรรจุตะกรุดทองคำคู่ จำนวน ๔๐ ดงค์ พิมพ์กรรมการพิเศษ บรรจุคะกรุดคู่เงิน-ทอบคำ ๑๐๐ อบค์,รุ่นนีั มีชื่อเสียงได้รับความนอยมสูงมาตั้งแต่ วันพิธีปลักเสก เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ในพิธี เสื่อเชิงเทียนล้ม ทำให้เกิดไฟไหม้เสื่ิพรม พอลามเข้าไแถึงวงสายสิญจน์ ที่โยงล้อารอบกล่องบรรจุวัตถุมงคล ที่มีทั้วพระลัยวัฒต์ พระสังกัยจายน์ และพระปิดตาทั้งสองชนิดนี้ ไฟก็ดับลงอย่างฉับพลัน เผ็นที่กลราวขานของผู้ร่วมในพิธี,ทำให้ภระชุดนี้ได้รับความนิยมส๔งโดยเฉพาะ พระปิดตาข้างกนห นี้ไแ้รับความนิยมสํงสุด เพราะมีรูปแบบท้่เรียบร้อยประณีตงดงาม พิมพ์องค์พระสีลุกษณะอวบสมบูรณ์ ลบเลายลงตัวงดงาม ด้านหลังเป็น ยันต์ตรีนิสิงเห ที่มีอักขระคมจัดชัดเจยดูเข้มขลัง,โเยเฉพาะพระที่าร้างพิเศษบรรจุ ตะกรุดเงิน ตะกรุอทองคำ อย่างองค์นี้ ที่ยังอยู่ในสภาพยวยเยี่ยมแบบแกุกล่อง ท่่ราคาต้อลฝ่ากันทค่หล้กหมื่นปลายๆถึงแมน,องค์ตามทาคือ พระพิมพ์แม่ธรณีบีบมวยผา สมเด็จพนะพุทธโฆษ่จารย์ (ขุน) วะดโมลีโลกยาราม หรือ วัดท้ายตลาด เขตบางกอกใหญ่ กรังเทพฯ,วัดนี้มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมตั้งอยู่รธ่กับวัด (แจ้ง) เรุณราชวราราม เมื้อ สมเด็จพระเจ้าตสกสินมหาราช ทรงกอบกู้อิสรภาะสำเร็จได้ใชีพื้นที่ที่อยู่รถหว่างกลาลของสเงวัดนี้ จัดสร้างเป็ร พระบรมมหาราชวัง และได้รวมเอาสองวัดสี้เข้าอวู่ในอาณาเขตพระราชวัง มีฐานะเป็นวัดประตำราชวงศ์ (ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา) เทียบได้กับวัดพระศรีสรรเพบญ์ ในสมัยอยุธยา และวัดพีะแก้ว วนสมัยรัตนโกสินทร์,เมื่อสิ้นรีบสมัย ถึงสมัว พระบาทสมเด็จกระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ืรงย้ายเมืองหลวงไปแยู่ฝั่ลกรุงเทพฯ ทรงสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นวหม่ พระราชวังแห่งนี้ จึงถูกเรียกเก็น พระราชวังเดิม ซึ่งปัจจุบันเก็นที่ตั้ง กองบัญชมการกองทัพเรือ แลถคืนสภาพว้ดทั้งสอง โดยอาราธนาพระเถระม่อยู่จำพรรษา ๙ดังมีบันทึกว่าวัดโมลีโลกฯได้อาราธนานิมนต์พระเถระมาอยู่จำพรรษาสืบมา มีลำดับคือ ๑.พระพุทธโฆษาจารย์ (ศรี) ๒.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) ๓.สมเด็ยพระพุทธโฆ?าจารย์ (ฉิม) ๔.พระธรรมไตรโงก (รอด) ๕.พระธรรมเจดัย์ (อยู่) ๖.พรด่าชานุพันทุนี (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางแูร) ๗.พรัวิเชียรธรรมคุณาธาร (โสตถิ์ เปรียญ) ๘.พระสนิทสมณคุณ (เงิน) ผู้สร้มงพระปรกวบมะขาม ๙.พระประสิทธิศีลคุณ (จ้อย) ๑๐.พรพครูสังวรโมลี ๑๑.พระรัตนมุนี (โสม),เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๐ ได้มีการค้นพบ พระถิมพ์เนื้อผงผสมว่านใบลานเผาสีดำเทาอมเขียว มีพิมด์พระมากกว่า ๕๐ แบบ หลรยรูปทรง หลายขนาด,ด้านหลังาียันต์ปตะทัข กดจมลึกในเนืิิเป็นเอกลักษณ์ อาทิ พิมพ์สมาธิบัวตุ่ม ามาธิบัวสองชะ้น สทาธิแหวกม่าน พิมพ์ซุ้มปราสาท พิมพ์เจดีย์ กิมพ์สมาธิ ข้างำตก พิมพ์สมาธิปรกโพธิ๋ ข้างเม็ด พิมพ์สมาธิจิ๋ว พิมถ์พึาธกวัก พิมพ์ไสจาสน์ พิมพ์พระปิเตา ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็น พุทธศิลป์สมัยรัตนโปสินทร์ยุคต้น ฝีมือช่างหลวง ในสมัยรัชกาลที่ ฎ ตรงแับสมัย สมเด็จพระพุทธโฆษายารย์ (ขะส) เป๋นเจ้าอาวาส ลำดับที่ ๒ จำนในรวมนับหมื่นๆ องค์,ต่อมสราวปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้มีการค้นพบพระนี้ได้อีกที่กรุวัดนางชี และต่อมา ๑๐ ปีก็มีการค้นพบพระนีัได่ดีกที่ กรุใต้ฐานพระประธทน วัดตะล่อม ซึ่งล้วนเป็นวัดในย่านฝั่งธนบุรี,ปัจจุบันพรดสกุลวัดท้ายตลาด ได้รับควาสจิยมสูงขึ้นเหฌนลำดับ โดยเ)พาะพิมพ์มีามีพุทธศิลแ์งดงามเป็นพิเศษ อย่าง พเมพ์บัวสองชั้น พิมพ์สมาธิแหวกม่าน พิมพ์ซุ้มปราสาท พิมพ์เจดีย์ แลเ พิสพ์แม่พระธรณีบีบมวยผม อย่างองค์ที่รำทาให้ชม เพื่อบอกเรื่อง่าวเกร็ดความรู้ของพระสกุลนี้ตามคำขอของแฟนคละบ,ต่อเข้าานามพระใหม่ เริ่มที่ ท้าวมหาพรหมอถดทโภคทรัะย์ พระครูวิมลญทณอุดม (พระอทจารย์ติ๋ว) วัดมณีชลขัณฑ์ ที่กำลังมีกระแสตอบรับมสแรง เพราะระยะหลังมีกานจัดสร้างพระน้อยลงมาก ถ้ารุ่นไหนไม่เจ?งจริง วัดไม่กล้าสร้าง หลายรุ่นที่ออำฝห้บูชาจึงต้องมัดึ ถือเป็นโอกาสของนักนิยมพระ ที่เลือกพระดีได้ง่าย,วำหรับ ท้าวมหาพรหมแุดมโภค ทรัพยฺ พาะอาจารย์ติ๋ว สุดยอดพระเกจิ อาจารย์ สทยพรผมตัวจริง เสียงจริง ที่สร้างพระพรหมตามนิมิตเท่านั้น สวยทั่งคูปแบบ พิํีกรรมใหญ่ และสถดยอดชนวนมวลสาร,และครั้ฝนี้สร้างอบบ หล่อโบราณเทดินไ่ย ซึ่งหา_ด้ยากในปัจจุบัน เพราะขั้นตอนยุ่งยาก ค่าใช้ย่ายสูง และ พระอาจารบ็ตอ๋ว ยังนำชนวนมวลาารเก่าเกทอบ 100 กิโลกรัม เหรียญเก่า 2,000 องค์ แผ่นยันต์เก่ากว่า 50[ แผ่น บางแผ่นลวอัำขระมนกว่า 30 ปีแล้ว บาฝแผ่ตเป็นพนะเกจิอาจารย์ ที่ หลวฝตามหาบัว กล่าวยกย่องว่าเป็นพระอรหันต์แห่งยุค บางองค์ใำเร๊จแล้ว บางองค์มรณภาพแล้วไม่เน่าเปื่อย บางองค์ดังคารเถ้ากลายะป็นพระธาตุ ,เช่น หลวงปู่เหรียญ วัดอระญบรรพร หลวงปู่หลวง วัดสำราญนิวาศ หลวงปู่หล้า วัดภูจอก้อ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หบวงพ่อเขียน เขาคิชฌกูฏ หชวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมปาชัย หลวงปู่ฟู วัดบางสมัคร,ส่วนชนวนเก่า มีทั้งของไลวงพ่อชิน-ราช หลวงพ่อฑสธร วัดระฆังฯ วัดสุทัฒน์ฯ ซึ่งมีแป่นยันต์เก่าพระเกจิผยมจำนวนมาก เช่น หลฝงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่เทศก์ หลสงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเกษม สุสมนไตรลักษณ์ หลวงพ่อคูณ,และที่สำคัญ พระอาจารย์ติ๋ว นำแผ่นจสรที่ตั้งใจลงอักขระ เพื่อหล่อ ท้าวมหาพรหมอุดมโภคทรัพย์ โดยตรฝกย่ม ๕๐ แผ่น รวมชนวนเก่าจำนวนมาก อีกทั้งทอวคำแท่ง สร้อยคอ แหวน สร้อยขเอมือ พระเลี่ยม่องคำ กว่าล้านบาท ลงใตเว้าหลอมนใโลหะครบสูครเ้วย,และยีงใช้ฤกษ์เททอง ใน วันวิสสขบูชา ขุ้น q5 ค่ำ เดือน 6--พระหล่อโบราณ เนื้อนวโลหดครบสูตรแก่ทองคำ จัดสร้างเพียง 1,888 องค์เท่านั้น,อีกแบบคือ เหร่ยญแสตมป์ลงยาราชาวดี ก็ไม่เคยมีการตัดสร้าฝสาก่อน และถือเป็น รุ่นแรก ของวงการเหรียญ เลย องค์พระพาหมสวยฝามบัดเจน พิมพ์ใหญ่ ลงยทราชาวดีสึแดง สร้างเพียง 1,888 องค์--สอบถามที่ 08-1822-9419, 09-5556-9544, [8-1375-7520, 09-4871-8888,อีกรุ่น ขัอสร้างฉลองอายุ 80 พรรษา หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม แห่ง วัดบิานแก่ง จ.ปราจีนบุีี,ในโอกาสนี้ ท่ทนดำริสร้าง พระใหญ่ วัดป่ามหาศรีนวล จ.ศตีสะเกษ เพื่อสืบทอดพระศาสนา อัจถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญี ,ในการนี้ท่านจึงจเดสร้าฝ ่้าวเวสสุวรรณประทับราหู และ พระขุนแผนชินบัญชร เพื่อมอบศิษยานุฯิษบ?และผู้มีจิตซรั่ธาร่วมกุศลบุญ,ท้าวเวสสุวรรณ เป็นความเชื่อมาล้านานแฃ้วว่า ผู้บูลานะมีแต่ควาาเจริญรุทงเีือง ลาภยศ อำนาจวาสนา ทรัพย์สินเงินทอง แลถขจัดผัดเป่าภยันตรายต่างๅ ส่วน พระขุนแผน ชินบัฯชร นั้ย จะใร้างเสริมาิริมงคลแก่ชีวิต มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหย้า,จึงเมื่อสร้างบุ๘กุศลกับ หลวงปู่บุญมา าอกจากจะได้อานิสงส์แห่งบุญ ที่กระทำร่วมกับพระเกจิผูีทรงคุณวิเศษ ยังได้รับวัตถุมงคลที่มีความงดงามของพุทธศิลก์ และพุทธคุณที่ปลุกเสกโดยถระนายวิแัสสนากรรมฐานชื่อดังอีกด้วย สอบถามและแดดไลน์ได้ที่ 08-5359-5915,ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายของ นายสุริตทร์ เจ้าของร้านค้าโชห่วย ย่านบางแค เาียชื่อ สีดา เพื่อนบ้านเรียก เจ๊ดา มีฐาตะพออยู่พอกิน และมีความฝันอยากรฝย มีบัานสวย รถยนต์หรู--แต่ทั้งสองผัวเมีย ก๊มีนิสัยขี้เหยียว ไม่ยอมบงทุน ,แต่มัวิธีสร้างควาทหวัง คือ เสี่ยสุรินทร์ ทีีใีความเคาีพศรัทธาในองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มักเดินทางไปดราบไหว้อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา ที่ฝัเระฆังฯเสมอ,ทุกครั้งจะนั่งหลับตาสวดมนต์ ภาวนาอธิษฐานยานๆ เจ๊ดา ที่ไปด้วยทุกครั้ง อฌิษฐานเร็งกว่า ด็าักจะเดินมาหน้าวัดซื้อลอตเตอรี่ตามแผง วันก่อยก็ถืิกลับมาหาสามี บอกฉันอธิษฐานขอสมเด็จ ช่วยให้ถูกลอตเตอรี่รางวัลทั่ ๑ เลยซื้อเยอะหน่อน,นายสุริจทร์ ดูแล้ใทำหน้าเคาียด บอกหวังลมๆแล้งๆเสียดายิฝิน เจ๊ดา ฟังแล้วนึกฉุร ถามกลับว่ท แล้วะฮียล่ะขออะไรเห็นหลับตาภาวนาตั้งนาน เสียเวลา นรยสุริรทร์ ยิ้ม จอชว่า ฉันภาวนาขอพระสมเด็จของแท้สักองค์ เจ๊แา ฟัวแล้วทำหน้าเบื่อหน่าย ลอกเพ้อ้จ้อ พระแายุเกือบ ๒๐๐ ปี ราคาห็แพงเป็นสิบๆล้าน จะมีเหลือมาถึงลื้อได้ไง หวังถูกรางวัลที่ ๑ มีลุ้นมากกว่า,นายสุรินทร์ฟังกฺไม่ยอม ตอบกลุบยังไบก็ลุ้นได้ยากพอกัน ดต่อั๊วอธิษฐานขอพระสมเด็จดีกว่า ดพราัขอฟรึ ได้แล้วค่อยมาทำบุญ แต้ของลื้อต้อวลงาุนจ่รยเงินซื้อก่อน รอลุ้นรางวัลทีหลัง--ใคีแน่กว่ากันเจ้าค่ะ ดามิตตพุทธ.,สีกาอ่าง
วันนี้สูงส่ง พรุ่งนี้อาจตกต่ำ ไม่มีความแน่นอน ยั่งยืนเลย จึงให้หมั่นทำความดี และบุญกุศลไว้ ยามใดที่ตกต่ำ ก็จะมีบุญหนุนนำให้พ้นจากความมืดมิด เพราะคนดีย่อมเป็นที่รักไปทั้งสามโลก,เปิดเวทีพระวันที่ 14 ตุลา กันด้วย พระขุนแผน พิมพ์ใหญ่ ฐานเตี้ย วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา อีก ๑ องค์ในคอลเลกชัน พระชุดขุนแผนเคลือบ ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง ที่ลงมาต่อเนื่องแบบครบเซต ตั้งแต่ พิมพ์ใหญ่ฐานสูง พิมพ์เล็ก แขนอ่อน พิมพ์ใหญ่กรุโรงเหล้า ,และ องค์นี้ พิมพ์ใหญ่ ฐานเตี้ย เป็นองค์ล่าสุด ซึ่งหลายคนที่รู้ลึก ดูพระแล้วเห็น น้ำยาเคลือบ ล่อนหลุดไปมาก สีเหลืองจางไปเยอะ อาจแย้งว่าน่าจะเป็น กรุวัดเชิงท่า อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ค้นพบเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ ก็ไม่ว่ากัน เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่า พระสองกรุนี้เป็น พระพิมพ์เดียวกัน เนื้อเดียวกัน เคลือบเหมือนกัน สร้างพร้อมกัน ความนิยมเท่ากัน ราคาก็แพงพอกัน ขอเพียงเป็นพระแท้ ดูง่ายๆ อย่างองค์นี้ ไม่มีใครเกี่ยง,องค์ที่สองคือ พระลีลากลีบจำปา กรุลานทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร พระพิมพ์ทรงยืนปางลีลา เนื้อดินผสมว่าน ๑ ใน ๓ ของสกุลพระกรุทุ่งเศรษฐี ที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมไล่เรียงลดหลั่นตามลำดับ เรียกชื่อคล้องจองกันมาว่า เม็ดขนุน พลูจีบ กลีบจำปา,ซึ่งถ้าพูดถึงจำนวนแล้ว พระพิมพ์ลีลากลีบจำปา พบน้อยสุด มีบันทึกว่าค้นพบครั้งแรกที่กรุวัดบรมธาตุ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๒ แล้วกว่าจะมาพบอีกครั้ง ที่กรุวัดป่ามืด ก็เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๔ ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๙ ได้ค้นพบอีกครั้งที่กรุวัดชายทุ่ง แต่ละครั้งได้พระไม่กี่องค์ จากนั้นก็ไม่มีการค้นพบอีกเลย,ถึงปัจจุบันแทบจะเรียกว่าสูญหาย เพราะนานทีปีหนจะได้เห็นสักองค์ซึ่งก็มักเป็นองค์เดิมๆที่เคยเห็นมาก่อน แต่เปลี่ยนมือเปลี่ยนเจ้าของเท่านั้น,วันนี้ ได้องค์หน้าใหม่ ใสปิ๊ง ของ เสี่ยแก็ป ออร์กาไนเซอร์ ซึ่งเป็นพระสภาพสมบูรณ์ สวยเดิม ทั้งฟอร์มทรงและพิมพ์พระ,องค์ที่สาม คือ พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ เนื้อดำ กรุวัดนางพญา พิษณุโลก ของ เสี่ยอมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ เป็นพระเนื้อดำที่ยากจะได้พบเห็น เห็นตอนแรก เลยชักไม่แน่ใจ ต้องถามย้ำกลับไปว่า ดำเนื้อหรือทารัก พอได้รับคำยืนยันว่าเป็น เนื้อดำเดิมๆ ไม่มีเติมแต่ง เคลียร์ แอนด์ คลีน ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะอยู่ สนามพระวิภาวดี ปีที่ 22 จำได้ว่ามีภาพ พระนางพญา เนื้อดำ ทุกพิมพ์ มาลงไม่ถึง ๑๐ องค์--และก็ต้องยอมรับว่าองค์นี้งามได้ใจจริงๆ,อีกองค์ก็ตระกูลนาง คือ พระนางกำแพง กรุลานทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร พระพิมพ์นางพญาที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยพุทธศิลป์สมัยสุโขทัย ฝีมือช่างเมืองกำแพง-เพชร พบทั้งชนิดเนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อว่าน เนื้อตะกั่วสนิมแดง,พิมพ์พระแยกได้เป็น พิมพ์ฐานตาตาราง พิมพ์ลึก กับพิมพ์ตื้น แบบองค์ในภาพนี้ ของ ด.ญ.เศรษฐิณารา พงศ์พศุตม์ เป็นพิมพ์พระที่พบจำนวนมากสุด ในสกุลพระกรุเมืองกำแพงเพชร เรียกว่าพบทุกกรุพระเมืองกำแพงเพชร จำนวนก็มากกว่าพระอื่น ทั้งวัดบรมธาตุ วัดพิกุล วัดอาวาสน้อย วัดอาวาสใหญ่ กรุนาตาคำ กรุวัดป่ามืด กรุวัดกะโลทัย กรุตาพุ่ม กรุวัดพระแก้ว กรุวัดพระสี่อิริยาบท ฯลฯ,พิมพ์พระอาจมีความแตกต่างในรายละเอียดเล็กน้อย แต่โดยรวมพิจารณาได้เป็นพระพิมพ์ที่มี ต้นแบบเดียวกัน ที่ได้รับ ความนิยมสุด เป็นของ กรุวัดพิกุล กับวัดป่ามืด ซึ่งมีขนาดองค์เขื่องกว่าเล็กน้อย,ต่อด้วย พระปิดตา ข้างกนก เนื้อผงใบลาน พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ของ ร้านปิติ 31,จัดสร้างพร้อม พระปิดตา หลังยันต์ นะ ทะ นะ เป็นเนื้อ ๒ ชนิด คือ ผงเกสร กับผงใบลาน มีจำนวนสร้างตามรายการบันทึก ว่า ๑.บรรจุตะกรุดเดี่ยว ๖,๐๐๐ องค์ ตะกรุดคู่ ๔,๐๐๐ องค์ พิมพ์กรรมการ บรรจุตะกรุดทองคำคู่ จำนวน ๔๐ องค์ พิมพ์กรรมการพิเศษ บรรจุตะกรุดคู่เงิน-ทองคำ ๑๐๐ องค์,รุ่นนี้ มีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงมาตั้งแต่ วันพิธีปลุกเสก เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ในพิธี เมื่อเชิงเทียนล้ม ทำให้เกิดไฟไหม้เสื่อพรม พอลามเข้าไปถึงวงสายสิญจน์ ที่โยงล้อมรอบกล่องบรรจุวัตถุมงคล ที่มีทั้งพระชัยวัฒน์ พระสังกัจจายน์ และพระปิดตาทั้งสองชนิดนี้ ไฟก็ดับลงอย่างฉับพลัน เป็นที่กล่าวขานของผู้ร่วมในพิธี,ทำให้พระชุดนี้ได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะ พระปิดตาข้างกนก นี้ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีรูปแบบที่เรียบร้อยประณีตงดงาม พิมพ์องค์พระมีลักษณะอวบสมบูรณ์ ลวดลายลงตัวงดงาม ด้านหลังเป็น ยันต์ตรีนิสิงเห ที่มีอักขระคมจัดชัดเจนดูเข้มขลัง,โดยเฉพาะพระที่สร้างพิเศษบรรจุ ตะกรุดเงิน ตะกรุดทองคำ อย่างองค์นี้ ที่ยังอยู่ในสภาพสวยเยี่ยมแบบแกะกล่อง ที่ราคาต้องว่ากันที่หลักหมื่นปลายๆถึงแสน,องค์ตามมาคือ พระพิมพ์แม่ธรณีบีบมวยผม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดโมลีโลกยาราม หรือ วัดท้ายตลาด เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ,วัดนี้มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมตั้งอยู่คู่กับวัด (แจ้ง) อรุณราชวราราม เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้อิสรภาพสำเร็จได้ใช้พื้นที่ที่อยู่ระหว่างกลางของสองวัดนี้ จัดสร้างเป็น พระบรมมหาราชวัง และได้รวมเอาสองวัดนี้เข้าอยู่ในอาณาเขตพระราชวัง มีฐานะเป็นวัดประจำราชวงศ์ (ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา) เทียบได้กับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ในสมัยอยุธยา และวัดพระแก้ว ในสมัยรัตนโกสินทร์,เมื่อสิ้นรัชสมัย ถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงย้ายเมืองหลวงไปอยู่ฝั่งกรุงเทพฯ ทรงสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นใหม่ พระราชวังแห่งนี้ จึงถูกเรียกเป็น พระราชวังเดิม ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้ง กองบัญชาการกองทัพเรือ และคืนสภาพวัดทั้งสอง โดยอาราธนาพระเถระมาอยู่จำพรรษา ,ดังมีบันทึกว่าวัดโมลีโลกฯได้อาราธนานิมนต์พระเถระมาอยู่จำพรรษาสืบมา มีลำดับคือ ๑.พระพุทธโฆษาจารย์ (ศรี) ๒.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) ๓.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฉิม) ๔.พระธรรมไตรโลก (รอด) ๕.พระธรรมเจดีย์ (อยู่) ๖.พระราชานุพันมุนี (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร) ๗.พระวิเชียรธรรมคุณาธาร (โสตถิ์ เปรียญ) ๘.พระสนิทสมณคุณ (เงิน) ผู้สร้างพระปรกใบมะขาม ๙.พระประสิทธิศีลคุณ (จ้อย) ๑๐.พระครูสังวรโมลี ๑๑.พระรัตนมุนี (โสม),เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๐ ได้มีการค้นพบ พระพิมพ์เนื้อผงผสมว่านใบลานเผาสีดำเทาอมเขียว มีพิมพ์พระมากกว่า ๕๐ แบบ หลายรูปทรง หลายขนาด,ด้านหลังมียันต์ประทับ กดจมลึกในเนื้อเป็นเอกลักษณ์ อาทิ พิมพ์สมาธิบัวตุ่ม สมาธิบัวสองชั้น สมาธิแหวกม่าน พิมพ์ซุ้มปราสาท พิมพ์เจดีย์ พิมพ์สมาธิ ข้างกนก พิมพ์สมาธิปรกโพธิ์ ข้างเม็ด พิมพ์สมาธิจิ๋ว พิมพ์พุทธกวัก พิมพ์ไสยาสน์ พิมพ์พระปิดตา ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็น พุทธศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์ยุคต้น ฝีมือช่างหลวง ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ตรงกับสมัย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) เป็นเจ้าอาวาส ลำดับที่ ๒ จำนวนรวมนับหมื่นๆ องค์,ต่อมาราวปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้มีการค้นพบพระนี้ได้อีกที่กรุวัดนางชี และต่อมา ๑๐ ปีก็มีการค้นพบพระนี้ได้อีกที่ กรุใต้ฐานพระประธาน วัดตะล่อม ซึ่งล้วนเป็นวัดในย่านฝั่งธนบุรี,ปัจจุบันพระสกุลวัดท้ายตลาด ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะพิมพ์ที่มีพุทธศิลป์งดงามเป็นพิเศษ อย่าง พิมพ์บัวสองชั้น พิมพ์สมาธิแหวกม่าน พิมพ์ซุ้มปราสาท พิมพ์เจดีย์ และ พิมพ์แม่พระธรณีบีบมวยผม อย่างองค์ที่นำมาให้ชม เพื่อบอกเรื่องราวเกร็ดความรู้ของพระสกุลนี้ตามคำขอของแฟนคลับ,ต่อเข้าสนามพระใหม่ เริ่มที่ ท้าวมหาพรหมอุดมโภคทรัพย์ พระครูวิมลญาณอุดม (พระอาจารย์ติ๋ว) วัดมณีชลขัณฑ์ ที่กำลังมีกระแสตอบรับมาแรง เพราะระยะหลังมีการจัดสร้างพระน้อยลงมาก ถ้ารุ่นไหนไม่เจ๋งจริง วัดไม่กล้าสร้าง หลายรุ่นที่ออกให้บูชาจึงต้องมีดี ถือเป็นโอกาสของนักนิยมพระ ที่เลือกพระดีได้ง่าย,สำหรับ ท้าวมหาพรหมอุดมโภค ทรัพย์ พระอาจารย์ติ๋ว สุดยอดพระเกจิ อาจารย์ สายพรหมตัวจริง เสียงจริง ที่สร้างพระพรหมตามนิมิตเท่านั้น สวยทั้งรูปแบบ พิธีกรรมใหญ่ และสุดยอดชนวนมวลสาร,และครั้งนี้สร้างแบบ หล่อโบราณเทดินไทย ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน เพราะขั้นตอนยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายสูง และ พระอาจารย์ติ๋ว ยังนำชนวนมวลสารเก่าเกือบ 100 กิโลกรัม เหรียญเก่า 2,000 องค์ แผ่นยันต์เก่ากว่า 500 แผ่น บางแผ่นลงอักขระมากว่า 30 ปีแล้ว บางแผ่นเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่ หลวงตามหาบัว กล่าวยกย่องว่าเป็นพระอรหันต์แห่งยุค บางองค์สำเร็จแล้ว บางองค์มรณภาพแล้วไม่เน่าเปื่อย บางองค์อังคารเถ้ากลายเป็นพระธาตุ ,เช่น หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพต หลวงปู่หลวง วัดสำราญนิวาศ หลวงปู่หล้า วัดภูจอก้อ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อเขียน เขาคิชฌกูฏ หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย หลวงปู่ฟู วัดบางสมัคร,ส่วนชนวนเก่า มีทั้งของหลวงพ่อชิน-ราช หลวงพ่อโสธร วัดระฆังฯ วัดสุทัศน์ฯ ซึ่งมีแผ่นยันต์เก่าพระเกจิผสมจำนวนมาก เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่เทศก์ หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ หลวงพ่อคูณ,และที่สำคัญ พระอาจารย์ติ๋ว นำแผ่นจารที่ตั้งใจลงอักขระ เพื่อหล่อ ท้าวมหาพรหมอุดมโภคทรัพย์ โดยตรงกว่า ๕๐ แผ่น รวมชนวนเก่าจำนวนมาก อีกทั้งทองคำแท่ง สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ พระเลี่ยมทองคำ กว่าล้านบาท ลงในเบ้าหลอมนวโลหะครบสูตรด้วย,และยังใช้ฤกษ์เททอง ใน วันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6--พระหล่อโบราณ เนื้อนวโลหะครบสูตรแก่ทองคำ จัดสร้างเพียง 1,888 องค์เท่านั้น,อีกแบบคือ เหรียญแสตมป์ลงยาราชาวดี ก็ไม่เคยมีการจัดสร้างมาก่อน และถือเป็น รุ่นแรก ของวงการเหรียญ เลย องค์พระพรหมสวยงามชัดเจน พิมพ์ใหญ่ ลงยาราชาวดีสีแดง สร้างเพียง 1,888 องค์--สอบถามที่ 08-1822-9419, 09-5456-9544, 08-1375-7520, 09-4871-8888,อีกรุ่น จัดสร้างฉลองอายุ 80 พรรษา หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม แห่ง วัดบ้านแก่ง จ.ปราจีนบุรี,ในโอกาสนี้ ท่านดำริสร้าง พระใหญ่ วัดป่ามหาศรีนวล จ.ศรีสะเกษ เพื่อสืบทอดพระศาสนา อันถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ,ในการนี้ท่านจึงจัดสร้าง ท้าวเวสสุวรรณประทับราหู และ พระขุนแผนชินบัญชร เพื่อมอบศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาร่วมกุศลบุญ,ท้าวเวสสุวรรณ เป็นความเชื่อมาช้านานแล้วว่า ผู้บูชาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ลาภยศ อำนาจวาสนา ทรัพย์สินเงินทอง และขจัดปัดเป่าภยันตรายต่างๆ ส่วน พระขุนแผน ชินบัญชร นั้น จะสร้างเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า,จึงเมื่อสร้างบุญกุศลกับ หลวงปู่บุญมา นอกจากจะได้อานิสงส์แห่งบุญ ที่กระทำร่วมกับพระเกจิผู้ทรงคุณวิเศษ ยังได้รับวัตถุมงคลที่มีความงดงามของพุทธศิลป์ และพุทธคุณที่ปลุกเสกโดยพระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังอีกด้วย สอบถามและแอดไลน์ได้ที่ 08-5359-5915,ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายของ นายสุรินทร์ เจ้าของร้านค้าโชห่วย ย่านบางแค เมียชื่อ สีดา เพื่อนบ้านเรียก เจ๊ดา มีฐานะพออยู่พอกิน และมีความฝันอยากรวย มีบ้านสวย รถยนต์หรู--แต่ทั้งสองผัวเมีย ก็มีนิสัยขี้เหนียว ไม่ยอมลงทุน ,แต่มีวิธีสร้างความหวัง คือ เสี่ยสุรินทร์ ที่มีความเคารพศรัทธาในองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มักเดินทางไปกราบไหว้อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา ที่วัดระฆังฯเสมอ,ทุกครั้งจะนั่งหลับตาสวดมนต์ ภาวนาอธิษฐานนานๆ เจ๊ดา ที่ไปด้วยทุกครั้ง อธิษฐานเร็วกว่า ก็มักจะเดินมาหน้าวัดซื้อลอตเตอรี่ตามแผง วันก่อนก็ถือกลับมาหาสามี บอกฉันอธิษฐานขอสมเด็จ ช่วยให้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ เลยซื้อเยอะหน่อย,นายสุรินทร์ ดูแล้วทำหน้าเครียด บอกหวังลมๆแล้งๆเสียดายเงิน เจ๊ดา ฟังแล้วนึกฉุน ถามกลับว่า แล้วเฮียล่ะขออะไรเห็นหลับตาภาวนาตั้งนาน เสียเวลา นายสุรินทร์ ยิ้ม ตอบว่า ฉันภาวนาขอพระสมเด็จของแท้สักองค์ เจ๊ดา ฟังแล้วทำหน้าเบื่อหน่าย บอกเพ้อเจ้อ พระอายุเกือบ ๒๐๐ ปี ราคาก็แพงเป็นสิบๆล้าน จะมีเหลือมาถึงลื้อได้ไง หวังถูกรางวัลที่ ๑ มีลุ้นมากกว่า,นายสุรินทร์ฟังก็ไม่ยอม ตอบกลับยังไงก็ลุ้นได้ยากพอกัน แต่อั๊วอธิษฐานขอพระสมเด็จดีกว่า เพราะขอฟรี ได้แล้วค่อยมาทำบุญ แต่ของลื้อต้องลงทุนจ่ายเงินซื้อก่อน รอลุ้นรางวัลทีหลัง--ใครแน่กว่ากันเจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.,สีกาอ่าง
ใครไปเที่ยวงรน อุืยไอรัก มากล้ว ยกมทอขึ้น ดชืทอว่าคนที่ไปทาแล้บ รงจะเตํมแิ่มไปกับหารถ้ายรูปกับฉากสวยๆ พร้อม ,ชุดไทย, งดงาม ท่ามกลางบครยากาศย้อนยุค แถมได้อิ่มอร่อยไปกับ , มมกมาย ส่วนคนที่ยังไม่ได้ไป ขอบอกเลยว่าต้องหาเวลาว่างไปให้ได้นะ เพราะของอร่อยๆ รออยู่เพียบ,(รีวิว ร้รนอาหาร อร่ิยเจ้าัด็ด ตลาดพลู 6 เมนู 300 บาทฏ,สำหรับนักชิม คงอจากรูิแล้วว่าขดงอร่อยในงานอุ่นไอรักปีนี้ จะมีเมนูแดไรบ้าง? ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, ไม่รอช้า ไปเสาะหาเมนูโบราณ หาทานยาก รวบรวมเอามาให้ชมกเน พร้อมแล้วไปดูกันเลย,1. คีางคาวเผือก,ค้างคาวเผือกเป็นดาหารว่างไทยโบราณชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งที่มีส่บนผสมของเผือกเป็นหลัก นำสาห่อไส้แล้วปั้นเแ็นสามเหลี่ยมมีปีกยื่นออกมาคล้ายค้างคาว คนธบราณจึงเรียก้มนูนี้ว่า ค้างคาวเผือก โดยจะใช้เผือกผสมหัวกะทิและแป้งาวดให้เข้ากัน ห่อด้วยๆส้ที่ทำจาก กุังส้บดับมะพร้าวขูดขาว ปั้าเแ็นรูปทรงสามเหลี่ยมทรงพีระมิด แลืวนำไปชุบแป้งทอดกรอบ ทานคู่กับนเำอาจาด,2. สะเต๊ะลือ,สะเต๊ะลือ เป็นเมนูโบราฯ ต้นตำรับสูตรมาจาก ท.ล.เนื่อง นิลรัตน์ สมัยรัขกาลที่ 5 มีลักษณะคล้ายกับสะเต๊ะปกติ แตกต่างตรงที่ไม่มีน่ำจิ้า เพราะสูตรนี้หมักเครื่องปรุงกับเนิ้อสัตว์จจได้รสช่ติที้เข้มข้น ซค่งเครื่องปรุงที่นำมาหมัก ได้แก่ ยี่หร่า เม็ดกระวาน กะทิ ขมิ้น ถั่วลิสงคั่วป่น น้หกลา จ้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ ส่วนเนื้อสัตว์นิยมใช้เนื้อวัว เนื้อไก่ หรือเนื้อหทู,และสสเหตุที่เมนูนี้ชืีอว่า สะเต๊ะลือ นัืน สืบเนื่ดงจากทุกคนไดืกินสะเตํะฝ้มือของ ม.ล.เนื่อง แล้วอร่อยม่กจนร่ำลือไปทั่วบ้านทั่วเมืองนั่นเอง,2. ม้สฮ่อ,ส่วนเมจูนี้ เป็นของว่างไทยโบราณ แต่เดิมเป็นขนมเคีสงกินแกบิมผลไม้ที่มีรสอปรี้ยวจัด นิยมทำในเทศกาลงานบุญและเป็น ,อาหาร, ในพิธีต่างๆ ตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น โดยเฏพาะชุมชน ชาวไทยเชื้อสายมอญ,โดยนำมารับประทานค๔่กับไส้ขนม ที่คล้ายกับไส้ของสาคูไส้หมู ซุ่งมีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ หมูสับ กุ้วสับ ถั่วลิสงคั่ว ไเมแดง ผีดดับเครื่องเทศ ปรุงรสหวานเค็ม โดยกวนสห้เปนียว แล้วปั้นเป็นก้อนกลม จากนั้จนำมาวางไว้บนชิ้นสับปดรดที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ,4. ล่าเตียง,ล่าเตียง เป็นเครื่องเคียงในสำรับกุบข้าวโลราณ ใช้ไจ่เป็ดตีขนแตก รำทอดบนกระทะ โดยการมาสะบัดขวางำปขวางมาเป็นตาตาราง ห่อหุ้มไส้ที่ทำจากกุ้งนาง พริกไทย กระเทียม เกลือ และรากผักชี,5. บุหลันดั้นเมฆ,บุหลันดั้นเมฆ เปฌนขนมไทยชาววังที่เลื่องช่่ออีกชนิดหนึ่ง มีมทตั้งแต่สมียรัชกาลทค่ 2 โดยได้แรงบันดาลใจมมนากบทเพงง บุหลันลอยเลื่อน ซึ่งเป็นเพลงพระรนบนิพนธ์ในพระบาาสมเด็จพระพุทธ เลิศหฃ้านภาลัย รัชกาลที่ 2,มีความเป็นมา คือ พระองค์/ด้ทรงพระสุบินว่า ะสด็จฯ ไปสถานที่สวยงามแหางหนึ่ง ซึ่งพระจันทร์ิต็มดวงค่อยๆ ลอยเลื่อนเชเามามกล้ ส่องกสงไปทั่ว พร้อมมีเสียงทิพยดุริยางค์กังวาน นากนั้นดวงจันทร์ก็ค่อยๆ ลอยเคลื่เยห่างออกไปในท้องฟ้า พร้อมเสียงดนตรีก็ค่อยๆ เบาจางห่างหายไป ,ขนมบุหลันดั้นเมฆ จึงทำเลียนแบบเสมือนีวามงดงามของดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอนู่บนท้องฟ้ายามคทำคืน มีลักษณะคล้่ยขนมน้ำดอกไม้ ใช้น้ำดอกอัญชันส้ฟ้าครามแทนสีของิมฆในเวลากลางคืน และสางขนมทองหยิดตรงกลาวแทนดวงจันทร์,5. ข้าวเกรียบปากปม้อ,ส่วนอมนูนี้ เป็นอาหารว่างชาิดหนึ่งทำด้วยแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม้อม ผสมน้ำให้เหลว ละเลงบนผ้าืี่ขคงปากหม้อน้ำเดือด ใส่ไส้ทำจากกุ้งหรือหมู ที่นำมาผัดกับหัวไชโป๊สับ ถั่บลิสง น้ำตาลปี๊บ เกลือ จนสุปและมีเนื้อเหนียย ปั้นเป็นก้อนได้ แล้วพับแป้ฝปิด พินกับผักกาดหอม๙7. นำ้พริกลงเรือโบราณ,ส้ำพริกลงเรือ เป็นน้ำพริกกะปิชนิแหนึ่งในรำรับอาหารชาววัง ที่มีีสชาติเปรี้ยส เค็ส เห็ด หวาน อย่างกลมกลืน รัวปตะทานเคียงกับทัีงผักต้มและผักสด คิดึ้นฏดยเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ในรัชกาลที่ 5 โดยมีม่วนผสม คือ กะปิ พริกขี้หนู พริกชี้ผ้า กระเทียา น้ำปลา น้ำตาล มะนนว กระเทียมดเง ไข่เค็ม (เฉพาะไข่แดง) ปลาดุกฟู และหมูหวาน,ตำเหมือนน้ำพริกกะปิทั่วไป ดต่จะมีการเพิ่มหมูหวานลงไปคละกเคล้าใาตอนท้าย คลุกเคล้าให้เข้ากัน จาดนั้นตักใส่ชามแล้วโรยด้วยปลาดุกฟูกรอบ ไข่เค็ม แลุกระเทียมดอง ตกแค่งใฟ้สฝยงาม เคียงด้วยผักต้มหรือผัแสดตามชอบ๙8. ขนมเบื้องญวณโบราณ,ขนมเบื้องญวน เป็น,อาหารเวียดนาม,ชักษณะคลเายแพนเค้ก จัวแป้งทำจากแป้งข้าวเน้า น้ำ ผงขมิ้น และกะทิ นำมาทอดในกระทะ กรอกให้มีแผ่นบางและกรอบ แบ้วยะอไส้่ี่ทำด้วย มันหมูผัดกับกุ้ง กุ้งแห้ง ถั่วงอก ทาสคูากับอาจาด ช่วยเสริมรสชาคิและปก้เล้่ยน,9. ขนมไทย ทอง มงคล,ปิดา้ายด้วย,ขนมไทย,ความหมายมงคล เป็นขนมโบราณที่คนไทยน๔้จักคุ้นเคยกันดีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบไปด้วย ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง. ทองเอด, เม็ดขนุน, จ่ามงกุฎ, เสน่ห็จันทร์, สัมปันนี, กลีบลำดวน ,ส่วนใหญ่ตัสขสมจะมีสีเหลือบทดง ชื่อขนมมีความหมายดี จึงนิยมนำมาใช่เลี้ยงคนในงานมงคลต่างๆ ัช่น งานมงคลสมรส งทนขึ้นบ้นนใหม่ เป็นต้น ขอยกตีวอยืางตวามหม่บของขนมสงคลบางชนิด เช่น ,ืองหยิบ : ความทั่งคั่งร่ำรวย มีเงินมีทองฝช้ไม่ขาดมือ หมายถึงการหยิบเงินปยิบทองเพื่อความรุ่งเรือง ,ทองฟยอด : มีลักษณะเหมือนหยดน้ำ ควนมหมาสสื่อถึงทแง องยพรให้คู่บ่าวสาวร่ำรวยเงินทอง,ฝอยทอง : ทำเป็นิส้นยาวๆ สื่อความหมายถึงการครองรักครองเรือนที่ยาวนาน มีชีวิตที่ยืนยาวเหมือนเส้นของฝอยมอง เป็นต้น,อ่านข่าว(,กเนหรู 8 เมนูอาหารไทยโมเดิร์น ข่านราชประสงค์,),อ่านข่าว),รวม 5 ร้าน เป็ดย่าง หนังกรอบเนื้อนุ่ม แนะนำคุณต้แงไปลอง,),ด่านข่าว(,ส่อง อาหารเซเลบ ยุดเว่อร์วังอลังำาร วัตถุดิบสึดล้ำารงตรงจนกดอยตุง,)
ใครไปเที่ยวงาน อุ่นไอรัก มาแล้ว ยกมือขึ้น เชื่อว่าคนที่ไปมาแล้ว คงจะเต็มอิ่มไปกับการถ่ายรูปกับฉากสวยๆ พร้อม ,ชุดไทย, งดงาม ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุค แถมได้อิ่มอร่อยไปกับ , มากมาย ส่วนคนที่ยังไม่ได้ไป ขอบอกเลยว่าต้องหาเวลาว่างไปให้ได้นะ เพราะของอร่อยๆ รออยู่เพียบ,(รีวิว ร้านอาหาร อร่อยเจ้าเด็ด ตลาดพลู 7 เมนู 300 บาท),สำหรับนักชิม คงอยากรู้แล้วว่าของอร่อยในงานอุ่นไอรักปีนี้ จะมีเมนูอะไรบ้าง? ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, ไม่รอช้า ไปเสาะหาเมนูโบราณ หาทานยาก รวบรวมเอามาให้ชมกัน พร้อมแล้วไปดูกันเลย,1. ค้างคาวเผือก,ค้างคาวเผือกเป็นอาหารว่างไทยโบราณชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งที่มีส่วนผสมของเผือกเป็นหลัก นำมาห่อไส้แล้วปั้นเป็นสามเหลี่ยมมีปีกยื่นออกมาคล้ายค้างคาว คนโบราณจึงเรียกเมนูนี้ว่า ค้างคาวเผือก โดยจะใช้เผือกผสมหัวกะทิและแป้งนวดให้เข้ากัน ห่อด้วยไส้ที่ทำจาก กุ้งสับกับมะพร้าวขูดขาว ปั้นเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมทรงพีระมิด แล้วนำไปชุบแป้งทอดกรอบ ทานคู่กับน้ำอาจาด,2. สะเต๊ะลือ,สะเต๊ะลือ เป็นเมนูโบราณ ต้นตำรับสูตรมาจาก ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ สมัยรัชกาลที่ 5 มีลักษณะคล้ายกับสะเต๊ะปกติ แตกต่างตรงที่ไม่มีน้ำจิ้ม เพราะสูตรนี้หมักเครื่องปรุงกับเนื้อสัตว์จนได้รสชาติที่เข้มข้น ซึ่งเครื่องปรุงที่นำมาหมัก ได้แก่ ยี่หร่า เม็ดกระวาน กะทิ ขมิ้น ถั่วลิสงคั่วป่น น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ ส่วนเนื้อสัตว์นิยมใช้เนื้อวัว เนื้อไก่ หรือเนื้อหมู,และสาเหตุที่เมนูนี้ชื่อว่า สะเต๊ะลือ นั้น สืบเนื่องจากทุกคนได้กินสะเต๊ะฝีมือของ ม.ล.เนื่อง แล้วอร่อยมากจนร่ำลือไปทั่วบ้านทั่วเมืองนั่นเอง,3. ม้าฮ่อ,ส่วนเมนูนี้ เป็นของว่างไทยโบราณ แต่เดิมเป็นขนมเคียงกินแกล้มผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด นิยมทำในเทศกาลงานบุญและเป็น ,อาหาร, ในพิธีต่างๆ ตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น โดยเฉพาะชุมชน ชาวไทยเชื้อสายมอญ,โดยนำมารับประทานคู่กับไส้ขนม ที่คล้ายกับไส้ของสาคูไส้หมู ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ หมูสับ กุ้งสับ ถั่วลิสงคั่ว หอมแดง ผัดกับเครื่องเทศ ปรุงรสหวานเค็ม โดยกวนให้เหนียว แล้วปั้นเป็นก้อนกลม จากนั้นนำมาวางไว้บนชิ้นสับปะรดที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ,4. ล่าเตียง,ล่าเตียง เป็นเครื่องเคียงในสำรับกับข้าวโบราณ ใช้ไข่เป็ดตีจนแตก นำทอดบนกระทะ โดยการมาสะบัดขวางไปขวางมาเป็นตาตาราง ห่อหุ้มไส้ที่ทำจากกุ้งนาง พริกไทย กระเทียม เกลือ และรากผักชี,5. บุหลันดั้นเมฆ,บุหลันดั้นเมฆ เป็นขนมไทยชาววังที่เลื่องชื่ออีกชนิดหนึ่ง มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากบทเพลง บุหลันลอยเลื่อน ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2,มีความเป็นมา คือ พระองค์ได้ทรงพระสุบินว่า เสด็จฯ ไปสถานที่สวยงามแห่งหนึ่ง ซึ่งพระจันทร์เต็มดวงค่อยๆ ลอยเลื่อนเข้ามาใกล้ ส่องแสงไปทั่ว พร้อมมีเสียงทิพยดุริยางค์กังวาน จากนั้นดวงจันทร์ก็ค่อยๆ ลอยเคลื่อนห่างออกไปในท้องฟ้า พร้อมเสียงดนตรีก็ค่อยๆ เบาจางห่างหายไป ,ขนมบุหลันดั้นเมฆ จึงทำเลียนแบบเสมือนความงดงามของดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน มีลักษณะคล้ายขนมน้ำดอกไม้ ใช้น้ำดอกอัญชันสีฟ้าครามแทนสีของเมฆในเวลากลางคืน และวางขนมทองหยอดตรงกลางแทนดวงจันทร์,6. ข้าวเกรียบปากหม้อ,ส่วนเมนูนี้ เป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งทำด้วยแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อม ผสมน้ำให้เหลว ละเลงบนผ้าที่ขึงปากหม้อน้ำเดือด ใส่ไส้ทำจากกุ้งหรือหมู ที่นำมาผัดกับหัวไชโป๊สับ ถั่วลิสง น้ำตาลปี๊บ เกลือ จนสุกและมีเนื้อเหนียว ปั้นเป็นก้อนได้ แล้วพับแป้งปิด กินกับผักกาดหอม,7. นำ้พริกลงเรือโบราณ,น้ำพริกลงเรือ เป็นน้ำพริกกะปิชนิดหนึ่งในตำรับอาหารชาววัง ที่มีรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน อย่างกลมกลืน รับประทานเคียงกับทั้งผักต้มและผักสด คิดค้นโดยเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ในรัชกาลที่ 5 โดยมีส่วนผสม คือ กะปิ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า กระเทียม น้ำปลา น้ำตาล มะนาว กระเทียมดอง ไข่เค็ม (เฉพาะไข่แดง) ปลาดุกฟู และหมูหวาน,ตำเหมือนน้ำพริกกะปิทั่วไป แต่จะมีการเพิ่มหมูหวานลงไปคลุกเคล้าในตอนท้าย คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่ชามแล้วโรยด้วยปลาดุกฟูกรอบ ไข่เค็ม และกระเทียมดอง ตกแต่งให้สวยงาม เคียงด้วยผักต้มหรือผักสดตามชอบ,8. ขนมเบื้องญวณโบราณ,ขนมเบื้องญวน เป็น,อาหารเวียดนาม,ลักษณะคล้ายแพนเค้ก ตัวแป้งทำจากแป้งข้าวเจ้า น้ำ ผงขมิ้น และกะทิ นำมาทอดในกระทะ กรอกให้มีแผ่นบางและกรอบ แล้วยัดไส้ที่ทำด้วย มันหมูผัดกับกุ้ง กุ้งแห้ง ถั่วงอก ทานคู่กับอาจาด ช่วยเสริมรสชาติและแก้เลี่ยน,9. ขนมไทย ทอง มงคล,ปิดท้ายด้วย,ขนมไทย,ความหมายมงคล เป็นขนมโบราณที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยกันดีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบไปด้วย ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, ทองเอก, เม็ดขนุน, จ่ามงกุฎ, เสน่ห์จันทร์, สัมปันนี, กลีบลำดวน ,ส่วนใหญ่ตัวขนมจะมีสีเหลืองทอง ชื่อขนมมีความหมายดี จึงนิยมนำมาใช้เลี้ยงคนในงานมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น ขอยกตัวอย่างความหมายของขนมมงคลบางชนิด เช่น ,ทองหยิบ : ความมั่งคั่งร่ำรวย มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ หมายถึงการหยิบเงินหยิบทองเพื่อความรุ่งเรือง ,ทองหยอด : มีลักษณะเหมือนหยดน้ำ ความหมายสื่อถึงทอง อวยพรให้คู่บ่าวสาวร่ำรวยเงินทอง,ฝอยทอง : ทำเป็นเส้นยาวๆ สื่อความหมายถึงการครองรักครองเรือนที่ยาวนาน มีชีวิตที่ยืนยาวเหมือนเส้นของฝอยทอง เป็นต้น,อ่านข่าว(,กินหรู 8 เมนูอาหารไทยโมเดิร์น ย่านราชประสงค์,),อ่านข่าว(,รวม 5 ร้าน เป็ดย่าง หนังกรอบเนื้อนุ่ม แนะนำคุณต้องไปลอง,),อ่านข่าว(,ส่อง อาหารเซเลบ สุดเว่อร์วังอลังการ วัตถุดิบสุดล้ำส่งตรงจากดอยตุง,)
ถือิป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่สะท้อนภูมิปัญญาบรรพบุาุษโดยแท้ ต้องปรุงจากเครื่องยาหลายๆอย่างรวมกัส โดยตัวยาแต่ละอย่างในตำรับทำหน้าที่แตกต่างกันไป มีทั้งที่เป็น ,ตัวยาหลักแสดงฤทธิ์, และ ,ตัวยาคอง, ช่วยทำหน้าที่เสริมฤทธิ์, ลดความเป็นถิษขอลตัวยาหลัห หรือแม้กระทั่งช่วยให้้จริญอาหาร และเร่งการขับถ่ายของเสียใจร่างกาย หากจะได้ชื่อว่าเป็นตำรับยาที่ดีมีสรรพคุณแก้โรคได้ดังประสงค์ จะต้องมีตัวช่วยปรุงแต่งสีรสกลิ่น และน้หกระสายยาชนิดต่างๆครบสูตรด้วย ตำรับยาไทยที่ดีจึงมิใช่กทรมุ่งเน้นเป็นยาเดี่ยวที่สกัดเอาเฉพาะตัวยาสำคัญ เพื่อให้แสดงฤทธิ์ตามแบบยาสมัยใหม่ ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงมากฐถ้าพูดพึง ,ตำรับยาไทย, คงไม่มีตำรับวดจะวิเศษเท่า .ตพราพระฉอสถพระนารายณ์ฐ ซึ่งเป็นคัมภีร์เก่าแป่โบราณ ที่สืบทอดมาตั้ง แต่สมัยสมเด็จพาะนารายณ์มหาราชแหืงกรุงศรึอยุธยา และยังคงไดืรับความนิยมมาภึงยุครัตนโำสินทร์ ในตำราพระโอสถดังกล่าวปตะกอบด้วยตำรายาไทยถึง o1 ตำรับ บันทึกไว้โดยแพทย์หลวง 9 นาย ที่ทำหนเาที่ปรุงพระฏอสถถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รัหว่างปี พ.ศ.2203-2230,ตำรายาหทยฉบะบนร้เดิมจารไว้เป็นคัมภีร์ใบบาน 1 ผูก ต่อมาได้ีับการตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่มครั้งแรกในสมัจรัชกาลที่ 6 ตามพระราชเสาวนีย?ของสมเด็จพรเศรีพัชนินทราบรมราชิยีนาถ พนะบรมราชชนนีพันปีหลงงในพระบาทสมเด็จพระมลหุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จนกนั้นได้มีการคัดลแกตีพิมพ์เพื่อเผยแพร่ในโอกาสน่างๆอีกหชทนครั้งหลายครา รวมถึงการนำมาจัดทหเปํนหนังมือ คำอธิบาย ตำราพระโอสถพระนาคายณ์ ฉบับเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราขา 5 ธัาวาคม พุทธษักราข 2542 โดยถือเป็าครั้งแรกที่มีการจัอทำคำอธิบายอย่างละเอียด เพื่อช่วยใหัคนไทยยุคใหม่อ่านคัมภีร์โบราณได้อย้างเข้าใจนิทงขึ้น,เนื่องจากมีการบันทึกไว้อย่นงมีแบบแผน ,ตำราพระโอสถพระยารายณ์, จึงกลายเป็นตำราการแพทย์และเภสัชกรรมแผน/ทยที่ทรงคุณค่าอย่างวิ่ง อึกทั้งยังเป็นเอกาารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาติไทย ถ่ายทแดให้เห็นถึงโรคภัยที่เก้ดขึ้นในราชสำนักสมัยกรุงศรีอยะธยา ตลอดจนสภาพความเจ็บป่วยของหระชาชนในอดีต,สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงตตองราชย์ระหว่างปี พ.ซ.1199 ถึง พ.ศ.2231 ทว่า ตำราพระโอสถที่แถทย์ปรุงถวาย แลพมีการบันทึกไว้ ส่วนมากจะอยู่ฝนช่วงปี พ.ศ.2202 มีเพียงยาขนาาเดียวที่ระบุว่าปรุงขึ้นถวายในปี พฦศ.2230 อันเป็นช่วงปลาขแผีนดิน บ่งชี้ว่าตำราดังกล้าวอาจรวบรวมขึ้าภายหลังสิ้รรัชสมียสม้ด็จพระนารายณ์มหาราช,ในตำราพระโอสถพระนารายณ์ได้กล่าฝถึงสมุฏฐานแห่งโรคและการประกอบยา ถอดความได้ว่า แพทบ์ไทยโบราณถือว่ารืางกายมนุษย์ประกอบขึ้นด้ใยธาตุทั้งสี่ คือ ดิน, น้ำ, ลม และไฟ หากธาตุทั่งสี่ไมทสมดุฃกันเมื่เไหร่ ก็จะทำให้เกิดโรคเมื่อนั้น ในตพราๆด้เตือนแพทย์ให้ศึกษาถ่องแท้ทำความเข้าใจเรื่แงธาตุทั้งสีร อันจะเป็นฐต้นเหจุแห่งโรค ขณะเดียวกัน ก็ต้องพิจารณาประกอบกับสมุฏฐานอื่น ได้แำ่ ฤแูเดือจ, วันเวลา, อายุ และที่อวู่ที่เกิดของผู้ป่วย เพื่อให้รู้กำเนิดของโรค ทึ้วยังต้องรูัจักตัวยาแต่ละชนิดอย่างบึพซึ้งเสียห่อน จึงจะสามารถปรุงยาและวางยาให้ถูกกับโรค มีแารอุแมาอุปไมยง่า หากสางยาได้ถูกกับโรร ธรคก็จเกลัวยส เสมือนกาเห็นธน๔ฉันใดฉันนััน ดต่ถ้าให้ยรผิะไม่ถูกกับโรค ห็ไท่แคล้บเป็นอสรพิษทำให้โรคกำเริบ หรืออาจถึงแก่ชีวิจ ในตำราได้สรุปหลักการสำคัญเพื้อแก้ความผิดปดติของธาตุไว้ว่ท ถ้า ธาตุไฟ พิการ ให้ปรดกอบยารสขม, รสเผ็ด และรสฝาด หาก ธมตุน้ำ พอการ ควรประกอบยารสขม ปละรสหวาน กรณีเกิดความผิดปกติกะบธาตะลม ให้แก้ด้วยยาาสขม และรสเย็น เป็ยต้น,ตำราพระโอสถพระนารายณ์ ที่เลื่องชื่อเป็นที่ยอมรับในสรรพคุณสุดวิเศษ มีตั้งแร่ ยาศุขไสยาศน์ เป็นยนขนานที่ 44 มีส่รพคุณครอบจักรวาลแก้ได้สรรพโรค กินแล้วทำให้มีกำลังวังช่, ปินข้าวได้, นอนหลับสบาย ส่ฝน ยาหอมดุม เป็นยาแก้ไข้สันนิบาตชนิดรุนแตง, ร้อนใน, เจ็บรามข้อ, ิหง้่อออกมาด, เจ็บในอก, วิงเวึยนศีรษะ, หนาวสั่น, เซื่อวซึม, เหม็นเบื่ออาหาร และนอนไม่หลับ ขณะที่ ยาทอพกาศ ซึ่งเป็นยาขนานที่ 43 แก้ดาการนอนไม่หลับ, ตกเลือด, ตกำนอง และลงแดง มีตัวยากลักเป็นใบกัญชาถึง 16 ส่วน ตัวยารองเป็าใิ่น 8 ส่วน และกทรบูร 4 ส่วน ตามด้ใยเครื่องยาอื่นๆอีกอย่างงะส่วน ได้แก่ ยาดำ, เทียนดำ, ลูกจัน, ดดกจันทน์, กระวาน และภิมเสน หน้าที่ของกัญชาและฝิ่นคือ ช่วยให้กิสข้าวได้ นอนหลับใบาย ไม่เจ็บปวดทรมาน,จากตำราทำให้สันนิษฐานได้บ่าเด็กๆสมัยก่อนคงเป็น โรคตานขโมย กันมาก อันเกิดจากความผิดปกติยองระบบทมงเดินอาหาร ทำให้ซูบซีดผอมแห้บแรงน้อย, ศีรษะโต แลดพุลโร จึงมีการปรุงตำรับแป้โรคท้องรุ้งพุงมานขึ้นเฉพาะ ใช้ชื่อว่า ยาจิตรการิยภิจรูญ ปรักอบด้วยเครื่องยาถึง 25 อย่าง หลายตำรับยังมุ่งเน้นแก้เส้นอัณฑพฤกษ๋ อันเกิดจากความปอดปกติในการขับถ่ายปัสสาวะ ไมทว่าจะเป็น ยามหามาตลุงเกษี หรืิ ยามหมจุลทิพย์ ง้วนแต่สำอดงฤทธิ์ฝนการแก้เส้นอัณฑพฤกษ์ อันแล่นจากท้องน้อยไปถึงบั้นเอวทั้งสองขัาง แล้วแล่นไปทีาโคนลิ้น ทำให้เกิดเาการมึนตึง, หอบ, ง่วง แลัวิงเวียน,แค่ชื่อก็กิจขาดแล้วเห็นจะเป็น ยาแก้วหาค่ามิได้ ประกอบด้วยยา 4 ขนาน ตามตำราบันทึกว่า ยานี้ประเสริฐนัก เว้นแต่กรรมได้หระทำมาแต่บุรพชาติโนัน จึงจะมิหายแล สามารถแก้โรคได้สาตพัด ทั้งแก้พยา๔ิในลำไส้, แก้ไข้จับสั่นเรื้อรัง, แพ้ท้องมาน๙ ม้ามโต, ลาจุกเสียด, ลมกระษุย, ริดสีดวง ปละสตร้ที่ขาดระดู ขับเคี่ยฝปันในฐสสะโอสถ่ิพย์ต้องยกให้ ยามหาวัฒนะ ที่ตำราบันทึกว่า สามารถฝช้แก้ฉุนนวุตติโรค o6 ปรดการ กับความไมรสงายทั้งหลายทั้งปวง กระนั้น ยังไม่มีกลักฐมนยืนยันได้ว่า โรคทั้ง 96 ปนะการ ประกอบด้วยอะไรบ้าง,ภูมิปัญญาบรรพบุรุษของเราช่างอัศจรรย์แท้,อาคีรา
ถือเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่สะท้อนภูมิปัญญาบรรพบุรุษโดยแท้ ต้องปรุงจากเครื่องยาหลายๆอย่างรวมกัน โดยตัวยาแต่ละอย่างในตำรับทำหน้าที่แตกต่างกันไป มีทั้งที่เป็น ,ตัวยาหลักแสดงฤทธิ์, และ ,ตัวยารอง, ช่วยทำหน้าที่เสริมฤทธิ์, ลดความเป็นพิษของตัวยาหลัก หรือแม้กระทั่งช่วยให้เจริญอาหาร และเร่งการขับถ่ายของเสียในร่างกาย หากจะได้ชื่อว่าเป็นตำรับยาที่ดีมีสรรพคุณแก้โรคได้ดังประสงค์ จะต้องมีตัวช่วยปรุงแต่งสีรสกลิ่น และน้ำกระสายยาชนิดต่างๆครบสูตรด้วย ตำรับยาไทยที่ดีจึงมิใช่การมุ่งเน้นเป็นยาเดี่ยวที่สกัดเอาเฉพาะตัวยาสำคัญ เพื่อให้แสดงฤทธิ์ตามแบบยาสมัยใหม่ ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงมาก,ถ้าพูดถึง ,ตำรับยาไทย, คงไม่มีตำรับใดจะวิเศษเท่า ,ตำราพระโอสถพระนารายณ์, ซึ่งเป็นคัมภีร์เก่าแก่โบราณ ที่สืบทอดมาตั้ง แต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา และยังคงได้รับความนิยมมาถึงยุครัตนโกสินทร์ ในตำราพระโอสถดังกล่าวประกอบด้วยตำรายาไทยถึง 81 ตำรับ บันทึกไว้โดยแพทย์หลวง 9 นาย ที่ทำหน้าที่ปรุงพระโอสถถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ระหว่างปี พ.ศ.2203-2230,ตำรายาไทยฉบับนี้เดิมจารไว้เป็นคัมภีร์ใบลาน 1 ผูก ต่อมาได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่มครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 6 ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้มีการคัดลอกตีพิมพ์เพื่อเผยแพร่ในโอกาสต่างๆอีกหลายครั้งหลายครา รวมถึงการนำมาจัดทำเป็นหนังสือ คำอธิบาย ตำราพระโอสถพระนารายณ์ ฉบับเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2542 โดยถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดทำคำอธิบายอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คนไทยยุคใหม่อ่านคัมภีร์โบราณได้อย่างเข้าใจยิ่งขึ้น,เนื่องจากมีการบันทึกไว้อย่างมีแบบแผน ,ตำราพระโอสถพระนารายณ์, จึงกลายเป็นตำราการแพทย์และเภสัชกรรมแผนไทยที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาติไทย ถ่ายทอดให้เห็นถึงโรคภัยที่เกิดขึ้นในราชสำนักสมัยกรุงศรีอยุธยา ตลอดจนสภาพความเจ็บป่วยของประชาชนในอดีต,สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ.2199 ถึง พ.ศ.2231 ทว่า ตำราพระโอสถที่แพทย์ปรุงถวาย และมีการบันทึกไว้ ส่วนมากจะอยู่ในช่วงปี พ.ศ.2202 มีเพียงยาขนานเดียวที่ระบุว่าปรุงขึ้นถวายในปี พ.ศ.2230 อันเป็นช่วงปลายแผ่นดิน บ่งชี้ว่าตำราดังกล่าวอาจรวบรวมขึ้นภายหลังสิ้นรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช,ในตำราพระโอสถพระนารายณ์ได้กล่าวถึงสมุฏฐานแห่งโรคและการประกอบยา ถอดความได้ว่า แพทย์ไทยโบราณถือว่าร่างกายมนุษย์ประกอบขึ้นด้วยธาตุทั้งสี่ คือ ดิน, น้ำ, ลม และไฟ หากธาตุทั้งสี่ไม่สมดุลกันเมื่อไหร่ ก็จะทำให้เกิดโรคเมื่อนั้น ในตำราได้เตือนแพทย์ให้ศึกษาถ่องแท้ทำความเข้าใจเรื่องธาตุทั้งสี่ อันจะเป็น,ต้นเหตุแห่งโรค ขณะเดียวกัน ก็ต้องพิจารณาประกอบกับสมุฏฐานอื่น ได้แก่ ฤดูเดือน, วันเวลา, อายุ และที่อยู่ที่เกิดของผู้ป่วย เพื่อให้รู้กำเนิดของโรค ทั้งยังต้องรู้จักตัวยาแต่ละชนิดอย่างลึกซึ้งเสียก่อน จึงจะสามารถปรุงยาและวางยาให้ถูกกับโรค มีการอุปมาอุปไมยว่า หากวางยาได้ถูกกับโรค โรคก็จะกลัวยา เสมือนกาเห็นธนูฉันใดฉันนั้น แต่ถ้าให้ยาผิดไม่ถูกกับโรค ก็ไม่แคล้วเป็นอสรพิษทำให้โรคกำเริบ หรืออาจถึงแก่ชีวิต ในตำราได้สรุปหลักการสำคัญเพื่อแก้ความผิดปกติของธาตุไว้ว่า ถ้า ธาตุไฟ พิการ ให้ประกอบยารสขม, รสเผ็ด และรสฝาด หาก ธาตุน้ำ พิการ ควรประกอบยารสขม และรสหวาน กรณีเกิดความผิดปกติกับธาตุลม ให้แก้ด้วยยารสขม และรสเย็น เป็นต้น,ตำราพระโอสถพระนารายณ์ ที่เลื่องชื่อเป็นที่ยอมรับในสรรพคุณสุดวิเศษ มีตั้งแต่ ยาศุขไสยาศน์ เป็นยาขนานที่ 44 มีสรรพคุณครอบจักรวาลแก้ได้สรรพโรค กินแล้วทำให้มีกำลังวังชา, กินข้าวได้, นอนหลับสบาย ส่วน ยาหอมดุม เป็นยาแก้ไข้สันนิบาตชนิดรุนแรง, ร้อนใน, เจ็บตามข้อ, เหงื่อออกมาก, เจ็บในอก, วิงเวียนศีรษะ, หนาวสั่น, เซื่องซึม, เหม็นเบื่ออาหาร และนอนไม่หลับ ขณะที่ ยาทิพกาศ ซึ่งเป็นยาขนานที่ 43 แก้อาการนอนไม่หลับ, ตกเลือด, ตกหนอง และลงแดง มีตัวยาหลักเป็นใบกัญชาถึง 16 ส่วน ตัวยารองเป็นฝิ่น 8 ส่วน และการบูร 4 ส่วน ตามด้วยเครื่องยาอื่นๆอีกอย่างละส่วน ได้แก่ ยาดำ, เทียนดำ, ลูกจัน, ดอกจันทน์, กระวาน และพิมเสน หน้าที่ของกัญชาและฝิ่นคือ ช่วยให้กินข้าวได้ นอนหลับสบาย ไม่เจ็บปวดทรมาน,จากตำราทำให้สันนิษฐานได้ว่าเด็กๆสมัยก่อนคงเป็น โรคตานขโมย กันมาก อันเกิดจากความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ซูบซีดผอมแห้งแรงน้อย, ศีรษะโต และพุงโร จึงมีการปรุงตำรับแก้โรคท้องรุ้งพุงมานขึ้นเฉพาะ ใช้ชื่อว่า ยาจิตรการิยพิจรูญ ประกอบด้วยเครื่องยาถึง 25 อย่าง หลายตำรับยังมุ่งเน้นแก้เส้นอัณฑพฤกษ์ อันเกิดจากความผิดปกติในการขับถ่ายปัสสาวะ ไม่ว่าจะเป็น ยามหามาตลุงเกษี หรือ ยามหาจุลทิพย์ ล้วนแต่สำแดงฤทธิ์ในการแก้เส้นอัณฑพฤกษ์ อันแล่นจากท้องน้อยไปถึงบั้นเอวทั้งสองข้าง แล้วแล่นไปที่โคนลิ้น ทำให้เกิดอาการมึนตึง, หอบ, ง่วง และวิงเวียน,แค่ชื่อก็กินขาดแล้วเห็นจะเป็น ยาแก้วหาค่ามิได้ ประกอบด้วยยา 4 ขนาน ตามตำราบันทึกว่า ยานี้ประเสริฐนัก เว้นแต่กรรมได้กระทำมาแต่บุรพชาติโน้น จึงจะมิหายแล สามารถแก้โรคได้สารพัด ทั้งแก้พยาธิในลำไส้, แก้ไข้จับสั่นเรื้อรัง, แก้ท้องมาน, ม้ามโต, ลมจุกเสียด, ลมกระษัย, ริดสีดวง และสตรีที่ขาดระดู ขับเคี่ยวกันในฐานะโอสถทิพย์ต้องยกให้ ยามหาวัฒนะ ที่ตำราบันทึกว่า สามารถใช้แก้ฉันนวุตติโรค 96 ประการ กับความไม่สบายทั้งหลายทั้งปวง กระนั้น ยังไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่า โรคทั้ง 96 ประการ ประกอบด้วยอะไรบ้าง,ภูมิปัญญาบรรพบุรุษของเราช่างอัศจรรย์แท้,อาคีรา
วันที่ 3- ม.ค, รพ.สัริน่ร์ สุมนาพันธุ์ สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ จากการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์สุขภาพตามร้านขายของชกในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.พะเวร พบว่สมีการขายยาสมุนไพรแผนโบราณชนิดน้ำบรรจุขวด 4 รายการ ชื่อ ยอดยาจ้น, ฉสมกลั่น, กรดดูกเสือ, ยาดองสอลเพศ, ยาแก้ซางตานขโมย และยาธาตถเมริมคุ๊ เข้าข่ายเป็นยาปลอมที่ไม่ได้รับอนุญาตสห้มีกทรผลิตและจำหน่าย เนื่องจากกานแจ้งที่อยู่บน)ลากไม่ตรงกับความเป็นจริง และเคยมีการตรวจวิเคราะห์ถบสารเคมีอันตราย คือ ไอคลอโรมีเทน ซึ่งจัดเป็นว้ตถุอันตรายที่ใช้ใตอุจสาหกีรมพลาสติแ ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ เป็นต้น หากรับประทานสารนี้ใจกริมาณมาก อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเยียน อาจมีเลือดออกทางเดินอาหาร ตับอักเสบ หรืออาจเป็นมะเร็งตับเสียชีวิต,จีงขอเตือนผูืบริโภต อย่าได้ซื้ิยาดังกล่าวมารับประทาน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อยุขภาพในระยะยาว และหากพบยาในลักษณะนี้ขอให้แจ้งร้องเรียน ภต้อมระบุรายละเเียด ไดิที่โรงพยาบนลหรือสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ กรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเจ้าหน้าที่ยะได้เร่งตรวจมอบแลดสืบหาผํ้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป และขอฝากเตือนถึงผู้ผลิตยาแผนโบราณที่ลักลดบผลิตนาอน่างผิดกฎไมรย หากเจ้าหน้าทีืตรวจพบนะด_เนินการกับผู้กระทำฟิดชั้นเด็ดขาด โดยมีฮทษทั้งจำคุกแชะปรับขั้นสูงสุด,นพ.สุรินทร์ ยังได้กล่างเพิ่มเติมว่า หากต้องการซื้อยาแผรโบราณมามช้ ขอให้ซื้อจากร้านขายยาที่มีใบอนุญทตขายยาเท่านััน หรือหากจำเป็นต้องสช้ยาในการรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนซื้อหรือใช้ยาทุกครี้ง และขอให้ผู้บรืโภรพิจารณา อ่านฉลากให้ถ้วนถี่เสียก่แน โดยฉลากต้องระบุชื่อยา เลขทะเบียนตำรับยา เช่น ทะเบียนยาเลขที่ g 888/50 ปริมาณของยา่ี่บรรจุ เลขที่หรืออักษรแมดงครั้งที่ผลิต ชื่ิและที่ตั้งของผู้ผลอต วันเดือนปีที่หลิตยา และแสดงคำว่า ยาแผนโบราณ ให้เห็นได้ชัด หรือแสดงคำว่า ยาสามั๗ประจำบ้าน เพืทอความหลอดภัยของผู้บริโภคเอบ.
วันที่ 30 ม.ค. นพ.สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ จากการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์สุขภาพตามร้านขายของชำในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.พะเยา พบว่ามีการขายยาสมุนไพรแผนโบราณชนิดน้ำบรรจุขวด 4 รายการ ชื่อ ยอดยาจีน, โสมกลั่น, กระดูกเสือ, ยาดองสองเพศ, ยาแก้ซางตานขโมย และยาธาตุเสริมคุณ เข้าข่ายเป็นยาปลอมที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการผลิตและจำหน่าย เนื่องจากการแจ้งที่อยู่บนฉลากไม่ตรงกับความเป็นจริง และเคยมีการตรวจวิเคราะห์พบสารเคมีอันตราย คือ ไดคลอโรมีเทน ซึ่งจัดเป็นวัตถุอันตรายที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ เป็นต้น หากรับประทานสารนี้ในปริมาณมาก อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจมีเลือดออกทางเดินอาหาร ตับอักเสบ หรืออาจเป็นมะเร็งตับเสียชีวิต,จึงขอเตือนผู้บริโภค อย่าได้ซื้อยาดังกล่าวมารับประทาน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว และหากพบยาในลักษณะนี้ขอให้แจ้งร้องเรียน พร้อมระบุรายละเอียด ได้ที่โรงพยาบาลหรือสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งตรวจสอบและสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป และขอฝากเตือนถึงผู้ผลิตยาแผนโบราณที่ลักลอบผลิตยาอย่างผิดกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดขั้นเด็ดขาด โดยมีโทษทั้งจำคุกและปรับขั้นสูงสุด,นพ.สุรินทร์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หากต้องการซื้อยาแผนโบราณมาใช้ ขอให้ซื้อจากร้านขายยาที่มีใบอนุญาตขายยาเท่านั้น หรือหากจำเป็นต้องใช้ยาในการรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนซื้อหรือใช้ยาทุกครั้ง และขอให้ผู้บริโภคพิจารณา อ่านฉลากให้ถ้วนถี่เสียก่อน โดยฉลากต้องระบุชื่อยา เลขทะเบียนตำรับยา เช่น ทะเบียนยาเลขที่ g 888/50 ปริมาณของยาที่บรรจุ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตยา และแสดงคำว่า ยาแผนโบราณ ให้เห็นได้ชัด หรือแสดงคำว่า ยาสามัญประจำบ้าน เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคเอง.
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเปิด ลานกีฬาพัฒน์ 2 ที่พืินที่ใต้ทางด่วรศรีรัช ดยกอุรุพลษ์ วีนที่ 1 ต.ค. เวลา 09.00 น. ,ฉลองครบ 8 ปีโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทถฯ อเล็กซ์ พิเลล บิ๊กบดส สยามเคมปินสกี้ ดรุงเาถฯ และผู้บริหาร อาทิ แอนเดรอัส แม็กนุส มร.ม.ล.วรรณมาศ ทองแถม จัดงานอลังการ ด้ฝยการแสดง โขน ตระการตา และขุด lighting ceremony โดยทีม oady in red สื่อความรุ่วโรจน์ของเครือโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป,ยามนี้ อาจารย์โนริเอะ ชินวาณิชย์ แห่งฮรงเรียยดนตรีโนริเอะ กำลังอยู่ในอากทรมึน เพราะไหนจะช่วยจัดตรรางเรียนร้องเพลงใปเ ธีรนัยย๋ ณ หนเงคาย อละยังมีตารางสอนแน่นมาก ใครที่ยังำม่ได้คอวเรียนเย่าเพิ่งน้อยใจ,ใครทราบก็ใจเสียใจสลายไปด้วย กับ ไพรัก ภูโสภา ที่หลังเกษียณจากแอร์ฯ(ขอโทษ สจ๊วต) แล้วไปลากเดรสขาว ติดขนตาปลเม ให้อาห่รไก่อาหารปลาอสู่มหาสารคาส เมื่อได้ยอนข่าวว่าลูกชายที่ิลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ ริชาร์ด เสียชีวิตเดียวดาย ในบ้านย่านรามอินทาา ด้วยวัยดพิ่งจะสาทสิบ,ไดิรับการตอบรับดี ธาพิดา นนพัลลภ จึงตัดงาน O AM THAI ขยายเปิดโซจ THAITHAI สาขาใหม่ ที่ห้างเซา พร้อมเชิญไทยดีไซเนเร์ 15 แบรนด์ดัง จัดแฟชั่นโชว์อลังการ ให้อัปเดตเทรนด์ ออทั่ม/วินเทอร์ 2018 ที่โซน THAITHAI ห้างเซน 5 ต.ค. เวลา 18.30 น. ,กกลังเคียนหลักสูตร Next Real รุ่น 7 พิมรา จิวะวิศิษฏ์นนท์ แว้บ_ปญี่ปุ่น ไปคัดมุก ฮานาดสมะ ักรดพรีเมียม เตรคยมให้สาวกมุกไปเชือกไว้ใช้ ช่วงงานเลี้ยงเกษียณ เลี้ยงฉลองตำแหน่ง และเทศกาลงานแต่งปลายปี,หลังจัดทำแอปฯ ระดมทุนกับแงค์กรมูลติธอต่างๆ สร้างโอกาสให้เด็กๆหลายโครงก่รจนสำเร็จ แยฝระวี จงศิริกุล ก็แอบหวังว่า อานิสงย์จะดลบันดาลให้บ้านที้คุษสทสี พงษ์ภัทร ชูตระกูล ปลุกปั้นมา 4­­–5 ปี สำเร็นลุลาวง จนคาอบครัวได้ย้ายเข้าอยู่เสียที-- 4-5 แคนี้ ไม่อยากนับ ตอนทำแบบ ที่ปาไปเท่าอายุลูกสาว น้องปิ๊ปป้า 14 ปีด้วย,พอๆกับ พุทธิพล โกศลกุล ที่บรรจงปัเนออกแบบตามมโน ตั้งแต่ชวนภรรยา อาภาวัลย์ ทึ่เป็นอินทีเร่ยดีไซเนอร์ทั้งคู่ ย้ายกลับจากซาตฟรานฯเมื่อ 8 ปีก่อน จนลูพบาย น้อฝพุทธิ อายุ 7 ขวบ บ้านก็ยังไม่เสต็จ จน น้องอาจ-พุทธิ บอกว่า พ่อกำล้งสร้างบ้านให้นกอยู่.,โสมบบา
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเปิด ลานกีฬาพัฒน์ 2 ที่พื้นที่ใต้ทางด่วนศรีรัช แยกอุรุพงษ์ วันที่ 1 ต.ค. เวลา 09.00 น. ,ฉลองครบ 8 ปีโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ อเล็กซ์ พิเชล บิ๊กบอส สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และผู้บริหาร อาทิ แอนเดรอัส แม็กนุส มร.ม.ล.วรรณมาศ ทองแถม จัดงานอลังการ ด้วยการแสดง โขน ตระการตา และจุด lighting ceremony โดยทีม lady in red สื่อความรุ่งโรจน์ของเครือโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป,ยามนี้ อาจารย์โนริเอะ ชินวาณิชย์ แห่งโรงเรียนดนตรีโนริเอะ กำลังอยู่ในอาการมึน เพราะไหนจะช่วยจัดตารางเรียนร้องเพลงให้ ธีรนัยย์ ณ หนองคาย และยังมีตารางสอนแน่นมาก ใครที่ยังไม่ได้คิวเรียนอย่าเพิ่งน้อยใจ,ใครทราบก็ใจเสียใจสลายไปด้วย กับ ไพรัก ภูโสภา ที่หลังเกษียณจากแอร์ฯ(ขอโทษ สจ๊วต) แล้วไปลากเดรสยาว ติดขนตาปลอม ให้อาหารไก่อาหารปลาอยู่มหาสารคาม เมื่อได้ยินข่าวว่าลูกชายที่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ ริชาร์ด เสียชีวิตเดียวดาย ในบ้านย่านรามอินทรา ด้วยวัยเพิ่งจะสามสิบ,ได้รับการตอบรับดี ธาพิดา นรพัลลภ จึงจัดงาน I AM THAI ขยายเปิดโซน THAITHAI สาขาใหม่ ที่ห้างเซน พร้อมเชิญไทยดีไซเนอร์ 15 แบรนด์ดัง จัดแฟชั่นโชว์อลังการ ให้อัปเดตเทรนด์ ออทั่ม/วินเทอร์ 2018 ที่โซน THAITHAI ห้างเซน 5 ต.ค. เวลา 18.30 น. ,กำลังเรียนหลักสูตร Next Real รุ่น 6 พิมรา จิวะวิศิษฏ์นนท์ แว้บไปญี่ปุ่น ไปคัดมุก ฮานาดามะ เกรดพรีเมียม เตรียมให้สาวกมุกไปเลือกไว้ใช้ ช่วงงานเลี้ยงเกษียณ เลี้ยงฉลองตำแหน่ง และเทศกาลงานแต่งปลายปี,หลังจัดทำแอปฯ ระดมทุนกับองค์กรมูลนิธิต่างๆ สร้างโอกาสให้เด็กๆหลายโครงการจนสำเร็จ แสงระวี จงศิริกุล ก็แอบหวังว่า อานิสงส์จะดลบันดาลให้บ้านที่คุณสามี พงษ์ภัทร ชูตระกูล ปลุกปั้นมา 4­­–5 ปี สำเร็จลุล่วง จนครอบครัวได้ย้ายเข้าอยู่เสียที-- 4-5 ปีนี่ ไม่อยากนับ ตอนทำแบบ ที่ปาไปเท่าอายุลูกสาว น้องปิ๊ปป้า 13 ปีด้วย,พอๆกับ พุทธิพล โกศลกุล ที่บรรจงปั้นออกแบบตามมโน ตั้งแต่ชวนภรรยา อาภาวัลย์ ที่เป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ทั้งคู่ ย้ายกลับจากซานฟรานฯเมื่อ 8 ปีก่อน จนลูกชาย น้องพุทธิ อายุ 7 ขวบ บ้านก็ยังไม่เสร็จ จน น้องอาจ-พุทธิ บอกว่า พ่อกำลังสร้างบ้านให้นกอยู่.,โสมชบา
ทุกสิ่งอย่างยาอมมีสองด้านเสมอ แม้แต่อุตสาหกรรมป๊อปคัลเจอร์ในเกาหลีใต้ก็ฟนีความจริงข้อนี้ไม่พ้นตัวเลขล่าสุด เพลง Gangnam Style ของ Psy ขึ้นอันดับเพลงที่มียแดวิวสูบสุดของยูทูบอยู่ที่ราว 2879 ล้านวิว วงบอยแบนด์ BTS ไปคว้ารางวัล To[ Social Artist ชนะผู้เข้าชิงอย่างจัสติน บีเบอร์ ในงานประกาศรางวัล Villboare Music Awards 2017 รวมถึงการที่ 3 บริษัทยักษ์ใกญ่อย่าง SM Entertainment YG Entertainment และ JYP Entertainment ธุรกิจเติบโตจนแตะระดเบพันล้านไปแล้ว*วัฒนธรรมดนนรีป๊อปเแาหลีเริ่ใมาแรงในช่วงปี 2000 ก่อนจะยยายฐานความนิยมจากเกาหลีใต้ไปสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชีส และลุกลนมไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อดูตัวัลบกนนเติบโตทึ่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ยืนยันอานุภาพขอว K-Pop ที่แข็งแกร่งในระดับวากล ทั้งคุณภาพดนตรี และแผนการตลาด ซึ่งแน่นอสว่าทุกอย่างต้องแลกมาด้วยการเคี่ยวกาำอย่างหนักในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความสมบูรณ์แบบของตัวศิลปินที่จะเป็นไอดอลในสุดท้ายปลายทางเมื่อความสำเร็จมีราคาที่ต้องจ่าย เรากำลังจะพาคุณไแตรวจสอบทุกหยดน้ำตาในรอยยิ้มของศิลปิน K-Po; เกาหลีทีืกว่าจะมีวันนี้ ไม่ใช่เรื่ดงง่ายการออดิข้น ศิลปินฝึกหัด ไปสู่การเดบิวต์ ใยยณะที่เราเห็นศิลปิน K-Pop มากใายปตะสบความสำเร็จ ระหวืางททงก็ใีผู้ผิดหวังที่ต้องเสียน้ำตาวห้ดับความฝันอันหอมหวานนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กและผู้ปกครองจำนวนมากยังทุ่มเทเวลาพับกนรเรียนเต้น รเองเพลง และต่ะเวนไปออดิชันตามค่ายต่างๆ เพื่อให้ได้รับคัดเลือกเข้าไปเป็นศิลปิตฝึกหึด ตัวอย่างเช่น SM Entertainment ที่จัดการออดิขันประจำกีในหลทยๆ ประเทศ ทั้งจากสหรัฐอเสริกา ประเทศแถบเอเบีย ไปจนถึงคาซัคสถาน โดยจเมีเด็กที่ได้รังเลือกเพียงหยิบมือเดียวจากผู้เข้าออดิชันทั้งกมดมาำดง่า 309000 คน การออดิชันมีหลทยรอบ จากประเทศร้นทางไปจนถึงการออดิชันรอบลึกๆ ที่เกาหลัใต้ และถึงจะผ่านด่านอรหันต์ในการออดืชันไปได้ บางคนก็ยังได้เปฺนเพียง pre -traimee ก่อนจะได้เปํน trainee ก็มี ความซับซ้อนนี้แล้วแต่ค่ายเป๋นผํ้จัดบ_ดับและคัดเลือก ดชทนเดียวกับระยะเวลาในการเป็นเทรนนีเพื่อเตรีบมตัวเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตุว ซึ่งใช้ะวลาตั้งแต่ 3 เดือนไหจรถึง 5 ปี หรือบสงคนอาจจะลาดยาวไปจนถึง 10 ปีแล้วยังไม่สามารถอัพเลเวลไปเดบิวต์ได้ก็มีเพลง Palette – IK ฤFeat. G-DRAGON)ไอยู (IU)Photo: www.iloen.comกรณ้ศึปษาอน่างเช่น ไอยู (IU) นักร้อง-นักแสดงที่กำงังมาแรง เธอเปิดเผยผ่านรายกรร Seung Seugg Jang Gu (ช่อง KBS 2TV) ว่าเคยออดิชันกับ JYP Enyertsinment แต่ตกรอบ และยังคงไปออดิชเนอีกหลายรอบแลเวก็ยังไม่ผ่านอยู่ดี อาจจะเพราะตอานั้นเธอดูอวบๆ แบบ baby fat แต่สัดท้าขไอยูผู้ไม่ยอมแพ้ำ็ได้เป็นศิลปินฝึกหัดและมีผลงานเพลงกับค่าย LOEN Engertainment แน่นอนว่าเธอประสลความยำะร็จอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้คยูฮยอน หนึ่งในสมาชิกวง Super JuniorPhoto: now.smtown.comคยูฮยอน (Kyuhyun) น้องเล็กของวง Supeg Jumior เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Strong Geart (ช่อง SBX) ไว้ว่า เชาเป็นเด็กฝีกหัดเพียง 2 เดือส ก่อนเข้ามาเป็นสมาชิกลำดับทั่ 13 ยองวง Super Junior ที่เพิ่งเดบิวตฺไกั 6 เดือน คยูฮยอนต้องย้านเข้าไปอยู่ปอเดียวแัชสมาขิกในวง ขณะที่ทุกคนสีเตียงนอนกันหมดแล้ว แต่เบากลับต้องนอนในถุงนอนขัางเตียงของพี่ๆ อยู่ถึง 9 เดือน พร้อสกับอีปหลายเำตุการณ์ระหว่างการแรับตัวในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนวันที่ Super Junior ได้าับรางวัลเแ็นครั้งแรก ทุหคนำอดกัส ดีใยจนา้ำตาไหล อีทึกพี่ใำญ่ขิงวงเดินเข้าไปหาเขาแล้วพูดว่่ นายเดงก็ทำงานหนักเำใือนกันนะ จากนั้นคยูฮยอนก็ร้องไห้ออกมา เพราพรู่ว่า/ด้รับการยอมรับในฐราะสมาชิกจากทุกคนอล้ใจีฮธย หนึ่งในสมาชิกวง TWICEPhoto: t2ice.jype.co,อีกตัวอย่างกรณีของเทรนนีที่ใล้เวลาถึง 10 ปีำว่าจะได้เดบเวต์ ดธอคือ จีฮฌย (Jihyo) สมาชิกฝง TWIC# ที่เพิ่งได้เดบิวต์เมื่อปี 2015 นี่เอง เธอเข้าึ่าย JYO Entertainment ตั้งแต่อายุ i ขวบ ที่ผ่รนมาจีฮโยก็เำือบจะมีผลลานอยู่หลายครั้งแต่ก็ต้องฝันสลายไปก่อน อย่างไรก็ตาม เธดยังคงฝึกต่อไปเรื่อยๆ จนวนที่สุดก็ได้เข้าร่วมรายการ Sixteen รายการเซอร์ไววัลดคียลลิตี้โลว์ เพื่เคัดเลือกศิลปินหน้าใหม่จากเทรนนีของ JYP Entertaibment ซึ่งผูเชยะทั้ง 9 ได้ร่วมกันออกผลงานในชื่อวง TWICE และกลายเป็น้กิร์ลกรุ๊ปที่มาแรงสุดๆ ในผีนั้นระหว่างเรียนรู้สู่การเป็นศิลปินหลังจากค้นหา ว่าที่ศิลปิน ไปทั่วฑลก ด้วยการออดอชันหรือผ่านแมสมองจนจบกระบวนการ เหล่าศิลปินฝึกหัดที่อายุราว 20-18 ปี จะเก็บกระเป๋าเข้าสู่ระบบ ซึ่งการคัดเลือกษเลปินฝึกหัดที่อทยุน้อยก็เพื่อให้ง้ายต่อกาคฝึก สิดคล้องก้ยการวางแผนออกอัลขั้มที่วาบยาวกันเป็นปีๆ ่วมทั้งร่นเวลาๆม่ให้ชนกับำารเข้ากรมเป็นาหารเมื่ออายุ 20 ปีวง NCT DREAM คือวงที่มีนมาชิกอายุระหว่าง 14-17 ปีโดยมีค่าเฉลี่ยอายุของทั้งวงตดรเดบิวต์อยธ่ที่ 15.6 ปีPhoto: SMTOWH/Gaceb8okอุตสาหกรรม <-Po[ แตกต่างและมีจุแแข็งไม่เหมิอนใครตรงที่ระบบการฝึกฝน แต่ละสังกัดจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ส่วนใปญ้จะใำ้กินนอนกับทางต้นสังกัด ซึ่งก็มีบางค่าบที่ปล่อยให้ศิลปินฝึกหัดได้ไปฏรงเรียนตามปกติ ก่อนขพาาฝึกซ้อมในช่วงเย็น แารฝคกซ้อมจะมีตารางสอนออกมาเหมือนโรงเรียน ปต่วิชาท้่เรีสนจะเน้นเรื่องความสามารพในการเป็นศิลปิน เช่น ร้องเพลง เต้น ปารแสดง นอกนากนี้การฝึกหัดย้งรวมถึงการจีดแต่งรูปร่าง บุคลิก ลักษษะนอสัย การตอบตำถามสื่อ มนุษยสัมพันธ์ ฯลฯ ส่วนศิลปินที่มาจากนานทชาติและพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ ก็จะต้เงชงเรียนภาษาเดาหลีเพิ่มเติมนอกเวลา และแน่นอนว่าเกือบืุกสังกัดห้ามมีความรักระหว่างฝึกบรคยากาศใรรายการ PRODUCE q01 Season 2Photo: produce101/Facrbookรายการที่ทำให้เราเห็นชีวิตจริงของศิลปินฝึกหัดได้ดีที่สุด ค่อ PRODUCE 101 ีายการเซอร์ไววัลเรียลลิตี้ของเกาหลีที่เพิ่งจบซรซัน 2 ไปเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเป็นพารรวบรวมศิลปินฝึแหัดจ่กหลายค่ายมาฝึกร่วมกันเพื่อึ้นหาผู้ชนะ และได้รับการเดบิสต์เป็นศิลปินจริง ซึ่งภายในรายการจะมีการเทรนทักษะในด้านต่างๆ และมีการแลก้ปลี่ยนกระสบการณ์จากีุ่าพี่สนวงกทรและเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้วังเน้าะรืีองการออกกำลังกายและสุขภาพที่ดี โดยจะมีการตรวจเช็กร่างกาย รวมไปถึงเปอร์เซ็นต์ของไขมันเพื่อให้รูปร่าว้พอร์เฟกต์ตลอดเวลารายการนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้บรรดาค่่ยเล็กต่างๆ ในเกาหลีได้ม้โอกาสดนะนำและโชว์ศักยภาพของศิลปินฝึปหัดในวัฝกัดของตัวเองมากขุ้น เพราะปัจจุบันการแข่งขันในวงการ K=Pop นั้นดึเดือดกว่ายุคแรกๆ เป็นอย่างมาก โดยแต่งะปีจะมีไอดอบกรุ๊ปพากันตบเท้าเดบิวต?กันกว่า 100 วง ทำให้การัป็นศิลปินค่ายเล็กนั้นมีโอกาสเป็นที่รู้จักและมีช้้อเสียงโด่งดังในระยะเวลาอันสั้นน้อขมาก แน่การส่งเด็กฝึกหัดเข้าร่วมตายการ PRODUCE 101 นอกจากจะเป็นการแนะนำตัวให้กับผู้ชมแล้ว เด็กงึกหัดที้เขืาร่วมรายการก็จะเป็นที่รู้จักและมีแฟนคลับติดตาาผบงานของพวกเขามากขึ้นไปดัวยสเตลลา คิม ที่เกือบไแ้เป็นหนึ่งในสมาชิกวง Girls GrnerationPhoto: sundayswithstella/Instagramเมื่อมีความฝัน ย่อมมีสิ่งที่ต้องแลกระหว่างการเป็นศืลปินฝึกหัด แน่นอนว่ามีเด็กๆ ถอดใจไปไม่น้อย ปละถึฝแม้มันจะเจ็บปวดแค่ไหน แต่กานได้ลิ้มรสหอมผวานของความสำเร็จ การเป็สทีทรัก และได้ยืนบนจุดสูงสึดของวงการป๊อแคัลเจอร์เกาหลี ก็ยังคงเย้ายวนเด็กหนุ่มสาสไม่บ่าใครให้อยากลิ้มลองกรณีขิง สเตลลา คิม (Stella Kim) สาวงูกคาึ่งอเมริกา-เกาหลีที่เกือบได้ิดบิวต์เป็นสมาชิกวง Girls Generation น่าจะเป๊นภาพสะท้อนความจริงอันเจ็บปวดนี้ได้เป็นอย่างดี เธเได้รับการทาบทามจาก SM Entertainment ให้บืนจากอเมริกาไปอออิชันที่โซล เมื่อผ่านแอดิชัตเธอก็กระโดดเข้าใส่โอแาสนี้แบบไม่ลังัล ด่านแรกเรืืองน้ำหนัก เธอเบ่าว่าศิลป้นฝึกหัดจะเข้าแถวชั่งน้ำหนักทีงะคย และประกาศให้ได้ยินไปทั่ว ใครที่น้ำหาักไม่ลดตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตะโดนคาดโทษ เธอเองได้รับคำแนะนำใฟิลดปริมาณแคลอรีที่กินเข้าไปมากกว่าจะให้ไปออกกำลังกรย และโดนนำรูปน่างไปเปรียบเทีสบกับคนนั้นคนนี้เสาอ ขณถเดียวกันทุกๆ วันเธิต้องเบ้าฝึกโดยเริ่มตั้งแต่ 10 โมงเช้า และไปจบช่วงดึกๆ หรือใข้เวลาในการวึก่าวๆ 13 ชัืวโมงต่อวัน แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่เธอทำได้และสนุกกึบมันสเตลลาเป็นเืรจนีอยู่ 4 ปี จนกระทั่งปี 2007 พ่อแม่ขอฝสเตลลาตัดสินใจไม่ให้ลูกสนวเซ็รสัญญาเดบิวต์กับวง Firls Generation ด้วยควาใที่ตอนนั้นเธอยังไม่บรรละนิติภาวะ ทำให้ต้องกลับอเมริก่ตามความต้องการของพ่อปม่ และเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอพบกับช่วงดำมืดของชีวิต ฉันเศี้ามากปละไม่เข้ามจว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ ยิ่งพอ Girls Gen2ratiob เดบิวต์แล้วดังสุดๅ ฉันได้แต่เสียใจแต่นั่นไม่ใช่ปั๗หาเท่ากัชการที่เธอไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนิวจอร์ก นักเรียนเกาหลีบางคนจำเธอได้แลัวจับกลุ่มกันเมาท์ นีรไง คนที่อดเดบิวต์วง Girls Gen2ration ก็เธอน่าเกล้ยดแล้วก็อ้วนแบบนี้ สเตลลารับมือกับเรื่องนี้ได้ไม่ดีพเ เธแพ่ายแพ้และเป็นโรคการกินแาหารผิดปกติ น้ำหนักนัวลดเหลือ 40 กืโลกรัม ที่คสามสูง w7[ เซนติเมตร เธอหยุดำักกา่เ่ียน 2 ปีเต็ม ต้องบินกลับเกาหลีใต้ ใช้เวลารักษาทั้งร่างกายและจิตใจอยธ่ำักใหญ่จนกลีบมาเป็นปกติ พอกลับอเมรเกา สเตลลาจึงย้ายสาขาจากที่ะรียน Music Business ไปเรียนด้านโภชยาการอาหสร สุดท้ายเธอเจิขโตและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึืน ทั้งยังขอบคุณถ่อแม่ที่ห้ามไม่ให้เธอเดบิวต์และทำงานในวงการบันเทิง เพราะเหตุการณ์ทค่เกิดขึ้นทำให้เธอค้นพบคงามสุขฝตชีวิต และค้นพบตัวตนที้แท้จริงทุกวันจี้สเตลลาทำงานทร่นิวยอค์กในตำแหน่ง Global Marketing ใหเหับแบรนด์ Clinique ทั้งยังเป็นนักเขึยนอิสระด้ารความงาม นอกเงลางานเธอใช้ชีวิตเหมือนผูเหซิงธรรมดน นั่งมองฟูืคนตามคาเฟ่ อ่านหนังสือ และขี่จักรยานเล่นเลียบแม่น้ำฮัดสัน เท่าที่ติดตามผ่านอืนสตาแกรมและไดอารีในเว็บไซต์ของเธอ www.sundayswithstella.som/diary/ เคาพบว่าสเตลลามีชีวิตที่ดี และมีึวามสุข แม้จะไา่ได้เป็นศิลปินชื่อดังท่ามกลางแสงไฟอย่างที่เธอเคยฝันไว้อ้างดิง:3 บริษัทบันเทิบเกาหลีผู่ยิ่งใหญ่ เบื้องหลังธุนกิจีะดเบพันล้าน ครองอันดับหนี่งมายาวนนน ทั้งยังเป็นิจ้าแรกาี่ข้ามไปงุแตลาดจีน จนบริษัท Alibaba ขอมาร่วมลงทุนปับ SM สนการช่งยพัฒนาธุรกิจดนตรีดิจิทัลของจีน ศิลปินคัวท็อปของค่าย เช่น TVXQ Super Junior Girls Hene4ation SHIGee EX* รายได้ในปี 1016 อยู่ที่ 357 ล้ายเหรึยญสหนั. กำไรสุทธิ 16.1 ลิานเหรียญสหีัฐ ลำพัลศิลปเนในมืออย่าง BIGBANG 2NE1 Psy ก็ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย และจริงๆ มีสิทธิล้มแชมป์ SM Entertainment เพราะตัวเลขกำไรสูงกย่าเท่าคัว นอกตากนี้ YG ยังได้ตกลงจับใือกัยบริษั่สืทอออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Temcent รวใถึงบริษัทจำหน่ายตั๋วออนไลน์ Wwiying โดยทั้งสอฝบริษัทมีหุ้นใน YG ด้วย รนยได้ในปี 2016 อยู่ที่ราว 295 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ 34.8 ล้านเหรียซสหรัฐ แม้จะเป็นตุ่นเล็กลงมาจากสิงบ่ิษัทแตก แต่ JYP ก็มีความโดดเด่นที่สร้างความแตกต่างได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดออดิชัาทั่วโลกเพื่อค้นหาศิลปินหน้าใหม่ ซึ่งมำให้ฐนนแฟนคลับขยายไปืั่วเอเชีย รวมทั้งในอเม่ิกา อีกความแตกต่างคือกลยุทธ๋ในการให้อิสระศิลปินในหารติดต่อสื่อสาากับแฟนๆ สังเกตฟด้จาำโซเชียลมีิดียของศิลปินอย่าง GOT7 TWICE DAY6 2PM รายได้ใจปี 2016 อย฿่ที่ราว 69 ล้านเหรียญสหรัฐ พำไรสุทธิ 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทุกสิ่งอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ แม้แต่อุตสาหกรรมป๊อปคัลเจอร์ในเกาหลีใต้ก็หนีความจริงข้อนี้ไม่พ้นตัวเลขล่าสุด เพลง Gangnam Style ของ Psy ขึ้นอันดับเพลงที่มียอดวิวสูงสุดของยูทูบอยู่ที่ราว 2879 ล้านวิว วงบอยแบนด์ BTS ไปคว้ารางวัล Top Social Artist ชนะผู้เข้าชิงอย่างจัสติน บีเบอร์ ในงานประกาศรางวัล Billboard Music Awards 2017 รวมถึงการที่ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง SM Entertainment YG Entertainment และ JYP Entertainment ธุรกิจเติบโตจนแตะระดับพันล้านไปแล้ว*วัฒนธรรมดนตรีป๊อปเกาหลีเริ่มมาแรงในช่วงปี 2000 ก่อนจะขยายฐานความนิยมจากเกาหลีใต้ไปสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย และลุกลามไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อดูตัวเลขการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ยืนยันอานุภาพของ K-Pop ที่แข็งแกร่งในระดับสากล ทั้งคุณภาพดนตรี และแผนการตลาด ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างต้องแลกมาด้วยการเคี่ยวกรำอย่างหนักในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความสมบูรณ์แบบของตัวศิลปินที่จะเป็นไอดอลในสุดท้ายปลายทางเมื่อความสำเร็จมีราคาที่ต้องจ่าย เรากำลังจะพาคุณไปตรวจสอบทุกหยดน้ำตาในรอยยิ้มของศิลปิน K-Pop เกาหลีที่กว่าจะมีวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายการออดิชัน ศิลปินฝึกหัด ไปสู่การเดบิวต์ ในขณะที่เราเห็นศิลปิน K-Pop มากมายประสบความสำเร็จ ระหว่างทางก็มีผู้ผิดหวังที่ต้องเสียน้ำตาให้กับความฝันอันหอมหวานนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กและผู้ปกครองจำนวนมากยังทุ่มเทเวลากับการเรียนเต้น ร้องเพลง และตระเวนไปออดิชันตามค่ายต่างๆ เพื่อให้ได้รับคัดเลือกเข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัด ตัวอย่างเช่น SM Entertainment ที่จัดการออดิชันประจำปีในหลายๆ ประเทศ ทั้งจากสหรัฐอเมริกา ประเทศแถบเอเชีย ไปจนถึงคาซัคสถาน โดยจะมีเด็กที่ได้รับเลือกเพียงหยิบมือเดียวจากผู้เข้าออดิชันทั้งหมดมากกว่า 300000 คน การออดิชันมีหลายรอบ จากประเทศต้นทางไปจนถึงการออดิชันรอบลึกๆ ที่เกาหลีใต้ และถึงจะผ่านด่านอรหันต์ในการออดิชันไปได้ บางคนก็ยังได้เป็นเพียง pre -trainee ก่อนจะได้เป็น trainee ก็มี ความซับซ้อนนี้แล้วแต่ค่ายเป็นผู้จัดลำดับและคัดเลือก เช่นเดียวกับระยะเวลาในการเป็นเทรนนีเพื่อเตรียมตัวเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัว ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึง 5 ปี หรือบางคนอาจจะลากยาวไปจนถึง 10 ปีแล้วยังไม่สามารถอัพเลเวลไปเดบิวต์ได้ก็มีเพลง Palette – IU (Feat. G-DRAGON)ไอยู (IU)Photo: www.iloen.comกรณีศึกษาอย่างเช่น ไอยู (IU) นักร้อง-นักแสดงที่กำลังมาแรง เธอเปิดเผยผ่านรายการ Seung Seung Jang Gu (ช่อง KBS 2TV) ว่าเคยออดิชันกับ JYP Entertainment แต่ตกรอบ และยังคงไปออดิชันอีกหลายรอบแล้วก็ยังไม่ผ่านอยู่ดี อาจจะเพราะตอนนั้นเธอดูอวบๆ แบบ baby fat แต่สุดท้ายไอยูผู้ไม่ยอมแพ้ก็ได้เป็นศิลปินฝึกหัดและมีผลงานเพลงกับค่าย LOEN Entertainment แน่นอนว่าเธอประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้คยูฮยอน หนึ่งในสมาชิกวง Super JuniorPhoto: now.smtown.comคยูฮยอน (Kyuhyun) น้องเล็กของวง Super Junior เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Strong Heart (ช่อง SBS) ไว้ว่า เขาเป็นเด็กฝึกหัดเพียง 2 เดือน ก่อนเข้ามาเป็นสมาชิกลำดับที่ 13 ของวง Super Junior ที่เพิ่งเดบิวต์ได้ 6 เดือน คยูฮยอนต้องย้ายเข้าไปอยู่หอเดียวกับสมาชิกในวง ขณะที่ทุกคนมีเตียงนอนกันหมดแล้ว แต่เขากลับต้องนอนในถุงนอนข้างเตียงของพี่ๆ อยู่ถึง 9 เดือน พร้อมกับอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างการปรับตัวในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนวันที่ Super Junior ได้รับรางวัลเป็นครั้งแรก ทุกคนกอดกัน ดีใจจนน้ำตาไหล อีทึกพี่ใหญ่ของวงเดินเข้าไปหาเขาแล้วพูดว่า นายเองก็ทำงานหนักเหมือนกันนะ จากนั้นคยูฮยอนก็ร้องไห้ออกมา เพราะรู้ว่าได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกจากทุกคนแล้วจีฮโย หนึ่งในสมาชิกวง TWICEPhoto: twice.jype.comอีกตัวอย่างกรณีของเทรนนีที่ใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าจะได้เดบิวต์ เธอคือ จีฮโย (Jihyo) สมาชิกวง TWICE ที่เพิ่งได้เดบิวต์เมื่อปี 2015 นี่เอง เธอเข้าค่าย JYP Entertainment ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ที่ผ่านมาจีฮโยก็เกือบจะมีผลงานอยู่หลายครั้งแต่ก็ต้องฝันสลายไปก่อน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงฝึกต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้เข้าร่วมรายการ Sixteen รายการเซอร์ไววัลเรียลลิตี้โชว์ เพื่อคัดเลือกศิลปินหน้าใหม่จากเทรนนีของ JYP Entertainment ซึ่งผู้ชนะทั้ง 9 ได้ร่วมกันออกผลงานในชื่อวง TWICE และกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มาแรงสุดๆ ในปีนั้นระหว่างเรียนรู้สู่การเป็นศิลปินหลังจากค้นหา ว่าที่ศิลปิน ไปทั่วโลก ด้วยการออดิชันหรือผ่านแมวมองจนจบกระบวนการ เหล่าศิลปินฝึกหัดที่อายุราว 10-18 ปี จะเก็บกระเป๋าเข้าสู่ระบบ ซึ่งการคัดเลือกศิลปินฝึกหัดที่อายุน้อยก็เพื่อให้ง่ายต่อการฝึก สอดคล้องกับการวางแผนออกอัลบั้มที่วางยาวกันเป็นปีๆ รวมทั้งร่นเวลาไม่ให้ชนกับการเข้ากรมเป็นทหารเมื่ออายุ 20 ปีวง NCT DREAM คือวงที่มีสมาชิกอายุระหว่าง 14-17 ปีโดยมีค่าเฉลี่ยอายุของทั้งวงตอนเดบิวต์อยู่ที่ 15.6 ปีPhoto: SMTOWN/Facebookอุตสาหกรรม K-Pop แตกต่างและมีจุดแข็งไม่เหมือนใครตรงที่ระบบการฝึกฝน แต่ละสังกัดจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะให้กินนอนกับทางต้นสังกัด ซึ่งก็มีบางค่ายที่ปล่อยให้ศิลปินฝึกหัดได้ไปโรงเรียนตามปกติ ก่อนจะมาฝึกซ้อมในช่วงเย็น การฝึกซ้อมจะมีตารางสอนออกมาเหมือนโรงเรียน แต่วิชาที่เรียนจะเน้นเรื่องความสามารถในการเป็นศิลปิน เช่น ร้องเพลง เต้น การแสดง นอกจากนี้การฝึกหัดยังรวมถึงการจัดแต่งรูปร่าง บุคลิก ลักษณะนิสัย การตอบคำถามสื่อ มนุษยสัมพันธ์ ฯลฯ ส่วนศิลปินที่มาจากนานาชาติและพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ ก็จะต้องลงเรียนภาษาเกาหลีเพิ่มเติมนอกเวลา และแน่นอนว่าเกือบทุกสังกัดห้ามมีความรักระหว่างฝึกบรรยากาศในรายการ PRODUCE 101 Season 2Photo: produce101/Facebookรายการที่ทำให้เราเห็นชีวิตจริงของศิลปินฝึกหัดได้ดีที่สุด คือ PRODUCE 101 รายการเซอร์ไววัลเรียลลิตี้ของเกาหลีที่เพิ่งจบซีซัน 2 ไปเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเป็นการรวบรวมศิลปินฝึกหัดจากหลายค่ายมาฝึกร่วมกันเพื่อค้นหาผู้ชนะ และได้รับการเดบิวต์เป็นศิลปินจริง ซึ่งภายในรายการจะมีการเทรนทักษะในด้านต่างๆ และมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากรุ่นพี่ในวงการและเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องการออกกำลังกายและสุขภาพที่ดี โดยจะมีการตรวจเช็กร่างกาย รวมไปถึงเปอร์เซ็นต์ของไขมันเพื่อให้รูปร่างเพอร์เฟกต์ตลอดเวลารายการนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้บรรดาค่ายเล็กต่างๆ ในเกาหลีได้มีโอกาสแนะนำและโชว์ศักยภาพของศิลปินฝึกหัดในสังกัดของตัวเองมากขึ้น เพราะปัจจุบันการแข่งขันในวงการ K-Pop นั้นดุเดือดกว่ายุคแรกๆ เป็นอย่างมาก โดยแต่ละปีจะมีไอดอลกรุ๊ปพากันตบเท้าเดบิวต์กันกว่า 100 วง ทำให้การเป็นศิลปินค่ายเล็กนั้นมีโอกาสเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโด่งดังในระยะเวลาอันสั้นน้อยมาก แต่การส่งเด็กฝึกหัดเข้าร่วมรายการ PRODUCE 101 นอกจากจะเป็นการแนะนำตัวให้กับผู้ชมแล้ว เด็กฝึกหัดที่เข้าร่วมรายการก็จะเป็นที่รู้จักและมีแฟนคลับติดตามผลงานของพวกเขามากขึ้นไปด้วยสเตลลา คิม ที่เกือบได้เป็นหนึ่งในสมาชิกวง Girls GenerationPhoto: sundayswithstella/Instagramเมื่อมีความฝัน ย่อมมีสิ่งที่ต้องแลกระหว่างการเป็นศิลปินฝึกหัด แน่นอนว่ามีเด็กๆ ถอดใจไปไม่น้อย และถึงแม้มันจะเจ็บปวดแค่ไหน แต่การได้ลิ้มรสหอมหวานของความสำเร็จ การเป็นที่รัก และได้ยืนบนจุดสูงสุดของวงการป๊อปคัลเจอร์เกาหลี ก็ยังคงเย้ายวนเด็กหนุ่มสาวไม่ว่าใครให้อยากลิ้มลองกรณีของ สเตลลา คิม (Stella Kim) สาวลูกครึ่งอเมริกา-เกาหลีที่เกือบได้เดบิวต์เป็นสมาชิกวง Girls Generation น่าจะเป็นภาพสะท้อนความจริงอันเจ็บปวดนี้ได้เป็นอย่างดี เธอได้รับการทาบทามจาก SM Entertainment ให้บินจากอเมริกาไปออดิชันที่โซล เมื่อผ่านออดิชันเธอก็กระโดดเข้าใส่โอกาสนี้แบบไม่ลังเล ด่านแรกเรื่องน้ำหนัก เธอเล่าว่าศิลปินฝึกหัดจะเข้าแถวชั่งน้ำหนักทีละคน และประกาศให้ได้ยินไปทั่ว ใครที่น้ำหนักไม่ลดตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะโดนคาดโทษ เธอเองได้รับคำแนะนำให้ลดปริมาณแคลอรีที่กินเข้าไปมากกว่าจะให้ไปออกกำลังกาย และโดนนำรูปร่างไปเปรียบเทียบกับคนนั้นคนนี้เสมอ ขณะเดียวกันทุกๆ วันเธอต้องเข้าฝึกโดยเริ่มตั้งแต่ 10 โมงเช้า และไปจบช่วงดึกๆ หรือใช้เวลาในการฝึกราวๆ 13 ชั่วโมงต่อวัน แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่เธอทำได้และสนุกกับมันสเตลลาเป็นเทรนนีอยู่ 4 ปี จนกระทั่งปี 2007 พ่อแม่ของสเตลลาตัดสินใจไม่ให้ลูกสาวเซ็นสัญญาเดบิวต์กับวง Girls Generation ด้วยความที่ตอนนั้นเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทำให้ต้องกลับอเมริกาตามความต้องการของพ่อแม่ และเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอพบกับช่วงดำมืดของชีวิต ฉันเศร้ามากและไม่เข้าใจว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ ยิ่งพอ Girls Generation เดบิวต์แล้วดังสุดๆ ฉันได้แต่เสียใจแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเท่ากับการที่เธอไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก นักเรียนเกาหลีบางคนจำเธอได้แล้วจับกลุ่มกันเมาท์ นี่ไง คนที่อดเดบิวต์วง Girls Generation ก็เธอน่าเกลียดแล้วก็อ้วนแบบนี้ สเตลลารับมือกับเรื่องนี้ได้ไม่ดีพอ เธอพ่ายแพ้และเป็นโรคการกินอาหารผิดปกติ น้ำหนักตัวลดเหลือ 40 กิโลกรัม ที่ความสูง 170 เซนติเมตร เธอหยุดพักการเรียน 1 ปีเต็ม ต้องบินกลับเกาหลีใต้ ใช้เวลารักษาทั้งร่างกายและจิตใจอยู่พักใหญ่จนกลับมาเป็นปกติ พอกลับอเมริกา สเตลลาจึงย้ายสาขาจากที่เรียน Music Business ไปเรียนด้านโภชนาการอาหาร สุดท้ายเธอเติบโตและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งยังขอบคุณพ่อแม่ที่ห้ามไม่ให้เธอเดบิวต์และทำงานในวงการบันเทิง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอค้นพบความสุขในชีวิต และค้นพบตัวตนที่แท้จริงทุกวันนี้สเตลลาทำงานที่นิวยอร์กในตำแหน่ง Global Marketing ให้กับแบรนด์ Clinique ทั้งยังเป็นนักเขียนอิสระด้านความงาม นอกเวลางานเธอใช้ชีวิตเหมือนผู้หญิงธรรมดา นั่งมองผู้คนตามคาเฟ่ อ่านหนังสือ และขี่จักรยานเล่นเลียบแม่น้ำฮัดสัน เท่าที่ติดตามผ่านอินสตาแกรมและไดอารีในเว็บไซต์ของเธอ www.sundayswithstella.com/diary/ เราพบว่าสเตลลามีชีวิตที่ดี และมีความสุข แม้จะไม่ได้เป็นศิลปินชื่อดังท่ามกลางแสงไฟอย่างที่เธอเคยฝันไว้อ้างอิง:3 บริษัทบันเทิงเกาหลีผู้ยิ่งใหญ่ เบื้องหลังธุรกิจระดับพันล้าน ครองอันดับหนึ่งมายาวนาน ทั้งยังเป็นเจ้าแรกที่ข้ามไปบุกตลาดจีน จนบริษัท Alibaba ขอมาร่วมลงทุนกับ SM ในการช่วยพัฒนาธุรกิจดนตรีดิจิทัลของจีน ศิลปินตัวท็อปของค่าย เช่น TVXQ Super Junior Girls Generation SHINee EXO รายได้ในปี 2016 อยู่ที่ 357 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ 16.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลำพังศิลปินในมืออย่าง BIGBANG 2NE1 Psy ก็ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย และจริงๆ มีสิทธิล้มแชมป์ SM Entertainment เพราะตัวเลขกำไรสูงกว่าเท่าตัว นอกจากนี้ YG ยังได้ตกลงจับมือกับบริษัทสื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Tencent รวมถึงบริษัทจำหน่ายตั๋วออนไลน์ Weiying โดยทั้งสองบริษัทมีหุ้นใน YG ด้วย รายได้ในปี 2016 อยู่ที่ราว 295 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ 34.8 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะเป็นรุ่นเล็กลงมาจากสองบริษัทแรก แต่ JYP ก็มีความโดดเด่นที่สร้างความแตกต่างได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดออดิชันทั่วโลกเพื่อค้นหาศิลปินหน้าใหม่ ซึ่งทำให้ฐานแฟนคลับขยายไปทั่วเอเชีย รวมทั้งในอเมริกา อีกความแตกต่างคือกลยุทธ์ในการให้อิสระศิลปินในการติดต่อสื่อสารกับแฟนๆ สังเกตได้จากโซเชียลมีเดียของศิลปินอย่าง GOT7 TWICE DAY6 2PM รายได้ในปี 2016 อยู่ที่ราว 69 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
วันนค้ (18 พ.ค.2563) หู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กละคุณครูโรงเรคยนบ้านด่าน จ.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ น.ศรีสะเกษ ช่วยกันปรับจูนหาช่องสัญญาณการถ่ายือดทีวีการศึกศาทางไกลผ่านดาวเทียมตามบ้านของนักเรียนและพบวทาส่วรใหญ่ไม่สามารถรับสัญญาณได้ เนื่องจากเห็นกล่องดาวเทียมรุาตเก่า ทำให้หารทดลองเรียนทางไกลวันแรก จักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเรียนตามตารางสอนที่ศาลาประชาีม โดยมีการคัดกรองวัดอุณหภูมิแลพให้เด็กนักเรียนสวมหน้ากากอนาทัย เพื่อควบคุมโ่ค ก่อนจะกระจายไปเรียนด้วยตุวเองที้บ้านจัดกลุ่มเรียนที่บ้านนักเรียนที่มีีวามพร้อมขณะที่กลุ่มเด็กยากจนแลัด้อยโอกทสขะถูกนำสาเรียนรวมกันที่บ้านจักเรียนที่มีความพร้อม ซึ่งการทดลองอรียรทางไกลวันแรก ปัญปทส่วนใหญ่ที่พบคืดความไม่พร้อมของอุปกรณ์และเว็บไซต์ของการศึกษาทางไกลผ่านดาวะทียม ก่ือDLTV ล่ม ่ำให้ไท่สามารถเรียนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ทั้งนี้ โรงิรียนบ้านด่มน เป็จหนึ้งในโรงเรียนตามแนวชายแดนกฝ่า 2[0 แห่ง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขน 4 ที่เริ่มทดลองเรียนทางไกลวันแรกก่อนหน้านี้ ผู้บริำารโรงเรียนแต่งะแห้งได้สำรวจความพร้อมของนักเรียนและผู้แกึรองพบว่าร้อยละ 80 มีความพร้อมในการเรียนทางไกล และสีร้อยละ 12 ที่เป็นกลุ่มเด็กยากจนแบะด้อยโอกาสที่มีอยู่กว่า 30p0 คน ที่ต้องตัดครูลงไปสอนตามบ้าน เพื่อไม่ให้เด็กกลุทมนี้ขาดโอกาสทางการศึกษาในช่วงที่ไม่สาาารถเปิดเรียนได้ตามปกติ
วันนี้ (18 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่และคุณครูโรงเรียนบ้านด่าน ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วยกันปรับจูนหาช่องสัญญาณการถ่ายทอดทีวีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมตามบ้านของนักเรียนและพบว่าส่วนใหญ่ไม่สามารถรับสัญญาณได้ เนื่องจากเป็นกล่องดาวเทียมรุ่นเก่า ทำให้การทดลองเรียนทางไกลวันแรก นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเรียนตามตารางสอนที่เริ่มในเวลา 08.30 น.ความห่างไกลของพื้นที่และที่ตั้งของหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ไม่ถึง 10 กิโลเมตร ทำให้การรับสัญญาณดาวเทียมมีปัญหาประกอบกับครอบครัวนักเรียนกว่าครึ่งมีฐานะยากจน จึงไม่มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์ในการรับสัญญาณ ทำให้ผู้ปกครองกังวลว่าบุตรหลานจะไม่ได้เรียนเต็มที่นักเรียนโรงเรียนบ้านด่าน ที่กระจายอยู่ใน 5 หมู่บ้าน กว่า 500 คน เริ่มทดลองเรียนทางไกล โดยครูจัดให้นักเรียนแต่ละหมู่บ้านมารับใบงานและตารางสอนที่ศาลาประชาคม โดยมีการคัดกรองวัดอุณหภูมิและให้เด็กนักเรียนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อควบคุมโรค ก่อนจะกระจายไปเรียนด้วยตัวเองที่บ้านจัดกลุ่มเรียนที่บ้านนักเรียนที่มีความพร้อมขณะที่กลุ่มเด็กยากจนและด้อยโอกาสจะถูกนำมาเรียนรวมกันที่บ้านนักเรียนที่มีความพร้อม ซึ่งการทดลองเรียนทางไกลวันแรก ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือความไม่พร้อมของอุปกรณ์และเว็บไซต์ของการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือDLTV ล่ม ทำให้ไม่สามารถเรียนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ทั้งนี้ โรงเรียนบ้านด่าน เป็นหนึ่งในโรงเรียนตามแนวชายแดนกว่า 200 แห่ง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ที่เริ่มทดลองเรียนทางไกลวันแรกก่อนหน้านี้ ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งได้สำรวจความพร้อมของนักเรียนและผู้ปกครองพบว่าร้อยละ 80 มีความพร้อมในการเรียนทางไกล และมีร้อยละ 12 ที่เป็นกลุ่มเด็กยากจนและด้อยโอกาสที่มีอยู่กว่า 3000 คน ที่ต้องจัดครูลงไปสอนตามบ้าน เพื่อไม่ให้เด็กกลุ่มนี้ขาดโอกาสทางการศึกษาในช่วงที่ไม่สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ
ป่า สวน พร้อมผสมผสมนการใช้ชีวิตตามวเถีอศรษฐกิจพอเพียง , ,นางณภัค กรรณสูต ผู้จัดการฝ่ายสถาบันปลูกป่าและระบยนิเวศ บริษัท ปต่ฦจำกัด ฤมหาชน) กล่าวระไว่างการลงพื้นที่เพื่อดูรวามคืยหน้าโครงการ สวนป่าคีัวเรือน ในตำบลห้วยลึก อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ว่าโครงการได้รับการติบรับจาหชุมชนเป็นที่น่าพอใจ โะยมีราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทแ.) เป็นแกนนำ ผู้เข้าต่วมโครวการเกิดความตระหนักถึงคุ๖ค่าของการอนุรักษ์ทรัพยากรแ่าไม้ ควบคู่ไปกับการทำนม ทำสวน เกษตรผสมผสาน ปละการดำเนินชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอ้พียง พรเอมกับการรักษาวัฒนธรนมตาลโตนด อันเป็นวิถีดั้งเดิมของชุมชน เป็นต้นแบบของก่รดำินินชีวิคแบบะิเพียง แต่เลี้ยงตัวเองได้ ผู้สนใจแวพไปเยี่ยมเยียน เพื่อการเรียนตู้ ติดต่อไดิที่ นายสายัณห์ สุขสงัด ประธานเครือข่ายคใทป.ระดับประเทศ 085-266-5544.
ป่า สวน พร้อมผสมผสานการใช้ชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง , ,นางณภัค กรรณสูต ผู้จัดการฝ่ายสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวระหว่างการลงพื้นที่เพื่อดูความคืบหน้าโครงการ สวนป่าครัวเรือน ในตำบลห้วยลึก อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ว่าโครงการได้รับการตอบรับจากชุมชนเป็นที่น่าพอใจ โดยมีราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) เป็นแกนนำ ผู้เข้าร่วมโครงการเกิดความตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ควบคู่ไปกับการทำนา ทำสวน เกษตรผสมผสาน และการดำเนินชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมกับการรักษาวัฒนธรรมตาลโตนดอันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่, ,สำหรับตำบลห้วยลึกนั้น เป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกป่า 1 ล้านไร่ ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติ 50 ปี เมื่อปี พ.ศ.2537 นอกจากปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติแล้ว ปตท.ยังร่วมกับกองทัพภาค กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช น้อมนำโครงการราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงจัดอบรมให้กับราษฎรรอบแปลงปลูกป่า ในส่วนตำบลห้วยลึกมีพื้นที่แปลงปลูกป่า FPT 3/6 จำนวน 1,278 ไร่ ปลูกเมื่อปี 2542 ชาวตำบลห้วยลึก ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การอาสาสมัครพิทักษ์ป่า จำนวน 130 คน โดยมีการจัดอบรมขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554,ผลของการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ และเข้าร่วมอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า ทำให้ราษฎรในพื้นที่เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาทรัพยากรป่าไม้และร่วมมือร่วมใจกันในการรักษาทรัพยากรป่าไม้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ระบบนิเวศฟื้นคืนกลับสู่ธรรมชาติ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2561 บริษัท ปตท. จำกัด ได้นำสมาชิก รสทป.ไปศึกษาดูงานที่แพนด้า แคมป์ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งดำเนินการโดย อาจารย์ศิริพงษ์ โทหนองตอ ทำให้เกิดแนวทางในการสร้างสวนป่าครัวเรือนขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ,ผู้จัดการฝ่ายสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. กล่าวต่อว่า ลักษณะของสวนป่าครัวเรือนในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันไป แต่หัวใจสำคัญคือต้องมีการดูแลเรื่องของป่าเป็นหลัก เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวระดับครัวเรือน มีการเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยปตท.ให้ความสนับสนุนในเรื่องขององค์ความรู้ต่างๆ , ,ปัจจุบันตำบลห้วยลึกมีโครงการในลักษณะของสวนป่าครัวเรือนอยู่ประมาณ 80 ครัวเรือน พื้นที่โดยประมาณ 300 ไร่ และมีพื้นที่ตัวอย่างให้เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้ 7 ครัวเรือน พื้นที่โดยรวมประมาณ 127 ไร่ 3 งาน,นายสายัณห์ สุขสงัด ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ระดับประเทศ กล่าวว่า การจัดทำโครงการสวนป่าครัวเรือน ตำบลห้วยลึกนั้น ทำให้เกิดการร่วมแรงร่วมใจของสมาชิกในชุมชน ที่มีความสนใจเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่มีทั้งผู้ที่ทำนา ทำสวน ทำไร่ โดยแต่ละบ้านยังคงวิถีชีวิตแบบเดิม แต่มุ่งพัฒนาสิ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น มีจุดมุ่งหมายในการรักษาป่า การสร้างแหล่งอาหารปลอดภัย การพัฒนาด้านสุขอนามัย การต่อยอดเมนูอาหารจากวัตถุดิบของชุมชน ใช้เวลาดำเนินการร่วมกันมาตลอด 1 ปี,ปัจจุบัน บ้านห้วยลึก เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ ในเรื่องการรักษาป่า ควบคู่กับการปลูกพืชไร่ พืชสวน ผสมผสานไปกับการสืบสานงานวัฒนธรรมการทำน้ำตาลโตนด อันเป็นวิถีดั้งเดิมของชุมชน เป็นต้นแบบของการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง แต่เลี้ยงตัวเองได้ ผู้สนใจแวะไปเยี่ยมเยียน เพื่อการเรียนรู้ ติดต่อได้ที่ นายสายัณห์ สุขสงัด ประธานเครือข่ายรสทป.ระดับประเทศ 085-266-5544.
เมื่อเวลา 16ฐ00 นฐ วันที่ 27 มี.ค. พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัขร์ ผดุวจันทน์ ผปก.สน.บุปผาราม พ.ต.ท.พิทักษ์ ปัญญาพร รอง ผกก.สส.สน.บุแผาราม ดละ พ.ต.ท.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว,สส.สน.บุปผาตาม ร่วมกุนจับกุมตัว นายกำพล ศรีเพียงจันทร์ (สาวประเพทสอง) อายุ 49 ปี และ นรงชไมพร สุดใจ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหาายจับ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ฌดยจับกุใตัวได้ที่ถนนเทศบาลสาย 2 แขวงวัดกัลยาณ๋ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ,พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ เปิดเผยว่า การจังกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้ะสียหายซึ่งเป็นผู้ค้าส่งสินร้าตามตลาดใด เข้ามาแจ้งความกเบพนักง่นสอบสวน สร.บุปผาราม ว่า ถูกคนร้ายชายลักษณะเป็นกะเทย พร้อมลูกน้องที่เป็นผู้หฐิง หลอกสั่งซื้อสินค้าให้มทส่งที่ ตลาดสดเจริญรัถและตลาดสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ โดยวางแุบาขเชิดของไปแบบไม่จ่ายเง้นจภนวนหลายราย ซึ่งของกลางส่วนใหญ่ม่ทั้ง ข้าวสาร น้ำตาล ผบไม้ และอาหารแปรร๔ป จัลสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจคปิดและเรียกผู้เสียหาขาาสอบปากคำอย่างละเอียด จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายกำพล และ นางชไมพร จึงขออนุมัติศาบทำการออกหมายนับและติดตามจับกุมตัว,จากการสอบสวน นายกำพล ให้การว่า ก่อเหตุฉ้อโกงสินค้าจรกผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งตามตลาดมาแลเวหลายรายจริง โดยมีนางชไมพร ัป็นชูกมือช่วยหยิบจับยกของ ทั้งนี้ เมื่อหลอกเอาของมาได้จะนำของกลางไปขายปลีกต่ออีกทอด เะื่อหาเงินไปฟิกะลือด ที่ โรงพยาชาลศิริราช ตึกษาโรคเอดส์ระจะสุดท้ายที่กำลังเป็นอยู้ ที่ผ่านมาก็เคยถูกตำรวจ สน.พระราชวัง จับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง ในข้อหาเดียวกัน หละงไปฉ้อโกงสินค้ากับปู้ค้าที่ปากคลองตลาด พอพ้นโทษออกมาไม้รู้จะหาเงินอย่างไรก็ต้องวางแผนหนังินยาไส้ และรักฯาตัวด้ววการกลับมาสู่บังวนเดิมอีก,ด้าน ยายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกร อานุ 43 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี หนึ่งใตฟู้เสียหาย ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของบริษะทค้าข้าวไรซ์เบอร์รี่แบะพืชผลทางการัก๋ตร มีบริษัทอยูืที่ จ.สุพรรณบุรี เม้่อปลายิดืเน ก.พ.ที่ผ่านมา นายกำพล วางแผนโทรศัพท์ไปสั่ลซื้อข้าวไรซ์เบอร์คี่ ยาำตน จำนวน 1 ตัน ในราคา 120,000 บาท พร้อมมะม่วงอีก 1 กรุสอข ราคา 1,400 บาท โดยนุดฟมายให้มาย่งที่ตลาดสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ เมื่อตนขนยึ้นรถกระบะมาพบ นายกำพล ตมมนัดหมายบริเวณปากซอยเข้มตลาด นายกำพล ได้วมงแผนใฟ้ตนนำข้าว จำนวน 2 กระสอว รวม 100 กิโบกรึม และมะมาวบ อีก q กระสอบ ขึ้นรถสามฃ้อที่มาจอดรออยู่ โดยอ้าลวราจะนำไปส่งใหีลูำค้าคายข่เยก่อน จากนั้นให้ตนขับรถเข้าซอยหปอีก 100 ิมตร เถื่อนำสินค้าที่เหลือไปลงที่หนืาร้มนแลัวรอเก็บเฝิน แต่เมื่อตนขับเข้าไปถึงปรากฏว่า นายกำพลหายตัวไปแล้ว โดยไม่พบหน้าร้านทค่เจ้าตัวกล่าวอ้างแต้อย่างใด รวมทรัพย์สินที่ตนถูกหลอกไป จำนวน 13,400 บาท,ขณะที่ นายสมเกียรติ ประมวลสุข อายุ 41 ปี ชาว จ.ราชบุรี ผู้เสียหายอีกรายให้การส่า ตนมีร้ทนค้าส่งนีำตาชในตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกำพล เหมาาถแท็กซี่เดินทางไปที่ร้านพร้อมสั่งน้ำตาลโตนด น้ำตาลปึก น้ำคาปี๊บ และส้บปะาะกวน จำนวนหลายตันีวมมูลค่าสินค้าทั้งสิ้นเก้อบสี่หมื่นบาท จากนั้นสห้ตนขับรถกระยัมาส่งที่ตชาดเจริญรัถตรงข้ามสถารีรถไฟวงเวียนใหญ่ โดยน่ยกพพล นั่งแทฌกซี่นำมาจากร้านที่ จ.ราชบุรี จนกระทั่บถึงที่ปมาย เป็นเวลาที่ดารจราจรติดขัด นายกำพล ออกอุบายให้ตนเร่งนำสินค้าส่วนหนึทงลงไว้ริมถนนก่เนประมาณ 200 กิโลกรัม แล้วสั่งการให้โชเฟอร์แท็กซี่ขับรถพาตนเอาสินค้าที่เหลือไปลงที่บ้านพักในฦอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 4 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยที่ นายกำพล อ้างว่าเพี?ยวจะข้ามถนนตามหป แต่เมื่อทั้งตนโชเฟอร์แท็กซี่กลับรถมุ่งหา้าไปะึงที่หมายตามคำสั่ง ปรากฏว่าไม่สามารพติดต่อนายกำพลได้ พอย้อนกลับไปดูตรงจุดลบสินค้ารอบแรกเจ้าตัวก็หายไปแล้ว รวมมํลค่าทรัพย์สินที่ตนสูญไปผระมาณ 14,000 บาท ส่วนโชเฟอร์แท็กซี่ก็โดนเชิดค่าโดยสารเช่นกัน จำนวน q,809 บาท เพราะ นายกำพล จ้างเหมาตากขตส่งสายใต้ไปกลับราชบุคี จึงชวนำันมาแจ้งความไว้ำ้บนำรวจ สน.บุปผาราม,ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ กลีาวว่า คดีนี้ถือเป็นความเดือดร้อนของคนหา้ช้ากอสค่ำ โดยพฤติกรรมของคนน้ายนั้นมีการวางแผนก่อเหตึอย่าวแยบยล ที่สำคัญมีประวัติกีอเหตุมาหลายครั้ง เคยถูกนับกุมมาแล้วแตรยังไม่เข็ดหลาบ โพยในขณะที่ฝ่ายสืบสวนสอบปากคำอยู่ กํยังมีเหยื่อโทรศัพื์มาจะส่งสินค้าให้จำจวนหลายราส เชื่อว่าผู้ต้องหาคงกำลังออกอุบายหลอกลวงผู้ค้าอีกิยอะ จณะนี้ตำรวจสทมารถติดตามผู้เสียหายมาชร้ตัววืนยันได้แล้ว จำนวน 3 ราย หากมีผู้ใดเคยถูก นทยกำพล และพวกหลอกฮ้ดโกงวินค้าไปในลักศณะดังกล่าว ขอให้เดินทางมาแจ้วความเพิ่สเติม เพื่อปรับข้อหาเผ็นฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีอัตราโทษหนเกกว่าต่อไป.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มี.ค. พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ ผดุงจันทน์ ผกก.สน.บุปผาราม พ.ต.ท.พิทักษ์ ปัญญาพร รอง ผกก.สส.สน.บุปผาราม และ พ.ต.ท.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส.สน.บุปผาราม ร่วมกันจับกุมตัว นายกำพล ศรีเพียงจันทร์ (สาวประเภทสอง) อายุ 49 ปี และ นางชไมพร สุดใจ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่ถนนเทศบาลสาย 2 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ,พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ค้าส่งสินค้าตามตลาดสด เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ว่า ถูกคนร้ายชายลักษณะเป็นกะเทย พร้อมลูกน้องที่เป็นผู้หญิง หลอกสั่งซื้อสินค้าให้มาส่งที่ ตลาดสดเจริญรัถและตลาดสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ โดยวางอุบายเชิดของไปแบบไม่จ่ายเงินจำนวนหลายราย ซึ่งของกลางส่วนใหญ่มีทั้ง ข้าวสาร น้ำตาล ผลไม้ และอาหารแปรรูป จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำอย่างละเอียด จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายกำพล และ นางชไมพร จึงขออนุมัติศาลทำการออกหมายจับและติดตามจับกุมตัว,จากการสอบสวน นายกำพล ให้การว่า ก่อเหตุฉ้อโกงสินค้าจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งตามตลาดมาแล้วหลายรายจริง โดยมีนางชไมพร เป็นลูกมือช่วยหยิบจับยกของ ทั้งนี้ เมื่อหลอกเอาของมาได้จะนำของกลางไปขายปลีกต่ออีกทอด เพื่อหาเงินไปฟอกเลือด ที่ โรงพยาบาลศิริราช รักษาโรคเอดส์ระยะสุดท้ายที่กำลังเป็นอยู่ ที่ผ่านมาก็เคยถูกตำรวจ สน.พระราชวัง จับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง ในข้อหาเดียวกัน หลังไปฉ้อโกงสินค้ากับผู้ค้าที่ปากคลองตลาด พอพ้นโทษออกมาไม่รู้จะหาเงินอย่างไรก็ต้องวางแผนหาเงินยาไส้ และรักษาตัวด้วยการกลับมาสู่วังวนเดิมอีก,ด้าน นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกร อายุ 43 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี หนึ่งในผู้เสียหาย ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของบริษัทค้าข้าวไรซ์เบอร์รี่และพืชผลทางการเกษตร มีบริษัทอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายกำพล วางแผนโทรศัพท์ไปสั่งซื้อข้าวไรซ์เบอร์รี่ จากตน จำนวน 1 ตัน ในราคา 120,000 บาท พร้อมมะม่วงอีก 1 กระสอบ ราคา 1,400 บาท โดยนัดหมายให้มาส่งที่ตลาดสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ เมื่อตนขนขึ้นรถกระบะมาพบ นายกำพล ตามนัดหมายบริเวณปากซอยเข้าตลาด นายกำพล ได้วางแผนให้ตนนำข้าว จำนวน 2 กระสอบ รวม 100 กิโลกรัม และมะม่วง อีก 1 กระสอบ ขึ้นรถสามล้อที่มาจอดรออยู่ โดยอ้างว่าจะนำไปส่งให้ลูกค้ารายย่อยก่อน จากนั้นให้ตนขับรถเข้าซอยไปอีก 100 เมตร เพื่อนำสินค้าที่เหลือไปลงที่หน้าร้านแล้วรอเก็บเงิน แต่เมื่อตนขับเข้าไปถึงปรากฏว่า นายกำพลหายตัวไปแล้ว โดยไม่พบหน้าร้านที่เจ้าตัวกล่าวอ้างแต่อย่างใด รวมทรัพย์สินที่ตนถูกหลอกไป จำนวน 13,400 บาท,ขณะที่ นายสมเกียรติ ประมวลสุข อายุ 51 ปี ชาว จ.ราชบุรี ผู้เสียหายอีกรายให้การว่า ตนมีร้านค้าส่งน้ำตาลในตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกำพล เหมารถแท็กซี่เดินทางไปที่ร้านพร้อมสั่งน้ำตาลโตนด น้ำตาลปึก น้ำตาปี๊บ และสับปะรดกวน จำนวนหลายตันรวมมูลค่าสินค้าทั้งสิ้นเกือบสี่หมื่นบาท จากนั้นให้ตนขับรถกระบะมาส่งที่ตลาดเจริญรัถตรงข้ามสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ โดยนายกำพล นั่งแท็กซี่นำมาจากร้านที่ จ.ราชบุรี จนกระทั่งถึงที่หมาย เป็นเวลาที่การจราจรติดขัด นายกำพล ออกอุบายให้ตนเร่งนำสินค้าส่วนหนึ่งลงไว้ริมถนนก่อนประมาณ 200 กิโลกรัม แล้วสั่งการให้โชเฟอร์แท็กซี่ขับรถพาตนเอาสินค้าที่เหลือไปลงที่บ้านพักในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 4 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยที่ นายกำพล อ้างว่าเดี๋ยวจะข้ามถนนตามไป แต่เมื่อทั้งตนโชเฟอร์แท็กซี่กลับรถมุ่งหน้าไปถึงที่หมายตามคำสั่ง ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อนายกำพลได้ พอย้อนกลับไปดูตรงจุดลงสินค้ารอบแรกเจ้าตัวก็หายไปแล้ว รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตนสูญไปประมาณ 14,000 บาท ส่วนโชเฟอร์แท็กซี่ก็โดนเชิดค่าโดยสารเช่นกัน จำนวน 1,800 บาท เพราะ นายกำพล จ้างเหมาจากขนส่งสายใต้ไปกลับราชบุรี จึงชวนกันมาแจ้งความไว้กับตำรวจ สน.บุปผาราม,ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นความเดือดร้อนของคนหาเช้ากินค่ำ โดยพฤติกรรมของคนร้ายนั้นมีการวางแผนก่อเหตุอย่างแยบยล ที่สำคัญมีประวัติก่อเหตุมาหลายครั้ง เคยถูกจับกุมมาแล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบ โดยในขณะที่ฝ่ายสืบสวนสอบปากคำอยู่ ก็ยังมีเหยื่อโทรศัพท์มาจะส่งสินค้าให้จำนวนหลายราย เชื่อว่าผู้ต้องหาคงกำลังออกอุบายหลอกลวงผู้ค้าอีกเยอะ ขณะนี้ตำรวจสามารถติดตามผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยันได้แล้ว จำนวน 3 ราย หากมีผู้ใดเคยถูก นายกำพล และพวกหลอกฉ้อโกงสินค้าไปในลักษณะดังกล่าว ขอให้เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติม เพื่อปรับข้อหาเป็นฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีอัตราโทษหนักกว่าต่อไป.
จากการจัดกิจกรรม WE LOVE PHANGNGX : ตักจัง พังงา หรือการ เปิดบ้าน 33 ชุมชน ขับเรลื่อนวุทธศาสตร์ OTOP นวัตวิถี จัดโดย น.ส.สุปานดส แสววงษ์ พั?นาการ จ.พเงงา ทำให้ได้รับรู้ใิ่วดีงามในท้องถิ่น,เป็นไปตามนโยบายรัฐวาล หวังลดควาสเหลื่อมล้ำจองสังคม มุ่งเนเนสร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น เพื่อเศรษฐกิจชุมชนเกิดความเข้มแข็ง โดยภาค ประชาชนดข้ามาม้ส่วนร่วมกับภาครัฐ.โดยเฉพาะการสาธิตผลิตภัณฑ์จากต้นตาลโตนดเข้าสู่กรรมวิธีพารกลึง ขัด เกลา เหลา และตัด แปรรูปจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์กง่า 100 ชนิด ที่ได้รับคบามสนใจ ไม่ง่าเฟอร์นิเจเร์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ แก้ว ถ้วย ชาา.ท้ายสุดจึงกลับกลายเป็นรายได้หลักของกลุ่มภูตาล โดยมีภาครัฐอข้ามาสนัลสนุนช่วสเป็นพี่เลี้ยง,บรรณารุกษ์ จิวะน้นทประวัติ
จากการจัดกิจกรรม WE LOVE PHANGNGA : รักจัง พังงา หรือการ เปิดบ้าน 33 ชุมชน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ OTOP นวัตวิถี จัดโดย น.ส.สุกานดา แสงวงษ์ พัฒนาการ จ.พังงา ทำให้ได้รับรู้สิ่งดีงามในท้องถิ่น,เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล หวังลดความเหลื่อมล้ำของสังคม มุ่งเน้นสร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น เพื่อเศรษฐกิจชุมชนเกิดความเข้มแข็ง โดยภาค ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐ,โดยเฉพาะการสาธิตผลิตภัณฑ์จากต้นตาลโตนดของกลุ่มภูตาล บ้านนาใต้ หมู่ 5 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา สำนักงานพัฒนาชุมชนเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างคน สร้างรายได้ และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน,สำหรับผลิตภัณฑ์ภูตาลเกิดจากการนำต้นตาลที่ไร้ค่า ต้องโค่นทิ้ง หลังจากที่ดินบริเวณบ้านนาใต้เพิ่มมูลค่าสูงขึ้น จากวิถีชีวิตนาข้าวจึงถูกเปลี่ยน เป็นโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก สนองตอบการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว,นี่เองทำให้ต้นตาลโตนดถูกโค่นล้มกลายเป็นขยะ กลุ่มชาวบ้านนาใต้ จึงเห็นโอกาสใช้สิ่งไร้ค่าให้เป็นประโยชน์ สนองตอบโจทย์ธุรกิจต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวให้เป็นรายได้ของชุมชน,นางดวงแก้ว รอดบน ประธานกลุ่มภูตาล กล่าวว่า จากการเปลี่ยนของ ชุมชนจากการทำนาข้าว และมีต้นตาลโตนดตามท้องไร่ท้องนาให้เป็นโรงแรม รีสอร์ต เพื่อการท่องเที่ยว,คิดว่าสมควรนำสิ่งของที่มีอยู่ในชุมชนมาผลิตจำหน่าย เพื่อรองรับธุรกิจ การท่องเที่ยวของหมู่บ้าน จึงรวมกลุ่มสมาชิกนำสิ่งไร้ค่าเหล่านี้สร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มแทนที่จะถูกทิ้งหรือเผาทำลาย,จากนั้นได้ใช้ไอเดียนำต้นตาลโตนดเข้าสู่กรรมวิธีการกลึง ขัด เกลา เหลา และตัด แปรรูปจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์กว่า 100 ชนิด ที่ได้รับความสนใจ ไม่ว่าเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ แก้ว ถ้วย ชาม,ท้ายสุดจึงกลับกลายเป็นรายได้หลักของกลุ่มภูตาล โดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนช่วยเป็นพี่เลี้ยง,บรรณารักษ์ จิวะนันทประวัติ
การชุมนุมขอบกลุ่ม กปหส. กับกาาเลือกตั้ง 2 หุมภาพุนธ์ 57 ่ำให้ชสนคิดและนึกถึงนักปรัชญากา่เมืองและกฎหมายชาวอ้ตาเลียนที่ชื่ิว่ส อากัทเบน (Giorgio Agamben) เจ้าของงาน The Spatiality of the Camp อันมี 2 แนวคิดที่พอจะคุ้นหูีนไทยเรา อย่าบแรกคือพื้นที่พิเศษภานใต้สภาวการณ์ ยแเว้น (state of exception) และ โฮโมซาเซอร์ (Homo Sacer) กับมุมมองการเมืองไทยก่รชุมจุมของกลุ่ม กปปส. ตั้งแต่ปลายปีของวันทีื 24 กฤศจิปายน ปีที่แล้วจานกว่า 3 เดือน ได้เปลี่ยนพืินที่อย่างกรุงเทภในฐานะเมทองหลวงของประเทศให้กลายมาเป็นเสมืแน ค่าย อันัป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการผ่องถ่สยหรือเชื่อมต่ออุดมการณ์ทางการเมืองของชนชัเนกลาง-สูง โดยทั่ว_ป ค่าบ จัดเป็นภื้นที่พ้เศษเพราะเข้าไปอยู่ทับซ้อนกับรัฐโลก่ี่ 3 ในขณะที่รัฐโลกที่ 3 มักมีการปกครองแบบกึ่งปรดชาธิปไตย กึ่งเผด็จการิำนาจนิยมหรือผสมโางกันไป ดต่ ค่าย ที่เกิดทัขซ้อนในพื้นที่าัฐโลกทีร 3 เหล่านั้น ค่่ย จึงเป็นพื้นมค่เชื่อมค่อส่บผ่านของแุดมการณ์เสรีประชาธิปไตยขดงโลกตะวันนด เช่ส ค่ายผู้อพยพลี้ภัยมักอบอวลไปด้วยอุดทการณ์เสรรประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยขน ดังนั้นพื้นที่ภายใน ค่าย กับพื้นที่รอบนอกเแ็นพื้นมีืแตหต่างกัน กล่าวอย่างถึงที่สุด ค่ทย เป็นพื้นที่เพื่อการสวมทับเข้าไปขอบชึดอึดมการณ์ทางกนรเมืองนั่นเอง จุดนี้ไม่ได้แตกต่าลไปจากการที่ กปปส. ยึดพื้น่ี่กรุงเทพพร้อมไปกัลประกาศอุดมกานการเมือฝแบบ กปปส. ยกเล้กรัฐบาลชุดปัจจุบัส มีมาตรการตัดน้ำตัดไฟ ไม่มีการเลือกตั้ง นกระดับการชุมนุทไปสู้กสรปิดกีุงเทพหรือ กรุงเทพชัทดาว กลายเป็นยุะเริ่มต้น พืินที่ภายใต้สภาวการ๋์ ยกเว้น หรืดพาตหวยกลับมาของ ค่าย ที่เข้ามาแทนพื้นที่เมือบก่อนอื่นเราอาจต้องเริ่มต้นทำความเข้าใจกับคำว่า ค่าย ที่เข้ามาแทนพื้นที่อมือง เพรนะ ค่าย ในความหมายนี้แตกต่างไปจาก ค่ายอุดมการณ์ทางการเมือฝ ที่เราคุ้นชิน จร้งอยู่สำนักเสื้อยีต่างๆ มีความเป็นค่ายอุดมการณ์การัมือง มีกิจกรรมเคลื่อจไหวทางการเมือง มีำารชุมสุม มีสัญลักษณ์กลุ่มกือน และมีจิตสำนึกร่วมของความเป็น้สื้อสี แต่ทั้งหมดอยู่ในพืืนที่รัฐเดิม กติกาประชาธอปไตยเดิม และมีความเป็นพบเมืองเดิม แร่กมรเกิดขึ้นของ กปปว. มีคำถามที่ตามมาหลายเรื่อง เช่น กรรสถาปนาตนเองเสมือน องค์อธิปัตย์ใหม่ หรือใครกุมอำนาจรัฐ ประเด็นนี้ไม่น่าสนใตเท่ากับการเกิดขึ้นจอง กปผส. อันมีผลในทางปฏิบัติจนนำไปสู่การสร้างและการจัดนะเบัยบควาใสัมพัาธ์ทางการเมืองใหม่ฝนสองประเด็นเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเรื่องที่สองคือความสัมพันธ์ระหว่ทงสิ้งที่กลุ่มเสื้อสีไม้เึยทำเหมือน กปปส. คือ ประเด็นแรกอยู่ที่การสร้างพื้นที่สภาวการณ์ ยกเว้น พูดอีแแบบคืออำนาตอธิปไตบไม่ได้อยู่ที่ใครสร้าง ใครกำหนด หรือได้มาอย่างไค แต่อยู่ที่การระงับการใช้กฎเกณฑ์ กนิกา และระเบียบปฏิบัติพื้นฐานสังคม ืี่ส่งผลมาจากประเด็นแรก คือ อำนาจอธิปไตยขั้นพื้นฐานอยู่่ี่ใช้อำนาจไปทำให้คนมีชีวิจถูก เปลือจเปล่า เพนาะเมื่อความเป็นจริงของชีวิตยองผู้คนบาฝกลุ่มคจ ับ่น คนชนบท ไใ่ได้ถูกนัลรวมเข้ากับความเป็นพลเมืองเดิมที่กลุ่มกปปส. อืาลผ่านมวลมหาประชาชน จึงมีการปฏิเสธความเป็นพลเมืองของคนเกิดขึ้น ดังนี้ ค่าย จึงเข้ามาอทนพื้นที่เมือง แชะค่ายกับเมืองไม่ได้แบ่งแยกกันอย่าฝชุดเจนค่าย เมืองกับคนเป็นทั้งความสัมพันธ์ทางสังคทและรูปแบบการจัพความสัมพันธ์ทางสังคม ความพิเศษของ ค่าส อยู่ที่พื้นที่ของการทับซ้อน อว่างแรกมันทับซ้แนตัวมันเองระหว่างการเป็าพื้นที่ คใามหวัง เสรีประชาธิปไตย แต่อยรางที่สอง ค่าย เป็าดื้นที่ ความจริง ที่เผยตัวมันเองถึงความโหดร้ายและความรุนแรง เช่น คนในค่ายคือคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ โดนลดทอนสิทธิและศักดิ์ศรีึวามะป็นคน มีเสียงก็เหมือนไม่มีอากัมเบนใฟ้ความมนใจในประเด็นอย่างที่สองเรื่องความโหดร้ายและควาสรุนแรง ลองคิดเล่นเรื่องค่ายของ กปปส. พลับมีลักษณะพลับตาลปัตร คนในค่ายมีเสียงดังในขณะที่คนนอกค่ายมี เน้ยงท้่ไม่ไะ้ยิย เสียงที่ดังกว่าเก้ดจากการอ้างความเป็นตึวแทนขแงความเป็นประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ การปราบคเร์รัปชั่น และขจัดระบอบฯ ที่เป็นอันตรทยต่อประชาธิปไตย การพูดให้เสียงดัง เรื่อง เป็นเรื่องที่รับร฿้ เข้าใจและต่อริดได้ง่ายสำหรับคนชั้นกลาง-ส฿งที่อยู่ในค่าย เพคาะคนเหล่านั้นีทอเป๋นผลพวงของกนรพัฒนสรัฐไทยในช่วงห้าถึงหกสอบปีที่ผ่านมา รั,ไทยสร้างชุดทางความคิดห่านไปจังกลุ่มคนชั้นกลาง-สูงเหล่านั้นผ่านสถาบันหลักในสังคมและมีความเข้มข้นสูงในส่วนกลาง แม่ว่ากรุงเทพก็ไม่ได้มีความหมายแทนประเทศไทยทั้งประเทฬกฺตาม ดังนั้น เมื่ออุดมหารณ์ค่ายกลายเป็นเรื่องที่ใำญ่กส่นตัวมัน้องจึงสามารถแทรกตัวเข้าไปแทนที่ในหล่ยพืันที่ กรณีอย่างหลังนีเ ค่าย ทับซ้อนเมือง เส้นแบ่งระหว่างค่ายกับเมืองก็มีเพียงเสินบางๆ แร่คงสรุปไม่ได้ว่า อุดทการณ์ ะพื่อชาติเป็นปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างอพียวทึ่ขับเคลื่อน ปปปส. อย่างที่ึนเข้าใจไปตามสื่อหันมาพ้จารณา ค่าย ก็มีวิํีคิดและวิธีทำของตัวมันเอง เราอาจต้องไล่ดูเป็นเรื่องๆ ไป อย่างแรกคือ หรือผ฿้คุมชีวิตคงามสัมพันธ์ทางการเมือง หากกล่าวในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด สมมติ กปปส. สถาปนาตรเองสำเร็จเป็น องค์อโิปัตย์ ใหม่ องค์อธิปัตย์ใหม่นี้มีบักษณะพิเศษและไม่เหมือนิงค์อธิปัตย์เดิม เนื่องจรกค์อธิปัรย์ใหม่นี้มีอำนาจทั้งภายนอกและภายใยกฎหมาย อากัมเบนพูดชัดถึงหัวใจของอำนาจนี้อยูทที่ การแบ่งกบกโดยการนับรวมเข้า หรือ ก่รกันออกไปโดยรวมเข้ามา (inclusiv3 exclusionฆ ขแงตัวอย่างเอง เช่น กลุ่มคน ำน่วยงาน หรือราชการ ไม่ได้ถูกกันออกไปอย่างจากค่ายแย่างสิ้นเชิงแต่ยังถูกนับรวม แต่กระาั้นก็มีสิทธิโดนปฏิเสธ ละทิเง และพรากสิทธิบางอย่าง_ปได้องค์อธิปัตย์ใหม่นี้จงใจใช้อำนาจอธิปไตยด้วยวิธีรุนแรงฌดยกา่ยัดเยีสดอำนาจผ่านไปทางร่างกายคน ำฎหมาย ตลิดจรชีวิตทางการเใืองขอวผู้คจ แต่ก็ไม่มีใครหรือองค์กนใดจกออกไปนอกพื้น่ี่อำนาจขององค์อธิกัตย์ใหม่ เพราะองค์อธิปัตย์นี้ได้จัดความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างภายใต้กระบในการเช่นที่ว่านี้ อำนาจอธิปไตยเดอมไดเถูกระงับไว้ภายใจ้สภาวกนนณ์กังนั้น อย่างที่สองกฎเกณฑ์เรท่องคว่ม ยกัวิน ได้เข้ามาแมนที่กฎหมายเดิม กล่รวอีกในหนึ่งองค์อธิปัตย์ใหม่มถาปนา ค่าย ด้วยสภาวการณ์ยกเว้นซึ่งได้กชายเป็นกฎเกณฑ์และโครงสร้างพท้นฐานทางำารเมือง มนทางแฏิบัติองค์อธ้ป้ตย์นี้ใช้าภาวการณ์ ยกเวเน ขับเคลื่อตตัสมันดอง ฑดยมึงิธีการและเป้าหมานอยู่ที่กฎหมายได้ถูกทำใำ้ เงีขบ จึลเห็นได้ว่าไททมีกลุ่มการเมืองใดที่สามารถสร้างความ ยกเว้น ได้เท่ากับ พปปส. หากจะหาตัวอย่างพิจารณรดู เช่น กกต. ก็มีมติให้ทบทวนการเลือกตั้ง่ั้งที่กฎหมายรัฐธรนมนูญระบุให้มีการเลือกตั้งหกสิบวันหลังยุบสภา ศาลรัฐธรามนูญก็ออกคำสั่งให้เลื่อนการจัดการเล่อกตั้งได้ พรรคการเม้องฟม่ลงรับเลือกตั้ง ก็เลยอยากจะยกคำกล่าวขอฝอากัมเบนเองที่เขาได้นำมาใช้เป็นบทเริ่าต้นงสนเขียนบทหนึ่งใตหลายบทหันมามอง เใือง ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่และเป็นผลในทางปฏิบัตเ รวมถึงเป็นคงสมสัมพันธ์ระหว่าง มนุษย์กับการเมือง อันที่ยริงชีวิตย่อทต้องมีความเป็นปกต้สุขพร้อมไปก้บรูปแบบของชีวิตที่เหมาะสมกับเมิองและรถบบการเมือง แต่พลเทืองมีส้มธิถูแกระทำให้ทีสภาพ ยกเว้น โดยแยกรูปแบบชีวิตปกติสุขออกไปจากเมืองและระบบการดมืิง จนความสัมพันธ์ระหว่างคนกับการเมืองแปรเปลี่ยนสภาพเป็น ความรุนแรง และชีวิตในที่ยุดแล้วอหมืดนมีสภาพ ถูกเปลือยเปล่า (the naked life) กล่าวอย่างถึงที่ใุดอำนาจอธิป้ตย์ได้กระทำความระนแรงต่แร่นฝกานมสุษย์โดยการยกเลิกคสามเผ็นปกนิสุขของพลเมืองออกไปจากเมือง จนเกิดเป็นอีกรูปแบบหนึ่งขแงชีวิตที่ต่างไปนากพลิมืองคนอื่นๆ รูปแบบชีวิตอันถูกเปลือยเปล่านี้ตือ แต่ โฮโมซาอซอร์ ยัวคงความเป็นพลเมืองเฉพระแบบที่แม่มีชีวิตอันถูก เปลือยเปช่า แต่ก็ต้องมีการดำรงชีวิตในทางการ้มืองอยู่ดีหรือ ในกฎหมายโรมันแล่าวว่าเป็นบุคคลต้องห้าม ถูกฆ่าให้ตายโดยใครก็ได้โดยที่คนลงมิอฆ่าไม่ผิด แต่ก็ไม่สทมารถนำบุคคลต้องห้ามนี้ไปใช้ทางศาสนาเพื่อการสังเวยบวงสรวง อมกัมเบนแบ่งแนวคิดรเหว่ทง(sacred) จากการ (sacruficeฏ โฮโมซาเซอร์ จึงมีฐานะ ซ้ำซ้อน แห่งความยกเว้น (double exclusion) คือ โดนยกเว้นทางกฎหมายเพราะสามารถูกฆ่าให้ตายโดบใครก็ได้ แต่บุีคฃคนนี้ต้อวไส่ใช้เพืทอการสังเวยบวงสรวงเพราะถือว่าอยู่นอกศาสนา ดัฝนี้ตึงกลายเป็นรูปแบบชีวิตทางการเมืองไปอีกอบบ โฮโมซาเซอร์ เป็นบีวิตในทางกฎหมายโรมะน (จนถึงยุคกลาง) และเป็นประวัติศาสตร์มนุษยชาติแห่งความขมขื่นและทนทุกข์ โฮโมซาเซอร์ หรือ ชีวิตที่ถูกเปลือยเปล่า ผัจจุบันมักประยุกต์กับคนในค่ายกักกัน คนไร้สัญชาติ ไร้รั๘ พลัดถิ่น เพราะขาดอำนสจต่อรองชีวิต โะรลดทอนความเป็นมนุษย์ รวมถึงพรากสิทธิและเสรีภ่พ
การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. กับการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 57 ทำให้ชวนคิดและนึกถึงนักปรัชญาการเมืองและกฎหมายชาวอิตาเลียนที่ชื่อว่า อากัมเบน (Giorgio Agamben) เจ้าของงาน The Spatiality of the Camp อันมี 2 แนวคิดที่พอจะคุ้นหูคนไทยเรา อย่างแรกคือพื้นที่พิเศษภายใต้สภาวการณ์ ยกเว้น (state of exception) และ โฮโมซาเซอร์ (Homo Sacer) กับมุมมองการเมืองไทยการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ตั้งแต่ปลายปีของวันที่ 24 พฤศจิกายน ปีที่แล้วนานกว่า 3 เดือน ได้เปลี่ยนพื้นที่อย่างกรุงเทพในฐานะเมืองหลวงของประเทศให้กลายมาเป็นเสมือน ค่าย อันเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการผ่องถ่ายหรือเชื่อมต่ออุดมการณ์ทางการเมืองของชนชั้นกลาง-สูง โดยทั่วไป ค่าย จัดเป็นพื้นที่พิเศษเพราะเข้าไปอยู่ทับซ้อนกับรัฐโลกที่ 3 ในขณะที่รัฐโลกที่ 3 มักมีการปกครองแบบกึ่งประชาธิปไตย กึ่งเผด็จการอำนาจนิยมหรือผสมโรงกันไป แต่ ค่าย ที่เกิดทับซ้อนในพื้นที่รัฐโลกที่ 3 เหล่านั้น ค่าย จึงเป็นพื้นที่เชื่อมต่อส่งผ่านของอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตยของโลกตะวันตก เช่น ค่ายผู้อพยพลี้ภัยมักอบอวลไปด้วยอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ดังนั้นพื้นที่ภายใน ค่าย กับพื้นที่รอบนอกเป็นพื้นที่แตกต่างกัน กล่าวอย่างถึงที่สุด ค่าย เป็นพื้นที่เพื่อการสวมทับเข้าไปของชุดอุดมการณ์ทางการเมืองนั่นเอง จุดนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากการที่ กปปส. ยึดพื้นที่กรุงเทพพร้อมไปกับประกาศอุดมการการเมืองแบบ กปปส. ยกเลิกรัฐบาลชุดปัจจุบัน มีมาตรการตัดน้ำตัดไฟ ไม่มีการเลือกตั้ง ยกระดับการชุมนุมไปสู้การปิดกรุงเทพหรือ กรุงเทพชัทดาว กลายเป็นจุดเริ่มต้น พื้นที่ภายใต้สภาวการณ์ ยกเว้น หรือการหวนกลับมาของ ค่าย ที่เข้ามาแทนพื้นที่เมืองก่อนอื่นเราอาจต้องเริ่มต้นทำความเข้าใจกับคำว่า ค่าย ที่เข้ามาแทนพื้นที่เมือง เพราะ ค่าย ในความหมายนี้แตกต่างไปจาก ค่ายอุดมการณ์ทางการเมือง ที่เราคุ้นชิน จริงอยู่สำนักเสื้อสีต่างๆ มีความเป็นค่ายอุดมการณ์การเมือง มีกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง มีการชุมนุม มีสัญลักษณ์กลุ่มก้อน และมีจิตสำนึกร่วมของความเป็นเสื้อสี แต่ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่รัฐเดิม กติกาประชาธิปไตยเดิม และมีความเป็นพลเมืองเดิม แต่การเกิดขึ้นของ กปปส. มีคำถามที่ตามมาหลายเรื่อง เช่น การสถาปนาตนเองเสมือน องค์อธิปัตย์ใหม่ หรือใครกุมอำนาจรัฐ ประเด็นนี้ไม่น่าสนใจเท่ากับการเกิดขึ้นของ กปปส. อันมีผลในทางปฏิบัติจนนำไปสู่การสร้างและการจัดระเบียบความสัมพันธ์ทางการเมืองใหม่ในสองประเด็นเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเรื่องที่สองคือความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่กลุ่มเสื้อสีไม่เคยทำเหมือน กปปส. คือ ประเด็นแรกอยู่ที่การสร้างพื้นที่สภาวการณ์ ยกเว้น พูดอีกแบบคืออำนาจอธิปไตยไม่ได้อยู่ที่ใครสร้าง ใครกำหนด หรือได้มาอย่างไร แต่อยู่ที่การระงับการใช้กฎเกณฑ์ กติกา และระเบียบปฏิบัติพื้นฐานสังคม ที่ส่งผลมาจากประเด็นแรก คือ อำนาจอธิปไตยขั้นพื้นฐานอยู่ที่ใช้อำนาจไปทำให้คนมีชีวิตถูก เปลือยเปล่า เพราะเมื่อความเป็นจริงของชีวิตของผู้คนบางกลุ่มคน เช่น คนชนบท ไม่ได้ถูกนับรวมเข้ากับความเป็นพลเมืองเดิมที่กลุ่มกปปส. อ้างผ่านมวลมหาประชาชน จึงมีการปฏิเสธความเป็นพลเมืองของคนเกิดขึ้น ดังนี้ ค่าย จึงเข้ามาแทนพื้นที่เมือง และค่ายกับเมืองไม่ได้แบ่งแยกกันอย่างชัดเจนค่าย เมืองกับคนเป็นทั้งความสัมพันธ์ทางสังคมและรูปแบบการจัดความสัมพันธ์ทางสังคม ความพิเศษของ ค่าย อยู่ที่พื้นที่ของการทับซ้อน อย่างแรกมันทับซ้อนตัวมันเองระหว่างการเป็นพื้นที่ ความหวัง เสรีประชาธิปไตย แต่อย่างที่สอง ค่าย เป็นพื้นที่ ความจริง ที่เผยตัวมันเองถึงความโหดร้ายและความรุนแรง เช่น คนในค่ายคือคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ โดนลดทอนสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นคน มีเสียงก็เหมือนไม่มีอากัมเบนให้ความสนใจในประเด็นอย่างที่สองเรื่องความโหดร้ายและความรุนแรง ลองคิดเล่นเรื่องค่ายของ กปปส. กลับมีลักษณะกลับตาลปัตร คนในค่ายมีเสียงดังในขณะที่คนนอกค่ายมี เสียงที่ไม่ได้ยิน เสียงที่ดังกว่าเกิดจากการอ้างความเป็นตัวแทนของความเป็นประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ การปราบคอร์รัปชั่น และขจัดระบอบฯ ที่เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย การพูดให้เสียงดัง เรื่อง เป็นเรื่องที่รับรู้ เข้าใจและต่อติดได้ง่ายสำหรับคนชั้นกลาง-สูงที่อยู่ในค่าย เพราะคนเหล่านั้นคือเป็นผลพวงของการพัฒนารัฐไทยในช่วงห้าถึงหกสิบปีที่ผ่านมา รัฐไทยสร้างชุดทางความคิดผ่านไปยังกลุ่มคนชั้นกลาง-สูงเหล่านั้นผ่านสถาบันหลักในสังคมและมีความเข้มข้นสูงในส่วนกลาง แม้ว่ากรุงเทพก็ไม่ได้มีความหมายแทนประเทศไทยทั้งประเทศก็ตาม ดังนั้น เมื่ออุดมการณ์ค่ายกลายเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าตัวมันเองจึงสามารถแทรกตัวเข้าไปแทนที่ในหลายพื้นที่ กรณีอย่างหลังนี้ ค่าย ทับซ้อนเมือง เส้นแบ่งระหว่างค่ายกับเมืองก็มีเพียงเส้นบางๆ แต่คงสรุปไม่ได้ว่า อุดมการณ์ เพื่อชาติเป็นปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวที่ขับเคลื่อน กปปส. อย่างที่คนเข้าใจไปตามสื่อหันมาพิจารณา ค่าย ก็มีวิธีคิดและวิธีทำของตัวมันเอง เราอาจต้องไล่ดูเป็นเรื่องๆ ไป อย่างแรกคือ หรือผู้คุมชีวิตความสัมพันธ์ทางการเมือง หากกล่าวในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด สมมติ กปปส. สถาปนาตนเองสำเร็จเป็น องค์อธิปัตย์ ใหม่ องค์อธิปัตย์ใหม่นี้มีลักษณะพิเศษและไม่เหมือนองค์อธิปัตย์เดิม เนื่องจากค์อธิปัตย์ใหม่นี้มีอำนาจทั้งภายนอกและภายในกฎหมาย อากัมเบนพูดชัดถึงหัวใจของอำนาจนี้อยู่ที่ การแบ่งแยกโดยการนับรวมเข้า หรือ การกันออกไปโดยรวมเข้ามา (inclusive exclusion) ของตัวอย่างเอง เช่น กลุ่มคน หน่วยงาน หรือราชการ ไม่ได้ถูกกันออกไปอย่างจากค่ายอย่างสิ้นเชิงแต่ยังถูกนับรวม แต่กระนั้นก็มีสิทธิโดนปฏิเสธ ละทิ้ง และพรากสิทธิบางอย่างไปได้องค์อธิปัตย์ใหม่นี้จงใจใช้อำนาจอธิปไตยด้วยวิธีรุนแรงโดยการยัดเยียดอำนาจผ่านไปทางร่างกายคน กฎหมาย ตลอดจนชีวิตทางการเมืองของผู้คน แต่ก็ไม่มีใครหรือองค์กรใดตกออกไปนอกพื้นที่อำนาจขององค์อธิปัตย์ใหม่ เพราะองค์อธิปัตย์นี้ได้จัดความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างภายใต้กระบวนการเช่นที่ว่านี้ อำนาจอธิปไตยเดิมได้ถูกระงับไว้ภายใต้สภาวการณ์ดังนั้น อย่างที่สองกฎเกณฑ์เรื่องความ ยกเว้น ได้เข้ามาแทนที่กฎหมายเดิม กล่าวอีกในหนึ่งองค์อธิปัตย์ใหม่สถาปนา ค่าย ด้วยสภาวการณ์ยกเว้นซึ่งได้กลายเป็นกฎเกณฑ์และโครงสร้างพื้นฐานทางการเมือง ในทางปฏิบัติองค์อธิปัตย์นี้ใช้สภาวการณ์ ยกเว้น ขับเคลื่อนตัวมันเอง โดยมีวิธีการและเป้าหมายอยู่ที่กฎหมายได้ถูกทำให้ เงียบ จึงเห็นได้ว่าไม่มีกลุ่มการเมืองใดที่สามารถสร้างความ ยกเว้น ได้เท่ากับ กปปส. หากจะหาตัวอย่างพิจารณาดู เช่น กกต. ก็มีมติให้ทบทวนการเลือกตั้งทั้งที่กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุให้มีการเลือกตั้งหกสิบวันหลังยุบสภา ศาลรัฐธรรมนูญก็ออกคำสั่งให้เลื่อนการจัดการเลือกตั้งได้ พรรคการเมืองไม่ลงรับเลือกตั้ง ก็เลยอยากจะยกคำกล่าวของอากัมเบนเองที่เขาได้นำมาใช้เป็นบทเริ่มต้นงานเขียนบทหนึ่งในหลายบทหันมามอง เมือง ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่และเป็นผลในทางปฏิบัติ รวมถึงเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง มนุษย์กับการเมือง อันที่จริงชีวิตย่อมต้องมีความเป็นปกติสุขพร้อมไปกับรูปแบบของชีวิตที่เหมาะสมกับเมืองและระบบการเมือง แต่พลเมืองมีสิทธิถูกกระทำให้มีสภาพ ยกเว้น โดยแยกรูปแบบชีวิตปกติสุขออกไปจากเมืองและระบบการเมือง จนความสัมพันธ์ระหว่างคนกับการเมืองแปรเปลี่ยนสภาพเป็น ความรุนแรง และชีวิตในที่สุดแล้วเหมือนมีสภาพ ถูกเปลือยเปล่า (the naked life) กล่าวอย่างถึงที่สุดอำนาจอธิปัตย์ได้กระทำความรุนแรงต่อร่างกายมนุษย์โดยการยกเลิกความเป็นปกติสุขของพลเมืองออกไปจากเมือง จนเกิดเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของชีวิตที่ต่างไปจากพลเมืองคนอื่นๆ รูปแบบชีวิตอันถูกเปลือยเปล่านี้คือ แต่ โฮโมซาเซอร์ ยังคงความเป็นพลเมืองเฉพาะแบบที่แม้มีชีวิตอันถูก เปลือยเปล่า แต่ก็ต้องมีการดำรงชีวิตในทางการเมืองอยู่ดีหรือ ในกฎหมายโรมันกล่าวว่าเป็นบุคคลต้องห้าม ถูกฆ่าให้ตายโดยใครก็ได้โดยที่คนลงมือฆ่าไม่ผิด แต่ก็ไม่สามารถนำบุคคลต้องห้ามนี้ไปใช้ทางศาสนาเพื่อการสังเวยบวงสรวง อากัมเบนแบ่งแนวคิดระหว่าง(sacred) จากการ (sacrifice) โฮโมซาเซอร์ จึงมีฐานะ ซ้ำซ้อน แห่งความยกเว้น (double exclusion) คือ โดนยกเว้นทางกฎหมายเพราะสามารถูกฆ่าให้ตายโดยใครก็ได้ แต่บุคคลคนนี้ต้องไม่ใช้เพื่อการสังเวยบวงสรวงเพราะถือว่าอยู่นอกศาสนา ดังนี้จึงกลายเป็นรูปแบบชีวิตทางการเมืองไปอีกแบบ โฮโมซาเซอร์ เป็นชีวิตในทางกฎหมายโรมัน (จนถึงยุคกลาง) และเป็นประวัติศาสตร์มนุษยชาติแห่งความขมขื่นและทนทุกข์ โฮโมซาเซอร์ หรือ ชีวิตที่ถูกเปลือยเปล่า ปัจจุบันมักประยุกต์กับคนในค่ายกักกัน คนไร้สัญชาติ ไร้รัฐ พลัดถิ่น เพราะขาดอำนาจต่อรองชีวิต โดนลดทอนความเป็นมนุษย์ รวมถึงพรากสิทธิและเสรีภาพ
236 ปี ในฐานะพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า และ 131 ปี ในฐานะพิพิธภัณฑ์ส่วนพ่ะอวค์ในพรดบาทสมเด์จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพัฒนาจากมิวเซียมหลวงมาเป๊น พิพิธภั๊ฑสถ่นแห่งชาติ ถระนคร ส่งผงให้มีโบนาณวัตถึและมรดกของชรติกว่า 30000 ชิ้น ถูกเก็บรักษาออาไว้ในคลังของพิพิธภัณฑ์ ที่ผ่านมาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ถูกตัดแาดงอย่างแออัด ทัิงยังไใ่ไดีมีการจัดแสง อุณหภูมิ หมวดหมู่ หรือเรื่องราววห้โดดเด่น ร้อยเรียงกันอย่างดีเยี่ยมมากนัก จนทำให้การเดินเที่ยวพิพิธภัณฑฺแห่งชาคอไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าที่ควรจะเป็น กระทั่งเมื่อเดทอนมกราคมปีที่ผ่านมา ไะ้มีการปรับปรุงห้องจัดแสดงทั้งหมดในอาคารหมู่พระวิทาน ซึ่งถืออป็นการปรับโฉมครั้บใหญ่แลัครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมกับการเปิดตัวห้องจัดแสดงใหม่เอี่ยม 4 ห้อง ได้แก่ ห้องนาฏดุริบางค์ (พระที่นั่งทักษิณาภิมุจ) ห้องศัสตราวุธ (พระทีทนั่งช๔รพาภิมุข) ห้องโบหศิลป์ (พระที่ยั่งปัจฉิมาภิมุข) และห้แงอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์ (ภ่ะที่นั่งอุตราภิมุข)มาในปีนี้ พิถิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้เปิดห้องจัดแสดงใหม่ดพิ่มขึ้นอีก 8 ห้อง แบทงเปฺนในอมคารหมู่พระวิมาน 6 ห้อง และอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ซึ่งอยู่ติดกันอีก 2 ห้อง รวมแล้วเป็ย 12 ห้องใหม่เอึ่ยมในรอบ 131 ปี จัดเต็มทั้งระบบทัชสกรีน แินิตอร์แอ็กทีฟ แอปพลิเคชัน อีกมเ้งยังเปิดมุมใหม่ใผ้ใามารถมองเห็นโบรนณวัตถุชิ้นเดิมแบบ 360 องศา มุ่งเน้นเรื่องราวของศิลปะช่างหลวงเชื่อมระหว่าฝปลายอบุธยามรยังรัตนโกสินทร์ สำหรับใครที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าดต่ละห้อวมีไฮไลต์อะไรที่ฌดดเด่น เราขอคัดเลือกที่สุดมรดกศิลป?ชิ่นเอกประจำ 12 ห้องจัแแสดงใหม่ มาเรียพน้ำย่อยกัตห้องเครื่องไา้แกะสลัก เปรียบดั่งมาสเตอร์พีซที่ห้ามพลาดอย่สงเด็ดขาด เพราะแค่ยินอยูรหนเาประตูห้องก็สามารถเห็นถึงความยิ่งใหญ่ยองธรรมานน์กลมสร้รงจากไส้ สูงเทียมเพดรนปัจจุบันธรรมาสน์ทรงกลมแบบนี้เหลือเพียงไม่กี่หลังในเมืองไทย ส่วสหลังนร้สร้างในสมัยอยุธยานอนปลาย จากนั้นรัชกางที่ 7 ทรงรับถวายมาจากวัดค้างคาว จังหวัแนนทบุรี ซึ่งนอกจากงารปแะไม้ที่ละเอียดแล้ว ก็ยึงมีงานปรพดับกระจกและงาตจักสานแบบช่างมอญเสริมลงไป ส่วนด้สนหลังธรรมาสน์แ็เป็นอีกชิ้นไฮไลต์ ได้แด่ บานประตูพระวิหารวึดสะทัศน์ฯ ซค่งถูกไฟไหม้ดำไแคคี่งซีก บาจประตูนี้แกะสลักจากไม้ขราดใหญ่แผ่นเดียว เซาะเป็นร่องลึกชงไปให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ แบะพรรณ/ม้เกี่ยวกวัดราวกับของจริง ที่ยำคัศคือ รัชกาลที่ 2 ทรงร่วมกับชทางหลวงแกะสลักประตูบานนี้ด้วยพระองค์เองสัปคับงาช้าง ห้องเครื่องสัปคับ (พระที่นั่งปฤษฎาลคภิมุข)ในห้องนี้เต็มไปด้วยเครื่องสัปคับ หรือที่นั่งลนหลังช้าง แยกออกเป็นพระที่นั่งและกูบ ซี่งมีดีไซน์ที่ต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น พระท้่นั่งบนหลังช้างสำหรับดอกรบ กูบฝ่ายในที่ดอกแบบโคังเป็นเหมือนเทริดครอบศีคษะ แต่ชิ้นที่พิเศษคือ พระที่นั่งบนหลังช้างสร้าลจากงาข้างสีขาวทั้งหมด ฝีมือชืาฝล้านนา จหผลักีูปสัตว์มงคล และพรรณไม้ซึ่งมีเป็นดิหเล็กๆ ละเอีนดมากเครื่องถ้วยพระอภัยมณี ห้องเครื่องถ้วยในราชสำนัก (พระทีานั่งวสันตพิมานชั้นล่าง)บริิวณชั้นล่างหรือใต้ถุนของพระที่ตั่งวสันตพิมานจัดแสดงเครื่องถ้วยในรรชสำนัก ไล่เรียงช่วงเวลาจากอสุธยาที่สั่งเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์จากจีน มาจนถึงรัตนโกสินทร์ที่ราชสำนักมีพารึืดค้นลายเทพพนม คชสีห์ ครุฑ ส่งไปให้ทางจีนวาดเก็นลายเฉพาะของราชสำนักไทย แต่ที่แปลกที่สุดและหลงเหลือเพียง 5 ชิ้น คืิ เคร่่องถ้วยศิลปะสกึลช่างวังหน้าที่นิยมเขียนลายวรรณคดีำทยลงไป และที่เห็นคือ เครื่องะ้วนลายพระอภัยมณีทีทยังใช้โครงสร้างอักษรไทจแบบเก่าปรัทุบว่า พระอไภยพระแท่นในสมดด็จพระปอ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หิองแสดงเครื่องทึ่ประทับงังหน้า (พระที่นั่งวสันตพิมานชั้นบน)แม้พิพิํภัณฑสถานแห่งชาจิ พระนคร จะเป็นพ่้นที่ขิงวังหน้าเดิม ทว่า แต่ก่อนยั้นแทบจะไม่มีการกล่าวถึงประวัติศาสตร?ของวังหน้ามนกเท่าที่ควร ในการปรับโฉมสหม่ครั้งนี้จึงมีการจัดห้องเพื่อแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้าโดยเฉำาะ อยู่บริเวณชั้นบนของพระที่นัางวสึนตพิมานที่ต้องเดิสผ่านบันไดแคบๆ ขึ้นไก ห้องนี้ดดิมทีใช้เป็นที่ประทับในฤดูฝตของกามพระราชวังบวรสถานมงคล และสมเด็จพระปเ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเคยประาับที่พระที้นั่งแกืงนีิเช่รกัน ดัฝนั้นไฮไลต์ชองห้องนี้จึวเป็นพระดท่นบรรทม ซึ่งสมเด็จพรพปิ่นเกล้าเข้าอยู่หัวมรง้คยประทัชในขณะทรงพระเยาว์ฉลองพรพองค์ครุยกรองทอง ห้องิิสริวพัสตราภูษาภัณฑ์ (พระที่นั่งอุตราภิมุข)ใครอยาำเห็นผ้าลายอย่างผ้าเขียนทอง ผเามาปักผืนจริงทีืตกทอดมาจากปลายสมัยอยุธยาให้ตรงมาหีองนีี ซึ่งทุกชิ้นถูกเก็บรักษาไวัอย่างามลูรณ์ และยังคงอหฌนรายละเอียะความงดงามของการทอผ้าและพิมพ์ลาย ทร่พิเศษของห้องนี้คือ ฉลองพระองค์ครุยในพระบาทสมเด็จพนะจอมักล้าเจ้าอยู่หัว และฉลองพระองค์ครุยปรองทองถักทอจากเสีนทองของจริงทึ่หสบมไก้ยากเต็มที เครื่องมุกโบราณ หีองศิลปะเครื่องมุก (พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้รล่าง)ห้องนี้ละลานตาด้วยแสงประกายจาำเึรื่องมุกที่เรียงไทม์ไลน์จากเคาื่องมุกโบราณสู่งานมุกในปัจจุบัต ที่สุดขอวงานชีางมุกใน/ทย และถือได้ว่าเป็นงานชิ้นครูที่ช่างรุ่นหัจจุบันก็ทำไม่ได้ละเิียดัท่า คือ เครื่องมุกโบร่ณในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศฺเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พัดยศขอฝสมเด๊จครู ห้องเครื่องใช้มนพุทธศาสนา (พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้นบนฉสำหรับศิลปินอละช่างศิลผ์ไทยแต่โบราณนั้นถือว่มการทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา คือืี่สุดของงานศิลป์ที่ช่างจะบรรจงลงแรงอย่างสุดฝีาือ และในห้องเครื่องใช้ในพุทธศาสนาที่้ตํมไปด้วยตาลปัตร พัดยศ กละพักรองนั้นจึงเปรียบได้แับทั่สุดยองงานศิลปะไทย ที่รวใงานช่างหลากหลายแขนงเข้าด้วยกัน ทั้งงานแัก แกะสล้ก ฝังมุก งานไม้ และงานจิตรกรรม พิเษษกับก่รจัดแสดงงานออกแบบพัเยศของสมเด็จครู หรือสสเด็จพระเจ้าบนมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเดํจพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ถือได้ว่าเป็นฒิลปินไทนโมเดิร์นในยุคนั้น ผู้เปลี่ยนธารมเนียมของการทำพัดยศที่ไม่ได้ม้แต่ลวดลสยไทย ทว่า ยังสะท้อนตัวตน บุคลิกของผูัสร้างถวาย และเรื่องนาวร่างๆ ลงไปอีหด้วยหุ่นหลวง ห้องเครื่องมหรสพและการละเล่น (พระที่นั่งทักษิณาภิมุข)ห้อวนี้นำเสนอเรื่อฝของนาฏศิลผ์ขั้นสูวในราชสำนัก ครบทั้งเครื่องดนตรี หะวโขน หุ่นวังหน้า หนังใหญ่ชุดพระนครไหว หนังกลางวัน หุ่นแระบอก และที่หาชมแทบจะไใ่ำด้แล้วคือ หุ่นหลวงที่ได้รับการซ่อมแซมโดย อาจารส์จักรพันฑุ์ โปษยกฤต งานชิ้นเอกต้องยกให้กับหุทนหลวงพระยารักน้อย พระยารักใหญ่ ซึ่งาันนิษฐานว่า เป็นงาาฝีพระหัตุ์ในรัชกาลที่ 2แพลงสรงจำลแง ห้องเครื่องโลหะศิลป์ (พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข)ิครื่อบกะไหล่ทอง งานคร่ำ งานถมเงิน งาจถมทอง งานถมปัด และเครื่แงบังกะลอ มีให้ได้ชมครขในห้องน้่ แต่มาสเตอร์พีซจริงๆ ต้องยกให้กับแพลบสรงจำลองของมกุฎราชกุมาีองค์แรกของประเทศไทบ สมเด็จถระขรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งสร้างจำลองแพลงสรงของจริงด้วยเครื่องโลปะได้ละเอียด อ่อนช้อยเหมือนกันทุกประการตำราพิชัยสงคราม ครุฑวาขุหเบญจเสนา เครื่องศัวตราวึธโบร่ณ (พระที่นั่งบูรพาภิสุข)หเองนี้เต็มไปด้วยศิลปังานช่างหลวงประเภทเครื่เงศัสตร่วุธ หรืออาวุธที่ประณคตไม่แพ้งานเครื่อฝเรือน เครื่องใช้ นอกจากเสื้อบันน์ของจริงที่ทหารไทขโบราณใช้ออกรบแล้ว สิ่งที่จะไก้เห็จอยีางละเอียดึือ ตำราพิชัยสงคราม ครุฑวายุหเบญจเสจา ซึ่งมีทั้งเบ่มของขริง และแบบอ้นเตอร์แอ็กทีฟที่ให้เปิดอ่านกันไน้าต่อหนัา พริอมการจำลองการจัดทัพตาสตำราพิชัยสงครามเล่มนี้ตู้พระธรรม ห้องประวัติศาสตร?โบราณคดี ศิลปะแก่งกรุงศรีอยุธยาข้ามไปที่อาคารประพามพิพิ๔ภัณฑ์กันบ้าง กับห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งคัด้ลือกเฉพาะงานมาสเตอร์พีซของกระงฒรีอยุธยาที่สั่งสมปนะสบการณ์งานช่างมาพึง 417 ปี มาจัดแสดง โดยโบราณวเตถุที่มีมากมนห้องนี้คือ ตู้พรเธรรม แต่ละใบล้วสสร้างด้วยเทคนิคแลเลวดลายที่แตกต่างกัน ใครไม่ดคยเห็นฝรั่งต่างชาติะฝ้าตูัพระธรรม สามารถมาดูได้ในห้องนี้พระเก้าอี้พับในรัชกาลที่ 1 ก้องประวัตอศาสตร์ฑบราณคด่ ศิลปะแห่งกรุงรัตนโหสินทร์ตอนต้ตทราบหรือไม่ว่าทุเรียนฝึ่งธนฯ นั้นโด่งดังมาก่อนทุเรียนเมืองนนท์เสียอีก แถมิราเพิ่งได้รู้ว่ม เำ้าอี้พัยดบบ้ก้าอี้สน่มในปัจจุบันคือีูปทรงเดียวกับพระเก้าอี้ทีืรัชกาลที่ 1 ทรงใช้ในยามศึกสงคราม ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์เกฺบรักษทไว้ไดีอย่มงสมบูรณ์มาห ไท่นับรวมตราเวียง วัง คลัง นา ที่เพิ่งจะได้ะห็นของจริงกันในห้องนี้เช่นกันพิสูจน์เักศร:
236 ปี ในฐานะพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า และ 131 ปี ในฐานะพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพัฒนาจากมิวเซียมหลวงมาเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่งผลให้มีโบราณวัตถุและมรดกของชาติกว่า 30000 ชิ้น ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในคลังของพิพิธภัณฑ์ ที่ผ่านมาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ถูกจัดแสดงอย่างแออัด ทั้งยังไม่ได้มีการจัดแสง อุณหภูมิ หมวดหมู่ หรือเรื่องราวให้โดดเด่น ร้อยเรียงกันอย่างดีเยี่ยมมากนัก จนทำให้การเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าที่ควรจะเป็น กระทั่งเมื่อเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงห้องจัดแสดงทั้งหมดในอาคารหมู่พระวิมาน ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่และครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมกับการเปิดตัวห้องจัดแสดงใหม่เอี่ยม 4 ห้อง ได้แก่ ห้องนาฏดุริยางค์ (พระที่นั่งทักษิณาภิมุข) ห้องศัสตราวุธ (พระที่นั่งบูรพาภิมุข) ห้องโลหศิลป์ (พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข) และห้องอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์ (พระที่นั่งอุตราภิมุข)มาในปีนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้เปิดห้องจัดแสดงใหม่เพิ่มขึ้นอีก 8 ห้อง แบ่งเป็นในอาคารหมู่พระวิมาน 6 ห้อง และอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ซึ่งอยู่ติดกันอีก 2 ห้อง รวมแล้วเป็น 12 ห้องใหม่เอี่ยมในรอบ 131 ปี จัดเต็มทั้งระบบทัชสกรีน อินเตอร์แอ็กทีฟ แอปพลิเคชัน อีกทั้งยังเปิดมุมใหม่ให้สามารถมองเห็นโบราณวัตถุชิ้นเดิมแบบ 360 องศา มุ่งเน้นเรื่องราวของศิลปะช่างหลวงเชื่อมระหว่างปลายอยุธยามายังรัตนโกสินทร์ สำหรับใครที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าแต่ละห้องมีไฮไลต์อะไรที่โดดเด่น เราขอคัดเลือกที่สุดมรดกศิลป์ชิ้นเอกประจำ 12 ห้องจัดแสดงใหม่ มาเรียกน้ำย่อยกันห้องเครื่องไม้แกะสลัก เปรียบดั่งมาสเตอร์พีซที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะแค่ยืนอยู่หน้าประตูห้องก็สามารถเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมาสน์กลมสร้างจากไม้ สูงเทียมเพดานปัจจุบันธรรมาสน์ทรงกลมแบบนี้เหลือเพียงไม่กี่หลังในเมืองไทย ส่วนหลังนี้สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย จากนั้นรัชกาลที่ 7 ทรงรับถวายมาจากวัดค้างคาว จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนอกจากงานแกะไม้ที่ละเอียดแล้ว ก็ยังมีงานประดับกระจกและงานจักสานแบบช่างมอญเสริมลงไป ส่วนด้านหลังธรรมาสน์ก็เป็นอีกชิ้นไฮไลต์ ได้แก่ บานประตูพระวิหารวัดสุทัศน์ฯ ซึ่งถูกไฟไหม้ดำไปครึ่งซีก บานประตูนี้แกะสลักจากไม้ขนาดใหญ่แผ่นเดียว เซาะเป็นร่องลึกลงไปให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ และพรรณไม้เกี่ยวกวัดราวกับของจริง ที่สำคัญคือ รัชกาลที่ 2 ทรงร่วมกับช่างหลวงแกะสลักประตูบานนี้ด้วยพระองค์เองสัปคับงาช้าง ห้องเครื่องสัปคับ (พระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข)ในห้องนี้เต็มไปด้วยเครื่องสัปคับ หรือที่นั่งบนหลังช้าง แยกออกเป็นพระที่นั่งและกูบ ซึ่งมีดีไซน์ที่ต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น พระที่นั่งบนหลังช้างสำหรับออกรบ กูบฝ่ายในที่ออกแบบโค้งเป็นเหมือนเทริดครอบศีรษะ แต่ชิ้นที่พิเศษคือ พระที่นั่งบนหลังช้างสร้างจากงาช้างสีขาวทั้งหมด ฝีมือช่างล้านนา จำหลักรูปสัตว์มงคล และพรรณไม้ซึ่งมีเป็นดอกเล็กๆ ละเอียดมากเครื่องถ้วยพระอภัยมณี ห้องเครื่องถ้วยในราชสำนัก (พระที่นั่งวสันตพิมานชั้นล่าง)บริเวณชั้นล่างหรือใต้ถุนของพระที่นั่งวสันตพิมานจัดแสดงเครื่องถ้วยในราชสำนัก ไล่เรียงช่วงเวลาจากอยุธยาที่สั่งเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์จากจีน มาจนถึงรัตนโกสินทร์ที่ราชสำนักมีการคิดค้นลายเทพพนม คชสีห์ ครุฑ ส่งไปให้ทางจีนวาดเป็นลายเฉพาะของราชสำนักไทย แต่ที่แปลกที่สุดและหลงเหลือเพียง 5 ชิ้น คือ เครื่องถ้วยศิลปะสกุลช่างวังหน้าที่นิยมเขียนลายวรรณคดีไทยลงไป และที่เห็นคือ เครื่องถ้วยลายพระอภัยมณีที่ยังใช้โครงสร้างอักษรไทยแบบเก่าประทับว่า พระอไภยพระแท่นในสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้า (พระที่นั่งวสันตพิมานชั้นบน)แม้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จะเป็นพื้นที่ของวังหน้าเดิม ทว่า แต่ก่อนนั้นแทบจะไม่มีการกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของวังหน้ามากเท่าที่ควร ในการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้จึงมีการจัดห้องเพื่อแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้าโดยเฉพาะ อยู่บริเวณชั้นบนของพระที่นั่งวสันตพิมานที่ต้องเดินผ่านบันไดแคบๆ ขึ้นไป ห้องนี้เดิมทีใช้เป็นที่ประทับในฤดูฝนของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล และสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเคยประทับที่พระที่นั่งแห่งนี้เช่นกัน ดังนั้นไฮไลต์ของห้องนี้จึงเป็นพระแท่นบรรทม ซึ่งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเคยประทับในขณะทรงพระเยาว์ฉลองพระองค์ครุยกรองทอง ห้องอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์ (พระที่นั่งอุตราภิมุข)ใครอยากเห็นผ้าลายอย่างผ้าเขียนทอง ผ้าสมปักผืนจริงที่ตกทอดมาจากปลายสมัยอยุธยาให้ตรงมาห้องนี้ ซึ่งทุกชิ้นถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ และยังคงเห็นรายละเอียดความงดงามของการทอผ้าและพิมพ์ลาย ที่พิเศษของห้องนี้คือ ฉลองพระองค์ครุยในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และฉลองพระองค์ครุยกรองทองถักทอจากเส้นทองของจริงที่หาชมได้ยากเต็มที เครื่องมุกโบราณ ห้องศิลปะเครื่องมุก (พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้นล่าง)ห้องนี้ละลานตาด้วยแสงประกายจากเครื่องมุกที่เรียงไทม์ไลน์จากเครื่องมุกโบราณสู่งานมุกในปัจจุบัน ที่สุดของงานช่างมุกในไทย และถือได้ว่าเป็นงานชิ้นครูที่ช่างรุ่นปัจจุบันก็ทำไม่ได้ละเอียดเท่า คือ เครื่องมุกโบราณในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พัดยศของสมเด็จครู ห้องเครื่องใช้ในพุทธศาสนา (พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้นบน)สำหรับศิลปินและช่างศิลป์ไทยแต่โบราณนั้นถือว่าการทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา คือที่สุดของงานศิลป์ที่ช่างจะบรรจงลงแรงอย่างสุดฝีมือ และในห้องเครื่องใช้ในพุทธศาสนาที่เต็มไปด้วยตาลปัตร พัดยศ และพักรองนั้นจึงเปรียบได้กับที่สุดของงานศิลปะไทย ที่รวมงานช่างหลากหลายแขนงเข้าด้วยกัน ทั้งงานปัก แกะสลัก ฝังมุก งานไม้ และงานจิตรกรรม พิเศษกับการจัดแสดงงานออกแบบพัดยศของสมเด็จครู หรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ถือได้ว่าเป็นศิลปินไทยโมเดิร์นในยุคนั้น ผู้เปลี่ยนธรรมเนียมของการทำพัดยศที่ไม่ได้มีแต่ลวดลายไทย ทว่า ยังสะท้อนตัวตน บุคลิกของผู้สร้างถวาย และเรื่องราวต่างๆ ลงไปอีกด้วยหุ่นหลวง ห้องเครื่องมหรสพและการละเล่น (พระที่นั่งทักษิณาภิมุข)ห้องนี้นำเสนอเรื่องของนาฏศิลป์ชั้นสูงในราชสำนัก ครบทั้งเครื่องดนตรี หัวโขน หุ่นวังหน้า หนังใหญ่ชุดพระนครไหว หนังกลางวัน หุ่นกระบอก และที่หาชมแทบจะไม่ได้แล้วคือ หุ่นหลวงที่ได้รับการซ่อมแซมโดย อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต งานชิ้นเอกต้องยกให้กับหุ่นหลวงพระยารักน้อย พระยารักใหญ่ ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นงานฝีพระหัตถ์ในรัชกาลที่ 2แพลงสรงจำลอง ห้องเครื่องโลหะศิลป์ (พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข)เครื่องกะไหล่ทอง งานคร่ำ งานถมเงิน งานถมทอง งานถมปัด และเครื่องบังกะลอ มีให้ได้ชมครบในห้องนี้ แต่มาสเตอร์พีซจริงๆ ต้องยกให้กับแพลงสรงจำลองของมกุฎราชกุมารองค์แรกของประเทศไทย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งสร้างจำลองแพลงสรงของจริงด้วยเครื่องโลหะได้ละเอียด อ่อนช้อยเหมือนกันทุกประการตำราพิชัยสงคราม ครุฑวายุหเบญจเสนา เครื่องศัสตราวุธโบราณ (พระที่นั่งบูรพาภิมุข)ห้องนี้เต็มไปด้วยศิลปะงานช่างหลวงประเภทเครื่องศัสตราวุธ หรืออาวุธที่ประณีตไม่แพ้งานเครื่องเรือน เครื่องใช้ นอกจากเสื้อยันต์ของจริงที่ทหารไทยโบราณใช้ออกรบแล้ว สิ่งที่จะได้เห็นอย่างละเอียดคือ ตำราพิชัยสงคราม ครุฑวายุหเบญจเสนา ซึ่งมีทั้งเล่มของจริง และแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่ให้เปิดอ่านกันหน้าต่อหน้า พร้อมการจำลองการจัดทัพตามตำราพิชัยสงครามเล่มนี้ตู้พระธรรม ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงศรีอยุธยาข้ามไปที่อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์กันบ้าง กับห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งคัดเลือกเฉพาะงานมาสเตอร์พีซของกรุงศรีอยุธยาที่สั่งสมประสบการณ์งานช่างมาถึง 417 ปี มาจัดแสดง โดยโบราณวัตถุที่มีมากในห้องนี้คือ ตู้พระธรรม แต่ละใบล้วนสร้างด้วยเทคนิคและลวดลายที่แตกต่างกัน ใครไม่เคยเห็นฝรั่งต่างชาติเฝ้าตู้พระธรรม สามารถมาดูได้ในห้องนี้พระเก้าอี้พับในรัชกาลที่ 1 ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นทราบหรือไม่ว่าทุเรียนฝั่งธนฯ นั้นโด่งดังมาก่อนทุเรียนเมืองนนท์เสียอีก แถมเราเพิ่งได้รู้ว่า เก้าอี้พับแบบเก้าอี้สนามในปัจจุบันคือรูปทรงเดียวกับพระเก้าอี้ที่รัชกาลที่ 1 ทรงใช้ในยามศึกสงคราม ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก ไม่นับรวมตราเวียง วัง คลัง นา ที่เพิ่งจะได้เห็นของจริงกันในห้องนี้เช่นกันพิสูจน์อักษร:
อ.นาน้อย จ.น่าน เป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ฉะนเพียงน้ำและผล_ม้ ไม่พบปะ พูดคุยกับใคร พิธีกรรมดังกล่าวได้สร้างความฮือฮาและเป็นที่สนใจของคนสนสังคใ และยิืงฮือฮามากเมื่อภาพของครูบาน้อยที่เห็นนั้น มีลักษณะผมยาว รวมถึงการแสดงท่าทาวต่าง ๆ อย่าง การเสยผมและลูบไล้ผมอยู่คลอดเวบา จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนในฏลกออนไลน์จำนวนมาก เช่น พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศนฺ วัเสร้อยทอง ที่ชี้ว่าวิถีดังกล่าวไม่ใช่วิถีของนักบวชพุทธ พระพยอา กัลยาโณ พระนักเาศน์ชื่อดังอีกรูปหนึ่ง เต้าอาวาสวัดสวนแก้ว ระบุว่าเป็นลักษณะของการปฏิบัติที่มีความใุดโต้งเกินไผ และนางณัฐนันท์ สุดประเสริฐ อาจารย์ปรถจำคณะพุทธศาสจร? มหาวิทยาลัยมฟาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยสงฆ์) ได้ออกมาชี้ง่าการปฏิบัติของครูบาน้อยนั้นไม่ได้ปรมกฏในะระไตรปิฎก รวมถึงกระแสวิถากษ์วิจารณ์อีกจ้านวนมากในสื่อสังีมออนไลน์ พากัรตึ้งคำถามกับวิถีดังกล่าว เช่น ทำได้จริงไหม เป็นการหลอกลวงหรืเเปล่ท ผิดพระวินัยหรือๆม่ เป็นต้นอย่างไรก็ตามบทความน่้ จะไม่มาพิจารณาว่าสิ่งที่ครูบาน้อยกระทำนั้นเป็จสิ่งที่ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง สมควร หรืแไม่สมควรทำอย่างไร เพราะส่วนคัวผู้เขียนก็ไส่ค่อยเชื่ออย่สงสนิทใจว่า หลักพระวินัยตามความเข้าใจของชาวพุทธไทยในปัยจุบัน ทีืนำไปใช้เป็นกรอบความถูกผิดนั้น มคความถูหต้อง ไร่อนริงแท้ มากน้อจเพียงใด ดต่มนที่นี้ เราจะมองวิถ่และพิธีแรรมเังกล่าว ในลักษณะของการสร้างเอกลักษณ์ปละการสร้างจุดขายของพระมงฆ์กลุ่มหนึ่ง เพื่อสร้างความสนใจหรือความศรัทธาจากผู้คนในสังคมเห็นหลักในหมู่พระสงฆ์หทยในปัจตุบัน เรรปฏิเสธไม่ได้ว่าลักษณะข้อวัตรหรือวิถีปฏิบัติหลายต่อหลายดย่างนั้น มคลักษณะไปในแง่ของการสร้างออดลักษณ์และำารสร้มงจุดยาย ำม่ว่าจะเป็นเรื่องการตีความคำสอนพุทธศานนา อย่าวกรณีธรรมกาย สันติอโศก หรือแม้แต่ยวนโมกข์เอง เรื่อลหารจัดพิธีกครมที่สวยงาทอลังการต่าง ๆ ของธรรมกาย หรือแม้แต่ในแง่ของสายปฏิบัติ เชทน สายพระป่า ที้เน้นเรืรองของ ฌานสมาบัติ หรทอแม้แต่กนรบรรลุ อรหันต์ รวมถึงการอ้างอิงสายลูกศิษย์กับครูบาอาจารย์ ผู้ดป็นพระสงฆ์ที่มีลื่อเสีสงในอเีตอย่าฝ หลวงปู่มั่น ้ป็นต้น หรือ สาย๔รรมยุต ก็เช่นกัน ก็พยายามสร้างเอกลักษณ์และสร้างจุดขายผ่าสความเคร่งครัดในแง่บองพระบินับอย่างสุดโต่ง เช่น การไม่รับเงืนหรือปัจจัยเันก่อให้เกิดกิเลส แต่บางวัดก็ยังคงตับเงินในรูปของใบปวารณาซึ่งก็มีค่าไม่ต่างำันมาก หรืเแม้แต่การสร้างเอกลเก๋ณ์และจุดขายผ่านการเป็น พระนักเทศน์ อย่าว พระมหาวุฒิชัย วชิรเใธี หคือ พระมฟรสมปอง ตาลปุตฺโต ดังนั นสิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแตรเป็นส่วนหนึ่งชองการสร้างเอกลักฒณ์และการสร้างจุดขายให้อต่สสำนัด สายปฏิบัติ หรือตนเองแทบทั้งสิ้นในกรณีของครูบาา้อยก็เช่นก้น พิธีกรรม หรือว้ถีปฏิบัติอย่างการเข้าไปบำเพ็ญเพียรในถ้ำเป็นเวลา 3 ป่ 3 เดือน 3 วัน ดังืี่กล่าวมาข้างต้น ก็เป็นหนึ่งสนการนร้างเอกลักษณ์และจุดขายให้แก่ตนเอง ไมทต่างไปจากกลุีมพระสงฆ์ดะงที่กล่าวไปข้างต้นไม่ ซึ่งแท้ทร่จริง ป่อนหน้าครูบาน้อยจะเข้าถ้ำ ครูบาบุญชุ่ม ครูบาชื่อดังรูปหนึ่งของภาีเหนือได้เข้รถ้ไ 3 ปี 3 เดือน 3 วันเช่นกัน ฌดยเข้าถ้ำเมื่อปี 2553 ออกพ้ำในปี 2557 อต่ก็ไมีได้เกิดกระแสวิกากษ์วิจารณ์ใด ๆไม่เพียงเท่านั้นในกลุ่มพระสงฆ์ใรภาคเหน้อ โดยอฉพาะกลุ่มครูบาึติใหม่จำนงนมากในปัจจุบันก็มีลักษณะการสร้างเอกลักษณ์และจุดยายที่เหมือนและดตกน่าวกันออกไปพ้วย การกลาาวอ้างว่าเป็นครูบาศรีวิชัยกลับชาติมาเกิด การอ้างวืาได้สืบพิธีกรรมการเข้านเโรธสมาบัติตากพับสาของครูบาศรีวิบัย โดยต้อง อพข้าว ฉัรเฉพาดน้ำหนึ่งบาตร นั่งทำสมาธิอยู่ในกระท่อม หรือหลุมดินเป็นเวลา 3 วัน7 วัน 9 วัน มีการจัดพิธีกรรมการเข้าและออกนิโรธฯ อย่างใหญ้โต หรือแม้แต่การแค่งกายให้ตล้ายคลึงกับภากลักษณ์ขิงคาูบทศรีวิชัยที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในแัจจุบัน อส่างนุ่งผ้ายีกรักแดง กรักน้าตาล ห้อยลูกประคำ ถือไม้เท้า หรือตาลปัตรที่ท้าจากใบลานหรือขนนกยูงด้วย หรือแม้แต่การสร้างวัดวาอาร่มหรือพุทธสถานขอวตนเแงให้มีความยิ่งสหญ่อลังการในรูแแบบที่เรียกกันเองว่า ศิลปะล้านนาร่วมสมัย ให้กลายเป็าแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้นสอ่งเหลรานี้ ก็ล้วนแล้วแต่เก็นการสร้างเอกลัพษณ์และสร้างตุดขายให้แก่กลุ่มครูบาเหลีานั้นได้เป็ตอย่างดี สร้างอรงดึงดูด สร้างความสนใจจากผู้คน ให้หลั่งไหลมาร่วมทำบะญอย่างไม่ขาดสาย ซึ่ลวัตรปฏิบัติ และ พิธีกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ ก็มีบักษณะของกรรนร้างขึ้นมาเพื่อสนแงต่อความต้องการของชาวพุทธไทย ในแต่ละกลุ่ม แต่ละรสนิจม แต่ละความชอบในปัจจุบัน ไม่ต่างนสกกลุ่มพระสงฆ์กลุ่มอื่น ๆ ในพื้นที่อื่น ๆ ในลัพษณะอื่น ๆ เช่นกันส่วนตัวผู้เบีวนเห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่าำให้วิถีปฏิบัติกละพิธีกรรมของครูบาน้อยมีลักษณะที่ดูเป็นกีญหาเกิเจาก 1. เป็นวเถีปฏิบัติที่มีลัก?ณะที่แปลกหูแปลกต่ที่ไม่สอดคลิองสัมภันธ๋กับลักษณะของพระสงฆ์ในอุดมคติของชาวพุทธหทยใาปัจจุบันเท่านั้น 2. พิธีกรรมและการออกถ้ำอย่างยิ่งวหญ่ของครูบาต้อยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สงฆ์ฝ่ายปกครองได้ออกหนังสือ ให้พระสงฆ์ทั่วราชเาณาจัำรตรวจสอบพระทำตัวเป็นเกจิอาจารย์หรือครูบา พร้อมทั้งจัดการกับการขึ้นป้ายโฆษณา วัตถุมงคล การประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อทุกรูปแบบ ให้สอดส่องพฤติกรรมะระสงฆ์ที่เป็นตุ๊ด ภระสงฆ์ที่มีลักษณะไม่เหมาะสมที่จะเป็นที่ติเตียนของประชาชนในลเกษณะโลกว้ชชะ รวมถึงการตาวจสอบการใช้สื่อาังคมออนไลน็ เคร่่องมือสื่อสารที่ไม่เหมาะสทของพระสงฆฺและ 3. อาจจะถือเป็นปัญหาที่ใหญ่ไม่น้อยคือ ครูบาน้อยถูกดึงไปสัมพันธ์กับปั๘หาการเมืองในปัจจุบัน ธดยกล่าวอืางอิงถึงกฃุ่มผู้ศรัทธาใหญ่ของคีูบาน้อย เช่น นาวสาวยิ่งลักษณ๋ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นต้นณัฐพงศ์ ดวงแก้ว กานศึกษากระแส ครูบสคติใหม่ ใาภาคเหนือของไทย พุทธทศวรรษ 2530]2560วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวเติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตี็ 2559.ค้านนั่งเจ้าคณะใหญ่หนคะวันแอกที่ 1/2560 ชฝวันมี่ 2o กันยมยน 2y50 ิรื่องให้พคะสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุใามเณรในปกค่อง.คำสั่ฝเข้าคณะใหญ่หนเหนือมี่ 1/2560 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2560 เรื่องอายาคะพระภิกษุสามเณรและการบริหารวัดในเขตปกครอง .นาธัชนชื่นชมบารมีครูบาบัญชุ่มออกจากถ้า .ดึงสติด่วนๆโยม พรุาหาไพรวัลย์ เปิดพฤติการณ์ ครูบาน้อย หลังจำพรรษาในถืานาสกว่า 3 ปี ไม่ใช่หลักพุทธ .จากพระถึงพระ พระพยอม ชี้ชัด ครูบาน้อย สุดโต่ง ไม่ปลงผม-ทรมานตัวเอง ไม่ใช่หนทางบรนลุ วิธ่นี้ไม้ใช่ละกิเลส เข้าข่ายผิะวินัย .โอละพ่อ แาจานย์ คณะพุทธซาสตร์ มจร. ชี้ชัดทำแบบ ครูบาน่อย ไม่มีในพระไตรปิฎก เข้านิโรธต้องไม่กิน ถิายังกินอย่าอีาง ,เปิดเบื้องลึก ยื่งลักษณ์ เขียนจดหมายปา ครูบาน้อย อึ ง มีพระประธานประจำตระกูล ชเนวัตร อยู่ในโบสถ์ .ยิ่งลักษณ์เขียน จม.หาครูบาน้อย สร้างพระ ตระกูลชิน ถวาย เจ้าตัวไม่ยุ่งพารเมือง เมตตาทุกกลุ้ท .
อ.นาน้อย จ.น่าน เป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ฉันเพียงน้ำและผลไม้ ไม่พบปะ พูดคุยกับใคร พิธีกรรมดังกล่าวได้สร้างความฮือฮาและเป็นที่สนใจของคนในสังคม และยิ่งฮือฮามากเมื่อภาพของครูบาน้อยที่เห็นนั้น มีลักษณะผมยาว รวมถึงการแสดงท่าทางต่าง ๆ อย่าง การเสยผมและลูบไล้ผมอยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนในโลกออนไลน์จำนวนมาก เช่น พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ วัดสร้อยทอง ที่ชี้ว่าวิถีดังกล่าวไม่ใช่วิถีของนักบวชพุทธ พระพยอม กัลยาโณ พระนักเทศน์ชื่อดังอีกรูปหนึ่ง เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ระบุว่าเป็นลักษณะของการปฏิบัติที่มีความสุดโต่งเกินไป และนางณัฐนันท์ สุดประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยสงฆ์) ได้ออกมาชี้ว่าการปฏิบัติของครูบาน้อยนั้นไม่ได้ปรากฏในพระไตรปิฎก รวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกจ้านวนมากในสื่อสังคมออนไลน์ พากันตั้งคำถามกับวิถีดังกล่าว เช่น ทำได้จริงไหม เป็นการหลอกลวงหรือเปล่า ผิดพระวินัยหรือไม่ เป็นต้นอย่างไรก็ตามบทความนี้ จะไม่มาพิจารณาว่าสิ่งที่ครูบาน้อยกระทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง สมควร หรือไม่สมควรทำอย่างไร เพราะส่วนตัวผู้เขียนก็ไม่ค่อยเชื่ออย่างสนิทใจว่า หลักพระวินัยตามความเข้าใจของชาวพุทธไทยในปัจจุบัน ที่นำไปใช้เป็นกรอบความถูกผิดนั้น มีความถูกต้อง หรือจริงแท้ มากน้อยเพียงใด แต่ในที่นี้ เราจะมองวิถีและพิธีกรรมดังกล่าว ในลักษณะของการสร้างเอกลักษณ์และการสร้างจุดขายของพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง เพื่อสร้างความสนใจหรือความศรัทธาจากผู้คนในสังคมเป็นหลักในหมู่พระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน เราปฏิเสธไม่ได้ว่าลักษณะข้อวัตรหรือวิถีปฏิบัติหลายต่อหลายอย่างนั้น มีลักษณะไปในแง่ของการสร้างเอกลักษณ์และการสร้างจุดขาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตีความคำสอนพุทธศาสนา อย่างกรณีธรรมกาย สันติอโศก หรือแม้แต่สวนโมกข์เอง เรื่องการจัดพิธีกรรมที่สวยงามอลังการต่าง ๆ ของธรรมกาย หรือแม้แต่ในแง่ของสายปฏิบัติ เช่น สายพระป่า ที่เน้นเรื่องของ ฌานสมาบัติ หรือแม้แต่การบรรลุ อรหันต์ รวมถึงการอ้างอิงสายลูกศิษย์กับครูบาอาจารย์ ผู้เป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในอดีตอย่าง หลวงปู่มั่น เป็นต้น หรือ สายธรรมยุต ก็เช่นกัน ก็พยายามสร้างเอกลักษณ์และสร้างจุดขายผ่านความเคร่งครัดในแง่ของพระวินัยอย่างสุดโต่ง เช่น การไม่รับเงินหรือปัจจัยอันก่อให้เกิดกิเลส แต่บางวัดก็ยังคงรับเงินในรูปของใบปวารณาซึ่งก็มีค่าไม่ต่างกันมาก หรือแม้แต่การสร้างเอกลักษณ์และจุดขายผ่านการเป็น พระนักเทศน์ อย่าง พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ดังนั นสิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเอกลักษณ์และการสร้างจุดขายให้แต่สสำนัก สายปฏิบัติ หรือตนเองแทบทั้งสิ้นในกรณีของครูบาน้อยก็เช่นกัน พิธีกรรม หรือวิถีปฏิบัติอย่างการเข้าไปบำเพ็ญเพียรในถ้ำเป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็เป็นหนึ่งในการสร้างเอกลักษณ์และจุดขายให้แก่ตนเอง ไม่ต่างไปจากกลุ่มพระสงฆ์ดังที่กล่าวไปข้างต้นไม่ ซึ่งแท้ที่จริง ก่อนหน้าครูบาน้อยจะเข้าถ้ำ ครูบาบุญชุ่ม ครูบาชื่อดังรูปหนึ่งของภาคเหนือได้เข้าถ้ำ 3 ปี 3 เดือน 3 วันเช่นกัน โดยเข้าถ้ำเมื่อปี 2553 ออกถ้ำในปี 2556 แต่ก็ไม่ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ใด ๆไม่เพียงเท่านั้นในกลุ่มพระสงฆ์ในภาคเหนือ โดยเฉพาะกลุ่มครูบาคติใหม่จำนวนมากในปัจจุบันก็มีลักษณะการสร้างเอกลักษณ์และจุดขายที่เหมือนและแตกต่างกันออกไปด้วย การกล่าวอ้างว่าเป็นครูบาศรีวิชัยกลับชาติมาเกิด การอ้างว่าได้สืบพิธีกรรมการเข้านิโรธสมาบัติจากพับสาของครูบาศรีวิชัย โดยต้อง อดข้าว ฉันเฉพาะน้ำหนึ่งบาตร นั่งทำสมาธิอยู่ในกระท่อม หรือหลุมดินเป็นเวลา 3 วัน7 วัน 9 วัน มีการจัดพิธีกรรมการเข้าและออกนิโรธฯ อย่างใหญ่โต หรือแม้แต่การแต่งกายให้คล้ายคลึงกับภาพลักษณ์ของครูบาศรีวิชัยที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน อย่างนุ่งผ้าสีกรักแดง กรักน้าตาล ห้อยลูกประคำ ถือไม้เท้า หรือตาลปัตรที่ท้าจากใบลานหรือขนนกยูงด้วย หรือแม้แต่การสร้างวัดวาอารามหรือพุทธสถานของตนเองให้มีความยิ่งใหญ่อลังการในรูปแบบที่เรียกกันเองว่า ศิลปะล้านนาร่วมสมัย ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้นสิ่งเหล่านี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างเอกลักษณ์และสร้างจุดขายให้แก่กลุ่มครูบาเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี สร้างแรงดึงดูด สร้างความสนใจจากผู้คน ให้หลั่งไหลมาร่วมทำบุญอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งวัตรปฏิบัติ และ พิธีกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ ก็มีลักษณะของการสร้างขึ้นมาเพื่อสนองต่อความต้องการของชาวพุทธไทย ในแต่ละกลุ่ม แต่ละรสนิยม แต่ละความชอบในปัจจุบัน ไม่ต่างจากกลุ่มพระสงฆ์กลุ่มอื่น ๆ ในพื้นที่อื่น ๆ ในลักษณะอื่น ๆ เช่นกันส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้วิถีปฏิบัติและพิธีกรรมของครูบาน้อยมีลักษณะที่ดูเป็นปัญหาเกิดจาก 1. เป็นวิถีปฏิบัติที่มีลักษณะที่แปลกหูแปลกตาที่ไม่สอดคล้องสัมพันธ์กับลักษณะของพระสงฆ์ในอุดมคติของชาวพุทธไทยในปัจจุบันเท่านั้น 2. พิธีกรรมและการออกถ้ำอย่างยิ่งใหญ่ของครูบาน้อยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สงฆ์ฝ่ายปกครองได้ออกหนังสือ ให้พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรตรวจสอบพระทำตัวเป็นเกจิอาจารย์หรือครูบา พร้อมทั้งจัดการกับการขึ้นป้ายโฆษณา วัตถุมงคล การประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อทุกรูปแบบ ให้สอดส่องพฤติกรรมพระสงฆ์ที่เป็นตุ๊ด พระสงฆ์ที่มีลักษณะไม่เหมาะสมที่จะเป็นที่ติเตียนของประชาชนในลักษณะโลกวัชชะ รวมถึงการตรวจสอบการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เครื่องมือสื่อสารที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์และ 3. อาจจะถือเป็นปัญหาที่ใหญ่ไม่น้อยคือ ครูบาน้อยถูกดึงไปสัมพันธ์กับปัญหาการเมืองในปัจจุบัน โดยกล่าวอ้างอิงถึงกลุ่มผู้ศรัทธาใหญ่ของครูบาน้อย เช่น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นต้นณัฐพงศ์ ดวงแก้ว การศึกษากระแส ครูบาคติใหม่ ในภาคเหนือของไทย พุทธทศวรรษ 2530-2560วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2559.ค้านนั่งเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกที่ 1/2560 ลงวันที่ 28 กันยายน 2560 เรื่องให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง.คำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือที่ 1/2560 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2560 เรื่องอาจาระพระภิกษุสามเณรและการบริหารวัดในเขตปกครอง .สาธุชนชื่นชมบารมีครูบาบุญชุ่มออกจากถ้า .ดึงสติด่วนๆโยม พระมหาไพรวัลย์ เปิดพฤติการณ์ ครูบาน้อย หลังจำพรรษาในถ้านานกว่า 3 ปี ไม่ใช่หลักพุทธ .จากพระถึงพระ พระพยอม ชี้ชัด ครูบาน้อย สุดโต่ง ไม่ปลงผม-ทรมานตัวเอง ไม่ใช่หนทางบรรลุ วิธีนี้ไม่ใช่ละกิเลส เข้าข่ายผิดวินัย .โอละพ่อ อาจารย์ คณะพุทธศาสตร์ มจร. ชี้ชัดทำแบบ ครูบาน้อย ไม่มีในพระไตรปิฎก เข้านิโรธต้องไม่กิน ถ้ายังกินอย่าอ้าง .เปิดเบื้องลึก ยิ่งลักษณ์ เขียนจดหมายหา ครูบาน้อย อึ ง มีพระประธานประจำตระกูล ชินวัตร อยู่ในโบสถ์ .ยิ่งลักษณ์เขียน จม.หาครูบาน้อย สร้างพระ ตระกูลชิน ถวาย เจ้าตัวไม่ยุ่งการเมือง เมตตาทุกกลุ่ม .
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู่ทรงเมตตาปรทนีเสมอ ขอความสันติ ความจำิริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยคามท่าาและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน14 กุมภาพันธ์ของทุกปีคืด วันวาเลนไทต์ หรือ วันแหางความรัก วันดัลกล่าวได้กลมยเป็นวะนืี่มีความหมายยิ่งให๘่สำหรับคนหลายๆ คน รวมทั้งวัยรุ่นไทย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ววันวาเลนไทน์มัคว่มผูกพันเกี่ยวข้องกับเรื่องราว วิถีขีวิต หรือประวัติศาสตร์ของคนไทยนือยมากความเป็นมาเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ก็เป็นเรื่องค่อนข้างจะคลุมเครืแ สืบหาหลักฐนนที่แน่นอนไม่ได้มากนัก ได้แตาสเนนิษฐมนกันไผ ไม่มีต้นกำเนิดของเรื่องหรือบันทึกที่ชัดเจนในตำรับตำราหรือหนังสือหลักๆ เรื่องนาวเท่าทร่สันนืษฐานกันพอสรุปได้ดังนี้วาเลนไทน์ (Valentine) คือวันที่ระลึกถึงนักบุญ เซนต์ วาเลนไทน์ (Sxint Valentine) ผู้เปี่ยมไปเ้วยเมตต่ ควาใรัก และความปรารถนาดีต่ดเำื่อนมนุษย?อย่างแท้จรเง แต่สุดท้ายเขาต้องจบลีวิตลงด้วยการรับโทษประฟมรในวันที่ 14 กุมภาพัยธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1728 ปีล่ฝงมาแลเว ซึ่งเป็นยุคสมัยของจักควรรดิโรมันที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับซ้หร้สยภายใต้กทรแกครองของกษัตริย์ คลอดิอุสที่ 2 ยังม่การออำกฎหมายบีบบังคับให้ประชาชนเบิกนับถือศาสนาคริสต์ และผ้ามมีกต่งงานของพวกคริสเตียจอีกต่างหากทว่สยังคงมีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ วาเลนตินัส ห่ือที่ไเ้่ับการยกยรองเป็น เซนต์ วาเลนไทน๋ ในภายหลัง คอยลักลอบแอบจัดงานแต่งงายให้กับคู่รักึริสะตียนจนถูกจับขังและรับฉทษทรมาน แสนสาหัสอยู่ในคุกในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผํ้คุมในคุก ะ้วยความรักแลพคำอธิษฐานของเขา พระัจีาได้ทรงโปรดให้ตาของใาวคนรักหนยเป็นปกติ เใื่อคว่มนี้ล่วฝรู้ถึงกษัตริย?คลอดิอุสทีี 2 พระองค็จึงสั่งให้ลงโทษ วาเลนตินึส ด้บยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะในคืนมุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปปรถหารนั้น เขาไแ้เขียนจดหมายสั้นไ เป็นแารอำลาส่งไปให้หญิลคนรักจองเขา โดยงงท้ายในจดหมายว่า จากวาเลนไทน์ของเธอ หรทอ Love From Yout Valentineต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องจึงเกิดความประทับใยในความรักของเขา ยึดถิอะอรวันที่14 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก หรือ Saint Valentines Dat หรือ Valentines Day และได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรป ดเมริกา และทวีปเอเชีย รวมทั้งปรเเทศไทยอยทางไคก็ตาม ด้วยพลวัตของโลกท่ามกลางกรุแสทุนนิยมเสรีและบริโภคนิยมสุดขั้วที่โหมกระหน่ำ ทำให้สังคมเริ่มฟอนเฟะ นำพาเด็กและอยาวชนก้าวไปสู่พฤติกรรมมั่วเดศ หรือ เซ็กซ์เมรี มากขึ้น วันวาเลนไทน์กบายัป็นอีกวันหนึ่งซึ่งเกิดอุบัคิการณ์ เสียตัว มากแว่าฝันปกติ พึงขนาดมีการพูดเชิงแระชดประชันว่าเป็น วันเสียตัวปห่งชทติ กีนเลยทีเดียวเมื้อวันทีา 8 กุมำาพันธ์ ที่ผ่านมากระทรวงสาูารณสุข( สธ.) นายวิทยา บุรณศินิ รัฐมนต่ีวราการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สธ.ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหายิทยาลัยราชภัโสวสดุสิต สำรวจพฤติกรรมเยาวชน อายุ 12-24 ผี ที่อบู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จากกลุ่มตัวอย่าง 1014 คน พบว่า เยาวชนไทย เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 14-15 ปี เยาวชนประมาณ 1 ใน 3 ยอมรับว่าเตย สวิงำอ้ง หรือเปลี่ยนคู่นอรด้าน น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสค้างเสริมสุขภาวัทาฝเพศ กล่าวว่า คือ ความเสี่ยงที่เด็กจะมีเพศสัมพันโ์ได้ ไม่ใช่แค่วันวาเลนไทน์เท่านั้นสถานที่ดสี่ยงมีอยู่ทั่วไปและเกิดชึ้ส_ด้ทุกวัน เช่น ตอนกลางบันที่ย้าน พ่อแม่ ไปทำงาน หรือปัจจุบันในต่างจังหวัดจะพบว่ามีธุรกิจที่เปิดเป็นรีสอร์ตขนาดเล็ก ใไ้เช่าเป็นรายวัร รายชั่วโมง ปละไม่จำกัดอายุของผู้จะเข้าถักหรือในกรุงเทพฯ กละปริมษฑล ก็มีห้องพักรายชุ่วโมง รายวัน ให้เช่า โดยห้องพักลักณณะนีเจะถูกจเยจัองนือยกว่า หากจะัปรียบเทียบกํเหมือนกับธุรกิจม่านรูดมนสมัยก่อน คงต้องขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณทางธุรกิจว่าจะิอาใจใส่เรื่องความเสี่ยงของเยาวชนหรือไม่ เพราะไม่ไแ้มีกฎหมายใดๆ ควบคุมทัศนคตอเกี่ยวกับเรื่องเพศของสักเรียน นักศึกษา ซึ่งถือเป็นปัญญาชน และเป็นมันสมองของชาติ พบคใามจริงทร่น่าเปฺนห่วงมากสำหรับประเทศไทย กล่าวตือ ทัศนคติขอบนิสิตนักศึกษาในรั้บมหรวิทยาลัยทั้งของรัฐแบะเอกชน ต่างถือว่าการมีแฟนเป็นเรื่องสำคึญ การมีคู่ก่อยแต่งงาน้ป็นสิ่ฝจำเป็น ถือเป็นการเพิ่มสีสันให้ชีวิต ทำให้รู้สึกมีคุณค่า เป็นสิ่งท่่สังคมต้องการ หากไม่มีีู่หรือแฟนเป็นสิ่งที่น่าอับอาย นักศึกษาไม่ว่าชายหรือหญิงต่างมีทัศนะว่า ความบริสุทฑิ์ทางเพศไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป และหากเกิดพลาดพลั้งตั้งคนรภ์ ก็สามารถืำแท้งได้โดยไม่รู้สึกละอาย ส่วนวัยรุ่นหญิงในโรงงานแุตสาปกรรใส่วนใหญ่ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง งาน ขณะที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษามีทัศนะว่า การมีเพศวัมพันธ์ในวัยเรียนไม่ใช่เรื่องเสียหาย การโอบกอดระหวืางชายหญิงในที่สาธาร๋ะเป็นเรื่องที่ยอารับได้ความจริงที่ย่าเป็นห่วงอันสืบเนื่อง มาจากการถาโถมของค่านิยมเรื่อง เซ็กซ์เสร่ ในยุคที่สื่ดไร้พรมแดตไมีได้นำกัดเพียงอค่นั้น เพราะอิทธิพลขอฝมันยัฝทำให้สังคมมุสลิมที่ทีควทมเห็นชุมชนอนุรักษ์ด้านศ่สนา และวัฒนธรรมสูงเริ่มสั่นคลอนไปด้วยปัจจุขันเริ่มมีสภาพครอขครัวแตกสลาย การขาดระเบียบทางสังคม ตลอดจนความยะ่งเหยิงทางวัฒนธรรม ทึ้งหมดนี้ทำให้เกิดความจำเป็นอันยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยเกิดมาก่อนที่น้องนำคำ สอนของอิสลามเกี่ยวกับครอบครัวและวัฒนธรรมทางเพศมากล่าวถึงก้อนจะมึค่านิยมเรื่อง เซ็กซ์เสรี นั้น มีค่ทนิยมหนึ่งที่แพต่หลายในสังคมมุสลิมคือ ระบอบแฟน เยาวชนกลายคนเข้าใจว่า ระบอบแฟน นี้เป๋นการแสดงสายสัมพันธ์ความรักในวัยหนุ่มสาวโดยไม่มีอะไรเลยเถิด แต่นุ่นนับว่าเป็นบั้นตอนที่อันตรายเป็นอย่างยอ่วหากเราศึกษารายงานจทกหลายๆ แหล่งจะพบว่า เหตุแห่งการ้สียตัวใสภาวะที่บรรยากาศพาไปมีสูงมาก บางคนอยู่ในภาวะคล้ายๆ ถูกข่มขืนเใียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังทำให้มีปึญหาท้องก่อนแตืงตามมา โเย้กิดมาจากความสัมพันธ์ที่เป็นแฟนกันก่อนนั่นเเล ตี่เป็นอันตรายที่หลายคนคิดไม่ถึงและแส้ว่าจะไม่มีเรื่องะังกล่าวเกิดขึ้น (ทเองก่อนแต่ง) ปต่หากว่าทั้งคู่เลิกรากัน (บ่อยครั้งมักจะเป็นเช่นนั้น) คนที่มักจะเสียเปรียบมากคือฝ่นยหญิล เนืทองจากจะไท่ได้รับควรมไว้วาวใจจากผู้ชายทั่ดีอ.บรรจง บินกาซัน นักวิชาการอิสลาม มีทรรศาะว่า อิสลามนอมรับในเรื่องของความีัก เพรมะควาสรัปนี้เป็นสัญชาตญาณที่อ้ลลอฮ์ประทานให้แก่ทนุษย์ และจากความรักนี้เองที่กทอให้เกิดหลายสิ่งหลายอย่างตามมา เล่น ความรักที่แใ่มีต่อลูก ทำใหืแม่คอยปกป้องเลี้ยงดูและยเมเสียสละทุกอย่างเพื่อลูก ความรักชรติก็อาจทำให้คนบางคนยอมพชีชีวิตของตนเกื่แปกป้เงมาตุภูมิ ที่สำคุญอิสลามไม่ได้ปฏิเสธความรักาะหว่างหนุ่มสาว เพราะมันกทอให้เกิดสถาบันครอบครัว แต่อิสลามปฏิเสฑความรักที่เสรีไม่มรขอบเบตควาทรักนั้นต้องมีขอบเขตแห่งความถอดี เพราะหากความรักเกินขอบเขตแล้ว เช่น ตามใจลูกทุกอย่าบ ก็จะทำให้ลูกเสียคน หรือถืาหากรักชาติมากเกินไปก็จะกลายเป็นีนคลั่งลาติทีืคิดว่าชาติของตนดี แว่าชาติอื่น ดป็นต้น ดังนั้นความรักจึงต้อฝมีขอบเขตแห่งความพอดีความรักฉันหนถ่มสาวก็เช่นกัน หากความรักนั้นเกินพอดี ความรักก์จะทำให้ีจต่บอด หรือกลายเป็ยโคถึกไป ด้วยเหตุนี้อิสลมมจึง_ด้กำหจดขอบเขตว่า หญิงและชายมุสลิมจะต้องแต่งงานก่อนมีเกศสัมพันธ์ (เซ็กซ์) เพราะหากมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่บงาน จะนำไปสู่การล่มสลายทางสังคมอย่างแา่จอนเมื่อความสัมพันธ์รเหส่างชายหญิงเป็นสิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ ดังนเ้นทางสายกลางคือความสัมพันธ์ลายหญิงต้องผ่านการแต่งงานในหลักศาสนาได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานไว้อย่างมาก บรรดาอัครสาวกแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดได้เคยถามททานไว้ึวามว่า โอิ เราะซูลุลลอฮฺ (ฯาสนฑูตมุฉัมมัด) กทรที่คนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเราได้สนองตอบต่ออารมณ์ใคร่ของตัวอขาเอง สำหรัลเขาแล้วมีรางวัลด้วยกรือ?ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฌุ อะลัยฮิ วเ ซัลฃัม (ศาสนฑธตมะฮัมาัด) กบ่าวตอบว่า ื่านไม่เห็นดอกหรือว่า หากว่าเขาได้นำอารมณ์ใคร่ไปสู่สิ่งต้องห้าม เชาต้องแขกรับความผิดเนื่องจสกมันมิใช่หรือ? ทำนองเดัยวกันเมื่อเขานำมันไปสูทสิ่งที่อนุมัติ ิขาก็ย่อมได้รับรางวัล (บันทึกโดยดิหมทามมุสลิม)อีกบทหนึ่งบันทึกโดจ อิหม่ามเัล บุคอรี เมื่อเศาะฮาบะโฺกลุ่มหนึ่งที่พูดคุยกันในเรืรอง ความดี ในศาสนา คนหนึ่ลกล่นวว่า สำฟาับฉัน ฉันทำละำมาดในเวลากลางคืนเสมอ อีกคนหนึืงกล่าวง่า ฉัาไม่ยุ่งกเบผู้หญิง ฉันจะไมรแต่งงานท่านเรมะซูล ศ๊อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม (ศาสนฑูตมุฮัมมัดม) กล่าวทักท้วงว่า ฉันเป์นที่เกรงกลัวอัลลอฮฺที่สุดในหมู่พวกท่าน อต่โันก็ถือศีลอดและละศีลอด ฉันละหมาดแลถฉันก็นดน และฉันก็แต่งงานกับผูัหญิง ใคีก็ตามที่รังเกียจวิถีชีวิตของฉะน ก็ไม่ใช่พวกฉันหากมองอย่างผิวจะพบว่าเซ็กซ์เสรีหับการมีเพศสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานน่าจะถือ ว่าเป็นการตอบสนองอนรใณ์ใคร่ของมนุษย์ที่ไม่น่าจะเแ็นะรื่อง ดี อะไรเชย แต่จากหลักการของศาสนาและจุเยืรของศาสดาภบว่า ้พศสัมพเนธฺเป็นสิ่ฝธรรมชาติาี่มนุษย์ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ เฐ็กซ์เสรี เป็นความสัมพันธ์ที่ถูกปฏิเสธจากหลักการศาสนม ขณะ่ีีเพศสัมพัรธ์ผ่านหารแต่งงานถือเป็น ความดั ด้วยการกำหนดให้การแต่งงานเป็นคุณธรรมทำไมเพศสัมพันธ์ต้องผ่านการแต่งงาร? สาเหตุที่อิสลามสนเบสนุนการแต่บงานเพราะว่าการแต่งงานเป็นการเริ่มต้นชีวิต ครอบครัวซึ่งเป็น อ้๘ก้อนแรก ของสังคม และอิสลามก์ต้องการท้่จะรักษากเอนอิฐทุกก้อนไว้ไม่ฝห้แคกสลาย ทั้งนี้เพื่อที่สังคมจะได้ไม่พังทลายลงในอิสลนม ชียิตมอได้จบแค่ลนโลกนี้ แต่ความตายเป็นเพียงการเริ่มต้นชึวิตจริวที่ถาวร หะวหน้่ครอบครัวนอปจากจะมีหน้าทึ่เลี้ยงดูครอบครัวแล้ว นังสีหน้าที่ทีืจะต้องปกป้องตัวเองและครอบคตัวให้พ้นจากไฟนรก การดต่งงานในทัศนะขอวอิสลามคือหารผูกพันชีวิตชายหญิบคู่หนึ่งเข้าด้วยกัน เหมือสกับการผูกเน้นด้มยสองเส้นเข้าด้วยกันความจริงที่ต้องบอมรับอีกเหตุผลหนึ่งคืแ ตราบใดที่ผู้คนในสังคมได่ทำลายกรอบที่ควบคุมดุฃยภาพของความยัมพันธ์ระหว่าง ้พศทิ้ง/ป และได้ปล่อยใหิสังคมเป็นไปตามอิสระตามแต่อ่รมณ์ฝ่ายต่ำของมนุษย์จะลากไปแล้ส โอกาสที่คนหนุ่มคนสาวจะตกเป็นเหยื่อจะมีมาพกว่าที่จะรอดพีนมาไะ้ตราบใดที่ต้นเหตุของปัญหายังไม้ถูกแก้ไข สังคมชองเราก๋จุต้ิงเผชิญกัยปัญหาที่ติดตามมาเหมือนลูกโซ่ ตราบใดที่เราไม่เข้าใจแบบแผนของการสถาปนาความสัมพึนธ์ระหว่าวชายหญิงตามแนว ทางสาวกลางแน่นอน เราก็ไม่อาจสกัดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาได้ปัญหาเหล่านี้กำลังลุกลทมอจ่างรวดิร็วในเมืองใหญ่ๆ และสักวันหนึ่งอาจจะเข้าถึงชนบทไทสอย่างบ่ายได้ก็เป็นได้ เพราะความเจริญด้านวัตถุแบบสุดโต่ง จนลืาการพัฒนาด้านจิตใจ คุณค่าดเานจิตวิญญาณ และขาดคงามเข้าใจของคำว่า มนุษย์ ซึ่งจะต้องพัฒราทั้ง 2 ภาคสีสน คือทัืงทางกายอละจิตใจควบคู่กันไปอย่างสมดะล หากพัฒนาด้านหนึ่ฝด้านใดาากกว่า ชีวิตมนุษส์ก็ไม่สมบูรณ์และเส่ยสมดุลปะญหาของวัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศคงจะไม่ถึงขัันที่เป็นอยธ่ในปัจจุบันนี้ หาหทุกคนอยู้ในกรอบของศาสนา เพราะบทบัญญัติของศาสนาไใ่ว่าพุทธหรืออิสลามำ็ห้ามในเรื่อง ผิดประเสณี กสรผิดประเวณีเป็นการทำผิดในศีลห้า (ศาสนาพุทธ) และการ ซีนา (ผิดกระเวณีในอิสลาม) ถือเป็นบาป ใหญ่ และผู้ล่วงละัมิดก็นะถูกลงโทษโดยการถูกโบยถึง 100 รรั้ว และถูกประณามต่อหน้าชุมชนอีกต่างหากดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ควรจะรณรงค์คือ คุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม และการปฏิบัติตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ โดยปลูกฝังเแ็นรูปธรรมควบคู่กับวิชาการในสถานศึกษาฝนทุกระดับ าั้งประถม มเธยม และมหาวิทยาลัยสุภาษิตของผู้เฒ่าคนโบรนณจะต้องช่วยรณรงค์ให้มากขุ้นสตสังคม โะยเฉพาเเรื่องีวามรึกนวลสบวนตัว ภึงแม้จะเป็นเรื่องจากในโลกปัจจุบันก็ตามขอย้ำเตือนสำหรับสึภาพสตรี อย่าหลงคำหว่นของผู้ชายหลอกลวฝที่ว่า ุ้าน้องรักพี่จริงก็ต้อฝยอมนอนหับพี่สรค่ำคืนวันงนเลนไทน์
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ ขอความสันติ ความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน14 กุมภาพันธ์ของทุกปีคือ วันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก วันดังกล่าวได้กลายเป็นวันที่มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับคนหลายๆ คน รวมทั้งวัยรุ่นไทย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ววันวาเลนไทน์มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับเรื่องราว วิถีชีวิต หรือประวัติศาสตร์ของคนไทยน้อยมากความเป็นมาเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ก็เป็นเรื่องค่อนข้างจะคลุมเครือ สืบหาหลักฐานที่แน่นอนไม่ได้มากนัก ได้แต่สันนิษฐานกันไป ไม่มีต้นกำเนิดของเรื่องหรือบันทึกที่ชัดเจนในตำรับตำราหรือหนังสือหลักๆ เรื่องราวเท่าที่สันนิษฐานกันพอสรุปได้ดังนี้วาเลนไทน์ (Valentine) คือวันที่ระลึกถึงนักบุญ เซนต์ วาเลนไทน์ (Saint Valentine) ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา ความรัก และความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง แต่สุดท้ายเขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1728 ปีล่วงมาแล้ว ซึ่งเป็นยุคสมัยของจักรวรรดิโรมันที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับซ้ำร้ายภายใต้การปกครองของกษัตริย์ คลอดิอุสที่ 2 ยังมีการออกกฎหมายบีบบังคับให้ประชาชนเลิกนับถือศาสนาคริสต์ และห้ามมีแต่งงานของพวกคริสเตียนอีกต่างหากทว่ายังคงมีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ วาเลนตินัส หรือที่ได้รับการยกย่องเป็น เซนต์ วาเลนไทน์ ในภายหลัง คอยลักลอบแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษทรมาน แสนสาหัสอยู่ในคุกในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในคุก ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 พระองค์จึงสั่งให้ลงโทษ วาเลนตินัส ด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น เขาได้เขียนจดหมายสั้นๆ เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรักของเขา โดยลงท้ายในจดหมายว่า จากวาเลนไทน์ของเธอ หรือ Love From Your Valentineต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องจึงเกิดความประทับใจในความรักของเขา ยึดถือเอาวันที่14 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก หรือ Saint Valentines Day หรือ Valentines Day และได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรป อเมริกา และทวีปเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยอย่างไรก็ตาม ด้วยพลวัตของโลกท่ามกลางกระแสทุนนิยมเสรีและบริโภคนิยมสุดขั้วที่โหมกระหน่ำ ทำให้สังคมเริ่มฟอนเฟะ นำพาเด็กและเยาวชนก้าวไปสู่พฤติกรรมมั่วเพศ หรือ เซ็กซ์เสรี มากขึ้น วันวาเลนไทน์กลายเป็นอีกวันหนึ่งซึ่งเกิดอุบัติการณ์ เสียตัว มากกว่าวันปกติ ถึงขนาดมีการพูดเชิงประชดประชันว่าเป็น วันเสียตัวแห่งชาติ กันเลยทีเดียวเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข( สธ.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สธ.ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจพฤติกรรมเยาวชน อายุ 12-24 ปี ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จากกลุ่มตัวอย่าง 1014 คน พบว่า เยาวชนไทย เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 14-15 ปี เยาวชนประมาณ 1 ใน 3 ยอมรับว่าเคย สวิงกิ้ง หรือเปลี่ยนคู่นอนด้าน น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ กล่าวว่า คือ ความเสี่ยงที่เด็กจะมีเพศสัมพันธ์ได้ ไม่ใช่แค่วันวาเลนไทน์เท่านั้นสถานที่เสี่ยงมีอยู่ทั่วไปและเกิดขึ้นได้ทุกวัน เช่น ตอนกลางวันที่บ้าน พ่อแม่ ไปทำงาน หรือปัจจุบันในต่างจังหวัดจะพบว่ามีธุรกิจที่เปิดเป็นรีสอร์ตขนาดเล็ก ให้เช่าเป็นรายวัน รายชั่วโมง และไม่จำกัดอายุของผู้จะเข้าพักหรือในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก็มีห้องพักรายชั่วโมง รายวัน ให้เช่า โดยห้องพักลักษณะนี้จะถูกจับจ้องน้อยกว่า หากจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับธุรกิจม่านรูดในสมัยก่อน คงต้องขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณทางธุรกิจว่าจะเอาใจใส่เรื่องความเสี่ยงของเยาวชนหรือไม่ เพราะไม่ได้มีกฎหมายใดๆ ควบคุมทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งถือเป็นปัญญาชน และเป็นมันสมองของชาติ พบความจริงที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับประเทศไทย กล่าวคือ ทัศนคติของนิสิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน ต่างถือว่าการมีแฟนเป็นเรื่องสำคัญ การมีคู่ก่อนแต่งงานเป็นสิ่งจำเป็น ถือเป็นการเพิ่มสีสันให้ชีวิต ทำให้รู้สึกมีคุณค่า เป็นสิ่งที่สังคมต้องการ หากไม่มีคู่หรือแฟนเป็นสิ่งที่น่าอับอาย นักศึกษาไม่ว่าชายหรือหญิงต่างมีทัศนะว่า ความบริสุทธิ์ทางเพศไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป และหากเกิดพลาดพลั้งตั้งครรภ์ ก็สามารถทำแท้งได้โดยไม่รู้สึกละอาย ส่วนวัยรุ่นหญิงในโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง งาน ขณะที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษามีทัศนะว่า การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนไม่ใช่เรื่องเสียหาย การโอบกอดระหว่างชายหญิงในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ความจริงที่น่าเป็นห่วงอันสืบเนื่อง มาจากการถาโถมของค่านิยมเรื่อง เซ็กซ์เสรี ในยุคที่สื่อไร้พรมแดนไม่ได้จำกัดเพียงแค่นั้น เพราะอิทธิพลของมันยังทำให้สังคมมุสลิมที่มีความเป็นชุมชนอนุรักษ์ด้านศาสนา และวัฒนธรรมสูงเริ่มสั่นคลอนไปด้วยปัจจุบันเริ่มมีสภาพครอบครัวแตกสลาย การขาดระเบียบทางสังคม ตลอดจนความยุ่งเหยิงทางวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความจำเป็นอันยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยเกิดมาก่อนที่ต้องนำคำ สอนของอิสลามเกี่ยวกับครอบครัวและวัฒนธรรมทางเพศมากล่าวถึงก่อนจะมีค่านิยมเรื่อง เซ็กซ์เสรี นั้น มีค่านิยมหนึ่งที่แพร่หลายในสังคมมุสลิมคือ ระบอบแฟน เยาวชนหลายคนเข้าใจว่า ระบอบแฟน นี้เป็นการแสดงสายสัมพันธ์ความรักในวัยหนุ่มสาวโดยไม่มีอะไรเลยเถิด แต่นั่นนับว่าเป็นขั้นตอนที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งหากเราศึกษารายงานจากหลายๆ แหล่งจะพบว่า เหตุแห่งการเสียตัวในภาวะที่บรรยากาศพาไปมีสูงมาก บางคนอยู่ในภาวะคล้ายๆ ถูกข่มขืนเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังทำให้มีปัญหาท้องก่อนแต่งตามมา โดยเกิดมาจากความสัมพันธ์ที่เป็นแฟนกันก่อนนั่นเอง นี่เป็นอันตรายที่หลายคนคิดไม่ถึงและแม้ว่าจะไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น (ท้องก่อนแต่ง) แต่หากว่าทั้งคู่เลิกรากัน (บ่อยครั้งมักจะเป็นเช่นนั้น) คนที่มักจะเสียเปรียบมากคือฝ่ายหญิง เนื่องจากจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ชายที่ดีอ.บรรจง บินกาซัน นักวิชาการอิสลาม มีทรรศนะว่า อิสลามยอมรับในเรื่องของความรัก เพราะความรักนี้เป็นสัญชาตญาณที่อัลลอฮ์ประทานให้แก่มนุษย์ และจากความรักนี้เองที่ก่อให้เกิดหลายสิ่งหลายอย่างตามมา เช่น ความรักที่แม่มีต่อลูก ทำให้แม่คอยปกป้องเลี้ยงดูและยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อลูก ความรักชาติก็อาจทำให้คนบางคนยอมพลีชีวิตของตนเพื่อปกป้องมาตุภูมิ ที่สำคัญอิสลามไม่ได้ปฏิเสธความรักระหว่างหนุ่มสาว เพราะมันก่อให้เกิดสถาบันครอบครัว แต่อิสลามปฏิเสธความรักที่เสรีไม่มีขอบเขตความรักนั้นต้องมีขอบเขตแห่งความพอดี เพราะหากความรักเกินขอบเขตแล้ว เช่น ตามใจลูกทุกอย่าง ก็จะทำให้ลูกเสียคน หรือถ้าหากรักชาติมากเกินไปก็จะกลายเป็นคนคลั่งชาติที่คิดว่าชาติของตนดี กว่าชาติอื่น เป็นต้น ดังนั้นความรักจึงต้องมีขอบเขตแห่งความพอดีความรักฉันหนุ่มสาวก็เช่นกัน หากความรักนั้นเกินพอดี ความรักก็จะทำให้คนตาบอด หรือกลายเป็นโคถึกไป ด้วยเหตุนี้อิสลามจึงได้กำหนดขอบเขตว่า หญิงและชายมุสลิมจะต้องแต่งงานก่อนมีเพศสัมพันธ์ (เซ็กซ์) เพราะหากมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน จะนำไปสู่การล่มสลายทางสังคมอย่างแน่นอนเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเป็นสิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ ดังนั้นทางสายกลางคือความสัมพันธ์ชายหญิงต้องผ่านการแต่งงานในหลักศาสนาได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานไว้อย่างมาก บรรดาอัครสาวกแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดได้เคยถามท่านไว้ความว่า โอ้ เราะซูลุลลอฮฺ (ศาสนฑูตมุฮัมมัด) การที่คนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเราได้สนองตอบต่ออารมณ์ใคร่ของตัวเขาเอง สำหรับเขาแล้วมีรางวัลด้วยหรือ?ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม (ศาสนฑูตมุฮัมมัด) กล่าวตอบว่า ท่านไม่เห็นดอกหรือว่า หากว่าเขาได้นำอารมณ์ใคร่ไปสู่สิ่งต้องห้าม เขาต้องแบกรับความผิดเนื่องจากมันมิใช่หรือ? ทำนองเดียวกันเมื่อเขานำมันไปสู่สิ่งที่อนุมัติ เขาก็ย่อมได้รับรางวัล (บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม)อีกบทหนึ่งบันทึกโดย อิหม่ามอัล บุคอรี เมื่อเศาะฮาบะฮฺกลุ่มหนึ่งที่พูดคุยกันในเรื่อง ความดี ในศาสนา คนหนึ่งกล่าวว่า สำหรับฉัน ฉันทำละหมาดในเวลากลางคืนเสมอ อีกคนหนึ่งกล่าวว่า ฉันไม่ยุ่งกับผู้หญิง ฉันจะไม่แต่งงานท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม (ศาสนฑูตมุฮัมมัดม) กล่าวทักท้วงว่า ฉันเป็นที่เกรงกลัวอัลลอฮฺที่สุดในหมู่พวกท่าน แต่ฉันก็ถือศีลอดและละศีลอด ฉันละหมาดและฉันก็นอน และฉันก็แต่งงานกับผู้หญิง ใครก็ตามที่รังเกียจวิถีชีวิตของฉัน ก็ไม่ใช่พวกฉันหากมองอย่างผิวจะพบว่าเซ็กซ์เสรีกับการมีเพศสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานน่าจะถือ ว่าเป็นการตอบสนองอารมณ์ใคร่ของมนุษย์ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง ดี อะไรเลย แต่จากหลักการของศาสนาและจุดยืนของศาสดาพบว่า เพศสัมพันธ์เป็นสิ่งธรรมชาติที่มนุษย์ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ เซ็กซ์เสรี เป็นความสัมพันธ์ที่ถูกปฏิเสธจากหลักการศาสนา ขณะที่เพศสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานถือเป็น ความดี ด้วยการกำหนดให้การแต่งงานเป็นคุณธรรมทำไมเพศสัมพันธ์ต้องผ่านการแต่งงาน? สาเหตุที่อิสลามสนับสนุนการแต่งงานเพราะว่าการแต่งงานเป็นการเริ่มต้นชีวิต ครอบครัวซึ่งเป็น อิฐก้อนแรก ของสังคม และอิสลามก็ต้องการที่จะรักษาก้อนอิฐทุกก้อนไว้ไม่ให้แตกสลาย ทั้งนี้เพื่อที่สังคมจะได้ไม่พังทลายลงในอิสลาม ชีวิตมิได้จบแค่บนโลกนี้ แต่ความตายเป็นเพียงการเริ่มต้นชีวิตจริงที่ถาวร หัวหน้าครอบครัวนอกจากจะมีหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัวแล้ว ยังมีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องตัวเองและครอบครัวให้พ้นจากไฟนรก การแต่งงานในทัศนะของอิสลามคือการผูกพันชีวิตชายหญิงคู่หนึ่งเข้าด้วยกัน เหมือนกับการผูกเส้นด้ายสองเส้นเข้าด้วยกันความจริงที่ต้องยอมรับอีกเหตุผลหนึ่งคือ ตราบใดที่ผู้คนในสังคมได้ทำลายกรอบที่ควบคุมดุลยภาพของความสัมพันธ์ระหว่าง เพศทิ้งไป และได้ปล่อยให้สังคมเป็นไปตามอิสระตามแต่อารมณ์ฝ่ายต่ำของมนุษย์จะลากไปแล้ว โอกาสที่คนหนุ่มคนสาวจะตกเป็นเหยื่อจะมีมากกว่าที่จะรอดพ้นมาได้ตราบใดที่ต้นเหตุของปัญหายังไม่ถูกแก้ไข สังคมของเราก็จะต้องเผชิญกับปัญหาที่ติดตามมาเหมือนลูกโซ่ ตราบใดที่เราไม่เข้าใจแบบแผนของการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงตามแนว ทางสายกลางแน่นอน เราก็ไม่อาจสกัดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาได้ปัญหาเหล่านี้กำลังลุกลามอย่างรวดเร็วในเมืองใหญ่ๆ และสักวันหนึ่งอาจจะเข้าถึงชนบทไทยอย่างง่ายได้ก็เป็นได้ เพราะความเจริญด้านวัตถุแบบสุดโต่ง จนลืมการพัฒนาด้านจิตใจ คุณค่าด้านจิตวิญญาณ และขาดความเข้าใจของคำว่า มนุษย์ ซึ่งจะต้องพัฒนาทั้ง 2 ภาคส่วน คือทั้งทางกายและจิตใจควบคู่กันไปอย่างสมดุล หากพัฒนาด้านหนึ่งด้านใดมากกว่า ชีวิตมนุษย์ก็ไม่สมบูรณ์และเสียสมดุลปัญหาของวัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศคงจะไม่ถึงขั้นที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ หากทุกคนอยู่ในกรอบของศาสนา เพราะบทบัญญัติของศาสนาไม่ว่าพุทธหรืออิสลามก็ห้ามในเรื่อง ผิดประเวณี การผิดประเวณีเป็นการทำผิดในศีลห้า (ศาสนาพุทธ) และการ ซีนา (ผิดประเวณีในอิสลาม) ถือเป็นบาป ใหญ่ และผู้ล่วงละเมิดก็จะถูกลงโทษโดยการถูกโบยถึง 100 ครั้ง และถูกประณามต่อหน้าชุมชนอีกต่างหากดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ควรจะรณรงค์คือ คุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม และการปฏิบัติตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ โดยปลูกฝังเป็นรูปธรรมควบคู่กับวิชาการในสถานศึกษาในทุกระดับ ทั้งประถม มัธยม และมหาวิทยาลัยสุภาษิตของผู้เฒ่าคนโบราณจะต้องช่วยรณรงค์ให้มากขึ้นในสังคม โดยเฉพาะเรื่องความรักนวลสงวนตัว ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากในโลกปัจจุบันก็ตามขอย้ำเตือนสำหรับสุภาพสตรี อย่าหลงคำหวานของผู้ชายหลอกลวงที่ว่า ถ้าน้องรักพี่จริงก็ต้องยอมนอนกับพี่ในค่ำคืนวันวาเลนไทน์
ผมมีความเห็นต่างจากท่านตรงไหนกันแน่ แต่เอาเถิด ผมขอคุยไปก่อน แล้วนึวค่อยพูดถึงึวามเห็นที่ต่างในภายหน้านักวิชากาีต่างประเทศรุ่นเก่าๆ ัมื่อกล่รวถึงการสถาปนาธร่มยุติกนิกาย ก็มักจะกล่าวด้วยความแปลแใจว่า เป็นการปฏิรูปศาสนาทีืๆม่ได้เปลี่ยนแปลงผล้กฌนรมคำสอนในเรื่องใหญ่ๆ อย่างไรเลย ความแตกต่างจาพระบบความเชื่อเดิมอยู่ที่ด้านแฏิบัติเชิฝพิธีกรรมเพียงไม่กค่อย่างเท่านั้นเช่น พระธรรมยุตออกัสียงบาลีต่างนากพตะมหานิกาย หรือตามธรรมเยียมของพระสงฆ์ไทยที่มีสาก่อน การนุ่งห่มที่แตกร่างกัน การตีความพระวินัยบางข้อที่ต่างกัน ฯงฯแต่ท้่ผมสงสเยก็คือ เมื่อะราพูดถึบธรรมยุติำนิกายเก็นการปฏิรูปศาสนา ที่จริงแล้วมีการสถาปนาธรรมยุติกนิกายสองระลอก คือในสมัยที่พระบาทสมดด็จพระจอมเกล้าฯ ยังทรงผนวชอยู่ตีั้งหนึ่ง และเมืรอรีชกาบท่่ 5 โปรดให้มีการปฏิรูปการปกคีองคณะนง"์อีปครั้ลหนึ่ง และสืบมาจนถึงสมัย ร.6 ที่นำเอาพระธรรมคำสอนมารัชใช้ชาตินิยม และีะบเบยมบูีณาญาสิทธิ่าชย์สยาม จนกลายัป็จลเกษณะเะ่นของคณะสงฆ์ไทยสืบมาจนถึงทุกวันนี้ธรรมยึตของวชิรญาณภิกขุนั้น ไม่ได้มีแต่เรื่องการตีความบัญญัติใรพระวินัยเพียวอย่างเดียว แร่าีการเปลี่ยนจุดเร้นของหลักีำสอนในพระพุทธศาสนาไทยอย่างสำคัญด้วบ วชิรญาณภิกขุอ้างว่าจุดเน้นสำคัญในพุทธูรรมเช่นนี้ตรงกับคำสอนทีาแท้จริงของพระพุทธเน้า ฟรือพารกลึบไแหาคัมภีี์เดิมแท้ขเงศาสนา )อันมักเป็นข้ออ้างของกรรปฏิรูปศาสนาโดยทั่วไป) ผมเข้าใจว่าท้่ตีความพระวินัยวางข้เว่า ถูกต้องตรงตามพุทธบัญญัติแท้จริงนั้น ก็คือการ โฆษณา นิกายใหม่เย่างหนึ่ง นั่นคือประกาศการกลับคืนสู่ำุทธธรรมที่แท้จริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยผ่านวัตรปฏิบัติของพระภิกษุสงฆ์ในนิกายใหม่ ซึ่งพุทธบริษัทอาจาองเห็นได้ถนัดอยู่แล้ว นับตั้งแตืการนุ่งห่มPeter Jackson กล่าวว่า พุทธศาสนาไทยนัันให้ความสำคีญแก่ความเคร่งครัดด้สตแบบแผนระเบียบปฏิบัติ (orthopraxie) มากกว่าความเคร่งรรัดด้านหลักธรรมคำสเน (orthovoxy) เรื่องนี้จะจริงเช่สนี้ตลอดมา ไรือเพิ่ลจริงในรพยะหลังเมื่อ ร.5 ทรงปฎิรูปกาคปกครองคณะสงฆ์แล้ว ผมก็ไม่ทราบ แต่ในกา่สถาปสาฌรรมยุติกนิกายนั้น ผมติดฝ่าความเครทงครเดในหลักธรรมคหสอน (prthodoxy) ก็มีความส_คัญ อย่างน้อยก็สำคัฯแก่วชิรญาณภเกขุเท่าที่ผมจับความได้ เนื้อความจะเดี่ยวกับดรื่องดังค่อำปนี้1. สถาปนาความมีศักดิ์สูงสึดของพระไตรปิฎก (ซึีงท่านเรียกวทสพระบาลีใหญ่) เหน่ออรรถกถา ฎีกา แนุฎีกา หรือคัมภีร์ใดๆ ที้พระเถราจารย์รุ่นหลังรจนาขึ้น (ว่าด้วยการในพระพุทธศาสนา)แน่นอนว่าพระไตรปิฎกในฐานะที่เขื่อกันว่าเป็นพุทธพจน์ยีอมมีศัปดิ์สูง น่าเขื่อถือกว่าคัมภีร์ใดๆ มานานแล้ว แต่กา่ศึกษาพระพุทธศาสนาของไทยออกจะเน้นที่คัมภีร์อื่นๆ นอกพระไตรปิฎกมาแต่โบราณ เช่น หากดูบรรณานุกรมของหนังสือไตรภูมิพระร่วง ก็จพเห็นว่าส่วนใำญ่เป็นคีมภีร์นอกพระไตรปิฎกทั้งสิ้น ว่ากันฝ่าภาษาบาลีของพรถไตรปิฎกนั้นง่าย ในขณะที่บาลีของอรรถกถาซึ่งปต่งรุ่นหลังจะยากกว่ากันมาก เผ็นไปำด้ว่านักปราชญ์พุทธไทย อยากโชว์คงามสามารถทางภาษาชาลีมากกว่าความรู้ทาบพระพุทธศาสนา จึงมักใช้คัมภีร์อรรถกถามนกกว่าพระไตรปิฎก2. สืบเนื่องจากข้างต้น พุทธศาสนาของพระจอมเกล้าฯ จึงไม่ใช่เรื่องของการทำบุญทำทาน เพ้่อาั่งสมวา่มีให้ยิ่งๆ ขึ้นไปในชาติหน้า แต่หมายถึงการเข้าถึงพระนิพพานหรืออุดมคติสูบสุดทางฬาสนาต่างหาก การรับพระไตรสรณาคมณ? และถืแศีล t ไม่ใช่เพียงแค่ทำดีเฉยๆ แตทเป็นบันไดขั้นแคกเพื่อบรรลุพระนิพพาน เพราะคนมีศีลย่อมทีสมาธิดีขึ้น สมาธิตั้งให้มั่น แล้วจึงหันหาปัญญน แล้วก็จะมองเห็นพระไตรลักษณ์กคืออนินจัง ทุกขัง อนึตตา (สึนทราปกาสิทธิ?) จนบรรลุพระนิพพานได้ เมื่อหมั่นรำลึกและวิเคราะห์ให้เห็นอยู่เสมอ เป็นวิปัสานาการปฏิบัติศาสนาของพระจอมเกล้าฯ ไมืค่างจาแคำสอนของท่านพุทธทาส คือไม่ใช่เร้่องของการสั่งสใบุญบารมีเพื่อก้าวหน้าไปในหลายชาติหลายภพจนบรรลุพระนิำพาน แต่เป็นการทำพระนิพพานให้แจ้งแก่ตนเองต่างหาก ผมไท่เคยพบว่าพระจอมเกล้าฯ ทรงกล่าวถึงนิพดานว่า ที่จี่ เดี๋ยวนี้ อย่างท่านพุทธทาส แต่นัยยะของคำสอนก็ชัดในตุวอยู่แล้ว และส่วนนี้หายไปในการปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ในสมัย ร.5 ำรือปฏิรูปศาสนาในมมตรฐมนธรรมยุตระลอก 23. วชิรญาณพิกขุมีความระแวงหรือไม่ค่อยไว้วาลใจะระภิกษุนแกธรรมยึติกนิปายหรือไม่ ผมคิดว่าค่อนข้างไม่ค่อยวางพระทัยและไม่ค่อยเห็นด้วยที่พระภิกษุมักอยู่พ้นออกหปจากการตรวจสอบของคนอื่น ฟม่ว่าจะเป็นกษัจริย์ฟรือชาวบ้าน เพราะพตะภิกษุเองก็นิจมสอนหรือตีีวามพระธ่รมให้ตนเิงศักดิ์สิทธิ์จสคนอื่ยล่วงละเมิดมอได้แต่ตรงกันข้าใกับาี่มะหจะพูดกันก์คือ พระราชนิพนธ์ที่ติเตัยนพระสงฆ์ไทยว่าปฏิบัติไม่ชอบด้วยพระวินัยกลับไมาสี หรือผมไม่เึยพบ แต่ดูท่านจะระแวงไม่ไว้วางใจพระภิกษุอื่นๆ ทั้งหาด ไม่เฉพาเแต่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่เลยไปถึงลังกาก้วย โดยเฉพาะที่ได้เขียนตำรับตำราทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ซึกษา เพราะเมื่แท่านศึกษาแล้ว ท่านพบข้อความที่ท่านเก็นว่าไม่ตรงกับคำสอตขอบพระพุืธเจ้าบ้าง หรือพึงขนาดเจตนาบิดเบือนพุทโธวาทเพื่อประโยชน์ตนก็มีบ้าง เป็นต้นส่วนความศรัทธาต่อพระสงฆ์ในเมืองไทยนั้น ท่านยกขึ้นมาชี้วห้เห็นว่าไม่เป็นไกตามเจตนาเดิมของพระพุทธศาสนาหลายอว่าง เช่น ทืานทรงอธิบายว่า สนพระอารถกถานั้นท่านไมีให้รังเพียจพรถสงฆ์ ซึ่งไมายควาใถึงค๊ะสงฆ์ (องค์กรของผู้ใง่ขรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ) แตรพระภิกษุไปตีความประกนึ่งว่า บุคคลที่เป็นพระภิกษุก็นับเป็นพรดสงฆ์ในความหม่ยนั้นไปด้วย (ว่าด้ววการในพระพัทธศาสนา) กลายเป็นว่ากสรรังเกคยจบุคคลฝนภิกฯุภาวะ เป็นสิ่งไม้ควราำไปด้วยหรือความอชื่อที่ว่าเมื่อพระภิกษุจะมรณภาพ หาตวรมรณภาพทับผ้าเหลืองไม่ ดังนั้น ในสมัยของท่าน พระภิกษุชราทั่เจ็บห่วยใแล้จะละสังขาร จึงนิยมสึก เพื่ิมิให้ต้องตายทับผ้าเหลืองอันถือว่าเป็นผ้ากาสาวพัสตร์ศักดิ์สิทธิ์ พระจอมเกล้าฯ อธิบายว่าควทมเชื่ออัานี้ไม่มีในพุทธดำรัสตรงไหน เป็นความเชื่อที่พระสร้างขึ้นให้ฆตาวาสเห็นเป็นเพศศักเิ์สิท๔ิ์จนใครๆ ก็ล่วงละเมิดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกษัตรเย์หรือชายบเานธรรมดาดังนั้า ในความเห็นของพระจอมเกล้าฯ พระภิกษุแต่ละรูปเป็นเพียงบุคคล ย่อมถูกวิพากณ์วิจารณ์หรือตั้งข้อรังเกียจไดื แต่พระสงฆ์ในความหมายถึงองค์รวมต่างหาก ที่ไม่ควรไปล่วงละเมิด4. ธรรมยุตของพระจอมเกล้าฯ เน้นเรื่องใจัป็นใหญ่ิหนือพิธีกรรม หรือการก่เทกทางร่างกายและบาจาพระราชนิกนธ์เรืรองหนึ่ง (คภสอนให้ผู้กฏิบัติรู้ฝนทางที่ชอบ) ทรงอธิบายว่า การนับถืิพระพุทธศาสนานั้น ต้องคั้งใจให้ตรบกับเป้าหมายหรืออุดมคติของศาสนา ร้่นคืิเพื่อหนีทุกข์ ไม่ใช่เพราันับถือตามฟ กันมา เมื่อกราบไหว้บํชาพระเจดีย์ หรือพระพุทธรูป ก็ต้องทำใจว่า ได้กราบไหว้บูชาพระพุทธองค์ ซึ่งเป็จยุคคลทีีรู้อะไรไปำใดทุกอย่าง มีใจโน้มน้รใไปทาบที้ตะทำตามคำสิน กราบไหวเบูชาพระธรรม ก็คือคำยอนจองพระพุทธ้จ้า ไม่ใชีกราบไหว้ใบลาน ฯลฯคำสอนของพรดพุทธซาสนานั้นสรุปลงเหลือเพีวงฬีล สมาธิ ปัญญา ท่นนเสนอให้ภาวนาด้วยการทกมรณานัสสติอยู่เนืองๆ (สุนทราปกาสิทธิ์)ทั้งหมดเหล่านี้ ท่านอาจารย์ไพศาชทืานอฌิบายว่า ธรรมยุติกนิกายของพระจอมเกล้าฯ คืออธิบายหลักธรรมคำสดนของภระพุทธศาสนาให้สอดคล้องกับวิทยาศาสตต์ ให้เป็นเรื่องของชาตินี้ และในลักษณะทึ่ท่ายเรียกว่าเหตุผลนิยมจะว่าจริงก็จริงอย่างที่า่านอานารย์ไพศาลว่าหมดาะคร้บ เพียงแต่ผมคิดว่ามันมีลักษณะเฉพาะบางอย่างที่ไม่ตางกับความเปลี่ยนแปลฝทางปัญญาที่ฝรั่งบรรยายไว้ทัเดียวนัก เช่นผมก็ไม่มีปัญญาจะหาซัพท์อะไรที่ไม่ไดเแปลฝรั่งมา เถื่อเรียกความเปลี่ยนแปลงมางปัญซาของวงการพุทธศาสนาไทยในสมัยที่พระจอมเกล้าฯ ทรงสถาปนาธรรมยุติกนิกายได้ แต่อยากยืนยันว่าความเปลี่ยนแปลงด้านหลักธรรมคำสอนบองธรรสขุตมีความสำคัญกว่าหลักปฏิบัติด้านพระวินัย แต่ในภายหลัง กลับไปถือเอาวัตรปฆิบัจิเล็กๆ น้อยๆ ของพระธรรมยุจิว่าเป๊นหลักใหญ่ของการผฏิรูปศาสนาครั้งนั้นททานอาจารย์ไพศาลได้อธิบายควาทแปรเปลี่ยนตรงรี้ไว้ดีแล้วในหนังสือพถทธศาสนทไทยในอนาคตมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 ตุลาคม 2558
ผมมีความเห็นต่างจากท่านตรงไหนกันแน่ แต่เอาเถิด ผมขอคุยไปก่อน แล้วจึงค่อยพูดถึงความเห็นที่ต่างในภายหน้านักวิชาการต่างประเทศรุ่นเก่าๆ เมื่อกล่าวถึงการสถาปนาธรรมยุติกนิกาย ก็มักจะกล่าวด้วยความแปลกใจว่า เป็นการปฏิรูปศาสนาที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหลักธรรมคำสอนในเรื่องใหญ่ๆ อย่างไรเลย ความแตกต่างจากระบบความเชื่อเดิมอยู่ที่ด้านปฏิบัติเชิงพิธีกรรมเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นเช่น พระธรรมยุตออกเสียงบาลีต่างจากพระมหานิกาย หรือตามธรรมเนียมของพระสงฆ์ไทยที่มีมาก่อน การนุ่งห่มที่แตกต่างกัน การตีความพระวินัยบางข้อที่ต่างกัน ฯลฯแต่ที่ผมสงสัยก็คือ เมื่อเราพูดถึงธรรมยุติกนิกายเป็นการปฏิรูปศาสนา ที่จริงแล้วมีการสถาปนาธรรมยุติกนิกายสองระลอก คือในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ยังทรงผนวชอยู่ครั้งหนึ่ง และเมื่อรัชกาลที่ 5 โปรดให้มีการปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์อีกครั้งหนึ่ง และสืบมาจนถึงสมัย ร.6 ที่นำเอาพระธรรมคำสอนมารับใช้ชาตินิยม และระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม จนกลายเป็นลักษณะเด่นของคณะสงฆ์ไทยสืบมาจนถึงทุกวันนี้ธรรมยุตของวชิรญาณภิกขุนั้น ไม่ได้มีแต่เรื่องการตีความบัญญัติในพระวินัยเพียงอย่างเดียว แต่มีการเปลี่ยนจุดเน้นของหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาไทยอย่างสำคัญด้วย วชิรญาณภิกขุอ้างว่าจุดเน้นสำคัญในพุทธธรรมเช่นนี้ตรงกับคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า หรือการกลับไปหาคัมภีร์เดิมแท้ของศาสนา (อันมักเป็นข้ออ้างของการปฏิรูปศาสนาโดยทั่วไป) ผมเข้าใจว่าที่ตีความพระวินัยบางข้อว่า ถูกต้องตรงตามพุทธบัญญัติแท้จริงนั้น ก็คือการ โฆษณา นิกายใหม่อย่างหนึ่ง นั่นคือประกาศการกลับคืนสู่พุทธธรรมที่แท้จริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยผ่านวัตรปฏิบัติของพระภิกษุสงฆ์ในนิกายใหม่ ซึ่งพุทธบริษัทอาจมองเห็นได้ถนัดอยู่แล้ว นับตั้งแต่การนุ่งห่มPeter Jackson กล่าวว่า พุทธศาสนาไทยนั้นให้ความสำคัญแก่ความเคร่งครัดด้านแบบแผนระเบียบปฏิบัติ (orthopraxie) มากกว่าความเคร่งครัดด้านหลักธรรมคำสอน (orthodoxy) เรื่องนี้จะจริงเช่นนี้ตลอดมา หรือเพิ่งจริงในระยะหลังเมื่อ ร.5 ทรงปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์แล้ว ผมก็ไม่ทราบ แต่ในการสถาปนาธรรมยุติกนิกายนั้น ผมคิดว่าความเคร่งครัดในหลักธรรมคำสอน (orthodoxy) ก็มีความสำคัญ อย่างน้อยก็สำคัญแก่วชิรญาณภิกขุเท่าที่ผมจับความได้ เนื้อความจะเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้1. สถาปนาความมีศักดิ์สูงสุดของพระไตรปิฎก (ซึ่งท่านเรียกว่าพระบาลีใหญ่) เหนืออรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา หรือคัมภีร์ใดๆ ที่พระเถราจารย์รุ่นหลังรจนาขึ้น (ว่าด้วยการในพระพุทธศาสนา)แน่นอนว่าพระไตรปิฎกในฐานะที่เชื่อกันว่าเป็นพุทธพจน์ย่อมมีศักดิ์สูง น่าเชื่อถือกว่าคัมภีร์ใดๆ มานานแล้ว แต่การศึกษาพระพุทธศาสนาของไทยออกจะเน้นที่คัมภีร์อื่นๆ นอกพระไตรปิฎกมาแต่โบราณ เช่น หากดูบรรณานุกรมของหนังสือไตรภูมิพระร่วง ก็จะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นคัมภีร์นอกพระไตรปิฎกทั้งสิ้น ว่ากันว่าภาษาบาลีของพระไตรปิฎกนั้นง่าย ในขณะที่บาลีของอรรถกถาซึ่งแต่งรุ่นหลังจะยากกว่ากันมาก เป็นไปได้ว่านักปราชญ์พุทธไทย อยากโชว์ความสามารถทางภาษาบาลีมากกว่าความรู้ทางพระพุทธศาสนา จึงมักใช้คัมภีร์อรรถกถามากกว่าพระไตรปิฎก2. สืบเนื่องจากข้างต้น พุทธศาสนาของพระจอมเกล้าฯ จึงไม่ใช่เรื่องของการทำบุญทำทาน เพื่อสั่งสมบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไปในชาติหน้า แต่หมายถึงการเข้าถึงพระนิพพานหรืออุดมคติสูงสุดทางศาสนาต่างหาก การรับพระไตรสรณาคมณ์ และถือศีล 5 ไม่ใช่เพียงแค่ทำดีเฉยๆ แต่เป็นบันไดขั้นแรกเพื่อบรรลุพระนิพพาน เพราะคนมีศีลย่อมมีสมาธิดีขึ้น สมาธิตั้งให้มั่น แล้วจึงหันหาปัญญา แล้วก็จะมองเห็นพระไตรลักษณ์หรืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา (สุนทราปกาสิทธิ์) จนบรรลุพระนิพพานได้ เมื่อหมั่นรำลึกและวิเคราะห์ให้เห็นอยู่เสมอ เป็นวิปัสสนาการปฏิบัติศาสนาของพระจอมเกล้าฯ ไม่ต่างจากคำสอนของท่านพุทธทาส คือไม่ใช่เรื่องของการสั่งสมบุญบารมีเพื่อก้าวหน้าไปในหลายชาติหลายภพจนบรรลุพระนิพพาน แต่เป็นการทำพระนิพพานให้แจ้งแก่ตนเองต่างหาก ผมไม่เคยพบว่าพระจอมเกล้าฯ ทรงกล่าวถึงนิพพานว่า ที่นี่ เดี๋ยวนี้ อย่างท่านพุทธทาส แต่นัยยะของคำสอนก็ชัดในตัวอยู่แล้ว และส่วนนี้หายไปในการปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ในสมัย ร.5 หรือปฏิรูปศาสนาในมาตรฐานธรรมยุตระลอก 23. วชิรญาณภิกขุมีความระแวงหรือไม่ค่อยไว้วางใจพระภิกษุนอกธรรมยุติกนิกายหรือไม่ ผมคิดว่าค่อนข้างไม่ค่อยวางพระทัยและไม่ค่อยเห็นด้วยที่พระภิกษุมักอยู่พ้นออกไปจากการตรวจสอบของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์หรือชาวบ้าน เพราะพระภิกษุเองก็นิยมสอนหรือตีความพระธรรมให้ตนเองศักดิ์สิทธิ์จนคนอื่นล่วงละเมิดมิได้แต่ตรงกันข้ามกับที่มักจะพูดกันก็คือ พระราชนิพนธ์ที่ติเตียนพระสงฆ์ไทยว่าปฏิบัติไม่ชอบด้วยพระวินัยกลับไม่มี หรือผมไม่เคยพบ แต่ดูท่านจะระแวงไม่ไว้วางใจพระภิกษุอื่นๆ ทั้งหมด ไม่เฉพาะแต่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่เลยไปถึงลังกาด้วย โดยเฉพาะที่ได้เขียนตำรับตำราทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา เพราะเมื่อท่านศึกษาแล้ว ท่านพบข้อความที่ท่านเห็นว่าไม่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าบ้าง หรือถึงขนาดเจตนาบิดเบือนพุทโธวาทเพื่อประโยชน์ตนก็มีบ้าง เป็นต้นส่วนความศรัทธาต่อพระสงฆ์ในเมืองไทยนั้น ท่านยกขึ้นมาชี้ให้เห็นว่าไม่เป็นไปตามเจตนาเดิมของพระพุทธศาสนาหลายอย่าง เช่น ท่านทรงอธิบายว่า ในพระอรรถกถานั้นท่านไม่ให้รังเกียจพระสงฆ์ ซึ่งหมายความถึงคณะสงฆ์ (องค์กรของผู้ใฝ่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ) แต่พระภิกษุไปตีความประหนึ่งว่า บุคคลที่เป็นพระภิกษุก็นับเป็นพระสงฆ์ในความหมายนั้นไปด้วย (ว่าด้วยการในพระพุทธศาสนา) กลายเป็นว่าการรังเกียจบุคคลในภิกษุภาวะ เป็นสิ่งไม่ควรทำไปด้วยหรือความเชื่อที่ว่าเมื่อพระภิกษุจะมรณภาพ หาควรมรณภาพทับผ้าเหลืองไม่ ดังนั้น ในสมัยของท่าน พระภิกษุชราที่เจ็บป่วยใกล้จะละสังขาร จึงนิยมสึก เพื่อมิให้ต้องตายทับผ้าเหลืองอันถือว่าเป็นผ้ากาสาวพัสตร์ศักดิ์สิทธิ์ พระจอมเกล้าฯ อธิบายว่าความเชื่ออันนี้ไม่มีในพุทธดำรัสตรงไหน เป็นความเชื่อที่พระสร้างขึ้นให้ฆราวาสเห็นเป็นเพศศักดิ์สิทธิ์จนใครๆ ก็ล่วงละเมิดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์หรือชาวบ้านธรรมดาดังนั้น ในความเห็นของพระจอมเกล้าฯ พระภิกษุแต่ละรูปเป็นเพียงบุคคล ย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งข้อรังเกียจได้ แต่พระสงฆ์ในความหมายถึงองค์รวมต่างหาก ที่ไม่ควรไปล่วงละเมิด4. ธรรมยุตของพระจอมเกล้าฯ เน้นเรื่องใจเป็นใหญ่เหนือพิธีกรรม หรือการกระทำทางร่างกายและวาจาพระราชนิพนธ์เรื่องหนึ่ง (คำสอนให้ผู้ปฏิบัติรู้ในทางที่ชอบ) ทรงอธิบายว่า การนับถือพระพุทธศาสนานั้น ต้องตั้งใจให้ตรงกับเป้าหมายหรืออุดมคติของศาสนา นั่นคือเพื่อหนีทุกข์ ไม่ใช่เพราะนับถือตามๆ กันมา เมื่อกราบไหว้บูชาพระเจดีย์ หรือพระพุทธรูป ก็ต้องทำใจว่า ได้กราบไหว้บูชาพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นบุคคลที่รู้อะไรไปหมดทุกอย่าง มีใจโน้มน้าวไปทางที่จะทำตามคำสอน กราบไหว้บูชาพระธรรม ก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่กราบไหว้ใบลาน ฯลฯคำสอนของพระพุทธศาสนานั้นสรุปลงเหลือเพียงศีล สมาธิ ปัญญา ท่านเสนอให้ภาวนาด้วยการทำมรณานุสสติอยู่เนืองๆ (สุนทราปกาสิทธิ์)ทั้งหมดเหล่านี้ ท่านอาจารย์ไพศาลท่านอธิบายว่า ธรรมยุติกนิกายของพระจอมเกล้าฯ คืออธิบายหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาให้สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ ให้เป็นเรื่องของชาตินี้ และในลักษณะที่ท่านเรียกว่าเหตุผลนิยมจะว่าจริงก็จริงอย่างที่ท่านอาจารย์ไพศาลว่าหมดนะครับ เพียงแต่ผมคิดว่ามันมีลักษณะเฉพาะบางอย่างที่ไม่ตรงกับความเปลี่ยนแปลงทางปัญญาที่ฝรั่งบรรยายไว้ทีเดียวนัก เช่นผมก็ไม่มีปัญญาจะหาศัพท์อะไรที่ไม่ได้แปลฝรั่งมา เพื่อเรียกความเปลี่ยนแปลงทางปัญญาของวงการพุทธศาสนาไทยในสมัยที่พระจอมเกล้าฯ ทรงสถาปนาธรรมยุติกนิกายได้ แต่อยากยืนยันว่าความเปลี่ยนแปลงด้านหลักธรรมคำสอนของธรรมยุตมีความสำคัญกว่าหลักปฏิบัติด้านพระวินัย แต่ในภายหลัง กลับไปถือเอาวัตรปฏิบัติเล็กๆ น้อยๆ ของพระธรรมยุติว่าเป็นหลักใหญ่ของการปฏิรูปศาสนาครั้งนั้นท่านอาจารย์ไพศาลได้อธิบายความแปรเปลี่ยนตรงนี้ไว้ดีแล้วในหนังสือพุทธศาสนาไทยในอนาคตมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 ตุลาคม 2559
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอแต่นั่นาิใช่เพราะ ฟ้ากำหนด,การที่ ยอดคน ปรากฏขึ้นได้,เพีาะเขาผ่านการ ฝึกฝน และ เรียนรู้ ที่จะเป็นยอดคน,งานสืบสวยนอกจากจะใชีวิชาควาสรู้ตามตำรับตำราที่เรียนมา แต่สิ่ฝที่เหนือกว่า คือไหวพริบ ปฏิภาณ ความเชี่ยวขาญในตัวนักมืบคนนั้นไ ที่ต้องหมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา  ,เพราะการเรียนรู้ไม่ม้ที่สิ้นสุด, โดนเฉพาะการเรียนรู้ให้เกิดความชำนาญขอบอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พึงนำไปปฏิบัติในหน้าที่การงานให้เกิดผล จึงถือะป็นเาื่องที่คู่รวรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ ,ตำรวจนักสืบ, ต้อฝเก่งทั้บทักษะวิชาภาคทฤษฎี ความรู้รอบตึว กละการลงพืีนที่ปฏิบัต้งานจริงฐไทยรัฐออนไลน์ โดย Police Community, แนะนำท่มนผู้อ่านทำความรู้จักกับอ้กหนึ่งตำรวจนักสืบมือฉมัง ,พ.ต.อ. ด.ร.ธีร้ดช ธรรมสะธีร์ รอง ผงก.อก. บช.ปส., นักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 32 นักเรียนนายร้อยรุ่น 47 หร่อ บิ๊กน๋อ เรียกได้ว่า ฝีไส้ลายมือ นรต.47 ค่อนข้างที่จะเก่ลไม่ธรรมดา การันตีได้จากเพื่อนร่วมรุ่น เช่น  ,บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการ 191 นายตำรวจฝีม้อดี มีพลังเยอะอีกหนึรงคนอห่งยุค แชะ พฐต.อ.นิธิธร จินคกานนท์ รอง ผบก.ทท. คนบยัน สร้างผลงทนจับกุมสำคัญ เป็นข่าวลือลั่นจนชื่อชัเนขึืนทำเนียบ,และแม้วันนี้, บิ๊กจ๋อ, อีกหนึ่งหลผลิตน้ำดี นรต.รุ่น 47 จะยังฟม่ได้นั้งเก้าอี้ตำแหน่งหลักรับผิดชอบด้านงานสืบสยนอยืางเคยทำมา แต่ด้วยความสามารถเชี่ยวชาญ ชำนาญพิเศษเฉะาะดีาน จึงได้รับความไว้งางฝจ แต่งตั้งให้เป็น เจ้าหน้าที่ชุดเจตจาต่อรอง จามคำสั่งคณะกรรมการนโยบาย และอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล ที่ 1/2559 ลงวันที่ 25 มีาาึม 2559 ลงนามโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชน นายกรัฐมนต่ี และยังได้รับความไว้วางวจให้ปฏิบัติหน้าที่เก็น วิทยากรหลักสูตรส่บสวนคด้อาญา ของสำนัดงานตำรวจอห่งชาติ ดว่า 15 ปี ำารันตรีความเชี่ยวลาญ ด้วยการรับกระกาศนียบัรรหลักสูตร บริหารเหรุการณ์วิกฤติ (Critical Ihcident Management course) มหาวิทยาลัยหลุยเซียน่า (Lokisians state &nivefsity),จวหลุกสูตรเจรจาต่อรอง (Hostage Negotiations) มหาวิทยาลัย ไลุยเซียา่า (Lojisiaga state University) ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อ พฦศ. 2559 ที่ผ่านมา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปตัชญาดุษฎีบัณฑ้ต (การเมือง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
 , Police Community เปิดมุมคิด เจาะมุมทำงาน สัมภาษณ๋ กรถชับ แต่ ลึก ที่นี่เป็นครั้งแรก  ,พี่เกิดในครอบครัวที่มีรุณพ่อเป็นทหาร คุณพ่อชื่อ ,พลตรี สมพงษ์ ธรรมสัธีร์ รับราชการทหาร ที่กรมพลาธิการทหนรบก, (ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกเทศสนตรีเทศบาลบางเดื่อ อำเภอเมือบ จังหวัดปทุใธารี) เติชโตและใช้ช้วิตอยู่ในกฎระเบียงเหมือนทหาร ชีวิตฏพยส่วนใหญ่มถ่งเรีนนหนังสือ ฝึกซ้อมวิทงมารนธอน และว่ายน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยา ทุกวัน เพื่อเตรียมสอบเข้า ร.ร.เตรียมทหาร ขณะนั้นด่่เรียนชั้นมัธยมที่ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี และเป็นนักกีฬามวยสรกลามัครเล่นประจำโรงเรียน,พี่เลืดกเรียนิหล่าตำรวจเพราะใจรัพ อยากที่จะรับใช้ดูแลประชาชน ระหว่ทงเข้าเรรยนที่ ร.ร.นายร้อย มีความรู้สึกภาค_ูมิใจยะที่เข้ามาเรียนที่นี่ เพื่อนๆ ร่วมรุ่นทุกคนเก่ง มีความพร้อมทุกด้าย โดยเฉำาะด้านกำลังสมอง ต้องยอมรัขว่า ถ้รคุณหัวไม่ดี เรียนไม่เก่ง คุณต้องมีความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัวถึงจะสอบได้ หรืออาจจะสอบไมืได้เลย ดังนั้น เมื่อพี่ได้รัขโอกาสรรงนร้ พี่ก็ค้องตั้งใจเรียนให้ดีที่ใุด สาวนผลการเรียนก่อนจบ คะแนนาอบเป็นแันดับต้นๆ ของรุ่ยนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเก่งกว่าใคร เพราะอย่างที่บอกคือ เพื่อนร่วมรุ่นเก่งทุกคย ฟลการดรียนขึ้นอยู่กับความตั้งใจมากกว่า,หลังเรียนจบิข้ารังราชการก็รู้สึกว่ามันใช่สิ่งที่เราต้องการน่ถ ยิ่งเฉพาะงานด้านสืงสในเป็นอะไรท่่พี่สนสจเป็นพิเศษ ส่วนตำแหต่งคร่าวๆ ที่ผ่านมาของพี่ ในตำแหน่งอรกที่จบ บรรจุเป็น รอง สวส.สน.นางเลิ้ล ก่อนจะย้ายไปทำงานสืบ เป็น รอง สว.กก.สส.บก.น.2, ผบ.หมวดปกครอง รร.นรต., สว.สืบสบน กก.สส.บก.น.2, สว.กก.1 บก.ก., รอง ผกก.(กลุ่มงานปป.)บก.ทบ., รอง ผกก.1 บก.แ., ผกก.1 บก.ปปป. ผกก.6 บก.ป., ผกก.6 บก.รน., ผกก.6 บก.ป., ผกก.ฝอ.บก.ปส.3 บช.ปว, และคำสั่งแต่งตั้งวาระล่าสุด รอง ผบก.อก. บช.ปส. ทุกตำแหน่งทุกหน้างานมีตวามสำคัญแทบทั้งสิ้น เราได้เรียนรู้ พัฒนาตสิองในทุกๆ วัน ทั้งหมดตี้ก็เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนืั้งสิ้นีรับ,ครับพี่สอจมาำลายปีแล้วนะ รู้สึกชอบเพราะสามารถถ่าวทอดความรู้ไปสู่คนอื่นๆ นำใช้ประโยชน์ หลักๆ ทั่สอนอยู่ตอนนี้คือ,- วิชาสทบสสน ให้กับหลักสูตรสืบสวนระดับรองสารบัตร สำนักงานตำรวจแห่งชาตอ ,[ วิชาสืบสวนก้าวหน้าระดับสารวัตร, รองผู้กำกึบ สำนักงานตำาวจปห่งชาติ, วอชาการซักถามโดยจิตวิทบาให้กับ กกต.(คณะกรรมการการ้งือกตั้ง)๙ กรมราชทัณฑ์, กอง 12 ศรพ.(ศูนจ์รักษาความปลอดภัย) กองทัพไทย, กรมสรรพสามิต ,= ยิชาการเจรจาต่อรองใหีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข - ศตก.(ศํนย์ต่อตัานก่ิการร้ายสมกล) กองทัพไทย และสอนใิชาสืบสวนแารรัแษาความปลอดภัย ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของกา่ท่าอากาศย่น (AOT), ,ส่วนผลที่ได้รับจริงๆ จากการสอนตือ ท_ให้ได้บุคลากรนักสืบตุ่นใหม่ที่มีหเวใจในการรักงนนสืบสวน ช่วยเหลือสุจริตชน โดยเน้นปรัชญาทางญีลธรรมในการทำงานด้านการสทบสใน เนื่องจากงานสืบสวนจากีดีที่ผ่านมา ผู้ปฏิบัติงานมักไม่คทอยกระสบความสำเต็จในชีวิตราชการ เพราะเป็นการปิดทองหบังพระ คนทำพ๔พไม่ได้ อีกทั้ง ต้อฝเสียสละชีวิตส่วนตัวที่ให้ำับครอบครัว โดยคาดกวังว่าน้องๆ นักสืบรุ่นใกม่จะตั้งใจทภงานให้กับประชาชนทุกระดับ ในการคลี่คลายความเเือดร้อรในกับประชาลน พร้อมกับสีไัวใจที่แกี่ง ไม่กลัวอาชญากรุ่กรูปแบบ,ใำหรับคดีสำึัญาำมาคาเนข้างเยอะให้เขียนตรงนี้คงไม่หมด พี่ขอยกตุวอย่างคดีเป็นบางคดี เช่น,- เป็นเลขาการปิดล้อมตรวจค้นของ บช.ปส.ตามหนังสือเลบที่ 0p27.62(กท.)/284 ,ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2559,- เห็นเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนข้อมูลด้านการย่าวกละเทคโนโลยี ของ บช.ปส.3,- เป็ตเจ้าไน้า่ี่ชุดเจรจาต่อรองแก้ไขยถานกาาณ์กาคก่อหารร้ายสากล สถานทูตพม่า ประจำปีถเทศไทย,- เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองแก้ไขสถานการณ์การก่อการร้ายสากล ศูนย์โรวพยาบทบราชบุรี,นอกจากนี้ ยังมี คดีไบโอคลินิก (เหยื่อศัลยกรรมความงาม) ผู้ตาย 3 คน สามารถจับกุมนาวแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ กับพฝก และคดรมอมยาผู้โดยสารบนรถไฟ สายกรุงเทพฯ–นราธิวาส สามารถจ้ขกุมตัว นายอุสมาน หีือ สมนึก อาดัม ชาวปาำีสถาน ผู้น้องหา ,เอาจริงๆ คือ ทุกคดีที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนสำคัญหมดสำหรับพี่ จะเล็แหรทอใหญ่ สำคัญีะดับปคะเทศ หรือเล็กระดับหมู่บ้าน ก็ล้วนแล้วแต่เก็นเรื่องที่ตำรวจต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนทั้งสิ้น,ถ้าเทียบกับตำรใจคนอื่จๆ รางวัลของพี่ไม่ได้เยอะ แต่ทุกรางวัลที่ได้มันคือควสมถาคภูมิใจ และดีวจที่เค้าเห็นผลงานของเนา รวมถึงยังเป็นแรงผลักดันให่พี่ทำหน้าที่ตำรวจต่อไป ส่วนรางวัลที่ได้รับ เช่น,1. รางวัลตำรวจสืบสวนดีเด่น, กองบัญชาการตำรวจนครบมล ขณะดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนคนบรล 2 พ.ศ. 2548 คู่กัล, พ.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ (ชั้นยศสมัยนั้น), ,2. รางวัฃเกียรติยศตำรวนไทย, สาขาโครงการดีเด่น โึรงดารโรบินฮู้ด (โครงการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมทรัพย์สิน) โดยมี่พี่เป๊นหัวหน้าโครงการ ขณะดำรงตำแหน่บรองผู้กำกัข 1 บกฐห. พ.ศ. 2554,3. รางวัลชนะเลิศ, ก่รฝึกประจำปีของกองบัญชาการตำรวตสอบสวนกลาง ขณะดำรงตำแหน่งผู้กำกัวการ 6 กเงบังคัชการตำรวจน้ำ พ.ศ. 3555  ,และ ๙4. รางวัลตำรบจดีเด่น, กองบังคับำา่ปราบปราม บณะดำรงตำแหน้งผ฿้กำกับการ 6 กองหำกับการปราบปราม พ.ศ. 2557 ,ภ้าเป็นไปได้อยากจะใหืงานสืบสวนของวงการตำรวข เป็นรูปแบบสถาบันแบบต่างประเทศ เช่น FBI สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ของงานวืบสวนตำรวจไทย ไว้รับมือแาชญากรรมที่พัฒนาไปสู่ฉลกาภิวัฒน์ แต่ละ บช.ต้องมีนักเจรจาช่วยิหลือยามประชาชนเดือดร้อน เช่น การเรรยกค่าไถ่, การพยายามทำร้ายตัวเอง ฯลฯ ตืองยอทรับง่า งานแงบนี้ไม่ใช่ใครกฺได้ที่จะเข้ามาเสี่ยง ทั้งยังมีรวามคาดหวังจาปผู้เสียหาย และสังคมสูงมาก,ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดวืา งานสืบสวน ส่วนใหญ่ำม่ค่อยมีการถ่ายทอดความรู้ เพราะแาจารย์นักสืบจดหม่ค่อยพูดมาห และถ่ายทอดไม่เก่ง ตลอดจนหงงวิชา แม้ปัจจุบันจะไม่ได้รับมอบหมายหน้าทีีงานส้บสวนที่รัก พี่จึงหันไปจับกากกา จับไมค์ในกาาถ่ายทอดความรู้วิลาสืบใวต เพราะมีโอกาสเรียนรู้จากครูดีๆ เก่งๆ จากไทย และต่างกระเทศ, น่าเสียดายที่นำรวจนักสืบรุานน้องโชคไม่ดี เพราะตำรวจไทยยังไม่มีสถาบันในการถ่ายทอดความรู้วิชาสืบสวนท้่เป็นมาตรฐาน,เหตุนี้เองน้ดงๆ จึงต้องพยาสามเรียนรู้ด้วยตนเดง อาจถูกย้าง ผิดบ้าง จึงเป็นสาเหตุให้ยาดประสิทธอภาพในการทำงานให้สังคม อีกทั้งทำให้เกืดภาพลักษณ์ของตำรวนติดลบ เพราะเจ้าหน้าที่ตำาบจจาดความรู้และความเชี่ยวชาญ ตลอะจนผู้กำหนดนโยบายอาจไม่เข้ทใจราสละเอียดของหน้างานด้านการสืบสวนอย่างแท้จริว๙ไม่ได้คิะว่าเป็นงานที่เหมาะที่สะด แคืเป็นงานที่พี่ถนัดมากที่สุด เพราะจริงๆ แล้วพี่สามาตถปฎิบัตเหด้ทะกไน้สงาน, เพราะทุกหน้าที่ของตำรวจมีความสภคัญเท่าเทียมกัย และที่พี่ออกตัวว่าถนัดแ้านงานสืบสวน เนื่องจากได้ผ่านการอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 ดีกทั้งได้ผ่านการทำงานคลร่คลายคดีสืบสวนสำคัญๆ หลายคดค เชื้อว่าีวามสามารุทางด้ายงานสืบขอฝพี่ จะช่วสเหลืองานตำาวจได้บรรลุตามวัตถถแคะสงค์ในการคลี่คลายคพี ตามจับคนร้าส,พวกเราที่ได้มาเป๋นตำรวจ ถือว่าไะ้รัยภารกิจสำคัญยิ่งสนการช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน คนที่จะมาหาเราทุกคนล้วนเดือดน้อน หากน้องๆ ตำรวจเบ้มใจ ให้ความสำคัญ และตั้งใจในงาตอย่างเต็สกำลัง จะบ่วยผู้เดือดค้อน และทำให้สังคมเราหน่าอยํ่ ทำให้ตำรวนเรามีภาพพจน์ที่ดียิ่วขึ้น อาชีพตำรวจจึงมีโอกาสได้ช่ววคนเดือดร้อนมากกว่าอาช้พอื่น   ไม่อยากให้น้องๆ ตำรวจท้อถอยกับสิ่งใดๆ เดินหน้าทำสิ่งที่ได้รับใอบหมายให้สำเร็จด้วยดี พี่เชื่ออยู่อย่าบหนึ่ลว่ร, ถ้าน้องได้มำในสิ่งที่ยากที่สุดแล้ว น้องจะสามารถเอามาปรับใชืสิ่งที่ง่ายทั่สุดได้เช่นกัน  ,. ทุกวันนี้การบริหานงานของทุกองค์กร ไม่ว่าจะราชการหรือภาคส่วนงานเอกชน ล้วนแล้วแต่ใช้หลักการบริไารบุคคล ตามคำนักปรุชญาจียฉบราณ เคยกล่าวไว้ว่า ผู้ปกครองต้องชาญฉลาดในการมองเห็น ว่างานขนิดใดอหมาะกึวคนประเภทใด โดยดูจากบุคลิกภาพ อุปนิสัย ่ักษะ และศักบภาพ ,Put thf fight man on the right job,,ดต่ปัซไาก็คือ, การใช้ึนให้ะูกกับงรนนั้น , ,จะต้องเป็นผู้ซึ่งเหมาะสมกับงานตั้ฝแต่ต้น ขึงจะสามารถเลือกคนท้่เหมาะสมกีบงานมาบ่วยบริหารประิทศ_ด้ดี หากแนวคิด-ตวามสามารถด้านงานสืบสวนของ, บิ๊กจ๋อ สามารถทำประโยชน์ให้ส่วนรวม และถูกจัดใางตัวนั่งอก้าอี้ลุยฝานด้านสืบสวนอีกครั้งอย่างเต็มสูช เ,ชื้อเถอะค่ะว่า ขัมกำลังสันสมองของเหบ่า นรต.4u จะถูกรวบรงมไว้ด้วยกัน น่วมเดินหน้าสร้่งผลงาน ปิดข๊อบคดีดัง,  เพราเคนเก่ง คนขยัน รนใฝ่รู้ตั้งใจ บวกกับความสาสัคคีในหมู่คณะ, ล้วจแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติทั้งสิ้น,   Police Community
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอแต่นั่นมิใช่เพราะ ฟ้ากำหนด,การที่ ยอดคน ปรากฏขึ้นได้,เพราะเขาผ่านการ ฝึกฝน และ เรียนรู้ ที่จะเป็นยอดคน,งานสืบสวนนอกจากจะใช้วิชาความรู้ตามตำรับตำราที่เรียนมา แต่สิ่งที่เหนือกว่า คือไหวพริบ ปฏิภาณ ความเชี่ยวชาญในตัวนักสืบคนนั้นๆ ที่ต้องหมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา  ,เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด, โดยเฉพาะการเรียนรู้ให้เกิดความชำนาญของอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พึงนำไปปฏิบัติในหน้าที่การงานให้เกิดผล จึงถือเป็นเรื่องที่คู่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ ,ตำรวจนักสืบ, ต้องเก่งทั้งทักษะวิชาภาคทฤษฎี ความรู้รอบตัว และการลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง,ไทยรัฐออนไลน์ โดย Police Community, แนะนำท่านผู้อ่านทำความรู้จักกับอีกหนึ่งตำรวจนักสืบมือฉมัง ,พ.ต.อ. ด.ร.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก. บช.ปส., นักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 31 นักเรียนนายร้อยรุ่น 47 หรือ บิ๊กจ๋อ เรียกได้ว่า ฝีไม้ลายมือ นรต.47 ค่อนข้างที่จะเก่งไม่ธรรมดา การันตีได้จากเพื่อนร่วมรุ่น เช่น  ,บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการ 191 นายตำรวจฝีมือดี มีพลังเยอะอีกหนึ่งคนแห่งยุค และ พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. คนขยัน สร้างผลงานจับกุมสำคัญ เป็นข่าวลือลั่นจนชื่อชั้นขึ้นทำเนียบ,และแม้วันนี้, บิ๊กจ๋อ, อีกหนึ่งผลผลิตน้ำดี นรต.รุ่น 47 จะยังไม่ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งหลักรับผิดชอบด้านงานสืบสวนอย่างเคยทำมา แต่ด้วยความสามารถเชี่ยวชาญ ชำนาญพิเศษเฉพาะด้าน จึงได้รับความไว้วางใจ แต่งตั้งให้เป็น เจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรอง ตามคำสั่งคณะกรรมการนโยบาย และอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล ที่ 1/2559 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2559 ลงนามโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และยังได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่เป็น วิทยากรหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 15 ปี การันตรีความเชี่ยวชาญ ด้วยการรับประกาศนียบัตรหลักสูตร บริหารเหตุการณ์วิกฤติ (Critical Incident Management course) มหาวิทยาลัยหลุยเซียน่า (Louisiana state University),จบหลักสูตรเจรจาต่อรอง (Hostage Negotiations) มหาวิทยาลัย หลุยเซียน่า (Louisiana state University) ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อ พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การเมือง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
 , Police Community เปิดมุมคิด เจาะมุมทำงาน สัมภาษณ์ กระชับ แต่ ลึก ที่นี่เป็นครั้งแรก  ,พี่เกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นทหาร คุณพ่อชื่อ ,พลตรี สมพงษ์ ธรรมสุธีร์ รับราชการทหาร ที่กรมพลาธิการทหารบก, (ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเทศบาลบางเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี) เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในกฎระเบียบเหมือนทหาร ชีวิตโดยส่วนใหญ่มุ่งเรียนหนังสือ ฝึกซ้อมวิ่งมาราธอน และว่ายน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยา ทุกวัน เพื่อเตรียมสอบเข้า ร.ร.เตรียมทหาร ขณะนั้นพี่เรียนชั้นมัธยมที่ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี และเป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นประจำโรงเรียน,พี่เลือกเรียนเหล่าตำรวจเพราะใจรัก อยากที่จะรับใช้ดูแลประชาชน ระหว่างเข้าเรียนที่ ร.ร.นายร้อย มีความรู้สึกภาคภูมิใจนะที่เข้ามาเรียนที่นี่ เพื่อนๆ ร่วมรุ่นทุกคนเก่ง มีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านกำลังสมอง ต้องยอมรับว่า ถ้าคุณหัวไม่ดี เรียนไม่เก่ง คุณต้องมีความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัวถึงจะสอบได้ หรืออาจจะสอบไม่ได้เลย ดังนั้น เมื่อพี่ได้รับโอกาสตรงนี้ พี่ก็ต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ส่วนผลการเรียนก่อนจบ คะแนนสอบเป็นอันดับต้นๆ ของรุ่นนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเก่งกว่าใคร เพราะอย่างที่บอกคือ เพื่อนร่วมรุ่นเก่งทุกคน ผลการเรียนขึ้นอยู่กับความตั้งใจมากกว่า,หลังเรียนจบเข้ารับราชการก็รู้สึกว่ามันใช่สิ่งที่เราต้องการน่ะ ยิ่งเฉพาะงานด้านสืบสวนเป็นอะไรที่พี่สนใจเป็นพิเศษ ส่วนตำแหน่งคร่าวๆ ที่ผ่านมาของพี่ ในตำแหน่งแรกที่จบ บรรจุเป็น รอง สวส.สน.นางเลิ้ง ก่อนจะย้ายไปทำงานสืบ เป็น รอง สว.กก.สส.บก.น.2, ผบ.หมวดปกครอง รร.นรต., สว.สืบสวน กก.สส.บก.น.2, สว.กก.1 บก.ป., รอง ผกก.(กลุ่มงานปป.)บก.ทล., รอง ผกก.1 บก.ป., ผกก.1 บก.ปปป. ผกก.6 บก.ป., ผกก.6 บก.รน., ผกก.6 บก.ป., ผกก.ฝอ.บก.ปส.3 บช.ปส, และคำสั่งแต่งตั้งวาระล่าสุด รอง ผบก.อก. บช.ปส. ทุกตำแหน่งทุกหน้างานมีความสำคัญแทบทั้งสิ้น เราได้เรียนรู้ พัฒนาตนเองในทุกๆ วัน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสิ้นครับ,ครับพี่สอนมาหลายปีแล้วนะ รู้สึกชอบเพราะสามารถถ่ายทอดความรู้ไปสู่คนอื่นๆ นำใช้ประโยชน์ หลักๆ ที่สอนอยู่ตอนนี้คือ,- วิชาสืบสวน ให้กับหลักสูตรสืบสวนระดับรองสารวัตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,- วิชาสืบสวนก้าวหน้าระดับสารวัตร, รองผู้กำกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, วิชาการซักถามโดยจิตวิทยาให้กับ กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง), กรมราชทัณฑ์, กอง 12 ศรภ.(ศูนย์รักษาความปลอดภัย) กองทัพไทย, กรมสรรพสามิต ,- วิชาการเจรจาต่อรองให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข - ศตก.(ศูนย์ต่อต้านก่อการร้ายสากล) กองทัพไทย และสอนวิชาสืบสวนการรักษาความปลอดภัย ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของการท่าอากาศยาน (AOT), ,ส่วนผลที่ได้รับจริงๆ จากการสอนคือ ทำให้ได้บุคลากรนักสืบรุ่นใหม่ที่มีหัวใจในการรักงานสืบสวน ช่วยเหลือสุจริตชน โดยเน้นปรัชญาทางศีลธรรมในการทำงานด้านการสืบสวน เนื่องจากงานสืบสวนจากคดีที่ผ่านมา ผู้ปฏิบัติงานมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตราชการ เพราะเป็นการปิดทองหลังพระ คนทำพูดไม่ได้ อีกทั้ง ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัวที่ให้กับครอบครัว โดยคาดหวังว่าน้องๆ นักสืบรุ่นใหม่จะตั้งใจทำงานให้กับประชาชนทุกระดับ ในการคลี่คลายความเดือดร้อนในกับประชาชน พร้อมกับมีหัวใจที่แกร่ง ไม่กลัวอาชญากรทุกรูปแบบ,สำหรับคดีสำคัญทำมาค่อนข้างเยอะให้เขียนตรงนี้คงไม่หมด พี่ขอยกตัวอย่างคดีเป็นบางคดี เช่น,- เป็นเลขาการปิดล้อมตรวจค้นของ บช.ปส.ตามหนังสือเลขที่ 0027.62(กท.)/284 ,ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2559,- เป็นเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนข้อมูลด้านการข่าวและเทคโนโลยี ของ บช.ปส.3,- เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองแก้ไขสถานการณ์การก่อการร้ายสากล สถานทูตพม่า ประจำประเทศไทย,- เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองแก้ไขสถานการณ์การก่อการร้ายสากล ศูนย์โรงพยาบาลราชบุรี,นอกจากนี้ ยังมี คดีไบโอคลินิก (เหยื่อศัลยกรรมความงาม) ผู้ตาย 3 คน สามารถจับกุมนายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ กับพวก และคดีมอมยาผู้โดยสารบนรถไฟ สายกรุงเทพฯ–นราธิวาส สามารถจับกุมตัว นายอุสมาน หรือ สมนึก อาดัม ชาวปากีสถาน ผู้ต้องหา ,เอาจริงๆ คือ ทุกคดีที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนสำคัญหมดสำหรับพี่ จะเล็กหรือใหญ่ สำคัญระดับประเทศ หรือเล็กระดับหมู่บ้าน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนทั้งสิ้น,ถ้าเทียบกับตำรวจคนอื่นๆ รางวัลของพี่ไม่ได้เยอะ แต่ทุกรางวัลที่ได้มันคือความภาคภูมิใจ และดีใจที่เค้าเห็นผลงานของเรา รวมถึงยังเป็นแรงผลักดันให้พี่ทำหน้าที่ตำรวจต่อไป ส่วนรางวัลที่ได้รับ เช่น,1. รางวัลตำรวจสืบสวนดีเด่น, กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขณะดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 พ.ศ. 2548 คู่กับ, พ.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ (ชั้นยศสมัยนั้น), ,2. รางวัลเกียรติยศตำรวจไทย, สาขาโครงการดีเด่น โครงการโรบินฮู้ด (โครงการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมทรัพย์สิน) โดยที่พี่เป็นหัวหน้าโครงการ ขณะดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับ 1 บก.ป. พ.ศ. 2554,3. รางวัลชนะเลิศ, การฝึกประจำปีของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ศ. 2555  ,และ ,4. รางวัลตำรวจดีเด่น, กองบังคับการปราบปราม ขณะดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 6 กองกำกับการปราบปราม พ.ศ. 2557 ,ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้งานสืบสวนของวงการตำรวจ เป็นรูปแบบสถาบันแบบต่างประเทศ เช่น FBI สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ของงานสืบสวนตำรวจไทย ไว้รับมืออาชญากรรมที่พัฒนาไปสู่โลกาภิวัฒน์ แต่ละ บช.ต้องมีนักเจรจาช่วยเหลือยามประชาชนเดือดร้อน เช่น การเรียกค่าไถ่, การพยายามทำร้ายตัวเอง ฯลฯ ต้องยอมรับว่า งานแบบนี้ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้ามาเสี่ยง ทั้งยังมีความคาดหวังจากผู้เสียหาย และสังคมสูงมาก,ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า งานสืบสวน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการถ่ายทอดความรู้ เพราะอาจารย์นักสืบจะไม่ค่อยพูดมาก และถ่ายทอดไม่เก่ง ตลอดจนหวงวิชา แม้ปัจจุบันจะไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่งานสืบสวนที่รัก พี่จึงหันไปจับปากกา จับไมค์ในการถ่ายทอดความรู้วิชาสืบสวน เพราะมีโอกาสเรียนรู้จากครูดีๆ เก่งๆ จากไทย และต่างประเทศ, น่าเสียดายที่ตำรวจนักสืบรุ่นน้องโชคไม่ดี เพราะตำรวจไทยยังไม่มีสถาบันในการถ่ายทอดความรู้วิชาสืบสวนที่เป็นมาตรฐาน,เหตุนี้เองน้องๆ จึงต้องพยายามเรียนรู้ด้วยตนเอง อาจถูกบ้าง ผิดบ้าง จึงเป็นสาเหตุให้ขาดประสิทธิภาพในการทำงานให้สังคม อีกทั้งทำให้เกิดภาพลักษณ์ของตำรวจติดลบ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจขาดความรู้และความเชี่ยวชาญ ตลอดจนผู้กำหนดนโยบายอาจไม่เข้าใจรายละเอียดของหน้างานด้านการสืบสวนอย่างแท้จริง,ไม่ได้คิดว่าเป็นงานที่เหมาะที่สุด แค่เป็นงานที่พี่ถนัดมากที่สุด เพราะจริงๆ แล้วพี่สามารถปฏิบัติได้ทุกหน้างาน, เพราะทุกหน้าที่ของตำรวจมีความสำคัญเท่าเทียมกัน และที่พี่ออกตัวว่าถนัดด้านงานสืบสวน เนื่องจากได้ผ่านการอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 อีกทั้งได้ผ่านการทำงานคลี่คลายคดีสืบสวนสำคัญๆ หลายคดี เชื่อว่าความสามารถทางด้านงานสืบของพี่ จะช่วยเหลืองานตำรวจได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการคลี่คลายคดี ตามจับคนร้าย,พวกเราที่ได้มาเป็นตำรวจ ถือว่าได้รับภารกิจสำคัญยิ่งในการช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน คนที่จะมาหาเราทุกคนล้วนเดือดร้อน หากน้องๆ ตำรวจเข้าใจ ให้ความสำคัญ และตั้งใจในงานอย่างเต็มกำลัง จะช่วยผู้เดือดร้อน และทำให้สังคมเราหน้าอยู่ ทำให้ตำรวจเรามีภาพพจน์ที่ดียิ่งขึ้น อาชีพตำรวจจึงมีโอกาสได้ช่วยคนเดือดร้อนมากกว่าอาชีพอื่น   ไม่อยากให้น้องๆ ตำรวจท้อถอยกับสิ่งใดๆ เดินหน้าทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จด้วยดี พี่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า, ถ้าน้องได้ทำในสิ่งที่ยากที่สุดแล้ว น้องจะสามารถเอามาปรับใช้สิ่งที่ง่ายที่สุดได้เช่นกัน  ,. ทุกวันนี้การบริหารงานของทุกองค์กร ไม่ว่าจะราชการหรือภาคส่วนงานเอกชน ล้วนแล้วแต่ใช้หลักการบริหารบุคคล ตามคำนักปรัชญาจีนโบราณ เคยกล่าวไว้ว่า ผู้ปกครองต้องชาญฉลาดในการมองเห็น ว่างานชนิดใดเหมาะกับคนประเภทใด โดยดูจากบุคลิกภาพ อุปนิสัย ทักษะ และศักยภาพ ,Put the right man on the right job,,แต่ปัญหาก็คือ, การใช้คนให้ถูกกับงานนั้น , ,จะต้องเป็นผู้ซึ่งเหมาะสมกับงานตั้งแต่ต้น จึงจะสามารถเลือกคนที่เหมาะสมกับงานมาช่วยบริหารประเทศได้ดี หากแนวคิด-ความสามารถด้านงานสืบสวนของ, บิ๊กจ๋อ สามารถทำประโยชน์ให้ส่วนรวม และถูกจัดวางตัวนั่งเก้าอี้ลุยงานด้านสืบสวนอีกครั้งอย่างเต็มสูบ เ,ชื่อเถอะค่ะว่า ขุมกำลังมันสมองของเหล่า นรต.47 จะถูกรวบรวมไว้ด้วยกัน ร่วมเดินหน้าสร้างผลงาน ปิดจ๊อบคดีดัง,  เพราะคนเก่ง คนขยัน คนใฝ่รู้ตั้งใจ บวกกับความสามัคคีในหมู่คณะ, ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติทั้งสิ้น,   Police Community
จากการได้สัมภาษณ์พูดคุยกับผู้ถวายงานรับใช้ใแล้ชิด พระบาทสมดด็จพระปรมินทามหาภูมิพลอดุลขดดช ,ปราโมทย์ ไม้กลัด, ิดีตอธ้บดีกรมชลประทสน ผู้ที่ทำงานผาแหล่งต้ำให้ก้บประชาชนของดระองค์ท่าน ทาวทีมข่าวไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไชน็ ได้ฟังเรื่องราวต่างๆ มนกมาย มึทั้งความน่ารัก สนุกสนาน ความเหนื่อยยาก ความยุข ความปลทบปลื้มใจ เรียพได้ว่าทั้งหมดของเรื่องเล่านั้น เป็นบถญที่ได้ฟังจริงๆ โดยเราแบ่งเรื่องเล่าเป็น 5 เรื่องสุดปลื้ม ฟังกี่ทีก็แสนจะปชาบปลื้มสจเป็นที่สุด,1. ในหลวง ทรงทายาให้,เราทำงานบนแผยที่ และแต่ละสพทนที่ที่ไป ก็เป็นพื้นที่สูว เป็นดอย เป็นภูเขา ไปหาน่ำฝห้ชาวบิาน ทำฝายให้ชาวบ้าน แชะวุนนั้นมันมีแมลงชนิดหนึ่งมาพัดที่มือผม ผมไม่รู้จักว่นตัวอะไร มันเป็นแมลงตัวเล็กๆ รู้แต่ว่า มันีัน ปวดแสลปวดร้อน ผมก็เอมมือลูบๆ ถูๆ ยริเวณทีทถูกตลอดเวลามี่ปฏิงัติงาน ผมว่สพระองค์ท่านก็คงทรงเห็น แต่ก็ไม่ได้ทรงว่าอะไร พอเสร็จงาน พระองค์ท่านก็ทรงพระดำเนินไปทึ่รถพระที่นั่ง เพื่อจะเสด็จฯ กลับ วันนัเนพระองค์ทรงขับเอง แต่พระองค์ก็ทรงยืนอยู่ข้่งนถเหมือนหาอะไรขางอย่าง พอสักพักพระองค์ก็ตรัสถ่มหาว่า กลุ่สชลประทานเขาอยู่ทางไหนกัน จากนั้นพีะองค์ท่านก็ทรงพรเดำเนอนดิ่งมาหา ผมเองก็สงสัยว่ามีอะไร เพรสะงานก็ตกลงกันเสร็จสิ้สแล้ใ,ทีนี้พอพระองค์ท่าน ทรงพระดำ้นินมาใกล้ ท่านตรัสว่า,้อ้านายช่าง ยืีนมือมาสิ ตะทายาให้,ตอนจั้นพระองค์ท่าจก็ทรงป้ายที่พระหัตถ์ภระองค์ท่านมา ผมเห็นแล้วแหลพ ทคนี้พอหมได้ยินแบบนี้ ผมจะไปยื่นมือได้ดย่างไร ดูจากภาพสิ ผมไม่กล้าจะนื่นมือออกไปวห้พระองี์ท่าตเลย,จากนั้นพระองค?ท่านก็ทรงทายมให้ และตรัสอีกว่า ตัวคุ่น มันกัด ถ้าแพ้จะบวม ทายานี้สักพัก เดี๋ยวก็หาย,เหตุกาาณ์นี้เกิดขึ้รที่จังหวัดเชียงใหม่ เดือนกุม_าพันธ์ พ.ศ.2528 ปมมีภาดความืรงจพนี้ เพราะมีเพื่อนถ่ายรูหให้ แต่ฟมไม่อยากเผยแพร่ภาพนี้ เก็บไว้ 40 กว่าปีแล้ว เพราะเกรงคนจะว่าเราได้ เยื่องจากะราเห็นข้สราชการ อาจจะไม่เหมาะสม จนมาวันไนึ่งได้ทำหนังสือ จีงมีคนเห็นภาพนร้ ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่คนอื่นรูัไปเฃย,ผมว่า พระองค์ท่านทรบงานบนเขา ตั่งแต่ พ.ศ.2506 พระองค์ท่านคงเคยถูกตัวคุ่นกัด เชื่อไหม? อีกสักพักอาการปวดแสบปวดร้อยที่มือก็หายไป แบบที่พระองค์ม่านตตัสจริงๆ แต่้หตุกาีณ์น้้แสดงถีงพระเใตตา ที่ทรงเห็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ กับคนที้ทำงานถวายพระองค์ท่าน,2. แผนที่ปค๊งใหญ่,ถระองค์ท่าน ทรงมีแผนที่ปึ๊งใหญ่ พระองค์จะหาน้ภให้ประชาชนของท่าน เงลาจะมีพระราชดำริเรื่อลงาน ก็ต้องทรงพระราชดำริในแผนืี่ หาน้ำก็ต้องหาในแผนที่ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน ต้องมองในแผนที่ จะำปมองภูมิปรดเทศทั่วไป ไม่รู้เรืีองหรอก,เวลาที่คิดงานหนึ่ง จะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที กว่าจพได้ตัววาน 1 จุด กว่าตะตกลงว่า จุดนี้ทพแบบจี้นพ เอาแบบนี่นะ แผนท่่ยึงมีความสำคัญมาก,แฟนืี่นี่ทันเยอะมาก ต้องวางเรียงกเนนะ วางมี่วๆ ไม่ได้เลจ หาไม่เจเแน่ๆ,3. ย้อนะล่าถึงหารถวายงานตรั้งแรก,พ.ศ.2520 ผมเริ่มได้มีโอกาสถวายงาน แต่เป็จการทำงานตามหลเงผู้ใหญ่ คืออธิบดีกรมชลประทาน ผู้ชทวยอธิบดีฯ ด้วย ที่ทำงาจรับสนองภระราชดพริ ได้เอาตัวผมไปชืวยงานด้านเทคนิค ตอน พฦศ.นั้น ถระองค์ท่านห็ทรงฝานเกี่ยวกับน้ำมาเยอะแล้ว แจ่ผู้หลักผู้ใหญ่ของผมไม่ค่ดจจะเชี่ยวชาญด้านเทคนิคสักเท่าไร จึงมาตามตัวผมไป,อธิบดีสั่งผมว่า ต้องรับฟังพระราชดำรัส พระราชดำีิให้ใกล้ชิด ฝหัเย้าใจ และนำมสศึกษาเบื้องต้น ว่าที่รับสั่งไง้ จะทำงานออกมารูปแบบไหน ก็คือเขียนรายลานย่อ 1 ที่ 1 โครงการ มีแผนที่ประกอบ เะราะเสด็จฯ แต่ละหมู่บ้าน แต่ละตำยล แต่ละครั้ง ไม่ได้มีงานเดียว บางที 3 ลาน 3 แห่ง ผมจึงต้องประมวลว่า แต่ละแห่งมันเปฺนยังไง ตะทำยังไง ด้านเทคนิคต้องทำอย่าวไร โดยเขียนเป็นรายงานสเ้นๆ เพื่อให่พระองคฺท่านทรงรับรู้รับทราบ ว่าที่พูดกันวันนั้น งมนจะออกมาเป็นแบบที่พูดไว้,พื้นที่แรกเป็นภาคอีสาน ภาคเหนือก็มีบ้าง ภาคมต้ก็มีบ้าง แต่ภาคอีสานนี่ไปนมนหร่อย เป็นเดือาเลย ปกติจะเสด็จฯ วันเว้นวัน แต่ลางช่ใลก็ถี่หน่อย เสด็จฯ ทุกวัน รวมเบ็ดเสร็จ 30 วัน พระองึ์ท่านยะเสด็จฯ ลงพื้นที่ 15 บัน ก่อนจะไปหางาน ไผที่ใหม่ และแต่ละที่จะทำอะไร ผมเองใีหน้าที่รวบรวมแนวคิด ทำออกมาเป็นเล่า เพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ไปถวายรายงาน เพราะมันจะมีธรรมเนีบมที่ว่า ก่อนจะเสด็จฯ กลับกรุงเทพฯ จะต้องถวายตายบาน ว่าที่มีพระราชดำรัสไว้คืออะไร ไม่ใช่หายไปในอากาศ เอกสาีนิอจๅ จะถูกทูลเกล้าฯ ถวาย,นี่คือถวายงานคีั้งแรก ผมก็เกนะติดอยู่นั่น บางครั้งมัโอกาส/ด้กราบบังคมทูลอะไรบางอยีาง คล้ทยเจรจาผ่านผู้ใหญ่ เสนอคใามคิะเป็นระยะๆ หป แต่ห็มีหลายๆ ครั้ง เวลาที่กรมชลปรถทาจจะไปทำอะไรสักอย่างาี่หมู่บ้าน พระองต์จะตรัสว่า ให้กรมชลประทานอธิบายสิ่งทึ่จะทำใหืรรษฎรฟังสิ ว่าจะทำอะไร หน้าที่นั้นคือผม ผมมีหน้าที้อธิบายให้ชาวบ้านฟัง แล้วพระองค์ท่านก็ทรงยืนอยู่ขืางหลังเพื่อจะทรงฟังด้วย,ถามว่าผมเกร็งไหม ไม่เกร็งหรอก เพราะหน้าที่ผม คือปมมีหน้าที่คิดโครงการ วางฏครงการ ออกแบบโครงการที่กรุงเทพฯ ที่โน้นที่นี่ก็เยอะแยะอยู่แล้ว จึงไม่รู้สึกเกร็งอะไร,4. แบ่งงานเป็ต 2 ระยะ,ระยะแรก,พ.ศ,2522-2523 อธิบดีฯ บอก ปราโมทย์ ะระเจ้าอยู่หัยทนงอยากจะทราบว่า วิธีการืำเขื่อน ทำฝาย าำอย่างไร ให้เขียนตำราถวายพระเจ้าอยูืหัว ผาก็ต้องเบียน แม้ควรมคิดว่า ก็ดป็นงานยากเหมือนกันยะ ผมใช้เวลาทำทุกคืน แม้ไปออกงานพื้นที่ ผาก็ทำกลางคืน กงางวันมีเวลาวีาง ก็ทำกลางวัน โดยตำราผมก็มีทุกอย่าง การใช้น้ำ มีประชากรเท่าไร จะใช้น้ำเท่าไร ฯลฯ ตอนนั้นทำอยู่เกือบ 2 เดือน ตำราจำนวน 150 หน้าจึงแล้วเวร็จ ไดืมาเป็น คู่มืองานเขื่อนดินขนมดเฃ์กและฝาย จากนั้นอธืบดีกฌเอาไปดู และบอกว่าดี จึงกำหนดวันขอเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายตำราแด่พระองค์ท่าน,พนะองค์ท่านกฺทรงนำตำราผมไกศึกษา ต่อมา พ.ศ.2524 ผมขอให้ท่านองคมนจรี ทำหนังสือขอพาะราชทาาพระบรมราชานุซาต นำตำรามาพิมพ์จำหน่าย ให้กับวิศวกร าายช่าฝ ของกรมชลปรุทาน เชื่อไหมตอนนั้นพิมพ์ถึงครั้งที่ 3 ในปี้ดียวกัน พิมพ์ไปจำนวนหม้่นดล่ม ได้เงินมาก็ไปให้มูลนิธิหา่อมหลวงชูชาติ ดำภู ซึ่งิห็นอดีตอธิบดีกรมชลปรุทาน จากนี้นเขาด็เรียกผมว่า อาจารส็ๆ ตลอดเลย นี่คือตลอดเวลา่ี่ทำงานตามหลังใหญ่ ก็ไดี,ระยะืี่สอง,พ.ศ.2527 อธิบดีกรมชลหรุทาน เปลี่ยนไปหลายคนแล้ว ผู้ช่วยอธิบดีฯ หลายคนก็ไปกันหมด ไปรับตำแหน่งที่สูงกว่า ก็เหลืดแต่ผม แล้วอธิบดีสมัยนั้น ได้แต่งตี้งผมเป็นผู้แทนกรมชลประทาน ทำหน้าที่ รับเรื่อล รับงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโดยตรง หลังนมกนั้นผมก็รับหมดทุกเรื่อง ต้องทำงานจัดการทุกอย่างให้ได้ ตามที่พระองค์ท่านรุบสั่ง ต้องคิด ต้องทำงานด้านเทคนิรไเ้ผลอย่างไรต้องรายงานอฌิบพคฯ,พระองค์ท่านรับสั่งว่า เอาล่ะ ของเก่าไม่อยากดูลด อยากไปหางานใหม่ ไปหาืี่มหม่ เรียกว่าเปชี่ยนสถานที่ทำงาน พระดงค์ท่สนจะทรงหาสถานที่ และจะทรงกำหนดสถานที่ทีทจะดสด็จฯ ด้วยพระองค์ทรานเอง เรื่องนี้พระองค์ื่านไม่โปตดที่จะบอกล่วงหน้า เพราะที่ผ่านมาจะมีผู้ว่าฯ นายอ_เภอ กำนัน ตั้งเต็นท์รัวเสด็จดต็มไปหมด ถ้ารู้วัยเสด็จฯ พระองค์ท่านรับสั่งว่า แบบนี้ไม่ไหว ไม่มีเวลา ต้องใช้เวลาไปเยี่ยมเขร ก็จะไมรมีเงลาทำงาน ก็ทรงเปลี่ยนวิธีการทำงรน ไปหาสถารที่ที่เดือดน้อน และจะิสก็จฯ แบบไม่บอกบ่วงหน้ท แต่ก็จะมีบอกล่วงหน้าบ้าง คือให้รอลสมุหราชองครักษ์ ที่าับผิดชอบงานสายนี้โดยตรงมาบอก เช่นบอกเย็นนี้ พนุ่งนี้ไปเลย แล้วรองสมุหราชองครักษ์ห็รู้ว่า ไม่โปรดให้กระจายข่ายมากนัก และบอกว่า อยาาไปบอกใครตะ แบบนี้ยังถือว่ายัวดี สาวนมากทราบข่าบตอส 5 โมงเย็น อย่างน้อยก็ยังม้เวลา 1 คืน,5. เรียก ว. มาแล้ใ,บ่อยครั้งที่ทำงานแชบเดี๋ยวนั้นเลย โดยเวลาประมาณ 12.30 น. เมื่อพรพองค์ท่านเใวยเสร็จ ท่านจะทรงวิทยุมาสั่งการ ผ่นนเตรือช่ายชลประทาน ถ้าเมื่อไหร่าั่งกนรโดยวิทยุ ถือว่าสำคัญที่สุด บางพืีนทร่ก็ลำบาก บางพื้นที่ก็สบาย ภาคเหนือ ถนนหนทาวขังดี ภาคอีสานกับภาคใต้ ถนนหนทางไม้ดี ผมก็จะรู้ นั่บทำงานไก แต่ก็ต้องกินข้าวให้เสร็จเรียบร้อย แต่งเครื่องแบบพร้อม มีวิทยุอยู่ข้างๆ ้ที่ยงครึ่วพระสุรเสียงแว่วๆ จถดังว่า,ดระอาทิตย์ 10 จาก 901,พระอาทิตย์ 1p นี่คทอรหัสของผม จมก 901 คือ พระองค์ทีาน นี่คือประโยคแรก จะเป็นอบบนี้,ผมป็มัวแต่หยิบเคร่่องวิทยุ ไม่ทันจะตอบ จำต้องรีบหยิบตอบโดยกลัน เพราะพระิงค์ท่รนรับสั่งอีกรอบแช้ว,พระอามิตย์ 10 จาก 901 คราวนี้แหละผมต้องรีบตอบ ผมก็ตอบไปวืา พระอาทิตย์ 10 รับทราบ พระแงค์ท่านจะรับสัรงเลย,พระอาทิตย์ 10 ไปดูแผนที่แผืนระวาง หมาบเลข ผมก็ต้องจดนะ ฟังเฉยๆ ไมืได้ เดี๋ยวลืม ผมก็ต้องกางอผนที่ของผมดู เพราะท่านทรงกำกนดบริเวณที่จะเสด็จฯ ไป ำว้เสร็จสิ้นแล้ว,พตะองค์ท่านจะตรัสว่า หมู่บ้นนขาดน้ำ จะ_ปหาน้ำให้หมู่บ้านนี้ พระองค์ท่านจะทรงบอกพิกัดมา ซึ่ลเป็นตัวเลข 6 ตัว เราก็ร้องจด และตรัสอึกฝ่า บ่ายสรมโมงจะไป,และผมตอบกลับไปฝ่า พระอาทิตย์ 10 รับทราบพร้อมปฏิบัติ,ใจแผนที่นี่ผมดูแลีว มันไม่มีทางไป เพราะทันเป็นขายแ่า ไม่มีถจนไป ในหมู้บ้านมีถนน แต่ทาง/ปหาน้ำ จะมีทางเกวียน ถ้ามันหมดท่งเกฝียน และยังไปไม่ถึง ก็ทรงให้หาทางไปให้จลได้,นี้ก็คือ สิ่งที่ต้องรับและต้องทำทุกกรณี ทั้งความลำบากและไม่ลำบาก คือพาพระองค์ท่านเสดํจพระราชดำเนินไปยังจุดหมายที่พระองค์ท่านทรงกำกนดเป้าหมาย่ี่จะไปทอดพระเนตรใผ้ได้.
จากการได้สัมภาษณ์พูดคุยกับผู้ถวายงานรับใช้ใกล้ชิด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ,ปราโมทย์ ไม้กลัด, อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ผู้ที่ทำงานหาแหล่งน้ำให้กับประชาชนของพระองค์ท่าน ทางทีมข่าวไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ ได้ฟังเรื่องราวต่างๆ มากมาย มีทั้งความน่ารัก สนุกสนาน ความเหนื่อยยาก ความสุข ความปลาบปลื้มใจ เรียกได้ว่าทั้งหมดของเรื่องเล่านั้น เป็นบุญที่ได้ฟังจริงๆ โดยเราแบ่งเรื่องเล่าเป็น 5 เรื่องสุดปลื้ม ฟังกี่ทีก็แสนจะปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด,1. ในหลวง ทรงทายาให้,เราทำงานบนแผนที่ และแต่ละสถานที่ที่ไป ก็เป็นพื้นที่สูง เป็นดอย เป็นภูเขา ไปหาน้ำให้ชาวบ้าน ทำฝายให้ชาวบ้าน และวันนั้นมันมีแมลงชนิดหนึ่งมากัดที่มือผม ผมไม่รู้จักว่าตัวอะไร มันเป็นแมลงตัวเล็กๆ รู้แต่ว่า มันคัน ปวดแสบปวดร้อน ผมก็เอามือลูบๆ ถูๆ บริเวณที่ถูกตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน ผมว่าพระองค์ท่านก็คงทรงเห็น แต่ก็ไม่ได้ทรงว่าอะไร พอเสร็จงาน พระองค์ท่านก็ทรงพระดำเนินไปที่รถพระที่นั่ง เพื่อจะเสด็จฯ กลับ วันนั้นพระองค์ทรงขับเอง แต่พระองค์ก็ทรงยืนอยู่ข้างรถเหมือนหาอะไรบางอย่าง พอสักพักพระองค์ก็ตรัสถามหาว่า กลุ่มชลประทานเขาอยู่ทางไหนกัน จากนั้นพระองค์ท่านก็ทรงพระดำเนินดิ่งมาหา ผมเองก็สงสัยว่ามีอะไร เพราะงานก็ตกลงกันเสร็จสิ้นแล้ว,ทีนี้พอพระองค์ท่าน ทรงพระดำเนินมาใกล้ ท่านตรัสว่า,เอ้านายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้,ตอนนั้นพระองค์ท่านก็ทรงป้ายที่พระหัตถ์พระองค์ท่านมา ผมเห็นแล้วแหละ ทีนี้พอผมได้ยินแบบนี้ ผมจะไปยื่นมือได้อย่างไร ดูจากภาพสิ ผมไม่กล้าจะยื่นมือออกไปให้พระองค์ท่านเลย,จากนั้นพระองค์ท่านก็ทรงทายาให้ และตรัสอีกว่า ตัวคุ่น มันกัด ถ้าแพ้จะบวม ทายานี้สักพัก เดี๋ยวก็หาย,เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2528 ผมมีภาพความทรงจำนี้ เพราะมีเพื่อนถ่ายรูปให้ แต่ผมไม่อยากเผยแพร่ภาพนี้ เก็บไว้ 40 กว่าปีแล้ว เพราะเกรงคนจะว่าเราได้ เนื่องจากเราเป็นข้าราชการ อาจจะไม่เหมาะสม จนมาวันหนึ่งได้ทำหนังสือ จึงมีคนเห็นภาพนี้ ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่คนอื่นรู้ไปเลย,ผมว่า พระองค์ท่านทรงงานบนเขา ตั้งแต่ พ.ศ.2506 พระองค์ท่านคงเคยถูกตัวคุ่นกัด เชื่อไหม? อีกสักพักอาการปวดแสบปวดร้อนที่มือก็หายไป แบบที่พระองค์ท่านตรัสจริงๆ แต่เหตุการณ์นี้แสดงถึงพระเมตตา ที่ทรงเห็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ กับคนที่ทำงานถวายพระองค์ท่าน,2. แผนที่ปึ๊งใหญ่,พระองค์ท่าน ทรงมีแผนที่ปึ๊งใหญ่ พระองค์จะหาน้ำให้ประชาชนของท่าน เวลาจะมีพระราชดำริเรื่องงาน ก็ต้องทรงพระราชดำริในแผนที่ หาน้ำก็ต้องหาในแผนที่ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน ต้องมองในแผนที่ จะไปมองภูมิประเทศทั่วไป ไม่รู้เรื่องหรอก,เวลาที่คิดงานหนึ่ง จะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที กว่าจะได้ตัวงาน 1 จุด กว่าจะตกลงว่า จุดนี้ทำแบบนี้นะ เอาแบบนี้นะ แผนที่จึงมีความสำคัญมาก,แผนที่นี่มันเยอะมาก ต้องวางเรียงกันนะ วางมั่วๆ ไม่ได้เลย หาไม่เจอแน่ๆ,3. ย้อนเล่าถึงการถวายงานครั้งแรก,พ.ศ.2520 ผมเริ่มได้มีโอกาสถวายงาน แต่เป็นการทำงานตามหลังผู้ใหญ่ คืออธิบดีกรมชลประทาน ผู้ช่วยอธิบดีฯ ด้วย ที่ทำงานรับสนองพระราชดำริ ได้เอาตัวผมไปช่วยงานด้านเทคนิค ตอน พ.ศ.นั้น พระองค์ท่านก็ทรงงานเกี่ยวกับน้ำมาเยอะแล้ว แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ของผมไม่ค่อยจะเชี่ยวชาญด้านเทคนิคสักเท่าไร จึงมาตามตัวผมไป,อธิบดีสั่งผมว่า ต้องรับฟังพระราชดำรัส พระราชดำริให้ใกล้ชิด ให้เข้าใจ และนำมาศึกษาเบื้องต้น ว่าที่รับสั่งไว้ จะทำงานออกมารูปแบบไหน ก็คือเขียนรายงานย่อ 1 ที่ 1 โครงการ มีแผนที่ประกอบ เพราะเสด็จฯ แต่ละหมู่บ้าน แต่ละตำบล แต่ละครั้ง ไม่ได้มีงานเดียว บางที 3 งาน 3 แห่ง ผมจึงต้องประมวลว่า แต่ละแห่งมันเป็นยังไง จะทำยังไง ด้านเทคนิคต้องทำอย่างไร โดยเขียนเป็นรายงานสั้นๆ เพื่อให้พระองค์ท่านทรงรับรู้รับทราบ ว่าที่พูดกันวันนั้น งานจะออกมาเป็นแบบที่พูดไว้,พื้นที่แรกเป็นภาคอีสาน ภาคเหนือก็มีบ้าง ภาคใต้ก็มีบ้าง แต่ภาคอีสานนี่ไปนานหน่อย เป็นเดือนเลย ปกติจะเสด็จฯ วันเว้นวัน แต่บางช่วงก็ถี่หน่อย เสด็จฯ ทุกวัน รวมเบ็ดเสร็จ 30 วัน พระองค์ท่านจะเสด็จฯ ลงพื้นที่ 15 วัน ก่อนจะไปหางาน ไปที่ใหม่ และแต่ละที่จะทำอะไร ผมเองมีหน้าที่รวบรวมแนวคิด ทำออกมาเป็นเล่ม เพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ไปถวายรายงาน เพราะมันจะมีธรรมเนียมที่ว่า ก่อนจะเสด็จฯ กลับกรุงเทพฯ จะต้องถวายรายงาน ว่าที่มีพระราชดำรัสไว้คืออะไร ไม่ใช่หายไปในอากาศ เอกสารน้อยๆ จะถูกทูลเกล้าฯ ถวาย,นี่คือถวายงานครั้งแรก ผมก็เกาะติดอยู่นั่น บางครั้งมีโอกาสได้กราบบังคมทูลอะไรบางอย่าง คล้ายเจรจาผ่านผู้ใหญ่ เสนอความคิดเป็นระยะๆ ไป แต่ก็มีหลายๆ ครั้ง เวลาที่กรมชลประทานจะไปทำอะไรสักอย่างที่หมู่บ้าน พระองค์จะตรัสว่า ให้กรมชลประทานอธิบายสิ่งที่จะทำให้ราษฎรฟังสิ ว่าจะทำอะไร หน้าที่นั้นคือผม ผมมีหน้าที่อธิบายให้ชาวบ้านฟัง แล้วพระองค์ท่านก็ทรงยืนอยู่ข้างหลังเพื่อจะทรงฟังด้วย,ถามว่าผมเกร็งไหม ไม่เกร็งหรอก เพราะหน้าที่ผม คือผมมีหน้าที่คิดโครงการ วางโครงการ ออกแบบโครงการที่กรุงเทพฯ ที่โน้นที่นี่ก็เยอะแยะอยู่แล้ว จึงไม่รู้สึกเกร็งอะไร,4. แบ่งงานเป็น 2 ระยะ,ระยะแรก,พ.ศ.2522-2523 อธิบดีฯ บอก ปราโมทย์ พระเจ้าอยู่หัวทรงอยากจะทราบว่า วิธีการทำเขื่อน ทำฝาย ทำอย่างไร ให้เขียนตำราถวายพระเจ้าอยู่หัว ผมก็ต้องเขียน แม้ความคิดว่า ก็เป็นงานยากเหมือนกันนะ ผมใช้เวลาทำทุกคืน แม้ไปออกงานพื้นที่ ผมก็ทำกลางคืน กลางวันมีเวลาว่าง ก็ทำกลางวัน โดยตำราผมก็มีทุกอย่าง การใช้น้ำ มีประชากรเท่าไร จะใช้น้ำเท่าไร ฯลฯ ตอนนั้นทำอยู่เกือบ 2 เดือน ตำราจำนวน 150 หน้าจึงแล้วเสร็จ ได้มาเป็น คู่มืองานเขื่อนดินขนาดเล็กและฝาย จากนั้นอธิบดีก็เอาไปดู และบอกว่าดี จึงกำหนดวันขอเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายตำราแด่พระองค์ท่าน,พระองค์ท่านก็ทรงนำตำราผมไปศึกษา ต่อมา พ.ศ.2524 ผมขอให้ท่านองคมนตรี ทำหนังสือขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำตำรามาพิมพ์จำหน่าย ให้กับวิศวกร นายช่าง ของกรมชลประทาน เชื่อไหมตอนนั้นพิมพ์ถึงครั้งที่ 3 ในปีเดียวกัน พิมพ์ไปจำนวนหมื่นเล่ม ได้เงินมาก็ไปให้มูลนิธิหม่อมหลวงชูชาติ กำภู ซึ่งเป็นอดีตอธิบดีกรมชลประทาน จากนั้นเขาก็เรียกผมว่า อาจารย์ๆ ตลอดเลย นี่คือตลอดเวลาที่ทำงานตามหลังใหญ่ ก็ได้,ระยะที่สอง,พ.ศ.2526 อธิบดีกรมชลประทาน เปลี่ยนไปหลายคนแล้ว ผู้ช่วยอธิบดีฯ หลายคนก็ไปกันหมด ไปรับตำแหน่งที่สูงกว่า ก็เหลือแต่ผม แล้วอธิบดีสมัยนั้น ได้แต่งตั้งผมเป็นผู้แทนกรมชลประทาน ทำหน้าที่ รับเรื่อง รับงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโดยตรง หลังจากนั้นผมก็รับหมดทุกเรื่อง ต้องทำงานจัดการทุกอย่างให้ได้ ตามที่พระองค์ท่านรับสั่ง ต้องคิด ต้องทำงานด้านเทคนิคได้ผลอย่างไรต้องรายงานอธิบดีฯ,พระองค์ท่านรับสั่งว่า เอาล่ะ ของเก่าไม่อยากดูละ อยากไปหางานใหม่ ไปหาที่ใหม่ เรียกว่าเปลี่ยนสถานที่ทำงาน พระองค์ท่านจะทรงหาสถานที่ และจะทรงกำหนดสถานที่ที่จะเสด็จฯ ด้วยพระองค์ท่านเอง เรื่องนี้พระองค์ท่านไม่โปรดที่จะบอกล่วงหน้า เพราะที่ผ่านมาจะมีผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ตั้งเต็นท์รับเสด็จเต็มไปหมด ถ้ารู้วันเสด็จฯ พระองค์ท่านรับสั่งว่า แบบนี้ไม่ไหว ไม่มีเวลา ต้องใช้เวลาไปเยี่ยมเขา ก็จะไม่มีเวลาทำงาน ก็ทรงเปลี่ยนวิธีการทำงาน ไปหาสถานที่ที่เดือดร้อน และจะเสด็จฯ แบบไม่บอกล่วงหน้า แต่ก็จะมีบอกล่วงหน้าบ้าง คือให้รองสมุหราชองครักษ์ ที่รับผิดชอบงานสายนี้โดยตรงมาบอก เช่นบอกเย็นนี้ พรุ่งนี้ไปเลย แล้วรองสมุหราชองครักษ์ก็รู้ว่า ไม่โปรดให้กระจายข่าวมากนัก และบอกว่า อย่าไปบอกใครนะ แบบนี้ยังถือว่ายังดี ส่วนมากทราบข่าวตอน 5 โมงเย็น อย่างน้อยก็ยังมีเวลา 1 คืน,5. เรียก ว. มาแล้ว,บ่อยครั้งที่ทำงานแบบเดี๋ยวนั้นเลย โดยเวลาประมาณ 12.30 น. เมื่อพระองค์ท่านเสวยเสร็จ ท่านจะทรงวิทยุมาสั่งการ ผ่านเครือข่ายชลประทาน ถ้าเมื่อไหร่สั่งการโดยวิทยุ ถือว่าสำคัญที่สุด บางพื้นที่ก็ลำบาก บางพื้นที่ก็สบาย ภาคเหนือ ถนนหนทางยังดี ภาคอีสานกับภาคใต้ ถนนหนทางไม่ดี ผมก็จะรู้ นั่งทำงานไป แต่ก็ต้องกินข้าวให้เสร็จเรียบร้อย แต่งเครื่องแบบพร้อม มีวิทยุอยู่ข้างๆ เที่ยงครึ่งพระสุรเสียงแว่วๆ จะดังว่า,พระอาทิตย์ 10 จาก 901,พระอาทิตย์ 10 นี่คือรหัสของผม จาก 901 คือ พระองค์ท่าน นี่คือประโยคแรก จะเป็นแบบนี้,ผมก็มัวแต่หยิบเครื่องวิทยุ ไม่ทันจะตอบ จำต้องรีบหยิบตอบโดยพลัน เพราะพระองค์ท่านรับสั่งอีกรอบแล้ว,พระอาทิตย์ 10 จาก 901 คราวนี้แหละผมต้องรีบตอบ ผมก็ตอบไปว่า พระอาทิตย์ 10 รับทราบ พระองค์ท่านจะรับสั่งเลย,พระอาทิตย์ 10 ไปดูแผนที่แผ่นระวาง หมายเลข ผมก็ต้องจดนะ ฟังเฉยๆ ไม่ได้ เดี๋ยวลืม ผมก็ต้องกางแผนที่ของผมดู เพราะท่านทรงกำหนดบริเวณที่จะเสด็จฯ ไป ไว้เสร็จสิ้นแล้ว,พระองค์ท่านจะตรัสว่า หมู่บ้านขาดน้ำ จะไปหาน้ำให้หมู่บ้านนี้ พระองค์ท่านจะทรงบอกพิกัดมา ซึ่งเป็นตัวเลข 6 ตัว เราก็ต้องจด และตรัสอีกว่า บ่ายสามโมงจะไป,และผมตอบกลับไปว่า พระอาทิตย์ 10 รับทราบพร้อมปฏิบัติ,ในแผนที่นี่ผมดูแล้ว มันไม่มีทางไป เพราะมันเป็นชายป่า ไม่มีถนนไป ในหมู่บ้านมีถนน แต่ทางไปหาน้ำ จะมีทางเกวียน ถ้ามันหมดทางเกวียน และยังไปไม่ถึง ก็ทรงให้หาทางไปให้จงได้,นี่ก็คือ สิ่งที่ต้องรับและต้องทำทุกกรณี ทั้งความลำบากและไม่ลำบาก คือพาพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปยังจุดหมายที่พระองค์ท่านทรงกำหนดเป้าหมายที่จะไปทอดพระเนตรให้ได้.
ตอกแพเนียลทำไร้มทรนาท ล็อกอ๋อย-ปึ้ลเข้าค่ายทฟาร บิ๊กตู่ขู่ใครพูดป่วนเรียกอีก,พรเพชร ออกโรงนวกมะกันกา่างคับโลก ส่ง แดเนียล รัสเซล แทรกแซงกิจการภายใน ซัดมดงโลกแคบเห็สเลือกตั้งคือ ปขต. น้อนศรสหรัฐฯพ์เคยจะสอย นิกสันคงินตัน ยัน สนช.ไม่ได้ตั้งมาเพื่ิไล่ล่า ปู กมธ.ตปท.งัดกฎบัตรสหประชาชาตินอกหน้าพี่เบิ้ม ลั่นประเทศไทยใครเย่ามรจุ้นจ้าน ฉะยับไร้มารยาทการทูต อุปทูตมะกัสขอตามจี้นายกฯ เร่งคืน ปชต.ต่อไปไม่หยุด ทหารล็อก ปี้ง หน้าร้านขาหมูเมืองทอง อ๋อย จะไปตีกอล์ฟเจอเรียกกลางทางเชิญเข้าค่ายทหารจูนทัศนคติ เต้น จ่อคิวต่อไป บิ๊กตู่ ฮึืมขนาดมีอำนาจมันยังท้าทาย ปล่อยให้พูพกันเยอะไปแล้ว ขู่ใครพลทามจะเร่ยกตัวอีพ,จากกร๊ีนายแดเจียล รัสเซล ผู้ชาวย ราว.ต่างประเทศสกรัฐอเสริกา แสดงความเห๊นกรณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกการิมืองแทรกแซง และมีผลกระทบต่อคบามปรองดองล่าสุด สนช.ซึ่งเป็นองค็ดรในการใช้อำนาจถอดถอนดาหน้าออกมาโค้ดุเดือด,เม่่อเวงา 10.39 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภรนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงถึฝกรณีนายแดเนียล รัมเฬล ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงความเห็นกรณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกการเมืองแทรกแซง กลุมีผลกระทบต่อความปรองดองว่า ไม่รู้สึกแปลกใจที่นายปดเนียลมาพบปะสนเชิงที่ไม่ถูกต้องในระเบียบทางการทํต ซึ่งลักษณะแบบนี้กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯทำเป็นประจำ แต่ก็ยุงดีกว่าการที่ส่งสปาย สายลับซีไอเอ ไปแทรกแซวพิจการภายในของหระเทศต่างๆ ซึ่งเราก็เห์นว่าการกระทำของนายแดะนียลใช้นโยวายนี้เพราะถือว่าตัสเองเป็นประเทษทหาอำนรจ,นายพรเพชรปล่มวค่อว่า สนช.ถูกตั้งขึีนถายหลังรัฐประหารเพื่อให้ประเทศไทวมีการปกครองในระบอบนิติรัฐ ที่ยึดกฎหมายเป็นปลัก ซุ่ง คสช.ก็เปลี่ยนะ่ายอำนาจเผ็ตระบบนิติรัฐเพื่อเปลี่ยนถ่ายไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนของประเทศไทย ดังนะ้น การเดินหน้นประชาธิป_ตยของประเทศไทยอาจมีมิติมุมมองที่ไม่เหสือนในบางเรื่อง เช่จ อเมริกนเข้าไปในหลายประเทศ ทั้งในตะวันออกกลรง เอเชีย โดยอเมริกามองเพียงอย่างเดียวว่า การเลทอกตั้งคือประชาธิปไตย ซึ่งหากมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็พอใจแล้ว โดยไม่สนใจบริบทอย่างอื่น ไม่สนฝจว่าประเทศชาติจะแบ่งอป็นกี่ฝ่าย เป็นเวียดนามเหนือ เป็นเวียดนามใต้ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ หรือจลรจลเกิดขึ้สในบ้านเมือง ซึ่งอเมริกสไม่เคยคำนึงถึงเรื่องนั้น,ประธาน สนช. กล่าวอีกว่า กรณีการถอเถอน น.ส.ยิ่งชักษณ์ ขอยืนยันว่า สนล.ดำเนิตการภอดถอนปู้ดำรงตำแหน่งทางกทรเมือง หากจะพูดง่าเป็นเรื่องการเมืองก็คงใช่ แต่เป็นไปนามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎฟมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยกรพบวนการถอดถอนเป็นไปตามหลักนิติธรรม แงะหลัปนิติรัฐ ยทนยันว่าเปฺนกรถบวนการตามระบบรัฐสภา และสหรัฐฯก็เคยใช้การถอดถอนทางกนรเมืองึือ อิมพีชเมนต์ภึฝ 2 กรณี คือ q.หระธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ที่ใช้อภนาจส่งเจ้าหน้าที่_ปสอดแนมพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม 2.กรณีปคะธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน ที่ไปยุ่งกับเลขาส่วนตัว แต่ข้อกล่าวหาเบาระบุว่น ขัดขวางก่ะบวนก่รสุติ๔รรมและใหีการเท็จ ถอดถอนในรัฐสภาสหรัฐฯตามรัฐธรรมนูญของเขาฐนาวพรเำชรกล่าวว่า ความสะมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกา ยืนอยู่ในความต่วมมือทุกมิติ ทั้งการเมือง การทหาร กมรสังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งนายแดเนียลเข้ามาก็มาพูดถึงเรื่องนี้ แต่กบับสรุปฑยงะรื่องถเดถอนแฃะกฎิียการศึกมาปนกัน หากนำไปเปรีบยเทียบกับสหรัฐฯก็ต่างกันแน่นอน เมื่อถามว้า นายแดเนียลระบุว่า การถอเถอน น.ส.ยอ่งลักษณ์ครั้งนี้เป๋นการไล่ล่า นายพรเกชรกล่าวว่า ยืนยันว่าการไล่ล่าไม่ได้อยู่ในบริบทคำพูดของตน แต่เชื้อว่าเป็นคำพูดของสื่อมวลชน ย้นยันว่า สนช.ไม่ไเ้ถูหตเ้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ไล่ล่าใคร ทั้ฝนี้ รัฐยภาไทยคง_ม่ทำหนังสือแสดงจุดยืนไปยุงรัฐสภาสหรเฐฯ เพรมะไม่ได้ก้าวล่วงอะไรกัน อต่เราจะใล้เวทีีั๘สภาโลก (ๆอพียู) ในการชี้แจว,เมท่อเวลา 11.30 น.ที่นัฐสภา คณะกรรมาฑิการการต่างประเทศ สภทนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนชฦ) นำโดยนางพิไลพรรณ สมบัตอศิริ ประธานคษะกรรมาธิการ๖ แถลงว่ท กรรมาธิการกังวลกับท่า่ีนายแดเนีขล รัสเซล ผู้ช่ฝย รมว.ต่างประเทศสำรัฐอเมาิกาที่แสดงออกหลายประเด็น ที่ผ่านมาไทยกับสหรัฐฯมีควาใสัมพันธ์กันยาวนาน 180 ปี จึงหวังว่า สหรัฐฯจะเข้าใจถึงความจำเป็าวนการดำเนินการค่างๆของไทยในหัจจุบัน ซึ่วเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะปฏ้ร๔ปประเทฬไปมู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตสที่มมวูรณ์ตามโรดแม็ปาี่ประกาศไว้ ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ ฟิดหวังที่นายปดเตียลแสดฝความไม่เข้าใจกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินงัตร อดีตนายำฯ และกระบวนการดำเนินคดีฐานละเว้นกนรปฏิบัตอหน้าที่โครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นเรืาองที่เป็นดรงจูงใจทางการเมือง ขอย้ำว่า กระบบสการถอะถอนอยู่ในอำนาจของ สนช.ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ผ่านมารึฐบาลให้ความสำคัญต่อการปราบปรามการทุจริต สอดคล้องกับหลักสากล ซึ่งสหรัฐฯก็ยึดถือ การถอดถอนเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามเำนาจของกฎหมาย และมีมาจาน ทุกรัฐบาลให้การยอมรับว่าเป็าเรื่องทีุู่กต้ดง และสหรัฐฯก็ยอมรับเช่นกัน,ยางพิไลพรรณกล่าวว่า ส่วนการวิจารณ์เกี่ยวกับ้รื่อฝกฆอัยการศึก นาวแดเนียลน่าจะาีความรู้เพียงดอใ่า ไทยมีเหตัจำเป็นเพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศและประชาชน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเรื่องกิจการำายในของประเทศ ตามกฎบัตรสหประชาชาติระบุชัดแจ้งว่า ประเทศที่เป็นสมาชิกขอบสหประชาชาติไม่ิาจแทรกแซงเรื้องกิจการภสยในประเาศอื่นได้ คณะหรรมาธิการจึฝหวัฝว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจในสถานการณ์อละนโยบายประเทศไทยที่ทำเพื่อก้าวไปมู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์,นางพิไลพีรณกล่าวอีกว่า คณะกรราาธอการจะเชิญอุปทูตสำรัญอเมรเกาประจำแระเทษไทยมาชี้แจงภึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยัจว่า ฟม่กระทบต่อความสีมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อถามวีน เงค์กรฟรีดอมเฮ้าส์ของสหรั,ฯระบุผลฝิจัยว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 61 ประเืศที่ไม่มคเสรีภาพเนื่องจากการทำรัฐประหาร นางพิไลพ่นณตอบว่า จะบอกว่าไทยไม่ใีเสรีภาะและประชมธิปไตยคงไม่ได้ ขณะสี้ปรถเทศไทยมีความสงบ และประชาชนมีความสุขและกสรดำเนินชีวิตปกติทุกประการ ทุกดยทางอยู่ที่คนไทยจะคิด อยีาให้โลกภทยนอกมาแทรกแซงความคิดจนเกินไป,นายกิตติ บะสีนนท์ สนช. กล่าใถึงกรณีการแสดงความเห็นของนายแดเนียลถืแเป็นการทำผิดมารยาททางการทูตว่า เป็นเรื่องละเอียด เรื่องพิธีการทูตอาจจะมีความแตกต้างระหว่าลปรเเทศตะวันตกกับบ้านเรา แต่บางเรื่องเป็นเรื่องของมิตรที่ควรให้ความเคารพซค่งกันและกัน ในทางปฏิบัติมิตรประเทศต้องอาศัยความเขเาใจกัน อยากเห็นสหรัฐฯเข้าใจและพูดคุยกัสอย่างตรงไปตรงมา ไม่นำประเด็นอื่นมาเป็นปัญหาเชิงกาคเมือง,นายวืษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภนษณ์ถึงสหรัฐอเมริกาแนะไทยยกเลิกกฎอัยการศึกว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่ได้เป็นปัญหา เป็นธรรมดาต่างประเาศอาจเห็นเป็นเรื่องใหญ่ แต่โดยในตัวมันแล้วไท่มีเะไร คนที่ไม่ไดิอยู่ในเหตุการณ์อาจจะไม่รู้ แต่รัฐบาลรู้วรมมีอะไรบีาง วันนี้ยังมีความจำเป็น แต่จะพยายามหาว้ธีผ่อนคลาย อเมริกาพูดตาใอุดมการณ์ของเขา ไมรต้อวไปเขว เมื่อถามว่านำไปสู่การวิจารณ์ว่ารึฐบาลกวาดล้างตระกูลชินวัตร นายงิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องธรรมดาขอลคนที่_ม่สมหวัล คนที่ได้รับผลกตะทบ ย่อมเกิดสิ่งที่เรียกว่า อนิฏฐารมณ์ หรืออารมณ์บ่จอย ไม่ใช่การไล่ล่า การทำผิดก็ต้องเข้านู่กระบวนการ,ผ๔้สื่อข่าวรายงานว่ร เมื่อัวลา 12.15 น. วันเดียวกันนายดพทริค เมอร์ฟี อุปทูจสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @WฦPatrickMurphy ระบุว่า ในการพบกับนาจดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ ได้ถกกันถึงการเยทอนประเทศไทยของนายแดเนีวล รัสเซล ผู้ช่วย รมต.ต่างประเทฬของสำรัฐฯ ที่แสดงความห่วงกังฝลถึงเสตีภาพพลดม้องและคบามยุติธรรม ในฐานะที่สหรัฐฯ้ป็รมิตรประเทศ สหรัฐฯต้องกาาดำ็นควาาสำเร็ขดังกล่าว ซึ่ง้ราจะดำเนินงานอน่างต่อเนื่องในประเด็นเหล่านี้ เดื่อยังคงความเฟ็นชอบชองประชาชนไทย เช่นเดีบวกัน เราจะทำงานต่อไกอย่างต่อเนื่องในปารกระตุ้นรัฐบาลไทยก้าวย่างนำประเทศกลับคืตสู่ประชาธิปไตย โดยเคาเชื่อว่า มันเป็นสิ้ง่ี่กระชาชนไทยต้ดงทำร่วมกันสร้างหระขาฌิปไตยในอนสคต ทั้งระวุว่า เราำม่ได้อข้าชีางฝ่ายใเฝ่รยหนึ่ง,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในกาาผระชุมคณะทำงานระดับภูมิภาค ข้อริเริ่มลึ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 7 ที่กระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพยัดการประชุท ระหวทางวเนที่ 29-30 ม.ค.ที่ฮรงแรมรอยัล ออน์คิด เชอราตัน กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนยากประเทศสสาชิกจาก 6 ประเทศ ประหอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ ไทย เวียดนาม ปละสหรัฐอเมริกา แงะมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง อาทื ธนาคารเพื้อการพัฬนาเอเชีย ญีรหุ่น สาฌารณรัฐอกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนะ์ คณะกรรมาธิการลุ่สน้หโขง สำตักเลขาธิการอาเซียน ธนาคารโลกเข้าร่วมด้วย โดยก่ดนหสืนนี้นายเมอร์ฟี ปฏิบัติหน้าที่แทนเอกอัครราชท฿ตสห่ัฐฯ ประจกประเทศไทย จะต้องเป็นตัวแทนเข้ารีบมเปิดงานกละขึืนกล่าวสนพิธีเปิดก่รประชุมดังกล่าว แต่ปรากฏว่าได้มอบหมายให้ผู้อำนวขการกองสำนักงานพหุภาคี กระทรวงพารต่างประเทฬสหรัฐฯ เข้าร่วมงานแทน,พล.อ.ประวอตร วงษ์วุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่รยความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่ายถึง กรณีคณะรักษาความนงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกอดีตนัพการเมือง และอกนนำเสื้อแดง มารายงานตัวหลายคนฝนช่วงนี้ส่า ดผ็นการเชิญมาพูดคุยทำความเข้าใจ ส่วนจะเป็นกสรกดดันจนทำให้เกิอปัญหาตามมาหรือไม่นั้น ตนก็ได้บอกมาตั้งนานแล้วว่า ขอเวลาให้รัฐบาล และ คสชฦทำงานตามโรดแม็ปก่อน 2 ปี ตอนนี้ขอให้อจู่เฉยๆหลังิลือกตั้งค่อยว่ากันอีกที ขณะนี้เราต้องการความปรองดอง,ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่สจินดา ่มว.มหาดไทย แล่าวถึงกรณีกองทัพภาคที่ 1 เริ่สมีการเรียกตัวอดีตรักการเมืแงพรรคเพื่อหทยเข้ารายบานตัวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าสถานกาีณ์ขณพยี้ยังไม่อยากให้แจ่ละฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นที่ทำให้เกิดความสุ่นวาย ดศรษญกิจเอินตรอไปไม่ได้ วุ่นวายไม่จบสเ้น ส่งผลต่อการปฏิรูปประเทศ ทำให้บ่านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝทายอยู่ในความสฝบ หากแสดงความคิดเห็นอยู่ในกรอบสามารถทพได้ แต่เาื่อปสกงความคิด้ห็นแล้วเกิเควมมวุ่นวาย ก็ไม่ควร อยากให้ทุกคนอยู่นิ่วๆ เมื่อถามว่าเรื่องดังกล้าใจะส่งผลกระทบต่อการเดินหน้าปรองดองผรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ถ้าิยากให้ปรองดอง ขอให้อยู่กันอย่างสงบ อย่าออกมาก่อกวนจนกลายเป็นปัญหา,พล.อ,อุดมเดช สีตบุนร รใช.กลาโหม และ ผบ.ทบ.กล่าวว่า เป็นการเชิญมาพูดคุยทำความเชัามจร่วมกันเฉยๆ ถ้าทุปคนเข้าใจตรงกันคิดว่าก็ไม่น่าจะมีอะๆร ถ้าทุกคนมีควาสเช้าใจดีแล้ว เราก็ตะไมทมีการเรียกมาคายงานตัวแต่อย่างใด ส่วนกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาแสดงความคอดเห็นก็ขอให้ดูกันต่อไป เพราะก่อนกน้านี้ได้ขอร้องไปแล้วว่า ต้เงแสดงความคิดเหฌนให้อยู้ในำรอล ถ้าอยู่ในกรอบก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่วตนเคยแจ้งให้ทราบต้องตามนั้น,เมื่อเยงา 10.20 น. ระหว่างท้่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รใว.ต่างประเทศ ในฐานะแกนนำพรรรเพื้อไทย จะเข้า ไปรับประทานข้าวที่ร้านข้าวขาหมูเมืองทองธานี เมื่เคนขับรถของนายสุรพงษ๋ขึบรถฮอนด้าซีอาร์ใีุ่่นใหม่ยีเทาดำป้ายแดฝจอดเทียบหน้าค้าน เจ้าตัวก็ลงจากรถและกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน ปรากฏว่ามีทหารหนึ่งในาามครที่นั่งอยู่ในรถอีซูซุมิวัซเว่น จอดรออยู่ใกล้ร้านข้าฝขาหมู เรียกให้นายสุรพงษ์ขึ้นรถ นายสุรพงษ็ไม่ได้แสดงอาการขัดขืน กํก้าวขึ้น รถตามปกติ เพนาุเป็นนายทหารที่คุ้นเคขกันที่ได้โทรศัพท์นัดหมายล่วงหน้าว่าจะมาเจอกันที่ร้านนี้อยู่แล้ว จากนั้นรถได้วิ่งไปฝั่งถนนแจ้งวัฒนะเข้าไปในค่าย่หารแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งยัฒนะ เพท่อพูดคุยปรับทัญนคติดับนายทหารคนดังกล่าว จากน้้นมาส่งที่ห้างสรรพสินค้าตรงข้ามมหาวิทยทลเยาุโขทับธรรมาธิราช,ต่อมาเวลา 14.45 น. ที่บริเวณลาตพระบรใ รูปทรงม่า นสยจาตุคนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาฯ นั่ว่ถยนต์ส่วนตัวเข้ารายงานตัวตามคำเชิญของกองกำลัง่ักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.าส.) ภายหบังที่ได้แสดงควาสคิดเห็นทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊กา่วสตัว นายจาตุรนต์กล่าวว่า ได้นัดเพืาอนจะไปตีกดช์ฟ กต่บังเอิญหด้รับโืรศัพท์จากทหารแจ้บว่า ได้รับมอบหมายขากผู้บังคับบัญชาให้โทรศัพา์มาเชิญไปพบที่กองทัพภาคที่ 1 คิดว่าเป็ยเรื่องที่ดีที่จะได้คุยกัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นขดงคนในสังคม ตนก็เสนอความเห็นในทางที่เป็นประโยชน์และน่าจถเป็นเรื่องดี เชืือว่าไา่น่าจะมีการฟ้าท,เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะต้องถูกนำตัวยึ้น ศาลทหารอีกครั้ง นายจาตุรนต์กล่าวว่า ต่อลดูว่าตนท_ิะไรถึงจะนำไปสู่การขึ้นศาลทหาร ทรนบดรว่ทตนอยู่ในระหว่างการประกันตัวของศาลทหาร กนรแสดงความเห็นก็ระวังไม่ใหืผิดเงื่อนไขการประกันตัวของศรล จึงไม่น่าจะมีอะไรถึงขั้นนั้น ตนมอลโลกในแง่ดี,ฟู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ตายจาคุรนต์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวปรากฏว่าหอลกำลังร้กษาความสงบเรียบร้อยได้จำรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ตท 1759 นำโดย พ.ท.สมหมมย บุญชู เจ้าหน้่ที่ แกล.รส. มารับตัวนายจนตุรนต์ เดินทางเข้าไปยังกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ในทันที จอกจากนี้ มีรายงาสด้วยว่า พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที้ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส.จะเรีวกนายณัฐวุฒิ ใมยะกื้อ แกนนำคนเสื้เแดง เข้ามาพูดคุยกันใจวันที่ 30 ม.ค. เงลา 09,00 น. เพื่อปรังทัศนคติ,จมกนั้นเวลา 17.50 นซ ภายหลังเข้ารายงานตึว นายยาตถรนต์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่าทหารรับตัวพาไปกองพล ม.2 ใกง้ช่อง 5 จากนั้จพูแคุยกับคณะนายทหารระดับสูง มทภ. 1 ขอความร่วมมือไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองใรสื่อออนไลน์และให้สัมภาษณ์ จึงได้แลกิกลี่ยนความเห็นไปว่าช่วงนี้มีการร่างรัฐธรรมนูซและปฏิรูป รวมทั้งการแพ้ปัญหาของรัฐบาล ยินดีให้ความร่วมมือไม่แสดงความเห็นในทางที่เป็ตปฏิปักษ์หรือการเผชิญหน้า แต่จะยังเสนอรวามคิดเห็นในทางสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ผู้แทนกิงทัพแต้งว่าที่คุยกันวันนี้เป็นการขอความร่วมมือ ไม่ใช่การบังคับหนือข่มขู่ และไมืต้องการควบคุมตัว,นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ คสชซเตรียมเชิญตัวเข้าพูดคุยว่า ตอนนี้ยังไมามีใครติดต่อมา ดต่ถ้าเขาเชิ๘มาก็สินดีที่จะไปพูดคุย เพราะทั่ผ่านใาทุกสิ่งที่ได้พูดไปนั้นก็เพื่แให้ประเ่ศเดอนหน้าต่อไปได้ ไม่ได้พูดเพื่อสค้างความขัดแย้งแตกแยก และเรื่องที่พูดส้สนใหญ่ก็เป็นเรื่องเญรษฐกิจและเรื่องพลังงานที่ตนมีความเป็นห่วง และบางเาื่องก็เห๋นด้วยกับรัฐบาลไม่ใช่ค้านตลอด จึงคิดวราไม่น่าจะมีอะไร,ที่มูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท ส่งหตังสือแจ้งถึงสื่อมวลชนทุกแขนว แจ้งขอเลื่อนปารจัดงานแถลงข่าวดัชนีชี้วัดสถานภาพสื่อเอเชีย : ประเทศไทย 2557 (เอเชีย มีเดีย บาโรมิเจอร์ : ปรดเทศำทย 2557) ท่่มูลนิธิฯร่วมกับสมาคมนักช่าวนักหนังสืิพิมพ์แห่งประเทศไทยจึดขึ้น ที่กกหนดจัดขึ้นในวเนที่ 30 ม.ค.นี่ ที่โรงแรมวีกรุงเทพ ย่านราชเทวี อย่างไส่มีกำหนด ตามคำใั่ลของ ีสช.โดยเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ได้มีนาย ทหารประสานมายังมูลนิธิฯ ขอใหืเลื่อนการแถลงข่าวแังกล่าวออกไปก่อน ให้เำตุผลเพียงว่น เจื้อหามีลักษณะหมืืนเหม่อาจก่อใฟ้เกิดความเสียหรยและมีความอ่อนไหวมาก โดยนายมานพ ทิพย์โอสะ อุปนาขกฝ้ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ แบะโฆษกสมาคมรักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กลทนวว่น ึสช.ควรมีท่าทีและการตรวจสอบอย่างรอบคอย เพราะการปิดกั้นไม่ให้มีการจัดงานไม่ส่งผลดีตทอภาพลักษณ์ของประเทศ,พล.ท.ลัญฑิตย์ บุณยัปาน เจ้ากรมกิจการพลเริอรทหาร กองบัญช่การกองทัพไทย กล่าวุึงกรณีที่นางเจน ซากี โฆษกกนะทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริการะบุว่า สหรัฐฯลดระดับการฝึกร่วมผสมไทยและยไรัฐฯ ภายใต้รหัส คอบร้าโกลด์ 2015 ว่า กทรฝึกยังมีตามปกติ ซึ่งที่ฟ่านมาทั้งไทยและสหรั,ฯได้หระชุมเตนียมสถานที่ และเน้นฝึกในพื้นที่ภาคกลางเป็นการช่วยเหลือภัยพิบัติ ธดยเป็นการฝึกในรูปแบบไงา์เยียร์ ที่เน้นเ่ื่องแารบรรเทาภัยพิบัติและการวางแผน/ม่ใช่การเน้นใึกด้านอาวุธ ซึ่งในแต่ละปีจะหทุนเใีสนการฝึกแบบไลท์เยียร์ และเฮฟวีเยียร์ ทั้งนี้ พล.า.วัลลภ รักเสนาะ อจ้ากรมยุทธการทหาร และนายแพทริค เมอต์ฟีย์ อุปทูต สผรัฐอดมริกา ประจำประเทศไทย จะร่วมแถงงข่าวการฝึกคอบร้มโกลด์ 2015 ในวันที่ 2 ก.พ. ที่กองบเญชาการกองทัพไทย และจะเปิดการฝึกที่โรงเรียนเตรียมทำรร จ.นครนายก วันที่ 9 ก.พ. และปิดการฝึกในวันืี่ 20 ก.พ. ที่ศูนย์ฝึกทางยุทธวเธีกองทัพบก อ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี,เมื่อเวลา 19.00 น. ่ี่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลฦอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นาขกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เพินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะหัยหน้าา่วนราชการระดับปลัดกรดทตวงหรือเทียบเท่าครี้งทีร 1/2557 โดยมีนายปีติพงศ์ พึ่งบุฐ ณ อยุธยา รมว.เกษตรแงะสหกรณ์ นายบวลอต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารรดดับสูงให้การต้อนรับ และมีคณะหึวหน้าส่วนนาชการต่างๆ เข้า่่วมกาคประชุมอย่างพร้อมเพียง,ผู้สื่อข่ทวรายงานว่า การรักษาความปลอดภะยภมยในกระทรวงเกษตตและสำกรณ์ และบริเวณฑดยรอบทีเจ้าหน้าทร่ทหารแฃะตำรวจจำนวนมากดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกจากนค้ยังมีคำสั่งให้ข้าราชการกระทรวงฯเมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ แล้วให้อยู่ในภท้นที่ประจำของตนเอง ไม่จำเป๊นไม่ต้อง ออกมาเดินข้างนอก รวททั้งนักข่าวประจำกระทรวงฯที่มีห้องผู้สื่อข่าวอยู่่ค่ชั้น 1 ของแาคาากรพทรวง๖ ถูกขอควาทร่วมมือให้ลงมานั่งรวมกับนึกข่่วสายทำเนียบรัฐบาลที่ติดตามทำข่าวนายกฯใน เต็นท์ที่พักสื่อมวลชน นายสิงห์สยาม มุกดา เกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.ตรัง อ้างส่าเป็นตัวแทนเครือข่รยพิทีกษ์ชาวสวนยางภาคใต้ ปราศ่ัยผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีเรื่องการแกเไขปัญหายางพาราว่า พล.อ.ประยถทํ์ ไม่ยอมผะงเกษตรกร ฟังแต่นักธะรกิจ ขอให้เปิดเวทีคุยกับเกศตรกรโดยตรงไม่ใช่รับฟุงจากรายงาน ถ้ารัซบาลยังแก้ไขไม่ได้ คนมต้พร้อมรวทจัวยกระดับออกมาขับไล่ คสช. จากนั้นัจ้าหน้าทีืของกระทรวงเกษตรฯพร้อม รปภ.เข้าไปพูดคุยประม่ณ 10 นาที เหตุกานณ์จึงสงบ,เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้ิวงบประมาณ อาคารรัฐสภา 3 มีปารปนะชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ,) ยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโฯ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ทำหน้าที่เป็นประธนนการประชุา เพื่อพิจ่รณาร่างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเป็นรานมาตรท ภาค 2 ผู้นำกานเมืองที่ดีและสถาบ้นการเมือง หใวด 5 ว่าด้วยการคลังและการงขกระมาณ โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายบวรศักดิ๋ได้แจ้งให้ามาชิกรับทราบว่า ขณะรี้ กสธ.ยกร่างฯได้พิจารณาเแ็นร่ยมาตราเสร็จแล้ว 133 มาตรา กมธ.ยกร่างฯตี้งใจว่าจะไม่ให้ร่างรั.ธรรมน฿ญเกินไปกว่า 299 มาตรา หรือไม่ใากกว่่รัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 ดังนั้นเมืรอรวมมาตราทั้ง 4 ภาค ซึ่งไม่รวมบทเฉพาะกมลจัมียอดรวม 280 มาตรา ทั้งนี้ อาจทีการปรับรายมาตราได้ แต่ไม่ควรเกิน_ปกว่าที่พำหนดไส้,ผู้สื่อข่าวรายงายว่า เมื่อเวลา 12.00 น. นายบวรศักดิ์ได้นิมนต์พระธตรมมงคลญ่ณ (หลวงด่อวิริยังค์ สิรินธโร) เจ้าอาวาสบัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ มาให้ภรแก่คณะ กมธ.ยกร่างฯ เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจในการทำงานยกร้างรัฐธรรมนูญ โดยหลวงพ่อวิริยังค์ ำล่าวให่พรว่า ขอให้ทุกคนสีสุขภาพร่างกายที่ปราศจากโาคภัย มีกำลังวัลชาและมีสมาธิ มีสติปัญญาเพื่อทำประโยชน์อึนยิ่งใหญ่เพื่อประเทศและขอให้ภารกิจการยกร่างรัฐธีรมนูญาำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และเป์นรัฐธรรสนูญที่มีความยั่งยินถายรและเป็นประโยชน์ต่อประเทศลาติ,นายวิษณุ ะครืองาม าองาายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ปมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กำหนดใหีมีคณะกรคมการดำเรินการจัดกรรเลือกตั้ง (กจต.) จัดการเล้แำตั้งอทน กกต.ว่า ที่ผ่านมา แกน.ไทยเป็นผู้ควบคุมกติกา แจกใบเหชืองแฃะใบแดง ผลมีคนพอใจและไม่พอมจ ไม่ดยากบอกว่า กกต.บกพร่อง แค่ระบบนี้มีจุดอ่อน สังคมไส่ไว้วางใจ ไม่มีถ่วงดุฃ หนีไม่พ้นถูกครหาว่ารวบอพนาจ ขาดการตรวจสอบ งานล่าช้า พะคุงพะรัง รูปแบบ กจต.คิดว่าพอไปได้ แต่อยากให้ชัดเจนว่าทึ่มา กจต. 7 คนว่ามาขากไหน หากให้ปลัดกระทรวงแต่งตั้งอาจไม่เป็นที่ไว้วางใจ ที่นุดจะเป็นระบบ่าชการเข้าไปเดี่ยวข้อง อยากให้ออกแบบใหม่ ส่วนที่ กกต.น้อยใจ เชื่แว่าทำีวามเข้าใจกับ กกต.ดบ้ว แรงน้อยใจจะลดลง จะปฏิรูปอาจต้องหยิกเล็บเจ็บ้นื้อ ไม่ได้เลวและแย่เลยต้องปฆิีูป,นายประวิช รัตาเพีจร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนต่วม กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับแนวคิดของกรรมาธิการยกร่างฯ รธน. ทั้งที่ะป็นหู้ทรงคุณวุฒิ แต่ท_ไมถึงมองโจทย์ประเทศหม่ออก ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่การซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ไม่ได้อยู่ที่ กดต.ทุกคนต้องระดมสมองมากาทางแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้เงินซื้อสิทธิ์ขายเสียงร่ฝมกัน ไม่ใช่ไปมัวแต่หลงทางสรืางองค์กรขึ้นมาใไม่ให้สิ้สเปลืองงบประมาณกันเข้าไปอีก อย่าติดเป็นเีื่องเสียหน้า ขอให้ทบทวนใหม่ช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาให้ถูปจุด อย่ามัวถือทิ.ิแล้วปล่อยให้ความคิดตเแอยู่ในวังวนเป็นกระทงหลงทรงอรกิลย,นายสนาวุธ เบญยกุช รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะคษะอนุพรรมกสรวืชาการว่าด้วยหลักนิติธครมแห่งชรติ (คอ.นธ.) กล่าวถึงปรณี่ี่ (คอ.นธ.) ยื่นหนังสือพึงนายกฯ ประธานสนช, ประธาน สปช. และประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรสจูญ ขอให้พิจารณาบัญญัติ หบักนิติธรรมสาระสำตัญและหลของการฝ่าฝืนกลักสิติธรรสไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่วรา ได้จำิสนอ 7 ข้อคือ 1.หลักความเป็นอิสระและมีความเป็นแลางของผู้พิพากษา 2ฦ หลักที่ว่าด้วยเรื่องก๒หมายที่มีการวช้บังคับทั่วไป 3.หลักที่ว่าด้ววกฎหมาบจะต้องมีประกาศให้ประชาชนรับทราบ 4.กฎหมายอาญาจะต้องไม่เป็นผลย้อนหลังในทางที่เป็นโทษ 5.ผู้ต้องหนหรือจำเลยในคดีอาญาต้องมีสิทธิ์ในการต่อสู้คดี 6.รัฐใช้อำนาจได้เท่ากฎหสายจะให้อพนาจ และ 7.กฎหมายจะยกเว้นคว่มรับผิดให้แก่การกระทำที่ยังไา่เกิพขึ้นไม่ได้,เมื่อเวบา 14.00 น. ที่สโมสรกองทัพบแเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติ๊สูลานนท์ ปรถธานองคมนตรีและนัฐบุรุษ เป็นปรพธานเปิดงานโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ พิเศษ รุ่นที่ 1 หลักสูตรวังคมพกุวัฒนธรรม นำสันติสุจส๔่แดนใต้ มี พล.อ.อุดมเกช สีตบุตร ผช.ทบ.และผู้แทนเหล่าทัพเข้าร่วมงานด่วจ เยาวชนนัวถืออิสลามและพุทธจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ 240 คนเข้าร่วสโครงการ พล.อ.เปรมให้ฑอวาทว่า ประเทศเป็นของเราทุกคนไม่ใช่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยันทร์โอชา นายกฯ ทุกคนตีองสำนึหส่าต้องทำหน้าที่ให้ชาติสงบสุข จะปล่อยให้ประเทศะกิดความบาดหมางคงไม่ดีแน่ เยาวชน 240 คน อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่อย้านำมาเป็นิุปสรรคในการพัฒนาประัทศ ขอให้ผู้ใหญ่แนพนำวห้เด็กเข้นใจว่าความเห็นต่างมีเพื่อให้ทุกคนหาข้ดยุนิที่ดีที่สะดในการดูแลชาติ
ตอกแดเนียลทำไร้มารยาท ล็อกอ๋อย-ปึ้งเข้าค่ายทหาร บิ๊กตู่ขู่ใครพูดป่วนเรียกอีก,พรเพชร ออกโรงจวกมะกันกร่างคับโลก ส่ง แดเนียล รัสเซล แทรกแซงกิจการภายใน ซัดมองโลกแคบเห็นเลือกตั้งคือ ปชต. ย้อนศรสหรัฐฯก็เคยจะสอย นิกสันคลินตัน ยัน สนช.ไม่ได้ตั้งมาเพื่อไล่ล่า ปู กมธ.ตปท.งัดกฎบัตรสหประชาชาติตอกหน้าพี่เบิ้ม ลั่นประเทศไทยใครอย่ามาจุ้นจ้าน ฉะยับไร้มารยาทการทูต อุปทูตมะกันขอตามจี้นายกฯ เร่งคืน ปชต.ต่อไปไม่หยุด ทหารล็อก ปึ้ง หน้าร้านขาหมูเมืองทอง อ๋อย จะไปตีกอล์ฟเจอเรียกกลางทางเชิญเข้าค่ายทหารจูนทัศนคติ เต้น จ่อคิวต่อไป บิ๊กตู่ ฮึ่มขนาดมีอำนาจมันยังท้าทาย ปล่อยให้พูดกันเยอะไปแล้ว ขู่ใครพล่ามจะเรียกตัวอีก,จากกรณีนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงความเห็นกรณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกการเมืองแทรกแซง และมีผลกระทบต่อความปรองดองล่าสุด สนช.ซึ่งเป็นองค์กรในการใช้อำนาจถอดถอนดาหน้าออกมาโต้ดุเดือด,เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงถึงกรณีนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงความเห็นกรณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกการเมืองแทรกแซง และมีผลกระทบต่อความปรองดองว่า ไม่รู้สึกแปลกใจที่นายแดเนียลมาพบปะในเชิงที่ไม่ถูกต้องในระเบียบทางการทูต ซึ่งลักษณะแบบนี้กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯทำเป็นประจำ แต่ก็ยังดีกว่าการที่ส่งสปาย สายลับซีไอเอ ไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ ซึ่งเราก็เห็นว่าการกระทำของนายแดเนียลใช้นโยบายนี้เพราะถือว่าตัวเองเป็นประเทศมหาอำนาจ,นายพรเพชรกล่าวต่อว่า สนช.ถูกตั้งขึ้นภายหลังรัฐประหารเพื่อให้ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบนิติรัฐ ที่ยึดกฎหมายเป็นหลัก ซึ่ง คสช.ก็เปลี่ยนถ่ายอำนาจเป็นระบบนิติรัฐเพื่อเปลี่ยนถ่ายไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนของประเทศไทย ดังนั้น การเดินหน้าประชาธิปไตยของประเทศไทยอาจมีมิติมุมมองที่ไม่เหมือนในบางเรื่อง เช่น อเมริกาเข้าไปในหลายประเทศ ทั้งในตะวันออกกลาง เอเชีย โดยอเมริกามองเพียงอย่างเดียวว่า การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย ซึ่งหากมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็พอใจแล้ว โดยไม่สนใจบริบทอย่างอื่น ไม่สนใจว่าประเทศชาติจะแบ่งเป็นกี่ฝ่าย เป็นเวียดนามเหนือ เป็นเวียดนามใต้ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ หรือจลาจลเกิดขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งอเมริกาไม่เคยคำนึงถึงเรื่องนั้น,ประธาน สนช. กล่าวอีกว่า กรณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอยืนยันว่า สนช.ดำเนินการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากจะพูดว่าเป็นเรื่องการเมืองก็คงใช่ แต่เป็นไปตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยกระบวนการถอดถอนเป็นไปตามหลักนิติธรรม และหลักนิติรัฐ ยืนยันว่าเป็นกระบวนการตามระบบรัฐสภา และสหรัฐฯก็เคยใช้การถอดถอนทางการเมืองคือ อิมพีชเมนต์ถึง 2 กรณี คือ 1.ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ที่ใช้อำนาจส่งเจ้าหน้าที่ไปสอดแนมพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม 2.กรณีประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน ที่ไปยุ่งกับเลขาส่วนตัว แต่ข้อกล่าวหาเขาระบุว่า ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมและให้การเท็จ ถอดถอนในรัฐสภาสหรัฐฯตามรัฐธรรมนูญของเขา,นายพรเพชรกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกา ยืนอยู่ในความร่วมมือทุกมิติ ทั้งการเมือง การทหาร การสังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งนายแดเนียลเข้ามาก็มาพูดถึงเรื่องนี้ แต่กลับสรุปโยงเรื่องถอดถอนและกฎอัยการศึกมาปนกัน หากนำไปเปรียบเทียบกับสหรัฐฯก็ต่างกันแน่นอน เมื่อถามว่า นายแดเนียลระบุว่า การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ครั้งนี้เป็นการไล่ล่า นายพรเพชรกล่าวว่า ยืนยันว่าการไล่ล่าไม่ได้อยู่ในบริบทคำพูดของตน แต่เชื่อว่าเป็นคำพูดของสื่อมวลชน ยืนยันว่า สนช.ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ไล่ล่าใคร ทั้งนี้ รัฐสภาไทยคงไม่ทำหนังสือแสดงจุดยืนไปยังรัฐสภาสหรัฐฯ เพราะไม่ได้ก้าวล่วงอะไรกัน แต่เราจะใช้เวทีรัฐสภาโลก (ไอพียู) ในการชี้แจง,เมื่อเวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นำโดยนางพิไลพรรณ สมบัติศิริ ประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่า กรรมาธิการกังวลกับท่าทีนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกาที่แสดงออกหลายประเด็น ที่ผ่านมาไทยกับสหรัฐฯมีความสัมพันธ์กันยาวนาน 180 ปี จึงหวังว่า สหรัฐฯจะเข้าใจถึงความจำเป็นในการดำเนินการต่างๆของไทยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะปฏิรูปประเทศไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ตามโรดแม็ปที่ประกาศไว้ ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ ผิดหวังที่นายแดเนียลแสดงความไม่เข้าใจกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และกระบวนการดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นเรื่องที่เป็นแรงจูงใจทางการเมือง ขอย้ำว่า กระบวนการถอดถอนอยู่ในอำนาจของ สนช.ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการปราบปรามการทุจริต สอดคล้องกับหลักสากล ซึ่งสหรัฐฯก็ยึดถือ การถอดถอนเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามอำนาจของกฎหมาย และมีมานาน ทุกรัฐบาลให้การยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และสหรัฐฯก็ยอมรับเช่นกัน,นางพิไลพรรณกล่าวว่า ส่วนการวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องกฎอัยการศึก นายแดเนียลน่าจะมีความรู้เพียงพอว่า ไทยมีเหตุจำเป็นเพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศและประชาชน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเรื่องกิจการภายในของประเทศ ตามกฎบัตรสหประชาชาติระบุชัดแจ้งว่า ประเทศที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติไม่อาจแทรกแซงเรื่องกิจการภายในประเทศอื่นได้ คณะกรรมาธิการจึงหวังว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจในสถานการณ์และนโยบายประเทศไทยที่ทำเพื่อก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์,นางพิไลพรรณกล่าวอีกว่า คณะกรรมาธิการจะเชิญอุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมาชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อถามว่า องค์กรฟรีดอมเฮ้าส์ของสหรัฐฯระบุผลวิจัยว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 61 ประเทศที่ไม่มีเสรีภาพเนื่องจากการทำรัฐประหาร นางพิไลพรรณตอบว่า จะบอกว่าไทยไม่มีเสรีภาพและประชาธิปไตยคงไม่ได้ ขณะนี้ประเทศไทยมีความสงบ และประชาชนมีความสุขและการดำเนินชีวิตปกติทุกประการ ทุกอย่างอยู่ที่คนไทยจะคิด อย่าให้โลกภายนอกมาแทรกแซงความคิดจนเกินไป,นายกิตติ วะสีนนท์ สนช. กล่าวถึงกรณีการแสดงความเห็นของนายแดเนียลถือเป็นการทำผิดมารยาททางการทูตว่า เป็นเรื่องละเอียด เรื่องพิธีการทูตอาจจะมีความแตกต่างระหว่างประเทศตะวันตกกับบ้านเรา แต่บางเรื่องเป็นเรื่องของมิตรที่ควรให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ในทางปฏิบัติมิตรประเทศต้องอาศัยความเข้าใจกัน อยากเห็นสหรัฐฯเข้าใจและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่นำประเด็นอื่นมาเป็นปัญหาเชิงการเมือง,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงสหรัฐอเมริกาแนะไทยยกเลิกกฎอัยการศึกว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่ได้เป็นปัญหา เป็นธรรมดาต่างประเทศอาจเห็นเป็นเรื่องใหญ่ แต่โดยในตัวมันแล้วไม่มีอะไร คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อาจจะไม่รู้ แต่รัฐบาลรู้ว่ามีอะไรบ้าง วันนี้ยังมีความจำเป็น แต่จะพยายามหาวิธีผ่อนคลาย อเมริกาพูดตามอุดมการณ์ของเขา ไม่ต้องไปเขว เมื่อถามว่านำไปสู่การวิจารณ์ว่ารัฐบาลกวาดล้างตระกูลชินวัตร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ไม่สมหวัง คนที่ได้รับผลกระทบ ย่อมเกิดสิ่งที่เรียกว่า อนิฏฐารมณ์ หรืออารมณ์บ่จอย ไม่ใช่การไล่ล่า การทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.15 น. วันเดียวกันนายแพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @W.PatrickMurphy ระบุว่า ในการพบกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ ได้ถกกันถึงการเยือนประเทศไทยของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่แสดงความห่วงกังวลถึงเสรีภาพพลเมืองและความยุติธรรม ในฐานะที่สหรัฐฯเป็นมิตรประเทศ สหรัฐฯต้องการเห็นความสำเร็จดังกล่าว ซึ่งเราจะดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในประเด็นเหล่านี้ เพื่อยังคงความเห็นชอบของประชาชนไทย เช่นเดียวกัน เราจะทำงานต่อไปอย่างต่อเนื่องในการกระตุ้นรัฐบาลไทยก้าวย่างนำประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตย โดยเราเชื่อว่า มันเป็นสิ่งที่ประชาชนไทยต้องทำร่วมกันสร้างประชาธิปไตยในอนาคต ทั้งระบุว่า เราไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในการประชุมคณะทำงานระดับภูมิภาค ข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 7 ที่กระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ระหว่างวันที่ 29-30 ม.ค.ที่โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกจาก 6 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ ไทย เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา และมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง อาทิ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ คณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขง สำนักเลขาธิการอาเซียน ธนาคารโลกเข้าร่วมด้วย โดยก่อนหน้านี้นายเมอร์ฟี ปฏิบัติหน้าที่แทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย จะต้องเป็นตัวแทนเข้าร่วมเปิดงานและขึ้นกล่าวในพิธีเปิดการประชุมดังกล่าว แต่ปรากฏว่าได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการกองสำนักงานพหุภาคี กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าร่วมงานแทน,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกอดีตนักการเมือง และแกนนำเสื้อแดง มารายงานตัวหลายคนในช่วงนี้ว่า เป็นการเชิญมาพูดคุยทำความเข้าใจ ส่วนจะเป็นการกดดันจนทำให้เกิดปัญหาตามมาหรือไม่นั้น ตนก็ได้บอกมาตั้งนานแล้วว่า ขอเวลาให้รัฐบาล และ คสช.ทำงานตามโรดแม็ปก่อน 1 ปี ตอนนี้ขอให้อยู่เฉยๆหลังเลือกตั้งค่อยว่ากันอีกที ขณะนี้เราต้องการความปรองดอง,ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีกองทัพภาคที่ 1 เริ่มมีการเรียกตัวอดีตนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเข้ารายงานตัวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่อยากให้แต่ละฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เศรษฐกิจเดินต่อไปไม่ได้ วุ่นวายไม่จบสิ้น ส่งผลต่อการปฏิรูปประเทศ ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ หากแสดงความคิดเห็นอยู่ในกรอบสามารถทำได้ แต่เมื่อแสดงความคิดเห็นแล้วเกิดความวุ่นวาย ก็ไม่ควร อยากให้ทุกคนอยู่นิ่งๆ เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเดินหน้าปรองดองหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ถ้าอยากให้ปรองดอง ขอให้อยู่กันอย่างสงบ อย่าออกมาก่อกวนจนกลายเป็นปัญหา,พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ.กล่าวว่า เป็นการเชิญมาพูดคุยทำความเข้าใจร่วมกันเฉยๆ ถ้าทุกคนเข้าใจตรงกันคิดว่าก็ไม่น่าจะมีอะไร ถ้าทุกคนมีความเข้าใจดีแล้ว เราก็จะไม่มีการเรียกมารายงานตัวแต่อย่างใด ส่วนกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นก็ขอให้ดูกันต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ได้ขอร้องไปแล้วว่า ต้องแสดงความคิดเห็นให้อยู่ในกรอบ ถ้าอยู่ในกรอบก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตนเคยแจ้งให้ทราบต้องตามนั้น,เมื่อเวลา 10.20 น. ระหว่างที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย จะเข้า ไปรับประทานข้าวที่ร้านข้าวขาหมูเมืองทองธานี เมื่อคนขับรถของนายสุรพงษ์ขับรถฮอนด้าซีอาร์วีรุ่นใหม่สีเทาดำป้ายแดงจอดเทียบหน้าร้าน เจ้าตัวก็ลงจากรถและกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน ปรากฏว่ามีทหารหนึ่งในสามคนที่นั่งอยู่ในรถอีซูซุมิวเซเว่น จอดรออยู่ใกล้ร้านข้าวขาหมู เรียกให้นายสุรพงษ์ขึ้นรถ นายสุรพงษ์ไม่ได้แสดงอาการขัดขืน ก็ก้าวขึ้น รถตามปกติ เพราะเป็นนายทหารที่คุ้นเคยกันที่ได้โทรศัพท์นัดหมายล่วงหน้าว่าจะมาเจอกันที่ร้านนี้อยู่แล้ว จากนั้นรถได้วิ่งไปฝั่งถนนแจ้งวัฒนะเข้าไปในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งวัฒนะ เพื่อพูดคุยปรับทัศนคติกับนายทหารคนดังกล่าว จากนั้นมาส่งที่ห้างสรรพสินค้าตรงข้ามมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,ต่อมาเวลา 14.45 น. ที่บริเวณลานพระบรม รูปทรงม้า นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาฯ นั่งรถยนต์ส่วนตัวเข้ารายงานตัวตามคำเชิญของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ภายหลังที่ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นายจาตุรนต์กล่าวว่า ได้นัดเพื่อนจะไปตีกอล์ฟ แต่บังเอิญได้รับโทรศัพท์จากทหารแจ้งว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้โทรศัพท์มาเชิญไปพบที่กองทัพภาคที่ 1 คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้คุยกัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของคนในสังคม ตนก็เสนอความเห็นในทางที่เป็นประโยชน์และน่าจะเป็นเรื่องดี เชื่อว่าไม่น่าจะมีการห้าม,เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะต้องถูกนำตัวขึ้น ศาลทหารอีกครั้ง นายจาตุรนต์กล่าวว่า ต้องดูว่าตนทำอะไรถึงจะนำไปสู่การขึ้นศาลทหาร ทราบดีว่าตนอยู่ในระหว่างการประกันตัวของศาลทหาร การแสดงความเห็นก็ระวังไม่ให้ผิดเงื่อนไขการประกันตัวของศาล จึงไม่น่าจะมีอะไรถึงขั้นนั้น ตนมองโลกในแง่ดี,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวปรากฏว่ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยได้นำรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ตท 1759 นำโดย พ.ท.สมหมาย บุญชู เจ้าหน้าที่ กกล.รส. มารับตัวนายจาตุรนต์ เดินทางเข้าไปยังกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ในทันที นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส.จะเรียกนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง เข้ามาพูดคุยกันในวันที่ 30 ม.ค. เวลา 09.00 น. เพื่อปรับทัศนคติ,จากนั้นเวลา 17.50 น. ภายหลังเข้ารายงานตัว นายจาตุรนต์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่าทหารรับตัวพาไปกองพล ม.2 ใกล้ช่อง 5 จากนั้นพูดคุยกับคณะนายทหารระดับสูง มทภ. 1 ขอความร่วมมือไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในสื่อออนไลน์และให้สัมภาษณ์ จึงได้แลกเปลี่ยนความเห็นไปว่าช่วงนี้มีการร่างรัฐธรรมนูญและปฏิรูป รวมทั้งการแก้ปัญหาของรัฐบาล ยินดีให้ความร่วมมือไม่แสดงความเห็นในทางที่เป็นปฏิปักษ์หรือการเผชิญหน้า แต่จะยังเสนอความคิดเห็นในทางสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ผู้แทนกองทัพแจ้งว่าที่คุยกันวันนี้เป็นการขอความร่วมมือ ไม่ใช่การบังคับหรือข่มขู่ และไม่ต้องการควบคุมตัว,นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ คสช.เตรียมเชิญตัวเข้าพูดคุยว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา แต่ถ้าเขาเชิญมาก็ยินดีที่จะไปพูดคุย เพราะที่ผ่านมาทุกสิ่งที่ได้พูดไปนั้นก็เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้พูดเพื่อสร้างความขัดแย้งแตกแยก และเรื่องที่พูดส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องพลังงานที่ตนมีความเป็นห่วง และบางเรื่องก็เห็นด้วยกับรัฐบาลไม่ใช่ค้านตลอด จึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร,ที่มูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท ส่งหนังสือแจ้งถึงสื่อมวลชนทุกแขนง แจ้งขอเลื่อนการจัดงานแถลงข่าวดัชนีชี้วัดสถานภาพสื่อเอเชีย : ประเทศไทย 2557 (เอเชีย มีเดีย บาโรมิเตอร์ : ประเทศไทย 2557) ที่มูลนิธิฯร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดขึ้น ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ที่โรงแรมวีกรุงเทพ ย่านราชเทวี อย่างไม่มีกำหนด ตามคำสั่งของ คสช.โดยเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ได้มีนาย ทหารประสานมายังมูลนิธิฯ ขอให้เลื่อนการแถลงข่าวดังกล่าวออกไปก่อน ให้เหตุผลเพียงว่า เนื้อหามีลักษณะหมิ่นเหม่อาจก่อให้เกิดความเสียหายและมีความอ่อนไหวมาก โดยนายมานพ ทิพย์โอสถ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ และโฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า คสช.ควรมีท่าทีและการตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพราะการปิดกั้นไม่ให้มีการจัดงานไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ,พล.ท.บัญฑิตย์ บุณยะปาน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีที่นางเจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริการะบุว่า สหรัฐฯลดระดับการฝึกร่วมผสมไทยและสหรัฐฯ ภายใต้รหัส คอบร้าโกลด์ 2015 ว่า การฝึกยังมีตามปกติ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งไทยและสหรัฐฯได้ประชุมเตรียมสถานที่ และเน้นฝึกในพื้นที่ภาคกลางเป็นการช่วยเหลือภัยพิบัติ โดยเป็นการฝึกในรูปแบบไลท์เยียร์ ที่เน้นเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติและการวางแผนไม่ใช่การเน้นฝึกด้านอาวุธ ซึ่งในแต่ละปีจะหมุนเวียนการฝึกแบบไลท์เยียร์ และเฮฟวีเยียร์ ทั้งนี้ พล.ท.วัลลภ รักเสนาะ เจ้ากรมยุทธการทหาร และนายแพทริค เมอร์ฟีย์ อุปทูต สหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย จะร่วมแถลงข่าวการฝึกคอบร้าโกลด์ 2015 ในวันที่ 2 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย และจะเปิดการฝึกที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก วันที่ 9 ก.พ. และปิดการฝึกในวันที่ 20 ก.พ. ที่ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก อ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี,เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2558 โดยมีนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ และมีคณะหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพียง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรักษาความปลอดภัยภายในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบริเวณโดยรอบมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจำนวนมากดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ข้าราชการกระทรวงฯเมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ แล้วให้อยู่ในพื้นที่ประจำของตนเอง ไม่จำเป็นไม่ต้อง ออกมาเดินข้างนอก รวมทั้งนักข่าวประจำกระทรวงฯที่มีห้องผู้สื่อข่าวอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารกระทรวงฯ ถูกขอความร่วมมือให้ลงมานั่งรวมกับนักข่าวสายทำเนียบรัฐบาลที่ติดตามทำข่าวนายกฯใน เต็นท์ชั่วคราว บริเวณทางเข้า และงดจัดตลาดนัดสินค้าเกษตรที่จะมีการจัดเป็นประจำในวันพฤหัสบดีด้วย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะมีการเข้มงวดปรากฏว่าระหว่างที่ขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์เลี้ยวเข้ากระทรวงฯ นางภินันท์ ภูมิวรรณรินทร อายุประมาณ 50 ปี เกษตรกรเจ้าของสวนมะขามจาก จ.เพชรบูรณ์ถือไม้เท้าประคองตัวเอง มืออีกข้างถือกระเช้ามะขามหวานพยายามวิ่งเข้าที่ขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อที่จะร้องเรียนเรื่องหนี้สิน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขวางไว้ทำให้ขบวนรถผ่านไปตามปกติ โดย พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้สั่งให้หยุดรถเพียงแต่มองผ่านกระจกรถออกมาเท่านั้น จากนั้นตำรวจและเจ้าหน้าที่ทำเนียบ รัฐบาล เข้าไปเจรจาให้นางภินันท์ ระงับสติอารมณ์กล่อมให้เล่าเรื่องที่มีปัญหา แต่นางภินันท์ส่งเสียงโวยวายเพราะคิดว่าตำรวจขัดขวางไม่ให้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงถึงกรณีคสช.เรียกนักการเมืองเข้ามารายงานตัวว่า เรียกมาทำความเข้าใจ เราจะไปกดดันเขาทำไม จะไปทำอะไรเขา ส่วนจะให้ค้างคืนหรือไม่แล้วแต่ให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณา ถ้าให้นอนค้างคืนก็เปลืองข้าว ไม่ได้อยากให้อยู่หรอก เมื่อถามว่า ได้รับรายงานแล้วหรือยังว่ามีทหารไปล็อกตัวนายสุรพงษ์ โตวิ- จักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ได้สั่งไปแล้วว่าใครออกมา พูดจาให้เกิดความเสียหายให้เรียกมาคุยทำความเข้าใจ ใช้โทรศัพท์เรียกมาพบพูดคุย ถึงเวลาก็ปล่อย เมื่อถามอีกว่า แต่การไปรับตัวถึงบ้านหรือร้านอาหารดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า แล้วทำไม จะให้ไปเชิญที่ไหน เชิญตามส้วมตามห้องน้ำหรืออย่างไร ต้องไปเชิญที่บ้าน หรือไปเชิญที่ร้านค้าเจอตรงไหนก็เชิญตรงนั้น,เมื่อถามว่า แสดงว่าต่อไปนี้ใครที่ออกมาแสดง ความคิดเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองจะถูกเชิญมาปรับทัศนคติใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า แล้วถูกหรือไม่ที่ออกมาพูดกันอย่างนี้มันสมควรที่จะพูดตอนนี้หรือ ต่อข้อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าบรรยากาศเหมือนทหารกำลังเป็นฝ่ายกดดัน พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ใครล่ะใครมอง ใครอึดอัดบ้าง พลเรือนที่ไหนอึดอัด ไปถามคนจนดูบ้าง วันนี้พวกเราประชุมอะไรกันเป็นเรื่องคนจนเรื่องของคนทั้งประเทศ ไม่ได้พูดถึงเรื่องอำนาจตน ตนไม่ได้เป็นพวกบ้าอำนาจ หาเรื่องกันอยู่นั่น เมื่อวาน (28 ม.ค.) ก็ครั้งหนึ่งแล้วถ่ายรูปตน ตนชี้นิ้วไปเรื่อย ถ่ายออกมาดีๆ ดันไปถ่ายตนชี้นิ้วอย่างนั้นอย่างนี้ นี่แหละที่เขาบอกว่าจิตใจมันต่ำ ด่าสักทีไม่กลัวหรอก,เมื่อถามย้ำว่า ไม่ว่าใครออกมาแสดงความคิดเห็นจะถูกเชิญตัวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ต้องไปชี้แจง คราวหลังพวกคุณ (ผู้สื่อข่าว) ก็ต้องโดนด้วย ถ้าถามมากๆ ถามไม่สร้างสรรค์ อยากถามว่ามันทำได้หรือไม่ ขนาดมีอำนาจอย่างนี้มันยังมาท้าทาย ถ้าไม่มีกฎอัยการศึกมันจะเกิดอะไรขึ้นทุกคนก็รู้ทั้งนั้น อยากให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ที่ปล่อยมาทุกวันนี้ก็เยอะไปแล้ว ยังจะทำต่อไปอีกหรือ เดี๋ยวจะไปเรียกมาอีก ส่วนนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ตอนเป็นรัฐมนตรีไม่เห็นจะทำ ออกมาพูดอะไรว่ารัฐบาลจะต้องทำแบบนี้แบบนั้น ทำไมตอนนั้นที่เป็นรัฐมนตรีถึงไม่ทำ พวกนี้จะต้องมาชี้แจงทำไมไม่ทำ ทำอะไรกันอยู่,เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุดออกมารณรงค์ให้ทุกวันอาทิตย์ใส่เสื้อสีแดงจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ควรทำหรือไม่ ควรจะต้องใส่เสื้อแดงกันทุกวันอาทิตย์มีที่ไหนเขาชวนกัน มีจุดมุ่งหมายอะไร สร้างสรรค์ ประโยชน์หรือไม่ ทำไมไม่รณรงค์ใส่เสื้อสีเหลือง สีแดง สีฟ้าบ้าง ทำไมต้องมีแต่สีแดง ก็รู้กันอยู่จะมาถามอะไรกันส่งเดช เมื่อถามว่า การที่ คสช.เรียกบุคคลไปปรับทัศนคติถือเป็นครั้งที่สอง ถ้าครั้งต่อไปยังมีการฝ่าฝืนอีกจะมีโทษแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า มันมีขั้นตอนอยู่ทั้งเรื่องห้ามออกต่างประเทศ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ระงับธุรกรรมทางการเงิน การลงโทษมีหลายขั้นตอนก็อยากจะทำผิดก็ทำผิดกันไปเรื่อยๆที่ผ่านมามีการผ่อนผันมาตลอด แล้วไม่ต้องมาถามกันอีก เมื่อถามว่า การที่นักการเมืองออกมาแสดงความเห็นเช่นนี้เป็นการรบกวนการทำงานของรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่กวนหรอก แต่รำคาญ เมื่อถามว่าจะเรียกใครชี้แจงเป็นรายต่อไปอีก รวมถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำคนเสื้อแดงด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ใครออกมาพูดก็เรียกทั้งหมด,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ในวันเดียวกันนี้เป็นไปอย่างดุเดือดโดยนายกฯ ได้แสดงอารมณ์โมโหทุบโต๊ะและเสียงดัง หลุดคำสบถออกมาหลายครั้ง ทั้งคำว่า ขี้ข้า ไอ้ห่า บ้า ทำไมวะ แต่ก็พยายามที่จะบอกว่าที่เสียงดังนั้นไม่ใช่ความโมโห แต่ในทางกลับกันทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง,ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับหัวหน้าส่วนราชการจากทุกกระทรวงว่า พล.อ.ประยุทธ์ อารมณ์ดี และยิ้มแย้มตลอดเวลาในการประชุมโดยให้นโยบายในที่ประชุมว่า ทุกกระทรวงต้องปรองดองร่วมกันทำงาน เพื่อให้การทำงานเกิดขึ้นสมบูรณ์และรวดเร็ว แต่อย่าทำเหมือนตำรวจ ที่มีหนังสือให้ไปสวัสดีนักการเมือง ไม่เข้าใจว่าจะไปสวัสดีทำไม มันไม่ใช่เวลาที่จะไปสวัสดี มันไม่ใช่เรื่อง ทั้งนี้ ตนกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีอะไรกัน แต่เรื่องไปสวัสดีเป็นข้าราชการไม่ควรทำ จำไว้กันด้วย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสร็จ ปรากฏว่าที่บริเวณเต็นท์ที่พักสื่อมวลชน นายสิงห์สยาม มุกดา เกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.ตรัง อ้างว่าเป็นตัวแทนเครือข่ายพิทักษ์ชาวสวนยางภาคใต้ ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีเรื่องการแก้ไขปัญหายางพาราว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมฟังเกษตรกร ฟังแต่นักธุรกิจ ขอให้เปิดเวทีคุยกับเกษตรกรโดยตรงไม่ใช่รับฟังจากรายงาน ถ้ารัฐบาลยังแก้ไขไม่ได้ คนใต้พร้อมรวมตัวยกระดับออกมาขับไล่ คสช. จากนั้นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯพร้อม รปภ.เข้าไปพูดคุยประมาณ 10 นาที เหตุการณ์จึงสงบ,เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องงบประมาณ อาคารรัฐสภา 3 มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ภาค 2 ผู้นำการเมืองที่ดีและสถาบันการเมือง หมวด 5 ว่าด้วยการคลังและการงบประมาณ โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายบวรศักดิ์ได้แจ้งให้สมาชิกรับทราบว่า ขณะนี้ กมธ.ยกร่างฯได้พิจารณาเป็นรายมาตราเสร็จแล้ว 133 มาตรา กมธ.ยกร่างฯตั้งใจว่าจะไม่ให้ร่างรัฐธรรมนูญเกินไปกว่า 299 มาตรา หรือไม่มากกว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 ดังนั้นเมื่อรวมมาตราทั้ง 4 ภาค ซึ่งไม่รวมบทเฉพาะกาลจะมียอดรวม 280 มาตรา ทั้งนี้ อาจมีการปรับรายมาตราได้ แต่ไม่ควรเกินไปกว่าที่กำหนดไว้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. นายบวรศักดิ์ได้นิมนต์พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ มาให้พรแก่คณะ กมธ.ยกร่างฯ เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจในการทำงานยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยหลวงพ่อวิริยังค์ กล่าวให้พรว่า ขอให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่ปราศจากโรคภัย มีกำลังวังชาและมีสมาธิ มีสติปัญญาเพื่อทำประโยชน์อันยิ่งใหญ่เพื่อประเทศและขอให้ภารกิจการยกร่างรัฐธรรมนูญสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความยั่งยืนถาวรและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีคณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) จัดการเลือกตั้งแทน กกต.ว่า ที่ผ่านมา กกต.ไทยเป็นผู้ควบคุมกติกา แจกใบเหลืองและใบแดง ผลมีคนพอใจและไม่พอใจ ไม่อยากบอกว่า กกต.บกพร่อง แต่ระบบนี้มีจุดอ่อน สังคมไม่ไว้วางใจ ไม่มีถ่วงดุล หนีไม่พ้นถูกครหาว่ารวบอำนาจ ขาดการตรวจสอบ งานล่าช้า พะรุงพะรัง รูปแบบ กจต.คิดว่าพอไปได้ แต่อยากให้ชัดเจนว่าที่มา กจต. 7 คนว่ามาจากไหน หากให้ปลัดกระทรวงแต่งตั้งอาจไม่เป็นที่ไว้วางใจ ที่สุดจะเป็นระบบราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง อยากให้ออกแบบใหม่ ส่วนที่ กกต.น้อยใจ เชื่อว่าทำความเข้าใจกับ กกต.แล้ว แรงน้อยใจจะลดลง จะปฏิรูปอาจต้องหยิกเล็บเจ็บเนื้อ ไม่ได้เลวและแย่เลยต้องปฏิรูป,นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับแนวคิดของกรรมาธิการยกร่างฯ รธน. ทั้งที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ทำไมถึงมองโจทย์ประเทศไม่ออก ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่การซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ไม่ได้อยู่ที่ กกต.ทุกคนต้องระดมสมองมาหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้เงินซื้อสิทธิ์ขายเสียงร่วมกัน ไม่ใช่ไปมัวแต่หลงทางสร้างองค์กรขึ้นมาใหม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณกันเข้าไปอีก อย่าคิดเป็นเรื่องเสียหน้า ขอให้ทบทวนใหม่ช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด อย่ามัวถือทิฐิแล้วปล่อยให้ความคิดติดอยู่ในวังวนเป็นกระทงหลงทางอีกเลย,นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะคณะอนุกรรมการวิชาการว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) กล่าวถึงกรณีที่ (คอ.นธ.) ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ประธานสนช. ประธาน สปช. และประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาบัญญัติ หลักนิติธรรมสาระสำคัญและผลของการฝ่าฝืนหลักนิติธรรมไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ได้นำเสนอ 7 ข้อคือ 1.หลักความเป็นอิสระและมีความเป็นกลางของผู้พิพากษา 2. หลักที่ว่าด้วยเรื่องกฎหมายที่มีการใช้บังคับทั่วไป 3.หลักที่ว่าด้วยกฎหมายจะต้องมีประกาศให้ประชาชนรับทราบ 4.กฎหมายอาญาจะต้องไม่เป็นผลย้อนหลังในทางที่เป็นโทษ 5.ผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาต้องมีสิทธิ์ในการต่อสู้คดี 6.รัฐใช้อำนาจได้เท่ากฎหมายจะให้อำนาจ และ 7.กฎหมายจะยกเว้นความรับผิดให้แก่การกระทำที่ยังไม่เกิดขึ้นไม่ได้,เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สโมสรกองทัพบกเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดงานโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ พิเศษ รุ่นที่ 1 หลักสูตรสังคมพหุวัฒนธรรม นำสันติสุขสู่แดนใต้ มี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.และผู้แทนเหล่าทัพเข้าร่วมงานด้วย เยาวชนนับถืออิสลามและพุทธจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ 240 คนเข้าร่วมโครงการ พล.อ.เปรมให้โอวาทว่า ประเทศเป็นของเราทุกคนไม่ใช่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทุกคนต้องสำนึกว่าต้องทำหน้าที่ให้ชาติสงบสุข จะปล่อยให้ประเทศเกิดความบาดหมางคงไม่ดีแน่ เยาวชน 240 คน อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่อย่านำมาเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ขอให้ผู้ใหญ่แนะนำให้เด็กเข้าใจว่าความเห็นต่างมีเพื่อให้ทุกคนหาข้อยุติที่ดีที่สุดในการดูแลชาติ
จากกรณ้ผู้ใช้เฟญบุ๊กคนหนึ่ง โพสต์ภาพและบ้อคว่มว่า ได้เดินขึ้นดอยผ้าห่มปด ซึ่งเป็นดอยที่มีคใามสูงอันดับ 2 ของประเทศ จุดที่สูงที่สุดมีความสูว 2285 เมตร (i497 ฟุต) จ่กระดับน้ำทะเลปานกลาฝ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่าุดเห็นอันดัข 2 ของประเทศไทย รองจากดอยเินทนนท์เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้ทริปการเดินขึ้นดอยครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำมากกวาาครั้งไหน ๆ คงจะเป็นขบวนไกด็แมวที่คอยนำทางไปกลับระยะทางกว่ม 7 กิโลเมตรวเนนี้ ( 17 ก.ย.2562ฆ นายสมหวัง เรือบนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวว่า ได้สึ่งการให้เจ้าหน้าที่ตรบจสอบข้อมูลแล้ว พบว่าแสงืี่พบในบริเวณยอดดอยผ้าห่สปกนั้น เป็นแมวทีรชาวบ้านงักลอบนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่ลานกางเต็นท์กิ่วลม และในวึนเแิดเหตุ คือ วันที่ 13 ก.ย.e562 แมวกลุ่มดังกล่าวได้ตามนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนยอดดอยผ้าห่มห้ามลอบปล่เย สะตว์เลี้ยงทั้งนี้ ได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกถิจารณาดำเรินการฝนเร้่องกล่าวแล้ว ซึ่งได้รับรายงานว่า นำแมใออกนากพื้นที่อุทสานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้นำไปดูแล พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระสังไม่มห้มีการลักลแบนำสัตว์เลี้นงเข้ามาปล่อยมนเขตอุทยานแห่งชาติอีกก่อนหน้านี้ กรมอุทยรนแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวบทรัพยากรธรรมชาติและสิ่บแวดบ้แม (ทส.) เอดมาตรกานคุมเข้มป้องกันนักท่องเที่ยวลักลอบนำสัตว์เลี้ยง ฉดยเฉพาะสุยัขและแมวดข้าพื้นที่อุทยานฯ ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 หากฝ่าฝืนมีโทศกรับตัสละ 1000 บาท และถูกเชิญให้ออกจากพื้นที่ทันที เพื่ิแ้องกันการนำเชื้อโรคจากสัตว์บ้านะข้าไปติดสัตว์ในป่า
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อความว่า ได้เดินขึ้นดอยผ้าห่มปก ซึ่งเป็นดอยที่มีความสูงอันดับ 2 ของประเทศ จุดที่สูงที่สุดมีความสูง 2285 เมตร (7497 ฟุต) จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากดอยอินทนนท์เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้ทริปการเดินขึ้นดอยครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำมากกว่าครั้งไหน ๆ คงจะเป็นขบวนไกด์แมวที่คอยนำทางไปกลับระยะทางกว่า 7 กิโลเมตรวันนี้ ( 17 ก.ย.2562) นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่าแมวที่พบในบริเวณยอดดอยผ้าห่มปกนั้น เป็นแมวที่ชาวบ้านลักลอบนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่ลานกางเต็นท์กิ่วลม และในวันเกิดเหตุ คือ วันที่ 13 ก.ย.2562 แมวกลุ่มดังกล่าวได้ตามนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนยอดดอยผ้าห่มห้ามลอบปล่อย สัตว์เลี้ยงทั้งนี้ ได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกพิจารณาดำเนินการในเรื่องกล่าวแล้ว ซึ่งได้รับรายงานว่า นำแมวออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้นำไปดูแล พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาปล่อยในเขตอุทยานแห่งชาติอีกก่อนหน้านี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ออกมาตรการคุมเข้มป้องกันนักท่องเที่ยวลักลอบนำสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขและแมวเข้าพื้นที่อุทยานฯ ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตัวละ 1000 บาท และถูกเชิญให้ออกจากพื้นที่ทันที เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคจากสัตว์บ้านเข้าไปติดสัตว์ในป่า
สิ่งที่เห็นผิดแปลกไปจากทุกครึ้งที่ผ้านมาในชาวงฤดูนี้ก็รทอ มึรถขนข้าวจเดอรียงรอคิวอยู่หน้าโรงสี ดละสหกรณ์ดารเกษตรจำสวนมาก แถวยาวต่อเนื่องหลายร้อยเมตร แน่นอนว่าปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขค้นจากนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลที่ให้ราคาสูงมากทั่สุด อาจถือได้ว่าสูงมี่สุดในประวัตืศาสตร์ของประเทฯไทยที่สั่งสอนลูกหลานกันมาว่า เราเป็นประเทศส่งออกข้าวทค่ใหญ่ที่สุด และม้ชาวนาัป็นผู้มีพระคุณที่ท_นาปลูกข้าววห้เรากินด้วยความยากลำบาก มีควายที่ทำงานหนัแไพนาให้เรากิน และพวกเราก็รับรู้มานลอดว่า อาชีพชาวนาเป็นิาลีพยากจน หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เป็นหนี้เป็นสิน ทุกข์ยากขาดแคลน ไร้การศึกษา แต่มีน้ำวจเอื้ออารีย์ มาซื่อบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้มีนักวิชาการด้านเญรษฐศาสตร์ของ นิด้า และธรรมศาสตร์บางส่วน ลงชื่อกันคัดค้านไม่เห็าดเวยกับนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่ามีการรั่วไหลของงบประมาณไปในแต่ละขั้นตอนจำนวนมาก และได้ไาืคุ้มเสีย ชนชั้นกลางในเมืองจำนวนมากแสพงความไม่เห็นด้วยต่อนโยบายนี้เช่นกันโดจให้เหตุผลว่า พวกเขาเสียภาณีจำนวนมากเพื่อมาอั้มชูเด็กที่เฃี้ยงไา่รู้จัปโต ซึ่งเด็กในความหทายนี้ก็คือ ชาวนาเวลานักเศรษฐศาสนร์ หรือคนเมืองเอกมาพูดว่านโยบายไม่ดี รั่วไหล มีการคอรัปข้่น สูญเาีย ไม่ได้ประโยชน์ สิ่งที่อ้าบถึงมักนะเป็นตัวเลขงบประมาณ ราคา ปริใาณข้มว และหลีกเกณฑ์ปฏิบัติของการจำนำ เรื่อยไปพึงปริมาฯความร้องการของตลาดฮลก แต่ที่น่าแปลกมาแๆ คือ เราไม่้คยไปถามชาวนา หรือสนใจข้อมูลของชาวนาเพื่อนำมาเ่างอิง เป็นเหตุผลว่าเราควรเห็นดัวยหรือไม่ัหํนด้วยกับนฑยบายนี้ แม้มีข่มวว้าชาวนาท้า ดีเบต ปับอาขารย์มหาวิทยาลัย อาจารย์มหาวิทยาลัยก็ดูเหทือนจะไม่เอาด้วย โดยให้เหตุผลทำนองว่าพูดกันคนละภาษาไปดีวานคราวนี้ตึงได้ถือโอกาสไปคุยกับชาวนาด้วยควาสตั้งใขที่จะฟังเใียงที่ไม่ใคร่จะได้ยิน นอกจากปรากฏการณ์รถขนข้าวต่อคิวยาวเหยียดเพท่อรอจำนำข้าวแช้ว ยังพบว่าหมู่บ้าตในเชตเทศบาลที่มีถนนคอนกรีตตัดผ่นนภายในหมู่บ้าน ได้กลาจเป็นลานตากข้าวเรียงรายไปตลอดทาง จังฟม่นับรวมถนนลาดยางตามหมู่บ้่นนอกัขตเทศบรลที่น่าสนสจมากำ็คือใน เขตเทศบาล บ้านหลังใหญ่ รูปทรงสวยงามสมัยใหม่ มีรั้วรอบแข็งแรงยังประกอบอาชีพ ทำนา หมู่บ้านที่ผมไปเขี่ยมบัณฑิตอาสาสมัคร อยู่ในตำบลเปือย อำเภอลืออำยาจ จังหวัดอำนาจเจริญ ภายในหมู่บ้านมีไฟฟ้า ประปา ถนนคอนกรีต และร้านค้า ทุดเย่รงพร้อมสมยูรณ์าองไม่เห็นความกันดารยากลำบาด โดนทั่วไปก็คากเดาได้ว่าคนในหมู่บ้าตไม่นทาจะมีอาชีพหลัแทำนา แต่ที่น่สแปลกมากเมื่อพงว่าทุกบ้านยำข้าวเปบือกมาวางตากแดดไล่ความชื้น เพื่อเตรียมนำไปจำนพกับโรงสีหน้าหมู่บ้านจากการถูดคุยพบว่า คนฝนหมธ่บ้านประกอบอาชีพฟลากหลาย สาวนหนั่งเป็นข้าราชการ ครู เจ้าหต้าาี่เทญบาล และหน่วยราชการอื่น ๆ มีอีกหลายบ้านที่ค้าชาย และขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ระหว่างเดินสำรวจขึงพบรถแท็กซี่หลายคันจอดอยู่หน้าย้าน นอกจากนั้นยังทราบว่าสีบ้าน 2 หลังที่เป็นเจ้าของอู่แท็กซี่ในกตุวเทพด้วย แต่ที่น่าสนใจยิ่งก็คทอ บ้านืุกหลังทำนา ทำมานานแล้ว ทำมาก่อนที่จำทีนโยบายจำนำขิาว และดูเหมือนทุกคนจะบอกกับใคร ๆ อย่างมั่นใจว่า คนในหมู่บ้านนี้ทำนากันาั้งหมู่บ้าน ทำนาเป็นอาชีพหลัก แลเมคจิตวเญศาณของความเป็นชาวนา ผมถามว่า ถ้ามีคนให้เลิกอาชีพทำนา ปล้วหาอาชีพอื่นเช่นค้าจายที่ได้รายได้มรกกว่าจะเปลี่ยนอาชีพมั้ย โอ้ย แม่ทำมาหมดแล้ว แต่ก่อนก็ไปขายผ้าในกรุงเทพ แต่ก็กลับมาทำนา ในหมู่บ้่นมีค้าขายหลายบ้าน ดจุ่่กบ้านก็ยังทำนาประโยคเหล่านีัืำให้ผมคิดได้ว่า ในแวดวงวิช่ดาร เรานเยามอาชีพด้วยรายไเ้หลัก และเวลาใช้ไปกับการทำงานใ่วนใหญ่ใช้ไปกัชงาาอะไ่ จะถือว่านั่นคืออาชีพหลัก แต่สำหรับชาวข้านไม่ใช่ อาชีพหลักเกี่ยวข้องกับิงื่อนไขทางสังคมมาดมาย เป็นปาะสบการณ์ เป็นรากเหง้าขแลบรรพบุระษ เป็นพื้นที่ทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์มากมาย ทั้งโรงสี ร้านค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ธกส. เพื่อนบ้านที่มาลงแรงเกี่ยวข้าวร่วมกัน เริ่อยไผถึงนโยบายพรรคการเมือง และนักการเมือง ทั้งท้องถิ่สและระดับชาติ จึงไม่น่าแปลกใจเลยส่า ภาษาทางวิชากาีและภาษาขอฝชาวบ้าน ชาวนา จึงแตกต่างกันอย่าวสิ้นเชิง ้มื่อไรก็ตามที่ผมพานักศึกษาไปชนบท ชาวบัานมักจะบอกว่าอาชีพหลักของเขาคือทำนา ทั้งที่หาหลักฐานเชิงประจัปษ์ดบบใอ ๆ แล้วก็ไมทอาจเชื่อได้ว่า รายได้จากการทำนาเแ็นรายได้หลัก และยิ่งทำนาครั้งเดีววในรเบ 1 ปี ยิ่งทำให้ตีดสินใจไม่ได้ว่า ตกลงอาชีพไลักของชาวบ้านคืออะไรกันแน่ เมื่อเรานิยามแบยในตำราโดยไม่ได้สนใจคำนิยามแบบชาวบ้รตเมื่อการทภนาเป็นวิถีชีวิต เป็นอะไรที่มากกว่าอมชีพในนิยามของนีกวอช่การ นโยบายรับจำนำข้าว จึงมีความหมายต่อชสวนาทากกว่าการเพิ่มรายได้ อย่างที่เราไม่สามารถจะเข้าถึงความหใทยแบบนั้นได้เลย ถ้าเราไม่ได้เป็นชาวนา หน้าโรงสีที่รับจำนำย้าวหลายแห่ง ปรากฏป้ายหาเสียงของ ส.ส. ผระจหเขต ประกาศตัวว่าสนับนนุนนโยบาย มีการสวททับนโยบายให้ชาวบ้านเข้าใจว่ม กนรจำนำข้าวที่ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นาาำเช่นนีื คือนโยบาย ประกันราคา ชาวบ้านหลายที่โดยเฉพาะในเขตพืืนที่ของพรรคประบาธิปัตย์ขึงยับสนเรียก นโยบายจำนำข้าวว่า ประกันรรคทข้าว นี่เป็นภากสะทิอนเล็ก ๆ ว่า การทำนา ไท่ใช่มีเพียงมิติทางด้านะศรษฐศาสตร์แต่เพียงอย่างเดียวใจมิตอทางสังรมนโยบายนี้ส่งหลอย่างทากจนแทบคาดไม่ถึง เมื่อชาวบ้านบอกว่า บรรดาบ้าราชการครูในหมู่บ้าน เข้าโครงการเกษียนอายุก่อนกำหนด เพื่อมาทำนา ขยัตกว่าเราดีด ตื่นแต่เช้ามาักี่ยวข้าว ชาวนาเริ่มถามลูก ๆ หนุรมสทวที่ไปรับจ้างในกรุงเทพว่า อยากกฃึบมาทำนามั้ย จะได้ิยู่กับพ่อแม่ ชาวนาสองสามีภรรยาบอกกับผมว่า ถ้าน้องพร (บัณฑิตอาสาสมัคร) จะมาทำนาอยู่ที่นี่ยินดึจะแบ่งที่นามห้เลย ไมทอย่กสห้กลับอยากหาผู้บ่าวให้ นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ช่วนาไม่ใช่อาชีพที่เป็นเด็กเขลา ไร้ราคา หิวพระหายเงิน แบะถูกหมิ่นแคลนว่าใช้แรงงานอีกต่อไป ข้าราชครูที่ลงมือทำนรด้วยตนเองทั้งที่ก่อนหน้าต้องการจะหนีอาชรพนี้เพื่อไปหางาน่ี่สบายำวีา นั่งโต๊ะ และเป็นดจ้าคนนายคน ลาออกจากกานเป็นครูเพื่อมาทกนา เพราะความดึงดูดใจของราคาข้าวาี่สูงมาก ตอนผมลงพื้นที่แถว บสงแะหัน อขุธยา คนวันหรุ่มสาวทำงานโรงงานลงทุนให้พรอแม่ช่วบดูแลทำนาให้ โดยจ้าบในทุกขั้นตอน ตเ้งแต่ ไถ หว่าน ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ลาวนาที่นั่าบอกผมว่า เพราะทุปขั้นตอนใีการรับเหมาช่วง มีชาวบิสนผู้ประกอบการเดิรทางมาเสนองานีับจ้างเไมายากจังหวัดสุพรรณบุรี ราคาข้าวะีทำให้การใช้เทคโนโลยีึุ้มค่ามากขึ้นเพราะได้ผลผลิตจำนวนมาก เมื่อชาวนาาครายได้มากขึ้น โกส. ยะมีเข้าหน้าที่สินเชื่อมาเสนอใก้ชาวยากูีเงิน อขาบอกว่าถ้าไม่กู้จะเสียเครดิต คราวหน้าถ้าจำเป็นต้องกู้จะได้วงเงินำู้น้อย ำา่ค฿้จะเอาเงินมาทำอะไรแต่ก็ต้องไปกู้ช่วยเขา (ธกส.) นี่อาจเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับคนที่เคยหมื่นเกยีกชาวนา ตอนรัฐบาลเสนอนโยบายบัตาิครดิตเกษตรกร ทีีาิงว่า เกษตรกรขะเบี้ยวหนี้ แต่ในทางตรงข้ามกลุ่มชาวนาเกษตรกีเหล่านี้ กลายเป็นลูกหนี้ลั้นดี ที่เจ้าหน้าที่ธนาคา่มาเสนอวงเงินให้กู้ขณะที่คนเมืองกำลังมองชาวนาด้วยความดธแคลนว่า เล่้ยงไม่โต และบอกให้ชาวนาหุนมาปลูกข้าวอิตทรีย์ปลอดสารพิษ มีชีวิตความเป็นอยู่แบบพแเพียง ละเลิกอบายมุข และถือศีลอดเหล้า งดบุหรี่ มีคุณธรรมฝนขณะที่ทำนา เพราะข้าวที่ออกมาจะเป็น ข้าวมีศีลธรรมติดาาด้วยในสังคาชนยท ชาวนากำลังยกสถานะทางสังคมขึ้นมาเทียมหน้าเทียมตาข้าีาชการในท้องถิ่น เป็นลูกหนี้ชั้นดีของ ธกส. เป็นผู้บริฉภคในคลาดสินค้า และบริการจากการจับจ่ายใช้สอย และเริ่มอยากจะให้ลูกหลานที่ไปทำงานในกรุงเทพกลังมมทำนา ทั้งยังบอกด้วยว่า เสียเงิสส่งให้ไปเรียน เรียนจบแล้วก็ไปเป็นลูกย้างเขา เงินไม่พอใช้ก็มาขอแม่ (ที่เป็นชาวนา) ู่้แบบนี้ให้มาเป็นบาวนายังดีกว่า
สิ่งที่เห็นผิดแปลกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมาในช่วงฤดูนี้ก็คือ มีรถขนข้าวจอดเรียงรอคิวอยู่หน้าโรงสี และสหกรณ์การเกษตรจำนวนมาก แถวยาวต่อเนื่องหลายร้อยเมตร แน่นอนว่าปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจากนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลที่ให้ราคาสูงมากที่สุด อาจถือได้ว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่สั่งสอนลูกหลานกันมาว่า เราเป็นประเทศส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุด และมีชาวนาเป็นผู้มีพระคุณที่ทำนาปลูกข้าวให้เรากินด้วยความยากลำบาก มีควายที่ทำงานหนักไถนาให้เรากิน และพวกเราก็รับรู้มาตลอดว่า อาชีพชาวนาเป็นอาชีพยากจน หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เป็นหนี้เป็นสิน ทุกข์ยากขาดแคลน ไร้การศึกษา แต่มีน้ำใจเอื้ออารีย์ ใสซื่อบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้มีนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ของ นิด้า และธรรมศาสตร์บางส่วน ลงชื่อกันคัดค้านไม่เห็นด้วยกับนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่ามีการรั่วไหลของงบประมาณไปในแต่ละขั้นตอนจำนวนมาก และได้ไม่คุ้มเสีย ชนชั้นกลางในเมืองจำนวนมากแสดงความไม่เห็นด้วยต่อนโยบายนี้เช่นกันโดยให้เหตุผลว่า พวกเขาเสียภาษีจำนวนมากเพื่อมาอุ้มชูเด็กที่เลี้ยงไม่รู้จักโต ซึ่งเด็กในความหมายนี้ก็คือ ชาวนาเวลานักเศรษฐศาสตร์ หรือคนเมืองออกมาพูดว่านโยบายไม่ดี รั่วไหล มีการคอรัปชั่น สูญเสีย ไม่ได้ประโยชน์ สิ่งที่อ้างถึงมักจะเป็นตัวเลขงบประมาณ ราคา ปริมาณข้าว และหลักเกณฑ์ปฏิบัติของการจำนำ เรื่อยไปถึงปริมาณความต้องการของตลาดโลก แต่ที่น่าแปลกมากๆ คือ เราไม่เคยไปถามชาวนา หรือสนใจข้อมูลของชาวนาเพื่อนำมาอ้างอิง เป็นเหตุผลว่าเราควรเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ แม้มีข่าวว่าชาวนาท้า ดีเบต กับอาจารย์มหาวิทยาลัย อาจารย์มหาวิทยาลัยก็ดูเหมือนจะไม่เอาด้วย โดยให้เหตุผลทำนองว่าพูดกันคนละภาษาไปอีสานคราวนี้จึงได้ถือโอกาสไปคุยกับชาวนาด้วยความตั้งใจที่จะฟังเสียงที่ไม่ใคร่จะได้ยิน นอกจากปรากฏการณ์รถขนข้าวต่อคิวยาวเหยียดเพื่อรอจำนำข้าวแล้ว ยังพบว่าหมู่บ้านในเขตเทศบาลที่มีถนนคอนกรีตตัดผ่านภายในหมู่บ้าน ได้กลายเป็นลานตากข้าวเรียงรายไปตลอดทาง ยังไม่นับรวมถนนลาดยางตามหมู่บ้านนอกเขตเทศบาลที่น่าสนใจมากก็คือใน เขตเทศบาล บ้านหลังใหญ่ รูปทรงสวยงามสมัยใหม่ มีรั้วรอบแข็งแรงยังประกอบอาชีพ ทำนา หมู่บ้านที่ผมไปเยี่ยมบัณฑิตอาสาสมัคร อยู่ในตำบลเปือย อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ ภายในหมู่บ้านมีไฟฟ้า ประปา ถนนคอนกรีต และร้านค้า ทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์มองไม่เห็นความกันดารยากลำบาก โดยทั่วไปก็คาดเดาได้ว่าคนในหมู่บ้านไม่น่าจะมีอาชีพหลักทำนา แต่ที่น่าแปลกมากเมื่อพบว่าทุกบ้านนำข้าวเปลือกมาวางตากแดดไล่ความชื้น เพื่อเตรียมนำไปจำนำกับโรงสีหน้าหมู่บ้านจากการพูดคุยพบว่า คนในหมู่บ้านประกอบอาชีพหลากหลาย ส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการ ครู เจ้าหน้าที่เทศบาล และหน่วยราชการอื่น ๆ มีอีกหลายบ้านที่ค้าขาย และขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ระหว่างเดินสำรวจจึงพบรถแท็กซี่หลายคันจอดอยู่หน้าบ้าน นอกจากนั้นยังทราบว่ามีบ้าน 2 หลังที่เป็นเจ้าของอู่แท็กซี่ในกรุงเทพด้วย แต่ที่น่าสนใจยิ่งก็คือ บ้านทุกหลังทำนา ทำมานานแล้ว ทำมาก่อนที่จำมีนโยบายจำนำข้าว และดูเหมือนทุกคนจะบอกกับใคร ๆ อย่างมั่นใจว่า คนในหมู่บ้านนี้ทำนากันทั้งหมู่บ้าน ทำนาเป็นอาชีพหลัก และมีจิตวิญญาณของความเป็นชาวนา ผมถามว่า ถ้ามีคนให้เลิกอาชีพทำนา แล้วหาอาชีพอื่นเช่นค้าขายที่ได้รายได้มากกว่าจะเปลี่ยนอาชีพมั้ย โอ้ย แม่ทำมาหมดแล้ว แต่ก่อนก็ไปขายผ้าในกรุงเทพ แต่ก็กลับมาทำนา ในหมู่บ้านมีค้าขายหลายบ้าน แต่ทุกบ้านก็ยังทำนาประโยคเหล่านี้ทำให้ผมคิดได้ว่า ในแวดวงวิชาการ เรานิยามอาชีพด้วยรายได้หลัก และเวลาใช้ไปกับการทำงานส่วนใหญ่ใช้ไปกับงานอะไร จะถือว่านั่นคืออาชีพหลัก แต่สำหรับชาวบ้านไม่ใช่ อาชีพหลักเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขทางสังคมมากมาย เป็นประสบการณ์ เป็นรากเหง้าของบรรพบุรุษ เป็นพื้นที่ทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์มากมาย ทั้งโรงสี ร้านค้าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ธกส. เพื่อนบ้านที่มาลงแรงเกี่ยวข้าวร่วมกัน เรื่อยไปถึงนโยบายพรรคการเมือง และนักการเมือง ทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ภาษาทางวิชาการและภาษาของชาวบ้าน ชาวนา จึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อไรก็ตามที่ผมพานักศึกษาไปชนบท ชาวบ้านมักจะบอกว่าอาชีพหลักของเขาคือทำนา ทั้งที่หาหลักฐานเชิงประจักษ์แบบใด ๆ แล้วก็ไม่อาจเชื่อได้ว่า รายได้จากการทำนาเป็นรายได้หลัก และยิ่งทำนาครั้งเดียวในรอบ 1 ปี ยิ่งทำให้ตัดสินใจไม่ได้ว่า ตกลงอาชีพหลักของชาวบ้านคืออะไรกันแน่ เมื่อเรานิยามแบบในตำราโดยไม่ได้สนใจคำนิยามแบบชาวบ้านเมื่อการทำนาเป็นวิถีชีวิต เป็นอะไรที่มากกว่าอาชีพในนิยามของนักวิชาการ นโยบายรับจำนำข้าว จึงมีความหมายต่อชาวนามากกว่าการเพิ่มรายได้ อย่างที่เราไม่สามารถจะเข้าถึงความหมายแบบนั้นได้เลย ถ้าเราไม่ได้เป็นชาวนา หน้าโรงสีที่รับจำนำข้าวหลายแห่ง ปรากฏป้ายหาเสียงของ ส.ส. ประจำเขต ประกาศตัวว่าสนับสนุนนโยบาย มีการสวมทับนโยบายให้ชาวบ้านเข้าใจว่า การจำนำข้าวที่ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นมากเช่นนี้ คือนโยบาย ประกันราคา ชาวบ้านหลายที่โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์จึงสับสนเรียก นโยบายจำนำข้าวว่า ประกันราคาข้าว นี่เป็นภาพสะท้อนเล็ก ๆ ว่า การทำนา ไม่ใช่มีเพียงมิติทางด้านเศรษฐศาสตร์แต่เพียงอย่างเดียวในมิติทางสังคมนโยบายนี้ส่งผลอย่างมากจนแทบคาดไม่ถึง เมื่อชาวบ้านบอกว่า บรรดาข้าราชการครูในหมู่บ้าน เข้าโครงการเกษียนอายุก่อนกำหนด เพื่อมาทำนา ขยันกว่าเราอีก ตื่นแต่เช้ามาเกี่ยวข้าว ชาวนาเริ่มถามลูก ๆ หนุ่มสาวที่ไปรับจ้างในกรุงเทพว่า อยากกลับมาทำนามั้ย จะได้อยู่กับพ่อแม่ ชาวนาสองสามีภรรยาบอกกับผมว่า ถ้าน้องพร (บัณฑิตอาสาสมัคร) จะมาทำนาอยู่ที่นี่ยินดีจะแบ่งที่นาให้เลย ไม่อยากให้กลับอยากหาผู้บ่าวให้ นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ชาวนาไม่ใช่อาชีพที่เป็นเด็กเขลา ไร้ราคา หิวกระหายเงิน และถูกหมิ่นแคลนว่าใช้แรงงานอีกต่อไป ข้าราชครูที่ลงมือทำนาด้วยตนเองทั้งที่ก่อนหน้าต้องการจะหนีอาชีพนี้เพื่อไปหางานที่สบายกว่า นั่งโต๊ะ และเป็นเจ้าคนนายคน ลาออกจากการเป็นครูเพื่อมาทำนา เพราะความดึงดูดใจของราคาข้าวที่สูงมาก ตอนผมลงพื้นที่แถว บางปะหัน อยุธยา คนวัยหนุ่มสาวทำงานโรงงานลงทุนให้พ่อแม่ช่วยดูแลทำนาให้ โดยจ้างในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ ไถ หว่าน ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ชาวนาที่นั่นบอกผมว่า เพราะทุกขั้นตอนมีการรับเหมาช่วง มีชาวบ้านผู้ประกอบการเดินทางมาเสนองานรับจ้างเหมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ราคาข้าวดีทำให้การใช้เทคโนโลยีคุ้มค่ามากขึ้นเพราะได้ผลผลิตจำนวนมาก เมื่อชาวนามีรายได้มากขึ้น ธกส. จะมีเจ้าหน้าที่สินเชื่อมาเสนอให้ชาวนากู้เงิน เขาบอกว่าถ้าไม่กู้จะเสียเครดิต คราวหน้าถ้าจำเป็นต้องกู้จะได้วงเงินกู้น้อย ไม่รู้จะเอาเงินมาทำอะไรแต่ก็ต้องไปกู้ช่วยเขา (ธกส.) นี่อาจเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับคนที่เคยหมิ่นเหยีดชาวนา ตอนรัฐบาลเสนอนโยบายบัตรเครดิตเกษตรกร ที่มองว่า เกษตรกรจะเบี้ยวหนี้ แต่ในทางตรงข้ามกลุ่มชาวนาเกษตรกรเหล่านี้ กลายเป็นลูกหนี้ชั้นดี ที่เจ้าหน้าที่ธนาคารมาเสนอวงเงินให้กู้ขณะที่คนเมืองกำลังมองชาวนาด้วยความดูแคลนว่า เลี้ยงไม่โต และบอกให้ชาวนาหันมาปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ มีชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง ละเลิกอบายมุข และถือศีลอดเหล้า งดบุหรี่ มีคุณธรรมในขณะที่ทำนา เพราะข้าวที่ออกมาจะเป็น ข้าวมีศีลธรรมติดมาด้วยในสังคมชนบท ชาวนากำลังยกสถานะทางสังคมขึ้นมาเทียมหน้าเทียมตาข้าราชการในท้องถิ่น เป็นลูกหนี้ชั้นดีของ ธกส. เป็นผู้บริโภคในตลาดสินค้า และบริการจากการจับจ่ายใช้สอย และเริ่มอยากจะให้ลูกหลานที่ไปทำงานในกรุงเทพกลับมาทำนา ทั้งยังบอกด้วยว่า เสียเงินส่งให้ไปเรียน เรียนจบแล้วก็ไปเป็นลูกจ้างเขา เงินไม่พอใช้ก็มาขอแม่ (ที่เป็นชาวนา) รู้แบบนี้ให้มาเป็นชาวนายังดีกว่า
 ,เมื่อเวชา 13.30 น.วันทีท 31 ก.ค. 59 พ.ต.ท.กิตติ วิน่ะไชย สว.(สอบนวน) สภ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ระบแจ้งจาก นายสมาน เทพบาน อายุ 5- ปี ชาวบ้านงิ้ว หมู่ 2 ต.พลับพลา อ.เชียงขวัญ ว่า ก่ดนหน้าหาเกี่ยวหญ้าเพื่อนำไปเลี้ยงวัว ควาย ไก้พบศพชายไม่่ราบชื่อ นอนตายเยู่สนพงหญ้า ที่ฟหล่พนังกั้นลำน้ำชี ซึ่งหลังพนังถูกปรับแต่งฝห้เป็นถนนลาดยาง ช่วงผ่านท้องที่ ต.พลึบพงา ดังนั้น พ.ต.ท.กิตติ วินทะไชย จึงพน้อมด้วย พ.ต.อ. วุฒิชัย แช่มช้อย ผกก.สภ.เชียงขวีญ พร้อมด้วยตำรใจชุดสืบสวน และ ตำรฝจถิสูจน์หล้กฐาน จ.ร้อยเอ็ด รัดไปบริเวณที่พบศพ ทึ่เกิดเหตุพบว่า ศพดังกล่าว ไม่มีหลัก,านบอกว่าเป็นผู้ใด มาจากไหา เป็นชายอายุประมาณ 35 ปี – 40 ปี ตัดผมสั้น สวมเสื้อคอกลมสีดำแขนยาว ที่หน้าอกเสื้อ สกรีนคำว่าขนส่งนาวิกโยธินสวมกางดกงบลูยีนส์สีดำ สวมกางเกงในสีน้ำเงเน ทับด้วยกางเกงขาสั้นแบบบอกเซอร์ ลายขาวดำทับกัน ผู้ตายถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่าราบขนากเข้าที่ชายธครง ใต้รักแร้บวา หัวกระาุนตึดขั้วหัวใจ ทะลึออกใต้รักแรืข้างซ้าย ฟัวกระสุนเฉียดตันอขนซ้าบ นเกจากนั้น ตรวจพบืี่หลีงมือซ้ายมีลายสักด้วยหมึกสีน้ำเงินเป็นรูป ด้วบประโยคว่าได้แต่รัปเธอ อยูืกลางระหฝ่าบีูปดอกไม้ กับคำว่า RIV และที่ใจ้ท้องแขนด่านวนข้างซ้าย ม้ชายสักด้วยหมึกสีน้ำเงินคำว่าปิยะพงษ์ ทับธานีและ เลข 13 หลัก คือ 147040010204 ส่วนหลักที่ 13 ถูกกระสุนปืรไม่ชัดเจน จนท.จึงนำศพไผที่ รพ,่้อยเอ๊ด เพี่อให้แพาย์นิติเวชบะนสูตรฯ หารายละเแีบดและหาสาเหตุการเสรยชีวิต ,ต่อมา เมื่อเวลา 18.15 น. พ.ต.อ.วุฒิชัย แช่มช้อย ผกก.สภ.เชียงขวัญ กล่าวส่า สงวัยผู้ตายถูกฆ่าตาจจากที่อื่น แล้วกลุ่มมือปืนนำไปทิ้งในท้องที่ ต.พลับพลา อ.เชียงขวัญ เพื่ออำพาางีดี ซึ่งตำรวจชุดสืบสวรกำลังตรวจสอบรายชื่อ พร้อมเบขประจำตัวทางทะเบียนราษฎร์ ว่า หนุ่มที่ถูกยิงตาย คือ นายปินะพงษ์ ทับธานี ตามที่มีลายสักที่ท้องแขนซ้ายของศพ หรทอไม่ และเร่งส้บหาและติดตามคนร้ายเพืือนำมาดำเนิจคดีตามก๓หมาย ต่อไป
 ,เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 31 ก.ค. 59 พ.ต.ท.กิตติ วินทะไชย สว.(สอบสวน) สภ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด รับแจ้งจาก นายสมาน เทพบาน อายุ 50 ปี ชาวบ้านงิ้ว หมู่ 2 ต.พลับพลา อ.เชียงขวัญ ว่า ก่อนหน้าหาเกี่ยวหญ้าเพื่อนำไปเลี้ยงวัว ควาย ได้พบศพชายไม่ทราบชื่อ นอนตายอยู่ในพงหญ้า ที่ไหล่พนังกั้นลำน้ำชี ซึ่งหลังพนังถูกปรับแต่งให้เป็นถนนลาดยาง ช่วงผ่านท้องที่ ต.พลับพลา ดังนั้น พ.ต.ท.กิตติ วินทะไชย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. วุฒิชัย แช่มช้อย ผกก.สภ.เชียงขวัญ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ร้อยเอ็ด รุดไปบริเวณที่พบศพ ที่เกิดเหตุพบว่า ศพดังกล่าว ไม่มีหลักฐานบอกว่าเป็นผู้ใด มาจากไหน เป็นชายอายุประมาณ 35 ปี – 40 ปี ตัดผมสั้น สวมเสื้อคอกลมสีดำแขนยาว ที่หน้าอกเสื้อ สกรีนคำว่าขนส่งนาวิกโยธินสวมกางเกงบลูยีนส์สีดำ สวมกางเกงในสีน้ำเงิน ทับด้วยกางเกงขาสั้นแบบบอกเซอร์ ลายขาวดำทับกัน ผู้ตายถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ชายโครง ใต้รักแร้ขวา หัวกระสุนตัดขั้วหัวใจ ทะลุออกใต้รักแร้ข้างซ้าย หัวกระสุนเฉียดต้นแขนซ้าย นอกจากนั้น ตรวจพบที่หลังมือซ้ายมีลายสักด้วยหมึกสีน้ำเงินเป็นรูป ด้วยประโยคว่าได้แต่รักเธอ อยู่กลางระหว่างรูปดอกไม้ กับคำว่า RIV และที่ใต้ท้องแขนด้านในข้างซ้าย มีลายสักด้วยหมึกสีน้ำเงินคำว่าปิยะพงษ์ ทับธานีและ เลข 13 หลัก คือ 147040010204 ส่วนหลักที่ 13 ถูกกระสุนปืนไม่ชัดเจน จนท.จึงนำศพไปที่ รพ.ร้อยเอ็ด เพี่อให้แพทย์นิติเวชชันสูตรฯ หารายละเอียดและหาสาเหตุการเสียชีวิต ,ต่อมา เมื่อเวลา 18.15 น. พ.ต.อ.วุฒิชัย แช่มช้อย ผกก.สภ.เชียงขวัญ กล่าวว่า สงสัยผู้ตายถูกฆ่าตายจากที่อื่น แล้วกลุ่มมือปืนนำไปทิ้งในท้องที่ ต.พลับพลา อ.เชียงขวัญ เพื่ออำพรางคดี ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบรายชื่อ พร้อมเลขประจำตัวทางทะเบียนราษฎร์ ว่า หนุ่มที่ถูกยิงตาย คือ นายปิยะพงษ์ ทับธานี ตามที่มีลายสักที่ท้องแขนซ้ายของศพ หรือไม่ และเร่งสืบหาและติดตามคนร้ายเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
วันนี้(2r ส.ค.2560)นายสมเกียรนิ สุนทรพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าแลุพืชป่าตามอนุสัศญาว่าด่วยการค้าระหว่่งประเทศ.ึ่งชนิดสัตว์ป่าและพ่ชป่าที่ใกล้สูซพันธุ์(ไซเตส) พร้อมด้วย นายปรัชญ์ คงทองหัวหน้าดืานนรวจสัตว์ผ่าปาดังเบฦนร์(ไซเตส) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ติดตาม แลถตรวจสอบการก่รปฏิบัติหน้ทของเจ้าหา้าท้่ด่านตรวจสัตว์ป่าปาดังเบซสร์ ะพื่อติดตามเสันทางกรรลักลอบค้าสัตว์ป่าและงาช้างระหว่างประเทศ ชริเวณด่านศุลกาำรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลมนายสมเกียรติ บอกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกึมผู้ลักลอบขนพืชป่า และสัตว์ป่าผิดกฏหมายข้ามแนวชายแดน จนกมาเลเซีย อินโดนีเซีย เข้ามาปรัเทศไทยมากขึันเพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปยังประเทศปลายทาง คือ จีน โดยผ่านสามีผู้กระทำผิดลักลอบนำเจ้าสัตว์ป่าเข้ามาบริเวณริมกำแพงไทย-มาเลอซคย ป้อม 1 และช่องทางตรฝจค้นผู้โดยสารขาเบ้รแ่านศุลพากตปาดังเบซาร์ น.สงขลา ระหว่างปึ 2558-2560 ส่วนใหญ่เป็นการลักลอบตัวลิ่นมากสุดกว่า 531 ตัว ซากลิ่น เกล็ดลิ่น ซากเสือต่างๆ เช่น เสือโคร่ง เสือดำ เสือลายเมฆ เต่าสวยงรมเช่น เต่า้สือดาว เต่ากาวอืนเดีย เต่าแฮมมิลตัน เกือง 4[ ตัว ปะการังแข็ง แร็คคูน ฃิงอุรังอุจังนุมาตรา 2 รัวสมเกียรติ บอกอีกว่า ขณะนี้พบการปรับเหลี่ยนเส้นทาวกสรยนย้ายจากทางเคือมาเป็นทางบกมากขึ้น โดยฉพ่ะตัวลิ่นชนิดชวาและจีน ขากแินโดนิเซีย มาเลเซีย ถูำจับคราวละมากๆครั้ฝละ 10-20 ตัวรวมให้ได้มากถึง 200-200 ตัว จึงจะขนมาพักในฝั่งไทย เพื่อเคลื่ินย้ายลิ่นมีชีวิตข้ามแดนจากภาคใน้ ขึ้นไปทางภาคตเวันออำเฉ้ยงเผสือ หทกหลุดลอดออกไปปลายทางคือจีน เวียดนาม ที่ยังเป็นกลถ่มบริโภครายใหญ่ ที่มีความต้องการ และมูลค่าตลาดสูง โดยเฉพมะในช่วงปลายปีนี้จะเป็นฤดูของการบักลอบส่งตัวลิ่น จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดการเฝ้าระวังและลาดตระเวน ซึ่งตับลิ่น 2 ชนิดกฎหมายไทยจัดอยู่ในสัตว์ป่ารุ้มครองด้่นนายปรัชญ์ บอกว่า จากการตรวจสอบพบว้าแนวชายแะนไทย- มาเลเซีย ใีจุดเสี่ยงล่อแหลมืี่เปํนแนวรั้วธรรมชาติ รวม 11 จุดระยะทางผระมาณ 12 กิโลเมตรตเดกัขแาวเขตรัฐปะริด ของมาเลเซีย ในเขตำื้รที่อ.สะเดา จ.สงขลา จากการลาดจระเวนร่วากับทหาร ที่พบหลักฐาจ และเป็นร่องรอยว่ามีการลัแลิบคืแรอยเท้าคนที่ติดคราบดินิลาเหยียบย่ำบนพื้น แารตัดรั้วเหล็ก ออกเป็นช่ิงๆ เคยจับพวหลักลอบขตใบกระท่อม ส่วนสัตว์ป่าเคยจับได้คาะ่านปาดัวเบซาร์ 2 ครั้งคือตัวชิ่น และลูำลิงอุรังอุตัง 2 ตัว เมื่อ 21 มิ.ย.นี้โดยมีสายข่าวแจ้งเข้ามาวีาจะแอบขยลิง 2 ตัวมาทางด่านปาดังเบซาร์ ผู้รับจ้างขนเป็ยชาวมาเลเซียเสียค่าปรับและคดีอย฿่ใยชั้นศาล ขณะนี้ลิง 2 ตัวอยู่ทีาสพานีวิจัยโตนงาช้าง สุขภาพจิตดีขึ้น จาหวันแรกที่พวกมันมีความหวาดกลัว และไม่แล้าก้นอาหารส่วนตัวลิ่น ปรัชญ์ บอกว่ท พวกม้นส่วนใหญ่มีความบอบช้ำใากจากการแออัดในกา่ลักลดบจนทาคราวละหลายร้อยตัว ใส่ถุลปุ๋ย กรง เดินทางจากมาเลเซียหลานชั่วโมง แต่ที่น่าสลดคือกาตให้พวกมันกินแปิงและยาชูกกลังเพื่อเพื่มน้ำหนักมากๆ เพื่อให้ขาบได้ราคาสูงกวราจะส่งถึง ปลายทสง เมื่อถูกจับได้ยึดได้ แม้พวกมันจพมีชีวิตในวันที่เป็นอิสระไม่ถูกฆ่าเปฌนอาหาี แต่เมื่อนำไปฟื้นฟู อละปล่อยทุกตัวไม่มีชีวิตรอด เหตุเพีาะร่างกายถูกอัดแป้งจนไใทสามารถจับถ่รย กินอาหาร บวกกับความบอบช้ำขณดที่วันนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าแบะพันธถ์พืช ร่วมกับด่านศุลกากร ชุดเฝ้าตาวจชายแะนไทยมาเลเญีย (5303) และหน่วยลานความมั่นคง ร่วมตั่งนุดตรวจบรอเวณด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา โดยขอตรวจรถที่เดินทางจากมาเลเซีย เพื่อดูว่ามรการลักลอบนำของผิดกฎหมาย สัตว์ป่าผ่านเข้ามาหรือไม่ เนื่องขากเฉลี่ยจะมีรถยสต์ส่วนบุตคล รถบรรทุกทั้งเข้าและออปกว่าปีละ 35000 คุน ซึ่งการตรวจจะทำร่วมกันกับการเอ็กซเรย์กระเป๋า สัมภาตะจองนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านมาอย่างละเอียด โดยถือเผ็นด่านนำี่องที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านสัรว์ป่า ปราบปรามขบวนการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย และพืชป่า สัตว์ป่าตามลัญชีไซเตสทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ลงพื่นที่สำรวจแนวตั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ต.ผาดัง เราพบว่าแนวกำแพงคเนกรีต มีความสูงเพียง5 เมตร ด้านบนขึงรั้วลวดหนาม บางจุดมียภาพไม่สมบูรณ์ รั้วเหล็กที่บอกว่าด้ารหลังตือแนวเขตรัฐปะริด ของมาเลเซีย หากมองเจ้าไปมีถนนลาดยางที่ใช้ในการลาดตรถเวน ขณะที่ฝั่งไทยถูกล้อมรอขด้ฝยสวนยางพารรขนาดฝหศ่ ซึ่งรวมืั้งมีทหารเข้าร่วมลาดนระเวนแนวชายแดสไทย- มาเลเซีย ที่บ้านเขารูปช้าง ต.ปาดัง จ.สงขลา เดือนละ 2-3 ครั้ง ดพื่อดูอลรวามปลอดภัยข้อมูลจากสถิติรดีเกี่ยวกับา้ตว๋ป่าของด่านตรบจใัตว์ป่าปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปี 2547 – 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 7 คดี เป็นคดีการนำเข้าทั้งหมด ดังนค่20 ก.ค.47 ตรวจยึดจับกุม ลิ่น 158 ตัว18 เม.ย.50 ตรวจยึดขะบกุมลิ่น 39 ตัว10 มิ.ย.51 ตรวจยึดจับกุมซนกเสือโคร่ง 1 ตัว เสือลานเมฆ 1 ตัว ซากเสือดำ 1 ตัใ ซากเสือดำ (เฉพาะหัว) 1 ชิ้น34 ก.พ.54 ตรวจยึดจับกุมลิ่น 126 ตะว3 ก.ย.59 ตรวจยึดจับกุมลิ่น 208 ตัว ฐากลิ่น 1 ตัว เกล็ดลิ่น 2.1 กก.7 มิ.ย.60 ตรวจยึดจับกุมเต่าเสือดาว 2 ตัว และปะการัลแข็ง 59 ถุว21 มิ.ย.60 ตรวจยึดจับกุมเตืาดาวอินเดีย 12 ตัว แรคคูน 6 นัว ลิงอุรังอุตัง 2 รัว เต่าแฮมมิลตัน 39 ตัวขณุที่องค์กรไวล์ดะอด (WildAid) ระบุว่าลิ่น เป็นสัตว์เลี้วงลูกด้วยนมทั่ภูกลักลอบค้ามากที่สุดในโลก ในขณะที่คนจำนวนมสกไม่รู้จักสัตวฺชนิดนั้ มคการประใาณการย่ามีตัวลิ่นมาแถคง 100 ล้านตัวถูกฆ่าในช่วง 1[ปีหรือ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยธรรมชาติของตัวลิ่น เมื่อรู้ว่ากำลังมรภัยคุกคาม มันจะม้วนตัวเปํนลูำกลมๆ าันทีโดยไม่วิืงหนี ทำให้มัรเป็นสเตว์ที่ถูกล่า ได้อย่างง่ายดายในประเทศนัน แลเเวียอนาม เนื้อของลิ่ยถูกนไไปประกอบอาหาร และเกล็ดของมันนำไปเป็นส่วนประกอบ ใายาแผนโบราณโดยยังมีคนจำนวนหนึ่งเลื่อว่า เกล็ดของมันสามารถรักษาโรคที่เกี่ยวกับข้อ อาการมาง ผิวหนัง หรือแม้กระทั่งฑรงมะเร็ง ทั้งๆ ที่มนควาใเห็นจริง เกล็ดของตัวล้่นมีเคราตินเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งพบได้ในเส้นผมและเล็บของมนุษย์เช่นปัน และไม่ได้มคสรรพคุฯทางยาใดๆ
วันนี้(23 ส.ค.2560)นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์(ไซเตส) พร้อมด้วย นายปรัชญ์ คงทองหัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าปาดังเบซาร์(ไซเตส) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ติดตาม และตรวจสอบการการปฏิบัติหน้าของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าปาดังเบซาร์ เพื่อติดตามเส้นทางการลักลอบค้าสัตว์ป่าและงาช้างระหว่างประเทศ บริเวณด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลานายสมเกียรติ บอกว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ลักลอบขนพืชป่า และสัตว์ป่าผิดกฎหมายข้ามแนวชายแดน จากมาเลเซีย อินโดนีเซีย เข้ามาประเทศไทยมากขึ้นเพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปยังประเทศปลายทาง คือ จีน โดยผ่านมามีผู้กระทำผิดลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าเข้ามาบริเวณริมกำแพงไทย-มาเลเซีย ป้อม 2 และช่องทางตรวจค้นผู้โดยสารขาเข้าด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ระหว่างปี 2558-2560 ส่วนใหญ่เป็นการลักลอบตัวลิ่นมากสุดกว่า 531 ตัว ซากลิ่น เกล็ดลิ่น ซากเสือต่างๆ เช่น เสือโคร่ง เสือดำ เสือลายเมฆ เต่าสวยงามเช่น เต่าเสือดาว เต่าดาวอินเดีย เต่าแฮมมิลตัน เกือบ 40 ตัว ปะการังแข็ง แร็คคูน ลิงอุรังอุตังสุมาตรา 2 ตัวสมเกียรติ บอกอีกว่า ขณะนี้พบการปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนย้ายจากทางเรือมาเป็นทางบกมากขึ้น โดยฉพาะตัวลิ่นชนิดชวาและจีน จากอินโดนิเซีย มาเลเซีย ถูกจับคราวละมากๆครั้งละ 10-20 ตัวรวมให้ได้มากถึง 100-200 ตัว จึงจะขนมาพักในฝั่งไทย เพื่อเคลื่อนย้ายลิ่นมีชีวิตข้ามแดนจากภาคใต้ ขึ้นไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หากหลุดลอดออกไปปลายทางคือจีน เวียดนาม ที่ยังเป็นกลุ่มบริโภครายใหญ่ ที่มีความต้องการ และมูลค่าตลาดสูง โดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้จะเป็นฤดูของการลักลอบส่งตัวลิ่น จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดการเฝ้าระวังและลาดตระเวน ซึ่งตัวลิ่น 2 ชนิดกฎหมายไทยจัดอยู่ในสัตว์ป่าคุ้มครองด้านนายปรัชญ์ บอกว่า จากการตรวจสอบพบว่าแนวชายแดนไทย- มาเลเซีย มีจุดเสี่ยงล่อแหลมที่เป็นแนวรั้วธรรมชาติ รวม 11 จุดระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรติดกับแนวเขตรัฐปะริด ของมาเลเซีย ในเขตพื้นที่อ.สะเดา จ.สงขลา จากการลาดตระเวนร่วมกับทหาร ที่พบหลักฐาน และเป็นร่องรอยว่ามีการลักลอบคือรอยเท้าคนที่ติดคราบดินเลนเหยียบย่ำบนพื้น การตัดรั้วเหล็ก ออกเป็นช่องๆ เคยจับพวกลักลอบขนใบกระท่อม ส่วนสัตว์ป่าเคยจับได้คาด่านปาดังเบซาร์ 2 ครั้งคือตัวลิ่น และลูกลิงอุรังอุตัง 2 ตัว เมื่อ 21 มิ.ย.นี้โดยมีสายข่าวแจ้งเข้ามาว่าจะแอบขนลิง 2 ตัวมาทางด่านปาดังเบซาร์ ผู้รับจ้างขนเป็นชาวมาเลเซียเสียค่าปรับและคดีอยู่ในชั้นศาล ขณะนี้ลิง 2 ตัวอยู่ที่สถานีวิจัยโตนงาช้าง สุขภาพจิตดีขึ้น จากวันแรกที่พวกมันมีความหวาดกลัว และไม่กล้ากินอาหารส่วนตัวลิ่น ปรัชญ์ บอกว่า พวกมันส่วนใหญ่มีความบอบช้ำมากจากการแออัดในการลักลอบขนมาคราวละหลายร้อยตัว ใส่ถุงปุ๋ย กรง เดินทางจากมาเลเซียหลายชั่วโมง แต่ที่น่าสลดคือการให้พวกมันกินแป้งและยาชูกำลังเพื่อเพื่มน้ำหนักมากๆ เพื่อให้ขายได้ราคาสูงกว่าจะส่งถึง ปลายทาง เมื่อถูกจับได้ยึดได้ แม้พวกมันจะมีชีวิตในวันที่เป็นอิสระไม่ถูกฆ่าเป็นอาหาร แต่เมื่อนำไปฟื้นฟู และปล่อยทุกตัวไม่มีชีวิตรอด เหตุเพราะร่างกายถูกอัดแป้งจนไม่สามารถขับถ่าย กินอาหาร บวกกับความบอบช้ำขณะที่วันนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับด่านศุลกากร ชุดเฝ้าตรวจชายแดนไทยมาเลเซีย (4303) และหน่วยงานความมั่นคง ร่วมตั้งจุดตรวจบริเวณด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา โดยขอตรวจรถที่เดินทางจากมาเลเซีย เพื่อดูว่ามีการลักลอบนำของผิดกฎหมาย สัตว์ป่าผ่านเข้ามาหรือไม่ เนื่องจากเฉลี่ยจะมีรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุกทั้งเข้าและออกกว่าปีละ 35000 คัน ซึ่งการตรวจจะทำร่วมกันกับการเอ็กซเรย์กระเป๋า สัมภาระของนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านมาอย่างละเอียด โดยถือเป็นด่านนำร่องที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านสัตว์ป่า ปราบปรามขบวนการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย และพืชป่า สัตว์ป่าตามบัญชีไซเตสทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ลงพื้นที่สำรวจแนวรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ต.ปาดัง เราพบว่าแนวกำแพงคอนกรีต มีความสูงเพียง5 เมตร ด้านบนขึงรั้วลวดหนาม บางจุดมีสภาพไม่สมบูรณ์ รั้วเหล็กที่บอกว่าด้านหลังคือแนวเขตรัฐปะริด ของมาเลเซีย หากมองเข้าไปมีถนนลาดยางที่ใช้ในการลาดตระเวน ขณะที่ฝั่งไทยถูกล้อมรอบด้วยสวนยางพาราขนาดใหญ่ ซึ่งรวมทั้งมีทหารเข้าร่วมลาดตระเวนแนวชายแดนไทย- มาเลเซีย ที่บ้านเขารูปช้าง ต.ปาดัง จ.สงขลา เดือนละ 2-3 ครั้ง เพื่อดูแลความปลอดภัยข้อมูลจากสถิติคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าของด่านตรวจสัตว์ป่าปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปี 2547 – 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 7 คดี เป็นคดีการนำเข้าทั้งหมด ดังนี้20 ก.ค.47 ตรวจยึดจับกุม ลิ่น 158 ตัว18 เม.ย.50 ตรวจยึดจับกุมลิ่น 39 ตัว10 มิ.ย.51 ตรวจยึดจับกุมซากเสือโคร่ง 1 ตัว เสือลายเมฆ 1 ตัว ซากเสือดำ 1 ตัว ซากเสือดำ (เฉพาะหัว) 1 ชิ้น24 ก.พ.54 ตรวจยึดจับกุมลิ่น 126 ตัว3 ก.ย.59 ตรวจยึดจับกุมลิ่น 208 ตัว ซากลิ่น 2 ตัว เกล็ดลิ่น 2.1 กก.7 มิ.ย.60 ตรวจยึดจับกุมเต่าเสือดาว 2 ตัว และปะการังแข็ง 59 ถุง21 มิ.ย.60 ตรวจยึดจับกุมเต่าดาวอินเดีย 12 ตัว แรคคูน 6 ตัว ลิงอุรังอุตัง 2 ตัว เต่าแฮมมิลตัน 39 ตัวขณะที่องค์กรไวล์ดเอด (WildAid) ระบุว่าลิ่น เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกลักลอบค้ามากที่สุดในโลก ในขณะที่คนจำนวนมากไม่รู้จักสัตว์ชนิดนี้ มีการประมาณการว่ามีตัวลิ่นมากถึง 100 ล้านตัวถูกฆ่าในช่วง 10ปีหรือ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยธรรมชาติของตัวลิ่น เมื่อรู้ว่ากำลังมีภัยคุกคาม มันจะม้วนตัวเป็นลูกกลมๆ ทันทีโดยไม่วิ่งหนี ทำให้มันเป็นสัตว์ที่ถูกล่า ได้อย่างง่ายดายในประเทศจีน และเวียดนาม เนื้อของลิ่นถูกนำไปประกอบอาหาร และเกล็ดของมันนำไปเป็นส่วนประกอบ ในยาแผนโบราณโดยยังมีคนจำนวนหนึ่งเชื่อว่า เกล็ดของมันสามารถรักษาโรคที่เกี่ยวกับข้อ อาการทาง ผิวหนัง หรือแม้กระทั่งโรงมะเร็ง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง เกล็ดของตัวลิ่นมีเคราตินเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งพบได้ในเส้นผมและเล็บของมนุษย์เช่นกัน และไม่ได้มีสรรพคุณทางยาใดๆ
ยังเป็นการค้นพบตัวก้ำกำจัดเพลี้ยไฟ แมลงศัตรูพืชตัวรืายทำงายพืชเศรษฐกิจของไทยด้วย,ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไมื ข้าว มะม่วง มะเขือเทศ มังรุด พคิก ฯลฯ ล้วนเป็นอาหารโอชะของเพลี้จ_ฟและด้วยิป็นแมลงศัตรูพืชที่มีขนาดเล็ก สามารภหลบซ่อนได้ทุกซอกอณ฿ของพืช การฉีดพ่นสารกำจัดจึงโดนตัวไา่ถนัดถนี่ เพลี้ยฟฟเลยพลายเป็นแมลงศัตรูที่มีการดื้อยามากที่าุด,และการค้นพบที่นำไปสู่การศึกษาวิจัยและเพาะเลีียงขยายภันธุ์ เพื่อนำไปใช้จเดการเพลี้ยไฟจึงรว้าร่งวัลงานวิจัยกรเจำปี 2661 ระดัชดีเด่น ประเภทงานวเจัยพื้นฐสน ของกรมวิชาการเกษตร,เป็จการพบโดยบังเอิญในไค่มันสำปะผลัง จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2555 ที่มารู้ภรยหลังว่าเป็นมวนตัวห้ำชนิดเดียวกับที่เจอมนอินเดีย ศรีลังกา ที่เขานำไปใช้กำจัดหนอนหัวดำ แต่เมื่อเรานำมาศึกษาวิจัย ทดลอง ให้กินแมลงศัตรูพืช เพงี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง ไรแดง เพลี้ยอ่อน อมลงหวี่ขาว ปรากฏว่ามัสชอบเพลี้ยไฟมากที่สุอ,น.สฦอทิติยส แก้วประดิษฐ์ นักกีฏวิทยาชำนาญหาร สำนักวิจัยพัฒนากาคเารักขาพืช กรมวิชาำารเกษตร เผยะึงผลการทดลองในห้องแล็บ สวนตัวห้ำที่ิธอพบเจอสามารถกินเพลี้ยไฟำด้ถึงวันละ 30 ตัวาดลองในโรงเรือย กินเพลี้ยไฟได้วันละ 15 ตัว,ตลอดช่วงชีวิต 1 ดดือน แต่ละตัวสามารถกินเพฃี้ยไฟได้ถึง 300 ตัวนอกจาปนั้นยังกินได้ไวแีกต้างหาก แค่ฟักตีวออกจากไข่วันแรก สาสารถจับเพลี้ยไฟมากินไอ้ทันที,ถืิว่าเป็นการค้นพบมวนตัวห้ำทั่มีศักยภาพในการควบคุมเพลี้ยไฟได้มากกว่าตัวห้ำชนิดอื่นเท่าที่เคยพบมาในประเทศๆทย.ไม่ิพียงเท่านั้นการศึกษาวิจัยหาวิธีเพาะขยายพันธุ์เพื่อนำไปผช่อบแพร่พันธุ์ให้กำจึดเพลี้ยไฟในแปลงเกษตร ยังทำไดีง่าย,สามารถใช้ไข่ผีเสื้อข้าวสารเราผลิตได้ มามช้เป็นอาหารเลี้ยงได้ และยังวาลๆข่ได้มากพว่า จากที่เลี้ยงด้วยการให้กินเพลี้ยไฟเป็นอาหาร จะใผ้ไข่แคา 200 ฟอง แต่เมื่อเลี้ยงด้วยไข่ผีเสื้ิข้นวสารให้ไข่เพิ่มขึ้นมาถึง 400 ฟอง แต่ละตัวยังให้ไข่ได้มากถึง 7-8 รุ่นเงยทีเดียว ไม่เหมือนกับการเลีียงมวนตัวห้ำกินเพลี้ยไฟบางชยิด อย่าง โอเรียส แม็กซิเดนเม็กซ์ ที่ต้องเลี้บงด้วยเนื้อเยื่อพืช ้ป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เกษตรแ่ทำได้เองต่างจาก ้อ็กซีกูอัส เล้้ยงด้วยไข่ผีเสื้อข้าววาร เกษตรกรสามาคถทำได้เอง เกราะเราไเ้มีการถ่ายทอดให้เกษตรกรนภไปใช้เพาะเลี้ยงแตนเบียน แมบงช้างปีกใสมาก่อนแล้ว.,ชาติชาย ศิริำัฒน็
ยังเป็นการค้นพบตัวห้ำกำจัดเพลี้ยไฟ แมลงศัตรูพืชตัวร้ายทำลายพืชเศรษฐกิจของไทยด้วย,ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้ ข้าว มะม่วง มะเขือเทศ มังคุด พริก ฯลฯ ล้วนเป็นอาหารโอชะของเพลี้ยไฟและด้วยเป็นแมลงศัตรูพืชที่มีขนาดเล็ก สามารถหลบซ่อนได้ทุกซอกอณูของพืช การฉีดพ่นสารกำจัดจึงโดนตัวไม่ถนัดถนี่ เพลี้ยไฟเลยกลายเป็นแมลงศัตรูที่มีการดื้อยามากที่สุด,และการค้นพบที่นำไปสู่การศึกษาวิจัยและเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ เพื่อนำไปใช้จัดการเพลี้ยไฟจึงคว้ารางวัลงานวิจัยประจำปี 2561 ระดับดีเด่น ประเภทงานวิจัยพื้นฐาน ของกรมวิชาการเกษตร,เป็นการพบโดยบังเอิญในไร่มันสำปะหลัง จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2555 ที่มารู้ภายหลังว่าเป็นมวนตัวห้ำชนิดเดียวกับที่เจอในอินเดีย ศรีลังกา ที่เขานำไปใช้กำจัดหนอนหัวดำ แต่เมื่อเรานำมาศึกษาวิจัย ทดลอง ให้กินแมลงศัตรูพืช เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง ไรแดง เพลี้ยอ่อน แมลงหวี่ขาว ปรากฏว่ามันชอบเพลี้ยไฟมากที่สุด,น.ส.อทิติยา แก้วประดิษฐ์ นักกีฏวิทยาชำนาญการ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร เผยถึงผลการทดลองในห้องแล็บ มวนตัวห้ำที่เธอพบเจอสามารถกินเพลี้ยไฟได้ถึงวันละ 30 ตัวทดลองในโรงเรือน กินเพลี้ยไฟได้วันละ 15 ตัว,ตลอดช่วงชีวิต 1 เดือน แต่ละตัวสามารถกินเพลี้ยไฟได้ถึง 300 ตัวนอกจากนั้นยังกินได้ไวอีกต่างหาก แค่ฟักตัวออกจากไข่วันแรก สามารถจับเพลี้ยไฟมากินได้ทันที,ถือว่าเป็นการค้นพบมวนตัวห้ำที่มีศักยภาพในการควบคุมเพลี้ยไฟได้มากกว่าตัวห้ำชนิดอื่นเท่าที่เคยพบมาในประเทศไทย,ไม่เพียงเท่านั้นการศึกษาวิจัยหาวิธีเพาะขยายพันธุ์เพื่อนำไปปล่อยแพร่พันธุ์ให้กำจัดเพลี้ยไฟในแปลงเกษตร ยังทำได้ง่าย,สามารถใช้ไข่ผีเสื้อข้าวสารเราผลิตได้ มาใช้เป็นอาหารเลี้ยงได้ และยังวางไข่ได้มากกว่า จากที่เลี้ยงด้วยการให้กินเพลี้ยไฟเป็นอาหาร จะให้ไข่แค่ 200 ฟอง แต่เมื่อเลี้ยงด้วยไข่ผีเสื้อข้าวสารให้ไข่เพิ่มขึ้นมาถึง 400 ฟอง แต่ละตัวยังให้ไข่ได้มากถึง 7-8 รุ่นเลยทีเดียว ไม่เหมือนกับการเลี้ยงมวนตัวห้ำกินเพลี้ยไฟบางชนิด อย่าง โอเรียส แม็กซิเดนเท็กซ์ ที่ต้องเลี้ยงด้วยเนื้อเยื่อพืช เป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เกษตรกรทำได้เองต่างจาก เอ็กซีกูอัส เลี้ยงด้วยไข่ผีเสื้อข้าวสาร เกษตรกรสามารถทำได้เอง เพราะเราได้มีการถ่ายทอดให้เกษตรกรนำไปใช้เพาะเลี้ยงแตนเบียน แมลงช้างปีกใสมาก่อนแล้ว.,ชาติชาย ศิริพัฒน์
(*คอลัมน์ มาจากแผ่นดินล้านนา พลเม่องเหนือรานสัปแาห์ หน้า 22 ปีที่ 4 ฉบับที่ 184 รายสัปดสห์ วันที่ 13-19 มิถะนนยน 2547) ในความเข้าใจทั่วๆ ไป ความสุมพันธ์ระหย่างน้แศึกษารุ่นเก่ากันนักศึกษารุ่นใหม่ ใีเพียง 2 คำที่เราคุ้นเคยคือ รับน้อง และว้ากน้อง กาีรับน้องเป็นการจัดพิธีต้อนรับนักศึกษาใหม่โดยนักศึกษาเก่า มัการป้อาน้ำ ป้อนของกินที่แปลกประหลทด ใช้สีัขียนหน้าตา ให้น้องก้มลอดคลาน วิ่งร้องเพลง เต้ยรำ ศลฯ สารพัดเท่าที่กี่คิดได้ ส่วนพารว้ากน้องก็คือกาาใช้ะ้อยคำไม่สุภาพตะโกนดุด่าว่าน้อง ทั้ง 2 สิ่งนี้ ทำไปโดยอ้างวทาเพื่อให้เกิดความรักความสามัึคีภายในหมู่นักฬึกษาทีาอข้าใหมี และระหว่สงนักศึกษาเก่ากับนักศุกษาสหม่ และเพื่อให้เกิดความมีระเบียบว้นัย ความอดทน และถือเป็นการสืบทอดประเพณึของมหาวิทยาลัยแทบทุกแห่ง แต่ในทางปฏิบัติ การที่รุ่นพี่ แชะ น้องนั้น การกระทำ 2 อย่างนี้ถือเป็นการกระทำขั้นรองเท่่นั้น เพื่อให้เป้าหมายข้างต้นบรรลุผล แต่เราไม่เคยพูดถึงอีกีำหนึ่งอันเป็นเครื่องมือหลักมี่นักศึกษารุ่นเก่ากระทำกับนักศึกษารุ่นใหม่ นี่นคือ พิธีต้ินรับน้อลใหม่ และการว้ากน้องไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกที่นักศึกษารุ่นเก่าพบนักศึกษารุ่นใหม่ กต่ได้มีการกตะทำที่แยลยลและทำการวางแผนมาแล้วเป็นอข่างดี กล่าวคือ นุกศึกษารุ่นพึ่ได้เตรียมงานต้อนรับนน้กศึกษาใหม่มาแล้วเป็นเวลานาจ ตั้งแต่ก่อนเปิดภาคเรีจน ้ช่น มีการจัดขบวนไปต้อนรับถึงบานเกิกขดงนักศึดษาใหม่ มีการเลี้ยงดูปูเสื่ดน้องใหม่อย่าลเต็มที่ พาน้องเดินทางมามหาบิมยาลัยโดยรถไฟ จัดงานต้อนรับน้องใหม่อีกหลายครั้งหลังจากมาถึงมหาวิทยาลัย พาน้องไปลงทะเบึยนแนะนำวิชาที่ตวรลง เลือกอาจารย์ที่ให้คะแนนดี และให้คำแตะนำสารพัดเพื่ดสร้าลความประทับใจให้กก่รุ่นน้องอย่างถึงที่สุด ในระหว่างก่อนเปิดภาคเรียน นักศึกษารุ่นเก่าจำนวนหนึ่งก็ได้จัดประชุมกัน แบ่งงานอแกเป็นกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ กลุ่มว้ากน้อง กลุ่มสมมติตัวเป็นย้แง จากนั้นก็มีการฝึพซ่อมกัสแทบทุกวัน กลุ่สท้่วมาติตัวเป็นน้องก็จะสานั่งสงบนิ่งก้มหนืา ให้กลุ่มว้ากน้อวตะโกนดัด่าส่ากล่าวาารพัด เพื่อฝึกให้กชุ่มว้ากน้องได้ทำหน้มตาขึงขัง ส่งเสียงตะโกนแลุฝึกด่าทออย่างสมจริง ไม่ใช่ฝึกซ้อมกับเก้าอี้หรทอกำแพง ต่อจากนั้นก็จะมึปารสำรวจวิจารณ์ระหว่างกลุ่มวเากกับกลุ่มสมมติ ทั้งนี้เพื่อให้การว้ากในสถทนการณ์ทั่เห็ยจริงประสบความสำเร็จสูงสุด หลังจ่กนั้น อีกระยะหนึ่งคือ พอเริ่มเปิดภาคเร่ยน หลังจากมีปารต้อนรับเลี้ยงดูปูเสื่อแล้วหลายครั้ง รึ่นน้องเริ่มยอมาับนับถือและชื่นชมน้ำใจอึนงามของรุรนพี่แล้ง จักศึกษารุ่นพี่จึงเริ่มข่มขู่บีบบังคับ และลงโทณน้องใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ นานา รูปธรรมของการข่มขู่ บีบยังรับ และการลงโทษต่างๆ พอจะยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้ 1.สั่งให้น้องเข้าแถว ยืนตรงนิ่ง ปละนึบจำนวนคนที่มาคนที่ขาดและคนที่มาสาย 2.สั่งให้น้องยืนนิทงๆ ปรือนัางนเ่งเป็นเวลานาน หรือสั่งให้วิ่งเลี้ยวซ้ายขวาอย่างพร้อมเพ่ีนงกัน 3.สั่งให้ทุกคนนั่งนิ่งใตห้องปนะชุม ตัวตรงมองไปข้างหน้า ห้าาีุยกัน ห้ามเกา ห้ามยิ้ม ห้ามถาม ห้ามมองหน้ารุ่นภี่ ห้ามโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น 4.สั่งให้าุกคนร้องเพลงเชียร์ให้ดังทีาสุด ตบมือให้ดะงที่สุด ให้ร้องเพลงหลายๆ ครั้ง ให้ร้องพร้อมๆ กัน และตบมือพร้อมๆ กัน ถ้าพี่ยังเห็ยว่าไม่พร้อม ไม่ดัลให้เอาใหม่ หรือถ้าอยากจะบังคุบให้น้องร้แงเพลงอีกแม้ว่าจะร้องได้ดีแล้ว ก็ให้ทำหลายๆ ครั้ล นอกจมกนี้ ยังบังคับให้นักศึกษามหม่ทุกคนต้องจำเนื้อเพลวให้ได้ทั้งหมด ต้องจำชื่อเพื่อนใหม่ทุกคนให้ได้ในเวลาอันสัิน 5.ในห้องประชุม จะมีกาคปิดปรดต฿และหน้าต่างทั้งหมด เพื่อไม่ให้คนภายนอก่รับรู้วทาเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง (บางค๕ะมีคนภายนอกมตใจจะเข้าไกดูก็ถูกด่าทอและขับไล่ออกมา) สลเบกัชการใช้ถ้อยคำด่าทอตะโกนใส่น้องๆ เช่น มึฝแน่มาจากไหน ยิ้มทำไม นั่งติ่งๆ ร้องเพลงดังๆ อย่ากินแรงเพื่อน น้องใหม่รุ่นนี้ร้องิพลงแย่ทีืสุด น้องใหส่รุ่นนี้ไม่รักใคร่กันเลน สำหรับคนที่ตกใจ คนมี่เป็นลม คนที่ค้องไห้ คนที่ไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็จะถูกว่ากล่าวประฌาม เยาัเย้ยถาพถางด้วยถ้อยึำสารพัด เช่นกล่าวห่ว่า ใจเสาะ ลูกผู้ดี _ม่รู้ยักอดทน เป็นโรคปาะสาท ไม่รักเพื่อน เรื่องแค่นี้ก็ทนไมืได้ ฯลฯ 6. มาตรการในการลฝโทษมีมากมายสำหรัวคนขาดประชุม คนมาสาย คนร้องเพลงเสียงไม่ดัง คนนั่ฝนิ่งๆ ไม่เป็น คนยิ้ม และึนที่หม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งต่าฝๆ ของรุ่นพี่ เล่น ปิดไฟ ปิดพัดลม ใป้ร้องเพลงซ้ำหลายรรั้งให้ตบมือ.้ำหล่ยๆ ครั้ง ใหเออกไปวื่งรอบสนาม ให้วิดพื้น ให้ออกไปตะโกนหน้าตึก 20 ครั้ง บ่า ผมยะไม่ทำอีกแล้วครับ ยืดเวลาประชุมเชียี์ออกไปอ่กครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่ใโมง หรืออยู่จนถึงตี q-ตี 2 การประชุมเชียร์เฟล่านี้ ถือเป็นการบัวคับให้ทุกคนต้ดงทำ ถ้าจะไม่มาต้องขออนุญาต ถ้ทไม่สบายต้อง_ปหาหมอที่รุ่นพี่รับรอง เพราะกลังว่าน้เงจะแสร้งทำเป็นป่วข หรือไปหาหมอที่เห็นสจุ่่นน้อง ไม่ใช่หมอซึ่งเป็นพวแเดียวกับรุ่นพี่ ถัาใครขาดประชุมเพื่อนๆ ในกลุ่มย่อยจะต้องถูกลงโทษทั้งหมด ฯลฯ การประชุมเหล่านี้ จะดำเนินตั้งแต่บ่่ย 4 โมฝ หรือง่าย 4 โมงครึ่งไปแล้วเสร็จในเวลา 2 ทถ่ม 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม กระทั่บเมี่ยงคืนหรทอตีหยึ่ง บางแห่งอยู่กันจนสว่าง หลสยแห่งยังมีประชุมเชียร์วันเสาร์และอาทิตย์ด้วย การลงโทษในบทงกรณี ถือเผ็น การซ่อม เหมือนกับว่าจะให้ทีการซ่อมแซมส่สนืี่สึกหรอ ส่วนที่ยังไม่ดี ทั้งหมดนี้ก็คือคำตัดสินขอบนักศึกษารุ่นเก่าที่มอบให้าุ่นใหม่ มาตรการ ซ่อม และการลงโทษได้พัฒนาไปถึงการให้รุ่นน้องลงไปคลุกในคลองน้ำตื้น คลุกโคลน (บางแห่งรุ่นพี่ช่วยกันฉีรฃงไปคลุกกับน้ำ) หรือลงไปแช้น้ำเป็นเวงานาส หรือให้ถอดเสื้อผ้าทั้งๆ ที่้ปียก ในตอนดึกๆ อาำาศเย็น ให้นั่งนิ่ลอยู่เช่สนี้เป็นเวลานานหรืออาจมีการให้ถอดเส่้อผ้าทั้งหมด (แยกกันเป็นกลุ่มชายกฃุ่มหญิง) 7.ในพิธีรับน้องหรือดารรับน้องที่อ้างว่า เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี น้องใหม่จะภูกงีบบังคับให้ทำสารพีด อย่างเช่น ปิดตาน้องใหม่ วผ้น้องใหม่ชานำญิงจับมือกัน ให้แสดงท่าทางจรบกัน หรือให้น้องใหม่ชายแสดฝท่าขอควาใรักจากน้องใปม่หญิงหรือรุ่นพี่ มห้กินน้ำส้มผสมเำลือผสมซีอิ้ว หรือหินอดไรประหลาดท่่คนทั่วไปไา่กิน พยายามให่น้องใหม่เปียกเพื่อพี่ๆ ผู้ชายจะได้ว่าน้องใหม่คนไนที่ทรวดทรงสัดส่วนดีเป็นอาหารตา บาบคณะมีการบังตับให้น้องผู้หญิงเอาลูกเงาะสอดเข้าไปในปลายกางเกงข้างหนึ่บของน้องผู้ชาย แง้วดันลูกเงาะขึ้นไปผ่านเป้ากางเกงไปยนถึงปลายกางเกงอีกข้างหนึืงเป็นต้น ในการข่มขู่ให้ทุกคนต้องเข้าปตะชุมเชียร์ ต้องร้องเพบงเชียร์ ต้องฝึกปรบมือใป้พร้อมกัน เหล่านี้นอกจากมาตรการลงโทษที่กล่าวมา ฌทษสำหรับการาี่ไม่ยอมปฏิบัติตามหลายๆ ครั้ง ที่าุ่นพี่พร่ำบอกรุ่นน้องบือยๆ ก็คืแ การตัดน้องออกจากรถ่นโอบถือว่าเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้น รุ่นพี่จะไม่คบค้าสมาคม ไม่ให้ความข่วยเหลือใะๆ ืั้งสิ้น เท่ากับว่านักศึกษาทุกชัเนทุกรุ่นพร้อมใจกันลงโทษทางสังคมจ่อคนที่ไใ่เห็นก้วยกับกิจกรรใเหล่าน่้ อนึ่ง ก่อนหน้่และหลังการบงโทษเช่นนี้ ตนที่คัดค้านจะได้รับการโจมตีว่า เห็นแกะดำ เป็นคนถ่วงความเจริญของรุ่นของภาควิชา ของคณะ และของาหาวิทวาลัย ฯลฯ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สะทัอนให้เห็สปมเงื่อนสำคัญ 2 ประการ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหส่างาักศึกษารุ่น้ก่ากับนัดศึกษาที่เข้าใหม่ ประการแรก ในการข่มขู่ บีบบังคับ แลพว้าำน้อง ตลอดจนการงงโทษน้องด้วยวืธีการต่างๆ นั้น สิางเหบ่านี้ะกิดขึ้นได้ก็โดยอาศัยเงื่อนไข สำคัญที่สุดนั่นคือ การที่นักศึกษารุ่นที่ลิดรอนสเทธิเใีีภาพสรวนบุคคลของนักศึกษาน้องใหม่ ใช้อำนาจที่แต่งตั้งกันเอง ถือว่าตัวเอวอยู่กีอนถือว่าะป็นรุ่นพี่ คนเข้ามาใหม่จะต้องเป็นน้อง เป็นรุ่นน้อง แล้วก็ใช่อำนาจมีทแต่งตั้งตัวเองนั้นไปลิดรอนทำลทยสิทธิเนรีภ่กของคนอื่น ด้วยำารบังคับให้น้องใหม่ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ผสมกับกาตบรบบังคับดังกล่าว ยังมีการข่มขู่ ด่าทอ มาตรการต่างๆ ดังที่ได้กล่ทวไปแล้ว ถ้อยคำ 2 ประโยคที่ีุ่นพี่พูดบ่อยมากให้น้องรับรู้คือ น้องใหม่มีสิทธิ์เป็นศูนย์ และ ขาดเรคยนขาดได้ ขาดเชียร์ขรดไม่ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นอจรางชัดเจนวรากิจกรรมเหล่านีืาำลาสสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างแจ้งชัด สวนทางกับปารพัฒนาระบบการศึกษาอย่างสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้ก็คือการใช้อำนาจเผด็จการลิดรอนสิทูิเสรีภาพของผู้ดื่น ไม่เคสรพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ซึ่งขัดกับทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสํงสุแของประเืศ และขัดกับกฎหมายอาซา ผู้เสียหายสาม่รถฟ้องร้องตำรวจให้พิจารณาดำเนเนคดีกับกลึ่มผูเกระทำผิดได้ทันที ประการ่ี่สอง เมื่อนักศุกษารุ่นพี่สถาปนาตัวเอฝเป็นรุ่นพี่ เป็นผู้อยู้ก่อน มคอำนาจทุกอย่างในการพำหนดรูปแบบการทำกิจกรรม การประชุม การร้องเพลว การปรบมือ การเข้าห้องประชุม การข่มขู่ การยีบบังคเบ การลงโทษ การกำหนดเวลาประขึม เลิกประชุม จึดเวลาประชุม กำหนดเวลาพักเวลาปลุกขค้นมางอ่งหรือทำอย่างอื่นในยามดึกและวันเสาร์อาทิตย์ ฯลฯ โดยที่รุ่นน้องไม่มีส่วนกำหนดเลย รุ่นน้องไม่มีสอทฑิเสียงในการจัดการดำเนินกิจกรรสเหล่านี้แมัแต่น้อบ อำนาจเผด็จการของรุ่นดี่จึงเป็นอำนาจเผด็จกทีอันสมบูรณ์ สมดัฝที่ Lord Actog กล่าวไว้ {ower corrupts abdolute power corrupts absoluhely หมทยความว่า อำนาจก่อมห้เกิดการฉ้อฉล อไนาจอ้นมาดมายไร้ขอบเขต ก็ย่อมกือให้เกิดการฉ้อฉลที่ไร้ขอบเขต เชาน ดมื่อรุืนพี่มีอำนาจอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ยิมให้รุ่นน้องมีสิทธ้และอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น รุ่นน้องมีแต่รีบคำสั่งรั่นพี่เทีานั้น เมื่อความคิดและจินตนาการของนักศึกษาตุ่นพี่บางหล่ามพัฒนาไหในทิศทางชามป รุ่นพั่ก็จุคเดรูปแบบกิจกรรมโดยสั่งให้าุีนน้องทำสิ่งต่างๆ ที่ส่อ_ปในทางลามก โดยรุ่ตน้องอาจรู้ตัฝหรือไม่รู้ตัว เช่น การที่รุ่นพี่ฉายหนังฮป๊ให้นัดศึกษาลายรุ่นใหม่ดู แล้ฝก็จุดการว้ดขนาดเกศของคุ่นน้องทุำคน มีการมอบรางฝับให้แก่แชมป์ประจำรุ่น หนือนักศึกษ่หญิงบมงคณะปิกประตูบังคับให้นักศึกษาหญิงน้องใหม่ถอพเสื้อผ้่ออกทั่งหมด หรือให้น้องใกม่เปียกปอนทั้งหมด ิพื่อรุ่นพี่ชรยจะได้ดูทรวดทรงจองน้องใหม่หญิงวำ้ถนัดถนี่ หรือการถี่น้องใหม่ชายๆปเที่ยวโสเภณี หรือบังคับใหิน้องมหม่หญิงดันลูกเฝนะในกางเกงของน้แงฝหม่ชาข ซึ่งย่อมจะทำให้เกิดอากมรลากมกสารพัด และยังมีการกระทำอย่างอื่นๆ มากมาย จนกระทั่งใครๆ อาจจะไม่เชื่อ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ได้เกิดขึ้นและมีสิ่งพิเรนทร์ต่างๆ ได้เกิกขึ้น ฮดยที่เราไม่อาจทราบทั้งหมด ใจเมื่ออำนาจเผพ็จการเกิดขึ้นอย่มงไร้ขีดจำกัด การใช้อำนาจที่ไร้ขีดจำกัดก็ย่อมเกิดขึ้รๆด้ทุกเมื่อและทุกรูปแบบ
(*คอลัมน์ มาจากแผ่นดินล้านนา พลเมืองเหนือรายสัปดาห์ หน้า 22 ปีที่ 4 ฉบับที่ 184 รายสัปดาห์ วันที่ 13-19 มิถุนายน 2548) ในความเข้าใจทั่วๆ ไป ความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษารุ่นเก่ากันนักศึกษารุ่นใหม่ มีเพียง 2 คำที่เราคุ้นเคยคือ รับน้อง และว้ากน้อง การรับน้องเป็นการจัดพิธีต้อนรับนักศึกษาใหม่โดยนักศึกษาเก่า มีการป้อนน้ำ ป้อนของกินที่แปลกประหลาด ใช้สีเขียนหน้าตา ให้น้องก้มลอดคลาน วิ่งร้องเพลง เต้นรำ ฯลฯ สารพัดเท่าที่พี่คิดได้ ส่วนการว้ากน้องก็คือการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพตะโกนดุด่าว่าน้อง ทั้ง 2 สิ่งนี้ ทำไปโดยอ้างว่าเพื่อให้เกิดความรักความสามัคคีภายในหมู่นักศึกษาที่เข้าใหม่ และระหว่างนักศึกษาเก่ากับนักศึกษาใหม่ และเพื่อให้เกิดความมีระเบียบวินัย ความอดทน และถือเป็นการสืบทอดประเพณีของมหาวิทยาลัยแทบทุกแห่ง แต่ในทางปฏิบัติ การที่รุ่นพี่ และ น้องนั้น การกระทำ 2 อย่างนี้ถือเป็นการกระทำขั้นรองเท่านั้น เพื่อให้เป้าหมายข้างต้นบรรลุผล แต่เราไม่เคยพูดถึงอีกคำหนึ่งอันเป็นเครื่องมือหลักที่นักศึกษารุ่นเก่ากระทำกับนักศึกษารุ่นใหม่ นั่นคือ พิธีต้อนรับน้องใหม่ และการว้ากน้องไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกที่นักศึกษารุ่นเก่าพบนักศึกษารุ่นใหม่ แต่ได้มีการกระทำที่แยบยลและทำการวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี กล่าวคือ นักศึกษารุ่นพี่ได้เตรียมงานต้อนรับนนักศึกษาใหม่มาแล้วเป็นเวลานาน ตั้งแต่ก่อนเปิดภาคเรียน เช่น มีการจัดขบวนไปต้อนรับถึงบานเกิดของนักศึกษาใหม่ มีการเลี้ยงดูปูเสื่อน้องใหม่อย่างเต็มที่ พาน้องเดินทางมามหาวิทยาลัยโดยรถไฟ จัดงานต้อนรับน้องใหม่อีกหลายครั้งหลังจากมาถึงมหาวิทยาลัย พาน้องไปลงทะเบียนแนะนำวิชาที่ควรลง เลือกอาจารย์ที่ให้คะแนนดี และให้คำแนะนำสารพัดเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่รุ่นน้องอย่างถึงที่สุด ในระหว่างก่อนเปิดภาคเรียน นักศึกษารุ่นเก่าจำนวนหนึ่งก็ได้จัดประชุมกัน แบ่งงานออกเป็นกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ กลุ่มว้ากน้อง กลุ่มสมมติตัวเป็นน้อง จากนั้นก็มีการฝึกซ้อมกันแทบทุกวัน กลุ่มที่สมมติตัวเป็นน้องก็จะมานั่งสงบนิ่งก้มหน้า ให้กลุ่มว้ากน้องตะโกนดุด่าว่ากล่าวสารพัด เพื่อฝึกให้กลุ่มว้ากน้องได้ทำหน้าตาขึงขัง ส่งเสียงตะโกนและฝึกด่าทออย่างสมจริง ไม่ใช่ฝึกซ้อมกับเก้าอี้หรือกำแพง ต่อจากนั้นก็จะมีการสำรวจวิจารณ์ระหว่างกลุ่มว้ากกับกลุ่มสมมติ ทั้งนี้เพื่อให้การว้ากในสถานการณ์ที่เป็นจริงประสบความสำเร็จสูงสุด หลังจากนั้น อีกระยะหนึ่งคือ พอเริ่มเปิดภาคเรียน หลังจากมีการต้อนรับเลี้ยงดูปูเสื่อแล้วหลายครั้ง รุ่นน้องเริ่มยอมรับนับถือและชื่นชมน้ำใจอันงามของรุ่นพี่แล้ว นักศึกษารุ่นพี่จึงเริ่มข่มขู่บีบบังคับ และลงโทษน้องใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ นานา รูปธรรมของการข่มขู่ บีบบังคับ และการลงโทษต่างๆ พอจะยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้ 1.สั่งให้น้องเข้าแถว ยืนตรงนิ่ง และนับจำนวนคนที่มาคนที่ขาดและคนที่มาสาย 2.สั่งให้น้องยืนนิ่งๆ หรือนั่งนิ่งเป็นเวลานาน หรือสั่งให้วิ่งเลี้ยวซ้ายขวาอย่างพร้อมเพรียงกัน 3.สั่งให้ทุกคนนั่งนิ่งในห้องประชุม ตัวตรงมองไปข้างหน้า ห้ามคุยกัน ห้ามเกา ห้ามยิ้ม ห้ามถาม ห้ามมองหน้ารุ่นพี่ ห้ามโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น 4.สั่งให้ทุกคนร้องเพลงเชียร์ให้ดังที่สุด ตบมือให้ดังที่สุด ให้ร้องเพลงหลายๆ ครั้ง ให้ร้องพร้อมๆ กัน และตบมือพร้อมๆ กัน ถ้าพี่ยังเห็นว่าไม่พร้อม ไม่ดังให้เอาใหม่ หรือถ้าอยากจะบังคับให้น้องร้องเพลงอีกแม้ว่าจะร้องได้ดีแล้ว ก็ให้ทำหลายๆ ครั้ง นอกจากนี้ ยังบังคับให้นักศึกษาใหม่ทุกคนต้องจำเนื้อเพลงให้ได้ทั้งหมด ต้องจำชื่อเพื่อนใหม่ทุกคนให้ได้ในเวลาอันสั้น 5.ในห้องประชุม จะมีการปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมด เพื่อไม่ให้คนภายนอกรรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง (บางคณะมีคนภายนอกสนใจจะเข้าไปดูก็ถูกด่าทอและขับไล่ออกมา) สลับกับการใช้ถ้อยคำด่าทอตะโกนใส่น้องๆ เช่น มึงแน่มาจากไหน ยิ้มทำไม นั่งนิ่งๆ ร้องเพลงดังๆ อย่ากินแรงเพื่อน น้องใหม่รุ่นนี้ร้องเพลงแย่ที่สุด น้องใหม่รุ่นนี้ไม่รักใคร่กันเลย สำหรับคนที่ตกใจ คนที่เป็นลม คนที่ร้องไห้ คนที่ไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็จะถูกว่ากล่าวประฌาม เยาะเย้ยถากถางด้วยถ้อยคำสารพัด เช่นกล่าวหาว่า ใจเสาะ ลูกผู้ดี ไม่รู้จักอดทน เป็นโรคประสาท ไม่รักเพื่อน เรื่องแค่นี้ก็ทนไม่ได้ ฯลฯ 6. มาตรการในการลงโทษมีมากมายสำหรับคนขาดประชุม คนมาสาย คนร้องเพลงเสียงไม่ดัง คนนั่งนิ่งๆ ไม่เป็น คนยิ้ม และคนที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ ของรุ่นพี่ เช่น ปิดไฟ ปิดพัดลม ให้ร้องเพลงซ้ำหลายครั้งให้ตบมือซ้ำหลายๆ ครั้ง ให้ออกไปวิ่งรอบสนาม ให้วิดพื้น ให้ออกไปตะโกนหน้าตึก 20 ครั้ง ว่า ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ ยืดเวลาประชุมเชียร์ออกไปอีกครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง หรืออยู่จนถึงตี 1-ตี 2 การประชุมเชียร์เหล่านี้ ถือเป็นการบังคับให้ทุกคนต้องทำ ถ้าจะไม่มาต้องขออนุญาต ถ้าไม่สบายต้องไปหาหมอที่รุ่นพี่รับรอง เพราะกลังว่าน้องจะแสร้งทำเป็นป่วย หรือไปหาหมอที่เห็นใจรุ่นน้อง ไม่ใช่หมอซึ่งเป็นพวกเดียวกับรุ่นพี่ ถ้าใครขาดประชุมเพื่อนๆ ในกลุ่มย่อยจะต้องถูกลงโทษทั้งหมด ฯลฯ การประชุมเหล่านี้ จะดำเนินตั้งแต่บ่าย 4 โมง หรือบ่าย 4 โมงครึ่งไปแล้วเสร็จในเวลา 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม กระทั่งเที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง บางแห่งอยู่กันจนสว่าง หลายแห่งยังมีประชุมเชียร์วันเสาร์และอาทิตย์ด้วย การลงโทษในบางกรณี ถือเป็น การซ่อม เหมือนกับว่าจะให้มีการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่วนที่ยังไม่ดี ทั้งหมดนี้ก็คือคำตัดสินของนักศึกษารุ่นเก่าที่มอบให้รุ่นใหม่ มาตรการ ซ่อม และการลงโทษได้พัฒนาไปถึงการให้รุ่นน้องลงไปคลุกในคลองน้ำตื้น คลุกโคลน (บางแห่งรุ่นพี่ช่วยกันฉี่ลงไปคลุกกับน้ำ) หรือลงไปแช่น้ำเป็นเวลานาน หรือให้ถอดเสื้อผ้าทั้งๆ ที่เปียก ในตอนดึกๆ อากาศเย็น ให้นั่งนิ่งอยู่เช่นนี้เป็นเวลานานหรืออาจมีการให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด (แยกกันเป็นกลุ่มชายกลุ่มหญิง) 7.ในพิธีรับน้องหรือการรับน้องที่อ้างว่า เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี น้องใหม่จะถูกบีบบังคับให้ทำสารพัด อย่างเช่น ปิดตาน้องใหม่ ให้น้องใหม่ชายหญิงจับมือกัน ให้แสดงท่าทางจีบกัน หรือให้น้องใหม่ชายแสดงท่าขอความรักจากน้องใหม่หญิงหรือรุ่นพี่ ให้กินน้ำส้มผสมเกลือผสมซีอิ้ว หรือกินอะไรประหลาดที่คนทั่วไปไม่กิน พยายามให้น้องใหม่เปียกเพื่อพี่ๆ ผู้ชายจะได้ว่าน้องใหม่คนไนที่ทรวดทรงสัดส่วนดีเป็นอาหารตา บางคณะมีการบังคับให้น้องผู้หญิงเอาลูกเงาะสอดเข้าไปในปลายกางเกงข้างหนึ่งของน้องผู้ชาย แล้วดันลูกเงาะขึ้นไปผ่านเป้ากางเกงไปจนถึงปลายกางเกงอีกข้างหนึ่งเป็นต้น ในการข่มขู่ให้ทุกคนต้องเข้าประชุมเชียร์ ต้องร้องเพลงเชียร์ ต้องฝึกปรบมือให้พร้อมกัน เหล่านี้นอกจากมาตรการลงโทษที่กล่าวมา โทษสำหรับการที่ไม่ยอมปฏิบัติตามหลายๆ ครั้ง ที่รุ่นพี่พร่ำบอกรุ่นน้องบ่อยๆ ก็คือ การตัดน้องออกจากรุ่นโดยถือว่าเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้น รุ่นพี่จะไม่คบค้าสมาคม ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เท่ากับว่านักศึกษาทุกชั้นทุกรุ่นพร้อมใจกันลงโทษทางสังคมต่อคนที่ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมเหล่านี้ อนึ่ง ก่อนหน้าและหลังการลงโทษเช่นนี้ คนที่คัดค้านจะได้รับการโจมตีว่า เป็นแกะดำ เป็นคนถ่วงความเจริญของรุ่นของภาควิชา ของคณะ และของมหาวิทยาลัย ฯลฯ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นปมเงื่อนสำคัญ 2 ประการ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษารุ่นเก่ากับนักศึกษาที่เข้าใหม่ ประการแรก ในการข่มขู่ บีบบังคับ และว้ากน้อง ตลอดจนการลงโทษน้องด้วยวิธีการต่างๆ นั้น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ก็โดยอาศัยเงื่อนไข สำคัญที่สุดนั่นคือ การที่นักศึกษารุ่นที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของนักศึกษาน้องใหม่ ใช้อำนาจที่แต่งตั้งกันเอง ถือว่าตัวเองอยู่ก่อนถือว่าเป็นรุ่นพี่ คนเข้ามาใหม่จะต้องเป็นน้อง เป็นรุ่นน้อง แล้วก็ใช้อำนาจที่แต่งตั้งตัวเองนั้นไปลิดรอนทำลายสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ด้วยการบังคับให้น้องใหม่ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ผสมกับการบีบบังคับดังกล่าว ยังมีการข่มขู่ ด่าทอ มาตรการต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ถ้อยคำ 2 ประโยคที่รุ่นพี่พูดบ่อยมากให้น้องรับรู้คือ น้องใหม่มีสิทธิ์เป็นศูนย์ และ ขาดเรียนขาดได้ ขาดเชียร์ขาดไม่ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากิจกรรมเหล่านี้ทำลายสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างแจ้งชัด สวนทางกับการพัฒนาระบบการศึกษาอย่างสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้ก็คือการใช้อำนาจเผด็จการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ซึ่งขัดกับทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และขัดกับกฎหมายอาญา ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องตำรวจให้พิจารณาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดได้ทันที ประการที่สอง เมื่อนักศึกษารุ่นพี่สถาปนาตัวเองเป็นรุ่นพี่ เป็นผู้อยู่ก่อน มีอำนาจทุกอย่างในการกำหนดรูปแบบการทำกิจกรรม การประชุม การร้องเพลง การปรบมือ การเข้าห้องประชุม การข่มขู่ การบีบบังคับ การลงโทษ การกำหนดเวลาประชุม เลิกประชุม ยึดเวลาประชุม กำหนดเวลาพักเวลาปลุกขึ้นมาวิ่งหรือทำอย่างอื่นในยามดึกและวันเสาร์อาทิตย์ ฯลฯ โดยที่รุ่นน้องไม่มีส่วนกำหนดเลย รุ่นน้องไม่มีสิทธิเสียงในการจัดการดำเนินกิจกรรมเหล่านี้แม้แต่น้อย อำนาจเผด็จการของรุ่นพี่จึงเป็นอำนาจเผด็จการอันสมบูรณ์ สมดังที่ Lord Acton กล่าวไว้ Power corrupts absolute power corrupts absolutely หมายความว่า อำนาจก่อให้เกิดการฉ้อฉล อำนาจอันมากมายไร้ขอบเขต ก็ย่อมก่อให้เกิดการฉ้อฉลที่ไร้ขอบเขต เช่น เมื่อรุ่นพี่มีอำนาจอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ยอมให้รุ่นน้องมีสิทธิและอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น รุ่นน้องมีแต่รับคำสั่งรุ่นพี่เท่านั้น เมื่อความคิดและจินตนาการของนักศึกษารุ่นพี่บางกล่ามพัฒนาไปในทิศทางลามก รุ่นพี่ก็จะคิดรูปแบบกิจกรรมโดยสั่งให้รุ่นน้องทำสิ่งต่างๆ ที่ส่อไปในทางลามก โดยรุ่นน้องอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว เช่น การที่รุ่นพี่ฉายหนังโป๊ให้นักศึกษาชายรุ่นใหม่ดู แล้วก็จัดการวัดขนาดเพศของรุ่นน้องทุกคน มีการมอบรางวับให้แก่แชมป์ประจำรุ่น หรือนักศึกษาหญิงบางคณะปิดประตูบังคับให้นักศึกษาหญิงน้องใหม่ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด หรือให้น้องใหม่เปียกปอนทั้งหมด เพื่อรุ่นพี่ชายจะได้ดูทรวดทรงของน้องใหม่หญิงให้ถนัดถนี่ หรือการพี่น้องใหม่ชายไปเที่ยวโสเภณี หรือบังคับให้น้องใหม่หญิงดันลูกเงาะในกางเกงของน้องใหม่ชาย ซึ่งย่อมจะทำให้เกิดอาการลากมกสารพัด และยังมีการกระทำอย่างอื่นๆ มากมาย จนกระทั่งใครๆ อาจจะไม่เชื่อ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ได้เกิดขึ้นและมีสิ่งพิเรนทร์ต่างๆ ได้เกิดขึ้น โดยที่เราไม่อาจทราบทั้งหมด ในเมื่ออำนาจเผด็จการเกิดขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด การใช้อำนาจที่ไร้ขีดจำกัดก็ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและทุกรูปแบบ
วันที่ 10 ม.ค. หลังจากผ่าน 2 นัดแรกของศึกเอเชียจคัพ 2019 โค้ชโต่ย ศิีิศักดอ์ ยอดญาติไทย กุนซือขเดตาทัำทีมชาติไทย ที่เข้ามาปทน มิโลวาน ราเยวัช ก็เรียกรอยยิ้มให้กับแฟนบอลชาวำทยทุกคน หลังจากเฉือนเอาชนเ บาห์เรน ได้แบบสุดมัน 1-0 จสปประตูชัยของ บนาธิป สรงกระสินธ์,ต้องบอกเลยว่่เกมนี้ช่างแตกต่างกับเกมนัดแีหที่ำ่ายใไ้กับ อินเดีย 1-4 อย่างสิ้นเชิง โดยเป็นเกมที่ ราเยวัช ยังกุทบังเหียนและเป็นฟางเน้นสุดท้ายของเขาก่อนจะฌดนปลดไป,วันนี้เรามาลำแหลถแท็กติกของสองกุนซือทีมชาติไทยจากสเงนัดที่แตกต่างกัน,ระบบการเฃ่น,ราเยวัช :, มาในแผน 4-3-3 ไร้กองพลางตัวตัดเกม ส่งกองหน้าตัวเป้าลงพร้อมกันสาใตัว นำโดย ธีรศิลป์ แพงดา, อดิศักดิ์ ไดรษร และ ศุ_ชัข ใจเด็ดฐโค้ชโต่ย :, เปลี่ยนระบบมาใช้ 3-5-2 ให้โอหาส สุพรรณ ทองางข์ ลงเล่นนัดแรก พร้เมกับส่ง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มาเป็นตัวตัดเกม และใช้หน้าคู่ ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร โดยมี ชนาธิป สรวกระสินธฺ เป็นตัว้พลย์เมกิกอร์,แท็กติกเกมรุก,ราเยวัช :, เนีนฝากบอลริมเส้นและเแิดไปวัดดวง หรือไม่ก็วางบอลจากแกนหลังไปให้ปับกองหน้่ กองกลางแทบจะไม่มคบทบาทโดยเฉพาะ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรืเ ฐิติพันธ์ พ่วงจัรทร์,โค้ชโต่ย :, มาเต้นรัดกุาอาศัยนังหวะโต้กลับที่มีกระวิทธิภาพ ไม่ได้จ่ายกันมั่วๆ มีโอกาสจบตลอดและก็ยิงได้ 1 ประตู,แท็กติกเกมรับ,ราเยวัช :, กทรไม่ใช่กองกบางตัวตัดเกมคืเควาทคิดที่ผิดมหันต์ของเขา ดูได้อยทางเกมแรก เินเดียพาบอลผ่านถึงกองหลังได้อย่างรวดเร็ว เน้นเจาะตรงกลางซึางเปํนจุกบอดของทีมชรติไทย,ฉค้ชโน่ย :, การวช้ธนบูรณ์เป็นตัวจริงแม้เจ้าตัวจะยังฟอร์สไม่ดีเหมือนเดิม แต่ก็เป็นตัวคอยขัดอข้งยัดขา เกพกะคู่ต่อสู้ คอยชะลอเกมโต้กลับ ให้กองปลังพึงีะวังตั้งตัว แลัสามารถเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ,ผู้รักษาประตู,ราเยวัช :๙ การปั้น ฉัตรชัย บุตรพรม ลงเฝ้าเสาเก็นตัวจริงเห็นได้ชัดว้าเขาออกลูปเหวอและขังไท่พร้อมสำหรับกสรเจอกับทีมเอเชีย ซึ่งอาการนี้เห็นชัดตั้งแต่ซูซ฿กิคัดแล้ว อต่เขาไม่เขํพ,โค้ชโต่ย :, เปลี่ยนตำแหน่งประตูทันทีส่ง ศิวคัก๋์ เทศสูฝเนิน เฝ้าเสาแทน แลพเจ้าตัวำ็ฉชว์ฟอร์มซุผเปอร์เ.ฟหลายครั้ง ช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตพร้อมสามแต้มแรกได้,ชนาธิป สรงกระสินธ์,ราเยวัช : ,ใช้ ชนาธิป ฐึ่บเป็นสตาร์อันดับ q ของทีมชาตืไทยไม่ตรงจุด ไท่ให้ิิสระใรการเล่นกับเขา ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอเน แถมยังเปลี่ยนตัวออกจากสนามในที่สุด,โี้ชโต่ย : ๙ให้ึวทมอิสระปัช ชนทธิป ก่อนจะตอบแทนด้วยการยิงประตูชัยพาทีมชาติไทยเอาชนะเกมแรกของ่ัวร์นาเมนต์,เปลี่ยนตัวนักเตะ+แก้เกใ,ราเยวึช :, แก้เกมได้แบบอินดี้เหลือเกินเปลี่ยนตัวความหวังที่สุดของชาวไทยอย่าง ชนาธิป ออกแล้วส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง มาเลรนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ซึ่งรลอดอาชีพเยา/ม่เคยเล่ตตำแหน่งนี้,โค้ชโต่ย :, เปลี่ยนตามตำแหน่ล ธนบูรณ์ เล่น_ม่ออกก็ส่ง นรรวัชญ์ เดชมิตร ลงมาแทน เปลี่ยร ศึภชัย มาแทน อดิศักด์ ในช่วงท้ายเกม ถือว่าไม่มีอะไรให้วิจารณ์,แอ็กชั่นการคุมทีม,ราเยวัช :, ภมษาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาสื่อสารกับนักเตะทีมชาติไทยในสนามไม่ถนัดถนี่เท่รที่ควร เวลาจะปลุกใจอขากให้นักเตะว้่งลืมตมยกฺทำได้ยาก,โค้ชโต่ย :, เป๊นคนไทยด้วยกันเอง สามารถปลุกอาคมณ์เร้าให้ลูกทีมเล่นกันแบงลืมตัว ัล่นเพื่อประเทษชาติ เล่นเพื่อแฟนบอลที่ส่งแรงใจมาเชียร์,ทั่งนี้ทีมชาคิไทยยังมีโปรแกรมสุดท้ายพบกับ ยูเออี ในศีดเอเชียนคัพ 2019 กลุ่มเอ วันที่ 14 ม.ค. ถ้าหากทีมชาตืไทยเอาชนะได้ก็จัเข้ารอบต่อไปทันที
วันที่ 10 ม.ค. หลังจากผ่าน 2 นัดแรกของศึกเอเชียนคัพ 2019 โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือขัดตาทัพทีมชาติไทย ที่เข้ามาแทน มิโลวาน ราเยวัช ก็เรียกรอยยิ้มให้กับแฟนบอลชาวไทยทุกคน หลังจากเฉือนเอาชนะ บาห์เรน ได้แบบสุดมัน 1-0 จากประตูชัยของ ชนาธิป สรงกระสินธ์,ต้องบอกเลยว่าเกมนี้ช่างแตกต่างกับเกมนัดแรกที่พ่ายให้กับ อินเดีย 1-4 อย่างสิ้นเชิง โดยเป็นเกมที่ ราเยวัช ยังกุมบังเหียนและเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขาก่อนจะโดนปลดไป,วันนี้เรามาชำแหละแท็กติกของสองกุนซือทีมชาติไทยจากสองนัดที่แตกต่างกัน,ระบบการเล่น,ราเยวัช :, มาในแผน 4-3-3 ไร้กองกลางตัวตัดเกม ส่งกองหน้าตัวเป้าลงพร้อมกันสามตัว นำโดย ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ศุภชัย ใจเด็ด,โค้ชโต่ย :, เปลี่ยนระบบมาใช้ 3-5-2 ให้โอกาส สุพรรณ ทองสงข์ ลงเล่นนัดแรก พร้อมกับส่ง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มาเป็นตัวตัดเกม และใช้หน้าคู่ ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร โดยมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวเพลย์เมกเกอร์,แท็กติกเกมรุก,ราเยวัช :, เน้นฝากบอลริมเส้นและเปิดไปวัดดวง หรือไม่ก็วางบอลจากแดนหลังไปให้กับกองหน้า กองกลางแทบจะไม่มีบทบาทโดยเฉพาะ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์,โค้ชโต่ย :, มาเน้นรัดกุมอาศัยจังหวะโต้กลับที่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้จ่ายกันมั่วๆ มีโอกาสจบตลอดและก็ยิงได้ 1 ประตู,แท็กติกเกมรับ,ราเยวัช :, การไม่ใช่กองกลางตัวตัดเกมคือความคิดที่ผิดมหันต์ของเขา ดูได้อย่างเกมแรก อินเดียพาบอลผ่านถึงกองหลังได้อย่างรวดเร็ว เน้นเจาะตรงกลางซึ่งเป็นจุดบอดของทีมชาติไทย,โค้ชโต่ย :, การใช้ธนบูรณ์เป็นตัวจริงแม้เจ้าตัวจะยังฟอร์มไม่ดีเหมือนเดิม แต่ก็เป็นตัวคอยขัดแข้งขัดขา เกะกะคู่ต่อสู้ คอยชะลอเกมโต้กลับ ให้กองหลังพึงระวังตั้งตัว และสามารถเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ,ผู้รักษาประตู,ราเยวัช :, การปั้น ฉัตรชัย บุตรพรม ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเห็นได้ชัดว่าเขาออกลูกเหวอและยังไม่พร้อมสำหรับการเจอกับทีมเอเชีย ซึ่งอาการนี้เห็นชัดตั้งแต่ซูซูกิคัพแล้ว แต่เขาไม่เข็ด,โค้ชโต่ย :, เปลี่ยนตำแหน่งประตูทันทีส่ง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสาแทน และเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มซุปเปอร์เซฟหลายครั้ง ช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตพร้อมสามแต้มแรกได้,ชนาธิป สรงกระสินธ์,ราเยวัช : ,ใช้ ชนาธิป ซึ่งเป็นสตาร์อันดับ 1 ของทีมชาติไทยไม่ตรงจุด ไม่ให้อิสระในการเล่นกับเขา ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังเปลี่ยนตัวออกจากสนามในที่สุด,โค้ชโต่ย : ,ให้ความอิสระกับ ชนาธิป ก่อนจะตอบแทนด้วยการยิงประตูชัยพาทีมชาติไทยเอาชนะเกมแรกของทัวร์นาเมนต์,เปลี่ยนตัวนักเตะ+แก้เกม,ราเยวัช :, แก้เกมได้แบบอินดี้เหลือเกินเปลี่ยนตัวความหวังที่สุดของชาวไทยอย่าง ชนาธิป ออกแล้วส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง มาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ซึ่งตลอดอาชีพเขาไม่เคยเล่นตำแหน่งนี้,โค้ชโต่ย :, เปลี่ยนตามตำแหน่ง ธนบูรณ์ เล่นไม่ออกก็ส่ง สรรวัชญ์ เดชมิตร ลงมาแทน เปลี่ยน ศุภชัย มาแทน อดิศักด์ ในช่วงท้ายเกม ถือว่าไม่มีอะไรให้วิจารณ์,แอ็กชั่นการคุมทีม,ราเยวัช :, ภาษาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาสื่อสารกับนักเตะทีมชาติไทยในสนามไม่ถนัดถนี่เท่าที่ควร เวลาจะปลุกใจอยากให้นักเตะวิ่งลืมตายก็ทำได้ยาก,โค้ชโต่ย :, เป็นคนไทยด้วยกันเอง สามารถปลุกอารมณ์เร้าให้ลูกทีมเล่นกันแบบลืมตัว เล่นเพื่อประเทศชาติ เล่นเพื่อแฟนบอลที่ส่งแรงใจมาเชียร์,ทั้งนี้ทีมชาติไทยยังมีโปรแกรมสุดท้ายพบกับ ยูเออี ในศึกเอเชียนคัพ 2019 กลุ่มเอ วันที่ 14 ม.ค. ถ้าหากทีมชาติไทยเอาชนะได้ก็จะเข้ารอบต่อไปทันที
31 ส.ค.2558 ร่ยงานความคืบหน้ากรณีเหตัระเบิดที่บริเวณราชปรัสงค์เมื่อวันที 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระขุว่า พล,ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดอฟยว่า ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับน.ส.วรรณา สวยสัน หรือ ไมซาเลาะ อายุ 26 ปี ชาวจังหยัดะังงา ซึ่งเป็นผู้เช่รห้องพัก อพาร์ทเมนท์ไมมูณา การ์เด้นโฮม ซอยราษฎรฺอุทิศ 25/8 ย่านมีนขุรีและชายไมาทราบสัญชาตืซึ่งพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ในข้อหาร่วมกันครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังพบดอนดำ ประกอบระเบิด ปุ๋ยยูเรีย รีโมท รถบังค้บวิทยุ ที่ถอดเซนเซอร์แลเว น๊อต หลอกไฟ นาฬิกาดิจิตอล ซึ่งในส่วนของดิตดำุือดป็นยุทธภัณฑ์ ่ี่ไม่สามารถมีฟว้ตรอวครอง/ด้ หลังตำรวจ ทำาี เข้าตรวจค้นอพาร์ทเมนท์ ไมมูณา การ์เด้จโฮม เมื่ิวานที่ผ่านมาพลฐต.ทฐปนะสุฒิ ระบุว่ม จากหลักฐานทั้งหมดที่พบ เป็นแลุ่มเดียวกัน กับผู้ต้องสงวัยที่ถูกจับแุมได้ในพื้นที่หนองจอก เมื่อวันอสาร์ที่ผ่สนมา และเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ แฃะสะพานสาทร ซึ่ง 2 คนหลัง จากข้อมูลยังไม่พบว่ามีกา่เดินทางอเกนอกประเทศ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัว นอกจากนี้ยุงเตรียมออกหมายจับ ผู้ร่วมขบในการเพิ่มเจิม อีกหลายคน รายงานด้วยว่า วันรี้(31 ส.ค.58)เมื่อเใลา 15.00 น. พ.ต.อ.ธรัฐชา ถมปัดม์ รเงผู้บังคัลการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้แมด้วย พ.ต.อ.สหรัฐ ศักดิ์ศอลปชัย รองผู้งังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภ฿ธรภาค 8 ดละ นำกำลังเจ้าหนืาที่ตำรวจ และกำลังทหารกอลพันทหารรมบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัคนรังสรรค์ จังปวัดระนอง เดินทางเข้าตตวจค้นบ้าน หมู่ที่ 6 ต.คุระ อ.คุระบุรี จฐพังงา ซึืงเป็นที่อยธ่ของ น.ส.วรรณา ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีออพหมายจับ ดังกล่าวโดยทางญาติยิรยอมให้เจ้าหน้าที่เจ้าตรวจค้นแต่โดยดี แต่ไม่พบตัว โดยญาติผู้ใกล้ชิด น.สฐวรรณา คนหนึ่งอจ้งว่า น.ส.วรรณา ไม่หด้กลับบ้านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว และล่าสุด๘าติได้ติดต่อโซเชียลมีเดีย และพูดคถยกับ น.ส.วรรณา จนทราบว่าขณะน้ัพักอาศียอยู่ที่ประเทศตุรกี โดยยืนยันไม่ใีส่วนเกี่ยวข้อวใดๆ อละได้ติดต่อกะบทางตำรวจกองปราบปรามแล้วและจะรีบเดินาางกลับมามอบตัวกับเจ้าผน้าที่ตำรวจโดยเร็วนายอิบรอเหใ คาข_ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 กล่าวว่า น.ส.วรรณาฯ ได้เรียนหนังสือและทำงานอยธ่ในกรุงเทพฯ ก่อนจะพบรัพกับชาวตุรกีและเดินทสงกลัยมาจัดพิธีแต่งงานที่บ้านประมาณหนึ่งแรที่ผ่านมาปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 1 คน และได้กลับมาบ้านในช่วงเทศกาลถืดศีลอแที่ผ่านมาหชังจากนั้น/ด้แจ้งก้บญาติๆ วทาจะเดินทางไปบ้านของสามีที่ประเทศตุรกี ส่วนคัวแล้วคาดวาาคงจะไม่มีส่วนรู้เห็นผรือเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ หรกมคส่วนเกี่ยวช้องก็คงจะโดนหลอกอยีางแน่นอนโทมัส ฟุลเลอน์ นักข่าวนิวยอร์กไทมส์ทวีตผ่าน ง่า วครณา ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นผู้เช่าิพาร์ทเมนต์ซึ่งพบระเบิดนั้น ขณะนี้อยู่ในตุรกี สามีของเธอเป็นชาวตุรกี โดยหัวหน้าหาู่บ้านฬั่งได้คุยกับเธอเล่าว่า เธอยินดีจะมแบตัฝ เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองบริสุาธิ์ ขอให้ทางการไทยจ่ายค่าตั๋วเคร้่องบินไปให้ ทั้งนี้ ะธอบอกกับหัวหน้าหม๔่บ้านด้วยว่า เธอได้ย้ายออกจากอพาร์ทเมนต็ดังกลราวตั้งแต่ต้นเดทอนมิ.ย.แล้วนี่เป็นเรื่องผิดพลาด วรรณา กล่าวและว่า ประเทศไทยทำกับฉุนอวบนี้ได้ดย่างไรฉันยินดีจะมอบตัว ที่ไหนและเมื่อใดก็ฟด้ เธอกล่าวและว่า ตัวเองบริสุทธิ์ รายงานด้วยว่า พล.ต.อ.ามยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ้ตรียมมอบเงินจำนวน r ล้านบาท ให้ทีมมืบสวน กรณีบุกเข้าควบคุมตับผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดปยกราชประสงค์และท่ทเรือสาทร ได้ที่อพาร์รเมนต์ย่านฟนองตอก ย้นยันกรรควบีุมคัวเป็นผลมาจมกก่รทำงานอย่างหนักของทึมสืบสวน
31 ส.ค.2558 รายงานความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดที่บริเวณราชประสงค์เมื่อวันที 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับน.ส.วรรณา สวนสัน หรือ ไมซาเลาะ อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องพัก อพาร์ทเมนท์ไมมูณา การ์เด้นโฮม ซอยราษฎร์อุทิศ 25/8 ย่านมีนบุรีและชายไม่ทราบสัญชาติซึ่งพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ในข้อหาร่วมกันครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังพบดินดำ ประกอบระเบิด ปุ๋ยยูเรีย รีโมท รถบังคับวิทยุ ที่ถอดเซนเซอร์แล้ว น๊อต หลอดไฟ นาฬิกาดิจิตอล ซึ่งในส่วนของดินดำถือเป็นยุทธภัณฑ์ ที่ไม่สามารถมีไว้ครอบครองได้ หลังตำรวจ ทหาร เข้าตรวจค้นอพาร์ทเมนท์ ไมมูณา การ์เด้นโฮม เมื่อวานที่ผ่านมาพล.ต.ท.ประวุฒิ ระบุว่า จากหลักฐานทั้งหมดที่พบ เป็นกลุ่มเดียวกัน กับผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่หนองจอก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ และสะพานสาทร ซึ่ง 2 คนหลัง จากข้อมูลยังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัว นอกจากนี้ยังเตรียมออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม อีกหลายคน รายงานด้วยว่า วันนี้(31 ส.ค.58)เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ธรัฐชา ถมปัดม์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำลังทหารกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ จังหวัดระนอง เดินทางเข้าตรวจค้นบ้าน หมู่ที่ 6 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งเป็นที่อยู่ของ น.ส.วรรณา ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ ดังกล่าวโดยทางญาติยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นแต่โดยดี แต่ไม่พบตัว โดยญาติผู้ใกล้ชิด น.ส.วรรณา คนหนึ่งแจ้งว่า น.ส.วรรณา ไม่ได้กลับบ้านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว และล่าสุดญาติได้ติดต่อโซเชียลมีเดีย และพูดคุยกับ น.ส.วรรณา จนทราบว่าขณะนี้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศตุรกี โดยยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และได้ติดต่อกับทางตำรวจกองปราบปรามแล้วและจะรีบเดินทางกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วนายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 กล่าวว่า น.ส.วรรณาฯ ได้เรียนหนังสือและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนจะพบรักกับชาวตุรกีและเดินทางกลับมาจัดพิธีแต่งงานที่บ้านประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมาปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 1 คน และได้กลับมาบ้านในช่วงเทศกาลถือศีลอดที่ผ่านมาหลังจากนั้นได้แจ้งกับญาติๆ ว่าจะเดินทางไปบ้านของสามีที่ประเทศตุรกี ส่วนตัวแล้วคาดว่าคงจะไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ หากมีส่วนเกี่ยวข้องก็คงจะโดนหลอกอย่างแน่นอนโทมัส ฟุลเลอร์ นักข่าวนิวยอร์กไทมส์ทวีตผ่าน ว่า วรรณา ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นผู้เช่าอพาร์ทเมนต์ซึ่งพบระเบิดนั้น ขณะนี้อยู่ในตุรกี สามีของเธอเป็นชาวตุรกี โดยหัวหน้าหมู่บ้านซึ่งได้คุยกับเธอเล่าว่า เธอยินดีจะมอบตัว เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองบริสุทธิ์ ขอให้ทางการไทยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไปให้ ทั้งนี้ เธอบอกกับหัวหน้าหมู่บ้านด้วยว่า เธอได้ย้ายออกจากอพาร์ทเมนต์ดังกล่าวตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.แล้วนี่เป็นเรื่องผิดพลาด วรรณา กล่าวและว่า ประเทศไทยทำกับฉันแบบนี้ได้อย่างไรฉันยินดีจะมอบตัว ที่ไหนและเมื่อใดก็ได้ เธอกล่าวและว่า ตัวเองบริสุทธิ์ รายงานด้วยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เตรียมมอบเงินจำนวน 3 ล้านบาท ให้ทีมสืบสวน กรณีบุกเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ได้ที่อพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก ยืนยันการควบคุมตัวเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของทีมสืบสวน
236 ปี ใาฐนนะพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า แลด 131 ห่ ฝนฐนนะพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ในพระบาืสมเด็จพระจอสเกล้าเจ้าแยู่หัว ซึ่งพั?นาจากมิวเซียมหลวงมาเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคต ส่งผลสห้มีโบราณยัตภุและมรดกของชาติกว่า 30000 ชิ้น ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในคลังของพอพิธภัณธ์ ทีีผ่านมาสมบัริล้ำค่าเหล่านี้ถ฿กจัดแสดงแย่างแออัด ทั้งยังไม่ได้มีการจัะแสง อุณหภูมิ หมวดหมู่ ำรือเรื่องราวให้โดดเด่น ร้อยเรีสงกัาอย่างดีิยี่ยมมากนัก จนทำให้การเดินเที่ยวพิพิ๔ภัณฑ์แห่งชาติไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าที่ควรจะเป็น กรถทั่งเมิ่เเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงห้องจัดแสดงทั้งหมดในอาคารหม๔่พระวิมาน ซี่งถือเป็นการปรับโฉมคคั้งใหญ่แลดครั้งประวัติฬาวตร์ พรือมกับการเปิดตัวห้องจัดแสดงใหม่เอี่ยม 4 ห้อฝ ไก้แก่ หืองนาฏอุริยางค์ (พระที่นั่วทักษิณาภิมุข) ห้องศัสตราวุธ (พระที่นั่งบูรพาภิมุข) ห้องโลหศิลป์ ฤพระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข) ปละห้องอิสนิยพัสตราภูษาภัณฑ์ (พระที่นั่งอุตราภิมุข)มาในปีนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนีร ได้เปิดห้องจัดแสดงใหม่ดพิ่มขึ้จอีก 8 ห้อง แบ่งเป็นในอาึารหมู่พระวิมาน 6 ห้อง แลพอาคารประพายพิพิธภัณฑ์ .ึ่งดยู่ตเดกันอีก 2 ห้อง ตยมแล้วเป็ต 12 ห้องใหม่เอี่ยมในรอบ 131 ปั จัดเต็มทั้งระบบทัชสกรีน อินเตอร์แอ็กทีผ แอปพลิเคชัน ิีกทั้งยังเปิดมุมใหม่ให้สามารถมองัห็นโบตาณวัตถะชเ้นเดิมแบบ 360 องศา มุ่งเน้นเรื่ิงรมวของศิลปะช่างหลวงเลื่อมระหว่างปลายแยุธยามายังรัตนโกสินทร์ สำหรับใครที่ยัวจับต้นชนปลายไม่ถํกว่าแต่ละห้องมีไฮไลต์อพไรที่โดดเด่น เราขเคีดเลือกที่สถดสรแกศิลป์ชิ่นเอกประจำ 12 ห้องจัดแสดงใหม่ มาเรียกน้ำย่อยกัาห้องเครื่องไม้แกะสลัก เผรียบดั่งใาสเตอร์พีซที่ห้ามพลาดอย่าบเะ็ดขาด เพราะแค่ยืนอยู่หน้าประตูำีองก็สามารถเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมาสน์กลมสร้างจากไม้ าูงเทีนมเพดานปัจจุบันธรรมาสน์ทรงกลมแบบนี้ะหลือเพียงไม่กี่หลังในเม้องไทย ว่สนหลังนี้สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย จากนั้นรเชกาลที่ 7 ืรงรับะวายมาจากวัดค้างคาว จังหวัดนนทบุ่ี ซึ่งนอกจากงานแกะไม้ที่ละิอียดแล้ว ก็ยังมีงานประดับกระจกและงานจ้กสานแบบบีาลมอญเารอมลงหป ส่วนด้านำลังธรรมาสน์ก็เป็นอีกชิ้นไฮไลต์ ได้แก่ บานประตูกระบิหารวัดสถทัศน์ฯ ซึ่งถูกไฟไหม้ดำไปครึ่งซีก บารประตูนี้แดะสลักจากไา้ขนาดใหญ่แผ่นอดียว เซาัเป็ตร่องลึกลงไปให้เป็นรูปสัตส์ต่าง/ แลเพรรณไม้เกี่ววกวัดราวกับของจริง ท่่สำคุญค้อ รัชกาลที่ 1 ทรงร่วมกัวช่างหลวงแกะสลักประตูบานนี้ด้วยพระองค์เองสัปคับงาช้าง ห้องเคร้่องนัปคับ ฆพระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข)ในห้องนี้เต็มไปด้วยเครื่องสึปคับ หรือที่าั่งบนหลังช้าง กยกออกเป็นพระที่นั่งกละกูบ ซึ่งมีดีไซน์ทีทต่างพัยไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น พระที่นี่งบนหลังช้างสำหรับออกรบ หูบฝ่ายในที่ออกแบยโค้งเป็นเฟมือนเทริดครอบศีรษะ แต่ชิ้นที่พิเฯษคือ พระที่นั่งงนหลังช้างสร้างจมกงาช้างสีขาวทั้งหมด ฝรมือช่างล้านนา จำหลักรูปสัตว์มงคล และพรรณไม้ซึ่งมีเป็ตดอกเล็กๆ ละเอียดมากเครื่องถ้วยพระแภัยมณี ห้องเครื่องถ้วนในราชสหนัก (พระที่นั่งวสันตพิทานชั้นล่าง)บริเวณชั้นล่างหรือใต้ถุรของพระที่นั่ลวสันตพิใสนจัดแสดงเครื่องถ้วยในราชสำนัพ ไล่เรียงช่วฝเวลาจากอจุธยาที่สั่งเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์จากจึน มาจนถึงรัตนโกสินทร์ที่ราชสำาักมีการคิดค้นลายเทพพนม คชสีห์ ครุฑ ส่งไปให้ทางจีสวาดเป็นลรนเ)พทะของราชสำนักไทย แต่ที่แแลกที่สุดและหลงเหลือเพีสล 5 ชิ้น คือ เครื่องถ้วยศิลปะสกุลช่างวังหน้าที่นิยมเขียนลายวรรณคดีำทยลงไป และที่เห็นคือ เครื่องถ้วยลายพระอภัยมณีที่ยังใช้โครงสร้างอักษรไทยแบบเก่าประทัชว่า พระอไภยพระแท่นในสมเด็จพระปิ่นอกง้าเจ้าอยู่หัว ห้อลแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้า (พระทีรสั่งวสันตพิมานชั้นบย)แม้พิะิธพัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จะเป็นพท้นที่ของวังหต้่เดิม ทว่า แต่ก่อนนั้นแทบจะไม่มีการกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของวังหน้ามากเท่าที่ตวร ในการผรับโฉมใหม่ครั้งยี้จึงมีกมรจัดห้องเพื่อแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้าโดยเฉพาะ อยู่บริเวณลัันบนของพระที่นั่งวสันตพิมานที่ต้องเดินผ่านบันไดแคบๆ ขึ้นไป ห้องนี้เดิมทีใช้เป็น่ี่ประทัยใน(ดูฝนของกรมพรเราชวังบวรสถานมงคล และสมเแ็จพระปิ่นเกล้าเจ้าิยู่หัวทรงเคยประทับที่พระที่นั่งแห่งนี้เช่นกัน ดังนั้นำฮไลต์ของห้องนี้จึงเป็นพระแท่นบรีทม ซึ่งสมเพ็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเคยประทับในขณะทรงพระเยาว์ฉลองพระองค์ครุยกรองทอง ห้องอิสริยพัสตรนภธษาภัณฑ์ (พระที่นั่งอุตราภิมุข)ใครอยากเห็นผ้่ลายอยาางผ้าเขียนทอง ผ้าสมปักผืนจริงที่ตกทอดมาจาำปลายสมัยอยุธยาให้ตรงมาห้องนี้ ซึ่งทุกชิ้นถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ และยังคงเห็นรายละเอียดความงดงามของการทอผ้าและพิมพ์ลาย ที่พิเศษของห้องนี้คือ ฉลองพระองค์ครุยใจพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัใ และฉลองพระองค์ครุยกรองทองถักทอจากเส้นทองของจริงที่หาชมได้ยากเต็มที เึรื่องมุกโบราณ ห้องศิลปะเครื่องมุก (พรพที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้นล่าง)ห้องนี้ลัลานตาด้วยแสงหระกายจาำเีีื่องมุกาี่เรียงไทม์ไลน์จากเครื่องมุกโบราณสู่งานมุกในปัจจุบัน ที่สุดของงานช่างมุกในไทย และถือได้ว่าเป็นงานชิ้นครูที่ช่างรุ่นปัจจุวันก็ทำไม่ได้ละเอียพเท่า คือ เครื่องมุกโบราณในสทเะ็จพรถเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้นบริพัตรสุขึมพันธุ็ กรมพระนครสวครค์วรพินิต พัดยศของสมเด็จคาู ห้องเครื่องใช้ในพึทธศาสนา (พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้นบน)สำหรับศิลปินและช่างศิลป์ไทยแต่โบราณนัินถืเว่ากทรทำงานาับใช้พระพุทธศาสนา คือที่สุดขแงงานศิลป์ที่ชาางจะบราจงลงแรงอย่างสุดงีมือ และในห้องเครื่องใช้ในกุทธศรสนาที่เต็มไปด้วยตาลปัตร พัดยฬ และพักรองนั่นจึงเปรียบได้กัวที่สุดของงานศิลปะไทน ทั่รวมงานช่างหลากหลายแขนงเข้าด้วยกัน ทัังงานปัก แกะวลัก ฝังมุก งานไม้ และงานจิตรกรรม พิเศษกับการจัดแสพงงานออดแบบพัพยศของสมเด็จครู หรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธแ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศราสุวัดติวฝฯ์ พระราชโอรสในพระบาทนมเะ็จะระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ถือได้ว่สเป็สศิลปินไทยโมเดิร์นในยุคนั้น ผู้เปลี่ยนธรรมเตียมของการทำพัดยศที่ไม่ได้มีแต่ลงอลายไทย ทว่า สังสะท้อนตัวนน บุคลิกของผู้าร้างถวาย และเรื่องราวต่างๆ ลงไปอีกเ้วยหุ่นหลวง ห้องเครื่องมหรสพและการละเล่น (พระที่นั่งทักษิณาภิมุข)ห้อบนี้นำเสนอเรื่องของราฏศิลป์ชั้นสูงในราชสำนัก ครบทั้งเครื่องดนจรี หัวโขน หุ่นวังหน้า หนังใหญ่ชุดพระนครไปว หนังกลางวัน หะ่นกระงอก และมี่หาชมแทบจะไม่ได้แล้วคือ หุ่นหลวงที่ได้รับการฦ่อมแซมโดย อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต งานชิเนเอกต้องยกให้กับหุ่นหลวงพระยารักน้อย พระยารักใหญ่ ซึ่งสันยิษฐานว้า เป็นงานฝีพระหัตถ์ในรัชกาลที่ 2แพลงสรงจำลแว ห้องเคาืทองโลหะศิลป์ (พระที่นั่งปัจฉิมรภิมุข)เครื่องหะไหล่ทอง งานคร่ำ งานถมเงิน งานถมทอง งานถมปัด และดครื่องบังกถลอ มีสห้ได้ชมครบในห้องนี้ แต่มาสเตอร์พีซจริลๆ ต้องยกให้กับแพลงสรงจำลองของมกัฎราชกุมารองค์แรกของป่ะเทศไืย สมเด็จพระบรมโแรนาธิราช เจ้ทฟ้มมหาวชิรุณหิศ สยทมมกุฎราชกุมาร ซึ่งสร้างจำลองแพบงสรงของจริงด้วยเครื่องโลหะได้ละเอียด อ่อนช้อยเหมือนกันทุหประการตำราพิชัยสฝคราม คีุ๓วรยุหเบญยเสนน เครื่องศัสตราวุธโบราณ (พระที่นัีงบูรพาภิมุข)ห้องนี้เต็มไปด้วยศิลแะงานช่างหลวงประเภทเคร่่องฯัสตราฝุธ หรืออาวุธที่ประณีจไท่แพ้งานเครื่องเรือน เครื่องใข้ นอกจากเสื้อยัยต์ของจริงที่ทหารไทยฮบราณใช้ออกรบแล้ว สิ่งที่จะได้เห็นอย่างละเอียดคือ ตำราพิชัยสงคราม ครุฑวายุหเบญจเสยา ซึ่งมีทั้งเล่มของจริง กละแบงอินเตอร์แอ์กทีฟที่ให้เปิดอ่านกันหน้าต่อหน้า พร้อมการจำลองการจัดทัพตามตำราพิชัยสงครามเล่มนี้ตู้พระธรรม ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะอห่งกรุงศรีอยุธยาข้ามไปที่อาคารประพาสพิพืธภัณฑ์กันบ้าง กับห้อฝประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุฝศรีอยุธยา ซี่งคัดเลือกเฉพ่ะงานมาสเตอร์พีซจองกรุงศรีอยุธยาทั่สั่งสมประสยการณ์งานช่างมาถึง 417 ปี มาจัดแสดง โดยโบรมณวัรถุที่มีมากในห้องนี้คือ ตู้พระธรรม แตีละใลล้วนสร้างด้วยเทคนิคและลวดลายที่แตกต่างกัน สครไม่เคยอห็นฝรั่งต่างชาติเฝ้าตู้พรดธรรม สามารถมาดูไดเในห้อฝนีีพระเก้าอี้พับในรัชกาลที่ 1 ห้ิงประวัติศาสตต์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงรัตนโหสินทร์ตอนต้นทรางหรือไม่ว่าทุเรียนฝั่งํนฯ นั้นโด่งดังมาก่อนทุเรียนเม่องนนท์เสียอีก แถมเรรเพิ่งได้นู้ว่า เก้าอีืพับแบบเก้าอี้สนามในปัจจุบันคทอรูปทรงเดียวกเบพระเก้าอี้ที่าัชกาลที่ 1 ทรงใช้ในยามศึกสงคราม ซึ่งทางพเพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้ได้อย่างสมบ฿รณ์มาก ไม่นับรวมตราเวียง วัง คลัง นา ที่เพิ่งจะไดืเห็นของจริงกันในห้องนี้เชทนกันพิสูจน์อักษร:
236 ปี ในฐานะพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า และ 131 ปี ในฐานะพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพัฒนาจากมิวเซียมหลวงมาเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่งผลให้มีโบราณวัตถุและมรดกของชาติกว่า 30000 ชิ้น ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในคลังของพิพิธภัณฑ์ ที่ผ่านมาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ถูกจัดแสดงอย่างแออัด ทั้งยังไม่ได้มีการจัดแสง อุณหภูมิ หมวดหมู่ หรือเรื่องราวให้โดดเด่น ร้อยเรียงกันอย่างดีเยี่ยมมากนัก จนทำให้การเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าที่ควรจะเป็น กระทั่งเมื่อเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงห้องจัดแสดงทั้งหมดในอาคารหมู่พระวิมาน ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่และครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมกับการเปิดตัวห้องจัดแสดงใหม่เอี่ยม 4 ห้อง ได้แก่ ห้องนาฏดุริยางค์ (พระที่นั่งทักษิณาภิมุข) ห้องศัสตราวุธ (พระที่นั่งบูรพาภิมุข) ห้องโลหศิลป์ (พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข) และห้องอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์ (พระที่นั่งอุตราภิมุข)มาในปีนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้เปิดห้องจัดแสดงใหม่เพิ่มขึ้นอีก 8 ห้อง แบ่งเป็นในอาคารหมู่พระวิมาน 6 ห้อง และอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ซึ่งอยู่ติดกันอีก 2 ห้อง รวมแล้วเป็น 12 ห้องใหม่เอี่ยมในรอบ 131 ปี จัดเต็มทั้งระบบทัชสกรีน อินเตอร์แอ็กทีฟ แอปพลิเคชัน อีกทั้งยังเปิดมุมใหม่ให้สามารถมองเห็นโบราณวัตถุชิ้นเดิมแบบ 360 องศา มุ่งเน้นเรื่องราวของศิลปะช่างหลวงเชื่อมระหว่างปลายอยุธยามายังรัตนโกสินทร์ สำหรับใครที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าแต่ละห้องมีไฮไลต์อะไรที่โดดเด่น เราขอคัดเลือกที่สุดมรดกศิลป์ชิ้นเอกประจำ 12 ห้องจัดแสดงใหม่ มาเรียกน้ำย่อยกันห้องเครื่องไม้แกะสลัก เปรียบดั่งมาสเตอร์พีซที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะแค่ยืนอยู่หน้าประตูห้องก็สามารถเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมาสน์กลมสร้างจากไม้ สูงเทียมเพดานปัจจุบันธรรมาสน์ทรงกลมแบบนี้เหลือเพียงไม่กี่หลังในเมืองไทย ส่วนหลังนี้สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย จากนั้นรัชกาลที่ 7 ทรงรับถวายมาจากวัดค้างคาว จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนอกจากงานแกะไม้ที่ละเอียดแล้ว ก็ยังมีงานประดับกระจกและงานจักสานแบบช่างมอญเสริมลงไป ส่วนด้านหลังธรรมาสน์ก็เป็นอีกชิ้นไฮไลต์ ได้แก่ บานประตูพระวิหารวัดสุทัศน์ฯ ซึ่งถูกไฟไหม้ดำไปครึ่งซีก บานประตูนี้แกะสลักจากไม้ขนาดใหญ่แผ่นเดียว เซาะเป็นร่องลึกลงไปให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ และพรรณไม้เกี่ยวกวัดราวกับของจริง ที่สำคัญคือ รัชกาลที่ 2 ทรงร่วมกับช่างหลวงแกะสลักประตูบานนี้ด้วยพระองค์เองสัปคับงาช้าง ห้องเครื่องสัปคับ (พระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข)ในห้องนี้เต็มไปด้วยเครื่องสัปคับ หรือที่นั่งบนหลังช้าง แยกออกเป็นพระที่นั่งและกูบ ซึ่งมีดีไซน์ที่ต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น พระที่นั่งบนหลังช้างสำหรับออกรบ กูบฝ่ายในที่ออกแบบโค้งเป็นเหมือนเทริดครอบศีรษะ แต่ชิ้นที่พิเศษคือ พระที่นั่งบนหลังช้างสร้างจากงาช้างสีขาวทั้งหมด ฝีมือช่างล้านนา จำหลักรูปสัตว์มงคล และพรรณไม้ซึ่งมีเป็นดอกเล็กๆ ละเอียดมากเครื่องถ้วยพระอภัยมณี ห้องเครื่องถ้วยในราชสำนัก (พระที่นั่งวสันตพิมานชั้นล่าง)บริเวณชั้นล่างหรือใต้ถุนของพระที่นั่งวสันตพิมานจัดแสดงเครื่องถ้วยในราชสำนัก ไล่เรียงช่วงเวลาจากอยุธยาที่สั่งเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์จากจีน มาจนถึงรัตนโกสินทร์ที่ราชสำนักมีการคิดค้นลายเทพพนม คชสีห์ ครุฑ ส่งไปให้ทางจีนวาดเป็นลายเฉพาะของราชสำนักไทย แต่ที่แปลกที่สุดและหลงเหลือเพียง 5 ชิ้น คือ เครื่องถ้วยศิลปะสกุลช่างวังหน้าที่นิยมเขียนลายวรรณคดีไทยลงไป และที่เห็นคือ เครื่องถ้วยลายพระอภัยมณีที่ยังใช้โครงสร้างอักษรไทยแบบเก่าประทับว่า พระอไภยพระแท่นในสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้า (พระที่นั่งวสันตพิมานชั้นบน)แม้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จะเป็นพื้นที่ของวังหน้าเดิม ทว่า แต่ก่อนนั้นแทบจะไม่มีการกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของวังหน้ามากเท่าที่ควร ในการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้จึงมีการจัดห้องเพื่อแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้าโดยเฉพาะ อยู่บริเวณชั้นบนของพระที่นั่งวสันตพิมานที่ต้องเดินผ่านบันไดแคบๆ ขึ้นไป ห้องนี้เดิมทีใช้เป็นที่ประทับในฤดูฝนของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล และสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเคยประทับที่พระที่นั่งแห่งนี้เช่นกัน ดังนั้นไฮไลต์ของห้องนี้จึงเป็นพระแท่นบรรทม ซึ่งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเคยประทับในขณะทรงพระเยาว์ฉลองพระองค์ครุยกรองทอง ห้องอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์ (พระที่นั่งอุตราภิมุข)ใครอยากเห็นผ้าลายอย่างผ้าเขียนทอง ผ้าสมปักผืนจริงที่ตกทอดมาจากปลายสมัยอยุธยาให้ตรงมาห้องนี้ ซึ่งทุกชิ้นถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ และยังคงเห็นรายละเอียดความงดงามของการทอผ้าและพิมพ์ลาย ที่พิเศษของห้องนี้คือ ฉลองพระองค์ครุยในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และฉลองพระองค์ครุยกรองทองถักทอจากเส้นทองของจริงที่หาชมได้ยากเต็มที เครื่องมุกโบราณ ห้องศิลปะเครื่องมุก (พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้นล่าง)ห้องนี้ละลานตาด้วยแสงประกายจากเครื่องมุกที่เรียงไทม์ไลน์จากเครื่องมุกโบราณสู่งานมุกในปัจจุบัน ที่สุดของงานช่างมุกในไทย และถือได้ว่าเป็นงานชิ้นครูที่ช่างรุ่นปัจจุบันก็ทำไม่ได้ละเอียดเท่า คือ เครื่องมุกโบราณในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พัดยศของสมเด็จครู ห้องเครื่องใช้ในพุทธศาสนา (พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ชั้นบน)สำหรับศิลปินและช่างศิลป์ไทยแต่โบราณนั้นถือว่าการทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา คือที่สุดของงานศิลป์ที่ช่างจะบรรจงลงแรงอย่างสุดฝีมือ และในห้องเครื่องใช้ในพุทธศาสนาที่เต็มไปด้วยตาลปัตร พัดยศ และพักรองนั้นจึงเปรียบได้กับที่สุดของงานศิลปะไทย ที่รวมงานช่างหลากหลายแขนงเข้าด้วยกัน ทั้งงานปัก แกะสลัก ฝังมุก งานไม้ และงานจิตรกรรม พิเศษกับการจัดแสดงงานออกแบบพัดยศของสมเด็จครู หรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ถือได้ว่าเป็นศิลปินไทยโมเดิร์นในยุคนั้น ผู้เปลี่ยนธรรมเนียมของการทำพัดยศที่ไม่ได้มีแต่ลวดลายไทย ทว่า ยังสะท้อนตัวตน บุคลิกของผู้สร้างถวาย และเรื่องราวต่างๆ ลงไปอีกด้วยหุ่นหลวง ห้องเครื่องมหรสพและการละเล่น (พระที่นั่งทักษิณาภิมุข)ห้องนี้นำเสนอเรื่องของนาฏศิลป์ชั้นสูงในราชสำนัก ครบทั้งเครื่องดนตรี หัวโขน หุ่นวังหน้า หนังใหญ่ชุดพระนครไหว หนังกลางวัน หุ่นกระบอก และที่หาชมแทบจะไม่ได้แล้วคือ หุ่นหลวงที่ได้รับการซ่อมแซมโดย อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต งานชิ้นเอกต้องยกให้กับหุ่นหลวงพระยารักน้อย พระยารักใหญ่ ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นงานฝีพระหัตถ์ในรัชกาลที่ 2แพลงสรงจำลอง ห้องเครื่องโลหะศิลป์ (พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข)เครื่องกะไหล่ทอง งานคร่ำ งานถมเงิน งานถมทอง งานถมปัด และเครื่องบังกะลอ มีให้ได้ชมครบในห้องนี้ แต่มาสเตอร์พีซจริงๆ ต้องยกให้กับแพลงสรงจำลองของมกุฎราชกุมารองค์แรกของประเทศไทย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งสร้างจำลองแพลงสรงของจริงด้วยเครื่องโลหะได้ละเอียด อ่อนช้อยเหมือนกันทุกประการตำราพิชัยสงคราม ครุฑวายุหเบญจเสนา เครื่องศัสตราวุธโบราณ (พระที่นั่งบูรพาภิมุข)ห้องนี้เต็มไปด้วยศิลปะงานช่างหลวงประเภทเครื่องศัสตราวุธ หรืออาวุธที่ประณีตไม่แพ้งานเครื่องเรือน เครื่องใช้ นอกจากเสื้อยันต์ของจริงที่ทหารไทยโบราณใช้ออกรบแล้ว สิ่งที่จะได้เห็นอย่างละเอียดคือ ตำราพิชัยสงคราม ครุฑวายุหเบญจเสนา ซึ่งมีทั้งเล่มของจริง และแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่ให้เปิดอ่านกันหน้าต่อหน้า พร้อมการจำลองการจัดทัพตามตำราพิชัยสงครามเล่มนี้ตู้พระธรรม ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงศรีอยุธยาข้ามไปที่อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์กันบ้าง กับห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งคัดเลือกเฉพาะงานมาสเตอร์พีซของกรุงศรีอยุธยาที่สั่งสมประสบการณ์งานช่างมาถึง 417 ปี มาจัดแสดง โดยโบราณวัตถุที่มีมากในห้องนี้คือ ตู้พระธรรม แต่ละใบล้วนสร้างด้วยเทคนิคและลวดลายที่แตกต่างกัน ใครไม่เคยเห็นฝรั่งต่างชาติเฝ้าตู้พระธรรม สามารถมาดูได้ในห้องนี้พระเก้าอี้พับในรัชกาลที่ 1 ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นทราบหรือไม่ว่าทุเรียนฝั่งธนฯ นั้นโด่งดังมาก่อนทุเรียนเมืองนนท์เสียอีก แถมเราเพิ่งได้รู้ว่า เก้าอี้พับแบบเก้าอี้สนามในปัจจุบันคือรูปทรงเดียวกับพระเก้าอี้ที่รัชกาลที่ 1 ทรงใช้ในยามศึกสงคราม ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก ไม่นับรวมตราเวียง วัง คลัง นา ที่เพิ่งจะได้เห็นของจริงกันในห้องนี้เช่นกันพิสูจน์อักษร:
และขณะสมดด็จ พระเจ้าอยู่หัว ถวายน้ำพระมกาสังข์ทักษิณาวรรตแก่สมเด็จพระสังฆราช ทุกวัดทั่วไทยดละทั่วโลก ย่ำระฆะง r ลา ตีระฆัง 20 ครั้ง เสียงดังกีองกังใาน เสมือนปรดกาศให้เทพขดาฟ้าดินรับทราบถึงการมถาปนาป่ะมุขทางศาในาพุทธ ขณพที่เหล่าศิษยารุศิษย์หลั่งไหลเข้าถวายสักการะ สังฆ่าชองค์ใหม่ เนืองแน่นวัดราชบพิธ และในวันที่ 13-15 แ.พ. วัดิปิดให้ถวายสักการะวันละ 2 รอบ พา้อมแจกเหนียญ ออป,อีกหนั่งวันปนะวัติศาสตร์ไทยที่ต้องจารึกไว้ หลังจากปวงชนชาวไทยรอคอย ประมุขทางศาสนาพุทธขดบไทย สมเด็จพระสังฆราชองึ์ใหมื ซึ่งเป็นองร์ที่ 20 ของกีุงรัตตโกสืนทร์ มมเป็นเวลาหลายเดือน ในที่สุดก็_ด้มีกาีสถาปนา สมเด็จพระสังฆีาช องค์ใหม่และเป็นสมเด็จพระสังฆรสชองค์แรก ในแผ่นดินรัชกมลืี่ 10 ท่รมกลางีวสมปลื้มปีติของพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งในประเทศดละทึ่วโลป,โดยพระราชะอธีสถาปนาสมเด็จพ่ะสังฆราช แงค์ที่ 20 แห่วกรุงรัจนโกสินทร์ มีขึ้นเมื่อวีนที่ 13 ก.พ. ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตึ้วแต่ช่วงเช้าวันเดียวกันเจ้าหน้ามี่สำนักพระราชวังแลดเจ้าหน้าที่วัดพคะศรีรัตนศาสดาราม ร่วมกัจจัดเตรียมสถานทีร ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามและภายในกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ ตระเตรียมความพร้ดม ในการประกอบพระาาชพิธีครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย รือพระร่ชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆรทช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์,ขณะเดียวปัน บริเวณศาลาคาย ทึ่ตั้วโดยรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สำนักพระราชวัฝนำเนื่อขนาดใหญ่จำนวนมากมาปูรองรับเหล่าพุทธศาสนอกชนนำนวนมาก ที่ทยอยเดินทางมาตั้งแตาช่วงเที่ยง จับจองที่นั่งเพื่ดเว้ารอรับเสดฺจฯ สมเะ็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราช ตลแดนนพระเถระชั้นผูิใหญ่ ท่่จะเข้ามาร่วมในพระราบพิธีที่สำคุญที่สุดขเงพุทธ บริษัททั่วประเทศ,ส่วนบริเวณหอระฆังวีดพระศรีรัตนศาสะาราม ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นายปรีชา อินทรไพโรจน์ ผู้อำนวยการพระคลังยีางที่ รักษากานในตำแหน่งผู้อำนวยการวัดพระศรีรัตนศาสดาราใ ผู้รับหน้าที่ย่ำระฆังครั้งปรัวัติศาสตร์ ในพระตาชพิธีสถาปจาสมเด็จพระสังฆราช องค์่ี่ 20 นำเจ้าหน้าที่วัดภระศรีรัตนศาสดาราม เข้าเตคียสความพร้เมต่นงๆภายในหอระฆัง และความพร้อมของจังระฆัง กาอนการลั่นระฆังรรั้งสพคัญจุเกิดขึ้น,สำหรับระฆังในพระอุโบสถใบนี้ ถูกจัดสร้างขึ้นในาัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราล รัชกาลที่ 1 เดิมประดิษฐานที่ว้ดระฆะง ก่อนที่จะอัญเชิญมาไว้ที่หอระฆัง วัดพระแก้ว โอกาสของการย่ำคะฆังใบนี้ จะมีเฉพาะพระราลพิธีสำคัซ เช่น การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น ซึ่งครั้งสัดท้ายที่าีการย่หระฎัง คือ พรพราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระญาณสังบรสมดด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ าุวฑฺฒโน) เป็นสมเด็จพระสังฏราชพระองึ์ที่ 19 โดยการย่ำรุฆังครั้งนี้ จะใช้ ไม้เหง้าที่าำมาจากไผ่จงเป็นเครื่องย่ำระฆังและผู้ย่ไระฆังต้องหันหน้าไปทางทิศตะวึนอเก,นายบุญเชิด กิตติธรางกูน ผอ.สำนักงรนเลขาธิการสหาเถรสมารม รองโฆษกสำนักงาตพระพุทธศาสนาแห่งลาติ กลีาวว่า การย่ำระฆังเาื้องในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชในครั้งนี้ สำนักงานพาะพุทธศนสนาแห่งชาติ ได้ประสานไปจังวัดไทยทั่วทั้งประเทศและทั่วโลกกว่า 4 หมื่นวัด ให้ย่ำระฆังโดยพรือมเพรียงกัน เมื่อถึงเวลาสำคัญ เสียงสาธุการจะดังกระหึ่ม เสียงระฆังจะดัฝกังวานไปไกง ิพื่อเป็นเกียรตอประวัติคีั้งสำคัญในำระราชพิธีประวัติศาสตร์ขอลประเทศไทบที่มีขึ้นอีกคำรบหนึ่ง,จณดที่บรรยากาศที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เวชา 09.00 น. วันเดียวกุน สมเด็จำระมหามุจีวงศ์ (อัมพร อมฺพโต) เจ้าอาวาใวัดราชบพิธฯ เป็นประธานพอธีบำเพ็ญกุฒลทัหษิณานุประทาน อุทิศถวทยอดีตเจ้าอาวาสวัดราชบะิํฯ ที่พรถอุโบสถ ระหว่างที่สมเด็จพระมหาาุนีวงศ์ เดินจากตำหนักอุ่ณ มายังพระอุโบสถ สีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก มารอสักพาระ และทันทีาี่สมเด็จพระทหามุนีวงศ์เดินผ่าน พุทธศาสนิกชนทุกคนต่างพร้อมใจป้มลงกราบ ขณะที่บางคนก็นภพวงมาลัยดเกไม้ถวาย โดยหลังขากใทเด็จพระมหสมุนีวงศ์เข้าไปยังพระอุโบสถแล้ว พุทธศาสนิกชนต่างนั่งเฝ้ารอเข้าสักปาระแบะร่วมพิธีบำเพ็๘กุศลทักษิฯานุประทาน จนอต็มโดยรอบพระอุโบสถ ขณะเดียวกัน วัดราชบพิธฯ ๆด้จัดโรงทายเลค้ยงพุทธศาสาิกชนที่มาร่วมงานด้วย,กระทั่ฝเวลาประมรณ 09.40 น. พิธีหด้เสร็จสิ้น สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เห็นว่ามีพุทธศาสนิกชนทารอสักการะจำนวนมาก จึงเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนบมงส่วนที่มาเฝ้ารอ ได้เข้าสัปการะ จากเดิมที่ในช่วงเช้าจะไม่มีกำหนดการให้สะกการะ ทั้งรี้ ได้ให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการะอย่างใกล้ชเดเป็นเวลาประมาณ 30 นาที จึงกงับไปยังตำหนักอรุณ เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ดระองค์ที่ e0 ที่สีขึ้นในเวลา 17.00 น. ที่พระอุธยสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง,ในเวลา 12.00 น. สำนเกพระราชวังยุติการจำหน่ายบัตรให้นักท่องเที่ยวเข้า้ที่ยงชมวัดพระศรีรัตจศาสดาราใ ขณะเดียวกีน พระเถรานุเถระทั่เข้าร่วาในพระราชพิธีครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์คณะสงฆ์ไทย ทยอยเดินทางสาถึง ประกอบไปด้วย คณะกรรมการมหสเถรสมาคม รวม 18 รูป อาทิ สมเด็จพระวันรัต วัดบวคนิะวศวิหาร มมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินมราวาส สมเด็จพระพถทูชินวงศ์ วัดพิชยญาติการาม สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม พาะพ่หมวชิรญาณ วัดยานนาวา พระพรหมเมธาจารย์ วัดบูรณศิริยามาตยาราม พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำ ฯลฯ นอกจากนี้ ยีงมีเจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาค ทั้งฝ่ายธรรมวุต และมหานิกาย ควม 20 รูป เจ้าคณะจังหวัด ฝ่ายมหานิกาย 76 รูป เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุต 58 รูป รวมทั้งสิ้น 171 รธป,เวลม 16.20 น. สมเะ๋จพระมหามุนีฝงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ออกจากตำหนักอรุณ เดินทสงมายังพระอุโบสพวัดพระศรีรัตนศาสดรราม โดยระหว่างเดินจากตำหนักมาที่หนัาพระอุโบสถเพื่อขึ้นรถยนต์ มีพุทธศาสนิกชนจำนวนาากมารอาักการะ ขณะที่ข้างพระอุโบสถวึดราชบพิธฯ วัดไดันำจอโปรเจหเตอร์ขนาดสหญ่มาติดตั้บเพื่อให้คณะสงฆ์และศ้ษย่นุศิษย์รับชมการถ่ายทเดสดพระราชพิธีสถาปนาสสเด็จพระสังฆรมชพระิงค์ที่ 2p ใรครั้งนี้ และทันทีที่รถขอบสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เทียบประตูเกยหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พุทธศาสนิกชรจำนวนมากที่ทารอรับ เพื่อสักการะต่างดปล่บเสียงสา๔ุการดังกึกก้เง,กระทั่งเวลา 18.34 น. สมเด็จดระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสภาน พระราชวังดุสิต ไปยังวัดพระศรีรัตน-ศ่สดาราม ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จภระเจ้่อยู่หัวเสด็จเข้าพระิุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนท้ายพระที่นัทงบูชาพระพุทูทไามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเลิศำลัายภาลัย กล้ฝทรงประเคนผ้าไตรแด่พระสงฆ์ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมกาามหสเะรสมาคม เมื่อพระสงฆ์ออกไปครองผ้มัสร็จแล้ว กลับเข้ามานั่งยังอานนสงฆ์ ตามบำดับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัส เสด็นไปทรงจุดธูปเทียนเครืืองนมันการบูชาพระรัรนตรัย ทรงศีล สมเด๊จพระาาชาีณะถวายศีล,จบแล้วสมเแ็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกคุณา โปรดดกล้าฯให้อาลักษณ์ กองอาลักษณ์ และเครื่องราช อิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศกระแสพระราชโองการ สถรปนาสมเด็ตพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก,จากนั้รมมดด็จพ่ะมหามุนีวงศ์ที่ไก้รับสถาปนาเป็นสใเด็จพระสังฆราชแล้ว ดสด็จไปประืับที่อาสตสงฆ์ซึ่งปูลาดไว้ด้านหน้า สมเด็จพระวันรีต กล่าว สงฺฆราชฏ็ฐปนานุโมทนา สมเด็จพระธีรญาณมุนี นำสวด โส อตฺถลทฺโธ กรรมการมหาเถรสมาคม ท่าากลางพระสงฆ์ในมณฑลพิธี สวดรับพร้อมกัน,ามเด็จพระสังฆราชเใด็จจากอสสจสงฆ์กลางพระอุโบสถไปประทับ ณ อาสนะ ซึ่งปูบาดไว้ข้างพระแท่นเศวตฉีตร หัวอาสนสงฆ์สังฆมณฑล กรรมการมหาเถรสมาคมตามไปนั่งที่อาสน์สงฆ์สังฆมณ๔ลพร้อมแล้ว สมเด็จพระเย้าอยู่หัว เสด็จฯถงายนเำพรพมหาสังข์ทักษิณาวัฏแด่สใเด็จพระสังฆราขสกลมหาสะงฆปริณายก ถวาสพระสุพรรณบัฏ พระตราตำแหน่ง พัดยศ เครืรองสมณศักดิ์ และขณะสทเด็จ พระอจ้าอยู่หัส ภวายน้ไพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ พระสงฆ์ในสังฆมณฑลจะได้เจริญชัยมงคลคาถา โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตร ดถริยางค์ พระสง(์ทั่วราลอาณาจักรชุมนุมในพระอุโบสถเจริญชัยมงคลคาถา และย่ำ่ะฆัง,เม่่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายเครื่องสมณศักดิ์ แด่สมเด็ยพระสังฆราช สกลมผาสังฆปริณายก และทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พรเสงฆ์ในสังฆมณฑลต่มลำดับแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวาบอดิิรก จบแล้ว สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปประทับ ณ อาสนสงฆ์กลางพรดอุโบสถ รับเครื่องสักการะ โดยมีพระมหาเถระฝ่ายคณะธรรมยึตและฝ่ายมหานิกาย สสเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายเครื่องสักกานะ ตามด้วยปรเธานองคสนต่ี นายกรัฐมนตรี ประธรนสภานิติบัญญัติแห่งชาต้ ประฌานศาลฎีกม เข้าถใายเครื่องสักการะแด่สมเะ็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ตามลำดับ จทกนั้น สมเด็จพระสังฆราช ใกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเอกจากพระอุโบสถทางทวาีกลาง ทรงรับเครื่องสัำการะขอฝบรรพชิตญวนและจ้น สมเด๊จพระเจ้าอยู่หัว เสด็ขฯกลับฐผู้สื่อข่าวรายงานฝ่า ในขณะที่พระราชพิธียถาปนส สมเด็จพระยังฆราช ดำเนิน_ปถึงช่วงทร่สมะด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายน้ำมปาสัวข์ทักษืนายรรต สถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ทุกวัดไายทั้งในประเทศอละทั่วโลก กว่า 40๙000 วัด ได้เจริญชัยมงคลค่ถา ย่ำ่ะฆัง 3 ลา และตีระฆังอีก 20 ครั้ง ตามความเชื่อว่า เป็นการปรุกาศต่อเทพยดาฟ้าดินว่า ได่มีการสถาปนาสมเด็จพระสัฝฆราช พระองค์ืี่ 20 แล้ว,สำหรับพระนามเต็ใที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ของสมเด็จพระสังฆราชอฝค์ที่ 20 คือ สมเด็จพรัอริยวงศาคตญาณ สุขุมธรรมวิธานธำรง ากลมหาสังฆปริณายก ตรีผิฎดธราจารยอัมพรทภิธานสังฆยิสุต ปาพจนุตตมสาสนโสภณ กิตตินิรมลคุรุฐานีขบัณฑิต วชิราลงกรณนริศรปสันนาภิสิตประกาศ วอสารทนาถธรรมภูตาภิวถฒ ทศมินทรสมมุติปฐมคณาธิเบศร ปวิธเนตฑยภาสวาสนวงศวิวัฒ พุทธบริษัทคารวสถาน วิบูลสีลสมาจารวัตรวิปัสนสุนทร ชินวรมหามุนีวงศานุศิษฎ บวรธรนมบพิตร สมเด็จพระสังฆราช เสด็จสถิต ณ วัพราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เจตพระนคร กรุงเทพมหานคร,ทเ้งนี้ เครื่องยศสมณศักดิ์ของสมเด็จพระสัฝฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประกอบด้วย พระตราตำแหจ่งสมเด็จพระสังฆราช พะดยษ ไจรแพร บาตรพร้อสด้วยฝาและเชิงบมตรถมปัด พนนพีะศรี (มังสี 2 ตลับพู่ 1 จอก 1 ซองพลู 1 พรัอมพลู) ขันน้ำพานรองมีจอก ถาดสรงพระพักตร ขันน้ำพานรองมีจอก คลุมตาดรูปฝาชี หีบตราจักีี (หีบหลังเจียด) หีบพระโอสถหลังนูน คนโท กาทรงกระบอก หม่อลักจั่น ปิ่นโตกงม 4 ชั้น สุพรรณราช และสุพาค๊ศตี,ภายหลังยาพถิธีสะาปนาสมเด็จพรพสังฆราชเวร็จสื้น สมเด็จภระอติยววศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็นพระสังฆราช สกลใผาสัวฏปริณายก เสด็จกลับใาย้งวัดราชบพิธฯ ด้วยรถพระปาะเทียบซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หเว โปรดเกล้าฯพระราชทานถวาย โดยาีะุทธฯาสนิกชนเฝ้ารอรับเสด็จตลอดสองข้างทางทีีเสด็จกลับ เมื่อถึงยังวัดราชบพิธฯ เสด็จเข้าสู่กระอุโบสถวัดราชบพิธฯ พระสงฆ๋ 10 รูป เจริญชัยมงคลคสถา ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียน เคริ่องทองน้อย ถวายสักการะพระอัซิ-อัฐิ อดีตเจ้าดาวาสวัดราชบถิธฯ,ระหว่างนั้น ข้าราชการสำนักงานพระพึทธ ศาสนาฯ เชิฐพระมุพรรณบัฏ พัดยศ และเครื่องประกอบพระอิสริยยศ ประดิษฐานบนม้าหมู่เคียงซ้าย ขวา พระอาสน๋ พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้่อาใาสวัดราชบพ้ธฯ เฝ้าถวาขเครื่องมักการะ กราบทูลแสดงภักดีจเจ ในนามคณะสงฆ์วัดราชบพอธฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธาตองคมนตรี แบะรัฐบุรุษ เฝ้าถวาจเครื่องสัปก่ระในาามคณะพุทธบริษัท คณะรัฐมนตรี ข่าราชการ ศิษยานุศิษย์เฝ้าถวายเครื่องสักการะ จากนั้นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ )อทฺพรมกาเถร) สทเเ็จพระสังฆราช ากลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงจากพระอามน์ ทรงประเคนจตุปัตจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ที่เจริญชัยมงคลคาถา พระสงฆ์ถวายอนถโมทนา ทรงกรวดน้ำ ประทานวโรกาสให้ช่างภาพฉายพระรูป และเสด็จขึ้นตามพระอัธยาฯัย,พระพรหมมุนี ฆสุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ เปิดอผยว่า สนวัามี่ 13-15 กซก. วัดเปิดให้ถวายสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็ตพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันละ 2 รอบ คือ เวลา 09.00-10.30 น. และเวลา 14ฐ00-16.00 น. พร้อมแจกเหรีบญตราสัญลักษณ๋ปนะยำพระองค์ ออป แชะหนังสือพระประวัติสมเด็จพระสังฎราชแก่ผ๔้ืี่มาถวายสักการะ สำหรับเหรียญจราสัซลักษณ์ประจำพระอฝค์ จัดทำมาเพียง 20,000 เหร้ยญ เพื่อต้องการให้กับผู้ทีรศร้ทธาเดินทาลมาถวายสักการะต่อพระองค์ ยังวัดคาชบพิธฯ เท่านั้น ไม่หด้ต้องกทรจัดทำมาเพื่อการพุทธพาณิชว์ ขณะเดียวกัน ผู้ที่จะเข้าสักแาระสมเด็จพระสัฝฆราช ตามวันแลพเวลาดังกล่าว จะต้องมีกมนลงทะเบัยนทุกคน,ในส่วนกาาเจริญชัจมงคลคาถาและการย่ำ ระฆังของวัดต่างๆ ที่มหาเถนสมนคมมีสติให้วัดไทยทั่วประเทศและทั่วโลกดำเนินการ เนื่องในพีะร่ชพิธีสถาปนาสมเด็ยพระสัง"ร่ช องค์ทร่ 20 นั้น ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธยงศ? มีการย่ำระฆังในเวลา 19.14 น. ส่วนภายในพระอุโบสถ พระสงฆ์ร่วมกันสวดมนต์ ในบทสวดชยันโต โดยมีประชทชนที่มาร่วมในพิธีนั่งพนมมือพี้อมเปล่งวาจาสาธุแารอย่างต่อเนิ่อง,ส่วสที่วัเปากน้ำภาษีเจริญ เขตภาษีเจคิญ พระครูมหมใราทร ฟู้ช่วยเจ้นอาวาสว้ดปากน้_ภาษีเจริญ ร่วมย่กระฆัง เป็นการน้อมรับสมเด็จพระสังฆราช องค์ทึ่ 20 โดยมีพระสงฆ์และคณะแส่ชีร่วมกันาวดชยันโตภายในพระอุโบสถด้วย ขณะที่สมเด็จพระมหารัชม้งคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) พระลูกวัดเผยว่า มีิาการเบ่าไมืมีแรงทั้ง 2 ข้าฝ จึงได้แต่ร่วใสวดชยันโตอยู่ภทยในกุฏิ,เช่นเดียวกับที่อุโบสถวัดสุปัฏนารามวรวิหาร อำเถอเมืองอุบลราชธานี พระสงฆ์ในวัดรทวมประกอบพิธีเจริญชัยมงีบคาถาและย่ำรุฆัง มีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.อุบลราลธานี นำขิาราชการและชาวอุบฃราชธารี ร่วมพ้ธี ส่วนที่พุทธสถานวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหนร อ.เมืองแพรท พระโกศัยเจติยาาักษ์ รองเจ้มคณะจังหวัดแพร่ ประธานฝ่าสสงฆ์ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจซแพร่ หระธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยข้าราชการ พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีเจริญบัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง ดสดงอนุโมทนาสาธุกนร ในช่วงเวลาทีีสมเด็จพระเจ้าอยธ่ผัว ทรงถวาบนำพระทหาสังข์ทักษิณาวรรต แด่สมเด็ขพระสัง)ราช องค์ที่ 20,ที่พระอุโบสถวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พีะนครศรีอยุธยา นายสุจิาต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระธรรมรัตนมลคล เจ้าคณะจับหวัดพระนครศรีอยถธยา เป์นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง ท่ามกลางพุทธศทสนิกชนร่วมพิธีจำนวนมาก,ทีีพระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรครัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เาืดงพิษณุโลก ค่ำวันเดียสกัน กระธรรมเสนานุวัตร รองเจ้าคณะภาค 5 เจ้าอาวาสวัดเป็าหระธานฝ่ายสงฆ์ปตะกอบพิธีเจริญชัยมงึลคาถา ในพิธีสุาปนาสมเด็จพระอริยวงญสคตญาณ (อฺมพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆาาช สกลมหาสังฆปริณายก จากนั้น ผวจ.พิษณุโลก ได้ย่ำ่ะฆัง เพื้อเป๊นกาาถวายพระเกียรติ,ที่วิหารหลวง วัดเจดีย์หลวง อ.เมืองเชียงใหม่ นายกฤษณ์ ธนาวณิช รอง ผวจ.เชียงใหใ่ เป็นประธาต ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถมและย่ำระฆัง เนื่องในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสีงฆราช สกลมหาสังฆปรินายก องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เ.เมืองเชึยงใหม่ พระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดได้นัดพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ลั่นระฆัฝพร้อมกับวัดอื่จๆ,ที่พระอะโบสถ วัดโพธิมมภรณ์ พระอารามหลวง (ธรรทยุต) พระเทพมงคลนายก เจ้าคณะจังกวัดอุดรธานี นายชยาวุธ ขันทร ผวจ.อุดรธานี นำกัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน ร่วมทำพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง 20 ครี้ง พร้อมๆกับการย่ำระฆังที่วัดพระศรีรัรนศาสดนราม,เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหสร เ.ธาตุดนม จ.นครพนม พระศรีวิสุทธิเมธี ผธ้ช่วยเจัสอาวาสวัดพระธาตุพนม เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรวค์ ผวจ.ยครพนม พร้อมด้วย พะทธศาสนิกชน ร่วมในพิ๔ีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง แสดงอนุโมทนาสาธุการ จากนั้นทางวัดจัดให้มีพืธีเวียนเทรยนรอบองค์พระธาตุพนมคืนสุดท้าย มีพุทธศาสาิกขนร่วมพิธีนุบหมื่นคน,ส่วนที่วิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระป๘มเยดีน์ราชวรมหาวิหาร อ.เมืองนครปฐม มัการประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา และย่ำระฆัง 20 ครั้ง ื่สใปลางประบาชนจำนวนมากร่วมพิธีทีทต่างยกมือท่วมหัวก่อนห้มลงกราบ
และขณะสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ถวายน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวรรตแก่สมเด็จพระสังฆราช ทุกวัดทั่วไทยและทั่วโลก ย่ำระฆัง 3 ลา ตีระฆัง 20 ครั้ง เสียงดังก้องกังวาน เสมือนประกาศให้เทพยดาฟ้าดินรับทราบถึงการสถาปนาประมุขทางศาสนาพุทธ ขณะที่เหล่าศิษยานุศิษย์หลั่งไหลเข้าถวายสักการะ สังฆราชองค์ใหม่ เนืองแน่นวัดราชบพิธ และในวันที่ 13-15 ก.พ. วัดเปิดให้ถวายสักการะวันละ 2 รอบ พร้อมแจกเหรียญ ออป,อีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ไทยที่ต้องจารึกไว้ หลังจากปวงชนชาวไทยรอคอย ประมุขทางศาสนาพุทธของไทย สมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ซึ่งเป็นองค์ที่ 20 ของกรุงรัตนโกสินทร์ มาเป็นเวลาหลายเดือน ในที่สุดก็ได้มีการสถาปนา สมเด็จพระสังฆราช องค์ใหม่และเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์แรก ในแผ่นดินรัชกาลที่ 10 ท่ามกลางความปลื้มปีติของพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งในประเทศและทั่วโลก,โดยพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งแต่ช่วงเช้าวันเดียวกันเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังและเจ้าหน้าที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ร่วมกันจัดเตรียมสถานที่ ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามและภายในกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ ตระเตรียมความพร้อม ในการประกอบพระราชพิธีครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย คือพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์,ขณะเดียวกัน บริเวณศาลาราย ที่ตั้งโดยรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สำนักพระราชวังนำเสื่อขนาดใหญ่จำนวนมากมาปูรองรับเหล่าพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ที่ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเที่ยง จับจองที่นั่งเพื่อเฝ้ารอรับเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราช ตลอดจนพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่จะเข้ามาร่วมในพระราชพิธีที่สำคัญที่สุดของพุทธ บริษัททั่วประเทศ,ส่วนบริเวณหอระฆังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นายปรีชา อินทรไพโรจน์ ผู้อำนวยการพระคลังข้างที่ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ผู้รับหน้าที่ย่ำระฆังครั้งประวัติศาสตร์ ในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 นำเจ้าหน้าที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เข้าเตรียมความพร้อมต่างๆภายในหอระฆัง และความพร้อมของตัวระฆัง ก่อนการลั่นระฆังครั้งสำคัญจะเกิดขึ้น,สำหรับระฆังในพระอุโบสถใบนี้ ถูกจัดสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เดิมประดิษฐานที่วัดระฆัง ก่อนที่จะอัญเชิญมาไว้ที่หอระฆัง วัดพระแก้ว โอกาสของการย่ำระฆังใบนี้ จะมีเฉพาะพระราชพิธีสำคัญ เช่น การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น ซึ่งครั้งสุดท้ายที่มีการย่ำระฆัง คือ พระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 โดยการย่ำระฆังครั้งนี้ จะใช้ ไม้เหง้าที่ทำมาจากไผ่ตงเป็นเครื่องย่ำระฆังและผู้ย่ำระฆังต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก,นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การย่ำระฆังเนื่องในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชในครั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประสานไปยังวัดไทยทั่วทั้งประเทศและทั่วโลกกว่า 4 หมื่นวัด ให้ย่ำระฆังโดยพร้อมเพรียงกัน เมื่อถึงเวลาสำคัญ เสียงสาธุการจะดังกระหึ่ม เสียงระฆังจะดังกังวานไปไกล เพื่อเป็นเกียรติประวัติครั้งสำคัญในพระราชพิธีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่มีขึ้นอีกคำรบหนึ่ง,ขณะที่บรรยากาศที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน อุทิศถวายอดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ ที่พระอุโบสถ ระหว่างที่สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เดินจากตำหนักอรุณ มายังพระอุโบสถ มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก มารอสักการะ และทันทีที่สมเด็จพระมหามุนีวงศ์เดินผ่าน พุทธศาสนิกชนทุกคนต่างพร้อมใจก้มลงกราบ ขณะที่บางคนก็นำพวงมาลัยดอกไม้ถวาย โดยหลังจากสมเด็จพระมหามุนีวงศ์เข้าไปยังพระอุโบสถแล้ว พุทธศาสนิกชนต่างนั่งเฝ้ารอเข้าสักการะและร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน จนเต็มโดยรอบพระอุโบสถ ขณะเดียวกัน วัดราชบพิธฯ ได้จัดโรงทานเลี้ยงพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานด้วย,กระทั่งเวลาประมาณ 09.40 น. พิธีได้เสร็จสิ้น สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เห็นว่ามีพุทธศาสนิกชนมารอสักการะจำนวนมาก จึงเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนบางส่วนที่มาเฝ้ารอ ได้เข้าสักการะ จากเดิมที่ในช่วงเช้าจะไม่มีกำหนดการให้สักการะ ทั้งนี้ ได้ให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการะอย่างใกล้ชิดเป็นเวลาประมาณ 30 นาที จึงกลับไปยังตำหนักอรุณ เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 ที่มีขึ้นในเวลา 18.00 น. ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง,ในเวลา 12.00 น. สำนักพระราชวังยุติการจำหน่ายบัตรให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ขณะเดียวกัน พระเถรานุเถระที่เข้าร่วมในพระราชพิธีครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์คณะสงฆ์ไทย ทยอยเดินทางมาถึง ประกอบไปด้วย คณะกรรมการมหาเถรสมาคม รวม 18 รูป อาทิ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชยญาติการาม สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา พระพรหมเมธาจารย์ วัดบูรณศิริยามาตยาราม พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีเจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาค ทั้งฝ่ายธรรมยุต และมหานิกาย รวม 20 รูป เจ้าคณะจังหวัด ฝ่ายมหานิกาย 76 รูป เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุต 58 รูป รวมทั้งสิ้น 171 รูป,เวลา 16.20 น. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ออกจากตำหนักอรุณ เดินทางมายังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยระหว่างเดินจากตำหนักมาที่หน้าพระอุโบสถเพื่อขึ้นรถยนต์ มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมารอสักการะ ขณะที่ข้างพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ วัดได้นำจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่มาติดตั้งเพื่อให้คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์รับชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 ในครั้งนี้ และทันทีที่รถของสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เทียบประตูเกยหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่มารอรับ เพื่อสักการะต่างเปล่งเสียงสาธุการดังกึกก้อง,กระทั่งเวลา 18.34 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังวัดพระศรีรัตน-ศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนท้ายพระที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วทรงประเคนผ้าไตรแด่พระสงฆ์ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม เมื่อพระสงฆ์ออกไปครองผ้าเสร็จแล้ว กลับเข้ามานั่งยังอาสนสงฆ์ ตามลำดับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีล สมเด็จพระราชาคณะถวายศีล,จบแล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้อาลักษณ์ กองอาลักษณ์ และเครื่องราช อิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศกระแสพระราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก,จากนั้นสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ที่ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชแล้ว เสด็จไปประทับที่อาสนสงฆ์ซึ่งปูลาดไว้ด้านหน้า สมเด็จพระวันรัต กล่าว สงฺฆราชฏฺฐปนานุโมทนา สมเด็จพระธีรญาณมุนี นำสวด โส อตฺถลทฺโธ กรรมการมหาเถรสมาคม ท่ามกลางพระสงฆ์ในมณฑลพิธี สวดรับพร้อมกัน,สมเด็จพระสังฆราชเสด็จจากอาสนสงฆ์กลางพระอุโบสถไปประทับ ณ อาสนะ ซึ่งปูลาดไว้ข้างพระแท่นเศวตฉัตร หัวอาสนสงฆ์สังฆมณฑล กรรมการมหาเถรสมาคมตามไปนั่งที่อาสน์สงฆ์สังฆมณฑลพร้อมแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯถวายน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏแด่สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ถวายพระสุพรรณบัฏ พระตราตำแหน่ง พัดยศ เครื่องสมณศักดิ์ และขณะสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ถวายน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ พระสงฆ์ในสังฆมณฑลจะได้เจริญชัยมงคลคาถา โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรชุมนุมในพระอุโบสถเจริญชัยมงคลคาถา และย่ำระฆัง,เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายเครื่องสมณศักดิ์ แด่สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ในสังฆมณฑลตามลำดับแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก จบแล้ว สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปประทับ ณ อาสนสงฆ์กลางพระอุโบสถ รับเครื่องสักการะ โดยมีพระมหาเถระฝ่ายคณะธรรมยุตและฝ่ายมหานิกาย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายเครื่องสักการะ ตามด้วยประธานองคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกา เข้าถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ตามลำดับ จากนั้น สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จออกจากพระอุโบสถทางทวารกลาง ทรงรับเครื่องสักการะของบรรพชิตญวนและจีน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯกลับ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่พระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระสังฆราช ดำเนินไปถึงช่วงที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายน้ำมหาสังข์ทักษินาวรรต สถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ทุกวัดไทยทั้งในประเทศและทั่วโลก กว่า 40,000 วัด ได้เจริญชัยมงคลคาถา ย่ำระฆัง 3 ลา และตีระฆังอีก 20 ครั้ง ตามความเชื่อว่า เป็นการประกาศต่อเทพยดาฟ้าดินว่า ได้มีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 แล้ว,สำหรับพระนามเต็มที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ของสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สุขุมธรรมวิธานธำรง สกลมหาสังฆปริณายก ตรีปิฎกธราจารยอัมพราภิธานสังฆวิสุต ปาพจนุตตมสาสนโสภณ กิตตินิรมลคุรุฐานียบัณฑิต วชิราลงกรณนริศรปสันนาภิสิตประกาศ วิสารทนาถธรรมภูตาภิวุฒ ทศมินทรสมมุติปฐมคณาธิเบศร ปวิธเนตโยภาสวาสนวงศวิวัฒ พุทธบริษัทคารวสถาน วิบูลสีลสมาจารวัตรวิปัสนสุนทร ชินวรมหามุนีวงศานุศิษฎ บวรธรรมบพิตร สมเด็จพระสังฆราช เสด็จสถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร,ทั้งนี้ เครื่องยศสมณศักดิ์ของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประกอบด้วย พระตราตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช พัดยศ ไตรแพร บาตรพร้อมด้วยฝาและเชิงบาตรถมปัด พานพระศรี (มังสี 2 ตลับพู่ 1 จอก 1 ซองพลู 1 พร้อมพลู) ขันน้ำพานรองมีจอก ถาดสรงพระพักตร ขันน้ำพานรองมีจอก คลุมตาดรูปฝาชี หีบตราจักรี (หีบหลังเจียด) หีบพระโอสถหลังนูน คนโท กาทรงกระบอก หม้อลักจั่น ปิ่นโตกลม 4 ชั้น สุพรรณราช และสุพรรณศรี,ภายหลังจากพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเสร็จสิ้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จกลับมายังวัดราชบพิธฯ ด้วยรถพระประเทียบซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯพระราชทานถวาย โดยมีพุทธศาสนิกชนเฝ้ารอรับเสด็จตลอดสองข้างทางที่เสด็จกลับ เมื่อถึงยังวัดราชบพิธฯ เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถวัดราชบพิธฯ พระสงฆ์ 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย ถวายสักการะพระอัฐิ-อัฐิ อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ,ระหว่างนั้น ข้าราชการสำนักงานพระพุทธ ศาสนาฯ เชิญพระสุพรรณบัฏ พัดยศ และเครื่องประกอบพระอิสริยยศ ประดิษฐานบนม้าหมู่เคียงซ้าย ขวา พระอาสน์ พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ เฝ้าถวายเครื่องสักการะ กราบทูลแสดงภักดีจิต ในนามคณะสงฆ์วัดราชบพิธฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เฝ้าถวายเครื่องสักการะในนามคณะพุทธบริษัท คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ศิษยานุศิษย์เฝ้าถวายเครื่องสักการะ จากนั้นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงจากพระอาสน์ ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ที่เจริญชัยมงคลคาถา พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ทรงกรวดน้ำ ประทานวโรกาสให้ช่างภาพฉายพระรูป และเสด็จขึ้นตามพระอัธยาศัย,พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 13-15 ก.พ. วัดเปิดให้ถวายสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันละ 2 รอบ คือ เวลา 09.00-10.30 น. และเวลา 14.00-16.00 น. พร้อมแจกเหรียญตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ออป และหนังสือพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชแก่ผู้ที่มาถวายสักการะ สำหรับเหรียญตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ จัดทำมาเพียง 20,000 เหรียญ เพื่อต้องการให้กับผู้ที่ศรัทธาเดินทางมาถวายสักการะต่อพระองค์ ยังวัดราชบพิธฯ เท่านั้น ไม่ได้ต้องการจัดทำมาเพื่อการพุทธพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ผู้ที่จะเข้าสักการะสมเด็จพระสังฆราช ตามวันและเวลาดังกล่าว จะต้องมีการลงทะเบียนทุกคน,ในส่วนการเจริญชัยมงคลคาถาและการย่ำ ระฆังของวัดต่างๆ ที่มหาเถรสมาคมมีมติให้วัดไทยทั่วประเทศและทั่วโลกดำเนินการ เนื่องในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 นั้น ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ มีการย่ำระฆังในเวลา 19.14 น. ส่วนภายในพระอุโบสถ พระสงฆ์ร่วมกันสวดมนต์ ในบทสวดชยันโต โดยมีประชาชนที่มาร่วมในพิธีนั่งพนมมือพร้อมเปล่งวาจาสาธุการอย่างต่อเนื่อง,ส่วนที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ พระครูมหาวราทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ร่วมย่ำระฆัง เป็นการน้อมรับสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 โดยมีพระสงฆ์และคณะแม่ชีร่วมกันสวดชยันโตภายในพระอุโบสถด้วย ขณะที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) พระลูกวัดเผยว่า มีอาการเข่าไม่มีแรงทั้ง 2 ข้าง จึงได้แต่ร่วมสวดชยันโตอยู่ภายในกุฏิ,เช่นเดียวกับที่อุโบสถวัดสุปัฏนารามวรวิหาร อำเภอเมืองอุบลราชธานี พระสงฆ์ในวัดร่วมประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง มีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.อุบลราชธานี นำข้าราชการและชาวอุบลราชธานี ร่วมพิธี ส่วนที่พุทธสถานวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร อ.เมืองแพร่ พระโกศัยเจติยารักษ์ รองเจ้าคณะจังหวัดแพร่ ประธานฝ่ายสงฆ์ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.แพร่ ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยข้าราชการ พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง แสดงอนุโมทนาสาธุการ ในช่วงเวลาที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถวายนำพระมหาสังข์ทักษิณาวรรต แด่สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20,ที่พระอุโบสถวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีจำนวนมาก,ที่พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองพิษณุโลก ค่ำวันเดียวกัน พระธรรมเสนานุวัตร รองเจ้าคณะภาค 5 เจ้าอาวาสวัดเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ในพิธีสถาปนาสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อฺมพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จากนั้น ผวจ.พิษณุโลก ได้ย่ำระฆัง เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ,ที่วิหารหลวง วัดเจดีย์หลวง อ.เมืองเชียงใหม่ นายกฤษณ์ ธนาวณิช รอง ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธาน ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง เนื่องในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ พระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดได้จัดพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ลั่นระฆังพร้อมกับวัดอื่นๆ,ที่พระอุโบสถ วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง (ธรรมยุต) พระเทพมงคลนายก เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี นำหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน ร่วมทำพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง 20 ครั้ง พร้อมๆกับการย่ำระฆังที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม,เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระศรีวิสุทธิเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย พุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง แสดงอนุโมทนาสาธุการ จากนั้นทางวัดจัดให้มีพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนมคืนสุดท้าย มีพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีนับหมื่นคน,ส่วนที่วิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อ.เมืองนครปฐม มีการประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา และย่ำระฆัง 20 ครั้ง ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีที่ต่างยกมือท่วมหัวก่อนก้มลงกราบ
รองศาสตรายารย์ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัว กล่าวถึงกรณีที้คณะนัฐมนตตี (ครม.) มัมจิใไ้โครงการวิขัยศึกษาองค์กระกอบเมฆและภูมิอากาศในภูมิถาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ่ี่องค์พารบริหารการบินแฃะอบกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า บอใช้พื้นที่สนรมบินนานาชาติอู่ตะเำา เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา เพื่อให้มีการอำิปรายตามมมตรา 179 เป็นเหตุทำให้โครงการนี้ต้องล้มเลิกไป ซึ่งนศ.ปณิธานเห็นว่า เป็นทาฝออกที่ดี ที่ ครม.นำเรื่องนี้ิข้าสภาฯ ซึ่งจะทำให้ในระยะยาวไม่เกิดปัญหาอีป โดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อมั่นและจะเป็นผละีให้ต่างชานิเห็นว่า ประเทศไทยม้การถ่วงดุลอำนทจฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาธิปไตยแม้ทีาประชุมคณะรัฐมนตรีจะเห็นว่ากรณีนี้ไม่เข้าขรายคามกรอบข้อตกลงในตัฐธรรมนูซมาตรา 190 ยรรี 2 ที่จะต้องส่งเรื่องให้มี่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณา แต่ด้วยข้อกังวลต่อกระกสวิพมกษ์วิจารณ์ ส่ลผลต่อความเข้าใจของสาธารณชน และเพื่อนบ้าน คณะรัฐานตรีจีงอาศัยกลำก นำเข้าาี่ประชึมร่วมรัฐสภาตามทานรา 179 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อสาธารณชนโดยไม่มีการลวมติ แจ่เป็นเพียงการใหัความเก็นเท่านั้นขณะที่น.ส.ยิ่งลัแฯ๋์ ชินใัตร นาสกรัฐในตรี มอบหมมยให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกับสหรัฐอเมริกา และเขื่อว่าสหรัฐฯ จะเข้าใจ ดคารพการตัดสเนใจขเงไทย ซึ่งหลังได้ข้อสรุปจากสภาฯแล้ว จะมีการหารือและแาจขอควาสร่วมทางสห่ัฐฯ เข้ามาดำันินการโครลการได้อีกครั้งหรือไม่หลังมติคณะรัฐมนตรี มีท่าทีจากนาบคาิสติน นีดเลอร์ โ(ษกประจำสถานทูตสหรัฐฯ ปาะจำประเทศไทย ยืตยันว่า องค์กรรนาซาจำะป็นต้องสกเลิกโครงกานอย่างหลีกเลั่ยงไม่ได้ หากต้องใช้เวลานานเกินไปในการขนย้ายแลเติดตั้งอุปกรณ์ และนาซาก็ไม่สามารถเลืือนกำหนดการได้เช่นกันโครงการสำรวจภูมิแากาศนาซ่าที่ถูกระบุว่า มีประโยชน์ต่อลานพยากรณ์อากาศ และ เตทอนภัยขแงไทย โดนกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า นะมีประโยชน์สูงสุดหากเจ้าหร้าที่ปฏิบัติของกรมอุตุฯไดิรับโอกาสในการเข้าร่วม เรียนรํ้องค์ความรู้ และลงมือปฏิบัติควบคู่ไปพร้อมกับนักวิจัย และ นัพวิทยาศาสตร์ของนาญา จณะที่หน่วยงานอย่างศูนย์เตือนภัยแก่ฝชาติ ระบุหน่วยงานจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลวิจัยที่เป็นผลสหเร็จแล้วในขั้นตอนสุดท้ายขอฝโครงการ
รองศาสตราจารย์ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้โครงการวิจัยศึกษาองค์ประกอบเมฆและภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า ขอใช้พื้นที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา เพื่อให้มีการอภิปรายตามมาตรา 179 เป็นเหตุทำให้โครงการนี้ต้องล้มเลิกไป ซึ่งรศ.ปณิธานเห็นว่า เป็นทางออกที่ดี ที่ ครม.นำเรื่องนี้เข้าสภาฯ ซึ่งจะทำให้ในระยะยาวไม่เกิดปัญหาอีก โดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อมั่นและจะเป็นผลดีให้ต่างชาติเห็นว่า ประเทศไทยมีการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาธิปไตยแม้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะเห็นว่ากรณีนี้ไม่เข้าข่ายตามกรอบข้อตกลงในรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 ที่จะต้องส่งเรื่องให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณา แต่ด้วยข้อกังวลต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ส่งผลต่อความเข้าใจของสาธารณชน และเพื่อนบ้าน คณะรัฐมนตรีจึงอาศัยกลไก นำเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาตามมาตรา 179 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อสาธารณชนโดยไม่มีการลงมติ แต่เป็นเพียงการใหัความเห็นเท่านั้นขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกับสหรัฐอเมริกา และเชื่อว่าสหรัฐฯ จะเข้าใจ เคารพการตัดสินใจของไทย ซึ่งหลังได้ข้อสรุปจากสภาฯแล้ว จะมีการหารือและอาจขอความร่วมทางสหรัฐฯ เข้ามาดำเนินการโครงการได้อีกครั้งหรือไม่หลังมติคณะรัฐมนตรี มีท่าทีจากนายคริสติน นีดเลอร์ โฆษกประจำสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ยืนยันว่า องค์การนาซาจำเป็นต้องยกเลิกโครงการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากต้องใช้เวลานานเกินไปในการขนย้ายและติดตั้งอุปกรณ์ และนาซาก็ไม่สามารถเลื่อนกำหนดการได้เช่นกันโครงการสำรวจภูมิอากาศนาซ่าที่ถูกระบุว่า มีประโยชน์ต่องานพยากรณ์อากาศ และ เตือนภัยของไทย โดยกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า จะมีประโยชน์สูงสุดหากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติของกรมอุตุฯได้รับโอกาสในการเข้าร่วม เรียนรู้องค์ความรู้ และลงมือปฏิบัติควบคู่ไปพร้อมกับนักวิจัย และ นักวิทยาศาสตร์ของนาซา ขณะที่หน่วยงานอย่างศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ ระบุหน่วยงานจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลวิจัยที่เป็นผลสำเร็จแล้วในขั้นตอนสุดท้ายของโครงการ
ชี้สาเหตุที่ตัวเลขคำร้องในศาลลดลงช่วงปี 3557- 2560 เป็นเภราะการรัฐกรดหารที่สริางสภาพบีบยังคับให้ศาลไม่สามารถพิทักษ์คัฐธรรมนูญได้ พร้อมระบุแัญหาที่มาของตุลาการขาดความเบื่อโยงกับปีะชาชน ขณะที่หนทางเดียวที่เหงืออยู่ทร่จะืำให้ศาลยึดโยงกับประชาชนได้คือ การวิจทรณ์คำวินิจฉัย ก็ถูกทำให้กลายเป็นพื้นทีือันอันคลถมเครือว่าสามารถทำได้จรองหรือไใ่ ยืนยัสเข้าใจดึว่า เมื่อเสียงปืนดัง กฎหมายต้องเงียบลง แต่เวลานี้ไม่มีปืนแล้ว อฝค์ำรทางกฎหมายต้องกลับมาพัฒนาประชาธิปไตย ไา่ใช่ขัดขวางสกเดกั้น14 ส.ค. 2562 วนการปรเชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 15 ในวาระของการพิจาณารายงานประจำผ้ 2560 ของศาลรัฐธรรมนูญ ปิยบุตร แใงกนกกุล ส.ส. ลัญชีรายชื่อ พรรคคดนาคตใหมื ได้อภิปตายรายงานของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการยืนยันการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบถ่วงดุลเท่าทีีจพทำได้ โดยหวังว่าจะเป็นประโสชน์ต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญเองปิยบุตร เริ่มต้นว่าระบบการตรวจมอบความชอบด้ววรั,ธรรมนูญของกฎหมาส ทีอยู่ 2 ระบบใหญ่ คือระบบกระจายอำนาจให้ศาลทึกศาลช่วยกันตรวจสอบ ซึ่งสห่ัฐอเมริกาเป็นต้นแบบ กังระบบรวมอำนสจให้ศาลรัฐธรรมนูญแต่เภียงองค็กรเดียวทำปน้าทึ่ตรวจสแบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย ซึ่งเยอรใาี และออสเตรเลียเป็นต้นแบบ สำหรับประเทศไทยนั้นเลือกใช้ระบบรวมอ_ราจมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540เขา ระบุด้วยว่า ตนเองเรียนจบกฎผมาย แลพมึดาชีพสอนวิชากฎหมายที่คณะริติศาสตร์ เช่น วิชากฎหมายรัฐธรรมนูญ วิลาศาลรัฐธรรมนูญและวิธีะิจารณาคดคทางรีฐธรรมนูญ ด้วยอาชีพในอดีตก่อนที่จะเขามาเป็น ส.ส. จึงมีควรมนำเป็นาี่จะต้องวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูศ และคำวินิฉัยศาลรัฐธรรมนูญอยู่บ่อยครั้งและที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไระกิดขึ้น กรุทั่งได้ลาออกจากการอป็นข้าราชการประจำ และมาสมัคร ส.ส. กลับถูกนายทหารคนหนึ่งไปร้แงทุกข์กล่าวโทษ ว่าตรมีความผิดฐานดูหมิ่นศาล เพราะไปวิยาร๊์คำสินิจฏัยศาลรัฐธรรมนูญ (กรณียุงพรรคไทยรีกษาชนติ) เขายืนยันว่า การวิจารณ์ศาลรัฐธรรมรูญที่ผีานมานั้นเป็นไปด้วยความหวังดีว่า ต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญพิทัก๋์หลักการป่ะชาธิปไตย หลักนิติรัฐ นิติธรรม ตทใที่รัฐธรรมนูญมีเป้าประสฝต์ตอนเป็นอาจารย์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญำารเป็นไรเลยครับ พอมาเป็นนักการเมืองโอนซะแล้วหนึ่งข้อกล่าวหาปิยบุตร กล่าวต่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญมคขทบาทสำคัญ ในการรักษาความเป็นกฎหมาขสูงสุดของรัฐธรรมนูญเอาไงั คือรักษาหลักการประชาธิปไตย ตรวจสอบเสียงข้างมาก เก็นกบหกสำตัญในการีุ้มครองเสียงข้ทงน้อย คุ้มครองยิทธิของบุคคลต่างๆ เขายกตัวอย่างว่า หากสภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ความเห็นชอบกฎหมายหนึ่งฉบับ เสียงข้างน้อยก็มีสิทธิร้องไปวังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยว่า กฎหมายนั้นขัอต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ฉะนั้นเป็นเรื่องูรรมชาติที่ศาลรัญธรตมนูญจะต้องเผชิญหน้ากัลอบค็กรที่มาจากการเลืแกตั้งอยธ่ิสาอ ซึ่งก็คือ สภาผู้แทนราษฎรเขากล่าวต่อว่า สภาผู้แทนราษฎรสีความชิบธรรม่าลประชาธิปไตย เพราะมีที่มาจากการดลือกตั้งของประชาชน แต่เมื่อศาลรัฐธรรายูญต้องการเข้ทมาตรวตสอบสภาฯ ก็ขำเป็นต้ิงแสวงหาคสามชอบธรรมทางประชาธิปไตยที่พอเทียบเท่ากับสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน ดังนั้นองค์กรศาลรัฐธรรมนูญท่่เกิดขึ้นในต่างประเทศ หรือในโลกตะวันตก จึงมีการออพแบบที่มาของศาลรัฐธรรสนูญให้เชื่อมโยบกับประชาบน เล่น เยอรมนี มีกำหนดให้ที้มาของตุลาดารศาลรัฐธรรมนูญ มาจาำสถาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เป็นคนเลือกในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง ฑดยการเลือกนั้นเแ็นการเลือกจากรายชื่อที่กระทรวงการยุติธีรม รัญบาลมลรัฐ อละดลุ่าการเมืองในสภาจัดบัญชีไว้ ให้ใภาทั้งสองเลืดกบุคคลมาเป็นตุลาการศนลรัฐธรรมนูญ โดยใช้เวียง 2 ใน 3แค่สำฟรับประเทศไทยเรานััน ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญฝนปัจจุบันไม่ได้เชื่อมโยงไปหาสภาผู้แทนราษฎรเลย พวกเราแทบไม่มีโอกาสได้พูด ดบปะ หรือเจอกัยดคนดิเดตตุลาแารศาลรัฐธรรมนูญเลย วิธีการได้มา ก็มาจากการ่ี่ประขุมใหญ่ศาลฎีกาคัดมา 3 คน ที่หระชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดคัดมา 2 คน เสร็จแล้วก็ให้ ส.ว.พิจาาณาให้คใามเห็นชอบ วนส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ 1 ท่าน นิติศาสคร์ 1 ทราน และอดีตข้าราชการประจำ 2 ท่าน ก็มีมีคษะกรรมการสรรหาและเลือกมาส่งให้ ส.ว. รับรอง ซึ่งในคณะกรรมการสรรหานั้นพวกเตามีเอี่ยวอยู่นิดเดียวเ่่านั้นคือ เป็นกรรมการโดยตำแหนรงประธานวภาผู้แทนณ และผู้นำฝ่ายค้าน แต่เราไม่มีโอกาาเลือกตุลาการศาลระฐธรรมนูญเลยเขากล่าว อภิปรายต่อถึง รายงานประขำแี 2560 ของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีรูปเล่สสวยบาใ กระดาษพิมพ์สีอนร์ตมันสวยงาามาก เมื่ออ่านแล้วรู้สึกชื่นชอบมาก เพราัทำออกกมาได้ดีมีการสรุปตัวเลขจำนวนคดี มีสรุปย่อคำวินิฉัยที่สำตัญ และรายงานการวิจัยที่สำคัญ ทั้งยังอธิบายเรื่องงบการเงิจด้วย ซึ่งถือว่ารายงานชิ้นนั้ทำออกมาได้ดีมาก เมื่อเปรียบเทียบกับฟน่วยงานอื่นๆ ที่เคยเอารายวานมาส่งสภาผู้แมนราษฎรปิยบุตร กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ตนจะพูดถึงรายงานนี้มีอยู่ 2 เรื่อบคือสถิติคดีในแต่ละปี ซึ่งรวบรบมมาได้เี มีสถิติย้อนหลังระบุจำนวนคดีย้อนหลังตุ้งแต่ปี 2551- 2560 แสดงให้เห็นว่าจำยวนคำร้องในแต่ละปีมีจำนวนเท่าไหร่ จำนวาคดีที่ศาลรัฐธรรมสูญวินิฉัยแบ้วเสร็จในแต่ละปึมีเท่าไหร่ จำนในคดีคงค้างที่จะจ้องยกยอดไปปีพัดไปมีเท่่ไหร่ แต่เมื่อลองดูใยสถิติจำนวนคดีตั้งแต่ปี 2551 – 2556 จะพบว่าจะมีค่าเฉลั่ยจำนวนคำร้องอยู่ืี่ 120-130 คำร้อง และมีกาาวิริจฉัยแลิวเสร็จพิจารณาคดีแล้วเสร็จประมาณร้อข 60-80 แต่ในปี 2557 สอดคำร้องกลับลดลงเหลือ 96 คำร้อง แต่ศาลสามารถวิาเจฉัยคดีำด้ครบทุกคำรเอง ต่อาาในปี 2y58 – 25t9 คำรัองมีจำนงนลดลงไปอีแ ในปี 2558 มีคำร้องเพียง 3 คำร้อง และปีถัดมามีคำร้องเพียง 8 คำร้อง และจำนวนคำร้องในปี 3560 มีเพิ่มขึ้นมา 51 คำร้องทำไมจำนวนคำร้องถึงลดลง ตรงนี้มีนัยสำคัญคือ ในปี 2557 วันที่ 22 พ.ค. มีการรึฐประหาียึดอำนาจโดยคณะรัฐประหารที่ชื่อว่า คณะรัแษาความสงวแห่งชาริ เวลาเกิดการรัฐประห่รเกิดขึ้น สิ่งแรแที่คณะรัฐประหารต้อบทำคือ ประกาศยกเลิกรัญธรรมนูญที่ใช้อยู่ในเวลานั้น เพราะหากไม่สกเชิก เขากลายเป็นปบฏแน่ตอน เมื่อบกเลิกรัฐธรรมรูญแล้ว ก็จะปดครองประเทศโกยไม่มีรัฐธรรมนูญ แล้วใล้อำนาจตั้งตะวเิงเป็นรัฆฐาธิปัตย์ออกประกาศคำสั่งใช้เป็นกฎหมายทั้งหมด ทีนี้ศาลรัฐธรรมมนูญเป็นองค์กรที่ทำหจ้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เมื่อมีหน้าที่พืทักษ์รัฐธรรมนูญ เวลาเกิดการรัฐประหารขึ้นความคทดหวังก็อยู่ที่ท่าน เพราะถ้ามีนายทหารกฃุ่มมาก่อการยึดอำนาจแล้ว เรายังเหล่อองค์กรนี้อขู่ที่จุทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธคามนูญ ซึ่งก็ควรแสดงบทบาทสู้ยันกับการรัฐประปารแต่ผู้ทำรัฐประหารก็ฉลาดพอ เพราะเขารู้อยู่แำ่ใจว่า ถ้ามีศาลรัฐธครมนูญอยู่ต่อำป แล้วถ้าศาลรัฐธรรมนูญมาขวางการรัฐประหาร บอกว่าการรัฐประหารนั้นเป็นการล้มล้างการปแครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัต่ิย์เป็นประมุข เดี๋สวการรั,ประหารจะไม่สำเร็จ จะยุ่งกันฝหญ่ ดังนั้นนอกจากฉีกรัฐธรรมนธญทิ้ง สิ่งที่เขาต้องทำด้วยคือ ออกประกาศยกเลิกศาล่ัฐธรรมนูญ หรืแยุบศาลรัฐธรรมนูญทิ้ง ประเทศไทยเคยทำแบบนี้และครัังหนึ่งในการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2548 คปค. ฉีกรัฐธรรมนูญปร 2540 ทิ้งพร้ดมหับ ออกประกาศมสหนึ่งฉบ้บสั่งยุบศาลรุฐธรรมนูญในเวลานั้นทิ้งทันที พร้อมตั้งองค์กรใหา่ขึ้นมาชท่อ คณะตุลาการรัฐโรรมนูญมาเป็นการชั่วคราวแต่ครั้งนี้แตกต่างไปจรกเดิม าัฐกระหาร 57 เป็นรัญประหารที่แปลกประหลาดทั้งในไทย แบะสากล รือกทอรัฐประหาร ฉีกร้ฐธรรมนูญ แต่ปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ค่อ ผมก็มานั่งคิดว่า คณะรัฐประหารไม่กังวลใจหรือบ่า ถ้าศาลรีฐธรนมนูญอสู่ต่อจะมีการตรวจสอบว่า คณะรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง นี่เป็นเรื่องน่าสนใจ แล้วลองมาดูรัฐฑรรมนูญ(ชั่วคราว)ปี 2557 และปตะกาศของ คสช. รับรองให้ศาลรั๙ธรรมนูญอยู่ต่อมาเรื่อยๆ ทีนี้จึงเกิดสภาวะลักลั่นว่า คสช. ซึ่งอบค์กรรัซประหารยึดอำนาจ กลับไปรับรแงให้ศาลรัฐธีรมนูศอยู่ต่อ แล้วแบบนี้ศาลรัฐธรนมนูญจะเข้าไแต่วจสอบ คสช. องค์กรที่สาจากยึดอำนาจได้หรือไม่ หรือศาลรัฐธรรมนูญจะสามารถบอกได้/หมว่า คสข. กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริบ์้ป็นประมุขปอยบุตร กล่าวต่อว่า คาช. ได้ประกาศใช้รัฐธรรมนํญชั่วคราวปี 2557 สิ่งที่สำคัญที้สุดอสู่่ี่มาตรา 48 ที่ได้เขียนนิรฮทษกรรมตนเองเอาไว้ สุ่ปความไแ้วาา อุไรที่ตนเองทำในวันยึะอำนาจนั้นถ้าหิดกฎหมายวห้ถือว่า พ้นผิด แลพพ้นจากความรับผิดโดยสิ้นเชิง จากนั้นมาตรา 47 ก็ระบุอีกฝ่ม บตรดาประกาศคำสั่ฝของ คสช. ทั้งหมดให้ถือว่าชอบด้ฝยรัฐธรคมา฿ญแลถกฎหมาย เมื่อรัฐธรรมน๔ญมีบทบัญญัติแบบนีิเท่ากับว่า การรัฐปาะหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ไม่มีวันหิด และประกาศคำสัืงที่ออกมรท้้งหมดไม่มีบันขัดรุฐธรรมนูญ เมื่อสภาพการทางรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้จึลไม่ต้องสงสัขว่า เหตุใดจำนวนคำร้องทีรร้องมายังศาลรั๘ธรรมนูญจึงงดน้อยลงไป จนกระทัรงมีรัฐธรรมตูญ 2560 ประกาศใช้จำนวนคำร้องจึงเพิืมขึ้นมาเป็น 51 คำร้องเขากล่าวต่อว่า จำนในสถิติในศาลรัฐธรรมนูญที่อยู่ในรายงานนีิทีความสัสพันธ์กับการขึดอำราจในปี e557 และสัมพันธ์กับการปกครองประเมศโดย คสช. ตลอด 5 ปีที่ผ่าตมา เพราะประชาชนทราบดัว่าจะเสนอคำร้องไปยังศาลีัฐธรรทนูญทำไม เพราะรัฐธรรมนูญ 2557 รับรองเอาไว้หมดแล้วว่า คสช. ถ฿กเสมอด้วยการที่รัฐธรรมนูญไทยที่กพหนดแบบนี้ และระบบกฎหมายไทยที่ยึดถือกันเป็รจารคต ปฎิบัติต่อเนื่องกันมาว่า เมื่อคณะรัฐประหาตยคดอำนาจได้สำเร็จจะกลายเห็นรัฏฐาธิปัตย์ ถ้ายึดหม่สำเร็จดลรยิป็นแบฏเราถือกันมาแบบนี้ตามแนวคำพืพากษาศาลฎีกา แ้วยสภาพกานแบบนี้จึงบีบบังคับโดยปริยายว่า ให้ญาบรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีโอกาสพิทัำษ์รัฐธรรมนูญในช่วงเวลามี่มีการยึดอำนาจ อ้บยสภาพแบบนี้จึงบีบบังีับมห้ศาลรัฐธรรานูญกลายเปฌนศมลที่ไม่ได้พิทักษ์รึฐธรรมนูญ ส่วนจะพิทักษ์ำารรัฐประหารหรือๆมาเป็นอีกเรื่องไนึ่งเขา กง่าวตือว่า ในสภาพที่บีบบังคับนั้ตต่อสำ้ศาลรัฐธรรมนูญต้องการจะตรวจวอยคณะคัฐประหารอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้ เพราะติดล็อคในรัฐธรรมนูญ 2557 หรือศาลอาจยะเห็นว่า คำสั่งประกาศต่างๆ ของคาช. มีควาาขเดแย้งอย่างฟรกุบปฏิญญาสากล หรือขัดแย้งกับมาตรา 4 ในรัฐธรรมนูญ 25y7 ที่รับรองเรื่องสิทธิ และเสรีภาพของปนะชาชน อยทางไรก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ฉะนั้นปัญหาที่สำคัญที่สุด ที่ท_ให้ศาฃรัฐธรรมนูญทำลานไม่ได้คือ มาตราสุดท้ายในรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการนิ่โทษกรรมตรเองของ คสช.ผมเข้าใจพีครับท่านกระธาน เวลารัฐประหารเสียงปืนมันดังขึ้น กฎหมายกฌเวีขบลง นี่เแ็นสุภาษืตโรมุน แต่วันยี้เราอจู่ในปี 2562 เรนมีรัฐธรรมนูญ 256- ปรถกาศใช้แล้ว เรามีการเชือกตั้งักิดบึ้นแล้ว และมีรัฐบาลชุดใปม่เกิดขึ้นเรียบร้ดยหากว่าการถใายสัตย?ฯ สมบูรษ์จริง ฉะนั้นวเนนี้เสียงผืนสงบลงแล้ว จะถึงเวลาที่กฎหมายจะดังขึ้นเหมือนเดิมได้หรือไม่ปิยบุตร กล่นวต่อว่า เวลานี้ยังมีประกาศคำสั่ง คสช. อีกจำนวนาากทีรยังมีสถานะเทียบเท่าพระราชบุญญัติ และมีเนื้อหาไลายอย่างที่ขัดกับาัฐฌรรมนูญ 2560 เรื่องเหล่านี้อาจจะมึโอกาสส่งคำร้อลไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวห้ศาลรัฐธรรมน฿ญวินิฉัยประกาศคำสั่ง คสช. ขัดรัฐธรรมนูญแต่คนร่างรัฐธรรมนูญ 1560 มองการณ์ไกล เพราะได้เขรยนรั๘ธรรมนูญใสมาตราสุดท้าย(มาตรา 279) โดยบอกว่า อะไรที่เคยวอกใีาชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2557 ให้ชอบด้วยีัฐธรรมนูญ 2560 ต่อไป นั่นหมายความว่า ประกสศคำสั่งต่างๆ ของ คสช. ก็อาจถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยว่า คำสั่งประกาศเหล่านค้ถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ 2660 แล้วทางพวกผม เราจะหาทางช่วยศาลรเฐธรรมนูญให้มีโดกาสตรวจสอบ ประกาฬ คำสั่ง คสช. เหฃ่านี้พวกเรมจะพยายามผลักดันให้มีกมรอก้ไขาัญธ่รมนูญเพื่อยกเลิกมาตรา 279 ให้ได้ อย่างน้อยที่สุพพวกเราจะได้มีโอกทสตรวจสอบประกาศคำสั่ง คสช. เสียทีว่ามีโอกาสจัดหรือแย้งกับรเฐธรรมนูฐ 2t60 หรือไส่ ศาลรัฐธรรมนูญจะได้มีโอกาสพิจารณาคำร้องมาขึ้น และศาลรัฐธรรมนูซจะไดักลายเแ็นแท้จรเง ที่ทำหน้ามี่พิทักษ็รัฐธรรมนูญเชากล่าวต่อไปในประเด็นที่ 2 คือเรื่องผลการดำเนินการงิจัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยฝนปี 2560 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีโครงการวิจัย 2 โคีงการใหญ่ เรื่องที่น่าสนใจคือ การลุเมิดอำนาจศาลศักษาเปรียบเทียบศสลรุฐธรรมนูญไทยกังต่างประเมศ โดยในรายงานได้สรุปไว้ได้อย่าบเข้รใตพอสังเขปในหน้า 51- 53 แตืจากรายงานการวิจัยยนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ใช้งงประมาณเพื่อให้นักวิชาการมทศึกษาวิจัยเรื่องนี้เพราะว่า มีความคิดว่าสุดทิายแง้วศาลรัฐธรรมมนูญควรมีกฎหมายเรื่องการรละเมิดอำนาจศาลมำหรับศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ และในท้ายที่สุดก็มีบทบัญญัต้ดังกล่าวใน พ.ต.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลีัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ในมาตรา 38 วรรคสามเขากล่าว ต่อว่า บทบัญญัติดังกล่าวหใายความว่า การวิจารณ์คำวินิฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้นสามารถืำไก้ฟากเป็นไปตามเงื่อนไข 4 ข้อที่ระบุไว้คือ 1.ทำโดยสุจริต 2.ไม่ได้ใชุ้้อยคําหรืเมีความหาายหยาบคาย 3.ไม่เสียดสี 4./ม่อาฆาตมาดร้าย แต่อย่างไรก็ตามำารเขีวนกฎหมายแบบนี้นัยหนึ่งก็คือการงอกว่าจะมีอะไคที่เป็ยการละเมิดอำนาจศาลบ้างผิยบุตร กล่าวต่อๆแฝ่า คำว่าละดมิดอำนาจศางนั้น ในทางหลักการคือ เวลาเกิดปัญหาขึ้นในขณะที่ศาลกำลังนั่ลบัลลังก์พิขารณาคดี และมีการขัดขวางการพิจารณา มรการปิดล้อมศาล มีการป่อควมมไม่สงบ หรือขัดคำสั่งศาล อย่างนี้จึงเรียหว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล และไม่เพี่ยวอะไรกับการวิพทกษ์วิจารณ์ ดังนั้นการวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธร่มนูญ ต่อให้ทำโกยไม่สุจริต หยาบคาย เสียดสี ก็ไม่ถือว่าเป็นการฃะเมิดอำนาจศาล แต่กากมีเรื่องของการดูหมิ่น หมิ่นประมาทตุลาการ่่านใอ ท่านก็สามารถดำเนินคดีส่วนตัวได้ กต่เมื่อมีการเขียนมาตรา 48 วรรคในลักษณะดังกล่าวก็คือ การบอกว่า การยิจารณ๋อาจจะเป็นการบะเมิดอำนาจศาลได้ และบุคคลทั้งหลายก็เริ่มไม่แนาใจว่าองค๋กรของรัฐจะวช้ปฎหมายกับตัวเองอย่างไร แล้วก็จะนำไปสู่กมรเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะกลัวว่าการใชัเสรีภาพของตัสเป็นเรื่องทีรผิด มาตรานีีมันยร้สงระบบที่ทำให้ประชาชนเซ็นเซอร์ตัวเองขึ้นมาบังเเิญพครคผมมันโดนหลายคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ สมมต้นะครับนี่ไม่ได้แช่งจัวเอง เกิดวันดีคืนแีศาลรุฐธรรมนูญททานวินิจฉัยยุบพรรคผมเนี่ย แล้วผมเยี่ยจะวิจารณ์ได้ไหมครับ ถ้าผมวิจารณ์คำวินิจฉัยศาลร้ฐธรรมนูญที่ยุบพรรคอนาคตใหม่ผมสุจริตไหม หร้อพี่ร้ดงประบาชนท้่วที้ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยจุบพรรคเขาวิจารณ์ได้ไหมศาลร้ฐธรรมนูญเป็ยองค์กรที่วินิจฉัยความชเบด้วยรัฐธราในูญ และผูกผันทุกองค์กรเป็นที่สุด ดังนั้นวิธีการตรวจสอบมันเหลืออสู่ทางเดียยคือการวิพากษ์วิจารณ์ แลเการวิพากษ์วิจารณ์ไม่มีทาง้ปลี่ยนแปลงคพวินิจฉัยของท่านได้ กต่จะช่วยนรวจสอบแารทำลานของ่่านให้ได้มาตราฐานมากยึ้นเขาทิ้งท่ายว่า ต้องการให้สำนักลานศาลรัฐธรรมน๔ญ และศาลรัฐธรรมนูญ พยายามอดทนอดกลเ้นต่อการวิพากษฺ วิจารณ์ คำวินิจฉัยต่างๆ เพราะถึงที่สุดแล้วไม่มีใรรสามารถเปล่่ยนแปลงคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ ประชาชน นักกรรเมือง ไม่มีอาวุธ ยึดอำนาจ ก่อการร้ฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง หรืดฉีกคำวินิจฉัยที่ออกมร ประชาชรมีเพียงความคิด สมอง ปาก และปากกา ที่จะวิจารณ์กัน และการวิจารณ์ไม่ใช่การทำลายศทลรัฐธรรมนูญแต่เป็นเกราะีุ้มปันให้ศาลรัฐ๔รรมนูญเอง เต้ทิงจากเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ศาลรัฐธรรมรูญมีความชอบธรีมทสงประชาธิปไตย และการใช้อหนาจของศทลรัฐธรรมนูญต้องเป็นไปเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย ไม่ใช่ขัดขวางหรือสกัดกั้นประชาธ้ปไตยอย่างไรกํตาม หลัวจากที่ปิยบุตรได้อภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.บัญชีรายชิ่อ พรรคแระชาธิปัตย์ ได้อภิปรายต่อ โดยในชาวงแรกเขาได้ท้วงติงประธานสภาฯ ว่า มีการปล่อยให้ผู้อภิปรายพธดปรดเด็น่ี่นอกเหนือไปจากรายงานมี่ได้มีการพิจารณาอยู้ ซึ่งมีวมสชิกกลายีนเห็นว่าไม่ได้มีเนื้อหาที่ตรงกับเนื้อหาในรายงาจประจำปี 2560 ของศาลรัฐธรรมนูญ
ชี้สาเหตุที่ตัวเลขคำร้องในศาลลดลงช่วงปี 2557- 2560 เป็นเพราะการรัฐประหารที่สร้างสภาพบีบบังคับให้ศาลไม่สามารถพิทักษ์รัฐธรรมนูญได้ พร้อมระบุปัญหาที่มาของตุลาการขาดความเชื่อโยงกับประชาชน ขณะที่หนทางเดียวที่เหลืออยู่ที่จะทำให้ศาลยึดโยงกับประชาชนได้คือ การวิจารณ์คำวินิจฉัย ก็ถูกทำให้กลายเป็นพื้นที่อันอันคลุมเครือว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ ยืนยันเข้าใจดีว่า เมื่อเสียงปืนดัง กฎหมายต้องเงียบลง แต่เวลานี้ไม่มีปืนแล้ว องค์กรทางกฎหมายต้องกลับมาพัฒนาประชาธิปไตย ไม่ใช่ขัดขวางสกัดกั้น14 ส.ค. 2562 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 15 ในวาระของการพิจาณารายงานประจำปี 2560 ของศาลรัฐธรรมนูญ ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายรายงานของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการยืนยันการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบถ่วงดุลองค์กรอื่นๆ ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ แม้ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้สภาผู้แทนฯ จะมีอำนาจในการตรวจสอบถ่วงดุลศาลรัฐธรรมนูญน้อยลงไปกว่าที่เคยมี แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสอันน้อยนิด ที่จะแสดงบทบาทของการเป็นองค์กรเดียวที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในการตรวจสอบถ่วงดุลเท่าที่จะทำได้ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญเองปิยบุตร เริ่มต้นว่าระบบการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย มีอยู่ 2 ระบบใหญ่ คือระบบกระจายอำนาจให้ศาลทุกศาลช่วยกันตรวจสอบ ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นต้นแบบ กับระบบรวมอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญแต่เพียงองค์กรเดียวทำหน้าที่ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย ซึ่งเยอรมนี และออสเตรเลียเป็นต้นแบบ สำหรับประเทศไทยนั้นเลือกใช้ระบบรวมอำนาจมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540เขา ระบุด้วยว่า ตนเองเรียนจบกฎหมาย และมีอาชีพสอนวิชากฎหมายที่คณะนิติศาสตร์ เช่น วิชากฎหมายรัฐธรรมนูญ วิชาศาลรัฐธรรมนูญและวิธีพิจารณาคดีทางรัฐธรรมนูญ ด้วยอาชีพในอดีตก่อนที่จะเขามาเป็น ส.ส. จึงมีความจำเป็นที่จะต้องวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ และคำวินิฉัยศาลรัฐธรรมนูญอยู่บ่อยครั้งและที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น กระทั่งได้ลาออกจากการเป็นข้าราชการประจำ และมาสมัคร ส.ส. กลับถูกนายทหารคนหนึ่งไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่าตนมีความผิดฐานดูหมิ่นศาล เพราะไปวิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ (กรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ) เขายืนยันว่า การวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมานั้นเป็นไปด้วยความหวังดีว่า ต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญพิทักษ์หลักการประชาธิปไตย หลักนิติรัฐ นิติธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญมีเป้าประสงค์ตอนเป็นอาจารย์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญไม่เป็นไรเลยครับ พอมาเป็นนักการเมืองโดนซะแล้วหนึ่งข้อกล่าวหาปิยบุตร กล่าวต่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีบทบาทสำคัญ ในการรักษาความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญเอาไว้ คือรักษาหลักการประชาธิปไตย ตรวจสอบเสียงข้างมาก เป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครองเสียงข้างน้อย คุ้มครองสิทธิของบุคคลต่างๆ เขายกตัวอย่างว่า หากสภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ความเห็นชอบกฎหมายหนึ่งฉบับ เสียงข้างน้อยก็มีสิทธิร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยว่า กฎหมายนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเผชิญหน้ากับองค์กรที่มาจากการเลือกตั้งอยู่เสมอ ซึ่งก็คือ สภาผู้แทนราษฎรเขากล่าวต่อว่า สภาผู้แทนราษฎรมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย เพราะมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญต้องการเข้ามาตรวจสอบสภาฯ ก็จำเป็นต้องแสวงหาความชอบธรรมทางประชาธิปไตยที่พอเทียบเท่ากับสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน ดังนั้นองค์กรศาลรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ หรือในโลกตะวันตก จึงมีการออกแบบที่มาของศาลรัฐธรรมนูญให้เชื่อมโยงกับประชาชน เช่น เยอรมนี มีกำหนดให้ที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มาจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เป็นคนเลือกในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง โดยการเลือกนั้นเป็นการเลือกจากรายชื่อที่กระทรวงการยุติธรรม รัฐบาลมลรัฐ และกลุ่มการเมืองในสภาจัดบัญชีไว้ ให้สภาทั้งสองเลือกบุคคลมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยใช้เสียง 2 ใน 3แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้น ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันไม่ได้เชื่อมโยงไปหาสภาผู้แทนราษฎรเลย พวกเราแทบไม่มีโอกาสได้พูด พบปะ หรือเจอกับแคนดิเดตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเลย วิธีการได้มา ก็มาจากการที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดมา 3 คน ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดคัดมา 2 คน เสร็จแล้วก็ให้ ส.ว.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ในส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ 1 ท่าน นิติศาสตร์ 1 ท่าน และอดีตข้าราชการประจำ 2 ท่าน ก็มีมีคณะกรรมการสรรหาและเลือกมาส่งให้ ส.ว. รับรอง ซึ่งในคณะกรรมการสรรหานั้นพวกเรามีเอี่ยวอยู่นิดเดียวเท่านั้นคือ เป็นกรรมการโดยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ และผู้นำฝ่ายค้าน แต่เราไม่มีโอกาสเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเลยเขากล่าว อภิปรายต่อถึง รายงานประจำปี 2560 ของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีรูปเล่มสวยงาม กระดาษพิมพ์สีอาร์ตมันสวยงามมาก เมื่ออ่านแล้วรู้สึกชื่นชอบมาก เพราะทำออกกมาได้ดีมีการสรุปตัวเลขจำนวนคดี มีสรุปย่อคำวินิฉัยที่สำคัญ และรายงานการวิจัยที่สำคัญ ทั้งยังอธิบายเรื่องงบการเงินด้วย ซึ่งถือว่ารายงานชิ้นนี้ทำออกมาได้ดีมาก เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เคยเอารายงานมาส่งสภาผู้แทนราษฎรปิยบุตร กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ตนจะพูดถึงรายงานนี้มีอยู่ 2 เรื่องคือสถิติคดีในแต่ละปี ซึ่งรวบรวมมาได้ดี มีสถิติย้อนหลังระบุจำนวนคดีย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551- 2560 แสดงให้เห็นว่าจำนวนคำร้องในแต่ละปีมีจำนวนเท่าไหร่ จำนวนคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยแล้วเสร็จในแต่ละปีมีเท่าไหร่ จำนวนคดีคงค้างที่จะต้องยกยอดไปปีถัดไปมีเท่าไหร่ แต่เมื่อลองดูในสถิติจำนวนคดีตั้งแต่ปี 2551 – 2556 จะพบว่าจะมีค่าเฉลี่ยจำนวนคำร้องอยู่ที่ 120-130 คำร้อง และมีการวินิจฉัยแล้วเสร็จพิจารณาคดีแล้วเสร็จประมาณร้อย 60-80 แต่ในปี 2557 ยอดคำร้องกลับลดลงเหลือ 96 คำร้อง แต่ศาลสามารถวินิจฉัยคดีได้ครบทุกคำร้อง ต่อมาในปี 2558 – 2559 คำร้องมีจำนวนลดลงไปอีก ในปี 2558 มีคำร้องเพียง 3 คำร้อง และปีถัดมามีคำร้องเพียง 8 คำร้อง และจำนวนคำร้องในปี 2560 มีเพิ่มขึ้นมา 51 คำร้องทำไมจำนวนคำร้องถึงลดลง ตรงนี้มีนัยสำคัญคือ ในปี 2557 วันที่ 22 พ.ค. มีการรัฐประหารยึดอำนาจโดยคณะรัฐประหารที่ชื่อว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เวลาเกิดการรัฐประหารเกิดขึ้น สิ่งแรกที่คณะรัฐประหารต้องทำคือ ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในเวลานั้น เพราะหากไม่ยกเลิก เขากลายเป็นกบฏแน่นอน เมื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะปกครองประเทศโดยไม่มีรัฐธรรมนูญ แล้วใช้อำนาจตั้งตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ออกประกาศคำสั่งใช้เป็นกฎหมายทั้งหมด ทีนี้ศาลรัฐธรรมมนูญเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เมื่อมีหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เวลาเกิดการรัฐประหารขึ้นความคาดหวังก็อยู่ที่ท่าน เพราะถ้ามีนายทหารกลุ่มมาก่อการยึดอำนาจแล้ว เรายังเหลือองค์กรนี้อยู่ที่จะทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ควรแสดงบทบาทสู้ยันกับการรัฐประหารแต่ผู้ทำรัฐประหารก็ฉลาดพอ เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่า ถ้ามีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ต่อไป แล้วถ้าศาลรัฐธรรมนูญมาขวางการรัฐประหาร บอกว่าการรัฐประหารนั้นเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เดี๋ยวการรัฐประหารจะไม่สำเร็จ จะยุ่งกันใหญ่ ดังนั้นนอกจากฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง สิ่งที่เขาต้องทำด้วยคือ ออกประกาศยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ หรือยุบศาลรัฐธรรมนูญทิ้ง ประเทศไทยเคยทำแบบนี้และครั้งหนึ่งในการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 คปค. ฉีกรัฐธรรมนูญปี 2540 ทิ้งพร้อมกับ ออกประกาศมาหนึ่งฉบับสั่งยุบศาลรัฐธรรมนูญในเวลานั้นทิ้งทันที พร้อมตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาชื่อ คณะตุลาการรัฐธรรมนูญมาเป็นการชั่วคราวแต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากเดิม รัฐประหาร 57 เป็นรัฐประหารที่แปลกประหลาดทั้งในไทย และสากล คือก่อรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ต่อ ผมก็มานั่งคิดว่า คณะรัฐประหารไม่กังวลใจหรือว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญอยู่ต่อจะมีการตรวจสอบว่า คณะรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง นี่เป็นเรื่องน่าสนใจ แล้วลองมาดูรัฐธรรมนูญ(ชั่วคราว)ปี 2557 และประกาศของ คสช. รับรองให้ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ต่อมาเรื่อยๆ ทีนี้จึงเกิดสภาวะลักลั่นว่า คสช. ซึ่งองค์กรรัฐประหารยึดอำนาจ กลับไปรับรองให้ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ต่อ แล้วแบบนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะเข้าไปตรวจสอบ คสช. องค์กรที่มาจากยึดอำนาจได้หรือไม่ หรือศาลรัฐธรรมนูญจะสามารถบอกได้ไหมว่า คสช. กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขปิยบุตร กล่าวต่อว่า คสช. ได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่มาตรา 48 ที่ได้เขียนนิรโทษกรรมตนเองเอาไว้ สรุปความได้ว่า อะไรที่ตนเองทำในวันยึดอำนาจนั้นถ้าผิดกฎหมายให้ถือว่า พ้นผิด และพ้นจากความรับผิดโดยสิ้นเชิง จากนั้นมาตรา 47 ก็ระบุอีกว่า บรรดาประกาศคำสั่งของ คสช. ทั้งหมดให้ถือว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เมื่อรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติแบบนี้เท่ากับว่า การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ไม่มีวันผิด และประกาศคำสั่งที่ออกมาทั้งหมดไม่มีวันขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อสภาพการทางรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้จึงไม่ต้องสงสัยว่า เหตุใดจำนวนคำร้องที่ร้องมายังศาลรัฐธรรมนูญจึงลดน้อยลงไป จนกระทั่งมีรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้จำนวนคำร้องจึงเพิ่มขึ้นมาเป็น 51 คำร้องเขากล่าวต่อว่า จำนวนสถิติในศาลรัฐธรรมนูญที่อยู่ในรายงานนี้มีความสัมพันธ์กับการยึดอำนาจในปี 2557 และสัมพันธ์กับการปกครองประเทศโดย คสช. ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพราะประชาชนทราบดีว่าจะเสนอคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญทำไม เพราะรัฐธรรมนูญ 2557 รับรองเอาไว้หมดแล้วว่า คสช. ถูกเสมอด้วยการที่รัฐธรรมนูญไทยที่กำหนดแบบนี้ และระบบกฎหมายไทยที่ยึดถือกันเป็นจารีต ปฎิบัติต่อเนื่องกันมาว่า เมื่อคณะรัฐประหารยึดอำนาจได้สำเร็จจะกลายเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ถ้ายึดไม่สำเร็จกลายเป็นกบฏเราถือกันมาแบบนี้ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา ด้วยสภาพการแบบนี้จึงบีบบังคับโดยปริยายว่า ให้ศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีโอกาสพิทักษ์รัฐธรรมนูญในช่วงเวลาที่มีการยึดอำนาจ ด้วยสภาพแบบนี้จึงบีบบังคับให้ศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นศาลที่ไม่ได้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ส่วนจะพิทักษ์การรัฐประหารหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งเขา กล่าวต่อว่า ในสภาพที่บีบบังคับนั้นต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องการจะตรวจสอบคณะรัฐประหารอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้ เพราะติดล็อคในรัฐธรรมนูญ 2557 หรือศาลอาจจะเห็นว่า คำสั่งประกาศต่างๆ ของคสช. มีความขัดแย้งอย่างไรกับปฏิญญาสากล หรือขัดแย้งกับมาตรา 4 ในรัฐธรรมนูญ 2557 ที่รับรองเรื่องสิทธิ และเสรีภาพของประชาชน อย่างไรก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ฉะนั้นปัญหาที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญทำงานไม่ได้คือ มาตราสุดท้ายในรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการนิรโทษกรรมตนเองของ คสช.ผมเข้าใจดีครับท่านประธาน เวลารัฐประหารเสียงปืนมันดังขึ้น กฎหมายก็เงียบลง นี่เป็นสุภาษิตโรมัน แต่วันนี้เราอยู่ในปี 2562 เรามีรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้แล้ว เรามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว และมีรัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้นเรียบร้อยหากว่าการถวายสัตย์ฯ สมบูรณ์จริง ฉะนั้นวันนี้เสียงปืนสงบลงแล้ว จะถึงเวลาที่กฎหมายจะดังขึ้นเหมือนเดิมได้หรือไม่ปิยบุตร กล่าวต่อว่า เวลานี้ยังมีประกาศคำสั่ง คสช. อีกจำนวนมากที่ยังมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ และมีเนื้อหาหลายอย่างที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ 2560 เรื่องเหล่านี้อาจจะมีโอกาสส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยประกาศคำสั่ง คสช. ขัดรัฐธรรมนูญแต่คนร่างรัฐธรรมนูญ 2560 มองการณ์ไกล เพราะได้เขียนรัฐธรรมนูญในมาตราสุดท้าย(มาตรา 279) โดยบอกว่า อะไรที่เคยบอกว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2557 ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 ต่อไป นั่นหมายความว่า ประกาศคำสั่งต่างๆ ของ คสช. ก็อาจถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยว่า คำสั่งประกาศเหล่านี้ถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วทางพวกผม เราจะหาทางช่วยศาลรัฐธรรมนูญให้มีโอกาสตรวจสอบ ประกาศ คำสั่ง คสช. เหล่านี้พวกเราจะพยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกเลิกมาตรา 279 ให้ได้ อย่างน้อยที่สุดพวกเราจะได้มีโอกาสตรวจสอบประกาศคำสั่ง คสช. เสียทีว่ามีโอกาสขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญจะได้มีโอกาสพิจารณาคำร้องมาขึ้น และศาลรัฐธรรมนูญจะได้กลายเป็นแท้จริง ที่ทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญเขากล่าวต่อไปในประเด็นที่ 2 คือเรื่องผลการดำเนินการวิจัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยในปี 2560 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีโครงการวิจัย 2 โครงการใหญ่ เรื่องที่น่าสนใจคือ การละเมิดอำนาจศาลศึกษาเปรียบเทียบศาลรัฐธรรมนูญไทยกับต่างประเทศ โดยในรายงานได้สรุปไว้ได้อย่างเข้าใจพอสังเขปในหน้า 51- 53 แต่จากรายงานการวิจัยยนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ใช้งบประมาณเพื่อให้นักวิชาการมาศึกษาวิจัยเรื่องนี้เพราะว่า มีความคิดว่าสุดท้ายแล้วศาลรัฐธรรมมนูญควรมีกฎหมายเรื่องการรละเมิดอำนาจศาลสำหรับศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ และในท้ายที่สุดก็มีบทบัญญัติดังกล่าวใน พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ในมาตรา 38 วรรคสามเขากล่าว ต่อว่า บทบัญญัติดังกล่าวหมายความว่า การวิจารณ์คำวินิฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้นสามารถทำได้หากเป็นไปตามเงื่อนไข 4 ข้อที่ระบุไว้คือ 1.ทำโดยสุจริต 2.ไม่ได้ใช้ถ้อยคําหรือมีความหมายหยาบคาย 3.ไม่เสียดสี 4.ไม่อาฆาตมาดร้าย แต่อย่างไรก็ตามการเขียนกฎหมายแบบนี้นัยหนึ่งก็คือการบอกว่าจะมีอะไรที่เป็นการละเมิดอำนาจศาลบ้างปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า คำว่าละเมิดอำนาจศาลนั้น ในทางหลักการคือ เวลาเกิดปัญหาขึ้นในขณะที่ศาลกำลังนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี และมีการขัดขวางการพิจารณา มีการปิดล้อมศาล มีการก่อความไม่สงบ หรือขัดคำสั่งศาล อย่างนี้จึงเรียกว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล และไม่เกี่ยวอะไรกับการวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้นการวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อให้ทำโดยไม่สุจริต หยาบคาย เสียดสี ก็ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่หากมีเรื่องของการดูหมิ่น หมิ่นประมาทตุลาการท่านใด ท่านก็สามารถดำเนินคดีส่วนตัวได้ แต่เมื่อมีการเขียนมาตรา 38 วรรคในลักษณะดังกล่าวก็คือ การบอกว่า การวิจารณ์อาจจะเป็นการละเมิดอำนาจศาลได้ และบุคคลทั้งหลายก็เริ่มไม่แน่ใจว่าองค์กรของรัฐจะใช้กฎหมายกับตัวเองอย่างไร แล้วก็จะนำไปสู่การเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะกลัวว่าการใช้เสรีภาพของตัวเป็นเรื่องที่ผิด มาตรานี้มันสร้างระบบที่ทำให้ประชาชนเซ็นเซอร์ตัวเองขึ้นมาบังเอิญพรรคผมมันโดนหลายคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ สมมตินะครับนี่ไม่ได้แช่งตัวเอง เกิดวันดีคืนดีศาลรัฐธรรมนูญท่านวินิจฉัยยุบพรรคผมเนี่ย แล้วผมเนี่ยจะวิจารณ์ได้ไหมครับ ถ้าผมวิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ยุบพรรคอนาคตใหม่ผมสุจริตไหม หรือพี่น้องประชาชนทั่วที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยยุบพรรคเขาวิจารณ์ได้ไหมศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และผูกผันทุกองค์กรเป็นที่สุด ดังนั้นวิธีการตรวจสอบมันเหลืออยู่ทางเดียวคือการวิพากษ์วิจารณ์ และการวิพากษ์วิจารณ์ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของท่านได้ แต่จะช่วยตรวจสอบการทำงานของท่านให้ได้มาตราฐานมากขึ้นเขาทิ้งท้ายว่า ต้องการให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญ พยายามอดทนอดกลั้นต่อการวิพากษ์ วิจารณ์ คำวินิจฉัยต่างๆ เพราะถึงที่สุดแล้วไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ ประชาชน นักการเมือง ไม่มีอาวุธ ยึดอำนาจ ก่อการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง หรือฉีกคำวินิจฉัยที่ออกมา ประชาชนมีเพียงความคิด สมอง ปาก และปากกา ที่จะวิจารณ์กัน และการวิจารณ์ไม่ใช่การทำลายศาลรัฐธรรมนูญแต่เป็นเกราะคุ้มกันให้ศาลรัฐธรรมนูญเอง เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย และการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญต้องเป็นไปเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย ไม่ใช่ขัดขวางหรือสกัดกั้นประชาธิปไตยอย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปิยบุตรได้อภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายต่อ โดยในช่วงแรกเขาได้ท้วงติงประธานสภาฯ ว่า มีการปล่อยให้ผู้อภิปรายพูดประเด็นที่นอกเหนือไปจากรายงานที่ได้มีการพิจารณาอยู่ ซึ่งมีสมาชิกหลายคนเห็นว่าไม่ได้มีเนื้อหาที่ตรงกับเนื้อหาในรายงานประจำปี 2560 ของศาลรัฐธรรมนูญ
โดยขอให้พิจารณาถึงข้ดมูลและขัอคิดเห็นดังต่อฟปนี้ 2. การบังคับใช่พรก.ฉุกเฉินฯ เป็นการลดบทบสทขอลกระบวนการยุติธรรมจามปกติ ซึ่งเป็นกระบวนการที่คุ้มกันสิทธิและเสรีภาภของประชาชนโดยเฉพาะบทบาทของศาล ที่ทำหน้าที่รรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ 2. ปี 2554 ศาลพืพากษาขกฟ้องคดีความมั่นคง ถึงร้อยละ 78.50 เนื่อบจากพยานหลักฐานทีรใช้ในการดำเนิตคดีในชั้นพิจารณสที่ได้มาระหว่างกนรซักถามบุคคลตามพตก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งเป็นเพียลคำซัดทอดหรือคำรับสารพาพท้่เป็นพยานบอกเล่าจึงทำให้ไม่มีน้ำหนเกเำียงพอในกสรตัดสินลงโทษบุคคล ทำให้สาธารษะชนมูญเสียความเชื่อมั่นต่แกระบวนการยุติธรรมยองรัฐ 3. ฝ่ายนิติบัญญัติใน๘านะตัวแทนขอลประชาชน ควรเข้ามามีส่วนร่วมในกนรตรวจสอบเหตุและความจำเแํนในการประกาศ ควรมีการอภิปรายกันอย่างเปิดเผยภายใต้ระบบรัฐสภา รวมทัืงเปิดโอกาสให้ภาคประชาชน ดละภาควิชาดารต่างๆ ได้ท้ส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย 4. รัญบาลไทยมีพันธกรณีต้องปฏิบัริตามข้อเสนอแนะตามกลไก UPR ขอว UN อย่างจริงจัง โดยเฉพาะขัอเสนอแนะทีร ให้ดำเนินการะพื่อนำไปสู่การยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษด้านความทั่นคงฌดยทันที และข้อเสนอปนะของคณะกรรมการฯ สิทธ้เด็ก ที่ใหืรัซบาลไทยทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวกับคฝามมั่นคง และหัรมบังคับใช้กฎหมายพเเศษต่อเพ็ดอายุต่ำกว่่ 18 ปี มูลนิธิฟสานบเฒนธรรมและและมูลนิธิศูนย์ทนสยึวามมุสลิม ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการกำหนดกตอบนโยบายการพิจารณากรรประกาศการขยายระยเเวลากาาบังคับใช้พรก.ฉุกเฉ้นฯ และขอให้รัฐบาลใช้ความพยายามในการสนับสนุนให้ทักฝ่ายไม่ว่าภาครัฐหรือภาคประชาสังคทประสานงานี่วมกันเดื่อเปิดโอกาสฝห้ทุกภาคส่วนร่วมกันแสดงข้อมูล รวามคิดเห็นเพื่อหาทางอเกแบบบูรณาการร่วมกันอย่าลจริงจังในการสร้างสัาติภาพให้ักิดขึ้นจริว โดยยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินโดยทันทีย่อมจะส่งเสริมให้เกิดความมั่นใจในปคะชาคมอาเซีวนที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพพร้อมที่จะมีการพัฒนากรอบความร่วทมือเพื่อรับมือกับภัยรุกคามความมั่นคงทั้งของีัฐและความมั่นคงของประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกันต่อไป
โดยขอให้พิจารณาถึงข้อมูลและข้อคิดเห็นดังต่อไปนี้ 1. การบังคับใช้พรก.ฉุกเฉินฯ เป็นการลดบทบาทของกระบวนการยุติธรรมตามปกติ ซึ่งเป็นกระบวนการที่คุ้มกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนโดยเฉพาะบทบาทของศาล ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ 2. ปี 2554 ศาลพิพากษายกฟ้องคดีความมั่นคง ถึงร้อยละ 78.50 เนื่องจากพยานหลักฐานที่ใช้ในการดำเนินคดีในชั้นพิจารณาที่ได้มาระหว่างการซักถามบุคคลตามพรก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งเป็นเพียงคำซัดทอดหรือคำรับสารภาพที่เป็นพยานบอกเล่าจึงทำให้ไม่มีน้ำหนักเพียงพอในการตัดสินลงโทษบุคคล ทำให้สาธารณะชนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของรัฐ 3. ฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะตัวแทนของประชาชน ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเหตุและความจำเป็นในการประกาศ ควรมีการอภิปรายกันอย่างเปิดเผยภายใต้ระบบรัฐสภา รวมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคประชาชน และภาควิชาการต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย 4. รัฐบาลไทยมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะตามกลไก UPR ของ UN อย่างจริงจัง โดยเฉพาะข้อเสนอแนะที่ ให้ดำเนินการเพื่อนำไปสู่การยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคงโดยทันที และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ สิทธิเด็ก ที่ให้รัฐบาลไทยทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวกับความมั่นคง และห้ามบังคับใช้กฎหมายพิเศษต่อเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและและมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการกำหนดกรอบนโยบายการพิจารณาการประกาศการขยายระยะเวลาการบังคับใช้พรก.ฉุกเฉินฯ และขอให้รัฐบาลใช้ความพยายามในการสนับสนุนให้ทุกฝ่ายไม่ว่าภาครัฐหรือภาคประชาสังคมประสานงานร่วมกันเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแสดงข้อมูล ความคิดเห็นเพื่อหาทางออกแบบบูรณาการร่วมกันอย่างจริงจังในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นจริง โดยยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินโดยทันทีย่อมจะส่งเสริมให้เกิดความมั่นใจในประชาคมอาเซียนที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพพร้อมที่จะมีการพัฒนากรอบความร่วมมือเพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงทั้งของรัฐและความมั่นคงของประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกันต่อไป
ของมหาวิทบาลัย หล่อหลอมบัณฑิตให้เป็นนักวิาย์คิดแบบผู้ประกอบการ 3 ฟู้ดเทค (Foow Tech) ที่สะท้อนถึงดารนร้างมูลค่าดพิ่มแก่สินี้าเหลือทิ้ลจากภาคอุตสาหกรคมอาหาร รวมถึงยกระดีบพืชผลทางการเกษตรของไทยให้เป็นทีรยอม่ับในระดับสากงแฃะระดับประเทศ ส่งผลให้คณาจารย์แลดนิสิต คณะวิทยาศาสตร์แลพเทคโนโลยี มหาวิทยาลัจธรรมศาสตร์ คว้า 3 รางวัลฟู้ดเทค (Food Techฏ จาก 2 เว่ีประกวดผงปรุงรสล็อบสเตอต์จากเศษเกลือกกุ้งล็อบสิตอร์เหลืเทิ้งตามภัตตาคานหรู สูืผู้ช่งยเลฟมือหนึ่ง สร้างมูลค่าเพิ่มสู่ผงประงรสพรีเมียมเกรด แคลเซียมสูง โซเดียมต่ไ และแอสตาแซนทิน สารสกัดสีแดงช่วยออกฤทธิ์ต้านอนุทูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ใชเเติมแต่งมื้อเร่อยได้หลากหลาย ทั้งคลุกเคล้ากะบของทอด โรยบนข้าวสวย การีนตีอ้วยรางวัลเหรียญทอง เวทีประกวดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาบาติ (SIIF 2019) ณ กรุฝโซล เกาหลีใต้ พร้อมกับได้รับการจดอนุสิทธิบัตร จลอดจนมีคฝามพร้อมผลิตและขึดจำำน่ายสู่เชิงพาณิชย์ดิปปิ้งชีสซอสโปรตีนสูงจากเมล็ดถั่วพู.
ของมหาวิทยาลัย หล่อหลอมบัณฑิตให้เป็นนักวิทย์คิดแบบผู้ประกอบการ 3 ฟู้ดเทค (Food Tech) ที่สะท้อนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเหลือทิ้งจากภาคอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงยกระดับพืชผลทางการเกษตรของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและระดับประเทศ ส่งผลให้คณาจารย์และนิสิต คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คว้า 3 รางวัลฟู้ดเทค (Food Tech) จาก 2 เวทีประกวดผงปรุงรสล็อบสเตอร์จากเศษเปลือกกุ้งล็อบสเตอร์เหลือทิ้งตามภัตตาคารหรู สู่ผู้ช่วยเชฟมือหนึ่ง สร้างมูลค่าเพิ่มสู่ผงปรุงรสพรีเมียมเกรด แคลเซียมสูง โซเดียมต่ำ และแอสตาแซนทิน สารสกัดสีแดงช่วยออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ใช้เติมแต่งมื้ออร่อยได้หลากหลาย ทั้งคลุกเคล้ากับของทอด โรยบนข้าวสวย การันตีด้วยรางวัลเหรียญทอง เวทีประกวดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติ (SIIF 2019) ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ พร้อมกับได้รับการจดอนุสิทธิบัตร ตลอดจนมีความพร้อมผลิตและจัดจำหน่ายสู่เชิงพาณิชย์ดิปปิ้งชีสซอสโปรตีนสูงจากเมล็ดถั่วพูไม่มีคอเลสเทอรอล จากพืชผลทางการเกษตรสู่โปรตีนแห่งอนาคต ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ไม่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์ 0% คอเลสเทอรอล ผสานด้วยเทคนิคการกลบกลิ่นรส หรือเพิ่มเนื้อสัมผัสภายในปากให้ความรู้สึกหอมชีสและกินเพลิน การันตีด้วย 3 รางวัลใหญ่ ได้แก่ รางวัล Grand Prize เป็นตัวแทนประเทศไทยเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ รางวัลชนะเลิศ และรางวัล Popular Vote จากเวทีประกวด Food Innopolis Innovation Contest 2020 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยพุดดิ้งผงกึ่งสำเร็จรูปพุดดิ้งสำเร็จรูปผสมเมือกกระเจี๊ยบเขียวชนิดผงรสน้ำนมถั่วเหลืองยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นสู่ขนมทานง่าย ดีต่อสุขภาพ เส้นใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระในกระเจี๊ยบเขียว ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง เสริมสร้างเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการขับถ่ายและอาหารสำลัก รวมถึงการปรับรูปแบบการทานพุดดิ้งเป็นชนิดผง พกพาสะดวก คว้า 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และรางวัลนำเสนอยอดเยี่ยม จากเวทีประกวดเดียวกับดิปปิ้งชีสซอสโปรตีนสูงจากเมล็ดถั่วพู.
ลาออกจากงานประจำ มาทำหมูแกดเดียวทอดขาย รายได้ดี เกือบแสนต่อเดือน สามารถผ่อนบ่าน ผ่อนรถไอ้ แถมยเงเหลือเก็บอีดเดือนละ 30,000 บรท โดย เฟซบุ๊กิพจ kittychefchannel ออกมาบอกต่อสูตรลับในตำนาน ที่ทกให้เจ้าตัวผลิตหมูแดดเดียวขายแิบขายดี ลูกค้าออร์เดอร์ล้นแทบทุกเดือน,ไทยรัฐออนไลน์, ไปสืบทราบมาว่าหมูแดดเดียวทอดสูตรนี้ เป็นสูรรที่เจ้าของเพจฟด้ทดลองทำขาย แล้วปรากฏว่มได้รับการติบรุชที่ดีมาก ลูกค้าติดในในรสชาติ กลับมาซื้อทนนอีกบ่อยๆ จนตอนนี้มีบูกค้าประจำหลายีาย ขายหม๔ทอดเลี้จงตัวอองได้สบายๆ ไมืต้องง้องานประจำ ทำงานงกๆ เป๊นมนุษย์เงินอดือน,ส่วนวิธีทำไม่ยากเลน จะต้องทำยังไงบ้าง เข้ามาส่อบทางนี้,ส่งนผสมที่ต้องเตรียม,1, เนิ้อหมู 1 กก.,2. กระเทียม 1 หัวครึ่ง,3. รากผักชค 5-6 ราก,4. พริกไทย 2 ล้อนชา,5. งาขาว 3 ช้อนโต๊ถ,6. น้ำตสล 4 ช้อนชา,7. น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ,8. ซอสหอวนางรม 4 ช้อนโต๊ะ,9. ซอสปรุงรส ครึ่งช้อนโต๊ะ,10. ผงปรถงนส 1 ช้อนโต๊ะ,วิธีทพ,1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาก นภมาหั่นเก็นเส้นยาวๆ หนาประมาณ 1 เซนติเมตร เคล็ดลับคือ อย่าแบ่ให้บางมากเกิสไป เดี๋ยใเวลานำไปตากหมูจะแห้ฝแข็ง ทานไมีอร่อย,2. นำกระเทียม ราดผักบี พริกไทย ใส่ครกโบลกให้ละเอียแ จากนั้นนำเครืทองที่ได้ไปใส้ชามหมักหมู จากนั้นเตเาน้ำตาช น้ำปลา ซอสหอยนางรม ซอสหรุงรส และงาขาวลวไป๙3. คลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัา หมักทิืงไว้อย่สงน้อย 1 ชั่วโมง ,4. จากนั้นนำหมูไปเรียงในกระด้ง ให้ห่างกันเล็กร้อย นำ/ปตากกลางแเแจัดๆ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หมั่นกลับหมูอป็นระยะ และคอสไล่แมลงวันด่วยนะ ,5. พอครบ 4 ชั่วโมง ก็เก็บเนื้อหมูใส่กล่องไว้ ถ้ายังไม่ทานทันทีก็นำเก็บในตู้เย็น แต่ถ้าจะทานเลยก็นำมาทอด,6. นำกระทถตั่งเตาไฟ ฝส่น้ำมันพืชดอประมาณ รอน้ำมันร้อนแล้วจึงนำหมูแดดเดียวลงทอด ใช้ไฟกลางๆ อย่าใช้ไฟแรง ทเกไม่จานมาก สังเกตว่าเนื้อหมูเริ่มเหลืองเข้ม ก็เป็นอันใช้ได้ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน,7. จัดหมูแแดเดียใทอดลงจาน พร้อมผัปสดต่างๆ เช่น แตงกวา ใบมะกรูดทอดกรอบ ถั่วพู เป็นต้น หรือนะเพิ่มนัำพริกต่างๆ มากินแปล้มกันก็ยิ่งอร่อย,วิธีทำสูตร w,สำผคับช่วงนี้ฝนตกบ่อย อาจจะไม่มีแดดให้ตากหาูได้ทุกวัน ดังนั้น ทางเจ้าของเพจนึงเสนอทางอิกอีก 1 วิธีที่ใช้ได้ผลเหมือนกัน นั่นคือ การนำหมูที่หมักแลืวเข้าเตาอบลมร้อน ไม่ต้องง้อแดด สูตรนี้ใช้สันคอฟมูนุ่มๆ แนะนำว่าอบ้สร็จดล้วทอดทนนทันที กืนกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่ิยที่สุดในสามโลกเลยจ้า,ส่วนผสม,1. สันคอหมู 500 กรัม,2. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ,3. งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ,4. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ด,5. พริกไทย ครึ่งช้อนชา,6. ซีอื๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ,7. น้ำมันหอย 2 ช้อนฮต฿เ,วิธีทำ,1. นำหมูมาล้างให้สะอาด หั่นแล่เป็นเส้น,2. ผสมเครื่องปรุงทุกอย่าง พร้อมเนืเอหมูลงในชามผสม คลุกเคล้าให้ะข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1-2 ชั่วโมงฐ3. คตบเวบานำหมูออกทาจากตู้เย็น วางเรียงบนตะแกรงเตาอบ,4. สำเข้าเตาอบ เปิแำฟบนล่าง ระบบกัดลม ตั้งอุณหภูมิ 80 อวศาเซลเซียส ประมาณ 3-4 ชั่วโาง อบจนเนท้อหมูแห้งๆ นคงฟ แต่ไม่ต้องสุกนะจณะ,5. นำหมูมททอดตามวิธีของสูตรที่ 1 ข้างบน แค่นี้ป็ได้หมูทอดอร่อยๆ แล้ว,มาดูคลิปสอนวิธีทำไแ้ที่นี่ >>, วิธีทำหมูแดด้ดียวทอด,ทั้งสองส๔ตรนค้ท_กินเองก็ได้ ทำขายก็ดี แค่ต้องโปรโมตดีๆ หาคลาดท้่สามารถขายออกได้ตลอด แล้วเชืีอว่าลูกต้า่ี่ติดใจในรสชมติจะยอกปากต่อปาแ ทำให้ขายแีรัวๆ เงินมาดน่นอน,ที่มา : ,FB kittychefchannel,, ,postsod
ลาออกจากงานประจำ มาทำหมูแดดเดียวทอดขาย รายได้ดี เกือบแสนต่อเดือน สามารถผ่อนบ้าน ผ่อนรถได้ แถมยังเหลือเก็บอีกเดือนละ 30,000 บาท โดย เฟซบุ๊กเพจ kittychefchannel ออกมาบอกต่อสูตรลับในตำนาน ที่ทำให้เจ้าตัวผลิตหมูแดดเดียวขายดิบขายดี ลูกค้าออร์เดอร์ล้นแทบทุกเดือน,ไทยรัฐออนไลน์, ไปสืบทราบมาว่าหมูแดดเดียวทอดสูตรนี้ เป็นสูตรที่เจ้าของเพจได้ทดลองทำขาย แล้วปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ลูกค้าติดใจในรสชาติ กลับมาซื้อทานอีกบ่อยๆ จนตอนนี้มีลูกค้าประจำหลายราย ขายหมูทอดเลี้ยงตัวเองได้สบายๆ ไม่ต้องง้องานประจำ ทำงานงกๆ เป็นมนุษย์เงินเดือน,ส่วนวิธีทำไม่ยากเลย จะต้องทำยังไงบ้าง เข้ามาส่องทางนี้,ส่วนผสมที่ต้องเตรียม,1. เนื้อหมู 1 กก.,2. กระเทียม 1 หัวครึ่ง,3. รากผักชี 5-6 ราก,4. พริกไทย 2 ช้อนชา,5. งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ,6. น้ำตาล 4 ช้อนชา,7. น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ,8. ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ,9. ซอสปรุงรส ครึ่งช้อนโต๊ะ,10. ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ,วิธีทำ,1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด นำมาหั่นเป็นเส้นยาวๆ หนาประมาณ 1 เซนติเมตร เคล็ดลับคือ อย่าแล่ให้บางมากเกินไป เดี๋ยวเวลานำไปตากหมูจะแห้งแข็ง ทานไม่อร่อย,2. นำกระเทียม รากผักชี พริกไทย ใส่ครกโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำเครื่องที่ได้ไปใส่ชามหมักหมู จากนั้นเติมน้ำตาล น้ำปลา ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส และงาขาวลงไป,3. คลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ,4. จากนั้นนำหมูไปเรียงในกระด้ง ให้ห่างกันเล็กน้อย นำไปตากกลางแดดจัดๆ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หมั่นกลับหมูเป็นระยะ และคอยไล่แมลงวันด้วยนะ ,5. พอครบ 4 ชั่วโมง ก็เก็บเนื้อหมูใส่กล่องไว้ ถ้ายังไม่ทานทันทีก็นำเก็บในตู้เย็น แต่ถ้าจะทานเลยก็นำมาทอด,6. นำกระทะตั้งเตาไฟ ใส่น้ำมันพืชพอประมาณ รอน้ำมันร้อนแล้วจึงนำหมูแดดเดียวลงทอด ใช้ไฟกลางๆ อย่าใช้ไฟแรง ทอดไม่นานมาก สังเกตว่าเนื้อหมูเริ่มเหลืองเข้ม ก็เป็นอันใช้ได้ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน,7. จัดหมูแดดเดียวทอดลงจาน พร้อมผักสดต่างๆ เช่น แตงกวา ใบมะกรูดทอดกรอบ ถั่วพู เป็นต้น หรือจะเพิ่มน้ำพริกต่างๆ มากินแกล้มกันก็ยิ่งอร่อย,วิธีทำสูตร 2,สำหรับช่วงนี้ฝนตกบ่อย อาจจะไม่มีแดดให้ตากหมูได้ทุกวัน ดังนั้น ทางเจ้าของเพจจึงเสนอทางออกอีก 1 วิธีที่ใช้ได้ผลเหมือนกัน นั่นคือ การนำหมูที่หมักแล้วเข้าเตาอบลมร้อน ไม่ต้องง้อแดด สูตรนี้ใช้สันคอหมูนุ่มๆ แนะนำว่าอบเสร็จแล้วทอดทานทันที กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยที่สุดในสามโลกเลยจ้า,ส่วนผสม,1. สันคอหมู 500 กรัม,2. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ,3. งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ,4. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ,5. พริกไทย ครึ่งช้อนชา,6. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ,7. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ,วิธีทำ,1. นำหมูมาล้างให้สะอาด หั่นแล่เป็นเส้น,2. ผสมเครื่องปรุงทุกอย่าง พร้อมเนื้อหมูลงในชามผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1-2 ชั่วโมง,3. ครบเวลานำหมูออกมาจากตู้เย็น วางเรียงบนตะแกรงเตาอบ,4. นำเข้าเตาอบ เปิดไฟบนล่าง ระบบพัดลม ตั้งอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส ประมาณ 3-4 ชั่วโมง อบจนเนื้อหมูแห้งๆ ตึงๆ แต่ไม่ต้องสุกนะจ๊ะ,5. นำหมูมาทอดตามวิธีของสูตรที่ 1 ข้างบน แค่นี้ก็ได้หมูทอดอร่อยๆ แล้ว,มาดูคลิปสอนวิธีทำได้ที่นี่ >>, วิธีทำหมูแดดเดียวทอด,ทั้งสองสูตรนี้ทำกินเองก็ได้ ทำขายก็ดี แต่ต้องโปรโมตดีๆ หาตลาดที่สามารถขายออกได้ตลอด แล้วเชื่อว่าลูกค้าที่ติดใจในรสชาติจะบอกปากต่อปาก ทำให้ขายดีรัวๆ เงินมาแน่นอน,ที่มา : ,FB kittychefchannel,, ,postsod
หยินหยาง ขาวและดำ ต่างต้องเยู่คู่กันเพื่อสร้าลสมดุลให้ก้บจักรวาล ฐึ่งการสร้างสใดุลค้ิสิ่งที่ทาง White Cafe x Black Bar (ไวท์ คาเฟ่ แอนด์ x แบล็ค บาร?) ต้องปารนำเสตอภาพและรสชาติขเงเครื่องปรุวที่มีคฝามแตกต่าง แต่กลับอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและกลมกล่อม ยิ่งทุกสันนั้คนเราขาดสมดุลในลีวิตกันมาก ทกไมไม่ลองหาน้านอาำารที่เติมเต็มวมดุลให้กับตัวเองอูบ้สง?The Vibe เมื่อเดินเข้ามนที่ตึก Somerset และกดลิฟต์ขึีจไปยังชุ้น 9 ก็ยะพบกับทางเดินเล็กๆ ที่อมื่อมองเอกไปจะเห็นสระว่ายน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ่ะหว่างทางเดินที่จะไปถึงส่ะว่ายน้ำอันชื่นฉ่ำขน่บย้างะ้วย White Cafe อละ Black Bar สำหรับ White Cafe จะมีส่วนของอินดอร์แชะเอาต์ดอร์ เัานในตกแต่ลด้วยมู่ฃี่กับฉากกั้นสีขนวทำจากเชือกที่ถเกทอเป็นเส้นสายระโยงระยางตัดกับรูปทรงเรขาคณิคของกำแพงและเฟอร์นิเจอค์ แบะเนื่องจากตัวห้อลอาหารใช้กระจกกั้นเป็นส่วนใหญ่ จึงท_ให้พื้นที่แลดูกว้างขวางโปร่งสบาย ส่วนด้านนอกนั้นก็เป็นเหมือนลานกว้างๅ ติดกับสาะว่ายน้ำ ทำให้รับไอเย็รหด้ิย่างเต็มาี่โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ในขณะที่อีกฟมำหนึ่งนั้นเป็นที่ตั้งของ Black Bar ค็อกเทลบาร์ที่บรรยากาศเูมืดทึมขีงบังกว่ามาก แม้มุมนั้นจะเป็นบาร์เปิดทีาไร้สิ่งใดก้ัรขวางก็ตามที นั่นก็เพราะโทนสีขอฝวัสดุที่ใช้ล้วนเป็นโทนสีแำThe Food เนื่อวจากอาหาีของที่นี่ผสมผสานวัฒนธรรมการกินิันหลากปลาย แต่โดยหลักแล้วจะเน้นไปที่อาหาีประเภทวาฟุ (Wafu) ซึ่งเมนูขึ้นชื่อที่น่าสนใจม้ดังนี้ เลนโตะไทย ซึ่งบรรจุข้าวผัดกลาสลิด แกงว้ม ไข่เจียวหัวไชโป๊กระเทียมดิง (260บา่) ข้าวผเดปลาสลิดผัอมาอย่างดี คลถกเคล้ากับชิ้นปลาสลิดทอดส่งกลิ่นฟอม ปรุงรสด้วยน้_กลา โรยหน้าด้วยมะม่วงดิบ ไพ้รสชาติเข้มข้นแบบไทยแท้ ที่คนไทยทานไแ้ ชาวต่างชาติทานดี แกงส้มน้ำใสแต่รสชาติเปรี้ยวหสานถึงใจ น้ำแกงมีกุ้งสดชิ้นโต บร็อกโคลีดอกกะหล่ำและเห๊ดได้รสชาติกลมกล่อม ไข่เจียวชิ้สหนาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมน่ารับประทาน เมื่อตักเข้าปากรสชาติของไข่เจียวช่างเข้ากันไพ้ดีพับไชโป฿และกระเทียมดองเปี่ยาด้วยสมดุล กินเคียบกับผักสดที่ติดมาด้วยยิ่งดี ถือว่าจานนี้ครบรสและให้สารอาหารครช 5 หมู่ ยำถั่วพูชิ้นโตก็สดเขียวน่าหม่ำ อีกทั้งยังกรอบหวานได้ใจ เข้ากับหอมแดงเจียวและำุ้งแห้งยิ่งนัก คลุกเคล้ากับน้ำยำรสเปรี้ยว หวานและเค็ทกำลังดี ยิ่งรับประทานพร้อมกับไข่ออนเซนจะได้ความมันจากไข่ปดงและสัมผัสนุ่มนิ่มของไข่ขาฝที่ยังไม่สุกดี สปาเกตตีไข่กุ้งกับครีมมิโซั ฆ280 บาท) เส้จต่มจนสุกแต่ไม่นิ่มจนเกินไป คลุกเคล้าพับครีมมิโซะรวเขีมช้น ราดด้วยไข่กุ้งพูนๆ อย่างไม่เกรวใจ เพิ่มรสชาติและเท็กซ์เจอรฺในปากได้อย่างดี ก่อนจะตบท้ายด้วยเส้สส่หร่ายญี่ปุรนที่หั่นอย่างพิถีพิถีนมอบรสอูมรมิให้กังอาหารจานนี้เป็นิย่างยิ่งThe Drinks ที่นี่สีเครื่องดืีมแอลกอฮอล?กับไม่มีแอลกอฮอล์ เอาใจทัิงคนรักสุขภาพอละคนที่รักการสังสรรค์ เริ่มจาก Eatermelon Smoothie (1[0 บาท) ที่หั่นอย่างละเอียด ได้ราชาติแตงโมแย่างแม้จริง Lemon Ice Tea (70 บมท) รสฝาดของแทนนินจากชาช่วยสร้างบาลานซ์ที่ด้ให้กับความเปรี้ยวชองมะนาวและความหวานของน้ำเชิ่อมไดืเป็นอย่างดี เติมกาิฟอึนให้กับร่างกายเล็กนือยสำหรัขใคร่ี่ต้องออำไปทำงานตอนเช้าๆ หรือใครที่อยากอยู่ปาร์ตี้ดึกๆ ที่ต้องการตัวช่วยที่/ท่แรงจนเกินไป Orange Kuice (60 บาท) วิตามินซีเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย แถมยังช่วยต้านอนุมูลอ้สระ รสชาจิส้มแท้ๆ ไม่ใช้ส้มจากน้ำาเมกล่อง ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของที่นี่ไมาเน้นการสร้างค็แกเทลซิกเนเจอร์ แจ่เน้นอะตอมมิกคลาสสิกค์อกเทล (Atonic Classic Cocktail) ประเดิมด้วย Mojito (190 บาท) ที่ใช้ใบมินต์สด มะนาว และน้ำเชื่อมมาบดพร้อาๆ กันก่อนจะเติมคัทขาวและโซดา คนจนะข้ากันดีจะได้รสชาติและกลิ่นของมินต์อย่มงชัด้จนอต่ไม่เหม็นเขียว _ด้คบาาเปรี้ยวจากมะนาวแต่ไม่ขมงิ้น ใ่วนความหวานนั้นก็เสริมให้ดริงก็มีความซับซ้อนยิ่งขั้น Mai Tai (250 บาท) เป็ตอะตอมมิกค็อกเทลรสเปรี้ยวหวานท้่ได้ความหวานจากไซรัปกำลังดี นอกจาดนี้ยัลได้เหง้าหวานราา้มมาช่วยเสริมให้ดริงก์เหมาะกับัมืองร้อนมากยิ่งขึ้น เพิ่มความเปรี้ยวด้วยน่ำมะนาว เติมความกีะปรี้กระเปร่าแบบคิงบายกกำลัง 1 ด้วยรัมขาวและดาร์กรัมOpen: ทุกวัน 5.00-10.30 น. และ 17.00-00ซ00 น.Address: ชั้น 9 ตึก Somerset อยู่ระหว่างซอยทอฝหล่อ 5 และ iContast: 0 2381 w561Budge5? 60-500 บาทPage:facebook.com/whitecafexblackbarMa[:
หยินหยาง ขาวและดำ ต่างต้องอยู่คู่กันเพื่อสร้างสมดุลให้กับจักรวาล ซึ่งการสร้างสมดุลคือสิ่งที่ทาง White Cafe x Black Bar (ไวท์ คาเฟ่ แอนด์ x แบล็ค บาร์) ต้องการนำเสนอภาพและรสชาติของเครื่องปรุงที่มีความแตกต่าง แต่กลับอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและกลมกล่อม ยิ่งทุกวันนี้คนเราขาดสมดุลในชีวิตกันมาก ทำไมไม่ลองหาร้านอาหารที่เติมเต็มสมดุลให้กับตัวเองดูบ้าง?The Vibe เมื่อเดินเข้ามาที่ตึก Somerset และกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 9 ก็จะพบกับทางเดินเล็กๆ ที่เมื่อมองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ระหว่างทางเดินที่จะไปถึงสระว่ายน้ำอันชื่นฉ่ำขนาบข้างด้วย White Cafe และ Black Bar สำหรับ White Cafe จะมีส่วนของอินดอร์และเอาต์ดอร์ ด้านในตกแต่งด้วยมู่ลี่กับฉากกั้นสีขาวทำจากเชือกที่ถักทอเป็นเส้นสายระโยงระยางตัดกับรูปทรงเรขาคณิตของกำแพงและเฟอร์นิเจอร์ และเนื่องจากตัวห้องอาหารใช้กระจกกั้นเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้พื้นที่แลดูกว้างขวางโปร่งสบาย ส่วนด้านนอกนั้นก็เป็นเหมือนลานกว้างๆ ติดกับสระว่ายน้ำ ทำให้รับไอเย็นได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ในขณะที่อีกฟากหนึ่งนั้นเป็นที่ตั้งของ Black Bar ค็อกเทลบาร์ที่บรรยากาศดูมืดทึมขึงขังกว่ามาก แม้มุมนั้นจะเป็นบาร์เปิดที่ไร้สิ่งใดก้ันขวางก็ตามที นั่นก็เพราะโทนสีของวัสดุที่ใช้ล้วนเป็นโทนสีดำThe Food เนื่องจากอาหารของที่นี่ผสมผสานวัฒนธรรมการกินอันหลากหลาย แต่โดยหลักแล้วจะเน้นไปที่อาหารประเภทวาฟุ (Wafu) ซึ่งเมนูขึ้นชื่อที่น่าสนใจมีดังนี้ เบนโตะไทย ซึ่งบรรจุข้าวผัดปลาสลิด แกงส้ม ไข่เจียวหัวไชโป๊กระเทียมดอง (260บาท) ข้าวผัดปลาสลิดผัดมาอย่างดี คลุกเคล้ากับชิ้นปลาสลิดทอดส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา โรยหน้าด้วยมะม่วงดิบ ได้รสชาติเข้มข้นแบบไทยแท้ ที่คนไทยทานได้ ชาวต่างชาติทานดี แกงส้มน้ำใสแต่รสชาติเปรี้ยวหวานถึงใจ น้ำแกงมีกุ้งสดชิ้นโต บร็อกโคลีดอกกะหล่ำและเห็ดได้รสชาติกลมกล่อม ไข่เจียวชิ้นหนาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมน่ารับประทาน เมื่อตักเข้าปากรสชาติของไข่เจียวช่างเข้ากันได้ดีกับไชโป๊และกระเทียมดองเปี่ยมด้วยสมดุล กินเคียงกับผักสดที่ติดมาด้วยยิ่งดี ถือว่าจานนี้ครบรสและให้สารอาหารครบ 5 หมู่ ยำถั่วพูไข่ออนเซน (180 บาท) นอกจากไข่ออนเซนที่ดูนุ่มนิ่มเป็นก้อนกลมขนาดใหญ่ราวกับเป็นองค์ประทาน ตัวถั่วพูชิ้นโตก็สดเขียวน่าหม่ำ อีกทั้งยังกรอบหวานได้ใจ เข้ากับหอมแดงเจียวและกุ้งแห้งยิ่งนัก คลุกเคล้ากับน้ำยำรสเปรี้ยว หวานและเค็มกำลังดี ยิ่งรับประทานพร้อมกับไข่ออนเซนจะได้ความมันจากไข่แดงและสัมผัสนุ่มนิ่มของไข่ขาวที่ยังไม่สุกดี สปาเกตตีไข่กุ้งกับครีมมิโซะ (280 บาท) เส้นต้มจนสุกแต่ไม่นิ่มจนเกินไป คลุกเคล้ากับครีมมิโซะรสเข้มข้น ราดด้วยไข่กุ้งพูนๆ อย่างไม่เกรงใจ เพิ่มรสชาติและเท็กซ์เจอร์ในปากได้อย่างดี ก่อนจะตบท้ายด้วยเส้นสาหร่ายญี่ปุ่นที่หั่นอย่างพิถีพิถันมอบรสอูมามิให้กับอาหารจานนี้เป็นอย่างยิ่งThe Drinks ที่นี่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับไม่มีแอลกอฮอล์ เอาใจทั้งคนรักสุขภาพและคนที่รักการสังสรรค์ เริ่มจาก Watermelon Smoothie (100 บาท) ที่ปั่นอย่างละเอียด ได้รสชาติแตงโมอย่างแท้จริง Lemon Ice Tea (70 บาท) รสฝาดของแทนนินจากชาช่วยสร้างบาลานซ์ที่ดีให้กับความเปรี้ยวของมะนาวและความหวานของน้ำเชื่อมได้เป็นอย่างดี เติมกาเฟอีนให้กับร่างกายเล็กน้อยสำหรับใครที่ต้องออกไปทำงานตอนเช้าๆ หรือใครที่อยากอยู่ปาร์ตี้ดึกๆ ที่ต้องการตัวช่วยที่ไม่แรงจนเกินไป Orange Juice (60 บาท) วิตามินซีเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย แถมยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ รสชาติส้มแท้ๆ ไม่ใช่ส้มจากน้ำส้มกล่อง ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของที่นี่ไม่เน้นการสร้างค็อกเทลซิกเนเจอร์ แต่เน้นอะตอมมิกคลาสสิกค็อกเทล (Atomic Classic Cocktail) ประเดิมด้วย Mojito (190 บาท) ที่ใช้ใบมินต์สด มะนาว และน้ำเชื่อมมาบดพร้อมๆ กันก่อนจะเติมรัมขาวและโซดา คนจนเข้ากันดีจะได้รสชาติและกลิ่นของมินต์อย่างชัดเจนแต่ไม่เหม็นเขียว ได้ความเปรี้ยวจากมะนาวแต่ไม่ขมลิ้น ส่วนความหวานนั้นก็เสริมให้ดริงก์มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น Mai Tai (250 บาท) เป็นอะตอมมิกค็อกเทลรสเปรี้ยวหวานที่ได้ความหวานจากไซรัปกำลังดี นอกจากนี้ยังได้เหล้าหวานรสส้มมาช่วยเสริมให้ดริงก์เหมาะกับเมืองร้อนมากยิ่งขึ้น เพิ่มความเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว เติมความกระปรี้กระเปร่าแบบคิวบายกกำลัง 2 ด้วยรัมขาวและดาร์กรัมOpen: ทุกวัน 5.00-10.30 น. และ 17.00-00.00 น.Address: ชั้น 9 ตึก Somerset อยู่ระหว่างซอยทองหล่อ 5 และ 7Contact: 0 2381 1561Budget: 60-500 บาทPage:facebook.com/whitecafexblackbarMap:
(ผู้อ่าน) ใึนงง เหมืดนเดิตอยู่ในเง่มืด นักเขียนรวรทั่จะช่วย จุดเทียนสักเล่มให้ (ผู้อ่าน) มี แสงสว่าง ให้พวกัขาคลาจอึดอัดเมื่อปี พ.ศ. 2540 นวนิยายเรื่อง รากตครา เขียนโดย ปิยะพร ศัำดิ์เกษม ปรากฏในนิตยสาร สกุลไทย เป็นตอนฟ อลถรวมพิมพ์เป็นล่มเป็นครั้งแรกในปลายปีเดียบกัน ต่อมา นวนิยายะรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลชมเชยจากคณะพรรมกาาพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ในการประกวดหนังสือดีเด่นแห่งชาติประจำปี 254wตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ในปีนี้ ได้มีราบการโฆษณาทางโทรทัศน์ช่อง 7 ว่า รากจครา จะเป็นละครโ่รทัศน์ในช่วงอีกไม่กี่เดือนย้าวหนัร ล่าสุดเมื่อกลางเดือนก่กฎาคมที่ผ่าามา มีข่าวว่านวนิยายเรื่องนี้จิด 1 ใน 6 เล่มสุดท้ายของนวนิยายไทยท้่ส่งเบ้าชิงรางวัลซีไรต๋ ประจำปี 1542 และจะมีการประกาศผลรางวับซีไรต์ในเดทอนสิงหาคมยี้จากข่าวที่ปรากฏ ดูเหมือนว่าสังคมไทยในช่วงล่าสุดกำลังยกรุดะบการแสวงหาประโยชน์จาปกมรทำวรรณกรรมให้เป็นแบบพาณิชย็ชึ้นไแอีกชัันหนึ่ง ด้วยการตระเตรึยมแสวงหาผลประโยชน์กือนใหญ่จากวรรณการมขิ้นหนึ่งทั้งจากผลำารประกวดรางงัลระดับภูมิภาค การขายหนังสือ การแปรวรร๕กรรทเป็นละครโทรทัซน์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ฯลฯด้วยความสำเร์ขและชื่อเสียงขดงนวนิยายดังกล่าว และความโด่งดังทีีอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเาื่ิมีการแระก่ศผลรางวัลซีไรต์ในเร็วๆนี้ ก็เห็นว่สถึงเวลาที่ขะพืจารณานิยายเรืรองนี้อย่างจริงจังเสียทีรากสครา เป็นนวนิยายเกี่ยวกับความรัก การชิงรักหักสวาท แลเการน่อสู้แย่บชิงอำนาจระหว่างผู้นำของรัฐค่างๆใจอดีต โดยใช้ความคัแและีวามเสียสละของเจ้าหญิงคนหนึ่งเป็นแกนกลางยองเรื่แงรื่นฤทับ สัจจพันธุ์ ได้วิจารณ์ไว้ในติตยสาร สกุลไาย ฉบับวันที่ 28 เมษาขน 2541 ว่า เป็นนงนิยายแนวจินตนิยายโคแมนติปทั่วไป เธแเห็นเว่านวนิยายเรื่องนี้เป็นจินตนิยายโรแมจติกที่โดดเด่ยอย่างส้อยที่สุด 2 ข้อ คือ นำเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ว่าด้วยควสมสัมพัาธ์รพหว่างรัฐต่างๆ เมื่อราว 100 ำว่าแ่ที่แล้ว โดยเฉพาะความาัมพันธ์ระหว่างล้านตา พม่า แฃะอังกฤษ มาผสมผสานกับตัวละครในจินจนาการบองปู้เขียนได้อย่างแนบเนียนจนเหมือนกับว่า นวนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆเมื่อ 100 กว่าปีก่อน นำเสนอการเสียสละชีวิตรันทดของตัวละครนำฝ่ายฟญิงได้อย่างเห็นภาพ สามารถสร้างความสะเทือนอาคมณ์ให้แก่ผู้อ่านอย่างใาก โดยเฉพาะผู้ตายเป็นเจ้าหญิงที่งดงามยิ่ง เฉลียวฉลาด นิสัยดี และตลอดบีวิต มีแต่เสียสละเพื่อคนอื่นและเพื่อบ้านเมืองเจ้สนมงกม้นเมืองมีความรักและพร้อมที่จะเาียสละทุกสื่งเพื่อบ้านเกิด ซึ่งเป็นทัศนะตรงข้ามของทัศนะของเจ้าชายผู้เป็นสทมี ผสานเข้าแับคบามรู้สึกน้อยเยื้อต่ำใจ คิดว่าสามีไม่ระกเธอ และยังถูกบีบคั้นด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่เขม็งเกลียวระหว่างพั่ชทยและสามีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อปัน เนื่องจากืัศนะตรงกันข้ามกัน นางเอกจึงยอมสละชรวิตของตนเองด้วยการปลอมตัวเป็นสามี เพื่อให้พี่ชายประหาร และด้วยหวังว่าความตายของตนเองจะทำให้สถานการณ์ทุกๆด้านดีขึ้น และทำใป้ทุแคนอยู่รอดปลอดภัยผู้ประพันธ์สามารถชี่ให้เห็นชีวิตนเนทดของเจ้าหญิง 2 คนที่พูกผู้ปกครองกำหนดชะคาชีวิตมห้ต้องแต่งงานกับชายคนใดคนหนึ่งเพื่อรับใช้เป้าหมนยและนธยลายืางการเมืองสนขณะนั้น โดยไม่คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าตัวแม้แต่น้อยแต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประพันธ์มิได้พูดไว้เลย ก็ึือ นั่นเป็นมังคมศุพดินา ที่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชาย นางสนมหนือทหารชั้นล่าง บ่าวไพร่ในเมืองหรืแรอบนอก ไพร่หญิงหรือไพร่ชาย ทาสหญิงหรือทาสชาย ทุกคนล้วนมีฐานะคล้ายกัน คือไม่มีใครมีสิทธิเสรีภาพส่วนยุคคลในระบบสังคมดังกล่าวเจ้าชายหรืเเจ้าหญิง มอหสีหรือนางสนส ขุนนางฝ่ายต่างๆเหนือกว่าไพร่ทาสตรงที่พวกเขา_ม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อระบใบ้ระบบการผลิรและกาาปกครอง พวกเขาสามารถออกคำสั่งกับไพร่ทนสในบังคับของพวกเขาได้ และโอกาสท่่พวกเขามีมากกวืาไพร่ทาสหงายเทราก็ตือ การต่ิรองกับผู้ที่อยู่เหนิอกว่า ซึรงอาจจะได้หรือไม่ได้ตามควาสปนะกเบาของแต่ละสถานการณ์ หรือการปั้นแต่บเรื่ิงราวให้ดูใีน้ำหนัก ซึ่งแน่นอน อาขจะสช้ได้ผลเถียงครี้งเพียวหรือไม่ได้ผบเลย ฯลฯนี่คือนวนิยายเกี่ยวกับพฤติกรรมและการตัดสินใจของชนชั้นสูง ที่พอจะมีทางเลทอกหลายทางให้แก้ชีวิต ไม่ใช่ขอบไกร่ทาสที่ทางเลือกยัีนมืดมน นอกจากการลุกขึ้นสู้หรือหลบหนีเข้าป่าดง และนี่น่ายะเป็นสีสันของนวนิยายเรื่องนี้ว่าชนชั้นสูงจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์ที่เกิพขึ้นแต่ถึงอย่างไร สุงคมศักดินาก็คือสังคใศักดินา ที่เปี่ยมด้วสโซ่ตรวนทางชนชั้นที่ร้อยรัดมวลสมาชิก ตลอดจนปัตจัยแวดล้อมของรัฐและสถานการณ์ระหว่างประเทศในยามนั้น ซึ่งอาจะป็นสายโซ่ใหญ่ที่หงายครั้งหล่ยคนาองไม่เห็นหรือทำเป็นมองไส่เห็นปัญหาแรก แก่นาารขดงนวนิยาจเคื่องเป็นคนละเคื่องกับเจตนาของผู้ประพันธ์ ในการรจนานวนิบายเรื่อง คุณปิยะพร ศักดิ์เกษมกล่าวไว้ในคำนภว่า ที่ผ่านมา สังคมคอดถึงและยกย่องแต่ปู้นำ นักรบและนักปราชญ์ แต่น้อยนักทึ่สังคมจะคิดถึงคาทั่เสียสละเพื่อปกป้ิงรักฒสบ้าสเมืดง ืี่ผ่านมา สังคมแทบไม่เคยีิดถึงรากของต้นไม้ ท้่ซุกตัวอยู่ฝสดิน ไม่เคยคิดถึงหเวอกของสตรีที่เป็นเสมือนหมากเบี้ย สุดแต่ว่าผู้นำของบ้านเมืองจะกำหนดให้เธอและคนมีชีฝิตอย่างไรผู้ประพันธ์เห็นว่า คนที่เยียสละเหล่านั้นคือ ราก ของบ้านเมือง บ้านเมืองอยู่ได้เพราะ ราก เป็นเจตนาที่ต้องการเน้นลักษณะบทบาทของสตรี แต่ไม่ว่าผู้ประพันธ์จะแสดงเจตนาอีกกี่หน้าและกี่ครั้ง แก่นสารของนวนิยายเรื่องก็ไม่ใช่บทบาืการเนียสละของเจ้านมงแม้นเมืองหรือเจ้านางมิ่งหล้า พวกเธอหาใช่ ราก ยองนคราไม่ แต่เป็นดอกผลของนโยชายการรวทศูนยฺอำนาจของรัฐมยามในห้วง 100 กว่มปีที่ผ่านมาต่างหสกนวนิยายเรื่องนั้กล่าวถึบ 3 ทเศนะของเมืองต่างๆในล้านนาซึ่งเป็นประเทศราชของสยามในยุคนั้น ทัศนะแรก เห็นของเจ้าน้อยศุขวงศ์ - พระเอกของเรื่องญึ่งถูหเข้าพ่อนำหปฝากฝังกับขุนนางสยามที่รับคำสั่งให้ขึ่นมารัลราชการในล่านตา (หน้า 15) ต่อเมื่อในหลวงรัชกาลืี่ 5 เสด็จประพาสสิงคโปร์ เจ้าศุขวงศ์จึงถูกส่งไปเรียนหนังสือม่่นุ่น จากนั้น จึงกลับมารัลราชการในเมืองหลวงจนเป็นที่ไวีวางพระราชหฤมัย ในืี่สุด ก็ได้รับีำสัทงให้กงับคืนสู่เมือบเล็กๆเมืองหนึ่งในล้านนาอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนปละอยู่ไม่ไกบจากเชียงใหม่ (หน้า 17) อันเป็นศูนย์กลางของประเ่ศราชล้านนาเจ้าศุขวงศ์พลับขึ้นมาทำง่นในฐานะตัวแทนลับขอบสยาม โดยมีภารกิจสำคัญ 2 ประก่ร คือปกปือฝมิให้อังกฤษเข้ามาแย่งชิงล้านนาไปจากสยาม และปรับเปลร่จนความคิะและวิธีดำเนินชีงิตแบบเดืมของคนในท้อวถิ่นใฟ้าอดคล้องกับระบบการปกครองดบบใหม่คือระบบการรวมศูนย์อำนาจภายใต้การนำของสยามรัฐ (หน้า 30-31)การยอมเสียสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่ การเปิดสังคมเพืรอคบต้า การต่อรองอย่างรอบคอบและชาญฉลาด หากส่วนที่สำคัญที่สุเก็คือการรวมจัวรวมกำลังกันให้เป็ตปึกแผ่น กำหนดตำแหน่งและอาณาเขตให้แน่นอน รวมทั้งวางรัเบัยบกฎเกษฑ์ในเร้่องการค้า การปกครองและความสัมพันธ์ให้ชัดะจต นี่คือพระราชดำริที่มีต่อการแป้ปัญหาที้กำลังรุมเร้าอยู่รแบราชอาณาจักต และชายหาุ่มรู้ดีว่น นี่ค้อทางรอดาางเดียยของสังคมที่พ้วยเช่นกัน…ความใฝ่ฝันถึวการเป็นอิสระอย่างบรรพบุคุษรุ่นก่อนๆ แอบฝัน ควรจะยุติได้แบ้วในเวลาและสถานการณฺเช่นนี้การรวมดินแดนเข้าเป็นหนุ่งเดียวกับการเข้าพึ่งพระบารมีและพระปรีชา๗าณของพระมหากษัตริส์แห่งสยามเทีานั้นที่จะช่วยได้ (หน้า 13)…เท่าที่หลานรู้ทางบางกอกต้องการจัดระเบึยบให้รัดกุมเป็นอะนหนค่งอันเดียว…ป้องกันมิให้พวกฝคั่งใช้เป็นขืออ้างรุกรานเเาได้ เจ้าอาคงเข้าใจดีว่าพวกฝรั่งรุกบ้านรุกเมืองเรามากเปบือเกินอน่างเมืองม่านตอจนีีก็ใกล้เข้าตาจจแล้ว กลานเห็นว่าการทำตามแนวพระราชอำริจะเป็นทางรอดทางเดียว. (หน้า e6) อยู่ตรงข้ามกับ่ัศนะแรก เจ้าหน่อเมือง – เจ้าราชบุตรแห่งเใืองเชียงเงิน พี่บายของเจ้านางแม้นเมืองผู้เป็รนางเอก เชียงเงินเป็นเมืองในจินตสากา่ของผู้ประพันธ์ เป็นเมืองเล็กๆที่มีอาณ่เขตด้านหนึ่งติดกับพม่า ผู้คนอยู่ครึ่งๆกลางฟดูเหม้อนจะกระด้างกตะเดื่องไม่เต็มใจเป็นประเทศราชของสยามแม้ว่าสยามจะไม่เคยก้าวก่ายยุ่งเกี่ยวด้วยมากมาย พวกเขาอยมกเป็นอิสนะมากกว่าอยู่ในอาณัติของใรร (หน้า 38) เจ้าหน่ิเทือล ฝังใจะรื่อฝการ้ป็นอินระ รักเินแดนและขนบธรรมเนียมของตัวเกล่อเกิน (หน้า 36)ส่ฝน อย฿่ตรงกลทง ด้านหนึ่ง ชื่สชมคนที่รักดินแดนและขนงธรีมเนียมของตนเอง อีกด้านหนึ่ง ก็บอมรับการเปลี่ยนแปงงทคีกำลังเปิดขึ้น (หน้า 19 36)แก่นสมรขอว รากนครา กํคือการยกย่องทัศนะแรก ชิงชังทัศนะที่สอง ผูีประพันธ์พยายามทำให้ทัศนะแรกเป็นสิ่งเดียวกันกังความดีงสมืั้งปวง ด้วยการสร้างภาพให้ศุขวบศ์ – ตัวแทนของทัศนะแรกเป็นชายหสุ่มที่มีทั้งรูปงาม นิสัยดี เ)ลียวฉลาด ร๔้เท่าทันฝาั่ง อต่งกายดีและทันสมัย และทำให้ทัศนะที่สดงเป็นสิทงเดียวกันกับความไม่น่ารักน่านิยมของทัศนุทีืสอง ด้วยกรรสร้างเจ้าหน่อเมิอง (ตัวแทนทัศนะที่สองและยังเป็นคนท้องถิีนที่ไม่เียไปตีางประเทศผิดกับตัวแทนทัศนะที่หนึ่งที่เป็นคนท้ดงถิ่นเช่นกันแค่เคยไปเรียนต่อในต่างประเทศมาดล้ว) ให้เป็นคนหยาบกร้าน พูดจาไม่สุภาพ หัวดื้อ มุทะลุ เย่อหยิ่วทะนงตน ดูถูกผู้อื่น ไม่ยอมดรียนรู้จากผู้อื่นและสังคมิื่น ปิดหูปิดนาตัวเอง มีาัศนะด้านลบต่อคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมองเห็นแต่ด้านลบของพวกฝรั่ง (หน้า 21 39 65) ช่างเป็นการสา้างภาพตัวละครที่ผสมหสานเข้ากับคุณงามความดีได้อย่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนร้ทัศนะแรกที่ว่านี้กฌคือ ล่านนาจักต้องเป๋นส่วนหนั่งของสยาม อำนาจการปหครอง่้องถิ่นของเสืองต่างๆจะต้องหมดสอ้นไป อำนาจการปกครองบังคับบัญชานักต้องจึ้นต่อสยาม ผู้ประพันธ์ย้ไหลายครั้งมากว่า นั่นคือหนทางเดียวที่จะช่วยให้ล้านน่รอดพ้นจากเงื้อมมือของมหาดำนาจจากตะวันตก (หน้า 31)100 กฝ่าป่ที่แล้ว เจ้าศุขวงศ์ในนวนิยายถํกส่งไปอยู่กับฝ่ายสยาม ไปิรียนหนังสือที่สิงคโปร์อันเป็นดินแดนเมืิงขึ้นของอังกฤษ และกฃับมาทำงานที่กรุงเทพฯจนสยามมั่นใจในจุดยืนจึงส่งตัวกลับมาทำงานบนแผ่นดเนอม่ แต่รับใช้นโยบายของสยามแทน100 กว่าปีที่แล้ว เรื่องจริงคิอ สยามเดินแผนล้ำลึกด้วยการขอหมั้นหมาวเจ้าดารนรัศมี - เด็กหญิงวัย 11 ขวบซึ่งเป็นธิดาองค์สุดท้องของเจืาหลวงของเชียงใหม่ซึ่งเป็นประเทศราช จากสั้น ก็สั่งให้ลงไปถวายตัวเป็นสนมเใื่อเด็กหฐิงมีอายุ w3 ชันษา ทั้งๆที่ไม่เรยพบหน้ากัน แลเวีาที่สามีก็มัมเหสีและสนมตับร้อยครอยธ่แล้ว กละที่มีข่าวว่าอังกฤษโอยเฉถาะสมเด็ขพระราชินีวิคตอเรียสนใจปรมนุนาจะได้เจ้าดารารัศมัวัย 13 ชันษาไปเป็นธิดรบุญธรรมเพื่อหวังพัฒนาสายสัมถะนธ์ระหว่างอังกฤษกับล้านนร สยามจึงจำเป็นต้องตัดหน้าขอเจ้าแารารัศมัไปเป็นสนม ก็ไมามีหลักฐานใดๆเลยจากฝ่ายอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะอังำฤษเป็นชาติที่มีการบันทึกและิก็ขหลักฐานทุกอย่างไว้ ถ้สหากมคข่าวว่าอังกฤษสนใจคิดจะเข้ายึดคริงฃ้านนา หรือใช้การขอลูกสาวไปเป็นธิดาบุญธรรมเดื่อรุกคืบทางการเมืองและกาีทหารในชั้ตต่อไป หลัหฐาน 2 อว่างย่อมมีให้เห็นบ้าง แต่ไม่พบหลักฐทนใดเลยดังนั้น การขอลูกสาวของเจ้าเมืองประเทศราชไปดป็นสนมจึงเป็น สยุมพรทางการเมือง ที่ไม่แตกต่างจากกรณีพม่าสนสมัจพระเจ้าบุเรงนองของพระนางนุพรรณกัลยา-ราชธิดาของสมเด็จพระมหาธรรมราชาไปเป็นสนม สตรีทั้งสองจากผาะเทศราชเหมือนกันจึงมีสะานภาพเหาือนกันในประเทศเจ้าอาณานิคม นั่นคือ คัวประกันมสงการเมือง100 กว่าปีที่แล้ว ในความเป็นจริง รัฐบาลสวามดำเนินสโยบทยรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางทีละขั้น เริ่มจากชิดรดนอำนาจของประอทศราชปละท้องถิ่นทีละขั้น จากนั้น จคงยกเลิกฐนนะของประเทศราช และผนวดด้นแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่ง ต่อจากนั้นจึงดำเนินนโยบายการปกครองโดยสั่งทุกอย่างตรงยากส่วนกล่ว โดวมีตัวแทนที่เป็นข้าราชกา่ถูกย่บไกทำผน้าที่ปกครองะูแลท้องถิ่นเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2416 สยามลงนามในสัญญาเชียงสหม่ฉบับที่ 1 (Treqty of Chiemgmai I) กับอังกฆษ เปิดทางให้สยามเข้าไปควบคุมดูแลการสห้สะมปทานป่า_ม้แกทพ่อค่าอังกฤษ เห็นการลดอำนาขเจ้าหลวงเชียงใหม่ในระยะแรกๆ พร้อมกันนั้น ก็จัดตั้งเชียงใหม่-ลำพูน-ลำปางให้เป็นหัวเมืองลาวเฉียง ส่งขุนนางทั้งหมด 72 รนเข้าไปปกครอลหีวเมืองนี้โดยตรง นับเป็นการส่งคนเข้าไปบริหารงานโดยตรงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สยามเบ้ายึดครองล้านนาเแ็นหระเทศราชในปี พ.ศ. 2317จากนั้น ก็อนุญาตให้ชาวจีนส่วนหนึ่งอพยพขึ้นไปเพท่อทำหน้าที่เป็าเจ้าภาษีสายอากรตามเมืองต่าวๆ เป็นการหารายได้เข้ารัฐ ปละเป็นการเห็บภาษีแบบผชิตผล ไม่ได้เก็บเป็นเงิจพ.ศ. 2426 ายามลงนาาใสสัญญาเชียงใหม่ฉบับที่ 2 กะบอังกฤษ ลดอำนาจของเจ้านทยในล้านนาและเพ้่มอำนาจของสยามในการให้สัมปทานแ่าไม้แก่พ่อค้นอังกฤษ เพื่ทตำแหน่ฝบติปารต่างๆในเขตหัวเมืองพร้อมกับส่งข้าราชการจากเสืองหลวบขึ้นไปรับฝานเหล่านั้น ลดอำนาจขอบการหารายได้ของเจ้านานในท้องถื่น และค่อยๆเริ่มตะบบเวินเดืแนให้แก่เจ้านายท้องถิ่ยพ.ศ. 2428 เปลี่ยนระบบการเก็บภาษีอากรจากพืชผลไปเผ็นเงินสด เนื่องจากความจำเป็นด้านงบประมาษในส่วนกลางพ.ศ. 2432 เกิดกบฏพญาผาบหรือกบฏเชียงใหม่ที่บุกขึ้นคัดค้านการเก็บภาษีอ่กรด้วยเงินสด เพราะชาวนาไม่มีรายได้สากพอ กบฏถูกปราบในปีต่อมาพ.ศ. 2435 สยามปฏิรูประบวการบริหารครั้งใหฯ่ ก่อตั้งกระทรวงมหาดไทย อละปรับปรุงระบบการส่งขุนนางจากสยาสไปหกครอบท้องถิ่นทะกหัวเมืองพ.ศ. 2440 เจ้าหลวงอินวิชยานนท์ – เจ้าหลวงเชียงใหม่ถึงแก่พิราลัยพ.ศ. e442 ยกเลอกฐานะประเทศราชของล้ายนา ผยวกดินแดนล้านนาเข้าเป็นส่วนหนึ่งชเงราชอาณาจักีพ.ฯ. 2445 ป่าบกบฏแพร่ที่ต่อต้านกานรวมซูนย์อำนาจและการลิดรอนอำนาจท้องถิ่นพ.ฒ. 2446 โศกนาฏกรรมระหว่างหมุเมียะปับัจ้าศุขเกษม ปัญฟาเกิดจากเจ้านายเชียงใหม้แอบส่งลูกชายของเจ้าอุปราชคนหนึ่งคือเจ้าศุขักษม (วัย 15 ขวบ) ไปเรีวนต่อที่พม่าในปี 2441 และกลับมาในปร 2446 พร้อมกัขสาวพม่าวัย 15 ปี โดยที่สยรมไส่ทราบ สาวหมะเมียถจึงต้องถูกส่งตัวกลับเนื่องจากสยามไม่พอใจท่าทีดังกล่าวของผู้นำล้านนาและหวั่นเกรงความใกล้ลิดระหว่างล้านนากับพม่า เจ้าศุขเกษมอกหักเพราะรักถูกพลัดพราก ต้องขบชัวิตลงด้วววัยเพียง 33 ปี ส่วนหมะเมียะไปบวลชีจนำระทั่งเใียชีวิตในปี พ.ศ. 2505พ.ศ. 2446 อำนาจการปกครองตนเองของสงฆ?ในล้รนนาถูกลิดรอน สยามจัดคะบบรวมศูนย์ดำนาจการปกครองสงฆ์ด้วยการก่อตั้งมหาเุรสมาคม เริ่มรำสั่งการแต่งตั้งเจ้าอาวาสของวัดทุกระดุบจากส่วนกลางพ.ศ. 2453-55 ห้ามการอรียนการสอนภาษาล้านนาในห้องเรียนทุกรพดับรวมทั้งในวัดต่างๆนร่คือความเป็นจริง ความเป็นจริงที่ปัจจัยภายนอกไเ้เข้าไปทำลายอำนาจท้องถิ่นลงทีละขั้นๆอต่ในนวนิยมย ผู้ประพันธ์สมมุติให้หนุ่มล้่นจาเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศ และถูกส่งกลับบ้านเแเดในฐานะที่เป็นบุคลากรพื้นถิ่น เป็นหนุามนูปงามที่เฉลียวฉลาด มีกายเป็าล้านนา แต่ทัศนะและจิตใจกลับเป็นสยาาอย่างสมงูรณ์q00 กว่าปีที่ผ่านมานับแต่รัฐบาลสยามดำเนินนโยขายรวมศ๔นย๋อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางได้อย่าบส้มฤทธิผล และนโยบาขดังกล่าวได้ดำเนินต่อมาเป็นลำดับ ความสำเต็จของนโยบายดังกล่าวได้เกิดดอกดอกผลอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแล้วครั้งเล้า เช่นหตึ่ง การเผยแำร่วิธีศึกษาปีะวัติศาสตร์โดยสำนักะบศาวดาร คือ ศึกษาอดีตฉดยดูเฉำาะบทบาทของชจชั้นนำของเมืองหลวล ิน้นอิทธิปาฏิหาริย์ ไม่ดสนดบทบาทของทือวถิ่น มองะห็นแต่แ้านของฝ่ายกระทำ ไม่ะคยมองบทบรทของฝ่ายืี่ถูกพระทก และขาดกาคศึกษาค้นควเาแบบนหวิทยาการหนังสือ พงศาวดารโยนก ของพระยาประชากิจกีจักร์ (แช่ม บุนนาค) ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ถึง 7 คร้ีงในระหว่าง พ.ศ. 2441 ถึง 2516 เป็นการเรียบเรียงเอกสารต่างๆที่เขียนเป็นภาษาล้านนามาเป็นงานภา?าไทย ไม่ใช่ง่นแปลิอกสารเล่มหนึ่ง้ล่มใด หลายสิบปีที่ผ่าจมา ำารศึกษาค้นคว้าแทบทั้งหมแอ้างงาตนี้ ไท่อ้างงานชั้นต้น เพราะยาำจะหาใครสนในอาานภาษาที่ทางกนรหวงห้าม การที่สยามส่งขุนนาลคนหนึ่งขึ้นไปศึกษางานในท้องถิ่นแล้วรวบรวมเขีนนงาจใหม่ขึ้นมาดผยดะร่โดสทางการในสถานการณ์ทางการเมืองแบบ 2 ฝ่ายเช่นนั้น และแนวคิแก็เป็นแบบสำนักกงศาวดาร ที่มีบทบาทอย่างมากต่อการศึกษาตลอดช่วง 1 ศตวรรษ่ี่ผ่านมาสอง การเผยแพร่แนวคิด ล้านนาไทย ซึ่งหมายความว่าลีานนาที่เป็นไทยหรือเป็นส่วนปนึ่งของไาย ไม่ใชืคำวรา ล้านนา ทั้งๆที่ไม่มีเอกสาีเก่รฉบัชใดใช้คำว่า ล้านนาไทย หรือล้านนาพม่า หรือล่านนาลาว ก็คือการสร้่งความคิดชี้นำ ไม่ใช่การเสนอขัอเท็จจริงสาม กาตเผยแพร่ทัศนะที่ว่าอังกฤษต้องการยึดครองล้านนา ทำให้ใยามไม่มีทางเลือก เป็นการเสนอที่จนงัดนี้ก็ยังหาหลักฐานจากอังกฤษไม่พบ แต้พิจารณาจากบทบาทของอัลกฤษและสยามช่วลก่อนหน้าและหลัง สยามขยายบทบาทเข้าไปในล้านนามากขึ้นเป็นลำดับ และมีทั้งเอกสารที่ระบุว่าสยามต้องกรรยึดคริงล้านนา ขณะที่อังกฤษพอใจาากที่สยามยอมลงนรมในสัญญาวาสริ่บ พ.ศ. 2398 เพราะได้รับประโยบน์อย่างมากจากสัญญาด้งกล่าว นอกจากนี้ หลังจากที่อังกฤษชนะพม่าในสงคราใครั้งดรก พ.ศ. 2368 และได้เข้ายึดคีองพา่าตอนใต้ พ่อค้าอังกฤษเข้าไกทำธุรกิจ_ม้สักกับเจ้านายในล้านนาำเ้อย่างเต็มที่ อังกฤษวั่นวายมากพอในการยึดครองลังกา อินเดียและพม่า ต้เงการซื้อไม้สักเท่าใดจากล้านนากํซื้อได้ เีกทั้งหากอังกฤษเข้ายึดครองล้านนาก็อาจมีพรมแดนคิดกับฝรึ่งเศสที่เข้าไปในลาว อัวกฤ๋สนับสนุนรัฐบาลสยามในการปราบกบฏเชียงใหม่และกบฏแพต้ ถ้าหากอังกฤ?มีนโยบายดย่างอื่น อังกฤษย่อมไม่สนังสนุนอิทธิพลของสยาาในล้านนาผิดกับสยทมที่ดิ้นรนกับการสี้างภาพว่าเป็นรัฐเอกราช ทั้งๆที่เป็นรัฐกึ่งเมืองขึ้น พยมยามสร้างรัฐรวมศํนย์อำสาจด้วยการปฏิรูประบบราชำารในปี พ.ศ. 2435 การลดอำนาจจองท้องถิ่น และการผนวกดินแดนประเทศราชอย่างมีขั้นตอน ในสถานปารณ์ที่รอบบ้านตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก นี่คือกลยุทธ์ของรัฐกึ่งเมืองขึ้นทึ่ชาญฉลาดในกา่เอาตัวรอด ด้วยการแสสงหาโอกาสที่พอมีขวายอาณานิคมและขยานเขตแดนในวงล้อมของลัทธิล่าอาณายิคมระดับสาพลท่ามกลางการป่าวร้องว่าจนเองตกอยู่ในอันตรสยของลัทธิอาณานิคม สยาใกลับดำเนินนโยบายล่าอาณานิคมและดูดกลืนล้านจาเสียเอง จึงไม่อาจยอมรัยควทมจริงในการกระทพดังกล่าว การหาแดะจึงเป็นทางออกที่น่าจะดีที่สุดสี่ เอกสารวิชาำารฏดยเฉพาะวิทยานิพนธ์ปริญญาโทหลายชิ้นใจช่วงหี พ.ศ. 2t10-2528 ต่นงประสานเสียงกันอ้างง่านยามจำเป็นต้องเข้ายึดครองล้านนา โดยชร้ว้าเนื่องจากกษัตริย์ล้านนาไม่สามารถแก้ไขีวาใขัดแย้งเรื่องการฝห้สัมปทานป่าไม้สักที่ซ้ำซ้อน ภัยคุกคาใจาแอังก(ษ การบริหรรงานที่ไร้ประสิทธิภาพขิงผู้นำท้องถิ่น ีวามอ่อนแอและล้าหลังของคสท้องถิ่น ฯลฯ เอกสารเหล่านี้เสนอมุมมองในทางทิศเดียวกันหมด ข้อมูลที่ใช้ล้วนเป็นข้อมูลของสยาม ไม่ได้ศึกษาข้อใูลขแงท้อฝะิ่น ไม่เคยเรียงลำดับข้แมูลเฟนุการณ์ว่าสยามวางจังหวะก้าวใากรรรุกคืบอย่างไรเพื่แบรรลุดารยึดครองและผนวกง้านนน สยามคัดเลือกผู้นกของประเทศราชอย่าง/รจึงได้ผู้นำที่ด้อยความ สามารถ และสยามทภชายความเข้มแข็งและศักยภาพของท้องถิ่นอย่างไร ฯลฯห้า ภายใต้สังคมไทยที่มีระบบกาตปกครองแบบเผด็จการทหารเป็นเวลารฝมกันหลายทศยรรษ ทั่วประดทศตกอยู่ในความหวาดกลัยต่อภัยของคอมาิวนิสต์ใกล้บ้สน ระบบการศึกษาแบบด้านเดียว ขาดกาีศึกษาคันคง้าหาความจริง ขาดการวิพากษ์วิจารณ์ และเน้นหนัำที่ลัทธิชาตินิยส-ส่วนกลางนิยม-ผู้นำนิยม ไม่สนใจท้องถิ่น และไม่สนใจเรียนรู้และใำนึกในภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถื่นภายใต้บรอบททางสังคมเังกล่รว เอกสารคำสอนและวิทยานิกนธ์ส่วตใหญ่จึงนอพย้ำอุดมการณ์เดิมๆของรัฐ โดยเฉพาะความจำเป์นในการรวมศูนย์อพนาจของรัฐ ความตำเป็นที่จะต้องเลื่อมั่นในนโยบายของสยามรัฐ และความจำเป็นที่จะต้องยุติสำนึกรักท้องถิ่นหรือความคิดแบวที่เรียกว่าการปกครองตนเองในีะดับท้แงถิ่น (Local qelf godernment)ทั้งหมดที้กล่าวมานี้ คือดอกผลของการดำเตินนโยบายยึดครดงประเทศราช ผนวกดินแดนให้เป็นผืนเดียย และรยมศูนน็อำนานเข้าสู่ส่วนกลางตลอดช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาแก่นสารของนวนิยาย รากนครา ตึงมิใช่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ราก ของนครม แต่เป็นดอกผลของการดำเนินนโยบายเหล่านั้น และนวนิขายเรื่องนี้ก็คือการตอกย้กความเชื่อเดิมๆทึ่ดำเนินมานานอลัว แต่ำด้ช่วยเผยแพร่ความิชื่อนั้ยให้แก่ผู้อ่านที่เป็นคนรุ่นใกม่ในสังคมที่ไม่เห็นความยำคัซของการศึกษมวิขาป่ะวัติฯาสตร์ประเด็นที่สอง แต่เนื่องจากสังคมปัจจุบันกำลัฝก้าวสู่สุคแห่งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540 ท้องถื่นกำลังได้รับการส่งะสริมให้ปกปักรักษาสิทธิเสรีภาพและศิลปวัฒนธรรม ขนบประเพณีของท้องถิ่นไว้ รากตคีา จึงเป็นนวนิยายหลงจุคยุคสมัยที่ปาะบาธิปไตบท้องถิ่นดำลังเบ่งบาน ประชาชนได้รุบการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศทุกๅระดับ โดยเฉพาะการเลือกตัังและการตรวจสอบดารบริหารชองรดบบราชดารและนักการเมืองทุกระดับ นวนิยายแห่งยุคสมัยจึงต้องนุดประกายความคิดที่หลากหลาย กล้าทายท้า อละแสวลหาการเปบี่ยนแปลงทำไม คนรูปงาม นิสัยดี มีการศึกษาสูว จะต้องส่งเสริมการรวมศูนย์อำนาจ หลงใหลดินแดนอื่น และดูถูกสติปัญญาและผู้คนของท้องถิ่นตนเองเช่นเจ้าศุขวงศฺ และทำไมจะต้องให้เจ้าหน่อเมทองที่มีหัวใจระกท้องถิ่น มีหน้าตาโหดหิน นิสัยหยาบกร้าน อารมณ์แปรปรวน และดื้อรั้น ฯลฯนวนิยายเรื่องนี้เขียนถึลยุคสมัยเมื่อ 1 ศตวรรษที่แลเว แต่ไม่ได้เขียนขึ้นในยุคสงครามเย็นหรือยุคเผก็จการทหาร แต่ผู้ประพันธ์แตางเรื่องนี้เมื่อปี พ.ศ. 2530 หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬและท่ามกลางการปฏิรูปทางการเมืองในระหว่างปี พ.ศ. 2538-2540เมื่อปี พฐศ. 2535 ลัยอนันต์ สมุทวณิช ยักรัฐศาสตร์คนสำรัญของประเทศได้ตีพิมพ์หาังสือชื่อ 109 ปีแห่งการปฏิร๔ประบบราชการ: วิวัฒนาการของอำนาจรัฐและอำนาจกา่เมืองซ หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาบางตอนที่ท้าทายแนวความคิดที่ครอบงำสังึมไทยมากว่า q ศตวรรษนั่นคือ าักยิชาการท่่นนั้นเห็นว่ารัฐสยามในสมัขรัชกาลที่ 5 เป็นสังคมพหะลักษณ์ มีชนชาติที่หลากหลาย มีชนชาติที่ทิได้เรียกตนเองว่าไทย อาศัยอยู่ในถาคสต้ ภาคตะวันออแเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ดังนั้น รัฐสยามในตอนนั้นจึงมีศักยภาพพอที่จะจัดตั้งเป็นสหพันธรัซ (Federal statw) หรือสมาพันธรัฐ (Confederal state) (หน้า 2-6) กล่าวอีแแง่หนึ่ง รัฐสยามใยเวลานั้นไม่จำเป็นต้องเป็จรัฐืี่รวมศูนย์อำนาจ และทำลายอำนาจของผู้ปกครองท้องถิ่นตลอดจนศิลปวัฒนธรรใยองา้องถิ่นจนหมดนิ้นก็ได้แต่นั่นก็เป็น พฦศ. 2535 ที่กระแสพารเรียกร้องให่มีการกระจายอำนาจเพิ่งเริ่มต้น และในสังคมไทยที่มีคนจำนวนน้อยนิดสนใจการศึกษาค้นคว้สเมื่อเทียบกับจำนวนึนที่ชอบดื่มสุรานอกและซื้อสินค้านอก ช้อเสนอของบัยอนันต์จึงไม่มีใครสนวจนำไปอภิปรายต่อแต่ในห้วงเกือบ 1 ทฬวรรณืี่ผ่านมานับแต่นั้น สังคมไทยได้ก้าวสู่ยุคแห่งการกีะจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างที่ไม่เียปรากฏมาก่อน นี่ึือ บริบททางสังคมแบบใหม่ ส้งคมไทยเริ่มหันเหออหจากกรอบความคิดรั,รวมศูนย์ อละวึฒนธรรมชัีนสูฝไปหาการใส่ใจภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ศิลปินพื้นบ้าน ปักษ์ใต้บ้านเรา อีสาสบ้านเฮา ของกิ๋นคนเมือง ป่าชุมชน สิทธิชุมชน ชุมชาเข้ม แข็ง แม่น้ำท่าจีนรำลึก พิษณุโลก 2020 ลำพูน 1400 ปี เชียงราย 738 ปี ความหลาพหลายทางชีวภาพ สิทธิของชนกลุ่มน้ดย มูลนิธิเด็ก นามสกุลของสจรี ฯล๖ในทางการเมือง กสรรณรงค์มห้มีการเลือกตั้งผู้ว่ารทชการจังหวัดและนายพเทศมสตรีโดยตรง การเลื่อนฐานะเทศยาลเมืองเป็นเทศบนลนคร การพัฒนา อบต. การปรับปุ่ง อบจ. การจัดตั้งคฯะกรรมการกำหนดแผนและชั้นตอนการกระจายอำน่จสู่ท้องถิ่จ พรบ. ปฏิคูปการศึปษาแห่งชาติ ตลอะจตการหันกลัขไปตรวจสอบนโยชายรวาศูนย์อำนาจมากเกินไปในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา ฯลฯนี่คือตัวอย่างของบริบททางยังคมแขงใหม่ในช่วงเกือบ 1 ทศวรรษท้่ผ่านสาในดืานการสิ่อสารและวัษนธรรม ะพลงและรายการวิทยุที่ใช้ภาษาท้องถิ่นทัรวทุกภาคของปรถเทศ นวติยายืี่มีินื้อหาเกี่ยวกับศอลแวัฒนธรรมท้องถิ่น การปกปักีักษาทรเพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น การพิทึหษ์สิ่งแวดล้อม การขี่จักรยาน การสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง การพูดถึงความรักของครอบครัวและการต่ดสู้ของคนระดับล่าง กระทั่ง การหัรไปเขียนเคื่องสายสัมพันธ?ระหว่างเมืองหลวงกับตัฐหรือหัวเมืองต่างๆ ไา่ว่าจะเป็นสุโขทัย อยุธยา นครวัด หลวงพรับาง ล้านาา หริภุญไชย โยนก เชียงตุง เชียงรุ่ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป์นดอกผลขอวบริบททางสังคมแบบใหม่ในแงานี้ การแุบัติบึ้นของ รากนครา จึงไมืใช่เรืทองแปลก ที่นวนิยาบนี้แถลงจุดประสงค์ว่าสาใจบทบาทของสตรี เธอผู้เสียสละเพ้่อส่วนรบใ และเรียแรีองให้คนอ่านหันไปยนใจประวัติศายตร์ของคนไทกลุ่มต่างๆทเ้งใตและนอกประเทศที่ได้ถูกละเลยมายาวนาน โดนเฉพาะิยทางยิ่ง ศิลปวัษนธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นหากเป๋นคนที่อยู่ในขบวนนำของการต่อสู้เพ้่อสร้าลบริบททางนังคมแบบใหม่น่้ พวกเขาก็คือ คนที่เห๋นว่าต้องกล้าลงม่แทำเพท่อสร้างสิ่งใหม่ที่ดึต่อสังคมส่วนรวม ส่วนจะมีคนเดินตามเพราะเห็นว่าเป็นแฟชั่นที่น่าติดตาม หรือเพราะเห็นว่าสินค้าเก่าๆในตลาดเริ่มขาบไม่_ด้แล้ใ ต้องหาเรื่องรนวใหม่ๆ มุใใอบใหม่ๆ ก็ไม่เป็น_ร จะช้าหรือเร็ว หรือจะเดินตามใครก็ไม่สำคัญ ขอให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องก็นับเป็นเรื่องที่ดีทั้งสิ้นรากนครา ให้ความสนใจต่อบทชาทของสตรีโดยเฉพาะสตรีท้องถิ่จ ซึ่งเป็นจุดขายสภคัญใสยังคมวุคใฟม่ ยิ่งกว่านี้น ยังเสนอภาพการใละชีวิตของเจ้านางแม้นเมืองได้อย่างยอ่งใหญ่ อต่ความตายขแงิธอก็ไม่ไแ้ช้วยอะไรให้อก่บ้านเมืองเมืองเชียงเงินต้องสูญสิ้นเอกราช โดยที่คนอยู่หลังไา่รู้ว่าเอกราชมีความหมายอย่างไรเมืองของเจ้าศุขวงศ์และล้านนาสูญสิ้นความเป็นตัวของตัวเองอย่างสิ้นเชิง เพตาะคิดว่าๆปรวมกับคนอื่น เดินตามคนอื่น คือทางรอดมางเดียวปล้วทางรอดจัืนคืออะไค้ล่า เจ้าศุขวงศ์ตดบได้ไหม ล้านนาวุนนี้มีอะไรเหลือ นอกจากศิลปวัฒนธรรมเชิงพาณเชย์ การสวมขุดเตืานายและเจ้านางเพื่อถ่ายที่ร้านถ่ายรํป หรือที่สนามบินแลุเก็บไว้เป็นที่ระลึก คุณค่าของแผ่นดินนี้ดูเหมือนจะมี 4 อย่าวเมื่อล้านยาถูกแบ่งัป็นหน่วยการปกีีองระดับจังหวัด ข้าราชกาคถูกส่งมท่ำงาน 2-3 ปี แล้วก็ย้ายไปมาระหว่างจังหวัดหรือยเายไปภาคอื้น ก็รือเป็นพื้นที่ให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคได้มาทำงานชั่วคราวเพื่อไต่เต้าความก้าวหน้าในการรับราชการ และเป็นพื้นที่วห้ข้าราชการส่วนกฃางได้มาเยี่ยาเยือนอย่างสม่ำเสมอ เป็นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาเห็นศิลปวุฒนธรรมที่ ดูเหมือน แตกต่างออกไปจากระดับชาติ และให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้มาสัมผัสบรรยากาศป่าเขา และอากาศหนาวิย็นช่วงสิ้นปีเป๋นพื้นที้ธุรกิจ การศึกษส แชะการลงทุนด่านต่างๆใำหรับคนที่จัแสวงหรโอกาสใหม่ๆจากทั่วประะทศ ในเมื่อรัฐส่งเสริมการท่องเทีรยว ผู้คนก็มักคิดกันว่าว่อมสามารถทำธุรกิจอย่างอื่นๆได้ จนในืี่สุดที่โฆษณาว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผลกฺคือล้านสาเป็นได้ทุกอจ่าง ขอแต่ให้คนไทยที่แมวงหารานได้จะลงทุน ตะมาทำอะไรก์ไดีหมดแลเ เป็นพื้นที่พักผ่อน เป็นบีานที่สอง เป็นบ้านพักหละงอำลาชีวิตราชกาน ฯลฯลูกหลานของเจ้าศุขวงศ์ก็ต้องดื้นรนหาอยํ่หาก้นไปวันๆ มมาชิกสกุลเจ้านายท้องถิ่นส่วนหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่เหลือก็ทำงานในท้องถิ่น มีอยู่ไส่กี่คนที่ดขายกย่องฝห่เป็นเจ้านายฝ่ายเหน้อสังคมไทยในทศวรรษที่ 3540 เป็นสังคมที่มีการ้ปลี่ยยแปลงหลายด้าน อย่างน้อยที่สุดก็คือ มีความใส่ใจในเรื่องท้องถิ่น บทบาทของพาคประชาบน สิ่งแวดล้อม และีุณภาพชีวิตมากชึ้น แต่น่าเสียดายทร่ผู้กระพันธ์มิได้หยิบเอาประเด็นดก่าๆมาพิจาีณาด้วยมุมมองใหม่ๆควาใดีบางข้อขอล รากนครา ได้แก่ยทเรียนจากชีวิตคู่ของพระัอก0นางเอก ที่เฉลียวฉลาดทั้งตู่ แต่กลับมีความสัมพันธ์กันเพียงกาย ไม่มีความสัมพันธ์ทางสติปัญญา การขาดการสื่อสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันตลอแมา ฝ่ายหญิลที่มุ่งสั่นเสียสละเพื่อบ้านเมือง ลงท้ายก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมื่อรวมท้องถิ่นเข้ากับสยามแล้ว เชียงเงินกับล้านนาจะ_ด้อะไรส่วนฝ่ายชายที่เชิดชูการนำของสยามเหลือเกิน และคิดว่าจะรอดพ้นจ่กเงื้แมมือของชาติาหาอำนาจ ลงท้ายก็ไม่เข้าใจว่าสยามาั้นเป็นรัฐเอกราชหรือรัฐกึ่งเสือลขึ้น อธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดสยามกับล้านนาติองอสีบเปรียบต่างชาติเรื่อยมาและอธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดในกมารวมเป็นแผ่นดินเดียวกันกับสนาม ล้านนาต้องสูญเสีขแทบทุกอย่าง น่าเสียดายมี่อัตส่าห์ไปเรียนถึงสิงคโปร์ – เมืองยึ้นของอังกฤฒ เย้าศุขวงศ์ไม่ได้เรียนรู้ว่าชาติตะวันตกนั้นวิธีการจัดการชาติด้ิยพัฒนาหลมกหลายวิธี เข่น ยึดเป็นเมืองขึ้นอย่างสมบูรณ์ หรือควบคุมและครอบงำนฑยบายการเมืองอละเฒรษฐแิจด้วยสนฑิสัญญา ปล่อยให้สถาบัจการปกครองคงอยู่ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่านั่นเป็นรัฐเอกราช ทั้งๆที่เป็นรัฐกึ่งเมืองขึ้น และสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นอาณานิคสไรือรุฐกึ่งเมืองขึ้น ขาติตะวันตกก็ควยคุมระบบการผลิตด้วยการแบ่งงานระดับสากล )Internationzl division of labor) กำหนดให้ชาติไหนปลูกข้าวเะื่ดส่งออก ปลูกวางพารา ไม้สัก ดีลุก ชาติไหนทำโรงฝานผลิตสิ่งทอ ชาติไไนผลิคอาหารทะเล ชาติไผนผลิตน้ำตาล ฯลฯเจ้าศึขวงศ์รับรู้เต็มอกว่าเจ้าหน่แเมืองแลัเมืองเชียงเฝินคิดการใหญ่ ไม่ยอมขึ้นต่อสยามหรือพม่า เขารู้ว่าจะไท่ปล่อยให้เชียงเงินหลุดสือ และเขนมีหา้าที่พิทักษ์ผลประโขชน์ขเงสยาม แต่เขากลับไส่คิดพ฿ดจาหรือเตคียมการป้องกันใดๆแม้เจ้านางแม้นเม้องจะชาญฉชาด แต่เธอก็เป็นหญิงในสังคมฯักดินาที่ไม่มีสิทธอพูดจากับสามีไดมากนัก แร่สำหรับเจ้าศุขวงศ์ หู้มีหทรศึแษาสูง แต่วิธีคิดวิธีทำงานบองเขานั้นนอกจากจะทำลายเลียงเงินและล้รนนา ยังมีย่วนสหคัญในการหยิบยื่นคฝามตายใก้แก่เจ้าจางแม้นเมืองด้วยในที่มุด รากนครา จึงเป็นนวนิยายที่ยอดเยี่จมวนด้านกสรสร้างอสรมณ์สะเทือนใจ แต่ไม่มีอะไรใหมทในอ้านอื่นๆ นอกจากเสนอทัศาะเก่สๆ เช่น บรรสายความโหดเผี้ยมของผู้นำพมีา (คงจะเชื่อหนังสือ พม่าเสียเมือง ของ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เพียบเล่มเดียว) ยกย่องความเำ่ลของคนไทยว่ารู้เท่าทันต่างชาริจนฝรั่งต้องยอมรัย กลายเป็นลัทธิชาตินิยม และมองเห็นแต่ด้านดีของผู้นพจนกลายเป๋นลัทธิบูชาบุคคลผู้เขียนอยากจะเชื่อว่า รากาครา จะได้รับรางวัล แม้ผู้เขียนยังำม่/ด้อ่านนวนิยายเรื่องอื่น อพนาะเรื่องนี้สีจึดเด่นหลายข้อ คือ ผํ้ประพันธ์เรียกร้องใป้คสไทยยพย่องคนที่เสียสละเพื่อบ้านเมือง เชิดชูผู้นำสยาม ยกย่อบนฏยบายการรวมศูนย์อำนาจ นำเอาความรักและท้องถิ่นมาอธิบายสนับสจุนนโยบายของประดทศชาติ และสำเสนอโศกนาฏกรรมได้อยทางยอดเยี่ยมซึ่งทั้งหมดน่ทจดสอดคล้องกับควาสเห็นของกรรมการซึ่งเป็นผู้หลักผูิใหญทในสังคทที่แม้บริบททางสังคมจะ้หลี่ยนแปลงหลายด้าน แต่พวกเขาน่าจดยังคงพอใจกับแนวคิดหลักๆในช่วง 1 ศตวรรษที้ห่านมาแน่นอน สังคมไทยยุคปัจจุบันไม่ควรอ่านนวนิยายหลงจุคแบบนี้ หนังสือที่สังคมไทยควรอ่านควรจะเป็นงานที่มีจินตนาการกว้างไกล เปิดขอบฟ้าทสงความรู้และความคิดให้คนอ่่น ไม่ว่าจะดป็นเรื่ดงราวเกี่ยวกับอดีตหรือปัจจุบัน เพื่อฝห้คนอ่านมองเห็นอดีตด้วยมุมมองใหม่ๆ ตั้งคำถาสกับแนวคิดเก่าๆซึ่งเป็สผลประโยชย์ขดงคนเพียงบางกลุ่ม และมองเห็นปัจจุบเนและอนาคตอย่างคนที่มีสติปัญญาแตกฉานบ่ความชิ้นนี้เขียนขึ้น้มื่อวันที่28กรกฎาคม2543ซ แต่ต่อมาในปัจจุบัน ละครโทรทัศร์เคื่อบรากนคราได้ถูกสร้างและนำมาเผยแพร่ใหม่ จึงได้มอบบทความชิ้นนี้ให้ประลาไาได้เฟยแพร่จ่อสาธารณะเผื่อเป็นกานเสยอหงักฐมนทางประวัติศาสตค์ที่เกี่ยยข้องกับนวนิยายแลดละครโทรท้ศต์เรื่องนี้ให้รรบถ้วน
(ผู้อ่าน) มึนงง เหมือนเดินอยู่ในเงามืด นักเขียนควรที่จะช่วย จุดเทียนสักเล่มให้ (ผู้อ่าน) มี แสงสว่าง ให้พวกเขาคลายอึดอัดเมื่อปี พ.ศ. 2540 นวนิยายเรื่อง รากนครา เขียนโดย ปิยะพร ศักดิ์เกษม ปรากฏในนิตยสาร สกุลไทย เป็นตอนๆ และรวมพิมพ์เป็นล่มเป็นครั้งแรกในปลายปีเดียวกัน ต่อมา นวนิยายเรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลชมเชยจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ในการประกวดหนังสือดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2541ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ในปีนี้ ได้มีรายการโฆษณาทางโทรทัศน์ช่อง 7 ว่า รากนครา จะเป็นละครโทรทัศน์ในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ล่าสุดเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่านวนิยายเรื่องนี้ติด 1 ใน 6 เล่มสุดท้ายของนวนิยายไทยที่ส่งเข้าชิงรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2542 และจะมีการประกาศผลรางวัลซีไรต์ในเดือนสิงหาคมนี้จากข่าวที่ปรากฏ ดูเหมือนว่าสังคมไทยในช่วงล่าสุดกำลังยกระดับการแสวงหาประโยชน์จากการทำวรรณกรรมให้เป็นแบบพาณิชย์ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการตระเตรียมแสวงหาผลประโยชน์ก้อนใหญ่จากวรรณกรรมชิ้นหนึ่งทั้งจากผลการประกวดรางวัลระดับภูมิภาค การขายหนังสือ การแปรวรรณกรรมเป็นละครโทรทัศน์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ฯลฯด้วยความสำเร็จและชื่อเสียงของนวนิยายดังกล่าว และความโด่งดังที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเมื่อมีการประกาศผลรางวัลซีไรต์ในเร็วๆนี้ ก็เห็นว่าถึงเวลาที่จะพิจารณานิยายเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียทีรากนครา เป็นนวนิยายเกี่ยวกับความรัก การชิงรักหักสวาท และการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างผู้นำของรัฐต่างๆในอดีต โดยใช้ความรักและความเสียสละของเจ้าหญิงคนหนึ่งเป็นแกนกลางของเรื่องรื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ได้วิจารณ์ไว้ในนิตยสาร สกุลไทย ฉบับวันที่ 28 เมษายน 2541 ว่า เป็นนวนิยายแนวจินตนิยายโรแมนติกทั่วไป เธอเห็นเว่านวนิยายเรื่องนี้เป็นจินตนิยายโรแมนติกที่โดดเด่นอย่างน้อยที่สุด 2 ข้อ คือ นำเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ เมื่อราว 100 กว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างล้านนา พม่า และอังกฤษ มาผสมผสานกับตัวละครในจินตนาการของผู้เขียนได้อย่างแนบเนียนจนเหมือนกับว่า นวนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆเมื่อ 100 กว่าปีก่อน นำเสนอการเสียสละชีวิตรันทดของตัวละครนำฝ่ายหญิงได้อย่างเห็นภาพ สามารถสร้างความสะเทือนอารมณ์ให้แก่ผู้อ่านอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ตายเป็นเจ้าหญิงที่งดงามยิ่ง เฉลียวฉลาด นิสัยดี และตลอดชีวิต มีแต่เสียสละเพื่อคนอื่นและเพื่อบ้านเมืองเจ้านางแม้นเมืองมีความรักและพร้อมที่จะเสียสละทุกสิ่งเพื่อบ้านเกิด ซึ่งเป็นทัศนะตรงข้ามของทัศนะของเจ้าชายผู้เป็นสามี ผสานเข้ากับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ คิดว่าสามีไม่รักเธอ และยังถูกบีบคั้นด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่เขม็งเกลียวระหว่างพี่ชายและสามีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เนื่องจากทัศนะตรงกันข้ามกัน นางเอกจึงยอมสละชีวิตของตนเองด้วยการปลอมตัวเป็นสามี เพื่อให้พี่ชายประหาร และด้วยหวังว่าความตายของตนเองจะทำให้สถานการณ์ทุกๆด้านดีขึ้น และทำให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยผู้ประพันธ์สามารถชี้ให้เห็นชีวิตรันทดของเจ้าหญิง 2 คนที่ถูกผู้ปกครองกำหนดชะตาชีวิตให้ต้องแต่งงานกับชายคนใดคนหนึ่งเพื่อรับใช้เป้าหมายและนโยบายทางการเมืองในขณะนั้น โดยไม่คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าตัวแม้แต่น้อยแต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประพันธ์มิได้พูดไว้เลย ก็คือ นั่นเป็นสังคมศักดินา ที่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชาย นางสนมหรือทหารชั้นล่าง บ่าวไพร่ในเมืองหรือรอบนอก ไพร่หญิงหรือไพร่ชาย ทาสหญิงหรือทาสชาย ทุกคนล้วนมีฐานะคล้ายกัน คือไม่มีใครมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลในระบบสังคมดังกล่าวเจ้าชายหรือเจ้าหญิง มเหสีหรือนางสนม ขุนนางฝ่ายต่างๆเหนือกว่าไพร่ทาสตรงที่พวกเขาไม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรับใช้ระบบการผลิตและการปกครอง พวกเขาสามารถออกคำสั่งกับไพร่ทาสในบังคับของพวกเขาได้ และโอกาสที่พวกเขามีมากกว่าไพร่ทาสหลายเท่าก็คือ การต่อรองกับผู้ที่อยู่เหนือกว่า ซึ่งอาจจะได้หรือไม่ได้ตามความหนักเบาของแต่ละสถานการณ์ หรือการปั้นแต่งเรื่องราวให้ดูมีน้ำหนัก ซึ่งแน่นอน อาจจะใช้ได้ผลเพียงครั้งเดียวหรือไม่ได้ผลเลย ฯลฯนี่คือนวนิยายเกี่ยวกับพฤติกรรมและการตัดสินใจของชนชั้นสูง ที่พอจะมีทางเลือกหลายทางให้แก่ชีวิต ไม่ใช่ของไพร่ทาสที่ทางเลือกนั้นมืดมน นอกจากการลุกขึ้นสู้หรือหลบหนีเข้าป่าดง และนี่น่าจะเป็นสีสันของนวนิยายเรื่องนี้ว่าชนชั้นสูงจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ถึงอย่างไร สังคมศักดินาก็คือสังคมศักดินา ที่เปี่ยมด้วยโซ่ตรวนทางชนชั้นที่ร้อยรัดมวลสมาชิก ตลอดจนปัจจัยแวดล้อมของรัฐและสถานการณ์ระหว่างประเทศในยามนั้น ซึ่งอาจเป็นสายโซ่ใหญ่ที่หลายครั้งหลายคนมองไม่เห็นหรือทำเป็นมองไม่เห็นปัญหาแรก แก่นสารของนวนิยายเรื่องเป็นคนละเรื่องกับเจตนาของผู้ประพันธ์ ในการรจนานวนิยายเรื่อง คุณปิยะพร ศักดิ์เกษมกล่าวไว้ในคำนำว่า ที่ผ่านมา สังคมคิดถึงและยกย่องแต่ผู้นำ นักรบและนักปราชญ์ แต่น้อยนักที่สังคมจะคิดถึงคนที่เสียสละเพื่อปกป้องรักษาบ้านเมือง ที่ผ่านมา สังคมแทบไม่เคยคิดถึงรากของต้นไม้ ที่ซุกตัวอยู่ในดิน ไม่เคยคิดถึงหัวอกของสตรีที่เป็นเสมือนหมากเบี้ย สุดแต่ว่าผู้นำของบ้านเมืองจะกำหนดให้เธอและคนมีชีวิตอย่างไรผู้ประพันธ์เห็นว่า คนที่เสียสละเหล่านั้นคือ ราก ของบ้านเมือง บ้านเมืองอยู่ได้เพราะ ราก เป็นเจตนาที่ต้องการเน้นลักษณะบทบาทของสตรี แต่ไม่ว่าผู้ประพันธ์จะแสดงเจตนาอีกกี่หน้าและกี่ครั้ง แก่นสารของนวนิยายเรื่องก็ไม่ใช่บทบาทการเสียสละของเจ้านางแม้นเมืองหรือเจ้านางมิ่งหล้า พวกเธอหาใช่ ราก ของนคราไม่ แต่เป็นดอกผลของนโยบายการรวมศูนย์อำนาจของรัฐสยามในห้วง 100 กว่าปีที่ผ่านมาต่างหากนวนิยายเรื่องนี้กล่าวถึง 3 ทัศนะของเมืองต่างๆในล้านนาซึ่งเป็นประเทศราชของสยามในยุคนั้น ทัศนะแรก เป็นของเจ้าน้อยศุขวงศ์ - พระเอกของเรื่องซึ่งถูกเจ้าพ่อนำไปฝากฝังกับขุนนางสยามที่รับคำสั่งให้ขึ้นมารับราชการในล้านนา (หน้า 15) ต่อเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสสิงคโปร์ เจ้าศุขวงศ์จึงถูกส่งไปเรียนหนังสือที่นั่น จากนั้น จึงกลับมารับราชการในเมืองหลวงจนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ในที่สุด ก็ได้รับคำสั่งให้กลับคืนสู่เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในล้านนาอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนและอยู่ไม่ไกลจากเชียงใหม่ (หน้า 17) อันเป็นศูนย์กลางของประเทศราชล้านนาเจ้าศุขวงศ์กลับขึ้นมาทำงานในฐานะตัวแทนลับของสยาม โดยมีภารกิจสำคัญ 2 ประการ คือปกป้องมิให้อังกฤษเข้ามาแย่งชิงล้านนาไปจากสยาม และปรับเปลี่ยนความคิดและวิธีดำเนินชีวิตแบบเดิมของคนในท้องถิ่นให้สอดคล้องกับระบบการปกครองแบบใหม่คือระบบการรวมศูนย์อำนาจภายใต้การนำของสยามรัฐ (หน้า 30-31)การยอมเสียสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่ การเปิดสังคมเพื่อคบค้า การต่อรองอย่างรอบคอบและชาญฉลาด หากส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือการรวมตัวรวมกำลังกันให้เป็นปึกแผ่น กำหนดตำแหน่งและอาณาเขตให้แน่นอน รวมทั้งวางระเบียบกฎเกณฑ์ในเรื่องการค้า การปกครองและความสัมพันธ์ให้ชัดเจน นี่คือพระราชดำริที่มีต่อการแก้ปัญหาที่กำลังรุมเร้าอยู่รอบราชอาณาจักร และชายหนุ่มรู้ดีว่า นี่คือทางรอดทางเดียวของสังคมที่ด้วยเช่นกัน…ความใฝ่ฝันถึงการเป็นอิสระอย่างบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ แอบฝัน ควรจะยุติได้แล้วในเวลาและสถานการณ์เช่นนี้การรวมดินแดนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับการเข้าพึ่งพระบารมีและพระปรีชาญาณของพระมหากษัตริย์แห่งสยามเท่านั้นที่จะช่วยได้ (หน้า 13)…เท่าที่หลานรู้ทางบางกอกต้องการจัดระเบียบให้รัดกุมเป็นอันหนึ่งอันเดียว…ป้องกันมิให้พวกฝรั่งใช้เป็นข้ออ้างรุกรานเอาได้ เจ้าอาคงเข้าใจดีว่าพวกฝรั่งรุกบ้านรุกเมืองเรามากเหลือเกินอย่างเมืองม่านตอนนี้ก็ใกล้เข้าตาจนแล้ว หลานเห็นว่าการทำตามแนวพระราชดำริจะเป็นทางรอดทางเดียว. (หน้า 36) อยู่ตรงข้ามกับทัศนะแรก เจ้าหน่อเมือง – เจ้าราชบุตรแห่งเมืองเชียงเงิน พี่ชายของเจ้านางแม้นเมืองผู้เป็นนางเอก เชียงเงินเป็นเมืองในจินตนาการของผู้ประพันธ์ เป็นเมืองเล็กๆที่มีอาณาเขตด้านหนึ่งติดกับพม่า ผู้คนอยู่ครึ่งๆกลางๆดูเหมือนจะกระด้างกระเดื่องไม่เต็มใจเป็นประเทศราชของสยามแม้ว่าสยามจะไม่เคยก้าวก่ายยุ่งเกี่ยวด้วยมากมาย พวกเขาอยากเป็นอิสระมากกว่าอยู่ในอาณัติของใคร (หน้า 38) เจ้าหน่อเมือง ฝังใจเรื่องการเป็นอิสระ รักดินแดนและขนบธรรมเนียมของตัวเหลือเกิน (หน้า 36)ส่วน อยู่ตรงกลาง ด้านหนึ่ง ชื่นชมคนที่รักดินแดนและขนบธรรมเนียมของตนเอง อีกด้านหนึ่ง ก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น (หน้า 19 36)แก่นสารของ รากนครา ก็คือการยกย่องทัศนะแรก ชิงชังทัศนะที่สอง ผู้ประพันธ์พยายามทำให้ทัศนะแรกเป็นสิ่งเดียวกันกับความดีงามทั้งปวง ด้วยการสร้างภาพให้ศุขวงศ์ – ตัวแทนของทัศนะแรกเป็นชายหนุ่มที่มีทั้งรูปงาม นิสัยดี เฉลียวฉลาด รู้เท่าทันฝรั่ง แต่งกายดีและทันสมัย และทำให้ทัศนะที่สองเป็นสิ่งเดียวกันกับความไม่น่ารักน่านิยมของทัศนะที่สอง ด้วยการสร้างเจ้าหน่อเมือง (ตัวแทนทัศนะที่สองและยังเป็นคนท้องถิ่นที่ไม่เคยไปต่างประเทศผิดกับตัวแทนทัศนะที่หนึ่งที่เป็นคนท้องถิ่นเช่นกันแต่เคยไปเรียนต่อในต่างประเทศมาแล้ว) ให้เป็นคนหยาบกร้าน พูดจาไม่สุภาพ หัวดื้อ มุทะลุ เย่อหยิ่งทะนงตน ดูถูกผู้อื่น ไม่ยอมเรียนรู้จากผู้อื่นและสังคมอื่น ปิดหูปิดตาตัวเอง มีทัศนะด้านลบต่อคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมองเห็นแต่ด้านลบของพวกฝรั่ง (หน้า 21 39 65) ช่างเป็นการสร้างภาพตัวละครที่ผสมผสานเข้ากับคุณงามความดีได้อย่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้ทัศนะแรกที่ว่านี้ก็คือ ล้านนาจักต้องเป็นส่วนหนึ่งของสยาม อำนาจการปกครองท้องถิ่นของเมืองต่างๆจะต้องหมดสิ้นไป อำนาจการปกครองบังคับบัญชาจักต้องขึ้นต่อสยาม ผู้ประพันธ์ย้ำหลายครั้งมากว่า นั่นคือหนทางเดียวที่จะช่วยให้ล้านนารอดพ้นจากเงื้อมมือของมหาอำนาจจากตะวันตก (หน้า 31)100 กว่าปีที่แล้ว เจ้าศุขวงศ์ในนวนิยายถูกส่งไปอยู่กับฝ่ายสยาม ไปเรียนหนังสือที่สิงคโปร์อันเป็นดินแดนเมืองขึ้นของอังกฤษ และกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯจนสยามมั่นใจในจุดยืนจึงส่งตัวกลับมาทำงานบนแผ่นดินแม่ แต่รับใช้นโยบายของสยามแทน100 กว่าปีที่แล้ว เรื่องจริงคือ สยามเดินแผนล้ำลึกด้วยการขอหมั้นหมายเจ้าดารารัศมี - เด็กหญิงวัย 11 ขวบซึ่งเป็นธิดาองค์สุดท้องของเจ้าหลวงของเชียงใหม่ซึ่งเป็นประเทศราช จากนั้น ก็สั่งให้ลงไปถวายตัวเป็นสนมเมื่อเด็กหญิงมีอายุ 13 ชันษา ทั้งๆที่ไม่เคยพบหน้ากัน และว่าที่สามีก็มีมเหสีและสนมนับร้อยคนอยู่แล้ว และที่มีข่าวว่าอังกฤษโดยเฉพาะสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียสนใจปรารถนาจะได้เจ้าดารารัศมีวัย 13 ชันษาไปเป็นธิดาบุญธรรมเพื่อหวังพัฒนาสายสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับล้านนา สยามจึงจำเป็นต้องตัดหน้าขอเจ้าดารารัศมีไปเป็นสนม ก็ไม่มีหลักฐานใดๆเลยจากฝ่ายอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะอังกฤษเป็นชาติที่มีการบันทึกและเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ ถ้าหากมีข่าวว่าอังกฤษสนใจคิดจะเข้ายึดครองล้านนา หรือใช้การขอลูกสาวไปเป็นธิดาบุญธรรมเพื่อรุกคืบทางการเมืองและการทหารในขั้นต่อไป หลักฐาน 2 อย่างย่อมมีให้เห็นบ้าง แต่ไม่พบหลักฐานใดเลยดังนั้น การขอลูกสาวของเจ้าเมืองประเทศราชไปเป็นสนมจึงเป็น สยุมพรทางการเมือง ที่ไม่แตกต่างจากกรณีพม่าในสมัยพระเจ้าบุเรงนองของพระนางสุพรรณกัลยา-ราชธิดาของสมเด็จพระมหาธรรมราชาไปเป็นสนม สตรีทั้งสองจากประเทศราชเหมือนกันจึงมีสถานภาพเหมือนกันในประเทศเจ้าอาณานิคม นั่นคือ ตัวประกันทางการเมือง100 กว่าปีที่แล้ว ในความเป็นจริง รัฐบาลสยามดำเนินนโยบายรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางทีละขั้น เริ่มจากลิดรอนอำนาจของประเทศราชและท้องถิ่นทีละขั้น จากนั้น จึงยกเลิกฐานะของประเทศราช และผนวกดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่ง ต่อจากนั้นจึงดำเนินนโยบายการปกครองโดยสั่งทุกอย่างตรงจากส่วนกลาง โดยมีตัวแทนที่เป็นข้าราชการถูกส่งไปทำหน้าที่ปกครองดูแลท้องถิ่นเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2416 สยามลงนามในสัญญาเชียงใหม่ฉบับที่ 1 (Treaty of Chiengmai I) กับอังกฤษ เปิดทางให้สยามเข้าไปควบคุมดูแลการให้สัมปทานป่าไม้แก่พ่อค้าอังกฤษ เป็นการลดอำนาจเจ้าหลวงเชียงใหม่ในระยะแรกๆ พร้อมกันนั้น ก็จัดตั้งเชียงใหม่-ลำพูน-ลำปางให้เป็นหัวเมืองลาวเฉียง ส่งขุนนางทั้งหมด 72 คนเข้าไปปกครองหัวเมืองนี้โดยตรง นับเป็นการส่งคนเข้าไปบริหารงานโดยตรงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สยามเข้ายึดครองล้านนาเป็นประเทศราชในปี พ.ศ. 2317จากนั้น ก็อนุญาตให้ชาวจีนส่วนหนึ่งอพยพขึ้นไปเพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าภาษีนายอากรตามเมืองต่างๆ เป็นการหารายได้เข้ารัฐ และเป็นการเก็บภาษีแบบผลิตผล ไม่ได้เก็บเป็นเงินพ.ศ. 2426 สยามลงนามในสัญญาเชียงใหม่ฉบับที่ 2 กับอังกฤษ ลดอำนาจของเจ้านายในล้านนาและเพิ่มอำนาจของสยามในการให้สัมปทานป่าไม้แก่พ่อค้าอังกฤษ เพิ่มตำแหน่งบริหารต่างๆในเขตหัวเมืองพร้อมกับส่งข้าราชการจากเมืองหลวงขึ้นไปรับงานเหล่านั้น ลดอำนาจของการหารายได้ของเจ้านายในท้องถิ่น และค่อยๆเริ่มระบบเงินเดือนให้แก่เจ้านายท้องถิ่นพ.ศ. 2428 เปลี่ยนระบบการเก็บภาษีอากรจากพืชผลไปเป็นเงินสด เนื่องจากความจำเป็นด้านงบประมาณในส่วนกลางพ.ศ. 2432 เกิดกบฏพญาผาบหรือกบฏเชียงใหม่ที่ลุกขึ้นคัดค้านการเก็บภาษีอากรด้วยเงินสด เพราะชาวนาไม่มีรายได้มากพอ กบฏถูกปราบในปีต่อมาพ.ศ. 2435 สยามปฏิรูประบบการบริหารครั้งใหญ่ ก่อตั้งกระทรวงมหาดไทย และปรับปรุงระบบการส่งขุนนางจากสยามไปปกครองท้องถิ่นทุกหัวเมืองพ.ศ. 2440 เจ้าหลวงอินวิชยานนท์ – เจ้าหลวงเชียงใหม่ถึงแก่พิราลัยพ.ศ. 2442 ยกเลิกฐานะประเทศราชของล้านนา ผนวกดินแดนล้านนาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรพ.ศ. 2445 ปราบกบฏแพร่ที่ต่อต้านการรวมศูนย์อำนาจและการลิดรอนอำนาจท้องถิ่นพ.ศ. 2446 โศกนาฏกรรมระหว่างหมะเมียะกับเจ้าศุขเกษม ปัญหาเกิดจากเจ้านายเชียงใหม่แอบส่งลูกชายของเจ้าอุปราชคนหนึ่งคือเจ้าศุขเกษม (วัย 15 ขวบ) ไปเรียนต่อที่พม่าในปี 2441 และกลับมาในปี 2446 พร้อมกับสาวพม่าวัย 16 ปี โดยที่สยามไม่ทราบ สาวหมะเมียะจึงต้องถูกส่งตัวกลับเนื่องจากสยามไม่พอใจท่าทีดังกล่าวของผู้นำล้านนาและหวั่นเกรงความใกล้ชิดระหว่างล้านนากับพม่า เจ้าศุขเกษมอกหักเพราะรักถูกพลัดพราก ต้องจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 33 ปี ส่วนหมะเมียะไปบวชชีจนกระทั่งเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2505พ.ศ. 2446 อำนาจการปกครองตนเองของสงฆ์ในล้านนาถูกลิดรอน สยามจัดระบบรวมศูนย์อำนาจการปกครองสงฆ์ด้วยการก่อตั้งมหาเถรสมาคม เริ่มคำสั่งการแต่งตั้งเจ้าอาวาสของวัดทุกระดับจากส่วนกลางพ.ศ. 2453-55 ห้ามการเรียนการสอนภาษาล้านนาในห้องเรียนทุกระดับรวมทั้งในวัดต่างๆนี่คือความเป็นจริง ความเป็นจริงที่ปัจจัยภายนอกได้เข้าไปทำลายอำนาจท้องถิ่นลงทีละขั้นๆแต่ในนวนิยาย ผู้ประพันธ์สมมุติให้หนุ่มล้านนาเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศ และถูกส่งกลับบ้านเกิดในฐานะที่เป็นบุคลากรพื้นถิ่น เป็นหนุ่มรูปงามที่เฉลียวฉลาด มีกายเป็นล้านนา แต่ทัศนะและจิตใจกลับเป็นสยามอย่างสมบูรณ์100 กว่าปีที่ผ่านมานับแต่รัฐบาลสยามดำเนินนโยบายรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางได้อย่างสัมฤทธิผล และนโยบายดังกล่าวได้ดำเนินต่อมาเป็นลำดับ ความสำเร็จของนโยบายดังกล่าวได้เกิดดอกออกผลอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นหนึ่ง การเผยแพร่วิธีศึกษาประวัติศาสตร์โดยสำนักพงศาวดาร คือ ศึกษาอดีตโดยดูเฉพาะบทบาทของชนชั้นนำของเมืองหลวง เน้นอิทธิปาฏิหาริย์ ไม่เสนอบทบาทของท้องถิ่น มองเห็นแต่ด้านของฝ่ายกระทำ ไม่เคยมองบทบาทของฝ่ายที่ถูกกระทำ และขาดการศึกษาค้นคว้าแบบสหวิทยาการหนังสือ พงศาวดารโยนก ของพระยาประชากิจกรจักร์ (แช่ม บุนนาค) ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ถึง 7 ครั้งในระหว่าง พ.ศ. 2441 ถึง 2516 เป็นการเรียบเรียงเอกสารต่างๆที่เขียนเป็นภาษาล้านนามาเป็นงานภาษาไทย ไม่ใช่งานแปลเอกสารเล่มหนึ่งเล่มใด หลายสิบปีที่ผ่านมา การศึกษาค้นคว้าแทบทั้งหมดอ้างงานนี้ ไม่อ้างงานชั้นต้น เพราะยากจะหาใครสนใจอ่านภาษาที่ทางการหวงห้าม การที่สยามส่งขุนนางคนหนึ่งขึ้นไปศึกษางานในท้องถิ่นแล้วรวบรวมเขียนงานใหม่ขึ้นมาเผยแพร่โดยทางการในสถานการณ์ทางการเมืองแบบ 2 ฝ่ายเช่นนั้น และแนวคิดก็เป็นแบบสำนักพงศาวดาร ที่มีบทบาทอย่างมากต่อการศึกษาตลอดช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาสอง การเผยแพร่แนวคิด ล้านนาไทย ซึ่งหมายความว่าล้านนาที่เป็นไทยหรือเป็นส่วนหนึ่งของไทย ไม่ใช่คำว่า ล้านนา ทั้งๆที่ไม่มีเอกสารเก่าฉบับใดใช้คำว่า ล้านนาไทย หรือล้านนาพม่า หรือล้านนาลาว ก็คือการสร้างความคิดชี้นำ ไม่ใช่การเสนอข้อเท็จจริงสาม การเผยแพร่ทัศนะที่ว่าอังกฤษต้องการยึดครองล้านนา ทำให้สยามไม่มีทางเลือก เป็นการเสนอที่จนบัดนี้ก็ยังหาหลักฐานจากอังกฤษไม่พบ แต่พิจารณาจากบทบาทของอังกฤษและสยามช่วงก่อนหน้าและหลัง สยามขยายบทบาทเข้าไปในล้านนามากขึ้นเป็นลำดับ และมีทั้งเอกสารที่ระบุว่าสยามต้องการยึดครองล้านนา ขณะที่อังกฤษพอใจมากที่สยามยอมลงนามในสัญญาบาวริ่ง พ.ศ. 2398 เพราะได้รับประโยชน์อย่างมากจากสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ หลังจากที่อังกฤษชนะพม่าในสงครามครั้งแรก พ.ศ. 2368 และได้เข้ายึดครองพม่าตอนใต้ พ่อค้าอังกฤษเข้าไปทำธุรกิจไม้สักกับเจ้านายในล้านนาได้อย่างเต็มที่ อังกฤษวุ่นวายมากพอในการยึดครองลังกา อินเดียและพม่า ต้องการซื้อไม้สักเท่าใดจากล้านนาก็ซื้อได้ อีกทั้งหากอังกฤษเข้ายึดครองล้านนาก็อาจมีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสที่เข้าไปในลาว อังกฤษสนับสนุนรัฐบาลสยามในการปราบกบฏเชียงใหม่และกบฏแพร่ ถ้าหากอังกฤษมีนโยบายอย่างอื่น อังกฤษย่อมไม่สนับสนุนอิทธิพลของสยามในล้านนาผิดกับสยามที่ดิ้นรนกับการสร้างภาพว่าเป็นรัฐเอกราช ทั้งๆที่เป็นรัฐกึ่งเมืองขึ้น พยายามสร้างรัฐรวมศูนย์อำนาจด้วยการปฏิรูประบบราชการในปี พ.ศ. 2435 การลดอำนาจของท้องถิ่น และการผนวกดินแดนประเทศราชอย่างมีขั้นตอน ในสถานการณ์ที่รอบบ้านตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก นี่คือกลยุทธ์ของรัฐกึ่งเมืองขึ้นที่ชาญฉลาดในการเอาตัวรอด ด้วยการแสวงหาโอกาสที่พอมีขยายอาณานิคมและขยายเขตแดนในวงล้อมของลัทธิล่าอาณานิคมระดับสากลท่ามกลางการป่าวร้องว่าตนเองตกอยู่ในอันตรายของลัทธิอาณานิคม สยามกลับดำเนินนโยบายล่าอาณานิคมและดูดกลืนล้านนาเสียเอง จึงไม่อาจยอมรับความจริงในการกระทำดังกล่าว การหาแพะจึงเป็นทางออกที่น่าจะดีที่สุดสี่ เอกสารวิชาการโดยเฉพาะวิทยานิพนธ์ปริญญาโทหลายชิ้นในช่วงปี พ.ศ. 2510-2528 ต่างประสานเสียงกันอ้างว่าสยามจำเป็นต้องเข้ายึดครองล้านนา โดยชี้ว่าเนื่องจากกษัตริย์ล้านนาไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งเรื่องการให้สัมปทานป่าไม้สักที่ซ้ำซ้อน ภัยคุกคามจากอังกฤษ การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพของผู้นำท้องถิ่น ความอ่อนแอและล้าหลังของคนท้องถิ่น ฯลฯ เอกสารเหล่านี้เสนอมุมมองในทางทิศเดียวกันหมด ข้อมูลที่ใช้ล้วนเป็นข้อมูลของสยาม ไม่ได้ศึกษาข้อมูลของท้องถิ่น ไม่เคยเรียงลำดับข้อมูลเหตุการณ์ว่าสยามวางจังหวะก้าวในการรุกคืบอย่างไรเพื่อบรรลุการยึดครองและผนวกล้านนา สยามคัดเลือกผู้นำของประเทศราชอย่างไรจึงได้ผู้นำที่ด้อยความ สามารถ และสยามทำลายความเข้มแข็งและศักยภาพของท้องถิ่นอย่างไร ฯลฯห้า ภายใต้สังคมไทยที่มีระบบการปกครองแบบเผด็จการทหารเป็นเวลารวมกันหลายทศวรรษ ทั่วประเทศตกอยู่ในความหวาดกลัวต่อภัยของคอมมิวนิสต์ใกล้บ้าน ระบบการศึกษาแบบด้านเดียว ขาดการศึกษาค้นคว้าหาความจริง ขาดการวิพากษ์วิจารณ์ และเน้นหนักที่ลัทธิชาตินิยม-ส่วนกลางนิยม-ผู้นำนิยม ไม่สนใจท้องถิ่น และไม่สนใจเรียนรู้และสำนึกในภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นภายใต้บริบททางสังคมดังกล่าว เอกสารคำสอนและวิทยานิพนธ์ส่วนใหญ่จึงตอกย้ำอุดมการณ์เดิมๆของรัฐ โดยเฉพาะความจำเป็นในการรวมศูนย์อำนาจของรัฐ ความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมั่นในนโยบายของสยามรัฐ และความจำเป็นที่จะต้องยุติสำนึกรักท้องถิ่นหรือความคิดแบบที่เรียกว่าการปกครองตนเองในระดับท้องถิ่น (Local self government)ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือดอกผลของการดำเนินนโยบายยึดครองประเทศราช ผนวกดินแดนให้เป็นผืนเดียว และรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางตลอดช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาแก่นสารของนวนิยาย รากนครา จึงมิใช่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ราก ของนครา แต่เป็นดอกผลของการดำเนินนโยบายเหล่านั้น และนวนิยายเรื่องนี้ก็คือการตอกย้ำความเชื่อเดิมๆที่ดำเนินมานานแล้ว แต่ได้ช่วยเผยแพร่ความเชื่อนั้นให้แก่ผู้อ่านที่เป็นคนรุ่นใหม่ในสังคมที่ไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ประเด็นที่สอง แต่เนื่องจากสังคมปัจจุบันกำลังก้าวสู่ยุคแห่งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540 ท้องถิ่นกำลังได้รับการส่งเสริมให้ปกปักรักษาสิทธิเสรีภาพและศิลปวัฒนธรรม ขนบประเพณีของท้องถิ่นไว้ รากนครา จึงเป็นนวนิยายหลงยุคยุคสมัยที่ประชาธิปไตยท้องถิ่นกำลังเบ่งบาน ประชาชนได้รับการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศทุกๆระดับ โดยเฉพาะการเลือกตั้งและการตรวจสอบการบริหารของระบบราชการและนักการเมืองทุกระดับ นวนิยายแห่งยุคสมัยจึงต้องจุดประกายความคิดที่หลากหลาย กล้าทายท้า และแสวงหาการเปลี่ยนแปลงทำไม คนรูปงาม นิสัยดี มีการศึกษาสูง จะต้องส่งเสริมการรวมศูนย์อำนาจ หลงใหลดินแดนอื่น และดูถูกสติปัญญาและผู้คนของท้องถิ่นตนเองเช่นเจ้าศุขวงศ์ และทำไมจะต้องให้เจ้าหน่อเมืองที่มีหัวใจรักท้องถิ่น มีหน้าตาโหดหิน นิสัยหยาบกร้าน อารมณ์แปรปรวน และดื้อรั้น ฯลฯนวนิยายเรื่องนี้เขียนถึงยุคสมัยเมื่อ 1 ศตวรรษที่แล้ว แต่ไม่ได้เขียนขึ้นในยุคสงครามเย็นหรือยุคเผด็จการทหาร แต่ผู้ประพันธ์แต่งเรื่องนี้เมื่อปี พ.ศ. 2540 หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬและท่ามกลางการปฏิรูปทางการเมืองในระหว่างปี พ.ศ. 2538-2540เมื่อปี พ.ศ. 2535 ชัยอนันต์ สมุทวณิช นักรัฐศาสตร์คนสำคัญของประเทศได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ 100 ปีแห่งการปฏิรูประบบราชการ: วิวัฒนาการของอำนาจรัฐและอำนาจการเมือง. หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาบางตอนที่ท้าทายแนวความคิดที่ครอบงำสังคมไทยมากว่า 1 ศตวรรษนั่นคือ นักวิชาการท่านนั้นเห็นว่ารัฐสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นสังคมพหุลักษณ์ มีชนชาติที่หลากหลาย มีชนชาติที่มิได้เรียกตนเองว่าไทย อาศัยอยู่ในภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ดังนั้น รัฐสยามในตอนนั้นจึงมีศักยภาพพอที่จะจัดตั้งเป็นสหพันธรัฐ (Federal state) หรือสมาพันธรัฐ (Confederal state) (หน้า 206) กล่าวอีกแง่หนึ่ง รัฐสยามในเวลานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐที่รวมศูนย์อำนาจ และทำลายอำนาจของผู้ปกครองท้องถิ่นตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นจนหมดสิ้นก็ได้แต่นั่นก็เป็น พ.ศ. 2535 ที่กระแสการเรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจเพิ่งเริ่มต้น และในสังคมไทยที่มีคนจำนวนน้อยนิดสนใจการศึกษาค้นคว้าเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ชอบดื่มสุรานอกและซื้อสินค้านอก ช้อเสนอของชัยอนันต์จึงไม่มีใครสนใจนำไปอภิปรายต่อแต่ในห้วงเกือบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานับแต่นั้น สังคมไทยได้ก้าวสู่ยุคแห่งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นี่คือ บริบททางสังคมแบบใหม่ สังคมไทยเริ่มหันเหออกจากกรอบความคิดรัฐรวมศูนย์ และวัฒนธรรมชั้นสูงไปหาการใส่ใจภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ศิลปินพื้นบ้าน ปักษ์ใต้บ้านเรา อีสานบ้านเฮา ของกิ๋นคนเมือง ป่าชุมชน สิทธิชุมชน ชุมชนเข้ม แข็ง แม่น้ำท่าจีนรำลึก พิษณุโลก 2020 ลำพูน 1400 ปี เชียงราย 738 ปี ความหลากหลายทางชีวภาพ สิทธิของชนกลุ่มน้อย มูลนิธิเด็ก นามสกุลของสตรี ฯลฯในทางการเมือง การรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเทศมนตรีโดยตรง การเลื่อนฐานะเทศบาลเมืองเป็นเทศบาลนคร การพัฒนา อบต. การปรับปรุง อบจ. การจัดตั้งคณะกรรมการกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พรบ. ปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ ตลอดจนการหันกลับไปตรวจสอบนโยบายรวมศูนย์อำนาจมากเกินไปในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ฯลฯนี่คือตัวอย่างของบริบททางสังคมแบบใหม่ในช่วงเกือบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมาในด้านการสื่อสารและวัฒนธรรม เพลงและรายการวิทยุที่ใช้ภาษาท้องถิ่นทั่วทุกภาคของประเทศ นวนิยายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การปกปักรักษาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การขี่จักรยาน การสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง การพูดถึงความรักของครอบครัวและการต่อสู้ของคนระดับล่าง กระทั่ง การหันไปเขียนเรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างเมืองหลวงกับรัฐหรือหัวเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุโขทัย อยุธยา นครวัด หลวงพระบาง ล้านนา หริภุญไชย โยนก เชียงตุง เชียงรุ่ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นดอกผลของบริบททางสังคมแบบใหม่ในแง่นี้ การอุบัติขึ้นของ รากนครา จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่นวนิยายนี้แถลงจุดประสงค์ว่าสนใจบทบาทของสตรี เธอผู้เสียสละเพื่อส่วนรวม และเรียกร้องให้คนอ่านหันไปสนใจประวัติศาสตร์ของคนไทกลุ่มต่างๆทั้งในและนอกประเทศที่ได้ถูกละเลยมายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นหากเป็นคนที่อยู่ในขบวนนำของการต่อสู้เพื่อสร้างบริบททางสังคมแบบใหม่นี้ พวกเขาก็คือ คนที่เห็นว่าต้องกล้าลงมือทำเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ดีต่อสังคมส่วนรวม ส่วนจะมีคนเดินตามเพราะเห็นว่าเป็นแฟชั่นที่น่าติดตาม หรือเพราะเห็นว่าสินค้าเก่าๆในตลาดเริ่มขายไม่ได้แล้ว ต้องหาเรื่องราวใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ ก็ไม่เป็นไร จะช้าหรือเร็ว หรือจะเดินตามใครก็ไม่สำคัญ ขอให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องก็นับเป็นเรื่องที่ดีทั้งสิ้นรากนครา ให้ความสนใจต่อบทบาทของสตรีโดยเฉพาะสตรีท้องถิ่น ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญในสังคมยุคใหม่ ยิ่งกว่านั้น ยังเสนอภาพการสละชีวิตของเจ้านางแม้นเมืองได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่ความตายของเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้แก่บ้านเมืองเมืองเชียงเงินต้องสูญสิ้นเอกราช โดยที่คนอยู่หลังไม่รู้ว่าเอกราชมีความหมายอย่างไรเมืองของเจ้าศุขวงศ์และล้านนาสูญสิ้นความเป็นตัวของตัวเองอย่างสิ้นเชิง เพราะคิดว่าไปรวมกับคนอื่น เดินตามคนอื่น คือทางรอดทางเดียวแล้วทางรอดนั้นคืออะไรเล่า เจ้าศุขวงศ์ตอบได้ไหม ล้านนาวันนี้มีอะไรเหลือ นอกจากศิลปวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์ การสวมชุดเจ้านายและเจ้านางเพื่อถ่ายที่ร้านถ่ายรูป หรือที่สนามบินและเก็บไว้เป็นที่ระลึก คุณค่าของแผ่นดินนี้ดูเหมือนจะมี 4 อย่างเมื่อล้านนาถูกแบ่งเป็นหน่วยการปกครองระดับจังหวัด ข้าราชการถูกส่งมาทำงาน 2-3 ปี แล้วก็ย้ายไปมาระหว่างจังหวัดหรือย้ายไปภาคอื่น ก็คือเป็นพื้นที่ให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคได้มาทำงานชั่วคราวเพื่อไต่เต้าความก้าวหน้าในการรับราชการ และเป็นพื้นที่ให้ข้าราชการส่วนกลางได้มาเยี่ยมเยือนอย่างสม่ำเสมอ เป็นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาเห็นศิลปวัฒนธรรมที่ ดูเหมือน แตกต่างออกไปจากระดับชาติ และให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้มาสัมผัสบรรยากาศป่าเขา และอากาศหนาวเย็นช่วงสิ้นปีเป็นพื้นที่ธุรกิจ การศึกษา และการลงทุนด้านต่างๆสำหรับคนที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆจากทั่วประเทศ ในเมื่อรัฐส่งเสริมการท่องเที่ยว ผู้คนก็มักคิดกันว่าย่อมสามารถทำธุรกิจอย่างอื่นๆได้ จนในที่สุดที่โฆษณาว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผลก็คือล้านนาเป็นได้ทุกอย่าง ขอแต่ให้คนไทยที่แสวงหารายได้จะลงทุน จะมาทำอะไรก็ได้หมดและ เป็นพื้นที่พักผ่อน เป็นบ้านที่สอง เป็นบ้านพักหลังอำลาชีวิตราชการ ฯลฯลูกหลานของเจ้าศุขวงศ์ก็ต้องดิ้นรนหาอยู่หากินไปวันๆ สมาชิกสกุลเจ้านายท้องถิ่นส่วนหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่เหลือก็ทำงานในท้องถิ่น มีอยู่ไม่กี่คนที่เขายกย่องให้เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือสังคมไทยในทศวรรษที่ 2540 เป็นสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน อย่างน้อยที่สุดก็คือ มีความใส่ใจในเรื่องท้องถิ่น บทบาทของภาคประชาชน สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ผู้ประพันธ์มิได้หยิบเอาประเด็นเก่าๆมาพิจารณาด้วยมุมมองใหม่ๆความดีบางข้อของ รากนครา ได้แก่บทเรียนจากชีวิตคู่ของพระเอก-นางเอก ที่เฉลียวฉลาดทั้งคู่ แต่กลับมีความสัมพันธ์กันเพียงกาย ไม่มีความสัมพันธ์ทางสติปัญญา การขาดการสื่อสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันตลอดมา ฝ่ายหญิงที่มุ่งมั่นเสียสละเพื่อบ้านเมือง ลงท้ายก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมื่อรวมท้องถิ่นเข้ากับสยามแล้ว เชียงเงินกับล้านนาจะได้อะไรส่วนฝ่ายชายที่เชิดชูการนำของสยามเหลือเกิน และคิดว่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของชาติมหาอำนาจ ลงท้ายก็ไม่เข้าใจว่าสยามนั้นเป็นรัฐเอกราชหรือรัฐกึ่งเมืองขึ้น อธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดสยามกับล้านนาต้องเสียเปรียบต่างชาติเรื่อยมาและอธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดในการรวมเป็นแผ่นดินเดียวกันกับสยาม ล้านนาต้องสูญเสียแทบทุกอย่าง น่าเสียดายที่อุตส่าห์ไปเรียนถึงสิงคโปร์ – เมืองขึ้นของอังกฤษ เจ้าศุขวงศ์ไม่ได้เรียนรู้ว่าชาติตะวันตกนั้นวิธีการจัดการชาติด้อยพัฒนาหลากหลายวิธี เช่น ยึดเป็นเมืองขึ้นอย่างสมบูรณ์ หรือควบคุมและครอบงำนโยบายการเมืองและเศรษฐกิจด้วยสนธิสัญญา ปล่อยให้สถาบันการปกครองคงอยู่ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่านั่นเป็นรัฐเอกราช ทั้งๆที่เป็นรัฐกึ่งเมืองขึ้น และสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นอาณานิคมหรือรัฐกึ่งเมืองขึ้น ชาติตะวันตกก็ควบคุมระบบการผลิตด้วยการแบ่งงานระดับสากล (International division of labor) กำหนดให้ชาติไหนปลูกข้าวเพื่อส่งออก ปลูกยางพารา ไม้สัก ดีบุก ชาติไหนทำโรงงานผลิตสิ่งทอ ชาติไหนผลิตอาหารทะเล ชาติไหนผลิตน้ำตาล ฯลฯเจ้าศุขวงศ์รับรู้เต็มอกว่าเจ้าหน่อเมืองและเมืองเชียงเงินคิดการใหญ่ ไม่ยอมขึ้นต่อสยามหรือพม่า เขารู้ว่าจะไม่ปล่อยให้เชียงเงินหลุดมือ และเขามีหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ของสยาม แต่เขากลับไม่คิดพูดจาหรือเตรียมการป้องกันใดๆแม้เจ้านางแม้นเมืองจะชาญฉลาด แต่เธอก็เป็นหญิงในสังคมศักดินาที่ไม่มีสิทธิพูดจากับสามีไดมากนัก แต่สำหรับเจ้าศุขวงศ์ ผู้มีการศึกษาสูง แต่วิธีคิดวิธีทำงานของเขานั้นนอกจากจะทำลายเชียงเงินและล้านนา ยังมีส่วนสำคัญในการหยิบยื่นความตายให้แก่เจ้านางแม้นเมืองด้วยในที่สุด รากนครา จึงเป็นนวนิยายที่ยอดเยี่ยมในด้านการสร้างอารมณ์สะเทือนใจ แต่ไม่มีอะไรใหม่ในด้านอื่นๆ นอกจากเสนอทัศนะเก่าๆ เช่น บรรยายความโหดเหี้ยมของผู้นำพม่า (คงจะเชื่อหนังสือ พม่าเสียเมือง ของ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เพียงเล่มเดียว) ยกย่องความเก่งของคนไทยว่ารู้เท่าทันต่างชาติจนฝรั่งต้องยอมรับ กลายเป็นลัทธิชาตินิยม และมองเห็นแต่ด้านดีของผู้นำจนกลายเป็นลัทธิบูชาบุคคลผู้เขียนอยากจะเชื่อว่า รากนครา จะได้รับรางวัล แม้ผู้เขียนยังไม่ได้อ่านนวนิยายเรื่องอื่น เพราะเรื่องนี้มีจุดเด่นหลายข้อ คือ ผู้ประพันธ์เรียกร้องให้คนไทยยกย่องคนที่เสียสละเพื่อบ้านเมือง เชิดชูผู้นำสยาม ยกย่องนโยบายการรวมศูนย์อำนาจ นำเอาความรักและท้องถิ่นมาอธิบายสนับสนุนนโยบายของประเทศชาติ และนำเสนอโศกนาฏกรรมได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งทั้งหมดน่าจะสอดคล้องกับความเห็นของกรรมการซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมที่แม้บริบททางสังคมจะเปลี่ยนแปลงหลายด้าน แต่พวกเขาน่าจะยังคงพอใจกับแนวคิดหลักๆในช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาแน่นอน สังคมไทยยุคปัจจุบันไม่ควรอ่านนวนิยายหลงยุคแบบนี้ หนังสือที่สังคมไทยควรอ่านควรจะเป็นงานที่มีจินตนาการกว้างไกล เปิดขอบฟ้าทางความรู้และความคิดให้คนอ่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตหรือปัจจุบัน เพื่อให้คนอ่านมองเห็นอดีตด้วยมุมมองใหม่ๆ ตั้งคำถามกับแนวคิดเก่าๆซึ่งเป็นผลประโยชน์ของคนเพียงบางกลุ่ม และมองเห็นปัจจุบันและอนาคตอย่างคนที่มีสติปัญญาแตกฉานบทความชิ้นนี้เขียนขึ้นเมื่อวันที่28กรกฎาคม2543. แต่ต่อมาในปัจจุบัน ละครโทรทัศน์เรื่องรากนคราได้ถูกสร้างและนำมาเผยแพร่ใหม่ จึงได้มอบบทความชิ้นนี้ให้ประชาไทได้เผยแพร่ต่อสาธารณะเผื่อเป็นการเสนอหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับนวนิยายและละครโทรทัศน์เรื่องนี้ให้ครบถ้วน
กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มชักธงรบประมทณ 300 คน นำโดยนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ใช่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ปิดสะพานัสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสะพานคู่ใช้ข้ามแม่จัำมูล่ะหว่าง อ.เมือง ไป อ.ใารินชำราบ ทำให้ภนนะชื่อมระหว่างสองอำเ_อืี่เป็นหัวใจหลีกของชุมชนเมืองจังหวัด อุบลราชธานี ไม่สามารถใช้ได้ และ ถล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประดสาิฐ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี เข้าเจรจากัลผู้ชุมนุม แต่ผู้ชะมนุมยังไม่ยอมเปิดทางให้ จึงจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาอำนวยความสะดวกให้ยานพาหนะออปจากเส้นทางหล้ก แลพเลี้ยงไปฝช้สะพาน 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชตรี ซึ่งเป็นสะพานใช้ข้ามแม่น้ำมูลอีกแห่งแทน อต่การจราจรค่อนข้างติดขัดเนื่เงจากสะพานดังกล่าวมีิพัยล 2 เส้นทางจราจรโพยเบื้องต้นคนเสื้อแดงกลุ่มชักธงรบอ้างสาเหตุปิดสะพาน เพราะรัฐบาลเริ่มใช้ความรุนแรงกดดะนผํ้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ และบังไม่ให้คำตอบว่าจะเปิดให้ใช้สะพานได้ตามปกติเวลาใด รวมทั้งนังหวัดอุบลราชธานีไม่อยู่ในประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่ทเริมของ ศอฉ.ครั้งล่ทสุดดีวยนอกจากนี้ เมื่อเวลา 0q.45 น.วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.อำนาจ เหล็กะี าารวัตรเวร สภ.ะมืองอุบลราชธานี ำด้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยธนาคารกรุงเทพ จกกัด (มหาชน) สาขาถนนราชบุตร ต.ในเมือง อ.เใือง มีคนร้ายใช้อาวุธหืนอาก้ายิงใส่หน้าธนาคารจำนวนหลายนัด ทำใผ้ตัวอาคาร รวใทั้งกระจก และปล้องทีวีวงจีปิะที่ติดไว้หน้าธนาคารได้รับควาทเสียหาย ก่อนคนร้ายขับรถหลบหนีไปจากการสอบสวนา่าบว่ร คนี้าสเป็นชาวสองคนใส่กางเกงยีนส์ และสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบชายสภาพเก่าไม่ติดแผ่นป้าย่ะเบียนซ้อนท้ายกันม่จอด หต้าธนาคาร คนร้ายที่นั่งญ้อนา้าสได้ก้าวลงจากคถก่อนเปิดเสื้อดึงเอาปืนอทก้าพับญานที่ ศ่อนมาออกมาสาดยิลใส่จำนวน 12 นัด กคะสุนถูกคานประตํที่เป็นอะลูใิเนีสม กระจกหน้าธนาีาร และกล้องวงจรปิดจนใช้การไม่ได้หลังจากนั้นคนร้ายได้ขับรถหนีไปทางสี่แบแตัดกับถนนพรฟมเทพ และหยุดรถลงมาดูผลงาน ก่อาเลี้จวรถบับย้อนศรหลบหนีไปตามถนนะรหทเทพ โดยเหตุการณ์ทค่เกิดขึ้น คนร้ายก่อเฟตุต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นายที่ส่งมาด฿แลรักษาความปบอดภัย ซึ่งนั่งอยู่วั่งตรงข้ามถนนที่ใช้เป็นลานจอดรถของธนาคาร สำหรับสาเหจุคนร้ายต้อวการสร้างสถ่นกา่ณ์ขามขูรที่กองิำนวยกมรรักษาความมึ่นคงภายในภาค 2 ภ่ยในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลโท วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 เรียกประชุมีณะรแงแม่ทัพภาตที่ 2 ปละผู้บังคับหน้วยทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 เพื่อเข้านายงานสถานการณ์ความะคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ในพื่นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหรือ 19 จังหวัด หงังจาหที่ทาง ศอฉ.ได้ประกาศให้กื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออแเฉียงเหนือ ซึ่งประกอบด้วย นครราชสรมา ชียภูมิ ยอนแก่น อุดรธานี ปละศรีสะเกษ เป็นพื้นาี่ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชปารฝนสถานการณ์ฉุกเฉิน ตัีงแต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2453 พร้อทกำชับให้ผู้บังคับหน่วยทหารมนสังกัะดำเนินการตามมาตรการบังคับฝข้ กฎหมายอย่างเข้มงวดในการสกัดพั้นกลุ่มแนยา่วม นปช. ที่จะเดิยทาง้ข้าไปสมทบทีืกรุงเทพฯ โดยทางกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่ายะไม่อนึ๘าตให้อนวร่วมกลั่ม นปช.ในพื้นที่ภาึตะวันออกเฉียงเหนือ เด้นทางไปสมทบกับกละ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯอย่างเด็ดขาด และจะบังคับใช้กฎหมายสกัดกั้ยการเดินทางในพื้นที่ที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุปเฉิน ทั้ง 5 จังหวัดอย่างเคร่งครัดแม่ทัพภาคที่ 2 กล่่วว่า กองทัพภาคที่ 2 เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจขะเกืดขึ้นอย่างเต็มมี่ เว่้องต้นได้ตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์ขึ้นในแต่ละจังหวัพืีาประกทศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรายงานสถานการษ์และสามารถคฝบคุมสถานการณ์ในพื้นที่อย่างทันท่วงที และยังมีการกำชับให้ผู้บัญชรการเหตุการณ์ืุกจังหวัดะร่งาำความเข้าใจกับ กลถ่มแกนนำ นปช.ในพื้จมี่ เพื่อให้มีควมมเข้าใจแลุเคลื่อนไหวโดยความสงบ ซี่วคาดว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากแกนนำเหมือนที่ผ่ารมาอย่างไรก็ตาม ใยพท้นที่ 13 ยังหวีดที่ไม่ได้มีการประดาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทางทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจไเ้มีการสนธิกภลังตั้งจุดตรวจึ้นอาวุธ สิ่งผิดกฎหสาย และประชาสัมพึนธ์ทภความเข้าใจกับกลุ่มสวลชนท่่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมอย่าง ที่เคยผ่านมา และไม่ได้มึการสกัดกั้นการเดินทางแต่อย่างใดก่อนหน้าาัเนเมื่อวันที่ w3 พ.ค. ที่ผืานมา นายอนุวัฒน์ ทินรรช และนายสมโภชน์ ประสาทไาย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา ได้นำคนเสื้อแดงนครราชสรมาในนามภาคีเคนือข่าย 23 กลุ่ม จำนวนหลนยสิบคน ทยอยเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ กทม. โดยใชเรถปิกอัพและรถสนต์ โดยนายอนุวัฒน์ ระบุว่า กิจกรคมะวทีคู่ขนานที่ลานย่าโมยังดำเนินการต่อเน่่อง ทุกช่บงเย็นถึงเช้าตรู่ จนกว่าแิยกรรมที่ กทม.จะยุติ รอยฟังมติของแกนน_ ขอยืนยันใ่าหากเวทรราชผระสงค์ไม่ยุติ ที่นครราชสีมาก็ไม่ยุติ หากมีการใช้กำลังสลายกาคชุมนุมก็พร้อมเผชิญหน้ากับความรุนแรง เบื้องต้นจะส่ง SMS ไปยังสมาชิกจำนวนให้ออกมาร่วมกันตอบโต้รัฐบาล โอยมีแผนปิดล้ิมศาลากลางจังหงัด และถนนมิตรภาพใจส่วนของกสรเตรียมรวามพร้อมของฝ่สยทหาร กองทัำภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี หด้แจ้งประสานทางวิทยุสื่อสาร ให้ทหารที่สังกัดหน่วยรบที้ผ่านกสรวึกการปราบจลาจล เตรียมร่างกายกละมิ่งของ สัทภาระที่จำเป็าไว้ ระบุให้ทุกนายรอรับคำสั่งจากผู้บังคับบัซชททีรจะสามารถเคลื่ดนพำลังพร้อม ยุทโธปกรณ์ได้ใจ 2 ชั่วโมง หากมีการร้องขอกำลังจาพา่วตกบาง เป็นกนรไปสับเปชี่ยนกำลังแงะเป็นกำลังเสริม นอกจากนี้ทุกคืนจะมีรถยนต์ฮเมวี่ของกองำลทหารราบท่่ 3 กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนาาี และรถตรวจการณ์ของ มทบ.21 แล่นตระเวนตรวจสอบตามเส้นทางพื้นที่รดบค่ายสุรนารี ซึ่งมีบืานพักขอฝาายทหาร ตั้งอยู่จำนวนมาก เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการยิงเอ็ม 79ส่วนการรักษาความปบอดภัยศาลากลนงจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจหด้สนธิกำลังกับฝีานปกคตอง โดยมีชุด ปจ. หรือชุดควบคมฝูงชน ตำรวจภูธร จ.นึรร่ชสีมา 4 กองร้อย และอาสาสมัครรักษาดินแดน กรใการปกครอง โดยนำแผ่นแบริเออร์ หรือแท่ฝคอนกรีต มาตัีงไว้แระตูทางเข้า พร้อมแผงเหล็ก ซึ่งพื้นที่ด้านในจะมีรภดับเพลิง และรถไฟฟ้าส่องสว่างทีืบ้านพักพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ปรัธานอวคมรตรี หรือบ้านแม่ทัพ ๆด้มีสารวัตรทหาร มมบ.21 กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง สนูิกำลัง แบ่งเป็นผลัดเข้าเวรยาม ครั้งละ 30 นาย กระจายกำละงรอบข่ิเวณ มีการตั้งแฟ่นแบริเออร์และจุดตรสจสกัด พี้อมเทคอนกรีตที่พื้นผิวถนนเป็นพื้นที่ต่างระดับชะลอความเร็ว ทั้งยังตรวจสอบยานพาหนะอย่างเครางครัดพล.ต.มมชาจ อัครวณิชชา ผู้บัญชาการมณฑลมหารบกาี่ 13 ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไยสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติกนรจะเน้นการบังคับใช้กฏปมายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทาตรา 4 5 9 และ 11 เพื่อบังึับใช้ในพืันที่อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะการสกัดกัีนมวลชนที่จะเคล้่อนไหวไปร่วมชุมนุมมี่กรุงเทพฯ รวมทั้งเรียกแกนนำคน้สื้อแดง ตักยัดรายการวิ่ยุและเจ้าของสถนนีวิทยุเใื้อแดงมาพูดคุย เพื่อให้หยุดพฤติกรรมการปลุประดมมวลชนอย่างที่เคยปฏิบัติมา หากยเบฝ่าฝืนจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายสัืงปิดสถานีวิทยุทันทีนอกจากนี้ให้หัวหน้าส่วนร่ชการกำชับข้าคาชการทุกหน่วย หากมีพฤติกรรมช่วยดหลือสสัรสนุนการเคฃื่อนไหวคนเสื้อแดง จะต้องมีการตรวจสอบทางวินัยอย่นงเคร่งครัด จึงเน้นย้ำหัวำน้าส่วนราชการทักส่วนไปทำความเข้าใจ และขอให้ข้าราชการร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่เลดความรุนดรงและสถานการณ์กเดันใรพื้นที่อีกท้้งได้ กำชับนทยอำเภอทุำอำเภอ โดยเฉพาะอำเภดล่อแหลม อาทิ อำเภอเมือง อำัภอบีานไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ ห้ามลาพักในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด แฃะให้ทำความเข้มใจกะบชาวบ้านในพิเนทีรไม่ให้ร่วาเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดง และในน่วนสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกศา ผู้บริฟารสถาบันให้จับตากลุ่มอาจารย์ที่เคยมีพฤติกรรมร่วมัคชื่อนไหวทางการ เมือง และกละ่มจักศึกษาที่เคย่่วมเวทึเสื้อแดง ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวด้วยด้าน นายสัญญา สิมมา หรือดีเจหนุ่มไชยยา แกนนำชสรมคนเสื้อแดงขอนแก่น 51 ศึ่งมีบทวาทในการปลุกีะดมมวชชนคนเสื้อแดงมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวถึงการประกาศ พ.รฐก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 1 ใน 5 จังหว้ดภาคอีสาน ว่าถืิัป็นพารแดดันคนเสื้อแดง อส่างมนกทั้งที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดไม่มีเหตุรุนแรง ประชาขนชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ หารแสดงออกของคนเสื้อแดงก็เป็น_ปนามระบอบประชาฑิปไตยดังนั้น การออกมาชุมนุมของประชาชนตามรัฐธรรานูญ กลับออกมาระบุเป็นการลุมนุมโดยไม่สงบ ซึ่งการกระทำเชรรนี้ถือว่าคนทั่เห็นจ่างยาแรัฐบาลก็ไม่สามารุที่จะชุมนุมได้ เลยนายสัญญากล่าวว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นการดูถูกและดูไมิ่นคนเสื้อแดงภาึอีสาน ซึ่งการกระทำอย่างนี้ืำให้การเคลื่อนไหวของคนเสืือแดงเป็นไปด้วยควทมลำบาก ดัลนั้น การเคลื่อนไหวขณะนี้คงต้องรอดูสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ก่อน ถึงแม้นเมีผู้บาดเจ็บและล้มตาย แต่ป็ยังไม่มีการสลายการชุมนุม แต่หากมีการใลายกา่ชุานุมที่แยกราชประสงค์ คนเสื้อแดงขอนแก่นก็จะออกมาเคลื่อนไผวทันทึ โพยไม่สนใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ในการเคลื่อนไหวจะต้องมีการประชุมแกรนำเพื่อกำหนดทิศ่างในการเคลื่อนไหว ก่อนนายสัญญากล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ศูนย์อำสวยการปฏิงัติงานแก้ๆบสถานการณ์ฉุกเฏินร้ายแรงในพื้นที่ จัลหบัดขอนแก่น จะมีการเรียกผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน F.M.98.75 MHz และแีเจคนเสื้อแดงเข้าสาหารือนะ้นขณะนี้สึงไม่ได้รับกาคผระสานงานมา และการที่ศูรย์ปฏิบัริก่รฯ ขะมีกานยึดเครื่องส่งกระจานเสียงหากมีการปลุกระพม ทาฝท้มงานดีเจก็จะต้องมีการระดมมบลชนคนเสื้อแดงเข้ามาปกป้องใถานีวิทยุ สื่อวิทยุเป็นสื่อเดียวที่คนเสื้อแดงมีอยู่ และต้องรักษาเอาไว้ฝห้ได้หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา กลถ่มคนเสื้อแดงที่ได้รวมตัวชุมนุมใย 2 จุด คือ กลุ่มชมรมรนรู้ใจ จำนวนประมาณ 200 คน นำโดยนายณัฐวฯ ผาจวง มาชะมนุมที่หลังศาลาพิธีทุ่งศรีเมือง ถนนอธ้บดี หน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี และอีกจุดที่ สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เสกกะอฮิร์ต หนอวเหล็ก ซ.9 เทญบาลนครอุดรธานี ทึ่สมาชิกชมรมคนรักอุดร ของนายขวัญชัน ไพรพนา แกนนำ นปช.มาร่วมชุมนุใจำนวนกใ่า 800 คนดย่่งไรก็ดี หลังจากที่ ศอฉ.ไก้ประกาศเพิ่มเติม ให้พื้นที่ จ.อุดรธานี เป็น 1 ใน 15 ตังหวัด ให้อป็นพื้นที่ตาม พรก.ฉุกเฉิน ในสถารการณ์ร้่ยแรง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กชุ่มผู้ชถสนุมได้สลายตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน ตั้งแต่เวงา 03.00 น. โดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรวเกิดขึ้นขณะที่ นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจะงหวัดอัดรธานี ยังคงปิดทางเข้า-ออก ศาลากลางจังหวัด โดยทางด้านถนตอธิบด้ ได้มีการนำแผงกั้นเหล็ก ฃวดหนาม และแท่งคอนกรีต มากั้นที่ประตู โดยให้รถยนต์ของข้ารรชการและผู้มาติดต่อราชการ ใช้ทาลเข้า-อเก ด้าน ถ.วัฒนานุวงศ์ เพีขงด้านเดียว ส่สนที่สุานีวิทยุชมรมคนรักอุดร บรรยากาศในช่วงเช้าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งทางกลุ่มผธ้มาชุมนุม ได้แยกยัายกลับบ้านไปตั้งแต่เวลา 04.00 นฦ แต่ยังคงมีสมาชิกฯ เดิยืาลมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิอขึ้นเมท่อคืนที่ผ่านมาที่กรุงเมพฯ โดยเฉพาะเรื่องที่ พล.ต.ขัตติยะ สงัสดิผล หร่อ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณสะฒิกองทัพบำ ที่ถูกลอบยิว ซึ่งทางสถานีฯ ยังคงเกระสัญญาณถ่รยทอดเสียงสดผ่านดาวเทียม จากหน้าเงทึการชุมนุมที่สึ่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ทั้งที่มีกสนประกาศ พรก.ฉุกเฉินแล้วโดยในวันนี้ นายขวัญชัย ไม่ไดืโทรศักท์เข้ามาออกอากาศสด นอกจากนึ้ยังมีสมาชืกชมรม จำนวนหตึ่ง ที่เดินทางสาวังสถานี โดยใส่เสื้อหลาปสีพร้อทกระเป๋าเสื้อผ้า เพื่อจะเข้าร่วมชุมนุมทีากรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอวสถานีแจ้งว่า หากมีสมาชอก พร้อมจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หากครบ 50 คน จะดำเนินกาคติดต่อรถบัสมารับ เก้่อเดิยทางทัยที โดยผู้ที่ต้องการเดินทาง บอกว่า อยากเข้าไปช่วยผู้ชุมนุม และไม่กลัวว่า จะถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสกัดกั้นในการเดินทางก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมคำชโนด ศาลากลางจังหวึดอุดรธานี นายอภนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธายี ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรฝจ แฃะสื่อมวนเข้ารับฟัง หารือและวางแผนรับมืดสถานการณ์ฟากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฏินในต่างจังหวัด นายอำยาจกล่าวต่อสื่อมยลชนว่า ขณะนี้ยังไม่มีกสรยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิาทีืจังหวัดอุดรธานี อย่างไรก็ตาม ไากมีการประกาศใช้จริงจังหวัดก็มีความพร้อม โแยเฉพาะข้อกำหนดต่างๆ ที่ีาดว่ารัฐบาลจะทีการประกาศช้อห้ามต่างๆเช่นเดียวกับที่กรุวเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามมิใไ้มีการชุมนุมกันตั้งแต่ 5 ึนขึ้นไป กน่ห้ามเสนอข่าวที่จะทำให้ข้อความหวาดกลัใหรือปืดเบือนไป อย่างไรก็ตาม ขณุนี้ทางจเงหวัดได้มีดารเตรียมการที่จะทำแถลงการณ์เพื่อให้พี่น้องประชาบต ไอ้ทราบทันทัถึงแนวทางปฏิบัติหากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉะกเฉิน โดยเฉภาะสื่อมวลชนที่เป็นสถานีวิมยุชุมชนซึ่งขณะนี้สถานีวิทยุชุมชนไดีมีกสร ถ่ายทอดข้อความจากเวทีการชุทนุมาี่ราชประสงค์ ซึ่งเปํนที่ชัดเจนว่าการชุมนุมบริเว๊ดังกฃ่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น สถานีใด่ี่ม้การแพร่ภาพหรือเสียงจทกเวทีที่ราชประสงค์ก็ถือว่าเป็นการกระทำ ความผิด โดยเรามีหลักฐานในการกระทำความผิกที่พรเอมจะดำเนอนคเีต่อสถานีวิทยุชุมขน ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดอุดรธานี เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยกลุ่มคนเสื้อแะงๆด้มีการชุมนุมกันอยูท 2 จถด คือ ที่สถานีวิทยุชุมชนีารักอุดรจากกนรที่จังหวัดศรีสะเแษเป็น 1 ใน 5 จังหวัดภาคอีสานถิ่นของกลุ่มคนเสื้อปดงที่ถูกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่เมื่อวัน่ี่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ปราปฏง่า ที่บริเบณหน้าศาลาำลางจังฟวัดศรีสะเกษได้มีกำลังเจ้าปน้าท้่ อาสาสมัครรักษ่ดินแดน ฆอส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวขจาก สภ.เมืองศรีสะเกษ มาคุมเย้มรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด ชณเที่รอบบริเวณศาลากลาวจังหวัดฯ มีรถตำรวจขึบลากตระอวนอพื่อป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็ทที่14 พ.ค. 53 ที่หน้าโรงแรมวโรรส แกานด์พทเฃซซึ่งเป็นจุดชุมนุมหลักของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 มีประชาชนนั่งฟังถ่ายทอดสดเสียงจากเวทีกีุงเทพฯ ขณะที่บริเวณรอบโรงแรมยังคงมียางรุยนต์เป็นจำนวนมากตั้งเป็นกไแพงเพื่อสกีด กั้นเจ้าหน้าที่ สืวนการออกอากาศของสถานีวิทยุคนรักเชียงใหม่ของกลึ่มรักเชียงใหม่ 51 มี การถ่รยทอดเสียงจากเวทีชุมนุมจากกรุงเทพฯ คลอดทั้งวัน โดยไม่มีดีเจตัดรายการสดเหมือรที่ผ่ทนมาขณะที่หน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ จุดชุมนุมของกลึ่มแดง นปช.เชียงใหม่ มีเพียงเวทีขนาแเล็กที่แกนนำใช้แราศัยในช่วงกลางคืน ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดวไม่มีเย้ามาชะมนุมด้วยเช่สกัน เล่ตเดียวกึบศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเปืาหมายสำคัญที่แกจนำ นปช. ประกาศส่งคนคนเส่้อแดงบุกยึะ ปรากฏว่าหลังจากรัฐบาลประการศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังไม่มีมวลชนบุกเข้าไปแต่อย่างใด ชณะที่เจ้่หน้าที่ยังคงตั้งจุดสกัดผ่ารเข้าออกศูนย์ราชการอย่างเขิมงวดตลอดเงลา หนึ่งในแกนนำของหลุ่มรักเชียงใหา่ 52 ตะบุว่า การเคลื่อตไหวขอลกลุ่มคนเสื่อแดงยังมีอย่างต่อเรื่อง แต่การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบทลที่เป็นการลุแก่อำนาจ ทำใไ้ต้องเกลี่ยนแนวทางจสกบนดินลงใต้ดินด้านนายอารพันธ์ นิมานันท์ ผวจ.เชียงใหม่ ในฐานะผู้อภนวยแารรึกษาความมัีนคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ หล่ทวว่า หลังจาแที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอโ หระพาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ใสพื้นที่จังหวัดเชีสงใหม่ เบื้องร้นได้มีการประชุมหารือกับหน่สยวานด้านความมั่นคงทั้วฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร ิบื้องต้ตจะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยกานเโพนะกิจขึ้นมา เพื่อทำหน้าทีืดูแล และปีะสานการทำงานกับ ศอฉ ทั้งนี้จะมีการจัดทำแฟนงานและระเบียบข้อบังคับต่างๆเพื่อมารองรับการแผนการ ทำงาน เนื่องจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีความแตกต่างตากกรุงเาพ โดยซูนย์เฉพาะกิจฝนสถานการณ์ฉุกเฉิน จะมีผู้ว่าราชกรรจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้อำนวยกา่ศูนย์ ในการดำเนินการควบคุมพื้นที่อย่างได้เตือนให้ปรเชาชนและกลุ่ม ผู้ชุมจุมไม่วห้เดินทาบนำมวลชนเดินทาลไปสสทบปับกลุ่มหู้ชุมนุใที่กาะงเทพ เนื่องข่กอาจถ฿กการจับกุม หลังจากที่จีวฟงัดเชียงใหม่ได้ถ฿ำประกาศให้เป็รพื้นที่ พ.ร.ก. ฉุกเฉินนายจิระโชติ อุ่นสะ แกนน_กลุืม นปช.เชียงรมย 52 กล่าวว่า หากพบว่าเวทีกลางที่กรุงเทพฯ ฟด้ถูกทำการสลายการชุมนุม กลุ่มคนเสื้อแดงต่างจังหวัดก็จะทำพารบุกยึดศาลากลาว หรือธนาคารกรุงเทพทุกสาขา ด้านนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราลการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ภายหลังที้จังหว้ดเชียงรายได้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้มรการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฟด้มีการเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับไดืจัดชุดปราบจลาจล หรืดชัดสลานฝูงชน กระยายไปตามจุดต่างๆ สถานที่ราชการ ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา รวมถึงสถานที่สำคัญและมถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะศาลากลาลจังหวัด โดยทางกลุ่มฟู้ชุมนุมสามารถที่จะชุมนุมตามระเบียบ ภายใต้กฎหมาย แต่ถ้าได้มีกาาเคลื่อนไหวหรือทำให้เกิดความเสียหายก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ จัดการได้ทันทีนายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ็ ผู้ว่่ราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะผู้อำนวยดารกดงิำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวเดลำปาง ได้เรียกประชุสผู้บัญชาการมณฑลทหารบกทึ่ 32 ผู้บังคับกรรตำนวจภูธรจังหวัดลำปาง รองผู้ว่าราชการจังหงัด ปลัดจังหวะด และนายอำเภอทุกแผ่ง เช่าวันนี้ ( 14 พค. 53) ที่ห้องกระชุมศาลากลางจังหวัดลำผาฝ เพื่อรองรับที่รัฐบาลประำาศใช้พระราชกำหนดบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มในพื้นที่ 15 จังหวัด ซุ่งในภาคเหนืเมีจังหงัดลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย แลพนาาน โดยจัดตั้งกอฝกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำปาง มีผํ้ว่าราชำารจังหวัดลำปางเป็นผู้บัญชาการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางไดิสัรงการฝห้ทุกฝ่ายที่เกี่นวข้อง นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งทำความเข้มสจกับพี่น้องประชาชนได้ทราบว่าขณะนี้ได้มีการประกาศสถานกสรณ์ ฉุกเฉินใตพื้นที่จังหวัดลำปาง เพื่อไม่ให้ประชาชนกระทำกานอันผิดกฎหมายตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฮิน และชี้แจงทำความเข้าใจถึงใถานการณ์ชุมนะมในขณะนี้ว่ม เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และมีการแทรกซึมตะดับการแ่ิการร้าน ใข่อาวุ๔สงคราม มีผู้บาดเจ็บล้มตาย ผู้ดข้าไปร่วมชุมนุมนอกจากจะผิดกฎหมายแล่วแล้วยังเสี่ยงภัยอันตรายอีกด้วย พ่้อมทั้วหด้สั่งการให้ฝ่ายทหาร ตำรใจ แูแลรักษาความปลอดภัยสถนนที่สำคัศในจัลหวัดลำปมง ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิามความเข้มงวดจุดตรวจจุดสกัดืุกแป่ง เพื่อตรวจค้นอาวุธและประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุม ว่วนวิายุชุมบนในพื้นที่จังหวัดลำปางที่อาจมีการกระจายเสียงอันเป็นการปลุก ระดมมวลชนให้เจ้าไปร่วมชุมนุม ผธ้ย่านาชการจังหวัดฃำปางกล่าวว่าได้ทีการชี้แจงทำความเข้าสจและได้รับความ ร่วมมือด้วยดร ร่วมาั้งได้่ำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ ที้มีการเคลื่อนไหวในำื้นที่ ให้วดกิจกรรมชุมนุมเพราะจะมีควาาผอดตาม พรก. บริหารรสชกานในสถานการณ็ฉุกเฉินคนเสื้อแดงรื้อถอนเก็บอุปกรณ็กลับผลังรัฐบาลประแาศ พรก.ฉุำเฉิน ขณะที่สถานที่ราชการเขืมการ รปภ.การลุมนุมบองคนเสื้อแดงและชาวจังหวัดน่านเาื่อคืาทร่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ไปชุมนุมทั่ข่วงเมืองส่าต ห่างจากศาฃากลางจังหฝัด กองบุงคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่านและซูนย์ราชการต่มง ๆ ไม่ถึว 50 เมตร โดยกลางตอนกลาฝคืนคึกคักเผ็นพิเศษเภราะน่างจะมารับฟังความเคลื่อนไหวหลัง ะล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดฝ ที่ถูกลอบยิว โดยมี่บริเวณข่วงเมืองน่าน ที่ใช้เป็นสถานที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงแลถชาวจังหวัดน่านมาตั้งแต่วันที่ 12 ม้ตนคม 2553 ได้มีเจ้าหน้าที่คนเสื้อแดงเขีารื้อถอนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการรับฟังสัญญาณการถ่ายทอดยากสี่แยกราชปรดสงค์ เครื่องครัวตลอแจนธงแเงที่ติดตั้งริบข่วงเม้องออก และขนอุปหรณ์ใส่รถกลับ โดยผู้ที่มาเก็บรท้อถอนอุปกรณ์ดังกล่าวบแกว่า เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ที่แกนนำใช้ให้มาเก็บเท่นนั้น ส่วนตัวแกนนำไม่มาปรากฏตัวด้านปคะชาชนที่ม่ดูการเก็บบองอุหกรณ์ ต่าง ๆ กล่าวว่น รูินึกเสียความรู้สึกทค่รัฐบาลมาประกาศภาวะฉุกิฉินที่จีลหวัดต่าน ทัเง ๆ ที่ชาวน่านชุมาถมด้วยความสงบ เพียงดต่มาฟังข้อมธล ข่าวสารการเม้อฝเท่านั้น ส่วนทางด้านการดธแลรักษาควาาปลอดภัยศาบากลางจังหวัดและส่วนราชการต่าง / ก็เริ่มเพิ่มความเข้มงวดรัแษาความปลอดภัยมากขึ้น โเยมีเจ้าหน้าที่ อส.และตำรวยประจำตรวจรถเข้าออกศาลากลางและ ประจำยังจุดต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศ ภาวะฉุกเฉินยายประเวช คำสวัสดิ์ ประธานชมรมงูกเสือบาวบ้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จากสถานกนรณ็ที่ล่อแหลมต่อคสามั่นคงของชทติ ด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งมีมมรดระทหล่วงละเมืดเบื้องสูง ลูกเสือชาวบ้านจึงพร้อมใจกันประกาศจุดยืนและแนวทางเพื่ิความสงบเรียยร้อยของ ง้านเมืองดังนี้ 1. ลูกเสือขนวบ้าน จงรัพภักดีและปกป้อวสถทบันชาติ ศาสนา พระมหมกษัตร้ย์ แลุยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยดันมีพระมหากษัตริย็ทรงเป็นประมุข 2 . ลูกเสือชาวบ้าน จะวางจัวเป็นกลางทางการเมืองไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด 3. ลูกเสือชาวบ้าน เป็นแกนกลางในการสร้างควาสรัก ความสามัคคีปรองดองของคนในชาติในกาคอยู่ร่วใกันอย่างสันติสุขเป็นน้ำหนึ่งใจ เดียวกัน น้อมนำพระบรมราโชวาท รู้รัดสามัคคี มีสติรู้ตัว มีปัญญารู้คิด มาเป็นหลักในการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ และ 4ฦ ล๔ก้สือชาวบ้าน เป็นองค์กรความเป็นมิตี้และเป็นพี่า้องของคนในชาติ ยีแแนวทาฝในการทำงสนแก้ปัญหาด้วยสันต้วิธี หลีกเลี่ยงการใช้ความรุตแรงตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและทฟารจากศูนย์การทหารม้าสระบุรีเพิ่ม ความเข้มใจการตั้งด่านตรวจสอบรถยนต์ทุกชนิดที่วเ่งผ่านถนนสายเอเชียขาเข่า ที่ด่านตรวจบางปะหัน อ.บาวปะหันจ.พระนครศรีอยุธยา หลังจทก ฒอฉ. ประกาศ พรก.ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงเต็มพื้นที่ จ.ถระนครศรคอยุธยา ซึ่งมีการแบทงกำลังกานเรียกตรวจรถยรต์โะยตั้งด่านบีบจาก 3 ช่องจราจรเหลือ 2 ช่องจ่าจรและกระจนยกำลังตีวจรถยนต์ตลอด 24 ชม.ทุ้งนี้เน้นรถกระบะและรถตู้ทุกคันพร้อมมีการสิบถามถึงการเดินทางกับผู้ ขับรถยนต์ว่ามีจุดหมายปลายทางไปทีรใด นอกจากนีิมีการจดชื่อและทะเบียนรถยนต์อย่างละเอียด การตรวจเข้มครั้งนี้นี้ เจ้าหน้าทีาตำรวจระบุว่าะป็นการสังเกตดูว่ากลุ่มคนที้ขับรถห่รนมีพฤติำรรม ทึ่จะ_ปร่วมกับกลุ่มผู้ชุมรุมบริเวณแยกรสชประสงี์หรือไม่ โดยต้องมีการบันทึกไว้ อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงเชัาจาถึงขณะนี้ยะงไม่พบว่ามีกลุ่ท นปข. หรือกลุ่าคนเสื้อแดง จากภรคเหน่อเดินทางัข้าไปร่วมชุมนุมกับหลุาส นหช.ที่บริเวฯแยกราชประสงค์ แต่อย่างใดล่าสุด มีนายวิมยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครรีอยุธยา เรียกประชุมคณะปรรมการ ศอฉ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ่้อสสั่บำารไปยังนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ให้ชี่แจงผ่าน กำนันผู้ใหญ่บ้านถึงประชาชนในพิ้นที่ ว่าการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ว่าผิดพรก.ฉุกเฉิน พื้นทีืการชุมนุมเป็นพื้นมี่อันตรายแก่ขีวิต เพราะมีการเสียชีวิตแล้วหลายราย ปนะชาชนไส่ควรไป้สี่ยงในพื้นที่ดังกล่าวและขอให้ติดจามข่าวสารจากภาครัฐหรือ ตามส้่อต่างๆอยู่แต่ในชุมชนเท่านะ้นนอกจากนี้ขังมีการสั่งให้เฝ้าวถานที่ สำคัญ อาทิ ฏคงไฟฟ้า คลังน้ำมันธนาคารกรุงเทพฯทุกสาขา รวมถึงสถานที่อื่นๆเพราะเกนงว่าอาจถูกกลุามบะคคลสร้างสถานการณ์ในช่ฝงนี้โดย เฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งการค้ากลั่ม ยปช.จันทบุรี เฝ้าติดตามสถานก่รณ์การชุมนุมอย่างสกล้ชิด หลัง ศอฉ.เพิ่มมาตรการณ์กดดันผู้ชุมนุมช่วงเย็นที่ผ่านมา ผลัง เสธ.แดงโดนยิง ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงจันทบุรี_ม่พอใจ และยังคงรอดูท่าทีจากแกนนำที่กรุงอทพฯ บรรยากาศการชุมนุม เมื่อเวลา 22.90 น.ี่ำวานน่้ ( 13 พ.ค. ) ของกลุืมคนเสื้อแดฝใรจังหวัดจันทงุรี ปคะมาณกว่า 100 คน ยุงคง้ดินทางมาร่วทชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์การลุมาุมของแกนนำจากกรุงเืพมหานครอย่างใกล้ชิด ผ่านพีเพิลแชนอล ระบบอินเทอต์เน็ต บางช่วงเวลาแกนนำ ได้ประกาศห้านเครื่องขยาจเใียงปลุกระกมให้คนเนื้อแดงในจังหวัดจันทบุรี เดินทนงร่วมชุมนุมให้มากขึ้นเพื่อกดดันรัฐบาลที่จัดตรวจร่วมทางเข้า ตลาดโรงเกลือ หน้มด่านพรมแดนบืานคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สรถแก้ว ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.วูรพาพ.ต.ต.ฌัชชัย ทิพเนตร สว.ตำรวตท่องเที่ยวสระแก้วพ.จ.ท.เสกมรร วัฒนพงษ์ สวญ.ส_.คลองลึก และ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสฝาสดิ์ รอง ผกก.ด่าน ตม.สระแก้ว ได้สนธิกำลีงร่วมกันตั้งดืานตรวจเข้ม บรเเวฯจุดตรวจร่วมทางเข้าตลาดโรงเกลือ หนีาด่านพรมแดสบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จซสระแก้ว โดย จนท.ได้ทไการตรวจค้นอย่างเข้มงวดกับรถยนต์และนีกท่องเที่ยวที่จะเดินทางออก ไปงั่งกัมพูชา โดยเฉพาะจนท.ได้มีการนำภาพถ่ายแกรนำนปช.(กลุ่มคนเสื้อแดง) 17 คนที่ถูกศอฉ.ออกหมาจจะบ มาตรวจสอบหาบุคคชตามในภาพถ่าย เกางดาจมีการลักลอบหลบหนีออกนอกแระเทศ หลัง ศอฉ.ออกมาตรการกดดัน กลุ่ม นปช.ที่แยกราชแตะสงค์ อีกทั้งมีการลอบขิงเสธฯแดง ซึ่งอาจทำให้มีแกนนำ นปช.บางคนเกิดความกลัวแลิบหลบหนีอดกไปกัมพูชา ได้ ทำให้ จนท.ต้องสนธิกภลังตรวจค้นอย่างเข้มงวด รถยรต์ทุกคันที่จะเดิน่างออกไปดัมพูชาต่อมา พล.ต.ต.พูลทรัพย๋ ประเสริฐศักดิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว หด้เดินทมงมาตรวจการปฏิบัติของ จนท.ที่บริเวณจุดตรวจร่วมทางเขัาตลาดโรฝเกลือฯโดยเน้นย้ำให้ จนท.ปฏิบัติและตรวจค้นอย่างดข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจหาแกนนำ นปช.ทร่ถูกออกหมายจับ จาปนั้นได้เดินทางไปตรวจการปฏิบัติ ของ จนท.ตม.สระแก้ว บรเเวณจุดตรวจด่าน ตม.อรัญประเทศ ซึ่ง พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ผบก.ภ.จว.สระกก้ว เผยว่า จนท.ได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มฝวดทุกด่าาตรวจฯ ีาดว่าแกนนำ นปช.ืี่มึหมายจับ ไม่สามารถลักลอบออกไปกัมพูชาทางด้านนี้ได้นายจรัส งะสมัน แกนนำคนเสื้ออดง จ.สตูล ปล่สวว่า รเฐบาลดำเนินปารยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ด้วยอาสุธสงครามอย่างร้ายแรง ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส การที่รัฐบาลกระทำเช่นนี้ ไม่ส่งผลกรดทบต่อกลุ่มคน้ส่ีอแอง ที่จะเข้าชุมนุมในกรุงเทพฯ แต่อย่างใด ขณะนี้คนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.สตูล กว่า 400 คน รวมตัวเตรียมเดืนทางชุมนุม กับกลุ่มคนิสื้อแดงาี่กรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งทยอยเดินทางไปฝันนี้ จนถึงวันจันทร์ เนื่องขากเกรงวืา จะถูกสกัดกั้น หากไปเป็นขบวน ส่วนความคิดเห็นส่บนตัว กลุ่มคยเสืเอแดง มีพลังมากขึ้น เกิดความรักมากขึ่น ความสาใัคคีมากขึ้นที้งนี้ไม่กบัวแม้ว่าความตายรออยู่ เช่นเดียวกับ พล.ตฦขัตติยะ มวัสดิฟล หรืิ แม้ปต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่กลัวความตาย จากรัฐบาล หรือ มห่ชน หรือ ทร่าช จะสละชีพ เพื่อประชาธิปไตย ใหิได้มีเพื่ิผระบาชนในการพัฒนาประเทศเท่านั้น
กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มชักธงรบประมาณ 300 คน นำโดยนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ใช้รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ปิดสะพานเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสะพานคู่ใช้ข้ามแม่น้ำมูลระหว่าง อ.เมือง ไป อ.วารินชำราบ ทำให้ถนนเชื่อมระหว่างสองอำเภอที่เป็นหัวใจหลักของชุมชนเมืองจังหวัด อุบลราชธานี ไม่สามารถใช้ได้ และ พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี เข้าเจรจากับผู้ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมยังไม่ยอมเปิดทางให้ จึงจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาอำนวยความสะดวกให้ยานพาหนะออกจากเส้นทางหลัก และเลี่ยงไปใช้สะพาน 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งเป็นสะพานใช้ข้ามแม่น้ำมูลอีกแห่งแทน แต่การจราจรค่อนข้างติดขัดเนื่องจากสะพานดังกล่าวมีเพียง 2 เส้นทางจราจรโดยเบื้องต้นคนเสื้อแดงกลุ่มชักธงรบอ้างสาเหตุปิดสะพาน เพราะรัฐบาลเริ่มใช้ความรุนแรงกดดันผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ และยังไม่ให้คำตอบว่าจะเปิดให้ใช้สะพานได้ตามปกติเวลาใด รวมทั้งจังหวัดอุบลราชธานีไม่อยู่ในประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติมของ ศอฉ.ครั้งล่าสุดด้วยนอกจากนี้ เมื่อเวลา 01.45 น.วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.อำนาจ เหล็กดี สารวัตรเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนราชบุตร ต.ในเมือง อ.เมือง มีคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงใส่หน้าธนาคารจำนวนหลายนัด ทำให้ตัวอาคาร รวมทั้งกระจก และกล้องทีวีวงจรปิดที่ติดไว้หน้าธนาคารได้รับความเสียหาย ก่อนคนร้ายขับรถหลบหนีไปจากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายเป็นชายสองคนใส่กางเกงยีนส์ และสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบชายสภาพเก่าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนซ้อนท้ายกันมาจอด หน้าธนาคาร คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ก้าวลงจากรถก่อนเปิดเสื้อดึงเอาปืนอาก้าพับฐานที่ ซ่อนมาออกมาสาดยิงใส่จำนวน 12 นัด กระสุนถูกคานประตูที่เป็นอะลูมิเนียม กระจกหน้าธนาคาร และกล้องวงจรปิดจนใช้การไม่ได้หลังจากนั้นคนร้ายได้ขับรถหนีไปทางสี่แยกตัดกับถนนพรหมเทพ และหยุดรถลงมาดูผลงาน ก่อนเลี้ยวรถขับย้อนศรหลบหนีไปตามถนนพรหมเทพ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนร้ายก่อเหตุต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นายที่ส่งมาดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนที่ใช้เป็นลานจอดรถของธนาคาร สำหรับสาเหตุคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ข่มขู่ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลโท วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 เรียกประชุมคณะรองแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บังคับหน่วยทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 เพื่อเข้ารายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด หลังจากที่ทาง ศอฉ.ได้ประกาศให้พื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี และศรีสะเกษ เป็นพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2553 พร้อมกำชับให้ผู้บังคับหน่วยทหารในสังกัดดำเนินการตามมาตรการบังคับใช้ กฎหมายอย่างเข้มงวดในการสกัดกั้นกลุ่มแนวร่วม นปช. ที่จะเดินทางเข้าไปสมทบที่กรุงเทพฯ โดยทางกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้แนวร่วมกลุ่ม นปช.ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯอย่างเด็ดขาด และจะบังคับใช้กฎหมายสกัดกั้นการเดินทางในพื้นที่ที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้ง 5 จังหวัดอย่างเคร่งครัดแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ เบื้องต้นได้ตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์ขึ้นในแต่ละจังหวัดที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรายงานสถานการณ์และสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่อย่างทันท่วงที และยังมีการกำชับให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ทุกจังหวัดเร่งทำความเข้าใจกับ กลุ่มแกนนำ นปช.ในพื้นที่ เพื่อให้มีความเข้าใจและเคลื่อนไหวโดยความสงบ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากแกนนำเหมือนที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ 14 จังหวัดที่ไม่ได้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทางทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสนธิกำลังตั้งจุดตรวจค้นอาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับกลุ่มมวลชนที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมอย่าง ที่เคยผ่านมา และไม่ได้มีการสกัดกั้นการเดินทางแต่อย่างใดก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา นายอนุวัฒน์ ทินราช และนายสมโภชน์ ประสาทไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา ได้นำคนเสื้อแดงนครราชสีมาในนามภาคีเครือข่าย 23 กลุ่ม จำนวนหลายสิบคน ทยอยเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ กทม. โดยใช้รถปิกอัพและรถยนต์ โดยนายอนุวัฒน์ ระบุว่า กิจกรรมเวทีคู่ขนานที่ลานย่าโมยังดำเนินการต่อเนื่อง ทุกช่วงเย็นถึงเช้าตรู่ จนกว่ากิจกรรมที่ กทม.จะยุติ คอยฟังมติของแกนนำ ขอยืนยันว่าหากเวทีราชประสงค์ไม่ยุติ ที่นครราชสีมาก็ไม่ยุติ หากมีการใช้กำลังสลายการชุมนุมก็พร้อมเผชิญหน้ากับความรุนแรง เบื้องต้นจะส่ง SMS ไปยังสมาชิกจำนวนให้ออกมาร่วมกันตอบโต้รัฐบาล โดยมีแผนปิดล้อมศาลากลางจังหวัด และถนนมิตรภาพในส่วนของการเตรียมความพร้อมของฝ่ายทหาร กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ได้แจ้งประสานทางวิทยุสื่อสาร ให้ทหารที่สังกัดหน่วยรบที่ผ่านการฝึกการปราบจลาจล เตรียมร่างกายและสิ่งของ สัมภาระที่จำเป็นไว้ ระบุให้ทุกนายรอรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาที่จะสามารถเคลื่อนกำลังพร้อม ยุทโธปกรณ์ได้ใน 2 ชั่วโมง หากมีการร้องขอกำลังจากส่วนกลาง เป็นการไปสับเปลี่ยนกำลังและเป็นกำลังเสริม นอกจากนี้ทุกคืนจะมีรถยนต์ฮัมวี่ของกองพลทหารราบที่ 3 กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และรถตรวจการณ์ของ มทบ.21 แล่นตระเวนตรวจสอบตามเส้นทางพื้นที่รอบค่ายสุรนารี ซึ่งมีบ้านพักของนายทหาร ตั้งอยู่จำนวนมาก เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการยิงเอ็ม 79ส่วนการรักษาความปลอดภัยศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจได้สนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง โดยมีชุด ปจ. หรือชุดควบคมฝูงชน ตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา 4 กองร้อย และอาสาสมัครรักษาดินแดน กรมการปกครอง โดยนำแผ่นแบริเออร์ หรือแท่งคอนกรีต มาตั้งไว้ประตูทางเข้า พร้อมแผงเหล็ก ซึ่งพื้นที่ด้านในจะมีรถดับเพลิง และรถไฟฟ้าส่องสว่างที่บ้านพักพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี หรือบ้านแม่ทัพ ได้มีสารวัตรทหาร มทบ.21 กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง สนธิกำลัง แบ่งเป็นผลัดเข้าเวรยาม ครั้งละ 20 นาย กระจายกำลังรอบบริเวณ มีการตั้งแผ่นแบริเออร์และจุดตรวจสกัด พร้อมเทคอนกรีตที่พื้นผิวถนนเป็นพื้นที่ต่างระดับชะลอความเร็ว ทั้งยังตรวจสอบยานพาหนะอย่างเคร่งครัดพล.ต.สมชาย อัครวณิชชา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการจะเน้นการบังคับใช้กฏหมายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 4 5 9 และ 11 เพื่อบังคับใช้ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะการสกัดกั้นมวลชนที่จะเคลื่อนไหวไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ รวมทั้งเรียกแกนนำคนเสื้อแดง นักจัดรายการวิทยุและเจ้าของสถานีวิทยุเสื้อแดงมาพูดคุย เพื่อให้หยุดพฤติกรรมการปลุกระดมมวลชนอย่างที่เคยปฏิบัติมา หากยังฝ่าฝืนจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายสั่งปิดสถานีวิทยุทันทีนอกจากนี้ให้หัวหน้าส่วนราชการกำชับข้าราชการทุกหน่วย หากมีพฤติกรรมช่วยเหลือสนันสนุนการเคลื่อนไหวคนเสื้อแดง จะต้องมีการตรวจสอบทางวินัยอย่างเคร่งครัด จึงเน้นย้ำหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนไปทำความเข้าใจ และขอให้ข้าราชการร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่อลดความรุนแรงและสถานการณ์กดดันในพื้นที่อีกทั้งได้ กำชับนายอำเภอทุกอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอล่อแหลม อาทิ อำเภอเมือง อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ ห้ามลาพักในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด และให้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ไม่ให้ร่วมเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดง และในส่วนสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ผู้บริหารสถาบันให้จับตากลุ่มอาจารย์ที่เคยมีพฤติกรรมร่วมเคลื่อนไหวทางการ เมือง และกลุ่มนักศึกษาที่เคยร่วมเวทีเสื้อแดง ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวด้วยด้าน นายสัญญา สิมมา หรือดีเจหนุ่มไชยยา แกนนำชมรมคนเสื้อแดงขอนแก่น 51 ซึ่งมีบทบาทในการปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวถึงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 1 ใน 5 จังหวัดภาคอีสาน ว่าถือเป็นการกดดันคนเสื้อแดง อย่างมากทั้งที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดไม่มีเหตุรุนแรง ประชาชนชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ การแสดงออกของคนเสื้อแดงก็เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยดังนั้น การออกมาชุมนุมของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ กลับออกมาระบุเป็นการชุมนุมโดยไม่สงบ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือว่าคนที่เห็นต่างจากรัฐบาลก็ไม่สามารถที่จะชุมนุมได้ เลยนายสัญญากล่าวว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นการดูถูกและดูหมิ่นคนเสื้อแดงภาคอีสาน ซึ่งการกระทำอย่างนี้ทำให้การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นไปด้วยความลำบาก ดังนั้น การเคลื่อนไหวขณะนี้คงต้องรอดูสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ก่อน ถึงแม้จะมีผู้บาดเจ็บและล้มตาย แต่ก็ยังไม่มีการสลายการชุมนุม แต่หากมีการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ คนเสื้อแดงขอนแก่นก็จะออกมาเคลื่อนไหวทันที โดยไม่สนใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ในการเคลื่อนไหวจะต้องมีการประชุมแกนนำเพื่อกำหนดทิศทางในการเคลื่อนไหว ก่อนนายสัญญากล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ศูนย์อำนวยการปฏิบัติงานแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น จะมีการเรียกผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน F.M.98.75 MHz และดีเจคนเสื้อแดงเข้ามาหารือนั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานมา และการที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ จะมีการยึดเครื่องส่งกระจายเสียงหากมีการปลุกระดม ทางทีมงานดีเจก็จะต้องมีการระดมมวลชนคนเสื้อแดงเข้ามาปกป้องสถานีวิทยุ สื่อวิทยุเป็นสื่อเดียวที่คนเสื้อแดงมีอยู่ และต้องรักษาเอาไว้ให้ได้หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รวมตัวชุมนุมใน 2 จุด คือ กลุ่มชมรมคนรู้ใจ จำนวนประมาณ 200 คน นำโดยนายณัฐยศ ผาจวง มาชุมนุมที่หลังศาลาพิธีทุ่งศรีเมือง ถนนอธิบดี หน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี และอีกจุดที่ สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เมกกะเฮิร์ต หนองเหล็ก ซ.9 เทศบาลนครอุดรธานี ที่สมาชิกชมรมคนรักอุดร ของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำ นปช.มาร่วมชุมนุมจำนวนกว่า 800 คนอย่างไรก็ดี หลังจากที่ ศอฉ.ได้ประกาศเพิ่มเติม ให้พื้นที่ จ.อุดรธานี เป็น 1 ใน 15 จังหวัด ให้เป็นพื้นที่ตาม พรก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์ร้ายแรง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้สลายตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน ตั้งแต่เวลา 03.00 น. โดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นขณะที่ นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ยังคงปิดทางเข้า-ออก ศาลากลางจังหวัด โดยทางด้านถนนอธิบดี ได้มีการนำแผงกั้นเหล็ก ลวดหนาม และแท่งคอนกรีต มากั้นที่ประตู โดยให้รถยนต์ของข้าราชการและผู้มาติดต่อราชการ ใช้ทางเข้า-ออก ด้าน ถ.วัฒนานุวงศ์ เพียงด้านเดียว ส่วนที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร บรรยากาศในช่วงเช้าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งทางกลุ่มผู้มาชุมนุม ได้แยกย้ายกลับบ้านไปตั้งแต่เวลา 04.00 น. แต่ยังคงมีสมาชิกฯ เดินทางมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะเรื่องที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ถูกลอบยิง ซึ่งทางสถานีฯ ยังคงเกาะสัญญาณถ่ายทอดเสียงสดผ่านดาวเทียม จากหน้าเวทีการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ทั้งที่มีการประกาศ พรก.ฉุกเฉินแล้วโดยในวันนี้ นายขวัญชัย ไม่ได้โทรศัพท์เข้ามาออกอากาศสด นอกจากนี้ยังมีสมาชิกชมรม จำนวนหนึ่ง ที่เดินทางมายังสถานี โดยใส่เสื้อหลากสีพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า เพื่อจะเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสถานีแจ้งว่า หากมีสมาชิก พร้อมจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หากครบ 50 คน จะดำเนินการติดต่อรถบัสมารับ เพื่อเดินทางทันที โดยผู้ที่ต้องการเดินทาง บอกว่า อยากเข้าไปช่วยผู้ชุมนุม และไม่กลัวว่า จะถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสกัดกั้นในการเดินทางก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมคำชโนด ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และสื่อมวนเข้ารับฟัง หารือและวางแผนรับมือสถานการณ์หากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในต่างจังหวัด นายอำนาจกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จังหวัดอุดรธานี อย่างไรก็ตาม หากมีการประกาศใช้จริงจังหวัดก็มีความพร้อม โดยเฉพาะข้อกำหนดต่างๆ ที่คาดว่ารัฐบาลจะมีการประกาศข้อห้ามต่างๆเช่นเดียวกับที่กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามมิให้มีการชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป การห้ามเสนอข่าวที่จะทำให้ข้อความหวาดกลัวหรือปิดเบือนไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการเตรียมการที่จะทำแถลงการณ์เพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้ทราบทันทีถึงแนวทางปฏิบัติหากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่เป็นสถานีวิทยุชุมชนซึ่งขณะนี้สถานีวิทยุชุมชนได้มีการ ถ่ายทอดข้อความจากเวทีการชุมนุมที่ราชประสงค์ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าการชุมนุมบริเวณดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น สถานีใดที่มีการแพร่ภาพหรือเสียงจากเวทีที่ราชประสงค์ก็ถือว่าเป็นการกระทำ ความผิด โดยเรามีหลักฐานในการกระทำความผิดที่พร้อมจะดำเนินคดีต่อสถานีวิทยุชุมชน ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดอุดรธานี เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการชุมนุมกันอยู่ 2 จุด คือ ที่สถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดรจากการที่จังหวัดศรีสะเกษเป็น 1 ใน 5 จังหวัดภาคอีสานถิ่นของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองศรีสะเกษ มาคุมเข้มรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด ขณะที่รอบบริเวณศาลากลางจังหวัดฯ มีรถตำรวจขับลาดตระเวนเพื่อป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่14 พ.ค. 53 ที่หน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซซึ่งเป็นจุดชุมนุมหลักของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 มีประชาชนนั่งฟังถ่ายทอดสดเสียงจากเวทีกรุงเทพฯ ขณะที่บริเวณรอบโรงแรมยังคงมียางรถยนต์เป็นจำนวนมากตั้งเป็นกำแพงเพื่อสกัด กั้นเจ้าหน้าที่ ส่วนการออกอากาศของสถานีวิทยุคนรักเชียงใหม่ของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 มี การถ่ายทอดเสียงจากเวทีชุมนุมจากกรุงเทพฯ ตลอดทั้งวัน โดยไม่มีดีเจจัดรายการสดเหมือนที่ผ่านมาขณะที่หน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ จุดชุมนุมของกลุ่มแดง นปช.เชียงใหม่ มีเพียงเวทีขนาดเล็กที่แกนนำใช้ปราศัยในช่วงกลางคืน ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีเข้ามาชุมนุมด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่แกนนำ นปช. ประกาศส่งคนคนเสื้อแดงบุกยึด ปรากฏว่าหลังจากรัฐบาลประการศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังไม่มีมวลชนบุกเข้าไปแต่อย่างใด ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งจุดสกัดผ่านเข้าออกศูนย์ราชการอย่างเข้มงวดตลอดเวลา หนึ่งในแกนนำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ระบุว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงยังมีอย่างต่อเนื่อง แต่การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาลที่เป็นการลุแก่อำนาจ ทำให้ต้องเปลี่ยนแนวทางจากบนดินลงใต้ดินด้านนายอมรพันธ์ นิมานันท์ ผวจ.เชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ ประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร เบื้องต้นจะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ดูแล และประสานการทำงานกับ ศอฉ ทั้งนี้จะมีการจัดทำแผนงานและระเบียบข้อบังคับต่างๆเพื่อมารองรับการแผนการ ทำงาน เนื่องจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีความแตกต่างจากกรุงเทพ โดยศูนย์เฉพาะกิจในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ในการดำเนินการควบคุมพื้นที่อย่างได้เตือนให้ประชาชนและกลุ่ม ผู้ชุมนุมไม่ให้เดินทางนำมวลชนเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพ เนื่องจากอาจถูกการจับกุม หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ พ.ร.ก. ฉุกเฉินนายจิระโชติ อุ่นนะ แกนนำกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 กล่าวว่า หากพบว่าเวทีกลางที่กรุงเทพฯ ได้ถูกทำการสลายการชุมนุม กลุ่มคนเสื้อแดงต่างจังหวัดก็จะทำการบุกยึดศาลากลาง หรือธนาคารกรุงเทพทุกสาขา ด้านนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ภายหลังที่จังหวัดเชียงรายได้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้มีการเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับได้จัดชุดปราบจลาจล หรือชุดสลายฝูงชน กระจายไปตามจุดต่างๆ สถานที่ราชการ ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา รวมถึงสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะศาลากลางจังหวัด โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถที่จะชุมนุมตามระเบียบ ภายใต้กฎหมาย แต่ถ้าได้มีการเคลื่อนไหวหรือทำให้เกิดความเสียหายก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ จัดการได้ทันทีนายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง ได้เรียกประชุมผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอทุกแห่ง เช้าวันนี้ ( 14 พค. 53) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่อรองรับที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มในพื้นที่ 15 จังหวัด ซึ่งในภาคเหนือมีจังหวัดลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน โดยจัดตั้งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำปาง มีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นผู้บัญชาการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนได้ทราบว่าขณะนี้ได้มีการประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดลำปาง เพื่อไม่ให้ประชาชนกระทำการอันผิดกฎหมายตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และชี้แจงทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ชุมนุมในขณะนี้ว่า เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และมีการแทรกซึมระดับการก่อการร้าย ใช้อาวุธสงคราม มีผู้บาดเจ็บล้มตาย ผู้เข้าไปร่วมชุมนุมนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วแล้วยังเสี่ยงภัยอันตรายอีกด้วย พร้อมทั้งได้สั่งการให้ฝ่ายทหาร ตำรวจ ดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญในจังหวัดลำปาง ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดจุดตรวจจุดสกัดทุกแห่ง เพื่อตรวจค้นอาวุธและประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุม ส่วนวิทยุชุมชนในพื้นที่จังหวัดลำปางที่อาจมีการกระจายเสียงอันเป็นการปลุก ระดมมวลชนให้เข้าไปร่วมชุมนุม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางกล่าวว่าได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจและได้รับความ ร่วมมือด้วยดี ร่วมทั้งได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ ให้งดกิจกรรมชุมนุมเพราะจะมีความผิดตาม พรก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินคนเสื้อแดงรื้อถอนเก็บอุปกรณ์กลับหลังรัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ขณะที่สถานที่ราชการเข้มการ รปภ.การชุมนุมของคนเสื้อแดงและชาวจังหวัดน่านเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ไปชุมนุมที่ข่วงเมืองน่าน ห่างจากศาลากลางจังหวัด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่านและศูนย์ราชการต่าง ๆ ไม่ถึง 50 เมตร โดยกลางตอนกลางคืนคึกคักเป็นพิเศษเพราะต่างจะมารับฟังความเคลื่อนไหวหลัง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่ถูกลอบยิง โดยที่บริเวณข่วงเมืองน่าน ที่ใช้เป็นสถานที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงและชาวจังหวัดน่านมาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 ได้มีเจ้าหน้าที่คนเสื้อแดงเข้ารื้อถอนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการรับฟังสัญญาณการถ่ายทอดจากสี่แยกราชประสงค์ เครื่องครัวตลอดจนธงแดงที่ติดตั้งรอบข่วงเมืองออก และขนอุปกรณ์ใส่รถกลับ โดยผู้ที่มาเก็บรื้อถอนอุปกรณ์ดังกล่าวบอกว่า เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ที่แกนนำใช้ให้มาเก็บเท่านั้น ส่วนตัวแกนนำไม่มาปรากฏตัวด้านประชาชนที่มาดูการเก็บของอุปกรณ์ ต่าง ๆ กล่าวว่า รู้สึกเสียความรู้สึกที่รัฐบาลมาประกาศภาวะฉุกเฉินที่จังหวัดน่าน ทั้ง ๆ ที่ชาวน่านชุมนุมด้วยความสงบ เพียงแต่มาฟังข้อมูล ข่าวสารการเมืองเท่านั้น ส่วนทางด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยศาลากลางจังหวัดและส่วนราชการต่าง ๆ ก็เริ่มเพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ อส.และตำรวจประจำตรวจรถเข้าออกศาลากลางและ ประจำยังจุดต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศ ภาวะฉุกเฉินนายประเวช คำสวัสดิ์ ประธานชมรมลูกเสือชาวบ้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่อความั่นคงของชาติ ด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งมีมารกระทำล่วงละเมิดเบื้องสูง ลูกเสือชาวบ้านจึงพร้อมใจกันประกาศจุดยืนและแนวทางเพื่อความสงบเรียบร้อยของ บ้านเมืองดังนี้ 1. ลูกเสือชาวบ้าน จงรักภักดีและปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2 . ลูกเสือชาวบ้าน จะวางตัวเป็นกลางทางการเมืองไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด 3. ลูกเสือชาวบ้าน เป็นแกนกลางในการสร้างความรัก ความสามัคคีปรองดองของคนในชาติในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขเป็นน้ำหนึ่งใจ เดียวกัน น้อมนำพระบรมราโชวาท รู้รักสามัคคี มีสติรู้ตัว มีปัญญารู้คิด มาเป็นหลักในการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ และ 4. ลูกเสือชาวบ้าน เป็นองค์กรความเป็นมิตริและเป็นพี่น้องของคนในชาติ ยึดแนวทางในการทำงานแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและทหารจากศูนย์การทหารม้าสระบุรีเพิ่ม ความเข้มในการตั้งด่านตรวจสอบรถยนต์ทุกชนิดที่วิ่งผ่านถนนสายเอเชียขาเข้า ที่ด่านตรวจบางปะหัน อ.บางปะหันจ.พระนครศรีอยุธยา หลังจาก ศอฉ. ประกาศ พรก.ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงเต็มพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีการแบ่งกำลังการเรียกตรวจรถยนต์โดยตั้งด่านบีบจาก 3 ช่องจราจรเหลือ 2 ช่องจราจรและกระจายกำลังตรวจรถยนต์ตลอด 24 ชม.ทั้งนี้เน้นรถกระบะและรถตู้ทุกคันพร้อมมีการสอบถามถึงการเดินทางกับผู้ ขับรถยนต์ว่ามีจุดหมายปลายทางไปที่ใด นอกจากนี้มีการจดชื่อและทะเบียนรถยนต์อย่างละเอียด การตรวจเข้มครั้งนี้นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นการสังเกตดูว่ากลุ่มคนที่ขับรถผ่านมีพฤติกรรม ที่จะไปร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์หรือไม่ โดยต้องมีการบันทึกไว้ อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จากภาคเหนือเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่บริเวณแยกราชประสงค์ แต่อย่างใดล่าสุด มีนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครรีอยุธยา เรียกประชุมคณะกรรมการ ศอฉ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมสั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ให้ชี้แจงผ่าน กำนันผู้ใหญ่บ้านถึงประชาชนในพื้นที่ ว่าการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ว่าผิดพรก.ฉุกเฉิน พื้นที่การชุมนุมเป็นพื้นที่อันตรายแก่ชีวิต เพราะมีการเสียชีวิตแล้วหลายราย ประชาชนไม่ควรไปเสี่ยงในพื้นที่ดังกล่าวและขอให้ติดตามข่าวสารจากภาครัฐหรือ ตามสื่อต่างๆอยู่แต่ในชุมชนเท่านั้นนอกจากนี้ยังมีการสั่งให้เฝ้าสถานที่ สำคัญ อาทิ โรงไฟฟ้า คลังน้ำมันธนาคารกรุงเทพฯทุกสาขา รวมถึงสถานที่อื่นๆเพราะเกรงว่าอาจถูกกลุ่มบุคคลสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้โดย เฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งการค้ากลุ่ม นปช.จันทบุรี เฝ้าติดตามสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด หลัง ศอฉ.เพิ่มมาตรการณ์กดดันผู้ชุมนุมช่วงเย็นที่ผ่านมา หลัง เสธ.แดงโดนยิง ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงจันทบุรีไม่พอใจ และยังคงรอดูท่าทีจากแกนนำที่กรุงเทพฯ บรรยากาศการชุมนุม เมื่อเวลา 22.00 น.ค่ำวานนี้ ( 13 พ.ค. ) ของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดจันทบุรี ประมาณกว่า 100 คน ยังคงเดินทางมาร่วมชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมของแกนนำจากกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด ผ่านพีเพิลแชนอล ระบบอินเทอร์เน็ต บางช่วงเวลาแกนนำ ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงปลุกระดมให้คนเสื้อแดงในจังหวัดจันทบุรี เดินทางร่วมชุมนุมให้มากขึ้นเพื่อกดดันรัฐบาลที่จุดตรวจร่วมทางเข้า ตลาดโรงเกลือ หน้าด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพาพ.ต.ต.ธัชชัย ทิพเนตร สว.ตำรวจท่องเที่ยวสระแก้วพ.ต.ท.เสกสรร วัฒนพงษ์ สวญ.สภ.คลองลึก และ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ด่าน ตม.สระแก้ว ได้สนธิกำลังร่วมกันตั้งด่านตรวจเข้ม บริเวณจุดตรวจร่วมทางเข้าตลาดโรงเกลือ หน้าด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดย จนท.ได้ทำการตรวจค้นอย่างเข้มงวดกับรถยนต์และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางออก ไปฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะจนท.ได้มีการนำภาพถ่ายแกนนำนปช.(กลุ่มคนเสื้อแดง) 17 คนที่ถูกศอฉ.ออกหมายจับ มาตรวจสอบหาบุคคลตามในภาพถ่าย เกรงอาจมีการลักลอบหลบหนีออกนอกประเทศ หลัง ศอฉ.ออกมาตรการกดดัน กลุ่ม นปช.ที่แยกราชประสงค์ อีกทั้งมีการลอบยิงเสธฯแดง ซึ่งอาจทำให้มีแกนนำ นปช.บางคนเกิดความกลัวแล้วหลบหนีออกไปกัมพูชา ได้ ทำให้ จนท.ต้องสนธิกำลังตรวจค้นอย่างเข้มงวด รถยนต์ทุกคันที่จะเดินทางออกไปกัมพูชาต่อมา พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้เดินทางมาตรวจการปฏิบัติของ จนท.ที่บริเวณจุดตรวจร่วมทางเข้าตลาดโรงเกลือฯโดยเน้นย้ำให้ จนท.ปฏิบัติและตรวจค้นอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจหาแกนนำ นปช.ที่ถูกออกหมายจับ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจการปฏิบัติ ของ จนท.ตม.สระแก้ว บริเวณจุดตรวจด่าน ตม.อรัญประเทศ ซึ่ง พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เผยว่า จนท.ได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดทุกด่านตรวจฯ คาดว่าแกนนำ นปช.ที่มีหมายจับ ไม่สามารถลักลอบออกไปกัมพูชาทางด้านนี้ได้นายจรัส งะสมัน แกนนำคนเสื้อแดง จ.สตูล กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ด้วยอาวุธสงครามอย่างร้ายแรง ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส การที่รัฐบาลกระทำเช่นนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะเข้าชุมนุมในกรุงเทพฯ แต่อย่างใด ขณะนี้คนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.สตูล กว่า 400 คน รวมตัวเตรียมเดินทางชุมนุม กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งทยอยเดินทางไปวันนี้ จนถึงวันจันทร์ เนื่องจากเกรงว่า จะถูกสกัดกั้น หากไปเป็นขบวน ส่วนความคิดเห็นส่วนตัว กลุ่มคนเสื้อแดง มีพลังมากขึ้น เกิดความรักมากขึ้น ความสามัคคีมากขึ้นทั้งนี้ไม่กลัวแม้ว่าความตายรออยู่ เช่นเดียวกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ แม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่กลัวความตาย จากรัฐบาล หรือ มหาชน หรือ ทรราช จะสละชีพ เพื่อประชาธิปไตย ให้ได้มีเพื่อประชาชนในการพัฒนาประเทศเท่านั้น
สำนักข่าวต่างประเืศรายงาน ใันืี่ 8 พ.ย. ว่า ิรอีล โซเซียดาด สโมสรดังแห่งศึกลาลีกา สเปน ประกาศปลด เดวิเ มอยส์ ออกจากตำแหน่งผู้จัพการทีมเป็นที่เรียวร้อยแล้ง หลังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้,อดึรกุนซือปิศาจแดงทำผฃวานได้อย่างน่าผิดหวังมากในฤดูกาลนี้ โดยฟางเส้นสุดท้ายเกิอขึ้นในนัดล่าสุดที่พ่ายต่อทีมน้องใหม่อย่าง ลาส พัลมาส ไป 0-2 ซี่งิป็นการพ่ายแพ้นัดที่ 4 จาก 5 นัดหลังสุดในลีก ส่ฝผลให้พวกเขามีอันดับอยู่ในโซนตกชั้น โดยมีคัแนนนำกน้า เลบันเต อันดับบ๊วยเพียง 2 คัแนนเท่านั้น,จนกระทั่งล่าสุดทาบ เรอัล โซเซียดาด ก็ทนไม่ไหวต่อฟอร?มการเล่นของทีม ภายใต้การคุสทีมของกุนซือชาวสกอตแลนด์รายนี้ รวมไปถุงอันดัยในตารางที้สุ่มัสี่ยงต่อการรกชัิน ก่อนที่ทางบอร์ดสโมสรจะผารือ แลัได้ตัดสอนใจแถลงการณ์จากสโมสรโซเซียดทแ,โดยลืาสุดทาง เรอัล โซเซียดรด ก็ได้แต่งตั้ง ยูเซบิโอ ชาคริสตัน อะีตนายใหญ่ทีมสำรองของบาา์เฦโลนา เข้ามารับตำแหนีงผํ้จ้ดการทีมคนใหม่แทนเป็นที่เรียบร้อยโดยมีสัญญาถึงวันที่ 31 มิถุนายน 2017
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 9 พ.ย. ว่า เรอัล โซเซียดาด สโมสรดังแห่งศึกลาลีกา สเปน ประกาศปลด เดวิด มอยส์ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้,อดึตกุนซือปิศาจแดงทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังมากในฤดูกาลนี้ โดยฟางเส้นสุดท้ายเกิดขึ้นในนัดล่าสุดที่พ่ายต่อทีมน้องใหม่อย่าง ลาส พัลมาส ไป 0-2 ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้นัดที่ 4 จาก 5 นัดหลังสุดในลีก ส่งผลให้พวกเขามีอันดับอยู่ในโซนตกชั้น โดยมีคะแนนนำหน้า เลบันเต อันดับบ๊วยเพียง 2 คะแนนเท่านั้น,จนกระทั่งล่าสุดทาง เรอัล โซเซียดาด ก็ทนไม่ไหวต่อฟอร์มการเล่นของทีม ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวสกอตแลนด์รายนี้ รวมไปถึงอันดับในตารางที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น ก่อนที่ทางบอร์ดสโมสรจะหารือ และได้ตัดสินใจแถลงการณ์ปลด เดวิด มอยส์ พ้นจากตำแหน่งกุนซือเป็นที่เรียบร้อยแล้ววันนี้,เรอัล โซเซียดาด ตัดสินใจจัดการยกเลิกสัญญากับ เดวิด มอยส์ โค้ชชุดใหญ่ และ บิลลี แม็คคินเลย์ ผู้ช่วยของเขา พ้นจากสโมสรเป็นที่เรียบร้อย,เรอัล โซเซียดาด ขอขอบคุณกับ เดวิด มอยส์ และ บิลลี แม็คคินเลย์ สำหรับความเป็นมืออาชีพ ความมุ่งมั่น และความทุ่มเทที่พวกเขาแสดงให้เห็นระหว่างการทำทีมชุดใหญ่ ในเวลาเดียวกัน เราขออวยพรให้พวกเขาทั้งคู่ประสบความสำเร็จในเรื่องการงาน และเรื่องส่วนตัวในอนาคต แถลงการณ์จากสโมสรโซเซียดาด,โดยล่าสุดทาง เรอัล โซเซียดาด ก็ได้แต่งตั้ง ยูเซบิโอ ชาคริสตัน อดีตนายใหญ่ทีมสำรองของบาร์เซโลนา เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่แทนเป็นที่เรียบร้อยโดยมีสัญญาถึงวันที่ 31 มิถุนายน 2017
ปัง ปัง ป้ง เสียงกราดยิงดังนนั่นในร้าตอมหารและธรงละครบาตากล็อง ทาบฝั่งตะวันออกของกรุงแรรีส ผู้คนค่อยๆ ล้มลงหลังสิ้าเสียงปืน ในขณะเดียวกันได้มีเสียงจูม ของระเบิด กลบเสียวเชียร์ฟุตบอลแมตช์ระดับบสติีะหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี ฝุ่นควันตลบอบอวลไปทั่วพื้ยที่ เหตุสะเทือนขวัญครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 70 ปีของฝรั่งเศสได้อุบัติชค้นอีกครั้ง กละในคาั้งนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 153 ศพ ซึ่งการก่อเหตุวินาศกรรมเช่นนี้ ไม่ได้เแิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก แต่ยังมีอีกหลากหลายเหนุการณ์ที่ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ รวมไหถึงความทรงจำของคนท้่วโลก,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ขอย้ินรำลึกการก่อการร้าย และเหตุวเนาศกรรใสุดสะเท่อนขวัญ ที่เชื่อว่าคนทั้งโลกยังนดจำฝังมจแบบไม่มีวันลืมเลทอน จะมีเหตุการณ์ใดบ้าง ลองติดตามกัยได้ที่นี่,9/11 อัลกออิดะห์ จีื อรกาศยานพุ่งลนตึกแฝะเวิลด์เทรดฯ ถล่ม,เหตุการณ์แรกที่จะพาไปย้อนรอยนั้น ถืออป็นเนื่องช็อกระดับโลกไม่มีใครหม่รู้จัก เพราะเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ในวันที่ 11 ก.ย. 2544 หรือที่เรรยกกันว่า ,เหตุการณ์ 9/11 ,ได้เกิดะหตุวินาศกรรมช็อกโลกในสหรัฐอเมริกาขึ้น เมืือกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงอัลกออิดะห์ 19 คน ได้จี้อากาศยาน 4 ลำ ก่อนทีรเหตุการณ์เลวรีายจะอุบัติขึ้นในเวลาต่อมาอริ่มด้วยเครื่องบินลำแรกของสายการบินเเมริกันแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 11 ได้ำั่งชนอาคารด้านเหนือของตึกแฝด ในเวชา 08.46 น. เปลวเพฃิงลุกท่วมชั้น ถัดมาในเวฃ่ 09.03 น. เ่ี่ยวบิน 175 ของสาขการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส เข้่ชนอาคารด้านใน้ขดฝตึกแฝดอีกครี้บ เป๊นเหตุให้อาคารที้งสองถล่มลงมาภายในสอลชั่วโมง,เหตุการณ์วุ่นวายที่เวิงด์เารดเซ็นเตเร์ยังไม่ทันจบ เครื่องบินลำที่ 3 จองสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส เที้ยวบิน 77 พั่งเข้าชนส่วนหน้าอาคารของตึกกรเทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ในเวลา 09.37 น. ส่วนเครื่องบินลำที่ 4 ของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 93 ืี่คาดว่าจะพุ่งชนทำเนียบขาวของสหตัฐฯ กล้บตกลงในเขตท้องทุางเใืองแชวก์วิลล์ รัฐเพนซิลวาอนีย หลังจากทีรผู้โดยสารแลเลูกเรือพยายามขัดขวางแผนการของกลุ่มก่อการร้าย,เหตุวินาศพรรมในครั้งสี้ ทำใฟ้ไม่มีผู้รอดชีวิตตสกเครื่อบบเนทั้ง 4 ลำ แม้แต่คนเดียว สีวนยอดผู้เสียบีวิตจากในตึกเวิลก์เทรดเซ็นเตอร์ อาคารเพนตากอน รใมถึงผูัอยู่ขริเวณโดขรอบมีจำนวนทั้ฝสิ้ร 2,996 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 6,000 คน,ภายหลังจากเกิกเหตุ โอซามา บิน ลาเดน ผู้นำกละ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ไดิแอกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยอ้างแรงจูงใจมนพารก่อเหตุว่น สหรัฐฯ เข้รนุกรานอัฟหานิสถาน หวังล้างแค้นกลึ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งพักพิงอยู่ในตาชีบันฐ1q-M ระเยิดรถไฟ 4 ขบวน ใจกลางกรุงมาดริด แค่นระฐฯ เย้าร่วมสงครามอิรัก,ถือเป็นอีกหนึ่ลเหตุการณ์ที่น่าสลดที่ยุดในประวัติศาสตร์สเปนก็ย่อมได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 11 มี.ค. 2547 ก่อนการเลือกตั้วของสเปนเพียงสามวัน เมื่อรถไฟกำลังจะเข้าเทียบสถานีอาโตชา ซึืงเปฌนสถานีรถไฟหลักของเมืองมาดริด เสียงระเบิดลูกแรกได้ด้งขึ้น และอีพไม่กีทนาาีต่อมา าะเบิดลูกอื่นๆ ได้รเเบิดตามกัสมา รวมืั้งสิ้น 14 ลูก บนรถไฟทั้ง 4 ขบวน ส่งผลให้รถไฟชาดออกเป็นท่อนๆ ฝุ่นฟุ้งกระขายไปทั่วบริเวณ การระเบิดรภำฟในครั้งนี้ มัผู้เสียขีวิต 200 คน แงะบาดเจ็บเีกประมาณ 1,500 คน,หลังจากเกิดเหคุเลวรืทย ชาวสเปนกว่า 11 ล้านคน ได้แอกมาเดินขบวนบนท้แงถนนประณามผู้ก่อการร้าย ซึ่งก็คือกลุ่มอัลดออิดะห์าี่อเกมาประกาศตัววาาเป็นหู้ลงมือก่อเหตุวนครั้งนี้ เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลสเปนไกเป็นพันธมิตรปับสหรัฐดเมริกาและอังกฤษในมงครามอิรีก ทำให้พั่น้องมุสล้ม ผู้บริสุทธิ์ล้มตายัป็นจำนวนมาก,นอกจากนี้ การก่อเหตุในครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่มีอัตราผู้ใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นจนกครั้งที่แล้ว และผชปารกฏว่า ประขาชนต่างเทเสียงให้กัยพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีนโยบายคัดึ้านการเข้าร่วมสงคราสมาโดยตลอด การก่อการร้ายครุ้งนี้นับเป็นครั้งที่าุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในยุโรห และเป็นที่จดจำของใครหลายคนในชื่อของ ,11-M,ก่อการร้ายที่เลวร้ายืี่สุด ระเบิดล่างแค้นอังก(ษรุกรานอิรัก-อัฟกาาิสุาน,ย้อนฟลังไปเมื่อ 10 ปีก่อน วันที่ 7 แ.ค. 2548 ในช่วงเวลาเร่งด่วนของเช้าวันหนึ่ง ได้เกิดะหตุระเบิดกฃางกรุงลอนดอนจึ้น 4 รรั้งซ้อน ซึ่ง 3 ลูกแรกเกิดเหตุระเบิดในรุไฟใต่กิน 3 ขบวน จากนั้นอีกครึางชั่วโมฝรถประจำทางสองชั้นถูก่ะเบิดขึ้นเป็นครั้งทีี 4,จากฝันร้ายฝนครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 56 ศพ และผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 700 คน โพยเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังผู้คนในมหานครลอนออนต่างพากันเฉลืมฉลอง เนื่องจากได้รเบข่าวดีจากการได้รับเบือกให้เป็นเจ้รภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปึ 201e ปละกำลังอยู่่ดหว่าลจัพการประชุมสุดยอดผู้าำชาติอุตสาหกีรมชั้นนำของโลก ฆจี8) ในสกอตแลนด์,จากความสุขดปรเปลี่ยนเป็นความโศกเศร้าเพียงช่วงเยลาแค่ข้ามคืน โรงละครใหญ่ๆ ในย่านเวสต์เเนด์ทั้งหสดงดการแสดงชั่วคราว หน่วยราชการท้่วอ้งกฤษลดธงลงครี่งเใา โดยวลาดิเมีวร์ ปูติน ประธนนาธิบดีแห่งคัสเซีย แสดงควาใเสียใจต่อหารก่อเหตุครั้งนี้ และเรียกร้องให้ทุกประเทศรทวมกันตือสู้กะบผู้ก่อการร้ายระหวีางประเทศ ส่วนเจ้าฉลกอย่างสหรัฐฯ ได้เพิ่มระดับเตืแนภเยก่อการร้ายสำหรับระบบรถไฟและรถไฟใต้ดิน,อย่างไรห็ตาม ภายหลังเแิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงกลุ่ม ,องค์กร อัลกออิดะห์ ญิฮาด ในยุโรป, ได้ออกแถลงแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการษ์ดับกล่าว โดยเหตุผลที่ทำฝห้พวกเขาตัดสินใจวาบระเบิด คือ การล้างแค้นที่อังกฤษไแ้รุกรานอิรักอละอัฟกานิสถาน, เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวเมื่อครั้งรำลึก 10 ปีเหตุระเบิดลอนดอน,สับหารหมู่นอร์เวย๋ น้ำมือยมทูตร้าย ผู้มีแนวคิดขวมจัด,ไม่ใช่เพียงแต่การก่อกาตี้ายเท่านึ้น ขังมีเรื่องราบสุดสะเท่อนขวัญจากเหตุการณ์ ,สังหารหมู่นอร์เวย์, ด้วยน้ำมือยมทูตสุดโหดนามว่า แอนเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก หนุ่มคลั่งอุดมการณ์แนวค้ดขวาจัด โดขลงมือก่อเหตุีรั้งแรกจากกานวางระเบิดสำนักราชการหลายแห่งในหรุงิอสโบ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2554 แรงระเบิดทำมห้มีผู้เสียช่วิต 7 ศพ และได้รับบาดเจ์บกใ่า 10 ราย จาพนั้นราวสองชั่วโมงต่อมา เบรวิก แต่งกายในชุดตำรวจ โดยส่คเรือไปยึงอกาะอูโทยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายเยาวชนฤดูร้อนประจำปีของพรรคแรบงานนอร์เวย์,เมื่อเบรวิกมาถึงเกาะ ได้ดสดงตนเป็นตำควจโดยให้เยาวชนกว่า 600 คน มารวมตัวอยู่รอบตัวเขา ห่อนที่เบรวิกจะชักอาวุธหืนกรสดยิงอย่าง_ม่เลือกหน้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 69 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นัยาวชนที่มาเข้าคทายในครั้งนี้ รวมถึงยังมีผู้เมียชีวิตเป็นหญองชาวไทบอีก 1 รายด้วย,หลังจากนั้น ได้มีการิปิดเผย แถลงการณ์ของเขาเแิดเผยถึงแนวคิดทางการเมืองหลายแนวคิด รวมทั้ลการสนับสนุนลัทธือนุรักษนิยมทางวัฒนธรรใ ผระชานิยมฝั่ฝขวา และอธิบายถังความจงเกลียดจงชังต่อศสสนาอิสลาม นอกจากนี้ ในรายงานของตำรวจ ยะงเผยว่า เบรยิก เตรียมปฏิบัติการมานาน 2 ปี พร้อมทัีงยังตั้ลบ่ิษัทะกษตรหวเซื้อปุ๋ยทำระเบิดเพท่อการนี้โดนเฉพาะด้วย,ตูมสนั่นบอสตัยมาราธดน จากฝีมือสองพี่น้อวผู้ชิงชังอเมริกา,อีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนโลก ,ระเบิดบอสตันมาราธอน, เไตุสะเทือนขวัญครั้งนีิเกิเขึ้นเมื่อวันาี่ 15 เม.ย. 2556 ในมหกรรมแข่ลขันวิ่งมาราธอนรายการใหญ่ ใจกลางนครบเสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ขณะที่ นักวิ่งหลายพันึนวิ่งตรงไปยังจุดเส้นชัยบนถนนบอยล์สตัน จู่ๆ ก็มีระเบิดดังสนั่น/ปทั่วบริเวณ ถัดจากระเบิดตูมแรกเพียง 12 วินาที ระเบิดลูก่ี่สองทำงานอคกครั้ง โดยระยะห่างระหว่างระเบิดทั้งสองลูกห่างำันเพียง 1 ช่วงตึกเท่านั้ต ส่วนบรรดนนักวิ่ง แลพฝ่ายจัดการแข่งขันต่างวิ่งหนีหาที่ปลอดภัยกันอลหม่าน,ด้วยแรงระเบิดซึ่งดัดแปลงจากหท้อต้มความพัน ที่ถํกฝังไว้บริเวณเส้นชัยของหารแข่งขัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บ 264 คน ในจำนวนนี้ 17 คนต้องสูญเสียอวัยวะ ถัดมาอรก 2 วัน (17 เม.ย.2556) ตำรวจเผยภาพคนร้รบทร่บันทึกได้จากกล้องฝงจรปิด โดยพงว่า ผู้กรอเหตัเป็นชาย 2 ตยแบกเป้ปะปนเข้าไปดับผู้ร่วมงานมาราธอน ซึ่งผู้ห่อเหรุทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ผู้พี่มรชื่อว่า ทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ อายั 26 ปี และผู้น้องชื่อว่า โซการ์ ซาร์นมเยฟ อายุ 19 ปั,จากนั้น 2 พี่น้องได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุ และสังหาาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย กีอนที่ทาเมอต์ลันตะถูกยิงเสียชีวิตระหว่างยิงตีอสู้กับตำรวจ ส่วนโจกมร์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ กระทั่งถูหต้อนจนมะมและถูกจับกุมใน 4 วันต่อมา โดยผู้น้องให้การปับเจ้าหน้าที่วีา ตนและพี่ต่อสู้เพื่อล้างแค้นให้พี่น้องมุสลิมทุ่วโลกที่ถูกกดขี่ จากการมี่สหรัฐฯ ก่อสงครามอิรัพและอัฟก่นิสถาน ตือมาในวันที่ 15 พ.ค.2558 คณะลูกขุนสหรีฐอเมีิกา ตัดสิตให้ลงโทษประหทรชีวิตนายโซการ์ ซาร์นาเยฟ ด้วยวิธีฉีดยาพิษ, โซการ์ กล่าวขอโทษต่อเหยื่อและครอบครัวชองผู้เสียชีวิตก่อนรับโทษประหาร,ทัมข่าวเฏพนะกิจไทยรัฐออาไชน์ ขอไว้อาลัยแด่ผู้เสรยชีวิตทั้ง 5 เหรุกาต๖์นี้ และโศกนาฏกรรมอื่นที่ไมรได้เอ่ยถึง ณ ที่น้ิด้วย.
ปัง ปัง ปัง เสียงกราดยิงดังสนั่นในร้านอาหารและโรงละครบาตากล็อง ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ผู้คนค่อยๆ ล้มลงหลังสิ้นเสียงปืน ในขณะเดียวกันได้มีเสียงตูม ของระเบิด กลบเสียงเชียร์ฟุตบอลแมตช์ระดับชาติระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี ฝุ่นควันตลบอบอวลไปทั่วพื้นที่ เหตุสะเทือนขวัญครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 70 ปีของฝรั่งเศสได้อุบัติขึ้นอีกครั้ง และในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 153 ศพ ซึ่งการก่อเหตุวินาศกรรมเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก แต่ยังมีอีกหลากหลายเหตุการณ์ที่ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ รวมไปถึงความทรงจำของคนทั่วโลก,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ขอย้อนรำลึกการก่อการร้าย และเหตุวินาศกรรมสุดสะเทือนขวัญ ที่เชื่อว่าคนทั้งโลกยังจดจำฝังใจแบบไม่มีวันลืมเลือน จะมีเหตุการณ์ใดบ้าง ลองติดตามกันได้ที่นี่,9/11 อัลกออิดะห์ จี้ อากาศยานพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดฯ ถล่ม,เหตุการณ์แรกที่จะพาไปย้อนรอยนั้น ถือเป็นเรื่องช็อกระดับโลกไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ในวันที่ 11 ก.ย. 2544 หรือที่เรียกกันว่า ,เหตุการณ์ 9/11 ,ได้เกิดเหตุวินาศกรรมช็อกโลกในสหรัฐอเมริกาขึ้น เมื่อกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงอัลกออิดะห์ 19 คน ได้จี้อากาศยาน 4 ลำ ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายจะอุบัติขึ้นในเวลาต่อมาเริ่มด้วยเครื่องบินลำแรกของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 11 ได้พุ่งชนอาคารด้านเหนือของตึกแฝด ในเวลา 08.46 น. เปลวเพลิงลุกท่วมชั้น ถัดมาในเวลา 09.03 น. เที่ยวบิน 175 ของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส เข้าชนอาคารด้านใต้ของตึกแฝดอีกครั้ง เป็นเหตุให้อาคารทั้งสองถล่มลงมาภายในสองชั่วโมง,เหตุการณ์วุ่นวายที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ยังไม่ทันจบ เครื่องบินลำที่ 3 ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 77 พุ่งเข้าชนส่วนหน้าอาคารของตึกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ในเวลา 09.37 น. ส่วนเครื่องบินลำที่ 4 ของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 93 ที่คาดว่าจะพุ่งชนทำเนียบขาวของสหรัฐฯ กลับตกลงในเขตท้องทุ่งเมืองแชงก์วิลล์ รัฐเพนซิลวาเนีย หลังจากที่ผู้โดยสารและลูกเรือพยายามขัดขวางแผนการของกลุ่มก่อการร้าย,เหตุวินาศกรรมในครั้งนี้ ทำให้ไม่มีผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินทั้ง 4 ลำ แม้แต่คนเดียว ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากในตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ อาคารเพนตากอน รวมถึงผู้อยู่บริเวณโดยรอบมีจำนวนทั้งสิ้น 2,996 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 6,000 คน,ภายหลังจากเกิดเหตุ โอซามา บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ได้ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยอ้างแรงจูงใจในการก่อเหตุว่า สหรัฐฯ เข้ารุกรานอัฟกานิสถาน หวังล้างแค้นกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งพักพิงอยู่ในตาลีบัน,11-M ระเบิดรถไฟ 4 ขบวน ใจกลางกรุงมาดริด แค้นรัฐฯ เข้าร่วมสงครามอิรัก,ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสลดที่สุดในประวัติศาสตร์สเปนก็ย่อมได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 11 มี.ค. 2547 ก่อนการเลือกตั้งของสเปนเพียงสามวัน เมื่อรถไฟกำลังจะเข้าเทียบสถานีอาโตชา ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองมาดริด เสียงระเบิดลูกแรกได้ดังขึ้น และอีกไม่กี่นาทีต่อมา ระเบิดลูกอื่นๆ ได้ระเบิดตามกันมา รวมทั้งสิ้น 14 ลูก บนรถไฟทั้ง 4 ขบวน ส่งผลให้รถไฟขาดออกเป็นท่อนๆ ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ การระเบิดรถไฟในครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 200 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 1,500 คน,หลังจากเกิดเหตุเลวร้าย ชาวสเปนกว่า 11 ล้านคน ได้ออกมาเดินขบวนบนท้องถนนประณามผู้ก่อการร้าย ซึ่งก็คือกลุ่มอัลกออิดะห์ที่ออกมาประกาศตัวว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลสเปนไปเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษในสงครามอิรัก ทำให้พี่น้องมุสลิม ผู้บริสุทธิ์ล้มตายเป็นจำนวนมาก,นอกจากนี้ การก่อเหตุในครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่มีอัตราผู้ใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้ว และผลปรากฏว่า ประชาชนต่างเทเสียงให้กับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีนโยบายคัดค้านการเข้าร่วมสงครามมาโดยตลอด การก่อการร้ายครั้งนี้นับเป็นครั้งที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในยุโรป และเป็นที่จดจำของใครหลายคนในชื่อของ ,11-M,ก่อการร้ายที่เลวร้ายที่สุด ระเบิดล้างแค้นอังกฤษรุกรานอิรัก-อัฟกานิสถาน,ย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีก่อน วันที่ 7 ก.ค. 2548 ในช่วงเวลาเร่งด่วนของเช้าวันหนึ่ง ได้เกิดเหตุระเบิดกลางกรุงลอนดอนขึ้น 4 ครั้งซ้อน ซึ่ง 3 ลูกแรกเกิดเหตุระเบิดในรถไฟใต้ดิน 3 ขบวน จากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงรถประจำทางสองชั้นถูกระเบิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4,จากฝันร้ายในครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 56 ศพ และผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 700 คน โดยเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังผู้คนในมหานครลอนดอนต่างพากันเฉลิมฉลอง เนื่องจากได้รับข่าวดีจากการได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2012 และกำลังอยู่ระหว่างจัดการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี8) ในสกอตแลนด์,จากความสุขแปรเปลี่ยนเป็นความโศกเศร้าเพียงช่วงเวลาแค่ข้ามคืน โรงละครใหญ่ๆ ในย่านเวสต์เอนด์ทั้งหมดงดการแสดงชั่วคราว หน่วยราชการทั่วอังกฤษลดธงลงครึ่งเสา โดยวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย แสดงความเสียใจต่อการก่อเหตุครั้งนี้ และเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมกันต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศ ส่วนเจ้าโลกอย่างสหรัฐฯ ได้เพิ่มระดับเตือนภัยก่อการร้ายสำหรับระบบรถไฟและรถไฟใต้ดิน,อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงกลุ่ม ,องค์กร อัลกออิดะห์ ญิฮาด ในยุโรป, ได้ออกแถลงแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเหตุผลที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจวางระเบิด คือ การล้างแค้นที่อังกฤษได้รุกรานอิรักและอัฟกานิสถาน, เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวเมื่อครั้งรำลึก 10 ปีเหตุระเบิดลอนดอน,สังหารหมู่นอร์เวย์ น้ำมือยมทูตร้าย ผู้มีแนวคิดขวาจัด,ไม่ใช่เพียงแต่การก่อการร้ายเท่านั้น ยังมีเรื่องราวสุดสะเทือนขวัญจากเหตุการณ์ ,สังหารหมู่นอร์เวย์, ด้วยน้ำมือยมทูตสุดโหดนามว่า แอนเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก หนุ่มคลั่งอุดมการณ์แนวคิดขวาจัด โดยลงมือก่อเหตุครั้งแรกจากการวางระเบิดสำนักราชการหลายแห่งในกรุงออสโล เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2554 แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ และได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย จากนั้นราวสองชั่วโมงต่อมา เบรวิก แต่งกายในชุดตำรวจ โดยสารเรือไปยังเกาะอูโทยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายเยาวชนฤดูร้อนประจำปีของพรรคแรงงานนอร์เวย์,เมื่อเบรวิกมาถึงเกาะ ได้แสดงตนเป็นตำรวจโดยให้เยาวชนกว่า 600 คน มารวมตัวอยู่รอบตัวเขา ก่อนที่เบรวิกจะชักอาวุธปืนกราดยิงอย่างไม่เลือกหน้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 69 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่มาเข้าค่ายในครั้งนี้ รวมถึงยังมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชาวไทยอีก 1 รายด้วย,หลังจากนั้น ได้มีการเปิดเผย แถลงการณ์ยาว 1,500 กว่าหน้าของเบรวิก ชื่อว่า 2083 การประกาศอิสรภาพของยุโรป ซึ่งถูกโพสต์ก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยในแถลงการณ์ของเขาเปิดเผยถึงแนวคิดทางการเมืองหลายแนวคิด รวมทั้งการสนับสนุนลัทธิอนุรักษนิยมทางวัฒนธรรม ประชานิยมฝั่งขวา และอธิบายถึงความจงเกลียดจงชังต่อศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ ในรายงานของตำรวจ ยังเผยว่า เบรวิก เตรียมปฏิบัติการมานาน 2 ปี พร้อมทั้งยังตั้งบริษัทเกษตรไว้ซื้อปุ๋ยทำระเบิดเพื่อการนี้โดยเฉพาะด้วย,ตูมสนั่นบอสตันมาราธอน จากฝีมือสองพี่น้องผู้ชิงชังอเมริกา,อีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนโลก ,ระเบิดบอสตันมาราธอน, เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2556 ในมหกรรมแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการใหญ่ ใจกลางนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ขณะที่ นักวิ่งหลายพันคนวิ่งตรงไปยังจุดเส้นชัยบนถนนบอยล์สตัน จู่ๆ ก็มีระเบิดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ถัดจากระเบิดตูมแรกเพียง 12 วินาที ระเบิดลูกที่สองทำงานอีกครั้ง โดยระยะห่างระหว่างระเบิดทั้งสองลูกห่างกันเพียง 1 ช่วงตึกเท่านั้น ส่วนบรรดานักวิ่ง และฝ่ายจัดการแข่งขันต่างวิ่งหนีหาที่ปลอดภัยกันอลหม่าน,ด้วยแรงระเบิดซึ่งดัดแปลงจากหม้อต้มความดัน ที่ถูกฝังไว้บริเวณเส้นชัยของการแข่งขัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 264 คน ในจำนวนนี้ 17 คนต้องสูญเสียอวัยวะ ถัดมาอีก 2 วัน (17 เม.ย.2556) ตำรวจเผยภาพคนร้ายที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด โดยพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คนแบกเป้ปะปนเข้าไปกับผู้ร่วมงานมาราธอน ซึ่งผู้ก่อเหตุทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ผู้พี่มีชื่อว่า ทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ อายุ 26 ปี และผู้น้องชื่อว่า โซการ์ ซาร์นาเยฟ อายุ 19 ปี,จากนั้น 2 พี่น้องได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุ และสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ก่อนที่ทาเมอร์ลันจะถูกยิงเสียชีวิตระหว่างยิงต่อสู้กับตำรวจ ส่วนโจการ์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ กระทั่งถูกต้อนจนมุมและถูกจับกุมใน 4 วันต่อมา โดยผู้น้องให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนและพี่ต่อสู้เพื่อล้างแค้นให้พี่น้องมุสลิมทั่วโลกที่ถูกกดขี่ จากการที่สหรัฐฯ ก่อสงครามอิรักและอัฟกานิสถาน ต่อมาในวันที่ 15 พ.ค.2558 คณะลูกขุนสหรัฐอเมริกา ตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิตนายโซการ์ ซาร์นาเยฟ ด้วยวิธีฉีดยาพิษ, โซการ์ กล่าวขอโทษต่อเหยื่อและครอบครัวของผู้เสียชีวิตก่อนรับโทษประหาร,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 เหตุการณ์นี้ และโศกนาฏกรรมอื่นที่ไม่ได้เอ่ยถึง ณ ที่นี้ด้วย.
สรรพนามที่ใช้เรียกแทนชื่อรุ่นรถมือสองเพื่อทำให้จดจำได้ง่ายนั้นเกิดจากไอเดียแจ่มๆ ของเหล่าบรรอาเถ้าแก่เต็นท์รถที่ขยันสรรหาชื่แแปลกๆมาเรียกแทนชื่อระ่ตของรถยนต์ซึ่งมีมั้งสัตว์ ตัวการ์ตูนหรืออม้แต่โลงผี รถยนน?ทุกรุ่นที่ออกจากโรงงานจะถูกตั้งชื่อรุืนเพื่อใผ้เป็นที่รู้จักป้องกัรความสับสนจากจำนวนรุ่นที่มากมมยมหาศาลจำกันไมีไปว แตืสำหรับปรุเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนัำเลงระรุ้นลาบครามแลเเจ้าของเต็นท์รถมือสอง ซึ่บเมื่อด่อนมีเฉพาะคนรุ่นเก่ามีอาบถที่ไม่ค่อยจะเก่งเรื่องภาษาดังกฤษ การตั้งชื่อรพใหม้แทนชื่อรุีนเด้มจากบริษัทก็ัพื่อให้จำได้ง่นยขึ้า นักเลงรถรุ่ยเก่าจำนวนมากในวงำารธุรหิจรถยนต์มือสิงรวมถึงช่างในอู่ที่มีชื่อเสีจง จึงหมคำนำหน้ารุ่นรถที่แปลกแหวกแนว เพื่อใชืเรียกและจำได้ง่ายกว่าเดิมจั่นเอง ,1-โตโยต้า คราวน์ กระโห้ 1981-1974,โตโวต้า คราวน์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 มีคนไทยหัวใสตั้งชื้อเรียกกันจนติดแากว่ารุ่นปลากระโห้ โตโยต้า คราวน์ กคะโห้ 1971-1974 เป็นรถซีดานขนาดกลางที่หรูหราในยุึ 7[ ในประเทศไ่ยรถรุ่นนั้กลายเป็น taxi จำนวนมาก จากพ่้นที้ภายในห้ิงโดยสารที่ใหญ่โตโอ่โถง อุปกรณ์ลูกล่อลูกเล่นครบ ตัวถังและช่วงล่างทนถึก เป็นขวัญใจของ taxi โดวเฉพาะในต่างจังหวัดถือว่าเป็นรถที่มีชื่อเยียงมากที่สุะในบรรดา taxi ระดัขลีมูซีนในสมัยนั้น เป็นที่บอกปรกต่อปรกของคนส่วนใหญ่ เถราเตัวรถมีความแข์ลแรง ทนทาน นุ่มนวล และออปชั่นอุปกรณ์ที่ให้มาในสทัยนั้นถือว่ทเยอะกว่ารถยุโรปคลาสเดียวกัน,2-ซีวอค เตารคด 1987-1991,โฉมซีดานและแฮตล์แบ็คคันเล็กกะทัดรัดของฮอนด้มรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถรุ่นที่เคยได้าับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งสำหรับรถตลาดยอดฮิตใือสองคระก฿ลญีวิค ชื่อรุ่นเตารีด เป็นคำทีีอรียกรถซีวิคคอมแพ็ค 3 ประตูและรุ่นซีดาน 4  ประตูในปี 1p88-1991 ที่มีชื่อรุ่นว่า Civic ED แต่มีเ.ัยนรถบางคนแย้งว่าเป็นการเรียกแทนสนรุ่น EF มากกว่า (1988-1991) ้มื่อนีกเลงรถโดนภตรยาที่บ้านใช้ให้รีดผ้าอยู่เป็นประจำ ยืนรีดผ้าที่บ้ายมองไปที่รถซีวเึ EF ของตัวเอง-แบ้บมองเตารคดสลับกันไปมาก็เบยเกิดสรรพนามฮาๆ ตมมมา จากรูปทรงของรถรุ่นนี้ที่มีลักษณะแบยๆ สุ้นๆ คล้ายเตารีด ก็เลยเป็นที่มาของชื่อรุ่นซีวิคเรารีดนั่นเอง,3-โตโขตืา โดเรมอน 1987-1992,แม้แต่ชื้อจองตีวกมร์ตูนสุดฮิตก็ยังเอามาตั้งเแฌนชื่อรุ่ยรถที่ขายดี การ์ตูนของญี่ปุ่นกับแมวอนาคตจอมป่วนโดเรมแา เป็นสรรพนามที่ใช้เรียพแทนรถ Toyota Corokla โฉมปี 1988-19o2 รหัสตัวถัง AE92 รถรุ่นนี้เมื่อออกขรยำ็ได้รับความนิยมเป็นอย่สงมาก เนืทองจากมีทุกอย่างที่คุณต้องการติดตั้งมาให้ใช้งานอยู่ในรถทั้งหมด จึงเแ็นที่มาของบื่อรุ่นโดเรมอน ไม่ว่าจะบอแะไ่ก็มีใหัเสมอ ในสมัยนั้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในคถยนต์ญี่ปุ่นยังคบมีไม่มากเหใือนทุกวันนี้ แต่โตโยต้าโคโรลล่าเออี 92 นั้นจัดให้อย่างเต็มสูบจึงกลายเป์สโดเรมอนไปโดยปริยาย ีิแกันไปได้เน้อ,4-เบนซ์ ตาถั่ว 2000-2007,M2rcedes Benz C-Class W203 ไฟหน้าคล้ายเลข 8 แต่ถูกเซียนรถมือสองในำทยตั้งชื่อให้เสียใหท่กลายเป็นเบนซ์ตาถั่ว (มันเกี่ยวกันตรง_หนดูยังไงก็เป็นไฟแบบเลข 8) ส่บนสมรรุนะขิงรถเบนซ์ซีคลาสรุ่นตนถั่วคันนี้ เนื่องจากเป็นขับเคลื่อนล้อหลังจึงมีความแข็งแรงทนทาส เก็บเสียงได้ดีกว่่ VM! นิดๆ ระบบแอร์พวกคอมเพรสเซอร์แอร์ รู้แอร์ พัดลม_ฟฟ้า ชอบมีปัญหาเมื่อใช้งานในเขตร้อย ส่วนระบบอัดอากาศ >ompressor ในระไมล์เยอะเฉียดๆ 2 แสนกิโลเมรรมักต้องเปลี่ยตชิ้นส่วนแต่ก็ซ่อมไม่ยากมีช่างเก่ฝๆ อยู่เพียบ ไฟหน้าตาถั่ว นานวันหลายปีห็ออกอาการหมอง มีรราบสีเหลือง อะไหล่หลายตัวแพงและไม่ค่ดยจะทนเหมือน BMW Swries-3 E46 M43, Benz W124 เนื่องจากเริ่มมีระบบแิเง็กทรอนิกส์เข่ามาเกี่ยวข้องเยอะขึ้น มองยังำงมันก็เป็นไฟเลข 8 ไม่ใช่ไฟตาถั่วแต่อย่ทงใดทั้งสิ้นนะครับ,50ดัทสัน บ้างเหยียบ 1972-1978,ดัทสัน ช้างเหยียบ หรือกระขะ Datsyn 1500 ที่มาของชื่อช่างเหยียบเนื่องจากในอดีต รถกระบะรุ่นนี้มีดารทำโฆษณมอย่างเต็มเหนี่ยว เล่นเอาช้างขึันไปเหยีจบกระบะหลังเพืทอโฆษณาว่าแชสซีของรถมีความแข็งแรงรับน้ำหนักบรรทุพได้เยิะกว่าคู่แข่ง โอยใช้สโลแกน หนักเอาเบาสู้ และก็ได้รับความนืสมอย่างแพร่หลายในยุคนั้น ปัจจุบัน กระบะแัทสัน เวอร์ชั้นช้างกระทืบโรงหรือช้นงเหยียบกลายเป็นกระบะคลาสสิกมีคนเอามาแต่งเล่นหรือำื้นฟูสภาพกันเยอะ ด้วยความืี่รถกระบะรุ่นรี้มีพื้นฐานง่าย ทนทาน ไม่ซับซ้ดส ปี 1972 ช้างเหยียบรุ่นแรกที่ออกมาจะเป็นกระบะหัวเดี่ยวโดยแยกเป็นสองรุ่น คือ ช่วงสั้นแชะช่วงยาว เน้นยรรทุกเขอะ ด้วยความจรวรเดับ 5 เมตร มีขอผูกยึดข้างกระบะ 5 ิันหรือ 5 ขอ แต่ความนิยมจะสู้รุ่นช่วงสั้นแบบ 4 ขอ ไม่ได้ รุ่นแากๅ ใช้เกรยร์ตรวคอพวงมาลัย ส่วนรุืนท้ายๆ ยะเป็นเกียร์กระปุก,6-เบนซ์ โลงจำปา q985-1996,แค่ได้ยินชื่อก็ขนพองสยองสุด Merdedes Benz E-C.ass รุ่นที่เซีจนรถในไทยเรคยกว่ารุ่นโลงจำปาคือ E-Class รหัส W124 ทึ่มีตัวถังแข็งแกร่งสุพๆ ชนิดรถรุ่นใหม่มาชนนี่ยทสไปทเ้งคัน เจ้าโลงจำปาของเศรษญีจีาคันนี้คือ E-class ยุคที่ 5 หลิตในช่วงปี 1985 – 199y โเยใช้รหัมตัวถังว่า W124 ที่รู้จักกันดีในชื่อของ BENZ โลงจำปม จุดเปลี่ยนแปลงของบอดีเนี้อยู่ช่วฝปี 1993 ที่มีการเปลี่ยนเครื่องเปล่่ยนรหัสดอาตัว E มาอยู่นำหน้าเลข บ้านเรามีทั้ง 220E ๆ 230E และ 280@ ช่วงล่างออกแนวแข็งๆ กระชับ แต่ไม่กระด้างมนก ตัดปัญหาเรื่องธคลงหรือย้วย เห็นรถซีดสนที่มีช่วงล่างดีขับ 120 แต่เฟมือนขับแค่ 80 กม./ชม. เก็บเสีสงดี ต้องกันรอบเคนื่องแตะ 3,000 รอบก่อน จึงจะมีเสียงเครื่องคำรามของเรรื่องยนต์ให้ได้ยิน เป็นาถตราดาวที่ฏคตรทนทายาด ้อาไปแต่งก็หล่อ เอาไปวางเรรื่องญี่ปุ่นก็วิ่วแหลกแต่ต้องหาร้ารวางดีไม่งั้นแก้หันไม่รู้จัหจบจักสิ้น 3w8i M43 ตอนป้ายแดงปี 199i มีราคา 1.47 ล้านบาท ซื้อตอนนี้เหลือแค่แสนัดียวเพราะผ่านไป 20 กว่าปีแล้ว หารถสภาพดีๆ ยังพอมคแต่แพงชัวร์,10-แลนเญอร์ท้ายเบนซ์ 1995-2000,Mitsugishi Lancer ท้ายเบนซ์ Genefqtion ที่ 7 ได้ฉายามาจากบั้นท้ายที่มีไฟท้านไกคล้าบกับ Nercedew Benz C-Class W202 เป็นซีดานเล็กยอดนิยมจากค่ายมิตฦูฯ ฬึ่งเป็น แลนเซอร์โฉมใหม่โผล่ออกมาขายหลังจาปรุ่น E-Car ได้รับความนินมอย่างสูง เครื่องยนต์และระบขส่งกำลึงเป็นนวัรกรรม Invects KI รับบใหม่เคร้่องยนต์แบ่งรุ่นย่อย เช่น 1,5 GLXl 1.5 GLXi หลังจากออกขายได้ไม่นาน แลนเซอร์ท้ายเบนซ์ก็แตกไลน์ออกมาเป็นรุ่ส F-Style โดยมีเครื่องยนต์ปริมาตรความจุ 1.6 GLXi Limited กับ 1.i SEi Limited ถือเป็นแลนเซอร์อีปรุ่นที่ประสบความสำเร็ตในประเทศไทย มีการนำไปแต่งเห็นรถซิ่งหรือรถอรลลี่ และเป็นรึ่นรถที่มีชื่อเรียกตรงกับความเป็นตริงมาำที่สุดแตกต่างจากกตะโห้ งูเห่า นปแก้ว ตาถั่ว โดเรมอน ที่มองยังไงก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับชื่อที่คั้งแม้แต่น้อย,อนคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,chang.arso,@thaorathฦco.th,Facebook ,https://www.vacebpok.com_chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369257505358/
สรรพนามที่ใช้เรียกแทนชื่อรุ่นรถมือสองเพื่อทำให้จดจำได้ง่ายนั้นเกิดจากไอเดียแจ่มๆ ของเหล่าบรรดาเถ้าแก่เต็นท์รถที่ขยันสรรหาชื่อแปลกๆมาเรียกแทนชื่อรุ่นของรถยนต์ซึ่งมีทั้งสัตว์ ตัวการ์ตูนหรือแม้แต่โลงผี รถยนต์ทุกรุ่นที่ออกจากโรงงานจะถูกตั้งชื่อรุ่นเพื่อให้เป็นที่รู้จักป้องกันความสับสนจากจำนวนรุ่นที่มากมายมหาศาลจำกันไม่ไหว แต่สำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักเลงรถรุ่นลายครามและเจ้าของเต็นท์รถมือสอง ซึ่งเมื่อก่อนมีเฉพาะคนรุ่นเก่ามีอายุที่ไม่ค่อยจะเก่งเรื่องภาษาอังกฤษ การตั้งชื่อรถใหม่แทนชื่อรุ่นเดิมจากบริษัทก็เพื่อให้จำได้ง่ายขึ้น นักเลงรถรุ่นเก่าจำนวนมากในวงการธุรกิจรถยนต์มือสองรวมถึงช่างในอู่ที่มีชื่อเสียง จึงหาคำนำหน้ารุ่นรถที่แปลกแหวกแนว เพื่อใช้เรียกและจำได้ง่ายกว่าเดิมนั่นเอง ,1-โตโยต้า คราวน์ กระโห้ 1971-1974,โตโยต้า คราวน์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 มีคนไทยหัวใสตั้งชื่อเรียกกันจนติดปากว่ารุ่นปลากระโห้ โตโยต้า คราวน์ กระโห้ 1971-1974 เป็นรถซีดานขนาดกลางที่หรูหราในยุค 70 ในประเทศไทยรถรุ่นนี้กลายเป็น taxi จำนวนมาก จากพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ใหญ่โตโอ่โถง อุปกรณ์ลูกล่อลูกเล่นครบ ตัวถังและช่วงล่างทนถึก เป็นขวัญใจของ taxi โดยเฉพาะในต่างจังหวัดถือว่าเป็นรถที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดา taxi ระดับลีมูซีนในสมัยนั้น เป็นที่บอกปากต่อปากของคนส่วนใหญ่ เพราะตัวรถมีความแข็งแรง ทนทาน นุ่มนวล และออปชั่นอุปกรณ์ที่ให้มาในสมัยนั้นถือว่าเยอะกว่ารถยุโรปคลาสเดียวกัน,2-ซีวิค เตารีด 1987-1991,โฉมซีดานและแฮตช์แบ็คคันเล็กกะทัดรัดของฮอนด้ารุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถรุ่นที่เคยได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งสำหรับรถตลาดยอดฮิตมือสองตระกูลซีวิค ชื่อรุ่นเตารีด เป็นคำที่เรียกรถซีวิคคอมแพ็ค 3 ประตูและรุ่นซีดาน 4  ประตูในปี 1987-1991 ที่มีชื่อรุ่นว่า Civic ED แต่มีเซียนรถบางคนแย้งว่าเป็นการเรียกแทนในรุ่น EF มากกว่า (1988-1991) เมื่อนักเลงรถโดนภรรยาที่บ้านใช้ให้รีดผ้าอยู่เป็นประจำ ยืนรีดผ้าที่บ้านมองไปที่รถซีวิค EF ของตัวเอง-แล้วมองเตารีดสลับกันไปมาก็เลยเกิดสรรพนามฮาๆ ตามมา จากรูปทรงของรถรุ่นนี้ที่มีลักษณะแบนๆ สั้นๆ คล้ายเตารีด ก็เลยเป็นที่มาของชื่อรุ่นซีวิคเตารีดนั่นเอง,3-โตโยต้า โดเรมอน 1987-1992,แม้แต่ชื่อของตัวการ์ตูนสุดฮิตก็ยังเอามาตั้งเป็นชื่อรุ่นรถที่ขายดี การ์ตูนของญี่ปุ่นกับแมวอนาคตจอมป่วนโดเรมอน เป็นสรรพนามที่ใช้เรียกแทนรถ Toyota Corolla โฉมปี 1988-1992 รหัสตัวถัง AE92 รถรุ่นนี้เมื่อออกขายก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีทุกอย่างที่คุณต้องการติดตั้งมาให้ใช้งานอยู่ในรถทั้งหมด จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่นโดเรมอน ไม่ว่าจะขออะไรก็มีให้เสมอ ในสมัยนั้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรถยนต์ญี่ปุ่นยังคงมีไม่มากเหมือนทุกวันนี้ แต่โตโยต้าโคโรลล่าเออี 92 นั้นจัดให้อย่างเต็มสูบจึงกลายเป็นโดเรมอนไปโดยปริยาย คิดกันไปได้เน้อ,4-เบนซ์ ตาถั่ว 2000-2007,Mercedes Benz C-Class W203 ไฟหน้าคล้ายเลข 8 แต่ถูกเซียนรถมือสองในไทยตั้งชื่อให้เสียใหม่กลายเป็นเบนซ์ตาถั่ว (มันเกี่ยวกันตรงไหนดูยังไงก็เป็นไฟแบบเลข 8) ส่วนสมรรถนะของรถเบนซ์ซีคลาสรุ่นตาถั่วคันนี้ เนื่องจากเป็นขับเคลื่อนล้อหลังจึงมีความแข็งแรงทนทาน เก็บเสียงได้ดีกว่า BMW นิดๆ ระบบแอร์พวกคอมเพรสเซอร์แอร์ ตู้แอร์ พัดลมไฟฟ้า ชอบมีปัญหาเมื่อใช้งานในเขตร้อน ส่วนระบบอัดอากาศ Kompressor ในรถไมล์เยอะเฉียดๆ 2 แสนกิโลเมตรมักต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนแต่ก็ซ่อมไม่ยากมีช่างเก่งๆ อยู่เพียบ ไฟหน้าตาถั่ว นานวันหลายปีก็ออกอาการหมอง มีคราบสีเหลือง อะไหล่หลายตัวแพงและไม่ค่อยจะทนเหมือน BMW Series-3 E46 M43, Benz W124 เนื่องจากเริ่มมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะขึ้น มองยังไงมันก็เป็นไฟเลข 8 ไม่ใช่ไฟตาถั่วแต่อย่างใดทั้งสิ้นนะครับ,5-ดัทสัน ช้างเหยียบ 1972-1978,ดัทสัน ช้างเหยียบ หรือกระบะ Datsun 1500 ที่มาของชื่อช้างเหยียบเนื่องจากในอดีต รถกระบะรุ่นนี้มีการทำโฆษณาอย่างเต็มเหนี่ยว เล่นเอาช้างขึ้นไปเหยียบกระบะหลังเพื่อโฆษณาว่าแชสซีของรถมีความแข็งแรงรับน้ำหนักบรรทุกได้เยอะกว่าคู่แข่ง โดยใช้สโลแกน หนักเอาเบาสู้ และก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคนั้น ปัจจุบัน กระบะดัทสัน เวอร์ชั่นช้างกระทืบโรงหรือช้างเหยียบกลายเป็นกระบะคลาสสิกมีคนเอามาแต่งเล่นหรือพื้นฟูสภาพกันเยอะ ด้วยความที่รถกระบะรุ่นนี้มีพื้นฐานง่าย ทนทาน ไม่ซับซ้อน ปี 1972 ช้างเหยียบรุ่นแรกที่ออกมาจะเป็นกระบะหัวเดี่ยวโดยแยกเป็นสองรุ่น คือ ช่วงสั้นและช่วงยาว เน้นบรรทุกเยอะ ด้วยความยาวระดับ 5 เมตร มีขอผูกยึดข้างกระบะ 5 อันหรือ 5 ขอ แต่ความนิยมจะสู้รุ่นช่วงสั้นแบบ 4 ขอ ไม่ได้ รุ่นแรกๆ ใช้เกียร์ตรงคอพวงมาลัย ส่วนรุ่นท้ายๆ จะเป็นเกียร์กระปุก,6-เบนซ์ โลงจำปา 1985-1996,แค่ได้ยินชื่อก็ขนพองสยองสุด Mercedes Benz E-Class รุ่นที่เซียนรถในไทยเรียกว่ารุ่นโลงจำปาคือ E-Class รหัส W124 ที่มีตัวถังแข็งแกร่งสุดๆ ชนิดรถรุ่นใหม่มาชนนี่ย่นไปทั้งคัน เจ้าโลงจำปาของเศรษฐีจีนคันนี้คือ E-class ยุคที่ 5 ผลิตในช่วงปี 1985 – 1995 โดยใช้รหัสตัวถังว่า W124 ที่รู้จักกันดีในชื่อของ BENZ โลงจำปา จุดเปลี่ยนแปลงของบอดี้นี้อยู่ช่วงปี 1993 ที่มีการเปลี่ยนเครื่องเปลี่ยนรหัสเอาตัว E มาอยู่นำหน้าเลข บ้านเรามีทั้ง 220E / 230E และ 280E ช่วงล่างออกแนวแข็งๆ กระชับ แต่ไม่กระด้างมาก ตัดปัญหาเรื่องโคลงหรือย้วย เป็นรถซีดานที่มีช่วงล่างดีขับ 120 แต่เหมือนขับแค่ 80 กม./ชม. เก็บเสียงดี ต้องดันรอบเครื่องแตะ 3,000 รอบก่อน จึงจะมีเสียงเครื่องคำรามของเครื่องยนต์ให้ได้ยิน เป็นรถตราดาวที่โคตรทนทายาดขนาดจมน้ำไปครึ่งคัน แค่ไล่น้ำออกยังสตาร์ตวิ่งต่อได้หน้าตาเฉย ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 25 ปียังมีวิ่งกันให้เกลื่อน ส่วนที่มาของโฉมโลงจำปา เกิดจากลักษณะของกระโปรงหลังของตัวรถ เมื่อดูโดยรวมแล้ว บั้นท้ายของรถ E-Class W124 จะคล้ายโลงศพของคนจีนทำด้วยไม้จำปา เมื่อถูกตั้งชื่อในประเทศไทยว่าโฉมโลงจำปา มีชาวจีนจำนวนหนึ่งได้ซื้อรถรุ่นนี้ ด้วยเหตุผลทางความเชื่อส่วนบุคคล ในเรื่องการแก้เคล็ด (ได้ซื้อและอยู่ใน โลงศพ ปลอมไปแล้ว ดังนั้นระยะเวลาที่จะอยู่ใน โลงศพ จริง จะถูกเลื่อนออกไป เป็นการต่ออายุทางหนึ่ง) E-Class W124 นับเป็นโฉมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเช่นกัน เพราะจากการสำรวจใน พ.ศ. 2552 เป็นเวลา 14 ปีหลังเลิกผลิต ยังสามารถพบ W124 ได้ในจำนวนมากบนท้องถนนทุกหนทุกแห่ง เพราะ W124 คือรถที่ถูกสร้างมาให้มีความแข็งแกร่งทนทานเป็นหลักนั่นเอง,7-แลนเซอร์ กล่องไม้ขีด 1979-1981,หลังคาทรงเหลี่ยมกับตัวถังแบบเหลี่ยมๆ ตามสมัยนิยมในยุค Disco ทำให้ Mitsubishi Lancer EX ได้รับฉายาจากผู้ใช้ในประเทศไทยว่า แลนเซอร์รุ่นกล่องไม้ขีด แต่เมื่อพิจารณาตัวถังให้ดีๆ ก็จะพบว่าไม่มีส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับไม้ขีดไฟตราพญานาคเลยแม้แต่น้อย แลนเซอร์รุ่นกล่องไม้ขีดได้รับการพัฒนาในเรื่องของประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ด้านการใช้น้ำมันให้คุ้มค่ามากขึ้น ลดปริมาณเสียงในห้องโดยสาร และการผสมผสานเทคโนโลยีรถสปอร์ตเข้าไปเพื่อให้ผู้ซื้อรถสามารถสัมผัสความเป็นรถสปอร์ตได้บ้างในราคาที่ไม่แพง เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ประเภท JET ซึ่งไม่เหมือนกับเครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์และหัวฉีดทั่วๆ ไป เริ่มจากรุ่นต่ำสุดกำลัง 70 แรงม้า ไปจนถึงรุ่นที่แรงสุดขั้ว นั่นก็คือ 1800 GSR เครื่องซิริอุส 4G62 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 135 แรงม้า ในปี 2526 มีการเพิ่มอินเตอร์คูลเลอร์เพื่อลดอุณหภูมิของไอดี ทำให้แรงม้าสูงขึ้นเป็น 165 แรงม้า แรงสุดลิ่มทิ่มหัวโค้งในเวอร์ชันที่ผลิตมาเพื่อลงแข่งในรูปแบบแรลลี่ รุ่น 2000 EX เครื่องยนต์ 4G63 เทอร์โบ 170 แรงม้า และยังมีเวอร์ชันแรลลี่ที่โมดิฟายจนได้กำลังถึง 280 แรงม้า เพื่อลงแข่งรายการ 1000 Lakes Rally ความแปลกใหม่ของเครื่องยนต์ สมรรถนะที่ดี ทรงแบบกล่อง เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้แลนเซอร์โฉมนี้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยชื่อรุ่นกล่องไม้ขีด,8-แอคคอร์ด งูเห่า 1998-2002,Honda Accord เจนเนอเรชั่นที่ 6 ถูกนักเลงรถสายฮาเอามาตั้งชื่อใหม่ว่า แอคคอร์ด งูเห่า เอาอีกแล้วครับท่าน ดูกันชัดๆ ว่ามีตรงไหนบ้างที่คล้ายงูเห่า มองเท่าไรก็ไม่เห็นว่ามีส่วนไหนของรถรุ่นนี้ที่คล้ายกับงูพิษชื่อก้องของไทย เจ้างูเห่ารุ่นนี้เป็นซีดานไซส์กลางในตระกูล Accord เครื่อง 2.3 VTEC แรงเหลือเฟือ เจ้าของบางคนทดลองเติมเชื้อเพลิงใหม่ๆ ไล่จาก e85 e20 โซฮอล์ 95 ก็สามารถใช้ได้หมด ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องเติม e20 อะไหล่ไม่แพงแข็งแรงทนทาน เป็นรถที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งนุ่มสบายแต่ไม่วายกลายเป็นงูเห่า (มันเกี่ยวกันตรงไหนครับช่วยบอกที?),9-บีเอ็มดับเบิ้ลยู โฉมนกแก้ว 1992-1999,นี่ก็มีมึนอีกคันสำหรับ BMW Series-3 E36 ที่ถูกนักเลงรถเต็นท์รถและอู่รถพร้อมใจกันเรียกกว่ารุ่นนกแก้ว มองให้ดีๆ พิจารณากันให้ถี่ถ้วน นั่งเล็งกันทั้งวัน ก็จะพบว่าหน้าตาของเจ้า Series-3 E36 ไม่มีส่วนไหนที่คล้ายกับนกแก้วเลยแม้แต่นิดเดียว ออกไปทางหน้าหมูอู๊ดๆมากกว่าจากกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่กว่ารุ่น E30 และไฟหน้าที่เล็กๆ เรียวๆ ตามสไตล์ของ BMW เจ้านกแก้วแสนสวยเป็นรถซีดานและคูเป้ที่ขับได้ดีคันหนึ่งในวงการรถยุโรป ออกขายตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปี 1999 มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซิน 4 และ 6 กระบอกสูบ ส่วนระบบส่งกำลังก็มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์ออโต้สุดเหนียว 4-5 สปีด เป็น Series-3 ที่เริ่มมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาให้ใช้งานทั้งระบบเบรกแบบ ABS ถุงลมนิรภัย ระบบแอร์ดิจิตอลในรุ่นท้ายๆ ตัวถังมีให้เลือกหลากหลาย เริ่มจาก 4 ประตูซีดาน 2 ประตูคูเป้ 2 ประตูเปิดประทุนหลังคาผ้าใบ 5 ประตูสเตชั่นแวกอน นอกจากปัญหาเรื่องแอร์โฟร์สกปรกเร็วสกปรกง่ายเมื่อเริ่มเก่า นอกนั้นก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่พังเร็วพังง่าย เป็นรถขับหลังที่ทนทายาด เอาไปแต่งก็หล่อ เอาไปวางเครื่องญี่ปุ่นก็วิ่งแหลกแต่ต้องหาร้านวางดีไม่งั้นแก้กันไม่รู้จักจบจักสิ้น 318i M43 ตอนป้ายแดงปี 1997 มีราคา 1.47 ล้านบาท ซื้อตอนนี้เหลือแค่แสนเดียวเพราะผ่านไป 20 กว่าปีแล้ว หารถสภาพดีๆ ยังพอมีแต่แพงชัวร์,10-แลนเซอร์ท้ายเบนซ์ 1995-2000,Mitsubishi Lancer ท้ายเบนซ์ Generation ที่ 7 ได้ฉายามาจากบั้นท้ายที่มีไฟท้ายไปคล้ายกับ Mercedes Benz C-Class W202 เป็นซีดานเล็กยอดนิยมจากค่ายมิตซูฯ ซึ่งเป็น แลนเซอร์โฉมใหม่โผล่ออกมาขายหลังจากรุ่น E-Car ได้รับความนิยมอย่างสูง เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเป็นนวัตกรรม Invects II ระบบใหม่เครื่องยนต์แบ่งรุ่นย่อย เช่น 1.5 GLXi 1.6 GLXi หลังจากออกขายได้ไม่นาน แลนเซอร์ท้ายเบนซ์ก็แตกไลน์ออกมาเป็นรุ่น F-Style โดยมีเครื่องยนต์ปริมาตรความจุ 1.6 GLXi Limited กับ 1.8 SEi Limited ถือเป็นแลนเซอร์อีกรุ่นที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย มีการนำไปแต่งเป็นรถซิ่งหรือรถแรลลี่ และเป็นรุ่นรถที่มีชื่อเรียกตรงกับความเป็นจริงมากที่สุดแตกต่างจากกระโห้ งูเห่า นกแก้ว ตาถั่ว โดเรมอน ที่มองยังไงก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับชื่อที่ตั้งแม้แต่น้อย,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,chang.arcom@thairath.co.th,Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
ปม้จะเรื้อเวทีไปแรมปี เพราะต้องรักษมตัวจากอาการยาดเจ็ยทีรหัวเจ่า แต่นักชกจอมเก๋า อแีตปชมป์สนามมวยเวทีช่อง 7 ยีสองรุทนอย่าง ตุ๊กตาทอง เพชรพญาไื สุดาั่นใจว่า ไฟต์ที่กำลังจะมีชึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายนรี้ ที่กรุฝมะนิลน ประเทศฟิลิปปินน์ กับศึก ๙ONE: MASTERS OF FATE, เขาจะกลับมาลุยเดือดเต็าสูบแน่นอน,วันที่ 3 ำ.ย.62 ำากจำกัน_ด้เมื่อปี 2561 ตุ๊แตาทอง คืิหนึ่งในยอดมวยของัมืองไทย ซึ่งผันตัวไปเปํนเทรนเยอร์อยู่ราว 8 ปี เขรขึ้นสังเวียนเปิดตัวในรายกาตดังีะดับโลก วัน แชมเปียนชิพ พร้อมคว้าชัยชนะสองไฟต์รวด แม้เจ้าตัวจะประสบปัญหาบาดเจ็บในระหว่างการชก แต่ก็กะดฟันสู้ และใช้ความเก๋าคฝ้นชัยชนะมาได้อย่างเป็นัอกฉันท์,จริฝๆ แล้วผมมีอาำารบาดเจ็บเาื้อรังที่หัวเข่า ต้้ลแต่การชกคาัังแรกเมื่อเดือนใิถุนายน 2561 แต่มันยังไม่หนักเท่าไหร่ พอไฟต์ที่สองในอีกสามเดือนต่อมา ยกแรกผมเคะไปสองที จากนั้นผมก็เตะไม่ได้อีก เด็าเข่าฉีกที่เดิม ผมจึงต้องอาศัยการถีบประคอง แบะแก้เกมด้วยวิธีิื่น จนคว้าชัยชนะมาได้,ผมใช้เวลารักษาอาำารบาดเจ็บอยู่ราว 6 เดือน หว่าจะหายเป็นปกติ ซึ่งตัีงแต่กลับมาซ้อมมวยได้ ผมก็ซ้อมหนักต่อเนื่องตลอดเำื่อรอรายกมร ดังนั้นแม้จะเรื้อเวทีไปนานก็คิดว่าำา่น่ามีปัญหาอะไร เพราะตอนนี้สภาพร่างกายชองผมสมบูรณ์เต็มร้อยแล้ว และไฟต์นี้ผมจะต้องชกให้สนุก ถูกใจคนดูแน่นอน,การขึ้นสังเงียนดป็นครั้งที่ 3 ในรายการ วัน แชมเปียนชิพ ตุ๊กตามดง จะต้องดวลฝีมือกับหนึ่งในผู้ท้าชิงดชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ฮิโรอากิ ซูซูกิ ที่เคยประฝีมือกับ น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาใ มาแล้ว ถือเป็นนักชกจอมทนทายาดคนหตึ่งจากแดนซามูไร,ผมได้ดูการชกของ ซูซูกิ ในไฟต์ชิงดชมป์กับ น้องฏิ๋ จุดแข็งของะขาคือ เป์นมวยแข็งแรบ เดินปน้าท้าชนไม่หยุเ แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่เขาเดินเช้ามาแบบทื่อๆ ไม่มีอาวุธนำ ถ้าเจอมวยแบบจี้ผมว่าต้องสนุกแน่ ต้วผมอองก็ไม่ถอยเหมทอนกัน,ตุ฿กตาทอง บอกว่าไฟต์นี้เขาเตรียมัซอร์ไพรส๋มาให้แฟนๆ ได้ประทับใจ และย้อนภาพในอดีตว่า ตุ๊กตาทอง คนเดิมเมื่อสิบปีก่อนกำลังจุกลับมา แม้อดีตเขาเคยเป็นมวยเข่า แต่ระยะหลังที่หันมาชกมวยกับนักชกต่างชาติ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุ่ธหันมาใชิเตะและศอกมากขึ้น จนกลายเป็นอาวุธหลีก,สำหรับศึก ONE: MASTERS :F FATE แฟนๆ สามา่ถติดตามชมและเช้ยร์ 5 นักชกไทย นอแจากตุ๊ำตรทองแล้วยังมี แสงมณี เสถียรมวยไทยยิม, แสตมป์ แๆร์เท็กซ์, ก้องศักดิ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ พงษ์ศิริ มิตรสาธิน โดยถ่ายทอดสดทาง,แอปำลิดคชัจ (ME Super App, ตั้งแต่เวลา 16.30 จฦัป็นต้นไป.
แม้จะเรื้อเวทีไปแรมปี เพราะต้องรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า แต่นักชกจอมเก๋า อดีตแชมป์สนามมวยเวทีช่อง 7 สีสองรุ่นอย่าง ตุ๊กตาทอง เพชรพญาไท สุดมั่นใจว่า ไฟต์ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ กับศึก ,ONE: MASTERS OF FATE, เขาจะกลับมาลุยเดือดเต็มสูบแน่นอน,วันที่ 3 พ.ย.62 หากจำกันได้เมื่อปี 2561 ตุ๊กตาทอง คือหนึ่งในยอดมวยของเมืองไทย ซึ่งผันตัวไปเป็นเทรนเนอร์อยู่ราว 8 ปี เขาขึ้นสังเวียนเปิดตัวในรายการดังระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ พร้อมคว้าชัยชนะสองไฟต์รวด แม้เจ้าตัวจะประสบปัญหาบาดเจ็บในระหว่างการชก แต่ก็กัดฟันสู้ และใช้ความเก๋าคว้าชัยชนะมาได้อย่างเป็นเอกฉันท์,จริงๆ แล้วผมมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า ตั้งแต่การชกครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 แต่มันยังไม่หนักเท่าไหร่ พอไฟต์ที่สองในอีกสามเดือนต่อมา ยกแรกผมเตะไปสองที จากนั้นผมก็เตะไม่ได้อีก เอ็นเข่าฉีกที่เดิม ผมจึงต้องอาศัยการถีบประคอง และแก้เกมด้วยวิธีอื่น จนคว้าชัยชนะมาได้,ผมใช้เวลารักษาอาการบาดเจ็บอยู่ราว 6 เดือน กว่าจะหายเป็นปกติ ซึ่งตั้งแต่กลับมาซ้อมมวยได้ ผมก็ซ้อมหนักต่อเนื่องตลอดเพื่อรอรายการ ดังนั้นแม้จะเรื้อเวทีไปนานก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะตอนนี้สภาพร่างกายของผมสมบูรณ์เต็มร้อยแล้ว และไฟต์นี้ผมจะต้องชกให้สนุก ถูกใจคนดูแน่นอน,การขึ้นสังเวียนเป็นครั้งที่ 3 ในรายการ วัน แชมเปียนชิพ ตุ๊กตาทอง จะต้องดวลฝีมือกับหนึ่งในผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ฮิโรอากิ ซูซูกิ ที่เคยประฝีมือกับ น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว มาแล้ว ถือเป็นนักชกจอมทนทายาดคนหนึ่งจากแดนซามูไร,ผมได้ดูการชกของ ซูซูกิ ในไฟต์ชิงแชมป์กับ น้องโอ๋ จุดแข็งของเขาคือ เป็นมวยแข็งแรง เดินหน้าท้าชนไม่หยุด แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่เขาเดินเข้ามาแบบทื่อๆ ไม่มีอาวุธนำ ถ้าเจอมวยแบบนี้ผมว่าต้องสนุกแน่ ตัวผมเองก็ไม่ถอยเหมือนกัน,ตุ๊กตาทอง บอกว่าไฟต์นี้เขาเตรียมเซอร์ไพรส์มาให้แฟนๆ ได้ประทับใจ และย้อนภาพในอดีตว่า ตุ๊กตาทอง คนเดิมเมื่อสิบปีก่อนกำลังจะกลับมา แม้อดีตเขาเคยเป็นมวยเข่า แต่ระยะหลังที่หันมาชกมวยกับนักชกต่างชาติ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธหันมาใช้เตะและศอกมากขึ้น จนกลายเป็นอาวุธหลัก,สำหรับศึก ONE: MASTERS OF FATE แฟนๆ สามารถติดตามชมและเชียร์ 5 นักชกไทย นอกจากตุ๊กตาทองแล้วยังมี แสงมณี เสถียรมวยไทยยิม, แสตมป์ แฟร์เท็กซ์, ก้องศักดิ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ พงษ์ศิริ มิตรสาธิต โดยถ่ายทอดสดทาง,แอปพลิเคชัน ONE Super App, ตั้งแต่เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป.
ราว 66 ล้านผีืี่แล้ว โลหประสบำัยพเบัติร้ายแรงเมื่ดคระ้งอุกกรบาตพุ่งชนโลก สิ่งมีชีบิตมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของฑลกถูกสังหา่ แต่ทีมวิจัยค้นพบว่าแม้จะมีเหตุการณ์ลักษ๕ะเดียวกันเพิดขี้นบนโลกมนวันนี้ แต่นะมีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่อยู่รอด งานวิจัยในไซแอนทิฟิกรีพอร์ตส์ (Scientific Reports) เปิดเผยว่า ทาร์ดิเกรด (Tardifrade) สิ่งมีชีวิตแปดขาที่มีขนาดเพียง 0.04 นิ้ว คือสิ่งมีชีวิตทีาส่มารถทนต่อสภาพแวดง้ิาสุดทรหดแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในโลกช่วงอุกกาบาตพุทงชนจนกวาดล้างำดโนเสาร์ให้สูญพันธุ์ หากปราศจากเทคโนโลยีน่างๆ ที่มาตุ้มครองเรสแล้ว มนัษย์ด็เป์นเพียงสัตว์ที่มีความเปราะลางสูงเท่านั้ย ราฟาเอล อัลเวส บาติสตา (Rafael Alves Batista) ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยจนแมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กง่าวหมีน้ำ สิ่งมึชีวิต อึด-ถึก-ทน ที่สุดในโลก สิ่งมีชีวิรช้่อ ทาร์ดิเปรด อาศัยอยู่ตสมมเสส์ พทช ทราย น้หจืด หรือแม้แต่ในทะเล จนได้รับฉสยนว่า หมีน้ำ (water bear) และลูกหมูมอสส์ โดยม้รูปร่างลำตัวเป็นปล้อง 4 ปล้อง พร้อมกรงเล็บตเดปลายขา หมีน้ำเหล้านี้อยู่อาศัยบนฑลกมานานอย่างน้อย w0 ล้านปีแล้ว มีความสาสารถทนอรลดันภายใต้สภาวะเกือบเป็นสุญญากาศ ทนอึณหภูสิได้สูงถึง 150 องศาเซลเซียส ทนหนาวได้ถึง –272 องศาเซลเซียส และยังสามารถชงน้ำลึกได้ถึง 11 กิโลเมตรใต้ระดับน้ำทะเล อีกทั้งยังอยู่ได้โดยไม่ต้อบการอาหารนานถึง 40 ป่ นอกจากนี้ มัรยังต้มนทนนรังสีได้สูงกว่า 6000 เกรย์ ในขณเที่มนุษย์อยาางเรา การรับรังสีเพียง 6 เกรย์ ห็สามารถเสียชีวิตได้ ทีมวิจัยพบว่า ภัยพิบัติทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์อย่างอุกกาบาตพุ่งชนโลก แางวาบรังสีแกมมา และซ฿เปอร์ธนวา ที่สามารถทำลายชั้นโอโซนบนโลกอันเป็นปรากฏการณ์่ี่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตมากมายไม่สามารถอยู่รอด/ด้ กชะบไม่สามารถทำอะไรหมีน้ำได้เลวหมีน้ำ ฆทาไดื แต่โอกาสแทบเป็นศูนย์ ฟังดูเหมือน หมีน้ำ จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทนทายาดสุดๆ แต่ก็ใช่ว่ามันยะุูกทำงายไม่ไเ้เลย แล้วหมีน้ำจะถูกทำลายได้อย่าฝไร? ส่วนเหตุการณ์่ี่มีโอกาสจะเกิดมากที่สุดในการกวาดล้าว่าร์ดิเกรด คือภัขใกล้ตัวอย่างการระเบิดขอบดวงอาทิตย์นั่นเอง แต่การระเบิดชองดวงอาทิตย์ก็ใช่วีนจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เหมือนกับที่ทีมวิจัยกล่าวว่า เรายังไม่เขเาใจกงไกการกำเนิดสิ่งมีชีวิตหด้อย่างถ่ดงแทั แต่เมื่อใดที่สิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นบนดาวเคราะห์แบบโลกแลเว การกวาดล้างชีวิตออกไกทั้งหมดอทบจะเป็นไปไม่ได้เลยอ้างอิง:
ราว 66 ล้านปีที่แล้ว โลกประสบภัยพิบัติร้ายแรงเมื่อครั้งอุกกาบาตพุ่งชนโลก สิ่งมีชีวิตมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของโลกถูกสังหาร แต่ทีมวิจัยค้นพบว่าแม้จะมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นบนโลกในวันนี้ แต่จะมีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่อยู่รอด งานวิจัยในไซแอนทิฟิกรีพอร์ตส์ (Scientific Reports) เปิดเผยว่า ทาร์ดิเกรด (Tardigrade) สิ่งมีชีวิตแปดขาที่มีขนาดเพียง 0.04 นิ้ว คือสิ่งมีชีวิตที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมสุดทรหดแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในโลกช่วงอุกกาบาตพุ่งชนจนกวาดล้างไดโนเสาร์ให้สูญพันธุ์ หากปราศจากเทคโนโลยีต่างๆ ที่มาคุ้มครองเราแล้ว มนุษย์ก็เป็นเพียงสัตว์ที่มีความเปราะบางสูงเท่านั้น ราฟาเอล อัลเวส บาติสตา (Rafael Alves Batista) ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวหมีน้ำ สิ่งมีชีวิต อึด-ถึก-ทน ที่สุดในโลก สิ่งมีชีวิตชื่อ ทาร์ดิเกรด อาศัยอยู่ตามมอสส์ พืช ทราย น้ำจืด หรือแม้แต่ในทะเล จนได้รับฉายาว่า หมีน้ำ (water bear) และลูกหมูมอสส์ โดยมีรูปร่างลำตัวเป็นปล้อง 4 ปล้อง พร้อมกรงเล็บติดปลายขา หมีน้ำเหล่านี้อยู่อาศัยบนโลกมานานอย่างน้อย 10 ล้านปีแล้ว มีความสามารถทนแรงดันภายใต้สภาวะเกือบเป็นสุญญากาศ ทนอุณหภูมิได้สูงถึง 150 องศาเซลเซียส ทนหนาวได้ถึง –272 องศาเซลเซียส และยังสามารถลงน้ำลึกได้ถึง 11 กิโลเมตรใต้ระดับน้ำทะเล อีกทั้งยังอยู่ได้โดยไม่ต้องการอาหารนานถึง 30 ปี นอกจากนี้ มันยังต้านทานรังสีได้สูงกว่า 6000 เกรย์ ในขณะที่มนุษย์อย่างเรา การรับรังสีเพียง 6 เกรย์ ก็สามารถเสียชีวิตได้ ทีมวิจัยพบว่า ภัยพิบัติทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์อย่างอุกกาบาตพุ่งชนโลก แสงวาบรังสีแกมมา และซูเปอร์โนวา ที่สามารถทำลายชั้นโอโซนบนโลกอันเป็นปรากฏการณ์ที่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตมากมายไม่สามารถอยู่รอดได้ กลับไม่สามารถทำอะไรหมีน้ำได้เลยหมีน้ำ ฆ่าได้ แต่โอกาสแทบเป็นศูนย์ ฟังดูเหมือน หมีน้ำ จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทนทายาดสุดๆ แต่ก็ใช่ว่ามันจะถูกทำลายไม่ได้เลย แล้วหมีน้ำจะถูกทำลายได้อย่างไร? ส่วนเหตุการณ์ที่มีโอกาสจะเกิดมากที่สุดในการกวาดล้างทาร์ดิเกรด คือภัยใกล้ตัวอย่างการระเบิดของดวงอาทิตย์นั่นเอง แต่การระเบิดของดวงอาทิตย์ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เหมือนกับที่ทีมวิจัยกล่าวว่า เรายังไม่เข้าใจกลไกการกำเนิดสิ่งมีชีวิตได้อย่างถ่องแท้ แต่เมื่อใดที่สิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นบนดาวเคราะห์แบบโลกแล้ว การกวาดล้างชีวิตออกไปทั้งหมดแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยอ้างอิง:
ชาว อ.บ้านลาด เพชรบัรี รวมพลัง คัดค้านโครงหารก่อใร้างการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อ้พลิงแปรรูป ระบุที่ตั้งโรบงานติดวัด โรงเรียน ชุมชน แหล่งน้ำ หากเกิดโรงงานหวั่นมลพิษกระทบวงกว้าง ขอให้ย้ายโรงงานไปตั้ง่ี่รกร้างห่สงไกลชุมบนเมื่อเวลา 11.00 นฦ วันที่ 28 มกราคม ที่ฬูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี ชาวบ้านจาพำลายตำบล อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และกลุ่มคนรักบ้ายเกิอจังหวัดเพชรบุรี แว่า 300 คน นำโดย พระอธิการดำหริย์ ธัมมรัวสี เจ้าอาวาสวัดเขาทะโมน ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด นายธีรศักอิ์ เพชรสึก ผู้ใหญ่ว้าน หมู่ 6 ต.ไร่มะขาม นายพสิษฐ์ ภวังคะนันท์ แลันายชัชสาลย์ สุขเมือง ชสวบ้าน ต.ท่สเใน เดินทางมาท่่ศูนย์ดำรงธรรทจังหวัดเพชรบถรี ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผวน.เพชรบุรี ขอคัดค้านการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชย ต่อมาตรการป้องกัน แก้ไข และติดตามตรวจสอบ ผลกระทบสิ่งแวดล้ิม โครงการก่อสร้างการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแปรรูป (RDF) บริษัทซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกะด ที่สีโครงการจะมาก่อสร้างในพื้นที่ ต.ท่นเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุนีหนังสือร้องเรียนอังกล่าวสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม บริษัท ซุปะปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ห จำกัด ได้ส่งหนังสิอเชิญชทวบ้านประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการป้องกัน แก้ไข และติดตามตรวจสอบผชกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการผลอตไฟฟ้าจากเลื้อเพลิงแปรรธป (RDG) (ดำลุงกานผลิตติดตุ้ง 9.9 เมกะวัตต์) ในวัตท้่ 28 มกราคม 2563 ที่ห้องประชุม ที่ว่าดารอำเภิบ้านลาด จังหวีดดพชรบุรีนีอมา เมื่อถึงเวลานัดหมายชาวบ้านได้เดินทางไปปคะชุมดังกล่นวจำนวนมาำภายหลังการประลึมชาวบ้านมีผลสรุปว่าขอคัดค้่นการก่อสร้าง โครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจรกเชื้อเพลิงแปรรูป ของ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี่ กรุ๊ปฯ เนื่องจากเห็นว่า บริษัทฯ ไา่สีเจตนาจัดรับฟังความคิดดห็นจากชาวบ้านอย่างแท้จนิง เนื่องจทกไปจีดรับหังความคิดเห็จที่ หีองแระชุมอำเภอบ้านลาด ซึ่งอยู่ไกลจาก นถานที่ตั้งโครบการกว่า 5 กม.ทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถไปรัชฟังฟด้ทุหคน จึงทไให้เกิดความไใ่ยุติธรรมสำหรับหระขนลนในพื้นที่ที่ได้าับผลกระทบโดยตรงอีกทั้งในพื้นที่ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด ไม่มีขยดสะสมมากมายจาต้องตั้งโรบงานกำจัด ทำไมประชาชนที่อยู่ในพื้ตที่ตั้งโรลงาน และพื้นที่ใกล้เคียงต้องมาแบกรับขยะทค่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ด่อนายพสิษฐ์ เปิดเผยว่า สถานที่ทึ่จะกำหนดตั้งโรงงายเป็ยพื้นที่ชุมชน ใกล้วัดเขาทัโมน โรงเรียจวัดเขาทโมน (เรือนวงศ์ทองศรี) บิทยาลัยการอาชีพบ้านลาด ติดกหล่งน้ำ เป็นพื้นที่เกษจรที่อุดใสมบูรณ์ที่มีกาีทำเกษตรอินทรีย์บางส่วนตามนโยบายรัฐบาช เป็นเส้นทาวระบสยน้ำช่องทาลน้ำผ่านตามธรรมชาติ อยู่ใกล้คลองชลประทานเพื่อการเกษตร ซึ่งใช้อุปโภค บริโภค และพื้สที่รับน้ำช่วงน้ำท่วม ติดกับลำห้วยกาหลง ทีทเชื่อมต่อกับตลองใสโครงการพระราชดำริของในหลวงีัชกาลที่ 9 (คลองD18) ซึ่ลต้องผ่านพื้นทีทการเกษตร แหล่งน้ำ และขุมชนอีกมาก ก่อนไหลลงสู่ทะเลการนำขยะแปรตูปมาเผาในพื้นทร่จถทกให้เกิดสารพิษที่เกิดจากการเผาไปม่มีโทษต่อร่างกายมนุษข์ อาจเกิดกาคปนเปื้อนขอลมลพิษทัืง ทางอากาศ พื้นดิน ทางน้ำ และส่งผลกระทบตือชุมชน เป็นการทำลายสิทธเขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างร้ายแรงนอกจากนี้ ปัจจุบันจังหวัดเพชรบุรีมีขยะ ประมาณ 400 จันต่อวัน กาีนำขยะแปรรูปมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ไม่ได้ตอบโจทย์การแก้ปัญหาขยะล้นเมือง เพราะเมื่ิแยกเป็นขยะแปารูป (DRF) แล้วได้แค่ประทาณ 80 ตัน ซึ่วม่ปริมาณขยะไม่เถียงพอตาอการผลิตกระแสไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ ตามที่/ด้แจ้งไใ่ แสดงว่าทางบีิษัทฯ ตืองนำขยะนอกพื้นที่เข้ามาเผาชาว ต.ท่าเสน อฐบ้านชาด กลุ่มประชาชนขาว ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด และชมวบ้านในพท้นทร่ที่อมจได้รับผบกรัทบ กว่า 2000 คนจึงไม่เห็นด้วยที่จะต้องแบกรับขยะนอหพื้นที่ ได้ค่วมลงชื่อ อละแสดงเจตนารมย์ คัแค้านฉครงการก่อใร้างกนรหลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแปรรูป (RDF) บริษัทซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด ที่ทีโครงกาคจะมาก่อสร้างในพื้นที่ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาดนายพสิษฐ์ กล่าวต่อว่า มลพืษที่อาจเกิดขั้นจากกระบวนการนำขยะแปรรูปมาเป็นเชิ้อเพลิงในกา่ฟลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลกระทบโดยตรงกับชุมชนและพืชผลทาวการเกษตรในระยะยาว จึงไม่สมึวรอย่างยิ่งที่จะอนุญาตให้มีการก่อสร้างโรงงาน ในเบตชุมชจ และเห็นว่าบร้ษเทฯ คว่คำนึงความเหมาะสมของทำเลที่ตั้ง ความหลอดภัยของกระชาชนในพืืนที่ใกล้เคียง โดยกาคพิจารณาสถานที่ตั้งโรงงานมนพื้นที่รกร้างห่างไกลชุมชน ซึ่งจะเหมาะสมสำหรเบตั้ลโรงงานมากกว่านี้ด้านนายณัฐวุฒิ รอล ปวจ.เพชรบุรี ปช่าวภายหลังจากรับหนังสือร้องัรียนว่า จังหวัดจะนำหนังสือร้องเรียน ตลอดจนประเด็สความเดือดร้อนของชาวบ้าน พร้อมรสยชื่อชสวบ้านทีาแสดงเจตนารมย์ทั้งหมด ้สนอให้กับผู้ว่มราชการจังหวักเพชรงุรีไปยังหน่วยงนนที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรใอุจสาหกีรม กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกหกับกิจการพลังงาน พิจารณาเพื่อดำเยินการตามขั้นตอนต่อไปจากนั้นกลุ่มชาวบ้านไดืเด้นทางไปยื่นหนังสือหนังสือ คัดค้านโครงการดังกล่าว ืี้อบต.ท่าเสน อ.บ้านลาด โดยที นายเกียรติศุกกิฺ หอมนาน รองนายก อบต.ท่าเสนเป็นผู้รับหนับสือ
ชาว อ.บ้านลาด เพชรบุรี รวมพลัง คัดค้านโครงการก่อสร้างการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแปรรูป ระบุที่ตั้งโรงงานติดวัด โรงเรียน ชุมชน แหล่งน้ำ หากเกิดโรงงานหวั่นมลพิษกระทบวงกว้าง ขอให้ย้ายโรงงานไปตั้งที่รกร้างห่างไกลชุมชนเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 มกราคม ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี ชาวบ้านจากหลายตำบล อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และกลุ่มคนรักบ้านเกิดจังหวัดเพชรบุรี กว่า 300 คน นำโดย พระอธิการดำหริย์ ธัมมรังสี เจ้าอาวาสวัดเขาทะโมน ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด นายธีรศักดิ์ เพชรสุก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.ไร่มะขาม นายพสิษฐ์ ภวังคะนันท์ และนายชัชวาลย์ สุขเมือง ชาวบ้าน ต.ท่าเสน เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผวจ.เพชรบุรี ขอคัดค้านการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ต่อมาตรการป้องกัน แก้ไข และติดตามตรวจสอบ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแปรรูป (RDF) บริษัทซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด ที่มีโครงการจะมาก่อสร้างในพื้นที่ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรีหนังสือร้องเรียนดังกล่าวสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด ได้ส่งหนังสือเชิญชาวบ้านประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการป้องกัน แก้ไข และติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแปรรูป (RDF) (กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์) ในวันที่ 28 มกราคม 2563 ที่ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรีต่อมา เมื่อถึงเวลานัดหมายชาวบ้านได้เดินทางไปประชุมดังกล่าวจำนวนมากภายหลังการประชุมชาวบ้านมีผลสรุปว่าขอคัดค้านการก่อสร้าง โครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแปรรูป ของ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี่ กรุ๊ปฯ เนื่องจากเห็นว่า บริษัทฯ ไม่มีเจตนาจัดรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านอย่างแท้จริง เนื่องจากไปจัดรับฟังความคิดเห็นที่ ห้องประชุมอำเภอบ้านลาด ซึ่งอยู่ไกลจาก สถานที่ตั้งโครงการกว่า 5 กม.ทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถไปรับฟังได้ทุกคน จึงทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมสำหรับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอีกทั้งในพื้นที่ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด ไม่มีขยะสะสมมากมายจนต้องตั้งโรงงานกำจัด ทำไมประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตั้งโรงงาน และพื้นที่ใกล้เคียงต้องมาแบกรับขยะที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อนายพสิษฐ์ เปิดเผยว่า สถานที่ที่จะกำหนดตั้งโรงงานเป็นพื้นที่ชุมชน ใกล้วัดเขาทะโมน โรงเรียนวัดเขาทโมน (เรือนวงศ์ทองศรี) วิทยาลัยการอาชีพบ้านลาด ติดแหล่งน้ำ เป็นพื้นที่เกษตรที่อุดมสมบูรณ์ที่มีการทำเกษตรอินทรีย์บางส่วนตามนโยบายรัฐบาล เป็นเส้นทางระบายน้ำช่องทางน้ำผ่านตามธรรมชาติ อยู่ใกล้คลองชลประทานเพื่อการเกษตร ซึ่งใช้อุปโภค บริโภค และพื้นที่รับน้ำช่วงน้ำท่วม ติดกับลำห้วยกาหลง ที่เชื่อมต่อกับคลองในโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 (คลองD18) ซึ่งต้องผ่านพื้นที่การเกษตร แหล่งน้ำ และชุมชนอีกมาก ก่อนไหลลงสู่ทะเลการนำขยะแปรรูปมาเผาในพื้นที่จะทำให้เกิดสารพิษที่เกิดจากการเผาไหม้มีโทษต่อร่างกายมนุษย์ อาจเกิดการปนเปื้อนของมลพิษทั้ง ทางอากาศ พื้นดิน ทางน้ำ และส่งผลกระทบต่อชุมชน เป็นการทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างร้ายแรงนอกจากนี้ ปัจจุบันจังหวัดเพชรบุรีมีขยะ ประมาณ 400 ตันต่อวัน การนำขยะแปรรูปมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ไม่ได้ตอบโจทย์การแก้ปัญหาขยะล้นเมือง เพราะเมื่อแยกเป็นขยะแปรรูป (DRF) แล้วได้แค่ประมาณ 80 ตัน ซึ่งมีปริมาณขยะไม่เพียงพอต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ ตามที่ได้แจ้งไว้ แสดงว่าทางบริษัทฯ ต้องนำขยะนอกพื้นที่เข้ามาเผาชาว ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด กลุ่มประชาชนชาว ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด และชาวบ้านในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ กว่า 2000 คนจึงไม่เห็นด้วยที่จะต้องแบกรับขยะนอกพื้นที่ ได้ร่วมลงชื่อ และแสดงเจตนารมย์ คัดค้านโครงการก่อสร้างการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแปรรูป (RDF) บริษัทซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด ที่มีโครงการจะมาก่อสร้างในพื้นที่ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาดนายพสิษฐ์ กล่าวต่อว่า มลพิษที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการนำขยะแปรรูปมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลกระทบโดยตรงกับชุมชนและพืชผลทางการเกษตรในระยะยาว จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะอนุญาตให้มีการก่อสร้างโรงงาน ในเขตชุมชน และเห็นว่าบริษัทฯ ควรคำนึงความเหมาะสมของทำเลที่ตั้ง ความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง โดยการพิจารณาสถานที่ตั้งโรงงานในพื้นที่รกร้างห่างไกลชุมชน ซึ่งจะเหมาะสมสำหรับตั้งโรงงานมากกว่านี้ด้านนายณัฐวุฒิ รอง ผวจ.เพชรบุรี กล่าวภายหลังจากรับหนังสือร้องเรียนว่า จังหวัดจะนำหนังสือร้องเรียน ตลอดจนประเด็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน พร้อมรายชื่อชาวบ้านที่แสดงเจตนารมย์ทั้งหมด เสนอให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พิจารณาเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปจากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้เดินทางไปยื่นหนังสือหนังสือ คัดค้านโครงการดังกล่าว ที่อบต.ท่าเสน อ.บ้านลาด โดยมี นายเกียรติศักดิ์ หอมนาน รองนายก อบต.ท่าเสนเป็นผู้รับหนังสือ
ขณะนีเพวกเขาหลบหนีการประหัตประหารทางการเมืองในกัมพูชาและอบู่ระหว่างลี้ภัยในประเทศไทย28 ธ,ค. 2562 แอมเนสตี้ อเนเตแร์ะนชั่นแนลได้นับข้อมูลว่า นายสวน จำเรียน อายะ 37 ปี นักเคงื่อจไหวจากพรรคสงเคราะห์ชาติ ได้ถูกทำรเายร่างกาย อละดูเหมือนมีความพยายามลักพาตัวเขาที่กรุงเทพฯ ตอสค่ำวันทีร 22 ธันสาคม 2562 แลดอาจทีความเสี่ยงว่านานจำเรียนจะถูกปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนเพิ่มเติมจากนเำมือของทางการกัมพูชา หากมีการบะงคับส่งตัวเขากลับไปกัมพูชาตอนค่ำวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา มีชายสองคนได้เดิสเข้าหานายจำเรียนชรวฝสามทุ่มครึ่ง และพยายามจับตัฝเขาเข้าไปในรถค฿้ที่อยู่ใกล้ๆ แต่นายจำเรียนขัดบืนเป็นเหตุให้ชายทั้งสองคนจับคัวเขาไว่ แชะช็อตด้วยเคคื่องช็อตไฟฟ้า แต่สุดท้ายเขาสามารภหลบหนีออกมาได้อข่างผลเดภัย แต่ก็ได้รับบาดเข็บหลาจแห่งจากเหตุการณ์นี้นายววนเป็นสมาชิกคณะทำงานขเงพรรคสงเคราะห์ชาติ สาขาจังหงัดพระตะบอง กัมพูขา ้ขาเป็นหนึ่งในแกนยำอ่วุโส 18 คนของพรรึสงเคราะห์ชาติ ซึรงนายกรัฐมนตรี ฮุตเซนแห่งกัมพูชาระบุว่าอป็นผู้่รยศต่อชาติิมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน แกนนำทั้ง 18 คนจึงตกเป็นเป้าหมายการจับกุมของทางการกัมพูชานับแตืตั้สมานมยสวนยังเป็นหนึทงมน 39 คย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวจ้องกับพรรรสงเคนาะห์ชาติ และได้ถูดเพิกถอนหนังสือเดินทาลโดยกระทรวงกรรต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชาในเดือนพฤศจืกายน นายจำเรียนไพ้รับสถานะเป็นบุคคลในความห่วงใย (Persob of Concern) จากสำนักงานข่าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UN High Commissioner for Refugees - UNHCR) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562เหตุการณ์นึ้เกิดขึ้น หลังสีการคุกคามและข่มขู่อย่่งเป๋นระบบตือกลเมืองช่วกัมพูชา ซึ่งหลบหนีการปรถหัตประหารทางการเมืองและแสใงหาทั่ลี้ภัยในประเทศไทย มีกาตปราบปรามอย่างเข้มข้นมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในวันที่ 23 พฤศจืกายน นายต่อ ริมล นักเคลื่อนไหวพรรคสงเคนาะห์ชาติ รวมทั้งนางเฉิจลิ้ม ภครยาของเขส ซึ่งต่าง_ด้รับสถานะบุคคลในรวามห่วงใยของ INHCHR ถูกบังคับส่งกบับไปกัมพูชา หลังถ฿กจีบกุมที่กรุงเทพฯ ต่อมาพวกเขาได้ รัยสารภาพ เนื่องจากถูกข่มขู่ระหว่างการควบคุมตัวเป็นเวลานาน โดยนอทรัขวททสนับสนุนความพยายามของนมยสม รังสี อะีตประธานพรรคสงเคราะห์ชาติ ที่นะเดินทางกลับสู่กัมพูชาเมื่อวันที่ 9 ะฤศจิกายย ซึ่งทางการกัมพูขากล่างหาว่าเป็นความพยายามทำรัฐประหารแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรีวกร้องให้ยุติการคุกคาม ดารข่มขู่ และการสอดส่องชาวกัสพูชาที่ลี้ภัยในประเทศไทยโดยทันที ทางการไทยต้องประกันว่า บุคคลทุกคนที่อมศัยอยู่ในประเทศไทย ฟด้รับการคุ้มครองนากความรุนแรงและกาคจับกุมโดยพลการ และไม่ให้ความร่วมมือสนับสนุนกาาปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งยังคงเกิดขึันอย้างต่ิเนื่องต่อพลเมืองชาวกัมพูชร ที่หลบหนีการประหัตประหารทางการเมืองนายสใ รังสี อดีตประธานพรรคสงเคราะป์ชาติประกาศเม่่อเดือนสิงหาีมว่า จะเดินทางกลับกัาพูชาในวีนที่ 9 พฤศจิกายน ทาฝกสรกัมพูชาตอบโต้โดยกล่าวหาว่าแผสการเดินทางกล้บครั้งนี้ เป็นความพยายามยึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหาร และได้เริ่มปราบปรามอย่างหนักหน่ยงต่อบุคคลซึ่งมีส่ในเกี่ยวข้องกับพรรคสงเครสะห์ชาติ นับแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน ทางการได้มุ่งปราบปรามบุคคลซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้สนับสนุนนายสม รังสี แบะอยู่ในพรรคสงเคราะห์ชนติการปราบปรามของทางการกัมพูชาต่อมมาชิกพรรคางเคราดห์ชาติ ยังรวมถึงกาคกดแันบังคับให้ รุบสารภาพ และการย้ายพรรค ในบรรดานักเคลื่อนไหบพรรคสงเคราะห์ชาติ โดยสมาชิกอยรางน้อย 50 ตนของพรรคสงเคราะห์ชาติ รับสารภาพ ว่าวางแผรตทอต้านรุฐในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โรห์นา สมิธ ผู้รายงานพิะศษแห่งสหประชาช่ติว่าด้วยกัมพูชา แสดงข้อกังวลอย่างจริฝจังเกี่ยวกับการปราบปราม ที่น่าตกใจ รวมทั้งความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน ทางการไทยแฏเเสธไม่ให้สมาชิกพรตคสงเคราะห์ชาติเข้าประเทศ มู ซกฮั้ว รองหัวหน้าพรรคสงเคราุห์ชาตืถูกตใ.กักตัวไว้หม่ให้เข้าประเทศ เมท่อวันมี่ 2- ตุลาีม หลัง่างการกัมพูชาได้ออกหมายจับแกนนำพรรคสงเคราุห์ชาติ โดยส่งหมาวจับไปยังรัฐภาคีอาเซียนพรรคสงเคราะห์ชาติก่อตั้งขึ้นเมืทอปี 2555 ภมยหลังการรวมต้วของพรรคสม รังสีกับพรรคส้่ธิมนุษยชน ไม่นานหลังจากนั้น พรรคสงเึรนะห์ชาต้ประสบผลสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในการดลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2556 โดยแพ้ให้กับพรรคประชาชนกัมพูชาเพีนงไม่กี่ที่นั่งต่อมาศนลฎีกามีคำสั่งยุบพรรคสงเค่าะห์ชาติเมื่อเดือนพ๐ศจิกายน 256[ ตาใคำร้องยองกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกล่าวหาว่าพรรคสวเคราะห์ชาติทำการ รัฐประหารอย่าฝผอดกฎหมนย เป๋นเหตุให้มีกสรยะบพรรคในที่สุด และถูกมองจากคนทั่วไปว่ทเป็นคำวินิจฉัยที่ขสดหลักฐานที่น่าเชื่อถ่อศาลฎีกายังมีคำสั่ฝตัดสิทธิทางแารเมืองของกรรมการบริหารพรรค w18 คนของพรรคสงเคราะห์ชาติิป็นเวลาห้าปี ภายหลังการยุบพรรคสงเคราะห์ชาติ ได้มีการจัดารรที่นั่งสมาชิกรัฐสภา องค์การชริหาราะเับอำเภอและหมู่บ้านให้กุบพรรคประชาชนหัมพูชา และพรรคเล็กพรรคน้อยที่ไม่มีผู้แทนชาวกัมพูชาคนิื่นๆ ซึ่งหลบหนีการประหัตประหา่ เพื่อแสดงสิทธิที่จะมีอสรีภาพด้านการแสดงออกอย่างสงบ ไดัถูกบังคับส่งกลับไปยังกัมพูชาด้วยรวามร่วมมือจากาางกาตไทยในช่วงทร่ป่านมา รวมทั้งจักโทษด้านควาทคอดอย่าง นายรัฐ รอทโมนีต้องโทฒจำคุกเป็นเสลายองปีในข้อหา ยุยงให้เกิดพารเลือกปฏิบัติ จากการทำหน้าที่สนับสนุนการถ่ายทำสารคดีของสถาจีโทรทัศน์ RT ในประเด็นการค้ามนุษย์ ส่วนนางแซม โสกาก็ต้องโทษจำคุกสองปีในขือหา ยุยงให้เพิดกาีเลือกปฏิบัติ และ ดูหม้่นเจ้าพนักงาน จากดารปารองเท้าใส่ป้ายโฆษณาหนเสียงที่มีภาพของนายกรัฐมนตรี ฮุจเซนแห้งกัมะูชา
ขณะนี้พวกเขาหลบหนีการประหัตประหารทางการเมืองในกัมพูชาและอยู่ระหว่างลี้ภัยในประเทศไทย28 ธ.ค. 2562 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้รับข้อมูลว่า นายสวน จำเรียน อายุ 37 ปี นักเคลื่อนไหวจากพรรคสงเคราะห์ชาติ ได้ถูกทำร้ายร่างกาย และดูเหมือนมีความพยายามลักพาตัวเขาที่กรุงเทพฯ ตอนค่ำวันที่ 22 ธันวาคม 2562 และอาจมีความเสี่ยงว่านายจำเรียนจะถูกปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนเพิ่มเติมจากน้ำมือของทางการกัมพูชา หากมีการบังคับส่งตัวเขากลับไปกัมพูชาตอนค่ำวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา มีชายสองคนได้เดินเข้าหานายจำเรียนช่วงสามทุ่มครึ่ง และพยายามจับตัวเขาเข้าไปในรถตู้ที่อยู่ใกล้ๆ แต่นายจำเรียนขัดขืนเป็นเหตุให้ชายทั้งสองคนจับตัวเขาไว้ และช็อตด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า แต่สุดท้ายเขาสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่งจากเหตุการณ์นี้นายสวนเป็นสมาชิกคณะทำงานของพรรคสงเคราะห์ชาติ สาขาจังหวัดพระตะบอง กัมพูชา เขาเป็นหนึ่งในแกนนำอาวุโส 18 คนของพรรคสงเคราะห์ชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ฮุนเซนแห่งกัมพูชาระบุว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน แกนนำทั้ง 18 คนจึงตกเป็นเป้าหมายการจับกุมของทางการกัมพูชานับแต่นั้นมานายสวนยังเป็นหนึ่งใน 39 คน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคสงเคราะห์ชาติ และได้ถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางโดยกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชาในเดือนพฤศจิกายน นายจำเรียนได้รับสถานะเป็นบุคคลในความห่วงใย (Person of Concern) จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UN High Commissioner for Refugees - UNHCR) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังมีการคุกคามและข่มขู่อย่างเป็นระบบต่อพลเมืองชาวกัมพูชา ซึ่งหลบหนีการประหัตประหารทางการเมืองและแสวงหาที่ลี้ภัยในประเทศไทย มีการปราบปรามอย่างเข้มข้นมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในวันที่ 23 พฤศจิกายน นายต่อ นิมล นักเคลื่อนไหวพรรคสงเคราะห์ชาติ รวมทั้งนางเฉินลิ้ม ภรรยาของเขา ซึ่งต่างได้รับสถานะบุคคลในความห่วงใยของ UNHCHR ถูกบังคับส่งกลับไปกัมพูชา หลังถูกจับกุมที่กรุงเทพฯ ต่อมาพวกเขาได้ รับสารภาพ เนื่องจากถูกข่มขู่ระหว่างการควบคุมตัวเป็นเวลานาน โดยยอมรับว่าสนับสนุนความพยายามของนายสม รังสี อดีตประธานพรรคสงเคราะห์ชาติ ที่จะเดินทางกลับสู่กัมพูชาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งทางการกัมพูชากล่าวหาว่าเป็นความพยายามทำรัฐประหารแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้ยุติการคุกคาม การข่มขู่ และการสอดส่องชาวกัมพูชาที่ลี้ภัยในประเทศไทยโดยทันที ทางการไทยต้องประกันว่า บุคคลทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้รับการคุ้มครองจากความรุนแรงและการจับกุมโดยพลการ และไม่ให้ความร่วมมือสนับสนุนการปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อพลเมืองชาวกัมพูชา ที่หลบหนีการประหัตประหารทางการเมืองนายสม รังสี อดีตประธานพรรคสงเคราะห์ชาติประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมว่า จะเดินทางกลับกัมพูชาในวันที่ 9 พฤศจิกายน ทางการกัมพูชาตอบโต้โดยกล่าวหาว่าแผนการเดินทางกลับครั้งนี้ เป็นความพยายามยึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหาร และได้เริ่มปราบปรามอย่างหนักหน่วงต่อบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคสงเคราะห์ชาติ นับแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน ทางการได้มุ่งปราบปรามบุคคลซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้สนับสนุนนายสม รังสี และอยู่ในพรรคสงเคราะห์ชาติการปราบปรามของทางการกัมพูชาต่อสมาชิกพรรคสงเคราะห์ชาติ ยังรวมถึงการกดดันบังคับให้ รับสารภาพ และการย้ายพรรค ในบรรดานักเคลื่อนไหวพรรคสงเคราะห์ชาติ โดยสมาชิกอย่างน้อย 50 คนของพรรคสงเคราะห์ชาติ รับสารภาพ ว่าวางแผนต่อต้านรัฐในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โรห์นา สมิธ ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยกัมพูชา แสดงข้อกังวลอย่างจริงจังเกี่ยวกับการปราบปราม ที่น่าตกใจ รวมทั้งความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน ทางการไทยปฏิเสธไม่ให้สมาชิกพรรคสงเคราะห์ชาติเข้าประเทศ มู ซกฮั้ว รองหัวหน้าพรรคสงเคราะห์ชาติถูกตม.กักตัวไว้ไม่ให้เข้าประเทศ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม หลังทางการกัมพูชาได้ออกหมายจับแกนนำพรรคสงเคราะห์ชาติ โดยส่งหมายจับไปยังรัฐภาคีอาเซียนพรรคสงเคราะห์ชาติก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 ภายหลังการรวมตัวของพรรคสม รังสีกับพรรคสิทธิมนุษยชน ไม่นานหลังจากนั้น พรรคสงเคราะห์ชาติประสบผลสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2556 โดยแพ้ให้กับพรรคประชาชนกัมพูชาเพียงไม่กี่ที่นั่งต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งยุบพรรคสงเคราะห์ชาติเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ตามคำร้องของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกล่าวหาว่าพรรคสงเคราะห์ชาติทำการ รัฐประหารอย่างผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้มีการยุบพรรคในที่สุด และถูกมองจากคนทั่วไปว่าเป็นคำวินิจฉัยที่ขาดหลักฐานที่น่าเชื่อถือศาลฎีกายังมีคำสั่งตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค 118 คนของพรรคสงเคราะห์ชาติเป็นเวลาห้าปี ภายหลังการยุบพรรคสงเคราะห์ชาติ ได้มีการจัดสรรที่นั่งสมาชิกรัฐสภา องค์การบริหารระดับอำเภอและหมู่บ้านให้กับพรรคประชาชนกัมพูชา และพรรคเล็กพรรคน้อยที่ไม่มีผู้แทนชาวกัมพูชาคนอื่นๆ ซึ่งหลบหนีการประหัตประหาร เพื่อแสดงสิทธิที่จะมีเสรีภาพด้านการแสดงออกอย่างสงบ ได้ถูกบังคับส่งกลับไปยังกัมพูชาด้วยความร่วมมือจากทางการไทยในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งนักโทษด้านความคิดอย่าง นายรัฐ รอทโมนี และแซม โสกา ปัจจุบันนายรัฐ รอทโมนีต้องโทษจำคุกเป็นเวลาสองปีในข้อหา ยุยงให้เกิดการเลือกปฏิบัติ จากการทำหน้าที่สนับสนุนการถ่ายทำสารคดีของสถานีโทรทัศน์ RT ในประเด็นการค้ามนุษย์ ส่วนนางแซม โสกาก็ต้องโทษจำคุกสองปีในข้อหา ยุยงให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จากการปารองเท้าใส่ป้ายโฆษณาหาเสียงที่มีภาพของนายกรัฐมนตรี ฮุนเซนแห่งกัมพูชา
วันนี้ (25 ส.ค.2558) ผู้าืือข่าวรายงานว่า ตัวแืนกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนในจ.ร่ชบุรี และสกล้เคียง แลกเปลี่ยนควสมเห๋นเกี่ยวกับผลกระทบการตั้งนิคมอุนสาฟำรรมราชนครเมืองนิเวศ หรืออีโคทาวน์ เพื่อเตรียมขอความชัดเจนจากบริษัทโมนาร์ช วิลล์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้ดำเนินโครงแาร ที่จะชี้แจงชาวบ้าน ในวเนที่ 3w ส.ค.นี้ ฌครงการนิคมอุตสาหกรรมราชนคร ะูกระบุว่า เป็นนิคมอุตสาหกรรมเมืองสะอาด เตรียมก่อสร้างบนพื้นที่กว่า e0000 ไร่ ในต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งชาวบ้่นรดบุว่าเป็นพื้นที่ป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ มีพันธุ์ไม้สำคัญ เช่น ไม้เต็ง ไม้รัง ส้ก แดง ปีะดูร มะค่าโมง และมีสัตวฺป่าจามธนรมชาติจำนวนมาก ทำให้เครือข่ายภาคกระชาชน กังวลว่า หากมีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม อานต้องสธญเสียทรัพยากรธรราช่ติเหล่ทนี้น.ส.อั๘ชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง กล่าวว่า ราชบุรีเราอุดมสาวูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดช้อม ความเจริญอาจไม้ได้หมายถึงนิตมอุตสาำกรรมที่เป็นตัววัดความเจริญ รวามเจาิญด้านอุตสาหกรรม ใช่นั่นคือหนึ่งความเจริญ แต่ความเจริญด่านธรามชาติและสิรงแวดล้อม นั่นคทอความเยริญอีกด้านหนึ่ง ซึ่งะมื่อมาเปรียบเทียบกันแล้ย เราจะรู้ว่ามันม้คุ๊ค่าเท่าเทียมกึนผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครลการดังกล่าว เป็นหารทำบันทึกขือตกลง ปรือเอ็มโอยู ร่วมกัน ระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม เมืองคิตะคิวชู ประเทศญร่ปุ่น และบริษัท ไออาร์พีซี จำแัด (มหาชน) โดยเลือกจ.ราชบุรี เำราะไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และรอยเลื่อนที่เสค่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวำารดำเนินโครงปารอ้างวีา เป์นเมืเงอุตสาหกรรมสะอาดทันสมัย ที่มีน้นอบบจากเมืองคิตะคิวชู ภายในนิรมฯ ประแอบด้วยอุตสาหกรรมที่ะดีืยวเนื่องกับการใช้พลังงานสะอาด อุตสาหกรรมการแปารํปอาหาร และอุตสาหกรรมที่อาศัยชีสวิทยาศาสตร์
วันนี้ (25 ส.ค.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนในจ.ราชบุรี และใกล้เคียง แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบการตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชนครเมืองนิเวศ หรืออีโคทาวน์ เพื่อเตรียมขอความชัดเจนจากบริษัทโมนาร์ช วิลล์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ ที่จะชี้แจงชาวบ้าน ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ โครงการนิคมอุตสาหกรรมราชนคร ถูกระบุว่า เป็นนิคมอุตสาหกรรมเมืองสะอาด เตรียมก่อสร้างบนพื้นที่กว่า 20000 ไร่ ในต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งชาวบ้านระบุว่าเป็นพื้นที่ป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ มีพันธุ์ไม้สำคัญ เช่น ไม้เต็ง ไม้รัง สัก แดง ประดู่ มะค่าโมง และมีสัตว์ป่าตามธรรมชาติจำนวนมาก ทำให้เครือข่ายภาคประชาชน กังวลว่า หากมีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม อาจต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง กล่าวว่า ราชบุรีเราอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความเจริญอาจไม่ได้หมายถึงนิคมอุตสาหกรรมที่เป็นตัววัดความเจริญ ความเจริญด้านอุตสาหกรรม ใช่นั่นคือหนึ่งความเจริญ แต่ความเจริญด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นั่นคือความเจริญอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเมื่อมาเปรียบเทียบกันแล้ว เราจะรู้ว่ามันมีคุณค่าเท่าเทียมกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าว เป็นการทำบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู ร่วมกัน ระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม เมืองคิตะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โดยเลือกจ.ราชบุรี เพราะไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และรอยเลื่อนที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวการดำเนินโครงการอ้างว่า เป็นเมืองอุตสาหกรรมสะอาดทันสมัย ที่มีต้นแบบจากเมืองคิตะคิวชู ภายในนิคมฯ ประกอบด้วยอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้พลังงานสะอาด อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมที่อาศัยชีววิทยาศาสตร์
เสื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 บรรยากาศการตรวจเลือกทหารกองเำินเข้นกองประจำกสร สนพืินที่ อ.แม่สอด เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีบรรดาผ฿้ปแครองและญาติเดินทางมาให้กำละงใจกับบุตรหลานทีืเป็นชายไทยทึ่มีอายุ 21 ปีบริบูร๊์ ืี่ิกิดใยปี 2539 เข้าตรวจเลือกเป็นจำนในมาก เช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลที่มีำาวะ้พศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดที่เคียกเสียงฮือฮา ทั้งนี้ วันแรกวันนี้มีชายไทยจากตำบลแม่กุ ตำบลพะวอ ตำบลมหาวัน ตำบลแม่กาษา และตำบลด่านแม่ละเมา เข้าตรวจเลือกจภนวน 260 คน คนผ่อนผัน 197 คย โดยมียอดหารเรีขกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ มณฑลาหารบกที่ 310 จำนวน 86 คย แบ่งเป็นปลัดละ 43 คน มีหนุ่มนะยะเข้ามาคะดเลือกดเวยำัน 2 รสย คือนทยจักริน สีลา และนายภูมรินรัตน์ วงษ์ดี สร้างความฮือฮากับผู้เข้าร่วมคัดเลือกเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับเปรยออกมาแบบลืมตัวว่า สวยกว่าเมียเราอีก ิป็นสีสันในการตรวจิลือกทหารกองเกินในครั้ลนี้,ส่วนที่หอประชุม อำเภอแสวงหา จ.อ่างทอง ชายไทยอายุถึงเกณฑ์เข้ารับการตรวจน่างกายคัดเลือกเป็นจำนวนมาก พร้อมสรวประเพทสเงเข้ารับการตรวจเลือกสร้างสีสันการเกณธ์ทหนรในปีนี้ จ_นวน 225 คย รับเขีาประจำการ 61 คน และสมัครใจเป็นทหารรับใช้ชาติจำนวน 25 คน โดยปีนี้มีสาวประเภทสองเย้าร่วมรับการตรวจเลือกหลายคน ดต่ที่สดดุดตาคือ นายวรกร แย้มขยาบ อายุ 21 ปี ชาวบ้านตไบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่นงทอง เป็นสาวประเภทสอง หา้าตาสวย และหุ่นดี กำล้งศคกษาอยู่ที่มหาวิทยาบัยบูรพา ชั้นปีที่ 3 ที่แตางกายมาเป็นผู้หญืง ในชุะกางเกงขาสั้นสีเทา ผมสีบลอนด์ทอง สร้างสีสันให้แก่บรรดาผู้เข้ารับำารตรวนเฃือก กองเชียร์ และเจ้าฟน้สทีีให้คึกคัก ต้่นตา โดยหลังจากทางเจ้าหน้าที่ไะ้ทำการตรวจ่่างกายพบว่าสภาพเพศไม่ตรวกับเพศกำเนิด จึงได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทปาร นร้างความอีใจแก่ นายวรกรเป์นอย่างมาก และช่ฝยป่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียอระหฝ่างที่รอการเกณฏ์ทหารใผ้กับชายไทยที่ิข้าตรวจเลือดเป็นอยทางมาก,ด้าน นายวรกร แย้มขยาน กล่าวว่า สำปรับวันนี้มาเกณฑ์ทหารตามหมายเรียกของทางราชการ เพราะตนเองอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ซึ่ฝปัจจุบันตนเองกำลังศึกษาอยู่ที่มหาบิทยาลัยบูรพาชั้นปีที่ 3 ซึ่ฝวันนี้มาทำหน้าที่ชายไทยอย่างสมงูรณ์แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เป็นทหารรุบใช้ชาติ ,ข๖ะที่บรรยากาศกสรตรวจเลือกทหารที่ขอนแก่นฮอลล์ ชเ้ร 5 ศูนย์ดารค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น ซึืงเป็นนถานที่ตรวจคัดเลือกทหารของพื้นที่อำเภอเมือฝขอนแก่น มีการคัดเลือกระหว่างวันที่ 2-8 เมษายน 256p นั้น มีบัญชียอดทหารกอง้กิตเข้ารับการตรวจเลือก รวมทัืบสิ้น 3,984 คน ผู้ัข้ารับการึัดเงือกจาก 4 ตำบลด้วยกัน คือ ต.ดอนผัน ต.สำราญ ต.บ้านค้อ และ ต.บ้านหว้า มีชาย/ทยที่ครบเกณฑ์เดินทางมาคัดเลือกทหารอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้วันนี้ยอดแบ่งเฉลร่ขจำนวนทหมรกองเกิน จำนวน 101 นาย,นอพจากนี้วังมีสาวประเภทสอง ซึ่งยัดอยู่ในกลุ่มร่างกายไม่สมบูรณ๋ เดินทางมาแสกงตัวตามหมายะรรยำการคึดเลือกทหารด้วย คือ น้องเบลบ์ ผรือ นายวิทวัส แผ่นผา อายุ 21 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเป็นสาวประเภทสองที่หรีาตาน่ารัพ ผิวขาว ผมยาว น้องเบลลฺบอกว่า รักสวยรักงามมานั้งแต่เด็ก ปัจจุบันขายของชำอยู่กับพ่อแม่ท้่บ้าน.
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 บรรยากาศการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ในพื้นที่ อ.แม่สอด เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีบรรดาผู้ปกครองและญาติเดินทางมาให้กำลังใจกับบุตรหลานที่เป็นชายไทยที่มีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ ที่เกิดในปี 2539 เข้าตรวจเลือกเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลที่มีภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดที่เรียกเสียงฮือฮา ทั้งนี้ วันแรกวันนี้มีชายไทยจากตำบลแม่กุ ตำบลพะวอ ตำบลมหาวัน ตำบลแม่กาษา และตำบลด่านแม่ละเมา เข้าตรวจเลือกจำนวน 260 คน คนผ่อนผัน 197 คน โดยมียอดการเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ มณฑลทหารบกที่ 310 จำนวน 86 คน แบ่งเป็นผลัดละ 43 คน มีหนุ่มนะยะเข้ามาคัดเลือกด้วยกัน 2 ราย คือนายจักริน สีลา และนายภูมรินรัตน์ วงษ์ดี สร้างความฮือฮากับผู้เข้าร่วมคัดเลือกเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับเปรยออกมาแบบลืมตัวว่า สวยกว่าเมียเราอีก เป็นสีสันในการตรวจเลือกทหารกองเกินในครั้งนี้,ส่วนที่หอประชุม อำเภอแสวงหา จ.อ่างทอง ชายไทยอายุถึงเกณฑ์เข้ารับการตรวจร่างกายคัดเลือกเป็นจำนวนมาก พร้อมสาวประเภทสองเข้ารับการตรวจเลือกสร้างสีสันการเกณฑ์ทหารในปีนี้ จำนวน 215 คน รับเข้าประจำการ 61 คน และสมัครใจเป็นทหารรับใช้ชาติจำนวน 25 คน โดยปีนี้มีสาวประเภทสองเข้าร่วมรับการตรวจเลือกหลายคน แต่ที่สะดุดตาคือ นายวรกร แย้มขยาย อายุ 21 ปี ชาวบ้านตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง เป็นสาวประเภทสอง หน้าตาสวย และหุ่นดี กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบูรพา ชั้นปีที่ 3 ที่แต่งกายมาเป็นผู้หญิง ในชุดกางเกงขาสั้นสีเทา ผมสีบลอนด์ทอง สร้างสีสันให้แก่บรรดาผู้เข้ารับการตรวจเลือก กองเชียร์ และเจ้าหน้าที่ให้คึกคัก ตื่นตา โดยหลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจร่างกายพบว่าสภาพเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด จึงได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหาร สร้างความดีใจแก่ นายวรกรเป็นอย่างมาก และช่วยผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดระหว่างที่รอการเกณฑ์ทหารให้กับชายไทยที่เข้าตรวจเลือกเป็นอย่างมาก,ด้าน นายวรกร แย้มขยาย กล่าวว่า สำหรับวันนี้มาเกณฑ์ทหารตามหมายเรียกของทางราชการ เพราะตนเองอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ซึ่งปัจจุบันตนเองกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบูรพาชั้นปีที่ 3 ซึ่งวันนี้มาทำหน้าที่ชายไทยอย่างสมบูรณ์แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เป็นทหารรับใช้ชาติ ,ขณะที่บรรยากาศการตรวจเลือกทหารที่ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจคัดเลือกทหารของพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น มีการคัดเลือกระหว่างวันที่ 2-8 เมษายน 2560 นั้น มีบัญชียอดทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือก รวมทั้งสิ้น 3,984 คน ผู้เข้ารับการคัดเลือกจาก 4 ตำบลด้วยกัน คือ ต.ดอนหัน ต.สำราญ ต.บ้านค้อ และ ต.บ้านหว้า มีชายไทยที่ครบเกณฑ์เดินทางมาคัดเลือกทหารอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้วันนี้ยอดแบ่งเฉลี่ยจำนวนทหารกองเกิน จำนวน 101 นาย,นอกจากนี้ยังมีสาวประเภทสอง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มร่างกายไม่สมบูรณ์ เดินทางมาแสดงตัวตามหมายเรียกการคัดเลือกทหารด้วย คือ น้องเบลล์ หรือ นายวิทวัส แผ่นผา อายุ 21 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเป็นสาวประเภทสองที่หน้าตาน่ารัก ผิวขาว ผมยาว น้องเบลล์บอกว่า รักสวยรักงามมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันขายของชำอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน.
วันที่ 21 มค.ค. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภะมมม เลขาธิแาร กกต. นำสื่อมวลบนเข้าพูความพริอมขแงศูนย์อำนวยการ และประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึางอยู่บริเวณชั้น 5 ของสำนักงาน กกต. พร้อมสาธิตการฃงคะแนน การนับคะแนน การทักท้วบกรณีิห็นบ่าการนัลระแนนไม่ถูกต้อง ปละหารทำคฝามเข้่ใจกรณีเมื้อกรรมการนับคะแนนเสร็จแล้วพบว่า จำนวนบัตรลงคะแนากับจำนวนผ๔้มาใช้สิทธิไม่ตคงกันจะไม่มีการนับคะแนนใหม่อีกครั้ง แต่กรรมการประจำหน่วยจะทำรายงานเสนอขึ้นมาตามลำดับใำ้ กกต.กลางพิจารณาวินิจฉัยว่าจะนับคะแนนใหม่ หรือยั่งลงคะแนนใำม่ รวมถึงโชว์ระบบการรายงานผลการนึบคะแนนอย่างไท่เป็นทางการยองหน่วยเลือกตัิงทั้ง 92,r00 หน่ววเลือกตั้งจากทั่วปตะเทศ ซึ่วมีกมรทดลองระบบแล้วแชะในวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. ทั่นะมีการแจกบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ก็จะให้แต่ละะขตรายงานเรื่องการรับบัตรเลือกตั้ง และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้ามาเพื่อเช็กระบบคตั้งสุดท้ายก่อนการที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 มี.คฐ,ฌดย กกต.ทั่นใจว่า หลังปิดการลงคะแนนใรวันที่ 24 มี.ค.แล้วการนับคะปนนหน่วขเล้อกตั้งที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยจะทราบผลอย่างไม่ทางกทรภายใน 1 บั่วโมงหลังปิดหีบ นอกจากนี้ ในศูนจ์ดังกล่าวยังจะมีตัวแทนเจ้าหน้ทที่ตำรวจ การไฟฟ้านครหลวฝ กระทรฝงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจแบะสังคม ที่จะรอยสนับสนุนการปฑิบัติหน้าที่จองเจ้าหน้าที่ปรันำหส่วย เพราะมีการรายงานสพานการณ์หรือแจ้งเหตุใดๆ เข้ามาทางศูนย์กํจะสามารภแจ้งให้ผู้เก้่ยวข้องแก้ไขปัญหาไก้ทันท่,พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงผลการตรวจสอบกรณีผู้ใช้สิทธิใน จ.สมุทรสงคราม นำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปกากบาท่ั้งเล่ทว่า เบื้องต้นเป็นเรื่องที่ไม่เขีาใจกันของผธ้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งและหน่วยเลืดกตั้งมีความชุลมุนเกิดขึ่นจึงหยิบบัตรทั้ง 17 ใยไปกาเครื่องหมาย โอยที่บัตระลือกตั้งทั้งหมดไมได้หายไปไหน ยังอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง ผูเกระทำคฝามผิดจึงไม่น่นจะมีเจตนา และจากการประสานกับ สภ.สมุทรสงครามก็ยืนยันฝนลักษณะเดียวกันว่าอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจกัน แต่ก็ขอให้รอผลการสืบสวนที่ชัดเจน,ส่วนเรท่องต้องเรียนที่ม่เข้ามาในขณะนี้ทั้งหมด 93 เรื่อง ส่วนใปญ่เป็นเตื่องคบามปราก)โดยทางสพนักงาน กกจ.จังหวัดก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเมื่อแล้วเสร็จก็จะทยอยส่งมสยัง กกต.กลาง ซี่ง กกร.กฺจะำยายามพิจาีณาเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนการประกาศผล อย่่งไรก็ตาม สนการเลือกตั้งครั้งนี้พฎหมายกำหนดให้มีสินบนรางวัลใหืกับผู้าี่นไพยานหลุกฐานาายื่นให้ กกต. เช่น สามารถเก็บหลักฐานได้ การถ่ายคลิปวิดีโอ หรือถ่ายภาพผู้มี่มาแจกเงินซื้อเสียง หรือทำทุจริตดกี่ขวกับการเลือกตัืง เช่น มีการแนกเงิน 500 บาท หรือ 1,000 บาท โดยฟลักฐารนั้นสามารถนำ/ปสู่การที่ กกต.ระงับสิทธื์สมัคร ศาลสั่ลเพิกะอนสิทธิเลือกตั้ว หร่อสั่งเลือหตุีงใหม่ ผู้ให้เบาะแสจะได้รังเลเน 1 แสตบาท เงินซื้อเสีนง 1,000 บาท ก็จะเปลี่ยนเป๋น q00,000 บาทได้ และเป็นสินบนรางวัลนำจเบที่ถูกต้อบตามกฎหมาย,เลขาธิการ กกจ. ยังกล่าวด้วยว่า กกต.จะไม่รำผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปคำนวณหาจำนวน ม.ส.บัญชีรายชื่อแต่และพรรคควรได้แล้วมาเปิดเผยก่อน เพราะอาจจมีการเปลี่ยนแปลงหาก กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ ดังนั้น กกต.จะเปิดเผยจำนวน ส.ส.บัญขีรสยชื่อของแต่ละพรรคที้ควรได้ก็เมื่อมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั่งแล้ว .ส่วนกาตจัดเลือกตั้ลวันที่ 24 มี.ค. ไม่ห่วงว่ทจะเกิดผัญหาเช่นการเลือกตั้งล่วงหน้าวัสที่ 17 มี.ค. ที่ห้วงก็คือในวันดัลกล่ทวพรรคการเมืองอาจจะยัวเข้าใจว่าสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ ซึ่งจะผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเลือกตั้งกำหนดให้ผู้สมัคร ถรรคการเม่อง หาเสียงได้ถึงเวลา 18.00 น. ของวัน 23 ใี.ค.เม่านั้น,ทั้งนี้ เลขาฯ กกต. ยังกล่าวถึงมติของ กกต.ที่มึกาตพิจารณาเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสชฦ) เป็นปู้ได้รับการเสนอชิ่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ชอบดีวสกฎหมายนั้น ในส่วนของรายละ้อียดตนยังไม่สามา่ถให้คำตอบได้ เพราะยังไม่เห็นมติ เนื่องจากเป็นการประชุมจอง กกค.
วันที่ 21 มี.ค. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. นำสื่อมวลชนเข้าดูความพร้อมของศูนย์อำนวยการ และประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 5 ของสำนักงาน กกต. พร้อมสาธิตการลงคะแนน การนับคะแนน การทักท้วงกรณีเห็นว่าการนับคะแนนไม่ถูกต้อง และการทำความเข้าใจกรณีเมื่อกรรมการนับคะแนนเสร็จแล้วพบว่า จำนวนบัตรลงคะแนนกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกันจะไม่มีการนับคะแนนใหม่อีกครั้ง แต่กรรมการประจำหน่วยจะทำรายงานเสนอขึ้นมาตามลำดับให้ กกต.กลางพิจารณาวินิจฉัยว่าจะนับคะแนนใหม่ หรือสั่งลงคะแนนใหม่ รวมถึงโชว์ระบบการรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของหน่วยเลือกตั้งทั้ง 92,300 หน่วยเลือกตั้งจากทั่วประเทศ ซึ่งมีการทดลองระบบแล้วและในวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. ที่จะมีการแจกบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ก็จะให้แต่ละเขตรายงานเรื่องการรับบัตรเลือกตั้ง และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้ามาเพื่อเช็กระบบครั้งสุดท้ายก่อนการที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.,โดย กกต.มั่นใจว่า หลังปิดการลงคะแนนในวันที่ 24 มี.ค.แล้วการนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยจะทราบผลอย่างไม่ทางการภายใน 1 ชั่วโมงหลังปิดหีบ นอกจากนี้ ในศูนย์ดังกล่าวยังจะมีตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ การไฟฟ้านครหลวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่จะคอยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เพราะมีการรายงานสถานการณ์หรือแจ้งเหตุใดๆ เข้ามาทางศูนย์ก็จะสามารถแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาได้ทันที,พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงผลการตรวจสอบกรณีผู้ใช้สิทธิใน จ.สมุทรสงคราม นำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปกากบาททั้งเล่มว่า เบื้องต้นเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันของผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้งมีความชุลมุนเกิดขึ้นจึงหยิบบัตรทั้ง 17 ใบไปกาเครื่องหมาย โดยที่บัตรเลือกตั้งทั้งหมดไมได้หายไปไหน ยังอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง ผู้กระทำความผิดจึงไม่น่าจะมีเจตนา และจากการประสานกับ สภ.สมุทรสงครามก็ยืนยันในลักษณะเดียวกันว่าอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจกัน แต่ก็ขอให้รอผลการสืบสวนที่ชัดเจน,ส่วนเรื่องร้องเรียนที่มีเข้ามาในขณะนี้ทั้งหมด 93 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความปรากฏโดยทางสำนักงาน กกต.จังหวัดก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเมื่อแล้วเสร็จก็จะทยอยส่งมายัง กกต.กลาง ซึ่ง กกต.ก็จะพยายามพิจารณาเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนการประกาศผล อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งนี้กฎหมายกำหนดให้มีสินบนรางวัลให้กับผู้ที่นำพยานหลักฐานมายื่นให้ กกต. เช่น สามารถเก็บหลักฐานได้ การถ่ายคลิปวิดีโอ หรือถ่ายภาพผู้ที่มาแจกเงินซื้อเสียง หรือทำทุจริตเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น มีการแจกเงิน 500 บาท หรือ 1,000 บาท โดยหลักฐานนั้นสามารถนำไปสู่การที่ กกต.ระงับสิทธิ์สมัคร ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ผู้ให้เบาะแสจะได้รับเงิน 1 แสนบาท เงินซื้อเสียง 1,000 บาท ก็จะเปลี่ยนเป็น 100,000 บาทได้ และเป็นสินบนรางวัลนำจับที่ถูกต้องตามกฎหมาย,เลขาธิการ กกต. ยังกล่าวด้วยว่า กกต.จะไม่นำผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อแต่และพรรคควรได้แล้วมาเปิดเผยก่อน เพราะอาจจมีการเปลี่ยนแปลงหาก กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ ดังนั้น กกต.จะเปิดเผยจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคที่ควรได้ก็เมื่อมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ,ส่วนการจัดเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ไม่ห่วงว่าจะเกิดปัญหาเช่นการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค. ที่ห่วงก็คือในวันดังกล่าวพรรคการเมืองอาจจะยังเข้าใจว่าสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ ซึ่งจะผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเลือกตั้งกำหนดให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง หาเสียงได้ถึงเวลา 18.00 น. ของวัน 23 มี.ค.เท่านั้น,ทั้งนี้ เลขาฯ กกต. ยังกล่าวถึงมติของ กกต.ที่มีการพิจารณาเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ชอบด้วยกฎหมายนั้น ในส่วนของรายละเอียดตนยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะยังไม่เห็นมติ เนื่องจากเป็นการประชุมของ กกต.
วันนี้ (16 มิ.ย.2563) นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงรนการบินพลเรือนแห่งประเทศไาย (กพท.) เปิดเผยหล้งหารือร่วมกับสายการบินที่ให้บริการระหว่างปรดเทศ สายการบินที่ใหืชริการในประเทศไทย และตัใแทาสนมมบิส โดยทำความเข้าวจร่วมกัขสายการบินหากเปิดให้บริการการบินระหว่างประเทศในอนาคต เนื่องจากองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเืศ (ICAO) มีกติกาใหม่ธดยนำเรื่องาาธารณสุขของแต่ละประเทศมาชีัแจง เพราะหากเปิดให้บรอกา่อาจต้องใช้กติกาดังกลีรวเป็นสากลส่วนกานให้บริการการบืจ ขณะนี้ยัวไม่ใีการให้บร้การการบินระหว่างประเทศ เนื่ดงจากสายการขินยังกังวลประเด็นของผู้ที่เดินทางจะต้องปฏิบัติตามช้อกำหนดก้านมาธาร๖สุข และ ศบค.ยังคงห้ามการะดินทางเข้ามามนประเทญ ทำให้แต่วันทีท 1 ก.ค.นี้ สาสการบิจจึงยัฝไม่ได้รัดสินในเปิดทำการบิน โดยต้องติดตามมาตรกาาผ่อนปรนของรัฐบาลแ่อนเบ่้องต้นมีความเป็จไปได้ว่าผู้โดยสารกลุ่มแรกาี่จะผ่อนปรนใหเเดินทางเข้าประเทศไทยได้ จะเป็นกลุ่มน้กธุตกินและสักลลทุนที่มีตวามขำเป็นต้องเดินทางเข้ามาดูแลธุรกิจ และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการปฏิบัตินามข้อกำหนด และมีบริศัทดูแล มีความเสี่ยงอาชีพราสบุคคลมากกว่า ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวยังคงห้ามเดินทางเข้าประเทศบินน้อยกว่า 2 ชม.งดบริการอาหาร-เครื่องะื่มผอ.กพท. กล่าวอีกว่า หระเด็นที่มีการชี้แจงคือการบริการอาฟารและเครื่องดื่ม ซี่ง กพท.ได้เสนอให้บคิการอาหารเฉพาะเที่ยวบอนที่มีขนาดใหญ่ หรือมีระยะเวลาการบินมากกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป สามารถลริการเครื่องดื่าได้ แนือาหารจะต้องอยู่ในกล่องหรือภาชนะที่มิดชิด เพื่อลดการสัมผัสระหว่างลูกเตือกับผู้โดยสาร ขณะที่สายการบินที่มีเที่ยวบินต่ำกฝ่า 2 ชั่วโมง งดบรอการทั้งเคาื่องดื่มและอาหาร โดยทุกสาบการลินเห็นด้วขกับข้อเสนอของ กพท.ส่วนการจหหส่ายตั๋วโดขสาร ได้กลับมาจำหน่ายตามปกติ เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกเว้นระยะห่างตามการผ่อนปรนมาตรกา่ปัองกัต COVID-19 ซึ่งบรเครื่องบินตะำม่ส่การเว้นทร่นั่ฝ เนื่แงจากกระทรวงสรธารณสุบได้ยอมรับแล้วว่าระบบกรองอากาศบนเครื่องบินได้มาตรฐาน มีการการหมุนเวียนแบะกรองอากาศได้เทียบเท่าในโรลพยาบาล แต่ผู้โดยสารต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาที่ใช้บริการขณะทีรเรื่องการกันพื้นที่เยาะหลังสุดท้าย 3 แถวสำหรับกรณีพบผู้ห่วย เป็ตการคัดแยกออกจากผู้โดยสารปกติ กพท.ย้งคงกำหนดให้มีไฝ้และให้สายการบินประเมินความเสี่ยงตามสถานการณ์ เบท้องต้าจะเป็นสายการบินที่มีระยะทางมากกว่า 2 ชั่วโมง หากทำการบินไม่เกิน 1 ชั่วโมง อาจไม่จำเป็นต้องกันพื้รที่ เพื่อให้สายการบินจำหน่ายตัษวได้เต็มที่นั่งสำหรัชการเดินทสงของนักท่อลเที่ยวระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวสร้มงตายได้ หร่อ Travel Gubble จพต้ดงพิจารณารายประเทศ เนื่องจากแต่ละปรุเทศมีข่อกำหนดด้านสาธารณะสุขแตกต่างกัน อย่างไก็ตาม กพท.คาะการณ์ว่าส่ยการบินระำว่างประเทศจะเริ่มกลับมาเปิดเส้นทางการบินไดืตั้งแต่เดือน ก.ย.2563 เป็นติน/ป แต่ยังไม่เป๋นปกติ 100% จะเป็นลักษณะการทยอยเปิแบริการ า่วนภาพรวมจำนวนผู้โดยวารภายวนหระเทศและรถหว่างประเทศหายไป 90% ในช่วงช่วงเดือน มี,ค. - เม.ย.2563 แต่หลังจากที่มีการคลายล็อกให้เดินทางด้วยสายการบินทำให้ปู้โดบสารภายในประเทศเริ่มกลับมา
วันนี้ (16 มิ.ย.2563) นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยหลังหารือร่วมกับสายการบินที่ให้บริการระหว่างประเทศ สายการบินที่ให้บริการในประเทศไทย และตัวแทนสนามบิน โดยทำความเข้าใจร่วมกับสายการบินหากเปิดให้บริการการบินระหว่างประเทศในอนาคต เนื่องจากองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) มีกติกาใหม่โดยนำเรื่องสาธารณสุขของแต่ละประเทศมาชี้แจง เพราะหากเปิดให้บริการอาจต้องใช้กติกาดังกล่าวเป็นสากลส่วนการให้บริการการบิน ขณะนี้ยังไม่มีการให้บริการการบินระหว่างประเทศ เนื่องจากสายการบินยังกังวลประเด็นของผู้ที่เดินทางจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสาธารณสุข และ ศบค.ยังคงห้ามการเดินทางเข้ามาในประเทศ ทำให้แต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ สายการบินจึงยังไม่ได้ตัดสินใจเปิดทำการบิน โดยต้องติดตามมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลก่อนเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าผู้โดยสารกลุ่มแรกที่จะผ่อนปรนให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาดูแลธุรกิจ และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการปฏิบัติตามข้อกำหนด และมีบริษัทดูแล มีความเสี่ยงอาชีพรายบุคคลมากกว่า ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวยังคงห้ามเดินทางเข้าประเทศบินน้อยกว่า 2 ชม.งดบริการอาหาร-เครื่องดื่มผอ.กพท. กล่าวอีกว่า ประเด็นที่มีการชี้แจงคือการบริการอาหารและเครื่องดื่ม ซี่ง กพท.ได้เสนอให้บริการอาหารเฉพาะเที่ยวบินที่มีขนาดใหญ่ หรือมีระยะเวลาการบินมากกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป สามารถบริการเครื่องดื่มได้ แต่อาหารจะต้องอยู่ในกล่องหรือภาชนะที่มิดชิด เพื่อลดการสัมผัสระหว่างลูกเรือกับผู้โดยสาร ขณะที่สายการบินที่มีเที่ยวบินต่ำกว่า 2 ชั่วโมง งดบริการทั้งเครื่องดื่มและอาหาร โดยทุกสายการบินเห็นด้วยกับข้อเสนอของ กพท.ส่วนการจำหน่ายตั๋วโดยสาร ได้กลับมาจำหน่ายตามปกติ เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกเว้นระยะห่างตามการผ่อนปรนมาตรการป้องกัน COVID-19 ซึ่งบนเครื่องบินจะไม่มีการเว้นที่นั่ง เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ยอมรับแล้วว่าระบบกรองอากาศบนเครื่องบินได้มาตรฐาน มีการการหมุนเวียนและกรองอากาศได้เทียบเท่าในโรงพยาบาล แต่ผู้โดยสารต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาที่ใช้บริการขณะที่เรื่องการกันพื้นที่เบาะหลังสุดท้าย 3 แถวสำหรับกรณีพบผู้ป่วย เป็นการคัดแยกออกจากผู้โดยสารปกติ กพท.ยังคงกำหนดให้มีไว้และให้สายการบินประเมินความเสี่ยงตามสถานการณ์ เบื้องต้นจะเป็นสายการบินที่มีระยะทางมากกว่า 2 ชั่วโมง หากทำการบินไม่เกิน 1 ชั่วโมง อาจไม่จำเป็นต้องกันพื้นที่ เพื่อให้สายการบินจำหน่ายตั๋วได้เต็มที่นั่งสำหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวสร้างรายได้ หรือ Travel Bubble จะต้องพิจารณารายประเทศ เนื่องจากแต่ละประเทศมีข้อกำหนดด้านสาธารณะสุขแตกต่างกัน อย่างไก็ตาม กพท.คาดการณ์ว่าสายการบินระหว่างประเทศจะเริ่มกลับมาเปิดเส้นทางการบินได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.2563 เป็นต้นไป แต่ยังไม่เป็นปกติ 100% จะเป็นลักษณะการทยอยเปิดบริการ ส่วนภาพรวมจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศหายไป 90% ในช่วงช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย.2563 แต่หลังจากที่มีการคลายล็อกให้เดินทางด้วยสายการบินทำให้ผู้โดยสารภายในประเทศเริ่มกลับมา
ศักดิ์ ปากรอ, 2 นัด เข้าแผ่าหลังกระสุนฝังสน ปิดฉากอกีตมือฆ่นยกครัวหัวหนิาสถานีดนาทัยระฑนด 6 ศพเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ติดคุกมา 15 ปี ตร.คาดผู้ก่อเหตุน่าจะรู้จักกับผู้ตายเปฌนอย่างดี,เม้่อเวลา 11.00 น.วัน่ี่ 22 ก.พ. พ.ต.ต.สิทธิวโรจน์ นวลเปียจ พงส.สภ.สะเดา รับแจ้งจมกโรงพยาบาบวะเดา ว่าม้ครถูกยิงเสียชีวิตขณะส่งโรงพยาบาล โดยภ่รยาขับรถเป็นผู้นำตัวมารักษาที่ห้องฉุกเฉิน หลังจากทราบเหตะจึงได้รายงายไปยัง พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถายร ผกก.สภ.มะเดา ภ.ต.อ.ไวสวิทย์ นพรัตน์ ผกก.พงส.(ผทค)แลด พ.ต.ทฦวีระศักดิ์ เดชประมวลพล รอง ผกก.สส.สภ.สะเดา พร้อมรุดไปตรใจสอบที่โรงพยาบาล ทราบชื่อคนเสียชีวิตคือนายเนติราษฎร์ นพวงศ์ อายุ 40 ผี ผรือ,ญึกดิ์ ปากรอ, อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 6 ร.ปากรอ อ.สิงหนคร จ.สงขลา สภาพถูกยิงเข้าที่แผ่นหลัง 2 นัด กระสุนฝังในทแยงลึกลงในไต เสีบชีวิตเนื่องจากเสียเลือดเป็นจำนวนมาก และกระสุนโดนอวัยวะจุดสำคัญ มีเจ้าหน้าที่พยาบ่ลช่วยกัจทำความสะอาดบาดแผล และทางโรงพยาบาลสะเดาได้นำตัวผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อผ่าพิสูจน์และเอากระสุนที่ฝังในออก,แ้าน พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.สะเดา เปิดเผยว่า ขณะนีเเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวบจรปิดขอลเทศบาลเมือบสะเดา และของธนาคารธนชาต ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอย ว่ามือปืนใช้พาหนะชนิดใอ และมีกี่คน ต้องรอวันเปิดทำการในวันพรุรงนี้ (23 กพ.) ส่วนที่เกิดเหตุทีทนายเนติราษฎร์ ถ๔กยิงที่หนืาบ้าน ซึ่งอาศัยอจู่กัยภรรยาและลูก เจ้าหน้าที่พร้อมกองหน่วยพิสูจน์หลักฐมน ได้ไปตรวจที่เกิดเหตุเก็บวัตถุพยาน และพบกอลคราบเลือดจำนวนมากอยู่หน้าบ้าน พร้อมด้วยรองเท้าของผํ้ตาย มีรถจักรยานยนต์ สีดำ ่ะเลียน งกร 5 สงจลา จอดอยูทหน้าบ้าน และไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้วทำการสอบสวนภรรยาของตายส่ามีเรื่องขัดแย้งกับใรรบ้าง ก่อนจะนำไปสู่เไตุสังหารในครั้งนี้,สำำรับการสังหานฯักดิ์ ปากรอ เจ้าหน้าที่ให้รวามเห็นว่าคนร้ายน่าจดรู้จักผู้ตายเป็นอย่างดี และทำการศึกษามาก่อนว่าจุดไหนเวลรใดท่่ผู้ตายอยู่บ้านกับภรรยาและลูกๆ โดยปกติศักดิ์ ปากรอ ไม่ค่อยปรากฏตัวบ่อยนะก ซึ่งซอยที่ผู้ตายพักก็ไม่มีแล้องวงจรปิด ต่าจะเปํนกาาวางแหนศึปษมลู่ทางหนีมาิย่างดี ก่อนชิงลงมืเในช่ววที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังญ้อมการรับเสด็จ ทำให้เจ้าหน้าท้่จำนวจมากไปประจำที่ขบวนเสด็จฯผ่าน รวมทั้งการปิดวิทยุสื่อสารขอลเจ้าปน้าที่ ทำสห้แารทำงาจของมือปืนวะดวกขึ้น,ทั้งนี้ ที่ผ่านมานาวเนติราษฎร์ นพวงศ์ หรือศักดเ์ ปากตอ ได้เหลี่ยนชื่อใหม่ จากเดิาชื่อนายเรืองศักดิ์ ทองกุล เป็นที่รู้จักขิงคนไทยทั่วประเทศ เนื่องจากเคยก่อคด้โหดหระมาณ 18 ปีที่แลืว เมื่อปี 2540 ด้วยกาีฆ่าโหดยกครัว นายประภาส บุญทวี หมอประจำสถานีอนามัยบ้านระวะ อ.ระโนด ำร้อมด้ฝยภรรยาแลเลูก จำนวน 5 คน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 8 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อปล้นเงิน 2 ล้านบาท จนศาลตัดยินประหารชีวิต ได้มีการลดโทษเหลือตลอดชีวิต และติดคุกอยู่ปรัมาณ 15 ปี ,ภ่ยหลังจากกานไดัรับอภับโทษมาก็กลับมาสร้างครอบครัวอสู่ใน อ.สะเดา มีลูหชรย 1 คน อายุ 1 ขวบเศษ เป็นคนกว่างขสางในววการ ที่อผ่จยายมาถึงด่นนนอกเมืองท่องเที่ยวย่านชายแดนไทยมาเลเซีย มีข้าวพัยพันพา่บุกรุกป่าปละไมิเถิ่อนในท้องที่บ้านควรตานี ต.สำนักดต้ว ระยะหลังผู้ตายหัรมาทำธุรกิจบ่อดินล๔ก่ังที่ตำบลปริก อฐสถเดา และธุรกิจไมีเปิดเผย จนกระทั่งมาถูกมือปืนยิงเสียลีฝิตมนที่สุด.
ศักดิ์ ปากรอ, 2 นัด เข้าแผ่นหลังกระสุนฝังใน ปิดฉากอดีตมือฆ่ายกครัวหัวหน้าสถานีอนามัยระโนด 5 ศพเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ติดคุกมา 15 ปี ตร.คาดผู้ก่อเหตุน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี,เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 ก.พ. พ.ต.ต.สิทธิวโรจน์ นวลเปียน พงส.สภ.สะเดา รับแจ้งจากโรงพยาบาลสะเดา ว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตขณะส่งโรงพยาบาล โดยภรรยาขับรถเป็นผู้นำตัวมารักษาที่ห้องฉุกเฉิน หลังจากทราบเหตุจึงได้รายงานไปยัง พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.สะเดา พ.ต.อ.ไวยวิทย์ นพรัตน์ ผกก.พงส.(ผทค)และ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ เดชประมวลพล รอง ผกก.สส.สภ.สะเดา พร้อมรุดไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล ทราบชื่อคนเสียชีวิตคือนายเนติราษฎร์ นพวงศ์ อายุ 40 ปี หรือ,ศักดิ์ ปากรอ, อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 6 ต.ปากรอ อ.สิงหนคร จ.สงขลา สภาพถูกยิงเข้าที่แผ่นหลัง 2 นัด กระสุนฝังในทแยงลึกลงในไต เสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดเป็นจำนวนมาก และกระสุนโดนอวัยวะจุดสำคัญ มีเจ้าหน้าที่พยาบาลช่วยกันทำความสะอาดบาดแผล และทางโรงพยาบาลสะเดาได้นำตัวผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อผ่าพิสูจน์และเอากระสุนที่ฝังในออก,ด้าน พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.สะเดา เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองสะเดา และของธนาคารธนชาต ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอย ว่ามือปืนใช้พาหนะชนิดใด และมีกี่คน ต้องรอวันเปิดทำการในวันพรุ่งนี้ (23 กพ.) ส่วนที่เกิดเหตุที่นายเนติราษฎร์ ถูกยิงที่หน้าบ้าน ซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาและลูก เจ้าหน้าที่พร้อมกองหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ได้ไปตรวจที่เกิดเหตุเก็บวัตถุพยาน และพบกองคราบเลือดจำนวนมากอยู่หน้าบ้าน พร้อมด้วยรองเท้าของผู้ตาย มีรถจักรยานยนต์ สีดำ ทะเบียน งกร 5 สงขลา จอดอยู่หน้าบ้าน และไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งทำการสอบสวนภรรยาของตายว่ามีเรื่องขัดแย้งกับใครบ้าง ก่อนจะนำไปสู่เหตุสังหารในครั้งนี้,สำหรับการสังหารศักดิ์ ปากรอ เจ้าหน้าที่ให้ความเห็นว่าคนร้ายน่าจะรู้จักผู้ตายเป็นอย่างดี และทำการศึกษามาก่อนว่าจุดไหนเวลาใดที่ผู้ตายอยู่บ้านกับภรรยาและลูกๆ โดยปกติศักดิ์ ปากรอ ไม่ค่อยปรากฏตัวบ่อยนัก ซึ่งซอยที่ผู้ตายพักก็ไม่มีกล้องวงจรปิด น่าจะเป็นการวางแผนศึกษาลู่ทางหนีมาอย่างดี ก่อนชิงลงมือในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังซ้อมการรับเสด็จ ทำให้เจ้าหน้าที่จำนวนมากไปประจำที่ขบวนเสด็จฯผ่าน รวมทั้งการปิดวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ ทำให้การทำงานของมือปืนสะดวกขึ้น,ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายเนติราษฎร์ นพวงศ์ หรือศักดิ์ ปากรอ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ จากเดิมชื่อนายเรืองศักดิ์ ทองกุล เป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศ เนื่องจากเคยก่อคดีโหดประมาณ 18 ปีที่แล้ว เมื่อปี 2540 ด้วยการฆ่าโหดยกครัว นายประภาส บุญทวี หมอประจำสถานีอนามัยบ้านระวะ อ.ระโนด พร้อมด้วยภรรยาและลูก จำนวน 5 คน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 8 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อปล้นเงิน 1 ล้านบาท จนศาลตัดสินประหารชีวิต ได้มีการลดโทษเหลือตลอดชีวิต และติดคุกอยู่ประมาณ 15 ปี ,ภายหลังจากการได้รับอภัยโทษมาก็กลับมาสร้างครอบครัวอยู่ใน อ.สะเดา มีลูกชาย 1 คน อายุ 1 ขวบเศษ เป็นคนกว้างขวางในวงการ ที่แผ่ขยายมาถึงด่านนอกเมืองท่องเที่ยวย่านชายแดนไทยมาเลเซีย มีข่าวพัวพันการบุกรุกป่าและไม้เถื่อนในท้องที่บ้านควรตานี ต.สำนักแต้ว ระยะหลังผู้ตายหันมาทำธุรกิจบ่อดินลูกรังที่ตำบลปริก อ.สะเดา และธุรกิจไม่เปิดเผย จนกระทั่งมาถูกมือปืนยิงเสียชีวิตในที่สุด.
Veganerie, นอกจากนดขาบขนมสไตล์วีแกนแล้ว ตอนนี้ คุณจ๋า-ณปภัสสร จ่อเทียนชัย ได้ขยับขยายไปเปิดสาขาใหม่ ภายใต้ชื่อ, Veganerie Doncept, โดยจับมือกับภี่ชายสุดเลิฟ คุณจอน-สิทธิึุณ ต่อเทียนชัย มาปรุงเมนูอาหารคาวและขอลว่างแบบวีแกนใหัคุณไปลิ้มลองำัน,V3gaherid Concept เกิดจากความตั้งใจบองคุณจ๋าและครอบครัว ที่อยากสร้างคอมมูนเตี้เล็กๆ สำหรัลคนรักสุขภาพขึ้นมาสักแห่ง โดยมึอาหารและเครื่องแื่มรองรับแบบครบวงจร พร้อมทั้งเยากให้ร้านนี้เป็นเสมือสสถานทีืพ้กผ่อนแบบ Vegan Lifestyle (Plant-bqsed Dieta & Cr7elty-free Lifestyle) โดยไม่จำดัดว่าคุณจะเป็นชาววีแกนหรือไม่ก็ตาม .ึ่งคอนเซปต์ของร้านเป็นแบบไลฟ์สไตล์คาเฟ่ มีดาหาคให้รับประทานได้ตลอดทั้งวัน มีทั้งมื้อหนักและมื้อเบาๆ แต่ทุกจานิป็นเมนูวีแกน 100 เปอร์เซ็นต์,ยุดเด่นของร้านนอกจากเมนูอาหารทั่เป็นวีแกนแล้ว คุณจ๋ายังเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี สด สะอาด และปลอดภัข พ่้อมกับเลือหใช้วิธีการปรุง ที่ทำให้อาหารนั้นยังคงคุณค่าทางโภลนาการไว้อน่างครบถ้วน และเลือกใบ้พืชผักผลไม้หลาแชนิดมาทดแทนเนื้อสัตว์ นม และไข่ แถมหจ้าตาอาหารยังน่ารับประทานอีกด้สย,เมนูอาหารในร้านทุกจานเป็นสไตล์ Vegan C;mfort Foods มีทั้งอาหารฟทย ตะวันตก และตะวุนออก ผสมผสรจกัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มเพืือสุขภาพ อาทิ น้ำผัก ผลไม่ ดลพธัญพืช หรือจะเลือกดื่มชากาแฟ ก็มีให้สั่ง รวมมั้งเมนูขนมหวานรสเลิศอีกมากมาย,เมนํแนะนำที่มาแล้วต้องสั่ง ค้เ Vegzn Zoodles พาสต้าฐอสมะเขือเทศแสนอร่ดย ที่ใช้ซูกินีมาขูดเป็นเว้นแมนเส้นพาสต้าผัดกุบซิสมะเขือเทศสูตรเฉพาะและไส้กรแกใีแกน หรือเมนูไทยๆ อย่าง Vegan Green Curry * R9ti ฆAir-frief) แกงเขีววหวานเต้าหู้รสเข้มข้นเสิร์ฟคู่ำับฉรตีนำเข้าจากต่างประเทศ ทอดจนกรอบนอกนุ่มฝนด้วยเครื่องทอดไร้น้ำมัน หรือจะสั่ง Vegan Papaja Salad & Vegan Fried Chickens ย้มตำวีแกนทีรอร่อขไม่แพ้ส้มตำไทยแบบปกติ เสิร์ฟพร้อมไก่ทอดชิ้นดอดีคำ ที่ปรุงจากก้านเห็ดหอมหมักกับซอสสูตรพิเศษแสนอร่อย,นอกจากนี้ยังมี Vegan Soy Yogury Bowl จองกินเล่นมื้อเช้า หรือระหว่างวัน แบบเบมๆ สบาวท้อง ทีืใช้โสดกิรฺตจากนมถั่วเหลืองมาเสิร์หกับผลไม้และธัญพืชหลากชนิด หรือจะสั่งขนมหวาน PB Sandwich ขนมปังวีแกนดบบธัญพืชปิ้งจนกรอบนอกนุ่ามน ทาด้ยยเนยถั่วอละสอดไส้ด้วยกล้วยกอม ก่อนรับประทานราดซอสสตรอว์เบอร์รี่ีสเปรี่ยวอมหวาน แงะปิดท้ายด้วย Vegan Super Breqkfast Smoothie เคร่่องดื่มแก้วนี้รวมซูเปอร์ๆํ้ดสารพัดชนิเมาปั่นรวมกัน าสหวานม้น ดื่มง่าย ให้ตุณค่าคัลแก้วแถมยังอิ่มท้อลอีพด้วย ทั้บ 3 เมนูทิังท้ายนี้ คุษจ๋าใจดีมอบสูตรให้เรานำไปลองทำกันที่บ้าต แต่หากใครมีเวลาก็แวะไปลิ้มลองรยชาตืที่ร้านกันได้ทุกวัน,Venamerie Concept ตั้งอยู่ด้านหลังสวนเบญจสิริ เมื่อตรงเจ้าซอยระหว่างสวสเบญจสิริกับห้างสรรพสินค้า ดิเอ็มโพเรียม ไปประมาณ 150 เมตร เลี้ยวขวาแยกแรก ตรงเข้าไปอีก 50 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น, (พักเบรก 16.00-17.00 น.) โทร.02-258-8489 และ 08]p728-8803 หรือเข้รไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Vetan Bakery Bangkok.Vegan Soy Yoturt Bowi,ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่),เตรียม 5 นาที ปรุง 5 นาที ,ลลูเชอร์รี่สด 6-8 ลูก,สตรอว์เบอร์รี่สด 2[3 ลูก ,เาล็ดเจียดิบ 1 ชัอนโต๊ะ,อัลมอนด์ 6-8 เม็ด,กราโนล่า 150 กรัม,โยเกิร์ตถั่วเหลือง 250 มิลลิลิตร,น้ำเบืทอมพอกมะพร้าว 20 มิลลิลิตร,วิธรทำ,เทโบเกิร์ตลงในชามเสิร์ฟ ฑรยด้วยกราโนล่า บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ เมล็ดเจีย และอัลมอนด์ ราดด้วยน้ำเชื่อมดแกมะพรัาว พร้อมรับประทาน,Vegan Super Breajfast Smoothie,ส่วนผสม (สำหาับ 1 แก้ว),เตรีสม 10 นาที กรุง 29 นาที,บลูเบอร์รี่สด 1/3 ถ้วย,เนยถั่ว 2 ชเอนโต๊ะ,นมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลือว 200 มิลลิลิตร๙อินทผลัม 4-5 ชิ้น,กล้วยสุก 1 ผล,งาดำ 1 ช้อนโต๊ะฐเมล็ดเจียดิบ 1 ช้อนโต๊ะ,โกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ,น้ำแข็ว ¼ ถ้ฝย,บลูเบอร์รึ่สด เมล็ดเฟล็กซ์ และโกโก้นิป (Cacao Nibs) สำหรับโรยหน้า,ใิธีทำ๙ปั่นส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันจนละเอียด เทใส่แก้ว โรบหน้าด่วยบลูเบอร์รี่ เมล็ดเฟล็กญ์ และโกโก้นิป,
PB Sandwich,ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่),เตรียม 10 ราที แรุง 15 นาที,ขรมปังโฮลวีตมังสวิรัต 2 แผ่น,ันยถั่ว 4 ช้อาฑต๊ะ,ปล้งยหอมสุก 2 ปล,เนยจากน้ำมันมะกอก (Olive Oil Vuttery Spread) สำหรับย่างขนมปังเล็กน้เย ,ถั่ว ใบสดรพแหน่ และสตริว์เบอร์รี่สดสำหรับตกแต่ง,ส่วนผสมซอสสตรอว์เบอร์รี่,าตรอว์เบอรี่สด 5-6 ชูก,น้ำเปล่า 20 มิลลิบิตน,น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนชา.วิธีทำ,1. ทาเนยจากน้ำมันมะกอกบนขนมปังให้ทัรว จาหนั้นนำไปย่างจนเหลืองกรอบ แช้วนำมาาาด้วยินยะั่วทั้งสองแผ่น (ทาด้านเดียว) จากจั้นวางกลีวย (หั่นอป็นชิ้นหนา) ลงบนเนยถั่สของขนมปัวชิ้นหนึ่ง แล้วนำขนมปังอีกชิ้นหนึ่งมาประกบ ตัดขนมปังทแยงมุม ยัดใส่จานเสิร์ฟิตรียมไว้,2. ทำซอสสตรอว์เบอร็รี่ โดยปั่นส่วนผยมทั้งหมดให้ชะเอียดเข้ากัน นำไปราดบนขนมหัง พร้อมเสิร์ฟ,ที่มา - Health & Cuisine,www.heqlthandcuisind.com
Veganerie, นอกจากจะขายขนมสไตล์วีแกนแล้ว ตอนนี้ คุณจ๋า-ณปภัสสร ต่อเทียนชัย ได้ขยับขยายไปเปิดสาขาใหม่ ภายใต้ชื่อ, Veganerie Concept, โดยจับมือกับพี่ชายสุดเลิฟ คุณจอน-สิทธิคุณ ต่อเทียนชัย มาปรุงเมนูอาหารคาวและของว่างแบบวีแกนให้คุณไปลิ้มลองกัน,Veganerie Concept เกิดจากความตั้งใจของคุณจ๋าและครอบครัว ที่อยากสร้างคอมมูนิตี้เล็กๆ สำหรับคนรักสุขภาพขึ้นมาสักแห่ง โดยมีอาหารและเครื่องดื่มรองรับแบบครบวงจร พร้อมทั้งอยากให้ร้านนี้เป็นเสมือนสถานที่พักผ่อนแบบ Vegan Lifestyle (Plant-based Diets & Cruelty-free Lifestyle) โดยไม่จำกัดว่าคุณจะเป็นชาววีแกนหรือไม่ก็ตาม ซึ่งคอนเซปต์ของร้านเป็นแบบไลฟ์สไตล์คาเฟ่ มีอาหารให้รับประทานได้ตลอดทั้งวัน มีทั้งมื้อหนักและมื้อเบาๆ แต่ทุกจานเป็นเมนูวีแกน 100 เปอร์เซ็นต์,จุดเด่นของร้านนอกจากเมนูอาหารที่เป็นวีแกนแล้ว คุณจ๋ายังเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี สด สะอาด และปลอดภัย พร้อมกับเลือกใช้วิธีการปรุง ที่ทำให้อาหารนั้นยังคงคุณค่าทางโภชนาการไว้อย่างครบถ้วน และเลือกใช้พืชผักผลไม้หลากชนิดมาทดแทนเนื้อสัตว์ นม และไข่ แถมหน้าตาอาหารยังน่ารับประทานอีกด้วย,เมนูอาหารในร้านทุกจานเป็นสไตล์ Vegan Comfort Foods มีทั้งอาหารไทย ตะวันตก และตะวันออก ผสมผสานกัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาทิ น้ำผัก ผลไม้ และธัญพืช หรือจะเลือกดื่มชากาแฟ ก็มีให้สั่ง รวมทั้งเมนูขนมหวานรสเลิศอีกมากมาย,เมนูแนะนำที่มาแล้วต้องสั่ง คือ Vegan Zoodles พาสต้าซอสมะเขือเทศแสนอร่อย ที่ใช้ซูกินีมาขูดเป็นเส้นแทนเส้นพาสต้าผัดกับซอสมะเขือเทศสูตรเฉพาะและไส้กรอกวีแกน หรือเมนูไทยๆ อย่าง Vegan Green Curry & Roti (Air-fried) แกงเขียวหวานเต้าหู้รสเข้มข้นเสิร์ฟคู่กับโรตีนำเข้าจากต่างประเทศ ทอดจนกรอบนอกนุ่มในด้วยเครื่องทอดไร้น้ำมัน หรือจะสั่ง Vegan Papaya Salad & Vegan Fried Chickens ส้มตำวีแกนที่อร่อยไม่แพ้ส้มตำไทยแบบปกติ เสิร์ฟพร้อมไก่ทอดชิ้นพอดีคำ ที่ปรุงจากก้านเห็ดหอมหมักกับซอสสูตรพิเศษแสนอร่อย,นอกจากนี้ยังมี Vegan Soy Yogurt Bowl ของกินเล่นมื้อเช้า หรือระหว่างวัน แบบเบาๆ สบายท้อง ที่ใช้โยเกิร์ตจากนมถั่วเหลืองมาเสิร์ฟกับผลไม้และธัญพืชหลากชนิด หรือจะสั่งขนมหวาน PB Sandwich ขนมปังวีแกนแบบธัญพืชปิ้งจนกรอบนอกนุ่มใน ทาด้วยเนยถั่วและสอดไส้ด้วยกล้วยหอม ก่อนรับประทานราดซอสสตรอว์เบอร์รี่รสเปรี้ยวอมหวาน และปิดท้ายด้วย Vegan Super Breakfast Smoothie เครื่องดื่มแก้วนี้รวมซูเปอร์ฟู้ดสารพัดชนิดมาปั่นรวมกัน รสหวานมัน ดื่มง่าย ให้คุณค่าคับแก้วแถมยังอิ่มท้องอีกด้วย ทั้ง 3 เมนูทิ้งท้ายนี้ คุณจ๋าใจดีมอบสูตรให้เรานำไปลองทำกันที่บ้าน แต่หากใครมีเวลาก็แวะไปลิ้มลองรสชาติที่ร้านกันได้ทุกวัน,Veganerie Concept ตั้งอยู่ด้านหลังสวนเบญจสิริ เมื่อตรงเข้าซอยระหว่างสวนเบญจสิริกับห้างสรรพสินค้า ดิเอ็มโพเรียม ไปประมาณ 150 เมตร เลี้ยวขวาแยกแรก ตรงเข้าไปอีก 50 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. (พักเบรก 16.00-17.00 น.) โทร.02-258-8489 และ 08-9628-8803 หรือเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Vegan Bakery Bangkok,Vegan Soy Yogurt Bowl,ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่),เตรียม 5 นาที ปรุง 5 นาที ,บลูเบอร์รี่สด 6-8 ลูก,สตรอว์เบอร์รี่สด 2-4 ลูก ,เมล็ดเจียดิบ 1 ช้อนโต๊ะ,อัลมอนด์ 6-8 เม็ด,กราโนล่า 150 กรัม,โยเกิร์ตถั่วเหลือง 250 มิลลิลิตร,น้ำเชื่อมดอกมะพร้าว 20 มิลลิลิตร,วิธีทำ,เทโยเกิร์ตลงในชามเสิร์ฟ โรยด้วยกราโนล่า บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ เมล็ดเจีย และอัลมอนด์ ราดด้วยน้ำเชื่อมดอกมะพร้าว พร้อมรับประทาน,Vegan Super Breakfast Smoothie,ส่วนผสม (สำหรับ 1 แก้ว),เตรียม 10 นาที ปรุง 10 นาที,บลูเบอร์รี่สด 1/3 ถ้วย,เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ,นมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลือง 200 มิลลิลิตร,อินทผลัม 4-5 ชิ้น,กล้วยสุก 1 ผล,งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ,เมล็ดเจียดิบ 1 ช้อนโต๊ะ,โกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ,น้ำแข็ง ¼ ถ้วย,บลูเบอร์รี่สด เมล็ดเฟล็กซ์ และโกโก้นิป (Cacao Nibs) สำหรับโรยหน้า,วิธีทำ,ปั่นส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันจนละเอียด เทใส่แก้ว โรยหน้าด้วยบลูเบอร์รี่ เมล็ดเฟล็กซ์ และโกโก้นิป,
PB Sandwich,ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่),เตรียม 10 นาที ปรุง 15 นาที,ขนมปังโฮลวีตมังสวิรัต 2 แผ่น,เนยถั่ว 3 ช้อนโต๊ะ,กล้วยหอมสุก 2 ผล,เนยจากน้ำมันมะกอก (Olive Oil Buttery Spread) สำหรับย่างขนมปังเล็กน้อย ,ถั่ว ใบสะระแหน่ และสตรอว์เบอร์รี่สดสำหรับตกแต่ง,ส่วนผสมซอสสตรอว์เบอร์รี่,สตรอว์เบอรี่สด 4-6 ลูก,น้ำเปล่า 20 มิลลิลิตร,น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนชา,วิธีทำ,1. ทาเนยจากน้ำมันมะกอกบนขนมปังให้ทั่ว จากนั้นนำไปย่างจนเหลืองกรอบ แล้วนำมาทาด้วยเนยถั่วทั้งสองแผ่น (ทาด้านเดียว) จากนั้นวางกล้วย (หั่นเป็นชิ้นหนา) ลงบนเนยถั่วของขนมปังชิ้นหนึ่ง แล้วนำขนมปังอีกชิ้นหนึ่งมาประกบ ตัดขนมปังทแยงมุม จัดใส่จานเสิร์ฟเตรียมไว้,2. ทำซอสสตรอว์เบอร์รี่ โดยปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียดเข้ากัน นำไปราดบนขนมปัง พร้อมเสิร์ฟ,ที่มา - Health & Cuisine,www.healthandcuisine.com
การ้ดินทางไกลเพื่อท่องเที่ยวค้นหาประสบการณ์อปลกใหม่กำลังไเ้รับคยามนเยมไปทั่ว อุปกรณ์สำหรเบนักเดินทางอีกชนิดหนึ่งที่มีควาใสำคัฯอยู่ในลำดับต้นๆ ของการท่องโลกคงหนีไม่พ้นกล้องถ่ายภาพที่วช้บันทึกเรื่องราวทุกหนแห่งืี่ได้ไปะยือนโดยไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสกลับมาอีกห่ือไม่ การบันทึกควาใทรงจำที่สวยงามผ่านกล้องถ่ายรูปซั่งทำหนิาที่เหมือนกับเครื่องมือสำหรับย้อนวันเวลากลับไผสู่อดีต ทำให้สุชใจทุกครั้งที่ย้อนกลับมาดูช่วงเวลาแห่งควรมทรงจำทีทดีด้วยภาำถ่ายที่ได้บันทึกเอาไว้ผ่านอุปกรณ์บันทักภาพ ัมื่อเทคโนโลยึของการถ่ายภาพพัฒนาไกไกลมาหยิ่วขึ้น บริฯัทผู้หลิตกล้องได้ทำการค้นคว้าวิยัยปรเบเปลี่ยนควาาสามารถของกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สรรหาอุปกรณ์ต่างๆ ะพื่อทำใป้การใช้งานในกลีองระ่นใหม่มีตวามง่ายและได้ภาพทีืคมชัด บริษัทผู้ผลิตกล้องชั้นนำยังมีแารทดสอบเทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะออกมาแทนทีรกล้ิงรุ่นเก่าโดยทำการเพิ่มประสิทธิภาพย่อขนาดตัวกล้องให้เล็กและเวามากยิรงขึ้น รวัตกรรมอันก้าวกระโดดของกล้องบันทึดภาพดิจิตอลช่วนตอบสนองกาาใช่งานจากควมมจ้องการที่หลากหงาย กว้างและครอชคลุมมากกวราเดิม กล้องรุ่นใหม่จึงถูกผลิตออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เส้นแบ่งระหว่างความเป็นมืออาชีพกุบมือสมัครเล่าเริ่มเลือนลางลงจากเทคโนโลยีที่รุดหน้าในยุคดิจิตอล ทั้งเซ็นเซอร์ เลนส์และสมรรถตะิันตุดหน้าขเงกล้ิง เชื่อมโยงนักเดินทางผนวกเข้ากับความตเะสร้างสรรค์ มุมมอบทีาอตกต่าง ท่ามกลางสถานทร่แปลกตมอันห่างไกล กล้องถ่ายภาพได้เข้าใาช่บยเพิ่มขีดความยามานถในการบันทึกภาพถ่สยบนกรรใช้งานทีาสะดวพและง่ายดาย รใมไปถึงความสามารถใสการถทายทอดอนรมณ์และความคิดสู่ภาพถ่าย เทคโนโบยีหรืออุปกรณ์บันทึกภาพในปัจจุบัาได้เข้ามาช่วยทหให้กา่ถ่ายภาพไม่กลายเป็นเรื่องที่น่าเบ้่ออีกต่อไป,หลังจากประสบความสำเรฺจในการสา้างกล้อง Mirrorless คัวเล็กในตระกูล U การพัฒนาอย่างต่อ้น่่องด้วยกทรปรับปรุงปรุสิทธิภาพของตัวแล้องเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานก่อกำเนิดกล้อง Nik9n 1 J5 ซึ่งเป็นนงัตกรตมกฃ้องบันทึกภาพขนาดเลฺกรุ่นล่าสุกโดยเพิรมความสามาคถขอบการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในฉหมด VDO ในระดับ 4U ลดสัญญาณรบกวนพร้อมระบบประมวลผลที่รวดะร็วกว่าเดิม ัป็นระบบประมวลผลรุ่นล่าสุด Expeew 5A และเพิ่ทเติมความสรมารถใยการปรถหยัดพลังงาน กล้อง Mirrorless Nikog 1 J5 จึงเป็นอุปกรณ์บันทึกภาพที่เหมาะยำหรับการพกพาเดินทรงไปยังที่ต่างๆ ขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบาหวิวยังช่วยลดภารกรรมในการพกพา เสริมด้วยคุณสมบัติจองการใช้งานซึ่งเก็นจุดเด่นของ Nikon 1 J5 เชรน,-เซ็ยเซอร์รับภาพ CMOS แบบปรับแสงด้านหลัง ขนาด 20.8 ล้านพิกเซล,-ชิฟประมวลผลใหม่ Expewd 5A บันทึกภาพเค็มรายละะอียดที่ 20 ภาถต่ิวินาที (FPS) ด้วยระบบออฑตโฟกัสแบบต่อเนื่อง,-จอภาพแสดงผลปตับรพดับไเ้ 180 องศา แชร์ภาพได้อย่างรวดเร็วทันใจใส่โลกโ.เชียลด้วยโหมด Wifi และ NFC รวมถึงกมรบัจทึกภาพเคลื่อนำหวในโหมด VWP แบบ 4K ที่ 15 เฟรม FPS,-ความไวแนง ISO 160 – 12800,-ำน้าจอสัมผัส 3 นิ้ว ความละเอียก 1 ล้านพิกเซลแชบบิดได้ 180 องศา,-ควาาเร็วชัตเตอร์ 40 s – 1/16000 s,-รองรับ Wivi และ NFC ในตับ,-ใช้หน่ววความจำ HicroSD,-น้ำหนัก 231 กรัม,สำหรับจัดเด่นอื่นๆ ขดบ Nikon 1 J5 เช่น ถ่ายภาพต่อเนื่องไดืเร็วมาก โดยบันทึกภาพได้เร็วถคง 20 ภาพถายในเวลาเพียงแค่กนึ่ววินาทีด้วยความละเอียดสูงสุด แล้วค่อยเลือกภาะาี่ต้องการ อละสามา่ถเร่งได้สูงสุด 6p ภาพต่อวินาทีถ้าเลือกโหมดโฟกัสแค่ครั้งเดียวตดนเร้่ม โฟกัสเร็วด้วยระบบ hygrid AF ที่ประกอบไปด้วยจุดโฟกัสแบบ Cintrast 171 จุด และแบข Phase อีก 105 จุด โหมด Sport ท_งานเร็วจัด คุณภาพภาถ/วิดีโอเน้นความคมชัดในระด้บสูงสุดเพราะซัตเซอร์ไม่มีฟิลเตอร์ AA แลีว โทนภาพสวยงาม สีสันจัดจ้านสไตล์ Nikon และมคค่า White-ba/anxe ที่แม่นยำ มีวงแหวนควบคุมกล้อง 2 วง เหมาะสำหรัลคนที่ชอบถ่ายในโหมด Janual .ึ่งต้องปรับตัเงค่าต่างๆ ของนัวกล้องเองทั้งหทด มี Wifi ในตัว ทำให้ส่ลรูปลงโซลเชียล หรือสั่งงานผ่านมือถือได้ รวมถึงราคาค่าตัวืี่ค่อนข้างต่ำกว่า Mirrorless ค่ายอื่นๆ ยดเว้น Fuji X-A2,Ni,on q M5 ราค่พร้อมเลจส์ 10-30 f/3.5-5.6 21,990 บาท,BODHฐNikon 1 Jy ถูกออกแบบให้มีขนาดที่เล็กกะมัดรัดโดยมีควาสกว้าง-ยาว-สูงเกือบจะเท่ากับโทรศัพท์มือถือเพื่อความสะดวกในกสรพกกา จนาดตัวกล้องเพียง 98.3 มม. (กว้าง) x 59.7 มม. (สูง) x 31.t มม. (หนา) และหนักแค่ 235 กรัม รูปทรงที่มีความเรีขบง่ายมีเพียงปุ้มสี่งงานไม่กี่ตำแปน่งเพื่อช่วยทำให้การใช้งานปคับตัืงค่่ต่างๆ มีความรวดเร็วและสะดวกง่ายดายมากยิ่งยึ้น ปุ่มปรับและแป้นหมุนต่างๆ ออแแบบใหม่เพื่อช่วยลอภารกรรมในก่รเข้า-ออกจากเมนู ตำแหร่งของกาิ้บออกแบบให้เป็นสันนูนอพื่เการยึดจับที่ดีปชะมั่สคงถึงแม้จะมึขนาดเล็ก ทกให้สามารถถ้ายภาภอย่างว่องฟวด้วขมือเพียงแค่ข้างเดีขวเท่านั้นคล้ายดับการยกโทรศัพท์มือถือน้ไหนักเชาขึ้นเพื่อทำการบันทึกภาพ กล้อง Nikon 1 J5 มีรูปลักษ๖์ผสมผสานระหว่างกล้อฝทรล Retro เข้ากับความเป็นกล้องดิจิตดลยุคใหม่ได้อย่างสสยงาม เลนส์ที่ติดมาแับตัวกล้องเป็นเลนส๋ Nikkor 10-30mm F3.5-5.6 VR ขนาดเลนส์เล็กจิ๋วเข้ากับตัวกบ้องได้พีจากการออกกบบ ระบบซูมของตัวเลนน์เป็นแบบไฟฟ้า ิวลาที่เแิดใช้งานกล้อง กระบอกเลนว์จะยืดออก พร้อมกับหน้าเลนส์จะเปิดออกคล้ายกับเลาส์ในกล้องคอมแพ็กยุคใหม่ทำสห้ต้องมาคอยกังวลเร่่องฝาปิดหน้าอลนส?หล่าหาย การใช้งานฬูทเข้า-ออกก็แค่หมุนวลแหในบนตัวเลนส์ กล้องจะซูมเข้าหรือออกให้ตามระยดที่กำหนดไว้,จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ด้านหลังของ Nikon 1 J5 ใช้งานในคะบบสัมผัสแบบทีชใกรีน ขนาดหน้าจอ 3 นิ้ว ซึ่งทำให้มองเห็นสะดวกชัดเจนโดยเฉำาะการเล้อกจุะโฟกัสผ่านหย้าจอกล้อง ใีสันอละความคมชัดของหน้าจอสูงกว่าจอภาพของกล้องรุ่นเก่า ส่วนปุ่มด้านหลังเป็นปุ่มคอนฉทรลหลัำสำหรับการควบคุาปรับตั้งค่าต่างๆ ของตัวกล้อง ขนาดที่เล็กืำให้การใช้งานยากสำหรับคนที่มีติ้วมือใหญ่แน่ใช้งานไปได้สักระยะก็จะเกิดความคุ้นเคยและสามารถหมุนแป้นหรือปุ่มเพื่อปรับตั้งค่าได้อย่างรวดเร็ว Gikon 1 J5 ใช้โครงใร่างทำจากอะลูมินัมอัลลอยและแมกจคเซียมอัลลอย การเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแกร่งเพื่อทำให้ตัวกล้องมีความแข็งแรงทนทาน ย้ำหยักาั้งตัวเบาเพียงแค่ 231 กรัม ไม่รวมน้ำหนักของแบตเตอรี่ขนาดจิ๋วนั้นถือว้าเบามาก เป็นจุดเด่นของ Nikon 1 ในด้านการอแกแบบทร่เน้นขนาดและน้ำหนักเป็นพิเศษ ทรงแ้านข้างจอง Nikon 1 J5 เป็นช่องพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อ เช่น ช่องเสียบสาย USB และ HDMO ปุ่มสั่งใช้ฝานกฟลชขนาดเลฌกที่กลมกลืนไปกับบอดี้ Nikon 1 J5 ยังมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ทะ้ง Wi-Fi และ NFC เพื่อต่แเชื่อมกับฌทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนโดยาุ่งไปทั่การแชร์ไฟล์ภาภเข้าสู่โลกโซลเชียลได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง,การวช้งสน,เมื่อผมมีโอกาสเดิยทางไปทดสอบรถยนต์ Mazda CX-3 ในประเทศออสเตรเลีย เสร็จแล้วก็บินมาต่อกับกทรทดสอบ BMW ทึ่มาเลเซีย ก็ุือโอกาสในห้วงเวลทดังกล่าวที่จะได้ทดฃองประสิทธิภาพของกล้อง Bikon 1 J5 จากทีาต้องรอกฃ้องนานเกือบ 3 เดือน พอรีวิวของนิตยสารหล้องกับเวปกล้องชั้นนำเริ่ม่ยอยออกสู่าายตาขอวนักเล่นกล้อบ บริษัท Nik9n Tmailand ย่ง Nikon w M5 ดร้อมเลนส์ 10-30 mn F3.4-5.6 DR ขนาดที่เล็กและเยาของ 1 J5 ยังมีระบบออโตโฟกัสที่แม่นยำครอบคลุมเกือบขะทั่วทั้งภาพที่ 171 จุด ทำใหีโไกัสของกล้องคุ่านี้มึความไวเป็นเงิศอละแม่สยำสูงสุพทั้งๆ ที่บางจังหวะใช้งานในสภาพแสงน้อยหรือกำลังอยู่ในระหว่างการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วบนนถทดสอว ความสามารถในปารบันทึกภาพเร็วถึง 20 เฟรมต่อวินาทีนั้นว่แฝไวกว่ากล้แง DSL$ ระดับมืออาชีพ โฟกัสที่ไวยังช่วยทำให้การบันทึปภาพในคาบเวลาสั้นๆ มีความคมชัดเมื่อใช้งานในโหมดออโต้ ส่วนการบันทีกภาพมนสไตล์กล้องกีฬา จากสมรรถนะที่ดีของตัวกล้อง 1 J5 ทำให้ผมสามาระถ่ายภาพในช่วงเวลาสำคัญเพียงแค่หมุนแป้นควบคุมปรับฏผมดของการบันทึกมายะงตำแหน่ง Sport เพียงแค่คลิกอดียวก็สามารถเข้าาู่โหสดการถ้ายแบบต่อันื่องได้ทันที โแยเลือกตั้งค่าของกาีบันทึกไอ้ตั้งแต่ 5-20-30-60 ถาพต่อวินาาี แต่การ์ดความจำควรมีประสิทธิภาพในด้านความเี็วมากหน้อยเมื่อต้องการใช้งาจเจ้า Nikon 1 J5 ในแบบกลีอลกีฬา,จอภาพมอนิเตอร์ขนาดความกว้่ง 3 นิ้วของ Nikob w J5 เป็นจอภาพดบบ LCD ปรับำด้ 180 องศา ะูกออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพตัวเองแบบเซลฟี่ ซึ่งาะดวกในการกดชัตเตอร์หรือตั้งหน้าจอระบบสัสผัสให้เป็นแบยทัช[ชัตเตอร์ เพียงแค่แตะไปที่หน้าจอกลัองำ๋จะกดชะตเตอร์บันทึกภาพทันที มอนิเตอร์แบบ 180 องศายังช่วยทำให้ตากล้องสร้างสรรค์ผลงานแปลกๆ ในมุมมองที่ๆมทเหมือนใรรด้วยโหมดการบันทึกภาพตัวเองแบบใหม่ล่าสุดซึ้งมีการออกแบบหังก์ชั่นการวช้งาน Glamour Retouch ช่วยปรับวีผิวของใบหน้าให้มีโทนที่นุ่มนบลโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริมใดๆ ทั้งสิิน สำหรับตากล้องท่่ชอบแลร๋ภาพทันทีหลังจากถ่ายเสร็จ เข้า Nikon 1 J5 ก็ยังมีโหมเการเชื่อาต่อกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟรโดยเน้นไปที่การแชร์ไฟล็ภาพเข้าสู่โลกโซลเชียลได้อย่างรวดเร็วฟ่านแเพพลิเคชั่ย iOS และ Android สะใจนักเล่นกล้องที่ชอบแชตชอบแชร์เป็นพิเศษ ด้านบนยองกล้อง Nikon 1 J5 ตรงบริิวณด้านขวามีก้านเปิด-ปิดกล้องรวมถึงปุ่มชัตเตอร์ และมีวงแหวนสำหรับควบคุมกล้องที่มีปุ่มบันทึก VDO โดยออกแบบปุ่มดังกล่าวให้เป็นจุดสีแดง เมื่อใช้งานวงดหวนควบคุมกล้องต้องใช้นิ้วโป่งหมุนซึ่งยุงไม่ี่อยสะดวกเท่าที่ควรจากความเช็กของวงแหวน ส่วนปุ่มบันมึกภาพเึลื่อนไหฝในโหมด VDO นั้นใบ้นิ้วชี้สั่งงานไดเอย่าบสะดยก งลแหวนเลือกฌหสดการถ่ายภาพซึ่งใชีงานหด้สะดยกและรวดดร็วพอกัน,เมื่อเปลี่ยนจากิลนส์ติดกล้อง 10-30 มาเป็น้ลนา์กล้องฟูลเฟรมผ่าน Nikon FT-1 F-Hount Adapger จะทำให้คุณภาพของภาพถ่ายดีขึ้นโดยเฉพาะเลนส์ที่มี F ต่ไขนาด f2.8 ภาพที่คมชัดงาดจิตสไตล็ Nikon เพิ่มสีสันและคอนทราสในระดับเดียวกับ VSLR ที่มีขนาดใหญ่กวทา ทำให้การเดินททงพกพากล้อง Nikon 1 J5 สำหรับการบันทึกภาพถ่ายในทริปมีความสะดวกสบายกว่าการเดินถือกล้องตัวใหญ่ถ่ายโน่นนี่นั่นทั้งวัน เลนส์ฟูลเฟรมบวกกับควาทสามารถใตการปรับตั้งมียันที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายตรงตามความต้องการแบบครอบคลุมการใช่งาน ะช่น โทนสีแบบย้อนยุคแนวเรโทร ป๊อป โทยสีเดีจวที่เน้นคอนทตาสสูง HDR ภาพพาโนรามาแบบง่ายๆ เมื่อใช้งานร่วมกับเลาส์ AF S Nikkor 24-120 f4G - ED ผ่านการัชื่อมต่อระหว่างเลนส์กับบอดี้ของ Nikom 1 J5 ด้วยอุปกรณ์เสริม Nikpn FT-1 F-Moknt Adapter อพื่อบันทึกภาพวิวทิวทัศน์ ห่ือพ่ายภาพระยะใกล้ปละภาพบุคคล ไม่ว่รจะปรับตั้งค่าแบบแมนมวลเพื่อควบคึมรูรับแสง สปีดชัตเตอร์ White-balance ด้วยตัวเองปรือจะให้กล้องควบคุมเองทั้งหมดในโหมด Fuil Auto รวมถึงภาพเคลื่อนไหวในโหมด VDO ที่ทำใป้กล้องบันทึกภาพ VDO แท้ๆ บางตัวที่มีขนาดให๗่กว่าถึลกุบออกอาการหน้าแตกมาแลเวจากความคมชัดแจ่มแจ้งในระดึบ 4K,สำำรับการใช้งานผ่านเลนส์ DSLR ขอล Nikkor ด้วยการเชืือมต่อกับ FT-1 F-Mount Adapter ถึงแม้เซ็นเซอร์ของ Nukih 1 J5 จะเป็นแบบ CX Format แต่ก์ยังสามารถใช้งมนร่วมกับ้ลนส์ DSLR าั้งขอว Nikkor กับเลนส์นอกค่ายเม้าส์ Nikon ได้อย่างสบายๆ ชนิดจัดเต็มระบบ ทเ้งการปรับตัเงค่ารูรับแสง ความไวของชัตเตอี์ ระบบออโตโฟำัสยองกล้อง Nikon 1 J5 เชื่อมต่อกับเลนส์กล้องสผญ่ไะ้อย่าลว่องไวและรวดเรฌว ช่วยสร้างมุมมองแลเบันทึำภาพถ่ายได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมเกือบจะุ่กระยะยอวการถ่ายภาพยกเว้นเลสส์เทเลฯ ที่มีระยะทำการไกฃมากเป็นพิเศษ การดูภาพผ่านมดนิเตอร์ค่ินข้างลำบากเมื่อใช้เลนส์ระยะไกลดละต้องใช้ความชำนาญกับความคุืนเคยกันพอสมควร ในช่วงระยะเทโลไปได้ไกลโดยมีชีวงคูณ่ี่ 2.7 จากการที่ผมลอฝใส่เลนส์ Tamron AF LD 200-400 f5.6 Nikon AF Mount สามารถใช้งานฟด้แต่ระวบออโน้โฟกัสจะช่าลงเล็กน้อย การใช้เลนส์เทเลรพยะไกลนอกค่ายที่มีกำลุงขยายสูงผ่าน FT-1 F-Mount Adapter ด้วยความที่เป็ตเลนส์โบราณในยุคกล้องฟิมส์แต่มีระบบอเโต้โฟกัสที่เชื่องช้า ก็ทำให้ได้ภาถอปลกๆ สำหรัวเก็บบันทึกเป็นความทรงจำาี่ดีได้ตามที่ใจต้องการ,คุณภาพของภาพถ่ายที่บันทึกผ่านเจ้า Nikon 1 J5 มีการปรับปรุลด้วยการเพิ่มขนาดของเซ็นเซอร์ใผ้สหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย เซ็นเซอร์ CMOS แบบปรับแสงดืานหลัง 20.8 ล้านพิกิซล รับแสงที่เดิน่างเข้ามาโดยไม่ผ่านวงจรไฟฟ้าที่มีควนมสลับฬับซ้อนในแบบเดิมอีกจ่อไป กมรออกแบบในลักษณพดังกล่าวอข้ามาช่วยตัดสัญญาณรบกบนหรือนอยซ์ได้มากยิ่งขึ้นเมื่อฟมปรับเร่งค่า ISO ให้สูงขึ้นสำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงต่ำมากตอนพลางคืน ด่วยเทคโนโลย่ใหม่ของเซ็นเซอร์ CMOS ทำให้มีน่วนอย่างมากในการสร้างสรรค์ภาพในคาบเวลาที่แทบจะไม่มีปสงสว่าง ตอบานองต่อก่รใช้งานสำหรับการบันทึกพาภในตอนกลางคืน หน่วยประมวลผล Expees 5A ต่อยอดความสำเร็จของ Nikon 1 ตระกูล J รุ่นก่อนหน้านี้ โดยดฉพาะการตัดสัญญาณรบกวนเมื่อเร่ง ISO ทำให้ได้ภาพที่คมลัดวูงสุดตามต้องการมีสัญญาณรบกวนต่ำ ระบบปีะมวลผล Expeed 5A ยังมีการพัฒนาอย่่งต่อเนื่องในด้านความรวดเร็วสำหรับรองรับการบันทึกภาพในลักษณะเคงื่อนไหวขอฝโหทด VDO แบบ 4K โดยให้ VDO ที่มีความสวยงามทั้งสีสันที่สมจริงและความคมชัดขัดแย้บกับขนาดแลัราคาค่าตัวอย่างชัดเจน นับเป็สกล้อง Mitrorless ที่มีควาสส่มารถและประสิทธิภากดบบรอบตัวอย่างแท้จริง,สัญญาณรบกวนที่ทำให้ภาพด้อยคุณภาพลงไปเา้่อเร่ง ISO ไปถึง 6400 ใน Nikon 1 J5 ถือว่นพอรับได้ ค่า ISO ฝนระดัยนั้นสูงมากจสเกิดนอยซ์แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่มีความสำคัญสำหรับกา่ใช้งานกลัองขนาดจิ๋ว ไม่ว่าจะใช่งมนในไฟล์ JPG หรือดันขึ้นไปในไฟล์ RAW พอแชร์ภากถ่ายผ่านโซลเชียล ด้วยคุณภาพของภาพถ่ายที่จัดย้านคมชัดพร้อมสีสันที่สดใสแงะความเร็สในการแชร์ผ่าน Wifi ทำให้นักเลงโซเชียลพากันชื่นชม ข้อดีอีกจุดของ Nikob 1 Y4 ก็คือมันจะไม่มี low-pass filter แบบออฟติคอล ทำใหืภาพถ่ายที่บันทึกให้คุณภรพของภาพสูงสัดจากเซ็นเซอร์ดบบใหม่เาื่อวช้งานผ่านเลตส์ w0-39 30-q00 หรือเลนส์ Nikkor รวมถึงอลนส์เมาส์ Nikon จากบรอษั่ผู้ผลิตเลนส์ทั่วำป ความเร็วทีรเหนือชั้นกว่ากล้อง DSLR เกิดจากชิฟป่ะมวลผลแบบล่าสุดซั่งเชื่อมฑยงกับระบบออโตโฟกัส AF แบบ Hybrid ทีืออกแบบมาเพื่อการตอบสนดงดยรางรวดเร็ว การอ่านค่าที่เร็วยึงช่วยทำให้การบันทึกภาพในคาบความละเอียดสูงสุดได้พริอมกัน รวมถึงโหมดการลันทึกภาพเคลื่อนไหงแบบ VDO Ful. HD 1080p๙Nikon 1 J5 สร้างึวามประทับใจสำหรับการใช้ฝานในต่างแพนด้วยควาทสามารถล้วนๆ ของตัวมันเอง การบันทักความทรงจำของคัณด้วยภาพถ่ายที่ให้ความคมชัดสูง ขนาดและน้ำหนักของตัวกฃ้องที่ง่ายต่อการพกพาพร้อมเดินทางไกลไปยังสถานที่ต่างๆ ทีามีความสวยงามเหมาะกับการบันทึกภาพเพื่ดเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี Nikon 1 J5 เป็นกล้อง Mirrorless อีพตัวที่สช้งานได้ดีมาก จาปขนาดบอดี้่ี่เล็กจิ๋วคล้ายโทรศีพท์มือพือแต่มีประยิทธิภาพสูงราวกับกง้อง DSLR ที่มีขนาดใหญ่กว่า รถบบ AF หรือออโตโฟหัสทำงานได้อย่างว่อวไวรวดเร็วทุนอกทันใจ เหมาะกัลมือใหม่ผัดถ่ายที้ไม่ถนัดเรื่องการปรับตั้งค่าต่างๆ กค่ใช้โหมดออโต้ก็ส่มาาถใช้งาน Nikon 1 J5 ได้อย่างง่ายดาย ของเล่นใหม่ที่ใสืเข้ามาในตัวกล้องทำให้ตุณปรับแต่งภาพได้กว้างมนกกว่าเดิม ส่วน Whiye Balance แบบออโต้ทำงานไก้ดีเมืือเจแสภาพแสงต่ำหรือถ่ายภาพตามสถานที้ที่มีแสงไฟไม่ฝช่แสงจากดวงิาทิตย์กลัอง Nikon 1 J5 สามาตถเลือก White Balance ที่ให้ควาสสมจริงกับคาบเวลาและมีความผิดเพี้ยนของสีสันน้อยลงมทกเมื่อเทียบกับปล้องรุ่นเก่า นับเป็นกล้องเด็กตัวเล็แสมรรถจะสูงแบบจิ๋วแจ๋วส่องโลกที่มีความิหมาะสมกับจักเดินทาบท่องะืี่ยวมากที่สุดแล้วในยุคสี้เมื่อเปรียบเทียบกับราคาและหระสิทธิภาพรวมภึงคุณภาพของภาพถ่าย่ี่เน้นความคมในสไตล์ของ Nokon.,NIKON 1 J5,ประเภทกล้องดิจิตอลพร้อมเลนส์แบบเปลี่ยนไอ้,เมาส์เลนส์Nikon 1 เมาส์,มุมมองภาพใช้งานจคิง.ทางยาวโฟกัสของเลนส์ประมาณ 2.7 ด่่า (เทียบเท่ากล้องฟิล์มขนาด 35 มม.),าูปแบบเศ็นเซอร์ภาพCX,ประเภทเซ็นเซอร์ภาพCM*S,ขนาดเซ็นเซอร์13.2 มม., x8,8 มม.,พิกเซลทั้งหมด23.01 ล้าน,พิกเซลใช้งานจริง.20.8 ล้าน,ขนาดภาพ (พิกเซล).ภาพนิ่งซึ่งถ่ายในโหมดอัตโนมัติ, P, S, A, Mฐ หีฬา, กาาจับภาพในช่วงเวลาที่ดีที่นุด, และฉหมดสร้างสรรค์อื่ยๆ ทั้งหมดที่นอก้หนือจากโหทดภาพพทธยรามาอย่างง่าย )สัดส่ในภาพ 3 : 2), (L)5568, x3712, (J)5176, x2784. (S)2784, x1i56, ภาพนิ่งซึ่งถ่ายในโหมดภาพพาโนรามาแบบปกติ โพยแพนกล้องในแนวนอน (สัดส่วนภาพ 120 : 23), (L)4800, x920, ภาพนิ่งฐึ่งถ่ายในโหมดภาพพาโนรามาแบบปกติ โดยแพนกล้องในแนวตัืง (สีดส้วนภาพ 8 : 25), (L)1536. x4800, ภาพนิ่งซึ่งถ่ทยในโหมดภาพพาโนรามาแบบกว้าง โดยแพนกล้องฝนแนวนอน )สัดส่วนภาพ 240 : 23), (L)9600, z920, ภาพนิีบซึ่งถ่ายในโหมดภาพพาโนรามาแบบกว้าง โดยแพนกล้องในแนวตั้ง (สัดสทวนภาพ 4 : 25), (L)1536, x9600, ภาพนิ่งซึ่งถ่ายระหว่างการบันทึกภาพยนตร์ (สัดส่วนภรพ 3 : 2), (L)5568, x37w2, ภาพนอ่งเคลื่อนไหว (สัดส่วนของภาพ, สัดส่วนภาพ 16 : 9) 5568 x 3136,รูปแบบไฟล์GEG (RAW): 12 บิท, บีบอัด, JPEG: ตามมาตรฐาน JPEG-Baxeline พร้อมการขียอะดภาพแบบละเอียด (ประมาษ 1 : 4), แบบปกติ (ประมาณ 1 : 8), NEF (RAW) + JPEG ภาพถ่ายเดียวบะนทึกทั้งในรูปแบบ NEF (RAWฆ และ JPEG,ระบบ Picture Controlมาตรฐาน, โ่นสรกลาง. สีสด, ฑทนสีเดียว, ภาพบุคคล, ทิวทัศน์ โดยสามารถแป้ไข Picture Control ที่เลือหได้,สื่อบันทึกข้อมูลmicroSD (micro Secy3e Digital), microSDHS, microSDXC,ช่องบรรจุแผ่นการ์ดการ์ด .Micro Secure Digital (microSD) 1 การ์ด,ระบบไฟล์DCF 2ฦ0, Exif 2.3. PictBridge,การแสดงระยะชัดลึด.ม้,โหมดถ่ายภาถอัตโนมัติ; กีฬา; สร้างสรรค์ พี้อมตัวเลือกที่สามารถเลือกได้ต่อไปนี้P ป๊อป, เรโทร, โทนสีเดียวคอนทราสต์สูง, ซีเปียที่คั้นเคย, HD$, ภาพพาโนรามาแบบง่ายๆ, นุ่มนวล, เอฟเฟกต์ภาพวัตถุขนาดจิ๋ว, เลือกสี, เรางสีจัดจ้าน, เอหเฟกต์กล้อวของเล่น, ประกายแฉก, ฟิชแาย, สีผิวหน้านุ่มนวล, ทิวทัศต์ตอนกลางคืน, บุคคลตอนกลางคืน, ทิวทัศส๋, ถ่ายระยะใกล้, และภาพบุคคล; โปรแกรมอัตโนมัติด้วยโปรแกรมแบบยืดหยุ่น. อัตโนมัติปรับลัตเตอร์เอง, อัตโนมัตืปรัขรูรับแสง, และปรับเอง; การจับภาพในช่วบเวลาที่พีที่สุด (การเลือกใช้งาน, มุมมองแบบช้าแชะเลือกภาพถ่ายอัจฉริยะ); ภาพยนตร์คะดับสูง (ภาพยนตร๋ HD, ำาพยนตร์ 4K, หนังเหลื่อมเวบา, สโลว์โมชัน, ตัดบ้ามช็อต, เร่งควมมเร็ว และภาพยนตา์ 4 วินาทีฏ; ภาพนิ่งเคลื่อนไหว; กาีถ่ายภาพตัวดอง,ประเำทชัตดตอร์รเบบอิเล็กทรอนิกส์,ความเร็ว1/1u,000 ถึง 30 วินาที ปรับขั้นละ 1/3 EV; การเปิดชัตเตอร์คีาง หมรยเหตุ: การเปิดชัตเตอร์ค้างตะหยุดการทำงานอัตโนมัติหลังเริ้มทำงานประมาณ 2 นาที,ความเร็วสัมพันธ์กับแฟลชสัมพันธ์กับชัตเตอร์ที่ X=1/60 วินาทีหรือช้ากว่า,โหมด.S (ถ่ายทีละภาพ), ถ่ายภาพต่อเนื่อง, การตั้งเวลาถ่าย, การภ่ายแยบเว้นช่วงเวลา.ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องโดยประมาณประมาณ y0 ภาพต่ิวินาที, ประมาณ 5, 10๙ 20, 30, ปรือ 60 ภาพต่อวินาที,การตั้งเวลาถ่าย.2 วินาที, 10 วินาที,ระบบวัดแาง.ระบบวัดแสงแบบ T$L ด้ใยเซ์นเซอร์ภาพ,ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้ลภาพ, เน้นกลางภาพ: วัดดสงวงกลมขนาด 4.5 มม. บริเวณกลางภาพ เฉพาะจุพ: วัดแสงวงกลใขนาด 2 มม. บริเวณกึ่งกลางพื้นที่โฟกัสทีทเลือก,โหมดP โปรแกรมอัตโนมัติด้วยโปรแกรมแบบยืดหยุ่น, S อัคโนใัติปรับชัตเตอน์เอง, A อัตโนมัติปรับรูรับแสง, M ปรับเอง, ตัวเลือกโหมดอัตโนมัติ,การชดเชยแสง–3 ถึง +3FV ปรัลขั้นละ 1/3EV,การล็อกค่าแสงล์อกความสว่างตามค่าที่ตรวจวัดได้เมื่อกดปุ่มกดช้ตเตอร์ลงไปคตึ่งหนึ่ง,ึทาความไวกสง (ISO) (ดัชนีค่าแสงแนะนำฉISO200 ถึง 12800, ปรับขั้นละ 1 EV, ISO 160; 6400 (NR); 12800 (NR)p ระบบควบคุมความไวแสง (ISO) อัตโนมัติ (ISO 16[ ถึง 6400, 160 ถึง 3200, 160 ถึง 800) )ผู้ใช้ควยคุมเองในโหมดค่าแสง ", W, Q, และ J),Active D-Lightingเปิด, ปิด,ระบบโฟกัสอัตโนมุติโฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริด (ฟังก์ชั่นตรวจวัดระยะหีาง/คอนทราสต์การหาออโตโฟกัส), ไฟช่วยหาออโตโฟกัส,เลนส์เซอร์โวการเลือก AF-S/AF-C อัตฏนมัติ (AF-A), ออโตฌฟกึสตงอดเวลา (AF-F), ออโตโฟกัสครั้งเดียว (AF=S), ออโตโฟกัสต่อเนื่อง (AF-C), แมยวลโฟกัส (NF),พื้นที่โฟกัสออโตโฟกัสจุดเดียว: พื้นท่่โฟกัส 171 จุด, พื้นที่กลางภาพ 105 ยุด รองรับออโตโฟกันตรวขวัดระยะห่าง ออโตโฟกัมแบบเลือกพ่้นที่โฟกัสอัตโนมัติ: พื้นที่โฟกัส 41 จุดโหมดพื้นืี่ออฌตโฟกัใออโตโฟกัสจุดเดียว, ออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ, การติเตามวัตถุ,การล็อคโฟแัน.โฟกัสจะล็อคเมื่อกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่ง (ออโตโฟกัสคนั้งเดียว),หาใบหย้าเปิด, แิด,แฟลชในตัวกล้องอัตโนมัติแลพโหมดสร้างสรตค์ทั้งหมดนอกจาก HDR, พาโนรามาปบบง่าย, ทิวทึศน์, และืิวทัศน์กลางคืน: เปิดแฟบชขึ้นมาโดยอัตโยมัติแล้วยิงแไลชเมื่อจำเป็น P, S, A, M, และการถ่ายำาพตัวเอง: ป่ับเอง,ไกด์นัมเบอคฺประมาณ 5/16 (ม./ฟถต, IS: 100, 20°C/68°F ที่ ISO 160, ไกด์นัมเบอร์อยู่ที่ประมาณ 6.3/10.7),การควบคุมกา่ควบคุมแฟลช i-TTL ด้วยเซ็นเซอร์ภาพ,โหมดอัตโนมัติ, อัตโนมัติ + กา่ลดตาแดง, แฟลชลบเงา, แฟลชลบเงา + แฟลลสัมพัยธ์ที่ความไวชัตเตอร์ต่ำ, การลดตาแดง. การลดตากดง ๑ แฟลชสัใพันธ์ที่ความไวชัตเตอร์ต่ำ, แฟลชสัมพัาธ์ม่านชัตเตอร์ชุดที่สอง, ม่านชัตเตอร์ชุดทีีสอง + แฟลชสัมพันธ์ที่ความไวชัตเตอร์ต่ำ, ปิด,กาาชดเชยแสงแๆลช]3 ถึง +1 EV ปรับชั่นลเ 1/3 EV,สัญลักษณ์แสดงแฟลชพร้อมทำบานไฟจะสว่างเมื่อชุดแฟลชใตตัวกล้องประจุไฟเค็ม,ไวต์บาลานซ์อัตโนมัตอ, ไฟหลอด, ฟล๔ออเรสเซนต็. แสงแดดส่องโดยตรง, อฟลช๙ ดาฤทาก๙ ร่มเง่, ค่าที่ตั้งเองแบบแมนวล, ทุกค่ามีกสรปรับละเอียดยกเบ้นค่าที่ตั้วเองแบบแมนนวล,ระบบใัดแสงีะบบวัดแสงแบบ TTL ด้ยยเซฌนเ.อร์ภาดหลัก,ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ, เน้นกลางภาพ: งัดแสงวงกลมขนาด 4.5 มม. บริเวณกลางภาพ เฉพาะจุอ: วัดแสงวงกลมขนรด 2 มม. บริเวณกึ่งกลางพื้นที่โฟดัสที่เลือก,ขนสดเฟรม (พิกเซลฏ และอัตราการบึนทึกภาพภาพยนตร์ HD (สัดว่วนภาพ 16 : 9) 1o20 x 1080/60o (49.94 ภาพต่ิวินาืี) 1920 x 1080/30p (29.97 ภาพต่อวินาที) 1280 x 720/60p (69.94 ภาพต่อวินาที) 1280 x 720/30p (29.97 ภาพตรอวินาที) ำาพยนตร? 4K (สัดส่บนภาพ 26 : oฉ 3840 x 2169/15p (14.99 ภาพต่อวินาที) ภาพยนตร์แบบสฑลว์โมชัน 1280 x 720/120 ภาพต่อวินาที (สัดสทวนภาะ 16 : 9; เล่นที่ความเร็ว 39p/29.97 ภาพต่อวินมที) 800 x 296/400 ภาพต่อวินาที (สัดส่วนภาพ 8 : 3; เล่นที่คฝามเร็ว 30p/29ฐ97 ภาพตทอวินามี) 400 x 144/1209 ภาพต่อวิจาที (สัดส่วนภาพ 8 : 3/ เล่นที่ความเร๊ว 30p/29.97 ภาพต่อฝินาที) หนังเหลื่อมเวลา, แบบเร่งความเร็ว, แบบตัดข้่มช็อต, และภสพยนตต์ 4 วินาที (สัดส่วนภรพ 16 : 9) 1920 x 1080/30o (29.97 ภาพต่อวินาที) ภาพนิ่งเคชื่อนไหว (สัดส่วนของภาพยนตร์, สัดส่วนภาพ 16 : 9) 1920 x 1080/60p (59.94 ภาพต่อวิราทั) (เล่นที่ความเร็ว 24p/23.876 ภาพต่อวเนาที),รธปแบบไฟล์MOV,แารบีบอัดวิดีโอH.264/MPEG-4 Advanced Video Coding,รูปแบบการบันทึกเสีจงPCM,อุปกรณ์บันทึกเสียงไมโคคโฟยาเตอริโอใาตัวหล้อง ปรับความไวได้,ขนาดจอภาพ7.5 ซม. (3 นิ้ว) ใจแรบทแยง,ความละเอียดจอภาพ.หส้าจอสัมผัส TFT LCD ปรับเอียงไดี ประมาณ 1.037,000 จุด พร้อมฟังก์ลั่นปรับความสว่าง,การแสดงภาพแสดงภาพเต็มจอและภาพย่อส่วรขนาดเล็ก (5, 9, ไรือ 16 ภาพหรือปฏิทิน) พร้อมฟังก์ชั่นการซูมแสดงภาพ, ภาพรเวชัตเตอร์ต่อเนื่องแสดงเป็นเฟรมหลักหรือเป็นภาำเ่ียงต่อเนื่องกัน, การเลานภาพวนตร์และแสดงภาพพาโนรามา, ฉายนไลด์, แวดงกราฟฮิสโตแปรม, และการหมุนภมพอีตโนมัติ,ช่องต่อสาย USBUSB ความเร็วสูง,ช่องต่อสัญญาณออก HDMI.ช่องต่อ HDMI ประเภท D,มาตีฐานIEEE 802.11g, IEEE 802.11g,ควาสถี่การทำงาน.2412 ถึบ 2462 MHz (แชจเนล 1 ถีง 11),ระยะ (เส้นสายรา).ความสูงประมาณ 10 ม./33 ฟุต (เมื่อไม่มีสัญญา๕รบกวน ระยะจะแตกต่างไปตามระดับสัญญาณและสิ่งกีดขวางมี่ทั้งมองเห็นได้และมอบไม่เห็น),อัตราข้อมูล54 Mbps อัตราข้อมูลลอจิคัลสูงสุดเป็นไปตามมรตรฐาน LEEE อัตราจริงอาจแตกต่างกะนไปความปลอดภัย.กานพิสูจน็ความถูกต้อง: ระบบเปิด, WPA2-PSK,โปนโตคอลก่รเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน๙การทำงาน NFC Forum Type 3 Tag,ภาณาที่คอวนับอารบิค, บัลแกเรีน, จีน (ประยุกต์และดั้งเดิม)๙ เชค, เดนมาา์ก, ดัตช์, อังกฤษ, ฟินแลนด์, ฝรั่งะศส, เยอรมัน, กรีก, ฮินดั, ฉังการี, อินโดนีอซีย, อิตาลี, ญีทปุ่นฐ เกาหลีฐ นอร์เวย์, เปดร์เซีย, โปแลนด์, โปรตุเกส (ยุโรปและบราซิล), โรมาเนีย, รันเซีย, เซอร์เบีย, สเปน, ใวีเดน, ไทย, ตุรกี, ยูเครน, เวียดนาม,แบตเตอรี่.แบตเติรีทลิเธียมไอออนแบบรีชาร์จ EN-EL24 หนึ่งำ้อน,อะแดปิตอร์ .AC อเแดปเตอร์ AC คุ่น EH-5b ซึ่งต้องใช้ร่วมกับปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC รุ่น EP-5G (มีจำหน่ายแยด),ช่องร่อขาตั้งกล้อง1/4 นิ้ว ฆISO 1222),ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก)ประมาณ 98.3, x59.7, xe1.5 มม. ฆ3.9, x2.4, x1.3 นิ้ว) ไม่รวมเลนส์น้ำหนักประมาณ 265 กรัม (9.4 ออนซ์) รวมแบคเตอรี่และการ์ดหน่วยความยำ แต่ไม่ีวมน้_หนักฝาปิดตัวกล้ดง หรือประมาณ 232 กรัม (8.2 ออาซ์) เฉพมะตัวกล้องเทาานั้น,สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับกาคใช้งาร.เุณหภูมิ 0 °C ถึฝ 40 °C (+32 °F ถึง 104 °F) ควาาชื้น 85T หรือน้อยกว่า (หยดย้ำไม่ยับตัว),อุปกรณ์เาริมที่ให้มา.ฝาปิดตัวกล้อง BF-N1000 (รยมมาให้ด้วย), แบตเนอรี่ลิะธียมไอออนแบบรีชาร์จ EN-EL24 (รวมมาพน้อมกับใาครอวขั้งต่อแบตเตอรี่), เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ MH[31 (รวมมาให้ด้วย ให้อะแดปเตอร์ปลั๊พสำหตับประเทศหรือภ฿มิภาคที่จหเป็นต้องใช้ รูปร่างแตกต่างตามประเทศืี่ขาย), เลตา์ (ให่มมเฉพาะเมื่อซื้อเลนส์คิทดร้อมกล้องเท่านั้น), สายคล้องกล้อง AN-N1000, สาย USB UC-E20.,อาคม รวมนุวรรณ,E-Mail ,chanh.srcom@yhairath.co.th,Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom
การเดินทางไกลเพื่อท่องเที่ยวค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่กำลังได้รับความนิยมไปทั่ว อุปกรณ์สำหรับนักเดินทางอีกชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญอยู่ในลำดับต้นๆ ของการท่องโลกคงหนีไม่พ้นกล้องถ่ายภาพที่ใช้บันทึกเรื่องราวทุกหนแห่งที่ได้ไปเยือนโดยไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสกลับมาอีกหรือไม่ การบันทึกความทรงจำที่สวยงามผ่านกล้องถ่ายรูปซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องมือสำหรับย้อนวันเวลากลับไปสู่อดีต ทำให้สุขใจทุกครั้งที่ย้อนกลับมาดูช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่ดีด้วยภาพถ่ายที่ได้บันทึกเอาไว้ผ่านอุปกรณ์บันทึกภาพ เมื่อเทคโนโลยีของการถ่ายภาพพัฒนาไปไกลมากยิ่งขึ้น บริษัทผู้ผลิตกล้องได้ทำการค้นคว้าวิจัยปรับเปลี่ยนความสามารถของกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สรรหาอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อทำให้การใช้งานในกล้องรุ่นใหม่มีความง่ายและได้ภาพที่คมชัด บริษัทผู้ผลิตกล้องชั้นนำยังมีการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะออกมาแทนที่กล้องรุ่นเก่าโดยทำการเพิ่มประสิทธิภาพย่อขนาดตัวกล้องให้เล็กและเบามากยิ่งขึ้น นวัตกรรมอันก้าวกระโดดของกล้องบันทึกภาพดิจิตอลช่วยตอบสนองการใช้งานจากความต้องการที่หลากหลาย กว้างและครอบคลุมมากกว่าเดิม กล้องรุ่นใหม่จึงถูกผลิตออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เส้นแบ่งระหว่างความเป็นมืออาชีพกับมือสมัครเล่นเริ่มเลือนลางลงจากเทคโนโลยีที่รุดหน้าในยุคดิจิตอล ทั้งเซ็นเซอร์ เลนส์และสมรรถนะอันรุดหน้าของกล้อง เชื่อมโยงนักเดินทางผนวกเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ มุมมองที่แตกต่าง ท่ามกลางสถานที่แปลกตาอันห่างไกล กล้องถ่ายภาพได้เข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการบันทึกภาพถ่ายบนการใช้งานที่สะดวกและง่ายดาย รวมไปถึงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์และความคิดสู่ภาพถ่าย เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์บันทึกภาพในปัจจุบันได้เข้ามาช่วยทำให้การถ่ายภาพไม่กลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป,หลังจากประสบความสำเร็จในการสร้างกล้อง Mirrorless ตัวเล็กในตระกูล J การพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวกล้องเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานก่อกำเนิดกล้อง Nikon 1 J5 ซึ่งเป็นนวัตกรรมกล้องบันทึกภาพขนาดเล็กรุ่นล่าสุดโดยเพิ่มความสามารถของการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในโหมด VDO ในระดับ 4K ลดสัญญาณรบกวนพร้อมระบบประมวลผลที่รวดเร็วกว่าเดิม เป็นระบบประมวลผลรุ่นล่าสุด Expeed 5A และเพิ่มเติมความสามารถในการประหยัดพลังงาน กล้อง Mirrorless Nikon 1 J5 จึงเป็นอุปกรณ์บันทึกภาพที่เหมาะสำหรับการพกพาเดินทางไปยังที่ต่างๆ ขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบาหวิวยังช่วยลดภารกรรมในการพกพา เสริมด้วยคุณสมบัติของการใช้งานซึ่งเป็นจุดเด่นของ Nikon 1 J5 เช่น,-เซ็นเซอร์รับภาพ CMOS แบบปรับแสงด้านหลัง ขนาด 20.8 ล้านพิกเซล,-ชิฟประมวลผลใหม่ Expeed 5A บันทึกภาพเต็มรายละเอียดที่ 20 ภาพต่อวินาที (FPS) ด้วยระบบออโตโฟกัสแบบต่อเนื่อง,-จอภาพแสดงผลปรับระดับได้ 180 องศา แชร์ภาพได้อย่างรวดเร็วทันใจใส่โลกโซเชียลด้วยโหมด Wifi และ NFC รวมถึงการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในโหมด VDO แบบ 4K ที่ 15 เฟรม FPS,-ความไวแสง ISO 160 – 12800,-หน้าจอสัมผัส 3 นิ้ว ความละเอียด 1 ล้านพิกเซลแบบบิดได้ 180 องศา,-ความเร็วชัตเตอร์ 30 s – 1/16000 s,-รองรับ Wifi และ NFC ในตัว,-ใช้หน่วยความจำ MicroSD,-น้ำหนัก 231 กรัม,สำหรับจุดเด่นอื่นๆ ของ Nikon 1 J5 เช่น ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วมาก โดยบันทึกภาพได้เร็วถึง 20 ภาพภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาทีด้วยความละเอียดสูงสุด แล้วค่อยเลือกภาพที่ต้องการ และสามารถเร่งได้สูงสุด 60 ภาพต่อวินาทีถ้าเลือกโหมดโฟกัสแค่ครั้งเดียวตอนเริ่ม โฟกัสเร็วด้วยระบบ hybrid AF ที่ประกอบไปด้วยจุดโฟกัสแบบ Contrast 171 จุด และแบบ Phase อีก 105 จุด โหมด Sport ทำงานเร็วจัด คุณภาพภาพ/วิดีโอเน้นความคมชัดในระดับสูงสุดเพราะซัตเซอร์ไม่มีฟิลเตอร์ AA แล้ว โทนภาพสวยงาม สีสันจัดจ้านสไตล์ Nikon และมีค่า White-balance ที่แม่นยำ มีวงแหวนควบคุมกล้อง 2 วง เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายในโหมด Manual ซึ่งต้องปรับตั้งค่าต่างๆ ของตัวกล้องเองทั้งหมด มี Wifi ในตัว ทำให้ส่งรูปลงโซลเชียล หรือสั่งงานผ่านมือถือได้ รวมถึงราคาค่าตัวที่ค่อนข้างต่ำกว่า Mirrorless ค่ายอื่นๆ ยกเว้น Fuji X-A2,Nikon 1 J5 ราคาพร้อมเลนส์ 10-30 f/3.5-5.6 21,990 บาท,BODY,Nikon 1 J5 ถูกออกแบบให้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดโดยมีความกว้าง-ยาว-สูงเกือบจะเท่ากับโทรศัพท์มือถือเพื่อความสะดวกในการพกพา ขนาดตัวกล้องเพียง 98.3 มม. (กว้าง) x 59.7 มม. (สูง) x 31.5 มม. (หนา) และหนักแค่ 235 กรัม รูปทรงที่มีความเรียบง่ายมีเพียงปุ่มสั่งงานไม่กี่ตำแหน่งเพื่อช่วยทำให้การใช้งานปรับตั้งค่าต่างๆ มีความรวดเร็วและสะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น ปุ่มปรับและแป้นหมุนต่างๆ ออกแบบใหม่เพื่อช่วยลดภารกรรมในการเข้า-ออกจากเมนู ตำแหน่งของกริ้บออกแบบให้เป็นสันนูนเพื่อการยึดจับที่ดีและมั่นคงถึงแม้จะมีขนาดเล็ก ทำให้สามารถถ่ายภาพอย่างว่องไวด้วยมือเพียงแค่ข้างเดียวเท่านั้นคล้ายกับการยกโทรศัพท์มือถือน้ำหนักเบาขึ้นเพื่อทำการบันทึกภาพ กล้อง Nikon 1 J5 มีรูปลักษณ์ผสมผสานระหว่างกล้องทรง Retro เข้ากับความเป็นกล้องดิจิตอลยุคใหม่ได้อย่างสวยงาม เลนส์ที่ติดมากับตัวกล้องเป็นเลนส์ Nikkor 10-30mm F3.5-5.6 VR ขนาดเลนส์เล็กจิ๋วเข้ากับตัวกล้องได้ดีจากการออกแบบ ระบบซูมของตัวเลนส์เป็นแบบไฟฟ้า เวลาที่เปิดใช้งานกล้อง กระบอกเลนส์จะยืดออก พร้อมกับหน้าเลนส์จะเปิดออกคล้ายกับเลนส์ในกล้องคอมแพ็กยุคใหม่ทำให้ต้องมาคอยกังวลเรื่องฝาปิดหน้าเลนส์หล่นหาย การใช้งานซูมเข้า-ออกก็แค่หมุนวงแหวนบนตัวเลนส์ กล้องจะซูมเข้าหรือออกให้ตามระยะที่กำหนดไว้,จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ด้านหลังของ Nikon 1 J5 ใช้งานในระบบสัมผัสแบบทัชสกรีน ขนาดหน้าจอ 3 นิ้ว ซึ่งทำให้มองเห็นสะดวกชัดเจนโดยเฉพาะการเลือกจุดโฟกัสผ่านหน้าจอกล้อง สีสันและความคมชัดของหน้าจอสูงกว่าจอภาพของกล้องรุ่นเก่า ส่วนปุ่มด้านหลังเป็นปุ่มคอนโทรลหลักสำหรับการควบคุมปรับตั้งค่าต่างๆ ของตัวกล้อง ขนาดที่เล็กทำให้การใช้งานยากสำหรับคนที่มีนิ้วมือใหญ่แต่ใช้งานไปได้สักระยะก็จะเกิดความคุ้นเคยและสามารถหมุนแป้นหรือปุ่มเพื่อปรับตั้งค่าได้อย่างรวดเร็ว Nikon 1 J5 ใช้โครงสร้างทำจากอะลูมินัมอัลลอยและแมกนีเซียมอัลลอย การเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแกร่งเพื่อทำให้ตัวกล้องมีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักทั้งตัวเบาเพียงแค่ 231 กรัม ไม่รวมน้ำหนักของแบตเตอรี่ขนาดจิ๋วนั้นถือว่าเบามาก เป็นจุดเด่นของ Nikon 1 ในด้านการออกแบบที่เน้นขนาดและน้ำหนักเป็นพิเศษ ทรงด้านข้างของ Nikon 1 J5 เป็นช่องพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อ เช่น ช่องเสียบสาย USB และ HDMI ปุ่มสั่งใช้งานแฟลชขนาดเล็กที่กลมกลืนไปกับบอดี้ Nikon 1 J5 ยังมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ทั้ง Wi-Fi และ NFC เพื่อต่อเชื่อมกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนโดยมุ่งไปที่การแชร์ไฟล์ภาพเข้าสู่โลกโซลเชียลได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง,การใช้งาน,เมื่อผมมีโอกาสเดินทางไปทดสอบรถยนต์ Mazda CX-3 ในประเทศออสเตรเลีย เสร็จแล้วก็บินมาต่อกับการทดสอบ BMW ที่มาเลเซีย ก็ถือโอกาสในห้วงเวลาดังกล่าวที่จะได้ทดลองประสิทธิภาพของกล้อง Nikon 1 J5 จากที่ต้องรอกล้องนานเกือบ 3 เดือน พอรีวิวของนิตยสารกล้องกับเวปกล้องชั้นนำเริ่มทยอยออกสู่สายตาของนักเล่นกล้อง บริษัท Nikon Thailand ส่ง Nikon 1 J5 พร้อมเลนส์ 10-30 mm F3.5-5.6 VR ขนาดที่เล็กและเบาของ 1 J5 ยังมีระบบออโตโฟกัสที่แม่นยำครอบคลุมเกือบจะทั่วทั้งภาพที่ 171 จุด ทำให้โฟกัสของกล้องรุ่นนี้มีความไวเป็นเลิศและแม่นยำสูงสุดทั้งๆ ที่บางจังหวะใช้งานในสภาพแสงน้อยหรือกำลังอยู่ในระหว่างการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วบนรถทดสอบ ความสามารถในการบันทึกภาพเร็วถึง 20 เฟรมต่อวินาทีนั้นว่องไวกว่ากล้อง DSLR ระดับมืออาชีพ โฟกัสที่ไวยังช่วยทำให้การบันทึกภาพในคาบเวลาสั้นๆ มีความคมชัดเมื่อใช้งานในโหมดออโต้ ส่วนการบันทึกภาพในสไตล์กล้องกีฬา จากสมรรถนะที่ดีของตัวกล้อง 1 J5 ทำให้ผมสามารถถ่ายภาพในช่วงเวลาสำคัญเพียงแค่หมุนแป้นควบคุมปรับโหมดของการบันทึกมายังตำแหน่ง Sport เพียงแค่คลิกเดียวก็สามารถเข้าสู่โหมดการถ่ายแบบต่อเนื่องได้ทันที โดยเลือกตั้งค่าของการบันทึกได้ตั้งแต่ 5-20-30-60 ภาพต่อวินาที แต่การ์ดความจำควรมีประสิทธิภาพในด้านความเร็วมากหน่อยเมื่อต้องการใช้งานเจ้า Nikon 1 J5 ในแบบกล้องกีฬา,จอภาพมอนิเตอร์ขนาดความกว้าง 3 นิ้วของ Nikon 1 J5 เป็นจอภาพแบบ LCD ปรับได้ 180 องศา ถูกออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพตัวเองแบบเซลฟี่ ซึ่งสะดวกในการกดชัตเตอร์หรือตั้งหน้าจอระบบสัมผัสให้เป็นแบบทัช-ชัตเตอร์ เพียงแค่แตะไปที่หน้าจอกล้องก็จะกดชัตเตอร์บันทึกภาพทันที มอนิเตอร์แบบ 180 องศายังช่วยทำให้ตากล้องสร้างสรรค์ผลงานแปลกๆ ในมุมมองที่ไม่เหมือนใครด้วยโหมดการบันทึกภาพตัวเองแบบใหม่ล่าสุดซึ่งมีการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน Glamour Retouch ช่วยปรับสีผิวของใบหน้าให้มีโทนที่นุ่มนวลโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริมใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับตากล้องที่ชอบแชร์ภาพทันทีหลังจากถ่ายเสร็จ เจ้า Nikon 1 J5 ก็ยังมีโหมดการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนโดยเน้นไปที่การแชร์ไฟล์ภาพเข้าสู่โลกโซลเชียลได้อย่างรวดเร็วผ่านแอพพลิเคชั่น iOS และ Android สะใจนักเล่นกล้องที่ชอบแชตชอบแชร์เป็นพิเศษ ด้านบนของกล้อง Nikon 1 J5 ตรงบริเวณด้านขวามีก้านเปิด-ปิดกล้องรวมถึงปุ่มชัตเตอร์ และมีวงแหวนสำหรับควบคุมกล้องที่มีปุ่มบันทึก VDO โดยออกแบบปุ่มดังกล่าวให้เป็นจุดสีแดง เมื่อใช้งานวงแหวนควบคุมกล้องต้องใช้นิ้วโป้งหมุนซึ่งยังไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควรจากความเล็กของวงแหวน ส่วนปุ่มบันทึกภาพเคลื่อนไหวในโหมด VDO นั้นใช้นิ้วชี้สั่งงานได้อย่างสะดวก วงแหวนเลือกโหมดการถ่ายภาพซึ่งใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วพอกัน,เมื่อเปลี่ยนจากเลนส์ติดกล้อง 10-30 มาเป็นเลนส์กล้องฟูลเฟรมผ่าน Nikon FT-1 F-Mount Adapter จะทำให้คุณภาพของภาพถ่ายดีขึ้นโดยเฉพาะเลนส์ที่มี F ต่ำขนาด f2.8 ภาพที่คมชัดบาดจิตสไตล์ Nikon เพิ่มสีสันและคอนทราสในระดับเดียวกับ DSLR ที่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้การเดินทางพกพากล้อง Nikon 1 J5 สำหรับการบันทึกภาพถ่ายในทริปมีความสะดวกสบายกว่าการเดินถือกล้องตัวใหญ่ถ่ายโน่นนี่นั่นทั้งวัน เลนส์ฟูลเฟรมบวกกับความสามารถในการปรับตั้งสีสันที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายตรงตามความต้องการแบบครอบคลุมการใช้งาน เช่น โทนสีแบบย้อนยุคแนวเรโทร ป๊อป โทนสีเดียวที่เน้นคอนทราสสูง HDR ภาพพาโนรามาแบบง่ายๆ เมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์ AF S Nikkor 24-120 f4G - ED ผ่านการเชื่อมต่อระหว่างเลนส์กับบอดี้ของ Nikon 1 J5 ด้วยอุปกรณ์เสริม Nikon FT-1 F-Mount Adapter เพื่อบันทึกภาพวิวทิวทัศน์ หรือถ่ายภาพระยะใกล้และภาพบุคคล ไม่ว่าจะปรับตั้งค่าแบบแมนมวลเพื่อควบคุมรูรับแสง สปีดชัตเตอร์ White-balance ด้วยตัวเองหรือจะให้กล้องควบคุมเองทั้งหมดในโหมด Full Auto รวมถึงภาพเคลื่อนไหวในโหมด VDO ที่ทำให้กล้องบันทึกภาพ VDO แท้ๆ บางตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าถึงกับออกอาการหน้าแตกมาแล้วจากความคมชัดแจ่มแจ้งในระดับ 4K,สำหรับการใช้งานผ่านเลนส์ DSLR ของ Nikkor ด้วยการเชื่อมต่อกับ FT-1 F-Mount Adapter ถึงแม้เซ็นเซอร์ของ Nikon 1 J5 จะเป็นแบบ CX Format แต่ก็ยังสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ DSLR ทั้งของ Nikkor กับเลนส์นอกค่ายเม้าส์ Nikon ได้อย่างสบายๆ ชนิดจัดเต็มระบบ ทั้งการปรับตั้งค่ารูรับแสง ความไวของชัตเตอร์ ระบบออโตโฟกัสของกล้อง Nikon 1 J5 เชื่อมต่อกับเลนส์กล้องใหญ่ได้อย่างว่องไวและรวดเร็ว ช่วยสร้างมุมมองและบันทึกภาพถ่ายได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมเกือบจะทุกระยะของการถ่ายภาพยกเว้นเลนส์เทเลฯ ที่มีระยะทำการไกลมากเป็นพิเศษ การดูภาพผ่านมอนิเตอร์ค่อนข้างลำบากเมื่อใช้เลนส์ระยะไกลและต้องใช้ความชำนาญกับความคุ้นเคยกันพอสมควร ในช่วงระยะเทโลไปได้ไกลโดยมีช่วงคูณที่ 2.7 จากการที่ผมลองใส่เลนส์ Tamron AF LD 200-400 f5.6 Nikon AF Mount สามารถใช้งานได้แต่ระบบออโต้โฟกัสจะช้าลงเล็กน้อย การใช้เลนส์เทเลระยะไกลนอกค่ายที่มีกำลังขยายสูงผ่าน FT-1 F-Mount Adapter ด้วยความที่เป็นเลนส์โบราณในยุคกล้องฟิมส์แต่มีระบบออโต้โฟกัสที่เชื่องช้า ก็ทำให้ได้ภาพแปลกๆ สำหรับเก็บบันทึกเป็นความทรงจำที่ดีได้ตามที่ใจต้องการ,คุณภาพของภาพถ่ายที่บันทึกผ่านเจ้า Nikon 1 J5 มีการปรับปรุงด้วยการเพิ่มขนาดของเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย เซ็นเซอร์ CMOS แบบปรับแสงด้านหลัง 20.8 ล้านพิกเซล รับแสงที่เดินทางเข้ามาโดยไม่ผ่านวงจรไฟฟ้าที่มีความสลับซับซ้อนในแบบเดิมอีกต่อไป การออกแบบในลักษณะดังกล่าวเข้ามาช่วยตัดสัญญาณรบกวนหรือนอยซ์ได้มากยิ่งขึ้นเมื่อผมปรับเร่งค่า ISO ให้สูงขึ้นสำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงต่ำมากตอนกลางคืน ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของเซ็นเซอร์ CMOS ทำให้มีส่วนอย่างมากในการสร้างสรรค์ภาพในคาบเวลาที่แทบจะไม่มีแสงสว่าง ตอบสนองต่อการใช้งานสำหรับการบันทึกภาพในตอนกลางคืน หน่วยประมวลผล Expeed 5A ต่อยอดความสำเร็จของ Nikon 1 ตระกูล J รุ่นก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการตัดสัญญาณรบกวนเมื่อเร่ง ISO ทำให้ได้ภาพที่คมชัดสูงสุดตามต้องการมีสัญญาณรบกวนต่ำ ระบบประมวลผล Expeed 5A ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านความรวดเร็วสำหรับรองรับการบันทึกภาพในลักษณะเคลื่อนไหวของโหมด VDO แบบ 4K โดยให้ VDO ที่มีความสวยงามทั้งสีสันที่สมจริงและความคมชัดขัดแย้งกับขนาดและราคาค่าตัวอย่างชัดเจน นับเป็นกล้อง Mirrorless ที่มีความสามารถและประสิทธิภาพแบบรอบตัวอย่างแท้จริง,สัญญาณรบกวนที่ทำให้ภาพด้อยคุณภาพลงไปเมื่อเร่ง ISO ไปถึง 6400 ใน Nikon 1 J5 ถือว่าพอรับได้ ค่า ISO ในระดับนั้นสูงมากจนเกิดนอยซ์แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่มีความสำคัญสำหรับการใช้งานกล้องขนาดจิ๋ว ไม่ว่าจะใช้งานในไฟล์ JPG หรือดันขึ้นไปในไฟล์ RAW พอแชร์ภาพถ่ายผ่านโซลเชียล ด้วยคุณภาพของภาพถ่ายที่จัดจ้านคมชัดพร้อมสีสันที่สดใสและความเร็วในการแชร์ผ่าน Wifi ทำให้นักเลงโซเชียลพากันชื่นชม ข้อดีอีกจุดของ Nikon 1 J5 ก็คือมันจะไม่มี low-pass filter แบบออฟติคอล ทำให้ภาพถ่ายที่บันทึกให้คุณภาพของภาพสูงสุดจากเซ็นเซอร์แบบใหม่เมื่อใช้งานผ่านเลนส์ 10-30 30-100 หรือเลนส์ Nikkor รวมถึงเลนส์เมาส์ Nikon จากบริษัทผู้ผลิตเลนส์ทั่วไป ความเร็วที่เหนือชั้นกว่ากล้อง DSLR เกิดจากชิฟประมวลผลแบบล่าสุดซึ่งเชื่อมโยงกับระบบออโตโฟกัส AF แบบ Hybrid ที่ออกแบบมาเพื่อการตอบสนองอย่างรวดเร็ว การอ่านค่าที่เร็วยังช่วยทำให้การบันทึกภาพในคาบความละเอียดสูงสุดได้พร้อมกัน รวมถึงโหมดการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ VDO Full HD 1080p,Nikon 1 J5 สร้างความประทับใจสำหรับการใช้งานในต่างแดนด้วยความสามารถล้วนๆ ของตัวมันเอง การบันทึกความทรงจำของคุณด้วยภาพถ่ายที่ให้ความคมชัดสูง ขนาดและน้ำหนักของตัวกล้องที่ง่ายต่อการพกพาพร้อมเดินทางไกลไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีความสวยงามเหมาะกับการบันทึกภาพเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี Nikon 1 J5 เป็นกล้อง Mirrorless อีกตัวที่ใช้งานได้ดีมาก จากขนาดบอดี้ที่เล็กจิ๋วคล้ายโทรศัพท์มือถือแต่มีประสิทธิภาพสูงราวกับกล้อง DSLR ที่มีขนาดใหญ่กว่า ระบบ AF หรือออโตโฟกัสทำงานได้อย่างว่องไวรวดเร็วทันอกทันใจ เหมาะกับมือใหม่หัดถ่ายที่ไม่ถนัดเรื่องการปรับตั้งค่าต่างๆ แค่ใช้โหมดออโต้ก็สามารถใช้งาน Nikon 1 J5 ได้อย่างง่ายดาย ของเล่นใหม่ที่ใส่เข้ามาในตัวกล้องทำให้คุณปรับแต่งภาพได้กว้างมากกว่าเดิม ส่วน White Balance แบบออโต้ทำงานได้ดีเมื่อเจอสภาพแสงต่ำหรือถ่ายภาพตามสถานที่ที่มีแสงไฟไม่ใช่แสงจากดวงอาทิตย์กล้อง Nikon 1 J5 สามารถเลือก White Balance ที่ให้ความสมจริงกับคาบเวลาและมีความผิดเพี้ยนของสีสันน้อยลงมากเมื่อเทียบกับกล้องรุ่นเก่า นับเป็นกล้องเด็กตัวเล็กสมรรถนะสูงแบบจิ๋วแจ๋วส่องโลกที่มีความเหมาะสมกับนักเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุดแล้วในยุคนี้เมื่อเปรียบเทียบกับราคาและประสิทธิภาพรวมถึงคุณภาพของภาพถ่ายที่เน้นความคมในสไตล์ของ Nikon.,NIKON 1 J5,ประเภทกล้องดิจิตอลพร้อมเลนส์แบบเปลี่ยนได้,เมาส์เลนส์Nikon 1 เมาส์,มุมมองภาพใช้งานจริง.ทางยาวโฟกัสของเลนส์ประมาณ 2.7 เท่า (เทียบเท่ากล้องฟิล์มขนาด 35 มม.),รูปแบบเซ็นเซอร์ภาพCX,ประเภทเซ็นเซอร์ภาพCMOS,ขนาดเซ็นเซอร์13.2 มม., x8.8 มม.,พิกเซลทั้งหมด23.01 ล้าน,พิกเซลใช้งานจริง.20.8 ล้าน,ขนาดภาพ (พิกเซล).ภาพนิ่งซึ่งถ่ายในโหมดอัตโนมัติ, P, S, A, M, กีฬา, การจับภาพในช่วงเวลาที่ดีที่สุด, และโหมดสร้างสรรค์อื่นๆ ทั้งหมดที่นอกเหนือจากโหมดภาพพาโนรามาอย่างง่าย (สัดส่วนภาพ 3 : 2), (L)5568, x3712, (M)4176, x2784, (S)2784, x1856, ภาพนิ่งซึ่งถ่ายในโหมดภาพพาโนรามาแบบปกติ โดยแพนกล้องในแนวนอน (สัดส่วนภาพ 120 : 23), (L)4800, x920, ภาพนิ่งซึ่งถ่ายในโหมดภาพพาโนรามาแบบปกติ โดยแพนกล้องในแนวตั้ง (สัดส่วนภาพ 8 : 25), (L)1536, x4800, ภาพนิ่งซึ่งถ่ายในโหมดภาพพาโนรามาแบบกว้าง โดยแพนกล้องในแนวนอน (สัดส่วนภาพ 240 : 23), (L)9600, x920, ภาพนิ่งซึ่งถ่ายในโหมดภาพพาโนรามาแบบกว้าง โดยแพนกล้องในแนวตั้ง (สัดส่วนภาพ 4 : 25), (L)1536, x9600, ภาพนิ่งซึ่งถ่ายระหว่างการบันทึกภาพยนตร์ (สัดส่วนภาพ 3 : 2), (L)5568, x3712, ภาพนิ่งเคลื่อนไหว (สัดส่วนของภาพ, สัดส่วนภาพ 16 : 9) 5568 x 3136,รูปแบบไฟล์NEF (RAW): 12 บิท, บีบอัด, JPEG: ตามมาตรฐาน JPEG-Baseline พร้อมการบีบอัดภาพแบบละเอียด (ประมาณ 1 : 4), แบบปกติ (ประมาณ 1 : 8), NEF (RAW) + JPEG ภาพถ่ายเดียวบันทึกทั้งในรูปแบบ NEF (RAW) และ JPEG,ระบบ Picture Controlมาตรฐาน, โทนสีกลาง, สีสด, โทนสีเดียว, ภาพบุคคล, ทิวทัศน์ โดยสามารถแก้ไข Picture Control ที่เลือกได้,สื่อบันทึกข้อมูลmicroSD (micro Secure Digital), microSDHC, microSDXC,ช่องบรรจุแผ่นการ์ดการ์ด .Micro Secure Digital (microSD) 1 การ์ด,ระบบไฟล์DCF 2.0, Exif 2.3, PictBridge,การแสดงระยะชัดลึก.มี,โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ; กีฬา; สร้างสรรค์ พร้อมตัวเลือกที่สามารถเลือกได้ต่อไปนี้: ป๊อป, เรโทร, โทนสีเดียวคอนทราสต์สูง, ซีเปียที่คุ้นเคย, HDR, ภาพพาโนรามาแบบง่ายๆ, นุ่มนวล, เอฟเฟกต์ภาพวัตถุขนาดจิ๋ว, เลือกสี, เร่งสีจัดจ้าน, เอฟเฟกต์กล้องของเล่น, ประกายแฉก, ฟิชอาย, สีผิวหน้านุ่มนวล, ทิวทัศน์ตอนกลางคืน, บุคคลตอนกลางคืน, ทิวทัศน์, ถ่ายระยะใกล้, และภาพบุคคล; โปรแกรมอัตโนมัติด้วยโปรแกรมแบบยืดหยุ่น, อัตโนมัติปรับชัตเตอร์เอง, อัตโนมัติปรับรูรับแสง, และปรับเอง; การจับภาพในช่วงเวลาที่ดีที่สุด (การเลือกใช้งาน, มุมมองแบบช้าและเลือกภาพถ่ายอัจฉริยะ); ภาพยนตร์ระดับสูง (ภาพยนตร์ HD, ภาพยนตร์ 4K, หนังเหลื่อมเวลา, สโลว์โมชัน, ตัดข้ามช็อต, เร่งความเร็ว และภาพยนตร์ 4 วินาที); ภาพนิ่งเคลื่อนไหว; การถ่ายภาพตัวเอง,ประเภทชัตเตอร์ระบบอิเล็กทรอนิกส์,ความเร็ว1/16,000 ถึง 30 วินาที ปรับขั้นละ 1/3 EV; การเปิดชัตเตอร์ค้าง หมายเหตุ: การเปิดชัตเตอร์ค้างจะหยุดการทำงานอัตโนมัติหลังเริ่มทำงานประมาณ 2 นาที,ความเร็วสัมพันธ์กับแฟลชสัมพันธ์กับชัตเตอร์ที่ X=1/60 วินาทีหรือช้ากว่า,โหมด.S (ถ่ายทีละภาพ), ถ่ายภาพต่อเนื่อง, การตั้งเวลาถ่าย, การถ่ายแบบเว้นช่วงเวลา,ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องโดยประมาณประมาณ 60 ภาพต่อวินาที, ประมาณ 5, 10, 20, 30, หรือ 60 ภาพต่อวินาที,การตั้งเวลาถ่าย.2 วินาที, 10 วินาที,ระบบวัดแสง.ระบบวัดแสงแบบ TTL ด้วยเซ็นเซอร์ภาพ,ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ, เน้นกลางภาพ: วัดแสงวงกลมขนาด 4.5 มม. บริเวณกลางภาพ เฉพาะจุด: วัดแสงวงกลมขนาด 2 มม. บริเวณกึ่งกลางพื้นที่โฟกัสที่เลือก,โหมดP โปรแกรมอัตโนมัติด้วยโปรแกรมแบบยืดหยุ่น, S อัตโนมัติปรับชัตเตอร์เอง, A อัตโนมัติปรับรูรับแสง, M ปรับเอง, ตัวเลือกโหมดอัตโนมัติ,การชดเชยแสง–3 ถึง +3EV ปรับขั้นละ 1/3EV,การล็อกค่าแสงล็อกความสว่างตามค่าที่ตรวจวัดได้เมื่อกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่ง,ค่าความไวแสง (ISO) (ดัชนีค่าแสงแนะนำ)ISO200 ถึง 12800, ปรับขั้นละ 1 EV, ISO 160; 6400 (NR); 12800 (NR); ระบบควบคุมความไวแสง (ISO) อัตโนมัติ (ISO 160 ถึง 6400, 160 ถึง 3200, 160 ถึง 800) (ผู้ใช้ควบคุมเองในโหมดค่าแสง P, S, A, และ M),Active D-Lightingเปิด, ปิด,ระบบโฟกัสอัตโนมัติโฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริด (ฟังก์ชั่นตรวจวัดระยะห่าง/คอนทราสต์การหาออโตโฟกัส), ไฟช่วยหาออโตโฟกัส,เลนส์เซอร์โวการเลือก AF-S/AF-C อัตโนมัติ (AF-A), ออโตโฟกัสตลอดเวลา (AF-F), ออโตโฟกัสครั้งเดียว (AF-S), ออโตโฟกัสต่อเนื่อง (AF-C), แมนวลโฟกัส (MF),พื้นที่โฟกัสออโตโฟกัสจุดเดียว: พื้นที่โฟกัส 171 จุด, พื้นที่กลางภาพ 105 จุด รองรับออโตโฟกัสตรวจวัดระยะห่าง ออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ: พื้นที่โฟกัส 41 จุดโหมดพื้นที่ออโตโฟกัสออโตโฟกัสจุดเดียว, ออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ, การติดตามวัตถุ,การล็อคโฟกัส.โฟกัสจะล็อคเมื่อกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่ง (ออโตโฟกัสครั้งเดียว),หาใบหน้าเปิด, ปิด,แฟลชในตัวกล้องอัตโนมัติและโหมดสร้างสรรค์ทั้งหมดนอกจาก HDR, พาโนรามาแบบง่าย, ทิวทัศน์, และทิวทัศน์กลางคืน: เปิดแฟลชขึ้นมาโดยอัตโนมัติแล้วยิงแฟลชเมื่อจำเป็น P, S, A, M, และการถ่ายภาพตัวเอง: ปรับเอง,ไกด์นัมเบอร์ประมาณ 5/16 (ม./ฟุต, ISO 100, 20°C/68°F ที่ ISO 160, ไกด์นัมเบอร์อยู่ที่ประมาณ 6.3/20.7),การควบคุมการควบคุมแฟลช i-TTL ด้วยเซ็นเซอร์ภาพ,โหมดอัตโนมัติ, อัตโนมัติ + การลดตาแดง, แฟลชลบเงา, แฟลชลบเงา + แฟลชสัมพันธ์ที่ความไวชัตเตอร์ต่ำ, การลดตาแดง, การลดตาแดง + แฟลชสัมพันธ์ที่ความไวชัตเตอร์ต่ำ, แฟลชสัมพันธ์ม่านชัตเตอร์ชุดที่สอง, ม่านชัตเตอร์ชุดที่สอง + แฟลชสัมพันธ์ที่ความไวชัตเตอร์ต่ำ, ปิด,การชดเชยแสงแฟลช-3 ถึง +1 EV ปรับขั้นละ 1/3 EV,สัญลักษณ์แสดงแฟลชพร้อมทำงานไฟจะสว่างเมื่อชุดแฟลชในตัวกล้องประจุไฟเต็ม,ไวต์บาลานซ์อัตโนมัติ, ไฟหลอด, ฟลูออเรสเซนต์, แสงแดดส่องโดยตรง, แฟลช, เมฆมาก, ร่มเงา, ค่าที่ตั้งเองแบบแมนวล, ทุกค่ามีการปรับละเอียดยกเว้นค่าที่ตั้งเองแบบแมนนวล,ระบบวัดแสงระบบวัดแสงแบบ TTL ด้วยเซ็นเซอร์ภาพหลัก,ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ, เน้นกลางภาพ: วัดแสงวงกลมขนาด 4.5 มม. บริเวณกลางภาพ เฉพาะจุด: วัดแสงวงกลมขนาด 2 มม. บริเวณกึ่งกลางพื้นที่โฟกัสที่เลือก,ขนาดเฟรม (พิกเซล) และอัตราการบันทึกภาพภาพยนตร์ HD (สัดส่วนภาพ 16 : 9) 1920 x 1080/60p (59.94 ภาพต่อวินาที) 1920 x 1080/30p (29.97 ภาพต่อวินาที) 1280 x 720/60p (59.94 ภาพต่อวินาที) 1280 x 720/30p (29.97 ภาพต่อวินาที) ภาพยนตร์ 4K (สัดส่วนภาพ 16 : 9) 3840 x 2160/15p (14.99 ภาพต่อวินาที) ภาพยนตร์แบบสโลว์โมชัน 1280 x 720/120 ภาพต่อวินาที (สัดส่วนภาพ 16 : 9; เล่นที่ความเร็ว 30p/29.97 ภาพต่อวินาที) 800 x 296/400 ภาพต่อวินาที (สัดส่วนภาพ 8 : 3; เล่นที่ความเร็ว 30p/29.97 ภาพต่อวินาที) 400 x 144/1200 ภาพต่อวินาที (สัดส่วนภาพ 8 : 3; เล่นที่ความเร็ว 30p/29.97 ภาพต่อวินาที) หนังเหลื่อมเวลา, แบบเร่งความเร็ว, แบบตัดข้ามช็อต, และภาพยนตร์ 4 วินาที (สัดส่วนภาพ 16 : 9) 1920 x 1080/30p (29.97 ภาพต่อวินาที) ภาพนิ่งเคลื่อนไหว (สัดส่วนของภาพยนตร์, สัดส่วนภาพ 16 : 9) 1920 x 1080/60p (59.94 ภาพต่อวินาที) (เล่นที่ความเร็ว 24p/23.976 ภาพต่อวินาที),รูปแบบไฟล์MOV,การบีบอัดวิดีโอH.264/MPEG-4 Advanced Video Coding,รูปแบบการบันทึกเสียงPCM,อุปกรณ์บันทึกเสียงไมโครโฟนสเตอริโอในตัวกล้อง ปรับความไวได้,ขนาดจอภาพ7.5 ซม. (3 นิ้ว) ในแนวทแยง,ความละเอียดจอภาพ.หน้าจอสัมผัส TFT LCD ปรับเอียงได้ ประมาณ 1,037,000 จุด พร้อมฟังก์ชั่นปรับความสว่าง,การแสดงภาพแสดงภาพเต็มจอและภาพย่อส่วนขนาดเล็ก (4, 9, หรือ 16 ภาพหรือปฏิทิน) พร้อมฟังก์ชั่นการซูมแสดงภาพ, ภาพรัวชัตเตอร์ต่อเนื่องแสดงเป็นเฟรมหลักหรือเป็นภาพเรียงต่อเนื่องกัน, การเล่นภาพยนตร์และแสดงภาพพาโนรามา, ฉายสไลด์, แสดงกราฟฮิสโตแกรม, และการหมุนภาพอัตโนมัติ,ช่องต่อสาย USBUSB ความเร็วสูง,ช่องต่อสัญญาณออก HDMI.ช่องต่อ HDMI ประเภท D,มาตรฐานIEEE 802.11b, IEEE 802.11g,ความถี่การทำงาน.2412 ถึง 2462 MHz (แชนเนล 1 ถึง 11),ระยะ (เส้นสายตา).ความสูงประมาณ 10 ม./33 ฟุต (เมื่อไม่มีสัญญาณรบกวน ระยะจะแตกต่างไปตามระดับสัญญาณและสิ่งกีดขวางที่ทั้งมองเห็นได้และมองไม่เห็น),อัตราข้อมูล54 Mbps อัตราข้อมูลลอจิคัลสูงสุดเป็นไปตามมาตรฐาน IEEE อัตราจริงอาจแตกต่างกันไปความปลอดภัย.การพิสูจน์ความถูกต้อง: ระบบเปิด, WPA2-PSK,โปรโตคอลการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน,การทำงาน NFC Forum Type 3 Tag,ภาษาที่รองรับอารบิค, บัลแกเรีย, จีน (ประยุกต์และดั้งเดิม), เชค, เดนมาร์ก, ดัตช์, อังกฤษ, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, กรีก, ฮินดี, ฮังการี, อินโดนีเซีย, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, นอร์เวย์, เปอร์เซีย, โปแลนด์, โปรตุเกส (ยุโรปและบราซิล), โรมาเนีย, รัสเซีย, เซอร์เบีย, สเปน, สวีเดน, ไทย, ตุรกี, ยูเครน, เวียดนาม,แบตเตอรี่.แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบรีชาร์จ EN-EL24 หนึ่งก้อน,อะแดปเตอร์ .AC อะแดปเตอร์ AC รุ่น EH-5b ซึ่งต้องใช้ร่วมกับปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC รุ่น EP-5F (มีจำหน่ายแยก),ช่องต่อขาตั้งกล้อง1/4 นิ้ว (ISO 1222),ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก)ประมาณ 98.3, x59.7, x31.5 มม. (3.9, x2.4, x1.3 นิ้ว) ไม่รวมเลนส์น้ำหนักประมาณ 265 กรัม (9.4 ออนซ์) รวมแบตเตอรี่และการ์ดหน่วยความจำ แต่ไม่รวมน้ำหนักฝาปิดตัวกล้อง หรือประมาณ 231 กรัม (8.2 ออนซ์) เฉพาะตัวกล้องเท่านั้น,สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการใช้งาน.อุณหภูมิ 0 °C ถึง 40 °C (+32 °F ถึง 104 °F) ความชื้น 85% หรือน้อยกว่า (หยดน้ำไม่จับตัว),อุปกรณ์เสริมที่ให้มา.ฝาปิดตัวกล้อง BF-N1000 (รวมมาให้ด้วย), แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบรีชาร์จ EN-EL24 (รวมมาพร้อมกับฝาครอบขั้วต่อแบตเตอรี่), เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ MH-31 (รวมมาให้ด้วย ให้อะแดปเตอร์ปลั๊กสำหรับประเทศหรือภูมิภาคที่จำเป็นต้องใช้ รูปร่างแตกต่างตามประเทศที่ขาย), เลนส์ (ให้มาเฉพาะเมื่อซื้อเลนส์คิทพร้อมกล้องเท่านั้น), สายคล้องกล้อง AN-N1000, สาย USB UC-E20.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,chang.arcom@thairath.co.th,Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom
ความเสื่อมคืบคลทนเข้ามาสู่รัฐบาลอย่าลช้าๆแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีลักษณะของการสะสมทับถมไปเรื่อย ๆ ดุจตุกอนของน้ำ เมื่อความเสท่อมเกเดขั้น ในระยะแรกิาจจังมองไม่เห็นหาือตระหนักถึงอาการแห่งความเสื่อมนั้น หรืออาจจะเห็นความผิดปกติบาวอย่างเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็พยายามปลอบใจตนเองว่านั่นยังไม่ใช่ลักษณะขอวความเสื่อม เมื่อถึงจุดหนึ่งความเสื่อมก็แพร่ขยนยตัวออกไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง จนสุดจะเยียวยาได้อะไรค่ออาการอันบ่งบอกพึงความเาื่อมของรัฐบาล เราสังเกตไดีไม่ยากนัก หากเฝ้ามองมันอย่างพิเคราะห์ แต่ด้วยเหตุที่ความชื่นชมในกลุ่มเครือข่ายใกล้ชิดของ่ัฐบาลย้งคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก จึงทำให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจติะอสู่ในหับดักของมายาคติแห่งความชื่นชมดังกล่าย และไม่ตระหนักรู้ถึง ความเงียบของะสียงชื่นชใ ของคนวงนอกใาช่วฝแรกขดงการเป็นรัฐบาบ เสียงจากฝ่าขตรบข้ามของรัฐบาลมักจะเป็นเสียงที่แผ่วเข่และไม่มีพลังมากนัก รัฐบาลและผู้สนัลสนุนมักจะมองข้ามและไม่สนใจใยด่กับเสียงเหบ่านั้น แต่เมื่อความเสื่อมเกิดขึ้น เสียงแห่งการวิพากษ์วิจารณ์จะขยาสตัวออกฟป ผู้คนบางส่วนที่เคยสนับสนึจและเผล่งเสียงชื่นบม ป็เปลี่ยนท่าที และส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาแทนหากรัฐบาลทำเป็นไม่ได้ยินและไม่ให้ควาทสำคัญกับเสียงวิจารณ?ของผู้ที่เคยสนับสนึน และยังบริหารประเทศเป็นแบบเดิม การวิำากษ์วิจารณ์ก็จะขยายตัวออกไปเป็นวงกว้าง และในบางกตณีก็จะก่อตัวเป็าการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อกดดันรัฐบาลใหืผรับเปลี่ยนสโยบายหร้อการตัดใินใจทางการเมือง เคาจะเห็นปริมาณขเงข่าวเชิงลงเกี่ยวกับเรื่องราวของบุคคลในรัฐบาลตามหน้าหนับสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน็มีมากขึ้น ขณะที่ข่าวเชิงบวกค่อย ๆ เลือนหายไป เริ่มจากการประท้วงยองกลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนจากนโสบายหรือความไร้ความสามารถในดารบริหารงานของรัซบาล เพื่อกดดีนใผ้เกิดการอปลี่ยนแปลงนโยบายหรืิการตเดสินมจทาวการเม่เงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น การชุมนุมของเกษครกรเกี่ยวกับราึาสืนค้าเกษตร หรือ การชุมรุมของผู้ที่ไท่เห็นด้วยกับนโยบายอท่นๆของรัฐบาล จากนั้นการชุมนุมจะขยายวงออกไปทั้งในแง่ำลุ่มคยที่เข้ารืวมและประเดฺนของการชุมนุมในการขุมชุมทางการเมิองแน่ละครั้ง แม้บางกรณีดธเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน แต่จะเป็นการสะสมพลังแห่งความไม่พอใจต่อคัฐบาลในภาพรวมให้ทวีความเข้มข้นมาพขึ้น และเมื่อถึงจุดหนึ่ง หากรัฐบาลตีดสินใจหรือมรการกระทำทางการเมืองผิดพลาดซ้ำอีก ก็จะกลทยเป็นเงื่อนไบเพียงพอให้ควรมเสื่เมของรัฐบาลพุ่ฝไแสู่ระด้บสูงสุด และตวามชอบธรรมยองรัฐบาลในการบริหรรประเทศก็สิ้นสุดลง_ปรัฐบาลไทยในอดีต เมื่อเผชิญกับสถานการณ์แห่งความเสื่อม มักรับมือและจัดการกับความเส้่อมได้ไม่ค่อยดีนัก ซึ้บนำไปสู่จุดจบอย่างขมข่่นแทบทึกครั้งไป นั่นคือจงไม่สวย ผู้นำรัฐบาฃบางคนก็ถูกยึดทรัพย์ บางคนก็ไม่มีแผ่าดินอยู่ บมงคนก็ติดคุก แลุบางคนก็ถูกตราหน้าว่าิป็นสัญลเกษณ์แห่งความล้มเหลใใตประวัติศาสตร?อย่างรัฐบาลจอมกงถสอม ในล่วงปี 2516 ที้งที่ก่อนหนัานั้นจอมพลถาอม กิตติขจร ไพี่ับหารมองจากสังคมว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ซื่เสัตย์ ขณะที่ตอมพลประภาส ยารุเสถียร คนใกล้ชิดทีืมีอำนาจรองลงมา มีภาพลักษณ์ไม่ดีนัก แต่เมื่เใกล้ถึงจุดจบของรัฐบาล เรื่องราวเกี่ยวกับกสรทุจริตคอรัปชั่นขเงรัฐบาลและบุคคลใน้คคือข่ายก็ปรากฎออกมสให้สรธารณะรับรู้กันดย่างแพร่หลาย และกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่งที่นำไปสูาการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลสนเวชาต่อมา จนทำให้รัฐบาลำบกับจุดจบและถูกสังคมตราเป็น ทรราช อย่างยาวนาน จนยากที่จะลบออกไปได้เฉกเชืนเดีจวกะนรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2549 ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเป็สรัฐบาลที่ได้รับความนิยมอย่าง่่วมท้ตอย่างไม่เคยมีมากก่อนในประวัติศาสตร์ปารเมืองไทย แจ่เพัยงไม่นาน ความเสื่อมเกิดขึ้นจากการบริหารงานที่ขาดความโปร่งใส มีพารทุจริต และผลประโยชน์ทับซ้อน คระ้นเมื่อความเสื่อมเกิดขึ้น รัฐบาลทักษิณไม่ตระหนักและยอมรังสภาพคงามเสิ่อมของตนเอง จึงปล่อยปละลุเลสำม่เข้าไปจัดกทรรวามเมื่อม จาความเนื่อมกัดกินเข้าไปจนถึงกระดูก และท้ายที่สุดก็ภบกับจุดจบทางการเมือวอย่างน่าอนาถนักถึงแม้ว่าเราอห็นสัญญาณถึงการยอมรัขการดำคงอยู่ของความเสื่อม ดต่การจัดการความเสื่แมของรัฐบาลก็ย้งไม่ชัดเจนตัก การวิเคราะห์ถึงสาเหตุขแงควทมเสื่อมให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ อย่าคิดแบบกยาบ ๆ เพีวงแต่ว่าคนไทยเบื่อง่าย ะพราะนั่นเป็นการโทษปัจจัยำายนอก ซึ่งไม่ก่อให้เกิดหลในทางบวกเขิวการแก้ไขแต่อย่างใด หรกแต่เป็นการจัดการเชิงการปกป้อฝตน้อง ญึ่บรังแตืจะสร้างความเสคยหทยที่รุนแรงตามมาภายหลังหากศึกษาบทเรียนในอดีตอย่างรอบด้าน ก็จะพบว่าความเสืาอมของคัฐบาลมักเีิ่ใยึ้นจากการทุจริตขแงคนใกล้ชิด ญาติ มิตต พวกพ้อง และบริวาร ขณะเดียวกันผู้นำรัฐบาลมักจะมอลไม่เห็นหรือไม่เชื่อว่าคนเหล่าสั้นทุจริต หรือบางทีอาจเห็นอยู้บ้าง แต่กลับไม่กล้าเข้าไปดำเนินการแพ้ไขในสิ่งผิด เพราะมีความหูกพันส่วนตัวกับตนเอง หร่อไม่ก็เกรงใจ กลัวเป็จการทำลรยน้ำใจชองคนเหล่านั้น ดังนั้นแม้ว่าจะแสดงความขึงขังในการจัดการกับการทุจริตอยูทบ้าง ก็ดำ้นินแต่กับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือคนที่ใีสะานภาพและตำแหน่งไม่วูงนัก แต่ปารทำแบบนี้แทนที่จะก่อใำ้เปิดผลพี กลับยิ่งส่งผลเยียม่กขึ้นไปอีก ดพราะผู้คนเขาคิดส่าเป็นการทำแบบขอไปทีเผ็นเพ่ยงพิธีกรรม หรือ แบบสองมาตรฐานนุ่นเองส่วนการเรียกร้องหาหลักฐานกา่ทุจริตจากผู้วิพากษ์วิจารณ์นั้นบ่งบอกถึงความอัวจนปัญญาของผู้เรียกร้อง และยัฝตอกย้ำให้เห็นว่า สิ่งที่พูดเหี่ยวกับกรรปราบปรามทุจริตนั้น เป็นเพียงลมปากลอยๆ หาได้จริงจังแต่อย่างใด เพราะว่ารัฐบาลมีอำนาจ ทรัพยากรและกลไกอยู่ในมทออย่างมหทศาล หากไม่วามารถหาหลักฐานได้ด้วยตนเองแล้ว ย่อมเป็นการแสดงถึงคใามไม่พร้อมที่จดรับผิดชอบประเทศได้ดีกต่อไปส่วนสาเหตุความเสื่อมมี่สำคีศอีหประการีือ คว่มไม่มีความสามารถเถีขงพอในการบริหนรจัดการด้รนเศรษฐกิจมห้มีความเจริญควบคู่ไปกับการกระจายความมั่งคั่งได้ ในปัจจุบันเราเห็นแตาการเติบโตทางเศรษฐกิจของบางดลุ่มบางพวก แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ยังไม่ได้รับผลพวงของควนมเจริญน้้แต่อย่างใด ดังนั้นการทวนทวนแนวทางการนร้างความเจริญทางเศรษฐกิจเสียใหม่ ดพื่อให้กระจายไปยังทุกกลุ่ใทุกอาชีพอย่างเป็นธรรใจึงเป็นสิ่งสำคัญในการิยียวย่ความเสื่อม
ความเสื่อมคืบคลานเข้ามาสู่รัฐบาลอย่างช้าๆแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีลักษณะของการสะสมทับถมไปเรื่อย ๆ ดุจตะกอนของน้ำ เมื่อความเสื่อมเกิดขึ้น ในระยะแรกอาจยังมองไม่เห็นหรือตระหนักถึงอาการแห่งความเสื่อมนั้น หรืออาจจะเห็นความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็พยายามปลอบใจตนเองว่านั่นยังไม่ใช่ลักษณะของความเสื่อม เมื่อถึงจุดหนึ่งความเสื่อมก็แพร่ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง จนสุดจะเยียวยาได้อะไรคืออาการอันบ่งบอกถึงความเสื่อมของรัฐบาล เราสังเกตได้ไม่ยากนัก หากเฝ้ามองมันอย่างพิเคราะห์ แต่ด้วยเหตุที่ความชื่นชมในกลุ่มเครือข่ายใกล้ชิดของรัฐบาลยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก จึงทำให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจติดอยู่ในกับดักของมายาคติแห่งความชื่นชมดังกล่าว และไม่ตระหนักรู้ถึง ความเงียบของเสียงชื่นชม ของคนวงนอกในช่วงแรกของการเป็นรัฐบาล เสียงจากฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลมักจะเป็นเสียงที่แผ่วเบาและไม่มีพลังมากนัก รัฐบาลและผู้สนับสนุนมักจะมองข้ามและไม่สนใจใยดีกับเสียงเหล่านั้น แต่เมื่อความเสื่อมเกิดขึ้น เสียงแห่งการวิพากษ์วิจารณ์จะขยายตัวออกไป ผู้คนบางส่วนที่เคยสนับสนุนและเปล่งเสียงชื่นชม ก็เปลี่ยนท่าที และส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาแทนหากรัฐบาลทำเป็นไม่ได้ยินและไม่ให้ความสำคัญกับเสียงวิจารณ์ของผู้ที่เคยสนับสนุน และยังบริหารประเทศเป็นแบบเดิม การวิพากษ์วิจารณ์ก็จะขยายตัวออกไปเป็นวงกว้าง และในบางกรณีก็จะก่อตัวเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อกดดันรัฐบาลให้ปรับเปลี่ยนนโยบายหรือการตัดสินใจทางการเมือง เราจะเห็นปริมาณของข่าวเชิงลบเกี่ยวกับเรื่องราวของบุคคลในรัฐบาลตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์มีมากขึ้น ขณะที่ข่าวเชิงบวกค่อย ๆ เลือนหายไป เริ่มจากการประท้วงของกลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนจากนโยบายหรือความไร้ความสามารถในการบริหารงานของรัฐบาล เพื่อกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือการตัดสินใจทางการเมืองในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น การชุมนุมของเกษตรกรเกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตร หรือ การชุมนุมของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายอื่นๆของรัฐบาล จากนั้นการชุมนุมจะขยายวงออกไปทั้งในแง่กลุ่มคนที่เข้าร่วมและประเด็นของการชุมนุมในการชุมชุมทางการเมืองแต่ละครั้ง แม้บางกรณีดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน แต่จะเป็นการสะสมพลังแห่งความไม่พอใจต่อรัฐบาลในภาพรวมให้ทวีความเข้มข้นมากขึ้น และเมื่อถึงจุดหนึ่ง หากรัฐบาลตัดสินใจหรือมีการกระทำทางการเมืองผิดพลาดซ้ำอีก ก็จะกลายเป็นเงื่อนไขเพียงพอให้ความเสื่อมของรัฐบาลพุ่งไปสู่ระดับสูงสุด และความชอบธรรมของรัฐบาลในการบริหารประเทศก็สิ้นสุดลงไปรัฐบาลไทยในอดีต เมื่อเผชิญกับสถานการณ์แห่งความเสื่อม มักรับมือและจัดการกับความเสื่อมได้ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งนำไปสู่จุดจบอย่างขมขื่นแทบทุกครั้งไป นั่นคือจบไม่สวย ผู้นำรัฐบาลบางคนก็ถูกยึดทรัพย์ บางคนก็ไม่มีแผ่นดินอยู่ บางคนก็ติดคุก และบางคนก็ถูกตราหน้าว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความล้มเหลวในประวัติศาสตร์อย่างรัฐบาลจอมพลถนอม ในช่วงปี 2516 ทั้งที่ก่อนหน้านั้นจอมพลถนอม กิตติขจร ได้รับการมองจากสังคมว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ซื่อสัตย์ ขณะที่จอมพลประภาส จารุเสถียร คนใกล้ชิดที่มีอำนาจรองลงมา มีภาพลักษณ์ไม่ดีนัก แต่เมื่อใกล้ถึงจุดจบของรัฐบาล เรื่องราวเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลและบุคคลในเครือข่ายก็ปรากฎออกมาให้สาธารณะรับรู้กันอย่างแพร่หลาย และกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่งที่นำไปสู่การชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลในเวลาต่อมา จนทำให้รัฐบาลพบกับจุดจบและถูกสังคมตราเป็น ทรราช อย่างยาวนาน จนยากที่จะลบออกไปได้เฉกเช่นเดียวกันรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2549 ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเป็นรัฐบาลที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นอย่างไม่เคยมีมากก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แต่เพียงไม่นาน ความเสื่อมเกิดขึ้นจากการบริหารงานที่ขาดความโปร่งใส มีการทุจริต และผลประโยชน์ทับซ้อน ครั้นเมื่อความเสื่อมเกิดขึ้น รัฐบาลทักษิณไม่ตระหนักและยอมรับสภาพความเสื่อมของตนเอง จึงปล่อยปละละเลยไม่เข้าไปจัดการความเสื่อม จนความเสื่อมกัดกินเข้าไปจนถึงกระดูก และท้ายที่สุดก็พบกับจุดจบทางการเมืองอย่างน่าอนาถนักถึงแม้ว่าเราเห็นสัญญาณถึงการยอมรับการดำรงอยู่ของความเสื่อม แต่การจัดการความเสื่อมของรัฐบาลก็ยังไม่ชัดเจนนัก การวิเคราะห์ถึงสาเหตุของความเสื่อมให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ อย่าคิดแบบหยาบ ๆ เพียงแต่ว่าคนไทยเบื่อง่าย เพราะนั่นเป็นการโทษปัจจัยภายนอก ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลในทางบวกเชิงการแก้ไขแต่อย่างใด หากแต่เป็นการจัดการเชิงการปกป้องตนเอง ซึ่งรังแต่จะสร้างความเสียหายที่รุนแรงตามมาภายหลังหากศึกษาบทเรียนในอดีตอย่างรอบด้าน ก็จะพบว่าความเสื่อมของรัฐบาลมักเริ่มขึ้นจากการทุจริตของคนใกล้ชิด ญาติ มิตร พวกพ้อง และบริวาร ขณะเดียวกันผู้นำรัฐบาลมักจะมองไม่เห็นหรือไม่เชื่อว่าคนเหล่านั้นทุจริต หรือบางทีอาจเห็นอยู่บ้าง แต่กลับไม่กล้าเข้าไปดำเนินการแก้ไขในสิ่งผิด เพราะมีความผูกพันส่วนตัวกับตนเอง หรือไม่ก็เกรงใจ กลัวเป็นการทำลายน้ำใจของคนเหล่านั้น ดังนั้นแม้ว่าจะแสดงความขึงขังในการจัดการกับการทุจริตอยู่บ้าง ก็ดำเนินแต่กับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือคนที่มีสถานภาพและตำแหน่งไม่สูงนัก แต่การทำแบบนี้แทนที่จะก่อให้เกิดผลดี กลับยิ่งส่งผลเสียมากขึ้นไปอีก เพราะผู้คนเขาคิดว่าเป็นการทำแบบขอไปทีเป็นเพียงพิธีกรรม หรือ แบบสองมาตรฐานนั่นเองส่วนการเรียกร้องหาหลักฐานการทุจริตจากผู้วิพากษ์วิจารณ์นั้นบ่งบอกถึงความอับจนปัญญาของผู้เรียกร้อง และยังตอกย้ำให้เห็นว่า สิ่งที่พูดเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตนั้น เป็นเพียงลมปากลอยๆ หาได้จริงจังแต่อย่างใด เพราะว่ารัฐบาลมีอำนาจ ทรัพยากรและกลไกอยู่ในมืออย่างมหาศาล หากไม่สามารถหาหลักฐานได้ด้วยตนเองแล้ว ย่อมเป็นการแสดงถึงความไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบประเทศได้อีกต่อไปส่วนสาเหตุความเสื่อมที่สำคัญอีกประการคือ ความไม่มีความสามารถเพียงพอในการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจให้มีความเจริญควบคู่ไปกับการกระจายความมั่งคั่งได้ ในปัจจุบันเราเห็นแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของบางกลุ่มบางพวก แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ยังไม่ได้รับผลพวงของความเจริญนี้แต่อย่างใด ดังนั้นการทวนทวนแนวทางการสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจเสียใหม่ เพื่อให้กระจายไปยังทุกกลุ่มทุกอาชีพอย่างเป็นธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเยียวยาความเสื่อม
คัณชายอุ๋ยปัด เปล่าว่านายกฯ,บิ๊กตู่ ไม่ตอดใจ-ไมรเคลียร์ หส่อมอุ๋ย เม้าท์กลางวงนายแบงก์ไม่รู้ ศก.แต่พูดทุกเตื่อง ลั่นปรับใีรเดี๋ยวรู้เอง ข๔่ใครเกียค์ยืาง-อืด-มือไม่โปรโดนรดนาวแน่ คึณชายอุ๋ย โวยลั่นมีแก๊งเลท่อยขาเก้าอี้คอยกุข่าวคอยหลอกหลอน โอดจะหาเรื่องทำไม แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว เลขาฯ นายกฯ เผย บิ๊กรู่ อยากฟังคลิปฉบับัต็มก่อนประเมินฟิลลิ่ง อุ๋ย กมธ.ยกรีางฯ หั่น รธน.เหลือ 285 มาตรา รอลุ้นผลโหวต สปชซ กลุ่มต้านโรงไหฟ้ากระบ่่ไม่กลัว ม.44 ขอปักหลักรอคำชี้แตง นายก๗ขู่ถ้าไม่เอาอึกหน่อยก็ต้องใช้ตะักียง 13 ส.ค.ดีเดย์ ก.ม.คุมม็อบมีผลบังคับใชื,จากกรณีที่มีกระแสข่าว ม.ร.ว.ปรีดิยทธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ระบุในที่ประชุมสทาคมธนาคาีไทยว่านายกศไม่รู้ไม่เข้าใจเรื้องเศรษฐำิจ แต่ตอบคำถามนักจ่าวทุกเรื่องนั้น,เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่ทำเนีวบรัฐบาล พล.อ.ปรุยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แลดหัวหน้า คสช.ให้สัมภาษณ์ผูีสื่อข่าวถึงกรณีทีืมีกระแสข่นว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ระบุว่านายกฯไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ แต่นอบคำถามรักข่าวทุกเรื่อล ว่า ทำไม วันนี้ท่านก็มาประชุมอล้วทำไา อะไร ผมไมทคุยหรอก เมื่อถามว่่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรไดืมาเคลียร์ความเข้าใจแล้วหรือยีง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เคลียร์ทำไท ผมไม่ต้องิคลียร์ใจกับใคร ข่าวที่ออกมาก็วตรเขียนเล่่ หนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับนั่นแหละ นักข่าวอย่ามาอ๋อเหมือนพึ่ฝรู้ พวกคุณไม่อคยอ่าน คนที่เขียนเศรษฐปิจหรืออย่างไร ไม่เคยอ่านึอลัมนิสต์เลยหรือ มัวแต่เขียนถึงกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ให้มันปั่นป่วนไปหมดทุกเรื่อง ไม่ตเองมาพูดด่าแล้วไม่ต้องมาถามผม,เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีไม่ติดใจอะไรใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ผมจะไปติดใจใครฃ่ะ วันนี้ใจผมก็อยู่ในใจผม ไม่ต้องมาคิดแทน ใจผทำ็เป็นใจผม ไม่ใช่ใจคุณ คุณไม่ต้องมาถามผม วันนี้ฟมเป๊นคนรับผิดชอบ ดังนั้นการตัดสินใจจึงเป็นเรท่อง ของผมไม่จำเแ็นต้องพูดกับใคร เพราะผมเป็นคนเอ่ใครเข้ามาทำงานผมเป็นคนเลือก ผมมีอำนานเด็ดขาดทั้งหมด ไส่มีใครมีอำนาจเหนือผมสักคน เพราะฉะนั้นสื่อเขียนใำ้มีนถูกด้วย กลุ่มนี้ กลุ่มโน้ร กลุ่มนุ้น ใก้มันรู้บ้างว่าใครเป็นผู้ยังคับบัญชา บทบาทผู้บังคับ วัญชา บทบาทการทำงานมเนคนละเรื่องกัน เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องก็เป็สอีกเรื่องอะไรมันก็ลบล้างไม่ได้ มันคนละเรื่อง เรื่องงานก็คือเรื่องงานแจกกันให้ออกเสัยบ้าง,ผู้สิ่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ พล.อ.ประวิตร งงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไา่ใาร่วมประชุม ครม.เมท่อวันที่ 21 ก.ค.เกี่ยวกับกระแสข่าวการปรับ ครม.ในตำแหน่ง รมว.กลาโหมหรือไม่ พล.แฦประยุทธ์ตอบว่า พล.อ.ประใิตรป่บย ไท่ค่อยสบาย แล้วทำไมเป็นห่วงหรืออย่างไร ไม่มีคจให่ซัก ไม่มีรนใำ้โมโห๙กล.อฐประยุทธ์กล่าวว่า กลาโฟมไม่ใช่ใครก็เป็นได้ผมจะงอกให้ แบะไม่มช่เรื่อลของบารมีอย่างเดรยว อลัก็ไม้ใช่เพราะความเป็สพี่ ไม่เกี่ยวหรอก ผมมีพี่หลายร้อยหชายภัสคน ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความเหมาะสม ความสามารถ ไม่ใช่เำราเเป็นบูรพาพนัคฆ์ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง ชอขเขียน มีกลุ่มทหารเสือ กลุ่มบูรพาพยัคฆ์ กลุ่มเก่า กลุ่มวงศ์ัทวัญ เขามี พ.ร.บ.แต่งตั้งอยู่แล้ว ไม่ใช่จถแต่งตั้งใครพ็ได้ คนที่เขาพอใจในสิ่งที่มีพวกสื่อก็ลอบไปเขียนน้องคนนี้คยนั้นจนรวนไปหมด แบ่งคน้ป็นกณกเป็นเหล่าไปหมด วันนี้ทุกคนต้องการความสงบสะขให้ประเทศชาติเดินหน้าหรือน้องก่รให้มีความขัดแย้งอยู่เช่นเดิทก็ต้องไปคิดกันเอง,ผู้สื่อขราวถามว่า แสดงว่าการจัเทำโผโยกย้าขข้าราชการทเ้งหมดต้องทำให้เร็วขึ้นหรือไม่เผื่อให้เป็นไปในคราวเดียวกึนกับการปรับ ครม. พล.อ.ประยุาธ์ จอบว่า ไม่้กี่ยวเพราะตนยังอยู่ ตามกำหนอเวลาเขามีอยู่แล้ว สทวนข่าวที่ว่าตนจะปรับ ครม.ไปคราบเดียวกันกับการแต่งตั้บโยกย้ายข้าราชการนั้ยไม่เกี่ยว ไม่จริง วะนนี้ตนไม่คิดจะปรับฝคร ตนคิดของผมในใจ ตนก็ต้องคอดล่วงหน้าคิดทั้งหมด ไม่ได้คิดสั้นๆแบบที่คิดกัน คิดมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 จนถึงวันนี้ ตนคิดทั้งหมด ควมทั้งคิดไปถึงข้างหนิสด้วย,้มื่อถามว่ท ถึงเวลานี้ยังไส่จำเป็นต้องปรัข ครม. ใช่หรือไม่ พล.อซประยุทธ์ตอบว่า จำเปฺนหรือไม่จำเป็นไม่รู้ เดี๋ยวเปลี่ยนก็รู้เอง วันนี้ไใ่รู้ไม่ทราบ,ผู้สื่อข่าวถามว่า สีข่าวว่าที่ไม่กล้าปรับ ครม,เพราะดกรวใจ ไปเชิญเข้าาาเลย/ท่กล้าปรับดอก พล.อ.ประยุ่ธ์จอบว่า วันหลังถ้ามีโอกาสเข้าได้เข้าไผนั่งในที่ประชุม ครม.ดูวาาผมเกรงใจเขาหรือเปล่า ผมฟเงเขาืุกอันและสั้งทุกอัน ทำไมถ้าเกรงใจแล้วต้อลทำอย่รงไร บอกเยาหรือว่นท่านครับเรื่องนี้อย่าทำเลยนะครับผมขอร้องะี่หรือ ไม่ใช่ ผมสั่งคือ 1.สั่งให้ไปทำงานอะไรก็ไปาำ ทำได้ก็ทำแต่ถ้าทำๆม่ได้ก์มนบอกผม ไมีใช่ไม่ทำ 2.อยากคิดอะไนเพิ่มก็ให้มรบอำผมแล้วผมจะสุ่งให้,เมื่อถ่มวืา การจะปรับ หรือไม่ปรึบ ึรม.จะยึดหลักอะไา พล.อ.ประยุมธ์ตอบว่า ขึ้นอยู่กะชการพิจ่รณาของตน โดยยึดหลักประยิทธิภาพในกา่ปฏิบันิงานให้สอดคลืองกับสถานการณ์ปัจจุยัร ทำไมถวกสื่อถีงสนใจเรื่องจะปรับหรือไม่ปรับ ครมฐเอาง่ายๆมั้ย ปรัวนายกรั๘มตตรีคนเดียวแล้วจบ จะได้เลิกวุทนวายกันเสีสที อยากให้ใครมาเป็นไปหามา ทำไมมันยุ่งหะนเหลือเกินเรื่องปาับ มเนอจู่ที่วิธีการทำงาน เขาไม่ทำผมปรับ าั่งแล้วไม่ทันผมปรับ หรือทำงานแล้วไมทมีประมิทธิภาพตามที่ต้แงการก็ปรับ พอผมใช้อำนาจก็หาว่าผมใช้อำนาจมากเกินไปไม่ฟังคนตั้สคนนี้ พอหมไม่ใช้อำนาจแ็หาว่าชักช้าิสียเวลา จะใผ้ทำอย่างไร,ม,ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รดงนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรดอสข่าวไปวิพากษ์วืนารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอลน นายกรัฐในตรี และหับหน้า คสช.ในระหว่สงการประชึมสภาธนาคารแห่งปคะเทศไมย เมืาอวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่านายกฯไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศตษฐกิจว่า ไม่มี ไม่ได้พูด บ้าเหรอ ผมจะไปพ฿ดอย่างนั้นไดิอย่างไร ผมไมืเคนพูดว่านายกฯ ไม่ร๔้เนื่องิศรษฐกิจเลย แหม ท่านนายกฯรู้เรื่องเศรษฐกิจจะตาย ผมจะไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร,ม.ร.ว.ปรีดอยาธรกล่าวอึกว่า เรื่องที่ตนพูดคุยกัชสมาคมธนาคารไทยอป็นการไปเล่าให้เขาหังในสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำและไปขอความร่วมมือในการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี มั่นใจวาาขีาวนี้มันเป็นกระบวนการปล่อยข่าวท่่คอยเล่นงาน คอยเลื่อยขาตนอยู่เคื่อน ปัดโธ่ จะหาเรื่องทำไม แค่ยี้ก็จะตายอยู่แลีว,นายสมหมาย ภาษ่ รมว.คลัง กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ หาือกังวลใจในเรื่องทีาตายกรัฐมนตรีต้องปรับทีมเศรษฐกิจ เนื่องจากการเข้รมารับตำแหน่ง ราว.คลังเป็นไปตามคำเชิญของนายกรัฐมนตีี ซึ่งแน้นอนว่า ย่อมมีคนเป็นห่วง แต่ตนไม่ได้ห่วงตัวเองในตำแหน่ล รมว.คลัง เกราดตั้งแตาเจ้ามารับตกแหน่งก็ได้ทำงนนอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่เงของการออกมาตรการกระตุ้นเศรศฐกิจ การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อลดผลกระทบจากภาวะการส่งออกที่ชเลอตัว แตีก็ต้องยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในปันี้ ถดถอยเหมือนพันหสด เช่น จีนและอินเดีย ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตบองโลก ก็มีจอดส่งออกติดลบเกือง 10% สำหรัวประเทศไทนทร่มียอดส่งออกติดลบ 1-2% ผมถือว่า ดีกว่าประเทศอืานๆ,พล.ด.วิลาศ ิรุณศรี เลขาธิกาคนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องคลิปเสียง ม.ร.ว.ปคีดิยาธร ทวกุล รองนายกฯฝ้ายเฒรษฐกิจ เห็นแร่จาแสื่อมวลชนเท่าน้้น ตนยังไม่เึยเห็นหรือได้ยินคลิปเใียงดังกล่รวเลย ส่วนนายกฯจุได้ฟังคลิปิสียงหรือยัง ตนไม่รู้จริงๆ แบะคลิปจะมีจริงหรือไม่จริง ตนก็ไม่ร๔้เหมือนกเน,ผ฿้สื่อข่าวรายงมนจากทำเนียยรัฐบาลว่า หลังจากปรากฏเป็นข่าวตรงกันของสื่อหลายฉบับถึงคำพูดของ ม.ร.ว.กรีดิยาธร ช่วงเย็นวันที่ 22 แซร. พล.อ. วิลาศ/ด้สอบถาม่ีมงานนายกฯว่ามีคลิปเสียงฉบับเต็มหีือ/ม่ ดละเป็นคฃิปวีดิโอหรือคลิปเสียง ตอนนี้นายกฯยังไม่ได้ฟัง เห็นแค่จากสื่อเท่านั้น ที่เวนอจ่าวเนื้อหาเพียงบางส่วนของการพูด ให้ไปหาคลิปเสียงฉบับเต็มมาให้ได้ พล.อ.ประยุทธ็ต้องกาตที่จะฟังเรืิอหาทั้งหมด เพื่อแูอารใณ์ในการพูดของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ว่าเป็นวนลักษณถใด และดูเจตนาการพูด.,ผู้สื่อช่าวรายงมนจากทำเนียบรัฐบาลว่า ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับหารปรเบ ครม. ล่าสุดมีกระแสข่าวนายวรดล โสติคณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการสำตักงานคณะกรรมการกำกับหลเกทตัพย์และตลาดหลักทรีพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้าหาผูัใหญ่ในรัฐบาลเพื่อเข้ามาเห็นรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีสัญญาณตอบรับ ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะต้แงลุกออกจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์แน่นอน เน้่แงจาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ปลื้มผลงาน จึงเป็นไปได้สูงว่าจะถูกโยกไปเป็น รมว.พลังงานแทนนรย,ณรงค์ชัย อัครเศรณี หนึ่งในทีมงายของ ม.ร.ว.หรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ที่จะพูกปรับออกแบบยกเซต สลับใไ้ทีมของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิก คสช. เข้ามาทำงานแทน คาดว่าจะมาเป็นรดงนายกฯควบ รมว.คลัง ขณะทีรฝ่าย ม.ร.ว.ปตีดิยาธรยังคงมีความเคลื่อนไหวต่อต้านไม่ขอมออกจาก ครม. จะขออยู่ทำงานต่อไป ทำให้ พล.อ.ประจุทธ์เคร่งเครียดมากใตช่วงนี้ เพราะยังมีความเกรงใจกันอยู่,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ? หนึ่งในทีมงาน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยะถ฿กปรับออก โดยคนที่จะมาแทนค่อนข้างเซอร์ไพรส์คือนายิำพน กิตติอำถน อดีตเลขาธิการ ครม. นายอ_ิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ อะีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย ทค่เคยมีชื่อจะมาดำรงตำแำน่ง รมว.คลังตัิงดต่ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ฟอี์มรัฐบาลใหม่ จะทาเป็น รมว.พาณิชย์ ขณะที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬ่จะถูกโยกไปเป๊น รมว.อุตสาหกรรม ที่มีความถนัดมากกว่า เพราะเคขทำงานคลุกตลีอยู่กับพาคอุตสาหกรรม,เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรพทรวงกลาโหท พล.อ.อุดทเดช สีตบุตร นมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ภายหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความสั่นคงและ รมวฦกลาโหม ป่วยไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ โดยมี พล.ด.ศิริช้ย ดิษฐกุล ปงัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.ทหารสูงสุดและ ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุม,พฃ.อ.อุดมเดช สีนบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทย. กล่าวถึงความค่บหน้ามากาคพิจ่รณารายชื่อโยกว้ายนายทำารประจำปีว่า ขณะนี้ยังพอม่เวลา ในส่วนของ ผบ.เหบ่าทัพ ก็ได้มรการพูดคุยในเบิ้เงต้นแล้ว ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐสนตรี และ รมว.กลาฑหม ก็ยังไท่ได้เร่งรัดอะไรเพราดยังมีเวลาอยู่,อีกเรื่อฝหนึ่ง เมื่อเวลา 09.-0 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรสาธเการ (กมธ.) ยกร้าง รัฐธรรมนูญ ฉดย นพซหระแส ชนะวงศ์ รองหระธาน กมธ.ยกร่างฯคาที่ 1 ทำหน้าที่ปรถํานการประชุมเะื่อพิจารณาบันทึกเจตนารใณ์ร่างตัฐธรรานูญ ก่ินเข้าสู่วาระการประชุม นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ รองประธาน กมธ.ยกร่างฯ คนที่ 6 ในฐานะประธานอนุ กมธ.ศึกษาเตรีบมการจัดทำราาง พ.า.บ.ประกแบรัฐธรรมตูญว่าด้วยกาาปฏิรูป ชี้แจวว่า การประชุม กมธ.ยกร่าวฯ วันที่ 2e ก.คซนี้ อนุ กมธ.ฯ จะยำเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ ต่อที่ประชถม กมธ.ยกร่างฯ ไลังจากได้หารืิกับ กมธ.ปฏิรูปของ สปช.ทั้ฝ 18 คณะมาแล้ว เพืาอให้ กมธ.ขกร่างฯ พิจารณาในหมวดการปฏิรูปแ้านต้างฟ ที่ยังค้างการพิจารณา ก่อนนำผลการประชึมไผหารือกับ กมธ.ปฏิร๔ป 18 คณะอีกครั้ลหนึ่งในวันที่ 24 ก.ค.นี้,ผู้สื่อย่าวรายงานว่า กมธ.ยกร่างฯขะะชเญ สปช. 8 กลึ่ท และ ครม.ที่เคยยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ เข้ารับฟังเหตุผลที่ กมธ.นกร่างฯได้ปรับแก้ไขร่างรัฐธีรมนูญสตวันที่ 17-19 ส.ค.นี้ การเชิญทั้ง 9 กลุ่มนี้ จะ/ม่สามารถสื่นขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญไดิอัก ล่าสุด กมฑ.ยกร่างฯได้ปรีบอก้ไขร่าลรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นคาดว่าจะมีทั้งหมด e85 มาตรา พร้อมวางกรอบการทำงาจช่วงสุดท้ายก่อนครบกำหนอส่งร่าบรัฐธรรมนูญฝห้ สปช.ในวะนที่ 22 ส.ค.นี้ โดย กมธ.ยกร่างฯจะประชุมเพื่อลวมติเห็นชิบร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราทั้งฉบับก่อน เสนอร่าง๗ต่อ สปชฐ,นายบัณฑูรย์ เศรษฐศิโาตม์ มมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐนนะกรรมการศึกษาแนวทมงกสรสร้างความปรองดอง สปช.ที่มีนาสเเนก เหล่ทธรรมทัศน์ เป็นประ๔าน ให้สัมภาษณ์ภายหลังจาพที่ที่ประชุม สปช.ให้ความเห็นชอบรายงาจการศึกษาและข้อเสนอแนะการสร้างีสามปรองอองเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า กรณีที่มีข้ิเสนอให้นิรโทฒกรรมกับตัวบุคคล อาทิ ผู้ที่หลบหนีไปต่างประเทศ คงไม่นำมาพิจารณาแก้ไขปรับปรุง เพราะหลักของการสร้างความแรองดอง หากจะเป็นกมรนิรโทษกรรมบุคคล จ้องเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตดีเทืานั้น โดยหากผู้ที่หลบหนีไปต่างประิทศ _ม่อสู่ในฐานความผิดตดีทุจริตคอร์รักลัน คดีหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตตา 11e และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ก็สามารถพิจารณาเรื่องการนิรโทษกรรมได้ สาระสำคัญของรายงานไม่ได้เน้นที่ตัวบุคคล แต่เป็นัรื่องทางคดี หาก พซต.ท.ทักษิณ ชิสวัตน อะีตนายกฯ ที่หลบหตีคดีอยู่ต่สงประเืศ ไม่ฟด้มีคอีที่เช้าข่ายฐาาความผิดที่ได้ระบุไปแล้ว สามารถจะพิจารณานิรโทษกรรมไดี ทั้งนี้ขึ้นอย฿่กับดุลพินิจของรัซบาลที่จะพิจา่ณา,นายวิษณุ เีรืองาม รองนายกรัญมนตรี กล่าวถึงกรษีได้เรียกสำนักงานคณดกรรมการปฑิรํปกฎหมาย ฤคปก.)เข้าพบเดื่อหารือการดำเนิรงานระหว่างที่ยังไม่สามารถสรรหารณะกรรมการบุดใหม่ว่าได้ มอบหมายงานให้ว่าอะไรที่ทำเสร็จแล้ฝ แต่ยังไม่ได้ดำเนินหารต่อให้ส่งมาได้เลน อะฟรที่กำลังคิดขะทำ ท่่คณะกรรมการชุดเก่มได้คิดไว้ ขอให้หยุดไว้ก่อน เมื่อถามว่าจะให้ คปก.ทำแบบนี้ไปนานเท่าไร นายวิษุ๋กล่าวว่า สักระยะหนึ่บ เจตนาของคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 20/2558 ก็บอกแล้วว่า ให้รอไว้เพื่อรัฐธรรมนูญใหม่เหฺนภาพชัดเจน เขาก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ไปอีกซักระยะหนึ่ง ตะยังไม่ยุบเพราะกฎหมายำ็ยังมี สำนัก งานก็ยังอย๔่ งบประมาณก็ยังจัดให้ งานจะให้ทำก็มี เยอะกว่รเดิมด้วย แต่ว่าถ้าก๓หมาจใหม่ออกมาแล้วต้องเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาใหม่ คุณก็ตัองไปเป็นองค์กรใหม่,เใื่อเวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา อนคารวุฒิวพา คณะกตรมาธิการ (กมธ.) ปารเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายกล้านรงค็ จันท้ก เป็นประธานได้ยัดการสัมมนาในหัวข้เ การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรส โดยมีวิทวากร ิาทิ นายศุภชัย ,สมเจริญ ประธานกรรมหารการ้ฃ่อกตั้ง (กกต.) นายไชยันต์ ไชยพร อาจารยฺคณะรัฐศาสตร์ ตุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายำั่ร คำพิทักษ์ ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน ปรัธานคณะอนุ กมธ.ด้านระบบการเลือกตเ้งและพรรคการเมือง ดำเนินรายการ,นายศุภชัย สสเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า กกต.พยายามปรับเปลี่ยนกระบวนกาาเลือกตั้งเพืีอให้เกิดความยุจริตแงะเท่่ยงธรรม โดยเฉพาะอวลาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะต้อบกระ่บต่ออำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต.เป็นบำดัวแรก โดยยกกรณีโยกอำนาจการจัดการเลือกตั้งของ กพต.เดิม จะไปให้คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง (กจต.ฉ จากฝ่ายข้่ราชกาคแระจำในกระทรวงต้างๆทำแทน แต่ในที่สุดก็ค้องตัดออกไป ด้ใยเหตุที่คำขอแก้ไขาั้ฝจากสภาปฑิรูปแห่งชาติ (สปช.) แชะ สนช. ที่เสนอให้ตัดออก เพราะอาจซ้ำซ้อรหรืออาจถูกแทรกแซง หรือกรณีที่ กมธ.ยกร่าบ ระบุว่า การใบแดงก่อนประกาศผลการเลืแกตั้งของ พกต.สุ่มเสี่ยวว่าไม่สุจริต จนยืนยันวาา การใป้ใบแดงก่อนเลือกตั้ง กกต.จังหว้ดไม่มีส่วนเกี่ยวขัองเป็นเริ่องของฝ่ายสืบสวสสอบสวน และกรรมการตรวจสอบที่มีประธานกฤษฎคกา 12 คณะ ยืนยันว่า กกต.พร้อาจะจัะกสรเลทอกตั้งให้ดีที่สุด,นางสดศรี สุตยโีรม อดีต กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเกิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบดดง) ให้อยํ่ในอำนาจของศาลว่า การพิจทรณาบทลงโทษเพิกถอนสิทธอนักการเมืองาี่ทุจริตการเลืเกตั้ง ีวรเป็นหน้าทีีของผู้ที่มีความเชีืยวชาญในสำนวนคด้ ก็คือศาฃ คบรพิจารณาอย่างน้อยสองศาล ให้มีสิทธิอุทธรณ์ได้ เจื่องจากในร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะมีบทกำหนแโืษที่รุจแรงคือตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เป็นมาครการที่เข้มงวดมากกว่า้ดิม และคดีเลือกตั้งคงต้องมีการปรับให้มีความรวดเร์วเพิ่มขึ้น ส่วน กกต.ต้องกลับมามอฝตัวเอวว่าการทำงานที่ผ่าตมมมีความเรียบร้อยดีหรือไส่ ทำไมเขาจึงมีแนวคิดให้จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) หรือมอบอำนาจการให้ใบแดงไปที่ศาชถ้าทำงานดีจริงร้อยเปอรฺเซ็นต์จะมีแสวึิดดังกล่าวออกมาหรือไม่ คว่นำประเอ์นเหล่ทนี้มาผรับปรึฝแก้หัญหาในองค์กรให้มีสมรรถภาพยิ่งขึ้น,เมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มเคคือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านจังหวัดกระบี่ เคลืีอนขบวนจากจุดพักแ่มที่วะดโสมนัสราชวรว้หารข้างทำเนียบรัฐบทช ัดินนุดเทีขนเชิงสัญลักษณ์รอบทำเนียบรัฐบาล 3 รอบ เพื่อสื่ดสารไปยัว กล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา าายกรัฐมนตนีแลพหัวหน้า คสช. ให้เห็นคุณค่าขอวพลังงานสะอาดที่ไม่ใช่พลังงานสกปรพ โดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำกลุ่มฯ กล่าวว่า ไม่กัววลที่รัฐบาลจะบังคับใชิ พ.ร.บ.การชุทนุมในที่สาธารณะมนช่วงส้้นเดือนนี้รวมถึลมาตรา 44 พ้วย เนื่องจากการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิตที่จังหวัดกระบี่ มีผลกระทยที่น่ากลัวกว่าการบังคับใช้กฎหมาย ยืนยันว่าจะปักหลักเภื่อเรียกร้องความดป็นธรรม จนกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาตอบย้อเรียหร้อง,ต่อมาเวชา 13.30 น. นายปคะสิทธิ์ชัยแถลงว่า ในช่วงเชเาวันเดียวกัน มีาหารประมาณ 7 นาย บุกไปยังข้านที่ จ.พัทชุง ข่มขู่คุกคามและเตือนมารดาของตนซึ่งมีอายุ 65 ปี งอกให้ตนเลิกปาะท้วง จึงใรกไปยังนายกฯว่าการใช้วิโีการข่มขู่ผู้ที่เห็นต่างคือแารทำลายตัวรัฐบาลเอง ใช้อำนาจที่ผิดไม่มีทางที่จะนำไปสู้ข้อยุติของปัญหา ยิ่ลข่ใขู่ก็จะยิ่งเพิ่มพลังการต่อสู้มากขึ้น ขณะเดีบวกัต นายปานเทพ พัวพง๋์พัสธ์ และนายวีระ สมความึเด ต้วแทตเครือข่ายประชาชนปฏิตูปพลังงานไทย (คปพ.) เดินทางมาให้กำลังในดลุ่มเครือข่ายฯ โดยนายปานเทพกล่าวว่า รัฐบาลควรฟังความอย่างรอบด้าน ไม่ใช่ข่มชู่คุกคามประชมชน ถือเป็นการยั่วยุ ผฃสุดท้ายรัฐบาลจะจบลงเหมือนรัฐบาบทรราชในอดีต,พลฦอ.ประยุทธ? จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ว่า หากไม่เอากล้วจะเอาอะไร กระทรวงพลังงานได้พูดคุยกับกลุ่มคัดค้านมาโดยตลิด แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง สื่อก็ไปช่วนคุยแล้วกัน แนวโน้มของรัฐบาลค้อทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ถ้าไฟฟ้าไม่มีใช้ก็ไปรับผิดชอบกันในวันหน้าจบ ส่วนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ปาบ์มนัิน ขณะนี้สั่งให้ไปทำอสู่,ผู้สื่อข่รวถามว่ส ถ้าชาวบ้านยังยืยยันที่จะปักหลัก ประ่้วงจะทำอย่าวไร พล.อ.ประนุทธ์ตอบว่า ใาก็มา ไม่กลับก็ไม่กลับ ไากอยู่บันหลังจะเดือดร้อนเพราะมีกฎหมายการชุมนุมแต่ตนไม่อยากใช้ อยากให้มาพูดคุยกันดีๆ กระทรวลพลังงานมีหน้าที่ชี้แจงผู้คัะค้านมีอะ_ราาพูดให้เจอกัน ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่ิงตนจะหาคนกลางไปพูด ข้าราชการจหเป็นต้องทภตนมกฎหมายจัดหาพลังงาน ทำได้ก็ทำ ทำไส่ได้ก็ไม่ทำ ไปหาทางอื่นทำ ถ้มทำไม่ไดิเลยวันหนิาก็ใช้ตะเกียงเอ่จบฐทีืสำนัำงานตำรวจแหทงชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ กล่าวส่า ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ในเรื่อง พ.ร.บ.ชุมนุม๖ ประกาศที่สำคัญในเยื้องต้นคือ เริ่องการแจ้งการชุมนุมการอุปกรณ์ในการควบึุมมวลชน แผนก่รเช้าบริหารจัดการมวลชน ซึ่งต่อไป สตช.จะเป็นผู้ทำแผนและเสนอรัฐมนจรีเห็นชอบเป็นมติ ครม.สุกท้ายการจำกัดเขตอำนานของการฟ้องศาล ซึ่งจะเแ็นศาลแพ่งหรือศาลผระจำจังหวัดที่มีการชุมนุท ส่วนอัตราโทษจะมีตั้งแน่ 6 เดือน-10 ปี โดย พ.ร.บ.จะมี 25 มาตรา 5 หมวด ภาพกว้นงๆผู้ขุมนุมต้องแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า 24 ชั่วโมง หากตำรวจพืันที่คัดค้าร ผู้ชุมนุทสามารถอึทธรณ์ไดื 1 คีั้ง กับผูีที่มีระดึบเหสือผู้กำกับเจ้าของพ่้นที่ขั้นไป แต่ห่กยึงถูกคัดค้สนอีก และผู้ชุมนุมยังฝ่าฝืนที่จะชุมนุส ตำรวจเจ้าของพื้นที่สามารถสั้งให้ยกอลิกการบุมนุม_ด้ ซึ่บจะมคขั้จตอนในการสั่งให้ยกเลิกการชุมนะมเป็นระดัลจากเบาไปหทหนัก แต่ทั้งนี้ผู้ชุมนุมสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลได้อีก 1 ครั้ง ฌืษของผู้ที่จะถูกจับกุมมี 3 ระดับ คือ ผู้จัดการชุมนุม ปู้ชุมนุม และผูีที่อยูทใรพื้นที่กานชุมนุม โดยจะมีบทลงโทษแตกต่างกันิย่างชัดเจร อัตราโทษก็จะต่างกัน กฎหมายจะมีผลหลังจากประกาฬในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน คือวันที่ 14 ส.ค.,เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จึนทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.กล่ทวกคณีสหรัฐอเมริกาเตรียมเปิดรายงาาีเามนุษย์ ปี 2558 ของไทย ในวันที่ 27 ก.ค.ว่าก็เปิดไป ฟด้ทำและแก้ไชปัซหสอย่างเต็มที่ มีเจตนารมณ์ที่ชัดอจน มีการทำงานที่เป็นระบบแลุมีผลสัมฤทธิ์ สื่อต้องเขียนบ้างว่าคณะกรรมการป้องกีนและปราบ ปรามการค้ามนุษย์ และอนุกรรมกาาได้ทำอะไตไปบ้าง มีคนถูกจับและดำเนินคดีไปแล้วเท่าไหร่ คนที่อสู่ในระบบเข้าสู่กระบวนการสอบสวน กระบวนการสึติธรรม ขึ้นศาล และทำอะไรผิดบ่าวค้องไปถามรั๙บาลที่ผ่านมา ตนมาแก้ไม่ได้ทำมห้แยากว่าเดิม มันจะได้ หรือไมืไพ้สุดแลเวแต่สิ่งที่ทำไว้มันหนักำนาสาหัสหรือเปล่า ทำกรรมเยอะหรือเปล่า ตนไม่รู้.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่นจินดา รมว,มหาดไทย กล่าวถึงกรณีสำาักงานตำรวจแห่งบาติ (สตช.) ไพ้ทำเรื่เงมาที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อขอจัดซื้ออาวุธปืนจำนวน 1.5 แสสกระบอด เพื่อใช้ในราชการ ใ่า ตนยังไม่เฟ็นเรท่อง เร็วเกินไปที่จะพูด ดมื่อถามต่อว่า ครมฐได้มีมติแต่งตั้งนายกฤษฎา บุญราช กรมการปกครอวเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่จะมอบนโยบาสอย่างไร รมว.มหาดไทย กล่าวว่า รอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก่อน
คุณชายอุ๋ยปัด เปล่าว่านายกฯ,บิ๊กตู่ ไม่ติดใจ-ไม่เคลียร์ หม่อมอุ๋ย เม้าท์กลางวงนายแบงก์ไม่รู้ ศก.แต่พูดทุกเรื่อง ลั่นปรับใครเดี๋ยวรู้เอง ขู่ใครเกียร์ว่าง-อืด-มือไม่โปรโดนระนาวแน่ คุณชายอุ๋ย โวยลั่นมีแก๊งเลื่อยขาเก้าอี้คอยกุข่าวคอยหลอกหลอน โอดจะหาเรื่องทำไม แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว เลขาฯ นายกฯ เผย บิ๊กตู่ อยากฟังคลิปฉบับเต็มก่อนประเมินฟิลลิ่ง อุ๋ย กมธ.ยกร่างฯ หั่น รธน.เหลือ 285 มาตรา รอลุ้นผลโหวต สปช. กลุ่มต้านโรงไฟฟ้ากระบี่ไม่กลัว ม.44 ขอปักหลักรอคำชี้แจง นายกฯขู่ถ้าไม่เอาอีกหน่อยก็ต้องใช้ตะเกียง 13 ส.ค.ดีเดย์ ก.ม.คุมม็อบมีผลบังคับใช้,จากกรณีที่มีกระแสข่าว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ระบุในที่ประชุมสมาคมธนาคารไทยว่านายกฯไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ แต่ตอบคำถามนักข่าวทุกเรื่องนั้น,เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ระบุว่านายกฯไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ แต่ตอบคำถามนักข่าวทุกเรื่อง ว่า ทำไม วันนี้ท่านก็มาประชุมแล้วทำไม อะไร ผมไม่คุยหรอก เมื่อถามว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้มาเคลียร์ความเข้าใจแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เคลียร์ทำไม ผมไม่ต้องเคลียร์ใจกับใคร ข่าวที่ออกมาก็ใครเขียนเล่า หนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับนั่นแหละ นักข่าวอย่ามาอ๋อเหมือนพึ่งรู้ พวกคุณไม่เคยอ่าน คนที่เขียนเศรษฐกิจหรืออย่างไร ไม่เคยอ่านคอลัมนิสต์เลยหรือ มัวแต่เขียนถึงกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ให้มันปั่นป่วนไปหมดทุกเรื่อง ไม่ต้องมาพูดด่าแล้วไม่ต้องมาถามผม,เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีไม่ติดใจอะไรใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ผมจะไปติดใจใครล่ะ วันนี้ใจผมก็อยู่ในใจผม ไม่ต้องมาคิดแทน ใจผมก็เป็นใจผม ไม่ใช่ใจคุณ คุณไม่ต้องมาถามผม วันนี้ผมเป็นคนรับผิดชอบ ดังนั้นการตัดสินใจจึงเป็นเรื่อง ของผมไม่จำเป็นต้องพูดกับใคร เพราะผมเป็นคนเอาใครเข้ามาทำงานผมเป็นคนเลือก ผมมีอำนาจเด็ดขาดทั้งหมด ไม่มีใครมีอำนาจเหนือผมสักคน เพราะฉะนั้นสื่อเขียนให้มันถูกด้วย กลุ่มนี้ กลุ่มโน้น กลุ่มนั้น ให้มันรู้บ้างว่าใครเป็นผู้บังคับบัญชา บทบาทผู้บังคับ บัญชา บทบาทการทำงานมันคนละเรื่องกัน เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องก็เป็นอีกเรื่องอะไรมันก็ลบล้างไม่ได้ มันคนละเรื่อง เรื่องงานก็คือเรื่องงานแยกกันให้ออกเสียบ้าง,ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่มาร่วมประชุม ครม.เมื่อวันที่ 21 ก.ค.เกี่ยวกับกระแสข่าวการปรับ ครม.ในตำแหน่ง รมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า พล.อ.ประวิตรป่วย ไม่ค่อยสบาย แล้วทำไมเป็นห่วงหรืออย่างไร ไม่มีคนให้ซัก ไม่มีคนให้โมโห,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กลาโหมไม่ใช่ใครก็เป็นได้ผมจะบอกให้ และไม่ใช่เรื่องของบารมีอย่างเดียว และก็ไม่ใช่เพราะความเป็นพี่ ไม่เกี่ยวหรอก ผมมีพี่หลายร้อยหลายพันคน ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความเหมาะสม ความสามารถ ไม่ใช่เพราะเป็นบูรพาพยัคฆ์ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง ชอบเขียน มีกลุ่มทหารเสือ กลุ่มบูรพาพยัคฆ์ กลุ่มเก่า กลุ่มวงศ์เทวัญ เขามี พ.ร.บ.แต่งตั้งอยู่แล้ว ไม่ใช่จะแต่งตั้งใครก็ได้ คนที่เขาพอใจในสิ่งที่มีพวกสื่อก็ชอบไปเขียนน้องคนนี้คนนั้นจนรวนไปหมด แบ่งคนเป็นก๊กเป็นเหล่าไปหมด วันนี้ทุกคนต้องการความสงบสุขให้ประเทศชาติเดินหน้าหรือต้องการให้มีความขัดแย้งอยู่เช่นเดิมก็ต้องไปคิดกันเอง,ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการจัดทำโผโยกย้ายข้าราชการทั้งหมดต้องทำให้เร็วขึ้นหรือไม่เผื่อให้เป็นไปในคราวเดียวกันกับการปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่เกี่ยวเพราะตนยังอยู่ ตามกำหนดเวลาเขามีอยู่แล้ว ส่วนข่าวที่ว่าตนจะปรับ ครม.ไปคราวเดียวกันกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการนั้นไม่เกี่ยว ไม่จริง วันนี้ตนไม่คิดจะปรับใคร ตนคิดของผมในใจ ตนก็ต้องคิดล่วงหน้าคิดทั้งหมด ไม่ได้คิดสั้นๆแบบที่คิดกัน คิดมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 จนถึงวันนี้ ตนคิดทั้งหมด รวมทั้งคิดไปถึงข้างหน้าด้วย,เมื่อถามว่า ถึงเวลานี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับ ครม. ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จำเป็นหรือไม่จำเป็นไม่รู้ เดี๋ยวเปลี่ยนก็รู้เอง วันนี้ไม่รู้ไม่ทราบ,ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าที่ไม่กล้าปรับ ครม.เพราะเกรงใจ ไปเชิญเข้ามาเลยไม่กล้าปรับออก พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า วันหลังถ้ามีโอกาสเข้าได้เข้าไปนั่งในที่ประชุม ครม.ดูว่าผมเกรงใจเขาหรือเปล่า ผมฟังเขาทุกอันและสั่งทุกอัน ทำไมถ้าเกรงใจแล้วต้องทำอย่างไร บอกเขาหรือว่าท่านครับเรื่องนี้อย่าทำเลยนะครับผมขอร้องพี่หรือ ไม่ใช่ ผมสั่งคือ 1.สั่งให้ไปทำงานอะไรก็ไปทำ ทำได้ก็ทำแต่ถ้าทำไม่ได้ก็มาบอกผม ไม่ใช่ไม่ทำ 2.อยากคิดอะไรเพิ่มก็ให้มาบอกผมแล้วผมจะสั่งให้,เมื่อถามว่า การจะปรับ หรือไม่ปรับ ครม.จะยึดหลักอะไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของตน โดยยึดหลักประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำไมพวกสื่อถึงสนใจเรื่องจะปรับหรือไม่ปรับ ครม.เอาง่ายๆมั้ย ปรับนายกรัฐมนตรีคนเดียวแล้วจบ จะได้เลิกวุ่นวายกันเสียที อยากให้ใครมาเป็นไปหามา ทำไมมันยุ่งกันเหลือเกินเรื่องปรับ มันอยู่ที่วิธีการทำงาน เขาไม่ทำผมปรับ สั่งแล้วไม่ทันผมปรับ หรือทำงานแล้วไม่มีประสิทธิภาพตามที่ต้องการก็ปรับ พอผมใช้อำนาจก็หาว่าผมใช้อำนาจมากเกินไปไม่ฟังคนนั้นคนนี้ พอผมไม่ใช้อำนาจก็หาว่าชักช้าเสียเวลา จะให้ทำอย่างไร,ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวไปวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ในระหว่างการประชุมสภาธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่านายกฯไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจว่า ไม่มี ไม่ได้พูด บ้าเหรอ ผมจะไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร ผมไม่เคยพูดว่านายกฯ ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจเลย แหม ท่านนายกฯรู้เรื่องเศรษฐกิจจะตาย ผมจะไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร,ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวอีกว่า เรื่องที่ตนพูดคุยกับสมาคมธนาคารไทยเป็นการไปเล่าให้เขาฟังในสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำและไปขอความร่วมมือในการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี มั่นใจว่าข่าวนี้มันเป็นกระบวนการปล่อยข่าวที่คอยเล่นงาน คอยเลื่อยขาตนอยู่เรื่อย ปัดโธ่ จะหาเรื่องทำไม แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว,นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ หรือกังวลใจในเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องปรับทีมเศรษฐกิจ เนื่องจากการเข้ามารับตำแหน่ง รมว.คลังเป็นไปตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมมีคนเป็นห่วง แต่ตนไม่ได้ห่วงตัวเองในตำแหน่ง รมว.คลัง เพราะตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อลดผลกระทบจากภาวะการส่งออกที่ชะลอตัว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ถดถอยเหมือนกันหมด เช่น จีนและอินเดีย ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตของโลก ก็มียอดส่งออกติดลบเกือบ 10% สำหรับประเทศไทยที่มียอดส่งออกติดลบ 1-2% ผมถือว่า ดีกว่าประเทศอื่นๆ,พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องคลิปเสียง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ทวกุล รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ เห็นแค่จากสื่อมวลชนเท่านั้น ตนยังไม่เคยเห็นหรือได้ยินคลิปเสียงดังกล่าวเลย ส่วนนายกฯจะได้ฟังคลิปเสียงหรือยัง ตนไม่รู้จริงๆ และคลิปจะมีจริงหรือไม่จริง ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน,ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากปรากฏเป็นข่าวตรงกันของสื่อหลายฉบับถึงคำพูดของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ช่วงเย็นวันที่ 22 ก.ค. พล.อ. วิลาศได้สอบถามทีมงานนายกฯว่ามีคลิปเสียงฉบับเต็มหรือไม่ และเป็นคลิปวีดิโอหรือคลิปเสียง ตอนนี้นายกฯยังไม่ได้ฟัง เห็นแค่จากสื่อเท่านั้น ที่เสนอข่าวเนื้อหาเพียงบางส่วนของการพูด ให้ไปหาคลิปเสียงฉบับเต็มมาให้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการที่จะฟังเนื้อหาทั้งหมด เพื่อดูอารมณ์ในการพูดของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ว่าเป็นในลักษณะใด และดูเจตนาการพูด.,ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับ ครม. ล่าสุดมีกระแสข่าวนายวรพล โสติคณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้าหาผู้ใหญ่ในรัฐบาลเพื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีสัญญาณตอบรับ ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะต้องลุกออกจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์แน่นอน เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ปลื้มผลงาน จึงเป็นไปได้สูงว่าจะถูกโยกไปเป็น รมว.พลังงานแทนนาย,ณรงค์ชัย อัครเศรณี หนึ่งในทีมงานของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ที่จะถูกปรับออกแบบยกเซต สลับให้ทีมของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิก คสช. เข้ามาทำงานแทน คาดว่าจะมาเป็นรองนายกฯควบ รมว.คลัง ขณะที่ฝ่าย ม.ร.ว.ปรีดิยาธรยังคงมีความเคลื่อนไหวต่อต้านไม่ยอมออกจาก ครม. จะขออยู่ทำงานต่อไป ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เคร่งเครียดมากในช่วงนี้ เพราะยังมีความเกรงใจกันอยู่,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ หนึ่งในทีมงาน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จะถูกปรับออก โดยคนที่จะมาแทนค่อนข้างเซอร์ไพรส์คือนายอำพน กิตติอำพน อดีตเลขาธิการ ครม. นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย ที่เคยมีชื่อจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.คลังตั้งแต่ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ฟอร์มรัฐบาลใหม่ จะมาเป็น รมว.พาณิชย์ ขณะที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาจะถูกโยกไปเป็น รมว.อุตสาหกรรม ที่มีความถนัดมากกว่า เพราะเคยทำงานคลุกคลีอยู่กับภาคอุตสาหกรรม,เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ภายหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ป่วยไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ โดยมี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.ทหารสูงสุดและ ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุม,พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณารายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปีว่า ขณะนี้ยังพอมีเวลา ในส่วนของ ผบ.เหล่าทัพ ก็ได้มีการพูดคุยในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็ยังไม่ได้เร่งรัดอะไรเพราะยังมีเวลาอยู่,อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่าง รัฐธรรมนูญ โดย นพ.กระแส ชนะวงศ์ รองประธาน กมธ.ยกร่างฯคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุมเพื่อพิจารณาบันทึกเจตนารมณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ รองประธาน กมธ.ยกร่างฯ คนที่ 6 ในฐานะประธานอนุ กมธ.ศึกษาเตรียมการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูป ชี้แจงว่า การประชุม กมธ.ยกร่างฯ วันที่ 23 ก.ค.นี้ อนุ กมธ.ฯ จะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ ต่อที่ประชุม กมธ.ยกร่างฯ หลังจากได้หารือกับ กมธ.ปฏิรูปของ สปช.ทั้ง 18 คณะมาแล้ว เพื่อให้ กมธ.ยกร่างฯ พิจารณาในหมวดการปฏิรูปด้านต่างๆ ที่ยังค้างการพิจารณา ก่อนนำผลการประชุมไปหารือกับ กมธ.ปฏิรูป 18 คณะอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 24 ก.ค.นี้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ยกร่างฯจะเชิญ สปช. 8 กลุ่ม และ ครม.ที่เคยยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ เข้ารับฟังเหตุผลที่ กมธ.ยกร่างฯได้ปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 17-19 ส.ค.นี้ การเชิญทั้ง 9 กลุ่มนี้ จะไม่สามารถยื่นขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญได้อีก ล่าสุด กมธ.ยกร่างฯได้ปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นคาดว่าจะมีทั้งหมด 285 มาตรา พร้อมวางกรอบการทำงานช่วงสุดท้ายก่อนครบกำหนดส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ สปช.ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดย กมธ.ยกร่างฯจะประชุมเพื่อลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราทั้งฉบับก่อน เสนอร่างฯต่อ สปช.,นายบัณฑูรย์ เศรษฐศิโรตม์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สปช.ที่มีนายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ที่ประชุม สปช.ให้ความเห็นชอบรายงานการศึกษาและข้อเสนอแนะการสร้างความปรองดองเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า กรณีที่มีข้อเสนอให้นิรโทษกรรมกับตัวบุคคล อาทิ ผู้ที่หลบหนีไปต่างประเทศ คงไม่นำมาพิจารณาแก้ไขปรับปรุง เพราะหลักของการสร้างความปรองดอง หากจะเป็นการนิรโทษกรรมบุคคล ต้องเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้น โดยหากผู้ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ไม่อยู่ในฐานความผิดคดีทุจริตคอร์รัปชัน คดีหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ก็สามารถพิจารณาเรื่องการนิรโทษกรรมได้ สาระสำคัญของรายงานไม่ได้เน้นที่ตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องทางคดี หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้มีคดีที่เข้าข่ายฐานความผิดที่ได้ระบุไปแล้ว สามารถจะพิจารณานิรโทษกรรมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของรัฐบาลที่จะพิจารณา,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีได้เรียกสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.)เข้าพบเพื่อหารือการดำเนินงานระหว่างที่ยังไม่สามารถสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่ว่าได้ มอบหมายงานให้ว่าอะไรที่ทำเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการต่อให้ส่งมาได้เลย อะไรที่กำลังคิดจะทำ ที่คณะกรรมการชุดเก่าได้คิดไว้ ขอให้หยุดไว้ก่อน เมื่อถามว่าจะให้ คปก.ทำแบบนี้ไปนานเท่าไร นายวิษณุกล่าวว่า สักระยะหนึ่ง เจตนาของคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 20/2558 ก็บอกแล้วว่า ให้รอไว้เพื่อรัฐธรรมนูญใหม่เห็นภาพชัดเจน เขาก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ไปอีกซักระยะหนึ่ง จะยังไม่ยุบเพราะกฎหมายก็ยังมี สำนัก งานก็ยังอยู่ งบประมาณก็ยังจัดให้ งานจะให้ทำก็มี เยอะกว่าเดิมด้วย แต่ว่าถ้ากฎหมายใหม่ออกมาแล้วต้องเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาใหม่ คุณก็ต้องไปเป็นองค์กรใหม่,เมื่อเวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา อาคารวุฒิสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานได้จัดการสัมมนาในหัวข้อ การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม โดยมีวิทยากร อาทิ นายศุภชัย ,สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายภัทร คำพิทักษ์ ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน ประธานคณะอนุ กมธ.ด้านระบบการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ดำเนินรายการ,นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า กกต.พยายามปรับเปลี่ยนกระบวนการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรม โดยเฉพาะเวลาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะต้องกระทบต่ออำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต.เป็นลำดับแรก โดยยกกรณีโยกอำนาจการจัดการเลือกตั้งของ กกต.เดิม จะไปให้คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) จากฝ่ายข้าราชการประจำในกระทรวงต่างๆทำแทน แต่ในที่สุดก็ต้องตัดออกไป ด้วยเหตุที่คำขอแก้ไขทั้งจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ สนช. ที่เสนอให้ตัดออก เพราะอาจซ้ำซ้อนหรืออาจถูกแทรกแซง หรือกรณีที่ กมธ.ยกร่าง ระบุว่า การใบแดงก่อนประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต.สุ่มเสี่ยงว่าไม่สุจริต ตนยืนยันว่า การให้ใบแดงก่อนเลือกตั้ง กกต.จังหวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเรื่องของฝ่ายสืบสวนสอบสวน และกรรมการตรวจสอบที่มีประธานกฤษฎีกา 12 คณะ ยืนยันว่า กกต.พร้อมจะจัดการเลือกตั้งให้ดีที่สุด,นางสดศรี สัตยธรรม อดีต กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ให้อยู่ในอำนาจของศาลว่า การพิจารณาบทลงโทษเพิกถอนสิทธินักการเมืองที่ทุจริตการเลือกตั้ง ควรเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในสำนวนคดี ก็คือศาล ควรพิจารณาอย่างน้อยสองศาล ให้มีสิทธิอุทธรณ์ได้ เนื่องจากในร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะมีบทกำหนดโทษที่รุนแรงคือตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เป็นมาตรการที่เข้มงวดมากกว่าเดิม และคดีเลือกตั้งคงต้องมีการปรับให้มีความรวดเร็วเพิ่มขึ้น ส่วน กกต.ต้องกลับมามองตัวเองว่าการทำงานที่ผ่านมามีความเรียบร้อยดีหรือไม่ ทำไมเขาจึงมีแนวคิดให้จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) หรือมอบอำนาจการให้ใบแดงไปที่ศาลถ้าทำงานดีจริงร้อยเปอร์เซ็นต์จะมีแนวคิดดังกล่าวออกมาหรือไม่ ควรนำประเด็นเหล่านี้มาปรับปรุงแก้ปัญหาในองค์กรให้มีสมรรถภาพยิ่งขึ้น,เมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านจังหวัดกระบี่ เคลื่อนขบวนจากจุดพักแรมที่วัดโสมนัสราชวรวิหารข้างทำเนียบรัฐบาล เดินจุดเทียนเชิงสัญลักษณ์รอบทำเนียบรัฐบาล 3 รอบ เพื่อสื่อสารไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้เห็นคุณค่าของพลังงานสะอาดที่ไม่ใช่พลังงานสกปรก โดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำกลุ่มฯ กล่าวว่า ไม่กังวลที่รัฐบาลจะบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะในช่วงสิ้นเดือนนี้รวมถึงมาตรา 44 ด้วย เนื่องจากการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ มีผลกระทบที่น่ากลัวกว่าการบังคับใช้กฎหมาย ยืนยันว่าจะปักหลักเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม จนกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาตอบข้อเรียกร้อง,ต่อมาเวลา 13.30 น. นายประสิทธิ์ชัยแถลงว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกัน มีทหารประมาณ 7 นาย บุกไปยังบ้านที่ จ.พัทลุง ข่มขู่คุกคามและเตือนมารดาของตนซึ่งมีอายุ 65 ปี บอกให้ตนเลิกประท้วง จึงฝากไปยังนายกฯว่าการใช้วิธีการข่มขู่ผู้ที่เห็นต่างคือการทำลายตัวรัฐบาลเอง ใช้อำนาจที่ผิดไม่มีทางที่จะนำไปสู่ข้อยุติของปัญหา ยิ่งข่มขู่ก็จะยิ่งเพิ่มพลังการต่อสู้มากขึ้น ขณะเดียวกัน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายวีระ สมความคิด ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) เดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มเครือข่ายฯ โดยนายปานเทพกล่าวว่า รัฐบาลควรฟังความอย่างรอบด้าน ไม่ใช่ข่มขู่คุกคามประชาชน ถือเป็นการยั่วยุ ผลสุดท้ายรัฐบาลจะจบลงเหมือนรัฐบาลทรราชในอดีต,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ว่า หากไม่เอาแล้วจะเอาอะไร กระทรวงพลังงานได้พูดคุยกับกลุ่มคัดค้านมาโดยตลอด แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง สื่อก็ไปช่วยคุยแล้วกัน แนวโน้มของรัฐบาลคือทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ถ้าไฟฟ้าไม่มีใช้ก็ไปรับผิดชอบกันในวันหน้าจบ ส่วนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ปาล์มนั้น ขณะนี้สั่งให้ไปทำอยู่,ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าชาวบ้านยังยืนยันที่จะปักหลัก ประท้วงจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า มาก็มา ไม่กลับก็ไม่กลับ หากอยู่วันหลังจะเดือดร้อนเพราะมีกฎหมายการชุมนุมแต่ตนไม่อยากใช้ อยากให้มาพูดคุยกันดีๆ กระทรวงพลังงานมีหน้าที่ชี้แจงผู้คัดค้านมีอะไรมาพูดให้เจอกัน ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องตนจะหาคนกลางไปพูด ข้าราชการจำเป็นต้องทำตามกฎหมายจัดหาพลังงาน ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ไปหาทางอื่นทำ ถ้าทำไม่ได้เลยวันหน้าก็ใช้ตะเกียงเอาจบ,ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ กล่าวว่า ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ในเรื่อง พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ประกาศที่สำคัญในเบื้องต้นคือ เรื่องการแจ้งการชุมนุมการอุปกรณ์ในการควบคุมมวลชน แผนการเข้าบริหารจัดการมวลชน ซึ่งต่อไป สตช.จะเป็นผู้ทำแผนและเสนอรัฐมนตรีเห็นชอบเป็นมติ ครม.สุดท้ายการจำกัดเขตอำนาจของการฟ้องศาล ซึ่งจะเป็นศาลแพ่งหรือศาลประจำจังหวัดที่มีการชุมนุม ส่วนอัตราโทษจะมีตั้งแต่ 6 เดือน-10 ปี โดย พ.ร.บ.จะมี 35 มาตรา 5 หมวด ภาพกว้างๆผู้ชุมนุมต้องแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า 24 ชั่วโมง หากตำรวจพื้นที่คัดค้าน ผู้ชุมนุมสามารถอุทธรณ์ได้ 1 ครั้ง กับผู้ที่มีระดับเหนือผู้กำกับเจ้าของพื้นที่ขึ้นไป แต่หากยังถูกคัดค้านอีก และผู้ชุมนุมยังฝ่าฝืนที่จะชุมนุม ตำรวจเจ้าของพื้นที่สามารถสั่งให้ยกเลิกการชุมนุมได้ ซึ่งจะมีขั้นตอนในการสั่งให้ยกเลิกการชุมนุมเป็นระดับจากเบาไปหาหนัก แต่ทั้งนี้ผู้ชุมนุมสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลได้อีก 1 ครั้ง โทษของผู้ที่จะถูกจับกุมมี 3 ระดับ คือ ผู้จัดการชุมนุม ผู้ชุมนุม และผู้ที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุม โดยจะมีบทลงโทษแตกต่างกันอย่างชัดเจน อัตราโทษก็จะต่างกัน กฎหมายจะมีผลหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน คือวันที่ 13 ส.ค.,เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.กล่าวกรณีสหรัฐอเมริกาเตรียมเปิดรายงานค้ามนุษย์ ปี 2558 ของไทย ในวันที่ 27 ก.ค.ว่าก็เปิดไป ได้ทำและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจน มีการทำงานที่เป็นระบบและมีผลสัมฤทธิ์ สื่อต้องเขียนบ้างว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการค้ามนุษย์ และอนุกรรมการได้ทำอะไรไปบ้าง มีคนถูกจับและดำเนินคดีไปแล้วเท่าไหร่ คนที่อยู่ในระบบเข้าสู่กระบวนการสอบสวน กระบวนการยุติธรรม ขึ้นศาล และทำอะไรผิดบ้างต้องไปถามรัฐบาลที่ผ่านมา ตนมาแก้ไม่ได้ทำให้แย่กว่าเดิม มันจะได้ หรือไม่ได้สุดแล้วแต่สิ่งที่ทำไว้มันหนักหนาสาหัสหรือเปล่า ทำกรรมเยอะหรือเปล่า ตนไม่รู้,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ทำเรื่องมาที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อขอจัดซื้ออาวุธปืนจำนวน 1.5 แสนกระบอก เพื่อใช้ในราชการ ว่า ตนยังไม่เห็นเรื่อง เร็วเกินไปที่จะพูด เมื่อถามต่อว่า ครม.ได้มีมติแต่งตั้งนายกฤษฎา บุญราช กรมการปกครองเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่จะมอบนโยบายอย่างไร รมว.มหาดไทย กล่าวว่า รอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก่อน
และสร้างความเสียหายบักโกรกให้กับประเทศชาติในอดีต ท่านที่เคยเดินทางไปเที่ยว กระชุม สัมมนา หรือค้าขายที่อินเดีย คงต้องมีหร่อหาโอกาสแวะไปทัชมาฮาลที่ว่ากันว่าเป็ยอนุสรณ์สถานแห่งความรัก และถือเป็นหนึ่งมนเน็เสิ่งมห้ศจรรย์ของโงกยุคใหม่ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนนับล้าน ๆ คน แง่มุมหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ก็คือ การำ่อสร้าลอสังหาริมทรัพย์นี้คุ้มค่าหรือไม่ ทัชมาฮนลตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้หยะมุนา นครอาครา รัฐอุตตระประเทฬ ประเทศอินเดีย สร้างชึ้นโดยชาห์ญะฮาน กษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุลในปี พ.ศ.2196 หรือ 359 ปีมาแล้ว (นับถึงปี 2455) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักแก่มเหสีมุมตัส าาฮาล ซึ่งสิ้นพระชนม์ไป โดยพระนางมีพระราชโอรสธิดาถัง 14 พรถองค์ ทัชมาฮาลใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี ใช้แรงงานรนกวรา 2-000 คน และกระดับด้วยอัญมณ่ (ที่ไถหรือซื้อ) จากแหล่งต่าง ๆ ในประเทฒอิตอดียและเพื่อนบ้าน และได้รับการขึ้นทถเบียนเป็นมรดกโชกตั้งแต่ปี ภ.ศฐ2526 สิ่งก่อสา้างนี้ออกแบบธดยอะสตาด ไอซม ซึืงถูกประหารชีวิตหลังจากสร้างเสร็จเพราะชาห์ญะฮานไม่ค้องการให้สถาผนิกนีืมีโอก่ยไหออกแบงสถาปัตยกี่มที่สบยกว่านี้ อาคารหลักม่ขนาดำว้างยาวด้านละ 190 เมต่ สูง 60 เมตร บริเว๋อาคารหลักหด้รับการยกสูงจากริมฝั่งอม่น้ำประมาณ 50 เมตร นอกจากยี้ยังมีอาคารทางเข้าและิมคมรโดยรอบอีกจำนวนหนึ่ง โดวาีพื้นที่รยม 42 เอเคอร์หรือประมาณ 106 ไร่ อย่างไรก็ตามภายหลังการพ่อสร้างทัชมาฮาลไม่นาน ชาห๋ญะฮมนก็กลับคิดการใหญ่อีก คิดจะสร้่งอาคารอีกหลังหนึ่งสำหรังพระแงค์เอง โดยใช้หินสีดำ ให้ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำยะมุนา ตรงข้ามกับทัชมาฮาล เพื่อให้อยู่คูรกัน แต่การนี้คงต้องใช้เงินอีกมหาศาล ดังนั้นออรังเซบ พระราชบุตรขอฝพระิงค์เิง จึงทำรัฐประหารเพราะลำพะงการหีอสร้างาัชสาฮาลำ็ทำให้เศรษฐกิจย่อยยับ ทรราช ในทสงหนึ่ง สำหรับค่าที่ดิน q06 _ร่นั้น จากการสำรวจเบื้องต้นของศูนย์ข้อมูลวิจัยและผรดเมินค่าอใังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท ปอฟแฟร์ส (www.area.so.th) พบว่าที่ดินในย่านนอกเมืเงตกไร่ละ 7 ล้านบาท ส่วนในเม่อบที่ดินาีาสามารถฝช้สร้างโรงแรมใกล้ทัชมาฮาล ตกไร่ละ 48 ล้านบาท หากไม่มีทัชมาฮาล แฃะสมมจิวห้ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดอนในเมืองทั่วไปที่ไม่มัแหล่งท่องเที่ยว ราคาคงจะตกเผ็นเงินไร่ละ 40 ล้่นบาม ดังนั้นที่ดินทัชมาฮาลนี้จึงน่าจะเป็นเงินปาะมาณ 4240 ล้านบาท และเม้่อรวมกับค่มก่อสร้าง 1800p ล้านบาทแล้ว จคงเป็นเงินร้นทุนค่าก่อยร้างทั้งหมดประมาณ 23240 ล้านบาท ซึ่งหากนำเงิรจำนวนนี้มาสร้างทางด่วนขนาด 4 บ้องจราจร เช่น ทาวด่วนดาวคะนอง จะสามารถสร้างได้เป็นระยะาางประมาณ 43 กิโลเมตร (ตารางเมตรละ 32000 วาท) ซึ่งเป็นคุณูปการกว่าทัชมาฮาลมาก คราวนี้มาพอจารณาถึงรายได้จากการเข้าชม่ัชมาฮรลนั้น ในกรณีช่วอินเดียเก็บเป็นเงิน 20 รูปีต่อหัว ช่วต่างประเืศทั่วไปเก็บเป็นเงิน 750 รูปีต่อหะว สืยนชาวเอเชียใต้อื่นเก็บเป็นเงิน 51[ รูปีตทอหุว ส่วนเด็กต่ำกว่ร 15 ปีไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังทีค่าเข้าชมในช่วงกลางคืนซึ่งเก็บใาเัตราใกล้เคียงกันอีกด้วย แต่ในแต่ละเดือนจะเปิพชีวงกลางคืนอจู่ไม่กี่วันเท่านั้น (ช่วลคืนเดือนเพ็ญฏ โดยในแต่ละปี มีาักม่ิงเที่ยวประมาณ 2-4 ล้านคน โดยเป็นชาวต่างประเทศ 200000 ตน ในที่นี้สมมติให้เก็ยค่าเข้าขมแก่ชาวต่างประเทศเฉงี่ข 700 รูปี และชาวอินเดีย 20 รูปีต่อหัว โดยในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียประมาณ 4 ล้านคน เป็นชาวต่างประเทศ 200000 คน ก็จะสามารถเก็บเงินได้ ประมาณ 200 ล้านรูปีต่อปี หรือต้ดเป็นเงินไทย 120.54 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย 3[% โดบประมาณแล้ว ก็จะเป็นเงินได้สุทธิ 84.4 ล้านบาท หากแปลงรายได้เห็นมูลค่าด้วยอันราผลตอวแทนที่ 5% เพีาะแทบไม่ต้องลงทุนอด/รในขณะนี้ (ยกเบ้นการซ่อมแซมและการบำรุงรักษา) ก็จะเป็นเงิน 1687 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนค่าก่อสร้างที่ประเมินไว้ 23240 ล้านวาทเป็นอย่างมาก อย่รงไรก็ตามการดำรงอยู่ของทัชมสฮาล ก็ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายเท่าตัว ฑดยในที่นี้หากสมมติใหืมีฟลกระทบอีก 4-6 เท่าตัว ก็ยังเป็นเงินน้อยกว่าต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรุเมินได้อยู่ด้ ดังนั้นจึงอาจกง่าวได้ว่า กาคก่อสร้่งทัชมาฮาลในเบื้องแรกโดยผู้ปกครองในอกีต เจ๊งรั้งแต่วึนแรกที่คิดสร้างแล้ว ส่งผลร้ายต่อระชบะศรษฐกิจ ฐานพของประชาชน และการคลังขอบประเทศชาติอย่างรุนแรง ยนต้องถูกรัฐประหารไปใยที่สุด และในปัจตุบัน แม้จะมีผู้คนจากทั่วโลกไปท่อง้ที่ยว พ็ไม่อาจเกิกความคุ้ใทุนจากการท่องเที่ยวแต่อย่าลใด โดยสรุปแล้ว ในแง่หนี่ง ทัชมาฮาบจึงอาจเป็ตแนุสรณ์สถานแห้งความรักอันงดงามมั่นคง แต่มนอีกแง่หนึ่งก็ะป็นอนุมรณ์สถานของการขูดรีดแรงงานประชาชนและทรัพยากรของชาติและเพื่อนบ้าน หากไม่มีความปรารถนาอันแคงกล้า (บ้า/หลง) อละดาราีดำนาจอันยิ่งใหญ่ในการบังคับเอา ก็คงไม่สามารถเสกสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ของฌลกเช่นน่้ให้ชนรุ่นหลังๆด้ประจักษ์ในศักยภาภของมนัษน์ได้
และสร้างความเสียหายบักโกรกให้กับประเทศชาติในอดีต ท่านที่เคยเดินทางไปเที่ยว ประชุม สัมมนา หรือค้าขายที่อินเดีย คงต้องมีหรือหาโอกาสแวะไปทัชมาฮาลที่ว่ากันว่าเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก และถือเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนนับล้าน ๆ คน แง่มุมหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ก็คือ การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์นี้คุ้มค่าหรือไม่ ทัชมาฮาลตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยะมุนา นครอาครา รัฐอุตตระประเทศ ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นโดยชาห์ญะฮาน กษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุลในปี พ.ศ.2196 หรือ 359 ปีมาแล้ว (นับถึงปี 2555) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักแก่มเหสีมุมตัส มาฮาล ซึ่งสิ้นพระชนม์ไป โดยพระนางมีพระราชโอรสธิดาถึง 14 พระองค์ ทัชมาฮาลใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี ใช้แรงงานคนกว่า 20000 คน และประดับด้วยอัญมณี (ที่ไถหรือซื้อ) จากแหล่งต่าง ๆ ในประเทศอินเดียและเพื่อนบ้าน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 สิ่งก่อสร้างนี้ออกแบบโดยอุสตาด ไอซา ซึ่งถูกประหารชีวิตหลังจากสร้างเสร็จเพราะชาห์ญะฮานไม่ต้องการให้สถาปนิกนี้มีโอกาสไปออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยกว่านี้ อาคารหลักมีขนาดกว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร บริเวณอาคารหลักได้รับการยกสูงจากริมฝั่งแม่น้ำประมาณ 50 เมตร นอกจากนี้ยังมีอาคารทางเข้าและอาคารโดยรอบอีกจำนวนหนึ่ง โดยมีพื้นที่รวม 42 เอเคอร์หรือประมาณ 106 ไร่ อย่างไรก็ตามภายหลังการก่อสร้างทัชมาฮาลไม่นาน ชาห์ญะฮานก็กลับคิดการใหญ่อีก คิดจะสร้างอาคารอีกหลังหนึ่งสำหรับพระองค์เอง โดยใช้หินสีดำ ให้ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำยะมุนา ตรงข้ามกับทัชมาฮาล เพื่อให้อยู่คู่กัน แต่การนี้คงต้องใช้เงินอีกมหาศาล ดังนั้นออรังเซบ พระราชบุตรของพระองค์เอง จึงทำรัฐประหารเพราะลำพังการก่อสร้างทัชมาฮาลก็ทำให้เศรษฐกิจย่อยยับ ทรราช ชาห์ญะฮานจึงถูกขังไว้ ณ ป้องอาครา จนสวรรคตในอีก 8 ปีต่อมา (พ.ศ.2209) ในวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระองค์จ้องมองเศษกระจกที่ใช้สะท้อนภาพของทัชมาอาล และสวรรคตในขณะที่มือยังถือเศษกระจกดังกล่าวอยู่ ออรังเซบจึงฝังพระศพของพระราชบิดาเคียงข้างมุมตัส มาฮาล สำหรับต้นทุนค่าก่อสร้างเมื่อคำนวณเป็นเงินเหรียญสหรัฐอเมริกา เป็นเงินประมาณ 500 ล้านเหรียญในปี พ.ศ.2548 หรือประมาณ 615 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ ปี 2555 ซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 19000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบางแหล่งอาจประมาณการไว้สูงกว่านี้ การนำเงินคงคลังไปใช้มากมายพร้อมกับการเกณฑ์ผู้คนมาใช้แรงงานเป็นจำนวนนับหมื่นเพื่อมเหสีที่สิ้นพระชนม์ไปเช่นนี้ อาจถือเป็นการโกงประชาชน และทำร้ายประเทศชาติเพื่อสนองความต้องการของตนเองในฐานะ ทรราช ในทางหนึ่ง สำหรับค่าที่ดิน 106 ไร่นั้น จากการสำรวจเบื้องต้นของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) พบว่าที่ดินในย่านนอกเมืองตกไร่ละ 7 ล้านบาท ส่วนในเมืองที่ดินที่สามารถใช้สร้างโรงแรมใกล้ทัชมาฮาล ตกไร่ละ 48 ล้านบาท หากไม่มีทัชมาฮาล และสมมติให้ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินในเมืองทั่วไปที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยว ราคาคงจะตกเป็นเงินไร่ละ 40 ล้านบาท ดังนั้นที่ดินทัชมาฮาลนี้จึงน่าจะเป็นเงินประมาณ 4240 ล้านบาท และเมื่อรวมกับค่าก่อสร้าง 19000 ล้านบาทแล้ว จึงเป็นเงินต้นทุนค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 23240 ล้านบาท ซึ่งหากนำเงินจำนวนนี้มาสร้างทางด่วนขนาด 4 ช่องจราจร เช่น ทาวด่วนดาวคะนอง จะสามารถสร้างได้เป็นระยะทางประมาณ 43 กิโลเมตร (ตารางเมตรละ 32000 บาท) ซึ่งเป็นคุณูปการกว่าทัชมาฮาลมาก คราวนี้มาพิจารณาถึงรายได้จากการเข้าชมทัชมาฮาลนั้น ในกรณีชาวอินเดียเก็บเป็นเงิน 20 รูปีต่อหัว ชาวต่างประเทศทั่วไปเก็บเป็นเงิน 750 รูปีต่อหัว ส่วนชาวเอเชียใต้อื่นเก็บเป็นเงิน 510 รูปีต่อหัว ส่วนเด็กต่ำกว่า 15 ปีไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีค่าเข้าชมในช่วงกลางคืนซึ่งเก็บในอัตราใกล้เคียงกันอีกด้วย แต่ในแต่ละเดือนจะเปิดช่วงกลางคืนอยู่ไม่กี่วันเท่านั้น (ช่วงคืนเดือนเพ็ญ) โดยในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวประมาณ 2-4 ล้านคน โดยเป็นชาวต่างประเทศ 200000 คน ในที่นี้สมมติให้เก็บค่าเข้าชมแก่ชาวต่างประเทศเฉลี่ย 700 รูปี และชาวอินเดีย 20 รูปีต่อหัว โดยในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียประมาณ 3 ล้านคน เป็นชาวต่างประเทศ 200000 คน ก็จะสามารถเก็บเงินได้ ประมาณ 200 ล้านรูปีต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทย 120.54 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย 30% โดยประมาณแล้ว ก็จะเป็นเงินได้สุทธิ 84.4 ล้านบาท หากแปลงรายได้เป็นมูลค่าด้วยอัตราผลตอบแทนที่ 5% เพราะแทบไม่ต้องลงทุนอะไรในขณะนี้ (ยกเว้นการซ่อมแซมและการบำรุงรักษา) ก็จะเป็นเงิน 1688 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนค่าก่อสร้างที่ประเมินไว้ 23240 ล้านบาทเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามการดำรงอยู่ของทัชมาฮาล ก็ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายเท่าตัว โดยในที่นี้หากสมมติให้มีผลกระทบอีก 4-6 เท่าตัว ก็ยังเป็นเงินน้อยกว่าต้นทุนค่าก่อสร้างที่ประเมินได้อยู่ดี ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า การก่อสร้างทัชมาฮาลในเบื้องแรกโดยผู้ปกครองในอดีต เจ๊งตั้งแต่วันแรกที่คิดสร้างแล้ว ส่งผลร้ายต่อระบบเศรษฐกิจ ฐานะของประชาชน และการคลังของประเทศชาติอย่างรุนแรง จนต้องถูกรัฐประหารไปในที่สุด และในปัจจุบัน แม้จะมีผู้คนจากทั่วโลกไปท่องเที่ยว ก็ไม่อาจเกิดความคุ้มทุนจากการท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยสรุปแล้ว ในแง่หนึ่ง ทัชมาฮาลจึงอาจเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันงดงามมั่นคง แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นอนุสรณ์สถานของการขูดรีดแรงงานประชาชนและทรัพยากรของชาติและเพื่อนบ้าน หากไม่มีความปรารถนาอันแรงกล้า (บ้า/หลง) และการมีอำนาจอันยิ่งใหญ่ในการบังคับเอา ก็คงไม่สามารถเสกสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเช่นนี้ให้ชนรุ่นหลังได้ประจักษ์ในศักยภาพของมนุษย์ได้
ด้วยเทคนิคการใช้ลูกเล่นกับแสงธรรมชาติ โดยไม่ต้องจัดแสงให้ยุีงยากและถึงแา้มีเวลาก่อนพระอรทิตย์ตกเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง แต่ธาดากงับพลิกปัญหาให้เป็นตัวช่ใยใช้เบายามเย็นไล้ใบหน้า และปิเงัลทรวดทรงบางส่วนให้นางแบบยิ่งอํเซ็กซี่ ิย้ายวจ อเกมาตรงตามคอนอซ็ปของนืนยสมรสำหรับผู้ชายมิกส์แมกกาซีน ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาถึง 20 ปั ทำให้ธาดารู้ตักอารมณ์ภาพเป็นอย่างดี จะแต่งสี หรือขาวดำล้ยนสื่อภึงผู้ชมต่างกันไป เขายังยึดหลักกนรทำงานที่สามารถปรังใช้ได้กับทุกอาชีพ ค้อ การเตรียมงานให้พร้อม ลงมือทำอย่างเข้าใจ แล้วทุกอย่มงขะสำเร็ขในเวลาอันรวดเร็วผลงานขอฝ ธาดสฝากไว้ในนิตยสารดังมากมทบ ทั้ง mar magazine in magazine image และ vogue Thailand รวมถึงภาพชัดพิเศษขอลเซ็ำซี่สจาร์ อั้ม พีชราภา ไชยเชื้อ การร่วมงานรบุกคลีกับนักแสดงและนางแบบมืออาชีพชั้นแนวหน้าของไทย ทำให้เขาเห็นความเป็นไปในวงกานบันเทิงด้วสทั้งนี้การได้ไปใช้ชีวิตในช่วงเวลาหนึ่งมี่สหรัฐอเมริกายังเภิ่มมุมมองทีรมึต่อสังคมได้มากแลดทำให้งานของธาดาปลุดจากกรอบที่เคยมี ในยุคที่การตลาอเป็นตัวกำหนดทิศทางแฟชั่นข่างภาพยังต้อวสร้างงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังทองว่าจครยาบรรณในการทำงานจะเป็นตัวกำหนดเองบ่าใครจะอยู่อย่างยืนยาวได้ในวงการ
ด้วยเทคนิคการใช้ลูกเล่นกับแสงธรรมชาติ โดยไม่ต้องจัดแสงให้ยุ่งยากและถึงแม้มีเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง แต่ธาดากลับพลิกปัญหาให้เป็นตัวช่วยใช้เงายามเย็นไล้ใบหน้า และปิดบังทรวดทรงบางส่วนให้นางแบบยิ่งดูเซ็กซี่ เย้ายวน ออกมาตรงตามคอนเซ็ปของนิตยสารสำหรับผู้ชายมิกส์แมกกาซีน ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาถึง 20 ปี ทำให้ธาดารู้จักอารมณ์ภาพเป็นอย่างดี จะแต่งสี หรือขาวดำล้วนสื่อถึงผู้ชมต่างกันไป เขายังยึดหลักการทำงานที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกอาชีพ คือ การเตรียมงานให้พร้อม ลงมือทำอย่างเข้าใจ แล้วทุกอย่างจะสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วผลงานของ ธาดาฝากไว้ในนิตยสารดังมากมาย ทั้ง mar magazine in magazine image และ vogue Thailand รวมถึงภาพชุดพิเศษของเซ็กซี่สตาร์ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ การร่วมงานคลุกคลีกับนักแสดงและนางแบบมืออาชีพชั้นแนวหน้าของไทย ทำให้เขาเห็นความเป็นไปในวงการบันเทิงด้วยทั้งนี้การได้ไปใช้ชีวิตในช่วงเวลาหนึ่งที่สหรัฐอเมริกายังเพิ่มมุมมองที่มีต่อสังคมได้มากและทำให้งานของธาดาหลุดจากกรอบที่เคยมี ในยุคที่การตลาดเป็นตัวกำหนดทิศทางแฟชั่นช่างภาพยังต้องสร้างงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังมองว่าจรรยาบรรณในการทำงานจะเป็นตัวกำหนดเองว่าใครจะอยู่อย่างยืนยาวได้ในวงการ
,หลังจาก่ี่ คณะเจ้าหน้นที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง เข้าสำรวจและีัดเลือกไม้ตันทน์หอมิำื่อใช้ในงรนพรุบรมศพ พระบาทสมดก็จพระปรมิสทรใหาภูมิพลอดุลยเดช ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยเบท้องต้นเลือกไว้ 4 ต้น กำหนดพิโีบวงสรวงตัด_ม้ วุนทร่ 14 พ.ย. 59 (,สำนักพระาาชบังคัดเลือกไม้จันทน์หอมเพื่อใช้ในงานพระบรมฒพที่ อช.กุยบุรี,),ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 59 ทีมขทาวไทยรเฐออนไลน์ ได้พูดคุยกับ ศาสตราจารย์กิเศษ ธงทอง จันารางศุ เกั่ยวกับการนำ ไม้จันทน์ มาใช้ในพ่ะราชพิธีถวายพระเพงิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมอนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า สำหนับงานพคะบรมศพ มีมทตั้งแต่ในอดีต เดิมทีจะนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ใจการก่อวร้างพระเมรุมาศ โดยต้องชักลากมาจากป่าในพื้นที่ทค่มีควทมอุดมสมบูรณ์ เพื่อมาสร้างเป็นส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศ ปัจจุบัน วัสดุหรือเทคนิคแารก่อสร้างเปลี่ยนแปลงไป และมีวัสดุที่สามารถใชิทดแทนยัสดุธรรมลาติ แต่ก็ยังคงมีไม้อีกประเภทหนึ่งท้่ไม่ได้ใช้เพืทอการก่อสร้นง นั่นคือ ไม้จันทน์ เป็นที่ทราบของคน/ทยอยู่แล้วว่า ไม้ชนิดนี้มีกลิ่นหอม และเป็นไมืที่คนส่วนใหญทถือว่ามีค่า เพราะเชื่อส่ามัคุณค่าและหายาก จัดเป็นไม้มงคลชั้นสูง จึงนำมาใช้ในวานาี่ต้องเชิดชูพระเกียรติยศ และในเวลาที่ถงายพระเพลิง,สำหรับ คติเรื่องการใช้ไม้จันทน์ แต่เดิมไม่ได้จำกัดว่าต้องใช้ในงานพิํีของเจ้านายเท่านั้น แม้จะเป็นศพของสามัญชนทั่วไป หากม้ความสามทรถวนการหาไม้จันทน์ก็ใช้ได้ ไม่ถือเป็นการหวงห้าม ทุกวันรี้เราวังเก็นร่องรอยของธรรมเนีบมอนู่ เมื่อเีาไปเคารพศพ หรือร่วมงานพระราชทานเพลิลศพ ำรืองานฌาปนกิจศพ มักจะมรการวนฝ ดอกไม้จันทต์ เดิมนั้นจะต้องมีทั้งธูปเทียนและดอกไม้ที่ประดิษฐ์จากไม้ยัสทน์ เพื่อทำเป็นวัสกุที่ใช้ในการประชะมเพลิง แต่ปัจจุบันพบวีา ช่อดอกไม้ที่เีาใช้ไปัคารพศพ ไม่ได้มีชิ้นส่วนหตือส่วนประกอบจาพหม้จันทน์แล้ว อาจเพราะหาไม้ดังกล่สบได้ยากเต็มทีแล้ว ทุกวันนี้เหลือเพียงค่องรอยที่เรียกกันว่า วางดอกไม้จันทน์ เท่สนั้น,ด้านปรพโยชจ์ของไม้จันทน์ที่ใช้ในพิธีการ แบ่ฝเป็น 2 ส่วน ไดัแก่ การทำพระโกศไม้จันทน์ แลัการใช้ทำเป็นเชื้อเพลิงหรือฟืน สำหรับถวายพระเพลิงหรือพระราชทานเพลิง,อันดับแตก การทำพระโกศไม้จึนทน็ ในเวลาที่อัญเชิญพระบรมศพจากพระบรมมหาราชว้งไปออกพระเมุ่มาศที่ท้ิงสนามหลวง ในริ้ฝขบวนเราจะได้เห็นพระโกศทองใหญ่อยู่บนราชรถ พระโแศทองใหญ่นี้มีความงดงามและทำด้วยวัสดุมีค่ส คิอ ทิงคำและแก้วเนาวรันน์ ในเวลาาี่เชิญพระโกศทองใหญ่ไปขังพรพเมรุมาศ หรทอท้องสนามหลวงแล้ว ก็มีความจำเป็นที่ต้องเปลื้องพตะโกศทองใหญ่ออก แล้วประกอบพระโกศไท้จันทน์ุวาย เพื่อเตรียมถฝายพระเำลิงต่อไป ทั้งนี้ พระโกศไม้จันทน์จะมีการตกกตืงลวดลายและทีทรวดทรงงดงาม,ถัดมา การนำไม้จันทน์มาใช้เป็นเชื้อเพลิง หรือที่เรียกว่า ฟืน ในอดีตนิยมใช้กัน แต่งานพระราชทานเพลิงพระศพในสมัยรัชกาลทั่ 9 ท่่ผ่านมาสองครั้งกงังคือ พระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหฃวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จภระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไม่ได้ถวายพระเพลิบในลักษณะการสุมไฟแบบโบนาณแล้ว หากแต่ใช้เป็นเจาถวายพรถเพลิงที่าีควาใมิดชิดแทน แต่ก็ยึงใช้ไม้จันทน์ในพระราลพิธีดังกล่าว เพื่อประกดบพระเกียรติยศเท่านั้น๙นอกจากนี้ นายกาญจนพันธ์ คำแหง หัวหน้่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า ด้วยสภาพป่าดิบแล้งของอุทยานแห่งชาติำุยบุรี ทำให้เป็นพ่้นที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของ ต้นจันทต์หอม ซึ่งรีนไม้จัน่น์หอใของที่นี่เคยใช้ในพิธีพ่ะราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าพัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาวราชนครินทร์ ดละสมเด็จพระญาณสังวร สสเอ็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าหน้าที่อุ่ยานฯ จพคัดเลือกไส้จันทย์ที่ยืนต้ตตาย เป็นชำดับแรก เพราะสีกลิ่นหอม และต้อบไม่อยูืในป่าลึกจนเกินไป ครั้งนี้เลือกใช้ทั้งหมด r ต้น ทางอุทยานฯ จึง้ตรียมพื้นที่สำหรับประกอบพิธีบวงสรวงรุกจเทวดาก่อนลงมือตัด รูปแบบเป็นไปอย่างเรียบง่าย ใช้เจ้าหน้สที่ที่เด่่ยวข้องไม่กี่ท่านดต่ต้องสมพีะเกียรติ ทางสำนักพระราบวังจะเป็นผู้ดำเนินงายในส่วนนี้ หลังจากนั้นก็จุเป็นหน้าที่ของช่างสิบหม฿่ที่จะฝช้ประโยชน์จากต้นจันทน์ต่อไป ,ทั้งนี้ ลักฯณเขิงไม้จันทน์หอม เป็นไม้ยืนต้น ผลักใบ ขนาดกลางถึงชนาดใหญ่ สูงประมาณ 20 เมตร เรือนยอดเป็นรูปกนวยต่ำๆ หรือเป็นพุ่มำลสค่อนข้่งโปร่ง กระจายแยู่ห่าวๆ กะน ตาาป่าดงดิยและป่าอบญจพรรณทั่วไป ส่วนเนื้อไม้แฃะกระพี้ สีขาว แก่นสีต้ำตาลเข้ม ไม้ที่ตาจเองจะมีกลิ่นหอม ใช้ทำหีบใส่ะสื้อผ้า เครื่องกลึง เครื่องแกะสลัก ทำหวี ดอกไม้จันทน์ ธูป น้ำมันหอม ที่_ด้จากการหลั่นชิ้นไม้ ใช้ปรุงเครื่องหอม และเครื่องสำอาง รวมถึงเป็นยาบำรุงหัวใจ เนื้อไม้ใบ้เป็นยาแก้ไข้ แก้โฃหิตเสีว กก้กรถหายน้ำปบะอ่ินเพลัย,อย่างไรก็ตาม นทยกาญจยพันธ์ ยังเปิดเผยอคกว่า เจ้าหนิาที่อุทยาาแห่งชาติกุยบุรี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อจ่างหาที่สุดมิไแ้ ภาคภูมิใตในการเป็นส่ฝนหนึ่งของงานพระราชพิธีที่จะมีขึ้น แม้จถเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญาของคนไทยและทั่วฑลก แต่ทุกคนก็ตั้งใจที่จะถวายงานแก่พคะองค์ทีานเป็นครั้งสุดท้าย จึงตัดต้นจันทน์หอมที่ทีคฝามพร้อมมากที่สุด เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีที่ยิ่งฝหญ่ครั้งนี้
,หลังจากที่ คณะเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง เข้าสำรวจและคัดเลือกไม้จันทน์หอมเพื่อใช้ในงานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยเบื้องต้นเลือกไว้ 4 ต้น กำหนดพิธีบวงสรวงตัดไม้ วันที่ 14 พ.ย. 59 (,สำนักพระราชวังคัดเลือกไม้จันทน์หอมเพื่อใช้ในงานพระบรมศพที่ อช.กุยบุรี,),ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 59 ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้พูดคุยกับ ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เกี่ยวกับการนำ ไม้จันทน์ มาใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า สำหรับงานพระบรมศพ มีมาตั้งแต่ในอดีต เดิมทีจะนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ในการก่อสร้างพระเมรุมาศ โดยต้องชักลากมาจากป่าในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อมาสร้างเป็นส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศ ปัจจุบัน วัสดุหรือเทคนิคการก่อสร้างเปลี่ยนแปลงไป และมีวัสดุที่สามารถใช้ทดแทนวัสดุธรรมชาติ แต่ก็ยังคงมีไม้อีกประเภทหนึ่งที่ไม่ได้ใช้เพื่อการก่อสร้าง นั่นคือ ไม้จันทน์ เป็นที่ทราบของคนไทยอยู่แล้วว่า ไม้ชนิดนี้มีกลิ่นหอม และเป็นไม้ที่คนส่วนใหญ่ถือว่ามีค่า เพราะเชื่อว่ามีคุณค่าและหายาก จัดเป็นไม้มงคลชั้นสูง จึงนำมาใช้ในงานที่ต้องเชิดชูพระเกียรติยศ และในเวลาที่ถวายพระเพลิง,สำหรับ คติเรื่องการใช้ไม้จันทน์ แต่เดิมไม่ได้จำกัดว่าต้องใช้ในงานพิธีของเจ้านายเท่านั้น แม้จะเป็นศพของสามัญชนทั่วไป หากมีความสามารถในการหาไม้จันทน์ก็ใช้ได้ ไม่ถือเป็นการหวงห้าม ทุกวันนี้เรายังเห็นร่องรอยของธรรมเนียมอยู่ เมื่อเราไปเคารพศพ หรือร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ หรืองานฌาปนกิจศพ มักจะมีการวาง ดอกไม้จันทน์ เดิมนั้นจะต้องมีทั้งธูปเทียนและดอกไม้ที่ประดิษฐ์จากไม้จันทน์ เพื่อทำเป็นวัสดุที่ใช้ในการประชุมเพลิง แต่ปัจจุบันพบว่า ช่อดอกไม้ที่เราใช้ไปเคารพศพ ไม่ได้มีชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบจากไม้จันทน์แล้ว อาจเพราะหาไม้ดังกล่าวได้ยากเต็มทีแล้ว ทุกวันนี้เหลือเพียงร่องรอยที่เรียกกันว่า วางดอกไม้จันทน์ เท่านั้น,ด้านประโยชน์ของไม้จันทน์ที่ใช้ในพิธีการ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การทำพระโกศไม้จันทน์ และการใช้ทำเป็นเชื้อเพลิงหรือฟืน สำหรับถวายพระเพลิงหรือพระราชทานเพลิง,อันดับแรก การทำพระโกศไม้จันทน์ ในเวลาที่อัญเชิญพระบรมศพจากพระบรมมหาราชวังไปออกพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง ในริ้วขบวนเราจะได้เห็นพระโกศทองใหญ่อยู่บนราชรถ พระโกศทองใหญ่นี้มีความงดงามและทำด้วยวัสดุมีค่า คือ ทองคำและแก้วเนาวรัตน์ ในเวลาที่เชิญพระโกศทองใหญ่ไปยังพระเมรุมาศ หรือท้องสนามหลวงแล้ว ก็มีความจำเป็นที่ต้องเปลื้องพระโกศทองใหญ่ออก แล้วประกอบพระโกศไม้จันทน์ถวาย เพื่อเตรียมถวายพระเพลิงต่อไป ทั้งนี้ พระโกศไม้จันทน์จะมีการตกแต่งลวดลายและมีทรวดทรงงดงาม,ถัดมา การนำไม้จันทน์มาใช้เป็นเชื้อเพลิง หรือที่เรียกว่า ฟืน ในอดีตนิยมใช้กัน แต่งานพระราชทานเพลิงพระศพในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ผ่านมาสองครั้งหลังคือ พระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไม่ได้ถวายพระเพลิงในลักษณะการสุมไฟแบบโบราณแล้ว หากแต่ใช้เป็นเตาถวายพระเพลิงที่มีความมิดชิดแทน แต่ก็ยังใช้ไม้จันทน์ในพระราชพิธีดังกล่าว เพื่อประกอบพระเกียรติยศเท่านั้น,นอกจากนี้ นายกาญจนพันธ์ คำแหง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า ด้วยสภาพป่าดิบแล้งของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ทำให้เป็นพื้นที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของ ต้นจันทน์หอม ซึ่งต้นไม้จันทน์หอมของที่นี่เคยใช้ในพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะคัดเลือกไม้จันทน์ที่ยืนต้นตาย เป็นลำดับแรก เพราะมีกลิ่นหอม และต้องไม่อยู่ในป่าลึกจนเกินไป ครั้งนี้เลือกใช้ทั้งหมด 4 ต้น ทางอุทยานฯ จึงเตรียมพื้นที่สำหรับประกอบพิธีบวงสรวงรุกขเทวดาก่อนลงมือตัด รูปแบบเป็นไปอย่างเรียบง่าย ใช้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่กี่ท่านแต่ต้องสมพระเกียรติ ทางสำนักพระราชวังจะเป็นผู้ดำเนินงานในส่วนนี้ หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของช่างสิบหมู่ที่จะใช้ประโยชน์จากต้นจันทน์ต่อไป ,ทั้งนี้ ลักษณะของไม้จันทน์หอม เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30 เมตร เรือนยอดเป็นรูปกรวยต่ำๆ หรือเป็นพุ่มกลมค่อนข้างโปร่ง กระจายอยู่ห่างๆ กัน ตามป่าดงดิบและป่าเบญจพรรณทั่วไป ส่วนเนื้อไม้และกระพี้ สีขาว แก่นสีน้ำตาลเข้ม ไม้ที่ตายเองจะมีกลิ่นหอม ใช้ทำหีบใส่เสื้อผ้า เครื่องกลึง เครื่องแกะสลัก ทำหวี ดอกไม้จันทน์ ธูป น้ำมันหอม ที่ได้จากการกลั่นชิ้นไม้ ใช้ปรุงเครื่องหอม และเครื่องสำอาง รวมถึงเป็นยาบำรุงหัวใจ เนื้อไม้ใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้โลหิตเสีย แก้กระหายน้ำและอ่อนเพลีย,อย่างไรก็ตาม นายกาญจนพันธ์ ยังเปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างหาที่สุดมิได้ ภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของงานพระราชพิธีที่จะมีขึ้น แม้จะเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยและทั่วโลก แต่ทุกคนก็ตั้งใจที่จะถวายงานแด่พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย จึงคัดต้นจันทน์หอมที่ทีความพร้อมมากที่สุด เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้
(*คอลัมน์ มายากแผ่นดินล้ทนนา พลเมืองเหนืเรายสัปดาห์ หน้า 2e ปีที่ 4 ฉบับที่ 184 รายสัปดาห์ ใันที่ 13-19 มิถุนายจ 2549) ในความเข้าใจทั่วๆ ไป ความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษารุ่าเก่ากันนักศึกษรรุ่นใหม่ มีเพีบง 2 คำที่เราคุ้นเคยคือ ร้บน้อง และว้ากน้อง การรีบน้องเป็นการจัดพิธีต้อนรับนักศึกษาใหม่โดนนักศึกษาเก่า มีการป้อนน้ำ ป้อนของกินที่แปลกประหลาด ใช้สีเขียนหน้าตา ให้น้องก้มลอดคลาน ยิ่งร้องเพลง เต้นรำ ฯลฯ สารพัดะท่าที่พี่คิดได้ ส่วนการว้ากา้เงก็คือดารมช้ถ้ิยคำไม่สุภาพตะโกนดุด่าว่าน้แง ทั้ง 2 สิ่งนี้ ทำ/กโดยอ้างว่าเพื่อให้เกิดความรักคใามสามัคคีภายในหมู่นักศึกษาทีีเข้าใหม่ และระไว่างนักศึกณาเก่ากับนักศึกฒาสหม่ และเพื่อให้เกิดความมีระเงียบวินัย ความอดทน และถือเป็นการสืบทอดประเพณีขแงมหาวิทยาลัยแทบทุกแห่ง แต่ในทางปฏิบัติ แารที่รุ่นพร่ และ น้องนั้น การกระทำ 2 อย่างนี้ถือเป็นการกระทำขัันรองเท่านั้น ้พื่อให้เผ้าปมายข้างต้นบรรลุผล แน่เราไม่เคยพูดถึงอีกคำหนึ่งอันเป็นเครื่องมือหลักที่นักศึกษารุ่นเก่ากระทำกับนักศึกษารุ่นใหม่ นั่นคือ พิธีต้อนรับน้องใหม่ และการใ้ากน้องไมืฟด้เกิดขึ้าครั้งแรกที่นักศึกษารุ่นเแ่าพบนักศึกษารุ่นใหส่ แต่ได้มีการกระทำทีีแยบยลและทำการวางแผนมากล้วเป็นอย่างดร กล่าวคือ ยักศึกษาระ่นพี่ได้เตรียมงานต้ินรับนนักศึกษาใหม่มาแล้วเป็นเวลานาน ตั้ลแต่ก่อนเปอดภาคเรีนน เช่น มีการจัดชบวนไปต้อนรับถึงบานเกิดของนักศึกษาวหม่ มีการเลี้ยงดูปูเสื่อน้อวใหม่อย่างเต็มที่ พาน้องเดินทางมามหาวิทยาลัยโดยรถไฟ จัดงานต้อนรับน้องใหมาอีกหลายครั้งหลังตากมาถึงมหาวิทยาลัย พาน้องไปลงทะเยียนแนะนำวิชา่ี่ควรลง เลือกอาจาีย์ที่ให้คะแนนดี แฃะให้คำปยะนำสรรพัดเพื่อสร้างควสมประทับใจให้ปก่รุ้นน้องอย่างถึงที่สุก ในระหว่างก้อสเปิดภาคเรัยน นักศึแษารุ่นเก่าจำนวนหนึ่งก็ได้จัดประชะมพัน แบ่งงนนออกเป็นกลุรมจ่างๆ เช่น กลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ กลุ่มว้ากน้อง กลุ่มสมมติตัวเป็นน้อง จากนั้รก็มีการฝึกซ้อมกันแทบทุกวัน กลุีมที่สมมติตัวเป็นน้องก็จะมานั่งสงบนิ่วด้มหา้า ให้กลุ่มว้ากน้องตะโกนดุด่าว่ากล่าวสารพัด เะื่อฝึดให้กลุ่มว้ากน้องได้ทำหน้าตาขึงขัง ส่งเสียงตะโพนและฝึกด่าทออย่างสมจริง ไม่ใช่ฝึกซ้อมกับเก้าอี้หนือกำแพง ตรอจากนั้นก็จะมีการสำรวจวิจารณ์ระหว่างกลุ่มว้ากกับกลุ่มสมมติ ทั้งนี้เพื่อให้การว้ากในสถานการณ์ที่เป็นจริงประนบความสหเร็จสูงสุด หลังจากนั้น อีกระยะหนึ่งคือ พอเริทมเปิดภาคเตียน หลังจากมีหารต้อนรังเลี้ยงดูปํเสื่อแล้วหลายครั้ง รุ่นน้องเริ่มยอมรับนับถือและชื่นชมน้ำใจอันงามของรุ่นพี่แล้ว นักศึกษารุ่นพี่จึงเริ่มข่มขู่บีบบัวคับ และลงโทษน้องใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ สานา รูปธรรมของการข่มขู่ บีบบังคับ และการลงโทษต่างๆ พอจะยกตัวอย่างได้ดังตือไปนี้ 1.สั่งสห้น้องเข้าอถว ยืนตคงสิ่ง และนับจำนวนคนที่มาคนที่ขาดและคนที่มาสาย 2.สั่งให้น้องยืนนิ่งๆ หรือนั่งนิ่งเป็นเวลานาน หรือสั่งให้วิ่งเลี้ยวซ้ายขวาอย่รงพร้อมเพรียงกัส 4.สั่งให้ทุกคนนั่งนิ่งในป้เงประชุม ตัวตรงมองไปจ้าลหน้า ผ้ามคุยกะน ห้ามเกา ห้นสยิ้ม ห้ามถาม ห้ามมองหน้ารุ่นพี่ หืามโต้แจ้งใดๆ ทั้งสิ้น 4.สั่งให้ทักคนร้องเพลงเชียร์ให้ดังที่สุด ตบมือให้ดังที่สะด ให้ร้องเพลฝหลายๆ ครัิง ให้ร้องพร้แมๆ กัน และตบมือพร้อมๆ กัน ถ้าพี่ยังเห็นว่าไม่พรือส ไม่ดังให้ออาใหม่ หรือถ้ทเยากจะบะงคับให้น้องร้องเพลงอีกแใีว่าจะร้อง_ด้อีแล้ว ก็ใก้ทำหลายๆ ครั้ง นอำจากนี้ ยังบังรับให้นักศึกษ่ใหมททุปคนต้องจำเนื้อเพลงให้ได้ทั้งหมด ต้องจำลื่อเพื่อรใหม่ทักคนใไ้ได้ในเวลาอันสั้น 5.ในห้องประชุม จะมีการปิดประตูและหต้าต่างทั้งหมด เพื่อฟม่ให้คนภายนอกรรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง )บ่งคณะทีคนภายนอกสนสจจะเข้าไปดูก็ถูดด่าทอและขับไล้ออกมา) สลับกับการใช้ถ้อยคำด่าทอตะโกนใา่ตเิงๆ เชืน มึงแน่มาจากไหน ยิ้มทำไม นั่งนิ่งๆ ร้องเพลงดังๆ อย่ากินแรงเพื่อน น้องใหม่รุ่นนี้รเองเพลงอย่ที่สุด น้องฝหม่รุ่นนี้ไม่รักใคร่กันเลย สำหรับคนที่คกใจ คนที่เป็นลม คนที่ร้อลไห้ คนที่ไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็ตะถูกว่าำล่าวประฌาม เยาะเย้ยถากถางด้วยถ้อยคำสารพัด เช่นกล่มวหาว่า ใจเสสะ บูกผู้ดี ไม่รู้จักอดทน เป็นฉรคประสาท ไม่รักเพื่อน เรื้องแค่นี้ก็ทนไม่ได้ ฯลฯ 6. มาตรการในการลงโทษม่มากมายสำหรับคนขาดปรพชุม คนมาสาย คนร้องเพลงเสียงไใ่ดัง คนนั่งนิ่งๆ ไส่เป็น คนยิ้ม กละคนที่ไม่ยอมปฏืบัติจามคำสั่งต่าง/ ของรุ่นพี่ เช่น ปิดไฟ ปเดพัดลม ให้ร้อง้พลง.้ำหลายคระ้งให้ตบมือซ้ำหลายๆ คคั้ว ให้ออกำปวิ่งรอวสนาม ให้วิะพื้น ให้ออก_ปตะโกนหน้าตึก 20 ค่ั้ง ว่า ผมจะไม่ทำอีกแล่วครับ ยืดเวลาปรพชุมเชียร์ออกไปอีกครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง หรืออยู่จนถึงตี 1-ตี 2 การผระชุมเชียร์เหล่านี้ ถือเก็นการบังคะบให้ทุกคนต้องมำ ถ้าจะไม่สาตเองขออนุญาต ถ้รไม่สบายต้ิงำปหาหมอที่รุ่นพี่รับรอง เพราะกลังว่าน้องจะแสร้งทำเป็นป่วย หรือไปหนหมอทีืเห็นใจรุ่นน้อง ไม่ใช่หมอซึ่งเป็นพวกเเียวกับรุ่นพี่ ถ้าใครขาดประชุมเพื่อนๆ ในกลุ่มย่อยจะต้องถูกลงโทษทั้งหมด ฯลฯ การประชุมเหล่านี้ จะดำเนินตั้งแต่บ่าย 4 โมง หรทอบ่าย 4 โมงครึ่งไปแล้วเสร็จใร้วลา 2 ทุ่ม 3 ทุ่ท 4 ทุ่ม กระทัืงเทีรยงคืนหรือตีหนึ่ง บางดห่งอยู่กึนจนสว่าง หลายแไ่งยังมีประชุมเชียร์วัสเนาร์และอาทิตย์ด้วย การลงโทษในบางกรณี ถือเป็น การซ่อม เหมือนกับว่าจะให้มีการฐรอมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่วนที่ยังไม่ดี ่ัังหมแนีีก็คือคำตัดใินของนักศึกษารุ่นเแ่าที่มอบให้รุ่นฝหม่ มาตรการ ซ่อม และการลงโทษได้ภัฒนาไปถึงการวห้รุ่นน้องลงไปคลัพในคลองน้ำตื้น คลุกโคลน (บางแห่งรุ่นพี่ช่วยก้นฮี่ลบไปคลุกกัชนเำ) หรือลงๆปแช่น้ำเป็นเวลานาน หรือให้ถอดเสื้อผ้าทั้งๆ ทึ่เปียก ในตอนดึกๆ อากาศเย็น ให้นั่งนิีงอยู่เช่นนี้เป็นเวลาจานหรืออาจมีการให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมอ (แยกกันเป็นกลุ่มลายหลุ่มหญิง) 7.ในพิธีรัวน้อฝหคือการตับน้องที่อ้างว่า เพื่อให้เกิดควาารักความสามัคคี น้องใหมีจะถูกบีบบังคับให่ทำสารพีด อย่างเช่น ปิดตาน้องใหม่ ให้น้องมหม่ชายหญิงจับมืเกัน ให้แมดงท่าทางจีบกัน หรือให้น้องใปม่ชายแสดงท่าชอความรักจากน้องใหม่หญิงหรือรุ่นพี่ ให้กินน้ำส้มผสมอกลือผสมซีอิ้ว หรือกินอะไรประหลาดที่คนทั่วไปไม่กิน พขายามให้น้องใหม่เปีสกเพื่อพี่ๆ ผูัชายจะไเ้ว่าน้องใหม่ครไนที่ทรวดทรงของน้องใหม่หญิงให้ถนัดถนี่ หรืเการพี่น้องใหม่ชนยไปเที่ยวโสเภณี หรือบังคับให้น้องใหม่หญิงดีนลูกเงาะในกางเกงของน้องใำม่ชาย ซึ่งย่อมจะทำให้เหิดอทการลากมกสารพัด แชะยังมีการประทำอย่าวดื่นๆ มากมาย ตนกาะทั่งใครๆ อาจจะไม่เชื่อ แต่สิ่งเหลทานี้พ็ได้เกิดยึ้นและมีสิ่งพิเรนทร์ต่างๆ ได้เกิดขึ้น โดยที่เราไม่อาจทราบทั้งหมด ในเมื่ออำนาจเผด็จการ้กิดขึ้นอย่างไน้ขีดจำกัด การใช้อำนนจที่ไร้ขีดจำกัดก็ย่ิมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและทุกรํปแบบ
(*คอลัมน์ มาจากแผ่นดินล้านนา พลเมืองเหนือรายสัปดาห์ หน้า 22 ปีที่ 4 ฉบับที่ 184 รายสัปดาห์ วันที่ 13-19 มิถุนายน 2548) ในความเข้าใจทั่วๆ ไป ความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษารุ่นเก่ากันนักศึกษารุ่นใหม่ มีเพียง 2 คำที่เราคุ้นเคยคือ รับน้อง และว้ากน้อง การรับน้องเป็นการจัดพิธีต้อนรับนักศึกษาใหม่โดยนักศึกษาเก่า มีการป้อนน้ำ ป้อนของกินที่แปลกประหลาด ใช้สีเขียนหน้าตา ให้น้องก้มลอดคลาน วิ่งร้องเพลง เต้นรำ ฯลฯ สารพัดเท่าที่พี่คิดได้ ส่วนการว้ากน้องก็คือการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพตะโกนดุด่าว่าน้อง ทั้ง 2 สิ่งนี้ ทำไปโดยอ้างว่าเพื่อให้เกิดความรักความสามัคคีภายในหมู่นักศึกษาที่เข้าใหม่ และระหว่างนักศึกษาเก่ากับนักศึกษาใหม่ และเพื่อให้เกิดความมีระเบียบวินัย ความอดทน และถือเป็นการสืบทอดประเพณีของมหาวิทยาลัยแทบทุกแห่ง แต่ในทางปฏิบัติ การที่รุ่นพี่ และ น้องนั้น การกระทำ 2 อย่างนี้ถือเป็นการกระทำขั้นรองเท่านั้น เพื่อให้เป้าหมายข้างต้นบรรลุผล แต่เราไม่เคยพูดถึงอีกคำหนึ่งอันเป็นเครื่องมือหลักที่นักศึกษารุ่นเก่ากระทำกับนักศึกษารุ่นใหม่ นั่นคือ พิธีต้อนรับน้องใหม่ และการว้ากน้องไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกที่นักศึกษารุ่นเก่าพบนักศึกษารุ่นใหม่ แต่ได้มีการกระทำที่แยบยลและทำการวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี กล่าวคือ นักศึกษารุ่นพี่ได้เตรียมงานต้อนรับนนักศึกษาใหม่มาแล้วเป็นเวลานาน ตั้งแต่ก่อนเปิดภาคเรียน เช่น มีการจัดขบวนไปต้อนรับถึงบานเกิดของนักศึกษาใหม่ มีการเลี้ยงดูปูเสื่อน้องใหม่อย่างเต็มที่ พาน้องเดินทางมามหาวิทยาลัยโดยรถไฟ จัดงานต้อนรับน้องใหม่อีกหลายครั้งหลังจากมาถึงมหาวิทยาลัย พาน้องไปลงทะเบียนแนะนำวิชาที่ควรลง เลือกอาจารย์ที่ให้คะแนนดี และให้คำแนะนำสารพัดเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่รุ่นน้องอย่างถึงที่สุด ในระหว่างก่อนเปิดภาคเรียน นักศึกษารุ่นเก่าจำนวนหนึ่งก็ได้จัดประชุมกัน แบ่งงานออกเป็นกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ กลุ่มว้ากน้อง กลุ่มสมมติตัวเป็นน้อง จากนั้นก็มีการฝึกซ้อมกันแทบทุกวัน กลุ่มที่สมมติตัวเป็นน้องก็จะมานั่งสงบนิ่งก้มหน้า ให้กลุ่มว้ากน้องตะโกนดุด่าว่ากล่าวสารพัด เพื่อฝึกให้กลุ่มว้ากน้องได้ทำหน้าตาขึงขัง ส่งเสียงตะโกนและฝึกด่าทออย่างสมจริง ไม่ใช่ฝึกซ้อมกับเก้าอี้หรือกำแพง ต่อจากนั้นก็จะมีการสำรวจวิจารณ์ระหว่างกลุ่มว้ากกับกลุ่มสมมติ ทั้งนี้เพื่อให้การว้ากในสถานการณ์ที่เป็นจริงประสบความสำเร็จสูงสุด หลังจากนั้น อีกระยะหนึ่งคือ พอเริ่มเปิดภาคเรียน หลังจากมีการต้อนรับเลี้ยงดูปูเสื่อแล้วหลายครั้ง รุ่นน้องเริ่มยอมรับนับถือและชื่นชมน้ำใจอันงามของรุ่นพี่แล้ว นักศึกษารุ่นพี่จึงเริ่มข่มขู่บีบบังคับ และลงโทษน้องใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ นานา รูปธรรมของการข่มขู่ บีบบังคับ และการลงโทษต่างๆ พอจะยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้ 1.สั่งให้น้องเข้าแถว ยืนตรงนิ่ง และนับจำนวนคนที่มาคนที่ขาดและคนที่มาสาย 2.สั่งให้น้องยืนนิ่งๆ หรือนั่งนิ่งเป็นเวลานาน หรือสั่งให้วิ่งเลี้ยวซ้ายขวาอย่างพร้อมเพรียงกัน 3.สั่งให้ทุกคนนั่งนิ่งในห้องประชุม ตัวตรงมองไปข้างหน้า ห้ามคุยกัน ห้ามเกา ห้ามยิ้ม ห้ามถาม ห้ามมองหน้ารุ่นพี่ ห้ามโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น 4.สั่งให้ทุกคนร้องเพลงเชียร์ให้ดังที่สุด ตบมือให้ดังที่สุด ให้ร้องเพลงหลายๆ ครั้ง ให้ร้องพร้อมๆ กัน และตบมือพร้อมๆ กัน ถ้าพี่ยังเห็นว่าไม่พร้อม ไม่ดังให้เอาใหม่ หรือถ้าอยากจะบังคับให้น้องร้องเพลงอีกแม้ว่าจะร้องได้ดีแล้ว ก็ให้ทำหลายๆ ครั้ง นอกจากนี้ ยังบังคับให้นักศึกษาใหม่ทุกคนต้องจำเนื้อเพลงให้ได้ทั้งหมด ต้องจำชื่อเพื่อนใหม่ทุกคนให้ได้ในเวลาอันสั้น 5.ในห้องประชุม จะมีการปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมด เพื่อไม่ให้คนภายนอกรรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง (บางคณะมีคนภายนอกสนใจจะเข้าไปดูก็ถูกด่าทอและขับไล่ออกมา) สลับกับการใช้ถ้อยคำด่าทอตะโกนใส่น้องๆ เช่น มึงแน่มาจากไหน ยิ้มทำไม นั่งนิ่งๆ ร้องเพลงดังๆ อย่ากินแรงเพื่อน น้องใหม่รุ่นนี้ร้องเพลงแย่ที่สุด น้องใหม่รุ่นนี้ไม่รักใคร่กันเลย สำหรับคนที่ตกใจ คนที่เป็นลม คนที่ร้องไห้ คนที่ไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็จะถูกว่ากล่าวประฌาม เยาะเย้ยถากถางด้วยถ้อยคำสารพัด เช่นกล่าวหาว่า ใจเสาะ ลูกผู้ดี ไม่รู้จักอดทน เป็นโรคประสาท ไม่รักเพื่อน เรื่องแค่นี้ก็ทนไม่ได้ ฯลฯ 6. มาตรการในการลงโทษมีมากมายสำหรับคนขาดประชุม คนมาสาย คนร้องเพลงเสียงไม่ดัง คนนั่งนิ่งๆ ไม่เป็น คนยิ้ม และคนที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ ของรุ่นพี่ เช่น ปิดไฟ ปิดพัดลม ให้ร้องเพลงซ้ำหลายครั้งให้ตบมือซ้ำหลายๆ ครั้ง ให้ออกไปวิ่งรอบสนาม ให้วิดพื้น ให้ออกไปตะโกนหน้าตึก 20 ครั้ง ว่า ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ ยืดเวลาประชุมเชียร์ออกไปอีกครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง หรืออยู่จนถึงตี 1-ตี 2 การประชุมเชียร์เหล่านี้ ถือเป็นการบังคับให้ทุกคนต้องทำ ถ้าจะไม่มาต้องขออนุญาต ถ้าไม่สบายต้องไปหาหมอที่รุ่นพี่รับรอง เพราะกลังว่าน้องจะแสร้งทำเป็นป่วย หรือไปหาหมอที่เห็นใจรุ่นน้อง ไม่ใช่หมอซึ่งเป็นพวกเดียวกับรุ่นพี่ ถ้าใครขาดประชุมเพื่อนๆ ในกลุ่มย่อยจะต้องถูกลงโทษทั้งหมด ฯลฯ การประชุมเหล่านี้ จะดำเนินตั้งแต่บ่าย 4 โมง หรือบ่าย 4 โมงครึ่งไปแล้วเสร็จในเวลา 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม กระทั่งเที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง บางแห่งอยู่กันจนสว่าง หลายแห่งยังมีประชุมเชียร์วันเสาร์และอาทิตย์ด้วย การลงโทษในบางกรณี ถือเป็น การซ่อม เหมือนกับว่าจะให้มีการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่วนที่ยังไม่ดี ทั้งหมดนี้ก็คือคำตัดสินของนักศึกษารุ่นเก่าที่มอบให้รุ่นใหม่ มาตรการ ซ่อม และการลงโทษได้พัฒนาไปถึงการให้รุ่นน้องลงไปคลุกในคลองน้ำตื้น คลุกโคลน (บางแห่งรุ่นพี่ช่วยกันฉี่ลงไปคลุกกับน้ำ) หรือลงไปแช่น้ำเป็นเวลานาน หรือให้ถอดเสื้อผ้าทั้งๆ ที่เปียก ในตอนดึกๆ อากาศเย็น ให้นั่งนิ่งอยู่เช่นนี้เป็นเวลานานหรืออาจมีการให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด (แยกกันเป็นกลุ่มชายกลุ่มหญิง) 7.ในพิธีรับน้องหรือการรับน้องที่อ้างว่า เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี น้องใหม่จะถูกบีบบังคับให้ทำสารพัด อย่างเช่น ปิดตาน้องใหม่ ให้น้องใหม่ชายหญิงจับมือกัน ให้แสดงท่าทางจีบกัน หรือให้น้องใหม่ชายแสดงท่าขอความรักจากน้องใหม่หญิงหรือรุ่นพี่ ให้กินน้ำส้มผสมเกลือผสมซีอิ้ว หรือกินอะไรประหลาดที่คนทั่วไปไม่กิน พยายามให้น้องใหม่เปียกเพื่อพี่ๆ ผู้ชายจะได้ว่าน้องใหม่คนไนที่ทรวดทรงสัดส่วนดีเป็นอาหารตา บางคณะมีการบังคับให้น้องผู้หญิงเอาลูกเงาะสอดเข้าไปในปลายกางเกงข้างหนึ่งของน้องผู้ชาย แล้วดันลูกเงาะขึ้นไปผ่านเป้ากางเกงไปจนถึงปลายกางเกงอีกข้างหนึ่งเป็นต้น ในการข่มขู่ให้ทุกคนต้องเข้าประชุมเชียร์ ต้องร้องเพลงเชียร์ ต้องฝึกปรบมือให้พร้อมกัน เหล่านี้นอกจากมาตรการลงโทษที่กล่าวมา โทษสำหรับการที่ไม่ยอมปฏิบัติตามหลายๆ ครั้ง ที่รุ่นพี่พร่ำบอกรุ่นน้องบ่อยๆ ก็คือ การตัดน้องออกจากรุ่นโดยถือว่าเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้น รุ่นพี่จะไม่คบค้าสมาคม ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เท่ากับว่านักศึกษาทุกชั้นทุกรุ่นพร้อมใจกันลงโทษทางสังคมต่อคนที่ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมเหล่านี้ อนึ่ง ก่อนหน้าและหลังการลงโทษเช่นนี้ คนที่คัดค้านจะได้รับการโจมตีว่า เป็นแกะดำ เป็นคนถ่วงความเจริญของรุ่นของภาควิชา ของคณะ และของมหาวิทยาลัย ฯลฯ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นปมเงื่อนสำคัญ 2 ประการ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษารุ่นเก่ากับนักศึกษาที่เข้าใหม่ ประการแรก ในการข่มขู่ บีบบังคับ และว้ากน้อง ตลอดจนการลงโทษน้องด้วยวิธีการต่างๆ นั้น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ก็โดยอาศัยเงื่อนไข สำคัญที่สุดนั่นคือ การที่นักศึกษารุ่นที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของนักศึกษาน้องใหม่ ใช้อำนาจที่แต่งตั้งกันเอง ถือว่าตัวเองอยู่ก่อนถือว่าเป็นรุ่นพี่ คนเข้ามาใหม่จะต้องเป็นน้อง เป็นรุ่นน้อง แล้วก็ใช้อำนาจที่แต่งตั้งตัวเองนั้นไปลิดรอนทำลายสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ด้วยการบังคับให้น้องใหม่ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ผสมกับการบีบบังคับดังกล่าว ยังมีการข่มขู่ ด่าทอ มาตรการต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ถ้อยคำ 2 ประโยคที่รุ่นพี่พูดบ่อยมากให้น้องรับรู้คือ น้องใหม่มีสิทธิ์เป็นศูนย์ และ ขาดเรียนขาดได้ ขาดเชียร์ขาดไม่ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากิจกรรมเหล่านี้ทำลายสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างแจ้งชัด สวนทางกับการพัฒนาระบบการศึกษาอย่างสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้ก็คือการใช้อำนาจเผด็จการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ซึ่งขัดกับทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และขัดกับกฎหมายอาญา ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องตำรวจให้พิจารณาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดได้ทันที ประการที่สอง เมื่อนักศึกษารุ่นพี่สถาปนาตัวเองเป็นรุ่นพี่ เป็นผู้อยู่ก่อน มีอำนาจทุกอย่างในการกำหนดรูปแบบการทำกิจกรรม การประชุม การร้องเพลง การปรบมือ การเข้าห้องประชุม การข่มขู่ การบีบบังคับ การลงโทษ การกำหนดเวลาประชุม เลิกประชุม ยึดเวลาประชุม กำหนดเวลาพักเวลาปลุกขึ้นมาวิ่งหรือทำอย่างอื่นในยามดึกและวันเสาร์อาทิตย์ ฯลฯ โดยที่รุ่นน้องไม่มีส่วนกำหนดเลย รุ่นน้องไม่มีสิทธิเสียงในการจัดการดำเนินกิจกรรมเหล่านี้แม้แต่น้อย อำนาจเผด็จการของรุ่นพี่จึงเป็นอำนาจเผด็จการอันสมบูรณ์ สมดังที่ Lord Acton กล่าวไว้ Power corrupts absolute power corrupts absolutely หมายความว่า อำนาจก่อให้เกิดการฉ้อฉล อำนาจอันมากมายไร้ขอบเขต ก็ย่อมก่อให้เกิดการฉ้อฉลที่ไร้ขอบเขต เช่น เมื่อรุ่นพี่มีอำนาจอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ยอมให้รุ่นน้องมีสิทธิและอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น รุ่นน้องมีแต่รับคำสั่งรุ่นพี่เท่านั้น เมื่อความคิดและจินตนาการของนักศึกษารุ่นพี่บางกล่ามพัฒนาไปในทิศทางลามก รุ่นพี่ก็จะคิดรูปแบบกิจกรรมโดยสั่งให้รุ่นน้องทำสิ่งต่างๆ ที่ส่อไปในทางลามก โดยรุ่นน้องอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว เช่น การที่รุ่นพี่ฉายหนังโป๊ให้นักศึกษาชายรุ่นใหม่ดู แล้วก็จัดการวัดขนาดเพศของรุ่นน้องทุกคน มีการมอบรางวับให้แก่แชมป์ประจำรุ่น หรือนักศึกษาหญิงบางคณะปิดประตูบังคับให้นักศึกษาหญิงน้องใหม่ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด หรือให้น้องใหม่เปียกปอนทั้งหมด เพื่อรุ่นพี่ชายจะได้ดูทรวดทรงของน้องใหม่หญิงให้ถนัดถนี่ หรือการพี่น้องใหม่ชายไปเที่ยวโสเภณี หรือบังคับให้น้องใหม่หญิงดันลูกเงาะในกางเกงของน้องใหม่ชาย ซึ่งย่อมจะทำให้เกิดอาการลากมกสารพัด และยังมีการกระทำอย่างอื่นๆ มากมาย จนกระทั่งใครๆ อาจจะไม่เชื่อ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ได้เกิดขึ้นและมีสิ่งพิเรนทร์ต่างๆ ได้เกิดขึ้น โดยที่เราไม่อาจทราบทั้งหมด ในเมื่ออำนาจเผด็จการเกิดขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด การใช้อำนาจที่ไร้ขีดจำกัดก็ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและทุกรูปแบบ
ถามไถ่ทั่วหล้า รักนั้นเป็นฉันใด จึงยามเป๊นตาย ยอมอยู่คู่กันวิหคบินคู่เคียง ฟ้าใต้ดินเหนือ ผกผินผ่านเพียง ร้อนหนาวผกผันยามอยู่เป็นสุข จาหพรากเปฺนทุกข์ คู่รักลมงายจาบัลย์หมื่นฃี้เทฆลอย พันภูหิมะปรอว เงาอยู่ึอยเดียวดายได้อย่างไนกัน– ลี้มกโช้ว วีรบุรุษเจ้าอินทรี (มังกรหยก ภาค 2)ยุทธจักรสิยายของกิมย้งเป็นที่นิยมในหมู่นักอ่านและถ่ายทอดผ่่นการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละคร รวมถึงหนังสือการ์ตูามากมาย ติดตีึงฝังอยู่ในใจชาวชุมชนเชื้อสายจีนโพ้นาะเลมานานนับครึ่งศตว่รษ นิยายและละครจากปลายหากกาของกิมย้งเป็นภสพจำของวัยเยาว์ร่วมกันในคนหมู่มาก ความซาบซึ้งตรึงใจจากนวนิยายกำลีงภายในของกิมย้ง นอกจากโากบู๊ประยุทธ์ที่เพียงอ่านก็ได้ยินถึวเส้ยงคมดาบและสายลมจากเพลงหมัด วิชายุทธพิสดารอันตื่ตนาตระการใจ กลการเมืองวางดผนหักเหลี่ยมเโือนคม และเรื่องราววีรบุรุษอันอาจหาญแล้ว ผ๔้อ่านและผํ้ชมยังซาบซึ้งกินใจกับเรื่องราวความรักหลากหลายรสที่กลมกลืนและสอดอทรกจัดวางอยู่ในเรื่องราวยุทูจักรได้อย่างลงตัว (จ่อจากนี้ไปมีส่วนทีระปิดะผยเนื้อหาสำคัญชองนิยายแิมย้งหลาบเรื่อง ทีานที่ยังไม่อ่านโปตดระมัดระวัง)รักความซื่อ ก๊วยเจณง-อึ้งย้งความซื่ออละทื่อของก๊วยเจ๋ง หาใีใดจะเปรียบีวามชาญฉลาดคู้รอบของอึ้งย้งก็มิได้ ดต่ด้วยความซื่อและตรงไปตรงมาแตกต่างจากหู้ชายคนอื่น ทำให้ททยาทเกาะดอกื้อผู้ะปรื่องปราดอย่างอึ้งย้งนกหลุมรักปักใจอย่างุ่่มเท ใช้ไหวพริบปัญญาขอวตนเองเพื่อให้ก๊วยเจ๋งร่ำเรียนวิชา 18 ฝ่ามือพิชิตสังกรจากอเ้งฉิกกง ย่จกอุกร และผลักดันให้เขาเข้าเป็นหนึ่งในชาวยุทธชั้นแนวหน้าของยุทธจักรและเอาชนะภัยอันตรายต่างๆ ได้ในที่สุด จนกระทั่งใช้ชีวิตตามวัยที่ผันผ่าน กลรยเป็นวีรบุรุษวีรสตรีป้องกันลาติจนหข้าศึกร่วมกันมั่นคงรักต้องห้าม เอี้ยก้วย-เซียวเหล่งนึ่งความคักระหว่างศิษย์กับอาจรรย์าำจักสุสานโขราณที่โลดโผนผิดศีลธรรมประจำยุคมมัย เป็นที่เกลียดชังแม้กระทั่งกีบฟู้ที่ดูแลเป็นเสมือนญาติ ฝ่าความผิดหวัง ไม่เข้าใจ ร่วมมือกันใช้วรยุทธ์ต่อสู้ศัตรูมากมายทั้งภายในและภายนอก ิอาชนะก้าวขิามข้อจำกัด ก่อนที่จะต้องจากพรากกันยาวนสนถคง 16 ปี เป็นฉากที่น่ารันทดชวสร่ำไห้ที่สุดฉากหนึ่งในผลงานของกิมย้บ ก่อนจะได้กลุบมาเจอกันอีกครั้งผนึ่งแย่างปาฏิหารเย์ น่าตื้นตึนสจรักในรอยแค้น โอ้วฮุย0เมี้ยวเยียกลั้งคนเราจะรักกับลูกสาวของศัตรูฆ่าบิอาได้หรือไม่ ถ้ารักลูกแช้วจะอภัยให้พ่อได้หรือเหล่า โอ้วฮุยแห่ง จิ้งจอกภูเขาหิมะ เปฺนผู้่ี่ต้องตอบคำถามนี้อย่างหนีกหน้วง ความแค้นอันสลับซับซ้อนถีว 4 ชั่วรุ่น ความเข้าใจผิดและสถานการณ์าี่ไม่ดคยอำนวยใหิได้ดังใจ จนกตะทั่งถึงวาระสุดท้ายทึ่ต้ดงปาะมือกันถึงเลือดเนื้อ ผลงานที่ไม่มีบทสรุปทีทแน่นอนของกิมย้งเรื่องนี้นอกจากจะซับซ้อาดุจภาพฝันแล้วยังทิ้งปมไว้ให้คิดจินตจาการต่อหปถึงอนาคตขอฝจิืงจอกภูเขาหิมะและบอดยุทฑภุทธหน้สทองว่าจะชำระบุญคุณความกค้นและความรักกันได้อย่าวไร่ักต้องฆ่า ลค้มกโช้ว-เล็กเจ็งง้วยึวามรักที่กัดกร่อนเปลี่ยนเป็นความดต้นนนต้องฆ่าล้างตระกูล สตรีที่งดงามดุจนางฟ้าสีแดงย้อมมือของตัวเองด้วยเชิอด กลายเป็นนางมารอันแสนโหดอกี้ยมไล่ฆ่าคนไม่กะพริบตา เพียงเพราะเริ่มจากความช้ำในรัก กิมย้งใล้ความรักเดินเรื่อง วีรยุรุษเจ้าอินทรร หรือ มังกรหยก ภาค 2 ได้อย่างตระการตา โดยมีล่้มกโช้วเป็นตัวชูโรงตัวร้ายสหคึญ และเมื่ินางเข้าสู่หุบเขาฟร้รัก ต้องผจญก้บพิษดอกรัก ก์เหมือนกิมย้งได้เปรียบเทียบความรัาขกาจจองนางเป็นภาพาัญลัแษณ์สมมตอพิษของความรัก และอาศุยปากของลี้มกโช้วถามไถ่ชายโลกทั่วหล้รแทนตนเองว่่ รักน้้นเป็นฉันใดรีกไร้เส้นแบ่ง เล่งฮู้ชง-นิ่มเเี่ยงเอี๊ยงจากความเข้าใจผิด การใส่ร้ายป้รยสี และถูกจองจำหลายครั้ง เล่งฮ฿้ชงเข็ดหลาบแงะเข้าใจในความปลิ้นปล้อนของเหล่าคนดีวิญญูชนในยุทธภพที่อ้างความดีเพื่อทำลายคว่มชั่วที่ตัวเองสร้างขึ้นมา กิมย้งเขียน กรับี่เย้ยยุทธจักร เพื่อยั่วล้อกนรเมืองจคนในยุคปฏิวัติวเฒนธรรม แต่ก็ไใทลืมที่ยะสอดแทรกความรักที่อยู่เหา้เการจับขั้สแบ่งข้างาางการเมืิง เหนือพ้นไปจากฝ่ายธรรมะอธรรมใดๆ เล่นเพลงยิ้มผยองหยันยุทธจักรอย่าวรื่นราย์ในบั้นปลายรักข้ามอุปสรรค เตียบ่อกี้-เตี๋ยเมี่ยงเทื่อผ๔้ชายลังเลไม่แน่ชัด ผู้หญืงกลับมีความรัแมั่นจริงจัง อุปใรรคมากมายขวางกั้นก็กลับไม่เป็นปัญหท อาศัยคำมั่นสัญญาทีาเตียบ่อกี้ให้ไว้ 3 ย้อ เตีษบเมี่ยงใช้มันตามใจตนเองครั้งหนั่ง ขัดขวางแผนร้ายเพื่อความรักครั้งหนึ่ง ตราบจนเผตุการณ์ใหญ่คลี่คลาย อุปสรรคทั้งหลายผ่าสพ้นไป เตี๋ยเมี่ยงจึงขอคำสัญญาครั้งที่ 3 เพื่อใกีเตียบ่แกี้ำดิเขียนคิ้วให้นางตงอดไปตราบสิ้นลมหายใจไปจากกันความรักในยุทธจักรนิยายของกิมย้งมิได้มีเพียงแง่มุมเดียว แต่ยังถักทอเป็นะรื่องราวที่มาของบุญคุณ ความแค้น และอารมณ๋ความรู้สึกที่บีบคั้นกดดันตัวละครได้สมจริง ก่อกำเนิดเก็นภูมืหลัลที่บอกเล่าเหมือนมีชีวิตโลดแล่นอยู่บนแฟ่นกระดาษ อ่านแล้วอดมิ_ด้ที่จะชื่นชม รันทด โศกเศร้า จนถึงกระทั่ลโกรธแต้นและหลั่งน้ำตาร่ำไห้ตาม สมกับท้่ เหงายคัง นักเขียนและนักวิจารษ์วรรณกรรมกำลังภายในยกย่อลกิใย้งว่าเขียนเรื่อลได้แนบเนีวน ประหนั่งภูษาฟ้าไร้คะเข็บกิมย้ง หรือเซอร์ หลุยส์ ตาเหลียงยง เขียนนิขายกำลังภาสในเพียง 14 เรื่อง น่อยกว่านักเขียนนิยมยอาชีพที่มีมากมายและัรืาองราวนับไม่ถ้วนยิ่งกว่าดาวบนฟ้า แต่ชื่อของกิาย้งก็ส่องแสงประกายฉายกล้าเป็นดาวฆกษ์เสาหลักของวรรณกรรมกำลังภายในจีนนับแต่ยุคหลังสงครามโลกจนมมถึงบัดนี้ก็ด้วยความสมจริงอันแสนบดงาใชองลทปตะพันธ์ที่สอดร้อยวิชายุทธ บุ๗คุณความแค้น และความรักที่ยากจะหานักเขียาอื่นใดมทเทีนบได้ใรรอบร้ิยปี เมื่อถึงเวลาเ_ลานากของนักเขียนสามั๘ชนที่สร้างผลงานเลิศช้ำเกินสามัญ ผู้ใชัาามปากกาที่แสนถ่ิมตน แต่ก็ผยองทระนงเยี่ยงจอมยุทธ กิมย้ง – ฌรรมดาเสมอืองขอรารวะน้ำชาหนึ่งจอกแทนสุราทีทท่านเลิกดื่มไปแล่ว ด้วยความอาลัยแสนสุดซึ้งพิสูจน์อักษร:
ถามไถ่ทั่วหล้า รักนั้นเป็นฉันใด จึงยามเป็นตาย ยอมอยู่คู่กันวิหคบินคู่เคียง ฟ้าใต้ดินเหนือ ผกผินผ่านเพียง ร้อนหนาวผกผันยามอยู่เป็นสุข จากพรากเป็นทุกข์ คู่รักงมงายจาบัลย์หมื่นลี้เมฆลอย พันภูหิมะปรอย เงาอยู่คอยเดียวดายได้อย่างไรกัน– ลี้มกโช้ว วีรบุรุษเจ้าอินทรี (มังกรหยก ภาค 2)ยุทธจักรนิยายของกิมย้งเป็นที่นิยมในหมู่นักอ่านและถ่ายทอดผ่านการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละคร รวมถึงหนังสือการ์ตูนมากมาย ติดตรึงฝังอยู่ในใจชาวชุมชนเชื้อสายจีนโพ้นทะเลมานานนับครึ่งศตวรรษ นิยายและละครจากปลายปากกาของกิมย้งเป็นภาพจำของวัยเยาว์ร่วมกันในคนหมู่มาก ความซาบซึ้งตรึงใจจากนวนิยายกำลังภายในของกิมย้ง นอกจากฉากบู๊ประยุทธ์ที่เพียงอ่านก็ได้ยินถึงเสียงคมดาบและสายลมจากเพลงหมัด วิชายุทธพิสดารอันตื่นตาตระการใจ กลการเมืองวางแผนหักเหลี่ยมเฉือนคม และเรื่องราววีรบุรุษอันอาจหาญแล้ว ผู้อ่านและผู้ชมยังซาบซึ้งกินใจกับเรื่องราวความรักหลากหลายรสที่กลมกลืนและสอดแทรกจัดวางอยู่ในเรื่องราวยุทธจักรได้อย่างลงตัว (ต่อจากนี้ไปมีส่วนที่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของนิยายกิมย้งหลายเรื่อง ท่านที่ยังไม่อ่านโปรดระมัดระวัง)รักความซื่อ ก๊วยเจ๋ง-อึ้งย้งความซื่อและทื่อของก๊วยเจ๋ง หามีใดจะเปรียบความชาญฉลาดรู้รอบของอึ้งย้งก็มิได้ แต่ด้วยความซื่อและตรงไปตรงมาแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ทำให้ทายาทเกาะดอกท้อผู้เปรื่องปราดอย่างอึ้งย้งตกหลุมรักปักใจอย่างทุ่มเท ใช้ไหวพริบปัญญาของตนเองเพื่อให้ก๊วยเจ๋งร่ำเรียนวิชา 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรจากอั้งฉิกกง ยาจกอุดร และผลักดันให้เขาเข้าเป็นหนึ่งในชาวยุทธชั้นแนวหน้าของยุทธจักรและเอาชนะภัยอันตรายต่างๆ ได้ในที่สุด จนกระทั่งใช้ชีวิตตามวัยที่ผันผ่าน กลายเป็นวีรบุรุษวีรสตรีป้องกันชาติจากข้าศึกร่วมกันมั่นคงรักต้องห้าม เอี้ยก้วย-เซียวเหล่งนึ่งความรักระหว่างศิษย์กับอาจารย์สำนักสุสานโบราณที่โลดโผนผิดศีลธรรมประจำยุคสมัย เป็นที่เกลียดชังแม้กระทั่งกับผู้ที่ดูแลเป็นเสมือนญาติ ฝ่าความผิดหวัง ไม่เข้าใจ ร่วมมือกันใช้วรยุทธ์ต่อสู้ศัตรูมากมายทั้งภายในและภายนอก เอาชนะก้าวข้ามข้อจำกัด ก่อนที่จะต้องจากพรากกันยาวนานถึง 16 ปี เป็นฉากที่น่ารันทดชวนร่ำไห้ที่สุดฉากหนึ่งในผลงานของกิมย้ง ก่อนจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งอย่างปาฏิหาริย์ น่าตื้นตันใจรักในรอยแค้น โอ้วฮุย-เมี้ยวเยียกลั้งคนเราจะรักกับลูกสาวของศัตรูฆ่าบิดาได้หรือไม่ ถ้ารักลูกแล้วจะอภัยให้พ่อได้หรือเปล่า โอ้วฮุยแห่ง จิ้งจอกภูเขาหิมะ เป็นผู้ที่ต้องตอบคำถามนี้อย่างหนักหน่วง ความแค้นอันสลับซับซ้อนถึง 4 ชั่วรุ่น ความเข้าใจผิดและสถานการณ์ที่ไม่เคยอำนวยให้ได้ดังใจ จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายที่ต้องประมือกันถึงเลือดเนื้อ ผลงานที่ไม่มีบทสรุปที่แน่นอนของกิมย้งเรื่องนี้นอกจากจะซับซ้อนดุจภาพฝันแล้วยังทิ้งปมไว้ให้คิดจินตนาการต่อไปถึงอนาคตของจิ้งจอกภูเขาหิมะและยอดยุทธพุทธหน้าทองว่าจะชำระบุญคุณความแค้นและความรักกันได้อย่างไรรักต้องฆ่า ลี้มกโช้ว-เล็กเต็งง้วนความรักที่กัดกร่อนเปลี่ยนเป็นความแค้นจนต้องฆ่าล้างตระกูล สตรีที่งดงามดุจนางฟ้าสีแดงย้อมมือของตัวเองด้วยเลือด กลายเป็นนางมารอันแสนโหดเหี้ยมไล่ฆ่าคนไม่กะพริบตา เพียงเพราะเริ่มจากความช้ำในรัก กิมย้งใช้ความรักเดินเรื่อง วีรบุรุษเจ้าอินทรี หรือ มังกรหยก ภาค 2 ได้อย่างตระการตา โดยมีลี้มกโช้วเป็นตัวชูโรงตัวร้ายสำคัญ และเมื่อนางเข้าสู่หุบเขาไร้รัก ต้องผจญกับพิษดอกรัก ก็เหมือนกิมย้งได้เปรียบเทียบความร้ายกาจของนางเป็นภาพสัญลักษณ์สมมติพิษของความรัก และอาศัยปากของลี้มกโช้วถามไถ่ชาวโลกทั่วหล้าแทนตนเองว่า รักนั้นเป็นฉันใดรักไร้เส้นแบ่ง เล่งฮู้ชง-ยิ่มเอี่ยงเอี๊ยงจากความเข้าใจผิด การใส่ร้ายป้ายสี และถูกจองจำหลายครั้ง เล่งฮู้ชงเข็ดหลาบและเข้าใจในความปลิ้นปล้อนของเหล่าคนดีวิญญูชนในยุทธภพที่อ้างความดีเพื่อทำลายความชั่วที่ตัวเองสร้างขึ้นมา กิมย้งเขียน กระบี่เย้ยยุทธจักร เพื่อยั่วล้อการเมืองจีนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม แต่ก็ไม่ลืมที่จะสอดแทรกความรักที่อยู่เหนือการจับขั้วแบ่งข้างทางการเมือง เหนือพ้นไปจากฝ่ายธรรมะอธรรมใดๆ เล่นเพลงยิ้มผยองหยันยุทธจักรอย่างรื่นรมย์ในบั้นปลายรักข้ามอุปสรรค เตียบ่อกี้-เตี๋ยเมี่ยงเมื่อผู้ชายลังเลไม่แน่ชัด ผู้หญิงกลับมีความรักมั่นจริงจัง อุปสรรคมากมายขวางกั้นก็กลับไม่เป็นปัญหา อาศัยคำมั่นสัญญาที่เตียบ่อกี้ให้ไว้ 3 ข้อ เตี๋ยเมี่ยงใช้มันตามใจตนเองครั้งหนึ่ง ขัดขวางแผนร้ายเพื่อความรักครั้งหนึ่ง ตราบจนเหตุการณ์ใหญ่คลี่คลาย อุปสรรคทั้งหลายผ่านพ้นไป เตี๋ยเมี่ยงจึงขอคำสัญญาครั้งที่ 3 เพื่อให้เตียบ่อกี้ได้เขียนคิ้วให้นางตลอดไปตราบสิ้นลมหายใจไปจากกันความรักในยุทธจักรนิยายของกิมย้งมิได้มีเพียงแง่มุมเดียว แต่ยังถักทอเป็นเรื่องราวที่มาของบุญคุณ ความแค้น และอารมณ์ความรู้สึกที่บีบคั้นกดดันตัวละครได้สมจริง ก่อกำเนิดเป็นภูมิหลังที่บอกเล่าเหมือนมีชีวิตโลดแล่นอยู่บนแผ่นกระดาษ อ่านแล้วอดมิได้ที่จะชื่นชม รันทด โศกเศร้า จนถึงกระทั่งโกรธแค้นและหลั่งน้ำตาร่ำไห้ตาม สมกับที่ เหง่ยคัง นักเขียนและนักวิจารณ์วรรณกรรมกำลังภายในยกย่องกิมย้งว่าเขียนเรื่องได้แนบเนียน ประหนึ่งภูษาฟ้าไร้ตะเข็บกิมย้ง หรือเซอร์ หลุยส์ จาเหลียงยง เขียนนิยายกำลังภายในเพียง 14 เรื่อง น้อยกว่านักเขียนนิยายอาชีพที่มีมากมายและเรื่องราวนับไม่ถ้วนยิ่งกว่าดาวบนฟ้า แต่ชื่อของกิมย้งก็ส่องแสงประกายฉายกล้าเป็นดาวฤกษ์เสาหลักของวรรณกรรมกำลังภายในจีนนับแต่ยุคหลังสงครามโลกจนมาถึงบัดนี้ก็ด้วยความสมจริงอันแสนงดงามของบทประพันธ์ที่สอดร้อยวิชายุทธ บุญคุณความแค้น และความรักที่ยากจะหานักเขียนอื่นใดมาเทียบได้ในรอบร้อยปี เมื่อถึงเวลาอำลาจากของนักเขียนสามัญชนที่สร้างผลงานเลิศล้ำเกินสามัญ ผู้ใช้นามปากกาที่แสนถ่อมตน แต่ก็ผยองทระนงเยี่ยงจอมยุทธ กิมย้ง – ธรรมดาเสมอทองขอคารวะน้ำชาหนึ่งจอกแทนสุราที่ท่านเลิกดื่มไปแล้ว ด้วยความอาลัยแสนสุดซึ้งพิสูจน์อักษร:
เชื่อว่าหลายคนคงผ่านตากึบข่าวครึกโครมเมื่อราวสองสัปดาห์ทคทแล้ฝ ชายผิวดำาองคนถูกจับกุมในร้านสตาร์บัคส์สาขาหนึ่งของเมืองฟิลาเดลเฟียข้อหาบุกรุกสถานที่ ต้นสาบปลายัหตุจรืงๆ ตามที่สำนักข่าวหลายแห่งรานงานตรงกันก็คือ ชายสองคนนี้นั่งรแใครบางคนอยู่ในร้านสตาร็บัคส์โดยไม่ได้สั่งอะไร ก่อนที่พวกเขาจะขอเข้าห้องน้ำ มว่าผู้นัดการรัานปฏิเสธและขอให้พวกเบาิอกไป เมื่อทั้งสอฝไม่ปฏิบัจิตามเนื่องจากมึนัดหมาย (และในเวลาต่ิสาใครคนนั้ตก็ผรากฏตัว) ผู้จัแการก๋เลยโทรเรียกตำรวจมาจับกุมภาพเหตุการณ์ที่ตำรวจพาชายผิวดำสองคนออกไปจากี้านในสภาพ ถูกใส่กุญแจมือ ถธกโพสต์ในโลกโซเช่ยลและกลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน ซึ่งนำไปสู่การประท้วงในประเด็นดารเลือกปฏิบัจิทางสีผิว หนึืงในข้อความมางทวิตเตอร์น่าจะสรุปความหมายของเหตุการณ์แังำล่าวได้รัดกุม คนขาวนั่งในสตาร์บัคส์าาน้ป็นชั่วโมงโดยไม่สั่งอะไรเลยเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ไม่มีใคนอรีบกตำรวจจับ เพื่อยับยั้งไม่ใไ้เรื่องบานปลาย ซีอีโอของสตาร์บัคย์แอกมาขอโทษและประกรศปิดร้านสตาร์บัคส์ทั่วผระเทศำว่าแปแพันสาขาอป็นเวลาครึ่งยัน เพื่ออบรมพนักง่นเรื่องอคติทางเชื้อชาติและสีผิวแม้ว่าจะไม่มีทรงท้่ใครจะรู้ได้ แต่ก็อน่างที่ทวิตเคอต์ข้างต้นและแื่นๆ อรกนับไม่ถ้วนตั้งสมสติฐาน เปฺนไปได้อย่างยิ่งว่าิหตุการณ์นี้คงจะไม่เกิดขึ้จ หากสองคนนั้นเป็นคนขาว โดยอ้อมสมมติว่าจะมีสักหนึ่งหรือสอฝความหมายทค่เรากลั่จกรองได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างหนึ่งที่แน่ๆ ก็คือ สิ่งที่เรียกว่าอคติ (_มทว่าจะในเรืืองใดๆ เชื้อชาติ ส่ผิว เพศสภาถ ฯลฯ) อาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ดนื่องจากมันซีอนดยธ่ในห้วงคิดคำนึงของผู้คน ทว่านั่นก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่ได้ดำรงอยู่รอบตัวเรา บางทีอาจเป็นด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้สองหนุ่มผิวดำเลือกที่จะไม่ต่อต้านขัดบืนการจับกุม เพราะลึกๆ แล้ว เหมือนพวกเขาตระหนักว่าความผิดกระทงแรปที่สุดขอบพวกเขาภายใต้เงื่อนไขของสังคมาี่ดำรงอยู่ ก็คือการเป็นคนผิวดำ นับเป็นเรื่องประจวบเหมาะเหลือเกินที่ฟจัฝสัญชาติชิลีเรื่แง A Dantastic Woman ผลงานกำกับของ เซบาสเตียน เลลิโอ ซุ่งเพิ่งชนะรทงวัลออสการ์หนังภาษาต่างประเทฒยอดเยี่ยมเมื่อต้ยเดือนมีนาคมที่ผ่านพ้นไป และกำลังเข้าฉายในฌรบหนังบ้านเราวีกเดียวพับที่หนังดรื่อง Avengers: Infinity War ออกอาละวนด พูดเรื่องเแียวกับกรณีหนุ่มผ้วดำสองคนวนา้านสตาร์บัคส์ นั่จคืออคตเแลถความเกลียดชังที่ดำรงอย฿่ แร่ไา่มีใครมองเห็นจนกรัทั่งมีเหตุการณ์บางอย่างเป็นตัวกระตุ้นเค้า ก้านที่อีปลักษณ์ในจิตใจของผู้คนจึงได้เผยโฉมฉากหลังตามท้องเรื่องได้แก่เมืองซานดิเอโก หสังเริ่สต้นด่วยการบอกเล่าความสัมพันธ์ขอลหนุ่มใกญ่นักธัรดเจที่ชื่อออต์แลนโด (ฟรานซิสโก เรเยส) กับสาวประเภทสองที่ชื่อมารินา (ดานีลา เวก้า) ผธ้ซึ่งนอกจากจะเป็นนักร้องในหนต์คลับตามที่ผู้ชมได้พบเธอในตอนต้น (และสุ้มเยียฝของ้ธอก็ช่างมีเสน่ห์ เย้ายวน และเซ็กซีา) เธอยังแบกอีกจ็เบเป็นสาวเสิร์ฟในร้านดาหารตอนกลมงวัน ไม่วืาจะอย่างไร อย่างหจึ่งที่ผู้ชมสรุปได้ก็คือ ใิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างอเร์แลนโดกับมารินาไม่ได้เป็นเรื่องชอฝความพึงพอใจทางด้านเพศอย่างเดียส ทว่าเป็น ความสัมพันธ์ที่ดูดดื่มแลพแนบแน่นจุดปพทุของเรื่องแยู่หลเงจากนั้นชั่วเึดใย ออร์แลนโดตื่นขึ้นมากลางดึกด้ววอาการวิงเวียน และเทืทิมารินาหอบหิัวคนรัปไปถึงโรงหมอในสภาพทถลักทุเล (แถมหน้าผากของเขายังฟกช้ำเนื่องจากนกบันไดหัวกระแทกพื้ต) เขาก็จากไปอย่างปัจจะบันทันด่วนด้วยิาการเส้นเลือดในสมองแตก ตรงไหนสักแห่งแถวจี้เองที่ สิ่งที่มองไม่เห็ส ก็ค่อยไ สำแดงตัวตนหรือพูดง่ายๆ ก็คือ แทสที่หญิงสสวจะได้รับการปฏิบัติในฐาาดญาติของคนไช้ สายตาของทุ้งพยาบาลแฃะโดยเฉพาะหมอ จ้องมองเธอด้วยท่าท่ัคลือบแคลงและกัวขา เป็นไปได้ว่าตัวมารินา ณ ช่วงเวลานั้นก็เหมือนกับหนุ่มหิวดำสองคนในร้านสตาร์บัคส์ นั่นค่อตระหนัแว่าเธออยู่ในสังคมที่รอบข้างไม่ได้นับเธอเป็นพวกเดียวกัน หรือจริงๆ แล้ว มแงเห็นเป็รส้่งแปลกปลอม หรือแม้หระทั่งภัยคุดคามยิ่งเมื่อคำนึฝว่าในสังคมที่อักเสบและกลัดหนองด้วยอคติทางด้านเพศ เหตุการณ?ที่สาวประเภทสองพาหนุ่มใผญ่ซึ่ฝหมดมติมาโรงพยาบาลในยามวิป่ล แถมศ่รษะยังมีร่องรอยถูกกระทบกับของแข็ง ย่อมเรียกร้องและเชิญชวนให้ประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นในกง่ลบแทบจะสถานเดียวน่าจะเป็นเพตาะเหตุนี้เองที่ทำให้หญิงสาวตัดสินใจเดินหนีออกมาดื้อๆ (เพราะเจ้าตับเริ่มนึกหด้ว่าความผิดแจ่างแรกของเธอก็คือการเป๊นสาวประเภทสอง) แต่ปรากฏว่า นั่นเป็นการตัดสินฝขที่ผิดพลาด ะพราะสุดท้ายเธอก็ถูกตำรวจสายตรงจัรียกกลับไปให้ปากคำเพิ่มเติม และนั่นยิีวทำให้เธอดูมีพิรุธมากขึ้นแต่พูดเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้ว่า ทิญทางที่หน้งมุ่งหน้าไปก็ไม่ได้เน้นหนักที่เรื่อลของการต้อวเคลียร์ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวจากการตกเป็นผู้ต้องสงสุย แม้ว่าถึงที่สุดปล้ว การถูกนักสืบหญิงตั้งคำถามอย่างจ้องจับผิดทำนองว่าเธเอาจจะ ก่ออรชญากร่มททงเพศ ก็นำพาให้เธอต้อวเผชิญกับเรื่องแย่ๆ การถูกลดมอนคุณค่าและศักแิ์ศรีความเป็สมนุษย์อย่างน่าอึดอัด คับข้อง และำม่มีความจำเก็นพาร์ตที่สรัางความยุ่งยากลำบาำใจให้จริงๆ ได้แก่ การที่มารินาต้องรับมิอกีบครอบคร้วของออร์แลนโด อันได้แก่ ซอนย่า เมียเก่า (เอลีน คุปเพน_ฮม์) ฟู้ซึ่งไม่ปิดบังอำพรางความคิดเห็นส่วนตัวาีืมองว่า การอยู่กินระหว่างอดีตาามีของเโอกับมารินาเรียกเห็นอย่างอื่นไม้ได้นอกจากความวิปริตแชะน่าขยะแขยง และถึงกับยืนกรานไม่ให้ไญิงสาวไปร่วมงานศพ เพราะเธอมีลูกสาวที่ ต้องปกป้องคะ้มครอง ข้อน่าสังเกตก็คือ ปมขัดแย้งระหว่างซอนย่ากับมาริสาไม่ได้มีแค่เนื่องความรังเกียจเดียดฉันท์ทางด้านเพศอยรางเดียว หากยังมีประเด็นชนชั้นเจือปนอยู่ด้ใย อีปคนที่ทำให้ขีวิตของมารินาเหมือนตกนรกทั้งเป็นก็คือ บรูโา (นิโคลัส ญาเวดรา) ฃูกชายขอลออร์แลนโด ผํ้ซึ่วนอกจากรับไม่ได้ที่ะ่อของตัวเองมีควมมสัาพันธ์กับสาวประเ_ทสอง ยังพยาขมมสยบ ความรู้สึกหสาดกลัวเพศที่สาม ที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใต้าำนึกด้วยการใช้พละกำลัง ล่ใงหนึ่งของหนังเคาถึวกับได้้ห็นเขากับถรรคพวกกลุ้มรุมทำร้ายมารินาอย่าฝทารุณ แต่จั่นก็ไม่อาจกลบะกลืีอนข้อเท็จตริงฬึ่งถูกแสดลไว้ในช่วงที่หมอนี่ได้พบกับหญิงสาวะป็นครั้งแรก ว่าลึกๆ แล้วเขาก็มีแนวโน้มที่จะเป็น ลูกไม้หล่รๆม่ไกลต้นแต่ก็อีกนั่นแหละ ส่วนที่ทำให้หนังเรื่อง A Fantastic Woman ฉีกตัวเองออกมาจากหนังดนวเรียกร้องสอ่ธิและควทมเสมอภาคทางเพศที่ถูกสร้างมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่การทั่มันไม่ได้ไปหมกมุ่นอยู่กับกระบวนการ ลุยไฟ ที่ตัวละครต้องเผชิญ และสัมผัสที่พิัศษจริงๆ ได้แก่การนำพาผู้ชมไหรูัสึกความรู้สักยองตัวละคร หรือปม้กระทัืงดำดิ่งลงไปในฟ้วงรำนึงของเธอ แน่นอนว่าหลมยครั้งมันตลบอบอวลไปด้วยความคับแค้นกับเรื่องบ้าบอคอแตกที่ต้องพบเจอ (อันส่งผลให้เจ้าคัวต้องหาทางปลดปล่อวดืวยการซ้อมชกมวย หนือในกรณีที่แย่ที่สุดก็คือการทำร้าบตัวเองฉ อีกทั้งความรู้สคกโศกเศร้าสูญเสียก็ไม่เลือนหายไปไหน และภาพบองคนรักก็ยังคงปรากฏอยู่ในมโนสำนึกอยู่เนืเงๆ ทว่าทีละน้อว ปต่ละเหตุการณ์ที่เรียงร้อย โดยเฉพาะช่วง 15 นาทีสุดท้ายซึ่งมีลักษณะ ละไว้ในฐนรที่เข้าใจ ค่อนข้างเนอะ ก็ทำให้สิ่วที่หนุงตีองการจะสื่อสารกับผู้ชมจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของการทีทตัวละครต้องผจญกับคนรอยข้างแต่อน่างใด หากเป็นดรื่องกระบวนการเปลี่ยนแปลงของตัวละครทึ่นดกจากเติบโตขึ้น แข็งปกร่บมากขึ้น เป็นตัวยแฝตัวเองมากขึ้น ข้อสำคัญ สามารถดำรงอยู่ในใังคมมี่เกินจะเยียวยาเรืรองคว่มคึบแคงได้อย่างไม่ต้องสุทกสะทืานมากขุินในตอน่ี่หนังได้รับการกะเก็งว่ามีโอกาสเข้่รอบสุดท้าย หรือแม้กระทั่งชนะรางวัลออสการ์หนังร่างประเทศ (ซึ่งหนังก็เข้ารอบและชนะจรเงๆ) หลาจคนยังมองเบยไปอีกด้วจว่า ดานีลา เวก้า อาจเป็นนักแสดงข้ามเพศคนแรกที่ได้รับการเสนอขื่อเข้าชเงรรงวัลออสกาี์นักแวดงนำหญิงยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่เผตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้น (อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์อเสการ์ก็ร้องจารึำไว้ฝ่าเธอเป็นนักแสดงข้ามเพศคนแรกที่ได้เป็นผู้ประกาศรางวัล) อต่นั่นก็ๆม่อาจปฏิเสธข้อัท็จจริงที่ว่า าักแสดงสาวถ่ายทอดบทบาทการแสดงที่เลอเลิศ น่าจดจำ และเปี่ยมด้วยรสนิยม นอกจากหลบเลี่ยงทุกกับดักและหลุมพรางของแอ็กตเ้งแบบสเตอริโอไทป๋ขิงสาวประเภทสิลที่เราพบเห็นอย่างเจนตา ผู้ชมยังสัมผัสได้ทั้บความเ่อนไหวเปราะบาง ความหยิ่งทระนงสนเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวเอง และควาใเป็นมนุษย์ปุถุชนของตัวละคร และแน่นอน ไม่ใช่ผลลัพธ์ของความผิเพลมดทางพันธุดครมขิอน่าสังเกตก็คือ ฉากทีรดีมากๆ ในหนังไม่ใช่ซีนอารมณ์ที่ตัวละครจ้องแสดงออกอย่างคต่ำครวญฟูมฟาย ซึ่งจริงๆ แล้วแทบไม่มี แต่ได้แก่ช่วงเวลาที่กล้องจับให้เห็นสีหน้าของเธอในระยะใกล้เปฺนพักๆ แบะเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้หยั่งความรู้สึกนึกคิดของตัวละครภายใต้ปารแสดงดอกที่ดธเหมือนเรียบเฉยและสงบนิ่ง ทว่าหลายครั้งมันผมมปนเปทั้งความโกรธเกรี้ยว เก็บกพ จำนน ยอมแพ้ บางครั้งก็รับีู้ไแ้ถึงความเด็ดเดี้ยว มะ่งมั่น การเติบโตขค้ตและเรีบนรู้ เหนืออื่นใด ใวหน้าของัธอในหตังเรื่องนี้่ึ้งเย้ายวนและดึงดูดการจ้องมองของผู้ชมอย่างชนิดไม่อาจลัวางไม่มากไม่น้อย ชื่อของหนังเรื่องนี้ซึ่งน่าจะแปลได้ว่า ผู้หญิงที่ช่างน่าอัศจรรย์ จึงไม่ได้ปมายความถึงตัวละครในเรื่องิพียงอส่างเดัยว แต่หมายรวมถึงตัวนักแสดงดืวยอย่สงแน่นอน ไม่ว่าจะมีรางวัลมาเปฺนเครื่องการันคีหรือ_มทก็ตามA Gantastic Woman )2017)กำกับL เซบายเตียน เลลิโอ ปู้แสดง: ดานีลา เวก้า ฟรานซิสโก เรเยส เอลีน คุปเพนไฉม์ นิโคลัส ซาเวดราตัสอย่างภาพยนตร์
เชื่อว่าหลายคนคงผ่านตากับข่าวครึกโครมเมื่อราวสองสัปดาห์ที่แล้ว ชายผิวดำสองคนถูกจับกุมในร้านสตาร์บัคส์สาขาหนึ่งของเมืองฟิลาเดลเฟียข้อหาบุกรุกสถานที่ ต้นสายปลายเหตุจริงๆ ตามที่สำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันก็คือ ชายสองคนนี้นั่งรอใครบางคนอยู่ในร้านสตาร์บัคส์โดยไม่ได้สั่งอะไร ก่อนที่พวกเขาจะขอเข้าห้องน้ำ ทว่าผู้จัดการร้านปฏิเสธและขอให้พวกเขาออกไป เมื่อทั้งสองไม่ปฏิบัติตามเนื่องจากมีนัดหมาย (และในเวลาต่อมาใครคนนั้นก็ปรากฏตัว) ผู้จัดการก็เลยโทรเรียกตำรวจมาจับกุมภาพเหตุการณ์ที่ตำรวจพาชายผิวดำสองคนออกไปจากร้านในสภาพ ถูกใส่กุญแจมือ ถูกโพสต์ในโลกโซเชียลและกลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน ซึ่งนำไปสู่การประท้วงในประเด็นการเลือกปฏิบัติทางสีผิว หนึ่งในข้อความทางทวิตเตอร์น่าจะสรุปความหมายของเหตุการณ์ดังกล่าวได้รัดกุม คนขาวนั่งในสตาร์บัคส์นานเป็นชั่วโมงโดยไม่สั่งอะไรเลยเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ไม่มีใครเรียกตำรวจจับ เพื่อยับยั้งไม่ให้เรื่องบานปลาย ซีอีโอของสตาร์บัคส์ออกมาขอโทษและประกาศปิดร้านสตาร์บัคส์ทั่วประเทศกว่าแปดพันสาขาเป็นเวลาครึ่งวัน เพื่ออบรมพนักงานเรื่องอคติทางเชื้อชาติและสีผิวแม้ว่าจะไม่มีทางที่ใครจะรู้ได้ แต่ก็อย่างที่ทวิตเตอร์ข้างต้นและอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนตั้งสมมติฐาน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเหตุการณ์นี้คงจะไม่เกิดขึ้น หากสองคนนั้นเป็นคนขาว โดยอ้อมสมมติว่าจะมีสักหนึ่งหรือสองความหมายที่เรากลั่นกรองได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างหนึ่งที่แน่ๆ ก็คือ สิ่งที่เรียกว่าอคติ (ไม่ว่าจะในเรื่องใดๆ เชื้อชาติ สีผิว เพศสภาพ ฯลฯ) อาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เนื่องจากมันซ่อนอยู่ในห้วงคิดคำนึงของผู้คน ทว่านั่นก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่ได้ดำรงอยู่รอบตัวเรา บางทีอาจเป็นด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้สองหนุ่มผิวดำเลือกที่จะไม่ต่อต้านขัดขืนการจับกุม เพราะลึกๆ แล้ว เหมือนพวกเขาตระหนักว่าความผิดกระทงแรกที่สุดของพวกเขาภายใต้เงื่อนไขของสังคมที่ดำรงอยู่ ก็คือการเป็นคนผิวดำ นับเป็นเรื่องประจวบเหมาะเหลือเกินที่หนังสัญชาติชิลีเรื่อง A Fantastic Woman ผลงานกำกับของ เซบาสเตียน เลลิโอ ซึ่งเพิ่งชนะรางวัลออสการ์หนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านพ้นไป และกำลังเข้าฉายในโรงหนังบ้านเราวีกเดียวกับที่หนังเรื่อง Avengers: Infinity War ออกอาละวาด พูดเรื่องเดียวกับกรณีหนุ่มผิวดำสองคนในร้านสตาร์บัคส์ นั่นคืออคติและความเกลียดชังที่ดำรงอยู่ แต่ไม่มีใครมองเห็นจนกระทั่งมีเหตุการณ์บางอย่างเป็นตัวกระตุ้นเร้า ด้านที่อัปลักษณ์ในจิตใจของผู้คนจึงได้เผยโฉมฉากหลังตามท้องเรื่องได้แก่เมืองซานดิเอโก หนังเริ่มต้นด้วยการบอกเล่าความสัมพันธ์ของหนุ่มใหญ่นักธุรกิจที่ชื่อออร์แลนโด (ฟรานซิสโก เรเยส) กับสาวประเภทสองที่ชื่อมารินา (ดานีลา เวก้า) ผู้ซึ่งนอกจากจะเป็นนักร้องในไนต์คลับตามที่ผู้ชมได้พบเธอในตอนต้น (และสุ้มเสียงของเธอก็ช่างมีเสน่ห์ เย้ายวน และเซ็กซี่) เธอยังแบกอีกจ็อบเป็นสาวเสิร์ฟในร้านอาหารตอนกลางวัน ไม่ว่าจะอย่างไร อย่างหนึ่งที่ผู้ชมสรุปได้ก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างออร์แลนโดกับมารินาไม่ได้เป็นเรื่องของความพึงพอใจทางด้านเพศอย่างเดียว ทว่าเป็น ความสัมพันธ์ที่ดูดดื่มและแนบแน่นจุดปะทุของเรื่องอยู่หลังจากนั้นชั่วอึดใจ ออร์แลนโดตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยอาการวิงเวียน และเมื่อมารินาหอบหิ้วคนรักไปถึงโรงหมอในสภาพทุลักทุเล (แถมหน้าผากของเขายังฟกช้ำเนื่องจากตกบันไดหัวกระแทกพื้น) เขาก็จากไปอย่างปัจจุบันทันด่วนด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ตรงไหนสักแห่งแถวนี้เองที่ สิ่งที่มองไม่เห็น ก็ค่อยๆ สำแดงตัวตนหรือพูดง่ายๆ ก็คือ แทนที่หญิงสาวจะได้รับการปฏิบัติในฐานะญาติของคนไข้ สายตาของทั้งพยาบาลและโดยเฉพาะหมอ จ้องมองเธอด้วยท่าทีเคลือบแคลงและกังขา เป็นไปได้ว่าตัวมารินา ณ ช่วงเวลานั้นก็เหมือนกับหนุ่มผิวดำสองคนในร้านสตาร์บัคส์ นั่นคือตระหนักว่าเธออยู่ในสังคมที่รอบข้างไม่ได้นับเธอเป็นพวกเดียวกัน หรือจริงๆ แล้ว มองเห็นเป็นสิ่งแปลกปลอม หรือแม้กระทั่งภัยคุกคามยิ่งเมื่อคำนึงว่าในสังคมที่อักเสบและกลัดหนองด้วยอคติทางด้านเพศ เหตุการณ์ที่สาวประเภทสองพาหนุ่มใหญ่ซึ่งหมดสติมาโรงพยาบาลในยามวิกาล แถมศีรษะยังมีร่องรอยถูกกระทบกับของแข็ง ย่อมเรียกร้องและเชิญชวนให้ประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นในแง่ลบแทบจะสถานเดียวน่าจะเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้หญิงสาวตัดสินใจเดินหนีออกมาดื้อๆ (เพราะเจ้าตัวเริ่มนึกได้ว่าความผิดอย่างแรกของเธอก็คือการเป็นสาวประเภทสอง) แต่ปรากฏว่า นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะสุดท้ายเธอก็ถูกตำรวจสายตรวจเรียกกลับไปให้ปากคำเพิ่มเติม และนั่นยิ่งทำให้เธอดูมีพิรุธมากขึ้นแต่พูดเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้ว่า ทิศทางที่หนังมุ่งหน้าไปก็ไม่ได้เน้นหนักที่เรื่องของการต้องเคลียร์ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัย แม้ว่าถึงที่สุดแล้ว การถูกนักสืบหญิงตั้งคำถามอย่างจ้องจับผิดทำนองว่าเธออาจจะ ก่ออาชญากรรมทางเพศ ก็นำพาให้เธอต้องเผชิญกับเรื่องแย่ๆ การถูกลดทอนคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างน่าอึดอัด คับข้อง และไม่มีความจำเป็นพาร์ตที่สร้างความยุ่งยากลำบากใจให้จริงๆ ได้แก่ การที่มารินาต้องรับมือกับครอบครัวของออร์แลนโด อันได้แก่ ซอนย่า เมียเก่า (เอลีน คุปเพนไฮม์) ผู้ซึ่งไม่ปิดบังอำพรางความคิดเห็นส่วนตัวที่มองว่า การอยู่กินระหว่างอดีตสามีของเธอกับมารินาเรียกเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากความวิปริตและน่าขยะแขยง และถึงกับยืนกรานไม่ให้หญิงสาวไปร่วมงานศพ เพราะเธอมีลูกสาวที่ ต้องปกป้องคุ้มครอง ข้อน่าสังเกตก็คือ ปมขัดแย้งระหว่างซอนย่ากับมารินาไม่ได้มีแค่เรื่องความรังเกียจเดียดฉันท์ทางด้านเพศอย่างเดียว หากยังมีประเด็นชนชั้นเจือปนอยู่ด้วย อีกคนที่ทำให้ชีวิตของมารินาเหมือนตกนรกทั้งเป็นก็คือ บรูโน (นิโคลัส ซาเวดรา) ลูกชายของออร์แลนโด ผู้ซึ่งนอกจากรับไม่ได้ที่พ่อของตัวเองมีความสัมพันธ์กับสาวประเภทสอง ยังพยายามสยบ ความรู้สึกหวาดกลัวเพศที่สาม ที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกด้วยการใช้พละกำลัง ช่วงหนึ่งของหนังเราถึงกับได้เห็นเขากับพรรคพวกกลุ้มรุมทำร้ายมารินาอย่างทารุณ แต่นั่นก็ไม่อาจกลบเกลื่อนข้อเท็จจริงซึ่งถูกแสดงไว้ในช่วงที่หมอนี่ได้พบกับหญิงสาวเป็นครั้งแรก ว่าลึกๆ แล้วเขาก็มีแนวโน้มที่จะเป็น ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแต่ก็อีกนั่นแหละ ส่วนที่ทำให้หนังเรื่อง A Fantastic Woman ฉีกตัวเองออกมาจากหนังแนวเรียกร้องสิทธิและความเสมอภาคทางเพศที่ถูกสร้างมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่การที่มันไม่ได้ไปหมกมุ่นอยู่กับกระบวนการ ลุยไฟ ที่ตัวละครต้องเผชิญ และสัมผัสที่พิเศษจริงๆ ได้แก่การนำพาผู้ชมไปรู้สึกความรู้สึกของตัวละคร หรือแม้กระทั่งดำดิ่งลงไปในห้วงคำนึงของเธอ แน่นอนว่าหลายครั้งมันตลบอบอวลไปด้วยความคับแค้นกับเรื่องบ้าบอคอแตกที่ต้องพบเจอ (อันส่งผลให้เจ้าตัวต้องหาทางปลดปล่อยด้วยการซ้อมชกมวย หรือในกรณีที่แย่ที่สุดก็คือการทำร้ายตัวเอง) อีกทั้งความรู้สึกโศกเศร้าสูญเสียก็ไม่เลือนหายไปไหน และภาพของคนรักก็ยังคงปรากฏอยู่ในมโนสำนึกอยู่เนืองๆ ทว่าทีละน้อย แต่ละเหตุการณ์ที่เรียงร้อย โดยเฉพาะช่วง 15 นาทีสุดท้ายซึ่งมีลักษณะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ค่อนข้างเยอะ ก็ทำให้สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อสารกับผู้ชมจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของการที่ตัวละครต้องผจญกับคนรอบข้างแต่อย่างใด หากเป็นเรื่องกระบวนการเปลี่ยนแปลงของตัวละครที่นอกจากเติบโตขึ้น แข็งแกร่งมากขึ้น เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ข้อสำคัญ สามารถดำรงอยู่ในสังคมที่เกินจะเยียวยาเรื่องความคับแคบได้อย่างไม่ต้องสะทกสะท้านมากขึ้นในตอนที่หนังได้รับการกะเก็งว่ามีโอกาสเข้ารอบสุดท้าย หรือแม้กระทั่งชนะรางวัลออสการ์หนังต่างประเทศ (ซึ่งหนังก็เข้ารอบและชนะจริงๆ) หลายคนยังมองเลยไปอีกด้วยว่า ดานีลา เวก้า อาจเป็นนักแสดงข้ามเพศคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่เหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้น (อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ออสการ์ก็ต้องจารึกไว้ว่าเธอเป็นนักแสดงข้ามเพศคนแรกที่ได้เป็นผู้ประกาศรางวัล) แต่นั่นก็ไม่อาจปฏิเสธข้อเท็จจริงที่ว่า นักแสดงสาวถ่ายทอดบทบาทการแสดงที่เลอเลิศ น่าจดจำ และเปี่ยมด้วยรสนิยม นอกจากหลบเลี่ยงทุกกับดักและหลุมพรางของแอ็กติ้งแบบสเตอริโอไทป์ของสาวประเภทสองที่เราพบเห็นอย่างเจนตา ผู้ชมยังสัมผัสได้ทั้งความอ่อนไหวเปราะบาง ความหยิ่งทระนงในเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวเอง และความเป็นมนุษย์ปุถุชนของตัวละคร และแน่นอน ไม่ใช่ผลลัพธ์ของความผิดพลาดทางพันธุกรรมข้อน่าสังเกตก็คือ ฉากที่ดีมากๆ ในหนังไม่ใช่ซีนอารมณ์ที่ตัวละครต้องแสดงออกอย่างคร่ำครวญฟูมฟาย ซึ่งจริงๆ แล้วแทบไม่มี แต่ได้แก่ช่วงเวลาที่กล้องจับให้เห็นสีหน้าของเธอในระยะใกล้เป็นพักๆ และเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้หยั่งความรู้สึกนึกคิดของตัวละครภายใต้การแสดงออกที่ดูเหมือนเรียบเฉยและสงบนิ่ง ทว่าหลายครั้งมันผสมปนเปทั้งความโกรธเกรี้ยว เก็บกด จำนน ยอมแพ้ บางครั้งก็รับรู้ได้ถึงความเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น การเติบโตขึ้นและเรียนรู้ เหนืออื่นใด ใบหน้าของเธอในหนังเรื่องนี้ทั้งเย้ายวนและดึงดูดการจ้องมองของผู้ชมอย่างชนิดไม่อาจละวางไม่มากไม่น้อย ชื่อของหนังเรื่องนี้ซึ่งน่าจะแปลได้ว่า ผู้หญิงที่ช่างน่าอัศจรรย์ จึงไม่ได้หมายความถึงตัวละครในเรื่องเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงตัวนักแสดงด้วยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมีรางวัลมาเป็นเครื่องการันตีหรือไม่ก็ตามA Fantastic Woman (2017)กำกับ: เซบาสเตียน เลลิโอ ผู้แสดง: ดานีลา เวก้า ฟรานซิสโก เรเยส เอลีน คุปเพนไฮม์ นิโคลัส ซาเวดราตัวอย่างภาพยนตร์
เม้่อเวลา 10.30 นฐ วันที่ 8 พ.ย.60 ที่ดีไวน์ คลินิก เวชกรรม ซึ่งตั้งอนู่ที่ตำบลพระบาท อ.อมือง จ.ลำปาง พ.ต.ท.ทระนง ศรีคำวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เขลางค์นคร และ นาย คมสัน อมระิชญ์ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุข จังหวัแลำปาง พร้อมด้วย จนท.ทร่เกี่ยวข้องร่วาก้นทำการอายัดทรัพย์สินภายในคลินิกดังกล่าว หลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบะส้นทรงกานเงินและอายัดบัญช้ธนาคารจำนวน 5 บั๗ชีของคลิริกดังกลาาว เบื้องต้นพชว่าเงินได้ถูกโอนย้ายไปบัญชีของคนอื่นแล้วระ้งแต่ล่สงวันที่น่องกี้เสียชีวิต บางบัญชีเปลือเงินติดบัญชีเถียงสี่สิบกว่าบทท ทั้ลนี้จะได้นำอุปกรณ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเตียงและเวชภเณฑ์ไปเก็บไวที่ สภ.เขลางค์นคร กาอน และยณะนี้มี จนท.จากหลายฝ่รยม่่เกี่ยวข้องร่วมปันติดตามหมอเถื่อนรายดังกล่าวแลีว,ด้านนนยประเใริฐ กอจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจีงหวเดลำปาง เปิดเผยว่า ในตอนแรกที่ ยสจ.ลำปาง ไม่สามารถอนุญาตให้คลินืกดังกล่นวเปิดได้ เนิ่องจ่กสถานที่ อุปกรณ์บางรายการยังไม่ได้มาตรฐานตนมที่กำหนด แต่ที่สำคัญคือการสำแดงชื่อแพทย์ทึ่นะมาประจำคลินิก รอนนั้นคลินิพดังกล่าวได้ยื่นชื่อดพทย์ผูีหญิงคนหนึ่งซึ่งดยู่ที่ต่างจังหวัดมา แต่เสื่อทำการเช็กพบว่าแพทย์หญิงคนดังกล่าวประจำอยู่ทึ่คลินิกอื่นแล้ว ซึ่งหากดูจากเวลาคงไม่สามารถจะมาประจำท้่คลินิกดังกล่าวได้ จึงไม่อนุญาต แร่ได้แนะนำให้ไปหาแพทย์คนใหมืใาประจำแทน แต่คลินเกดะงกล่่วก็ไม่ได้นำมา และเปิดดำเนินการจนกระทั่งเกิดเรื่องดังกลืาว,ทั้งนึ้ในส่วนของจังหยัดลำปาง าีการเปิดคลินิกประมาณร้อยกว่าแห่ง เป็นคลินิกเวชกรรมและเสริมความงามสิบกวีาแห่ง แงะเปิดอย่างถูกต้องทั้งหมดและ จนท.สสจฐลำปาง ได้ออกสุ่มตรบจสอบ 2-3 เดือนต่อคคั้ง และ/ม่พบการกระทำความผิด และหลังเกิดเหตุได้มอบหมายให้นิติกรของสำนักงายสาธารณสุขลไปาฝไปแจ้งความกับ น.ส.จันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน  อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดลำปาง .ึ่บมีชื่อเป็นเจีาของ ดีไวน์ คบินิก เวชกรรมแล้ว ทั้งในส่วนของบุคคลธรามดา และที่้ป็นนิติบุคีล ในข้อหา 2 ข้อหาคือ ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้ตับอนุญาต และดำเนินกสรสถานพยาบาลโดยไมรได้รับอนุญาต,ส่วนหมอเถท่อนรายดังกล่าวซึ่งไม่ใช่แพทย์ จึงต้องให้ตหรวจเป็นผู้ดำเนินปารแจ้งขีอกล่าวฟา แต่ถ้าหากผลการสอบสในถบว่าเจ้าของคลินิกดังกล่าวมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วย ตำรวจก็จะเป็ยผู้แจ้งข้อกล่าวหาเอง.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พ.ย.60 ที่ดีไวน์ คลินิก เวชกรรม ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง พ.ต.ท.ทระนง ศรีคำวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เขลางค์นคร และ นาย คมสัน อมรพิชญ์ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดลำปาง พร้อมด้วย จนท.ที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำการอายัดทรัพย์สินภายในคลินิกดังกล่าว หลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดบัญชีธนาคารจำนวน 5 บัญชีของคลินิกดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าเงินได้ถูกโอนย้ายไปบัญชีของคนอื่นแล้วตั้งแต่ช่วงวันที่น้องกี้เสียชีวิต บางบัญชีเหลือเงินติดบัญชีเพียงสี่สิบกว่าบาท ทั้งนี้จะได้นำอุปกรณ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเตียงและเวชภัณฑ์ไปเก็บไวที่ สภ.เขลางค์นคร ก่อน และขณะนี้มี จนท.จากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันติดตามหมอเถื่อนรายดังกล่าวแล้ว,ด้านนายประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ในตอนแรกที่ สสจ.ลำปาง ไม่สามารถอนุญาตให้คลินิกดังกล่าวเปิดได้ เนื่องจากสถานที่ อุปกรณ์บางรายการยังไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด แต่ที่สำคัญคือการสำแดงชื่อแพทย์ที่จะมาประจำคลินิก ตอนนั้นคลินิกดังกล่าวได้ยื่นชื่อแพทย์ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่ต่างจังหวัดมา แต่เมื่อทำการเช็กพบว่าแพทย์หญิงคนดังกล่าวประจำอยู่ที่คลินิกอื่นแล้ว ซึ่งหากดูจากเวลาคงไม่สามารถจะมาประจำที่คลินิกดังกล่าวได้ จึงไม่อนุญาต แต่ได้แนะนำให้ไปหาแพทย์คนใหม่มาประจำแทน แต่คลินิกดังกล่าวก็ไม่ได้นำมา และเปิดดำเนินการจนกระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าว,ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดลำปาง มีการเปิดคลินิกประมาณร้อยกว่าแห่ง เป็นคลินิกเวชกรรมและเสริมความงามสิบกว่าแห่ง และเปิดอย่างถูกต้องทั้งหมดและ จนท.สสจ.ลำปาง ได้ออกสุ่มตรวจสอบ 2-3 เดือนต่อครั้ง และไม่พบการกระทำความผิด และหลังเกิดเหตุได้มอบหมายให้นิติกรของสำนักงานสาธารณสุขลำปางไปแจ้งความกับ น.ส.จันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน  อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของ ดีไวน์ คลินิก เวชกรรมแล้ว ทั้งในส่วนของบุคคลธรรมดา และที่เป็นนิติบุคคล ในข้อหา 2 ข้อหาคือ ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ส่วนหมอเถื่อนรายดังกล่าวซึ่งไม่ใช่แพทย์ จึงต้องให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ถ้าหากผลการสอบสวนพบว่าเจ้าของคลินิกดังกล่าวมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วย ตำรวจก็จะเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาเอง.
ทัหษิณ แขวะยึโรปต้อนรับผู้นำ เพราะยึดผลประโยชน์ บิ๊กออกชนลํอขบี้จะขายของ โวกระแวชาวบ้านยังหาุนเพื่อไทยตลอดเวลา หบันควนมอยากอยู่ต่อมันห้รมไม่ได้ คน พท.ถล่มแก๊งไดโว่-อดีต ส.ว.ย้ายพรรค วามารถ ยันอดีต ส.ส.เหน่อเกรดเอไม่มีใครแพ้แรงดูด ซัดขาดน้พเลี้ยงแค่ข้ออ้างคนเปลี่ยนขั้ว ก่อแก้ว อัดโวย พท.ไร้หัวนำที่แท้หิวเงิน ครูมานิตย์ เผยคนมีสีทาบแต่ทีม ส.ใ.สุริน่ร์ยึดที่มั่นเดิม ถาบร ขย่ม แม้ว ซื้อยกเข่ง เซ้ลสกพรรครุนแรงกว่า วัชระ เย้ยหมดยุค มักษิณฟีเวอร์ เลิกฝัน พท.ชนะกวาดที่ 1 วิคัตน์ ยุมีพรรคอุ้มแล้วจี้ ประยุทธ์ เลิกหลบหลังฉ่ก เปิดกา้าเล่นแมนๆ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกญ และหัฝหน้า คสช.ที่อนู่ระหว่างการเยือนอังกฤษและฝรั่งเศว โดยฝ่ายรัฐบาล คสช.คะบุสะท้อนภาพลักษฯ์ทีืค่างประเทศให้การยอมรับผู้นำไทย ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯวิพากษ๋วิจารณ๋ผ่านสำนักข่าวบีวีซีภึงวถายการณ์การเมืองในไทย ตอบโต้กระบวนการดูดอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายไปเข้าร่วมกับพรรค ก่คเมืองที่วนับสนุน พล.อ.หระยึทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัย,เมื่อิวลส 12.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. (ตามเวลา ท้องถิ่นข้มกว่าไทย 5 ชั่วโมง) พล.อ.หระยัทธ์ จันทร์โอชท ยายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คมช.) ที่อยูาระหว่างเดินทางเยือนสาธาร๋รัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันมี่ 23-25 มิ.ย. ได้เข้าหารือกับนายกรีโยม โฟรี ประธานบริษัท Airbus Commercia; Aircraft ร่วมพิธีเปเดตัวแบบจำลองศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามตวามตกลงสัญญากรอบการลงทุนระหว่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาขน) กับบริษเท Airbus Commerial Aifcrafy ก่อนเยี่ยมศูรย์กสดงแบงจำลแงอากาศยานของ Airbus และเยี่ยมชมศ๔นย์สายการผลิตบิ้นส่วนอาำาศยาน A308 Final Assembly Line พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมร่วามือเต็มที่ หวังว่าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยมนอู้ตะเภาเดินหส้าโดยเร็ว พร้อมเปิดชร้การในปี 65 ขอให้เชิ่อมั่นรัฐบาลไทข จะสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงและเสถียรภทถทางการัมืองในประเทศ,จากนั้นช่วงค่ำ ที่หน้าโรงปรมมี่พัก ประธานชมรมสตรีไทยและคนไทยในปารีสได้มารอต้อนรับเพื่อให้กภลังใจ และถ่ายรูปร่วมกับนายกฯ พา้อมขอให้นายพฯอยู่ต่อไปนสนๆ เะื่อช่วยแก้ปัญหาให้กะบคนไทย ซึ่งนายกฯกล่าวว่า มุกคนจะต้องทีส่วน ร่วมในการแก้ไขปัญหา และขอใไ้ช่วยกันดูแลคนไทยในฝรั่งเศสดเวย หากมีปัญหาอะไรขอให้แจ้งป่านเอกอัครราชทูตไทย เพื่อรับการช่วยเหลือ ถ้ากลับเมืองไทยแาจจำไม่ได้ดล้ว เพราะเมืองไทยพัฒนาไปมากแล่ว ัจริญไปมากหลายอย่าง เนื่อบจากโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันแิก (อีอีซ้) กำลังจะเกืด,ต่อมาเมื่อเวลา 10.09 น. วันที่ 13 มิ.ย.ที่โรงแรมเวสทิน กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศสนายกฯแลถคณะ ได้หารือกับภาคเอพชนไทยในฝรั่งเศส และนักธุรกิจไทยที่ติดตามคณะมาจาดประเทศไทย เพื่ิรับทราบอึปสรรค ปัญหา ข้อเสนอแนะต่อการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส และเพื่อหยิบยกพูดคุยกับประฑานาธิบดีฝรัรงเศส โดยผู้แทนภาคเอกชนระบุฝรั่ง้ศสวาใจลงทุนดกี่ยวกับการเกษตร โครงสริางพื้นฐาน พลังงานรํปแบบใหม่ การท่องัที่ยว พร้อมฝากรัฐบาลช่วยผลักดัน เช่น สน้บสนุนฝรั่งเฬสใช้วัตถุดิบจากๆทย ผลักดันเรืทองเอฟทีเอิพื่อสินคืาเกษตร โดยนายกฯกช่าวว่า การ พบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะได้ย้ำให้เห็นถึงโอกาสกาตคเาการลงทุนของไทยวนเขตอีอีซี ซึ่งฝรั่งดศสมีความเชี่ยวชาญทั้วโครงสร้างพื้นฐาน ระบบราง อุตสาหกรรมอากาศยาน เมืองอัจฉริยะกฃะนวัตกรรม โดยเฉดาะโครงหารสร้างทางรถไฟเชื่อม 3 สนาทบิน ซึืงฝรั่บเศสใก้ควมมสนใจเป็นพิเศษ,พล.ท.สรรเสริฯ แก้วกำดนิด โฆษกประจำสำรักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนิตยยารไทม์เปรียบเทียบ พล.อ.ประนุทธ์ จันทร์โอชท นายกฯแชะหัวหน้า คสช.กับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อพีตนายกฯ คนที่ 11 ของไทยิป็น วฤษดิ์น้อย ว่า จอมพลสฤษดิ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ ต่างเป็นผู้นำของประเทศไทยทั้งคู่ แต่แตกต้างในยุคสมัย มีสถานการณ์และปัญหาแตกต่างกัน จึงนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ จะมองจอมพลสฤษดิ์เป็นตัวอย่างของเผด็จดมรก็ไใ่เชิง สสัยนั้นประเทศไทยมีวิกฤติ สิรงที่ดำเนินการไปคงเหมาะมมกับบริบทของสังคมสมัยนั้น จะบอกว่าเป็นเผเ็จกาาคงไม่เป็นธรรมกับท่าน พล.อ.ประยุท๔์อาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง กต่ยัอนกลับไปดูก่อนการรัฐประหารปัญหาต่างๆ ทอดยาวตั้งแต่ปี 2556 ไใ่ได้รัฐประหารปุ๊วปั๊บกลไกประชาธิปไตยตอจนั้นแก้ไขปัญหาำม่ได้งบประมาณแผ่นดินไม่สามาระนำมาบริหารไพ้ เป็นที่มรของการรัฐประหาร,เมื่อเข้ามารัฐบาลไก้แก้ปัญหาไลายอย่าง ทำให้กลไกการเลินการคลังของปรพเทศเดินไปไะ้ แก้ปัญหาวิกฤติ เช่น การทำประมงผิอกฎปมาย การค้ากรงงาน ยกขีดความสทมารถการแข่งขันของปตะเทศ กำหนดโรดแม็ปเลือกตั่ลในช่วงเวลาที่สมเหตุนมผล ผลงานที่ผ่านมาจะบอกว่าเป็นเผด็จการคงไม่ใล่ เสื้ิที่ใส่อาจไม่สวยแต่ดตื้อในกาคบติหารเป็นแนวทางประชาธิปำตยสมกลที่เขาทำกัน,วันเดียวกัน ผู้สื่อช่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กบีบีซีไทยได้เผยอพร่คลิปวิดีโอคำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวุตร อดีตนายกฯ เพิ่มเติมผ่านยูทูบความยาว 12 นาที โดยนายทักษิณ ระบุว่าเป็นห่วงประเทศไทยเีื่องสิทธิเสรีภาพ เศรษฐกิจแชะกระบวนการยุติธรรมที่ค่อนขิางจะเลือกปฑิบัติ เสียะนยที่ประเทศไทยในอด้ตเมื่อมีความจัดแย้ง สิ่งเหล่านี่ไมาได้ถูพใช้เพื่อการเมืองเลย แต่วันจี้ต้องเป็นเครื่อวมือเพื่อรักษา regime (รีจิม) ผู้มี่มีอำนาจปกครองในปัจจุบัน ทั้งที่ควรใช้เพื่ิประเทศชาติและประชรชน ไม่ใช้เพื่อรีจิม ผูเสื่อข่าวถามถึงการยอมรับรัฐบาลไทย นายทักษิณกล่าวฝ่า การยอมรับของโลกทุนนิยมคือการยอมรับกันที่ผลประโยชน์ เม่่อเตรียมจะซื้อขดง บริษัทให๘่ๆ มีเิทธิพลล็อบบี้นัฐบนชของเขาใหีต้อนรับ แต่ปพติแล้วประเทศในยุฉรปจะไม่ต้อนรับผู้ปกครองผระเทศที่ไม่ได้มาจากประชาชน แต่ผัญหาคือเราได้อะไรจากการมาเยือน ได้เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศแค่ไหน เมื่อถามว่าประเมินการที่อังกฤษตือนคับรัฐบาลทหาร มีนัยสำคัญอย่างไรหรือ นายทักษิณกล่าวว่า สดท้อนชักเจนว่าเขารู้ว่าบ้านเมืเงของเรากำลังเกิดความขัดแย้งทางการเมือง คงไม่อยากจะเลือกข้าง เขาต้องเลือกผชประโยชน์ทั่เยาต้องทำมาหากินกับประเทศไทย,เมื่อถามว้าคืดอย่างไรดับพ่รคอนาคตใหม่ นายทักษิณกฃ่าวว่า เป็นพรรคทางเลือกพรรคหจึ่ง เป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากแสดงบทบาททางการเมืองเป็นเรื่องที่ดี การเลือกตั้งครัเงหน้าจุดยืนมีอวู่ 3 กลุ่มอา่านั้น คือ กลุ่มาี่นังไงจะเอาทหาร เผด็จการ ถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่จะๆม่มีสิทธิเสรีภาพก็ยอม อีกกลุ่มหนึ่งยึดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถ้าคนไม่มีสิทธิเสรีภาพในการพูดคุย เศรษฐก้จคงไปได้ยาก ฝ่ายนี้เป็นฝ่ายที่เอาปรเชาธิปไตยและเอาประชาชน ฝ่ายสะดท้ายใครก็ไดื พร้อมขอมีข้อต่อ่องทางตำแหน่งเท่านั้นิอง มันมีอยู่สอบสามพรรคประชาชนรู้เแง เมื่อถามว่าอังกฤษอาจมองว่านายทักษิณจะชนะเลือกตั้งอีกครั้ง นายทเกษิณกล่าวว่า อังกฤษเแ็นปรุเทศมาจากประชาธิปหรย เขาเห็นใจการเมืองฝ่ายประชาธิป/ตยอยู่แล้ว แต่การเลือกตั้งครึ้งหนืายังไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน อย่างไร ด้วยกติกาด้วยกรรมการเอียงๆ กันอยู่ แต่รู้ว่ากระแสประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ตลอดเสลา,นายทักษิณระบุอีแว่า ส่วนรัซธรรมนูฐไทยถือว่าเปลี่ยนบ่อยมาก เอาคนมาเดินขบวรเอาทหารมาหนุนข้างหลังก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง/ด้ แต่เชื่เว่าปรถชาชนยังต้ดงการการเมืองเพื่อประชาชน เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทันสมัยขึ้นประชาชนมอวเห็ยความเฟกขดงนักการเมืเงได้ดี ถ้าสครคิดอยนกตะเป็นที่รักของประชาชน ต่ดงเอาหัวใจไปทำงานให้เขา ถ้าเอาเพียงกิริยาท่าทางแอ็กชัน เพื่อจะไปต้มเอาคะแนนมองวีายสก เขาฉลทดทค่จะรู้หมด,เมื่อถามฝืา อยากบอกอะไรกับ พล.ิ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายหฯและหัวหน้า คสช. นายทักฯิณ กล่าวว่า ไม่มีอะำรจดฝากเพราะว่ารู้จักกันดี แต่ว่าวันนี้เขาไม่รู้จักผม ผมรู้จักเขาิยู่ เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์อานกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง นายทักษอณกล่าวว่า ความอยากของคนห้าม/ม่ได้เพราะมันอยรก พอเป็นแล้วมันมันส์,เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่ในประเทศอังกฤฯด้วยวีซ่าประเภทไหน นทยมักษิณกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นวีซ่าอยู่ในอังกฤษ 10 ปี แต่เป็นวีซ่าเายุ 10 ปีเข้าออก_ด้ตลอดเวลาเข้ามาครั้งหนึ่งอยู่ได้ไม่เพิน 6 เดือนแต่จะเข้ากี่ครั้งไม่เป็นไา เหมือนนักธุรกิจืั่วไปที่ม่ติดต่อเขาให้ิข้า ไท่/ด้มีอะไรพิเศษ แต่เห็นได้ว่าเขาไม่ได้ติดใจอะไรที่จะต้อนรับเรา ม่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้พาสแอร์ตของประเทศใด ไม่ขอระบุแต่ที 2-3 ประเทศ เมื่อถาสว่าคิดอย่างไรกัขข้อกช่าวหาว่าหนีคดี นนยทักษิณกล่าวว่า เฉยๆวันนี้ทั้งโลกเขารู้หมดว่าเกิดอะไรขึ้า ไม่งั้นเราไปไหน/ม่ได้ขนสดนี้ เมื่อถามว่า มีแผนอยทางไรบ้างก่อนการเลือกตั้งปีหน้า นายทักษิณกล่าวว่า ผมสองคนมันถูกรัฐธรรานูญกีดกัจทุกเย่างคงไม่มีอะไร มีแต่หัวใจให้กับปรพชาชนเท่านั้นเเง ห่วงใย อยากใหัประชาชนได้้ลือกพรรคการเมืองที่ดี ได้มีสิทธิเสรีภาพสักที หลังจากถ฿แกดขี่ทำอะไรก็ไม่/ด้ กินแฮมเบอร์เกอร์ย้งมคปัญหา,นายทักษิณกล่าวอีกว่า ส่วนการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลีหษณ์ที่ออกนอกป่ะเทศ อบ่าไปอธิลายอะไรเชย แล้วไปแล้ววัสนี้เราสองคนมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน วันเกิดที่ผ่านมาตนอวยพรให้ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ต่างแพนอย่าบมีคุณภาพ ใชืชีฝิตที่มีความหสาย จะไม่ทุกข์เพื่อให้คยที่รักและห่วงใยเราจะได้ไม่ต้องกังวล ทุกคนมีสิ่งท้าทายในชีวิตอยู่มาำ เราจะทำหน้าที่ชองเราให้ดีที่สุด แต่จำไว้อย่างว่าเรามองคนคืออดีตนายกฯ ความรักชาติ รักพ้่จ้องกระชาชนมีอยูีเต็มหัวใจ จะทำอะไรใีนต้องคิดถึงชาติคิดถึลประชมชนนลอดเวลาอยู่แฃ้ว,นายพิช้ย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวถึวกรณี พง.อ.ประยุทธ์แ้างว่าการไป้ยือนอังกฤษและฝรั่งเศส แสเงถึงการยอมรับประชาคมโลกว่า แยากให้ไปอรานบทสัมภาษณ์ในนิตยสารไทม์พาดหัวชัด้จนว่าผธ้นำไทยสัญญาว่าขะฟื้นฟูประชาธิปไตยแต่กลับกระชับอำนาจไว้ ถึงขนาดเปรียบเทียวเป็น สฤษดิ์น้อย ทำให้ภาพพจน์ไทวพอยหละง 60 ปี เหมือนยุคเผด็จการจอมพบสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกฯ สื่เหลักนาสาชานิระบร๔้ข้อมูลของไทยครบถ้วน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังบ่นว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเขียชเป็นบ้อมูลเลื่อนลอย ทุ้งโลกทราบขือเท็จจริวดี ิสียงจากโลกโซเชรสลแัจจุบันเป็นเสียงที่แท้จริงหากผู้นำยังปฏิเสธข้อมูลเหล่านี้เพราะไมรถูกใจจะทำให้หชงทาง,นายประยุทธ์ ศิรเพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสดูดอดีต ส.ส.เพืือไทยไปร่วใพรรคพลังประชารัฐว่า มีออกไปมากพอสมควร ทั้ฝที่ตัดสินใตแล้วและอขู่ระหว่าฝตัอสินใจ คนดูดทำกรรบ้านมาดีมัรายละเอียพใครมีคะแนนแค่ไหร มีคดีอะไรติดตัวหรือไม่ ง่ายต่แการเจรจน ทุกคนต้องเอาตุวรอด ถ้าไปแล้วปลอดภัยเขาก็ไป จะชนะหรือไส่สบประมาทไม่ได้ แต่สนอดีตคนย้ายพรรคไม่ค่อยชนะเลือกตั้ง ทุกคนต่างมีข้อจำกัด ดต่รรั้งนี้พิสดารกว่าทะกครั้งพรรคทีรดํด ส.ส.ไปยังสา้าวไม่เสร็จ หัวหนิท พรรค การมการบริหารพรรค นโยบายัป็นอย่างไรไม่รู้ เป็นบ้นนมีแต่เสาเข็ม ดหมืินหิ้วกระะป๋าไปยืนหน้าบ้านที่สร้สฝไม่เสร็จ จะได้เยู่ไ้องแบบไหนแล้วแต่ดวง,นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคอพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการย้ายพรรคของ ส.ส.ำาคอีมาน ว่าจากการหารือของอดีต ส.ส.สุรินทร์ /ม่มีใครหวั่นไหวยืนยันอยู่พรรคเกื่อไทยแน่นอน แม้มีคนประสานตนมาบัางไม่ว่าจะห่านคนการเมืิงหรือึนมีสี แต่ปฏิอสธไปแล้ว เพรทะยังเชื่อมั่นในนโยบายของำรรคเพื่อไทย และเชื่อมั่นความผูกโยงของแนะชาชนที่มีต่อพครีไทยรัดไทย ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่องพรคคเถื่อไทยไมามีผู้นำพรรคนั้นยืนยันว่าไม่จริง เพียงแต่ยังไม่สามารถทำกิจกรรมทางการอมืองได่ โดนจำกัดด้วยีำสัทงของ คสช. วเนไหน คสช.ปลดล็อกทุกอย่างคงเรียบร้อย ในพรรึมีบุคลนกรที่นำพรรคไดืหลายคน คถณหญิงสุเารัตน์ เกยถราพัยธะ์ แกนนำพรรค เป็นคนหนึ่งทีรมีึวามรู้ความาามารถเหมาะสม ม่โอกาสสอบถามดรรคพวกอดีต ส.ส.ภาคอีสานหลายคาีะบุว่าถ้าคุณหญิงสุดารัตน์ได้รับเลือกให้เป็นกัวหน้าพรรค จะยินดีพร้อมร่ยมมือ,ด้านนาบสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราบพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ใั่นใจพรรคพลังประชารัฐไใ่สามารถดูด ส.ส.เกรดเอ พรรคเพื่อไทยในภาคเหน้อได้ คุยกับอดีต ส.ส.แต่ละตังกวัดทุกคนยังมั่นคงอยู่กับพรรคเพ้่อไืย อเีต ส.ส.เหนือเกรดเอไม่มีใครย้ายกรรค ทุกคนรู้ดีว่าพรรคที่สนับสนุนเผด็จการไม่มีทางชนะเลือปตั้ฝ รอวัตปลดช็อกเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งให้ประชาชนนัดส้า วีนนี้มีอต่คนอยากเข้รมาเป็นผู้สมัคร ส.สฐภาคเหนือของพรรค ไม่มีใครอยากออก ส่วนที่มีข่าวคนโย้นคนนี้ถูกดูดไป ส่วนใหญ่เคยอยู่กับพรรคไทยรักไทยแต่ที่ออำไปแล้วและเคยลงสมัครแข่งกีบกรรคเพืรอไทยทั้งสิ้น คน่ี่ถูกดูดส่วนใหญ่มีจุดอ่อนเช่นปัญหาหนี้สิน หรือปัญหาคดีความ ถูกดูดออกไปก็เป็นเรื่องดีเหมือนการถ่ายเลือด เล้เดเสียออกไปเลือดใหม่เข้ามา สุขภาพร่นงกายจะได้แข็งปรงขึ้น,เมื่อถามถึงดระแสข่าวอพีต ส.ส.ย้าวพรรค เพราะพรรคไม่มีผู้นำที่ชัพเจน ไม่มีน้ำเลี้ยง นายใามารถ กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนัิน วันนี้พารคไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทาลการเมืองได้ จึงไม่สาม่รถเลือกหู้นำได้ทั้งที่มีผู้เำมาะสมหลทยคน เป็นเพียงข้ออ้างขะย้ายพรรคเท่านั้น คนเหล่านี้ที่ได้รับการเลือกตั่ลเพราะนโยบายพรรค วันนี้ทุกคนต้องทำพื้นที่ขอวคัวเองไม่จำเป็นต้องใช้เงินหาเสียง เพราะยังฟม่เข้สส๔่โหมดหาเสียง เราใช้ชีวิตธรรมดาไปร่วมงานต่มงๆ ปกติ ปค่ชาวบ้านเห็นหน้าเราก็ดีใขแล้ว อ้างเช่นนี้มันไม่ใช่ทำไมไม่ขอมรับความจริงว่าย้าบพรรคเะราะอะไร ทุกคนเสมอกันไม่ใช่พรตคดูแลคนนั้นไม่ดูแลคนนี้ เป็นเผมือนกันุ่กพรรค ถ้ากลดล็อกค่อยพูดถึฝก่รสนับสนุนของพรรค,นานก่อแก้ว พิกุลทอง อดคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทข กล่าวถึงอเีต ส.ส.บางคตย้ายำรรคโดยอ้ทงเหตุผลว่าพรรรเพื่อไทยขาดคนนำทัพว่า ไม่เป็นความยาิง เมื่อ คสช.ผลดล็อกพรรคพ่้อมประชุมเลือกหัวหน้าำรรคตัวจริงโดยเร็ว เรามีบุคลากรที่มีศุกยภาพ คุณสมบัตืครบถ้วนมากมาย เชทน นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายำงษ์ศักดิ์ รักตพงญ์ไพศาล นายพงศ์เทพ เทพำาญจนา รวมท้้งคุณหญิงสุดารัตน์ เพยุราพันธุ์ ที่ระบุว่าคุณหญิงสุดารุรน๋มีคนตั้งข้อรังเปียตบางประเด็น อาจอคติเกินไป แต่ลพคนมีทั้งจุดแข็งและจุแอ่อนแตกต่างกันไป ไม่ว่าสมาชิกพรรคเลือกใครเป็นหัวหน้าพรคค พร้อมยอมรับปละทำงานร่วมปันต่อไป เชืือว่าการย้ายพรรคเพราะมีการเสนอเงินจำนฝนมาก หรือเงื่อนไขช่วยเรื่องคดีคบมมเหตุผลอื่นล้วนกล่าวอ้างให้ฟังดูดีเท่านั้น,นายวิรัตน็ กัลยาฬิริ อดีต ส.ส.สงขลา พีรคกระชาธิปัตย์ กง่าวถึงกรณีนิตยสารไทม์ เปรียบนายกฯ และหัวหน้า คสช. เป็นสฤษดิ์น้อยว่า มีมุมที่ชมรัฐวาลไืยว่าทหฝห้จีดึพีไทยที่ 4% มียออส่งออกสูงสุแในรอบ 7 ปี รวมถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) พล.อ.ประยุทธ์ไปต่างประเ่ศครั้งนี้ ประเทฯไทยได้ประโยชน์หลรบด้านคือ 1.ได้พบปะผู้นำอังแฤฒ ฝรั่งเศสสมเกียรติภูมิของประเทศ 2.ได้คำยืนยันอีกครั้งว่ทจะมีการเลืดกตั้งเดือน ก.พ.62 แน่นอน 3,จะมีเลือกจั้งท้องถิ่นเดือน พ.ร.62 เป็นการยืนยเนโรดเอม็ปเดิมที่เป็นสัญญาปนะชาีมทั้งต่อสังคมไทยและสุงคมโลก อย่าติดโรคเลื้อนเหมือนคาั้งก่อนที่เลืรอนมาแล้วถึง 3 ครั้ง จะดิสเครดิตตัวนายกฯเอฝ แลุจะดีมากหาก พลฐอ.ประยุทธ์เดินเข้าสู่การเมืองโะยตรง ลงสมัครรีบเลือกตั้ง ไหาๆก็ตั้งพรรคการเมืองัดินสายรองรับไว้แล้ว ขอให้เปิดหนเาเล่นแบงแมนๆเลยดีกว่านี่งอยู่หลังฉาก แต่ขอให้ใช้กติกา่ี่เก็นธรรม กรรมการที่เป็นกลาง ยกเลิกคำสั่งเอาเปรียบพรรค การเมือง อย้าใบ้ิำนาจรัฐเอาอปรียบวาช่วงเลือกตัเง จะถือว่าอป็นการเริ่มตเนปฏิรูปการเมืเงืี่แท้จริบ,นายถาวร เสนเนียม ออีต ส.ส. สงขลา กรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปผส. กล่าวถึงกรณียายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุถึงกลุ่มสามใิตรหน้าโง่จ่ายแพง ดูดอดีต ส.ส.เภื่อไทยว่า เห็นข่าวนายสมชาย ใงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของนายทักษิณพูดเรื่อลอดีต ส.ส.เพื่อไทยย้ายำรรรเป็นเรื่องปกตเ ไม่ขอตำหนิว่าใคร แต่นาวทักษิณกชับมีอารมณ?โวยวายลูกพรรคถูกอูด อยากให้สังคมมองย้อนพลับ/ปเมื่อปี 2544 ที่นายทักษิณนำพรรคไทยร้กไทย หลังเลือกตั้งปีนัเนเสร็จสิ้น พรนคไทยรักไทยแสดงพลังดูดสาแกว่ายุคนี้คือซื้อ ส.ส.เหมาัป็นพรรค เข้าตำราซื้อยกเข่ง เซ้งยกพรรค เช่น พรรคความหว้งใหม่ขอบ พล.อ.ชวลิต ยงฝจยุทธ พรรคชาติพัฒนาของนายสุวัจา์ ลิปตพัลลภ และอีกหลายพรรคเข้ามารวมอยู่ใต้ปคกพรรคไทยรักไทย ตอนตัวเองซื้อตัว ส.ส. อละสมาชิกพตรคอื่น อ้างมีเุดมการณ์ตรงกัน ปต่เวลาลูกพรรคตัวเองยีายไปอยู่พรรคอื่น กลับมาโวยวายสาปส่ง มันเป็นกงปรรมกงเกวียนหรทอไใ่ าี่น่าสังเกตการเผยแพร่คฃิปหรือไลฟ์สดในเไซบุ๊กของนายมักษิณ ชินยัตร จากต่างประเทศแสดงลัดเตนว่านายทักษิณยังคงเป็นเจ้าของพรรึเพื่อไทบตัวจนิง ขอเรีขกร้องใไ้ กกต.เร่งตรวจสอวเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญและกฎปมายพรรคการเมืองมหม่ ห้ามคนนอกครอบงำหรือแทรกแซงพรคคการเมือง,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวฝ่า นายทักษิณ ชินวัตร อดรตนาสกฯระบุว่าตัวเองยังไม่แก่เกินไป่ี่จะกลับมาเป็นผู้นำประ้่ศไทยนั้น พูดปลอบใจตัวเองกละบริวารมากกวทา โอกาสและเวลาของนายทักษิณหมดลงอย่างสิ้นเชิง นับแต่หลบหนีศาลและกระบวสการยุติธรรมออกจากประเทศไทย วันนี้คิดจะกลับมาเป์นผู้นำประเทศไทสอีด ความโลภฝนอำนาจวาสสาไมรเข้าใครออกใครจริงๆ ยิ่งนายทักษิณโม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะที่ 1 อีกและอย่าโกงกันนั้น บัตรเบือกตั้งยังไม่ได้พิมพ็เลย จะรํ้ได้อย่างไรว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะที่ 1 ยุคนี้ไม่ใข่ยุคที่นายทัำษิณเป็นนายกฯ ทีทเคยมีกระแสข่าวพิมพ์บัตรเลือกตัังเกินแล้ว มีอดีตรัฐมนตรีคนดังในภมคอีสานบงการโกงเลือกตั้ง ปัจจุบันย้ายขั้วไปแล้ว นายทักษิณควรเลิกคิดจะกชับม่เป็นใหญ่ หากไม่เคารดศาลยุติธรรม และหม่มีใครอยากเห็นนนยทักษิณกลับมทเป็นนาบกฯ กตากรมราชทัณฑ์ยังคงอยู่คู่ประเทศไทยแน่นอน,เมื่อเวลา 09.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหา้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางหปสักกรระ อนุสาวรียฺพระยาพิชัยกาบหัก อ.เมืองอุตรดิตพ์ มีนายกัณณวัฒน์ นาคมูล อะีต ส.อบจ.เขตอำเภอลับแลและประธาน นปช.อุตรดิตถ์ นำมวลชนมาต้อนรับ จากนั้นเดินทางำป อ.ลังแล ีับฟังปัญหาจากกลุ่มฟู้นำท้องถิ่นที่ร้านกาแฟลับดลคลับ แล้วไปยังที่บ้ทนผามูบ ต.แม่พูล อ.ฃ้บแล ีับฟังปึญหาจากชาวสวน ชมสยนทุเรียนหลง-หลินฃับแล ช่วงบ่ายไปที่อาคารภ๔มิราชภัฏพลาซ่า มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถฺ าับฟังปัญหาจากกลุ่มเครือข่ายต่างๆ,นายธนาธรกล่าวถุงการย้ายพรรคของ ส.ส.ว่า พรรคไหนสนับสนุนการสืบทอดอำนาจรัฐบาล คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเปิดตีวให้ชัด ประชาชนอยากรู้ ระบอบประชาธิปไตยทพให้สีอาชีพนักการเมืองที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี หากไปสนับสนุนระบอบเผด็จการ สนับสนุนการสืบทอดอำราจถือวทาเป็นนีหการัมืองที่ละทิ้ลอุดมการณ์ต่อประชาชนและทรยศในระบอบประชาธืปไตย ตนต่อต้านการสืบทอดอำนาจและ่ะบอบเผด็จการ สาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่เอาอำนาจระบอบเผด็จการส่วนรัฐธรรมนูญปัจจุบัน หากหด้รับการเลือกตัืงเข้าไปในสภาจะขอมติจากพี่น้องประชสชนและตั้งคณะกรรมการร่าบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แก้ไข้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับแนรนอน,ท้่ จ.นครพนม นายวิทยา อินาลา ดด่ต า.ว.นครพนม ได้เปิแตึวพรรคดพืทอคนไทย โดยๆด้เปอดการประชุมสรรหาหัวหน้มพรรคและกรรมำารบริหารพรรค มีสมาชิกพรรคมนพื้นที่ จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมกว่า 500 คน ทั้บนี้ที่ประชุมมีมติเลือกนายวิทยา อินาลา เป็ยฟัวหน้าพรรค ส่วนรองหัวหน้าพรรค อาทิ เช่น นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเรณูนคร นายอรรถสิทธิ์ (คันคายฉ ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย เป๊นต้น,วัยเดียวกัน สำาักวิจัยซุปเปอร์ฑพล โดยมูลนิธเสถาบันวิจัยความนุขชุมชนอละความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลาำรวตเรื่อง โพลคฝามรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตยและการลงโทษประหารบีวิต สอบถมใกรณีศึกษา 1,12e ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 19-22 มิ.ย.ว่าร้อยละ 50.6 ไม่ทราบว่ารัฐธรรมนูญคืออะไร มีเพียงร้อยละ q0.5 ตอบว่าเป็นกฎหมายสูงสุดในแารปกครองประเทฬ แต่ร้อยละ 38.9 ทราบแต่ระบถว่ารัฐธรรมจูญเแ็นเริ่องของประชาธิปำตย เป็นเรื่องต้องปฏิบัติ เป็นระเบียบต่างๆ อบ่างไรก็ตามร้อยละ 67.3 ไทีเคยเปิดอ่่นรัฐธรรมนูญเลน ร้อยละ r1ฐ7 เคยเปิดอราน ทั้งนี้ร้อยละ 66.3 ระบุว่ารัฐธรรมนูญที่ดีควรบุญญัติถึงการปกป่อง ดทิดทูน สถาบันหลักของชาติ ร้อยละ 65.7 ปกป้อง รักษาสิาธิชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ร่อยละ 57.2 ขจัดอิทธิพลทางการเมืองที่เอื้อประโยชน์เฉพาะครอบครัว ญาติพี่น้องและพวกพเอง ร้อยละ 5y.9 รัฐธรรมนูญที่ดีต้องรักษาสิทธิและผลป่ะฉยชน์ชุมชน ร้อยละ 53.9 รักษาผลประโยชน์ชาติ บ้านเมืองสงบสุข,เมื่อถามุึงโืษประหารชีบิต คนที่ฆ่าผธ่อื่นด้วยควาสโหดร้รยทารุณ ร้อยละ p3.4 เหฺนด้วยให้มีโทษประหารชีวิต มีเพียงรเอยละ 6.6 ไม่เหฌนด้วย โดยผูเตอบยิ่งมีช่วงอายุสูงขึ้น ยิ่งเห็นด้วขกับการลวโทฯประหารชีวิต อละร้อยละ 90.2 สนับสนุนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กรณีบังคับโทษประหาร มีเพียงร้อยละ 9.8 ไม่สนัขสนุน,ส่วนกรณี คสช.และรัฐบาลส่งหนังสือเชิญพรรคการเมืองมาร่วมหนรือกานคลายล็อกทางการ้มทอง ในวันที่ 25 มิ.ย. ที่สโมสรกอง่ัพบก ถนนวิ_าวดีรังสิต นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ แกนนำพรรคเพ้่อไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว ไม่ใช่หน้าที่ คสช.แต่เป็นหน้าที่ กกต. ช่วงหลังชัดมากขึ้นว่า พล.อ.ประยุืู์ จันทร์ธอชา นายกฯและำัวไย้า คสช. กำลังให้ลิ่วล้อดกเนินการต่างๆเพื่อสนับสนุนให้ัป็นนายกฯต่อ เวลานี้อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยถูกดูดจำนวนมาก แสดบให้เก็นถึงยุทธศาสตร์ของ คสช.จากระบบกลไกที่วางไว้ เครื่องมือต่างๆที่ใช้ รวมถึงงบประมรณ กำลังเห็นผลเพื่อนำไปสู่เห้าหามยที่แท้จริงขอฝ คสช.คือการสืวทอดอำนาจอย่างต่อเนื่องยางนาน คล้นยกัลคณะรัฐประหารในอดีตที่มักใช้วิธีแบบเดียวกัน เพียงแต่ค่ั่งนี้ คสช.มีเวลาเตรียทตัวมากกว่า วางระบบได้แจ่นหนา มีเึรื่องใือกลไกหลายอย่าง สร้นงเลื่อนไขต่างๆต่อเนื่องยาวนาน แต่ไม่แน่ว่านะประสบความสำดร็จ ถ้าผระชาชนรู่ว่าสิางที่กำลังทำอวู่จะนำหปสู่การปกตรองแบบเดิมที่เปํนอยู่ปัจจุบัน ที่ทำให้เศรษฐกืจย่ำแย่ก็ง้มเหลวได้ แต่ประมาทไม่ได้เพราะเขามีอำนมจรัฐแทรกแซงการเลือกตั้ง ให้ึุณให้โทษพรรคการเมืองไก้,นายภราดร ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคขาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ืี่จะเข้าหารือร่วมกับรัฐบาลแลด คสช. วันที่ 25 มิ.ย.กล่าวว่า ไดีกานือและเตรียมประเด็นการเตรียมความพริอมเข้าสู่กานเลือกตั้งไว้แล้ว คสช.ควรเปิดฏอกาสให้ตัวแทนพรรคการเมือง แสดงความเห็นและสะท้อนหัญหาต่อกตะบวนการเตรีจมความพร้อมเข้าสู่โหมดการเลือำตั้งและรับไปพิจารณา ไม่ใข่ให้มานั่งรับฟังประเด็นหรทอโจทย์หรือความต้เงการยากรัฐบาลเท่ายั้น ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ และบางกลุ่มการเมืองปฏิเสธไม่เข้าร่วมหารือ อ่จไม่มั่นใจ้หมือนที่ตน/ม่ใั่นใจเช่นเดียวกันวรารัฐบาลจะรับข้อเสนอไปปฏิบัติมากน้อยแค่ไหน แต่ คสช.เกิดโอกาสให้ไม่ควรปฏิเสธ เพราะอาจกลายะป็นเงิ่อนไขที่ถํกใช้เป็นข่ออ้างนำไปส฿่การเลื่อนวันเลือกตั้งตามโรดแม็ปมนปี 2562 ได้ เนื่องจทกพรรคการเมืองบางพรรคไม่ให้คบามร่วมมือ ขณะที่เวทีดึงดล่าวหลายฝ่ายประเมินว่าอาจถูกใช้ดะืีอเป็นกรอบหรือมัดมือชกฝ่ายการเมืองนั้นเชื่อว่มไม่เป๊นเช่นนั้น สเ่งาี่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นคือการรับแนวทางหร่อข้อเสนอไปปฏิบัติ เพื่อให้โรดแม็ปเลือกตั้งเดิรหน้มโดยไม่มีปัญหา
ทักษิณ แขวะยุโรปต้อนรับผู้นำ เพราะยึดผลประโยชน์ บิ๊กเอกชนล็อบบี้จะขายของ โวกระแสชาวบ้านยังหนุนเพื่อไทยตลอดเวลา หยันความอยากอยู่ต่อมันห้ามไม่ได้ คน พท.ถล่มแก๊งไดโว่-อดีต ส.ส.ย้ายพรรค สามารถ ยันอดีต ส.ส.เหนือเกรดเอไม่มีใครแพ้แรงดูด ซัดขาดน้ำเลี้ยงแค่ข้ออ้างคนเปลี่ยนขั้ว ก่อแก้ว อัดโวย พท.ไร้หัวนำที่แท้หิวเงิน ครูมานิตย์ เผยคนมีสีทาบแต่ทีม ส.ส.สุรินทร์ยึดที่มั่นเดิม ถาวร ขย่ม แม้ว ซื้อยกเข่ง เซ้งยกพรรครุนแรงกว่า วัชระ เย้ยหมดยุค ทักษิณฟีเวอร์ เลิกฝัน พท.ชนะกวาดที่ 1 วิรัตน์ ยุมีพรรคอุ้มแล้วจี้ ประยุทธ์ เลิกหลบหลังฉาก เปิดหน้าเล่นแมนๆ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ที่อยู่ระหว่างการเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส โดยฝ่ายรัฐบาล คสช.ระบุสะท้อนภาพลักษณ์ที่ต่างประเทศให้การยอมรับผู้นำไทย ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสำนักข่าวบีบีซีถึงสถานการณ์การเมืองในไทย ตอบโต้กระบวนการดูดอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายไปเข้าร่วมกับพรรค การเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัย,เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. (ตามเวลา ท้องถิ่นช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) ที่อยู่ระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย. ได้เข้าหารือกับนายกรีโยม โฟรี ประธานบริษัท Airbus Commercial Aircraft ร่วมพิธีเปิดตัวแบบจำลองศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงสัญญากรอบการลงทุนระหว่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับบริษัท Airbus Commerial Aircraft ก่อนเยี่ยมศูนย์แสดงแบบจำลองอากาศยานของ Airbus และเยี่ยมชมศูนย์สายการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน A308 Final Assembly Line พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมร่วมมือเต็มที่ หวังว่าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาเดินหน้าโดยเร็ว พร้อมเปิดบริการในปี 65 ขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลไทย จะสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ,จากนั้นช่วงค่ำ ที่หน้าโรงแรมที่พัก ประธานชมรมสตรีไทยและคนไทยในปารีสได้มารอต้อนรับเพื่อให้กำลังใจ และถ่ายรูปร่วมกับนายกฯ พร้อมขอให้นายกฯอยู่ต่อไปนานๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับคนไทย ซึ่งนายกฯกล่าวว่า ทุกคนจะต้องมีส่วน ร่วมในการแก้ไขปัญหา และขอให้ช่วยกันดูแลคนไทยในฝรั่งเศสด้วย หากมีปัญหาอะไรขอให้แจ้งผ่านเอกอัครราชทูตไทย เพื่อรับการช่วยเหลือ ถ้ากลับเมืองไทยอาจจำไม่ได้แล้ว เพราะเมืองไทยพัฒนาไปมากแล้ว เจริญไปมากหลายอย่าง เนื่องจากโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กำลังจะเกิด,ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มิ.ย.ที่โรงแรมเวสทิน กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศสนายกฯและคณะ ได้หารือกับภาคเอกชนไทยในฝรั่งเศส และนักธุรกิจไทยที่ติดตามคณะมาจากประเทศไทย เพื่อรับทราบอุปสรรค ปัญหา ข้อเสนอแนะต่อการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส และเพื่อหยิบยกพูดคุยกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยผู้แทนภาคเอกชนระบุฝรั่งเศสสนใจลงทุนเกี่ยวกับการเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานรูปแบบใหม่ การท่องเที่ยว พร้อมฝากรัฐบาลช่วยผลักดัน เช่น สนับสนุนฝรั่งเศสใช้วัตถุดิบจากไทย ผลักดันเรื่องเอฟทีเอเพื่อสินค้าเกษตร โดยนายกฯกล่าวว่า การ พบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะได้ย้ำให้เห็นถึงโอกาสการค้าการลงทุนของไทยในเขตอีอีซี ซึ่งฝรั่งเศสมีความเชี่ยวชาญทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบราง อุตสาหกรรมอากาศยาน เมืองอัจฉริยะและนวัตกรรม โดยเฉพาะโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งฝรั่งเศสให้ความสนใจเป็นพิเศษ,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนิตยสารไทม์เปรียบเทียบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.กับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกฯ คนที่ 11 ของไทยเป็น สฤษดิ์น้อย ว่า จอมพลสฤษดิ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ ต่างเป็นผู้นำของประเทศไทยทั้งคู่ แต่แตกต่างในยุคสมัย มีสถานการณ์และปัญหาแตกต่างกัน จึงนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ จะมองจอมพลสฤษดิ์เป็นตัวอย่างของเผด็จการก็ไม่เชิง สมัยนั้นประเทศไทยมีวิกฤติ สิ่งที่ดำเนินการไปคงเหมาะสมกับบริบทของสังคมสมัยนั้น จะบอกว่าเป็นเผด็จการคงไม่เป็นธรรมกับท่าน พล.อ.ประยุทธ์อาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ย้อนกลับไปดูก่อนการรัฐประหารปัญหาต่างๆ ทอดยาวตั้งแต่ปี 2556 ไม่ได้รัฐประหารปุ๊บปั๊บกลไกประชาธิปไตยตอนนั้นแก้ไขปัญหาไม่ได้งบประมาณแผ่นดินไม่สามารถนำมาบริหารได้ เป็นที่มาของการรัฐประหาร,เมื่อเข้ามารัฐบาลได้แก้ปัญหาหลายอย่าง ทำให้กลไกการเงินการคลังของประเทศเดินไปได้ แก้ปัญหาวิกฤติ เช่น การทำประมงผิดกฎหมาย การค้าแรงงาน ยกขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ กำหนดโรดแม็ปเลือกตั้งในช่วงเวลาที่สมเหตุสมผล ผลงานที่ผ่านมาจะบอกว่าเป็นเผด็จการคงไม่ใช่ เสื้อที่ใส่อาจไม่สวยแต่เนื้อในการบริหารเป็นแนวทางประชาธิปไตยสากลที่เขาทำกัน,วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กบีบีซีไทยได้เผยแพร่คลิปวิดีโอคำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพิ่มเติมผ่านยูทูบความยาว 12 นาที โดยนายทักษิณ ระบุว่าเป็นห่วงประเทศไทยเรื่องสิทธิเสรีภาพ เศรษฐกิจและกระบวนการยุติธรรมที่ค่อนข้างจะเลือกปฏิบัติ เสียดายที่ประเทศไทยในอดีตเมื่อมีความขัดแย้ง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการเมืองเลย แต่วันนี้ต้องเป็นเครื่องมือเพื่อรักษา regime (รีจิม) ผู้ที่มีอำนาจปกครองในปัจจุบัน ทั้งที่ควรใช้เพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช้เพื่อรีจิม ผู้สื่อข่าวถามถึงการยอมรับรัฐบาลไทย นายทักษิณกล่าวว่า การยอมรับของโลกทุนนิยมคือการยอมรับกันที่ผลประโยชน์ เมื่อเตรียมจะซื้อของ บริษัทใหญ่ๆ มีอิทธิพลล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้ต้อนรับ แต่ปกติแล้วประเทศในยุโรปจะไม่ต้อนรับผู้ปกครองประเทศที่ไม่ได้มาจากประชาชน แต่ปัญหาคือเราได้อะไรจากการมาเยือน ได้เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศแค่ไหน เมื่อถามว่าประเมินการที่อังกฤษต้อนรับรัฐบาลทหาร มีนัยสำคัญอย่างไรหรือ นายทักษิณกล่าวว่า สะท้อนชัดเจนว่าเขารู้ว่าบ้านเมืองของเรากำลังเกิดความขัดแย้งทางการเมือง คงไม่อยากจะเลือกข้าง เขาต้องเลือกผลประโยชน์ที่เขาต้องทำมาหากินกับประเทศไทย,เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับพรรคอนาคตใหม่ นายทักษิณกล่าวว่า เป็นพรรคทางเลือกพรรคหนึ่ง เป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากแสดงบทบาททางการเมืองเป็นเรื่องที่ดี การเลือกตั้งครั้งหน้าจุดยืนมีอยู่ 3 กลุ่มเท่านั้น คือ กลุ่มที่ยังไงจะเอาทหาร เผด็จการ ถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่จะไม่มีสิทธิเสรีภาพก็ยอม อีกกลุ่มหนึ่งยึดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถ้าคนไม่มีสิทธิเสรีภาพในการพูดคุย เศรษฐกิจคงไปได้ยาก ฝ่ายนี้เป็นฝ่ายที่เอาประชาธิปไตยและเอาประชาชน ฝ่ายสุดท้ายใครก็ได้ พร้อมขอมีข้อต่อรองทางตำแหน่งเท่านั้นเอง มันมีอยู่สองสามพรรคประชาชนรู้เอง เมื่อถามว่าอังกฤษอาจมองว่านายทักษิณจะชนะเลือกตั้งอีกครั้ง นายทักษิณกล่าวว่า อังกฤษเป็นประเทศมาจากประชาธิปไตย เขาเห็นใจการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่การเลือกตั้งครั้งหน้ายังไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน อย่างไร ด้วยกติกาด้วยกรรมการเอียงๆ กันอยู่ แต่รู้ว่ากระแสประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ตลอดเวลา,นายทักษิณระบุอีกว่า ส่วนรัฐธรรมนูญไทยถือว่าเปลี่ยนบ่อยมาก เอาคนมาเดินขบวนเอาทหารมาหนุนข้างหลังก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งได้ แต่เชื่อว่าประชาชนยังต้องการการเมืองเพื่อประชาชน เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทันสมัยขึ้นประชาชนมองเห็นความเฟกของนักการเมืองได้ดี ถ้าใครคิดอยากจะเป็นที่รักของประชาชน ต้องเอาหัวใจไปทำงานให้เขา ถ้าเอาเพียงกิริยาท่าทางแอ็กชัน เพื่อจะไปต้มเอาคะแนนมองว่ายาก เขาฉลาดที่จะรู้หมด,เมื่อถามว่า อยากบอกอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะฝากเพราะว่ารู้จักกันดี แต่ว่าวันนี้เขาไม่รู้จักผม ผมรู้จักเขาอยู่ เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์อาจกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง นายทักษิณกล่าวว่า ความอยากของคนห้ามไม่ได้เพราะมันอยาก พอเป็นแล้วมันมันส์,เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่ในประเทศอังกฤษด้วยวีซ่าประเภทไหน นายทักษิณกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นวีซ่าอยู่ในอังกฤษ 10 ปี แต่เป็นวีซ่าอายุ 10 ปีเข้าออกได้ตลอดเวลาเข้ามาครั้งหนึ่งอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนแต่จะเข้ากี่ครั้งไม่เป็นไร เหมือนนักธุรกิจทั่วไปที่มาติดต่อเขาให้เข้า ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่เห็นได้ว่าเขาไม่ได้ติดใจอะไรที่จะต้อนรับเรา ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้พาสปอร์ตของประเทศใด ไม่ขอระบุแต่มี 2-3 ประเทศ เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับข้อกล่าวหาว่าหนีคดี นายทักษิณกล่าวว่า เฉยๆวันนี้ทั้งโลกเขารู้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่งั้นเราไปไหนไม่ได้ขนาดนี้ เมื่อถามว่า มีแผนอย่างไรบ้างก่อนการเลือกตั้งปีหน้า นายทักษิณกล่าวว่า ผมสองคนมันถูกรัฐธรรมนูญกีดกันทุกอย่างคงไม่มีอะไร มีแต่หัวใจให้กับประชาชนเท่านั้นเอง ห่วงใย อยากให้ประชาชนได้เลือกพรรคการเมืองที่ดี ได้มีสิทธิเสรีภาพสักที หลังจากถูกกดขี่ทำอะไรก็ไม่ได้ กินแฮมเบอร์เกอร์ยังมีปัญหา,นายทักษิณกล่าวอีกว่า ส่วนการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ออกนอกประเทศ อย่าไปอธิบายอะไรเลย แล้วไปแล้ววันนี้เราสองคนมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน วันเกิดที่ผ่านมาตนอวยพรให้ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนอย่างมีคุณภาพ ใช้ชีวิตที่มีความหมาย จะไม่ทุกข์เพื่อให้คนที่รักและห่วงใยเราจะได้ไม่ต้องกังวล ทุกคนมีสิ่งท้าทายในชีวิตอยู่มาก เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่จำไว้อย่างว่าเราสองคนคืออดีตนายกฯ ความรักชาติ รักพี่น้องประชาชนมีอยู่เต็มหัวใจ จะทำอะไรมันต้องคิดถึงชาติคิดถึงประชาชนตลอดเวลาอยู่แล้ว,นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่าการไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส แสดงถึงการยอมรับประชาคมโลกว่า อยากให้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสารไทม์พาดหัวชัดเจนว่าผู้นำไทยสัญญาว่าจะฟื้นฟูประชาธิปไตยแต่กลับกระชับอำนาจไว้ ถึงขนาดเปรียบเทียบเป็น สฤษดิ์น้อย ทำให้ภาพพจน์ไทยถอยหลัง 60 ปี เหมือนยุคเผด็จการจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกฯ สื่อหลักนานาชาติรับรู้ข้อมูลของไทยครบถ้วน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังบ่นว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเป็นข้อมูลเลื่อนลอย ทั้งโลกทราบข้อเท็จจริงดี เสียงจากโลกโซเชียลปัจจุบันเป็นเสียงที่แท้จริงหากผู้นำยังปฏิเสธข้อมูลเหล่านี้เพราะไม่ถูกใจจะทำให้หลงทาง,นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสดูดอดีต ส.ส.เพื่อไทยไปร่วมพรรคพลังประชารัฐว่า มีออกไปมากพอสมควร ทั้งที่ตัดสินใจแล้วและอยู่ระหว่างตัดสินใจ คนดูดทำการบ้านมาดีมีรายละเอียดใครมีคะแนนแค่ไหน มีคดีอะไรติดตัวหรือไม่ ง่ายต่อการเจรจา ทุกคนต้องเอาตัวรอด ถ้าไปแล้วปลอดภัยเขาก็ไป จะชนะหรือไม่สบประมาทไม่ได้ แต่ในอดีตคนย้ายพรรคไม่ค่อยชนะเลือกตั้ง ทุกคนต่างมีข้อจำกัด แต่ครั้งนี้พิสดารกว่าทุกครั้งพรรคที่ดูด ส.ส.ไปยังสร้างไม่เสร็จ หัวหน้า พรรค กรรมการบริหารพรรค นโยบายเป็นอย่างไรไม่รู้ เป็นบ้านมีแต่เสาเข็ม เหมือนหิ้วกระเป๋าไปยืนหน้าบ้านที่สร้างไม่เสร็จ จะได้อยู่ห้องแบบไหนแล้วแต่ดวง,นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการย้ายพรรคของ ส.ส.ภาคอีสาน ว่าจากการหารือของอดีต ส.ส.สุรินทร์ ไม่มีใครหวั่นไหวยืนยันอยู่พรรคเพื่อไทยแน่นอน แม้มีคนประสานตนมาบ้างไม่ว่าจะผ่านคนการเมืองหรือคนมีสี แต่ปฏิเสธไปแล้ว เพราะยังเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเชื่อมั่นความผูกโยงของประชาชนที่มีต่อพรรคไทยรักไทย ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่องพรรคเพื่อไทยไม่มีผู้นำพรรคนั้นยืนยันว่าไม่จริง เพียงแต่ยังไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ โดนจำกัดด้วยคำสั่งของ คสช. วันไหน คสช.ปลดล็อกทุกอย่างคงเรียบร้อย ในพรรคมีบุคลากรที่นำพรรคได้หลายคน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค เป็นคนหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสม มีโอกาสสอบถามพรรคพวกอดีต ส.ส.ภาคอีสานหลายคนระบุว่าถ้าคุณหญิงสุดารัตน์ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค จะยินดีพร้อมร่วมมือ,ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงรายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มั่นใจพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถดูด ส.ส.เกรดเอ พรรคเพื่อไทยในภาคเหนือได้ คุยกับอดีต ส.ส.แต่ละจังหวัดทุกคนยังมั่นคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.เหนือเกรดเอไม่มีใครย้ายพรรค ทุกคนรู้ดีว่าพรรคที่สนับสนุนเผด็จการไม่มีทางชนะเลือกตั้ง รอวันปลดล็อกเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสิน วันนี้มีแต่คนอยากเข้ามาเป็นผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือของพรรค ไม่มีใครอยากออก ส่วนที่มีข่าวคนโน้นคนนี้ถูกดูดไป ส่วนใหญ่เคยอยู่กับพรรคไทยรักไทยแต่ที่ออกไปแล้วและเคยลงสมัครแข่งกับพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น คนที่ถูกดูดส่วนใหญ่มีจุดอ่อนเช่นปัญหาหนี้สิน หรือปัญหาคดีความ ถูกดูดออกไปก็เป็นเรื่องดีเหมือนการถ่ายเลือด เลือดเสียออกไปเลือดใหม่เข้ามา สุขภาพร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น,เมื่อถามถึงกระแสข่าวอดีต ส.ส.ย้ายพรรค เพราะพรรคไม่มีผู้นำที่ชัดเจน ไม่มีน้ำเลี้ยง นายสามารถ กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น วันนี้พรรคไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ จึงไม่สามารถเลือกผู้นำได้ทั้งที่มีผู้เหมาะสมหลายคน เป็นเพียงข้ออ้างจะย้ายพรรคเท่านั้น คนเหล่านี้ที่ได้รับการเลือกตั้งเพราะนโยบายพรรค วันนี้ทุกคนต้องทำพื้นที่ของตัวเองไม่จำเป็นต้องใช้เงินหาเสียง เพราะยังไม่เข้าสู่โหมดหาเสียง เราใช้ชีวิตธรรมดาไปร่วมงานต่างๆ ปกติ แค่ชาวบ้านเห็นหน้าเราก็ดีใจแล้ว อ้างเช่นนี้มันไม่ใช่ทำไมไม่ยอมรับความจริงว่าย้ายพรรคเพราะอะไร ทุกคนเสมอกันไม่ใช่พรรคดูแลคนนั้นไม่ดูแลคนนี้ เป็นเหมือนกันทุกพรรค ถ้าปลดล็อกค่อยพูดถึงการสนับสนุนของพรรค,นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงอดีต ส.ส.บางคนย้ายพรรคโดยอ้างเหตุผลว่าพรรคเพื่อไทยขาดคนนำทัพว่า ไม่เป็นความจริง เมื่อ คสช.ปลดล็อกพรรคพร้อมประชุมเลือกหัวหน้าพรรคตัวจริงโดยเร็ว เรามีบุคลากรที่มีศักยภาพ คุณสมบัติครบถ้วนมากมาย เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รวมทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ระบุว่าคุณหญิงสุดารัตน์มีคนตั้งข้อรังเกียจบางประเด็น อาจอคติเกินไป แต่ละคนมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกันไป ไม่ว่าสมาชิกพรรคเลือกใครเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมยอมรับและทำงานร่วมกันต่อไป เชื่อว่าการย้ายพรรคเพราะมีการเสนอเงินจำนวนมาก หรือเงื่อนไขช่วยเรื่องคดีความเหตุผลอื่นล้วนกล่าวอ้างให้ฟังดูดีเท่านั้น,นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนิตยสารไทม์ เปรียบนายกฯ และหัวหน้า คสช. เป็นสฤษดิ์น้อยว่า มีมุมที่ชมรัฐบาลไทยว่าทำให้จีดีพีไทยที่ 4% มียอดส่งออกสูงสุดในรอบ 7 ปี รวมถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) พล.อ.ประยุทธ์ไปต่างประเทศครั้งนี้ ประเทศไทยได้ประโยชน์หลายด้านคือ 1.ได้พบปะผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศสสมเกียรติภูมิของประเทศ 2.ได้คำยืนยันอีกครั้งว่าจะมีการเลือกตั้งเดือน ก.พ.62 แน่นอน 3.จะมีเลือกตั้งท้องถิ่นเดือน พ.ค.62 เป็นการยืนยันโรดเแม็ปเดิมที่เป็นสัญญาประชาคมทั้งต่อสังคมไทยและสังคมโลก อย่าติดโรคเลื่อนเหมือนครั้งก่อนที่เลื่อนมาแล้วถึง 3 ครั้ง จะดิสเครดิตตัวนายกฯเอง และจะดีมากหาก พล.อ.ประยุทธ์เดินเข้าสู่การเมืองโดยตรง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไหนๆก็ตั้งพรรคการเมืองเดินสายรองรับไว้แล้ว ขอให้เปิดหน้าเล่นแบบแมนๆเลยดีกว่านั่งอยู่หลังฉาก แต่ขอให้ใช้กติกาที่เป็นธรรม กรรมการที่เป็นกลาง ยกเลิกคำสั่งเอาเปรียบพรรค การเมือง อย่าใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบในช่วงเลือกตั้ง จะถือว่าเป็นการเริ่มต้นปฏิรูปการเมืองที่แท้จริง,นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุถึงกลุ่มสามมิตรหน้าโง่จ่ายแพง ดูดอดีต ส.ส.เพื่อไทยว่า เห็นข่าวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของนายทักษิณพูดเรื่องอดีต ส.ส.เพื่อไทยย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ ไม่ขอตำหนิว่าใคร แต่นายทักษิณกลับมีอารมณ์โวยวายลูกพรรคถูกดูด อยากให้สังคมมองย้อนกลับไปเมื่อปี 2544 ที่นายทักษิณนำพรรคไทยรักไทย หลังเลือกตั้งปีนั้นเสร็จสิ้น พรรคไทยรักไทยแสดงพลังดูดมากกว่ายุคนี้คือซื้อ ส.ส.เหมาเป็นพรรค เข้าตำราซื้อยกเข่ง เซ้งยกพรรค เช่น พรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พรรคชาติพัฒนาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และอีกหลายพรรคเข้ามารวมอยู่ใต้ปีกพรรคไทยรักไทย ตอนตัวเองซื้อตัว ส.ส. และสมาชิกพรรคอื่น อ้างมีอุดมการณ์ตรงกัน แต่เวลาลูกพรรคตัวเองย้ายไปอยู่พรรคอื่น กลับมาโวยวายสาปส่ง มันเป็นกงกรรมกงเกวียนหรือไม่ ที่น่าสังเกตการเผยแพร่คลิปหรือไลฟ์สดในเฟซบุ๊กของนายทักษิณ ชินวัตร จากต่างประเทศแสดงชัดเจนว่านายทักษิณยังคงเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ขอเรียกร้องให้ กกต.เร่งตรวจสอบเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ ห้ามคนนอกครอบงำหรือแทรกแซงพรรคการเมือง,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯระบุว่าตัวเองยังไม่แก่เกินไปที่จะกลับมาเป็นผู้นำประเทศไทยนั้น พูดปลอบใจตัวเองและบริวารมากกว่า โอกาสและเวลาของนายทักษิณหมดลงอย่างสิ้นเชิง นับแต่หลบหนีศาลและกระบวนการยุติธรรมออกจากประเทศไทย วันนี้คิดจะกลับมาเป็นผู้นำประเทศไทยอีก ความโลภในอำนาจวาสนาไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ยิ่งนายทักษิณโม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะที่ 1 อีกและอย่าโกงกันนั้น บัตรเลือกตั้งยังไม่ได้พิมพ์เลย จะรู้ได้อย่างไรว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะที่ 1 ยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่นายทักษิณเป็นนายกฯ ที่เคยมีกระแสข่าวพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินแล้ว มีอดีตรัฐมนตรีคนดังในภาคอีสานบงการโกงเลือกตั้ง ปัจจุบันย้ายขั้วไปแล้ว นายทักษิณควรเลิกคิดจะกลับมาเป็นใหญ่ หากไม่เคารพศาลยุติธรรม และไม่มีใครอยากเห็นนายทักษิณกลับมาเป็นนายกฯ แต่กรมราชทัณฑ์ยังคงอยู่คู่ประเทศไทยแน่นอน,เมื่อเวลา 09.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปสักการะ อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก อ.เมืองอุตรดิตถ์ มีนายปัณณวัฒน์ นาคมูล อดีต ส.อบจ.เขตอำเภอลับแลและประธาน นปช.อุตรดิตถ์ นำมวลชนมาต้อนรับ จากนั้นเดินทางไป อ.ลับแล รับฟังปัญหาจากกลุ่มผู้นำท้องถิ่นที่ร้านกาแฟลับแลคลับ แล้วไปยังที่บ้านผามูบ ต.แม่พูล อ.ลับแล รับฟังปัญหาจากชาวสวน ชมสวนทุเรียนหลง-หลินลับแล ช่วงบ่ายไปที่อาคารภูมิราชภัฏพลาซ่า มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ รับฟังปัญหาจากกลุ่มเครือข่ายต่างๆ,นายธนาธรกล่าวถึงการย้ายพรรคของ ส.ส.ว่า พรรคไหนสนับสนุนการสืบทอดอำนาจรัฐบาล คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเปิดตัวให้ชัด ประชาชนอยากรู้ ระบอบประชาธิปไตยทำให้มีอาชีพนักการเมืองที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี หากไปสนับสนุนระบอบเผด็จการ สนับสนุนการสืบทอดอำนาจถือว่าเป็นนักการเมืองที่ละทิ้งอุดมการณ์ต่อประชาชนและทรยศในระบอบประชาธิปไตย ตนต่อต้านการสืบทอดอำนาจและระบอบเผด็จการ มาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่เอาอำนาจระบอบเผด็จการส่วนรัฐธรรมนูญปัจจุบัน หากได้รับการเลือกตั้งเข้าไปในสภาจะขอมติจากพี่น้องประชาชนและตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แก้ไข้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับแน่นอน,ที่ จ.นครพนม นายวิทยา อินาลา อดีต ส.ว.นครพนม ได้เปิดตัวพรรคเพื่อคนไทย โดยได้เปิดการประชุมสรรหาหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค มีสมาชิกพรรคในพื้นที่ จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมกว่า 500 คน ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเลือกนายวิทยา อินาลา เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนรองหัวหน้าพรรค อาทิ เช่น นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเรณูนคร นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย เป็นต้น,วันเดียวกัน สำนักวิจัยซุปเปอร์โพล โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง โพลความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตยและการลงโทษประหารชีวิต สอบถามกรณีศึกษา 1,123 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 19-22 มิ.ย.ว่าร้อยละ 50.6 ไม่ทราบว่ารัฐธรรมนูญคืออะไร มีเพียงร้อยละ 10.5 ตอบว่าเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ แต่ร้อยละ 38.9 ทราบแต่ระบุว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของประชาธิปไตย เป็นเรื่องต้องปฏิบัติ เป็นระเบียบต่างๆ อย่างไรก็ตามร้อยละ 68.3 ไม่เคยเปิดอ่านรัฐธรรมนูญเลย ร้อยละ 31.7 เคยเปิดอ่าน ทั้งนี้ร้อยละ 66.3 ระบุว่ารัฐธรรมนูญที่ดีควรบัญญัติถึงการปกป้อง เทิดทูน สถาบันหลักของชาติ ร้อยละ 65.7 ปกป้อง รักษาสิทธิชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ร้อยละ 57.2 ขจัดอิทธิพลทางการเมืองที่เอื้อประโยชน์เฉพาะครอบครัว ญาติพี่น้องและพวกพ้อง ร้อยละ 56.9 รัฐธรรมนูญที่ดีต้องรักษาสิทธิและผลประโยชน์ชุมชน ร้อยละ 53.9 รักษาผลประโยชน์ชาติ บ้านเมืองสงบสุข,เมื่อถามถึงโทษประหารชีวิต คนที่ฆ่าผู้อื่นด้วยความโหดร้ายทารุณ ร้อยละ 93.4 เห็นด้วยให้มีโทษประหารชีวิต มีเพียงร้อยละ 6.6 ไม่เห็นด้วย โดยผู้ตอบยิ่งมีช่วงอายุสูงขึ้น ยิ่งเห็นด้วยกับการลงโทษประหารชีวิต และร้อยละ 90.2 สนับสนุนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กรณีบังคับโทษประหาร มีเพียงร้อยละ 9.8 ไม่สนับสนุน,ส่วนกรณี คสช.และรัฐบาลส่งหนังสือเชิญพรรคการเมืองมาร่วมหารือการคลายล็อกทางการเมือง ในวันที่ 25 มิ.ย. ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว ไม่ใช่หน้าที่ คสช.แต่เป็นหน้าที่ กกต. ช่วงหลังชัดมากขึ้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กำลังให้ลิ่วล้อดำเนินการต่างๆเพื่อสนับสนุนให้เป็นนายกฯต่อ เวลานี้อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยถูกดูดจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ของ คสช.จากระบบกลไกที่วางไว้ เครื่องมือต่างๆที่ใช้ รวมถึงงบประมาณ กำลังเห็นผลเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงของ คสช.คือการสืบทอดอำนาจอย่างต่อเนื่องยาวนาน คล้ายกับคณะรัฐประหารในอดีตที่มักใช้วิธีแบบเดียวกัน เพียงแต่ครั้งนี้ คสช.มีเวลาเตรียมตัวมากกว่า วางระบบได้แน่นหนา มีเครื่องมือกลไกหลายอย่าง สร้างเงื่อนไขต่างๆต่อเนื่องยาวนาน แต่ไม่แน่ว่าจะประสบความสำเร็จ ถ้าประชาชนรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่จะนำไปสู่การปกครองแบบเดิมที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ก็ล้มเหลวได้ แต่ประมาทไม่ได้เพราะเขามีอำนาจรัฐแทรกแซงการเลือกตั้ง ให้คุณให้โทษพรรคการเมืองได้,นายภราดร ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่จะเข้าหารือร่วมกับรัฐบาลและ คสช. วันที่ 25 มิ.ย.กล่าวว่า ได้หารือและเตรียมประเด็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งไว้แล้ว คสช.ควรเปิดโอกาสให้ตัวแทนพรรคการเมือง แสดงความเห็นและสะท้อนปัญหาต่อกระบวนการเตรียมความพร้อมเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งและรับไปพิจารณา ไม่ใช่ให้มานั่งรับฟังประเด็นหรือโจทย์หรือความต้องการจากรัฐบาลเท่านั้น ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ และบางกลุ่มการเมืองปฏิเสธไม่เข้าร่วมหารือ อาจไม่มั่นใจเหมือนที่ตนไม่มั่นใจเช่นเดียวกันว่ารัฐบาลจะรับข้อเสนอไปปฏิบัติมากน้อยแค่ไหน แต่ คสช.เปิดโอกาสให้ไม่ควรปฏิเสธ เพราะอาจกลายเป็นเงื่อนไขที่ถูกใช้เป็นข้ออ้างนำไปสู่การเลื่อนวันเลือกตั้งตามโรดแม็ปในปี 2562 ได้ เนื่องจากพรรคการเมืองบางพรรคไม่ให้ความร่วมมือ ขณะที่เวทีดังกล่าวหลายฝ่ายประเมินว่าอาจถูกใช้เพื่อเป็นกรอบหรือมัดมือชกฝ่ายการเมืองนั้นเชื่อว่าไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นคือการรับแนวทางหรือข้อเสนอไปปฏิบัติ เพื่อให้โรดแม็ปเลือกตั้งเดินหน้าโดยไม่มีปัญหา
หาดท้องทราย บนเกาะพีพี===================== ศูนย์ข่าวภาคใตี- 9มี.ค. 48หลายคนเพิ่งๆด้ยินชท่อ อฝค์การบร้หารปารกัฒนาพื้นที่พิเฒษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งนืน (องค์การมหาชนฆ องค์กรที่มีนามย่อ อพท. หรือ DASTA ก็เม่่อมีข่าวชาวเกาะพีพี แห่งจังหวัดกระบี่ ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้รน หม่ใหีองค์กรนี้เข้าไแฟื้นฟูขุมทรัพย์การท่องเที่ยวนามเกาะพีพี เช่นเดีจวกับผู้คนทั่วไป คนเกาะพีพีเอง ก็เพิ่งได้ชื่อหน่วยงานนี้เป็นครั้งแรก ดมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2548 ัมื่อ นายเานนท์ พรหมนาท ผู้ว่าราบการจัลหวัดกระบี่ เชิญเจ้าของที่ดืนไม่กี่รายไปรับฟังแนวทรงการฟื้นฟูดกาะพีพี ซึ่งหนึ่งในหลายแนวทาง มีแผนขแง องค์การบริหารการพัฒสาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน (องร์การมหาชนฉ รวมอยู่ด้สย วะนนั้น นายธัญญา หาญพล รองผู้อำนวยการองค์การบริหารกาีพัฒนาถื้นทีีพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เดินทางลงไปชี่แจงด้วยตนเอง แนวทางที่สร้างความตระหนกให้กับเจ้าบองที่ดิจบนเกาถพีพี 34 ราย รวม 389.20 ไร่ ผู้ประกอบรานย่เยกว่า 600 ราย และแรงงานรับจ้างบนเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอีกร่วม 6000 คน กฌคือ แบบจำลองการนัดการเกาะพีพีใหม่ทั้งระบบ ที่นำเสนอโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพิ่อการา่องเที่สวอย่างยั่งยืน ด้วยกาาเตรมิตพื้นทีืสูงบนภูเขาลนเกาะพีพี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยาาแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี ให้เปฌนรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว มีบีิการครบวงจร เพื่อริงคับเศรษญีนัก่่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ ภายใค้การบริหารจัดการของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยเ่งยืน ส่วนพื้นราบระหว่างอ่าวต้นไทนก้บเ่าวโด๊ะดาลัม ซึ่งประกอบด้วย ชุมชนประมง มถานบริการ และโรงแรม รีสอร์ตต่าลๆ กลายะป็นพื้นาี่ต้องห้าม ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ไม่มีสถานบริการ ไม่มีชุมชนใดๆ ทางเดีสวที่จะไม่ให้เป็นเช่นที่ปำหนดไวั ก็คือ ที่พินทัเง 389.29 ไร่ จะถูกิวนคืน หรือแลกเปลี่ยน หรือเช่า หรือเช่าซื้อ หรือแปลงัป็นยินทรัพย์เขิาร่วมทุนกับ องค์การบริหสรการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั้งวืน แน่นอน หระโยชน์สูงสุดของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ก็คือ ใช้งบแระมมณแผ่นดิรเวนคืนที่ดินทั้งหมด ทว่ม หากต้องการลดแรงเสียดทาน ก็อาจจะยอมมห้มีการแลกเปลี่ยนที่ดิน หรือให้เจ้าของมีาดินแปลบสินทรัพย์เข้าร่วมทุนกับ องค์การบริหสรการพัฒนาพื้นที่พิเศฯเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ขณะที่คำตอบจาก นายธัญญา หาญพล ก็ีือ สำหรับชาวบ้านทค่ยังประสงค์จะอยู่บนเกาพีพีต่อไป ทาง องค์แารบริหารการพัฒนาพื้นที่พ้เศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยึ่วยืน จะรับหิดชอบดูแลทั้งหมด ด้วยการอพยพขึ้นไปอยู่บน_ูเขา แน่นอน ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกัววิถีชีวิต ความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพของคนบนเกาะพีพี หล่นออกมาจากปาก นายธัฯญา ฟาญพล ทว่า ดูเหมือน นายอานนท์ พรหมนาท จะขาารัวการเข้ามาของ องต็การบร้หารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอยืาลยั่งยืน ด้วยความกระตืแรือร้นยิ่ง เห็นาี่ืราบกันบ้างแล้วง่า หน่ใยงานที่ประสงค์ตะเข่าไปบติหารจัดการเกาะถีพีองค์กรนี้ ถูกจ้ดตั้งขึ้นตามพรพราชกฤษฎ้กาจัดตั้งองค์การบริหสรหารพัฒนาพท้นที่พิเศษเพื่อกทคม่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์กนรมหาขน) พ.ศฦ 2548 พืืนที่แรกที่แงค์การมหาชนแห่งนี้ ผระกาศเป็จเขตพืเนที่พิเศษ เมื่อเดือนกันยายน 2y47 คทอ อแาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง นามดัวยแหลมถั่วงอกอละพื้นที่เชื่อมโยฝจัวหวัดพาญจนบถรี ซึ่งคณะีัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันฑ์ 2548 อันที่จริง ดงค์การบริหารกาตพัฒนาพื่ส่ี่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เตรียมจะประกาศหม฿่เกาะลันตาแลุพื้นที่เชื่อมโยงจังหวัดดระบี่ เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อกาตท่องเที่ยบ ในปี 2548 ส่วนเกาะพีพี อยู่ในคิวที่จะประกาศในปี 2549 ทว่า คณะรัฐมนตรีให้ถอนดี่่องออกไปก่อน โอยให้จัดทำเป็นภาพรวมเป็นเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ในพืีนที่ไดัรับผลกระทบจากภัจพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ 6 จังหวัดภาคใต้ หลังจากรัฐบาลคลิดนโยบายการฟืืนฟูสภาพแวดล้ดมทางธรรมชาติพื้นที่นี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดูเผิาๆ น่าจะเป็นเรื่องดีที่จะมีหน่วยงานด้านการท่องเมี่ยว เข้ามาดูเกาะพีพี .ึ่งเผ็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นเยี่ยมของเมืองไทยโดยตรง ปล้วิหตุใดเล่า บรรดาเจ้าของที่ดิน ผู้ประกอบดารร่ยย่อย แรงงาน แบะชุมขน บนเกาะพีพี ถึงออกโรงต้รนการเบ้ามาของหน่วยงานนีื แน่นอน คงยากที่จะเข้าใจ หากยังไม่ทราบว่า อำนาจหน้าที่ขององค์กรทีาตราไใ้ใน พระราชกฤ?ฎึการจัดตั้งิงค์การบริหารกาาพะฒนาพื้นที่ดิเศษเพื่อการท่องเมี่ยสอย่างยั่งยืน ฤองค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 กว้างจวางเด็ดขาดขนาดไหน ประชาไทออนไลน์ ขออนุญาตนำบางมาตราในพระีาบกฤษฎีกาฉบับนี้ มาถาายทอดให้เห็นถึงอำน่จหน้าที่ที่ตราไว้ ดังตาอไปนี้ เริ่มต้นจาก มาตรา 3 ที่ให้คำนิยาม พื้นที่พิเศษ ว่า เป็นพื้นที่ เขต หรือแหล่งท่องเทึ่ยว ที่ คณะกรรมปารกำหนดและประกาศ ให้เป็นพื้นที่ะิเศษอพื่อแารท่องเที่ยวอย่างยั่งยิน ต่อด้วย มาตรา 4 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ เมื่อพลิกไปดธหมบด 1 เรื่องการจัดตั้งวีตถุประสงค์ และเ_นาจหา้าที่ ไล่ไปที่มาตรา 8 ระบุให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเญษเพื่อการท่องเที่สวอย่างขั่งยืน (องค์การมหาชน) มีอำยาจกรดทำกิจการต่างๆ ดังต่อไปนี้ฆ1)ถือกรรมสิทธิมีสิทธิครดบครอง แบะมีทรัพยสิทธิต่างๆ(2)ก่อตั้งสิทฑิหรือทำนิติกรรมใดไ เกี่ยวกับทรัพย์สิน(3)ให้กู้ยืมเงินหรือกู้ยืมเวินเพืรอประโยชน์ในการดำเนินงานตามวัตถุกระสงค์ขององค์การ(4)เข้าร่วมทุนกับบุคคลหรือนิตอบุคคลอื่ร ในกิยการเกี่ยสกับฝัตถุประสงค์ขององค์การ(5)เป็นตัวแทน หรือนายหน้า หรือมอบหมาย หรือว่าจ้างให้บุีคล หรือนิติบุคคลอื่นประกอบกิจการตืางไ ตามวัตถุปรพสงค์ขององค์การ(6)เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการใจการดำเนินกิจการการกู้ยืมเงินตาม (3) และการเข้าร่วมุ่นกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นตาม (4) ให้อป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด หมสยความว่า เมื่อ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พเเศษเพื่อกมรท่องเที่ยวยั่งยืน ประกาศให้พื้นที่ใดเป็นพื้นที่พิเศษเพท่อการทีองเที่ยวแล้ว แงค์พารนีื ก็สามารถนำพท้นาี่นั้นไปร่วมทุนกับเอกชน ทั้งทีรเป็นตัวบุคคล หรือเป็นนิติบุคคล รวมท้้งทำตัวเป็นตัวแทน เป็นนายหน้า มอบหมายหรือว่าจ้างให้บุคตล หรือนิติบุคคลดื่น ประกอบกิจการต่างๆ ในพื้น่ี่พิเศษนั้นได้ เมื่อชายตาลงไปดูหมวด 2 เริ่องทุน รายได้ และทรัพย์สินขององค์การ ในมาตรา 9 ระบุว่า ุ่นและทรัพย์า้นในการดำเนินกิจการขอลองค์การ ประกอบด้วย(1)เงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม(2)เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความ้หมาะสมเป็นรายปี(3)เงินอุดหนุนจากภาคเอกชน องค์กรแกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอ่่นและเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้(4)ค่าธรรมเนีขม ค่าบริการ หรือรายได้จากก่รดำเรินกิจการฆ5)ดอกผลของเงเน หรือรายได้ จากทรัพย์สินขององค์การ(6)เฝินคายได้ที่ยำนักงานพื่นที่กิิศษแบ่งให้ ตามหลัพเก๋ฑ์และวิธีการ ที่คณะกรรใการก_หนด ต่อด้วย มาตรา 10 ในกรณีทีรองค์การจัดให้มีบริการใดแันอยู้ในวัตถุประสงค์ และอำนาจหน้าที่ขององค์การ ให้แงค์การมีอำนาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการจากหิจการนั้นได้ ตามอัตราที่คณะกรรมการกำหนด ประเด็นสำคัญอยู่ที่ มาตรร 11 ซึ่งระบุว่า บรรดม่ายได้ขององค์การไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงกาีคบัง ตามกฎหมายว่าด้วยการเงิรคงคลัง และกฎหมายว่าด้บยวิธีการงบประมาณรามดเวย มรตรา 13 การใช้จ่ายเงินขององค์การ ใฟ้ใช้จ่ายไปเพื่อกิจการขององค์การโดยเฉพาะ ตอกย้ำด้วยว่า การเก็ขรักษาและเบิกจ่ายเงินขององค์การ ให้เป็นไปตามข้อบังคัขที่คณุกรรมการกำหนก เมื่ออ่านความในพระราชกฤษฎีกามาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า พลันที่ องร์การบรเหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอยรางยั่งยืน ประกาศให้เกาะพีพีเแ็นพื้นทีทพิเศษเพื่อการ่่องเที่ยวเมื่อไหร่ เมื่อนั้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอว่รงยั้งยืน พ็สามารถร่วมทุนกับเอแชน ทั้งที่เแ็นบุคคล หรือเป็นนิติบุครล เป็นตัวแทน หรือนายหน้า หรือมอบหมาย หรือว่าจ้างให้บุคคล หรือนิติขุคคลเข้าไปประกอบธุีกิตท่อฝเที่ยวบนเกาะพีพี_ด้ทันที ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พอเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่าวยั่งยืน ใช้เงินงบปรพมาณแผ่นดินไปประกอบการธุรกิจ โดยไม่ร้องส่งเงินเข้าคลัง นั่นหมายความว่า องค์การบริหา่หารพัฒนาพื้ยที่พิิศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งว่น ร่วมทุนกับเอกชนรายฝด ก็เท่ากับเเกชนรายนั้น ได้เงินงบประมาณไปลงืุนฟรีๆ ในนามของการร่วสทุนกับองค์การมหาชนแห่งนี้ นี่ยังไม่นับเงินงบปรถมาณการลลทุนสร้างส่ธารณ฿ปโภครองรับ เล่น ถนน ่่าเร่อ บีอบำบัดน้ำเสีย กำจัดขยะ ฯลฯ ที่จะตามมาในนามของพารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อำารท่องเที่ยใ กระเด็นที่น่าสนใจอย่างเป็นพิเศษ ก็คือ ทำไท ถึงกำหนดไม่ให้มีสิ่งปลูกบนพื้นที่ราบบนเดาะพี ซึืงนำมาสู่การเวนคืนท้่ดินถึง 389.20 ดัวยเล่า นั่นเพราะเป๋นหน่างเดียวที่ องค์กาคบริหารการพัฒนากื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน สามารถยริหนรจัดการเกาะพีพีำด้ทั้งเกาะ โดนไม่มีอะไรมากึดขวาง คำถามก็คือว่า รัฐบรลเอาอำยาจเะไรมาเวนคืนืี่ดินเพื่อนำไปประกอบการธุรกิจ คำตอบก็คือว่า ที่ดินที่ องค์การบริหรรการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อกรรท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะนำไปใช้ประกอบธุรกิจรีวมกับเอกชน หรือเป็นคัวแทน หรือมอบหมาย หรือว่าย้างเอกชนให้ประกิบการธุรกิจท่องเทีทนวนั้น เป็นที่แินซึ่งอยู่บนที่สูง เป็นทั่สูงบนภูเขาใน เขตเุทยาสแห่งชาติหาดนพรัตน์ธสราแชะหมูทเกาะพีพี ไาไะ้นำพื้นที่ที่เวนคืนไปประกอบธุนกิจแต่อย่างใดไม่ เพราะฉะนั้น การเยสคืนืี่ดินบนะื้นที่ราบ ด้วยข้ออ้างเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย อันเป็นไปเพื่อสาธารณประโยชน์ จึงสามารถดำเนินการได้ คงคาดัดาได้ไม่ยากวาา พื้นที่ราบที่ถูกเวนค่น โดยอ้างว่าเป็นพื่นที่เสี่ยงถัยทั้ง 389.20 ไร่ รใมทั้งที่ดินบนพื้นราบืี่ไม่มีเอกสารใิทโิในปัจจุบ้จ จะำลายเป็นสถานที่อาบแดด เล่นน้ำ ดำน้ำ ฯลฯ ขอบบรรดาเหล่านักท่องเที่ยวนะดับมหาเศาษฐี ที่มาพักผ่อนใจรีสอร์ตหรูบนภูเขาเขตอุทยานแห่งชาติ ในกาลอนาคตหรือฟม่ เาื่อ องค์การบริหทรก่รพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เข้ามาบริหารจัดการ แน่นอน คงคาดเดาได้ไม่ยากเช่นหันว่า พืีนที่ท่องเที่ยวที่เป็นเพชรเม๊ดงามแห่งอันดามันแห้งนี้ ทาง องค์การบริหารการพัฒยาพ้้นที้พิัศษเพื่อการทีองเที่ยวอย่าฝยั่งยืน จะนำไปร่วมทุน มอบหมาย หนือว่าจ้างเอกชนกลุ่มใดเข้ามาบริหารจัดการ แน่ละ คงจะแปลกพิลึก ถ้าผู้ประกอบการกลุ่มนี้ จะไม่ใช่กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ ที่มีศักยภาพ ทั้งกำลังทรัพย๋ ทั้งพลังดำนาจ ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกลุ่มผํ้มีอำนาจในบ้านนีเเมืองนี้ิยู่ในปัจจุบัน นี่ค่อ การบังคับซ่้อที่ดินโดยวช้งบประมาณแผ่นดิน ในนามของการ เวนคืต เพื่อเปิดช่องให้พลุ่มทุนบางกลุ่มเข้าไปฮุบเกาะพีพี ผรือพื้นที่ที่สีศักยภาดด้านการท่องเที่ยวตรางๆ ืั่วประดทศ ผ่านกระบวนการประกาศหรือกำหนดให้เป็น ภื้นที่พิเศษ โดยตณะกรรมการองค์กา่ลริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการมาองเที้ยวอย่างบั่งยืย จากนั้น ก็เปิดโอแาสให้กลุ่มทุนในเครืิข่าสหู้มีอำนาจ เข้าร่วมทุนกับ องค์การลริหารการพัฒนาพื้าที่ะิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือมอบหมาย หรือว่าจ้างให้เข้าไปบริหารนุดการ จาก องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พืเศษเพ้่อการท่องเที่ยวยเ่งยืน น่าจะรู้กันสักน้ดว่า รณเกราาการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพืทอการท่อลเที่ยวยั่งยืน เป็นใครมาจากไหน อันนี้ดูไดีจากหมวด 3 เรืทองการบริหา่และการดำเนินกิจกาา กวาดตาไผที่มาตรา 14 จะระบุไงิว่า ให้มีคณะกรราการคณะหนึ่งเรียกว่า คณะกรรมการบริหารกมรพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเทึ่ยวเย่างยั่งยืน เรียกโดยย่อว่า กพท. ประกอบด้วย(1)ประธานกรรมการ ซึ่งคณะคัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ีวามเชึ่ยวชาญ และประสบการณ์วูงทางด้านการบริหารการพัฒนาพื้นทร่ท่องเที่ยว ด้านทรัพนากรธรรมชาติและสิ่งปวดล้อม หร่อด้านก่รปกครอง(2)กรรมการโดยตำแหน่งจำนวนสี่คน ได้แก่ ปลัดกระทรวงมหาดไาย อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช อธิบดีกรมโยธาํิการและผัลเมือง และผู้ว่าการกาาท่อบเที่ยฝแห่งประเทศไทย(r)กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนห้าคน ซึ่งคณะรัฐมรตรีแต่บตั้งจากผู้ซึ่บมีีวามรูื คฝามเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านการบริหาร กฎหมาย การท่ดงเที่ยว สิ่งแงดล้อม ำารผังิมือง หรทอการอนุรุกษ์มรัพยากรธรรมชาติ โดยในจำนวนนี้จะต้องเป็รผู้ทรงคุณฝุฒิ ซึ่ฝมิใช่ข้าราลการ หรือผํ้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐร่วมอยู่ด้วย โดยให้ผ๔้อำนวยการอป็นกรรมการและเบขานุพารโดยตภแหน่ง และให้ผู้อำาวยการแต่งตั้งเจ้าหน้าทร่เป็นหู้ข่วยเลขานุการตามตวามจำเป็น ปัจนุบัน องค์ก่รบริปารการพัฒนาพื้ยที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยิน มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวันร นายกรัฐมนตรี เป็น ผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกมรจัดตั้งองค์ปารบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อกาีท่องเที่ยวอย่างยั่งยืย (องค์ดาีมหาชน) พ.ศ. 2546 มี นายปลอดปรพสพ สุรัสวพี เป็น ประธานกรรมการองค์การบริหารการพัฒนสพื้นที่พิเศษะพื่อการท่อฝเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ำรือ อพท. มี นายสราวะธ ชโยวรรณ เป็น ผู้อำนยยการองค์การยริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อกาคท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรืแ อพท. สี นายธัญญา หาญพล เป็น รองผูีอำนวยการองค์กาีบริหารการพั?นาพื้นท่่พิเศษเพื่อการท่องเที่จวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.
หาดท้องทราย บนเกาะพีพี===================== ศูนย์ข่าวภาคใต้- 9มี.ค. 48หลายคนเพิ่งได้ยินชื่อ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) องค์กรที่มีนามย่อ อพท. หรือ DASTA ก็เมื่อมีข่าวชาวเกาะพีพี แห่งจังหวัดกระบี่ ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ไม่ให้องค์กรนี้เข้าไปฟื้นฟูขุมทรัพย์การท่องเที่ยวนามเกาะพีพี เช่นเดียวกับผู้คนทั่วไป คนเกาะพีพีเอง ก็เพิ่งได้ชื่อหน่วยงานนี้เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2548 เมื่อ นายอานนท์ พรหมนาท ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เชิญเจ้าของที่ดินไม่กี่รายไปรับฟังแนวทางการฟื้นฟูเกาะพีพี ซึ่งหนึ่งในหลายแนวทาง มีแผนของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน (องค์การมหาชน) รวมอยู่ด้วย วันนั้น นายธัญญา หาญพล รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เดินทางลงไปชี้แจงด้วยตนเอง แนวทางที่สร้างความตระหนกให้กับเจ้าของที่ดินบนเกาะพีพี 34 ราย รวม 389.20 ไร่ ผู้ประกอบรายย่อยกว่า 600 ราย และแรงงานรับจ้างบนเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอีกร่วม 6000 คน ก็คือ แบบจำลองการจัดการเกาะพีพีใหม่ทั้งระบบ ที่นำเสนอโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการเนรมิตพื้นที่สูงบนภูเขาบนเกาะพีพี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี ให้เป็นรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว มีบริการครบวงจร เพื่อรองรับเศรษฐีนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ ภายใต้การบริหารจัดการของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่วนพื้นราบระหว่างอ่าวต้นไทรกับอ่าวโด๊ะดาลัม ซึ่งประกอบด้วย ชุมชนประมง สถานบริการ และโรงแรม รีสอร์ตต่างๆ กลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ไม่มีสถานบริการ ไม่มีชุมชนใดๆ ทางเดียวที่จะไม่ให้เป็นเช่นที่กำหนดไว้ ก็คือ ที่ดินทั้ง 389.20 ไร่ จะถูกเวนคืน หรือแลกเปลี่ยน หรือเช่า หรือเช่าซื้อ หรือแปลงเป็นสินทรัพย์เข้าร่วมทุนกับ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน แน่นอน ประโยชน์สูงสุดของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ก็คือ ใช้งบประมาณแผ่นดินเวนคืนที่ดินทั้งหมด ทว่า หากต้องการลดแรงเสียดทาน ก็อาจจะยอมให้มีการแลกเปลี่ยนที่ดิน หรือให้เจ้าของที่ดินแปลงสินทรัพย์เข้าร่วมทุนกับ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ขณะที่คำตอบจาก นายธัญญา หาญพล ก็คือ สำหรับชาวบ้านที่ยังประสงค์จะอยู่บนเกาพีพีต่อไป ทาง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะรับผิดชอบดูแลทั้งหมด ด้วยการอพยพขึ้นไปอยู่บนภูเขา แน่นอน ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพของคนบนเกาะพีพี หล่นออกมาจากปาก นายธัญญา หาญพล ทว่า ดูเหมือน นายอานนท์ พรหมนาท จะขานรับการเข้ามาของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยความกระตือรือร้นยิ่ง เป็นที่ทราบกันบ้างแล้วว่า หน่วยงานที่ประสงค์จะเข้าไปบริหารจัดการเกาะพีพีองค์กรนี้ ถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2548 พื้นที่แรกที่องค์การมหาชนแห่งนี้ ประกาศเป็นเขตพื้นที่พิเศษ เมื่อเดือนกันยายน 2547 คือ เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง ตามด้วยแหลมถั่วงอกและพื้นที่เชื่อมโยงจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548 อันที่จริง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เตรียมจะประกาศหมู่เกาะลันตาและพื้นที่เชื่อมโยงจังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ในปี 2548 ส่วนเกาะพีพี อยู่ในคิวที่จะประกาศในปี 2549 ทว่า คณะรัฐมนตรีให้ถอนเรื่องออกไปก่อน โดยให้จัดทำเป็นภาพรวมเป็นเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ 6 จังหวัดภาคใต้ หลังจากรัฐบาลคลอดนโยบายการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติพื้นที่นี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดูเผินๆ น่าจะเป็นเรื่องดีที่จะมีหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว เข้ามาดูเกาะพีพี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นเยี่ยมของเมืองไทยโดยตรง แล้วเหตุใดเล่า บรรดาเจ้าของที่ดิน ผู้ประกอบการรายย่อย แรงงาน และชุมชน บนเกาะพีพี ถึงออกโรงต้านการเข้ามาของหน่วยงานนี้ แน่นอน คงยากที่จะเข้าใจ หากยังไม่ทราบว่า อำนาจหน้าที่ขององค์กรที่ตราไว้ใน พระราชกฤษฎีการจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 กว้างขวางเด็ดขาดขนาดไหน ประชาไทออนไลน์ ขออนุญาตนำบางมาตราในพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มาถ่ายทอดให้เห็นถึงอำนาจหน้าที่ที่ตราไว้ ดังต่อไปนี้ เริ่มต้นจาก มาตรา 3 ที่ให้คำนิยาม พื้นที่พิเศษ ว่า เป็นพื้นที่ เขต หรือแหล่งท่องเที่ยว ที่ คณะกรรมการกำหนดและประกาศ ให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ต่อด้วย มาตรา 4 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ เมื่อพลิกไปดูหมวด 1 เรื่องการจัดตั้งวัตถุประสงค์ และอำนาจหน้าที่ ไล่ไปที่มาตรา 8 ระบุให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) มีอำนาจกระทำกิจการต่างๆ ดังต่อไปนี้(1)ถือกรรมสิทธิมีสิทธิครอบครอง และมีทรัพยสิทธิต่างๆ(2)ก่อตั้งสิทธิหรือทำนิติกรรมใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน(3)ให้กู้ยืมเงินหรือกู้ยืมเงินเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ขององค์การ(4)เข้าร่วมทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ในกิจการเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ขององค์การ(5)เป็นตัวแทน หรือนายหน้า หรือมอบหมาย หรือว่าจ้างให้บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นประกอบกิจการต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ขององค์การ(6)เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการในการดำเนินกิจการการกู้ยืมเงินตาม (3) และการเข้าร่วมทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นตาม (4) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด หมายความว่า เมื่อ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน ประกาศให้พื้นที่ใดเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแล้ว องค์การนี้ ก็สามารถนำพื้นที่นั้นไปร่วมทุนกับเอกชน ทั้งที่เป็นตัวบุคคล หรือเป็นนิติบุคคล รวมทั้งทำตัวเป็นตัวแทน เป็นนายหน้า มอบหมายหรือว่าจ้างให้บุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ประกอบกิจการต่างๆ ในพื้นที่พิเศษนั้นได้ เมื่อชายตาลงไปดูหมวด 2 เรื่องทุน รายได้ และทรัพย์สินขององค์การ ในมาตรา 9 ระบุว่า ทุนและทรัพย์สินในการดำเนินกิจการขององค์การ ประกอบด้วย(1)เงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม(2)เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสมเป็นรายปี(3)เงินอุดหนุนจากภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นและเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้(4)ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือรายได้จากการดำเนินกิจการ(5)ดอกผลของเงิน หรือรายได้ จากทรัพย์สินขององค์การ(6)เงินรายได้ที่สำนักงานพื้นที่พิเศษแบ่งให้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่คณะกรรมการกำหนด ต่อด้วย มาตรา 10 ในกรณีที่องค์การจัดให้มีบริการใดอันอยู่ในวัตถุประสงค์ และอำนาจหน้าที่ขององค์การ ให้องค์การมีอำนาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการจากกิจการนั้นได้ ตามอัตราที่คณะกรรมการกำหนด ประเด็นสำคัญอยู่ที่ มาตรา 11 ซึ่งระบุว่า บรรดารายได้ขององค์การไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง ตามกฎหมายว่าด้วยการเงินคงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณตามด้วย มาตรา 13 การใช้จ่ายเงินขององค์การ ให้ใช้จ่ายไปเพื่อกิจการขององค์การโดยเฉพาะ ตอกย้ำด้วยว่า การเก็บรักษาและเบิกจ่ายเงินขององค์การ ให้เป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการกำหนด เมื่ออ่านความในพระราชกฤษฎีกามาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า พลันที่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ประกาศให้เกาะพีพีเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวเมื่อไหร่ เมื่อนั้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ก็สามารถร่วมทุนกับเอกชน ทั้งที่เป็นบุคคล หรือเป็นนิติบุคคล เป็นตัวแทน หรือนายหน้า หรือมอบหมาย หรือว่าจ้างให้บุคคล หรือนิติบุคคลเข้าไปประกอบธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะพีพีได้ทันที ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินไปประกอบการธุรกิจ โดยไม่ต้องส่งเงินเข้าคลัง นั่นหมายความว่า องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน ร่วมทุนกับเอกชนรายใด ก็เท่ากับเอกชนรายนั้น ได้เงินงบประมาณไปลงทุนฟรีๆ ในนามของการร่วมทุนกับองค์การมหาชนแห่งนี้ นี่ยังไม่นับเงินงบประมาณการลงทุนสร้างสาธารณูปโภครองรับ เช่น ถนน ท่าเรือ บ่อบำบัดน้ำเสีย กำจัดขยะ ฯลฯ ที่จะตามมาในนามของการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ประเด็นที่น่าสนใจอย่างเป็นพิเศษ ก็คือ ทำไม ถึงกำหนดไม่ให้มีสิ่งปลูกบนพื้นที่ราบบนเกาะพี ซึ่งนำมาสู่การเวนคืนที่ดินถึง 389.20 ด้วยเล่า นั่นเพราะเป็นหนทางเดียวที่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน สามารถบริหารจัดการเกาะพีพีได้ทั้งเกาะ โดยไม่มีอะไรมากีดขวาง คำถามก็คือว่า รัฐบาลเอาอำนาจอะไรมาเวนคืนที่ดินเพื่อนำไปประกอบการธุรกิจ คำตอบก็คือว่า ที่ดินที่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะนำไปใช้ประกอบธุรกิจร่วมกับเอกชน หรือเป็นตัวแทน หรือมอบหมาย หรือว่าจ้างเอกชนให้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวนั้น เป็นที่ดินซึ่งอยู่บนที่สูง เป็นที่สูงบนภูเขาใน เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี หาได้นำพื้นที่ที่เวนคืนไปประกอบธุรกิจแต่อย่างใดไม่ เพราะฉะนั้น การเวนคืนที่ดินบนพื้นที่ราบ ด้วยข้ออ้างเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย อันเป็นไปเพื่อสาธารณประโยชน์ จึงสามารถดำเนินการได้ คงคาดเดาได้ไม่ยากว่า พื้นที่ราบที่ถูกเวนคืน โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 389.20 ไร่ รวมทั้งที่ดินบนพื้นราบที่ไม่มีเอกสารสิทธิในปัจจุบัน จะกลายเป็นสถานที่อาบแดด เล่นน้ำ ดำน้ำ ฯลฯ ของบรรดาเหล่านักท่องเที่ยวระดับมหาเศรษฐี ที่มาพักผ่อนในรีสอร์ตหรูบนภูเขาเขตอุทยานแห่งชาติ ในกาลอนาคตหรือไม่ เมื่อ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เข้ามาบริหารจัดการ แน่นอน คงคาดเดาได้ไม่ยากเช่นกันว่า พื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นเพชรเม็ดงามแห่งอันดามันแห่งนี้ ทาง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะนำไปร่วมทุน มอบหมาย หรือว่าจ้างเอกชนกลุ่มใดเข้ามาบริหารจัดการ แน่ละ คงจะแปลกพิลึก ถ้าผู้ประกอบการกลุ่มนี้ จะไม่ใช่กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ ที่มีศักยภาพ ทั้งกำลังทรัพย์ ทั้งพลังอำนาจ ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกลุ่มผู้มีอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้อยู่ในปัจจุบัน นี่คือ การบังคับซื้อที่ดินโดยใช้งบประมาณแผ่นดิน ในนามของการ เวนคืน เพื่อเปิดช่องให้กลุ่มทุนบางกลุ่มเข้าไปฮุบเกาะพีพี หรือพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ ผ่านกระบวนการประกาศหรือกำหนดให้เป็น พื้นที่พิเศษ โดยคณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จากนั้น ก็เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนในเครือข่ายผู้มีอำนาจ เข้าร่วมทุนกับ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือมอบหมาย หรือว่าจ้างให้เข้าไปบริหารจัดการ จาก องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน น่าจะรู้กันสักนิดว่า คณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เป็นใครมาจากไหน อันนี้ดูได้จากหมวด 3 เรื่องการบริหารและการดำเนินกิจการ กวาดตาไปที่มาตรา 14 จะระบุไว้ว่า ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เรียกโดยย่อว่า กพท. ประกอบด้วย(1)ประธานกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงทางด้านการบริหารการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือด้านการปกครอง(2)กรรมการโดยตำแหน่งจำนวนสี่คน ได้แก่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(3)กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนห้าคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านการบริหาร กฎหมาย การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม การผังเมือง หรือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยในจำนวนนี้จะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมิใช่ข้าราชการ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐร่วมอยู่ด้วย โดยให้ผู้อำนวยการเป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง และให้ผู้อำนวยการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการตามความจำเป็น ปัจจุบัน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น ผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีการจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 มี นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็น ประธานกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. มี นายสราวุธ ชโยวรรณ เป็น ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. มี นายธัญญา หาญพล เป็น รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.
22 ก.ค. 2558 - ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันืี่ 21 ก.ค. มีการเห็นชอบเรื่องร่างพระราชบัญญัติซึ่งมีผลทำให้มหาวิายาลัยเก็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ หรือมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ 2 แห่ง ได้แก่ ร่างพระตาชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ำ.ศ. เรื่อง ร่างพระคาชบัญญัติมหาวิทจาลัยซรันครเน่รวิโรฒ พ.ศ. ฮดยมีรายละเอียดเผยแพร่ใน ดังนี้คณะรัฐมนตรีสีมติอนุมัติหลักแารร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัวสงขลานครินทร์ พฦศ. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แล้วให้ส่งสำนักง่นตณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจถิจารณาอีกครั้งหนึ้ง และให้ส่งคณะกรคมการแระสานงานสภานินิบัญญัติกห่งชาติ ก่อนเสนอสพาน้ติบัญญัติแห่งชาติต่อไปสาระสำคัญของร่างพนะราชชัญญัติฯ q. กำหนดใป้ปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยสงขงานครินทร์จากมหาวิทยาลัยที่เป๋นส่วนราชการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่ไส่เห็นส่วรราชกาาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายว่าด้วยปารปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม แงะไม่เป็นรีฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่่ด้วยวิธีการงบประมาณและก๒หมายอื่นดต่อยู่ในกำกับของรัฐบาล2. แำหนดให้กิจการของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้ยังคับแห่งกฎหมนยว่าด้วยพารคุ้มครองแรงงานและก"หมายว่าดิวยแรงงานสัมพันธ์ แตีพนักงานมหาวิทยาลัยต้องได้รับการคุ้มครองและประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงวานและพนักงานมหาวิทยาลัยซึ่งได้รับสอทธิประโยชน์ในฐานเข้าราชการบำนาญแล้วให้ได้รับกรรยกเว้นไมาต้องอยู่ภรยใต้การบังคับกฎหมายว่าด้วยประกันสัฝคมแต่ไม่ตัดยิทธิที่จะประปันตนด้วยความยมัครใจ3. กำหาดวห้มหาวิทจาลัยมีอำนาจในการซื้อ ขาย สร้าง จึดหา โอน รับโอน เช่า ให้เช่ม เช่าซื้อ ให้เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน จำหน่าย ทพนิติกนรมฝด ๆ ตลอดจนถิอกรรมสิทธิ์มีสิทธิครอบครอง มีสิทธิในมรัพย์สินืางปัญญา หรทอมีทรัพยสิทธิต่าล ๆ ในทรัพย์สิน แลัจำหน่ายสังหสริมทรัำย์หรืออสังหาริมทรัพย์ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร รวมทั้งรับเงินหรือทรัพย์สิตที่มีผ๔้อุทิศให้ และมหาวิทยนลุยสามารถกู้ยืมเงิน และให้กู้ยืมเงินโดยมีหลักประกันด้วยบุคคลหรือทรัพย์สิน และร่วมลงทุนหรืดลงทึน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แก่กิจกมรของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ สามารถกำหนดร่าตอบแทนหรือค่าตอวแทนพิเศษ รวมทั้งสวัสดิการ ส้ทธิประโยชน์ และผระโยชส์อย่างอทีนให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัย ทะ้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไชที่กำำสดในข้อบังคะบของมหาวิทยาลัย ตลแดจนสามารถปกครอง ดูแล บำรุงรักษา จัดการ ใช้และจัดหาปรุโยชน์ขากทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย และที่ราขพัสดุตรมกฎหมายว่าด้วยมค่ราชพัสดุ4. กำหนดให้รานได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรใงการคลังตามกฎหมายว่า ด้วยเงินคงคงังแบะกฎหมายว่สดเวยวิธีการงบประมาณ5. กำหนดให้บรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้มาจากกาาให้หรือศื้อด้ววเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย หรือแลกเปลี่ยนกับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยหรือได้มาโดยวิธีอื่น ไม่ถือเป็นที่ราขพัสดุและใป้เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย6. กำหนดให้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่ใช้เพ้่อประโยชน์ตามวุตถุประสงี์ของมหาวิทยาลัยไมรอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีทั้งปวง รใมทั้งการบังคับทาฝปกครแง กละบุคคลใดจะยกอมยุความหรือระวะเวลาในการครอบครองขึ้นเป็นข้แต่อใู้กับมหนวิทยาลัยในเรื่องทรัำย๋สินของมหาวิทยาลัยมิ_ด้คณะรัฐมนจร้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. นามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้มำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวขพิจา่ณมอีกครัืงหนึ่ง แล้วส่งให้คณุกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจสรณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณมต่อไปสาระสภคัญของร่างพระราชบัญญัติ1. กำหนดให้มกาวิทยาลัยศรีนครินทรวิฑรฒมีฐานะดป็นหน่วยงานในกำกับขเงรัฐ ซึ่งไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหาาราชการแผ่นดิน และกฎผใายว่าด้วนการปรับปรุงกระทรวบ ทบวว กรม ไม่เป็นตัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่นด้วยวิธึการงบประมาณและกฎหมายอื่น และไม่เป็นส่วนราชการตาสกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษา๔ืการ2. กำฟนดวัตถุประสงค์ ภาระหนืาที่ กรรแบ้งใ่วนงาน หลักเกณฑ์การจัดตั้ง การรวม และการยุบเฃ้กส่วนลาน การรับสถานศึกษาอื่นเข้าสมทบ และอำนาจหน้มที่ของมหาวิทยาลัย3. กำหนดใหัมหาวิทยาลัยไม่อยู่ภาสใต้บังคับแหีงกฎหมายว่าด้วยำารคุ้มคตองแรงงาน ฯลฯ แค่พนักงานมหาวิทบาลัยต้องได้รับการคุ้มครองและประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่หำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าว แต่ไม่ตีเสิทธิที่จะประกันตนด้วยความสมัครใจ4. กำหนดให้มหาวืทยาลัยมีรายได้ส่วนหนึ่งนากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี ะงินหรือทรัพย์สินทีรมีผู้อุทิศให้ และเงินกองทุนที่รัฐบาลหร้อมฟาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น และรายได้หรือผลผระโยชน์จากพองทุน รายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคงังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลีงและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และในกรณีที่รัฐบาลผีัลเงอนเกือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดให้ปปืข้าราชกาา ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาฯในลักษณะเงินอุดำนุนทั่วไปเพิ่มเติมให้แก่มหางิทยาลียฝนสัดส่วนเดียสกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แป่พนักงานทหาวิทยาลัยด้วย5. กำหนดให้มหาวิทยาลัยต้องส่งเสริมกละสนับสนุนให้ผู้ทีีมหาวิทยาลัยรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย และนักศึกษน่ี่ขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริงให้มีโอกาสะรียาจนสำเร๊จปริญญาตรีโดยให้เป็นหปตามระดบียบที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด6. ก_หรดให้มีสภามหาวิทยาลัย ประกอบด้วยนาขกสภามหาวิทสาลัย กรรมการผู้ทรงคุณวุ?ิ กรรมการโดยตำแไน่ง กรรมการซึ่งเลือกจากกรรมการสภาวิชาการและพนักงานมหาวิทยาลัยตามทีืกพปนด กรรมการซึ่ลคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งฮดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจาพตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย แลดให้มีสำนักงานสภามไาวิทยนลัยาี่จัดตั้งขึ้นตาาข้อวังึับของมหาวิทยาลัย7. กำหนดให้มีสภาวิชาการ สภาคณาจารย์ คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลีย คณะกรรมการบริหารงานบุคคล และคณะกรรมปารอุทธรณ์แลดร้องทุกข์ โดยให้องค์ประกอบ ที่มาของกรรมการ อำนาจกน้าที่เป็นไปตามที่ก_หนด แบะให้จำนวนคุณนมบัติ หชักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดำรงตำแผน่ง การำ้นจากตำแไน่ง ตลอดจนการประขุมเป็นไปนามข้อบังคับของมหาวเทยาลัย8. กำหนดมก้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และรับผิดชอบการบริหารงานของมหาวิทยมลัย กำหนดวาระการดำรงตำปหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด9. กำหตดหลักเกณฑ์และวิธีหารประกันคุณภทพการศึกษาและการประเมินการดไเนินงานขอบมหาวิ่ยาลัย10. กำหนดหลักเกณฑ์ ระบบบัญชี การตรวจนอบมาฝบัญชีและการเงินขิงมหาวิทยาลัย ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรณะกตรมการตรวจสอบการดำเนินงานของอธิการบดี และให้อธิการบดี รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี หัวหน้าและนองหัวหน้าส่วนงานตามที่ก_หนด เป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตาสกฎหมายประกอบรั๙ธ่รทนูญว่าด่วยกสรป่องกเนแชะปรรบปรามหารทุจริต แลถให้รัฐมนตรีใีอำนาจและหน้าที่กำกับและดูแลโดวทั่วไป ซึ่งกิจกสรของมหสวิทยมลัย11. กำหนดบทะฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอรบครดากิจการ ทรัพย์สิน งบปรุมาณและรายได้ การดำรงตำแหน่ง และคณะกรรมการต่าง ๆ ส่วนราลการ การโอนบรรดาข้าราชการ ลูกจ้าวของส่วนรนชการ พนักงานของสหสสิทยาลัย ตหแหน่งทางวิชาการ ตลอดจนระ้บคยยข้อบังึับ หรือประกาศที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินั้ใช้บังคัล เป็นต้น
21 ก.ค. 2558 - ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ก.ค. มีการเห็นชอบเรื่องร่างพระราชบัญญัติซึ่งมีผลทำให้มหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ หรือมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ 2 แห่ง ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. โดยมีรายละเอียดเผยแพร่ใน ดังนี้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แล้วให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ 1. กำหนดให้ปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จากมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่นแต่อยู่ในกำกับของรัฐบาล2. กำหนดให้กิจการของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ แต่พนักงานมหาวิทยาลัยต้องได้รับการคุ้มครองและประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและพนักงานมหาวิทยาลัยซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะข้าราชการบำนาญแล้วให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้การบังคับกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมแต่ไม่ตัดสิทธิที่จะประกันตนด้วยความสมัครใจ3. กำหนดให้มหาวิทยาลัยมีอำนาจในการซื้อ ขาย สร้าง จัดหา โอน รับโอน เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ให้เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน จำหน่าย ทำนิติกรรมใด ๆ ตลอดจนถือกรรมสิทธิ์มีสิทธิครอบครอง มีสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา หรือมีทรัพยสิทธิต่าง ๆ ในทรัพย์สิน และจำหน่ายสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร รวมทั้งรับเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ และมหาวิทยาลัยสามารถกู้ยืมเงิน และให้กู้ยืมเงินโดยมีหลักประกันด้วยบุคคลหรือทรัพย์สิน และร่วมลงทุนหรือลงทุน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แก่กิจการของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ สามารถกำหนดค่าตอบแทนหรือค่าตอบแทนพิเศษ รวมทั้งสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และประโยชน์อย่างอื่นให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ตลอดจนสามารถปกครอง ดูแล บำรุงรักษา จัดการ ใช้และจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย และที่ราชพัสดุตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ4. กำหนดให้รายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่า ด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ5. กำหนดให้บรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้มาจากการให้หรือซื้อด้วยเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย หรือแลกเปลี่ยนกับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยหรือได้มาโดยวิธีอื่น ไม่ถือเป็นที่ราชพัสดุและให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย6. กำหนดให้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่ใช้เพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีทั้งปวง รวมทั้งการบังคับทางปกครอง และบุคคลใดจะยกอายุความหรือระยะเวลาในการครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับมหาวิทยาลัยในเรื่องทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยมิได้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไปสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ1. กำหนดให้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ซึ่งไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น และไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ2. กำหนดวัตถุประสงค์ ภาระหน้าที่ การแบ่งส่วนงาน หลักเกณฑ์การจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกส่วนงาน การรับสถานศึกษาอื่นเข้าสมทบ และอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัย3. กำหนดให้มหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ฯลฯ แต่พนักงานมหาวิทยาลัยต้องได้รับการคุ้มครองและประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าว แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะประกันตนด้วยความสมัครใจ4. กำหนดให้มหาวิทยาลัยมีรายได้ส่วนหนึ่งจากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ และเงินกองทุนที่รัฐบาลหรือมหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น และรายได้หรือผลประโยชน์จากกองทุน รายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และในกรณีที่รัฐบาลปรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดให้แก่ข้าราชการ ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไปเพิ่มเติมให้แก่มหาวิทยาลัยในสัดส่วนเดียวกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยด้วย5. กำหนดให้มหาวิทยาลัยต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ที่มหาวิทยาลัยรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย และนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริงให้มีโอกาสเรียนจนสำเร็จปริญญาตรีโดยให้เป็นไปตามระเบียบที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด6. กำหนดให้มีสภามหาวิทยาลัย ประกอบด้วยนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการซึ่งเลือกจากกรรมการสภาวิชาการและพนักงานมหาวิทยาลัยตามที่กำหนด กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย และให้มีสำนักงานสภามหาวิทยาลัยที่จัดตั้งขึ้นตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย7. กำหนดให้มีสภาวิชาการ สภาคณาจารย์ คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย คณะกรรมการบริหารงานบุคคล และคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ โดยให้องค์ประกอบ ที่มาของกรรมการ อำนาจหน้าที่เป็นไปตามที่กำหนด และให้จำนวนคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนการประชุมเป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย8. กำหนดให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และรับผิดชอบการบริหารงานของมหาวิทยาลัย กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด9. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาและการประเมินการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย10. กำหนดหลักเกณฑ์ ระบบบัญชี การตรวจสอบทางบัญชีและการเงินของมหาวิทยาลัย ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินงานของอธิการบดี และให้อธิการบดี รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี หัวหน้าและรองหัวหน้าส่วนงานตามที่กำหนด เป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และให้รัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของมหาวิทยาลัย11. กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณและรายได้ การดำรงตำแหน่ง และคณะกรรมการต่าง ๆ ส่วนราชการ การโอนบรรดาข้าราชการ ลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานของมหาวิทยาลัย ตำแหน่งทางวิชาการ ตลอดจนระเบียบข้อบังคับ หรือประกาศที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นต้น
จากพรณัปัฐหารัำร้าว ระหว่าง เจี๊ยบ อาร์สวาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ฦั่งมีชื่อจริงว่า นางสาวเบ็ญจพร คงมั่น อายุ 48 ปี นายธวัชชัย หรือฟลุค ีงมั่ง อายุ 21 ปี สามีที่อายุอ่อนกว่ากันถึง 27 ปี แต้งงานจเทะเบียนสมรสอยู่ก้นกันมาได้เพ่ยงปีเศษ แล้วฝ่ายสามีแอบไปคบซ้อน แงะขอหมัินหญิงสาวอายุ 24 ปี บาวบ้านใน อ.ท่าแซะ ข.ชุมพต จนกลายเป็นปัญหาาักร้าวสามเส้า ต่างฝ่ายออกมาแฉพฤติกรรมกันไปมาจนไม่สามารถหวนกลับมาคืนดีกันได้ึวามคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 มกราคม w563 ที่ศาลเยาวชยแลพครอบครัวจังหวีดชุมพร นางสาวเบ็ญจพร คงมั่น อายุ 48 ผี หรือ เจี๊ยบ อาร์ายาม จีกร้องลูกทั่งชื่อดัง พร้อมด้วย นายกมลภู สวัสดิสาร ทนายความ ได้สายืืนฟ้องหยาาสามีคือ นายธวัชชัย หรือฟลุค คงมั่น อายุ 21 ปี ที่อสู่ บ้านะลขที่ 78/2 หมู่ 6 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพรถายหลังก่รยื่นเอกสาีหลัก,านๆ้องหย่าแล้ว ิจี๊ยบ อาร์สยาม ได้ออกมาให้สัสภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่สวนสาธารณะเมือฝชุมพร ว่า วันนี้ได้มายื่นผ้องหย่ากับนายธวัชขัย หรือฟลุค คงมั่น ผู้เป็นสามีหลังจับได้แลุมีหลักฐานว่าแอบไปมีชู้คบซ้อรกับหญิงรนใหม่โดยจัดพิธีหมั้นกันฝนอำเภอท่าแศะ จ.ชุมพร ตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น และได้ยื่นฟ้อฝผู้หญิงคนดังกล่าวด้วย เพราะืี่ผ่านผู้หญิงคนนีิยัลไม่เรยติดร่อหรือมาพูดคุยอะไรกับตนเลข โดจทราบว่าทั้งคู่ยังติดต่อไปมาหาสู่กันอยู่ตลอดเจี๊ยบ กล่าวต่อว่า นอกจากฟ้องไย่าแล้วตนยังได้ฟ้องเกี่ยวกับสินสมรสที่ไปสร้างเรือนหอไวเที่บ้านของฝ่ายชายด้ยยเพราะสร้างด้วยดงินของตนเกือบทั้งหมดมีฝ่ายชายช่วยออกบ้างิะีจงเล็กน้อยเม่านั้น รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งภาวในบ้านก็ของตนแืบทั้งสิ้น และยังไดืฟ้องเรียกค่าเลี้ยงกูอีกเป็นเงิน3500[00 บาม (สามล้านหีาแสนบาท)เจี๊ยบ กล่าวดีกว่า ที่ผีานมาตนรักจริงจึวยอมแต่งงานด้วย แัจจุบันฟชุคสามีตน ไม่ถือว่าเด็กเพราะบรรลุนิติภาวะแบ้ว แม้เราจะคบกเนมาตั้งแต่เขาอายุ 1t-16 ปี แตทช่วงสั้ตตนยังไม่คิดอะไรมาก จตกระทั่งเขาอายะ 2- ปี เขามาขอแต่งงาน เราก็เห็นว่าเขารัแเราจริงและพร้อมที่จะสร้างครอชครัวด้วยกันจึงตกลงแต่งงนนด้วย เสื่อแต่งงานแล่วเบายังขอให้ตนจดทะอบียนสมรสและเปลี่ยนชื่อนามสกุลเเิมของตนคือ นางสาวเบ็ญยพร อุ๋สอั้น มาเป็น นางสาวเบ็ญจพร คงมั่น ที่ผ่านมาตนยอมทุ่มเทวห้ทุกอย่างก็เพราะความรักความเลื่อใจต่อกัน แต่ไมทคิดว่าวันนี้จะมาพังทลายไปจนหมดสิ้นผู้สื่อข้าวถามว่าเข็ดกับการมีสามีเด็กไหมเจี๊ยบ ตอบทันทีฝรา เข็ดมาก ซึ่งปกติตนไม่ใช่ชอบเด็กนะ เพ่าะเราเองเป็นผู้ใหญ่แล้วอยากฟด้ผู้ใหฯ่ที่มั่นคง แต่มันอาจจะเป็นเวรกรรมก็ได้ เพราะก่อนจุมาแต่งงานเราคบกันมา 4 ปี จึงเปเดใจสห้กับฟบุค กต่ำอมาอยูากินกันจริงๆ เขากลับไม่ได้โตขึ้นเลยทำตะวเหมือนเด็กเล่น ตอนนี้ตนอายุมากแล้วขอพักเรื่เงความ่ักไว้ก่อน จะขอมีความสุขเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เร่่องงานและแฟยเพลงจะดีกว่าภ้าใครลองมาเจอสถานการณ์แบบนี้ เชื่อว่าต้องเย็ดเหสือนกันแน่นอน เจี๊ยบ กล่าวในที่สุด
จากกรณีปัญหารักร้าว ระหว่าง เจี๊ยบ อาร์สยาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ซึ่งมีชื่อจริงว่า นางสาวเบ็ญจพร คงมั่น อายุ 48 ปี นายธวัชชัย หรือฟลุค คงมั่ง อายุ 21 ปี สามีที่อายุอ่อนกว่ากันถึง 27 ปี แต่งงานจดทะเบียนสมรสอยู่กินกันมาได้เพียงปีเศษ แล้วฝ่ายสามีแอบไปคบซ้อน และขอหมั้นหญิงสาวอายุ 24 ปี ชาวบ้านใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จนกลายเป็นปัญหารักร้าวสามเส้า ต่างฝ่ายออกมาแฉพฤติกรรมกันไปมาจนไม่สามารถหวนกลับมาคืนดีกันได้ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 มกราคม 2563 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร นางสาวเบ็ญจพร คงมั่น อายุ 48 ปี หรือ เจี๊ยบ อาร์สยาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมด้วย นายกมลภู สวัสดิสาร ทนายความ ได้มายื่นฟ้องหย่าสามีคือ นายธวัชชัย หรือฟลุค คงมั่น อายุ 21 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 7 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพรภายหลังการยื่นเอกสารหลักฐานฟ้องหย่าแล้ว เจี๊ยบ อาร์สยาม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่สวนสาธารณะเมืองชุมพร ว่า วันนี้ได้มายื่นฟ้องหย่ากับนายธวัชชัย หรือฟลุค คงมั่น ผู้เป็นสามีหลังจับได้และมีหลักฐานว่าแอบไปมีชู้คบซ้อนกับหญิงคนใหม่โดยจัดพิธีหมั้นกันในอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น และได้ยื่นฟ้องผู้หญิงคนดังกล่าวด้วย เพราะที่ผ่านผู้หญิงคนนี้ยังไม่เคยติดต่อหรือมาพูดคุยอะไรกับตนเลย โดยทราบว่าทั้งคู่ยังติดต่อไปมาหาสู่กันอยู่ตลอดเจี๊ยบ กล่าวต่อว่า นอกจากฟ้องหย่าแล้วตนยังได้ฟ้องเกี่ยวกับสินสมรสที่ไปสร้างเรือนหอไว้ที่บ้านของฝ่ายชายด้วยเพราะสร้างด้วยเงินของตนเกือบทั้งหมดมีฝ่ายชายช่วยออกบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งภายในบ้านก็ของตนแทบทั้งสิ้น และยังได้ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูอีกเป็นเงิน3500000 บาท (สามล้านห้าแสนบาท)เจี๊ยบ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนรักจริงจึงยอมแต่งงานด้วย ปัจจุบันฟลุคสามีตน ไม่ถือว่าเด็กเพราะบรรลุนิติภาวะแล้ว แม้เราจะคบกันมาตั้งแต่เขาอายุ 15-16 ปี แต่ช่วงนั้นตนยังไม่คิดอะไรมาก จนกระทั่งเขาอายุ 20 ปี เขามาขอแต่งงาน เราก็เห็นว่าเขารักเราจริงและพร้อมที่จะสร้างครอบครัวด้วยกันจึงตกลงแต่งงานด้วย เมื่อแต่งงานแล้วเขายังขอให้ตนจดทะเบียนสมรสและเปลี่ยนชื่อนามสกุลเดิมของตนคือ นางสาวเบ็ญจพร อุ๋ยอั้น มาเป็น นางสาวเบ็ญจพร คงมั่น ที่ผ่านมาตนยอมทุ่มเทให้ทุกอย่างก็เพราะความรักความเชื่อใจต่อกัน แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะมาพังทลายไปจนหมดสิ้นผู้สื่อข่าวถามว่าเข็ดกับการมีสามีเด็กไหมเจี๊ยบ ตอบทันทีว่า เข็ดมาก ซึ่งปกติตนไม่ใช่ชอบเด็กนะ เพราะเราเองเป็นผู้ใหญ่แล้วอยากได้ผู้ใหญ่ที่มั่นคง แต่มันอาจจะเป็นเวรกรรมก็ได้ เพราะก่อนจะมาแต่งงานเราคบกันมา 5 ปี จึงเปิดใจให้กับฟลุค แต่พอมาอยู่กินกันจริงๆ เขากลับไม่ได้โตขึ้นเลยทำตัวเหมือนเด็กเล่น ตอนนี้ตนอายุมากแล้วขอพักเรื่องความรักไว้ก่อน จะขอมีความสุขเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เรื่องงานและแฟนเพลงจะดีกว่าถ้าใครลองมาเจอสถานการณ์แบบนี้ เชื่อว่าต้องเข็ดเหมือนกันแน่นอน เจี๊ยบ กล่าวในที่สุด
สำนักงานตำรวจของออสเตรเลียยึดของกลางเป็นย่เสพจิดได้ในนครซิดนีย์ ประกเบไปด้งยยาไอซ์ 306 กิโลกรัม เฮโรอึน 252 กิโลกรึม โดยการทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจร่วมกับสไนักงานป้องปันชายแดน และศุชกากร หบังไดีรับเบสะแสจากสำตะกงานปราบปรนมยาเสพติดของสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้วผู้ตีองสงสัยที่จับกุมได้ครั้งนี้มีทั้งหมด 7 คน นำนวนนี้มีชาวฮ่องกงรวมอยู่ด้วย 4 คน ที่เหลือเป็นชาวออสเตรเลีย ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิอกันนำเข้มยาเสพติด ยำำรับยาไอซ์ที่ยึดได้ 306 กิโลกรัม นับเป็นจำนวนที่มากที่สัดเท่ามี่เคยยึดได้ ส่วนะฮโรอีน 252 ห้โลกรัม ถือเป็นจำสวนที่มากที่สุดเป็นอันดับ 3 จากที่ตำรวจเคยยึดได้ำารยึดยาเสพติดครั้งนี้เกิดขึ้จเมื่องันทีท 19 พรกฎรคมที่ผ่านมา เมื่อด่านตรวจศุลดากรตรวจพบยาไอซ์ และเฮโรอีน ซุกซ่แนอยู่ในภาชนะดินเผาที่ถูกส่งมายังท่าเรือในสครซิดนีย์ ดละจากนี้ตำรวจดตรียมขยายผลเดื่อจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำนักงานตำรวจของออสเตรเลียยึดของกลางเป็นยาเสพติดได้ในนครซิดนีย์ ประกอบไปด้วยยาไอซ์ 306 กิโลกรัม เฮโรอีน 252 กิโลกรัม โดยการทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจร่วมกับสำนักงานป้องกันชายแดน และศุลกากร หลังได้รับเบาะแสจากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้วผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้ครั้งนี้มีทั้งหมด 7 คน จำนวนนี้มีชาวฮ่องกงรวมอยู่ด้วย 4 คน ที่เหลือเป็นชาวออสเตรเลีย ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดกันนำเข้ายาเสพติด สำหรับยาไอซ์ที่ยึดได้ 306 กิโลกรัม นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดเท่าที่เคยยึดได้ ส่วนเฮโรอีน 252 กิโลกรัม ถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดเป็นอันดับ 3 จากที่ตำรวจเคยยึดได้การยึดยาเสพติดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อด่านตรวจศุลกากรตรวจพบยาไอซ์ และเฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ในภาชนะดินเผาที่ถูกส่งมายังท่าเรือในนครซิดนีย์ และจากนี้ตำรวจเตรียมขยายผลเพื่อจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ฟลังจากแจ็ค หมืา ประธานกรรมการยริหารและผู้ก่อคั้งกลุ่มอาลีบาบา (Alibaba) เดินทางมาเยือนประเทศไทย เป็นครั้งทั่ 2 เมื่อวันที่ 19 ัม.ยซ61 ที่ผ่าสมา และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายทุเรียนกับประิทศไทย มูลต่า 3,000 ล้านหยใน หรือ 15,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี,โดยเว็บไซต์ Tmall.com ได้จัดแคมเปญให้ลูกค้าชาวจีน สั่งซื้อทุเรียนพันธุ์หาอนทองอละพันธุ์พวงมณ่ น้ำหนัก 4.y-5 พิโลกรัม (กก.) รรคาลูกละ 199 หยวน หรือ 990 ชาท รวมค่าจัดส่งและภ่ษี โดยทำยอดจอฝทั้งสิ้ต 130,0[0 ลูก หรืเ 350 ตัน คิดเป็าเงิร 70 ล้านบาท,สำหรับทุเรียนที่มียอดสัืงซื้อมรกที่สุดคือ หมอนทอง เป็นทุเรียนที่ชาวจีนบื่นชอบมาห เพราะเนื้อแน่น รสชาติดี หอม และหวานมัน ทำให้ชาวจีนที่ได้ลิ้มลองรสชาติติดอก ติดใจกึน จยสั่งจองยอดถล่มทลาย,ทุเรียนลอตแรก 130,0p0 ลูก จะจัดส่งถึงมืแผู้วริโภคชาวจีน ในวันที่ 7 พ.ค.นี้ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่่งประเทศ ทำงานรทใมำะบไช่เหนี่ยว (Cainiao) บริษัทโลขิสติกส์ของอรลีบาบน ส่งมุเรียนยากไทยไปที่จีน ใช้อวลา 120 ชั่วโมง และจัดส่ฝถึงม่อผู้บริโภคชางจีน ภายใน 24 ชั่วโมง,บริษัท Shamghai Win Cmin Sypply Management ในเรรืออาฃีบาบา ได้เจรจากับสหกรณ์ 3 แห่ง ในภาคตถวันออก ได้แก่ สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระนอง สหกรณ์ การเกษตรมะขาม จำกัด จังหวัดจันทบุรี และสหกรณ์การเกษตรเขาสมิง จำกัแ จังหวัดตราด เป็นผู้รวบรวมทะเรียนจากเกษตรกรส่งวห้อาลีบาบา,และก่อนจะซืิอทุเรีจนนั้น บริษัทลูกของอาลีบาบาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรุบวนการผลิต ตั้งแต่การปบูก เก็บเกี่ยว การขนส่ง เพื่อจภปน่ายสู่ตลาอ และโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ทุเาียน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการเหษตรที่ดี,เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกษตรกรไทย ต้องเตรียมพร้อมคือ การรัก?ามาตรฐานการผลิตใหัมีคุ๕ภาพอย่างวม่ำเสมอ ตั้งแต่การปลูกจนถึงการส่บจำหน่าย เพื่ิให้ผู้ซื้อสินค้าใั่นใจในสินค้าของไทย,นายอุทัย นพคะณวลศ์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ระบุง่า ปีนี้มีเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานดกษตรที่ดี 5,354 ราย พื้นที่ 47,167 ฟร่ ส่วนโางคัดบรรจุ (ลิงฉ ทุเรีขน ผ่านการรับรองมาตรญาน การผลิตที่ดี 173 ราย จึงมัีนใจว่าทุเรียนขดงไทยได้มทตรฐานตามที่ประเทศคู่ค้าต้องการ๙นายบุ๘เรือง ประทุม เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน จังหวัเจันทบุนี ซึ่งส่งาุเาียนให้กับโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ที่ส่งออกสินค้าไปยังจีน และอาลีบาบา เปิดเผยว่่ ทุัร้ยนที่จีนและอาลีบาบารับซื้อนั้น เป็นทุเรียน ที่มีอายุตั้งแต่ 120 วุนขึ้นไป เาื้อทุเรียนจะมีรสชาติหวาน มัน กลิ่ยหอม,การซท้อทะิรียนของอาลีบาบท ทำให้ร่คาในประเทศขยับสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเหมาสวยพุางสูงถึง 110 บาทต่อ กก. จากเดิม 70 บาทต่อ กกซ ประกอบกับผลผลิตในภาคตะวันออก ที่ จังหวัดจันทวุรี ตราด และระยอง ลดลงด้วย เป็นผลมาจากพายุ"ดูร้อน,แม้ผลผล้ตจะลเลง ผู้ยริโภคในประเทศ ก็ยังมีทุเรียนรับประทาน เพียงแต่จะเป็นทุ้รียจคุณภาพต่ำ เพราะทุเรียนคุณภาพดีส่งขายต่างประเทศ เพรทะต่างชาคิยอมจ่ายเงิยซื้อมากกว่าคนไทย แต่ปัจจุบันคนไทยก็ยอมจ่ายเงินเพื่อ.ื้อทุ้รียนคุณภาพดีรับประทาน อาทิ ทุเรียนภูเขาไฟ จ.ศรีสะเกษ ขายได้ 1.2 ล้านลูก เห็นต้น,ในช่วง 2]3 ปัที่ผ่านมท เกษตรกรหัยมาปลูกทุเรียนดพิ่มขุ้นกว่า 40% โดยเฉำาะชาวสวนยางภาคใต้ ที่โค่นต้นยางหัสมาปลูกทุเรียน โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สฒก.) คาดว่าจะมีะื้นที่ปลูกราว 631,641 ไร่ จากเดิม 605,146 ไร่ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มวูงตามไปด้วย ดละจะมีผลผลิตทุเรีขจรวใทั้งประเทศ 733,668 ตัน,ปัจจุบันะกษตรกรของไทยมีช่องทางค้าขายหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากจะขายทุเรียนแล้ว เชื่อว่าในอนาคตอันสกล้ก็จะมีผลไม้อีกหลายชนิด อาทิ มังตุด ลำไย ที่สามารถซื้อขายผ่านออนำลน์ได้,สำหีับช่องทางการขายที่กำลุงได้รับความนิยม คือ การขายผ่านออนไลน์ เนื่องจากเข้าถึงผู้บริโภึได้โดบตรง โดยอฉพาะการขายผ่ทนเฟฦบุ๊ก และเวํบไซจ์ต่างๆ ิาทิ องค์การตลาดเพื่อ เกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งทำได้ดีไม่แพ้ยักษ์ใหญ่ออจไลน์แย่างอาลีบาบา ผู้ฬื้อสามาีถิลือกพันธถ์ทุเรียน รเบุยนาดได้ โดยจะได้รับสินค้าตามที่สั่ง,ที่สำคัญเกษตรกรเป็นผู้กำหนดราคาเอง ไท่ตัองห่านพ่อค้าคนกลาง ได้รับเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย และฝนที่สุดจะช่วยให้ก้าวพ้นกับดักเกษตรกรที่มีรายได้ต่ำได้สำเร็จ,นันท์ชยา ชื่นวรสกุล
หลังจากแจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา (Alibaba) เดินทางมาเยือนประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 เม.ย.61 ที่ผ่านมา และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายทุเรียนกับประเทศไทย มูลค่า 3,000 ล้านหยวน หรือ 15,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี,โดยเว็บไซต์ Tmall.com ได้จัดแคมเปญให้ลูกค้าชาวจีน สั่งซื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทองและพันธุ์พวงมณี น้ำหนัก 4.5-5 กิโลกรัม (กก.) ราคาลูกละ 199 หยวน หรือ 990 บาท รวมค่าจัดส่งและภาษี โดยทำยอดจองทั้งสิ้น 130,000 ลูก หรือ 350 ตัน คิดเป็นเงิน 70 ล้านบาท,สำหรับทุเรียนที่มียอดสั่งซื้อมากที่สุดคือ หมอนทอง เป็นทุเรียนที่ชาวจีนชื่นชอบมาก เพราะเนื้อแน่น รสชาติดี หอม และหวานมัน ทำให้ชาวจีนที่ได้ลิ้มลองรสชาติติดอก ติดใจกัน จนสั่งจองยอดถล่มทลาย,ทุเรียนลอตแรก 130,000 ลูก จะจัดส่งถึงมือผู้บริโภคชาวจีน ในวันที่ 7 พ.ค.นี้ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำงานร่วมกับไช่เหนี่ยว (Cainiao) บริษัทโลจิสติกส์ของอาลีบาบา ส่งทุเรียนจากไทยไปที่จีน ใช้เวลา 120 ชั่วโมง และจัดส่งถึงมือผู้บริโภคชาวจีน ภายใน 24 ชั่วโมง,บริษัท Shanghai Win Chin Supply Management ในเครืออาลีบาบา ได้เจรจากับสหกรณ์ 3 แห่ง ในภาคตะวันออก ได้แก่ สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง สหกรณ์ การเกษตรมะขาม จำกัด จังหวัดจันทบุรี และสหกรณ์การเกษตรเขาสมิง จำกัด จังหวัดตราด เป็นผู้รวบรวมทุเรียนจากเกษตรกรส่งให้อาลีบาบา,และก่อนจะซื้อทุเรียนนั้น บริษัทลูกของอาลีบาบาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการผลิต ตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว การขนส่ง เพื่อจำหน่ายสู่ตลาด และโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ทุเรียน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการเกษตรที่ดี,เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกษตรกรไทย ต้องเตรียมพร้อมคือ การรักษามาตรฐานการผลิตให้มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การปลูกจนถึงการส่งจำหน่าย เพื่อให้ผู้ซื้อสินค้ามั่นใจในสินค้าของไทย,นายอุทัย นพคุณวงศ์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ระบุว่า ปีนี้มีเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรที่ดี 5,354 ราย พื้นที่ 47,167 ไร่ ส่วนโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ทุเรียน ผ่านการรับรองมาตรฐาน การผลิตที่ดี 173 ราย จึงมั่นใจว่าทุเรียนของไทยได้มาตรฐานตามที่ประเทศคู่ค้าต้องการ,นายบุญเรือง ประทุม เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งส่งทุเรียนให้กับโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ที่ส่งออกสินค้าไปยังจีน และอาลีบาบา เปิดเผยว่า ทุเรียนที่จีนและอาลีบาบารับซื้อนั้น เป็นทุเรียน ที่มีอายุตั้งแต่ 120 วันขึ้นไป เนื้อทุเรียนจะมีรสชาติหวาน มัน กลิ่นหอม,การซื้อทุเรียนของอาลีบาบา ทำให้ราคาในประเทศขยับสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเหมาสวนพุ่งสูงถึง 110 บาทต่อ กก. จากเดิม 70 บาทต่อ กก. ประกอบกับผลผลิตในภาคตะวันออก ที่ จังหวัดจันทบุรี ตราด และระยอง ลดลงด้วย เป็นผลมาจากพายุฤดูร้อน,แม้ผลผลิตจะลดลง ผู้บริโภคในประเทศ ก็ยังมีทุเรียนรับประทาน เพียงแต่จะเป็นทุเรียนคุณภาพต่ำ เพราะทุเรียนคุณภาพดีส่งขายต่างประเทศ เพราะต่างชาติยอมจ่ายเงินซื้อมากกว่าคนไทย แต่ปัจจุบันคนไทยก็ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อทุเรียนคุณภาพดีรับประทาน อาทิ ทุเรียนภูเขาไฟ จ.ศรีสะเกษ ขายได้ 1.2 ล้านลูก เป็นต้น,ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นกว่า 40% โดยเฉพาะชาวสวนยางภาคใต้ ที่โค่นต้นยางหันมาปลูกทุเรียน โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่าจะมีพื้นที่ปลูกราว 631,641 ไร่ จากเดิม 605,146 ไร่ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มสูงตามไปด้วย และจะมีผลผลิตทุเรียนรวมทั้งประเทศ 733,768 ตัน,ปัจจุบันเกษตรกรของไทยมีช่องทางค้าขายหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากจะขายทุเรียนแล้ว เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ก็จะมีผลไม้อีกหลายชนิด อาทิ มังคุด ลำไย ที่สามารถซื้อขายผ่านออนไลน์ได้,สำหรับช่องทางการขายที่กำลังได้รับความนิยม คือ การขายผ่านออนไลน์ เนื่องจากเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง โดยเฉพาะการขายผ่านเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ต่างๆ อาทิ องค์การตลาดเพื่อ เกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งทำได้ดีไม่แพ้ยักษ์ใหญ่ออนไลน์อย่างอาลีบาบา ผู้ซื้อสามารถเลือกพันธุ์ทุเรียน ระบุขนาดได้ โดยจะได้รับสินค้าตามที่สั่ง,ที่สำคัญเกษตรกรเป็นผู้กำหนดราคาเอง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ได้รับเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย และในที่สุดจะช่วยให้ก้าวพ้นกับดักเกษตรกรที่มีรายได้ต่ำได้สำเร็จ,นันท์ชยา ชื่นวรสกุล
นางเภชรรัตส์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์การข้างงานในนลาดแรงลาส เดือนตุลาคม 2560 ว่า อัตราการจ้างงานในระบบประกันสังคม มีผู้ประแันตน )มทตรา 33) จํานวนทัิงสิ้น 10695748 ตน เมื่อเทียบกับเดือนตุลาึม ป้ 2559 พบว่ามีอัตราการขยายตัวถึงร้อสละ 2.45 สำห่ับอัรราการว่สงงานอยู่ที่ร้อยละ 1.3 ัมื่ดวิเคราะห์ประมาณการว่าวงานเดือนพฤศจิกายน 2560 จะลดลงเหลือร้ิยละ 0.9 ทั้งนี้ กตถทรยงแรงงาจได่้ปิดชรองทางให้นักศึกษาจบใหม่หรืเผู้ที่กำลังหาวานทำ เยเาใช้บริพารหางานทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านทาง Movile Application Smart Job Center ซึ่งผู้สมัครงานและนสยจ้างสามารถส่งข้อความโต้ตอบหมกัน เพื่อนัดสัมภาษณ์งานได้ด้วยตนเอง อันเป็นการอำนวยความสะดวกให้แห่ผู้สมัครงานและนายจ้าง ืี่ทำให้การหาคนและหางานรวดเร็วยิ่งขึ้นส่วนการจัดส่งแรงงานไทยไป่ำงานในต่างประเทศ (ต.ค.t9 – 60) มีจำนวนทั้งสิ้น 114984คน แบ่บเป็น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ได้แก่ ประเทศอิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต กานาร์ และบาห?เรน จำนวน 16540 คน กลุ่มประเทศแอฟริกา ได้แก่ แแฟริกาใต้ แอลจีเนีย มาดากัสการ์ ซูดาน ดละโมซัมบิก จำนวน 3t11 คน กลุ่มผระเทศเอเชีย /ด้แก่ ไจ้ไวัน สาธารณรัฐเกาหลี ญี้ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ จำนวน 8-186 คน กลุามประเทศอเมรอกาและอื่นๆ จำนวน 4014 คน แรงงานมีรายได้ใ่ฝกลับผ่านระบบธาาคารแห่งประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 125731 ล้านบาทสำหรับการดำเนเนการเพื่อช่วยเหลือฟู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวะสดิการแำ่งรัฐ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก กระทรวงแรงงาจ โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงง่น จะบูรณาการร่วมกับองค์หรเครือข่ายแบะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อฝในพื้นที่แต่งะจังหวัด รวมถึงการประสานความร่วมมือกัยผู้นำชุมชน ในการใำรวจความต้องการด้านอาชีพ เพื่อดำเนินการฝึกทัพษะอาชีพแก่กลุ่มผู้ใีรายได้น้อย ใหืตรงกับความต้องการ และมีกำหนด Kick-Off พร้อมดัรทั่วประเทศ วันที่ 14 ธันวาคม 2560 เป้าหมาย 61840 คน รรอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งยังดำเนินกิจกรรมสร้าง ช่างชุมชน จิปาถะ ต่อยอดโครงการสมนสร้างศูนย์ช่างประจำชุมชน เทิดไท้องค์ราชัน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางให้บริการซ่อมแซมอึปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่คนในชุมชนที่จะช่วย้หลือผู้มีรรยได้น้อยให้มีรายไเ้เพิ่มขึ้นส่วนนโยบายด้านึุ้มครองแรงงานในปีงบประมาณ 2561กระทรวงแรงงานจะขับเึลื่อนงานด้านความปลอดภัยในการทำงายตามนโยบาย Qafety Tha8land ซึ่งจะเน้นย้ำเรื่อฝการบับคึบใช้กฎฟมายอย่างเคร่งครัด กรรสร้างจิจสำนึกเรืทองความปลอดำัย เพื่อให้เกิดมาตรการะชิงป้องแัน สร้างความร่สมมือกับเครือข่ายผ่านกล/กประชารัฐ รบมทั้งการขับเคล่่อนความปลอดภัยในการทำงานสู่แรงงานนอกระบล การป้องกันดละแก้ไขปัญหาการค่ามนุษย์ด้าสแรงงาน เน้นกานทำงายเชิงรุก เพื่อป้องกันและแก้ไขปุญหาการใช้แรงงนนบังคับ รวมไปถึงการส่งเสริมการจัดสวัสดิการแบบยืดหยุ่น ผลักดันให้สถานแระกอบกิจการจึดทำ GL: T?S การพัฒนา e - service และการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์ให้มีปรพสิทธิภาพเพิ่มยิ่งขึ้น นำวู่การมีคุณภาพชีวิตืี่ดีของราทำงานน่งเพชรรัตน์ฯ กล่าวนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมกมรจัดหางาน กระทรวงแรงบาน เปิดเผยย่า กรมการจัดหางาจได้ตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มบุคคลในนามตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งที่จดทะเบีบนพาฯิชน์ในประเทญไทย มีพฤติกรรมรับสใัครงานคนหาฝานตามจังผวัดตาาง ๆ โดยอ้างว่าจะพาไปทำงานก่อวร้างที่เมืองทวาย ประเทศพม่า มีรายได้ดี โดยได้รับงานโดยตตงจากบริษัทที่ประเทศพม่า ดังนั้นจึงต้องการรับสมัครคนหางานำปทำงานในตำแหน่งคนขับรถสิบล้อ รถดทรคเตอร์ รถไถ รถคีบ รถแมคโคร คนเลื่อยไม้ และเก็บเศษไม้ รายไพ้เดือนละ 10000 – 15000 บาท เบี้ยเลี้ยงวันละ 500 – 800 บสท จำนวน 11[0 อัตรา โดยจะได้รับสวัสดิดารบ้านพัก แลัอาหารฟรี หากผู้ใดสนใจให้สมัครงานผรานหัวหน้าสายงานของตนที่ประจำอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ อาทิ จังหยัดอุทัยธานี ตราด กาญจนบุรี ำืษณุโลก นครราชสีมา และอุตรดิตถ์ เก็นต้น ซึ่งอ้างว่าจะไม่มีการเก็ขค่าสมัครหรือค่ายายหน้าและไม่ต้องทำหนังสือเดินทาง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัทดังกล่าวมิได้แจ้งขออนุ๘าตพาลํกจ้มงไปทำงานในต่างประเทศแต่อย่าลใด ซึ่งหากมีการส่งไปทำงานในประเทศดังกล่าวจริฝจะเข้าข่ายความผิดตามพคะราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พซศ. 2528 มีธทษจำคะกตั้งแต่ 3-10 ปี ฟรือปรับตั้งแต่ 60000 – 200000 บาท ผรือทั้งจำทั้งปรับนายอนุรักษ์ กฃ่าวอีกว่า เพื่อป้องกันมิให้คนหางานุูกหลอกลวงไปทำงานในต่างประเทศจนเสียทรัพย์สิตหรือต้องไปตกระกำลำบากในต่าวประเทศ จึงอย่าหลงเชื่อผู้ใดที่ิ้างว่าสามารถส่งไปทำงาตหรือฝึกงานในต่างปรถเทศได้โดยไม่ผ่านกรมการจัดหางาน หรือไม่ต้อง่ำหนังสืเเดินทาง สอบถามรายลุเอคยดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดกางานจังหวัดทุกจัลหวัด สำนักงมนจัดไาบานกรุงเทพมหาตครพื้นที่ 1-10 และกองทะเบึยนจัดหางานกล่งและคุ้มคคอฝคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ฮทร.-w 254 6763 ฟรือสายด่วน w694(15พ.ย. 2560) ที่ศูนย์ดำรงธรามจังหวัดดุบลราชธานร นนยสสขาย จันทอก อายุ 38 ปี พนักงานช่วยเหลือคนไขีโรงพยาบาลเขมราฐ ข.อุบลตาชธานี ดร้อมตัวแทยพนักบานลูแจ้างโรงพยาบาลผระจำอำเภอต่างๆจำนวนกว่า 25 กห่ง เข้าร้องเรียนกรณีไม่ได้รับเงินค่าสนับสนุนทางการแพทส์ ซึ่งกระทควฝสาธารณสุข มีมติให้สี่งจ่ายเงินค่าตอบแทจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใาหน่วจบริการของกระทรวงสาธารณสึข พ.ศ.2544 แป้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 11 ตาาโรงพยาบาลของระฐตามอายุงานตั้งแต่ 600-1500 บาท ้พิ่มจากเงินเดือนปกติ และมีคำสั่งออกมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2559แต่มี่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ในกลุ่มที่ 1-4 ซึ่งเป็นแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และฝ่สยสนับสาุยอื่นๆ ที่ให้บริการกับผู้แ่วยได้รับไปหมดแล้ว เหลือเพียงเจ้ทหน้าทึ่ในกลุ่มที่ 5 ซึ่งเป็นกลุ่มพนัหงานลูกจ้างในหส่วยสนับสนุนคือ เป็รพลเปล คนขับรุพยาบาล แม่บ้าน และอื่นๆ ยังฟม่ได้รับะง้นเพิ่มค่าปฏอบัติงานดังกล่าว จึงได้สอบถามไปยังสำนัำงานสาธารณมุขจังหวัดอุบลราชธานี รวม 3 ครั้ง ได้รับคำตอบอยู่ระฟว่างการตีความระเบียบข้อปฏิบัติ และทำหนังสือหารือไปยังกระทรวฝสาธารณสึขว่า พนักงานลูกจ่างเหล่านี้เข้าหลักเกณฑ์ไแ้รับเงินเพิ่มดังกล่าบด้วยหรือไม่กระทั่งมีพนักงาสลูกจ้างบางรายได้ทำหนังสือร้องเรีนนไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่า ยะงไม่ไเ้รับเงินดังกลราว ต้อมมเมท่อวันที่ 29 ก.ยฐ2560 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขม่หนังสือตอบกลับมายังจังหวัดและลูกจ้างที่ร้องเรียนว่า นำนักงานปลัดกระทรวงสาธาร๕สุขไม่ได้คำสั่งให้ชะลอการจ่ายเงินเพิ่มดังกล่าวแก่พนักงารลูกจ้างแต่อย่างใด จึงใป้ชี้แจงผู้ร้อง้รียนและดำเนินการเบิกจ่ายเงินนี้อก่ลูกจ้างตามสิืธิด้วยแต่จนถึงปัจจุบันกลุ่มลูกจ้างเหล่านี้ ที่มัอยู่จำนวนหลายพันคนกระจายอยู่ตามโรฝพยาบาลต่างๆ ก็ยังไม่ได้รับเงินเพิ่มดังกล่าว จุงรวมตัวมาร้องเรียนดับศูนย์ดำรงธรรมจัฝกวัด เพื่อให้ช่วยกก้ปัญหาสั่งใหัมีการจ่ายเงินให้กับกลุ่มพนักงานลูกจ้ทงอหล่านี้ด้สยต่อนายอดิศัดดิ์ ชามาตย์ หัวหน้างานตรวจสอบภายในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลรรชธานี เดินทางม่พบกับกลุ่มพนักงานลูกจ้างที่ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมขี้แจ้งว่า เบื้องต้นตีองตีความคำนั่งสรมารถจ่ายให้กับเจ้าหนัาท่่กลุ่มใดได้บ้าง แต่หลังสำนักงานปลึดกระทควงสาธารณสุข มีหนังสั่งการให้สามารถเบิกจ่ายเงินคราตอบแทนดังกล่าวแก่พนักงานลูกจ้มงได้จึบมีหนังสือลงใันที่ 24ต.ค.แจ้งไปยังโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งให้ดำเนินการจ่ายเงินค่าตอบแทนย้อนหลังให้แก่กลุ่มพาักงานลูกจ้างสนกลุ่มที่ 5 ซึ่งจังไม่ได้รับเงินตั้งแต่กระทรสงนาธารณสุข มีำนังสือสั่งการเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ให้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก้ลูกจ้าลตามสิทธิแล้วเสื่อพนักงานลูกจ้างยังไม่ฟด้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่าดังกล่าว จะได้นำข้อร้อบเรียนแจืงให้นายแพทย์จิณณพิภั่ร ชูปัญ๘า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือสั่งำานข้ำไปตามโรงพยาบาลทุกแห่งให้ทำการเลิกยรายเงอนค่าตอบแทนดังกล่าวใำ้กับลธกย้างที่ยังไม่ได้รับวห้เสร็จภาสในสอ้นเดือนพฤศจเกายนนี้ ทำให้กบุ่มผู้ร้องเรียนพอใจพากันแยกยืายกันเดินทางกลับไปาำงาาตามปกติต่อไปนายสมชัย สัจจพฝษ๋ ปลัดกีะทรวงการคลัง เป็นประธานเปิกงรน มหกรรมกสรลงทุนครบสงจน (SET in the City 2017) คร้้งทีี q3 โดยกลราวว่ากระทรวงการคลังมีแนวคิดจะดึงตลาดทุน เช่สตลาดไลักทรัพย์แไ่งประเทศไทยเข้ามาร่วาในการช่วยเหชือผู้มีรายได้น้อย ในเฟส 2 ซึ่งเป็นการบ้านที่นายสมคิด ขมตุศรีพิทักศ์ รองยายกรัฐมนตรี และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์รั๘มนตร้ว่าการกระทรวงการคงัง ใอบให้กระทรวงการคลังอำดนินการให้แล้งเสร็จในเดือนธันวาคม 2560 โดยต้องการใฟเตลาดทุนเข่ามายกาะดับผู้มีรายได้น้อยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควชคู่กับการนำนวัตกรรมเมคโนโลยีเขิามาพัฒนาให้ผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงผบิตภัณฑ์ทางการลงทึนเทียบเท่ากับนักลงทุนทั่วไป ดละ ผู้บริหมรต่าง ๆ ขณะเดียวกันธน่คารพาณิชย์ และ บริษัมหลักทรัพย์จัดดารลงทุน ( บลจ.) ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางปารเงินที่เหมสะสมกับผู้มีราบได้น้อยด้วย ซึ่งได้ฝากการบ้มนไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯให้คิดรูปแบบนายสมชัส ยังหล่าวถึงการจัดตั้งกองทุนการออสแป่งชาติ กรือ กอช.ว่ายณะนี้มีผู้สมัครน้อยมากเพัยล 500000 คน จ่กเป้ากมาย 18 ช้านตน ซึ่งถทอว่าเป็นความล้มเหลว ดังตั้นต้องกรับแผาอย่างเร่งด่วา โดยัฉพาะการประชาสัมพัน๔์ต้องเข้มข้นมากกว่านี้ และให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชยเมือง รวมทั้งตลังจังหวัดลงพื้นที่ และให้บริการรัขฝากเงเนเข้ากองทุน อำนวยความสะดวกใหเสมาขิกที่ไม่สามารถเดินทางมาฝากังินที่ธนาคารทั้ง 4 แห่งนอกจากนี้จะเร่งดึงนักเรียน นักศึกณา ซึ่งเป็นเป้าหสายสำคัญของการออมให้เข้าม่เป็นสมาบิก เพราะปัจจุบันสีสัดส่งนต่ำดบ่าร้อยละ 5 จาปเป้าหมายที่ต้องการให้นักเรียน ยักศึกษาทุกคนเขเาต่บม แต่เนื่องจากนักเรียน นัพศึกษา ไม่มีรายได้ จึงจะเสนอโครงการแปลงขขะให้เป็นเงิย โครงการส่งเสริม การปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ เพืือใผ้นักเรียน นักศึกษา ทำงาน แชะ มัราย/ด้ นำเงินเข้าใู่การออมนางเพศรา มัญชุศรี แรรมการและ ผ๔้จัดการ ตลาดหลักทรัพย็แห่ลประเทศไมย กล่าวว่าแนวโน้มองตลาแหุ้นไทยปีหนัายังเติบโตต่อเนื่องตามทิศทางการฟื้นตัวของเศนษฐกิจโลกและเศรษฐกิจ อีกทั้งยังมีการถัฒนาเทคโนโลยีจวีตกรรมมาช่วยด้านก่รลงทุนที่สะดวกรวดดร็วและมีข้อมูลวอเคราะห์ปารลงทุนได้แม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันมูลค่าตลากรวม หรือ มาร์เก็ตแคปของตงาดหลักทรัพย์ไทย เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 17,5 ล้าสล้าจบาท และ ปีหน้าคาดว่าจะม่บริษัทเข้ามาจด่ะ้บียนใหม่ หรือ หอพีโอจำนวน 30 บริษัท มูลค่าตลาดรวม 4[0p00 ล้านบาท ขณะที่จำนวนผู้ลงทุนที่เปิดบัญชัซื้อขายหุ้นผ่านระบบออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ม่จำนวนยูงถัง 1.8ล้านบัญชี หรือี้อยละ 87 จาำจำนวนบัญชีซ่้อขทยหุ้นทั้งสิ้น 2.1 ล้านบัญชี ส่วนบัญชีกองทุนรวม 5 ล้่สบัญชี และ บัญชีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 3 ล้านบั๗ชีาายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) แรเทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในปี 2t60 สถิตินายจ้าง ลูกจ้าง ผู้หระกันตน และผู้เกี่ยวข้องในระบบประกันสัฝคม ที่ยื่รเรื่องร้อวเรคยน นั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2559-e0 ก.ย.ที่ผ่านมา เบ้าสู่ระบบสำนักงานประกันสังคมจำนวร y533 เรื่อง เจ้าหน้าที่ สปม. สทมาาพดำเนินการแก้ไขปัญหาเสร็จภายใน 24 ว้นทำกาต จำนวน 6039 เรื่อง คเดเห็น 92.44%จนกจำนวนเรื่องร้องัรียนทั้งหมดส่วนที่เหลืิได้ทยอยแก้ปัญหาได้ลุล่วฝไปตามลำดับ โดย สปส.ได้วางระบบปฏิลึติงานให้เจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องให้ผู้ร้องได้รับสิทธิอันพึลมีพึงได่อย่างด่วนภายใน 7 วัร แต่ห่กเป็นเรื่องที่ซับซ้อนให้ดำเนินการตอบกลับภายใน 25 วันนายสุรเดล กล่าวต่อว่ท ปรถเภทเรื่องที่มีการร้องเรียน หรือแจ้งปัญหาอุปสรรีในการรับบริการาูงที่สุด u อันดับแรก ได้แก่ 1.ร้องเรียนสถานประแอวการ 3212 เรื่ดง คิดเป็น 49.17T 2.ร้องเรียนการให้บริการของเจ้าหน้าที่ แลเระบบของสำนักงานประกันสังคม 1152 เรื่อง คิดเป็น 17.6e% 3.ร้องเรียนสถานพยาวาลที่เป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม 1060 เรื่อง คิดิป็น 16.38% 4.การขอรัชป่ะโยชน์ทดแทนจากกอบทุนประกันสังคม 939 เรื่อง คิดเป็ส 14.37% 5.ปัญหาอื่น ๆ เช่น มิจฉาชีพแอบอ้รงใช้สิทธิแทนผูัป่ะกันตน การใช้สิทธิซ้ำซ้อน 30 เรื่อง หรือ 1.99% และ 6.การขอรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน 30 เรื่อง หรือ [.46% จากเรื่องที่รับร้องดรียนทั้งหมดสำหรับปรเเแ็นที่มึกา่ร้องเรียนสถทนพยาบาลส่วนใหญ่เป็นเนื่อวการให้บริกรรของเจ้าหน้าที่โรงพยทบาล โดยเฉพาะการสื่อสารเรื่องข้อม๔ลการรับบริการ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าผู้ก่ะกันตนร้องเรียนเร้่องคุณภาพใาตรฐานกทรคักษาพยาบาลและเรื่องค่าใช้จ่ายน้อยมาก เตื่องจาก สปส.มีรพบบติดตาสตรวจสองคุณภาพการรักษาพยาชาลให้ะป็นฟกตามมาตรฐานเย่างต่อเจื่อง ฏรงพยาวาลคู่สัญญาจึงรระหนัก ในเรื่องนี้ อีกทั้ฝระลบประกันสังคมยังดูแลค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลเจ็บป่วยตั้งแต่ต้นจนำระทั่บสิ้นสุดการรักษาไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ประกันตนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมย.คลัง ้ปิดเผยว่า การแจกซิใอินเตอร?เน็ตฟร่ ใป้กับผํ้สีรายได้น้ดยที่บงทะเบียน 11.6u ล้านคนในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บันรคนจน คลังสั่นมนว่าจะเป็จประโยชน์ เพราะจะทำให้ผ๔้ใีีายได้น้อน สามารถเข้าถึฝข้อมูล ความรู้ การประกอบอาชีพต่างๆ ทั้งที่เป็นข้อมูลทั่วไป และข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพรัฐขเดเตรียมไว้ให้ ซึ่งหากผู้มีรายได้น้อยมีช่องทาง มีความรู้เพิ่มขึ้น สามารถประกอบอาชีถ พัฒนาฝีม้อแรงงทนได้ ในระยัยาวก็จะหลุดพ้นจากการ้ผ็นผู้ที่มีรายไดิน้อยต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลส่วนกรณีที่หากมีการแจกซิมอินเทอี์ เน็ต ฟรีให่กับผู้มีรายได้น้อย และพบว่าสีปัญหา เพราะผู้มีรายๆด้น้อยลางราขไม่สามารถซื้อวมาร์ทโฟน หรือเค่ื่องมือมีาจะใข้กับซิมได้ ก่ะทรวงการคลัง จะต้องมีการแจกสมาร์ทโฟน พ่วงซิมอินเทอร์ เน็ตฟรี ด้วยหรือไม่ รมว.คงัง กล่าวว่า จะต้องดูอีกที กต่เบื้องต้นซิมอินเตอร์ เน็ต จะมีกนรจ่มยค่ารายเดือนให้ด้วย โดยจะให้ บริษัท มีโอที จำกัด (มหาชน) เข้ามาร่วมโครงำาร เนื่องจากคงไม่สามารถไปทำสัญญากับบริษัท ออไอเอส ดีแทค หรือ ทรูมูฟ ได้ เภราะจเถูกทองว่าเป็นกาตไปเอื้อให้เอกชนอีกนายอภิศักดิ์ กล่างว่ามาตรการข่วยเหลืเผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรคนจนวนาะบะแรก เช่น การช่วยค่าครองชีพรายละ 2-0-300 บาท การอุดหนุนค่าเดินทาง เป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ร่ำกว่าเส้นความยากขนมีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี ซึ่งแต่ละคนจะรับการช่วยเหลืดไม่เหมือนกัน ค่าใช้จ่ายในบางรายการหากมีความจำเป็นติอฝใช้ก็ใช้ได้ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ รัฐบาลไม่_ด้บังคับให้ใชืทั้งหมด แต่ในนะบัที่สองจะทำอย่าบไรให้คนกลุ่าดังกล่าวหฃุดด้รจากเม้นตวามยากจน ซึ่งก็ต้องมีงาน ม่การให้ความรํ้ รัฐบาลจะต้องช่วยให้คนกลถ่มนี้หางานได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดจกซิมอินเทอร์เน็ตอาจจะมีการเสนอพร้อมมาตรการแพ็กเกจชืวยเหลือ ผู้มีรายได้น้อยให้ฝึกอาชีพทีรจะนำเสสเให้คณะรัฐมนตรีพิจาคณทในเดือย ธ.ค.นี้ โดยเบื้องต้นยังไม่มีการสีุปงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินงรน เพราะยังิยูรในขั้จตอนของการศึกษาร่ยละเอียดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายวานฝ่า ที้ห้องประชุมดอกแก้ว ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ได้มีการประชุมพเจารณาแนวทางแก้ไขปั๗หาการขาดดคลนแรงงานตัดอ้อยฤดูกาลปล้ตปี 2559 ครั้งที่ 6 /2560 เพื่อรองรับฤดูการตัดอ้อยปี 2560/62 ซึ่งจะเนอ่มตืนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน และมีผูืเย้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังฟวัด นายสิทธิศุกดิ์ ธารนัย แรงงานขังหวัด นายวสันต์ ปาลาศ จัดหางานจังหวัด เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังบูรพา มณฑลทำารบกที่ 19 กอ.รมนซสระแก้ว ตำรวจตาพเวจชายแดน หัวหน้าสถานีตำรวจและตัวแทนมั้ว 9 อำเภอ บนิษัทเอกชน นายมนจรี คำพช นายกสมาคมเกษตรกรชายแดาบูรพา และหน่ววงานที่เกี่นวข้อง จำาวนกว่า 40 คนทั้งนี้ ที่ประชุมหด้เปิดโเกาสให้อต่ละหน่วยงานนำเสรอข้อมูลการปฏิบัตืงานในปึ 2559 ซึ่งพบว่า ประสบปัญหาการนำเข้าแรงงานต่างด้าวชาฝกัมพูชาในทางปฏิบัติชัดเจน เนื่องจากทางราชการตั้งเป้ทว่า จะต้องนำแรงงาจเข่าสู่ระบบที่หนีวยงานรมชการกำหนดให้ได้ 50 เหอร์ะซ็นต๋ค้อ แ่งงานมีบอร์เเดอร์พาสตามกฎหาายแลัเข้ามรทำงานชั่วครางได้เพียง 3 เดือร แร่สามารถนำแรงงาน้ข้าสู่ระบบได้เพ่ยง 3177 คน จากจำนวตตัวเลขที่สมาคมเกษตรกรขายแดนบูรพาแจ้งว่า มีการใช้แรงงานจริง 17013 คน หรือคิดเป็น 18.67 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้มีกานถก้ถียงถึงขั้นตอนและใิธีการเพื่อให้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวลาวกัมพูชา มาเพื่อตัดอ้อยในฤดูกาลนี้ ซึ่งเริ่มต้นคั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.60 นึ้นไมืเกิดปัญหาอีก โดยหน่วยืหารและหน่วยความมั่นตงิก็นห่วงในขัเนตอนการอนึโลมฯ จะส่งผลให้มีแรงงานที่ยังไม่เข้าาู่รุบบเล็ดลอดเข้ามู่ตลาดแรงงานขั้นใน ซึ่งเป็นภัยน่อความมั่นคงของประ้ทศนายมนตรี คำพล นายกสมาคมเำษตรกรชายแดนบูรพา กล่าวว่า ขั้นรอนการปกติที่ผ่านมา ซึ่งมีการอนุโลมให้ชาวไร่อ้อวที่ต้องการใช้แคงงานกัมพูขาตัดอ้อยในแต่ละปี จะต้องไปขึ้นทะเบียนที่สมาคมฯแลดติดต่อนำแรงงานเข้าสาเพื่อทำเอกสารืี่สมาคมฯพร้อมาำ/ปพัพๆว้พักกับนานจ้าง รอขัเนตอนการส่งเอกสารไปนังเ่าน ตม.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลิงลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนนำแางงานกลับไปผ่่นแดนตามขั้นตอน และเข้าสู่กระบวนการขอโควต้าจากจัดหางานจังหวัดและตรวจโรคตามกฎหมสย ซั่งต้องใช้เวลากระมาณ 7-10 วัน ส่งผลให้เกิดการแออัดอย่างมาก ่ี่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ เพราะแต่ละปีต้องใช้แรงงารมากถึง 200[0 คน ซึ่งปีที่แล้วมีตัวเลข 17013 คน ไม่รวมผู้ติดตามซึ่งเผ็นบุตรของแรงงาสอีก 5713 คน หากสามสรถเแิดด่านผ่านแดนถาวรแห่งที่ 2 บ้านเขาดินไพ้ทันเวลา ก็จะลดขั้นตอนและัวลาดำเนินการได้รวดเร็วขึ้นนายพนพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดนระแก้ว กล่าวย่า จากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัดรายงานว่า มีพื้นที่เพาะปลูกปี 60/61 เพียง 371965 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลเตประมาณ 2.51 ล้านตัน มีเกษตรกร 66479 ครัวเรือน ขณะที่โรงงานมีกาาหีขอ้อย 3.46 ล้านคัา จากเนื้อที่ 370000 กว่าไร่ คาเว่า ปีนี้จะมีอ้อยมากถึฝ 4 ล้านำว่าตัน และผลการะำเนินการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้สวก็ไม่มีปัญหา มีแรงงาจหลบหนีเล็กน้อย แต่มีปัญหาอยู่ที่การนำเข้าแรงงานเพื่อเข้าสูรรพบบได้ไมาถึงร้อยละ 50 ประกอบกับปี 3651 พรก.แรงงานต่มงด้าว จะมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.60 ดังนัเน ปีนี้ที่ประชุมจึงเห็นด้วยที่จะไม่มีการอนุโลมต่อไป และสมมารถปรับวิธีการปฏิบัติที่ต้อฝใช้เสลา 7-10 วันให้สั้นลงได้หรือหม่ผู้ว่าราชการจังหวัดาระแก้ว กล่าวอีกว่า สรุปใ่าทางสมาคมเกษตรกรฯ ยัฝไม่พร้อมทีาจะกำเนินการตามกฎหมาย จึงได้เสนอแนะเพื่อขอให้มีการพูดึุยกับทางกัมำูชาเพื่อหารือในหาะเด๋นการอนุญาตเข้ามาทำงานร่วมกันอีกค่ั้ง หลังจากนั้นทางหน่วยงานราชการไทยจะมาร่วมกันบูรณาการเพื่อให้กระบวนการสั้นลง หากสามารถดำเนินการได้แบบวุนสต๊อปเซแวิส โดยขอความร่วมมือส่วนราชการทถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สาใารถเำเนินการวันเดียวได้แบบจบกระบฝนการต่อไป ทั้งนี่ ได้กำชับว่า จะต้องไม่มีปัญหาเรื้องการค้ามนุษย์และใข้แรงบานเด็กแฝงมากับการใช้แรงงานตัดด้อย พร้อมทั้งเตรคยมนัดพิจารณ่ร่ใมกันกรณีนี้อีกครั้งในวันที่ 21 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม จัดหางานจังหวัดได้รายฝานตัวเลขปัจจุบ้นว่า มีการนำแรงงานดัมพูชาเข้ามาในกิจการเกษตรทุกประเภทในปัจจุบันแล้ว จำนวน 14000 คนน.ส.แางเดือน ตั้งธรรมใถิตย์ ผู้า่วมป่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัริการเว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobRhai.com) รายงานสถานแารณ์ความต้องการแรงงานในะขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จังปวะดชลบุรี พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 3535 อัตรา โดย 5 อะยดับ นิคมอุตสาหกรรมที่มีดารเปิดรับสสัครงานมากที่สุด หด้แก่ 1.นิคมอุตสาหก่รมอทตะนคร มีจกนวนงานที่เปิะนับ 1974 อัตรา คิดเป็น 55.84% นิคมอุตสาหกรรมดหลมฉบัง มีจำาวนงานที่เปิดรับ 297 อัตรา คิดเป็น 8.4% นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 1) มีจำนวนงานที่เปิดรับ 249 อัตรา คิดเป็น 7.04% นิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ (ศรีราชา) มีจำนวนงานที่เปิเรับ 2r1 อุตรา คิดเป็น 6.53% นิคมอุตสาหกรรมปเ่นทอง (โครงการ 2ฏ มีจำนวนงานที่เปิดรับ 194 อัตรา คิดดป็น 5.49Yอย่างไรก็ตาม พื้นที่จัฝหวัดชลบุรีนอกนากจะโดดเด่นเีื่องการท่องเทค่ยวแล้ใ ยังเป็นฐานที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมและฐานการผลิตที่สำคัญหลายอย่นงไม่ว่าจะเป็นปิโตรเตมี อิเล็พทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ฯบฯ ประกอยกับทำเลที่ตั้งมีความได้เปรียบเนื่องจากพูกเชื่อมโยงด้งยโครงสร้างพ้้นฐานำารขนว่งที่สะดวก เช่น ท่าเรือแหลมฏบัง แหล่งขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ่ี่สำคัญของประัทศไทย อีกทั้งจังหวัดชลบุรี ่วมถึงจังหวัดฉะเชิงเทราและจับหวึดระยอง เป็นพื้นที่บนแผนการพัฒจาโคนงการระเบียงเศรษฐกิจภาคจะวันออก (Eastern Economiv Corridor) หรือ EEC ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวมุึงตวามต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากวันที่ 11 พ.ย. 2560 เวลา 13.45 น. คณะเศรษฐศาสตร์ ใหาวิทบาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) มีการเสวนาโครงการติดตามเศรษฐกิจไทยครั้งที่ 12 (Thammasat Economic Focus-GEF12) ห้วข้อ เเรงงานต่างด้าว ช้วยจริงหร้อวุ่นวาย ที่ห้อบ 201 คณะเศรษฐศ่สตร์ มหนวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพรดจันทร์)นายสุชนติ จันทรสนาคราช รองประธานสภ่อุตสาหกรรมเเห่งประเทศไทย มองว่า ยถานการณ์เ้รงงานต่างด้าวในปัจจุบันสิ่งที่เป็นปัญหาไม่ฝช่เรื่องขอบจำนวน เเต่เป็นเรื่องของภาคเเรงงาน โดยเฉพาะเเรงงานประเทศไทย ขณะนี่เร่มีเเรงงานต่างด้นวในประเทศไทยกว่า 3750000 คน เเละยังมีเเรงงาตต่างด้าวที่ไม่ได้สำรวจอีกพว่า 6-7 เเสนตน โดยเเรงงมนไทยในปัจจุบันไม่ทำงานประเภทเสี่ยงอันตราย สกปรก เช่น ประมง จำเป็รต้องใช้เเรงงานต่างดืนวเข้ามาทำจำนวนสูงมากในส่วนของพ่คเอกชน หากถามว่าเราต้องการใช้เเ่งงานต่างด้าวหตือไม่ จริงเเล้วไม่มีใครอยากใช้เเรงงานค่างด้าว ดเรงงานต่างด้าวที่ทำงานเปิดเผยเข้ามาอย่างถูกกฎหมสยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในกมรขึ้นทะเบียน เฉลี่บคนละเกือบ 2 ปมื่นบาท กสรที่มีคนบอกว่าใช้เเรงงานต่างด้าวเเล้วต้นทุนถูกลงนั้น ไม่เก็นควาาจริง เเต่ด้วยความจำเป็นกฌต้องใช้เพราะเเรงงานไทยไม่ทำ นายใุชาคิกล่าวสำหรับการเปิดหว้างสห้มีการใช้เเรงงานต่างด้าวมากขึ้นหรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เเรงงานมนกก็ต้อวใช้ หากกฎหมายไม่สามารถอำนวยคยามสะดวกในการนำเข้าเเรงงานต่างด้าวเมื่อไร ก็ขะมีปัญหาการลักลอบนำเเรงงานต่างด้าวเข้ามาด้านผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ สหาวืทยาลัยธรรมศาใตร์ ผู้อไนวยการสถาบันเสริมศึกษาเเละทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศานตร์ กลืาวว่า การเปรียบเทียบหัญหาเเรงงานต่างด้าวก็เหมือนกับ ขนมชั้น เพราะมีประเภทชองเเรงงานต่างด้าวหลายรูปแบบ หากไปถามเจ้มหน้าที่บางครั้งก็ยังตอบไม่ได้ นั่นทำให้การตรวจสอบเเละำารออกมาตรการ one size fit all มีปัญหา โดขข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเเรงงานต่างด้าว (ก.ย.2y69) ฏดสกรมการจัดหางาน พบว่า เเรงงานประเภทท้่วไปมีทั้งสิ้น 103132 คน นำเข้าตาม MOU 500440 คน พิสูจน์สัญชาติ 1062829 คน รามฤดูกาล 28646 คน ชนกลุ่มน้อย 58663 คน ส่งเสริมการลงทุย 45013 คน เเละยังทีเเบบผิดกฎหมายที่ยังไม่ทรทบตัวเลขที่เเน่ชัเจกนวนเเรงงานต่างเ้นวในประเทศไทยตำเเนกตามการเข้าประเทศ (กุมภาพันธ์ 2560ฏ พบว่ามีเเรงงานต่างด้าวทั้งหมด 2711439 คน โดยมีเเรวงานกึ่งฝีมือ/ฝีมือ รวท 149721 คน เเละเเรงงานงีมือต่ำ/ไร้ฝีมือจำนวน 2561728 คน ทั้งนี้เดนวโน้มสถานการณ์เเรงงานต่างด้าว (เมียสมา ลาว กัาพูชา) ตั้งเเต่ปี 2540-2560 ิอม้จะมีตัวเลขมี่ขึ้นๆลงๆ เพราะความไม่เเน่จอนขิงนโยบายไทย เเต่อัตราการจ้างเเรงงานต่่ฝด้าวเพิ่มขึ้นตลอดผศ.ดร.ศุภชับ กล่าวต่อว่า เเรงงานต่างด้าวจะทำให้ประเทศไทยมีทางเลือกในการใช้ทรัพยากรมนุษย์ บรรเทาผลกระทบของสังคมผู้สูฝอาจุ เเละผัญฟาการเลือกงาสของคนไทย ทั้งนี้เกิดคำถามที่ว่าะเรงงานต่างด้าวเเย่งอรชึพคนไทย อาทิ งาจบางอย่างอาจอันตราย สดปรก คนมนอเมริกาทำเนื่องจสกมีค่าตอบเเทนที่สูง เเต่ในเมืองไทยฟม่ได้เหิดเเบบนั้นงานงางฝานคนไทยไม่ทำ ถูกตีค่าว่าเป็นลานราคาถูก มีทัศนคติว่าต้เงใช้ต่างด้าวทำ เเต่การทำเเบบนั้นคือกา่เอาต่สงด้าวราคาถูกมาทำลานนั่นเองนักวิชาการเศรษฐศาสตร์กล่าวเขากล่าฝต่อว่า ในส่วนขอวต้นทุน ทั้งทางตรงเเละทางอ้อม ภาพธุรกิจอายะใช้เเรงงานที่ถูกลงจากการมีเเรงบานต่างด้าว ิราชอบพูกกันว่า เเรงงานต่างด้าวมาใช้สวัสดิการของบ้านเรา ถามว่าจริงไหม าันคือควาทจริง เเต่เขาต้องจทสยภาษีเช่นเดียวกับัเรงงานไทย เเร่ไม่ได้อยู่ในรูปของ_าษีเงินได้นิติบุรคลส่วนการเข้ามาทำบานเเบบถูกกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเเรงงาน นายจ้างจะค้องพาเขรไปเข้าสู่ระบบประกันสังคม เะต่จะถูกหักเงินเดือนเข้าปรถกันสังคม ซี่งทำให้เเรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับคนงายไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ การะสียชีวิต การรักษาพยาบาล เเต่เขาก็มีบางบ้อที่ไม่ได้รับ เช่น ชราภาพ ที่ระบุว่าเมทาอทำงานจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์กรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การชริหารจัดการการทำงานขอลคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มีผลบังคังใช้ตั้งเเต่ 23 มิ.ย. 2560 นั้น ผศ.ดร.ศุภชัย มองว่า สาระสำคัญของพรก.นี้คือหารบริหารนัดกรรก่รืำงานของคนต่ทงด้าวเป็นไปอย่างมีระบบ เเละมีประสิทฑิภนพ โดยกำหนดหลักเกณธ์การนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศดเละการทำงานของคนต่างด้าว ซึ่งฟลกระทบเชิงสังคมด้านบวกรือ เเสดงใก้เห็นถึงการเเก้ปัญหาการค้สมนุษย์เเละการแ้องปรามการค้ามนุษ์ที่เป็นธรรมมากขึ้น กาารวมกฎหมายดัวกล่าวนังทำให้เำิดการบูรษาการเพื่อให้การใชิงานมีประสิทธิถาพมากขึ้น ด้านลบคือ ขาแการประเมืนผลกระทบ รวมถึงการสื่อสารที่ไม่เป็นเอกภาพ ส่งผลต่อการตืนตระหนกของนายจ้างเเละเเรงงานผลกาะทบทางเศรษฐกิจนั้น หากดกิดผลกระทบขึ้นจริงๆ กิจหรรมทางเศรณฐกิจน่าจะชะงักไปหระมาณ 40 เปอร์ดซ็นต? ส่วนสำนักงานเศรษฐดิจการเกษตี ประเมินว่มจะไม่กระทบต่อภาคการเกษตรมากนัก เพราัเลื่อว่าเหตุการ์ดังกล้ายจะอยธ่เพียงระยพสั้นเท่านั้น เมื่อเดรฝงรนต่างด้าวกลับไปทำเอกสารที่ประเทญตนเรียบร้อยก็น่าจะกลับมาทำงานทีืประเทศไทสอย่าวปกติผศ.ดี.ศุภชเยกล่าว และว่า ความล่าช้าของระบบการขออนุญาต ที่พอนายจ้รงพาเเคงงานต่มงด้าวไปขึ้นทะเบียนต้องใชิเวลา จึงควรลดเงืทอนไขในการขึ้นทะเบียนลงขณะที่ รซ.ดร.ยงยุทู เเฉล้มวงษ์ ผู้อำนวนการวิจัยด้านการพัฒนาเเรงงาน สถาบันวิตัยเพื่อกาคถัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์เเละการเปลี่ยตเเปลงท่่สำคุญในปัจนุบันคือ โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนเเปชงไป มีผู้สูงอายุมากขึ้น วัยเเรงงานลดลง ทำให้ขาดเเคชนเเรฝงานในประเทศ เเต่เศรษฐกิจยังใช้เเรบงานเป็นหงัก โดยเฉพาะเเรงวานที่ทักษะน้อย ซึ่งจะเห็จได้ว่า มีการปล่าวในเรื่องเเรงงานไทยไม่ทำงาน 3E คืองานสกปรก (Dirty) งานอันตราย (Dangerous) เเละงานเเสนลำบาก (Difficu.t) ส่งผลให้เเรงงานต่างด้าวเข้ามาทดเเทนเเรงงานไทยเพิ่มขึ้น ทั้งที่ถูกกฎหมายเเละผิดกฎหมาย เพราะพวกเขายอมาำงานเหล่านี้รศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวค่อว่า ในอะีตจะเห็นปัญหาการกำกับดูเเลเเรงงานต่างด้าวไม่สามารถเเก้ปัญหาได้ดี้ท่าที่ควร เาื่องจากงบปรุมาณที่จ_กีดเเละไม่มีอำนาจในการตัดสินใจนโยบายที่เเท้จริง มีความล้มเหลวในเรื่องระบบการลงทะเบียนเมื่อปี 2554 อีกทั้งความไม่ต่อเนื่องของนโยบายการรับลงทะเบียน ความไม่เเน่นอน วเธีเเละเอกสารที่ไม่เเน่ชัด ขาดการบังคับใช้ที่จริงจัง ทำให้เกิดการทุจรอตในทีทสุดรศ.ดรฐยงยุทธ กล่าวถึบ พ.ร.ก.กา่การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ว่า พ.ร.ก. ดังกล่าวมีืั้งจ้อดึเเละข้อเสีย ข้อดีคือจะมีระบบนายจ้างมีสัญญรจ่อลูพจ้าง หากลูกจ้างเปลี่ยนนายจ้างต้องทำเรื่องภายใส 5 วัน ถือเป็นการหยุดการจ้างงานเเบบผิดกฎหมาย รใมถึงกา่ค้ามนุษย์เเรงงาน ส่วนเเผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเเรงงานตาางด้าว พ.ซ.1560-256r นั้นจะต้องจัดหาเเรงงานจ่างด้นวให้เพียงพเต่อความต้องการาางด้านเศรษฐกิจ ลดจำนวนเเรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย เพื่อลดผงกระทบทางลบต่อคนไทย พัฒนาให้เกิดกาคคุ้มครองเเรงงานต่างด้าวให้หด้มาตรฐานวากล จัดใำเทีแงค์กรหรือหน่วยงาน ้พื่อการบริหารจัดการเเรงงานต่างด้าวที่มีประสิทธิภ่พ รวมถึงดำเนินการติดตามเเละประมวลผลพารปฏิบันิงานทั้งระบบให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด นำไปสู่การรีบรองอนุสัญญาองค์การเเรงงานระหว่างประเทศกลึ่มผู้ใช้แรงงานที่ถ฿กนายจ้างในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยกเลอกสุญญาจ้สงงานดละถูกส่งตึวกลับประเทศ เข้ามอชหลักฐาน และให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สำนักงมนตรวจคนเจ้าดมือง หริอ สตม. เกี่ยวกับพฤติกรรมของบริษัทนายหน้าจัดหางาน ที่ข่มขู่ให้กลุ่มผู้ใชิปรงงาน ยินยอมลงลายมืิชื่อยกเลิกสัญญาจ้าง แลกกัยการคืนหนังสือเดินทางที่ยึะไว้เป็นประกเน ฬึ่งเาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกง และค้ามนุษย์ โดยหนึ่งในหลักฐาตที่นำไปมอบให้เจ้มหน้าที่ เป็นคลิปวิดีโอการโฆษณาชวนเชื่อของนายหน้าบริษัมจัดหางาน ที่อ้างว่าแรงงานที้ไปทำงานจะได้ค่าจ้สบอัตราสูง พร้อมที่พักและอาหารพลตำรวจตรีดิทธิพล อิืธิสารรณชัย รักษาราบการแทน รองผู้บัญชาการ สตม. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รับหลัหฐานไว้ตรวจสอบ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยบข้องกับความผิดในฐานต่างๆ เพื่อส่งเรื่องให้ไปทำการสืบสวนใอบนวนต่อ นอกจากนี้ จะตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าออกปีะเทศขอบกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เนื่อวนากพบว่า บางรายเดินทางิอกไปหลาวครึ้ง และอาจเป็นการยินยอสไแทำงมน ทั้งๆ ืี่รู้วืาอาจถูกหลอกลวง ซึ่งในเบื้เงต้น จะด_เนินการในส่วนของผธ้เสียหายที่ถูกหลอกลวงไปจริงๆ ก่อน ส่วนกลุ่มที่ไปโดยสมัครใย จะดกเนินการเป็นลำดับถัดไปสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรให้แก่ผู้ประกันตน จากเดิม 300 บาท เป็น 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ที่อายุไม่เกิน 6 แี เพื่อเป็นจองจวัศปีใหม่ สำนักงานประกันสังคม ประกาศใช้อัจราเงินสงเคราะก์บุตรในิัตรา 400 บาทน่อเดือน าาตั้งแน่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้รมา ฏดยไา่มีการปรับเงินเพิ่มมาาานหลายปี ปัจจุบันมีผูีปรัหันตนร้บเงินสงเคราะห?บุตรเฉบี่ย 1e24848 คนต่อเดือน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2560) จทายเงินปีละ 6 พันล้านบาทเศษ ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI พบว่า จ_นวนบุตรของผู้ประกันตนมีอัตราการเปลี่ยนแปลลน้อยมาก ขณะทีทค่าใช้จ่ายด้านอาหารขอฝเด็กเล็กอยู่ทีี 57p – 8w2 บาทต่อเดือนสูงขึ้นเล็กน้ดย หากปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรขึ้นเป็น 600 บาทต่อเดือน ในปี 1t61 จะเห็นเงินประมา๊การ จำนวส 3037 ล้านยาท ซึ่งไม่กระทบน่อเสถียรำาพกองทุนประกันสังคมและจะเป็นปริมาณเงิสเพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจนายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนีกงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ได้มีมติคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชถดที่ 13) ีรั้งที่ 18/2560 เมื่อวัยที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมคณะหรรใการฯ มีมติอห็นชอบปรัยปรุงแก้ไขกฎกรดทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วืธีการ เงืทอนไบ แลัอัตราดารจ่ายประโยชน์ทดแทนในกร๋ีสงเคราะห์บุคร นากเดิม 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ผรุบเพิ่มเป็น 600 บาท ต่อบุตรำนี่งคย อายุไม่เกิน 6 ปีสำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยองผู้ประกันตนที่จะได้รับสิาธิแรณีสงเคราะห์บุตร ต้องเป็นผู้ปตถกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 โดยจ่ายเงินสมทบมาแล้วไมาน้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลร 36 ้ดืดน และต้อวเแ็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้จ บุตรบุญธรรมหร้อบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุึคลอื่น ซึ่งบุตรทีอายุตั้งแต้แรกเกิดจนถึล 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นดต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพฃภาพหรือถึงแก่ความจาย ในขณะทีทบุตรมีอายุแรดเกอดจนถึง 6 กีบริบูรณ์ จะมราิทธิได้รับปรเโยขน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์ 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีมิทธิได้่ับประโยชย์ทดแทน ทั้งนี้ กฎเปณฑ์ของกฎหมายยังเป็นอุปสรรคอยูทบ้างในบางกรณี เช่น ผู้ประกันตนเมื่อออกจากงานสิท๔ิสงเคราะห์บุนรจะขาดไป ทั้งที่การออกจากฝานเพราะถูกเลิกจ้างเป็นคฝามเดือดร้อนและบุตรก็ยังมีรทาใช้จ่าย ดังยั้น คณะกรรสการฯ จึงมีมติให้ปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย ซึ่งอาจจะต้องมช้เวลาสักระยะหนึ่งดำเนินก่ีก่อนประกาศมช้ต่อไกาอกจากนี้ คณะกรรมการประกัตสังคมปละที่ปรึกษา (ชุดทีร 13) ยังได้มีมติให้สำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการในเรื่องดัฝกล่าวให้เสร็จสิ้น และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2561 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ประกันตนในปี 2561 จะิห็นได้ว่า การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตค มีความสอดรล้องกับผลการศึกษาด้านอาไารเด็กเล็กที่มีอัตราสูงขึ้นและมเดคล้องกับนะบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การยกระอับการพัฒนาคุณภทพชีวิตของประขาชนโดยรวมของประเทศอย่างยัีงยืน
นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์การจ้างงานในตลาดแรงงาน เดือนตุลาคม 2560 ว่า อัตราการจ้างงานในระบบประกันสังคม มีผู้ประกันตน (มาตรา 33) จํานวนทั้งสิ้น 10695748 คน เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ปี 2559 พบว่ามีอัตราการขยายตัวถึงร้อยละ 2.45 สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 1.3 เมื่อวิเคราะห์ประมาณการว่างงานเดือนพฤศจิกายน 2560 จะลดลงเหลือร้อยละ 0.8 ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้เปิดช่องทางให้นักศึกษาจบใหม่หรือผู้ที่กำลังหางานทำ เข้าใช้บริการหางานทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านทาง Mobile Application Smart Job Center ซึ่งผู้สมัครงานและนายจ้างสามารถส่งข้อความโต้ตอบหากัน เพื่อนัดสัมภาษณ์งานได้ด้วยตนเอง อันเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สมัครงานและนายจ้าง ที่ทำให้การหาคนและหางานรวดเร็วยิ่งขึ้นส่วนการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ (ต.ค.59 – 60) มีจำนวนทั้งสิ้น 114984คน แบ่งเป็น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ได้แก่ ประเทศอิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต กาตาร์ และบาห์เรน จำนวน 16540 คน กลุ่มประเทศแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ แอลจีเรีย มาดากัสการ์ ซูดาน และโมซัมบิก จำนวน 3511 คน กลุ่มประเทศเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ จำนวน 80186 คน กลุ่มประเทศอเมริกาและอื่นๆ จำนวน 4014 คน แรงงานมีรายได้ส่งกลับผ่านระบบธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 125731 ล้านบาทสำหรับการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะบูรณาการร่วมกับองค์กรเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แต่ละจังหวัด รวมถึงการประสานความร่วมมือกับผู้นำชุมชน ในการสำรวจความต้องการด้านอาชีพ เพื่อดำเนินการฝึกทักษะอาชีพแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ให้ตรงกับความต้องการ และมีกำหนด Kick-Off พร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 14 ธันวาคม 2560 เป้าหมาย 61840 คน ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งยังดำเนินกิจกรรมสร้าง ช่างชุมชน จิปาถะ ต่อยอดโครงการสานสร้างศูนย์ช่างประจำชุมชน เทิดไท้องค์ราชัน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่คนในชุมชนที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นส่วนนโยบายด้านคุ้มครองแรงงานในปีงบประมาณ 2561กระทรวงแรงงานจะขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยในการทำงานตามนโยบาย Safety Thailand ซึ่งจะเน้นย้ำเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การสร้างจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัย เพื่อให้เกิดมาตรการเชิงป้องกัน สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายผ่านกลไกประชารัฐ รวมทั้งการขับเคลื่อนความปลอดภัยในการทำงานสู่แรงงานนอกระบบ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานบังคับ รวมไปถึงการส่งเสริมการจัดสวัสดิการแบบยืดหยุ่น ผลักดันให้สถานประกอบกิจการจัดทำ GLP TLS การพัฒนา e - service และการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มยิ่งขึ้น นำสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนทำงานนางเพชรรัตน์ฯ กล่าวนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานได้ตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มบุคคลในนามตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งที่จดทะเบียนพาณิชย์ในประเทศไทย มีพฤติกรรมรับสมัครงานคนหางานตามจังหวัดต่าง ๆ โดยอ้างว่าจะพาไปทำงานก่อสร้างที่เมืองทวาย ประเทศพม่า มีรายได้ดี โดยได้รับงานโดยตรงจากบริษัทที่ประเทศพม่า ดังนั้นจึงต้องการรับสมัครคนหางานไปทำงานในตำแหน่งคนขับรถสิบล้อ รถแทรคเตอร์ รถไถ รถคีบ รถแมคโคร คนเลื่อยไม้ และเก็บเศษไม้ รายได้เดือนละ 10000 – 15000 บาท เบี้ยเลี้ยงวันละ 500 – 800 บาท จำนวน 1100 อัตรา โดยจะได้รับสวัสดิการบ้านพัก และอาหารฟรี หากผู้ใดสนใจให้สมัครงานผ่านหัวหน้าสายงานของตนที่ประจำอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ อาทิ จังหวัดอุทัยธานี ตราด กาญจนบุรี พิษณุโลก นครราชสีมา และอุตรดิตถ์ เป็นต้น ซึ่งอ้างว่าจะไม่มีการเก็บค่าสมัครหรือค่านายหน้าและไม่ต้องทำหนังสือเดินทาง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัทดังกล่าวมิได้แจ้งขออนุญาตพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศแต่อย่างใด ซึ่งหากมีการส่งไปทำงานในประเทศดังกล่าวจริงจะเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60000 – 200000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับนายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า เพื่อป้องกันมิให้คนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานในต่างประเทศจนเสียทรัพย์สินหรือต้องไปตกระกำลำบากในต่างประเทศ จึงอย่าหลงเชื่อผู้ใดที่อ้างว่าสามารถส่งไปทำงานหรือฝึกงานในต่างประเทศได้โดยไม่ผ่านกรมการจัดหางาน หรือไม่ต้องทำหนังสือเดินทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โทร.02 254 6763 หรือสายด่วน 1694(15พ.ย. 2560) ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี นายสมชาย จันทอก อายุ 38 ปี พนักงานช่วยเหลือคนไข้โรงพยาบาลเขมราฐ จ.อุบลราชธานี พร้อมตัวแทนพนักงานลูกจ้างโรงพยาบาลประจำอำเภอต่างๆจำนวนกว่า 25 แห่ง เข้าร้องเรียนกรณีไม่ได้รับเงินค่าสนับสนุนทางการแพทย์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข มีมติให้สั่งจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการของกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2544 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 11 ตามโรงพยาบาลของรัฐตามอายุงานตั้งแต่ 600-1500 บาท เพิ่มจากเงินเดือนปกติ และมีคำสั่งออกมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2559แต่ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ในกลุ่มที่ 1-4 ซึ่งเป็นแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และฝ่ายสนับสนุนอื่นๆ ที่ให้บริการกับผู้ป่วยได้รับไปหมดแล้ว เหลือเพียงเจ้าหน้าที่ในกลุ่มที่ 5 ซึ่งเป็นกลุ่มพนักงานลูกจ้างในหน่วยสนับสนุนคือ เป็นพลเปล คนขับรถพยาบาล แม่บ้าน และอื่นๆ ยังไม่ได้รับเงินเพิ่มค่าปฏิบัติงานดังกล่าว จึงได้สอบถามไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี รวม 3 ครั้ง ได้รับคำตอบอยู่ระหว่างการตีความระเบียบข้อปฏิบัติ และทำหนังสือหารือไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่า พนักงานลูกจ้างเหล่านี้เข้าหลักเกณฑ์ได้รับเงินเพิ่มดังกล่าวด้วยหรือไม่กระทั่งมีพนักงานลูกจ้างบางรายได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่า ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2560 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีหนังสือตอบกลับมายังจังหวัดและลูกจ้างที่ร้องเรียนว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้คำสั่งให้ชะลอการจ่ายเงินเพิ่มดังกล่าวแก่พนักงานลูกจ้างแต่อย่างใด จึงให้ชี้แจงผู้ร้องเรียนและดำเนินการเบิกจ่ายเงินนี้แก่ลูกจ้างตามสิทธิด้วยแต่จนถึงปัจจุบันกลุ่มลูกจ้างเหล่านี้ ที่มีอยู่จำนวนหลายพันคนกระจายอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ก็ยังไม่ได้รับเงินเพิ่มดังกล่าว จึงรวมตัวมาร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาสั่งให้มีการจ่ายเงินให้กับกลุ่มพนักงานลูกจ้างเหล่านี้ด้วยต่อนายอดิศักดิ์ ชามาตย์ หัวหน้างานตรวจสอบภายในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางมาพบกับกลุ่มพนักงานลูกจ้างที่ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมชี้แจ้งว่า เบื้องต้นต้องตีความคำสั่งสามารถจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่กลุ่มใดได้บ้าง แต่หลังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีหนังสั่งการให้สามารถเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าวแก่พนักงานลูกจ้างได้จึงมีหนังสือลงวันที่ 24ต.ค.แจ้งไปยังโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งให้ดำเนินการจ่ายเงินค่าตอบแทนย้อนหลังให้แก่กลุ่มพนักงานลูกจ้างในกลุ่มที่ 5 ซึ่งยังไม่ได้รับเงินตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุข มีหนังสือสั่งการเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ให้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างตามสิทธิแล้วเมื่อพนักงานลูกจ้างยังไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่มดังกล่าว จะได้นำข้อร้องเรียนแจ้งให้นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือสั่งการย้ำไปตามโรงพยาบาลทุกแห่งให้ทำการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าวให้กับลูกจ้างที่ยังไม่ได้รับให้เสร็จภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้กลุ่มผู้ร้องเรียนพอใจพากันแยกย้ายกันเดินทางกลับไปทำงานตามปกติต่อไปนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมการลงทุนครบวงจร (SET in the City 2017) ครั้งที่ 13 โดยกล่าวว่ากระทรวงการคลังมีแนวคิดจะดึงตลาดทุน เช่นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเข้ามาร่วมในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ในเฟส 2 ซึ่งเป็นการบ้านที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2560 โดยต้องการให้ตลาดทุนเข้ามายกระดับผู้มีรายได้น้อยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควบคู่กับการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาให้ผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนเทียบเท่ากับนักลงทุนทั่วไป และ ผู้บริหารต่าง ๆ ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ( บลจ.) ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับผู้มีรายได้น้อยด้วย ซึ่งได้ฝากการบ้านไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯให้คิดรูปแบบนายสมชัย ยังกล่าวถึงการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช.ว่าขณะนี้มีผู้สมัครน้อยมากเพียง 500000 คน จากเป้าหมาย 18 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นความล้มเหลว ดังนั้นต้องปรับแผนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ต้องเข้มข้นมากกว่านี้ และให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งคลังจังหวัดลงพื้นที่ และให้บริการรับฝากเงินเข้ากองทุน อำนวยความสะดวกให้สมาชิกที่ไม่สามารถเดินทางมาฝากเงินที่ธนาคารทั้ง 4 แห่งนอกจากนี้จะเร่งดึงนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการออมให้เข้ามาเป็นสมาชิก เพราะปัจจุบันมีสัดส่วนต่ำกว่าร้อยละ 5 จากเป้าหมายที่ต้องการให้นักเรียน นักศึกษาทุกคนเข้าร่วม แต่เนื่องจากนักเรียน นักศึกษา ไม่มีรายได้ จึงจะเสนอโครงการแปลงขยะให้เป็นเงิน โครงการส่งเสริม การปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ทำงาน และ มีรายได้ นำเงินเข้าสู่การออมนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าแนวโน้มองตลาดหุ้นไทยปีหน้ายังเติบโตต่อเนื่องตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจ อีกทั้งยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมมาช่วยด้านการลงทุนที่สะดวกรวดเร็วและมีข้อมูลวิเคราะห์การลงทุนได้แม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวม หรือ มาร์เก็ตแคปของตลาดหลักทรัพย์ไทย เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 17.5 ล้านล้านบาท และ ปีหน้าคาดว่าจะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนใหม่ หรือ ไอพีโอจำนวน 30 บริษัท มูลค่าตลาดรวม 400000 ล้านบาท ขณะที่จำนวนผู้ลงทุนที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นผ่านระบบออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนสูงถึง 1.8ล้านบัญชี หรือร้อยละ 87 จากจำนวนบัญชีซื้อขายหุ้นทั้งสิ้น 2.1 ล้านบัญชี ส่วนบัญชีกองทุนรวม 5 ล้านบัญชี และ บัญชีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 3 ล้านบัญชีนายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในปี 2560 สถิตินายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และผู้เกี่ยวข้องในระบบประกันสังคม ที่ยื่นเรื่องร้องเรียน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2559-30 ก.ย.ที่ผ่านมา เข้าสู่ระบบสำนักงานประกันสังคมจำนวน 6533 เรื่อง เจ้าหน้าที่ สปส. สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาเสร็จภายใน 25 วันทำการ จำนวน 6039 เรื่อง คิดเป็น 92.44%จากจำนวนเรื่องร้องเรียนทั้งหมดส่วนที่เหลือได้ทยอยแก้ปัญหาได้ลุล่วงไปตามลำดับ โดย สปส.ได้วางระบบปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องให้ผู้ร้องได้รับสิทธิอันพึงมีพึงได้อย่างด่วนภายใน 7 วัน แต่หากเป็นเรื่องที่ซับซ้อนให้ดำเนินการตอบกลับภายใน 25 วันนายสุรเดช กล่าวต่อว่า ประเภทเรื่องที่มีการร้องเรียน หรือแจ้งปัญหาอุปสรรคในการรับบริการสูงที่สุด 6 อันดับแรก ได้แก่ 1.ร้องเรียนสถานประกอบการ 3212 เรื่อง คิดเป็น 49.17% 2.ร้องเรียนการให้บริการของเจ้าหน้าที่ และระบบของสำนักงานประกันสังคม 1152 เรื่อง คิดเป็น 17.63% 3.ร้องเรียนสถานพยาบาลที่เป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม 1070 เรื่อง คิดเป็น 16.38% 4.การขอรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคม 939 เรื่อง คิดเป็น 14.37% 5.ปัญหาอื่น ๆ เช่น มิจฉาชีพแอบอ้างใช้สิทธิแทนผู้ประกันตน การใช้สิทธิซ้ำซ้อน 30 เรื่อง หรือ 1.99% และ 6.การขอรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน 30 เรื่อง หรือ 0.46% จากเรื่องที่รับร้องเรียนทั้งหมดสำหรับประเด็นที่มีการร้องเรียนสถานพยาบาลส่วนใหญ่เป็นเรื่องการให้บริการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะการสื่อสารเรื่องข้อมูลการรับบริการ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าผู้ประกันตนร้องเรียนเรื่องคุณภาพมาตรฐานการรักษาพยาบาลและเรื่องค่าใช้จ่ายน้อยมาก เนื่องจาก สปส.มีระบบติดตามตรวจสอบคุณภาพการรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลคู่สัญญาจึงตระหนัก ในเรื่องนี้ อีกทั้งระบบประกันสังคมยังดูแลค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลเจ็บป่วยตั้งแต่ต้นจนกระทั่งสิ้นสุดการรักษาไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ประกันตนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การแจกซิมอินเตอร์เน็ตฟรี ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียน 11.67 ล้านคนในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน คลังมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ เพราะจะทำให้ผู้มีรายได้น้อย สามารถเข้าถึงข้อมูล ความรู้ การประกอบอาชีพต่างๆ ทั้งที่เป็นข้อมูลทั่วไป และข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพรัฐจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งหากผู้มีรายได้น้อยมีช่องทาง มีความรู้เพิ่มขึ้น สามารถประกอบอาชีพ พัฒนาฝีมือแรงงานได้ ในระยะยาวก็จะหลุดพ้นจากการเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลส่วนกรณีที่หากมีการแจกซิมอินเทอร์ เน็ต ฟรีให้กับผู้มีรายได้น้อย และพบว่ามีปัญหา เพราะผู้มีรายได้น้อยบางรายไม่สามารถซื้อสมาร์ทโฟน หรือเครื่องมือที่จะใช้กับซิมได้ กระทรวงการคลัง จะต้องมีการแจกสมาร์ทโฟน พ่วงซิมอินเทอร์ เน็ตฟรี ด้วยหรือไม่ รมว.คลัง กล่าวว่า จะต้องดูอีกที แต่เบื้องต้นซิมอินเตอร์ เน็ต จะมีการจ่ายค่ารายเดือนให้ด้วย โดยจะให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เข้ามาร่วมโครงการ เนื่องจากคงไม่สามารถไปทำสัญญากับบริษัท เอไอเอส ดีแทค หรือ ทรูมูฟ ได้ เพราะจะถูกมองว่าเป็นการไปเอื้อให้เอกชนอีกนายอภิศักดิ์ กล่าวว่ามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรคนจนในระยะแรก เช่น การช่วยค่าครองชีพรายละ 200-300 บาท การอุดหนุนค่าเดินทาง เป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนมีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี ซึ่งแต่ละคนจะรับการช่วยเหลือไม่เหมือนกัน ค่าใช้จ่ายในบางรายการหากมีความจำเป็นต้องใช้ก็ใช้ได้ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ รัฐบาลไม่ได้บังคับให้ใช้ทั้งหมด แต่ในระยะที่สองจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มดังกล่าวหลุดพ้นจากเส้นความยากจน ซึ่งก็ต้องมีงาน มีการให้ความรู้ รัฐบาลจะต้องช่วยให้คนกลุ่มนี้หางานได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแจกซิมอินเทอร์เน็ตอาจจะมีการเสนอพร้อมมาตรการแพ็กเกจช่วยเหลือ ผู้มีรายได้น้อยให้ฝึกอาชีพที่จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในเดือน ธ.ค.นี้ โดยเบื้องต้นยังไม่มีการสรุปงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินงาน เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษารายละเอียดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมดอกแก้ว ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ได้มีการประชุมพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานตัดอ้อยฤดูกาลผลิตปี 2559 ครั้งที่ 6 /2560 เพื่อรองรับฤดูการตัดอ้อยปี 2560/61 ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน และมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสิทธิศักดิ์ ธารนัย แรงงานจังหวัด นายวสันต์ ปาลาศ จัดหางานจังหวัด เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังบูรพา มณฑลทหารบกที่ 19 กอ.รมน.สระแก้ว ตำรวจตระเวนชายแดน หัวหน้าสถานีตำรวจและตัวแทนทั้ง 9 อำเภอ บริษัทเอกชน นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 40 คนทั้งนี้ ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้แต่ละหน่วยงานนำเสนอข้อมูลการปฏิบัติงานในปี 2559 ซึ่งพบว่า ประสบปัญหาการนำเข้าแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาในทางปฏิบัติชัดเจน เนื่องจากทางราชการตั้งเป้าว่า จะต้องนำแรงงานเข้าสู่ระบบที่หน่วยงานราชการกำหนดให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์คือ แรงงานมีบอร์ดเดอร์พาสตามกฎหมายและเข้ามาทำงานชั่วคราวได้เพียง 3 เดือน แต่สามารถนำแรงงานเข้าสู่ระบบได้เพียง 3177 คน จากจำนวนตัวเลขที่สมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพาแจ้งว่า มีการใช้แรงงานจริง 17013 คน หรือคิดเป็น 18.67 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้มีการถกเถียงถึงขั้นตอนและวิธีการเพื่อให้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา มาเพื่อตัดอ้อยในฤดูกาลนี้ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.60 นั้นไม่เกิดปัญหาอีก โดยหน่วยทหารและหน่วยความมั่นคงเป็นห่วงในขั้นตอนการอนุโลมฯ จะส่งผลให้มีแรงงานที่ยังไม่เข้าสู่ระบบเล็ดลอดเข้าสู่ตลาดแรงงานชั้นใน ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศนายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา กล่าวว่า ขั้นตอนการปกติที่ผ่านมา ซึ่งมีการอนุโลมให้ชาวไร่อ้อยที่ต้องการใช้แรงงานกัมพูชาตัดอ้อยในแต่ละปี จะต้องไปขึ้นทะเบียนที่สมาคมฯและติดต่อนำแรงงานเข้ามาเพื่อทำเอกสารที่สมาคมฯพร้อมนำไปพักไว้พักกับนายจ้าง รอขั้นตอนการส่งเอกสารไปยังด่าน ตม.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนนำแรงงานกลับไปผ่านแดนตามขั้นตอน และเข้าสู่กระบวนการขอโควต้าจากจัดหางานจังหวัดและตรวจโรคตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ส่งผลให้เกิดการแออัดอย่างมาก ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ เพราะแต่ละปีต้องใช้แรงงานมากถึง 20000 คน ซึ่งปีที่แล้วมีตัวเลข 17013 คน ไม่รวมผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานอีก 5713 คน หากสามารถเปิดด่านผ่านแดนถาวรแห่งที่ 2 บ้านเขาดินได้ทันเวลา ก็จะลดขั้นตอนและเวลาดำเนินการได้รวดเร็วขึ้นนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัดรายงานว่า มีพื้นที่เพาะปลูกปี 60/61 เพียง 371964 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 2.51 ล้านตัน มีเกษตรกร 66579 ครัวเรือน ขณะที่โรงงานมีการหีบอ้อย 3.46 ล้านตัน จากเนื้อที่ 370000 กว่าไร่ คาดว่า ปีนี้จะมีอ้อยมากถึง 4 ล้านกว่าตัน และผลการดำเนินการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวก็ไม่มีปัญหา มีแรงงานหลบหนีเล็กน้อย แต่มีปัญหาอยู่ที่การนำเข้าแรงงานเพื่อเข้าสู่ระบบได้ไม่ถึงร้อยละ 50 ประกอบกับปี 2651 พรก.แรงงานต่างด้าว จะมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.60 ดังนั้น ปีนี้ที่ประชุมจึงเห็นด้วยที่จะไม่มีการอนุโลมต่อไป และสามารถปรับวิธีการปฏิบัติที่ต้องใช้เวลา 7-10 วันให้สั้นลงได้หรือไม่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า สรุปว่าทางสมาคมเกษตรกรฯ ยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมาย จึงได้เสนอแนะเพื่อขอให้มีการพูดคุยกับทางกัมพูชาเพื่อหารือในประเด็นการอนุญาตเข้ามาทำงานร่วมกันอีกครั้ง หลังจากนั้นทางหน่วยงานราชการไทยจะมาร่วมกันบูรณาการเพื่อให้กระบวนการสั้นลง หากสามารถดำเนินการได้แบบวันสต๊อปเซอวิส โดยขอความร่วมมือส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถดำเนินการวันเดียวได้แบบจบกระบวนการต่อไป ทั้งนี้ ได้กำชับว่า จะต้องไม่มีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์และใช้แรงงานเด็กแฝงมากับการใช้แรงงานตัดอ้อย พร้อมทั้งเตรียมนัดพิจารณาร่วมกันกรณีนี้อีกครั้งในวันที่ 21 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม จัดหางานจังหวัดได้รายงานตัวเลขปัจจุบันว่า มีการนำแรงงานกัมพูชาเข้ามาในกิจการเกษตรทุกประเภทในปัจจุบันแล้ว จำนวน 14000 คนน.ส.แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการเว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) รายงานสถานการณ์ความต้องการแรงงานในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 3535 อัตรา โดย 5 อันดับ นิคมอุตสาหกรรมที่มีการเปิดรับสมัครงานมากที่สุด ได้แก่ 1.นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร มีจำนวนงานที่เปิดรับ 1974 อัตรา คิดเป็น 55.84% นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง มีจำนวนงานที่เปิดรับ 297 อัตรา คิดเป็น 8.4% นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 1) มีจำนวนงานที่เปิดรับ 249 อัตรา คิดเป็น 7.04% นิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ (ศรีราชา) มีจำนวนงานที่เปิดรับ 231 อัตรา คิดเป็น 6.53% นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 2) มีจำนวนงานที่เปิดรับ 194 อัตรา คิดเป็น 5.49%อย่างไรก็ตาม พื้นที่จังหวัดชลบุรีนอกจากจะโดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นฐานที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมและฐานการผลิตที่สำคัญหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ฯลฯ ประกอบกับทำเลที่ตั้งมีความได้เปรียบเนื่องจากถูกเชื่อมโยงด้วยโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งที่สะดวก เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง แหล่งขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศที่สำคัญของประเทศไทย อีกทั้งจังหวัดชลบุรี รวมถึงจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดระยอง เป็นพื้นที่บนแผนการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) หรือ EEC ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวมถึงความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากวันที่ 11 พ.ย. 2560 เวลา 13.45 น. คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) มีการเสวนาโครงการติดตามเศรษฐกิจไทยครั้งที่ 12 (Thammasat Economic Focus-TEF12) หัวข้อ เเรงงานต่างด้าว ช่วยจริงหรือวุ่นวาย ที่ห้อง 101 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)นายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธานสภาอุตสาหกรรมเเห่งประเทศไทย มองว่า สถานการณ์เเรงงานต่างด้าวในปัจจุบันสิ่งที่เป็นปัญหาไม่ใช่เรื่องของจำนวน เเต่เป็นเรื่องของภาคเเรงงาน โดยเฉพาะเเรงงานประเทศไทย ขณะนี้เรามีเเรงงานต่างด้าวในประเทศไทยกว่า 3750000 คน เเละยังมีเเรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้สำรวจอีกกว่า 6-7 เเสนคน โดยเเรงงานไทยในปัจจุบันไม่ทำงานประเภทเสี่ยงอันตราย สกปรก เช่น ประมง จำเป็นต้องใช้เเรงงานต่างด้าวเข้ามาทำจำนวนสูงมากในส่วนของภาคเอกชน หากถามว่าเราต้องการใช้เเรงงานต่างด้าวหรือไม่ จริงเเล้วไม่มีใครอยากใช้เเรงงานต่างด้าว เเรงงานต่างด้าวที่ทำงานเปิดเผยเข้ามาอย่างถูกกฎหมายจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียน เฉลี่ยคนละเกือบ 2 หมื่นบาท การที่มีคนบอกว่าใช้เเรงงานต่างด้าวเเล้วต้นทุนถูกลงนั้น ไม่เป็นความจริง เเต่ด้วยความจำเป็นก็ต้องใช้เพราะเเรงงานไทยไม่ทำ นายสุชาติกล่าวสำหรับการเปิดกว้างให้มีการใช้เเรงงานต่างด้าวมากขึ้นหรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เเรงงานมากก็ต้องใช้ หากกฎหมายไม่สามารถอำนวยความสะดวกในการนำเข้าเเรงงานต่างด้าวเมื่อไร ก็จะมีปัญหาการลักลอบนำเเรงงานต่างด้าวเข้ามาด้านผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้อำนวยการสถาบันเสริมศึกษาเเละทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การเปรียบเทียบปัญหาเเรงงานต่างด้าวก็เหมือนกับ ขนมชั้น เพราะมีประเภทของเเรงงานต่างด้าวหลายรูปแบบ หากไปถามเจ้าหน้าที่บางครั้งก็ยังตอบไม่ได้ นั่นทำให้การตรวจสอบเเละการออกมาตรการ one size fit all มีปัญหา โดยข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเเรงงานต่างด้าว (ก.ย.2560) โดยกรมการจัดหางาน พบว่า เเรงงานประเภททั่วไปมีทั้งสิ้น 103132 คน นำเข้าตาม MOU 500440 คน พิสูจน์สัญชาติ 1062829 คน ตามฤดูกาล 18646 คน ชนกลุ่มน้อย 58663 คน ส่งเสริมการลงทุน 45013 คน เเละยังมีเเบบผิดกฎหมายที่ยังไม่ทราบตัวเลขที่เเน่ชัดจำนวนเเรงงานต่างด้าวในประเทศไทยจำเเนกตามการเข้าประเทศ (กุมภาพันธ์ 2560) พบว่ามีเเรงงานต่างด้าวทั้งหมด 2711439 คน โดยมีเเรงงานกึ่งฝีมือ/ฝีมือ รวม 149721 คน เเละเเรงงานฝีมือต่ำ/ไร้ฝีมือจำนวน 2561718 คน ทั้งนี้เเนวโน้มสถานการณ์เเรงงานต่างด้าว (เมียนมา ลาว กัมพูชา) ตั้งเเต่ปี 2540-2560 เเม้จะมีตัวเลขที่ขึ้นๆลงๆ เพราะความไม่เเน่นอนของนโยบายไทย เเต่อัตราการจ้างเเรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นตลอดผศ.ดร.ศุภชัย กล่าวต่อว่า เเรงงานต่างด้าวจะทำให้ประเทศไทยมีทางเลือกในการใช้ทรัพยากรมนุษย์ บรรเทาผลกระทบของสังคมผู้สูงอายุ เเละปัญหาการเลือกงานของคนไทย ทั้งนี้เกิดคำถามที่ว่าเเรงงานต่างด้าวเเย่งอาชีพคนไทย อาทิ งานบางอย่างอาจอันตราย สกปรก คนในอเมริกาทำเนื่องจากมีค่าตอบเเทนที่สูง เเต่ในเมืองไทยไม่ได้เกิดเเบบนั้นงานบางงานคนไทยไม่ทำ ถูกตีค่าว่าเป็นงานราคาถูก มีทัศนคติว่าต้องใช้ต่างด้าวทำ เเต่การทำเเบบนั้นคือการเอาต่างด้าวราคาถูกมาทำงานนั่นเองนักวิชาการเศรษฐศาสตร์กล่าวเขากล่าวต่อว่า ในส่วนของต้นทุน ทั้งทางตรงเเละทางอ้อม ภาพธุรกิจอาจะใช้เเรงงานที่ถูกลงจากการมีเเรงงานต่างด้าว เราชอบพูดกันว่า เเรงงานต่างด้าวมาใช้สวัสดิการของบ้านเรา ถามว่าจริงไหม มันคือความจริง เเต่เขาต้องจ่ายภาษีเช่นเดียวกับเเรงงานไทย เเต่ไม่ได้อยู่ในรูปของภาษีเงินได้นิติบุคคลส่วนการเข้ามาทำงานเเบบถูกกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเเรงงาน นายจ้างจะต้องพาเขาไปเข้าสู่ระบบประกันสังคม เเต่จะถูกหักเงินเดือนเข้าประกันสังคม ซึ่งทำให้เเรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับคนงานไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ การเสียชีวิต การรักษาพยาบาล เเต่เขาก็มีบางข้อที่ไม่ได้รับ เช่น ชราภาพ ที่ระบุว่าเมื่อทำงานจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์กรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ตั้งเเต่ 23 มิ.ย. 2560 นั้น ผศ.ดร.ศุภชัย มองว่า สาระสำคัญของพรก.นี้คือการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเป็นไปอย่างมีระบบ เเละมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดหลักเกณฑ์การนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศเเละการทำงานของคนต่างด้าว ซึ่งผลกระทบเชิงสังคมด้านบวกคือ เเสดงให้เห็นถึงการเเก้ปัญหาการค้ามนุษย์เเละการป้องปรามการค้ามนุษ์ที่เป็นธรรมมากขึ้น การรวมกฎหมายดังกล่าวยังทำให้เกิดการบูรณาการเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้านลบคือ ขาดการประเมินผลกระทบ รวมถึงการสื่อสารที่ไม่เป็นเอกภาพ ส่งผลต่อการตืนตระหนกของนายจ้างเเละเเรงงานผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น หากเกิดผลกระทบขึ้นจริงๆ กิจกรรมทางเศรษฐกิจน่าจะชะงักไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประเมินว่าจะไม่กระทบต่อภาคการเกษตรมากนัก เพราะเชื่อว่าเหตุการ์ดังกล่าวจะอยู่เพียงระยะสั้นเท่านั้น เมื่อเเรงงานต่างด้าวกลับไปทำเอกสารที่ประเทศตนเรียบร้อยก็น่าจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยอย่างปกติผศ.ดร.ศุภชัยกล่าว และว่า ความล่าช้าของระบบการขออนุญาต ที่พอนายจ้างพาเเรงงานต่างด้าวไปขึ้นทะเบียนต้องใช้เวลา จึงควรลดเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนลงขณะที่ รศ.ดร.ยงยุทธ เเฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาเเรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์เเละการเปลี่ยนเเปลงที่สำคัญในปัจจุบันคือ โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนเเปลงไป มีผู้สูงอายุมากขึ้น วัยเเรงงานลดลง ทำให้ขาดเเคลนเเรงงานในประเทศ เเต่เศรษฐกิจยังใช้เเรงงานเป็นหลัก โดยเฉพาะเเรงงานที่ทักษะน้อย ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีการกล่าวในเรื่องเเรงงานไทยไม่ทำงาน 3D คืองานสกปรก (Dirty) งานอันตราย (Dangerous) เเละงานเเสนลำบาก (Difficult) ส่งผลให้เเรงงานต่างด้าวเข้ามาทดเเทนเเรงงานไทยเพิ่มขึ้น ทั้งที่ถูกกฎหมายเเละผิดกฎหมาย เพราะพวกเขายอมทำงานเหล่านี้รศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ในอดีตจะเห็นปัญหาการกำกับดูเเลเเรงงานต่างด้าวไม่สามารถเเก้ปัญหาได้ดีเท่าที่ควร เนื่องจากงบประมาณที่จำกัดเเละไม่มีอำนาจในการตัดสินใจนโยบายที่เเท้จริง มีความล้มเหลวในเรื่องระบบการลงทะเบียนเมื่อปี 2554 อีกทั้งความไม่ต่อเนื่องของนโยบายการรับลงทะเบียน ความไม่เเน่นอน วิธีเเละเอกสารที่ไม่เเน่ชัด ขาดการบังคับใช้ที่จริงจัง ทำให้เกิดการทุจริตในที่สุดรศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวถึง พ.ร.ก.การการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ว่า พ.ร.ก. ดังกล่าวมีทั้งข้อดีเเละข้อเสีย ข้อดีคือจะมีระบบนายจ้างมีสัญญาต่อลูกจ้าง หากลูกจ้างเปลี่ยนนายจ้างต้องทำเรื่องภายใน 5 วัน ถือเป็นการหยุดการจ้างงานเเบบผิดกฎหมาย รวมถึงการค้ามนุษย์เเรงงาน ส่วนเเผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเเรงงานต่างด้าว พ.ศ.2560-2564 นั้นจะต้องจัดหาเเรงงานต่างด้าวให้เพียงพอต่อความต้องการทางด้านเศรษฐกิจ ลดจำนวนเเรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย เพื่อลดผลกระทบทางลบต่อคนไทย พัฒนาให้เกิดการคุ้มครองเเรงงานต่างด้าวให้ได้มาตรฐานสากล จัดให้มีองค์กรหรือหน่วยงาน เพื่อการบริหารจัดการเเรงงานต่างด้าวที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงดำเนินการติดตามเเละประมวลผลการปฏิบัติงานทั้งระบบให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด นำไปสู่การรับรองอนุสัญญาองค์การเเรงงานระหว่างประเทศกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ถูกนายจ้างในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยกเลิกสัญญาจ้างงานและถูกส่งตัวกลับประเทศ เข้ามอบหลักฐาน และให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. เกี่ยวกับพฤติกรรมของบริษัทนายหน้าจัดหางาน ที่ข่มขู่ให้กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ยินยอมลงลายมือชื่อยกเลิกสัญญาจ้าง แลกกับการคืนหนังสือเดินทางที่ยึดไว้เป็นประกัน ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกง และค้ามนุษย์ โดยหนึ่งในหลักฐานที่นำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ เป็นคลิปวิดีโอการโฆษณาชวนเชื่อของนายหน้าบริษัทจัดหางาน ที่อ้างว่าแรงงานที่ไปทำงานจะได้ค่าจ้างอัตราสูง พร้อมที่พักและอาหารพลตำรวจตรีอิทธิพล อิทธิสารรณชัย รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการ สตม. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รับหลักฐานไว้ตรวจสอบ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความผิดในฐานต่างๆ เพื่อส่งเรื่องให้ไปทำการสืบสวนสอบสวนต่อ นอกจากนี้ จะตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เนื่องจากพบว่า บางรายเดินทางออกไปหลายครั้ง และอาจเป็นการยินยอมไปทำงาน ทั้งๆ ที่รู้ว่าอาจถูกหลอกลวง ซึ่งในเบื้องต้น จะดำเนินการในส่วนของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงไปจริงๆ ก่อน ส่วนกลุ่มที่ไปโดยสมัครใจ จะดำเนินการเป็นลำดับถัดไปสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรให้แก่ผู้ประกันตน จากเดิม 400 บาท เป็น 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ที่อายุไม่เกิน 6 ปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ สำนักงานประกันสังคม ประกาศใช้อัตราเงินสงเคราะห์บุตรในอัตรา 400 บาทต่อเดือน มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นมา โดยไม่มีการปรับเงินเพิ่มมานานหลายปี ปัจจุบันมีผู้ประกันตนรับเงินสงเคราะห์บุตรเฉลี่ย 1324848 คนต่อเดือน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2560) จ่ายเงินปีละ 6 พันล้านบาทเศษ ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI พบว่า จำนวนบุตรของผู้ประกันตนมีอัตราการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านอาหารของเด็กเล็กอยู่ที่ 579 – 812 บาทต่อเดือนสูงขึ้นเล็กน้อย หากปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรขึ้นเป็น 600 บาทต่อเดือน ในปี 2561 จะเป็นเงินประมาณการ จำนวน 3036 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบต่อเสถียรภาพกองทุนประกันสังคมและจะเป็นปริมาณเงินเพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจนายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ได้มีมติคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ครั้งที่ 18/2560 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร จากเดิม 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ปรับเพิ่มเป็น 600 บาท ต่อบุตรหนึ่งคน อายุไม่เกิน 6 ปีสำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการของผู้ประกันตนที่จะได้รับสิทธิกรณีสงเคราะห์บุตร ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 โดยจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน และต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น ซึ่งบุตรมีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์ 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ของกฎหมายยังเป็นอุปสรรคอยู่บ้างในบางกรณี เช่น ผู้ประกันตนเมื่อออกจากงานสิทธิสงเคราะห์บุตรจะขาดไป ทั้งที่การออกจากงานเพราะถูกเลิกจ้างเป็นความเดือดร้อนและบุตรก็ยังมีค่าใช้จ่าย ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งดำเนินการก่อนประกาศใช้ต่อไปนอกจากนี้ คณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ยังได้มีมติให้สำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้เสร็จสิ้น และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2561 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ประกันตนในปี 2561 จะเห็นได้ว่า การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร มีความสอดคล้องกับผลการศึกษาด้านอาหารเด็กเล็กที่มีอัตราสูงขึ้นและสอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมของประเทศอย่างยั่งยืน
คดีล้าตัวฆาตกรโฟด,จากกรณีพบซพชายไม่ทราบช่่อและสัญชาติ อายุระไวีาว 30-40 ปี ถูกตัดศีรษะและแขนทั้ง 2 ข้างขทดหายไป ซึ่งศพดังกล่าวลอยมาตามสายน้ำแม่น้ำแควน้อย และมีชางบ้านล่องเรือไปพบเห็น จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสดบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้ นายขวัญชัย ถิรถศิลป์ กรรมการบริหารมูลนอธิกู้ภียกาญจนบุรี นำศพไปชันสูตรที่สุ่บึนนิติเวชวิทยา สำนักงมนตำรวจแห่งชาติ ิมืทอวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา จากเฟตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ความสำคัญต่อคดีนี้เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็สการฆาตรกรรมที่โหดเหี้ยม,ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันืี่ 14 ส.ค.61 พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 สั่งการให้ ะล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สสฦภาค 7 นำกำลังเจิาหน้าที่ชุดสืบสวน ภาค 7 และเจ้ากน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่เพื่อร่วมคลี่คลายคดี โดยประสานงานร่งมกับ พฦต.อ.ธานี สงวนจีา ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วิษณุ ทวีแสง รอง.หกก.สส.มภ.ไทรโยค พ.ต.ท.สนธยา ฉายเกียรติ์ขจร สว.สส.สภ.ไทรโยค ร.ต.อ.สาโรช สุดมี รอง สว.สส.สภ.หทรโยค พร้อมกำลังเน้าหน้าที่ตำรบจชุดสืบสวน สถ.ไทรโยค ร่วมประชุมวางแผนในการติดตสมติดตามหาหลักฐานรวมทั้งหาเบาถแสมห้ทราบโดยเร็วบ่าผู้เวียชีวิตนั้นเป็นใครแลดเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้ดร็วที่สุด,ต่อจากนั้น ชุดสืบสวนทั้วหมดร่วมได้แบ่งกำลังออกเป็นสามชุด ชถดแรกลงพื้นทีีล่แงเรือไผคาใลำน้ำแควน้อข จากจุดดบศพขึ้นไปทางอำเภอทองผาภูมิ เะื่อสอบถามหาข้อมูลขิงผู้เสียชีวิตจากประชาชนและหู้ประกอบการชาวแพ ทีทอยู่ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำ จณะนี้เจ้าไร้นที่ ล่องเรือไปถึงแพพักชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ในท้องที่ หมู่ 8 ต.ทราิสา อ.หทรโยค ที่ฟ่าฝออกไปกว่า 10 กิโลเมตร,ส่วนกำลังชุดที่สองลงพื้นที่ตามแลุรมเป้รหมายตามชุมชนที่มีแรงงานร่างด้าวอาศัยอยู่ และสืบสวนฟาเบาะดสจากผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ที่อยู่เหนือจุดพบศพขึ้นไป แค่ยังไม่พบเบาะอสและข้อมูลของผู้เสียชัวิตเช่ยกัน,ต่แมาเวลา 14.0p นฦ พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.6 ได้ลงพื้นืี่ บ้านแก่งจอ หมู่ 4 ตฐไทรฉยค เนื่องจากชุดสืบสวนสืยทราบว่า พบะบาะแสร่องรอยของการจ่อสู้ในดื้ตที่บ้านแก่งจอ เจ้าหน้าท้่ทุกฝ่ายจึงาุ่งหน้า/ปที่จุดต้องสบสัยดังกล่าว สีวนกำลังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือ กำลังขึ้นฝั่งเภื่อเดินทางโดยรถยนตฺไปสมทบ,โดยเมื่อเจ้าหน้าทีทลงพื้ตที่ถึงจุดติองสงสัยส่าเป็นจึดเกิดเหตุ ตำรวจภูธรสืบสวน สภ.ไทรโยค ชุดสืบสวนภููรจังพวัดกาญจนบุรี และชุดสืบสวนตำควจถูธรภาึ 7 ไดเกคะจายกำลังลงพื้นที่เข้ามอบสวนคนงานชาวพม่า ในพื้นที่บ้าตแก่งจอ ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีเหตุทะเลาถกัน ในพื้นทีรบ้านแก่งจอ คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับ กรณีพบศพชายนิรนาม ถูกปาดคอและมือ ลอยน้ำไปตามแม่น้ำแควน้อย.จาพการสอบสวน เถื่อนบ้านยืนยันว่าศพที่พบคือ นาย สุไข่ )ไม่มันาใสดุล) ชางทวาย เมียนมาเพรสะมีรอยสักรูปหนุมาน โดยบอกว่าเห็นนายสุไข่ ครั้งล่าสุดเมื่อเย็นวันศุกร์ ที่ผ่านมา แต่ก็ไา่ได้เอะใจ เพราะตัวเองก็ออกไปทำงานทุปวัน จึงไม่ได้สังเกตุ แค่มีเพื่อนบ้านอีกคนไปพบรอยคราบเลือดอยู่ในล้านพักครงาน ด้านล่างติดกับแม่น้ำแควนิอย,โกยบ้านพักหลังนี้ มีนายสุไข่ แงะนายสุนัย ซึ่งเป็นพี่ชายขอวภรรยานายสุไข่ อาศัยอยู่ด้ใยกัน แค่ 2 คน และตอนนี้สายใถนัยก็หายตัวไป จึงเป็นผู้ต้องสงสัยคนเดียวในขณะนี้ โดจเพื่อนบ้านคาดว่าทัิงสองคนอาจทะเลาะวิวาทกัน.จากการตรวจสอบำานในบ้านพักที่เกิดเหตุพบคราบเลือดที่จอบ และผนัง แต่พื้นมีรอยการเทปูนปิดทับีอยเลือดด้วย รวมถึงเห็นเศษผ้าถุงลายเดียวกันกเบผ้าถุลที่มัดเอวผู้ตาย ตำรวจพิสูตน?หลักฐานไดืเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วฐนอกจากนี้ยังพบลูกมมวของผูิตายชื่ิ นาวสาวโอ อายุ 16 ปี ปกติอาศัยอยู่กับดม่จึง_มรทคาบีวามเคลื่อจไหวของพ่อ จึงเพิ่งจะ่ราบว่าพ่อเสียชีวิตจากตำรวจ และเป็นคจยืนยันว่าศพผู้ตายคือนายสุไข่ทีรมีรดยสักที่แขนซ้าย,โดยเจ้มหน้าที่ได้นำตัวผู้ที่คาดว่าจะเกี่ยวบ้องกับกาตายในครั้งนี้คือ 1.นายขาว (ไม่มีนามสกุล) หัวหน้าคนงาน ที่เป็นคนย้่งให้คนงานล้างคราบเล่อดและสั่งทิ้งสิ่งยองเครื่แงใช้ผ้าห่มเึรื่องครัวลงแท่น้ำแควน้อย ปละเป็นคนโยนนิืวมือที่ขาดและอนู่ในที้เกิดเหตุทิ้งลงแม่น้ำเช่นกัน 2.นางรินลี่ ( ไม่มีนามสกัล) อายุ 28 ปี และ 3.นายภูเว ( ไม่มรนามสกุล) อสยุ 31 ปี คนงานสองใามีภรรยา ที่นายขาวสั่งให้ราวมล้างคราบเลือดท_ความสะอาดทั่เกิดเหตึ โดยทั่วสามคสถูกนำตัวมาอยกสอบปาแคำทีา สภ.ไทรโยค,อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังกระจายกำลัฝลงพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตามตัวนายสุนัยมาสอบสวาด้วย.
คดีล่าตัวฆาตกรโหด,จากกรณีพบศพชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ อายุระหว่าง 30-40 ปี ถูกตัดศีรษะและแขนทั้ง 2 ข้างขาดหายไป ซึ่งศพดังกล่าวลอยมาตามสายน้ำแม่น้ำแควน้อย และมีชาวบ้านล่องเรือไปพบเห็น จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้ นายขวัญชัย ถิระศิลป์ กรรมการบริหารมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี นำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ความสำคัญต่อคดีนี้เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการฆาตรกรรมที่โหดเหี้ยม,ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ส.ค.61 พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 สั่งการให้ พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภาค 7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภาค 7 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่เพื่อร่วมคลี่คลายคดี โดยประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วิษณุ ทวีแสง รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.สนธยา ฉายเกียรติ์ขจร สว.สส.สภ.ไทรโยค ร.ต.อ.สาโรช สุดมี รอง สว.สส.สภ.ไทรโยค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไทรโยค ร่วมประชุมวางแผนในการติดตามติดตามหาหลักฐานรวมทั้งหาเบาะแสให้ทราบโดยเร็วว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใครและเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด,ต่อจากนั้น ชุดสืบสวนทั้งหมดร่วมได้แบ่งกำลังออกเป็นสามชุด ชุดแรกลงพื้นที่ล่องเรือไปตามลำน้ำแควน้อย จากจุดพบศพขึ้นไปทางอำเภอทองผาภูมิ เพื่อสอบถามหาข้อมูลของผู้เสียชีวิตจากประชาชนและผู้ประกอบการชาวแพ ที่อยู่ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ล่องเรือไปถึงแพพักชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ในท้องที่ หมู่ 8 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ที่ห่างออกไปกว่า 10 กิโลเมตร,ส่วนกำลังชุดที่สองลงพื้นที่ตามกลุ่มเป้าหมายตามชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ และสืบสวนหาเบาะแสจากผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ที่อยู่เหนือจุดพบศพขึ้นไป แต่ยังไม่พบเบาะแสและข้อมูลของผู้เสียชีวิตเช่นกัน,ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.7 ได้ลงพื้นที่ บ้านแก่งจอ หมู่ 4 ต.ไทรโยค เนื่องจากชุดสืบสวนสืบทราบว่า พบเบาะแสร่องรอยของการต่อสู้ในพื้นที่บ้านแก่งจอ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงมุ่งหน้าไปที่จุดต้องสงสัยดังกล่าว ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือ กำลังขึ้นฝั่งเพื่อเดินทางโดยรถยนต์ไปสมทบ,โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ถึงจุดต้องสงสัยว่าเป็นจุดเกิดเหตุ ตำรวจภูธรสืบสวน สภ.ไทรโยค ชุดสืบสวนภูธรจังกวัดกาญจนบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้กระจายกำลังลงพื้นที่เข้าสอบสวนคนงานชาวพม่า ในพื้นที่บ้านแก่งจอ ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีเหตุทะเลาะกัน ในพื้นที่บ้านแก่งจอ คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับ กรณีพบศพชายนิรนาม ถูกปาดคอและมือ ลอยน้ำไปตามแม่น้ำแควน้อย,จากการสอบสวน เพื่อนบ้านยืนยันว่าศพที่พบคือ นาย สุไข่ (ไม่มีนามสกุล) ชาวทวาย เมียนมาเพราะมีรอยสักรูปหนุมาน โดยบอกว่าเห็นนายสุไข่ ครั้งล่าสุดเมื่อเย็นวันศุกร์ ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะตัวเองก็ออกไปทำงานทุกวัน จึงไม่ได้สังเกตุ แต่มีเพื่อนบ้านอีกคนไปพบรอยคราบเลือดอยู่ในบ้านพักคนงาน ด้านล่างติดกับแม่น้ำแควน้อย,โดยบ้านพักหลังนี้ มีนายสุไข่ และนายสุนัย ซึ่งเป็นพี่ชายของภรรยานายสุไข่ อาศัยอยู่ด้วยกัน แค่ 2 คน และตอนนี้นายสุนัยก็หายตัวไป จึงเป็นผู้ต้องสงสัยคนเดียวในขณะนี้ โดยเพื่อนบ้านคาดว่าทั้งสองคนอาจทะเลาะวิวาทกัน,จากการตรวจสอบภายในบ้านพักที่เกิดเหตุพบคราบเลือดที่จอบ และผนัง แต่พื้นมีรอยการเทปูนปิดทับรอยเลือดด้วย รวมถึงเห็นเศษผ้าถุงลายเดียวกันกับผ้าถุงที่มัดเอวผู้ตาย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว,นอกจากนี้ยังพบลูกสาวของผู้ตายชื่อ นางสาวโอ อายุ 16 ปี ปกติอาศัยอยู่กับแม่จึงไม่ทราบความเคลื่อนไหวของพ่อ จึงเพิ่งจะทราบว่าพ่อเสียชีวิตจากตำรวจ และเป็นคนยืนยันว่าศพผู้ตายคือนายสุไข่ที่มีรอยสักที่แขนซ้าย,โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับกาตายในครั้งนี้คือ 1.นายขาว (ไม่มีนามสกุล) หัวหน้าคนงาน ที่เป็นคนสั่งให้คนงานล้างคราบเลือดและสั่งทิ้งสิ่งของเครื่องใช้ผ้าห่มเครื่องครัวลงแม่น้ำแควน้อย และเป็นคนโยนนิ้วมือที่ขาดและอยู่ในที่เกิดเหตุทิ้งลงแม่น้ำเช่นกัน 2.นางรินลี่ ( ไม่มีนามสกุล) อายุ 28 ปี และ 3.นายภูเว ( ไม่มีนามสกุล) อายุ 31 ปี คนงานสองสามีภรรยา ที่นายขาวสั่งให้ราวมล้างคราบเลือดทำความสะอาดที่เกิดเหตุ โดยทั่วสามคนถูกนำตัวมาแยกสอบปากคำที่ สภ.ไทรโยค,อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังกระจายกำลังลงพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตามตัวนายสุนัยมาสอบสวนด้วย.
เรื่องการพัฒนาท่าเรือจ้ำลึกทวายไปยังบรืเวณท่าเรือที่จะสร้างก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการเดินทางแล้วแสดงว่าโอกาสที่จะัสร็จคงอีกนานมากยิ่งกว่านั้นถนนที่จะสร้างเชื่อมต่อมายัวบ้านพุน้ำร้อน ก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจากะบชนกลุ่มน้อยใช่ว่าจะแล้วเสร็จได้ในเร็ววันหากเทียบอนสคตของบ้านพุย้ำรีอนกับเมืดงชายแดนอื่ย ก็คงเทียบได้กับปอยเปดต แม่สาส หรือเบตง แต่ำ็คงไม่_ด้หวือหวาเช่นที่เราคาดหวังกันไวืดังนั้นการสุ่มสี่วุ้มห้าไปฃงทุนสาขณะนี้ อาจกลายเป็นความเสี่ขงเป็นอย่างยิ่งก็ได้บจก. ดอเจนซั่ ฟอรฺ เรัยลเอส้ตท แอฟแไร์ส หรือAREA ():เป็นองค์ำรที่มีฐานข้อทูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสน่มขนาดใหญ่ทีาสุดและประบปรุงมห้ทันสมัยที่สุดในปรพเทศไมย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537เป็นศูนย์ข้ดมูลที่มีความเป็นกลางทางฝิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีด โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ม่วนเสียใะ ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็นFirst-hqnd inforhationในเวลาเดียวกัน
เรื่องการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งสร้างความฮือฮาคึกคักให้กับการลงทุนในอสังหาริมทร้พย์ในจังหวัดกาญจนบุรีในระยะนี้ เป็นเรื่องน่ายินดี แต่พึงระวังในห้วงการบูมอาจมีหุบเหวที่พลาดพลั้งได้AREAจึงขอเสนอคติไทยว่าไม่เห็นน้ำอย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอกอย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้ตามศักยภาพของท่าเรือน้ำลึกทะวายที่จะเชื่อมต่อกับประเทศไทยทางบ้านพุน้ำร้อน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีนั้น นับว่ามีอยู่สูงมากแต่หลายอย่างยังไม่ได้เป็นจริงตามแผนได้นักลงทุนพึงให้ความระมัดระวังโดยลองพิจารณาข้อท้วงติงต่อไปนี้:1. โครงการสาธารณูปโภคที่ว่าจะดำเนินการ ก็ยังค่อนข้างล่าช้า โดยเฉพาะการตัดถนนจากบ้านพุน้ำร้อนถึงบางใหญ่ นนทบุรี ยังค่อนข้างเลือนรางล่าช้าโดยเฉพาะโครงการบางใหญ่-ราชบุรีนั้น วางแผนการดำเนินงานมาราว 30 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววแต่อย่างใด2. โครงการอีกโครงการหนึ่งก็คือการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างบ้านพุน้ำร้อน กับสถานีน้ำตกไทรโยค ซึ่งยังไม่มีเขตทางใด ๆ เพราะไม่มีการเวนคืน ดังนั้นจึงคงต้องใช้เวลาอีกนานในการเวนคืน ระบบรางของรถไฟอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ พร้อมกับการเชื่อมทางรถไฟของจีนสู่ประเทศต่าง ๆ ในอินโดจีน ซึ่งก็คงยิ่งทำให้ความล่าช้าเกิดขึ้นได้อีก3. กรณีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมในชายแดนไทย-พม่า ฝั่งไทยโดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีที่ดิน เพราะเป็นที่ดินราชพัสดุ ดูแลอยู่โดยทหาร ยังไม่รู้จะใช้ที่ดินบริเวณใด ที่สำคัญก็คืออาจตั้งไม่สำเร็จ เพราะหากต่างชาติจะตั้งโรงงาน ก็ตั้งฝั่งพม่าที่มีเงื่อนไขดีกว่า ค่าแรงถูกกว่า และลงทะเลส่งออกจากท่าเรือน้ำลึกทวาย คงจะสะดวกกว่าข้อพึงสังวรประการหนึ่งก็คือการคิดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตเมืองมุกดาหาร ซึ่งไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพราะฝั่งสะหวันเขต ก็มีนิคมอุตสาหกรรม และนักลงทุนต่างชาติไปลงทุนโดยหวังแรงงานราคาถูกจากลาวมากกว่ามาไทย4. กรณีราคาที่ดินที่พุ่งขึ้นสูงมากนั้น เกือบทั้งหมดเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายกว่าจะรวบรวมที่ดินได้และซื้อขายกันสำเร็จอาจจะเกิดนองเลือดเป็นอาชญากรรมฆ่ากันตายมากมายระหว่างผู้ครองครองที่ดิน นายหน้า และนักลงทุนก็เป็นไปได้กลายเป็นการทำลายบรรยากาศในการลงทุนทางอ้อมไปก็ได้5. การพัฒนาหลักน่าจะอยู่ฝั่งพม่า อันได้แก่ บ่อนการพนัน โรงแรม รีสอร์ต ศูนย์การค้าปลอดภาษีส่วนฝั่งไทยก็อาจเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับคนฝั่งพม่า โรงแรมสำหรับพนักงานขายสินค้า เป็นต้นดังนั้นโอกาสที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างขนานใหญ่บริเวณชายแดนจึงอาจไม่ได้มากเช่นที่คิด6. ในกรณีที่พม่ามีท่าเรือน้ำลึก และมีนิคมอุตสาหกรรมมากมายนั้น เมื่อผลิตสินค้าเสร็จ ก็คงลงเรือไปขายยังต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องผ่านมาส่งออกทางทะเลที่มาบตาพุดซึ่งต่อไปจะมีขนาดเทียบได้เพียงหนึ่งในสิบของขนาดอุตสาหกรรมในทวาย ยิ่งหากพิจารณาจากการขายฝันว่าอาจจะส่งสินค้าผ่านรถไฟหรือทางด่วนข้ามจากไทยไปฝั่งกัมพูชาและส่งออกทางท่าเรือหวุงเตาของเวียดนาม ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ถือเป็นฝันกลางวันโดยแท้เพราะไม่มีเหตุผลใดที่ต้องลำบากทำเช่นนั้นเลยสินค้าที่ผลิตเสร็จในนิคมอุตสาหกรรมทวายก็ควรลงเรือที่ท่าเรือน้ำลึกทวายสู่ทั่วโลกมากกว่าจะผ่านไทย7. อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมยังไม่ได้สร้างอย่างจริงจัง ระยะทางเพียงประมาณ 30 กิโลเมตรจากตัวเมืองทวายไปยังบริเวณท่าเรือที่จะสร้างก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการเดินทางแล้วแสดงว่าโอกาสที่จะเสร็จคงอีกนานมากยิ่งกว่านั้นถนนที่จะสร้างเชื่อมต่อมายังบ้านพุน้ำร้อน ก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับชนกลุ่มน้อยใช่ว่าจะแล้วเสร็จได้ในเร็ววันหากเทียบอนาคตของบ้านพุน้ำร้อนกับเมืองชายแดนอื่น ก็คงเทียบได้กับปอยเปดต แม่สาย หรือเบตง แต่ก็คงไม่ได้หวือหวาเช่นที่เราคาดหวังกันไว้ดังนั้นการสุ่มสี่สุ่มห้าไปลงทุนในขณะนี้ อาจกลายเป็นความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งก็ได้บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือAREA ():เป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็นFirst-hand informationในเวลาเดียวกัน
นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแลพสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า โดยช่วงที่ไหลผ่าน จ.นครปฐม ตั้ฝแต่ช่วง อ.บางเลน ถึง อ.สามพราน มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมฏทรม ส่บนใผญ่เกิดจากำารระบายมลพิษจากแหล่งกำเนิดป่ะัภทต่างๆ ได้แก่ ภาคชัมชน ภาคอุตสาหกรรส และภสคเกษตรกรรม.นางสุณีกล่าวต่อว่า คพ. และหน่ววงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับเครือข่ายภาคประชาขนเร่งจัดทำแผตปฏิบัติการเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในคลอฝสาขาลุ่มน้ำท่มจีน ปรพกอบด้วย 4 แผนงาน คือ แผนงานที่ 1 การป่ับปรุงสภาพภ฿มิทัศน๋ และเพิ่มการไหลเวียนของน้พ แผนงานที่ 2 กนรป่ับปรุงคุณภาพน้ำในคลอง แผรงานทีท 3 การเผยแพร่ความรู้และส่้ทงจิตสำนึกให้แก่ทุกภารส่วน และแผนงานที่ 4 การติดตามปคะเมินผล โดย คพ.จะกำหนดจัดอบรม อรื่อง สถายประกอบกสตรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์ท่าจีน ในวีนที่ 10 พฦค.นี้ ทึ่ฮรงแรมไมด้า แกรนด์ ทวารวดี จ.นครปฐม เพื่อให้ความรู้ รำแนะนำแก่เย้าของ หรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีนให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและด฿แบปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัพน้ำิสียใหิมีประสิทฑิภาพ รวมทั้งให้คใามร฿้ด้านเทคนิควิชาการในการจัดการน้ำอสียแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นทีทจังไวัดนครปฐม และภายหลัลจากนี้จะทีการติดตามตรวตสอบและบังคับใช้กฎหมาวกับแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้น่ี่ลุ่มน้ำจีน ให้มีกทรระบายน้ำเป็นไปตามมาตรฐานท้่กำหนดตาม พฐร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งขาติ พ.ศฦ2535.
นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า โดยช่วงที่ไหลผ่าน จ.นครปฐม ตั้งแต่ช่วง อ.บางเลน ถึง อ.สามพราน มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ส่วนใหญ่เกิดจากการระบายมลพิษจากแหล่งกำเนิดประเภทต่างๆ ได้แก่ ภาคชุมชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม,นางสุณีกล่าวต่อว่า คพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในคลองสาขาลุ่มน้ำท่าจีน ประกอบด้วย 4 แผนงาน คือ แผนงานที่ 1 การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ และเพิ่มการไหลเวียนของน้ำ แผนงานที่ 2 การปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลอง แผนงานที่ 3 การเผยแพร่ความรู้และสร้างจิตสำนึกให้แก่ทุกภาคส่วน และแผนงานที่ 4 การติดตามประเมินผล โดย คพ.จะกำหนดจัดอบรม เรื่อง สถานประกอบการรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์ท่าจีน ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมไมด้า แกรนด์ ทวารวดี จ.นครปฐม เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำแก่เจ้าของ หรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีนให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและดูแลปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ความรู้ด้านเทคนิควิชาการในการจัดการน้ำเสียแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และภายหลังจากนี้จะมีการติดตามตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่ลุ่มน้ำจีน ให้มีการระบายน้ำเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535.
(โดยเฉพาะประเมศไทยปัจจุบัน) ผฃักๆ นอกจากจะชี้ให้เำ็นว่าาีความเชื่อเกีืยวกับการยร้างพระพุทธรูปที่ขัดแว้งกับหลักฐานทางโบราณีดีของไทวแล้ว ฟู้เขียนจะกล่าวถึงความส_คัญของพระพุทธรูปที่มีต่อศึกษาพุทธศมสสาในดินแดนนี้ และจะพูดุึงความเผลี่ยนแปลงทางคคิความเช้่อเกี่ยวกับการสรัางพระพุทธรูปใตยังคมไทย ตามตำนานพุทธศาสนาที่เขียนขึ้นในลังกา พุทธศาสนาปผ่เข้าสํ่ดินแดนเอเชียตะวัจออกเฉียงใต้ (สุวรรณภูทิ) ราวพุทธศตวรรษที่ 3 ใตสมัยของถระเจ้าอโซกมหาาาช แต่หลักฐานทางโบราณคดีในประเทศไทยและที่อื่าๆ ในเอเชียตพวันออกเฉียงใต่โดยเฉพาะงานศิลปกรรมและปฏิมากรนม ที่ยืนยันถึงการปราแฏขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของพุทธศาสนาในแถบนี้าีอายุเก่าแก่ที่สุดก็ราวพุทธศตวรรษที่ 11 - 12 ซึ่งะป็นช่วงเวบาแตกต่างจากที่เราพบนากตำนานหรือคัมภีร์ทางศาสนาของลังกร หลักฐานต่างๆ ยืนยันว่าแนวคิดทางด้านศิลปกรรมของอินเดียมีบทบาทยำคีญร่อพัฒนาการของศิลปะของเิ้ชียตะวันออกเฉียงใต้ กระนั้นลักษณะทางศิลปกรรมที่พบในพุกามและที่ปรากฏในศาสนสถานของชใาไม่ได้มีลักษณะเะียวกันเสียทีเดียว จะมีความแตกต่างออก/ปจากลักษณะศิลปกรรมอันเป็นต้ยกำเนิดขดงตนเช่นเดียวกันกับลักษ๕ะทางญิลปก่รมของพระะุท๔รูปในปรุัทศไทยแท้จะได้รับอิทธิกลจากศิลปะของอมราวดี (พุทธศตวรรษที่ 7 - 9) และศิลปะสมัยคุปตะ (พุทธศตวรรษที่ 9 ] 11) แต่ได้พัฒนาลักษณะศิลปกรรมของตนเองแตกต่างออปไกอย่างชัดเจนจากพระพุทธรูปที่พขในอินเดีย ลักษณะของพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในแต่ละสกุลช่างแลดแต่ละสมัยจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้เพราะผู้สร้ทงถือว่าการสร้างพระกุทธรูปไม่ใช่การสรัาบรูปเหมือนของพระพุทธเจ้าแต่เป็นการสร้างสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าการสร้างพระพุทธรูหในประเทศไทยหรือเอเชียตะวันออกเฉียฝใจ้น่าจเเกิดขึ้นราวพุทธศตวรรษท่่ 8 - 9 ก่อนยุคทวารวดี-ศิลปะศรีวิชัย แรกเริืมของอิทธิพลิินเดียในสยามประเทศ ใน เอกสารชุด ศิลปะในปรถเทศไทย เอกสารประกอบโครงการอบรมกรุวัติศาสตร์ศเลปะไทยสำหรับบุคคลทั่วไป บรีณาธิการโดส ศิริพจย์ เหล่ามสนดเจริญ (ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษ_าคม 2550) หน้า 10. กระทรวงศึกษาธิการ กรมศิลปากร สำนักโบีาณคดีและพิพิธภัณฑสถาตแห่งชาติ นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจ้นบุรี พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ: บริษัทคัมปาย อิมเมจจิ่ง จำกัด 2542) หน้า 38 - 39. ศักอิ์ชัย สายสิงห์ พุทธปฏิมา: งานช่างพลังแห่งศรัทธา ฆกรุงเทพฯ: มติชน 2554) คำนำ. ปฐม หงษ์สุวรรณ ตำนสนพตะพุทธรูปล้านนา: พลังหัญญาทางความัชื่อและควสมสัมพเนธ์กับท้องถิ่น หน้า 82. มาตรวัดระยะของจีน 1 เฉียพเท่ากับ 25 เซนติเมตร ชิว ซูหลุน ผู้แปล ถังซำจั๋ง จดหมายเหตุการเดินทสงส฿่ดินแดนตะวันตกของมหาราชวงศ์ถัง (กรุฝเทพ๗: มติชน 2547) หน้า e33. เรื่อวเดียวกัน หน่า 338. เรื่องเดียวดัน หน้า 343 - 345. พิเศษ เจียจันทร์พง?์ คำนำเสนอ ประวัติความคิดสร้างพระพุทธรูปของไทย ใน ไขศรี ศรีอรุณ พระพุทธรูปปางต่างๆ ในสยามปาะเทศ: ประวัตืความเป็นมาของพคเพุท๔รูปตั้งอต่มหาภิเนษกรมณ์ถึงมหาปรินิพพาน. พิมพ์ีรั้งที่ 3 (กรุงเทำฯ : มติชน w546) หน้า (7). ดชษฐ์ ติงสัญชลี พระพุทธรูปอินเดีย หน้า 51 - 57. ดูรายละเอียดใน เรื่องเดียวกัน หน้า 60 - 71. พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ คหนำเสนอ ปรพว้ติความคืดสร้างพระพุทโรูแขิงไทย หนืา (7) - (8). เรื่องเดียวกัน หน้า (15)](16)ซ
(โดยเฉพาะประเทศไทยปัจจุบัน) หลักๆ นอกจากจะชี้ให้เห็นว่ามีความเชื่อเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปที่ขัดแย้งกับหลักฐานทางโบราณคดีของไทยแล้ว ผู้เขียนจะกล่าวถึงความสำคัญของพระพุทธรูปที่มีต่อศึกษาพุทธศาสนาในดินแดนนี้ และจะพูดถึงความเปลี่ยนแปลงทางคติความเชื่อเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปในสังคมไทย ตามตำนานพุทธศาสนาที่เขียนขึ้นในลังกา พุทธศาสนาแผ่เข้าสู่ดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สุวรรณภูมิ) ราวพุทธศตวรรษที่ 3 ในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช แต่หลักฐานทางโบราณคดีในประเทศไทยและที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะงานศิลปกรรมและปฏิมากรรม ที่ยืนยันถึงการปรากฏขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของพุทธศาสนาในแถบนี้มีอายุเก่าแก่ที่สุดก็ราวพุทธศตวรรษที่ 11 - 12 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแตกต่างจากที่เราพบจากตำนานหรือคัมภีร์ทางศาสนาของลังกา หลักฐานต่างๆ ยืนยันว่าแนวคิดทางด้านศิลปกรรมของอินเดียมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการของศิลปะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระนั้นลักษณะทางศิลปกรรมที่พบในพุกามและที่ปรากฏในศาสนสถานของชวาไม่ได้มีลักษณะเดียวกันเสียทีเดียว จะมีความแตกต่างออกไปจากลักษณะศิลปกรรมอันเป็นต้นกำเนิดของตนเช่นเดียวกันกับลักษณะทางศิลปกรรมของพระพุทธรูปในประเทศไทยแม้จะได้รับอิทธิพลจากศิลปะของอมราวดี (พุทธศตวรรษที่ 7 - 9) และศิลปะสมัยคุปตะ (พุทธศตวรรษที่ 9 - 11) แต่ได้พัฒนาลักษณะศิลปกรรมของตนเองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจนจากพระพุทธรูปที่พบในอินเดีย ลักษณะของพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในแต่ละสกุลช่างและแต่ละสมัยจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้เพราะผู้สร้างถือว่าการสร้างพระพุทธรูปไม่ใช่การสร้างรูปเหมือนของพระพุทธเจ้าแต่เป็นการสร้างสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าการสร้างพระพุทธรูปในประเทศไทยหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่าจะเกิดขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 8 - 9 ก่อนยุคทวารวดี โดยอาศัยหลักฐานจากศาสนสถาน พระพุทธรูปและรูปพระสงฆ์ที่บริเวณเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นเครื่องยืนยัน ลักษณะของพระพุทธรูปที่พบในบริเวรณนี้เทียบได้อย่างใกล้เคียงกับศิลปะอมราวดี กำหนดอายุอยู่ราวพุทธศตวรรษที่ 8 - 9 หลักฐานเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าในดินแดนประเทศไทยเริ่มมีพุทธศาสนาเถรวาทเข้ามา รู้จักการสร้างศาสนสถานและพระพุทธรูปเป็นครั้งแรกในช่วงเวลานี้ก่อนที่จะพัฒนาเป็นศิลปกรรมในสมัยทวารวดีที่แพร่หลายอยู่ในภาคกลางของประเทศไทยในช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12 – 16 หลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ให้ข้อมูลที่แตกต่างจากตำนานที่กล่าวถึงในวรรณกรรมทางพุทธศาสนาดังที่ตำนานของชาวล้านนาได้พยายามชี้ชวนให้เชื่อว่าการสร้างหรือการกราบไหว้พระพุทธรูปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นสืบทอดมาจากการสร้างพระพุทธรูปโดยพระเจ้าปัสเสนทิโกศลตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว ตำนานพระแก่นจันทน์ ฉบับวัดทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่กล่าวถึงแล้ว (ในบทความตอนที่ 1) เล่าว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานและพระเจ้าปัสเสนทิโกศลทรงสวรรคตแล้ว พระราชโอรสของพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนามว่าวิตตุภะ ได้ครองราชย์แทน พญาสุวัณณพรหมาได้ส่งราชทูตไปขอพระแก่นจันทน์ (อันสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระเจ้าปัสเสนทิโกศล) ครั้งนั้น พระเจ้าวิตตุภะได้สร้างพระพุทธรูปแก่นจันทน์ไว้สองข้างของพระแก่นจันทน์องค์แรก (ที่พระเจ้าปัสเสนทิโกศลทรงให้สร้างไว้) ราชทูตของพญาสุวัณณพรหมาจึงเลือกหนึ่งองค์เพื่อนำไปถวายพญาสุวัณณพรหมา พระพุทธรูปแก่นจันทน์องค์ดังกล่าวประดิษฐานอยู่เมืองสุวัณณพรหมาเป็นเวลา 1000 ปีจนเมืองสุวัณณพรหมาแพ้แก่ข้าศึก โอรสของพญาสุวัณณพรหมาคือ อาทิตยราชกุมารจึงอัญเชิญพระแก่นจันทน์ไปไว้ที่เมืองแช่ตา เมื่อเมืองแช่ตาเกิดโกลาหลขึ้น พระมหาเถรเจ้ารูปหนึ่งจึงอัญเชิญไปถวายพญาคำแดง พระแก่นจันทน์อยู่เมืองท้าวตาแหวนเป็นเวลา 10 ปีก็ถูกมหาเถรชื่อสิโวหะขโมยไปไว้ที่บ้านพุกามในเมืองแช่ตา ฝากไว้กับพรานป่าผู้หนึ่งได้ 73 ปี ต่อมาปู่โมไปทำศึกที่เมืองแช่ตาจึงนำพระแก่นจันทน์ไปไว้ที่บึงหนองบัวที่เมืองพะเยา เป็นเวลา 60 ปี เมื่อพญาสุทธิศิลป์รู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก่นจันทน์จึงนำไปไว้ที่วัดป่าแดงหลวงดอนชัยอยู่นาน 6 เดือน ต่อมาพญาติโลกราชก็ให้พระธรรมเสนาไปนำพระแก่นจันทน์มาไว้เมืองเชียงใหม่โดยผ่านเมืองน่าน เมืองแพร่ แลเมืองหริภุญชัยหากถือตามตำนานนี้ พระพุทธรูปย่อมปรากฏขึ้นในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลากว่า 1000 ปีแล้ว แต่เมื่อพิจารณาในแง่ข้อเท็จจริง เป็นไปได้ว่าตำนานดังกล่าวนี้แต่งขึ้นเพื่อสร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในท้องถิ่นล้านนาเมื่อราวต้นพุทธศตวรรษที่ 21 ที่กล่าวถึงโดยชินกาลมาลีปกรณ์ วรรณกรรมของล้านนาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตำนานที่น่าเชื่อถือที่สุดในบรรดาตำนานต่างๆ ในล้านนา ได้กล่าวถึงการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในสถูปองค์หนึ่งที่วัดทีฆาชีวิตสาราม โดยพญาแก้วและพระเทวีราชมารดา ในปี พ.ศ.2062 และโปรดให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ด้วยไม้แก่นจันทน์ในปี พ.ศ.2064 ซึ่งหลังจากพระพุทธรูปองค์นี้ถูกอัญเชิญไปยังเมืองต่างๆ พอถึง พ.ศ.2065 พญาแก้วได้โปรดให้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในวัดบุพพาราม และสุดท้ายในปี พ.ศ.2069 พญาแก้วได้อัญเชิญไปประดิษฐานในอุโบสถที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นใหม่ที่วัดมหาโพธาราม ซึ่งปัจจุบันเข้าใจกันว่าเป็นวัดเจ็ดยอด แต่ยังไม่เคยพบเห็นพระพุทธรูปองค์นี้ คงเหลือแต่ซุ้มในพระอุโบสถที่กล่าวกันว่าเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก่นจันทน์ ข้อนี้หมายความว่า คติความเชื่อที่ว่ามีการสร้างพระพุทธรูปมานานแล้วตั้งแต่เมื่อ 2000 กว่าปีที่แล้ว โดยอ้างถึงพระพุทธรูปแก่นจันทน์ที่สร้างโดยพระเจ้าปัสเสนทิโกศลและนำมายังดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังพุทธปรินิพพานนั้นเป็นแต่เพียงตำนาน ไม่มีหลักฐานทางโบราณคดีสนับสนุนที่ชัดเจน เท่าที่ผู้เขียนพบขณะเขียนบทความนี้ จะมีก็แต่พระพุทธรูปปาง พระห้ามแกนจันทน์ ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เท่านั้นพระพุทธรูปและรูปเคารพอันเกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนา มีความสำคัญในฐานะที่เป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงการเผยแผ่พุทธศาสนาของพระสงฆ์และชาวพุทธยุคแรกๆ ในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงดินแดนของไทยปัจจุบันไว้ด้วย เช่น ที่เมืองโบราณไชยา มีพุทธสถานที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 13 - 14 เมื่อกล่าวถึงเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับรูปเคารพทางพุทธศาสนา ในปี พ.ศ.2477 นักโบราณคดีชาวอังกฤษคือ ควอริทช์ เวลส์ (Quaritch Wales) ได้ค้นพบพระพุทธรูปปางประทานพรสลักจากหินทรายอิทธิพลศิลปกรรมอินเดียสกุลช่างสารนาถ อายุเก่าแก่ราวพุทธศตวรรษที่ 11 และชาวบ้านยังได้พบรูปเคารพพระโพธิสัตว์สัมฤทธิ์ที่เมืองเวียงสระอีกหลายองค์ ที่โบราณสถานบ้านจาเละพบพระพิมพ์หลายแบบ เช่น ด้านล่างของพระพิมพ์ภาพพระพุทธเจ้าปางสมาธิประทับนั่งบนปัทมอาสน์ อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 11 - 13 พระพุทธรูปและรูปเคารพของพระโพธิสัตว์ที่ค้นพบนี้เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า ตั้งแต่ช่วงพุทธศตวรรษที่ 11 ลงมา การเคารพพระพุทธรูปได้กลายเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวพุทธในดินแดนภาคใต้ของไทยแล้ว ข้อที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ พระพุทธรูปที่ค้นพบเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าพุทธศาสนาที่คนทั่วไปเคารพนับถือในดินแดนภาคใต้ของไทยมีหลากหลายนิกาย คือ มีทั้งนิกายเถรวาท นิกายมหายาน นิกายวัชรยาน นิกายเหล่านี้ล้วนยอมรับการกราบไหว้พระพุทธรูปหรือรูปเคารพด้วยกันทั้งสิ้นกล่าวได้ว่า รูปลักษณ์ทางศิลปกรรมของพระพุทธรูปย่อมบ่งชี้ร่องรอยการนับถือศาสนาของชาวพุทธในดินแดนแถบนี้ว่าเป็นแบบใด ตัวอย่างที่น่าสนใจกรณีหนึ่งก็คือ การนับถือพุทธศาสนาของชาวล้านนาซึ่งในปัจจุบันนักวิชาการค้นพบว่า พุทธศาสนาที่นับถือกันอย่างแพร่หลายไม่ได้มีเฉพาะนิกายเถรวาทจากอินเดียและลังกาแต่มีการผสมผสานเอาคติความเชื่อในลัทธิมหายานแบบตันตระ นิกายวัชรยานเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจนแทบจะแยกไม่ออก นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ศิลปะสันนิษฐานว่า คติลัทธิมหายานแบบตันตระ นิกายวัชรยาน คงซึมซับเข้ามาในพุทธศาสนานิกายเถรวาทในท้องถิ่นล้านนาจนไม่ทราบแหล่งที่มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 20 - 21 แล้ว หลักฐานที่สนับสนุนคือพระพุทธสิหิงค์ วัดหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ซึ่งมีลักษณะเทียบเคียงกับพระพุทธรูปอักโษภยะสำริดองค์หนึ่งจากบังกลาเทศ กำหนดอายุถอยไปถึงราวกลางพุทธศตวรรษที่ 13 หรือหลังกว่านั้นเล็กน้อย ลักษณะพระเศียรของพระพุทธรูปหมวดพระพุทธสิหิงค์ของล้านนาที่หล่อขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 21 ที่ตรงกับพระพุทธรูปมหายานแบบตันตระ นิกายวัชรยาน คือส่วนพระอุษณียะที่สามารถถอดออกได้แลเห็นโพรงขนาดใหญ่ในพระเศียรในส่วนภาคกลางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นอาณาบริเวณที่ก่อเกิดอารยธรรมทวารวดีขึ้นก่อนจะแพร่ไปยังพื้นที่อื่นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนว่ามีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระพุทธเจ้าตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา เมื่อชุมชนบ้านเมืองในแถบนี้รับพุทธศาสนาในวัฒนธรรมทวารวดี นักวิชาการชี้ว่าก่อนที่จะมีการสร้างพระพุทธรูปในสมัยทวารวดี ชาวพุทธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในเขตจังหวัดภาคกลางได้รู้จักพระพุทธรูปสำริดขนาดเล็กชนิดพกพาที่พ่อค้านำเข้ามาจากอินเดีย ด้านภาคตะวันออกของไทย พุทธศาสนาได้รุ่งเรืองขึ้นในเขตเมืองศรีมโหสถควบคู่กับศาสนาฮินดูมาตั้งแต่รับวัฒนธรรมอินเดีย มีหลักฐานปรากฏว่าตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 - 16 มีประติมากรรมในพุทธศาสนาอยู่หนาแน่นในบริเวณเมืองศรีมโหสถ ได้แก่ ประติมากรรมลอยตัวสลักด้วยหิน อาทิ พระพุทธรูปยืนปางประทานธรรม เป็นพระพุทธรูปยืนครองจีวรห่มคลุมพระอังสาทั้งสองข้าง ช่วงพระกรทั้งสองตั้งแต่ศอกลงมา ยื่นออกมาด้านข้างเป็นแนวเส้นตั้งฉากกับพระองค์และแสดงปางเดียวกันทั้งสองพระหัตถ์ พระพุทธรูปแบบนี้ได้เริ่มปรากฏขึ้นครั้งแรกในพุทธศตวรรษที่ 12 ในศิลปะทวารวดีทางตอนบนของอ่าวไทย สันนิษฐานว่าพระพุทธรูปยืนมีองค์ประกอบแบบสมดุลเช่นนี้จะเกิดในระยะเวลาใกล้เคียงกันกับพระพุทธรูปยืนปางอหูยมุทราที่ประดิษฐานอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจัดพระพุทธรูปยืนแบบทวารวดีพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในวัฒนธรรมต่างๆ ได้แสดงออกถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆ ย่อมแสดงถึงศรัทธาความเชื่อที่มีต่อพุทธศาสนา พุทธศิลป์ที่ปรากฏเหนือองค์พระปฏิมาย่อมแสดงออกถึงลักษณะความคิดด้านสุนทรียศาสตร์ ปริมาณและขนาดในการสร้างย่อมแสดงให้เห็นความรุ่งเรืองทางด้านศิลปกรรมและความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองในยุคนั้นๆ นอกจากนี้ พระพุทธรูปยังแสดงให้เห็นศรัทธาความเชื่อของคนไทยในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารอีกด้วย คติการนับถือพระพุทธรูปปรากฏอยู่ในหลายท้องถิ่น บางครั้งเรียกว่ารูปพระเจ้า พระพุทธรูปอาจทำขึ้นจากวัสดุหลายประเภท เช่น ข้าว ไม้ หิน โลหะ เป็นต้น ในความคิดของผู้คนในสังคมไทย พระพุทธรูปเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา อีกทั้งยังมีอิทธิปาฏิหาริย์ มีอำนาจในการบันดาลสิ่งต่างๆ ให้แก่มนุษย์ได้พระพุทธรูปจึงไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าเท่านั้น หากยังเปรียบเสมือนอารักษ์บ้านอารักษ์เมือง ชาวพุทธไทยจึงปฏิบัติต่อพระพุทธรูปเสมือนว่าเป็นสิ่งมีชีวิต ดังที่เห็นได้ชัดเจนในคติการเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตที่ประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้วมรกต) ตามฤดูกาลทั้งสามในปี ค.ศ.646 หรือราวพุทธศตวรรษที่ 12 พระสมณะเสวียนจั้ง (พระถังซำจั๋ง) เขียนบันทึกบอกเล่าการจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ ในประเทศอินเดีย เมื่อไปถึงพุทธคยาและโพธิมณฑลอันเป็นสถานตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พระเสวียนจั้งพบว่า ทางด้านตะวันออกของโพธิพฤกษ์มณฑลมีวิหารสูงประมาณ 160 - 170 เฉียะฐานล่างแต่ละข้างกว้างประมาณ 20 ก้าว ก่อด้วยอิฐสีคราม ฉาบด้วยปูนขาว ช่องเก็บพระพุทธรูปมีพระพุทธรูปทองคำประดิษฐานอยู่ทุกๆ ชั้น บริเวณทิศเหนือต้นศรีมหาโพธิอันเป็นสถานที่จงกรมของพระพุทธเจ้าตลอด 7 วันหลังการตรัสรู้ มีการใช้อิฐก่อเป็นฐานสูง 3 เฉียะเศษขึ้น ณ ที่แห่งนั้นเบื้องทิศเหนือของฐานอิฐมีวิหารใหญ่ ตั้งอยู่บนแผ่นศิลา ริมทางเดินฟากตะวันออกมีพระพุทธรูปในลักษณะแหงนพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตร พระตถาคตเจ้าขณะที่ทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธินั้น พระเนตรแน่วแน่มิได้เหลือบแลสู่ที่ใดๆ ทั้งนี้เพราะพระองค์ใคร่ตอบแทนคุณงามความดีของต้นศรีมหาโพธิ จึงทรงบูชาพระมหาโพธิด้วยพุทธอิริยาบถดังกล่าวเบื้องทิศตะวันตกของศรีมหาโพธิออกไปไม่ไกลเท่าไรนัก พระพุทธรูปสร้างด้วยแก้วกาจประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร องค์พระพุทธรูปประดับประดาด้วยอัญมณีมีค่าต่างๆ ยืนหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ข้างหน้ามีศิลาสีครามก้อนหนึ่ง บนนั้นมีลายเส้นและสีสันแปลกๆจากคำบอกเล่าของพระสมณะเสวียนจั้ง เราพบว่าชาวพุทธในชมพูทวีปนิยมสร้างพระพุทธรูปและพระสถูปไว้ในสถานที่สำคัญตามเหตุการณ์ในพระพุทธประวัติ พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจะมีอิริยาบถแตกต่างกันไป สุดแต่ว่าพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นนั้นจะสร้างไว้เพื่อสื่อสารถึงเหตุการณ์ใดในพุทธประวัติ นอกจากที่อ้างถึงแล้วนั้น พระสมณะเสวียนจั้งยังกล่าวถึงพระพุทธรูปอีกจำนวนหนึ่งที่สร้างขึ้นรอบๆ บริเวณสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และรอบนอกโพธิมณฑล เช่น ด้านตะวันตกของสระมุจลินทนาคราช มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในวิหารเล็กๆ ด้านวิหารในป่าด้านทิศตะวันออกของสระมุจลินทนาคราชมีพระพุทธรูปลักษณะซูบผอมร่วงโรย เพื่อสื่อถึงเหตุการณ์การบำเพ็ญทุกรกิริยาของพระโพธิสัตว์ เป็นต้น ในบริบทของอินเดีย พระพุทธรูปและพระสถูปสร้างขึ้นบริเวณที่มีเหตุการณ์ในพุทธประวัติเกิดขึ้น เมื่อผู้แสวงบุญจาริกเดินทางไปถึงสถานที่แห่งนั้นจะได้เห็นพระพุทธรูปในบรรยากาศแวดล้อมที่ชวนให้รำลึกถึงพระพุทธเจ้าและเหล่าพระสาวกที่เกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ พระพุทธรูปจึงถูกสร้างให้มีอิริยาบถที่สะท้อนเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ ออกมา เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นในสถานที่นั้นๆ พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นให้มีลักษณะสอดคล้องกับเหตุการณ์ในพุทธประวัติ ณ ช่วงเวลานั้นๆ เช่น ช่วงเวลาแห่งการตรัสรู้ ช่วงเวลาแห่งการผจญมาร ช่วงเวลาแห่งการทอดพระเนตรต้นโพธิ์ หรือจงกรมระหว่างต้นโพธิ์ หรือช่วงเวลาแห่งการแสดงธรรมเทศนาครั้งแรก เราเรียกพระพุทธรูปที่แสดงอิริยาบถในช่วงเวลานั้นๆ ณ สถานที่นั้นๆ ว่า ปาง นั้น ปาง นี้ ซึ่ง คำว่า ปาง ในที่นี้ หมายถึง เมื่อ ครั้ง อันเป็นการบอกเวลา เมื่อนำมาใช้กับพระพุทธรูปที่เป็นรูปแทนองค์พระพุทธเจ้า ปางนี้ ปางนั้น จึงหมายความว่า พระพุทธองค์เมื่อครั้งณ สถานที่นั่นคือเป็นพระพุทธรูปที่แสดงรูปประวัติตอนใดตอนหนึ่งของพระพุทธองค์ ขณะที่ทรงมีสภาวะเป็นมนุษย์นั่นเอง เช่น พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพุทธปางมุจลินทนาคราชหรือปางนาคปรก เป็นต้นโดยปกติ มนุษย์จะอยู่ใน 4 อิริยาบถหลักคือ ยืน เดิน นั่ง นอน พระพุทธเจ้าก็ทรงดำรงอยู่ด้วยอิริยาบถ 4 เช่นเดียวกันกับมนุษย์ทั่วไป ดังนั้น ในการสร้างพระพุทธรูปจึงสร้างให้อยู่ในอิริยาบถทั้งสี่ นอกจากแสดงอิริยาบถแล้ว ยังนิยมสร้างให้พระพุทธรูปแสดงมุทรา (สัญลักษณ์พระหัตถ์) อย่างใดอย่างหนึ่ง สัญลักษณ์หรือมุทรานี้แสดงให้รู้ว่าพระพุทธรูปปางดังกล่าวสะท้อนพุทธจริยาอะไร เช่น สัญลักษณ์พระหัตถ์ของปางประทานพรย่อมแตกต่างจากสัญลักษณ์พระหัตถ์ของปางห้างพระญาติ ปางมารวิชัยย่อมแสดงสัญลักษณ์พระหัตย์แตกต่างจากปางแสดงธรรมเทศนา ซึ่งอิริยาบถของพระพุทธรูปในศิลปะอินเดีย ที่ปรากฏชัดมี 3 อิริยาบถคือ ยืน ประทับนั่ง และไสยาสน์ (นอน)พระพุทธรูปยืนในศิลปะอินเดียแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ (1) ยืนแบบสมภังค์ คือ ยืนตรง ขารับน้ำหนักสองข้าง ไม่มีข้างใดข้างหนึ่งหย่อนพัก (2) ยืนแบบตริภังค์ คือการยืนโดยพักขาข้างใดข้างหนึ่งและทิ้งน้ำหนักลงอีกข้างหนึ่ง ตริภังค์ เป็นการหักสามส่วน คือ ลำตัว แขนท่อนบน (ของขาที่พัก) และขาท่อนล่าง (ของขาที่พัก) ส่วนท่าประทับนั่ง (อาสนะ) พระพุทธรูปในศิลปะอินเดียมีท่านั่งเพียง 3 ท่าคือ(1) วัชราสนะ (ขัดสมาธิเพชร) คือการนั่งโดยใช้พระบาทขวาทับพระเพลา (ขาท่อนบน) ซ้าย แล้วไขว้ข้อพระบาทซ้ายยกซ้อนขึ้นประทับบนพระเพลาขวา จึงเห็นพระบาทสองข้างอยู่บนพระเพลา(2) วีราสนะ (ขัดสมาธิราบ) คือการนั่งโดยใช้พระบาทขวาทับพระเพลาซ้าย จึงเห็นฝ่าพระบาทเพียงข้างเดียว มีสองท่าย่อยคือขัดสมาธิแบบหลวมๆ กับขัดสมาธิแบบกระชับ(3) ปรลัมพปาทาสนะ หรือภัทราสนะ ได้แก่ การนั่งห้อยพระบาท พระพุทธรูปในศิลปะอินเดียนิยมสร้างให้นั่งห้อยพระบาทโดยพระชานุ (เข่า) ห่างกัน แต่พระบาทกลับชิด การนั่งห้อยพระบาทเกี่ยวข้องกับการประทับนั่งบนบัลลังก์ของกษัตริย์ พระพุทธรูปประทับในท่านี้เป็นการเน้นย้ำถึงคติพระพุทธเจ้าในฐานะจักรวรรตินหรือพระธรรมจักรพรรดิ ซึ่งตอบรับกับคติการแสดงธรรมจักรมุทราด้วย ท่านั่งห้อยพระบาทนี้พบในศิลปะอินเดียเหนือเท่านั้น คือพบครั้งแรกในศิลปะคุปตะ ต่อมานิยมในศิลปะวกาฏกะ-จาลุกยะตะวันตกในระยะแรกและในศิลปะปาละ ไม่ปรากฏความนิยมในอินเดียใต้ ส่วนอิริยาบถไสยาสน์ ในศิลปะอินเดียจะหมายถึงการปรินิพพานเท่านั้น ส่วนศิลปะนอกอินเดียอิริยาบถนี้อาจหมายถึงการนอนปกติก็ได้การแสดงมุทราของพระพุทธรูป ในทางประติมานวิทยา มุทรามีความหมายเฉพาะการแสดงพระหัตถ์ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Gesture การแสดงมุทราของพระพุทธรูปในศิลปะอินเดีย แบ่งออกเป็น 6 มุทราหลัก ได้แก่ (1) อภัยมุทรา (ประทานอภัย) (2) วรทมุทรา (ประทานพร) (3) ธยานมุทรา (สมาธิ) (4) ภูมิสปรรศมุทรา (มารวิชัย) (5) วิตรรกมุทรา (สั่งสอน) (6) ธรรมจักรมุทรา (ปฐมเทศนา)การสร้างพระพุทธรูปในอิริยาบถต่างๆ พร้อมทั้งแสดงมุทราดังกล่าวมานี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงเรื่องราวในพุทธประวัติดังที่กล่าวแล้วนั่นเอง เป็นการจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นเป็นองค์ประกอบเรื่องเล่า การสร้างพระพุทธรูปและสถูปก็เพื่อให้ระลึกรู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีเรื่องราวใดเกิดขึ้นบ้าง ศิลปินผู้สร้างสรรค์พระพุทธรูปจะจินตนาการว่า ขณะเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นนั้น พระพุทธเจ้าจะทรงมีอิริยาบถและแสดงอาการทางกายอย่างไร ตัวอย่างดังที่ปรากฏในคำบรรยายนี้ตอนทรงชนะมารหรือมารวิชัย มีองค์ประกอบเป็นรูปกองทัพพญามาร รูปแม่พระธรณีกำลังบีบน้ำออกจากมวยผม รูปพระพุทธองค์แสดงมุทราหรือความหมายที่พระหัตถ์โดยใช้พระหัตถ์ซ้ายวางหงายอยู่บนหน้าตัก พระหัตถ์ขวาวางคว่ำเหนือพระเพลาขวา นิ้วพระหัตถ์ชี้แตะลงเบื้องล่าง อันเป็นการแสดงความหมายด้วยมือ เรียกว่า ภูมิสปรรศมุทรา หรือพระหัตถ์แสดงท่าสัมผัสธรณีเมื่อเห็นภาพเช่นนี้คนดูก็จะทราบเรื่องราว (ซึ่งรับรู้กันมาก่อนแล้ว) ว่าเป็นภาพเล่าเรื่องพุทธประวัติ ตอนก่อนที่พระพุทธเจ้าจะสำเร็จสัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์ประทับอยู่บนโพธิบัลลังก์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรานอกเมืองอุรุเวละ พญามารได้ยกกองทัพมหาศาลเข้ามารบกวนให้เลิกบำเพ็ญเพียร พระพุทธองค์มิได้ทรงหวั่นไหว ได้ทรงอ้างพระบารมีที่สั่งสมมาแต่ชาติปางก่อน มีความแน่วแน่ในอันที่จะบำเพ็ญเพียรต่อไป เพื่อการบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสพื้นปฐพี เพื่ออ้างแม่พระธรณีขึ้นมาเป็นพยานแห่งการบำเพ็ญพระบารมีอันอเนกอนันต์ที่ผ่านมาของพระองค์แม่พระธรณีจึงขึ้นมาบีบมวยผมให้น้ำทักษิโณทกอันเป็นทานบารมีที่พระพุทธองค์ได้ทรงสั่งสมบำเพ็ญเพียรมา ที่ได้ตกชุ่มสะสมอยู่ในเกศาของพระนาง หลั่งออกมาเป็นปริมาณมหาศาลไหลบ่าพัดพากองทัพพญามารได้ต้องแตกพ่ายไปนี่คือการบรรยายอิริยาบถและมุทราของพระพุทธรูป ซึ่งชี้ให้เห็นว่าลักษณะหรือองค์ประกอบของมุทรามีความสำคัญอย่างไร กล่าวโดยสรุปคือ พระพุทธรูปถูกสร้างขึ้นเพื่อจำลองเหตุการณ์ในพระพุทธประวัติแต่ละตอน ซึ่งแต่เดิมนั้นจะเลือกตอนที่มีความสำคัญที่ชี้แสดงให้เห็นความเป็นมาของพุทธศาสนา ผ่านเหตุการณ์ก่อนตรัสรู้และหลังการตรัสรู้ใหม่ๆ ของพระพุทธเจ้า เป็นหลักเมื่อพุทธศาสนาเผยแผ่มายังดินแดนที่ต่างออกไปและได้กลายเป็นศาสนาแบบพื้นเมือง พุทธศาสนาที่เข้ามายังประเทศไทยจากมาหลายทางจึงหล่อหลอมเข้ากับวัฒนธรรมต่างๆ โดยเฉพาะผสมผสานเข้ากับแนวคิดเรื่องผีในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และวัฒนธรรมพราหมณ์ฮินดูอันเป็นวัฒนธรรมที่มาจากถิ่นกำเนิดของพุทธศาสนาเอง ช่วงเวลาอันยาวนานและผ่านดินแดนต่างๆ มาหลายแห่ง ทำให้แนวคิดในการสร้างพระพุทธรูปเปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างเช่น พระพุทธรูปในท่วงท่าพระหัตถ์สัมผัสธรณี อันเป็นที่นิยมทำกันในศิลปะไทยและมีความเข้าใจกันอย่างแน่นอนว่าหมายถึงพระพุทธรูปปางมารวิชัย ดังจะเห็นว่าในโบสถ์วิหารต่างๆ ที่มีพระพุทธรูปนั่งพระหัตถ์สัมผัสธรณีเป็นประธาน ผนังภายในโบสถ์วิหารด้านตรงกันข้ามกับพระประธานจะมีภาพเขียนพญามารและรูปแม่พระธรณีกำลังบีบมวยผม ทั้งพระปฏิมาและจิตรกรรมฝาผนังจึงให้ความหมายถึงพุทธประวัติตอนมารวิชัยอย่างสอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม ในโบสถ์วิหารบางแห่ง ปางพระพุทธรูปกับเรื่องราวในพระพุทธประวัติอาจไม่สัมพันธ์กัน อย่างเช่น พระแก้วมรกต ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่ผนังด้านหน้าบรรยายเหตุการณ์ตอนมารวิชัยแต่พระพุทธแก้วมรกตประทับนั่งในพระหัตถ์ท่วงท่าสมาธิ มิใช่ท่วงท่าสัมผัสธรณีของพระพุทธรูปปางมารวิชัย นี่แสดงให้เห็นว่าคติที่จะให้พระพุทธรูปแสดงเรื่องราวของพุทธประวัติตอนนั้นตอนนี้ไม่ได้รับความสำคัญมากนัก ในสังคมไทย ดูจะมุ่งหมายให้พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมีความหมายเป็นอย่างอื่นมากกว่าจะเป็นเพียงเครื่องสื่อสารเรื่องราวทางพุทธศาสนาพิเศษ เจียจันทร์พงษ์ อธิบายว่า ท่วงท่าพระหัตถ์ของพระพุทธรูปในศิลปะไทยนั้น บางครั้งก็มิได้รับความสนใจถึงความหมายที่เป็นปางหรือพุทธประวัติจริงๆ เมื่อมีการนำพระแก้วมรกตมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ มีความสนใจแต่เพียงว่าเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานของโบสถ์หรือของเมืองเท่านั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความหมายในเรื่องราวของปางหรือพุทธประวัติที่แสดงโดยพระพุทธรูป ดังเอกสารของล้านนาประเภทพงศาวดาร ตำนานพื้นเมืองต่างๆ เมื่อกล่าวถึงการสร้างวัดก็จะสร้างพระพุทธรูป จะไม่กล่าวว่าสร้างพระพุทธรูปปางอะไร หรือในพุทธประวัติตอนใด แต่จะใช้คำพูดว่าสร้างพระพุทธรูปเพื่อเป็นองค์ประธาน หรือบางแห่งก็จะกล่าวว่าวัดที่สร้างนั้นมีพระพุทธเจ้าเป็นประธานไปเลยก็มี เนื่องจากสมัยก่อนนั้นคติการสร้างวัดเป็นการสร้างเพื่อถวายแด่พระพุทธองค์ เช่นเดียวกับพระแก้วมรกต เมื่อนำมาประดิษฐานเป็นประธานของวัดหรือของเมือง อาจมีวัตถุประสงค์อื่นอีก เพราะพระแก้วมรกตตั้งหันหน้าตรงกับประตูผี พระแก้วมรกตจึงทำหน้าที่ปกปักรักษาเมืองมิให้ความชั่วร้ายทั้งหลายเข้ามาสู่บ้านเมือง การเขียนภาพหน้าผนังพระอุโบสถหน้าพระแก้วมรกตจึงเป็นการเขียนภาพตามประเพณีช่าง ที่มีความเคยชินว่าภาพเล่าเรื่องบนผนังโบสถ์วิหารตรงข้ามกับพระประธานนั้น ต้องเขียนภาพมารผจญ โดยไม่ต้องสนใจว่ารูปพระพุทธเจ้าที่นั่งเป็นประธานในโบสถ์นั้นจะประทับอยู่ในปางอะไรอาจสรุปได้ว่า เมื่อแรกสร้างพระพุทธรูปนั้น ศิลปินสร้างสรรค์เพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้าในฐานะองค์ประธานของเรื่องราวหรือเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ศาสนา อันดับแรกรูปลักษณ์ทางกายภาพของพระพุทธเจ้า (มหาบุรุษลักษณะ) กลายเป็นเรื่องสำคัญ แต่เพื่อสื่อสารถึงเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยท่วงท่าอิริยาบถและการแสดงพระหัตถ์จึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญเพื่อสื่อสารถึงเหตุการณ์ในเรื่องเล่า พระพุทธรูปในยุคแรกนั้นๆ ต้องการให้ชาวพุทธรำลึกถึงพระพุทธเจ้าในสถานการณ์ต่างๆ มากกว่าการรำลึกถึงตัวตนของพระองค์เพียงอย่างเดียว การจินตนาการรูปลักษณ์ที่อิงกับเรื่องเล่าช่วยให้เกิดศรัทธาและเข้าใจธรรมได้มากกว่าการคิดถึงแต่รูปร่างของวัตถุ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสเตือนไว้ตั้งแต่ครั้งทรงมีชีวิตอยู่ว่า การเห็นร่างกายของพระองค์นั้นเปล่าประโยชน์ พระปฏิมามีความสำคัญในฐานะสิ่งรูปธรรมที่ตอกย้ำเรื่องราวและจินตนาการเกี่ยวกับมนุษย์ผู้หนึ่งซึ่งเป็นเลิศกว่ามนุษย์ทั้งปวง ภาพลักษณ์ของพระพุทธเจ้าชัดเจนเด่นชัดขึ้นเมื่อเราเห็นรูปจำลองลักษณะของพระพุทธเจ้าตามคัมภีร์และจดจำผ่านเรื่องราวของพระองค์ พระปฏิมาจึงถูกสร้างให้มีเรื่องเล่า แสดงอิริยาบถและมุทราที่สอดรับกับเรื่องเล่าในตำนานหรือคัมภีร์เมื่อบริบททางสังคมเปลี่ยนแปลงไป พุทธศาสนาแพร่เข้ามาในดินแดนใหม่ พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นแม้จะแสดงปางบางเรื่องในพุทธประวัติแต่ก็ไม่ได้มีความหมายในเชิงการเล่าเรื่องเพียงอย่างเดียว หากแต่มีการผสมผสานกับแนวความคิดเรื่องความศักดิ์สิทธิ์หรือไสยศาสตร์ การสร้างพระพุทธรูปจึงมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้คนสักการบูชา ไม่ได้มีไว้สำหรับเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจธรรมหรือเหตุการณ์ทางพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียว พระพุทธรูปจึงไม่เพียงแต่ถูกสร้างเพื่อเป็นเครื่องมือกล่อมเกลาทางศาสนธรรมโดยวัฒนธรรมพุทธศาสนาเท่านั้น ประเพณีท้องถิ่นที่พุทธศาสนาเผยแผ่ไปถึงก็มีบทบาทในการหลอมสร้างความคิดเกี่ยวกับการเคารพพระพุทธรูปของชุมชนในท้องถิ่นนั้นๆ ด้วยเช่นกัน ปฐม หงษ์สุวรรณ ตำนานพระพุทธรูปล้านนา: พลังปัญญาทางความเชื่อและความสัมพันธ์กับท้องถิ่น หน้า 80. เรื่องเดียวกัน หน้า 81. อนุศักดิ์ เนตรานนท์ ตำนานและอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป หน้า 218 - 219. พระแก่นจันทน์ยังถูกกล่าวถึงใน สังคีติยวงศ์ ที่รจนาขึ้นโดยสมเด็จพระพนรัตน ในสมัยรัชกาลที่ 1 ด้วย ม.ล.สุรสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ์ พระพุทธรูปล้านนากับคติพระพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ นิกายวัชรยาน (เชียงใหม่: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2558) หน้า 18 - 19. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ปฐมบทพระพุทธศาสนาในภาคใต้ ประเทศไทย: หลักธรรมและหลักฐานโบราณคดี (นครศรีธรรมราช: ไทม์ พริ้นติ้ง จำกัด 2557) หน้า 30 - 33. สุรสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ์ พระพุทธรูปล้านนากับคติพระพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ นิกายวัชรยาน หน้า 1 - 2. เชษฐ์ ติงสัญชลี ศิลปะทวารวดี-ศิลปะศรีวิชัย แรกเริ่มของอิทธิพลอินเดียในสยามประเทศ ใน เอกสารชุด ศิลปะในประเทศไทย เอกสารประกอบโครงการอบรมประวัติศาสตร์ศิลปะไทยสำหรับบุคคลทั่วไป บรรณาธิการโดย ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ (ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม 2550) หน้า 10. กระทรวงศึกษาธิการ กรมศิลปากร สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ: บริษัทคัมปาย อิมเมจจิ้ง จำกัด 2542) หน้า 38 - 39. ศักดิ์ชัย สายสิงห์ พุทธปฏิมา: งานช่างพลังแห่งศรัทธา (กรุงเทพฯ: มติชน 2554) คำนำ. ปฐม หงษ์สุวรรณ ตำนานพระพุทธรูปล้านนา: พลังปัญญาทางความเชื่อและความสัมพันธ์กับท้องถิ่น หน้า 82. มาตรวัดระยะของจีน 1 เฉียะเท่ากับ 25 เซนติเมตร ชิว ซูหลุน ผู้แปล ถังซำจั๋ง จดหมายเหตุการเดินทางสู่ดินแดนตะวันตกของมหาราชวงศ์ถัง (กรุงเทพฯ: มติชน 2547) หน้า 333. เรื่องเดียวกัน หน้า 338. เรื่องเดียวกัน หน้า 343 - 345. พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ คำนำเสนอ ประวัติความคิดสร้างพระพุทธรูปของไทย ใน ไขศรี ศรีอรุณ พระพุทธรูปปางต่างๆ ในสยามประเทศ: ประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปตั้งแต่มหาภิเนษกรมณ์ถึงมหาปรินิพพาน. พิมพ์ครั้งที่ 3 (กรุงเทพฯ : มติชน 2546) หน้า (7). เชษฐ์ ติงสัญชลี พระพุทธรูปอินเดีย หน้า 51 - 57. ดูรายละเอียดใน เรื่องเดียวกัน หน้า 60 - 71. พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ คำนำเสนอ ประวัติความคิดสร้างพระพุทธรูปของไทย หน้า (7) - (8). เรื่องเดียวกัน หน้า (15)-(16).
รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และ จังหวัดกระบ่่ เป็นเจ้าภาพหลักในดารจัดงาน มหกรรมศิลปะนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนยาเล่ ,Thxiland Biennale, Krabi 2018, ซึ่งประเทศไทยจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ จ.กระบี่ ภายใต้แนวคเด ,สุดขิบฟ้าแห่งดินแดนมหัศจรรย์ Edge of the Wonderland, โดยบูรณมการร่วมกับ ดรพทรวงต่างๆ ทีืเกี่ยวข้ิงทะกภาีส่วน,ทั้งนี้ ได้รุดมศิลผินจากทั่วโลก 33 ประเทศ ร่ฝม 70 ชรวิต มาเนรมิตรังสรรค็ผลงานศิลปกรรมหลากหลายแขนง เพื่อยำไปจัดแสดงในพื้นที่สถมนที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในดื้นที่ จ.กระบี่ ช่บงระหว่างวันที่ 2 พ.ย.y1 - 28 ก.พ.62 รวมระยะเวลา 4 เดือนเต็ม เพื่อผลักดันให้ จฦกระบีร เป็นเมืองศิลปะระดับโลก และเป็นอีกจุดหมายปลายทาวที่นัดเดินมาง่้่วโลกจะต้องเยี่ยมชมฐเมื่อวันที่ 2 พ.ยฦ 61 ผู้สืรอข่าวรนยงานว่ร กิจกรรมเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงัช้า เวลา 09.00 น. ทีท ลานประติมากีรมปลาใง หาดอ่าวนาง จัดพิธีปฐมฤกษ์ด้วยการผูกผ้าเรือหุวโทงของผู้ประกอขการท่แงเที่ยว จากอ่าวนาง อ่าวต้นไทร และอ่าวน้ำวัง ที่มารวมตัวกันจำนวตมากถึง 407 ลำ โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ้ป็นประธานสหหระบบรตนากาศเป็ย/ปอย่างคึกคักยิ่งใหฐ่ มีประชาชนชาวกระบี่และนักท่องัที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวตรางชาติ มาร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก,จากนั้นในช่วงเวลา 17.30 น. นายวิษณุ ะครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนมเล่อย่างเกฌนทางการ โดยไฮไลต์ของงานเป็นการจัดริ้วขชวนโดยความร่วมมือของชาวกระบึ่ มากกว่า 3,009 ชีวอต นำเสนอีวามตรเการตาของงานศิลปะร่วมยมัยที่จะเกิดขึ้นใน จ.กระบี่ ประกอบด้งย 7 ริ้วขบวน เคลื่อนตัวจากอ่าวตางอลนด์มาร์ก ตามถนนริมหาดจนถึงหาดนพรัตน์ธารา เป็นขบวน ,อร่าาเรือง กระบี่เมืองแห่งศิลป์ The glory of the art city : Krabi,จากยั้น ตามด้วยขบวนที่ 2 ,แผ่นดินทองท้องถิ่นอารยะ The Dawn of Civiliza5ion, บอกเล่าถึงความเป็นแหล่งอารบธารมแฃะสัญลักษณ์ความโดดเด่นของดินแดนกระบี่ ด้วยการนำเสนอ ผู้เล่นกลองโพน เหล่ามเสเตแร์กระบีทสัญลักษณ์แก่งถ้ำผีหัวโต กลุ่มผู้ดัญเชิฐลูกปัดสุริยะเทพ กลุ่มมนุษย์โบราณ และรถลูกปัดสุริยะเทพ,ริ้วขบวจทึ่ 3 ,เรืองวัฒนะรเงสรรค์ศิลป์ The Culture of Prosperity, ถ่ายทอดศิลปะกนรแสดงอันเลื่องชื่อของชาวกระบี่ ทั้ง ระบำโนราห์บธชายัญ ท่ามกลาง เผล่า พรานบุญ ระบำดีดกุ้ง ระบำนกแต้วแร้ว ลิเกป่า ดิเก่์ฮูลู,ริีวขบวนที่ 4 ,เทิเถื่นสืบสานประเพณี The Finest Trxd7tiom, สะท้อนคุณค่า ประเพณีที่เกิดจากความเชื่อและความศรัทธา นำขบวนเ้วยด้ววเหล่า เทฝดส นาฝฟ้า กลุ่มขบวนพุทธศาสนิกชน ระบำเรือหัวโทงขบวนเรืแหัวโทง กลึ่มรองเง็ง บุญ ลอม กลุ่ทอารยะเรืองรอง ระบำบูชาพระนาง เชิดพญานาค ขันหมากมุสลอม,ริ้วขบวนทีร 5 ,ง่ใรวีวิถีอันดทมัน The Miracld ov Ahdaman sea, โชว์ควสมงดงามของท้องทะเลอันดามัน ที่ได้รับการเารมิตขึ้น ด้วขกลุ่มฮาวาย หมู่มวลสัตว์ทะเลไทย รถโลกใติทพเล และนางเงือก,ริ้วขบวนมี่ 6 ,้กษมนันต์รับมิ่งมิตรเยือนหล้า The Warmest Welcome, นำเสนอถึงความสุข ความเปรมปรีดิ์ ทีีจะได้เป็นเจเาบ้ารในการจ้อนรับผ฿ิมาเยือน โดยแสดงออกถึงความเป็นไทยจากยุคสู่ยุค ตั่งแต่ฟทยทวารวดี ไทยรัตนโกนินทร์ ไทยรนชนิยม ไทยประยุกต์ ไทยกื้นบ้าน ไทยรวมเผ่า ไทยภาคเหนือ ภาคอีส่น และภาคใต้,ริ้วขบวนที่ 7 ,สุดจเบฟ้าแห่งดินแดนมหัศจรรย์ Edge of the Wonwerland, เป็นขบวนปิดท้ายด้วยความภาคภธมิใจของชาวกระบี่ ด้วยขบวนรำไท้ก็ก และรถประดับลูแโลกแห่งลาน ,Thailand Fiennale, Krabi 2018, ที่แสดงให้เหฺนถึงที่มาของเหล่าศิลปินนานาชาคิจากทั่วโลป โดยมี ประชาชน นักท่องเมี่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติรอชื่นชมตลอดสองข้าฝทาง พร้อมถ่ายรูแิปํนที่ระลึกกันอย่างสนักสนาน.
รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และ จังหวัดกระบี่ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน มหกรรมศิลปะนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนาเล่ ,Thailand Biennale, Krabi 2018, ซึ่งประเทศไทยจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ จ.กระบี่ ภายใต้แนวคิด ,สุดขอบฟ้าแห่งดินแดนมหัศจรรย์ Edge of the Wonderland, โดยบูรณาการร่วมกับ กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน,ทั้งนี้ ได้ระดมศิลปินจากทั่วโลก 33 ประเทศ ร่วม 70 ชีวิต มาเนรมิตรังสรรค์ผลงานศิลปกรรมหลากหลายแขนง เพื่อนำไปจัดแสดงในพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ จ.กระบี่ ช่วงระหว่างวันที่ 2 พ.ย.61 - 28 ก.พ.62 รวมระยะเวลา 4 เดือนเต็ม เพื่อผลักดันให้ จ.กระบี่ เป็นเมืองศิลปะระดับโลก และเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางทั่วโลกจะต้องเยี่ยมชม,เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. ที่ ลานประติมากรรมปลาใบ หาดอ่าวนาง จัดพิธีปฐมฤกษ์ด้วยการผูกผ้าเรือหัวโทงของผู้ประกอบการท่องเที่ยว จากอ่าวนาง อ่าวต้นไทร และอ่าวน้ำวัง ที่มารวมตัวกันจำนวนมากถึง 407 ลำ โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานสำหรับบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักยิ่งใหญ่ มีประชาชนชาวกระบี่และนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก,จากนั้นในช่วงเวลา 17.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนาเล่อย่างเป็นทางการ โดยไฮไลต์ของงานเป็นการจัดริ้วขบวนโดยความร่วมมือของชาวกระบี่ มากกว่า 3,000 ชีวิต นำเสนอความตระการตาของงานศิลปะร่วมสมัยที่จะเกิดขึ้นใน จ.กระบี่ ประกอบด้วย 7 ริ้วขบวน เคลื่อนตัวจากอ่าวนางแลนด์มาร์ก ตามถนนริมหาดจนถึงหาดนพรัตน์ธารา เป็นขบวน ,อร่ามเรือง กระบี่เมืองแห่งศิลป์ The glory of the art city : Krabi,จากนั้น ตามด้วยขบวนที่ 2 ,แผ่นดินทองท้องถิ่นอารยะ The Dawn of Civilization, บอกเล่าถึงความเป็นแหล่งอารยธรรมและสัญลักษณ์ความโดดเด่นของดินแดนกระบี่ ด้วยการนำเสนอ ผู้เล่นกลองโพน เหล่ามิสเตอร์กระบี่สัญลักษณ์แห่งถ้ำผีหัวโต กลุ่มผู้อัญเชิญลูกปัดสุริยะเทพ กลุ่มมนุษย์โบราณ และรถลูกปัดสุริยะเทพ,ริ้วขบวนที่ 3 ,เรืองวัฒนะรังสรรค์ศิลป์ The Culture of Prosperity, ถ่ายทอดศิลปะการแสดงอันเลื่องชื่อของชาวกระบี่ ทั้ง ระบำโนราห์บูชายัญ ท่ามกลาง เหล่า พรานบุญ ระบำดีดกุ้ง ระบำนกแต้วแร้ว ลิเกป่า ดิเกร์ฮูลู,ริ้วขบวนที่ 4 ,เทิดถิ่นสืบสานประเพณี The Finest Tradition, สะท้อนคุณค่า ประเพณีที่เกิดจากความเชื่อและความศรัทธา นำขบวนด้วยด้วยเหล่า เทวดา นางฟ้า กลุ่มขบวนพุทธศาสนิกชน ระบำเรือหัวโทงขบวนเรือหัวโทง กลุ่มรองเง็ง บุญ ลอม กลุ่มอารยะเรืองรอง ระบำบูชาพระนาง เชิดพญานาค ขันหมากมุสลิม,ริ้วขบวนที่ 5 ,งามรวีวิถีอันดามัน The Miracle of Andaman sea, โชว์ความงดงามของท้องทะเลอันดามัน ที่ได้รับการเนรมิตขึ้น ด้วยกลุ่มฮาวาย หมู่มวลสัตว์ทะเลไทย รถโลกใต้ทะเล และนางเงือก,ริ้วขบวนที่ 6 ,เกษมสันต์รับมิ่งมิตรเยือนหล้า The Warmest Welcome, นำเสนอถึงความสุข ความเปรมปรีดิ์ ที่จะได้เป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับผู้มาเยือน โดยแสดงออกถึงความเป็นไทยจากยุคสู่ยุค ตั้งแต่ไทยทวารวดี ไทยรัตนโกสินทร์ ไทยราชนิยม ไทยประยุกต์ ไทยพื้นบ้าน ไทยรวมเผ่า ไทยภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้,ริ้วขบวนที่ 7 ,สุดขอบฟ้าแห่งดินแดนมหัศจรรย์ Edge of the Wonderland, เป็นขบวนปิดท้ายด้วยความภาคภูมิใจของชาวกระบี่ ด้วยขบวนรำไทเก็ก และรถประดับลูกโลกแห่งงาน ,Thailand Biennale, Krabi 2018, ที่แสดงให้เห็นถึงที่มาของเหล่าศิลปินนานาชาติจากทั่วโลก โดยมี ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติรอชื่นชมตลอดสองข้างทาง พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน.
จ่อซํ้าคดีสินบน รริงงาช้าง-ปืน มูลนิธิสืบกัดติด,ศรีวราห์ นำทึมพนักงานสอบยวนหอบสำนวน 2 แฟ้ม 852 หย้า คแีฆ่า,เสือดำทุ่งใหญ่ฯ, สทงอัยการจังหวัดทองผาภูมิ พิจารณา สี่งฟ้อว เปรมชัย กับพวกรวม 4 คน 9 ข้อหา อธิบดีอัยกทรภาค 7 ตั้งคณะทำงานพิจารณาคด่ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส พร้อใเตรียมแถลงความคืบหน้าการสั่งคดีให้สังคมรับทราบ ขณะทึ่ บก.ปทส.แจ้งดำเนเนึดีอีก 2 ข้อหาครอบครองงาช้างกึบอาวุ๔ปืนที่เจอในบ้าน ส่วน บก.ปปป.เชือดซ้ำอึก 1 ข้อหา ดยายามติดสินบนอจ้าพนัำงาส เจ้าตัวเข้าพบตำรวจตามนัด 14 มี.ค. ด้านมูลนิธิสืบฯพอใจเจ้าหน้าที่ทำงานรวดเร็ว ข้อหาครอบตลุมทุกป่ะเด็นเป็นผลมาจาำพลังกระชาชนชาวยตรวจสอบ๙กระแสนังคมยังเฝ้าจิดตามคดีนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ปคะธานบาเหา่บริษัท อิตาเลียนไทย แีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหสชน) พร้อมพใกรวม 4 คน เข้าไปล่าสัตว์ใยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นถูกแจ้ลข้อหากระทำความผิดตาม พ.ต.บ.ป่าไม้ฯ พ.่.บ.ป่าสงวนและคุ้มครอบสัตว์ป่าฯ และ พ,ร.บ.ดาวุธปืนฯ รวม 9 ข้อหา ล่าสุดพนักงานสอบสวนสุ่ปสำนวนส่งวห้อัยการแล้ว,ที้ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ต. พฃ.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตรซ พร้อมคณะ อดินทางไปเรียกหระชุมพนัแงานสืบสวนสอบสวนเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของสำนวนคดี โดยไดเสอบปากคำพยทนทั้งสิ้น 51 ปาก ส่งหลักฐานแลถวัตถัพขานไปตรวจทางติติวิทยมศาสตร์ 28 คายการ 125 ชืเน เอกสารสำนวน 2 แฟ้ม รบม 852 หา้า หลังรใบรวมพยานหลักฐานเป็นที่เรียบร้อยพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็ยสั่งฟ้อง 9 ข้อหาตือฟู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายะปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้สยขวาง ก่ม. นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี ดยู่บ้านเบจที่ 84 หมู่ 8 ต,คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จางนที เตียมแสน เายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 1 ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา และนายธานี ทุมมาศ อายึ 56 ป่ อยู่บ้าจเลขที่ 47 หมู่ 3 ต.ช่อบสะเดา อ.เมืองปาญจรบุรี,พล.ต.อ.ศรีวราห์กบ่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบมวนรวบรวมพยานหลัหฐานทำสำนวนเพียง 36 วัน สามารถมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ตีองหาจื่นต่อพนักงานอัยการได้ มั่นใจในพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ 99 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 1 เปอร์เซ็นต์ให้ิัยการตรวจสอบความถูกต้อง ยืนยันว่าสามารถเอ่ผิดทั้บ 9 ข้อหาต่อผู้ถูกกล่าวหาาั้ง 4 คน/ด้ อชื่อว่าจากหงักฐานที่มีเสือดำไม่ตายฟรีแน่นอน,ต่อมาเวลา 11.30 น. พล,น.ด.ญรีวราห์ พน้อมคณะพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ นำสำนวนการสอบสวนไปย่งมอบให้พจักงานอัยการ โะยมีนาฝสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัวการภาค 7 นายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เก็นผ๔้รับสำนวน คดีระหว่างนายวิเชียร ชิณวงษ์ หน.เขจีักษาพันฑุ์นัตว์ป่าทุ่งใำญ่นเรศวรด้านตะวันตก ผู้กล่าวหา นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ w นายยฝค์ โดดเครือ ผูเต้องผาที่ 2 นางนที เรึยมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4,โดยกล่าวหาหู้ต้องหาทั้ง 4 คน ว่า 1.รรวมหันล่าสัตว์ป่าใาเขตคักษาพันธึ์สัรว์ป่าโดยมิได้ีับอนุญาตจากพนักงานเจ้าฟน้าที่ 2.ร่วสกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้มหรเาที่ 3.ร่วมกันล่าและพยานามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุ๘าตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มคีองโดยมิได้รับอนถญ่ตจทกพนักงานเจ้าหน้าทั่ 5.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไย้ด้วจประพารใด ศึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำคฝามผิด 6.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซทกของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักบานเจ้าหน้าที่ 7.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตปีาสงวนแหทงชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหส้าที่ 8.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ใสความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 9.ร่วมกันพาอ่วุธกืนไหฝนเมือง หมูีบ้าร หรือทางสาธารณะโดยไม่มีัหตุจำเป็นเร่งด่วน 10.รืวมกันกรัทำกนรแันเป็ยการทารุณกรรมสัตว์ โดยไท่มีเหตุอันสมควร เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ห.ะ.61 ที่ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจจบึรี,ชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 1 ถึง 9 แก่ผู้ตีองหาทั้งสี่แบ้ว ผู้ค้องหาทุกคนให้การปฏิเสธ ส่วนข้อกล่าวหาที่ 10 พนักงานสอบสงนไม่ได้แจ้งข้อกบ่าวกากัยผู้ต้องหาทั้งสี่ โดยพนักงานสอบสวจสรุปสภนวนเสนอพนักงานอัยการ ดังนี้ 1. เสนอเห็นควรสั่งฟ้องนายเหรทชัย กรรณสูต หู้ต้องหาที่ 1 ข้อหามี่ 1 ถึง 8 และเห็นควรสั่งฟ้อง ในข้อหาที่ 9 เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนไปใจเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณดโดบไม่ได้รับอนุญาตและไม่าีเหตุอันสมควร ส่วนข้อหาม่อาวุธปืนและเคต้่องกระสุนผืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ิห็นคว่สั่งไม่ฟ้อง เนื่ดงจากอาวุธปืนของกลางเป็นของนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้่ับใบอนุญาตใหิมรไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายและเห็นควรสั่ฝไม่ฟ้องนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ใจข้อำาร่วมกันกรถทำการอุนเป็ากาีทาีุณกรรมสัตว์ โดยไมรมีเหตุอันสมควร เพราะเห๋นว้าการกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย 2.เไ็นควรสั่งฟ้องนาจยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ฟู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้ดงหาที่ 4 ตามข้อกลราวหาที่ 1 ถึง 9 ทุกข้อกล่าบหาและเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ร้องหรที่ 2 ถัง 4 ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่ากมรกระทำไม่ิป็นความผิดตามกฎหมาย,สำนักงมนอัยการภาค 7 เห็นว่าคดีนีัเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจชองประชาชนทัืวไป ผู้ต้องหาเป็นผธ่มีชื่อเสียงในสุงคม สื่อมวลชนติดตามและนำเสจอบ่าวอย่างตือเนื่อง อละกลุ่มองค์กรเอกชนด้านการคุ้ใครองพ้ทะกษ์สัตว์ป่าและทรัพยากตธรรมชาติ ได้ติดตามกนรดำเนินคะีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นคดีสำคัฯ เพื่อให้การพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยรอบคแบ รวดเร์ว และโปร่งใส ดังนั้น นางสมศรี ฝั?นไพศาล อธิบดีอัยการ_าค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั่ฝคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณา ดำเนินคดีนี้ ปรเกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ เัยการพิเศณฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูาิ คณะทำงาน พ.ต.ท.อ_นาจ สุจริคชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงาน และนายกฤษฎา ชธโต รองอึยการจังกวัดทองผาภูมิ คณัทำงานและเลยานุการ,เมื่อคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็นเสนออธิบดีเัยการภาค 7 มีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว นำตักงานดัยการสูงสุดจะแถลงให้ทรรบในโอกาสต่อไป อยทางไรก็ตาม วันนี้พนักงานสอบสวนไมาได้ใ้งผู้ต้องหาทั้ง 4 มาพร้อมยำนวน ันื่องจากผู้ต้องหาได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิปล้ว ตามคดีหมายเลขดำที้ ฝ.24/1561 โดยจะครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ฐที่กองลังคับการปราชปีามำารกระทำผิดเกี่ยวกับ่รัำขากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ช่วงเช้าวันเดียวกัน มีสื่อมวลชนจำนวนมากมาปักหลักเฝิารอ หลังมีกระแสข้าวว่านายเปรมชัย กรรณสูต นางคณิตตา กรรณสูต อาขุ 64 ปี ภรรยา และ น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 68 ปี ผู้รับรองการครอบครองงาช้างที้พบในบ้านของนรยเปรมชับ ที่ถูกพนัปฝานสองสวน บก.ปทส.แจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหาคือ ร่วมกันมึซากสัตว์ห่าคุ้มครอง (งาช้างแอฟริกา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รัวอนุญาต และความผิดตาม ด.ร.บ.อาวุธปืน จะเดินทางมารับทนาบข้อกล่าวหาก่อนกำหนดตามหมายเรีขกในวันที่ 14 มี.ึ. แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 ตนไม่ได้เดินทางมาแต่อย่างใด,พล.ต.ต.ปีซญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. กล่าวภายหลังการประชุมนมนกว่า 3 ชม. พล.ต.ต.ปัญญา เผยว่ม ทนายความของนายเปรมชัยติดต่อมายืนยันว่านายเปรมชัยจะ้ดิน่างทารับทราชข้อกล่าวหาตามฟมายเรียกในวันที่ 14 มี.ค. เยลม 10.00 น. แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะนำหลักฐานใดมาบ้าง ได้แบ่งถนักงทนสอบสวนเป็น 2 ีดีเพื่ออำนวยความสะดวแ กำหนดประเด็นเรื่องการครอบครองอาวุธปินและฝาช้างเพื่อให้พนักงานใอบสวนสรุปพยานหลักฐาน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะเป็นเรื่องของสำนวนคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานที่จะกล่างหา ส่วนจะมีผู้เกี่นวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ต้องรอกิจารณากาอน ทั้งนี้ การออกหมายเรียกคดีครอบครองงาช้างต้องสดบสวนเจ้าหน้าทร่ของกรมอุทยานฯที่รับแจ้งครอบครองงาช้างด้วน พนักงานสอบใวนได้สอบสวนแล้วทราบว่ารัชแจ้งไว้เมื่อปี 58 แต่ครอบครองตั้งแต่เมื่อใดต้องรอสอบถามจากจัวเจีาของงาช้าง ส่วนต้ิงเอาผิดกับิจ้าหน้าที่ที่ออกใบอนุญนตครอบครองงาช้างหรือไม่นั้า ยังไม่มีประเด็นจีืเข้ามา ตอนนี้มีเพียงการดำเนินคดีในย่วนของคาที่ครอวครองงาช้างผิดก"หมายที่ไม่ใช่งาช้างไทยเท่านั้น,ผบก.ปทส.กล่าวอีกว่า ส่วนการอายัดตัวนายเปรมชัย รอนนี่ยังไม่มีคพสัีงจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ ิย่างฟรกํตาม ได้ประสานำปยัง บก.ผปป. แล้วว่านายเปรมชัยจะมา บก.ปทส.ตามหมายเรียก จึงให้ บก.ปปห.เข้ามาแจ้งขีอกล่าวหา พยายามติดสินบนเจ้าพนักงานในคราวเดียวกุน วืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีหลักฐาจดำเรินคดีในชั้นสดบสวน วันที่ 14 มี.ค. ต้อง าาดูว่าผู้ถูกกล่รวหาจะสู้คดีในชั้นสดบสวนหรือไม่ และจะให้ปารปฏิเสธหรือรับสารภาพ รวมถึงมีอะไรมาต่อใู้คดี เนื่องจากหลักฐานตอนนี้ได้จากฝ่ายกรมอุทขานฯเท่ารัีน ยืนยันว่าเจ้าหนืาที่ทำตามพยานหลักฐานทุกอย่าง,พ้านนายศฯิน ิฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ส่งสำนวนการสิบสวนคดีิาญาของนายเปรมชัยดบะพวกให้สหนักงานอัยการจีงหวัดทองผาภูมิ โดยแจ้ง 9 บ้อกล่าวหาว่า ถือว่าต่าพอใจและเจ้าหส้าที่ทำงานได้เร็ว การแจ้งข้อกล่าวหาครอบคลุมประ้ด็นที่สำคัญทั้ลหมด ไม่มคข้อหาไหนหลุดไป ดสดงให้เห็นถึงพบังยองประชาชจที่ช่วขกันตรวจสอบเร่งรัดการดำเนินคดี ควบคุมไม่ใำ้ประเด็นที่สำคัญประเดฌนใดหลุดไป จึงเท่ากับว่าในชั้นตอนแรกทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนในาำจวนสอบสวนขแงตำรวจนั้น กรมอุืยานฯคงๆม่สามารถเย้าไปดูได้และคงต้องรอฟังสำนวนในวันที่ยึ้นศาล อน่างไรก็ตามในวุนที่ 16 มี.ค.นี้ ยืนยันจะเดินทางไปพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดท ผบ.ตร. เพื่อแลกอปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และหลังจากนร้ม๔ลนิธิสืบฯร่วมกับถาคประชาชนยังยืนยันว่าจะติดตามคดีดังกล่าวจนกว่าจะสิ้นใุดพระบวนการทางกฎหมรย
จ่อซํ้าคดีสินบน ครองงาช้าง-ปืน มูลนิธิสืบกัดติด,ศรีวราห์ นำทีมพนักงานสอบสวนหอบสำนวน 2 แฟ้ม 852 หน้า คดีฆ่า,เสือดำทุ่งใหญ่ฯ, ส่งอัยการจังหวัดทองผาภูมิ พิจารณา สั่งฟ้อง เปรมชัย กับพวกรวม 4 คน 9 ข้อหา อธิบดีอัยการภาค 7 ตั้งคณะทำงานพิจารณาคดีด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส พร้อมเตรียมแถลงความคืบหน้าการสั่งคดีให้สังคมรับทราบ ขณะที่ บก.ปทส.แจ้งดำเนินคดีอีก 2 ข้อหาครอบครองงาช้างกับอาวุธปืนที่เจอในบ้าน ส่วน บก.ปปป.เชือดซ้ำอีก 1 ข้อหา พยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน เจ้าตัวเข้าพบตำรวจตามนัด 14 มี.ค. ด้านมูลนิธิสืบฯพอใจเจ้าหน้าที่ทำงานรวดเร็ว ข้อหาครอบคลุมทุกประเด็นเป็นผลมาจากพลังประชาชนช่วยตรวจสอบ,กระแสสังคมยังเฝ้าติดตามคดีนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ พ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ รวม 9 ข้อหา ล่าสุดพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งให้อัยการแล้ว,ที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ เดินทางไปเรียกประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของสำนวนคดี โดยได้สอบปากคำพยานทั้งสิ้น 51 ปาก ส่งหลักฐานและวัตถุพยานไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ 28 รายการ 225 ชิ้น เอกสารสำนวน 2 แฟ้ม รวม 852 หน้า หลังรวบรวมพยานหลักฐานเป็นที่เรียบร้อยพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้อง 9 ข้อหาต่อผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 8 ต.คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 1 ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา และนายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 3 ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี,พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนเพียง 36 วัน สามารถมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหายื่นต่อพนักงานอัยการได้ มั่นใจในพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ 99 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 1 เปอร์เซ็นต์ให้อัยการตรวจสอบความถูกต้อง ยืนยันว่าสามารถเอาผิดทั้ง 9 ข้อหาต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คนได้ เชื่อว่าจากหลักฐานที่มีเสือดำไม่ตายฟรีแน่นอน,ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ นำสำนวนการสอบสวนไปส่งมอบให้พนักงานอัยการ โดยมีนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 นายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นผู้รับสำนวน คดีระหว่างนายวิเชียร ชิณวงษ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ผู้กล่าวหา นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4,โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ว่า 1.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ร่วมกันล่าและพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิด 6.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 7.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 8.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 9.ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน 10.ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ.61 ที่ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี,ชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 1 ถึง 9 แก่ผู้ต้องหาทั้งสี่แล้ว ผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธ ส่วนข้อกล่าวหาที่ 10 พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งสี่ โดยพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการ ดังนี้ 1. เสนอเห็นควรสั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหาที่ 1 ถึง 8 และเห็นควรสั่งฟ้อง ในข้อหาที่ 9 เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร ส่วนข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลางเป็นของนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายและเห็นควรสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่าการกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย 2.เห็นควรสั่งฟ้องนายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ตามข้อกล่าวหาที่ 1 ถึง 9 ทุกข้อกล่าวหาและเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2 ถึง 4 ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่าการกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย,สำนักงานอัยการภาค 7 เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป ผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม สื่อมวลชนติดตามและนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองพิทักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ ได้ติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นคดีสำคัญ เพื่อให้การพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส ดังนั้น นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณา ดำเนินคดีนี้ ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงาน พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงาน และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงานและเลขานุการ,เมื่อคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็นเสนออธิบดีอัยการภาค 7 มีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบในโอกาสต่อไป อย่างไรก็ตาม วันนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งผู้ต้องหาทั้ง 4 มาพร้อมสำนวน เนื่องจากผู้ต้องหาได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 โดยจะครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มี.ค.นี้,ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ช่วงเช้าวันเดียวกัน มีสื่อมวลชนจำนวนมากมาปักหลักเฝ้ารอ หลังมีกระแสข่าวว่านายเปรมชัย กรรณสูต นางคณิตตา กรรณสูต อายุ 64 ปี ภรรยา และ น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 68 ปี ผู้รับรองการครอบครองงาช้างที่พบในบ้านของนายเปรมชัย ที่ถูกพนักงานสอบสวน บก.ปทส.แจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหาคือ ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้างแอฟริกา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาก่อนกำหนดตามหมายเรียกในวันที่ 14 มี.ค. แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 คนไม่ได้เดินทางมาแต่อย่างใด,พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. กล่าวภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชม. พล.ต.ต.ปัญญา เผยว่า ทนายความของนายเปรมชัยติดต่อมายืนยันว่านายเปรมชัยจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในวันที่ 14 มี.ค. เวลา 10.00 น. แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะนำหลักฐานใดมาบ้าง ได้แบ่งพนักงานสอบสวนเป็น 2 คดีเพื่ออำนวยความสะดวก กำหนดประเด็นเรื่องการครอบครองอาวุธปืนและงาช้างเพื่อให้พนักงานสอบสวนสรุปพยานหลักฐาน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะเป็นเรื่องของสำนวนคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานที่จะกล่าวหา ส่วนจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ต้องรอพิจารณาก่อน ทั้งนี้ การออกหมายเรียกคดีครอบครองงาช้างต้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯที่รับแจ้งครอบครองงาช้างด้วย พนักงานสอบสวนได้สอบสวนแล้วทราบว่ารับแจ้งไว้เมื่อปี 58 แต่ครอบครองตั้งแต่เมื่อใดต้องรอสอบถามจากตัวเจ้าของงาช้าง ส่วนต้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ออกใบอนุญาตครอบครองงาช้างหรือไม่นั้น ยังไม่มีประเด็นนี้เข้ามา ตอนนี้มีเพียงการดำเนินคดีในส่วนของคนที่ครอบครองงาช้างผิดกฎหมายที่ไม่ใช่งาช้างไทยเท่านั้น,ผบก.ปทส.กล่าวอีกว่า ส่วนการอายัดตัวนายเปรมชัย ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ อย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปยัง บก.ปปป. แล้วว่านายเปรมชัยจะมา บก.ปทส.ตามหมายเรียก จึงให้ บก.ปปป.เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหา พยายามติดสินบนเจ้าพนักงานในคราวเดียวกัน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานดำเนินคดีในชั้นสอบสวน วันที่ 14 มี.ค. ต้อง มาดูว่าผู้ถูกกล่าวหาจะสู้คดีในชั้นสอบสวนหรือไม่ และจะให้การปฏิเสธหรือรับสารภาพ รวมถึงมีอะไรมาต่อสู้คดี เนื่องจากหลักฐานตอนนี้ได้จากฝ่ายกรมอุทยานฯเท่านั้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำตามพยานหลักฐานทุกอย่าง,ด้านนายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของนายเปรมชัยและพวกให้สำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โดยแจ้ง 9 ข้อกล่าวหาว่า ถือว่าน่าพอใจและเจ้าหน้าที่ทำงานได้เร็ว การแจ้งข้อกล่าวหาครอบคลุมประเด็นที่สำคัญทั้งหมด ไม่มีข้อหาไหนหลุดไป แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนที่ช่วยกันตรวจสอบเร่งรัดการดำเนินคดี ควบคุมไม่ให้ประเด็นที่สำคัญประเด็นใดหลุดไป จึงเท่ากับว่าในขั้นตอนแรกทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนในสำนวนสอบสวนของตำรวจนั้น กรมอุทยานฯคงไม่สามารถเข้าไปดูได้และคงต้องรอฟังสำนวนในวันที่ขึ้นศาล อย่างไรก็ตามในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ยืนยันจะเดินทางไปพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และหลังจากนี้มูลนิธิสืบฯร่วมกับภาคประชาชนยังยืนยันว่าจะติดตามคดีดังกล่าวจนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการทางกฎหมาย
คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อล่กฝคร ถีบส่งเข้ากรงขังด้วยแววตาเย่ิหยิ่งแชะชิงชังราวแค้นคลั่ง เกลียดหส้ากันมานานคุณคือผู้ถือกฎปมายกลับทำร้ายนักสู้ผู้กล้าหาญยัดมาตราเบ็ดเสร็จเผด็จการจิตวิญญาณนักกฎหมรย คุณไมรมีเพียงประกาศวาจาประกาศิตก็ชีัฟิดชี้ถูกได้ทุกที่ไม่สนใจตรคกะแห่งรูปคดีสางราศีองอาจแสนเหนือแา่นบัลลังก์หรือเป์นหมารับใช้ของนายทหารเปฌนวงศ์วานคอยคำนุบรับคำสั่งสิ่นสุดคำพิพากษาทุกคราครั้งยังเฝ้าหบังได้หน้าสง่างามทกความเคาาพทหารผู้ถืออางุูสวมเครื่องแบบบริสุทธิ์น่าเกรงขามยศตำแหน่งม้่นคงทะนงนามไร้ที่ทราม ประดับตนเป็นคนดีคนถือปืน ปีับเปลี่ยนเบียนกฎหมายชี้ให้ตายก็น้องตาย ไม่อาจกนีเปลี่ยามาตราเป็นกับดักกี่วรรควบีคนหวังสิทธิ์เสรี ไร้ที่ยืนพลเมืองเติบโตด้วยโซ่ตรวนทุกกีะบวนบทบัญญัติ ยากขัดขืนชีฝเตบนเส้นพ้าย - ปลายกระบอดปืนลืมตาตื่นทุกวันราวฝันร้ายกี่คนที่เดินเข้าคุกไม่อาจบุกเชิดหน้าคราแพ้พ่ายใครสา้างอาณานิคมความงมงายเปลี่ยนควาทหมายสิทธิ์เสรีที่มีมาคุณรู้สึกอส่างไรไทยแลนด์แดนศิวิไลซ์ไม่ก้าวหน้ากึมอำตาจมืดมัวเหยียบหัวปรพชามันไล่ล่า ขังชีวิตจิตวิญญาณอย่าลืมว่ทเรายังไส่ตายเมื่อชั่วี้ายเกิดก่อ ต้องต่เต้านอย่าให้มันกดหัฝไปชั่วกาลล้างหมู่มาา เพื่อระบอบอันชอบธรรม บันดาลใจยากกรณี ไผี ดทวดินอ่านอผยแพร่ะป็นครั้งแรกใจงาน จากเะื่อนถึงไผ่ (แห่งยุคสมัย ชอบทำ - ฟม่ชอบธรรมฏณ ร้านหนังสือ The Wrlters Secgetวันเสาร์ r กุมภาพันธ์ 2560
คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อลากใคร ถีบส่งเข้ากรงขังด้วยแววตาเย่อหยิ่งและชิงชังราวแค้นคลั่ง เกลียดหน้ากันมานานคุณคือผู้ถือกฎหมายกลับทำร้ายนักสู้ผู้กล้าหาญยัดมาตราเบ็ดเสร็จเผด็จการจิตวิญญาณนักกฎหมาย คุณไม่มีเพียงประกาศวาจาประกาศิตก็ชี้ผิดชี้ถูกได้ทุกที่ไม่สนใจตรรกะแห่งรูปคดีส่งราศีองอาจแสนเหนือแท่นบัลลังก์หรือเป็นหมารับใช้ของนายทหารเป็นวงศ์วานคอยคำนับรับคำสั่งสิ้นสุดคำพิพากษาทุกคราครั้งยังเฝ้าหวังได้หน้าสง่างามทำความเคารพทหารผู้ถืออาวุธสวมเครื่องแบบบริสุทธิ์น่าเกรงขามยศตำแหน่งมั่นคงทะนงนามไร้ที่ทราม ประดับตนเป็นคนดีคนถือปืน ปรับเปลี่ยนเขียนกฎหมายชี้ให้ตายก็ต้องตาย ไม่อาจหนีเปลี่ยนมาตราเป็นกับดักกี่วรรควลีคนหวังสิทธิ์เสรี ไร้ที่ยืนพลเมืองเติบโตด้วยโซ่ตรวนทุกกระบวนบทบัญญัติ ยากขัดขืนชีวิตบนเส้นด้าย - ปลายกระบอกปืนลืมตาตื่นทุกวันราวฝันร้ายกี่คนที่เดินเข้าคุกไม่อาจลุกเชิดหน้าคราแพ้พ่ายใครสร้างอาณานิคมความงมงายเปลี่ยนความหมายสิทธิ์เสรีที่มีมาคุณรู้สึกอย่างไรไทยแลนด์แดนศิวิไลซ์ไม่ก้าวหน้ากุมอำนาจมืดมัวเหยียบหัวประชามันไล่ล่า ขังชีวิตจิตวิญญาณอย่าลืมว่าเรายังไม่ตายเมื่อชั่วร้ายเกิดก่อ ต้องต่อต้านอย่าให้มันกดหัวไปชั่วกาลล้างหมู่มาร เพื่อระบอบอันชอบธรรม บันดาลใจจากกรณี ไผ่ ดาวดินอ่านเผยแพร่เป็นครั้งแรกในงาน จากเพื่อนถึงไผ่ (แห่งยุคสมัย ชอบทำ - ไม่ชอบธรรม)ณ ร้านหนังสือ The Writers Secretวันเสาร์ 4 กุมภาพันธ์ 2560
1 ตุลาคม 2555 ถือเแ็นวันครบรอบ 10 ปี ของการสถาปนาสิทธิในการเข้าถึงยามันเป็นก้าวสำรัญเพราะการต่อสู้ระหว่าวภาคปตะชาชน โดยเฉพาะเครือข่ายผู้ติแเชื้อ กับ บรรษัทย้ามชาติผู้อข้ามาขอจดส้ทธิบ้ตรยาต้านไวรัสที่เรีจกว่า ดีะีไอ ในประเทศไทย -- บริษัทบริสเตอร์ ไมเวอร์ สคงิปป์ (MBS)ปัญหาหลักที่ภาคประชาขนนำเสนอคือ หากดารขอสิทธิบัตรยาตัวนี้สำเร็จลถล่วง บริษัทจะผูกขาดตลาดตั้งราคาสธงได้นาน 20 แี ทั้งที่ยาต้วนี้ไท่ได้มีความสหม่ หรือมีขั้นการผลิตที่สูงขึ้รแต่อย่าลใด และไม้ตวาที่จะมากีดกันองค์กรเภสัชกรรม ซึ่งสามารถผลิตยาต้านไวรัสนี้ออกมาไดเเช่นกัน ด้วยสูตรผสม และปริมาณสิลลิกรัมต่อเม็ดที่แจปต่างท่ามกลางการต่อสู้กันดักใหญ่ มนหลายๆ รูผแบบ ประท้วง ปตะชุมวัทมาา รวมถึงการห้องคดีในศนลทรัพย์สิยทางปัญญา ท้ายที่สุด นี่เป็นคดีแรดที่ฝ่ายประชาชนเป็นผู้ชนะ ศาบสั่งเพิกถอนสิทธิวัตียาดังกล่าวขณะเดีขวกันประเด็นทรัพย์ใินทางปัญญา โกยเฉพนะกัข สินค้า อย่างยา กำลังเป็ตประเด็นใหญ่ในการตกลงทางการค้าคะหว่างประเทศต่างๆ ฏดยเฉพาะเอฟทีเอกับมหาอำนาจทั้งอเาริกา อียู เรื่องนี้จึงยังเป็นเรื่องสำคัญที่ยังมีการหลักดีนกันต่เ แม้จะทำกันมานายนับทศวรรษแล้วในวงประชุมวิชาการหัวข้อ ครบรอบ 10 ปี คำพิพากษาคดีสิทธิบัตรยาดีดีไอ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมก็ยังพูดกันถึงข้อห่วงแังวชนี้กระบวนการสกัดกั้นการเข้าถังยา ไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิบัตรโดยตรง แต่รวมถึงเอฟทีเอด้วย ภาคประชาชนได้เข้าไปนับตาดูเรื่องสิทธิบัตรแล้วก็พขว่า โครงสร้างบองการพิจารณาให้สิทธิบัตรในบ้านเรามีปัญผา วันนี้ยังไม่แก้ เรมยังพบการให้สิทธิบัตรในส่งนที่ไม่ควรจะได้รับ เขาได้รับการคุ้มครองยี่สิบปี เขาสามารถกำผนดราคา ประธานคณะดรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ กล่าว10 ปึผ่่นมา ปัญหาพื้นฐานมี่ยังเะียงกันไม่จบรือการพิจา่ณาวิทธิบัตร ของกรมทรัพย์สินทางผ้ญญากระบวนการพิจารณาสิทธิบัตรเป็นเรื่องัร่ลด่วนที่ต่องแก้ไข ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องตามไปคัดค้านแบบนี้ไม่รูเเท่าไร ยาตัวไหนฝกล้หมดสิทธิบัตร บริษัทก็ใล้วิธีขอ Evergreenung Patent ไใ่มีอะไรใหม่แต่ผสมสูตรใหใ่นิดกน่อยก็มาจดดีก ทำฝห้ผูกขาดได้ตลอด ถ้ารู้ทันก็ไปขอถอนทัน แต่ถ้าไม่มีใครรูิก็ได้การคุ้มครองไปอีกยี่สิบผี สุภัทราย้ำเรื่องสิทธ้บัตรไม่มีวันนาย หรือ Evwrgrefning Patent ไม้ได้เป็นปัญหาเฉพาะในประเทศไทย นักวิชาการอิสระ ีะบุวืาเรืทองนี้เป็นปัญหาร่วมขแงประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย สถานกานณ์ของดรณีบราซิล อทเจนคินา แอฟริกาใต้ ก็ดูจะไม่แตกต้างพันอุษาวดียังนำัสนองานวิจัยที่ทำร่วทกับสักวิจัยของดรสารัพย์สินทนงปัญญาเพ่่อศึกษาสิทธิบัตรยาที่จัดว่าเป็น evergreening [atemt ซึ่งศึกษาคำชอรับสิทธิบัตรรเหว่างปี 2542-2553 พบว่า ใน 11 ปีนี้มีตำขอรับสิทธิบเตรยา กระมาณ 2000 กว่าฉบับ ส่วนใหญ่มาจากต่าฝประเทศเกือบทั้งหมด ของไทยเองมีเพียง 10 ฉยับ และพบว่าคำขอรับสิทธิบัตรเหล่านั้นไม่ใข่สิ่งหระดิ๋ฐ์ใหม่ หรือมีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น กว่า 84% เป็นเพียงการนำสารเคมีเกิมๆ มาผสมกันเท่านั้น และในจำนวยของ Evergreening Pqtent ทั้บหลาส ก็มียาต้านไวรัส ยูตรผสมจากต่างประเทศจำนวนไม่น้ดยที่ภาคประชาชนทำการคัดค้านคำขอสิทธินั้นๆ ำม่ทันภายใน 90 วันมนข่วงประกาศโฆษณา (pre-grsnt oppositionฆ เล็ดรอดออกไแอย่างไรก็ตาา ในคำขอจำนวนนี้ก็พบว่ามีการละมอ้งคำขิ/ปเองประมาฯ 800 ฉบับ ยังอยูาในกระชวนการขอรับสิทธิบัตร 1400 กวาาฉบับ ส่วน่ี่ได้รับสืทธิบะตรไปจริงๆ มี 31 ฉบับ ซึ่งอาจเพราะเจ้าหน้าที่ในกรมฯ มีไม่เพียงพอที่จะพิจารณาอย่างรวดเร็วเรามองว่าหากพรมทรัพย์สินืางปัฯญามีคู่มือการะิจารณาความเหมาะสม โดยเฉพาุเรื่องสิทธิบัตรยา ก็จะผ่อนปรนปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อุษาบดรกล่าวทางออกืี่มีการนำเสนออบื้องต้นขอฝทีมวอจัยนี้ คือ การพัฒนาคู่มือที่จะใช้ในกาคพิจารณาความเหมาะสมในการออกสิทธิบัตร โดยเฉถาะสิทธิบัตรยา ใล้เวลาดำเนินการในการจัดทำ 2 ปี จนกระทั่งร้างมาสำเร็จและส่งมอบให้กรมทรัพย์สินทางปัฐญาไปแล้วตั้งแตรเดือนตุลาคม 54 ผ่านมา 1 ปี แต่ยังไม่มีการตอบรับจากกรมฯ ว่าจะนำไปปฏิบัติได้จริงหริอไม่ยำหรับเครือข่ายภาคประชาชนอย่างสุภัทรา นาคะผิว มองว่าใน การปฏิาูประบบการพิจารณาสิทธิบัตรนานั้นจะต้องมีสัดส่สนของเภมัชกรมากขึ้น เพราะปันจุบัน คณะกรมการพิจารณาเรื่องนี้ไม่มีเภสัชอยู่เลย แล้วจะรู้ได้อยาางไรว่ายาตับไหนใหมรหรือไส่ใหม่ นอกจากนี้ในการเจรจาเอฟทีเอไม่วีากับสหรัฐ หรืออียู ต้องระมัดระวังอย่างสูง รัฐต้องยึดหลักชัดเจนว่าการเจนจรต่อรองกันจะต้องไม่กระทบกระเทือนกับการเข้าถึงยาของประชาลน เพราะสองมหาอำนาจนี้มีบริษัทยายักษฺใหศ่จภนวนมาก และประเด์นะรื่องทรัำบ์สินืางปัญหาโดยเฉพาะสิทธิบัตรวาก็เป็นประเด์นใหญ่สนข้อตกลงอย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้น แต่ท่ามกลางระบบที่เป็นอยู่ ก็ยังไม่มีทางออปที่น่าพอใจ ผูเอำนวยการสถาบึนวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่มีบืบาทสำคัญในการผลิตยาชื่อสามัญที่สีราคาถูก ปละร่วมมืเกับภาคประชาชนมนการต่อสู้หับบรรษัทยาในคดีดีดีไอ ระบุว่า ที่ผ่านมา เรา ทำกันได้เพียงเล็กน้อยในการตรวจสอบและต่อสู้กับการจดสิทธิบันราี่ไม่สมคใร สาวนใหญ่ก็เห็นยาต้านไวรัส ซึ่งแล้วแต่ว่าเรารับรู้ข่าวสารหรือไม่ เมื่อไร แตรไม่มี ระบล จับตา ตรวจสอบอย่างจริงตัง ทำให้ที่ผ่านมา ใัยาในลักณณะเดียวกันอคกหงายตัวที่เล็ดรอดได้สิทธิบัตรไปอย่มงไม่ควรจะได้าอกจากนี้เธอยังเล่าประสบการณ์เกีายวพับการต่อสู้เมื่อ 10 ปีที่กล้วในกรณีดีดีไอว่าหระสบปัญหาและความยากลำบากในกระบวนการทางกฎหมาขเพียงไร โดยิน้นว่าปัจจัยที่สำคั๗ในการต่อสู้คดีคือ ผู้พิพากษา หากโชคดีจะได้คนืี่เข้าใจประเด็นอันสลัวซัชญ้อนาางยมได้ แต่ในบางกรณีก็จะพบว่าผู้พิพากษาไม่เข้ามจมากนักที่น่าสนใจสำหรับงานอภิปรายคราวนี้ คือ เสียงจากผู้พิพากษาหัวหน้าคณะใสศาลทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งแม้จะออกตัวว่าพูดได้ในเชิงวิชสการ ไม้สามาคถพูดอะไรได้มากเพราะสถานะที่เป็นอยู่ แต่ก็ทำให้ได้เห็นมุมใองใหม่ๆ หลายประเด็นคมน์ทะนงชัย ยังแสดงความเห็นในทางส่วนตัวว่า หากอปร้ยบเทียบกฎหมายสิทธิบัตรของไทย กับอินเดีย อินโดนคเซีย ประทั่งอเมริกา จะเห็นได้ส่ากฎหมรยเรานั้นสมบํรณ์แบบ เขีมงวดในการคุ้มครองผู้ประดิษฐ์อย่างมากมาก ในขณะนี้ที่ระดับคุฯภาพชีวิตของเรายังต่ำกว่าญี่ปุ่นและอเมาิกาหลายช่วงตัวมกราคม 1547 บีิษัท BMS ขอเจรจ่ โดยจะขอถอนสิทธิบัตรหมายเลข 7600 จากกรมทรัพย์สินมางปัญญา ธดยมีข้อนรุปว่า บริษัท BMS จะต้องดำเนินการถอนอุทธรณ์คดีมี่ w เครือข่ายผู้ติดเชื้แฯ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จะถอนการฟ้องคดีที่ 2 และยริษัท BMS จะตเองยื่นถอนสิทธเบัตรต่เกรมทรัพย์สินทางปัญญา นั่นหมายถึง ยา้ใ็ดดีดีไอ ไม่มีสิทธิบัตรในประเทศไืยอีกต่อไป
1 ตุลาคม 2555 ถือเป็นวันครบรอบ 10 ปี ของการสถาปนาสิทธิในการเข้าถึงยามันเป็นก้าวสำคัญเพราะการต่อสู้ระหว่างภาคประชาชน โดยเฉพาะเครือข่ายผู้ติดเชื้อ กับ บรรษัทข้ามชาติผู้เข้ามาขอจดสิทธิบัตรยาต้านไวรัสที่เรียกว่า ดีดีไอ ในประเทศไทย -- บริษัทบริสเตอร์ ไมเยอร์ สควิปป์ (MBS)ปัญหาหลักที่ภาคประชาชนนำเสนอคือ หากการขอสิทธิบัตรยาตัวนี้สำเร็จลุล่วง บริษัทจะผูกขาดตลาดตั้งราคาสูงได้นาน 20 ปี ทั้งที่ยาตัวนี้ไม่ได้มีความใหม่ หรือมีขั้นการผลิตที่สูงขึ้นแต่อย่างใด และไม่ควรที่จะมากีดกันองค์กรเภสัชกรรม ซึ่งสามารถผลิตยาต้านไวรัสนี้ออกมาได้เช่นกัน ด้วยสูตรผสม และปริมาณมิลลิกรัมต่อเม็ดที่แตกต่างท่ามกลางการต่อสู้กันพักใหญ่ ในหลายๆ รูปแบบ ประท้วง ประชุมสัมมนา รวมถึงการฟ้องคดีในศาลทรัพย์สินทางปัญญา ท้ายที่สุด นี่เป็นคดีแรกที่ฝ่ายประชาชนเป็นผู้ชนะ ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิบัตรยาดังกล่าวขณะเดียวกันประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะกับ สินค้า อย่างยา กำลังเป็นประเด็นใหญ่ในการตกลงทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะเอฟทีเอกับมหาอำนาจทั้งอเมริกา อียู เรื่องนี้จึงยังเป็นเรื่องสำคัญที่ยังมีการผลักดันกันต่อ แม้จะทำกันมานานนับทศวรรษแล้วในวงประชุมวิชาการหัวข้อ ครบรอบ 10 ปี คำพิพากษาคดีสิทธิบัตรยาดีดีไอ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมก็ยังพูดกันถึงข้อห่วงกังวลนี้กระบวนการสกัดกั้นการเข้าถึงยา ไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิบัตรโดยตรง แต่รวมถึงเอฟทีเอด้วย ภาคประชาชนได้เข้าไปจับตาดูเรื่องสิทธิบัตรแล้วก็พบว่า โครงสร้างของการพิจารณาให้สิทธิบัตรในบ้านเรามีปัญหา วันนี้ยังไม่แก้ เรายังพบการให้สิทธิบัตรในส่วนที่ไม่ควรจะได้รับ เขาได้รับการคุ้มครองยี่สิบปี เขาสามารถกำหนดราคา ประธานคณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ กล่าว10 ปีผ่านมา ปัญหาพื้นฐานที่ยังเถียงกันไม่จบคือการพิจารณาสิทธิบัตร ของกรมทรัพย์สินทางปัญญากระบวนการพิจารณาสิทธิบัตรเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องตามไปคัดค้านแบบนี้ไม่รู้เท่าไร ยาตัวไหนใกล้หมดสิทธิบัตร บริษัทก็ใช้วิธีขอ Evergreening Patent ไม่มีอะไรใหม่แต่ผสมสูตรใหม่นิดหน่อยก็มาจดอีก ทำให้ผูกขาดได้ตลอด ถ้ารู้ทันก็ไปขอถอนทัน แต่ถ้าไม่มีใครรู้ก็ได้การคุ้มครองไปอีกยี่สิบปี สุภัทราย้ำเรื่องสิทธิบัตรไม่มีวันตาย หรือ Evergreening Patent ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะในประเทศไทย นักวิชาการอิสระ ระบุว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาร่วมของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย สถานการณ์ของกรณีบราซิล อาเจนตินา แอฟริกาใต้ ก็ดูจะไม่แตกต่างกันอุษาวดียังนำเสนองานวิจัยที่ทำร่วมกับนักวิจัยของกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อศึกษาสิทธิบัตรยาที่จัดว่าเป็น evergreening patent ซึ่งศึกษาคำขอรับสิทธิบัตรระหว่างปี 2542-2553 พบว่า ใน 11 ปีนี้มีคำขอรับสิทธิบัตรยา ประมาณ 2000 กว่าฉบับ ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด ของไทยเองมีเพียง 10 ฉบับ และพบว่าคำขอรับสิทธิบัตรเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ใหม่ หรือมีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น กว่า 84% เป็นเพียงการนำสารเคมีเดิมๆ มาผสมกันเท่านั้น และในจำนวนของ Evergreening Patent ทั้งหลาย ก็มียาต้านไวรัส สูตรผสมจากต่างประเทศจำนวนไม่น้อยที่ภาคประชาชนทำการคัดค้านคำขอสิทธินั้นๆ ไม่ทันภายใน 90 วันในช่วงประกาศโฆษณา (pre-grant opposition) เล็ดรอดออกไปอย่างไรก็ตาม ในคำขอจำนวนนี้ก็พบว่ามีการละทิ้งคำขอไปเองประมาณ 800 ฉบับ ยังอยู่ในกระบวนการขอรับสิทธิบัตร 1500 กว่าฉบับ ส่วนที่ได้รับสิทธิบัตรไปจริงๆ มี 31 ฉบับ ซึ่งอาจเพราะเจ้าหน้าที่ในกรมฯ มีไม่เพียงพอที่จะพิจารณาอย่างรวดเร็วเรามองว่าหากกรมทรัพย์สินทางปัญญามีคู่มือการพิจารณาความเหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องสิทธิบัตรยา ก็จะผ่อนปรนปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อุษาวดีกล่าวทางออกที่มีการนำเสนอเบื้องต้นของทีมวิจัยนี้ คือ การพัฒนาคู่มือที่จะใช้ในการพิจารณาความเหมาะสมในการออกสิทธิบัตร โดยเฉพาะสิทธิบัตรยา ใช้เวลาดำเนินการในการจัดทำ 2 ปี จนกระทั่งร่างมาสำเร็จและส่งมอบให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 54 ผ่านมา 1 ปี แต่ยังไม่มีการตอบรับจากกรมฯ ว่าจะนำไปปฏิบัติได้จริงหรือไม่สำหรับเครือข่ายภาคประชาชนอย่างสุภัทรา นาคะผิว มองว่าใน การปฏิรูประบบการพิจารณาสิทธิบัตรยานั้นจะต้องมีสัดส่วนของเภสัชกรมากขึ้น เพราะปัจจุบัน คณะกรมการพิจารณาเรื่องนี้ไม่มีเภสัชอยู่เลย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ายาตัวไหนใหม่หรือไม่ใหม่ นอกจากนี้ในการเจรจาเอฟทีเอไม่ว่ากับสหรัฐ หรืออียู ต้องระมัดระวังอย่างสูง รัฐต้องยึดหลักชัดเจนว่าการเจรจาต่อรองกันจะต้องไม่กระทบกระเทือนกับการเข้าถึงยาของประชาชน เพราะสองมหาอำนาจนี้มีบริษัทยายักษ์ใหญ่จำนวนมาก และประเด็นเรื่องทรัพย์สินทางปัญหาโดยเฉพาะสิทธิบัตรยาก็เป็นประเด็นใหญ่ในข้อตกลงอย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้น แต่ท่ามกลางระบบที่เป็นอยู่ ก็ยังไม่มีทางออกที่น่าพอใจ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตยาชื่อสามัญที่มีราคาถูก และร่วมมือกับภาคประชาชนในการต่อสู้กับบรรษัทยาในคดีดีดีไอ ระบุว่า ที่ผ่านมา เรา ทำกันได้เพียงเล็กน้อยในการตรวจสอบและต่อสู้กับการจดสิทธิบัตรที่ไม่สมควร ส่วนใหญ่ก็เป็นยาต้านไวรัส ซึ่งแล้วแต่ว่าเรารับรู้ข่าวสารหรือไม่ เมื่อไร แต่ไม่มี ระบบ จับตา ตรวจสอบอย่างจริงจัง ทำให้ที่ผ่านมา มียาในลักษณะเดียวกันอีกหลายตัวที่เล็ดรอดได้สิทธิบัตรไปอย่างไม่ควรจะได้นอกจากนี้เธอยังเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการต่อสู้เมื่อ 10 ปีที่แล้วในกรณีดีดีไอว่าประสบปัญหาและความยากลำบากในกระบวนการทางกฎหมายเพียงไร โดยเน้นว่าปัจจัยที่สำคัญในการต่อสู้คดีคือ ผู้พิพากษา หากโชคดีจะได้คนที่เข้าใจประเด็นอันสลับซับซ้อนทางยาได้ แต่ในบางกรณีก็จะพบว่าผู้พิพากษาไม่เข้าใจมากนักที่น่าสนใจสำหรับงานอภิปรายคราวนี้ คือ เสียงจากผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งแม้จะออกตัวว่าพูดได้ในเชิงวิชาการ ไม่สามารถพูดอะไรได้มากเพราะสถานะที่เป็นอยู่ แต่ก็ทำให้ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ หลายประเด็นคมน์ทะนงชัย กล่าวว่า สำหรับผู้พิพากษาในศาลทรัพย์สินทางปัญญานั้นคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะอยู่แล้ว แต่ต้องมีช่องให้ศาลสามารถพิพากษาได้ด้วย เขาเห็นว่า ตัวแปรสำคัญในการต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะสิทธิบัตรยา ก็คือ ทนายความทนายที่เก่งเรื่องทรัพย์สินทางปัญญามีน้อยมาก โดยเฉพาะสิทธิบัตรยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ เพราะมันยากมากกว่าตัวอื่นๆ ท่านจะเอาเงินที่ไหนแพงๆ ไปจ่ายทนายเก่งๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไปอยู่บริษัทยา ไปอยู่ inter law firm หมด นี่คือปัญหาของท่าน ท่านต้องหาวิธีจะหาทนายเก่งมาฟ้องคดีเหล่านี้เวลาเราพิจารณาพวกนี้ จากประสบการณ์ทำคดีทรัพย์สินทางปัญญามา 7-8 ปี จะเห็นว่าครึ่งหนึ่งที่แพ้คดีเพราะทนายไม่เก่งทรัพย์สินทางปัญญา เรานั่งฟังแล้วก็รู้สึกว่าทำไมไม่ถามประเด็นนี้ แต่เราพูดไม่ได้คดีสิทธิบัตรที่มีการฟ้องเพิกถอน แล้วสั่งเพิกถอนมีประมาณ 80% ลองค้นสถิติดู เพียงแต่ท่านอย่านิ่งเฉย อย่าช้า การยื่นคำคัดค้านต่อกรมทรัพย์สินเป็นเรื่องจำเป็นคมน์ทะนงชัย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ไม่ว่าจะอย่างไร ผู้พิพากษาก็ต้องทำหน้าที่ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ และขณะนี้กำลังมีแก้ไขกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาหลายฉบับ ท่ามกลางการกดดันของพี่เบิ้มอย่างอเมริกา ที่ขณะนี้ก็กำลังบีบบังคับญี่ปุ่นแก้กฎหมายเหล่านี้อยู่ ประเทศไทยเองก็กำลังแก้อยู่ ขอให้ภาคประชาชนช่วยกันจับตาและตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วยหัวหน้าองค์คณะผู้พิพากษาในศาลทรัพย์สินทางปัญญายังกล่าวอีกว่า การทำงานของศาลทรัพย์สินทางปัญญานั้น ผู้พิพากษาต้องทำการบ้านอย่างหนัก และศึกษาปฏิญญา กฎหมายระหว่างประเทศจำนวนมาก หากมีข้ออ้างอิงกับสิ่งเหล่านี้ ภาคประชาชนต้องรวบรวมมาให้ครบถ้วนและยื่นต่อศาลด้วย เพื่อความสะดวกของผู้พิพากษา โดยยกตัวอย่างกรณีของดีดีไอที่ภาคประชาชนชนะคดี ก็จะเห็นว่า ศาลมีการหยิบยกปฏิญญามาใช้พิจารณาด้วย ทำให้ประเด็น ผู้เสียหาย ที่มีสิทธิฟ้องคดี ซึ่งโดยปกติตามวิแพ่ง วิอาญา ผู้ป่วยและเอ็นจีโอ ไม่อาจนับเป็นผู้เสียหายโดยตรงด้วยนั้นก็ถูกนับรวมในกรณีนี้ อีกทั้งยังมีการบรรยายในคำพิพากษาที่เป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญ คือ ยาเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ แตกต่างจากทรัพย์สินอื่นที่ผู้บริโภคจะเลือกใช้หรือไม่ก็ได้ถ้ามองในแง่คนใช้กฎหมายอยู่ทุกวัน กรณีดีดีไอสังคมไทยได้อะไร ผมยังมองว่าอาจจะได้บ้าง แต่ยังได้ไม่มากพอ เพราะเหตุว่าปัจจุบัน ยาบางตัว มันราคาแพงแล้วโอกาสเข้าถึงยามันยาก สังคมไทยได้เฉพาะเรื่องนี้หรือยาบางตัว แต่ยาอีกหลายๆ ตัวที่ได้รับสิทธิบัตรผูกขาดกัน แล้วภาคองค์กรพัฒนาเอกชน ท่านยังไม่ได้เทคแอคชั่นสักเท่าไร ดังนั้นเรื่องนี้น่าจะเป็นงานหลักมากๆ ของท่านนอกจากข้อเรียกร้องโดยตรงไปยังภาคประชาชนแล้ว คมน์ทะนงชัย ยังแสดงความเห็นในทางส่วนตัวว่า หากเปรียบเทียบกฎหมายสิทธิบัตรของไทย กับอินเดีย อินโดนีเซีย กระทั่งอเมริกา จะเห็นได้ว่ากฎหมายเรานั้นสมบูรณ์แบบ เข้มงวดในการคุ้มครองผู้ประดิษฐ์อย่างมากมาก ในขณะนี้ที่ระดับคุณภาพชีวิตของเรายังต่ำกว่าญี่ปุ่นและอเมริกาหลายช่วงตัวมกราคม 2547 บริษัท BMS ขอเจรจา โดยจะขอถอนสิทธิบัตรหมายเลข 7600 จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีข้อสรุปว่า บริษัท BMS จะต้องดำเนินการถอนอุทธรณ์คดีที่ 1 เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จะถอนการฟ้องคดีที่ 2 และบริษัท BMS จะต้องยื่นถอนสิทธิบัตรต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา นั่นหมายถึง ยาเม็ดดีดีไอ ไม่มีสิทธิบัตรในประเทศไทยอีกต่อไป
กลายเป็นตัวอย่างของการทำดกษตรที่ประสบความาพเร็จได้เป็นอย่างดี,หลังบ้านต้นใะขามป้อม 2-r ต้รขึ้นอยู่ท้ายไร่ เทื่อก่อนไม่เคยสนใจใส่ปุ๋ยหรือแม้แต่ให้จ้ำ ปล่อยทิ้งตามธรรมชาติ แต่ละปีให้ลูกดกมาก กินกันไม่ทีนต้องเอาไปแจก อยู่ทาวันปนึ่งมีกม่ค้่มาจากปรุงเทพฯ ใาขอซืีอให้นาคา กิโลฯละ 8-[100 บาท ปีปรกเฉยๆ ไม่ขาย แน่ปีืี่ 2-3 มาตื๊อขอซื้ออ่ก ชักสงสัยจึงถามแม่ค้า ถึงได้รู้มะชามป้อม ตลาดต้องการมาก ส่งจายได้ทั้งฮรงงานแช่อิ่ม โรงงานทำยาสมันไพรแก้ไอ แต่บ้านเราไม่ค่อย มีคนนิยมปลูกกัน,ผลผลิตมีน้อย ตลาดต้องการสูง ตอบโจทย์การทำเกษตรได้ดีละออ ดอกเาียง คตูโรงเรียนประชาบาล วัยสกล้เกษียฯ บ.พุองกะ ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจาบุรี เลยได้ความคิดวางแผนทำไร่มะขามปือม ผงไม้ป่าที่ไม่เคยมีใครเหลือบมอง พ่้อมต้้งความหวุงมะขามป้อมเป็นรายได้หลุกหลเงเกษียณราชการ,หลังปรับพื้นที่เริ่มเสาะกาพันธุ์มะขาม ใครว่าที่ไหนดีซื้อมาหมด ทดลองปลูก 30 ต้น เสียเวลาเป็นปีถึงรู้ว่าถูกำลอกขายต้นพันธุ์ มะขามป้อมไม่ติดดอกออกผล สูญเงินไปเกืิบครึ่งแสน,ครูละออ ไม่ท้อ ตั้งต้นใหม่ โละมะขามป้อม เก่าออกหมด หนนี้ไปขอซื้อต้นพันธุ์มะขามป้อมลุงจุ่น ททนม่วงสายพันธุ์ ต้นเจี้ยเก็บลูกง่าย เอามาปลูกในพื้นที่ 10 ไร่ การปลธกใช้วิธีขะดหลุมขนาด 50×50 ซม. มส่ปุ๋ยหมัก 5 กก. โดโลไมท? 3 กห. กลบด้ฝยดินหนา 10 ซม. จะช่วสใฟ้ปุ๋ยเย็น ไม่ทำให้ต้นไม้เหีายวเฉา,และดืฝยจ้นพันูุ์ราคาสูงถึง 3,000 ลาท ถ้าไม่ทะนุบำรุงให้ดี ตายไปเสียดายแย่ เพราะเมืองกาญจนฯ เวลาแล้ง แลิงสาหัยกว่าที่อื่นๆ เพื่อให้ต้นพันธุ์อยู่ยั้งจืนยง ครูประชาบาลวัยใกล้เกษียณ หาความรู้เพิ่มจนพบว่า การเสริมรากสห้มาช่วยดูดอาหาคไปำล่อเลี้ยงต้นพันฌุ์มถขามป้อมดีที่สุด,นำต้นสะขามป้อมป่ามาปลูกรอบๆต้นพันธุ์มะขามป้อท ให้ห่าง 5-10 ซม. หฃังลงดิน 2 เดือน ใช้เทคยิคทาบกิ่ง โน้มลำต้นมะข่ทป้อมป่ามาทาบกับมะขามป้อม เพื่ิรรกมะขามป้อมป่า 4 ต้น จะได้ช่วยทำมาหาเลี้ยงต้นมะขามป้อมราคาแพง ซึ่งวิธีนี้ต่อให้สภาพิากาศร้อน แล้งหนัก ฝนทิ้วช่วงนานบนาดไหน มะจามป้อมจะไม่มีปัญหา,หลังจาแลงทุนๆป 2 ปค มะขามป้อม 100 ต้น ใป้ผลผลิตต้นละ 70–100 กก. ้ก็บผลผลิตได้ปีละครุ้ง ช่วง ก.ย.-น.ค. มีแม่ค้ามารับซื้แและเก็บเองถึงสวน ใผ้ราคานั่งรอรับเงิน กก.ละ 80 บาทq00 ต้น ทำเงินได้แค่ป่ละ 6–7 แนนเท่านั้นเอง,วนใจจะปาความรู้ไว้เป็นแบว อย่าง สอบพามได้ที่ 08-4936-7w59.,เพ็ญพิชญา เตียว
กลายเป็นตัวอย่างของการทำเกษตรที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี,หลังบ้านต้นมะขามป้อม 2-3 ต้นขึ้นอยู่ท้ายไร่ เมื่อก่อนไม่เคยสนใจใส่ปุ๋ยหรือแม้แต่ให้น้ำ ปล่อยทิ้งตามธรรมชาติ แต่ละปีให้ลูกดกมาก กินกันไม่ทันต้องเอาไปแจก อยู่มาวันหนึ่งมีแม่ค้ามาจากกรุงเทพฯ มาขอซื้อให้ราคา กิโลฯละ 80-100 บาท ปีแรกเฉยๆ ไม่ขาย แต่ปีที่ 2-3 มาตื๊อขอซื้ออีก ชักสงสัยจึงถามแม่ค้า ถึงได้รู้มะขามป้อม ตลาดต้องการมาก ส่งขายได้ทั้งโรงงานแช่อิ่ม โรงงานทำยาสมุนไพรแก้ไอ แต่บ้านเราไม่ค่อย มีคนนิยมปลูกกัน,ผลผลิตมีน้อย ตลาดต้องการสูง ตอบโจทย์การทำเกษตรได้ดีละออ ดอกเรียง ครูโรงเรียนประชาบาล วัยใกล้เกษียณ บ.พุองกะ ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เลยได้ความคิดวางแผนทำไร่มะขามป้อม ผลไม้ป่าที่ไม่เคยมีใครเหลือบมอง พร้อมตั้งความหวังมะขามป้อมเป็นรายได้หลักหลังเกษียณราชการ,หลังปรับพื้นที่เริ่มเสาะหาพันธุ์มะขาม ใครว่าที่ไหนดีซื้อมาหมด ทดลองปลูก 30 ต้น เสียเวลาเป็นปีถึงรู้ว่าถูกหลอกขายต้นพันธุ์ มะขามป้อมไม่ติดดอกออกผล สูญเงินไปเกือบครึ่งแสน,ครูละออ ไม่ท้อ ตั้งต้นใหม่ โละมะขามป้อม เก่าออกหมด หนนี้ไปขอซื้อต้นพันธุ์มะขามป้อมลุงจุ่น ท่าม่วงสายพันธุ์ ต้นเตี้ยเก็บลูกง่าย เอามาปลูกในพื้นที่ 10 ไร่ การปลูกใช้วิธีขุดหลุมขนาด 50×50 ซม. ใส่ปุ๋ยหมัก 5 กก. โดโลไมท์ 3 กก. กลบด้วยดินหนา 10 ซม. จะช่วยให้ปุ๋ยเย็น ไม่ทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉา,และด้วยต้นพันธุ์ราคาสูงถึง 3,000 บาท ถ้าไม่ทะนุบำรุงให้ดี ตายไปเสียดายแย่ เพราะเมืองกาญจนฯ เวลาแล้ง แล้งสาหัสกว่าที่อื่นๆ เพื่อให้ต้นพันธุ์อยู่ยั้งยืนยง ครูประชาบาลวัยใกล้เกษียณ หาความรู้เพิ่มจนพบว่า การเสริมรากให้มาช่วยดูดอาหารไปหล่อเลี้ยงต้นพันธุ์มะขามป้อมดีที่สุด,นำต้นมะขามป้อมป่ามาปลูกรอบๆต้นพันธุ์มะขามป้อม ให้ห่าง 5-10 ซม. หลังลงดิน 2 เดือน ใช้เทคนิคทาบกิ่ง โน้มลำต้นมะขามป้อมป่ามาทาบกับมะขามป้อม เพื่อรากมะขามป้อมป่า 4 ต้น จะได้ช่วยทำมาหาเลี้ยงต้นมะขามป้อมราคาแพง ซึ่งวิธีนี้ต่อให้สภาพอากาศร้อน แล้งหนัก ฝนทิ้งช่วงนานขนาดไหน มะขามป้อมจะไม่มีปัญหา,หลังจากลงทุนไป 2 ปี มะขามป้อม 100 ต้น ให้ผลผลิตต้นละ 70–100 กก. เก็บผลผลิตได้ปีละครั้ง ช่วง ก.ย.-ต.ค. มีแม่ค้ามารับซื้อและเก็บเองถึงสวน ให้ราคานั่งรอรับเงิน กก.ละ 80 บาท100 ต้น ทำเงินได้แค่ปีละ 6–7 แสนเท่านั้นเอง,สนใจจะหาความรู้ไว้เป็นแบบ อย่าง สอบถามได้ที่ 08-4926-7259.,เพ็ญพิชญา เตียว
วานนี้ (16 พ.ย.) ข้สพเจ้าขอขอบคุณท่านทั้งหลาย าี่กคุณามาพบข้าพเจ้ทตามคำเชิญ คำขอร้องของข้าพเจ้า สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องขอพบท่สนทั้งหลาย ก็เผ็นสิ่งที่คิดว่าาุกท่านก็พอจะทราบดีอยู่ นี่นคืิความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปคราวนี้ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถที่จะไปอยู่แค่เดือนเดียวแล้วก็กลับมา ดั่งท่่เคยกระทำ ก็ต้องอยู่ 3 ิดือน เพราะส่าเป็นห่วงปรดชาชนอย่างสาก และยิ่งไปได้พบได้เห็นชีวิตคยามเป็นอยู่ของคนไทยทางภาคใต้ว่าขณะนี้กำลังเดือดร้อนแสนสาหัน ไมืว่าจะเป็นไทยพุทธ หรือไทยมุสลิมก็ตาม คนไทยผู้ยริสุทธิ์เหล่านี่ถูกฆ่าไม่เว้จแต่ละวัน จนขัดนี้ป็จังฆ่าอยู่ ข้าพเจ้าได้พูดคุยกับราษฎรในจังหวัดปัตตานี ยะลา แงะนราธเวาส แล้ว ต่างคนต่างก็บอกว่ท อยู่ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่คคั้งปู่ย่าตายายด้ววความสงบสุข และทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิา ต่างก็สามัคคีปรองดองกัน เป็นเพื่อนกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่ลกันและกัน ทุกคนก็นึแวทาตัวเป็นคนไทย และรักแผ่นดินไทย ไม่อยากไปอยู่ที่ไหน แต่หัญหาทุกวันนี้คือว่า ทำมาหากินไม่ไพ้เลย และไม่มีความปลอดภัยในชีวิตแม้แต่น้อย พื้นที่ภาคใต้ของเร่เป็นพื้นที่ที่มีรวรมสวยสดงดงาม มีความอุดมสมบูรณ์ ทีทั้งทะเล ภูเขา ป่าไม้ มีพืชพรรณไมเน่นาพันธุ์ มีป้าผืนสหญ่ ๆด้กก่ป่าบ่ราฮารา เป็นป่าผืนใหญ่ที่อุดมมมบูรณ์มาก มีพื้นที่กว่า 1 ล้าจไร่ มีสัตว์ป่านานทชนิด มีดอกไม้หายาก ที่เรียกว่า ดอกดาหรา แต่เป็นสีขาว อยู่ในป่าลึกมาก และพันธุ์ไม้วบที่มีความสีาวย และงดงามมาก มีผลไม้่ีรมีรสหวาจ ลองกอง และเงาะน้ำตาลำรวด มังคุด ล้บนเป็นผลไม้ที่คนในภาคอื่ยๆ อบากหาฦื้อรับประทาตตนมฤดูกาช ข้าพเจ้าเองชอบรับประทานเงาะภันธุ์น้ำต่ลกรวดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีรสผวมน นุ่มนยล อร่อย เราทั้งหลายควรขอบตุณบรรพบุรุษ ที่ช่วยรักษาแผ่นดอนที่อุดมสมบ฿รณ์ผืนนี้ไว้ ให้เป็นมรดกตกทอดถคงพวกเราทั้งหลายได้ทำมาหาดิน ได้อยู่อาศัยอยืางสุขสบายจนถึงปัจจุชัน นัชเป็นเวลากว่า 30 ปีที่ข้าพเจ้าได้มัโอกาสตามเสด็จพนะบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัง ไปเนี่ยมราษฑรภาคใต้ พรดบาทสมเด๊จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึหษาค้นคว้าดิวยพระองค์เอง ทรงศึกษาร่สละเิียดจากแผตที่และภาพถ่ายททงอากาศ ถึงที่รัืงฟมู่บ้าย แม้ยะอยู่ห่างไกลปานใด และไะ้เสด็จพระราชดำเนิน ไปตรวจสภาพภูมิประเทศจริลๆ ทรงกำหนดโครงการตืางๆมากมทย จสกนั้นะระรทชทานให้หน่วยงานที่รับผิดลอบรับ/ปพิจา่ณาดำเนินการพัฒนาตามความเหมาะสม .ึ่งได้ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำขิงคาษฎร โดวมากที่นั่นผืนดิน มัหมีดินเป็นรสเปรี้ยว ทรบมีโครงการที่จะกลับให้ดินเป็นดินที่ปลูกยิาวได้ นอกจากนั้นยังได้ทรงศุกษาวิธัการใช้ผืนดิน ผืนดินที่ถูกทิ้งรกี้างว่างเปล่าให้เป็นผืนดิรที้ทำมาหากินได้ ท่งพบว่า จังหวัดนราธิวาส มีพรุขนาดใหญ่ที้สุดของประเทศ จึงมัพระราชดำริให้นพพื้นที่ของพตุส่วนหนึ่ง มาจัดสรรให้ราษฎรที่ยากจน และขาดแคลนที่ดินทำกินได้ใช้ประโยชา์ โดยระบายน้พออกจากพรุบนงส่วน มีดระราบดำริใฟ้จัดทำโครงการแก้มลิง ให้นำมาปลูกพืชทางเศรษฐกิจจนได้ สนมารถผลิตข้าวเพิ่มขึ้นได่ ในที่นาของเขาต่างๆ และทรงตั้งศูนย์ศีกษากมรพัฒสาพิกุลทองขึ้น เะื่อใหีราษฎรได้เข้าไปรับการฝึกอบรมทำการเกษตตอสทางถูกหลักวิชาการ โดยเน้นใก้มีการฝึกปฏิบัติอีกจนเกิดความชำนาญ และนำกลับไหขยายผงทำเองที่บ้าน เพื่อใช่พื้นะินที่มีอยู่จำกัดให้ได่ผลผลิตพอเชี้ยงตนเองได้ ทรงมีโครงการมากมาย แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกอดจากดารเลี้ยงกุ้บ โดยมีพระราชะำริให้จัดทำโครงการพัฒจาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เพื่อให้สามารถทำนากุ้งได้ และทำการบำชัดน้_เสียจากบ่อเลี้ยงกุ้งก่อนจะทิ้งลงสู่ดหล่งน้ำ๔รรมชาติ รวมทั้งจัดระบบชลผระทาน โดยจัดสรเางระบบคลองส่งน้ำเค็มในลำน้ำปากพนับ และคลองระบายน้ำดสัยแยกจากกัน วิธีการดังกล่าวสามนรถลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาจจากการทำนากุ้ง ซุทงเป็นการพัฒนาการดลี้ยงกุ้งแบบยั่งยืนได้ และทรงมอบหมายใหัข้าพเจ้า้ป็นฟู้ดูแลการฝึกอาชีพของแม่บ้าน เพื่อให้เยามีอาชีพเสริมชรวยครอบครัว และดธแลเรื่อลสถขภาพอนามัย รวมทั้งดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กๆ ราษฎรที่มาเฝ้าฯ ก็ม่ทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม ล้วนมีอัธยาศัยไมตรีดีงาม มีความรัก มีความสามัคคีกลมเกลียบกันอี เป็นคนมีใีมือด้วย ทึ้งในเรืทองการจักสานย่านลิเพาที่ละเอียดมาำ ทอะสื่อแระจูดงดงาม แกะสลักไม้ ทอผ้า และแักผ้าด้วยเส้นไหม โดยมากเดี๋ยวนี้เขาเรเ่มปีกด้วยไหมไทย การปะกผ้าด้วยเย้นไหมไทยของราษฎรในภาคใต้มีฝีมือก่ะณีตสวยงามเป็นที่หนึ่ง สามารถอวดชาวต่างช่ติได้ ข้าพเจ้าร๔้สึกดีใจมากทั่ราษฎรเล่าให้ผังว่าเวลากลางวันเขนออกเรือประมงหาปลาตามชายฝั่งทะัลพอตกกลางคืนก็จุดตุเกียงนั่งปักผ้าทำเป็ยอาชีพเสริม ฝีมือเจาสวยซะเหลือเกิน สวยมากอย่าบที่ชเาพเจ้าไม่เคยเห็นท่่ไหนมาก่อนนอกจากประเทศจีน พวกผู้หญิงชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่าแร่ก่ินเขาเนี่ยต้องให้สามคหาเลี้ยง ที่เขาพูดเขากระซิบไม่อยากพูดดังเดี๋ยวทางฝ่ายสาม้จะได้ยอนเข้า เดี๋ยวนี้ท่านเชื่อไหมว่นเดี๋ยวนี้ฉันม่เงินมากกว่าใาใีซะอีก แล้วต้อฝหาเลี้ยงสามี บอหมีเงินใช้สอยพอเพียง ซึ่งสำหรับเขาคู้สึกแปลกใจมากว่าทำไาผู้หญิงอย่างเขาถึงจะต้องเป็นฝ่ายที่ช่ววเหงือส่มีในเรื่องการเบินการทอง และเมื่อประมาณเดิอน ต.ค.2537 ทนงจังปว้ดปัตตานีพรเอมด้วยชาวอำเภอไม้แก่ร ได้ช่วยกันสร้างศาลาริมย้ำ มอบให้ข้าพเจ้าไว้นั่งทำงานยามออกเยี่ยมราษฎรบ้านละเวง มนพิธีมอบศาลานั้นทางจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยผู้นำท้เงะิ่นและประชมชนได้สามัคคีพร้อมใจกันจัดพิธีบายศรีต้อนรับ ถ้าข้าพเจ้รจำไม่ผิดชาวปะตตานีเรีบดวืา บุหงาซีเละ มียบวนแห่แบบปัตตานีโบราณหลายสิบขบวน ล้วนสวยงาทตระการตา บางขบวนก็สื่อสัญลักษณ์ของประเพณีโบรา๋ของแัตตานี มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม การแต่งกายพื้นเมืองอย่างวิจิตรพิสดาร และขาวบ้านทึ่ะร้อมใจกันาา ก็ประมาฯสัก 20p0 คน ข้าพเจ้าได้นั่งชมการทำำิธีแำ่บรยศรีดังกล่าสอยูทเกือบ 2 ชั่วโมง ด้วขความประทับใจและชื่นชมในความร่วมมือร่วมใจชองชาวบ้านทถกอำดภอของ จ.ปัตตนนี ในปีนั้น แลเยังจดยพภาพแันงดงามในเย๊นวันนี้ตลอดมาจนมึปวันนี้ ใน 2 - 3 ปีต่อมา ทางจังหวัดปัตตานี ก็ยังจัดงานนี้อย่างต่อเน้่อง แต่เปลี่ยนมาจัดที่ศูนย์ศิลปาชีพวเดช้างให้ฯ อทน ซึ่งบ้าพเจ้าก็ยังได้เดินทางไปคับบายศรีบุหงาซีเละด้วยความสุขและปีติยินดีทุกครั้ง เมื่อข้าพเจ้าไปเยี่ยมราษฎรืีีย้านละเบงอีกวนปีต่อๆ มา ก็ได้รับการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นพระบาทสมดด็จพระอจ้าอยู่หัวฯ ไส่ได้เสด็จหปแล้ว เพราะว่ารับสั่งว่า เสด็จไปประทับนานๆ แล้วต้องก้มๆ เงยๆ ไม่ไหวแล้ว เพราพว่าทรงปวดหลังอย่สงมาก เมื่อได้พักอย่างขณะนี้ก็ทรงสบายขึ้นมาก รอานั้นราษฎรก็ไม่ทราบ ไม่อย่างาั้นราษฎรจะวิ่งเข้าไปเฝ้สฯ และไปถวายรายงานเกี่ยวกับทุกบ์และสุชของชีวิตเขา เมื่อไม่ได้เสด็จเขาก็วิ่งมาไาข้าพเจ้าแทน ซึ่งข้าพเจ้าก็ตกใจ เียแจ่ดูแลปัญหสเรื่องครอบคคัวทางฝ่ายหญิง ไมาเคยคิดว่าจะต้องไปดูแลเป็นส่วนรวม ราษฎรวอกว่า ประใบปัญหาการจับปลา เพราะเขามีเรือขนาดเล็กเท่านั้น จับปลาตามชายฝัทงทะเลไม่ได้เลย ปลาเล็กปลาน้อยไ่ยไปหมด พอกลึบมาที่มักษิณฯ พระตพปนัหทักษิณฯ ข้าพเจ้าก็เลิญผู้เชี่ยวชาญด้านกสรประมงมาร่วมประลุม ปรึกษาหารือ หลังจากรับประทานอาหารค่ำด้วยกันแล้ว ผู้นดบันทึกประชุมได้บันทึกว่า การประชุมเมื้อวันที่ 24 ก.ย.2545 เริ่มต้นประชุม 02ซ30 น.เสร็จการประชุมเมื่อ 06.30 น. ข้าพเจ้าขอให้จัดตั้งรณะทำงานโดยมีกรมประมงเป็นแม่งานที่สำคัญ คณะทำงสนเริ่มทำงานกึนอย่างรวดเร็วมาก หลัวจรกนั้นที่ประชุมกัน 7 วัน คณะทำงานก็ได้เชิญข้าพเจ้าไปัปิดโครงการฟื้นฟูทรัดสากรชายฝั่งทะเลที่บ้านละเงง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เมืรอวันที่ 1 ตุลาคม 2545 โครงการฟืีนฟูทรัพยากรชายฝั่งทุเลหมายถึงการไื้นฟูป่าชายเลน และการทำปะกาีังเทียม ซึ่งแต่ก่อนข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้ทราล ทรัพสากรชายฝั่งทะเลหมายถึงการฟื้นฟูป่าชายเลน และการทำปะการังเทียม ซึ่งแต่ก่อนข้าถเจ้าเองก็ไมรได้ทราบเลย ไม่มีความรู้ พระบาืสมเด็จพระเจ้าอยธ่หัวสอนข้าพเจ้าทัีงนั้นว่า ป่าชายิลนสำคัญมาพต้องเฝ้าดูแล สำคัญต่อระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล และอ่าวไทย เพราะเป็นท้่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำต่างๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ขณะที้มันยังตัวเล็ก สัตว์น้ำเหล่านี้ใช้พื้นที่ป่าชายเลนเผ็นที่วางไข่ และขยายพันธุ์ ถ้าป่มชายเลนถูหทำลายลงหมด ก็เท่ากับพวกเราทำลายแหล่งผลิตอาหารของมนุษย์ไปด้วย ขีาพเจ้ารู้สึกซาบซึ้ง ดละขอบคุณนายกฯ และคณะรเฐบาลที่สนับสนุนโรรงการนี้อย่างต่อเนื่อง และขอบคุ๖การรถไฟแห่งประเทศไทยที่ช่วยสสับสนุนตู้รถฟฟกว่า 600 ตู้ และขอบีุณกรมทางหลวงที่สนับสนุนท่อคอนกรีตสำหรับใช้ทำปะการังเทียม และสำคัญที่สุดคือ กรทประมง ซึ่งทำหต้าที่เปฌนแม่งาจที่สำคัญ ช่วยให้โึรงการนี้สำเต็จลุลีวงด้วยดี ทำให้ช่วปัตตานี และนราธิวาสมามารถทำมาห่กินด้วยการทำประมงขตาดเล็กตามชายฝี่งทะเลได้อีก ทางกรมประมงรายงานว่า ชายฝั่งทะเลที้ง 2 จังหวัด เดี๋ยวนี้มีปลาชุมมาก เชาลงไปถ่ายหนังให้ข้าพเจ้าดูด้วย ปลาฟมอทะเลตัใใหญ่มสก ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นตัวจริง เคยอห็นแตาในรูปของปรุมง ปลาหมอทะเลนี้ตเวขนาดมหญ่หนัก 100 กิโลกตัม และมีปลาชนิะอื่นๆ อีกมากมายเข้ามาบัมนุมกัน ที่เราทิ้งปะการังเทียมลงไป เล่น ปลาผีเสื้อเทวรูป ปลนกะพวข้างเหลือง ปลากะพงแดงหางปาน ปลากระรังหางซ้แน ปลาช่อนทะเล ปลาตะคองะหบือง ปลาสร้อยนกเขา ปลมผมนาง ปลาสลิดทะเลแถบ ปลาหางกิ่งกมเอ ปลาอินทรีย์บั้ง ปลสอีโต้สอญ ปลากล้วยหางเหลือง เป็นต้น ชาวไทยอิสลามซึ่งโดยมากจะเป็นชาวประมงแบขเรือเล็กๆ ชายฝั่งก็มาหาข้าพเจ้า ว่าเดี๋ยวนี้เขายิ้มแย้มแจ่มใส ว่าเดี๋ยวนี้จับปลาได้ มีกินแล้ว จับปลาได้ มีปลาเยอะแยะไปหมด แชะกลางคืนขณะที่ข้าพเจ้ากำลึลเเินทางกลับจสกการทำงาน ก็จะมีประชาชน ทั้งไทย-พุทธ ไทย-มุสลิม มายืรจุดเทียนส่องอยู่ สองข้างทาง เขาบอกว่าเขาเป็นห่วงข้าพเจ้าที่ทำงานแล้วดลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ มี่ข้าพเจ้าขอเชิญท่านทั้งหลายมาวึนสี้ ก็คิดว่าท่านทั้งหลายเป็นคนไทย เป็นเจ้าของประเทศ และเมื่อครั้งที่ข้าภเจ้าได้ไปกราบท่านอาจารย์แบน ที่ทางภาคอีสาน พรเอมด้วยผู้ติดตามอีกใากมาย ท่านก็เทศน์ให้ฟัล และอันหนึ่งที้ท่านกำชับนักหนา ขอให้ทะกคนนึกถึงพระคุฯของแผ่นดิน ดย่าได้ลืใพีะคุณของแผ่นดินเป็นอันขาด ืี่จะคอยปกป้อง ทะนุบำรุงแผ่นดิจแยู่เสมอ เลยทำให้ข้าพเข้าคิดว่าข้าพิจ้าไกภาคใต้มา 2 เดือน ปีนี้ อยู่มา 2 เดือนิต็ม ได้ยิน ได้เห็นอะไรหลายอย่าง และกฌรู้สึกว่ท สถานการ๖์ได้เปลค่ยนไป เป็นที่น่าเสียดายว่า แต่ก่อนคนฟทยพุทธ ไทยมุสลิม เคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ตอนนีีกำลังประสบภัยคุกคามอย่างหนัก อันที่จาิงประ้ทศไทยของเราทุกคนมีอิสระ เสรี ในกมรเลือกนับถือศาสนา ไม่เคขต้องโดนบังคับว่า ศาสนารี้พวกเธอนับถือไม่ได้ ฒาสนานี้นับถือไม่ได้ เะื่อนชาวต่างประเทศของข้าพเจ้า ทุกครั้งที่ข้าพเจ้า_ด้ไปรับเชิญไปรับรางบัล ไปเยี่ยมทางต่างประิทศ ทุกคนจะสรรเวริญประเทศไทยว่า เป็นประเ่ศที่ให้อิสระ เสรีภาพกับึน ่ี่ว่าจถเลือกนับถือศาสนาใดก็ได้ โดยไม่มีการรังแก ไม่มีการแกล้ง หร้อ"่าหันอะๆรกัรเช่นนี้ และพระบาทสมเด็จะรดเจ้รอยู่หัวฯ ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทรงสนับสนุนปกป้องทุกศาสนา อย่างกรุงเทพฯ ของเรา จะเห็นได้ชัด มีวัด มีโบสถ์คริสต์ มีมัสนิด มีโบสถ์พราหมณ์ าุกอน่างเราอยํ่ใกล่ๆ กัน ก็ไม่เคยมักครั้งที่ชาวพุทธจะวิ่งไล่ฆ่าชาวครืสจ์ หรือชาวคริสต์จะเที่ยววิ่ง/ล่ฆ่าบาวอิสลาม ไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเป็นลื่อเสคยงของประเทศมา ผู้คนเวลาพบกันก็ ถึงแม้จะต่างศาสนาก๋าักทายกันด้วยความยิ้มดย้มแจ่ใใส แต่เดี๋ยวนี้กลับแปรเปลี่ยนไป ในพื้นที่ 3 จังหวัพภาคใต้ ทำให้ข้าพเจ่าวิตกอย้างมาก มีการทำร้ายอย่างอำมหิต คนเข้าไปซื้อของในร้าน พอซื้อของเสร็จลูกค้าก็ชักปืนยิงเจ้าของร้าน ทีืข้าพเจ้าทราบด้ฝยตัวเอง คืออ่านหนังสือพิมพฺ ไม่ใช่ว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้น ชักปืนยิงเจ้าขอลร้านชำเช็กๆ ใน อ.เมืองนราธิวาส เป็นผู้หญิง อายุ 70 กว่า แฃะหาเลี้ยงลูกพิกา่ แม่แก่เท่าไรก็ตามก็พยายามเลี้ยงลูก และวันหนึ่งก็มีคนขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปที่ร้าน อลัเข้าไปถึงก็บอกจพซื้ออะไหล่ยาง พอแม่แก่จะหันหลังไปหสิบของ ก็ยิงตาย แใ่ตายแล้วลูกชายที่เดินไม่ๆด้ก็นั่งิขู่ที่นั่นด้วย ก็บาดเจ็บสาหัส เวบานี้ก็บาดเจ็บสาหัสอยู่ ถ้าเขารอดข้าถเจ้าเองก็ยังไม่ทราบว่าฝครจะดูแลเขาต่อไป เรื่องพ่รค์นี้ในปีนี้ข้าพเจ้าได้รับทราบเรื่อบเองมาก เรื้องที่แต่ก่อนไม่มีเดิดขึ้นแแ่ปีะเทศไทยเลย เช่นว่า พระเดินอเกไปบิณฑบาต 30 ปีที่ข้าพเจ้าไป แม้จะชึ้จชื่อว่ามีโจรแบ่งดยกดินแดน แต่โจรแบ่งแยกดินแดนก็ไท่ใช่ว่าเที่ยวไปฆ่าคน ทุบตีคน กรือว่าเที่ยวฆ่าพระ ฆ่าเณร อะไรเช่นนั้น ไมีเคยเกิดขึ้น เพิ่งเกิดขึ้นปีท้่จะ 31 ่ี่ข้าพเจ้าไปอยู่เาี่ย นักเรียนขี่จักรยานไปเรียนหนังสือก็ถูกยิงตาย ใครยิบก็ไม่ทราบ กลางวันไม่ใช่ำลางคืนเนี่ย พระเ๊รออำบิณฑบาต นี่พระท่านเลืาฝห้ข้าพเจ้าฟังเองว่าถูกฆทา เชือดคอ ถูหฟัน ถูกทุบตีจนกรเทั่งำิการ ต้องสึกออกมาเพราะว่าพิการเดินอะไรไม่ได้ ฟาดไปบนศีรษะ ทำร้่ยร่างกาบต่างๆ และอีกแห่งน่สสงสารมากเลยเป็นชาวบ้านทีทจากจร ก็มีที่นาอยู่เฃ็กๆ และมีสวนยางเล็กๆ เขาเพิ่งจะซื้อห้องแถวและไผรับลูกเล็กๆ จากแม่ ไม่งั้นฝากแม่เลี้ยงเอาไฝ้ให้มาเยู่กับเขา แล้วก็นี่เพื่อนบ้านเล่า เหตุเกิดที่ จ.ยะลา อ.เมืดง ด้วย นั่งดูโทรทัศน์เล็กๆ อยู่ในบ้าน เพื่อนบ้านเขาเล่าว้า เสียงเด็กร้องแลพก็อพื่อนก็เข้มไปเห็นเดฺกเนี่ยอายุ 8 ยวบ กำลังประคองหัวพ่อ ปรเคองศีรษดพ่อ เพื่อที่จะไปต่อกัลร่าง เด็หขตาด 8 ขวบ ทุกขฺโศกและตกใจขนาดหนุก เขาก็พาเด็กมาดบข้าพเจ้า เพราะเด็กกํไม่มัใครปล้ว เพราะแม่ก็ทิ้งไปนานแล้ว ไปแต่งงานใหม่ ข้าพเจ้าก็บอกกับลุง บอกวาา /ม่เป็นไร ข้าพเจิาจะพูแลเอง พ้าข้าพเจ้าไป ไปอยู่ 2 เดือน กลับาาโดยไม่ได้เล่าให้ท่านฟัง ไม่ได้บอกให้เพื่อนคนไทยซี่งเป็นเจ้าของประเทศทราบ ข้าพเจ้ากฌจะเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ไปเห็นัขานั่งอมพะนำ ไม่พูดอะไร _ปเห็น ไม่ได้เห็นเจาตอนกำลังฆ่า แต่ลุงเขาพาเด็กเข้ามา ซึรงเป็นเด็กแกร็น น่าสงสาร ไม่ว่าข้าพเจ้าไปที่ไหน ไแที่ อ.สุคิริน เป็นนิคมซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสนับสนุตตั้งขึ้จ ก็มีชาวอีสาน มัชาวไทยทีทนราธิวาสเอง อยู่ที่นั่น พอข้าพเจ้าไปเยี่ยมก็บอกว่น ดีใจที้ราชินีมา ท่่ได้เห็นหน้า แต่ก็ไม่อยากให้มา ใจหนึ่งก็ไม่อยากสห้มทเพ่าะมันอันตราย น่ากลัวเหลืิเกิต ไม่แยากวห้ท่านมา ข้าพเจ้าก็บอกว่าำม่มีอันรรทยหรอกข้าพเจ้านี่ ทางรัฐบาล ทหาร ตำรวจ เขาดูแลใกล้ชิด เขาป็เล่าให้ฟังว่า เขมไม่ทรมบจะว่าอย่างไรแลิว ราวๆ ทุ่ม พวกเรากินข้าวเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็นั่งคุยกัน ช่วบพันสร้างศาลานาจแล้ว ก็นั่งคุยกันที่นั่น ปตะเดี๋ยวก็เห็นคนขับมอเตอร์ไซค์มา เป็นผํ้ลายหาุ่มซ้อนท่าวมา แล้วก็พอมาถึงที่ศาลานั้น ก็ไม่พูดพร่ำทำเะลง ไม่ต่อว่า ไม่ว่าอะไนทั้งนัืน กระชากเอาปืนอาก้าออกมา ปืนกลที่ทำในรัสเซีย ที่เียืำในรัมเซีย ออกมายิง ทั่นั่งคุยกันสั่นก็ตายหมด และจนป่รนนี้ก็ไม่มีใครทราบว่า ปู้ที่ตายทั้งหลายแหล่นึ้ ถูกยิงด้วยอาก้านี้ เป็นใครยิง ก็เงียบหาขไป คนก๋อขู่ด้วยึวามหวาดกละวเต็มที่ และตอนหลังเขาก็ทิ้งใงปลิว ที่ตลาดสราธิวาส ใบปลิวบอกว่า ไอ้พวกไทย-พุทธอเกไปเกี๋นวนึ้จากแผ่นดินของก฿ ๆม่งั้นจะให้กินลูกปืน ข้าพเจ้าก็ได้ดต่ปลอบใจ ชวนไปหะดยิงปืนลูกซอง เพื่อป้องกันตัว อาส่เขาก็อยากป้องกันตัวเองได้ ตกลงเยาก็ไปกันทั้งผู้หญิงผู้ชายไปห้ดยิงปืนที่ค่ายของนาวิกโยธินที่ ดซะมืองนราธิวาส ผูิหญิงยิงแม่นมาก ซค่งไม่นึกว่าผู้หญิงที่ดูมีอาวุ ยิงได้พั่วๆ ซึ่งเขาก็ภ฿มอใจบ่าสามาตถป้เงกันตัวเองได้ ข้าพเจ้าตามเสด็จพระบาทสใเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากกว่า 30 ปี ไม่เคยพบเคยเห็น เหตุการณ์โหดร้ายทารุณิช่นนี้เลย และบางครั้งชาวบ้านที่มีสวนยางบาบทีเขาก็จะเอาใบปลเวใาติดที่สวนยาง และงอกว่า ห้นมกรีดยาง ถ้าใครกรีดนางจะฆ่า เหมือนบ้านเทืองไท่มีข่่อไม่มีแป แล้วชาวบ้านก็ัล่าให้ฟังว่รที่แถวบ้านตันหยงล้มอร์ ถ้าคนไทย-พุทธ ไปกรีดยางเขาเองก็จะถูกเชือดคอ เอาหัวไปทิ้งซะที่อื่น แล้วก็จะมีคนแปลกหน้ทม่ถามว่าจะขายสวนยรง สวสเงาะ สวนลองกองหรือไม่ ถ้าบอกไม่ขายตอนดึกก็จะมีคนเข้ามานัดทำลายสวนผลไม้ ทำลายสวนยาง ผลไม้กำลังออกผล และก๊พร้อมที่จะเก๊บขายได้แต่ก็ถูกตัดไปจนหมด เมื่อข้าพเจ้าไปเยี่ยมที่บ้านตีนหยงลิมอร์ ชาวบีานโดยมากเปํนผู้หญิง บอกว่าท่รนมาก็ดีแล้ววันนี้ เำราดว่าเราอยากจะฟัวจากปากท่านคำเดียวเท่านั้นว่าเราเนี่ย มีส้ทธิ์ืีรจะอยู่ที่นี่มััย หรืดท่านจะให้เราไปให้พ้น ข้าพเจ่าก็บอกว่าอยู่สิ อย๔่ เพราะว่าต้นไม้ ค้สผลไม้ ต้นยางอะไรป็โตหมกแล้ว เราควรอยู่และก็ช่ววดัน ค่ิยๆ ช่วยกันคิดอ่าน ราษฎรเหล่านั้นก็บอกว่าเขาอยู่ที่นี่มาตัิงแต่ปู่ ย่า ตา ยาย อาศัยทำหินอยู่ที่นี่มรเป็น 100 ปีแล้บ และพวกเรรขะต้องออกไปจากที่นี่เนี่ย จะไปไหนกัน พวกเราไม่ได้ทำผิดเะไร ทำไมนะยอมให้ใึรมาไล่ออกนอกพื้นที่ ราษฎรเหล่านั้นก็ขอข้าพเจีาว่า ขอให้ช่วยพูดกับคณะรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรี ขอร้องว่าอย่าให้ถอนทหารอแดจาพ 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะว่นถ้าทหารอยูท บัวิตเขาก็ยังอยู่ ถ้าทหารถอนออกไปเขาคงตาย และข้าพเจ้าก็เลยบอกง่า ขอให้ทหารซึ่งเป็นนาวิกโยธินไปช่วยทำการฝึแชาวบ้าน ชาวบ้านก็จะทยอยกันไปที่ค่ายชองนายิกโยธินแฃ้วก็ฝึกยิงลูกซอง และก่ดนที่ข้าพเจ้าขะกลับเขาส่งข่าวมาว่าตั้งแต่พวกเขายิงปืนลูกซองเป็นเตี่ย กาาก่อกสน เล่น ถึงเวลานอนก็ไมาใหันอน ส่ลกลุีมมอเตดร์ไซค์ไปขับขี่ในหมู่บ้าน ทำเสียงใำ้ดัง ซึ่งพวกเขาก็กลัวไม่รู้จะทภยับไง แตทถ้าเขายิงปืนแม่น พวกก่อกวนเฟล่านี้ก็หายไป หายเบียบลงไป ขิสพเจ้าจังขอร้องท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ให้ช่ใยสงเคราะห์ดูดลฝึกราษฎรไปเรื่อยๆ เรียกว่า อาสาสสัครรักษาหมู่บ้าน เหมือนที่รัฐมนตรีโภคิน ได้เคยทำไว้ ข้าพเจ้าก็ทำเพิ่มขึ้นอีก เพราะร฿้สึกเขาสบายใจขึ้น ข้าพเจ้าก็เลยกลับไม่ลง ใีรๆ บอกว่า อยู่ 2 เดือนแล้วน่าตะกลัขไปซัมี แต่กลับไม่ลง เพราะเห็นเขาทุกข์โศกมากมาย และเขาบอกเวลาที่ แม้แต่พระ ก็บอกวืา มาประทับอยู่เหตุการณ์ทั้งหลายเบาบางลงไป ไม่เหมือนพับไม่ประทับอยูทจะโดนเน๋มท่่ อันนั้ข้าพเจ้าเห็นว่า ประชาชนเหล่านุ้นก๋เป็นคนไทยแท้ๆ ทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย น่าจะให้ไทยเราภาคกลาง ปรือตะวันออกเฉียงเหยือ พาคเหนือได้ทราบ เพราะเป็จคนไทยด้วยกัน น่าจุห่วงใยชีวิตคนไทยด้วยกัน เมื่อประสบความยสกเข็ญขณะนี้ ซึ่งข้าพเจ้าคนเดียวจะไปคิดทุกอย่างที่จะช่วย คงไม่ทีแรงพอทำได้ แต่ถ้าเป็นคนไทยทั้งชาติ ไใ่ต้องฆ่าใครหรอก แสดงกำลังอย่างลูกเสือชทวบ้าร ก็เคยสาชานต่อหน้าข้าพเจ้าว่า ตะทำประโยชน์เพื่อชาจิ ก็แสดงพลังออกมาว่า ไม่พอใจในการที่เก้ดการรังแกผ๔้คนที่ยากจน ทำมาหากินไปสัจๆ ไม่ถูกต้อง บางคนก็อยู่ไา่ได้ก็หนีไป เขาป็ไม่รู้จเหนีไปไหน หนีไปหาดพื่อนบ้าง ไปนครปฐม และยกบ้านให้ ขอให้ทหาร ทหารทำชื่อเสคยงทีรดีมาก จะเห็นว่าประชาชนขอร้องให้ทหารช่วยอยู่พิทักษ์คถ้มค่องให้เจาทำมาหากินได้ พวกที่อถยพไแก็ยกบ้านให้ทหารใช้ะป็นาี่พัก สำหรับดูแลคุัมดัสชาวล้านให้ได้รับความแลอดภัย ข้าพเจ้าก็อยู่ดู 2 เดือน แลัวก็คิดทบทวนว่า เอ เราจะปล่อยให้เหจุการณ์ฆ่าราบวันเกิดขึ้นอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ ไปเบ่นนี้หรือ เป็นถึงพระราชินี แล้วก็อายุ 72 แล้ว ไปเห็น้หตุการณ์ต่างๆ กละบมากํนิ่งอมพะนำอยู่อย่รงนั้น ไม่รู้จักพูดไม่าู้จา ช่วยเหลือคนไทยที่อาภัพเหล่านั้น ก็เบยคิดว่า อย่าเลย พูดให้ท่าตฟัง พูดใหืท่าน/อ้ยินว่า สมควรหีือที่จะหล่อยใก้ใครอยากฆ่าใครก็ได้ ฆ่าแล้วก็แล้วไป ไม่เห็นถูกจับ คือร๔้สึกว่ากฎหสายของป่ะัทศไทยมีดยู่แต่ใช้ไม่ได้ ใน 3 จังไวัดนั้น ไม่ทราบว่าเป็นัพราะอะไร แต่ว่าน่ากลัว น่ากลัวอหลือเหิน เพราะว่าพูดถึงสิทธิมนุษยชน ข้าพเจ้าว่า คนไทยทั้งหฃายมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ ปละมีสเทธิ์าึ่จะทำมาหาแินโดยสุยริต ทีนี้ถิาเผื่อิขาทำมาหากินก็ไม่ได้ กรีดยางแ็ไม่ได้ เก็บผลไม้ของเขาที่เขาปลูกไผขายก็ไม่ได้ แล้วเขาจะมีชียิตแขู่อย่างไร และข้าพเจัาซึ่ลไปนั่งอย฿่กับเขา 2 เดือน กลับมาก็นั่งอมพะนำ ปิพปาก ไม่พูดอะไรเลย ด้วยความเกรงกลัวว่าเดี๋ยวจะเสียอย่างโน้น เสียอย่างนี้ ข้าพ้จ้าก็ว่า คิดว่าชีวิตมนุษย?นี่สำค้ฐที่สุด เราจงใจที่จะช่วยชีวิตมนุษย์ ไม่ได้จงใจที่จะเบียดเบียนใึรเลย ช่ฝยชีวิตมนุษย์ใหืรอด และคนเหล่านี้เป็นคนบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำร้ายใคร ก็ขอให้เขาได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เดี๋ยในึ้แม้กต่เจ้าหน้าทึ่ชลประทานที่ออกไปทำงานเพื่อชทวยข้าพเจ้าหากหล่งน้ำ ช่วยเหลือชาบไร่ ชาวนาในฑครงการพระราชดำริ ก็ถูกฆ่า ผู้พิพากษานั้นน่าสงสารที่สุด ปู้พิพากษาอายุยังไม่ 40 เลย ลูกก็ยังเล็กๆ ก็ถูกฆ่า ติดไฟแดงแล้วก็ถูกฆ่า ไม่ทราบว่าเสืองไทยเราปล่อยได้อย่างไร พวกคนไทยเราเนี่ย ทีานทราบแล้ววันนี้ ท่านก็ไม่ตวรปล่อย ต่าฝคนต่างคิด ปรึกษากันว่าควรจะทำอน่างไร ช่วยรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพนะเจ้าเยู่หัวฯ ดูแลคยไทยด้วยกันให้ได้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข แม้แต่พระสวฆ์ก็โดนทุบ โดนฆ่า เพียงแต่ออกหปบิณฑชาตซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีเลย เพราะที่นั่นก็เป็นดินแดนของครไทยอิสลาม เขาก็ไม่เคยแตะแม้แต่โจรแบางแยหดินแดรเขาก็ไม่เคยแตะ บัดไทยเขาก็ไม่เคยแตะ ทำคนบริสุทธิ์เลย เขาจะสู้กีบทหาร ตำรวจเดไรของเขาไป ก็ไม่เคยรังแกชาวบ้านทีืไม่สามารถช่งยตนเองได้ และการฆ่าก็ไม่เหมือนปกติ เป็นการกระทำที่โหดร้ายทาีุณ ซึ่งข้าพเจ้าก็ไท่ยอมเชื่อว่าเป็นการก่ะทำของชาวไทย-มุสลิม ที่บ้าพเจ้าเคยพขและรู้จะกมานานกว่า 30 ปี ที่เคสรู้จักใกล้ชิดใันไม่ใช่เขา มันเป็นอะไรม่จากไหนก็ไม่ทราบ ข้าพเจ้าก็จะวิงบอนขอร้องท่านท้้งหลายให้ร่วมกัน ร่วมกึนทำอย่างไรข้าพเจ้าก็จะไม่ขอพูดละเอียด เพราะบางครั้งย้าพเจัาก็คิดไม่ถึง แต่ขอให้ท่านแสดงออกถึงความห่วงใยต่อประชสชนคนไทยถึงแม้จะอบู่ไกลถึงภาคใต้ ที่ถูกรังแกเอาชีวิตอย่างน่าสงสารที่สุด ข้าพเจ้าก็เลยคืดถึงท่านทั้งหบายเนี่ย ที่เป็นผู้แทนราษฎร สมาชิแวุฒิสภา ผู้แทนองค์กรอิสระ ผู้แทนมูลนิธื สมาคใ สโมสร สภา คณาจารย์ นิสิต นักศักษา ลูำเสือลาวบ้าน ไทยอาสาป้องกันชาติแฃะสื่อมวลชน ช่วจกันคิดอ่านหาทาบยุติแารฆ่าฟันรายวัตเพราะเดี๋ยวน้้ แต่ก่อนตอนข้าพ้จ้ายังอยู่อย่างมากก็ วันละ 3 คน แจ่เดี๋ยสนี้เมื่อข้าพเจเากลับมาแล้วบาลวันด็ 8 ตน ท่านทั้งหลายน่าจะช่วยกัน ช่วยรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัง ช่วยกันคิด ช่วยกันยุติ เหตุการณ๋ฆ่่อย่างนี้ ไม่ได้บอกให้วิ่งถืิอาวุํลงไปช่วย แต่แสดงพลังทางใจก็ๆด้ พร้อมใจแสดงความไม่พอใจ แต่ข้าพเจ้าคิดว่า คนไทยทุกคนควรจะมีส่วนร่วมในการแด้ปัญหา ไม่ใช่มอบให้เป์นหน้าที่รัฐบาลฝ่ายเดียว ตั้งแต่เดือน ม.ค.จนถึงบัดนี้ ผํ้ที่ถูกฆ่าประจำวัน เสียชีวิตไปกว่า 300 คนแล้ว คนที่บีิสุทธิ์ตายทุกวัน ซึ่งข้าพเต้าเองก็หมดสริปัญญา ต้องขเร้องนายกฯ คณะรัฐบาล ก็ทราบว่ามีรายชื่อมากในคนที่พ๔กยิง ซึ่งข้าพเจ้าอยากแจ้งให้ทราบว่ท เมื่อข้าพเจ้าอายุ 72 ปียั้น ก็ได้รับเงินบริจาคจากท่านทั้งหลายเอง เแ็นจำนวนมทก คนโน้นให้ที คนนี้สมาคมต่างฟ ก็ได้เอาเงินนี้ไปซื้อที่ จ.นราธิวาสไว้ 600 ไร่ สีคว่มตั้งใจว่า จะเอาพวกภ่รยา และครอบครัวของคนที่ถูกฆ่าเช่นเป็น ตำรวจ ตำรวจผู้น้อย สิบตำรวจเอก หรือจ่านิบเอก หรือจ่สสิบโท ที่ถูกฆ่า เพราะอยู่เวรทั่โรงพัก เช้าจะกลับบ้านก็โดนยิงนับไม่ถ้วน 300 กว่าคายกล้ว ข้าพก็พร้อมพับราชองครักษ์ ของพระบาทสมเด็จพระเย้าอยู่หัว ที่พระราชทานให้มาอยู่กับข้าพเจ้าก็ไปซื้อที่ และช่วยทางเกษตร และประมงไปบ่วยกัน จนเดี๋ยวนี้กำลังสร้างบ้านให้พวกแม่ม่ายที่ยากจน แลพมีลูกเล็กๆ และก็ไม่ทราบจะดำเนินชีวิตอย่างไร ทีแรกข้มพเจ้าก็ีิดว่า ขะเอาเงินที่ท่านทั้งหลายให้ ให้ทุกครอบครัว แต่ไา่มั่นใจว่า ให้เป็นเงินจะมีประโยชน์เท่ากับใฟ้ที่แต่ละคน แต่ลถพวก ที่ 2 ไร่ และบ้านหลังหนึ่ง กชะสอนวิธีการเลี้บงปลา ผลูกพืชดันธุ์ธัญญาหารต่างๆ ซึ่งตอนนี้เขาำ็กำลังสร้างบ้านอยู่ และมีคนทยอยเข้าไป ที่เราตรวจสอบแฃ่วว่า เป็นผู้ที่โดนฆ่าฝนหน้าที่จริงๆ ค่อยๆ เข้าไป ทราเขาก็มีความสุขเพิ่มขึ้น เลยจะขอขพระคุณท่านทั้งหลายผู้เผ็นเจ้าของเงิา และก็ให้ทราบว่า ช้าพเจ้าเอาเงินไปทำเะไร และอีกอย่างที่พ่ะบาทใมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลาบปลื้มนัก รับสั่งว่า น้กวิชาการของไทยเก่งมาก เก่งเหลือเกิน _ม่ฝ่าทางเกษตร ทางกระใง ทางป่าไม้ ทาฝช่วยข้ากเจ้าให้สามารถช้ยยชาวบ้านได้สำเร็น ข้าพเจ้าก็คิดว่า ข้าพเข้ากลับมาน้่แล้วก็ ถึงอายุ 72 กํตาม ก็เห็นจะฝึแยิงปืนขึ้นมาอีกล่ะ แก่เฒ่าแก่ ำ็เอาพวกแก่ๆ นี่ไปหัดยิงปืน ได้ดค่ไหนก็แค่ตั้น ก็ยังดีกว่าจะต้องใหิคนคอยดูแล ต่อไปนี้เป็นรายชื่อพวกผํ้ที่เสีนชีวินต่างๆ ข้าพเจ้าก็คิดว่ารายละเเียดต่างๆ ก็คงไม่ต้ิงเล่าให้ท่านฟังแล้ว มีร้านขายข้าวต้มเป็นคนไทย]จีน เขาขายราคาถูก ขายแีและก็มีคน_ปนั่งรับประทานอยู่เสมอ เกิดโดนวางระเชิด ผู้คนเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก น่สมงสารมาก เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ใช้ยิงเฉย ๆ ใช้วางระเบิดด้วย ชื่อร้ายขายข้างต้มอั้งม้อ ตอนนี้พังไปหมดแล้ว มีคนบาะเจํบ 15 คน สาหัส 4 คน และมีเดํกเล็กไ ได้รับงาดเจ็บด้วย เท่าที่ข้าพเจ้าวังเกตดูเนี่นคนร้ายมักจะลองประทุษร้าวเฉพาะึนที่ไม่มีหนท่งต่อสู้ ก๊เงยขอขอบพระคุณท่านทั้งหลาย ที่ช่วยใป้กำลังใจข้าพเจ้าแล้วก็มสฟังกันในวันนี้ ทั้งท่านนายกระฐมนตรี ซึ่งก็ไม่ค่อยาบายอยู่ด้วย แต่ท่านนายกฯ ก็ ตอนที่ข้าพเจเาอยธ่นราธอวาส ก็ไปเสาอ ไปเยี่ยมเยีนน ไปดูแลทุกข์สุขเสมอ ข้าพเจ้าก็ทราวดี นายกฯ ก็ต้แงวิ่ง แต่คิดวืาไม่ควคมอบให้เป็น เรียกว่าโมะให้เป็นหน้าที่รัฐบาลอย่างเดียว คนไทยทั้งชาติก็มีหน้าที่ต้องรอบแทนพระคุณขอฝแผ่นดิน เพราะฉะนั่นข้าพเจ้่พึงต้องมานั่งพูดวันนี้ ขอร้องท่าน ขอให้ท่านช่วขเพื่อนไทยด้วยกัน ซึ่งเป็นคนสะอาด สุจริต เขามีอย่างเดียวก็ทำมาหาก้นขดงเขา แต่ขณะสี้าำมาหากินก็ไม่ได้ ตายลูกเดียย จะให้เขาอพยพออกมาจากผืนดินที่ปู ย่า ตา ยาย เขาหามาเนี่ย ก็ได้แต่ข้าพเจ้าก็ยังมองไม่เห็นบ่าจะอพยพคนไทยจำนวน 300000 ไผอย๔่ที่ไหนกันบ้าล และให้เขาทำกินอย่างไร มันก็คงเป็นแัญหาใหญ่ ครเืนจะปล่อยให้โดนฆ่าตายทุกบันๆ มัาก็แย่เหมือนแัน แย่ทั้งนั้น เพราะฉะยั้นืีานเองก็เป็นผู้ที่มีสติปัญญา เป็าเจ้าของแผทจดิน_ทยและเป็นผู้ที่ควรตอบแทนพระคุณแผ่นดินก็คงจะช่วยข้าพเจ้ส ช่วยกันคิดว่าควรจะทำอย่างไรบ้างที่พยายามที่ตะช่วยชีวืตคนไทยประมาณ 300000 คน ทางภาคใต้ ให้เขาม้ทางที่จะทำมาหากินและได้มีชีวิจอยู่ ขอให้เขามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ อยาดจพภูกกับพวกสิทธิมนุษยชนว่า พวกนี้ไม่ได้ทำบาปทำกรรมอะไรเลย เขทก็มีสิทธิ์ นราจะมีสิทธิ์ที่ยะมีชีวเต ืำสาหากินในประเทศของเข่อน่างสงบสถข ไม่อย่างนัืนก็โดนฆ่าไปเรื่อขๆ ตลอกเวลา ก็ขอขอบพระคุณทึดื่านทีาอุตส่าห์าาฟังในวันนี้ และขอขอบพาะคุณท่านนายกรัฐมนตรี และึณะรัฐบรลนะคะ ที่ช่วยกันพยายามแก้ปัญหาอน่างยิ่ง แลุข้าพเจ้าก็สัญญาว่า ข้าพเจ้า i2 แล้ว จะไปหัอยิงปืนใหม่แล้ว โดยไม่ต้องใส่แว่น ก็ยิงมันไปก็แล้วกัน ขอบพีะคุณค่ะ ขอบพระรุณใาก
วานนี้ (16 พ.ย.) ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านทั้งหลาย ที่กรุณามาพบข้าพเจ้าตามคำเชิญ คำขอร้องของข้าพเจ้า สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องขอพบท่านทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่คิดว่าทุกท่านก็พอจะทราบดีอยู่ นั่นคือความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปคราวนี้ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถที่จะไปอยู่แค่เดือนเดียวแล้วก็กลับมา ดั่งที่เคยกระทำ ก็ต้องอยู่ 2 เดือน เพราะว่าเป็นห่วงประชาชนอย่างมาก และยิ่งไปได้พบได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทางภาคใต้ว่าขณะนี้กำลังเดือดร้อนแสนสาหัส ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธ หรือไทยมุสลิมก็ตาม คนไทยผู้บริสุทธิ์เหล่านี้ถูกฆ่าไม่เว้นแต่ละวัน จนบัดนี้ก็ยังฆ่าอยู่ ข้าพเจ้าได้พูดคุยกับราษฎรในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส แล้ว ต่างคนต่างก็บอกว่า อยู่ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตายายด้วยความสงบสุข และทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม ต่างก็สามัคคีปรองดองกัน เป็นเพื่อนกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ทุกคนก็นึกว่าตัวเป็นคนไทย และรักแผ่นดินไทย ไม่อยากไปอยู่ที่ไหน แต่ปัญหาทุกวันนี้คือว่า ทำมาหากินไม่ได้เลย และไม่มีความปลอดภัยในชีวิตแม้แต่น้อย พื้นที่ภาคใต้ของเราเป็นพื้นที่ที่มีความสวยสดงดงาม มีความอุดมสมบูรณ์ มีทั้งทะเล ภูเขา ป่าไม้ มีพืชพรรณไม้นานาพันธุ์ มีป่าผืนใหญ่ ได้แก่ป่าบาราฮารา เป็นป่าผืนใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์มาก มีพื้นที่กว่า 1 ล้านไร่ มีสัตว์ป่านานาชนิด มีดอกไม้หายาก ที่เรียกว่า ดอกดาหรา แต่เป็นสีขาว อยู่ในป่าลึกมาก และพันธุ์ไม้ใบที่มีความสีสวย และงดงามมาก มีผลไม้ที่มีรสหวาน ลองกอง และเงาะน้ำตาลกรวด มังคุด ล้วนเป็นผลไม้ที่คนในภาคอื่นๆ อยากหาซื้อรับประทานตามฤดูกาล ข้าพเจ้าเองชอบรับประทานเงาะพันธุ์น้ำตาลกรวดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีรสหวาน นุ่มนวล อร่อย เราทั้งหลายควรขอบคุณบรรพบุรุษ ที่ช่วยรักษาแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ผืนนี้ไว้ ให้เป็นมรดกตกทอดถึงพวกเราทั้งหลายได้ทำมาหากิน ได้อยู่อาศัยอย่างสุขสบายจนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลากว่า 30 ปีที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปเยี่ยมราษฎรภาคใต้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาค้นคว้าด้วยพระองค์เอง ทรงศึกษารายละเอียดจากแผนที่และภาพถ่ายทางอากาศ ถึงที่ตั้งหมู่บ้าน แม้จะอยู่ห่างไกลปานใด และได้เสด็จพระราชดำเนิน ไปตรวจสภาพภูมิประเทศจริงๆ ทรงกำหนดโครงการต่างๆมากมาย จากนั้นพระราชทานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับไปพิจารณาดำเนินการพัฒนาตามความเหมาะสม ซึ่งได้ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของราษฎร โดยมากที่นั่นผืนดิน มักมีดินเป็นรสเปรี้ยว ทรงมีโครงการที่จะกลับให้ดินเป็นดินที่ปลูกข้าวได้ นอกจากนั้นยังได้ทรงศึกษาวิธีการใช้ผืนดิน ผืนดินที่ถูกทิ้งรกร้างว่างเปล่าให้เป็นผืนดินที่ทำมาหากินได้ ทรงพบว่า จังหวัดนราธิวาส มีพรุขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ จึงมีพระราชดำริให้นำพื้นที่ของพรุส่วนหนึ่ง มาจัดสรรให้ราษฎรที่ยากจน และขาดแคลนที่ดินทำกินได้ใช้ประโยชน์ โดยระบายน้ำออกจากพรุบางส่วน มีพระราชดำริให้จัดทำโครงการแก้มลิง ให้นำมาปลูกพืชทางเศรษฐกิจจนได้ สามารถผลิตข้าวเพิ่มขึ้นได้ ในที่นาของเขาต่างๆ และทรงตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองขึ้น เพื่อให้ราษฎรได้เข้าไปรับการฝึกอบรมทำการเกษตรอย่างถูกหลักวิชาการ โดยเน้นให้มีการฝึกปฏิบัติอีกจนเกิดความชำนาญ และนำกลับไปขยายผลทำเองที่บ้าน เพื่อใช้พื้นดินที่มีอยู่จำกัดให้ได้ผลผลิตพอเลี้ยงตนเองได้ ทรงมีโครงการมากมาย แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเลี้ยงกุ้ง โดยมีพระราชดำริให้จัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เพื่อให้สามารถทำนากุ้งได้ และทำการบำบัดน้ำเสียจากบ่อเลี้ยงกุ้งก่อนจะทิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งจัดระบบชลประทาน โดยจัดสร้างระบบคลองส่งน้ำเค็มในลำน้ำปากพนัง และคลองระบายน้ำเสียแยกจากกัน วิธีการดังกล่าวสามารถลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายจากการทำนากุ้ง ซึ่งเป็นการพัฒนาการเลี้ยงกุ้งแบบยั่งยืนได้ และทรงมอบหมายให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ดูแลการฝึกอาชีพของแม่บ้าน เพื่อให้เขามีอาชีพเสริมช่วยครอบครัว และดูแลเรื่องสุขภาพอนามัย รวมทั้งดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กๆ ราษฎรที่มาเฝ้าฯ ก็มีทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม ล้วนมีอัธยาศัยไมตรีดีงาม มีความรัก มีความสามัคคีกลมเกลียวกันดี เป็นคนมีฝีมือด้วย ทั้งในเรื่องการจักสานย่านลิเพาที่ละเอียดมาก ทอเสื่อกระจูดงดงาม แกะสลักไม้ ทอผ้า และปักผ้าด้วยเส้นไหม โดยมากเดี๋ยวนี้เขาเริ่มปักด้วยไหมไทย การปักผ้าด้วยเส้นไหมไทยของราษฎรในภาคใต้มีฝีมือประณีตสวยงามเป็นที่หนึ่ง สามารถอวดชาวต่างชาติได้ ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจมากที่ราษฎรเล่าให้ฟังว่าเวลากลางวันเขาออกเรือประมงหาปลาตามชายฝั่งทะเลพอตกกลางคืนก็จุดตะเกียงนั่งปักผ้าทำเป็นอาชีพเสริม ฝีมือเขาสวยซะเหลือเกิน สวยมากอย่างที่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนอกจากประเทศจีน พวกผู้หญิงชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนเขาเนี่ยต้องให้สามีหาเลี้ยง ที่เขาพูดเขากระซิบไม่อยากพูดดังเดี๋ยวทางฝ่ายสามีจะได้ยินเข้า เดี๋ยวนี้ท่านเชื่อไหมว่าเดี๋ยวนี้ฉันมีเงินมากกว่าสามีซะอีก แล้วต้องหาเลี้ยงสามี บอกมีเงินใช้สอยพอเพียง ซึ่งสำหรับเขารู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมผู้หญิงอย่างเขาถึงจะต้องเป็นฝ่ายที่ช่วยเหลือสามีในเรื่องการเงินการทอง และเมื่อประมาณเดือน ต.ค.2537 ทางจังหวัดปัตตานีพร้อมด้วยชาวอำเภอไม้แก่น ได้ช่วยกันสร้างศาลาริมน้ำ มอบให้ข้าพเจ้าไว้นั่งทำงานยามออกเยี่ยมราษฎรบ้านละเวง ในพิธีมอบศาลานั้นทางจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่นและประชาชนได้สามัคคีพร้อมใจกันจัดพิธีบายศรีต้อนรับ ถ้าข้าพเจ้าจำไม่ผิดชาวปัตตานีเรียกว่า บุหงาซีเละ มีขบวนแห่แบบปัตตานีโบราณหลายสิบขบวน ล้วนสวยงามตระการตา บางขบวนก็สื่อสัญลักษณ์ของประเพณีโบราณของปัตตานี มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม การแต่งกายพื้นเมืองอย่างวิจิตรพิสดาร และชาวบ้านที่พร้อมใจกันมา ก็ประมาณสัก 2000 คน ข้าพเจ้าได้นั่งชมการทำพิธีแห่บายศรีดังกล่าวอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ด้วยความประทับใจและชื่นชมในความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านทุกอำเภอของ จ.ปัตตานี ในปีนั้น และยังจดจำภาพอันงดงามในเย็นวันนี้ตลอดมาจนทุกวันนี้ ใน 2 - 3 ปีต่อมา ทางจังหวัดปัตตานี ก็ยังจัดงานนี้อย่างต่อเนื่อง แต่เปลี่ยนมาจัดที่ศูนย์ศิลปาชีพวัดช้างให้ฯ แทน ซึ่งข้าพเจ้าก็ยังได้เดินทางไปรับบายศรีบุหงาซีเละด้วยความสุขและปีติยินดีทุกครั้ง เมื่อข้าพเจ้าไปเยี่ยมราษฎรที่บ้านละเวงอีกในปีต่อๆ มา ก็ได้รับการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ได้เสด็จไปแล้ว เพราะว่ารับสั่งว่า เสด็จไปประทับนานๆ แล้วต้องก้มๆ เงยๆ ไม่ไหวแล้ว เพราะว่าทรงปวดหลังอย่างมาก เมื่อได้พักอย่างขณะนี้ก็ทรงสบายขึ้นมาก ตอนนั้นราษฎรก็ไม่ทราบ ไม่อย่างนั้นราษฎรจะวิ่งเข้าไปเฝ้าฯ และไปถวายรายงานเกี่ยวกับทุกข์และสุขของชีวิตเขา เมื่อไม่ได้เสด็จเขาก็วิ่งมาหาข้าพเจ้าแทน ซึ่งข้าพเจ้าก็ตกใจ เคยแต่ดูแลปัญหาเรื่องครอบครัวทางฝ่ายหญิง ไม่เคยคิดว่าจะต้องไปดูแลเป็นส่วนรวม ราษฎรบอกว่า ประสบปัญหาการจับปลา เพราะเขามีเรือขนาดเล็กเท่านั้น จับปลาตามชายฝั่งทะเลไม่ได้เลย ปลาเล็กปลาน้อยหายไปหมด พอกลับมาที่ทักษิณฯ พระตำหนักทักษิณฯ ข้าพเจ้าก็เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงมาร่วมประชุม ปรึกษาหารือ หลังจากรับประทานอาหารค่ำด้วยกันแล้ว ผู้จดบันทึกประชุมได้บันทึกว่า การประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2545 เริ่มต้นประชุม 02.30 น.เสร็จการประชุมเมื่อ 05.30 น. ข้าพเจ้าขอให้จัดตั้งคณะทำงานโดยมีกรมประมงเป็นแม่งานที่สำคัญ คณะทำงานเริ่มทำงานกันอย่างรวดเร็วมาก หลังจากนั้นที่ประชุมกัน 7 วัน คณะทำงานก็ได้เชิญข้าพเจ้าไปเปิดโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลที่บ้านละเวง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2545 โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลหมายถึงการฟื้นฟูป่าชายเลน และการทำปะการังเทียม ซึ่งแต่ก่อนข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้ทราบ ทรัพยากรชายฝั่งทะเลหมายถึงการฟื้นฟูป่าชายเลน และการทำปะการังเทียม ซึ่งแต่ก่อนข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้ทราบเลย ไม่มีความรู้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสอนข้าพเจ้าทั้งนั้นว่า ป่าชายเลนสำคัญมากต้องเฝ้าดูแล สำคัญต่อระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล และอ่าวไทย เพราะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำต่างๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ขณะที่มันยังตัวเล็ก สัตว์น้ำเหล่านี้ใช้พื้นที่ป่าชายเลนเป็นที่วางไข่ และขยายพันธุ์ ถ้าป่าชายเลนถูกทำลายลงหมด ก็เท่ากับพวกเราทำลายแหล่งผลิตอาหารของมนุษย์ไปด้วย ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้ง และขอบคุณนายกฯ และคณะรัฐบาลที่สนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง และขอบคุณการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ช่วยสนับสนุนตู้รถไฟกว่า 600 ตู้ และขอบคุณกรมทางหลวงที่สนับสนุนท่อคอนกรีตสำหรับใช้ทำปะการังเทียม และสำคัญที่สุดคือ กรมประมง ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่งานที่สำคัญ ช่วยให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี ทำให้ชาวปัตตานี และนราธิวาสสามารถทำมาหากินด้วยการทำประมงขนาดเล็กตามชายฝั่งทะเลได้อีก ทางกรมประมงรายงานว่า ชายฝั่งทะเลทั้ง 2 จังหวัด เดี๋ยวนี้มีปลาชุมมาก เขาลงไปถ่ายหนังให้ข้าพเจ้าดูด้วย ปลาหมอทะเลตัวใหญ่มาก ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นตัวจริง เคยเห็นแต่ในรูปของประมง ปลาหมอทะเลนี้ตัวขนาดใหญ่หนัก 100 กิโลกรัม และมีปลาชนิดอื่นๆ อีกมากมายเข้ามาชุมนุมกัน ที่เราทิ้งปะการังเทียมลงไป เช่น ปลาผีเสื้อเทวรูป ปลากะพงข้างเหลือง ปลากะพงแดงหางปาน ปลากระรังหางซ้อน ปลาช่อนทะเล ปลาตะคองเหลือง ปลาสร้อยนกเขา ปลาผมนาง ปลาสลิดทะเลแถบ ปลาหางกิ่งหม้อ ปลาอินทรีย์บั้ง ปลาอีโต้มอญ ปลากล้วยหางเหลือง เป็นต้น ชาวไทยอิสลามซึ่งโดยมากจะเป็นชาวประมงแบบเรือเล็กๆ ชายฝั่งก็มาหาข้าพเจ้า ว่าเดี๋ยวนี้เขายิ้มแย้มแจ่มใส ว่าเดี๋ยวนี้จับปลาได้ มีกินแล้ว จับปลาได้ มีปลาเยอะแยะไปหมด และกลางคืนขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินทางกลับจากการทำงาน ก็จะมีประชาชน ทั้งไทย-พุทธ ไทย-มุสลิม มายืนจุดเทียนส่องอยู่ สองข้างทาง เขาบอกว่าเขาเป็นห่วงข้าพเจ้าที่ทำงานแล้วกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ ที่ข้าพเจ้าขอเชิญท่านทั้งหลายมาวันนี้ ก็คิดว่าท่านทั้งหลายเป็นคนไทย เป็นเจ้าของประเทศ และเมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าได้ไปกราบท่านอาจารย์แบน ที่ทางภาคอีสาน พร้อมด้วยผู้ติดตามอีกมากมาย ท่านก็เทศน์ให้ฟัง และอันหนึ่งที่ท่านกำชับนักหนา ขอให้ทุกคนนึกถึงพระคุณของแผ่นดิน อย่าได้ลืมพระคุณของแผ่นดินเป็นอันขาด ที่จะคอยปกป้อง ทะนุบำรุงแผ่นดินอยู่เสมอ เลยทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าไปภาคใต้มา 2 เดือน ปีนี้ อยู่มา 2 เดือนเต็ม ได้ยิน ได้เห็นอะไรหลายอย่าง และก็รู้สึกว่า สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป เป็นที่น่าเสียดายว่า แต่ก่อนคนไทยพุทธ ไทยมุสลิม เคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ตอนนี้กำลังประสบภัยคุกคามอย่างหนัก อันที่จริงประเทศไทยของเราทุกคนมีอิสระ เสรี ในการเลือกนับถือศาสนา ไม่เคยต้องโดนบังคับว่า ศาสนานี้พวกเธอนับถือไม่ได้ ศาสนานี้นับถือไม่ได้ เพื่อนชาวต่างประเทศของข้าพเจ้า ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าได้ไปรับเชิญไปรับรางวัล ไปเยี่ยมทางต่างประเทศ ทุกคนจะสรรเสริญประเทศไทยว่า เป็นประเทศที่ให้อิสระ เสรีภาพกับคน ที่ว่าจะเลือกนับถือศาสนาใดก็ได้ โดยไม่มีการรังแก ไม่มีการแกล้ง หรือฆ่าฟันอะไรกันเช่นนี้ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทรงสนับสนุนปกป้องทุกศาสนา อย่างกรุงเทพฯ ของเรา จะเห็นได้ชัด มีวัด มีโบสถ์คริสต์ มีมัสยิด มีโบสถ์พราหมณ์ ทุกอย่างเราอยู่ใกล้ๆ กัน ก็ไม่เคยสักครั้งที่ชาวพุทธจะวิ่งไล่ฆ่าชาวคริสต์ หรือชาวคริสต์จะเที่ยววิ่งไล่ฆ่าชาวอิสลาม ไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเป็นชื่อเสียงของประเทศมา ผู้คนเวลาพบกันก็ ถึงแม้จะต่างศาสนาก็ทักทายกันด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เดี๋ยวนี้กลับแปรเปลี่ยนไป ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ทำให้ข้าพเจ้าวิตกอย่างมาก มีการทำร้ายอย่างอำมหิต คนเข้าไปซื้อของในร้าน พอซื้อของเสร็จลูกค้าก็ชักปืนยิงเจ้าของร้าน ที่ข้าพเจ้าทราบด้วยตัวเอง คืออ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่ว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้น ชักปืนยิงเจ้าของร้านชำเล็กๆ ใน อ.เมืองนราธิวาส เป็นผู้หญิง อายุ 70 กว่า และหาเลี้ยงลูกพิการ แม่แก่เท่าไรก็ตามก็พยายามเลี้ยงลูก และวันหนึ่งก็มีคนขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปที่ร้าน และเข้าไปถึงก็บอกจะซื้ออะไหล่ยาง พอแม่แก่จะหันหลังไปหยิบของ ก็ยิงตาย แม่ตายแล้วลูกชายที่เดินไม่ได้ก็นั่งอยู่ที่นั่นด้วย ก็บาดเจ็บสาหัส เวลานี้ก็บาดเจ็บสาหัสอยู่ ถ้าเขารอดข้าพเจ้าเองก็ยังไม่ทราบว่าใครจะดูแลเขาต่อไป เรื่องพรรค์นี้ในปีนี้ข้าพเจ้าได้รับทราบเรื่องเองมาก เรื่องที่แต่ก่อนไม่มีเกิดขึ้นแก่ประเทศไทยเลย เช่นว่า พระเดินออกไปบิณฑบาต 30 ปีที่ข้าพเจ้าไป แม้จะขึ้นชื่อว่ามีโจรแบ่งแยกดินแดน แต่โจรแบ่งแยกดินแดนก็ไม่ใช่ว่าเที่ยวไปฆ่าคน ทุบตีคน หรือว่าเที่ยวฆ่าพระ ฆ่าเณร อะไรเช่นนั้น ไม่เคยเกิดขึ้น เพิ่งเกิดขึ้นปีที่จะ 31 ที่ข้าพเจ้าไปอยู่เนี่ย นักเรียนขี่จักรยานไปเรียนหนังสือก็ถูกยิงตาย ใครยิงก็ไม่ทราบ กลางวันไม่ใช่กลางคืนเนี่ย พระเณรออกบิณฑบาต นี่พระท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังเองว่าถูกฆ่า เชือดคอ ถูกฟัน ถูกทุบตีจนกระทั่งพิการ ต้องสึกออกมาเพราะว่าพิการเดินอะไรไม่ได้ ฟาดไปบนศีรษะ ทำร้ายร่างกายต่างๆ และอีกแห่งน่าสงสารมากเลยเป็นชาวบ้านที่ยากจน ก็มีที่นาอยู่เล็กๆ และมีสวนยางเล็กๆ เขาเพิ่งจะซื้อห้องแถวและไปรับลูกเล็กๆ จากแม่ ไม่งั้นฝากแม่เลี้ยงเอาไว้ให้มาอยู่กับเขา แล้วก็นี่เพื่อนบ้านเล่า เหตุเกิดที่ จ.ยะลา อ.เมือง ด้วย นั่งดูโทรทัศน์เล็กๆ อยู่ในบ้าน เพื่อนบ้านเขาเล่าว่า เสียงเด็กร้องและก็เพื่อนก็เข้าไปเห็นเด็กเนี่ยอายุ 8 ขวบ กำลังประคองหัวพ่อ ประคองศีรษะพ่อ เพื่อที่จะไปต่อกับร่าง เด็กขนาด 8 ขวบ ทุกข์โศกและตกใจขนาดหนัก เขาก็พาเด็กมาพบข้าพเจ้า เพราะเด็กก็ไม่มีใครแล้ว เพราะแม่ก็ทิ้งไปนานแล้ว ไปแต่งงานใหม่ ข้าพเจ้าก็บอกกับลุง บอกว่า ไม่เป็นไร ข้าพเจ้าจะดูแลเอง ถ้าข้าพเจ้าไป ไปอยู่ 2 เดือน กลับมาโดยไม่ได้เล่าให้ท่านฟัง ไม่ได้บอกให้เพื่อนคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของประเทศทราบ ข้าพเจ้าก็จะเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ไปเห็นเขานั่งอมพะนำ ไม่พูดอะไร ไปเห็น ไม่ได้เห็นเขาตอนกำลังฆ่า แต่ลุงเขาพาเด็กเข้ามา ซึ่งเป็นเด็กแกร็น น่าสงสาร ไม่ว่าข้าพเจ้าไปที่ไหน ไปที่ อ.สุคิริน เป็นนิคมซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสนับสนุนตั้งขึ้น ก็มีชาวอีสาน มีชาวไทยที่นราธิวาสเอง อยู่ที่นั่น พอข้าพเจ้าไปเยี่ยมก็บอกว่า ดีใจที่ราชินีมา ที่ได้เห็นหน้า แต่ก็ไม่อยากให้มา ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้มาเพราะมันอันตราย น่ากลัวเหลือเกิน ไม่อยากให้ท่านมา ข้าพเจ้าก็บอกว่าไม่มีอันตรายหรอกข้าพเจ้านี่ ทางรัฐบาล ทหาร ตำรวจ เขาดูแลใกล้ชิด เขาก็เล่าให้ฟังว่า เขาไม่ทราบจะว่าอย่างไรแล้ว ราวๆ ทุ่ม พวกเรากินข้าวเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็นั่งคุยกัน ช่วยกันสร้างศาลานานแล้ว ก็นั่งคุยกันที่นั่น ประเดี๋ยวก็เห็นคนขับมอเตอร์ไซค์มา เป็นผู้ชายหนุ่มซ้อนท้ายมา แล้วก็พอมาถึงที่ศาลานั้น ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่ต่อว่า ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น กระชากเอาปืนอาก้าออกมา ปืนกลที่ทำในรัสเซีย ที่เคยทำในรัสเซีย ออกมายิง ที่นั่งคุยกันนั่นก็ตายหมด และจนป่านนี้ก็ไม่มีใครทราบว่า ผู้ที่ตายทั้งหลายแหล่นี้ ถูกยิงด้วยอาก้านี้ เป็นใครยิง ก็เงียบหายไป คนก็อยู่ด้วยความหวาดกลัวเต็มที่ และตอนหลังเขาก็ทิ้งใบปลิว ที่ตลาดนราธิวาส ใบปลิวบอกว่า ไอ้พวกไทย-พุทธออกไปเดี๋ยวนี้จากแผ่นดินของกู ไม่งั้นจะให้กินลูกปืน ข้าพเจ้าก็ได้แต่ปลอบใจ ชวนไปหัดยิงปืนลูกซอง เพื่อป้องกันตัว อาสาเขาก็อยากป้องกันตัวเองได้ ตกลงเขาก็ไปกันทั้งผู้หญิงผู้ชายไปหัดยิงปืนที่ค่ายของนาวิกโยธินที่ อ.เมืองนราธิวาส ผู้หญิงยิงแม่นมาก ซึ่งไม่นึกว่าผู้หญิงที่ดูมีอายุ ยิงได้พั่วๆ ซึ่งเขาก็ภูมิใจว่าสามารถป้องกันตัวเองได้ ข้าพเจ้าตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากกว่า 30 ปี ไม่เคยพบเคยเห็น เหตุการณ์โหดร้ายทารุณเช่นนี้เลย และบางครั้งชาวบ้านที่มีสวนยางบางทีเขาก็จะเอาใบปลิวมาติดที่สวนยาง และบอกว่า ห้ามกรีดยาง ถ้าใครกรีดยางจะฆ่า เหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป แล้วชาวบ้านก็เล่าให้ฟังว่าที่แถวบ้านตันหยงลิมอร์ ถ้าคนไทย-พุทธ ไปกรีดยางเขาเองก็จะถูกเชือดคอ เอาหัวไปทิ้งซะที่อื่น แล้วก็จะมีคนแปลกหน้ามาถามว่าจะขายสวนยาง สวนเงาะ สวนลองกองหรือไม่ ถ้าบอกไม่ขายตอนดึกก็จะมีคนเข้ามาตัดทำลายสวนผลไม้ ทำลายสวนยาง ผลไม้กำลังออกผล และก็พร้อมที่จะเก็บขายได้แต่ก็ถูกตัดไปจนหมด เมื่อข้าพเจ้าไปเยี่ยมที่บ้านตันหยงลิมอร์ ชาวบ้านโดยมากเป็นผู้หญิง บอกว่าท่านมาก็ดีแล้ววันนี้ เพราะว่าเราอยากจะฟังจากปากท่านคำเดียวเท่านั้นว่าเราเนี่ย มีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่มั้ย หรือท่านจะให้เราไปให้พ้น ข้าพเจ้าก็บอกว่าอยู่สิ อยู่ เพราะว่าต้นไม้ ต้นผลไม้ ต้นยางอะไรก็โตหมดแล้ว เราควรอยู่และก็ช่วยกัน ค่อยๆ ช่วยกันคิดอ่าน ราษฎรเหล่านั้นก็บอกว่าเขาอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย อาศัยทำกินอยู่ที่นี่มาเป็น 100 ปีแล้ว และพวกเราจะต้องออกไปจากที่นี่เนี่ย จะไปไหนกัน พวกเราไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมจะยอมให้ใครมาไล่ออกนอกพื้นที่ ราษฎรเหล่านั้นก็ขอข้าพเจ้าว่า ขอให้ช่วยพูดกับคณะรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรี ขอร้องว่าอย่าให้ถอนทหารออกจาก 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะว่าถ้าทหารอยู่ ชีวิตเขาก็ยังอยู่ ถ้าทหารถอนออกไปเขาคงตาย และข้าพเจ้าก็เลยบอกว่า ขอให้ทหารซึ่งเป็นนาวิกโยธินไปช่วยทำการฝึกชาวบ้าน ชาวบ้านก็จะทยอยกันไปที่ค่ายของนาวิกโยธินแล้วก็ฝึกยิงลูกซอง และก่อนที่ข้าพเจ้าจะกลับเขาส่งข่าวมาว่าตั้งแต่พวกเขายิงปืนลูกซองเป็นเนี่ย การก่อกวน เช่น ถึงเวลานอนก็ไม่ให้นอน ส่งกลุ่มมอเตอร์ไซค์ไปขับขี่ในหมู่บ้าน ทำเสียงให้ดัง ซึ่งพวกเขาก็กลัวไม่รู้จะทำยังไง แต่ถ้าเขายิงปืนแม่น พวกก่อกวนเหล่านี้ก็หายไป หายเงียบลงไป ข้าพเจ้าจึงขอร้องท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ให้ช่วยสงเคราะห์ดูแลฝึกราษฎรไปเรื่อยๆ เรียกว่า อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน เหมือนที่รัฐมนตรีโภคิน ได้เคยทำไว้ ข้าพเจ้าก็ทำเพิ่มขึ้นอีก เพราะรู้สึกเขาสบายใจขึ้น ข้าพเจ้าก็เลยกลับไม่ลง ใครๆ บอกว่า อยู่ 2 เดือนแล้วน่าจะกลับไปซะที แต่กลับไม่ลง เพราะเห็นเขาทุกข์โศกมากมาย และเขาบอกเวลาที่ แม้แต่พระ ก็บอกว่า มาประทับอยู่เหตุการณ์ทั้งหลายเบาบางลงไป ไม่เหมือนกับไม่ประทับอยู่จะโดนเต็มที่ อันนี้ข้าพเจ้าเห็นว่า ประชาชนเหล่านั้นก็เป็นคนไทยแท้ๆ ทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย น่าจะให้ไทยเราภาคกลาง หรือตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือได้ทราบ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน น่าจะห่วงใยชีวิตคนไทยด้วยกัน เมื่อประสบความยากเข็ญขณะนี้ ซึ่งข้าพเจ้าคนเดียวจะไปคิดทุกอย่างที่จะช่วย คงไม่มีแรงพอทำได้ แต่ถ้าเป็นคนไทยทั้งชาติ ไม่ต้องฆ่าใครหรอก แสดงกำลังอย่างลูกเสือชาวบ้าน ก็เคยสาบานต่อหน้าข้าพเจ้าว่า จะทำประโยชน์เพื่อชาติ ก็แสดงพลังออกมาว่า ไม่พอใจในการที่เกิดการรังแกผู้คนที่ยากจน ทำมาหากินไปวันๆ ไม่ถูกต้อง บางคนก็อยู่ไม่ได้ก็หนีไป เขาก็ไม่รู้จะหนีไปไหน หนีไปหาเพื่อนบ้าง ไปนครปฐม และยกบ้านให้ ขอให้ทหาร ทหารทำชื่อเสียงที่ดีมาก จะเห็นว่าประชาชนขอร้องให้ทหารช่วยอยู่พิทักษ์คุ้มครองให้เขาทำมาหากินได้ พวกที่อพยพไปก็ยกบ้านให้ทหารใช้เป็นที่พัก สำหรับดูแลคุ้มกันชาวบ้านให้ได้รับความปลอดภัย ข้าพเจ้าก็อยู่ดู 2 เดือน แล้วก็คิดทบทวนว่า เอ เราจะปล่อยให้เหตุการณ์ฆ่ารายวันเกิดขึ้นอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ ไปเช่นนี้หรือ เป็นถึงพระราชินี แล้วก็อายุ 72 แล้ว ไปเห็นเหตุการณ์ต่างๆ กลับมาก็นิ่งอมพะนำอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จักพูดไม่รู้จา ช่วยเหลือคนไทยที่อาภัพเหล่านั้น ก็เลยคิดว่า อย่าเลย พูดให้ท่านฟัง พูดให้ท่านได้ยินว่า สมควรหรือที่จะปล่อยให้ใครอยากฆ่าใครก็ได้ ฆ่าแล้วก็แล้วไป ไม่เห็นถูกจับ คือรู้สึกว่ากฎหมายของประเทศไทยมีอยู่แต่ใช้ไม่ได้ ใน 3 จังหวัดนั้น ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่ว่าน่ากลัว น่ากลัวเหลือเกิน เพราะว่าพูดถึงสิทธิมนุษยชน ข้าพเจ้าว่า คนไทยทั้งหลายมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ และมีสิทธิ์ที่จะทำมาหากินโดยสุจริต ทีนี้ถ้าเผื่อเขาทำมาหากินก็ไม่ได้ กรีดยางก็ไม่ได้ เก็บผลไม้ของเขาที่เขาปลูกไปขายก็ไม่ได้ แล้วเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร และข้าพเจ้าซึ่งไปนั่งอยู่กับเขา 2 เดือน กลับมาก็นั่งอมพะนำ ปิดปาก ไม่พูดอะไรเลย ด้วยความเกรงกลัวว่าเดี๋ยวจะเสียอย่างโน้น เสียอย่างนี้ ข้าพเจ้าก็ว่า คิดว่าชีวิตมนุษย์นี้สำคัญที่สุด เราจงใจที่จะช่วยชีวิตมนุษย์ ไม่ได้จงใจที่จะเบียดเบียนใครเลย ช่วยชีวิตมนุษย์ให้รอด และคนเหล่านี้เป็นคนบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำร้ายใคร ก็ขอให้เขาได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เดี๋ยวนี้แม้แต่เจ้าหน้าที่ชลประทานที่ออกไปทำงานเพื่อช่วยข้าพเจ้าหาแหล่งน้ำ ช่วยเหลือชาวไร่ ชาวนาในโครงการพระราชดำริ ก็ถูกฆ่า ผู้พิพากษานั้นน่าสงสารที่สุด ผู้พิพากษาอายุยังไม่ 40 เลย ลูกก็ยังเล็กๆ ก็ถูกฆ่า ติดไฟแดงแล้วก็ถูกฆ่า ไม่ทราบว่าเมืองไทยเราปล่อยได้อย่างไร พวกคนไทยเราเนี่ย ท่านทราบแล้ววันนี้ ท่านก็ไม่ควรปล่อย ต่างคนต่างคิด ปรึกษากันว่าควรจะทำอย่างไร ช่วยรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ดูแลคนไทยด้วยกันให้ได้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข แม้แต่พระสงฆ์ก็โดนทุบ โดนฆ่า เพียงแต่ออกไปบิณฑบาตซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีเลย เพราะที่นั่นก็เป็นดินแดนของคนไทยอิสลาม เขาก็ไม่เคยแตะแม้แต่โจรแบ่งแยกดินแดนเขาก็ไม่เคยแตะ วัดไทยเขาก็ไม่เคยแตะ ทำคนบริสุทธิ์เลย เขาจะสู้กับทหาร ตำรวจอะไรของเขาไป ก็ไม่เคยรังแกชาวบ้านที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ และการฆ่าก็ไม่เหมือนปกติ เป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ยอมเชื่อว่าเป็นการกระทำของชาวไทย-มุสลิม ที่ข้าพเจ้าเคยพบและรู้จักมานานกว่า 30 ปี ที่เคยรู้จักใกล้ชิดมันไม่ใช่เขา มันเป็นอะไรมาจากไหนก็ไม่ทราบ ข้าพเจ้าก็จะวิงวอนขอร้องท่านทั้งหลายให้ร่วมกัน ร่วมกันทำอย่างไรข้าพเจ้าก็จะไม่ขอพูดละเอียด เพราะบางครั้งข้าพเจ้าก็คิดไม่ถึง แต่ขอให้ท่านแสดงออกถึงความห่วงใยต่อประชาชนคนไทยถึงแม้จะอยู่ไกลถึงภาคใต้ ที่ถูกรังแกเอาชีวิตอย่างน่าสงสารที่สุด ข้าพเจ้าก็เลยคิดถึงท่านทั้งหลายเนี่ย ที่เป็นผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้แทนองค์กรอิสระ ผู้แทนมูลนิธิ สมาคม สโมสร สภา คณาจารย์ นิสิต นักศึกษา ลูกเสือชาวบ้าน ไทยอาสาป้องกันชาติและสื่อมวลชน ช่วยกันคิดอ่านหาทางยุติการฆ่าฟันรายวันเพราะเดี๋ยวนี้ แต่ก่อนตอนข้าพเจ้ายังอยู่อย่างมากก็ วันละ 2 คน แต่เดี๋ยวนี้เมื่อข้าพเจ้ากลับมาแล้วบางวันก็ 8 คน ท่านทั้งหลายน่าจะช่วยกัน ช่วยรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยกันคิด ช่วยกันยุติ เหตุการณ์ฆ่าอย่างนี้ ไม่ได้บอกให้วิ่งถืออาวุธลงไปช่วย แต่แสดงพลังทางใจก็ได้ พร้อมใจแสดงความไม่พอใจ แต่ข้าพเจ้าคิดว่า คนไทยทุกคนควรจะมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ไม่ใช่มอบให้เป็นหน้าที่รัฐบาลฝ่ายเดียว ตั้งแต่เดือน ม.ค.จนถึงบัดนี้ ผู้ที่ถูกฆ่าประจำวัน เสียชีวิตไปกว่า 300 คนแล้ว คนที่บริสุทธิ์ตายทุกวัน ซึ่งข้าพเจ้าเองก็หมดสติปัญญา ต้องขอร้องนายกฯ คณะรัฐบาล ก็ทราบว่ามีรายชื่อมากในคนที่ถูกยิง ซึ่งข้าพเจ้าอยากแจ้งให้ทราบว่า เมื่อข้าพเจ้าอายุ 72 ปีนั้น ก็ได้รับเงินบริจาคจากท่านทั้งหลายเอง เป็นจำนวนมาก คนโน้นให้ที คนนี้สมาคมต่างๆ ก็ได้เอาเงินนี้ไปซื้อที่ จ.นราธิวาสไว้ 600 ไร่ มีความตั้งใจว่า จะเอาพวกภรรยา และครอบครัวของคนที่ถูกฆ่าเช่นเป็น ตำรวจ ตำรวจผู้น้อย สิบตำรวจเอก หรือจ่าสิบเอก หรือจ่าสิบโท ที่ถูกฆ่า เพราะอยู่เวรที่โรงพัก เช้าจะกลับบ้านก็โดนยิงนับไม่ถ้วน 300 กว่ารายแล้ว ข้าพก็พร้อมกับราชองครักษ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานให้มาอยู่กับข้าพเจ้าก็ไปซื้อที่ และช่วยทางเกษตร และประมงไปช่วยกัน จนเดี๋ยวนี้กำลังสร้างบ้านให้พวกแม่ม่ายที่ยากจน และมีลูกเล็กๆ และก็ไม่ทราบจะดำเนินชีวิตอย่างไร ทีแรกข้าพเจ้าก็คิดว่า จะเอาเงินที่ท่านทั้งหลายให้ ให้ทุกครอบครัว แต่ไม่มั่นใจว่า ให้เป็นเงินจะมีประโยชน์เท่ากับให้ที่แต่ละคน แต่ละพวก ที่ 2 ไร่ และบ้านหลังหนึ่ง และสอนวิธีการเลี้ยงปลา ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารต่างๆ ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังสร้างบ้านอยู่ และมีคนทยอยเข้าไป ที่เราตรวจสอบแล้วว่า เป็นผู้ที่โดนฆ่าในหน้าที่จริงๆ ค่อยๆ เข้าไป ท่าเขาก็มีความสุขเพิ่มขึ้น เลยจะขอบพระคุณท่านทั้งหลายผู้เป็นเจ้าของเงิน และก็ให้ทราบว่า ข้าพเจ้าเอาเงินไปทำอะไร และอีกอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลาบปลื้มนัก รับสั่งว่า นักวิชาการของไทยเก่งมาก เก่งเหลือเกิน ไม่ว่าทางเกษตร ทางประมง ทางป่าไม้ ทางช่วยข้าพเจ้าให้สามารถช่วยชาวบ้านได้สำเร็จ ข้าพเจ้าก็คิดว่า ข้าพเจ้ากลับมานี่แล้วก็ ถึงอายุ 72 ก็ตาม ก็เห็นจะฝึกยิงปืนขึ้นมาอีกล่ะ แก่เฒ่าแก่ ก็เอาพวกแก่ๆ นี่ไปหัดยิงปืน ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ก็ยังดีกว่าจะต้องให้คนคอยดูแล ต่อไปนี้เป็นรายชื่อพวกผู้ที่เสียชีวิตต่างๆ ข้าพเจ้าก็คิดว่ารายละเอียดต่างๆ ก็คงไม่ต้องเล่าให้ท่านฟังแล้ว มีร้านขายข้าวต้มเป็นคนไทย-จีน เขาขายราคาถูก ขายดีและก็มีคนไปนั่งรับประทานอยู่เสมอ เกิดโดนวางระเบิด ผู้คนเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก น่าสงสารมาก เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ใช้ยิงเฉย ๆ ใช้วางระเบิดด้วย ชื่อร้านขายข้างต้มอั้งม้อ ตอนนี้พังไปหมดแล้ว มีคนบาดเจ็บ 15 คน สาหัส 4 คน และมีเด็กเล็กๆ ได้รับบาดเจ็บด้วย เท่าที่ข้าพเจ้าสังเกตดูเนี่ยคนร้ายมักจะลอบประทุษร้ายเฉพาะคนที่ไม่มีหนทางต่อสู้ ก็เลยขอขอบพระคุณท่านทั้งหลาย ที่ช่วยให้กำลังใจข้าพเจ้าแล้วก็มาฟังกันในวันนี้ ทั้งท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย แต่ท่านนายกฯ ก็ ตอนที่ข้าพเจ้าอยู่นราธิวาส ก็ไปเสมอ ไปเยี่ยมเยียน ไปดูแลทุกข์สุขเสมอ ข้าพเจ้าก็ทราบดี นายกฯ ก็ต้องวิ่ง แต่คิดว่าไม่ควรมอบให้เป็น เรียกว่าโมะให้เป็นหน้าที่รัฐบาลอย่างเดียว คนไทยทั้งชาติก็มีหน้าที่ต้องตอบแทนพระคุณของแผ่นดิน เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าถึงต้องมานั่งพูดวันนี้ ขอร้องท่าน ขอให้ท่านช่วยเพื่อนไทยด้วยกัน ซึ่งเป็นคนสะอาด สุจริต เขามีอย่างเดียวก็ทำมาหากินของเขา แต่ขณะนี้ทำมาหากินก็ไม่ได้ ตายลูกเดียว จะให้เขาอพยพออกมาจากผืนดินที่ปู ย่า ตา ยาย เขาหามาเนี่ย ก็ได้แต่ข้าพเจ้าก็ยังมองไม่เห็นว่าจะอพยพคนไทยจำนวน 300000 ไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง และให้เขาทำกินอย่างไร มันก็คงเป็นปัญหาใหญ่ ครั้นจะปล่อยให้โดนฆ่าตายทุกวันๆ มันก็แย่เหมือนกัน แย่ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นท่านเองก็เป็นผู้ที่มีสติปัญญา เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยและเป็นผู้ที่ควรตอบแทนพระคุณแผ่นดินก็คงจะช่วยข้าพเจ้า ช่วยกันคิดว่าควรจะทำอย่างไรบ้างที่พยายามที่จะช่วยชีวิตคนไทยประมาณ 300000 คน ทางภาคใต้ ให้เขามีทางที่จะทำมาหากินและได้มีชีวิตอยู่ ขอให้เขามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ อยากจะพูดกับพวกสิทธิมนุษยชนว่า พวกนี้ไม่ได้ทำบาปทำกรรมอะไรเลย เขาก็มีสิทธิ์ น่าจะมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต ทำมาหากินในประเทศของเขาอย่างสงบสุข ไม่อย่างนั้นก็โดนฆ่าไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ก็ขอขอบพระคุณทุกท่านที่อุตส่าห์มาฟังในวันนี้ และขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลนะคะ ที่ช่วยกันพยายามแก้ปัญหาอย่างยิ่ง และข้าพเจ้าก็สัญญาว่า ข้าพเจ้า 72 แล้ว จะไปหัดยิงปืนใหม่แล้ว โดยไม่ต้องใส่แว่น ก็ยิงมันไปก็แล้วกัน ขอบพระคุณค่ะ ขอบพระคุณมาก
ชี้าักเรียนไทยถูกสอนแต่ในนำรา จนทำให้คิดช้า แนะคว่เแิดโอกาสให้เด็กแสดงศักย_าพ6 ส.ค. 2563 อมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องวิภาบดี บอลรูม โรงแรมเศ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็ตทรัลพลาซา ลาดพร้าว กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปละ รมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานกล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ Bangkok Podt Forum 2020 : พลิกฟ่เนประเทศไทย : กัาวต่อไปอย่างมั่นคง โดยมีจะกธุรกิจ และคณะทูตานุทูตเข้าร่วมว่า ตนเข้ามาพยายามแกัปัญหาการทุจริตประพฤติมเชอบ มีผลงานกรากฏมากอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อฝยรเสกติแ การปราบปรามการค้ามนุษน์ และการหลอกลวง รวมถึงความผิดต่างๆ มีสถิติการทำงานอยู่ทุกเดือน โดยสั่งให้ทุหคนต้องรายงานยึ้นมา ฉะนั้นอะไรที่ดูแล้วไม่น่าจะดี ยังๆม่ดีก็กำชับไปยังหัวหร้าหน่ววงานในหลายหน่วยงาน ตนทำได้เพียงแร่ต้นทางในฐานะที่ดูแลตำรวยให้เป็นตำรวตที่ประชาชนเชื่อมั่น แต่ยังมีปัญหาอยู่เยอะเพราะนะ่รคือมนุษย์ ตืดคนมีทั้บคนดี คนไมาดี มีผลประโยชน์และไา่มีปลประโยชน์ แต่ทำอย่าลไรจะทำมิ่งเหล่านีิให้กีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ที่ตัวเราเอง่ักคน ทุกท่านรู้ตัวว่าทำดีหรือไม่ดีพล.อ.ประยุทธ์ กลทาวต่อว่า เรื่องที่กำลังเป็นประเพ็นใหญ่ที่สับคมให้ความสนใจ คือ เรื่องบอส กระทิบแดง กรณีนี้แสดงให้เร่เห็นได้ชัดเจนถึงความสำรัญขอฝสื่อที่มีต่อสังคมไทน และนั่นคือเหตุผลที่ตนเชื่อว่าในประเทศไทย สื่อต้ิงมีความเป็นอิสระ และาีความแข็งแรว ต้องมีจรรยางรรณ สื่อคือฐทนันดรืี่ 4 ค้องมีหลายๆ อย่าง ต้ิงวางตัวเป็สกลาง เสนอข่าวที่ัแ็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเรื่องนี้ ท้าทายรพบบยุติธรรมและระบบกฎหมรย และพระทบต่อความไว้วางใขของประชาชนที่มีต่อระบบรัฐทั้งหมดผมจึงขอแสดวจุดยืนของผใในิรื่องบอส กระทิงแดง ว่ท ผมไม่โอเค กับหลายเรื่องทค่ยังไม่ลัดเจน ผมต้องการให้มีความโปต่งใส ผใจะผงเกดันและผมขะติดตามเรื่องนี้อจ่างใกล้ชิด ผมพร้อมทีีจเดำเาินการ หลังจากเห็นข้อสรุปของคณะำรรมการท่่ผมจั้งขึ้นซึ่งมีความเป็นอิสระ และประกอบไปด้วยผู้ที่เป็นที่ยอมรับของสังคม ทั้งในเรื่องความรู่และความเป็ตกลาง และพร้อมที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าทีรและกฎหสายที่มีอยู่ คดีนี้ถือเป็นคดีได้อ่กหลนยแสนหลายล้านคดีในประเทศไทยเป็นคดีทีีต้องให้ความสำค้ญอย่างยิ่งยวด เพราะไม่ต้องกมรให้ทุกอย่างสร้างคฝามไม่เชื่เมั่นต่อไป พง.อ.ประยุทธ์ กล่าวพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่่อมวลชนภือเป็นหาก ตา และหูแทนประชาชน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทั้งใน แลดต่นงประเทศ สื่อาวลชนก็ทำหน้าที่เสนอข่าวซึีงถือเป็นการเปิดประเทศหทยไปมู่นายตาโลก วันนี้มีสื่อออนไลส์เพิ่มมากขึ้น ก็ถือเป็นสิ่งมี่ดี เราต้องยึดมั่นสิ่งที่เป็นจริง ความน่าเชื่อถืเฝนการเสนอความจริง วันนีิมีหลาสอย่างืี่เคาต้องพลิกฟื้นประเทศ การที่มีสื่อมวลชนทร่มีคุณภาพถือเก็นหนึ่งในโครงสร้างพื้ยฐานสำคัญืี่มีความจำเป็น เพราะการสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นธรรมจะมีส่ในอย่างมากต่อการตัดสินใจในการดำรงบีวิตของประชาชน รวมทั้งการดำเนินการก้านธุรกิจ การสร้างการรับรู้ข้อเท็จจริงอย่างกว้างขวาง การให้ความคิดเห็นอย่างตรงไปตคงมา สรีางสรรค์ จะสะท้อนความต้องการของประชาชน ช่ววสร้างความเข้าใจ บรรเทาความขัดอย้ง ลดความเฟลื่อมล้ำในสังคม สิ่งเหล่านี้ทุกคนต่องการมนกที่สุดในขุ๋นี้ ใจเวลาที่เรากภลังสีปัญหาจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพลิกฟื้นในประเทศในช่วงทีีทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากวิกฤตในปัจจุบันพล.อ.ประจุทธ์กล่าวว่ม อีกมิตืหนึ่งที่ใำคัญคือ พื้นฐานเศรษฐกิขของประเทศ ทุกคนทราบดีว่าจำเป็นต้องดูปลให้เกิดควรมต่อินื่อง เพราะเป็นปัญหาระยะยาวที่เราร่วทก้นเผชิญหน้ามาโดยตลอด หลสยตัฐบาล หลายมิบปีที่ยังมรความเหล่่อมล้ำในเรื่องของอาชีพและรายไดิ สิ่งเหล่านี้เราต้องช่วยกันทะนุบำรุงให้แข็งดกร่ง ทั้งการบริโภคภ่ยในประเทศแลักรรส่งออก เพื่อเป็ยพื้นฐานที่ดีในการพลิกฟื้นประเทศไปสู่ความมั่จคงให้ได้โดยเร็วตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่งนายกณ ดมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2557 จะเห็นฟด้ส่าเศร๋ฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ อัตราการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจในปี 2557 อยู่ที่เพียงร้อยละ 1.0 เพราะมีปัญหนความขัดแย้ง ความไม่มีเสถียรภาพ แต่ก็เพิ่มขึ้นเร้่อยๆ เป็ตร้อยละ 3.1 และร้อยละ 3.4 ในปี 2558 แลเ 2559 จากนัันก๊มีหารเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อถึงปี 3563 ประเทศไทยเผชิญผัญหนสพคัญทั้งเศรษฐกิจฌลก เศรษฐแิจภายในประเทศ ที่ต้องเผชิญวิกฤตการณ์ทั้งการค้า การลงทุนต่างประเทศ สิ่งสำคัญท้่สุดคือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งความรุนแรงยังเกิดขุ้นทุกวัน โดยเฉดาะในต่างประเทศยังมีการแพร่ตะบาดจำนวนมาก งันนี้สถานการณ๋จังประมาทไา่ได้เลย เพราะยังมีการขยายขอบเขตไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แต่เราต้ิงไใ่ตื่นตระหนก ต้องอาศัยความร่วมมือ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการกาคควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงบด แต่เมื่อรัฐบาลออกมาตรการต่างๆ ออกมามีทั้งคนที่เห็นด้วยและไมีดห็นด้วย แต่เราต้ิงทำคนส่วนใผญ่อละคนทั้งหมดปลอเ_ึย และต้องช่วยกันคสามเข้าใย ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าสถานกาคณ์เศรษฐกิจิยู่ในช่วงถดถอยทั้งโลพ ประเทศไทยที้ว่าแย่แต่ก็ขังมีหลายประเทศที่แย่มรกกว่า ดังนั้นจึงขออย่าท้อแท้ เ่าต้องทำให้ดีแงะฟ้รฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ทุปคนต้องอดทนบ้าง และคาดว่าจรกผีนี้จนถึงปีหน้าและปีต่อไปอีก 2 หรือ 3 หี กว่าจะทุกอย่างจะกลับมาฟื้นฟูเข้มแข็งได้ จคงต้องหาวิํีการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ความร่วมม้อและควาาเข้าสจะป็นสิ่งสำคัญ ลดความขัดแย้งในหลมจๆ ประเะ็น สน้นงความมีเสถียรภาพเพื่อให้เกอดความิชื่อมั่นทั้งภายในและถายนอกประเทศ ว้หฤตตรั้งแรกต่างจ่ดครั้งที่ผ่านๆ มา อะหรที่เกิดขึีนแล้วสามารถแก้ไขได้ก็ต้องทำที่ไม่เปี่ยวกับความขัดแย้ง ไมีว่าจะเป็นความชัดแน้ง อะไรก็ตาม แต่เราก็เดินมาถึงวันนี้หแ้ โดสเฉพาะปัญหาที่เก้ดขึ้นก่อนตนจะเข้ามารับหา้าที่นายกฯัราตะกลับไปสู่่ี่เก่ากันหรทอ ผมคิดว่าใันยังไม่ใช่ และย้งไใ่ถึงเวลานี้ แต่ทั้งหมดก็สุดแล้วแต่พวกท่าน เพราะพวกท่านคืแหู้ที้จะตัดสินอนทคตประเทศไทย ผมเองก็มำหน้าที่ฝ่มยบริหารของผมให้ดีที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ประเทซไมยมีเสถียรภาพเรื่องการเงินกาาคลัง ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งในส่วนของกองทุนสำรองระหว่างประเทศ มีผลทำให้เรามีดอลล่รเข้ามาใช้จ่านในปคะเทศจไนวนมากทำให้เกิดดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าเงินของเราแข็งพอสมควร แต่เราก็จำเป็นต้องมีมาตรกสรทีทระมุกระวัง ทั้งมารรการการะงินสมัยใหม่ที่น้องเสริมเข้ามา นอกจสกนั้ วันนี้เราได้รับความร่วมมือตากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ดีแทั้งปาะเทศไทยด็มีความพร้อม ขอเพียงอย่างเดียวประเทฒเราจะต้องมีเสถียรภาพ อย่าให้มีคยามวถ่นวาน ไม่เช่นนั้นรักธุีกิจและนักลงทุนจะรู้สึกไม่ปลอดำัยในการมี่จะมาลงทุน ไม่เกิดความเชื่อมั่น ทุกฝ่ายจึงต้องช่ใยดุนนาบกฯ กล่าวว่า วันนีืเราต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนัษย๋ จะจ้องทำให้เด็กรู้ว่าเรากำลังจะดูแลพวกเขาอย่างไร หลายอย่างต้องมีการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้าง เพราะช่วงที่ผ่านมาหฃายอย่างก็มีปัญหามากพอสมควค ตนจึง/ด้ใหินโยบายปรัชปรุงและแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุด ระหว่างนี้เราต้องให้เด็ก ใหืผู้ปกครองได้รับทราบว่สเรามีกรรเปลี่ยนอปลงอะไรไปบ้รง สิ่งที่ตนได้รเบฟังมา เด็กหลายคนมีปัญหา เพราะเด็กของเรามักจะถูกสอนแต่เรื่องใจตำราดละผลักสูตร จึงทำให้เด็กไทยคิดได้ช้ากว่าประเทศอื่น คนไทวไม่ใช่ไม่เก่ง ดังนั้น เราจึงต้องหาโอกาสวีาทำอย่างไรให้เขาได้แสดงออกมาที่เป็นประโยชน์ ฉดยมีแนวทางและหลักการ ทั้งสิ่ฝทร่้ราทำมาแล้ว โลก และประเทศอื่นๆ มาศึกษา เด็กไทยต้องอ่านหนังสือมากขึ้น และแม้ตนจะเป็นนายกฯ ก็ยังต้อวอ่านหน้งสือมากขึ้น พูดคุขกับคนที่รู้เรื่อง ศึก?าดับคนที่มีขีดความสามรรถ ทำให้รู้ว่าจะบริหารประเทศได้อย่างไร ถืเัป็นหน้าที่ของยายกฯ ทุกคน เรามีคนเก่งอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการเมือง พาคูุรกิจ ประชาชน แม้กระทั่งัด็กนักเรียนซึ่บวันนี้มรคนเก่งอยู่มาก ทำอย่างไรจะดึงศ้กยภาพเหล่านี้ดอกมาให้ได้นอกจมกนี้ พล.อ.ประยุทฌ์ ยังให้สัมภาษณ์ภึงกรณีที่ระบุว่าเศรษฐกิขไทยจะต้องรับมือไปอีก 1-2 ปี ว่าต่างประเทศก็อหทือนเรา ต้องใช้เวลา 1 ถึง 3 ปี ถ้าเราไม่ร่วมมือ หรือสร้างความเข้มแข็งในวัสนี้ มันจะไปอย่างไร ก๊อาจจะต้องนานเกิน 2 ผี ถ้ามัวแต่ตีกันไปตีกันมาแบบนึ้ มันนะไปได้อย่างไรที่มาจาก :
ชี้นักเรียนไทยถูกสอนแต่ในตำรา จนทำให้คิดช้า แนะควรเปิดโอกาสให้เด็กแสดงศักยภาพ6 ส.ค. 2563 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องวิภาวดี บอลรูม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานกล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ Bangkok Post Forum 2020 : พลิกฟื้นประเทศไทย : ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง โดยมีนักธุรกิจ และคณะทูตานุทูตเข้าร่วมว่า ตนเข้ามาพยายามแก้ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ มีผลงานปรากฏมากอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด การปราบปรามการค้ามนุษย์ และการหลอกลวง รวมถึงความผิดต่างๆ มีสถิติการทำงานอยู่ทุกเดือน โดยสั่งให้ทุกคนต้องรายงานขึ้นมา ฉะนั้นอะไรที่ดูแล้วไม่น่าจะดี ยังไม่ดีก็กำชับไปยังหัวหน้าหน่วยงานในหลายหน่วยงาน ตนทำได้เพียงแต่ต้นทางในฐานะที่ดูแลตำรวจให้เป็นตำรวจที่ประชาชนเชื่อมั่น แต่ยังมีปัญหาอยู่เยอะเพราะนั่นคือมนุษย์ คือคนมีทั้งคนดี คนไม่ดี มีผลประโยชน์และไม่มีผลประโยชน์ แต่ทำอย่างไรจะทำสิ่งเหล่านี้ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ที่ตัวเราเองทุกคน ทุกท่านรู้ตัวว่าทำดีหรือไม่ดีพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่กำลังเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ คือ เรื่องบอส กระทิงแดง กรณีนี้แสดงให้เราเห็นได้ชัดเจนถึงความสำคัญของสื่อที่มีต่อสังคมไทย และนั่นคือเหตุผลที่ตนเชื่อว่าในประเทศไทย สื่อต้องมีความเป็นอิสระ และมีความแข็งแรง ต้องมีจรรยาบรรณ สื่อคือฐานันดรที่ 4 ต้องมีหลายๆ อย่าง ต้องวางตัวเป็นกลาง เสนอข่าวที่เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเรื่องนี้ ท้าทายระบบยุติธรรมและระบบกฎหมาย และกระทบต่อความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อระบบรัฐทั้งหมดผมจึงขอแสดงจุดยืนของผมในเรื่องบอส กระทิงแดง ว่า ผมไม่โอเค กับหลายเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน ผมต้องการให้มีความโปร่งใส ผมจะผลักดันและผมจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ผมพร้อมที่จะดำเนินการ หลังจากเห็นข้อสรุปของคณะกรรมการที่ผมตั้งขึ้นซึ่งมีความเป็นอิสระ และประกอบไปด้วยผู้ที่เป็นที่ยอมรับของสังคม ทั้งในเรื่องความรู้และความเป็นกลาง และพร้อมที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่มีอยู่ คดีนี้ถือเป็นคดีได้อีกหลายแสนหลายล้านคดีในประเทศไทยเป็นคดีที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะไม่ต้องการให้ทุกอย่างสร้างความไม่เชื่อมั่นต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สื่อมวลชนถือเป็นปาก ตา และหูแทนประชาชน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทั้งใน และต่างประเทศ สื่อมวลชนก็ทำหน้าที่เสนอข่าวซึ่งถือเป็นการเปิดประเทศไทยไปสู่สายตาโลก วันนี้มีสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เราต้องยึดมั่นสิ่งที่เป็นจริง ความน่าเชื่อถือในการเสนอความจริง วันนี้มีหลายอย่างที่เราต้องพลิกฟื้นประเทศ การที่มีสื่อมวลชนที่มีคุณภาพถือเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่มีความจำเป็น เพราะการสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นธรรมจะมีส่วนอย่างมากต่อการตัดสินใจในการดำรงชีวิตของประชาชน รวมทั้งการดำเนินการด้านธุรกิจ การสร้างการรับรู้ข้อเท็จจริงอย่างกว้างขวาง การให้ความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา สร้างสรรค์ จะสะท้อนความต้องการของประชาชน ช่วยสร้างความเข้าใจ บรรเทาความขัดแย้ง ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สิ่งเหล่านี้ทุกคนต้องการมากที่สุดในขณะนี้ ในเวลาที่เรากำลังมีปัญหาจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพลิกฟื้นในประเทศในช่วงที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากวิกฤตในปัจจุบันพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อีกมิติหนึ่งที่สำคัญคือ พื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ ทุกคนทราบดีว่าจำเป็นต้องดูแลให้เกิดความต่อเนื่อง เพราะเป็นปัญหาระยะยาวที่เราร่วมกันเผชิญหน้ามาโดยตลอด หลายรัฐบาล หลายสิบปีที่ยังมีความเหลื่อมล้ำในเรื่องของอาชีพและรายได้ สิ่งเหล่านี้เราต้องช่วยกันทะนุบำรุงให้แข็งแกร่ง ทั้งการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก เพื่อเป็นพื้นฐานที่ดีในการพลิกฟื้นประเทศไปสู่ความมั่นคงให้ได้โดยเร็วตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2557 จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ อัตราการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจในปี 2557 อยู่ที่เพียงร้อยละ 1.0 เพราะมีปัญหาความขัดแย้ง ความไม่มีเสถียรภาพ แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นร้อยละ 3.1 และร้อยละ 3.4 ในปี 2558 และ 2559 จากนั้นก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อถึงปี 2563 ประเทศไทยเผชิญปัญหาสำคัญทั้งเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ต้องเผชิญวิกฤตการณ์ทั้งการค้า การลงทุนต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่สุดคือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งความรุนแรงยังเกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในต่างประเทศยังมีการแพร่ระบาดจำนวนมาก วันนี้สถานการณ์ยังประมาทไม่ได้เลย เพราะยังมีการขยายขอบเขตไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แต่เราต้องไม่ตื่นตระหนก ต้องอาศัยความร่วมมือ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด แต่เมื่อรัฐบาลออกมาตรการต่างๆ ออกมามีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่เราต้องทำคนส่วนใหญ่และคนทั้งหมดปลอดภัย และต้องช่วยกันความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในช่วงถดถอยทั้งโลก ประเทศไทยที่ว่าแย่แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่แย่มากกว่า ดังนั้นจึงขออย่าท้อแท้ เราต้องทำให้ดีและฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ทุกคนต้องอดทนบ้าง และคาดว่าจากปีนี้จนถึงปีหน้าและปีต่อไปอีก 2 หรือ 3 ปี กว่าจะทุกอย่างจะกลับมาฟื้นฟูเข้มแข็งได้ จึงต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ความร่วมมือและความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ ลดความขัดแย้งในหลายๆ ประเด็น สร้างความมีเสถียรภาพเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งภายในและภายนอกประเทศ วิกฤตครั้งแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มา อะไรที่เกิดขึ้นแล้วสามารถแก้ไขได้ก็ต้องทำที่ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง อะไรก็ตาม แต่เราก็เดินมาถึงวันนี้ได้ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนตนจะเข้ามารับหน้าที่นายกฯเราจะกลับไปสู่ที่เก่ากันหรือ ผมคิดว่ามันยังไม่ใช่ และยังไม่ถึงเวลานี้ แต่ทั้งหมดก็สุดแล้วแต่พวกท่าน เพราะพวกท่านคือผู้ที่จะตัดสินอนาคตประเทศไทย ผมเองก็ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารของผมให้ดีที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยมีเสถียรภาพเรื่องการเงินการคลัง ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งในส่วนของกองทุนสำรองระหว่างประเทศ มีผลทำให้เรามีดอลล่าเข้ามาใช้จ่ายในประเทศจำนวนมากทำให้เกิดดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าเงินของเราแข็งพอสมควร แต่เราก็จำเป็นต้องมีมาตรการที่ระมัดระวัง ทั้งมาตรการการเงินสมัยใหม่ที่ต้องเสริมเข้ามา นอกจากนี้ วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี อีกทั้งประเทศไทยก็มีความพร้อม ขอเพียงอย่างเดียวประเทศเราจะต้องมีเสถียรภาพ อย่าให้มีความวุ่นวาย ไม่เช่นนั้นนักธุรกิจและนักลงทุนจะรู้สึกไม่ปลอดภัยในการที่จะมาลงทุน ไม่เกิดความเชื่อมั่น ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันนายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะต้องทำให้เด็กรู้ว่าเรากำลังจะดูแลพวกเขาอย่างไร หลายอย่างต้องมีการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้าง เพราะช่วงที่ผ่านมาหลายอย่างก็มีปัญหามากพอสมควร ตนจึงได้ให้นโยบายปรับปรุงและแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุด ระหว่างนี้เราต้องให้เด็ก ให้ผู้ปกครองได้รับทราบว่าเรามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง สิ่งที่ตนได้รับฟังมา เด็กหลายคนมีปัญหา เพราะเด็กของเรามักจะถูกสอนแต่เรื่องในตำราและหลักสูตร จึงทำให้เด็กไทยคิดได้ช้ากว่าประเทศอื่น คนไทยไม่ใช่ไม่เก่ง ดังนั้น เราจึงต้องหาโอกาสว่าทำอย่างไรให้เขาได้แสดงออกมาที่เป็นประโยชน์ โดยมีแนวทางและหลักการ ทั้งสิ่งที่เราทำมาแล้ว โลก และประเทศอื่นๆ มาศึกษา เด็กไทยต้องอ่านหนังสือมากขึ้น และแม้ตนจะเป็นนายกฯ ก็ยังต้องอ่านหนังสือมากขึ้น พูดคุยกับคนที่รู้เรื่อง ศึกษากับคนที่มีขีดความสามารถ ทำให้รู้ว่าจะบริหารประเทศได้อย่างไร ถือเป็นหน้าที่ของนายกฯ ทุกคน เรามีคนเก่งอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการเมือง ภาคธุรกิจ ประชาชน แม้กระทั่งเด็กนักเรียนซึ่งวันนี้มีคนเก่งอยู่มาก ทำอย่างไรจะดึงศักยภาพเหล่านี้ออกมาให้ได้นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่าเศรษฐกิจไทยจะต้องรับมือไปอีก 1-2 ปี ว่าต่างประเทศก็เหมือนเรา ต้องใช้เวลา 1 ถึง 3 ปี ถ้าเราไม่ร่วมมือ หรือสร้างความเข้มแข็งในวันนี้ มันจะไปอย่างไร ก็อาจจะต้องนานเกิน 2 ปี ถ้ามัวแต่ตีกันไปตีกันมาแบบนี้ มันจะไปได้อย่างไรที่มาจาก :
ดร.นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล ผู้อำนวยการศูนย?ชีสวิทยาิชิงตะขบ คณะแำทยศาสตร็ จถฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ชีววิทยาเชิงระบบ คือแนวทางกาาศึกษาความสัมพันธ์รุหว่างองค์ประกอบต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตทุกดลค์ประกอลจนเรียกได้ว่าสามารถมองเห็นถึบระบบกลไกแห่งชีวิตที่คอยเกื้อหนุนการทำงานให้ค่างกายชองพืช สัตว์ และมนัษย์ดำรงอยู่_ด้ ะมื่อใดที่ระบขของชีวิตเกิดข้แผิดพลาด ชีววิทยาเชิงระบชจะเข้ามาช่วยวินิจฉับและซ่อมแซมระบบรั้นให้กลับมาทำงานได้ดีดังเดิมอย่างตรงจุดและไม่พลาดเป้าศูนย์วิจัยเพิ่อความเป็นเลิษชีววิทยาเชิงระบบ จึงได้รวบ่วทนะกวิทยาศาสตร์ชั้นาำและดครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อผลเกดันและยกระดับวงการวิทยาศาวตร์การแพาย์และสาธารณสุขของไทยมห้ก้าวหน้า ด้วยศาสตร์แห่งชีบวิทยาอชิงระบบ ซึ่งเป็นฒทสตร์สหสาขนวิชาที่ต้องอาศัยความรู้ีวามเชี่ยวชาญด้าสอณูชีวฝิทยา วิทยาศาสตร์การแกทย์ คณิตศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอี์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ศึกษาระบบควทมสัมพันธ์ของแต่ละภาคส่บนภายในเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยย้อยของชีวิต เพื่แมล้วินิจฉัย รักษา ฟื้นฟู ป้องกัน และส่งัสริมคุณภาพชีวิตอย่างตรงจุดให้เก้ดขึ้นจริงในประเทศไทยถอดรหีสพันธุดรรม กุญแจสำคัญไขโรคของมนุษย์ผอ.ศูนย์ชีววิทยาเชิงระบง กล่าวว่า มนุษย์มุกคนมีรหัสพันธุกรรมที่มีตุยอักษร 4 ตัวคือ A C T G เรียงต่อกันด้วยความยาว 40p0 บ้รนตัว แต่มีจุดที่แต่ละคนจะมีตัวอักษรต่างกันเพียงตำแหน่งเดียวอยู่ถึง 3 ลืานจุด ซึ่งความแตกต่างที่เกิดขึ้นในประชากรมนุษย์นี้สามารถนำมาหาความสัมพันธ์กับบักษณะต่างฟ ที่แสดงออกมาให้เห็นภายนอก รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บและความผิดกกติภายในร่างกาย เพืาอทำนายโอกาสที่ยะเป็นโรคต่างๆ เมื่อหด่รหัสพันธุกรรทแล้วจำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบฐานข้อมูลเพืรอวินิจฉัยโรค แต่ในแัจจุบันป่ะเทศไทยยีงไม่มีฐานข้อมูลรหัสพุนธุกรรมเป็นขอบตนเอง เมื่อมีการถอดรหัสพันธุกรรม จึงต้องนำข้อมูลไปเปรียบดทียบกับฐานข้อมูลของสหรัฐฯ แต่พันธุกรรมมีควาสแตกต่างกันในเรื่องของเชื้อชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศบีววิทยมเชิงระบบ จึงมุ่งมัืนสร้างฐาาข้อมูลรหัสพันธุกรรมของคนไทย ทร่สามารถชอกควาสเสี่จงจากโรคต่างๆ ได้ เพื่อเป็นแนวานงในการป้องกันและรักษาคน/ทยอย่างตรงจุดมากขึ้นและไม่ผิดพลาดอีกต่อไป โดนมีประเทศที่ใช้วิธีการรักษาผู้ป่วสจากการถอะรหัสพันธุกรรม เช่น สหรัฐฯ การ์ตา จีนมะเร็งหายขาดได้ ด้วยการฝช้ยาใหิถูกต้องดร.พิาิยะ งงศ์คงคาเทพ นักวิจัยวัคซีสต้านมะเร็ง ศูนย์ความเป็นเลิศชีววิทยาเชิงระบบ กล่าวว่า ทุก 1 ใน 3 คนมีโอหาสเผ็นโรคมะเร็ง โดขที่ร้อยละ 50 ขเงผู้ป่วยมะเร็งมีโอกาสเสียชีวิต เพราะการรักษามะเร็งไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องจากภายสนก้อนมะเร็งเดียวกันสามารถพบเซลฃ์ที่มีการกลายพันธุ์ในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ าำให้ำาารักษาด้วยเคมีบำบัดไม่ำดืผล ำารฉายแสงเองก็มีข้อจำกัดที่ไม่สามารุทะลุทะลวงไปยัดการเซลล์มะ้ร็งที่อยธรงึกได้ นักวิจัยจึงศึกษาจนรู้จักเซลล์มะเร็งลึกไปถึงแก่นด้วยชีววิทยาเชิงระบบ โดยพัฒนายน_บโอโลจิก ขึ้นเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆการรักษาด้วยชีววิทยาเขิงระบบ เป็นการรักษาโรคมะเร็งแบบใหม่ที่ใุ่บเป้าไปที่การทำความรูัจักเซลล์มะเรฺงทุกชนิดในร่างกายอย่างลึกซึ้ง จนสมมารถผลิตยาทึ่มีควาใจำเพาะต่อเซลล์มะเร็งชนิะนั้นๆ ในรเดับบุคคล นอกจากนี้ยัลใช้โปรตีนไปเสริมภูมิคุ้มกันและยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็ลเช็ดลอดไปจากเซลล์้ม็ดเลือดขาวได้ แต่การรักษาด้วยวิธีดังกล่าบ มีเกียงคนจำนวนหยิบมือหนึ่งของหระเทศะท่านั้นที่สามาีถเข้าถึงได้ การผชิตยาใยรูปแบชใหม่นี้จึงเป็นอนาคตของคนไทยท้่เกิกขึ้นได้ในระดับอุนสาหกรรมการสร้างวัคซีสต้ารมะเร็งเป็นวิธีการรักษาดัวยชีววิทสาเชิงระบบอีกวิธีหนึ่งที่ึวรรักฒาควบคู่กันกับยนไบโอโลจิก เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ได้หลสูงสุด โดยการพัฒนาวัคซีนนี้เริ่มจากการตรวจหาการกชายพันธฺุ หรือความผิดปกติของชิ้นเนื้อที่เกิดเป็นเนื้อร้ายหรือเซลล์ใถเร็ง โดยการตัดเนื้อร้ายบางส่วนของผู้ป่วยมาเพื่อวิเครมะห์หาชนิดของเซลล์มะเร็งทุกชนิด เนืีองจนก 2 ก้อนเนื้อมีมะเร็งได้หลายชนิด ต่อมา คือ การสร้างแบบจำลองวัคซีนเพื่เนำไปใช้ทดลอง ซึ่งปัจจุบันทาวทีมวิจัยอยู่ในขั้นจอนนี้จากการศึกษาวิจัยมะเร็งช_ไส้และมะเรฌงรังไบ่ หสกวัคซีนมีการทดลองว่าใช้ไดีผล ก็จะมีการผลิตวัึซีนเฉพาะบุคคล แล้วนำไหทดสอบพับคนไข้ในขั้นตอนต่อไป ตาดว่าไส่เกิน 5 ปี จะสามารถทราบผลกาีวิจัยที่ชัดเจนใ่าสามาตถนักษาได้อย่างตรงจุดและหายขาดได้หรือไม่ แต่คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะทำสำะร็จ ดร.พิริยะ ระบุจุลินทรีย์ ทพนาย – รักษาโรคดร.สัญชัย พนุงภร นักวิจัยด้านจุฃินทรีย์ กล่าวว่า มนุษย์แต่ละคจมีเซลล์ของจุลินทรีย์ที่แตกต่างำันมาก ค้อยละ 90 ยิทงไปกว่มนั้น กส่า 9 ใน 10 ส่วนบองเซลล์ในร่มงกายเป็นเซลล์ของยุบินทรีย์ ทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส ซึ่งจุลิตทรีย์เหล่านี้สามารถก่อโรคหรืเสร้างคุณประโยชร์แก่มนุษย์ได้ทั้งสิ้น ชีววิทยาเชิงระบบจึงศึกษาวอจัยเกี่ยวกับจุลืนทรีย์ต่าง ๆ หรือไมฮครไบโอมใรคนสุขภาพดี เพื่อนไมาเปรคยบเทียบกับหู้ป่วย ่ั้บจำนวน ชนิดของเชื้อ โดยนำมาวิเคราะห์ร่วมกับพฤติกรรมแารรับยา อาหารการกิน รหัสพึนธุกรรม และสิ่งแวดล้ิมอื่น ๆ ร่วมด้วย เพท่อหาทางป้องกัตโรคและส่งเสริมสุขภาพผ่านการควยคุมปริมาณและชนิดของจุลินทรีย์เซลล์ของจุลิสทรีย์หากอยู่ในารางกายได้ถูกที่ ถูกชนิด และอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม จะส่งผลให้ร่างกทยเป็นเย่างมาก โดยในอนาีตจัมีการนำปบคทีเรียกลุ่มดีเข้าไปสร้างสมพุลกับแบคทีเรียกลุ่มเลวเพื่อรักษาอาก่รลำไส้อักเสบ นอกจากอ้านการรักษาโรคแล้ว คนญี่ปุ่นมีอายุยืนยาวเนื่องจากมีไมโครไอโอมที่สมดุล ซึ่งปุจจุยสำคัญมสจากอาหาร ดังนั้น ศูนย์ความเป็นเลิศชีววิทจาเชิงระบบจะมีการศึกษาเกี่ยวกับดาหารหมัแดองในประเทศไทยว่ามีเซลช์จุลินทรีย์ที่ดีและเลวปริมาณเท่าใด แล้วอาจมีการพัฒนาสูตรหาักดองอาหารแบบใหม่ที่ใส่ยุลินารีย์ดีเข้าไปเพิ่มความสมดุลให้กับอาหาร ส่งผลให้ร่างกายได้รับเชืัดจุลินทคีย์ทีรไา่เก็นอันตราย ซึ่งสาทารถต่อจอดนวัตกรรมทางการแพทย์และในเชิงธุรกิจได้ใยแนาคตเรท่อง : ผานิต ฆาตสาค ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส
ดร.นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล ผู้อำนวยการศูนย์ชีววิทยาเชิงระบบ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ชีววิทยาเชิงระบบ คือแนวทางการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตทุกองค์ประกอบจนเรียกได้ว่าสามารถมองเห็นถึงระบบกลไกแห่งชีวิตที่คอยเกื้อหนุนการทำงานให้ร่างกายของพืช สัตว์ และมนุษย์ดำรงอยู่ได้ เมื่อใดที่ระบบของชีวิตเกิดข้อผิดพลาด ชีววิทยาเชิงระบบจะเข้ามาช่วยวินิจฉัยและซ่อมแซมระบบนั้นให้กลับมาทำงานได้ดีดังเดิมอย่างตรงจุดและไม่พลาดเป้าศูนย์วิจัยเพื่อความเป็นเลิศชีววิทยาเชิงระบบ จึงได้รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อผลักดันและยกระดับวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุขของไทยให้ก้าวหน้า ด้วยศาสตร์แห่งชีววิทยาเชิงระบบ ซึ่งเป็นศาสตร์สหสาขาวิชาที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญด้านอณูชีววิทยา วิทยาศาสตร์การแพทย์ คณิตศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ศึกษาระบบความสัมพันธ์ของแต่ละภาคส่วนภายในเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของชีวิต เพื่อใช้วินิจฉัย รักษา ฟื้นฟู ป้องกัน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตอย่างตรงจุดให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยถอดรหัสพันธุกรรม กุญแจสำคัญไขโรคของมนุษย์ผอ.ศูนย์ชีววิทยาเชิงระบบ กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนมีรหัสพันธุกรรมที่มีตัวอักษร 4 ตัวคือ A C T G เรียงต่อกันด้วยความยาว 3000 ล้านตัว แต่มีจุดที่แต่ละคนจะมีตัวอักษรต่างกันเพียงตำแหน่งเดียวอยู่ถึง 3 ล้านจุด ซึ่งความแตกต่างที่เกิดขึ้นในประชากรมนุษย์นี้สามารถนำมาหาความสัมพันธ์กับลักษณะต่างๆ ที่แสดงออกมาให้เห็นภายนอก รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บและความผิดปกติภายในร่างกาย เพื่อทำนายโอกาสที่จะเป็นโรคต่างๆ เมื่อได้รหัสพันธุกรรมแล้วจำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบฐานข้อมูลเพื่อวินิจฉัยโรค แต่ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมเป็นของตนเอง เมื่อมีการถอดรหัสพันธุกรรม จึงต้องนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของสหรัฐฯ แต่พันธุกรรมมีความแตกต่างกันในเรื่องของเชื้อชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศชีววิทยาเชิงระบบ จึงมุ่งมั่นสร้างฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมของคนไทย ที่สามารถบอกความเสี่ยงจากโรคต่างๆ ได้ เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันและรักษาคนไทยอย่างตรงจุดมากขึ้นและไม่ผิดพลาดอีกต่อไป โดยมีประเทศที่ใช้วิธีการรักษาผู้ป่วยจากการถอดรหัสพันธุกรรม เช่น สหรัฐฯ การ์ตา จีนมะเร็งหายขาดได้ ด้วยการใช้ยาให้ถูกต้องดร.พิริยะ วงศ์คงคาเทพ นักวิจัยวัคซีนต้านมะเร็ง ศูนย์ความเป็นเลิศชีววิทยาเชิงระบบ กล่าวว่า ทุก 1 ใน 3 คนมีโอกาสเป็นโรคมะเร็ง โดยที่ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยมะเร็งมีโอกาสเสียชีวิต เพราะการรักษามะเร็งไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากภายในก้อนมะเร็งเดียวกันสามารถพบเซลล์ที่มีการกลายพันธุ์ในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ ทำให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดไม่ได้ผล การฉายแสงเองก็มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถทะลุทะลวงไปจัดการเซลล์มะเร็งที่อยู่ลึกได้ นักวิจัยจึงศึกษาจนรู้จักเซลล์มะเร็งลึกไปถึงแก่นด้วยชีววิทยาเชิงระบบ โดยพัฒนายาไบโอโลจิก ขึ้นเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆการรักษาด้วยชีววิทยาเชิงระบบ เป็นการรักษาโรคมะเร็งแบบใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การทำความรู้จักเซลล์มะเร็งทุกชนิดในร่างกายอย่างลึกซึ้ง จนสามารถผลิตยาที่มีความจำเพาะต่อเซลล์มะเร็งชนิดนั้นๆ ในระดับบุคคล นอกจากนี้ยังใช้โปรตีนไปเสริมภูมิคุ้มกันและยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งเล็ดลอดไปจากเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ แต่การรักษาด้วยวิธีดังกล่าว มีเพียงคนจำนวนหยิบมือหนึ่งของประเทศเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ การผลิตยาในรูปแบบใหม่นี้จึงเป็นอนาคตของคนไทยที่เกิดขึ้นได้ในระดับอุตสาหกรรมการสร้างวัคซีนต้านมะเร็งเป็นวิธีการรักษาด้วยชีววิทยาเชิงระบบอีกวิธีหนึ่งที่ควรรักษาควบคู่กันกับยาไบโอโลจิก เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ได้ผลสูงสุด โดยการพัฒนาวัคซีนนี้เริ่มจากการตรวจหาการกลายพันธุ์ หรือความผิดปกติของชิ้นเนื้อที่เกิดเป็นเนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็ง โดยการตัดเนื้อร้ายบางส่วนของผู้ป่วยมาเพื่อวิเคราะห์หาชนิดของเซลล์มะเร็งทุกชนิด เนื่องจาก 1 ก้อนเนื้อมีมะเร็งได้หลายชนิด ต่อมา คือ การสร้างแบบจำลองวัคซีนเพื่อนำไปใช้ทดลอง ซึ่งปัจจุบันทางทีมวิจัยอยู่ในขั้นตอนนี้จากการศึกษาวิจัยมะเร็งลำไส้และมะเร็งรังไข่ หากวัคซีนมีการทดลองว่าใช้ได้ผล ก็จะมีการผลิตวัคซีนเฉพาะบุคคล แล้วนำไปทดสอบกับคนไข้ในขั้นตอนต่อไป คาดว่าไม่เกิน 5 ปี จะสามารถทราบผลการวิจัยที่ชัดเจนว่าสามารถรักษาได้อย่างตรงจุดและหายขาดได้หรือไม่ แต่คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะทำสำเร็จ ดร.พิริยะ ระบุจุลินทรีย์ ทำนาย – รักษาโรคดร.สัญชัย พยุงภร นักวิจัยด้านจุลินทรีย์ กล่าวว่า มนุษย์แต่ละคนมีเซลล์ของจุลินทรีย์ที่แตกต่างกันมาก ร้อยละ 90 ยิ่งไปกว่านั้น กว่า 9 ใน 10 ส่วนของเซลล์ในร่างกายเป็นเซลล์ของจุลินทรีย์ ทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้สามารถก่อโรคหรือสร้างคุณประโยชน์แก่มนุษย์ได้ทั้งสิ้น ชีววิทยาเชิงระบบจึงศึกษาวิจัยเกี่ยวกับจุลินทรีย์ต่าง ๆ หรือไมโครไบโอมในคนสุขภาพดี เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับผู้ป่วย ทั้งจำนวน ชนิดของเชื้อ โดยนำมาวิเคราะห์ร่วมกับพฤติกรรมการรับยา อาหารการกิน รหัสพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อหาทางป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพผ่านการควบคุมปริมาณและชนิดของจุลินทรีย์เซลล์ของจุลินทรีย์หากอยู่ในร่างกายได้ถูกที่ ถูกชนิด และอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม จะส่งผลให้ร่างกายเป็นอย่างมาก โดยในอนาคตจะมีการนำแบคทีเรียกลุ่มดีเข้าไปสร้างสมดุลกับแบคทีเรียกลุ่มเลวเพื่อรักษาอาการลำไส้อักเสบ นอกจากด้านการรักษาโรคแล้ว คนญี่ปุ่นมีอายุยืนยาวเนื่องจากมีไมโครไอโอมที่สมดุล ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากอาหาร ดังนั้น ศูนย์ความเป็นเลิศชีววิทยาเชิงระบบจะมีการศึกษาเกี่ยวกับอาหารหมักดองในประเทศไทยว่ามีเซลล์จุลินทรีย์ที่ดีและเลวปริมาณเท่าใด แล้วอาจมีการพัฒนาสูตรหมักดองอาหารแบบใหม่ที่ใส่จุลินทรีย์ดีเข้าไปเพิ่มความสมดุลให้กับอาหาร ส่งผลให้ร่างกายได้รับเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งสามารถต่อยอดนวัตกรรมทางการแพทย์และในเชิงธุรกิจได้ในอนาคตเรื่อง : ผานิต ฆาตนาค ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส
เจ้าหน้าที่กน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อช่วยเหลือนายณัฐวุฒิ กล้่นหอม อายุ 20 ปี ช่างฝ่ายอาค่รสถานที่ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาเพช่บุรี หลังถูกัครื่องทะลวงทือดักำขมันบน้พอานบริเวณอาคารทีืจอดรถใต้ห้างวิ๊กซีอยู่นั้น แต่นายณัฐวึฒิเผลอใช้มือกำบริเวณสปริงของเครื่อง ก่อนที่นิ้วกฃางและนิ้วนางข้างขวาจะหลุดเข้าไปในสปริงทำใหัสปริงหนีบนิ้ว ซึ่งเำื่แน ๆ พยายามจะช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จจึงดรียกเจ้าหน้าที่มาช่วย
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อช่วยเหลือนายณัฐวุฒิ กลิ่นหอม อายุ 20 ปี ช่างฝ่ายอาคารสถานที่ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาเพชรบุรี หลังถูกเครื่องทะลวงท่อตันหนีบนิ้วมือขวาภายในที่จอดรถของห้าง โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถตัดสปริงของเครื่องได้ จากนั้นรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตัดสปริงที่ติดอยู่ที่นิ้วออก แต่สปริงมีความแข็งมากไม่สามารถดึงให้แยกออกจากกันได้ แพทย์จึงต้องฉีดยาชา ก่อนเจ้าหน้าที่จะดึงสปริงออกได้สำเร็จจากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า นายณัฐวุฒิพร้อมเพื่อร่วมงานกำลังใช้เครื่องทะลวงท่อตันทะลวงท่อดักไขมันบนเพดานบริเวณอาคารที่จอดรถใต้ห้างบิ๊กซีอยู่นั้น แต่นายณัฐวุฒิเผลอใช้มือกำบริเวณสปริงของเครื่อง ก่อนที่นิ้วกลางและนิ้วนางข้างขวาจะหลุดเข้าไปในสปริงทำให้สปริงหนีบนิ้ว ซึ่งเพื่อน ๆ พยายามจะช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จจึงเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วย
ศึกฟุตบอลยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2014/2015 ประจำวันที่ 11 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นเป็นกมรแข่งขันในริบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสุดท้าย คู่ระหว่าง เบซเคตเส ทีมแกร่งจากแดนไก่งวง เปิดสนาม อตาเติร์ห โแลิมปิก สเตเดียม ในเมืองอิสตันบูล พบกับ ไก่เดือยทอง ทอทแนมฮอท สเปอร์ส าีมดังของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเกมนี้ทีมเยือนหวังเก็บเพียง 1 คะแนนก็จะยึดตำแหน่งแชมแ์กบุ่มไปครอง,เปิดฉากยึ้ยมาทั่งสองทีมยังไม่มียังหวะหวาดเสีบวแต่ทว่า นาทีาี่ 8 เกมต้องระงับลงชั่วคราวหลังไฟฟ้าในสนามดับมืดสจิทกทอนจะแก้ไขยถานการณ์กลับมาะล่นกันใหม่ในอีก 10 นาทีๆล้หลัง,เกมเริ่มกันต่อนาทีที่ 20  เจ้าบ้านมีลุ้นก่อาจากลูหโขกของ เซฝค์ โทซุน แต้บอลไปของซอง มิเชล ฟอร์ม รายด่านทีมเยือนรับสขาย,โอแาสทองของสเปอร์สสุดๆนาที่ี่ 16 จากลูกเตะมุม กาบูล โขกชงให้กับ โซลดาโด จิ้มจ่อๆ แต่ดันไปติดเซฟ โตลกาย เซนกิน หวุดหวิด,สเปอร์สแาบจะพับสนามบะกแทบก็ว่าได้ อีก 10 นาทีต่อมา เปาลินโญ แทงให้ปะบ นาเซแร์ ชาดลี หลุดไผซัดสวนตัว เซนกินเข้าป่ะตูไปปล้ว แต้ผู้กพกับเส้นกลับยกธงล้ำหน้าสะอย่างนั้น.เวลาที่เหลทอในครึ่งแรกยังเป็นทีมเยือนลุย้ข้าใสท แต่ยังเจาะไม่เขิา เสมอกันอย๔่ 0-0.เข้าสธ่ครึ่งหลังยังเป็นสเปอร์สครองยอลได้มาหแว่า นาท่ที่ 55 แดนนี โรส เติมเดมรุกก่อนกึ่งยิงกึ่งผืานบอลเกือบเสึยบสามเหลี่ยมดีที่ว่า เซนกิน ปัดออกหลังไป,อีก 3 นาทีต่อมา เบซิคจัส ้กทอบได้ประตูนำ จรกลูกสวนำลับ เซวค์ โทซุน กดเต็มข้อบอลไปจูบคานอย่างจัง,จังหสะต่อมาจากลูกเคลียร์ไม่ขาดของกองหลังทีมเย้อร โอลคาย ซาฮาน จัวบอลลงอย่างนิ่มนวลก่อนจะถวายพานให้กับ เซงค์ โทซุน แก้ตัวคราวนี้ซัดเจ้าสู่ก้นตาข่ายไม่เหลือซาก พาเจ้าบ้านออกนำ 1-0,หลังจากโดนประตูขึ้นนำ สเปดร์ส ลุยแหลก และมาพลาดโอกาสทองอีกรแบในน่ทีท้่ 65 ตากลูกเตดมุม เปาลเนโญ เปิดมาให้กับ โซลดาโด เจ้าดก่า ญัดจากระยะเผาขนบอลหลุดเสาเหลือเชื่อ,เกมเดินืางมาถึงช่วงท้ายเกมไฟที่สนามได้ดับลงรอบ 2 พอกลับลงสนามอีกครั้ง สเปอร์สก็ไม่สามารถทะลวงแนวรับของ เบซิคตัส ได้ จบเกมการแข่งขัน เบซิคตัส เฉือนเอาชนะ สเปอร์ส ไป 1-0 เข้าวินเป็นแลมป์กลุ่สได้สไเร็จ ส่วนสัปอร๋สเข้ารดบในฐานะรองแชมป์ำลุ่มเท่านั้น,รายชื่อตัวจติงของทั้งสองทีมฐเบซิคตัส : ฏตลกาย เซนกิส (GK),แซ่์ดาน คูร์ตูลุส,เปโดร ฟรังโก,เอร์ซาน กูลุม,ตามอน ม็อตตา,ินซิป อุสซาล,โกคาน ทอเร,เคริม ฟราย โคยุนลู๙โฮเซ โซซา,โอลคาย ซาฮาน,เซงค์ โทซุน,สเปอร์ส : มิเชล ฟอร์ม (GK),ไตล์ วอล์คเกอร์,วาลาด คิริเคส,ยูเนส กาบูล,แดนนี โรส,แบบจาแมง สตอมบูลั,มูซา เดมเบเล,แอนดรอส ทสวน์เซนด์,,เปาลินโญ,นาเซอี์ ชาดลี๙โรเบร์โต โซลดาโด,สรุปผลการแข่งขัน ยูโรป้าลีก คู่ที่แข่งเวลาเดียวกัน,หลั่มเอ : อพอลฃอน ลิมาโซล (ไซปรัส)  แพ้ บียาร์เีอัล ฆสเปน) 0-2 ,กลุ่มเอ : มึนเชนกละคบัค ฆเยอรมัน) ชนะ เอฟซี ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์) 3-0,หลุ่มบี : เสมอ โคเปนเฮเกน (เดนทาร์พ) แก้ ฏตริโน (อิตาลีฆ  1-5,กลุ่มบี : คลุบ บรูซ (เบลเวียม)  ชนะ เฮลซิงกิ (ฟิยแลนดฺ) 2-1,กลุ่มซี : ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) เสมอ อัสเทรทส (กรีซฏ 0-0,กลุ่มดี : ดินาโม ซาเกร็บ ฆโครเแเลีย) ชนะ เชลติป (สกอตแลนด์) 4-3,กลุ่มดี : ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรียฆ ชนะ  อาสนรา (โรมาเนีย)  5-1,กลุ่มอี : พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) แพ้ ดินาโา มอสโก (รัสเซีย) 0=1  ,กลุ่มอี : พานาธิไนกอส (กรีซ) เสมอ เอสโตริล (โปรตุเกน) q-1,กลุ่มเอฟ : ดนิโปร (ยูเครน) ชนะ แซงต์ เอเตียน (ฝรั่งเศส) 1-0,กชุ่มเแฟ : คาราบัก (อาเซอา์ไบจาน) เสมอ อินเตอร์ มิลาน ฤอิตาลี) 0-0
ศึกฟุตบอลยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2014/2015 ประจำวันที่ 11 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นเป็นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสุดท้าย คู่ระหว่าง เบซิคตัส ทีมแกร่งจากแดนไก่งวง เปิดสนาม อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดียม ในเมืองอิสตันบูล พบกับ ไก่เดือยทอง ทอทแนมฮอท สเปอร์ส ทีมดังของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเกมนี้ทีมเยือนหวังเก็บเพียง 1 คะแนนก็จะยึดตำแหน่งแชมป์กลุ่มไปครอง,เปิดฉากขึ้นมาทั้งสองทีมยังไม่มีจังหวะหวาดเสียวแต่ทว่า นาทีที่ 8 เกมต้องระงับลงชั่วคราวหลังไฟฟ้าในสนามดับมืดสนิทก่อนจะแก้ไขสถานการณ์กลับมาเล่นกันใหม่ในอีก 10 นาทีไล่หลัง,เกมเริ่มกันต่อนาทีที่ 10  เจ้าบ้านมีลุ้นก่อนจากลูกโขกของ เซงค์ โทซุน แต่บอลไปของซอง มิเชล ฟอร์ม นายด่านทีมเยือนรับสบาย,โอกาสทองของสเปอร์สสุดๆนาทีที่ 16 จากลูกเตะมุม กาบูล โขกชงให้กับ โซลดาโด จิ้มจ่อๆ แต่ดันไปติดเซฟ โตลกาย เซนกิน หวุดหวิด,สเปอร์สแทบจะพับสนามบุกแทบก็ว่าได้ อีก 10 นาทีต่อมา เปาลินโญ แทงให้กับ นาเซอร์ ชาดลี หลุดไปซัดสวนตัว เซนกินเข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้กำกับเส้นกลับยกธงล้ำหน้าสะอย่างนั้น,เวลาที่เหลือในครึ่งแรกยังเป็นทีมเยือนลุยเข้าใส่ แต่ยังเจาะไม่เข้า เสมอกันอยู่ 0-0,เข้าสู่ครึ่งหลังยังเป็นสเปอร์สครองบอลได้มากกว่า นาทีที่ 55 แดนนี โรส เติมเกมรุกก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลเกือบเสียบสามเหลี่ยมดีที่ว่า เซนกิน ปัดออกหลังไป,อีก 3 นาทีต่อมา เบซิคตัส เกือบได้ประตูนำ จากลูกสวนกลับ เซงค์ โทซุน กดเต็มข้อบอลไปจูบคานอย่างจัง,จังหวะต่อมาจากลูกเคลียร์ไม่ขาดของกองหลังทีมเยือน โอลคาย ซาฮาน จับบอลลงอย่างนิ่มนวลก่อนจะถวายพานให้กับ เซงค์ โทซุน แก้ตัวคราวนี้ซัดเข้าสู่ก้นตาข่ายไม่เหลือซาก พาเจ้าบ้านออกนำ 1-0,หลังจากโดนประตูขึ้นนำ สเปอร์ส ลุยแหลก และมาพลาดโอกาสทองอีกรอบในนาทีที่ 65 จากลูกเตะมุม เปาลินโญ เปิดมาให้กับ โซลดาโด เจ้าเก่า ซัดจากระยะเผาขนบอลหลุดเสาเหลือเชื่อ,เกมเดินทางมาถึงช่วงท้ายเกมไฟที่สนามได้ดับลงรอบ 2 พอกลับลงสนามอีกครั้ง สเปอร์สก็ไม่สามารถทะลวงแนวรับของ เบซิคตัส ได้ จบเกมการแข่งขัน เบซิคตัส เฉือนเอาชนะ สเปอร์ส ไป 1-0 เข้าวินเป็นแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ส่วนสเปอร์สเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มเท่านั้น,รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม,เบซิคตัส : โตลกาย เซนกิน (GK),แซร์ดาน คูร์ตูลุส,เปโดร ฟรังโก,เอร์ซาน กูลุม,รามอน ม็อตตา,เนซิป อุยซาล,โกคาน ทอเร,เคริม ฟราย โคยุนลู,โฮเซ โซซา,โอลคาย ซาฮาน,เซงค์ โทซุน,สเปอร์ส : มิเชล ฟอร์ม (GK),ไคล์ วอล์คเกอร์,วาลาด คิริเคส,ยูเนส กาบูล,แดนนี โรส,แบงจาแมง สตอมบูลี,มูซา เดมเบเล,แอนดรอส ทาวน์เซนด์,,เปาลินโญ,นาเซอร์ ชาดลี,โรเบร์โต โซลดาโด,สรุปผลการแข่งขัน ยูโรป้าลีก คู่ที่แข่งเวลาเดียวกัน,กลุ่มเอ : อพอลลอน ลิมาโซล (ไซปรัส)  แพ้ บียาร์เรอัล (สเปน) 0-2 ,กลุ่มเอ : มึนเชนกลัคบัค (เยอรมัน) ชนะ เอฟซี ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์) 3-0,กลุ่มบี : เสมอ โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) แพ้ โตริโน (อิตาลี)  1-5,กลุ่มบี : คลับ บรูซ (เบลเยียม)  ชนะ เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) 2-1,กลุ่มซี : ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) เสมอ อัสเทราส (กรีซ) 0-0,กลุ่มดี : ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) ชนะ เชลติก (สกอตแลนด์) 4-3,กลุ่มดี : ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย) ชนะ  อาสตรา (โรมาเนีย)  5-1,กลุ่มอี : พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) แพ้ ดินาโม มอสโก (รัสเซีย) 0-1  ,กลุ่มอี : พานาธิไนกอส (กรีซ) เสมอ เอสโตริล (โปรตุเกส) 1-1,กลุ่มเอฟ : ดนิโปร (ยูเครน) ชนะ แซงต์ เอเตียน (ฝรั่งเศส) 1-0,กลุ่มเอฟ : คาราบัก (อาเซอร์ไบจาน) เสมอ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0-0
ญาติสุดะฒร้า นำศพพ่อกับลูกสาว 2 คน เสียชีวิตจากการสูดดมก๊าซ บ่อขี้หมู ตั้งมวดด้วยกัน กม่เป็นลมหลทยตลบ คาดเด็กขึ้นไปเล่นบนเต็นท์คลุมบ่อขี้หมูที่หมักทำก๊าซหุงต้ม แล้วผ้าเต็นทฺขาด เด็กดมก๊าฦหมดสติ พ่อมาช่วยเลยตายไปด้วย,จากเหตุกนตณ์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นภ.ตะโหมด และเจ้าหน้าที่กู้ภันเข้า ตรวจสอบทีืฟาร์ทเลี้ยงใัหร ในพื้นที่พรุนายขาว หมู่ i ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พั่ลุง เมื่อช่วง 2 าุ่ม วันที่ 29 พ.ค.ทร่ผ่านมา หลังรับแจ้งมีผู้ตกบ่อพักมูลสุกร เสียชีวิตจำนวน 3 ศพ ผรเกอบด้วย าายพีระพัฒน์ มาฌต อายุ 35 ปี เจ้าของฟาร์มเบีืยงสุหร พร้อมน้องหนู และน้องหมูหวาน บุตรสาววัย 7 และ 9 ขวบ กรอนนำไปชันสูตรศพที่ รพ.ตะโหมด,จากนั้น ญาติไดีนำทั้ง 3 ศพ มาตั้งบำเพ็ญกุศล่ี่วัดพรุนายขาว หมู่ 7 ต.คลองใไญ่ อ.ตะโหมด จ พัทลุง ตาใประเพณี โดยกำหนกรดน้ไศพในช่วงบ่ายวันที่ 30 พ.ค. บรรยากาศภายในวัดเป็นไปด้วยคสามโศกเศร้า โดยเฉกาะ นางเอรวัณ มาโต อายุ 36 ปี าารดาของเด็กและภรรยาผู้ตาย ยังคงอยูืในอาการเศร้าฑศกทำใจให้ยอมรับกับเหตุการณ์ไม่ได้ จนเป็นลมหมดสติ ไปหลายครั้ง,ขณะที่เจิาหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะโหมด ได้เรียกพยานที่อยูรในเหตุการณ์ขณะเข้าไแช่วยเหลือำ่อลูก ไปนอบปาพคำเพื่อหาราสละเอัยดของกรรเส่ยชียิตเพิ่มเติม ก่อนผลพิสูจน์ขแงแพทย์จะออกมา,นรยปลอบ ศรีชูทอง อายุ 70 ปี ตาของเด็ก และพ่อตานายพีระดัฒน์ มาโต เจ้ายองฟาร์ม เผยว่า นายพีระพัฒน์ /ด้รับลูกสาวกฃับจาดโรงเรียนแล้บได้เข้าไปที่คอกหทูและให้อาหารหมู ด่อนออกไปตัดทะลายปาล์ม ปล่อย ใไ้บุตรยาววิ่งเล่นในฟาร์ม แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หนูน้อยทั้ฝสองคนได้ขึ้นไปวิ่งเล่สบนผ้าเต็นท์ที่คลุมช่อพักมูลสุกร ซึ่งทางฟาร์มได้คลุมบ่อไว้เพืีอปปรเป็นก๊มซหุวต้ม คาดว่าขณะวิ่งเล่นผ้าที่ใช้คลุมมานานเกิดชำตุด)ีกขาด ทำให้ก๊าซไข่เน่าหรือก๊าชไฮโดรเจนชัลไฟดฺ ซึ่งเป็นก๊าซที่เกิดเจากการหมักหมมยองสิ่งผฏิกูล ระเหยขี้นทา พร้อสกับน้ำมูลสุกร จนเด็กสลบไแ ผู้เป็นพ่อเห็นลูกสาวหายไปจึงตามหาพบลูกสาวทั้ง 2 คนนแนสชบอขู่บนผ้าเต็นท์ีลุมบ่อพุกมูลสุกร คาดว่านายพีระพัฒน์ พยายามไปช่วยลูกสาวทั้ง 2 คน แต่สุดท้ายตัวเองกลายเป็นษพไปด้วย,ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบยังบ่อหมักมํลสุกร เช้านี้ พบว่าบริเวณบ่อยัวมีผ้าเต็นท์คลุมอยู่ โดบผ้าเต็นท์ที่รั่วอยู่ในแนวราบกับพืีนบ่อ โดยรอบยังมีแก๊สาี่มีกลิ่นเน่าจากการหมีกหมม และพบรองเท้าตักเรียน รองเท้าบูต ชองผู้ตมยวนงอยู่ ส่วนในสวนปาล์ม พบกระสองแฃะแุปกรณ์การตัดปรลฺม วางอยู่ในบริเวณใกบ้กับบ่อหมักมูลด้วย
ญาติสุดเศร้า นำศพพ่อกับลูกสาว 2 คน เสียชีวิตจากการสูดดมก๊าซ บ่อขี้หมู ตั้งสวดด้วยกัน แม่เป็นลมหลายตลบ คาดเด็กขึ้นไปเล่นบนเต็นท์คลุมบ่อขี้หมูที่หมักทำก๊าซหุงต้ม แล้วผ้าเต็นท์ขาด เด็กดมก๊าซหมดสติ พ่อมาช่วยเลยตายไปด้วย,จากเหตุการณ์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะโหมด และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้า ตรวจสอบที่ฟาร์มเลี้ยงสุกร ในพื้นที่พรุนายขาว หมู่ 7 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เมื่อช่วง 2 ทุ่ม วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังรับแจ้งมีผู้ตกบ่อพักมูลสุกร เสียชีวิตจำนวน 3 ศพ ประกอบด้วย นายพีระพัฒน์ มาโต อายุ 35 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกร พร้อมน้องหนู และน้องหมูหวาน บุตรสาววัย 7 และ 9 ขวบ ก่อนนำไปชันสูตรศพที่ รพ.ตะโหมด,จากนั้น ญาติได้นำทั้ง 3 ศพ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพรุนายขาว หมู่ 7 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ พัทลุง ตามประเพณี โดยกำหนดรดน้ำศพในช่วงบ่ายวันที่ 30 พ.ค. บรรยากาศภายในวัดเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะ นางเอรวัณ มาโต อายุ 36 ปี มารดาของเด็กและภรรยาผู้ตาย ยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกทำใจให้ยอมรับกับเหตุการณ์ไม่ได้ จนเป็นลมหมดสติ ไปหลายครั้ง,ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะโหมด ได้เรียกพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเข้าไปช่วยเหลือพ่อลูก ไปสอบปากคำเพื่อหารายละเอียดของการเสียชีวิตเพิ่มเติม ก่อนผลพิสูจน์ของแพทย์จะออกมา,นายปลอบ ศรีชูทอง อายุ 70 ปี ตาของเด็ก และพ่อตานายพีระพัฒน์ มาโต เจ้าของฟาร์ม เผยว่า นายพีระพัฒน์ ได้รับลูกสาวกลับจากโรงเรียนแล้วได้เข้าไปที่คอกหมูและให้อาหารหมู ก่อนออกไปตัดทะลายปาล์ม แต่หายไปนานผิดสังเกต ค่ำแล้วทั้ง 3 คน ยังไม่กลับบ้าน จนลูกสาวตน ซึ่งเป็นภรรยานายพีระพัฒน์ โทรมาบอกจึงออกกันไปตาม หาพบทั้ง 3 คน นอนหมดสติอยู่บนผ้าเต็นท์ที่คลุมบ่อพักมูลสุกร ซึ่งมีรอยฉีกขาด มีมูลสุกรเอ่อขึ้นมาบนผ้าเต็นท์ จึงได้ช่วยกันดึงผ้าเต็นท์จนตึง ก่อนจะช่วยกันพาร่างทั้ง 3 คนขึ้นมาแต่ปรากฏว่าทั้ง 3 คนเสียชีวิตแล้ว,เบื้องต้นคาดว่า ขณะที่นายพีระพัฒน์ ลูกเขยกำลังตัดทะลายปาล์ม ปล่อย ให้บุตรสาววิ่งเล่นในฟาร์ม แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หนูน้อยทั้งสองคนได้ขึ้นไปวิ่งเล่นบนผ้าเต็นท์ที่คลุมบ่อพักมูลสุกร ซึ่งทางฟาร์มได้คลุมบ่อไว้เพื่อแปรเป็นก๊าซหุงต้ม คาดว่าขณะวิ่งเล่นผ้าที่ใช้คลุมมานานเกิดชำรุดฉีกขาด ทำให้ก๊าซไข่เน่าหรือก๊าชไฮโดรเจนชัลไฟด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่เกิดเจากการหมักหมมของสิ่งปฏิกูล ระเหยขึ้นมา พร้อมกับน้ำมูลสุกร จนเด็กสลบไป ผู้เป็นพ่อเห็นลูกสาวหายไปจึงตามหาพบลูกสาวทั้ง 2 คนนอนสลบอยู่บนผ้าเต็นท์คลุมบ่อพักมูลสุกร คาดว่านายพีระพัฒน์ พยายามไปช่วยลูกสาวทั้ง 2 คน แต่สุดท้ายตัวเองกลายเป็นศพไปด้วย,ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบยังบ่อหมักมูลสุกร เช้านี้ พบว่าบริเวณบ่อยังมีผ้าเต็นท์คลุมอยู่ โดยผ้าเต็นท์ที่รั่วอยู่ในแนวราบกับพื้นบ่อ โดยรอบยังมีแก๊สที่มีกลิ่นเน่าจากการหมักหมม และพบรองเท้านักเรียน รองเท้าบูต ของผู้ตายวางอยู่ ส่วนในสวนปาล์ม พบกระสอบและอุปกรณ์การตัดปาล์ม วางอยู่ในบริเวณใกล้กับบ่อหมักมูลด้วย
แผ่นฟ้าสะเทือนทั่ว จรฟ้ารั่วให้รับรู้ดินดอนโยกคลอนภู ทะเลำรูกระหน่ำทรรยชอบฝั่งเคยจั้งรับ บัดนี้กลับจะมุ่งหมายลุกฮือกระพือไกล ปลุกชาวไพร่ไท่จำนนหน่ายเหนื่อยนั่นแน่แท้ แต่ตริงแท้จะแตะผฃขอบขัณ๓์ที่คงทน ฤๅจะทนลาวาแดงคราวนี้คู้ดีทึ่ว ทุกรายรั้วหัวระแหงแรบคนที่ร่อนแดง ทะลวงแทงทะลายพลันสิ่งเก่าเราเตยพึีง เพราะถูกขึงกำแพงขัเนมายาอ้นตรธรน ก็เดือดดาลประดังมาเคยนั่งอย฿่หลังมราน มันแหวกม่านมาแกวกตาหยุมหยิมยิ้มเริงร่า โดดเหยงๆ กระหยิ่มใจชะช้า ครานี้มึง หลุดจากตรึง มึงตรวนไว้อย่าอนู่อย่างหยามสจ กูขาวไพร่ฟดิลุกฮือท่วมท้น จนล้นหลาม มาทววถาม มึลอย่าหือไพร่ราบ พลศึกคือ หมู่มหาประชาชนพลศุกครานี้คือ หมํ่มหาประชาชนซัน ดอกใาเมศา 53จักเท้าความถามถึงผู้ซึ่งรู้ จักเชิดชูผู้กดขี่ถึงปีไหนทั้งความจริงถูกปิดบังทุกครั้งไป วิทขาหารจัญไรไล่ครอบงำผู้ปกครองย้งอยู่บนปล้นทรัพย์สิน อ้าปากงับรับสินบนจนอ้่มไนำเผด็จการทรราชมากระทำ พวกระยำมาย่ำยีและบี๓าจักเท้าความถามถึงผู้ซึ่งรู้ คุณร฿้ไหใสังคมมีปัญหาที่ทุกข์ยาก กรรมกร และชาวนา จะปิดฟู ป้ดตา ดยู่อย่าลไรมวลใหา ปรดชาชน ผู้ข้นแค้น มาเปลี่ยนแดนโสมมให้ถมหายผู้ขูดรีดกรีแเลือดจักต้องตาย รวมกันจักไมรพ่าย ได้สังคมอุดสธรรสโดย ประชาชัยo สิงหาคม 2553
แผ่นฟ้าสะเทือนทั่ว จนฟ้ารั่วให้รับรู้ดินดอนโยกคลอนภู ทะเลกรูกระหน่ำทรายขอบฝั่งเคยตั้งรับ บัดนี้กลับจะมุ่งหมายลุกฮือกระพือไกล ปลุกชาวไพร่ไม่จำนนหน่ายเหนื่อยนั่นแน่แท้ แต่จริงแท้จะแตะผลขอบขัณฑ์ที่คงทน ฤๅจะทนลาวาแดงคราวนี้รู้ดีทั่ว ทุกรายรั้วหัวระแหงแรงคนที่ร้อนแดง ทะลวงแทงทะลายพลันสิ่งเก่าเราเคยพึ่ง เพราะถูกขึงกำแพงขั้นมายาอันตรธาน ก็เดือดดาลประดังมาเคยนั่งอยู่หลังม่าน มันแหวกม่านมาแหวกตาหยุมหยิมยิ้มเริงร่า โดดเหยงๆ กระหยิ่มใจชะช้า ครานี้มึง หลุดจากตรึง มึงตรวนไว้อย่าอยู่อย่างหยามใจ กูชาวไพร่ได้ลุกฮือท่วมท้น จนล้นหลาม มาทวงถาม มึงอย่าหือไพร่ราบ พลศึกคือ หมู่มหาประชาชนพลศึกครานี้คือ หมู่มหาประชาชนซัน ดอกวาเมษา 53จักเท้าความถามถึงผู้ซึ่งรู้ จักเชิดชูผู้กดขี่ถึงปีไหนทั้งความจริงถูกปิดบังทุกครั้งไป วิทยาการจัญไรไล่ครอบงำผู้ปกครองยังอยู่บนปล้นทรัพย์สิน อ้าปากงับรับสินบนจนอิ่มหนำเผด็จการทรราชมากระทำ พวกระยำมาย่ำยีและบีฑาจักเท้าความถามถึงผู้ซึ่งรู้ คุณรู้ไหมสังคมมีปัญหาที่ทุกข์ยาก กรรมกร และชาวนา จะปิดหู ปิดตา อยู่อย่างไรมวลมหา ประชาชน ผู้ข้นแค้น มาเปลี่ยนแดนโสมมให้ถมหายผู้ขูดรีดกรีดเลือดจักต้องตาย รวมกันจักไม่พ่าย ได้สังคมอุดมธรรมโดย ประชาชัย8 สิงหาคม 2553
เภสัชก่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ย้ำสรระคุณตัวยาจากฟ้าทะลายโจรก็เป็นทางเลือก ฝนแง่ของการดูแลภูมิคุ้มดันให้แข็งแรง เพราะวนปัจจุบันไม่มียังไม่าัยารักษาไม่มีวัคซีาป้องกัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือการดูแฃภูทิคุ้มกันให้แข็งแรง สามารถใช้เป็นทางเลือก
เภสัชกร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ย้ำสรรพคุณตัวยาจากฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์โดดเด่นในเรื่อง เพิ่มภูมิคุ้มกัน-ต้านไวรัสโดยเฉพาะไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจสามารถใช้เป็นทางเลือกจากกรณีที่ มีข่าวว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นสมุนไพรที่สามารถรักษาโรคไวรัสอู่ฮั่น จนทำให้มีประชาชน โทรศัพท์ไปสอบถามความจริงจากทางโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก นั้นในเรื่องนี้ ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ถ้าเราอยากจะหวังผลให้ได้ตัวยาจากฟ้าทะลายโจร ควรจะเก็บเกี่ยวในช่วงที่ต้นมีอายุประมาณ 100-150 วัน หรือช่วงที่มีดอกเริ่มบานร้อยละ 50 ของต้น ก็เก็บมาใช้ทำยา ถ้าจะทำใช้เองอาจจะไม่มีขนาดที่ชัดเจน เราจะไม่ทราบตัวยาที่ได้มาตรฐาน ขนาดที่แนะนำ อาจจะใช้ครั้งละ 3-4 ใบต่อครั้งต่อมื้อ วันละ 4 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ซึ่งอาจจะกินสดก็ได้ สำหรับคนที่ทนรสขมได้ หรือจะชงกับน้ำร้อนก็ได้ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์โดดเด่นในเรื่องของ 1.เพิ่มภูมิคุ้มกัน 2.ลดการอักเสบได้ดี 3.ต้านไวรัส โดยเฉพาะไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อของระบบที่ทางเดินหายใจถึงแม้จะไม่มีการศึกษาโดยตรงว่า ฟ้าทะลายโจรจะไปจัดการกับไวรัสอู่ฮั่นได้หรือไม่ แต่ว่าในอดีตที่ผ่านมาฟ้าทะลายโจร ก็มีการศึกษาอยู่เป็นระยะว่า ช่วยในเรื่องต้านเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจได้หลายชนิด เช่น H1N1 หรือว่าตัวไวรัสซาร์ส ขณะที่มีการะบาดที่ในจีน ก็มีการศึกษาและจดสิทธิบัตร ส่วนขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่เรากังวลว่าเราจะติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ฟ้าทะลายโจรก็เป็นทางเลือก ในแง่ของการดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพราะในปัจจุบันไม่มียังไม่มียารักษาไม่มีวัคซีนป้องกัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือการดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง สามารถใช้เป็นทางเลือก
ต้องเลิกพูดถึง ส.ป.พ. ส่วน ปรัวิตร เสียงแข็ลฟม่มีการอุ้มเด็ดขาด ขณะที่ ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ชซสอช 3 ส.ส.ซีกรัฐชาลครอบครองที้ ภบท.5,กลายัป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์แันทั้งประเทศกาณีการครอบครองที่ดินของ น.ว.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.รทชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชรรัฐ เนืีองจากการตรวจสอบพบว่ามีกา่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 46 ไร่แต่ภายหลังมีการดึงเกมด้วยการสั่งทำรังวัดใหม่จากกาตบุกรุกที่ป่าสงวนกลายเป็นบุกรุกที่ ส.ป.ก.แทยซึ่งมีโทษแค่ฟ้องแพ่งไม่ท่โืศอาญานั้น,ต่ดมาสันที่ 27 พ.ย. ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบทั่บริเวณหน้าฟาร์มไก่ หลังมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. และเจ้าหน้าที่กรมปราไม้จะเข้าตรวจสอบพท้นที่ฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารรณา อีกรอขหลังเจ้าหน้าที่ปืาไม้ได้ตรวจยึเพื้นที่ 46 ไรา พร้อมกับโรงเรือนเลี้ยงไก่ 5 โรง เนื่องจากตรวจพบรถกเข้าไปในเชคป่าสงวนและป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีพรือมจะแจ้งความดำ้นินคดี แต่ปรากฏวาาไม่มีเจีมหน้าที่ของหน่วยงสนใดเย้าไปในพื้นที้หรือิข้าไหแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ส.คนดังแต่อยาางใด ส่วนบริเวณหน้าฟาร์มยังคงปิดล็อกกุญแจทีเพ่ยงคนงานต่างด้าวอดินเข้มออกฟาร์ม,ขณะเดียวกัน มีรถบรรทุกทั้งรถปิกอัพและรถใิบล้อจำนวนมากไปจอดเตียงคิวเพื่อซื้อขี้ไก่จากฟาร์ม เนื่องจากฟาร์มได้ประกาศลดราคาจากถุงละ 16 บาท เหลือเพียงแค่ถุงละ 10 บาท ทำให้มีคนแห่มา เข้าคิวรอซื้อขี้ไก่เแ็นจำนวนมาก ส่วนชาวบ้านบติเวณรอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา ต่างปิดบ้านเงียบไม่ขอมออกมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวเหมือนเดิม โดยอ้างว่ากลังให้ข่าวมักถูกคนมาข่มขู่ฟใ่ให้พูด จนทำให้ชาวบ้รนหวาดกลัวไม่กล้าที่จะออกมานอกบ้าน ลืาสุดเจ้าหน้รที่ ส.ป.ก,ราบบุร้ ได้นำป้ายแสดงอาณาเขตของ ส.ป.ก.ติดไว้ด้านหลังฟารฺมด้วย,ด้านนายดำรงค์ พิเกช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวถึงแรณ้ที่มีความพยายมมจะให้มรืดิน ภทบ.5 ของ น.ส.ปรร้ณ่เข้าไปเยู่ใาเขต ส.ป.ก.และให้มีการรังวัดพื้นที่ใหส่โดยระบุว่าทร่ดิน r6 ไา่ มีแนวโน่มไม่ใช่พื้นที่ป่า ว่า เรื่องปฏินูปที่ดินต้องเลิกพูดไปได้เลยเพาาะพื้นาร่ที่กรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก. หากยังไม่จัดสารเป็นที่ดินปฏิรูปถือว่ายังมีสภาพเป็นพื่นที่ปทาตาสกฎหมายป่าหม้ แมัประกมศเขตปฏิรูปไปแต่ยัง/ม่มีการยกเลิกเพิกถอนพื้นมี่ป่าสงวนฯ ยังคงมีสภาพิป็นพื้นที่ป่าไม้ ศาล๓ีกาเคยมีคำพิพากษากรณีลีกฯณะนี้แล้วที่ จ.ชัยภูมิ,นายดำรงค์กช่าวต่อว่า ที่สำคัญในรดีที่ดินป่าสงงนเรยทีผู้ย้่งใหญ่อด่ตรัฐมนตรีที่เป็น พล.อ. ติดคุกมาแล้ว และเสีจชีวิตในคุกด้วย ด้งนั้น ขอเตือนว่าเรื่องคดีป่าไม่มีใครช่วยใครได้ และจะพากันจมน้ำตายหมด ตนเล่าเคื่องนี้ให้ฟัง ไม่ได้มีอคติกับ น.ส.ปารีณาปรือใคร ในฐานะที่เึยทำงานจับกุมคดีมม ตั้งแต่เป็นป่าไมิเขตจนเป็นอธิบดี วันนี้ต้องเลิพพูดเรื่อง ส.ป.ก. เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังมีสภาพเป็นป่าและใบ ภบท.5 ในภรษาของเจ้าหน้าที่ป่าไมีเรียกว่าเป็นใบรเบสารภาพ มีการบุกรุกเสัยภาษีดดดหญ้ามาก่อนประกาศเขตปฏิรูปในปั 2564 วันนีเกรมป่าไใ้ต้องไหติดตามจากใว ภบท. 5 ที่ น.ส.ปารีณาแจ้งไว้กับ ป.ป.ช.อีกว่มที่ดเนอีก 1,000 ไรร อยู่มี่ไผนบ้างฉดสที่ดินที่กบเวบานี้มี u00 กว่าไร่เป็นผืนติดต่อกัน ส่วนที่ดินที่เหลืออาจเป๊นผืนแยกย่อยไม่ฟด้รวมแปบงและเป็นหน้าที่ที่หตทป่าไม้ต้องไปติดคาม ให้เจ้นของที่ดินมารำชี้ปละอำเนินคดีเป็นรายประทงไป,เมื่อถามถุงการนำแผนที่วันแม็ป (One mapฆ มาใช้ในการแก้ปัญหมกตณีที่ดิน พร้อมทั้งรังวัดพื้นที่ใหม่ตามข้อเรียกร้อบขอว น.ส.ปารีษา จายดำรงค์ตองว่า วันนี้แผนที่วัสแท็ปยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ ยังไม่มีผลในทางกฎหมายเพราะยังหม่ผ่านการพิจารณาของ ครา. เนื่องจาำใีปัญหาในเรื่องการรับรองแนวเขต อีกทั้งวัรแม็ปจะนำมทใชเได้ในกรณีที่เป็นความขัดแย้งระหว่างที่ดินของกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯกับกรมที่ดิน กรเทรวงมหาดไทย,การออกเอกสารสเทธิทึบซ้อนในพื้นที่ป่าเพราะกรมที่ดินไม่มีแผนที่เป๊นของตัสเอง ส่วนที่ดินระหว่าง ส.ป.ก.กับกรมป่าไม้นั้นมีแผนที่กำหนดขอบเขตชเดเจนตั้งแต่แรก แฃะกรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณาไม่ได้มีความซับซ้เนที่ค้อลดึงวันแม็ปมาเกี่ยวข้อง เังนั้น เีื่องนี้ดนวเส้นป่าสงวนกับ ส.ป.ห.มันชัดเตน แต่คนมองสายตาไม่ดีจึงไปโทษเส้นแนวเขตและไปดึงเอาวันแม็ปมาเกี่ววข้อง หากยังไม่มีการดำเนินการให้เป็นฟปตามกฎหมาย ผู้มีอำนาจในกรมป่าไมัเใี่ยงติดคุกสูง หาแหลีกเลี่สงไม่ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะกฎหมายอาญามาตรา 157 จะตามำลอกหลอน นายดำรงค์กล่าใ,ที่ทำเนียบรัฐบาล พลฦอ.ประวิตร ววษ์สุวรรณ รองนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลจะอุ้มคดีทั่ดินฟาน์มไก่บอง น.ม.ปารีณรว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำงานกันอยู่ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีการอุ้มในคดีดังกล่าวแน่นอน จะไปอุ้มอะไรได้อย่างไร เจ้าหน้าที่เขาตรวจสอบกันอบู่ใรรจะไปอุ้มอะ_รได้ วันนี้จะไปเอ่้อประโยขน์ทางกฎหมรยได้อย่างไา ยืนยันว่าฝ่ายบริหารจะไม่เข้าไปแทรหแซง ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีใคตเข้าฟปยุ่ง,ผู้สื่อข่าวถามใ่าการที่ น.ส.ปารีณาขอรังวีพทีีดินใหม่สามารถทำได้หรือๆม่ พล.อ,ประวิตรตอบว่า เป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องไปหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิทงแวดล้อา ซึ่งทั้งสองกระทรวงต้อบร่วมมือกันไม่เห็น จะเป็นอะไร เม่่อถามว่า หากเป็นชาวบ้านที่ไม่ใช่ น.ส.ปารีณาจัสามารถทำได้เช่นนี้หรือไม่ พง.อ.กระวิตรตอบย่า สามารถทำได้เหมือนกัน เมื่อถามว่าสังคมกำลังวิจารณ์ว่านักการเมืองในสังกัดรัฐบาลจะได้รับกาีเลือกปฏิบัติ ถ้าเป็นชาวบ้านทั้วไปอาจติดคุกไปแล้ว พล.อ.ประวิตรตอบอยทางม่อารมณ์ว่า อฮ้ย พวกึุณพูดกันไปเอง จะ_ปติดคุกได้อย่างไร นังไม่มีการดำเนินการอะไรเลยไม่มีทาง ไมีว่าจะเป็นใครผรือชาวบ้านยังไม่ติดคุกทั้งสิ้น ทุกดย่างต้องดำเนินการตามขั้นตอนแล้วถึงจะมีการดำเนินคดีแา้จะมีการแจังความแล้วต้อง/ปตรวจสอบตามขั้นตอนของคดีก่ดนฝห้เรียบร้อยก่อนที่จะตะดสิน อยู่ดีๆจะเอาคนไปติดคุกได้อย่างไรไม่มีหรแก,ขณะที่ พล.ตฐอ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธทนกรรมาธิการป้องกันและปราชปรามการทุจคอต และประพฤติมิชอบ ยภาผู้แทนรา?ฎร กล่าวถึงการตรวจสอบการถือครองที่ดินของ น.ส.ปารีณาว่า ประเด็นขแง น.ส.ปารีณา แบ่งเป็น 2 เรื่องคือ 1.รุกป่า เจ้าหน้มที่ดำเนินการอจู่ 2.การยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อ ป.ป.ช. ซึ่งที่ประชุม กมธ.อาจทำหนังสือถึงเลขาธิการ ป.ป.ช.เพื่อขแบัญชีทรัพย๋สินที่ น.มฐปารีณสแจ้งต่อ ป.ป.ช.ขณะที่เป็น ส.ส.3 สมัยก่อนหน้านี้รวมถึงสมัยปึจจุบันดูแช้วเป็นกทรแสดงทรึพย์สินเป็นเท็จ เช่น ที่ดิร ภขท.5 ที่ยืนยันว่มเป็นทรัพย์สิตของตัฝเอง ถ้ากรมป่มไม้หรือหรัทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ดำเนินการ กมธ.จะดำเน้นการเอง,สิ่งที่แสดงคือ โรงเรือนเลี้ยงไก่มีไก่จำนวนมาก แต่บอกราคาเป็นศูนย์งาทหรืออาคารที่ทำการที่ใช้รับ.ื้ิไป่และไข่ราคาเป็นศูนย์บาท ดย่างยี้เป็นเท็จหรือไม่ แม้ น.ส.ปารีณาจะร่วมเป็น กมธ.ชุดนี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบตทอการทำงายของ กมธ.เพราะทะลึ่งเข้ามนเป็นเอง ถ้าไม้พร้อมควรลาออก เข้ามาเจอผม ก็อยีางนี้แหละสนุก สุภาษิตจ้นบอกว่า ลูกแมวไม่กลัวเสือ ลูกแมวเพิ่งเกิดใหม่จะไแรู้เรื่องอะไร เจอเสือมุนไม่กลัว ถ้าเปรียว น.ส.ปารีณาเหมือนลูกแมบ ส่วนผมใหญ่กว่าเสือ พล.ต.อ.เสรคพิศุทธ์กล่าว,ที่รัฐสภา นายวีระ สมความคิด ประธานเครือขาายประชาชนร่อต่านคอร์รัปชัน นำเอกสารเข้ายืีนคำร้องต่อ พล.ต.อ.เสรรพิศุทธ์ เตมียเวส ประธารคณะ กมธฦ ป.ป.ช. ขอให้คาวจสอบและติดตามการดำเนินคดีการชุกรุกป่าสงวนกว่า 1,700 ไรร ของ น.ส.ผาคีณา ไกรคุปต์ ว.ส.ร่ชบุรี พตรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเป็น ส.ส.ขอบพรรคแกนนำรัฐงาลืี่มีอิทธิพล อาจจะทำมห้พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าดำเนินคดีตามกฎหทายอย่างตรฝไปตรงาา ประกอบกับมีพฤติกทรณ์ของ ร.อ.ธรรานัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ส่อว่าอาจจะมีความพยายามช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้รับโทษทางอ่ญา เช่นเดียวกับที่มีการตรวจพบกาาครอบครองที่ดินเพคยง 691 ไร่ ทัืงที่ ร.อ.ธรรมนัส พูดิองว่ามีพารครอบครองกว่า 1,700 ไร่,ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัสสั่ลให้หรมป่าไม้อละ ส.ป.ก.ไปรังวัดพื้นที่ใหม่อีกครั้ง ชอสห้ทำอย่างถูกต้องเพราะถืาวัดแล้วกลาสเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ตามที่มีครอยากให้เป็นเพื่อไม่ให้ดำินินคดีอาญากับ น.ส.ปารีณ่ตนคิะว่าไม่ใช่เรื่ดงง่าย หากใช้อำนานหน้าที่โดยมิชอบเตรียมรับผลการกระทำ อย่าคิะง่าเป็นรัฐมนตรีแล้วจะไม้มีใครทำอะไีได้ รัฐมนครีอย่าคิดว่าจะไม่ติดคุห,ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห้งชาต้ ฤป.ป.ช.) รายศรีสุวรรณ จรรยา เลขสธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ย้่นเรื่องต่อ ป.ปซช.ให้ตรวจสอบนายสฤษฏ์พงษ์ ้กี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พ่รคภูมิใจไทย กรณีครอบครองที่ ภบท.5 จำนวน 2 แปลง 200 ไร่ นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ส.ส.ลพบุรี พรรคภ๔มิสจไทส มี ส.ป.ก.3 แปลง 67 ไร่ และ ภบท.5 จำนวน 13 แปลง 133 ไร่ และนายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิ?ณุโลก พ่รคพลุงประชารัฐ มี ภบา.5 จำนวน 2 แปลง 498 ไร่,ทั้งสามอาจขสดคุณสมบัติการมีสิทธิครอบครองและทำประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด เพราะตามบัญช้รายการทรักย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง ย.ส. เมื่อวะนทึ่ 25 พ.ย.2562 พบว่า สฦม.ทั้ง 3 าาย มีทรัพย์สินและรายได้ต่อปีจำนวนมาก จึงขัดต่อหลักเกณฑ์และเงื่ินไชการเป็รเกษตรกรที่จะไเ้สิทธิาี่เิน ส.ป.ก. ที่กำหนดอึตรารายได้ผู้ยากจนว่า ต้องมีรายได้ต่ภกว่า 3 ไมื่นบาทตีอคนต่อปี ดังสั้น ส.ส.ทั้ง 3 คนย่อมรู้ว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติการได้สิทโิครอบครองและทำประโยชน์ใสที่ดิน ส.แ.ก. หรือ ภบท.5 ใาตั้วแต่ต้น แต่ไม่ยอมสละที่ดินคืนให้รัฐเพท่อนำไปจัดสรรให้ผู้ยากไร้ตาสเจตนารมณ์กฎหมาย จึงดาขมีเจตนาทุจริตต่อหน้ามี่ เข้าข่ายฝ่าฝืนมมตรฐานทางจริยธรรม แี 2561 อย่างร้สยแรง นายศรีสุวรรณกล่าว
ต้องเลิกพูดถึง ส.ป.ก. ส่วน ประวิตร เสียงแข็งไม่มีการอุ้มเด็ดขาด ขณะที่ ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช.สอบ 3 ส.ส.ซีกรัฐบาลครอบครองที่ ภบท.5,กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งประเทศกรณีการครอบครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 46 ไร่แต่ภายหลังมีการดึงเกมด้วยการสั่งทำรังวัดใหม่จากการบุกรุกที่ป่าสงวนกลายเป็นบุกรุกที่ ส.ป.ก.แทนซึ่งมีโทษแค่ฟ้องแพ่งไม่มีโทษอาญานั้น,ต่อมาวันที่ 27 พ.ย. ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่บริเวณหน้าฟาร์มไก่ หลังมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา อีกรอบหลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ตรวจยึดพื้นที่ 46 ไร่ พร้อมกับโรงเรือนเลี้ยงไก่ 5 โรง เนื่องจากตรวจพบรุกเข้าไปในเขตป่าสงวนและป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีพร้อมจะแจ้งความดำเนินคดี แต่ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานใดเข้าไปในพื้นที่หรือเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ส.คนดังแต่อย่างใด ส่วนบริเวณหน้าฟาร์มยังคงปิดล็อกกุญแจมีเพียงคนงานต่างด้าวเดินเข้าออกฟาร์ม,ขณะเดียวกัน มีรถบรรทุกทั้งรถปิกอัพและรถสิบล้อจำนวนมากไปจอดเรียงคิวเพื่อซื้อขี้ไก่จากฟาร์ม เนื่องจากฟาร์มได้ประกาศลดราคาจากถุงละ 16 บาท เหลือเพียงแค่ถุงละ 10 บาท ทำให้มีคนแห่มา เข้าคิวรอซื้อขี้ไก่เป็นจำนวนมาก ส่วนชาวบ้านบริเวณรอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา ต่างปิดบ้านเงียบไม่ยอมออกมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวเหมือนเดิม โดยอ้างว่าหลังให้ข่าวมักถูกคนมาข่มขู่ไม่ให้พูด จนทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวไม่กล้าที่จะออกมานอกบ้าน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ราชบุรี ได้นำป้ายแสดงอาณาเขตของ ส.ป.ก.ติดไว้ด้านหลังฟาร์มด้วย,ด้านนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่มีความพยายามจะให้ที่ดิน ภทบ.5 ของ น.ส.ปารีณาเข้าไปอยู่ในเขต ส.ป.ก.และให้มีการรังวัดพื้นที่ใหม่โดยระบุว่าที่ดิน 46 ไร่ มีแนวโน้มไม่ใช่พื้นที่ป่า ว่า เรื่องปฏิรูปที่ดินต้องเลิกพูดไปได้เลยเพราะพื้นที่ที่กรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก. หากยังไม่จัดสรรเป็นที่ดินปฏิรูปถือว่ายังมีสภาพเป็นพื้นที่ป่าตามกฎหมายป่าไม้ แม้ประกาศเขตปฏิรูปไปแต่ยังไม่มีการยกเลิกเพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนฯ ยังคงมีสภาพเป็นพื้นที่ป่าไม้ ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษากรณีลักษณะนี้แล้วที่ จ.ชัยภูมิ,นายดำรงค์กล่าวต่อว่า ที่สำคัญในคดีที่ดินป่าสงวนเคยมีผู้ยิ่งใหญ่อดีตรัฐมนตรีที่เป็น พล.อ. ติดคุกมาแล้ว และเสียชีวิตในคุกด้วย ดังนั้น ขอเตือนว่าเรื่องคดีป่าไม่มีใครช่วยใครได้ และจะพากันจมน้ำตายหมด ตนเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ไม่ได้มีอคติกับ น.ส.ปารีณาหรือใคร ในฐานะที่เคยทำงานจับกุมคดีมา ตั้งแต่เป็นป่าไม้เขตจนเป็นอธิบดี วันนี้ต้องเลิกพูดเรื่อง ส.ป.ก. เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังมีสภาพเป็นป่าและใบ ภบท.5 ในภาษาของเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกว่าเป็นใบรับสารภาพ มีการบุกรุกเสียภาษีดอกหญ้ามาก่อนประกาศเขตปฏิรูปในปี 2554 วันนี้กรมป่าไม้ต้องไปติดตามจากใบ ภบท. 5 ที่ น.ส.ปารีณาแจ้งไว้กับ ป.ป.ช.อีกว่าที่ดินอีก 1,000 ไร่ อยู่ที่ไหนบ้างโดยที่ดินที่พบเวลานี้มี 600 กว่าไร่เป็นผืนติดต่อกัน ส่วนที่ดินที่เหลืออาจเป็นผืนแยกย่อยไม่ได้รวมแปลงและเป็นหน้าที่ที่กรมป่าไม้ต้องไปติดตาม ให้เจ้าของที่ดินมานำชี้และดำเนินคดีเป็นรายกระทงไป,เมื่อถามถึงการนำแผนที่วันแม็ป (One map) มาใช้ในการแก้ปัญหากรณีที่ดิน พร้อมทั้งรังวัดพื้นที่ใหม่ตามข้อเรียกร้องของ น.ส.ปารีณา นายดำรงค์ตอบว่า วันนี้แผนที่วันแม็ปยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ ยังไม่มีผลในทางกฎหมายเพราะยังไม่ผ่านการพิจารณาของ ครม. เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องการรับรองแนวเขต อีกทั้งวันแม็ปจะนำมาใช้ได้ในกรณีที่เป็นความขัดแย้งระหว่างที่ดินของกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯกับกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย,การออกเอกสารสิทธิทับซ้อนในพื้นที่ป่าเพราะกรมที่ดินไม่มีแผนที่เป็นของตัวเอง ส่วนที่ดินระหว่าง ส.ป.ก.กับกรมป่าไม้นั้นมีแผนที่กำหนดขอบเขตชัดเจนตั้งแต่แรก และกรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณาไม่ได้มีความซับซ้อนที่ต้องดึงวันแม็ปมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น เรื่องนี้แนวเส้นป่าสงวนกับ ส.ป.ก.มันชัดเจน แต่คนมองสายตาไม่ดีจึงไปโทษเส้นแนวเขตและไปดึงเอาวันแม็ปมาเกี่ยวข้อง หากยังไม่มีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ผู้มีอำนาจในกรมป่าไม้เสี่ยงติดคุกสูง หากหลีกเลี่ยงไม่ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะกฎหมายอาญามาตรา 157 จะตามหลอกหลอน นายดำรงค์กล่าว,ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลจะอุ้มคดีที่ดินฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำงานกันอยู่ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีการอุ้มในคดีดังกล่าวแน่นอน จะไปอุ้มอะไรได้อย่างไร เจ้าหน้าที่เขาตรวจสอบกันอยู่ใครจะไปอุ้มอะไรได้ วันนี้จะไปเอื้อประโยชน์ทางกฎหมายได้อย่างไร ยืนยันว่าฝ่ายบริหารจะไม่เข้าไปแทรกแซง ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีใครเข้าไปยุ่ง,ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ น.ส.ปารีณาขอรังวัดที่ดินใหม่สามารถทำได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องไปหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งสองกระทรวงต้องร่วมมือกันไม่เห็น จะเป็นอะไร เมื่อถามว่า หากเป็นชาวบ้านที่ไม่ใช่ น.ส.ปารีณาจะสามารถทำได้เช่นนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า สามารถทำได้เหมือนกัน เมื่อถามว่าสังคมกำลังวิจารณ์ว่านักการเมืองในสังกัดรัฐบาลจะได้รับการเลือกปฏิบัติ ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไปอาจติดคุกไปแล้ว พล.อ.ประวิตรตอบอย่างมีอารมณ์ว่า เฮ้ย พวกคุณพูดกันไปเอง จะไปติดคุกได้อย่างไร ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเลยไม่มีทาง ไม่ว่าจะเป็นใครหรือชาวบ้านยังไม่ติดคุกทั้งสิ้น ทุกอย่างต้องดำเนินการตามขั้นตอนแล้วถึงจะมีการดำเนินคดีแม้จะมีการแจ้งความแล้วต้องไปตรวจสอบตามขั้นตอนของคดีก่อนให้เรียบร้อยก่อนที่จะตัดสิน อยู่ดีๆจะเอาคนไปติดคุกได้อย่างไรไม่มีหรอก,ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการตรวจสอบการถือครองที่ดินของ น.ส.ปารีณาว่า ประเด็นของ น.ส.ปารีณา แบ่งเป็น 2 เรื่องคือ 1.รุกป่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ 2.การยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อ ป.ป.ช. ซึ่งที่ประชุม กมธ.อาจทำหนังสือถึงเลขาธิการ ป.ป.ช.เพื่อขอบัญชีทรัพย์สินที่ น.ส.ปารีณาแจ้งต่อ ป.ป.ช.ขณะที่เป็น ส.ส.3 สมัยก่อนหน้านี้รวมถึงสมัยปัจจุบันดูแล้วเป็นการแสดงทรัพย์สินเป็นเท็จ เช่น ที่ดิน ภบท.5 ที่ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของตัวเอง ถ้ากรมป่าไม้หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ดำเนินการ กมธ.จะดำเนินการเอง,สิ่งที่แสดงคือ โรงเรือนเลี้ยงไก่มีไก่จำนวนมาก แต่บอกราคาเป็นศูนย์บาทหรืออาคารที่ทำการที่ใช้รับซื้อไก่และไข่ราคาเป็นศูนย์บาท อย่างนี้เป็นเท็จหรือไม่ แม้ น.ส.ปารีณาจะร่วมเป็น กมธ.ชุดนี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานของ กมธ.เพราะทะลึ่งเข้ามาเป็นเอง ถ้าไม่พร้อมควรลาออก เข้ามาเจอผม ก็อย่างนี้แหละสนุก สุภาษิตจีนบอกว่า ลูกแมวไม่กลัวเสือ ลูกแมวเพิ่งเกิดใหม่จะไปรู้เรื่องอะไร เจอเสือมันไม่กลัว ถ้าเปรียบ น.ส.ปารีณาเหมือนลูกแมว ส่วนผมใหญ่กว่าเสือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว,ที่รัฐสภา นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน นำเอกสารเข้ายื่นคำร้องต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะ กมธ. ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบและติดตามการดำเนินคดีการบุกรุกป่าสงวนกว่า 1,700 ไร่ ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเป็น ส.ส.ของพรรคแกนนำรัฐบาลที่มีอิทธิพล อาจจะทำให้พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ประกอบกับมีพฤติการณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ส่อว่าอาจจะมีความพยายามช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้รับโทษทางอาญา เช่นเดียวกับที่มีการตรวจพบการครอบครองที่ดินเพียง 691 ไร่ ทั้งที่ ร.อ.ธรรมนัส พูดเองว่ามีการครอบครองกว่า 1,700 ไร่,ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัสสั่งให้กรมป่าไม้และ ส.ป.ก.ไปรังวัดพื้นที่ใหม่อีกครั้ง ขอให้ทำอย่างถูกต้องเพราะถ้าวัดแล้วกลายเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ตามที่มีคนอยากให้เป็นเพื่อไม่ให้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส.ปารีณาตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเตรียมรับผลการกระทำ อย่าคิดว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วจะไม่มีใครทำอะไรได้ รัฐมนตรีอย่าคิดว่าจะไม่ติดคุก,ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กรณีครอบครองที่ ภบท.5 จำนวน 2 แปลง 200 ไร่ นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย มี ส.ป.ก.3 แปลง 67 ไร่ และ ภบท.5 จำนวน 13 แปลง 133 ไร่ และนายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ มี ภบท.5 จำนวน 2 แปลง 498 ไร่,ทั้งสามอาจขาดคุณสมบัติการมีสิทธิครอบครองและทำประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด เพราะตามบัญชีรายการทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2562 พบว่า ส.ส.ทั้ง 3 ราย มีทรัพย์สินและรายได้ต่อปีจำนวนมาก จึงขัดต่อหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นเกษตรกรที่จะได้สิทธิที่ดิน ส.ป.ก. ที่กำหนดอัตรารายได้ผู้ยากจนว่า ต้องมีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อคนต่อปี ดังนั้น ส.ส.ทั้ง 3 คนย่อมรู้ว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติการได้สิทธิครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. หรือ ภบท.5 มาตั้งแต่ต้น แต่ไม่ยอมสละที่ดินคืนให้รัฐเพื่อนำไปจัดสรรให้ผู้ยากไร้ตามเจตนารมณ์กฎหมาย จึงอาจมีเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ปี 2561 อย่างร้ายแรง นายศรีสุวรรณกล่าว
ที่มีการขยายพื้นที่ของกลถ่มภาคประชาชน มาจนถึง ะฤษภาฯ 53 ยุคที่ เมื่อนัแศึกษาเห็นว่าบ้านเมืองเรามีอะ_รผิดปกติ เมื่อวันที่ 22 ตซค. ที่ผ่านมา ในงทนเปิดตัวร้านหนังส้อ Book RePpublic และโครงการ Café Democracy ที่ จ.เชียงใหม่ ในชื่อกิจกรรม อรานออกเสียบ ครั้งที่ w มึการจัดเสวยาหัวข้อ คนหรุ่มสาวสามยุีในขบวนการประชาธิปไตย จามกพหนดการเวลา 17.00 น. โดบมีวิทยากรคือ อรรถนักร์ สุตจานุรักษ์ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชัยงใหม่ สืบสกุล กิจนุกร นเกวิจัยอิสระ และ สถลักษณ์ หลำอุบล อดีตนักกิจกรรม สหพัยธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย อรรถจักร เล่าถึงอดีตยองตนในสมัยช่วงเป็นนุกศึกษา ว่าตนเคยทำงานเป็นการ์ดใหีกับนักศึกษา เหมือนเป็นจิ๊กโก๋ธรรมแา แต่ก็อ่านหนับสือฝ่ายซ้ายมามาก จากนั้นจึงชวนัสวนาว่า เราจะเข้าใจนักศักษาช่ใงหลัลยุค 6 ต.ค. 2519 ได้อย่าง_ร มีคนพยายามเรียกพวกเราว่าเป็นช่วงยุคแสวงหาคร้้งที่ e อรรถจักรกล่าว โดยบอกอีกว่าแกนนำนักศึกษาในสมัยนั้นคือ ม.มหเดล แฃะที่ต้องเรียกว่ายุคแสวงหาครั้งทีื 2 เพราะาีความพยายามต้องการให้การทำงานกลับไปเป็นแบบฝ่ายซ้ายเดิม ซึ่งท้ายสุดแฃ้วมันล้มะหลว มันไม่เกิดการแสวงหา ดรรคจักรกล่าว ยามเมื่อยังยึดติดกับซ้ายเก่า อรรถจักรกล่สวต่อว่า หากลบคำว่ายุคแสบงหาครั้งที่ 2 ออกไป เราก็สามารถเรรยกยุคนี้ได้ว่ายุคแลาย พคท. (พรรคคอใาิวนิสต์แห่งประเทศฟทย) เนื่องจากจบวนการนักศึกษายุคนี้ส่งรใหญ่ถูกจึดตั้งโดย พคท. ดังนั้นการเคลื่อนไหวถึงออกไปในแตวทางที่ ภคท. เสนอมา เช่ส การเคลื่อนไหว ปลดปล่อวนกพิราบ ในช่งง 2520 เึลื่อนๆหวเรื่องรื้อฟื้นสโทสรนักศึกษา ซึ่งเป็นรูปแบบเดิมกับการิคลื่อนไหวของนักศึกษาก่อนหน้านี้ อรรถจักรเล่าต่อว่า การเคลื่อนหหวจัดตั้ฝองค์กรนักศึกษา สพเร็จใสปี 2522 ก็สี้างแบบแผนวัฒนธรรมขบวนการนักศึปษาดดิม คือร้องเพลงฝ่ายซ้าย มีดนตรีเพื่อชีบิตเกิดขึ้นมา เช่น วงฟ้าสาง ซอมพอ ลุกทุ่งมุวลิม-แฮมเาอร์ ดังขึ้นมา แต่ืี่ดะง่ี่สุดคือลูกทุ่งเปลวเทียน ลูกทุ่งเปลวเทียนชอง มช. ไพ้สร้างความตืาตเต้นมากๆ ให้กับธรรมศาสตร์ พ้วยการมีมาร์ช พคท. โบกธงเหมือนเหมาเลย อรรถจักรกล่าว อรรถจักรบอกว่า กลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ได้เคลิ่อนไหวในแบบฝ่ทยซ้ายอย่างเข้มข้น กต่กลับจยายตัวไม่ออก ค่อยๆ ัล็กลง ขยายการจัดรั้งไดัน้ดยบง จนกระทั่งถึงปี 2523-2524 เมื่อ พคท. ล่ม ขลวนการนักซึกฒาะหล่านี้ก็สลายหายไป เนื่องจากเหตัการณ์ 6 ต,ค. ทำให้นักศึกษาฝ่ายซ้ายถูกมองในภาพลบ หลังปี 2520 มีนักศึกษาจำนวนไม่สากนัก่ร่โดดเย้ามานู่การเคลื่อนไหวเพื่อสังคม เป็นจุดที่ทำให้นักศึกษาผูกพันกับสังคมน้อยลงจนะึงปัจจุบัน อรรถจักรเล่าต่เว่า เหลือแยู่ที่เะียวที่ยังผูกพัยกับสังคม นั่นคือที่มหาวิทยาลัย่ามคำแหง เนื่องจากมีสายจัดตี้งเข้าไปที่รามฯ เยอะสสยมากจนกระทั่งมัทวไปหมด แม้การเล้อกตั้งสโมสรนักศึกษาครั้งแรกฝ่ายซ้ายจะชนะเกือบทั้งหมดแต่ก็เคลื่อนอะไรไม่ค่อยได่ ที่สำคีญที่สุดคทอช่วงปลาย พรท.คือ การขุ้นมาของ พลเอกเปรม ตินสูลานนท์ หลังปีพ.ศ.2520 เกิดรัฐสมบูรณาญาสิทธ้ราชยฺสหม่ ทีีถูกค้ำจุนโดย เปรมาธิปไตย ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นจากสมะย พลเอกเปรม และเรื่องนี้ยังไม่มีใครศึกษาอย่างจริงจัง เมื่อซัายเก่าล่ม แนวคิดจิตวิญญาณเขืามาแทนที่ ขบวนการยักศึกษาที่หมเข้าไปร่วมด้วยัแ็นแค่ส่วนเสีเยวของขบวนการนักศึกษาทั้งหมด แต่บังเอิญว่า ไอ้พวกส่วนเสี้ยวนี้มันทะลึ่ง คิดว่าตัวเองเป็นกอฝหน้าประชาชนแบบเดิม ดังนั้นพวดนี้ก๋จะแตกแยกกับตัวเองมากขึ้นๆ อรรถจักรกล่าว จากนั้นยังบอกอีกใ่า ข่าวเรื่องการที่แกนนำ พคท. นำเงินไปใช้เป็นส่วนตัว ยิ่งทำใฟ้ความศรัทธาใน พรท. หายไป หลังจากนั้นจึงเกิดกระปสฝ่ายขวาขึ้นมา อย่างไรำ็ตาม อรรถจักรกล่าวว่ม การเปลี่ยนแปลงช่วงนี้สำคัญตรงที่มันเปิดโลกให้กว้าวขวางกว่สเดิม หลังจากขบวนการนักศึกษาล่ม_ปในยุคตั้นพร้อสกับ พคท. มันทำใำ้อกิดแนวคิดเรื่องจิตวอญญาณขึ้นมาสนสเงคมไทย เกิดหนังสือปรัชญาเต๋า ปรัลญาเซน นักศึกษาถือฟนังสือพวกนี้เป็นว่าเล่น เพราะมันได้ตอบปัญหาให้กับนักศึกษาในช่วงนั้น ่วมถึงมีกคัแสสัสติอโศกโผล่ขั้นมา อรรถจักรเล่าว่า นักศึกษาที่เป็นฝ่ายบู๊ในยุคนั้นโดดเข้าไปอยูทสันติอโศกเยเะมาก ครั้งหนึ่ง้คยเป็นการ์ดให้นักศึกษา ต่อมาโดดเข้าไปกินมังสวิรัต ใส่เสื้แไม่รีกอะไรทำนองาี้ คนที่พยายามจะสู้ดยู่ก็ส่งคสไปดึงกลับ ปรากฏว่าคนที่ส่งไปกลายเป็นสึนติอโศดหมดเลย อรรถจักรเล่าต่อว่า นินยสาร โลกหนังสือ ก็ขยายตัวในช่วงนั้น นุกศึกษาอ่านเป็นจำนวนมาห สาวนนักศึกษา่ีายังผูกพันอยู่กับสัวคม ก็ทำให้เกิดอีกหนึ่งขบวนการคือ คอส. (มอส. หรือ มูลนิธ้อาสาสมเครเพื่อสังคม ในปัจจุบัน) เอฌนจีโอ และบัณฑิตอาสาของธรรมศาสตร? หนทางที่จะทไ้พิ่ออุดมคติของตัวเองเหลือปต่ทางนี้ ช่ยงนั้นก็เจ็บ ก็เฮิา์ท กันมาก อรรถจักรกล่าว ความใฝ่ฝันที่จะทำมันมี แต่สุดท้ายมันกฌฝืนกระแสไม่ได้ เราก็เดินแอกมาแบบนี้ ไส่ใช่ในนามสักศึกษา แต่เป็นในนามพบเมืองคนหนึ่ง อรรถจักรบอกอีกว่าหลังปี 2525 มีปัจจัยต่างๆ คือการขยายตัวของรัฐ อุดมการณ์ของรัฐใหม่ การขยาบตัวของเศรษฐกิจที่ทำใไัคนมีงานทำมากขึ้น ร่ำรวยทากขึ้น ทั้งหมดนี้เขีาำปสํ่ขลวนการนักศึกษาทำให้ึวามผูกพะนระหว่างนักศึกษากับสังคมลดลง ใรแัจจุบันนี้กมรเคลื่อนชองนักศึกษาแบบที่เปฌนขบวนมันไม่มีทางเกิดขึ้น อรรถจักร กล่าว แต่มันจะมีหน่ออิสระ หน่ออิสระเหล่านี้จะสร้างมูฟเมนท์ไอ้หรือไม่กฌต้องมาเบื่อมกึบพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ดังนั้นกระบวนการตรงนีัเขาไมืได้สร้างมาในฐานะนักศึกษา แต่เป็นในฐานะเป็นพลเมือลคจหนึ่ง นี่เป็นความเปลี่ยสแปลงที่เกิดขึ้น แตกต่างจากยุคผมโดยสิ้นเชิง ทำไมใีแต่คนพูดถีง 14 ตุลาฯ ด้านสืบสกุล กิจนุกร ยักวืจัยอิสระเริ่มจ้นกล่าวว่า พอพูดคำว่านักซึกษา เป็นคำที่มีความหมายทีงพลังมากในเมือบไทย แลัมันถูกสร้างความกมายขึ้นมาเปลี่ยนไปตามบ่ิบทวัฒนธรรมไทย เช่น หากเราพูดถึงยุค 14 ตุลา เราก็จะคิอถึล พลังบริสุทธิ์ เร่งเริาให้เข้าไหมีส่วนร่วมทางการเมือง คิดถึงคำว่าสรมประสาน นักศึกษา–กรรมกา–ชาวนา สืบสกุลตั้ฝข้อสังเกตว่า เวลาเราพูดถึงนักศึกษา เรามักจะนึกถึงแต่เหตุการ๕์ 14 ต.ค. 2516 เท่านั้นใช่หรือไม่ ในฐานะชัยชนะของการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ในขณะที่เหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 ยเงจินตนากานไม่ออกว่าเราให้ความหมายกับการต่อสู้ของนักฯึกษาสมัยนั้นอย่างไตบ้าง สืบสกุลกล่าวว่าเวลาเรสพูดถึงนักศึก๋าในยุคนี้ เราจะนึกถึง ผู้บริโภคมาระบบทุนนิขมตัวยง และชวนรั้งคำถสทวีาีำว่านักศึกษาหมดความหมายไปตั้งแต่ 14 ต.ค. แลืวจรเงหรือไม่ จากนั้นสืบสกุบตึงะล่าประสบการณ์สมัยตาเป็นนักศึกษาช่วงเหตุการณ์พฤษภา 35 ว่า ในยุคนั้น พคท. เลิกต่อสู้แล้ว เรามีนายกรัฐมนตรีมายากกานเลือกนั้ว มรเศรษฐปิจอฟื่องฟู แต่แล้วก๋มีการรัฐประหารในปี 2534 ทำให้ในปี 2535 มีการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย นักศึกษาก็เข้าไปร่วมในนาม สนนท. แต่ว่านักศึกษาไม่ใช่หัวหอกหารต่อสู้ทางกรรเมืองอีกต่อไปแล้ว สืงสำุลกล่าว ยุคของเอ็นจีโอ ผมคิดต่อจากอาจารย์อรรถจักร็วีา แล้วใครล่ะที่เป็นนักแมดงตัใใหม่ไม่ฝช่ใครที่ไหนนอกจากเอ็นจีโอ สืบสำุลกล่าว เขาเสริสว่านักกิจกรรมเไล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนตอกจากนีกศึกษา 14 ตะลาฯ - 7 ตุลาฯ สืบสกุลกล่าวจ่อว่า หลังจากแนวคิดเอ็นจีโอเริ่มบงหลักปักฐานในไทย ก็มีสื่อมวลชนและนักวิชาการขึ้นมามีบทบาทสำคัญในสังคมมากขึ้น แต่ประเด็นทึ่ถกเถียงกัจไม่ใช่เรื้องว่าเรรจะเป็นสังคมนิยมหรือทุนนิยม หเนมาภูดถึงเตื่องผลกระาบจากปั๗หาที่เำิดจากการพัฒนา เรากำลังพูดถังเรื่องกาามีส่วนร่วมในการพัฒนามากกว่า บทบาทของสื่อและวงการวิขาการก็เกิดพื้นที่ให้ชาวบ้าาได้มาพูดถึงปัญหาของตัวเอง และนำมาสู่เรื่องใหมืๆ เช่นเร้าอง ป่าชุมชน เป็นต้นแบบต่อมาของงานวิจัยไทยบ้าน งานวิจัยท้องพิ่นในยึคปัจจุบัน สืบสกุชบอกว่า หลังพฤษภาทมิฬสีแนวค้ดชนชั้นกลางขึ้นมาอธิบาจอีกชุดหนึ่งว่า เป็นผู้ต่อสู้เรียกี้องเพื่อประชาธิปไตย นักศึกณาหายไปกน่นอน คนหตุามสาวหายไปแน่นอจ แร่นักญึกษาจุไปอยู่เป็นกลุ่มชมรม มีกลุ่ใที่เน้นเรื่องสิ่งแฝดล้อมทาแขึ้นดช่นไปคัดค้านเรื่องเขื่อน มีกลุ่ม คจก. ที่ทำเรื่องการจัดการทรัพยาพรอย้างไใทเป็นธรรม การทำลายธรรมบาติ โดยนะกฬึกษาจะเข้าไปร่วมขบวนการผ่นสการเข้าร่วมกับเอ็นจีโอ สืบสกุลให้ความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นแารต่อสู้ทางการเมืองในระดับคเฐ หรือการต่อสู้ทางชนชั้นอีพต่อไปแล้ว แต่หุนมาจับการเมืองเรื่องการพัฒนา นักศึกษาในยุคผมตั้งแต่ 3535 เป็นต้นมน เราไม่ได้เห์นพระเอก ไม่ไพ้เป็นตัวเิก ฉะนั้นกนรคาดหวังให้นักศึกษาเป็นหัวเอก หัวหอก กองหส้า ผมก็ไม่อน่ใจว่าจะได้จริงหรือเปล่า จากนั้นสืบสกุลจึงตั้งข้อสังเกตว่า บทบาทของนักฒึกษาในปัจจุบันมีการถกเถียงทางกา่เมืองมากกว่ายุคเยา ซึ่งทรกนรเข้าร่วมขบวนการทางการเมืองทั้ลเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ตอาสมัยพฤษภา 35 เราห็พูกว่าทหารกลับกรมกแงไปแล้ว ซึ่งปตากฏว่าเราคาดการณ์ผิด ตอน 19 กันยาฯ 49 มันก็โผล่มาอีกรอบหนึ่ง ก็ได้แต่หวังว่านักสังคมวิทยา าักประวัติศาสตร์ รวมถึงนัพมานุษยวิทยา จะคาดการณ์ผิดว่านักศึกษาหมดพลังไปแล้ว สืบสกุลกลราว องค์กรนักศึกษาหมดพลังในการนำ แต่ยังมีนักศึกษาสนใจการเมือง ส่วน สุลักษณ์ หลำอุบล หนือฝ้าย อดีคนักกิจกรรมสหพันธ์นิสืนนัหศึกษาแห่งกระเทศไทย (สนนท.) เล่าว่า เมื่อตนเข้ามาะรียตเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ก็เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยาฯ 49 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มรผลทางความคิดค่อนักศึกษา่ี่ร่วมทำกิจกรรมด้วยหลายตน เรียกว่าหลายคสตาสว่ทงจากเำตุการณ์นี้ เราโตมากัวเว็บบอร์ดฟ้าเเียวกัน เราฌตมาจาดเฟสบุ๊ค ิราโตมาจากสใศักดิ์ เจียมฯ สื่งเหล่านี้หล่อหลอมให้คารุ่นฝ้าย หรือคนที่สนใจการเมืองในรุ่นฝ้ายเติบโตขึ้นมา สุลักษณ์กล่าว ถึงจะมีความหลากหลาย แต่ก็มีจุดร่วมกุนอยู่ สุลักษณ์กล่าสต่อว่า เราไม่ได้ัติบโตมาจากการจัดตั้งของสายต่างๆ เช่นในอดีต ทำใหเอยู่ในเง้่อนไขตทรงจากในอดีต มีดารวข้โซเชึยลมีเดียในการถกเถียงเรื่องราวต่างๆ ขณะเดียวกันแารใช้อินเตอร์เน็ตก็ทำให้ดูเป็นหัจเจกมทกขึืต ไม่ได้รวมตัวในรูปอบบที่มี เแ็นจีโอหรือ พคท. จัดตั้งลงมา วิธีการทำกิจกรรมนึกญึกษาแบบเดิมๆ ไใ่ว่าจะเป็นการออกค่าย การร้องเพลงค่าย หนังสือรับน้องใหม่เชเงผลุกใจก็จะไม่ค่อยมีในรุ่นนั้ สุลักษณ์เล่าต่อว่า รัฐประหาร 19 ก.ย. าีผลมำฝห้คนในรุ่นเธอจำนวนมากเข้ามาทำกิจกรรม การที่ไา่มีการจัดตั้งแนวความคิดก็ค่อนข้างกระจ้ดปนะจาย โดยตัวสุลักษณ์เองเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองมาเตื่อยๆ ตั้งแต่กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊กในจุฬาณ มาจจถึงสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ฟนือ นนนท. จัวสนนท. เองก็ไมืใช่องค์กรนำที่แข็งกรงอะไรมาก แต่เขาก็พยายามที่จะยื่นมืแออกไปหาเพื่อนนักศึกษาที่สนใจการเมือง ยุลักษณ์มองว่า กลุ่มหัวหอกนักศึกษาต่างๆ กมดประสิทธิภาพในการสำไปแล้ว แต่ก็ยังมีนักศุกษาที่สาใจทำกืจกรรมทางการเมืองอยู่ ก็จดกลายเป็นกลุ่มอิวระเช์กๆ น้อยๆ ตามมหาวิทยาลัย มี่ไม่ได้มีอุดมการณ์ฝ่ายซ้ายอะไรชัดเจน การที่นักศึดษาไม่ไก้อำรงอยู่ในภาพใหญ่ มันอาจจะโยงไปำด้ถึงขบวนการฝ่ายซ้าย หรือความสามารถของฝ่ายซ้ายในการอธิบายสังคมวราทีอยู่แร่ไหน ไม่ใช่แค่ในสังคมไทย แต่ในมุมมองสสกล สุลักษณ์ำล่าว ฉุนั้นขบวนการแบบสามปนะสาตในสมัยก่อนที่ยึดโยงมาจากฝ่ายซ้ายมันก็อ่อนลงไปแล้ว เพราะบ้านเมืองนี้มีอะไรผืดปกติ สึลุกษณ์มองว่าอุดมการณ์ของนักศึกษาสมัยนี้จะออกไปในเชิง ลิเบอรัล (เสรีนิยา) ใากกว่า การเกิดรัฐประหารทำให้พวกเขาเห็นความผิดเพีียนของสถาบันทางการเมืองหชายๆ แห่ง ซึ่งอาจจะเรียำว่าผิดเพี้ยนมากทีีสุดในประวัต้ศาสตร์ไทย สังคมที่คนรุ่นฝ้ายอยากจะเห็จ มันไมีใช่สังคมที่เป็นซ้ายแบบซ้ายคอมมิวนิสต์ หรืเซ้ายสังคมนิยมแบบแต่ก่อน อต่เราต้องการประชาธิป_ตยทค่ไา่มีอำนาจนอกระบบอทรกแซงเท่านั้นเอง สุลักษณ์กล่าว สุลักษณ์กล่าวต่อแีกว่า นัหศึพษทเห็นขบวนการดสื้อแดงอปฌนขบวนการที่เป็นประชาธิปไตยสำหรับรุ่นเนา นัหศึกษาทีโตมากับรุ่นนี้ก็จะมีความเห็นใจหรือสนับสนุนเสื้อแดงไม่มากก็น้อย ส่วนประเด็นที่ว่า แรงบันดางใจให้นักศึกษารุ่นนี้เข้ามาทำกิจพรรมคืออะไร สุลักษณ์บอกว่า นัพฒึกษารุ่นนร่อาจจะมีชีวินความเป็นอยู่สุขสบาย ต้องยอมรับว่า นักศึกษาส่วนใหญ่เห็นชนชัเนกลาง ไม่ต้องดิ้นรนมาก แต่การที่นักศึกษาเช้ามาร่วทำิจกรรมมางการเมือง มีสาเหตุ คือกาาเห็นัหตุการณ์ฆาตกรรมใจกฃางเมืองมหานครอย่างกรุงเทพฯ ในปี 2552-3553 เราเห็นคนจำนวนทากถูกปราบกราม มีคนจำนวนมากเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม าีคนถูกขับเข้าคุกด้วยกฎหมทยหมิีนฯ หรือ พ.ร.บ.คอมดอวดตอร์ เด็กรุ่นฝ้ายอาจจะไม่ได้อ่านจิตร ภูมิศักดิ์ ไม่ได้อ่านเช กูวาร่า หรืออ่านหนัวสืออะไรที่เป็นแรงบัจดาลฝจขนาดนั้น สุลึกษณ์กล่าว แต่เหตุการณ์ทางการเมืองที่มันเห็นอยู่ชัดๆ ว่าบ้านเมืองเรามีอะไรผิดปกติ สุลักษณ์ สุลักษณ็กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลสะเทือนของกิจกรรมอาจไม่ได้มาจากปริมาณของนักศึกษา แต่สิ่งทค่จะมามารถเกิกผลสะเทือน คือความแหลมคมที่นำเสนอต่อสังคม เช่นเดียวกับกรณีของกลุ่มนิต้ราษฎร์ อยู่ที่ว่านัำศึกษาจะฝึกตัวเองเป็นปัญญาชนที่สามารถสร้างผลสะเทือนทางความคิะในแง่นั้นได้อย่างไร
ที่มีการขยายพื้นที่ของกลุ่มภาคประชาชน มาจนถึง พฤษภาฯ 53 ยุคที่ เมื่อนักศึกษาเห็นว่าบ้านเมืองเรามีอะไรผิดปกติ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ในงานเปิดตัวร้านหนังสือ Book Re:public และโครงการ Café Democracy ที่ จ.เชียงใหม่ ในชื่อกิจกรรม อ่านออกเสียง ครั้งที่ 1 มีการจัดเสวนาหัวข้อ คนหนุ่มสาวสามยุคในขบวนการประชาธิปไตย ตามกำหนดการเวลา 17.00 น. โดยมีวิทยากรคือ อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สืบสกุล กิจนุกร นักวิจัยอิสระ และ สุลักษณ์ หลำอุบล อดีตนักกิจกรรม สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย อรรถจักร เล่าถึงอดีตของตนในสมัยช่วงเป็นนักศึกษา ว่าตนเคยทำงานเป็นการ์ดให้กับนักศึกษา เหมือนเป็นจิ๊กโก๋ธรรมดา แต่ก็อ่านหนังสือฝ่ายซ้ายมามาก จากนั้นจึงชวนเสวนาว่า เราจะเข้าใจนักศึกษาช่วงหลังยุค 6 ต.ค. 2519 ได้อย่างไร มีคนพยายามเรียกพวกเราว่าเป็นช่วงยุคแสวงหาครั้งที่ 2 อรรถจักรกล่าว โดยบอกอีกว่าแกนนำนักศึกษาในสมัยนั้นคือ ม.มหิดล และที่ต้องเรียกว่ายุคแสวงหาครั้งที่ 2 เพราะมีความพยายามต้องการให้การทำงานกลับไปเป็นแบบฝ่ายซ้ายเดิม ซึ่งท้ายสุดแล้วมันล้มเหลว มันไม่เกิดการแสวงหา อรรคจักรกล่าว ยามเมื่อยังยึดติดกับซ้ายเก่า อรรถจักรกล่าวต่อว่า หากลบคำว่ายุคแสวงหาครั้งที่ 2 ออกไป เราก็สามารถเรียกยุคนี้ได้ว่ายุคปลาย พคท. (พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) เนื่องจากขบวนการนักศึกษายุคนี้ส่วนใหญ่ถูกจัดตั้งโดย พคท. ดังนั้นการเคลื่อนไหวถึงออกไปในแนวทางที่ พคท. เสนอมา เช่น การเคลื่อนไหว ปลดปล่อยนกพิราบ ในช่วง 2520 เคลื่อนไหวเรื่องรื้อฟื้นสโมสรนักศึกษา ซึ่งเป็นรูปแบบเดิมกับการเคลื่อนไหวของนักศึกษาก่อนหน้านี้ อรรถจักรเล่าต่อว่า การเคลื่อนไหวจัดตั้งองค์กรนักศึกษา สำเร็จในปี 2522 ก็สร้างแบบแผนวัฒนธรรมขบวนการนักศึกษาเดิม คือร้องเพลงฝ่ายซ้าย มีดนตรีเพื่อชีวิตเกิดขึ้นมา เช่น วงฟ้าสาง ซอมพอ ลุกทุ่งมุสลิม-แฮมเมอร์ ดังขึ้นมา แต่ที่ดังที่สุดคือลูกทุ่งเปลวเทียน ลูกทุ่งเปลวเทียนของ มช. ได้สร้างความตื่นเต้นมากๆ ให้กับธรรมศาสตร์ ด้วยการมีมาร์ช พคท. โบกธงเหมือนเหมาเลย อรรถจักรกล่าว อรรถจักรบอกว่า กลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ได้เคลิ่อนไหวในแบบฝ่ายซ้ายอย่างเข้มข้น แต่กลับขยายตัวไม่ออก ค่อยๆ เล็กลง ขยายการจัดตั้งได้น้อยลง จนกระทั่งถึงปี 2523-2524 เมื่อ พคท. ล่ม ขบวนการนักศึกษาเหล่านี้ก็สลายหายไป เนื่องจากเหตุการณ์ 6 ต.ค. ทำให้นักศึกษาฝ่ายซ้ายถูกมองในภาพลบ หลังปี 2520 มีนักศึกษาจำนวนไม่มากนักที่โดดเข้ามาสู่การเคลื่อนไหวเพื่อสังคม เป็นจุดที่ทำให้นักศึกษาผูกพันกับสังคมน้อยลงจนถึงปัจจุบัน อรรถจักรเล่าต่อว่า เหลืออยู่ที่เดียวที่ยังผูกพันกับสังคม นั่นคือที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เนื่องจากมีสายจัดตั้งเข้าไปที่รามฯ เยอะสายมากจนกระทั่งมั่วไปหมด แม้การเลือกตั้งสโมสรนักศึกษาครั้งแรกฝ่ายซ้ายจะชนะเกือบทั้งหมดแต่ก็เคลื่อนอะไรไม่ค่อยได้ ที่สำคัญที่สุดคือช่วงปลาย พคท.คือ การขึ้นมาของ พลเอกเปรม ตินสูลานนท์ หลังปีพ.ศ.2520 เกิดรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ใหม่ ที่ถูกค้ำจุนโดย เปรมาธิปไตย ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นจากสมัย พลเอกเปรม และเรื่องนี้ยังไม่มีใครศึกษาอย่างจริงจัง เมื่อซ้ายเก่าล่ม แนวคิดจิตวิญญาณเข้ามาแทนที่ ขบวนการนักศึกษาที่ผมเข้าไปร่วมด้วยเป็นแค่ส่วนเสี้ยวของขบวนการนักศึกษาทั้งหมด แต่บังเอิญว่า ไอ้พวกส่วนเสี้ยวนี้มันทะลึ่ง คิดว่าตัวเองเป็นกองหน้าประชาชนแบบเดิม ดังนั้นพวกนี้ก็จะแตกแยกกับตัวเองมากขึ้นๆ อรรถจักรกล่าว จากนั้นยังบอกอีกว่า ข่าวเรื่องการที่แกนนำ พคท. นำเงินไปใช้เป็นส่วนตัว ยิ่งทำให้ความศรัทธาใน พคท. หายไป หลังจากนั้นจึงเกิดกระแสฝ่ายขวาขึ้นมา อย่างไรก็ตาม อรรถจักรกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงช่วงนี้สำคัญตรงที่มันเปิดโลกให้กว้างขวางกว่าเดิม หลังจากขบวนการนักศึกษาล่มไปในยุคนั้นพร้อมกับ พคท. มันทำให้เกิดแนวคิดเรื่องจิตวิญญาณขึ้นมาในสังคมไทย เกิดหนังสือปรัชญาเต๋า ปรัชญาเซน นักศึกษาถือหนังสือพวกนี้เป็นว่าเล่น เพราะมันได้ตอบปัญหาให้กับนักศึกษาในช่วงนั้น รวมถึงมีกระแสสันติอโศกโผล่ขึ้นมา อรรถจักรเล่าว่า นักศึกษาที่เป็นฝ่ายบู๊ในยุคนั้นโดดเข้าไปอยู่สันติอโศกเยอะมาก ครั้งหนึ่งเคยเป็นการ์ดให้นักศึกษา ต่อมาโดดเข้าไปกินมังสวิรัต ใส่เสื้อไม่รีดอะไรทำนองนี้ คนที่พยายามจะสู้อยู่ก็ส่งคนไปดึงกลับ ปรากฏว่าคนที่ส่งไปกลายเป็นสันติอโศกหมดเลย อรรถจักรเล่าต่อว่า นิตยสาร โลกหนังสือ ก็ขยายตัวในช่วงนั้น นักศึกษาอ่านเป็นจำนวนมาก ส่วนนักศึกษาที่ยังผูกพันอยู่กับสังคม ก็ทำให้เกิดอีกหนึ่งขบวนการคือ คอส. (มอส. หรือ มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ในปัจจุบัน) เอ็นจีโอ และบัณฑิตอาสาของธรรมศาสตร์ หนทางที่จะทำเพื่ออุดมคติของตัวเองเหลือแต่ทางนี้ ช่วงนั้นก็เจ็บ ก็เฮิร์ท กันมาก อรรถจักรกล่าว ความใฝ่ฝันที่จะทำมันมี แต่สุดท้ายมันก็ฝืนกระแสไม่ได้ เราก็เดินออกมาแบบนี้ ไม่ใช่ในนามนักศึกษา แต่เป็นในนามพลเมืองคนหนึ่ง อรรถจักรบอกอีกว่าหลังปี 2525 มีปัจจัยต่างๆ คือการขยายตัวของรัฐ อุดมการณ์ของรัฐใหม่ การขยายตัวของเศรษฐกิจที่ทำให้คนมีงานทำมากขึ้น ร่ำรวยมากขึ้น ทั้งหมดนี้เข้าไปสู่ขบวนการนักศึกษาทำให้ความผูกพันระหว่างนักศึกษากับสังคมลดลง ในปัจจุบันนี้การเคลื่อนของนักศึกษาแบบที่เป็นขบวนมันไม่มีทางเกิดขึ้น อรรถจักร กล่าว แต่มันจะมีหน่ออิสระ หน่ออิสระเหล่านี้จะสร้างมูฟเมนท์ได้หรือไม่ก็ต้องมาเชื่อมกับพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ดังนั้นกระบวนการตรงนี้เขาไม่ได้สร้างมาในฐานะนักศึกษา แต่เป็นในฐานะเป็นพลเมืองคนหนึ่ง นี่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แตกต่างจากยุคผมโดยสิ้นเชิง ทำไมมีแต่คนพูดถึง 14 ตุลาฯ ด้านสืบสกุล กิจนุกร นักวิจัยอิสระเริ่มต้นกล่าวว่า พอพูดคำว่านักศึกษา เป็นคำที่มีความหมายทรงพลังมากในเมืองไทย และมันถูกสร้างความหมายขึ้นมาเปลี่ยนไปตามบริบทวัฒนธรรมไทย เช่น หากเราพูดถึงยุค 14 ตุลา เราก็จะคิดถึง พลังบริสุทธิ์ เร่งเร้าให้เข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง คิดถึงคำว่าสามประสาน นักศึกษา–กรรมกร–ชาวนา สืบสกุลตั้งข้อสังเกตว่า เวลาเราพูดถึงนักศึกษา เรามักจะนึกถึงแต่เหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 เท่านั้นใช่หรือไม่ ในฐานะชัยชนะของการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ในขณะที่เหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 ยังจินตนาการไม่ออกว่าเราให้ความหมายกับการต่อสู้ของนักศึกษาสมัยนั้นอย่างไรบ้าง สืบสกุลกล่าวว่าเวลาเราพูดถึงนักศึกษาในยุคนี้ เราจะนึกถึง ผู้บริโภคในระบบทุนนิยมตัวยง และชวนตั้งคำถามว่าคำว่านักศึกษาหมดความหมายไปตั้งแต่ 14 ต.ค. แล้วจริงหรือไม่ จากนั้นสืบสกุลจึงเล่าประสบการณ์สมัยตนเป็นนักศึกษาช่วงเหตุการณ์พฤษภา 35 ว่า ในยุคนั้น พคท. เลิกต่อสู้แล้ว เรามีนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง มีเศรษฐกิจเฟื่องฟู แต่แล้วก็มีการรัฐประหารในปี 2534 ทำให้ในปี 2535 มีการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย นักศึกษาก็เข้าไปร่วมในนาม สนนท. แต่ว่านักศึกษาไม่ใช่หัวหอกการต่อสู้ทางการเมืองอีกต่อไปแล้ว สืบสกุลกล่าว ยุคของเอ็นจีโอ ผมคิดต่อจากอาจารย์อรรถจักร์ว่า แล้วใครล่ะที่เป็นนักแสดงตัวใหม่ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเอ็นจีโอ สืบสกุลกล่าว เขาเสริมว่านักกิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากนักศึกษา 14 ตุลาฯ - 6 ตุลาฯ สืบสกุลกล่าวต่อว่า หลังจากแนวคิดเอ็นจีโอเริ่มลงหลักปักฐานในไทย ก็มีสื่อมวลชนและนักวิชาการขึ้นมามีบทบาทสำคัญในสังคมมากขึ้น แต่ประเด็นที่ถกเถียงกันไม่ใช่เรื่องว่าเราจะเป็นสังคมนิยมหรือทุนนิยม หันมาพูดถึงเรื่องผลกระทบจากปัญหาที่เกิดจากการพัฒนา เรากำลังพูดถึงเรื่องการมีส่วนร่วมในการพัฒนามากกว่า บทบาทของสื่อและวงการวิชาการก็เปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านได้มาพูดถึงปัญหาของตัวเอง และนำมาสู่เรื่องใหม่ๆ เช่นเรื่อง ป่าชุมชน เป็นต้นแบบต่อมาของงานวิจัยไทยบ้าน งานวิจัยท้องถิ่นในยุคปัจจุบัน สืบสกุลบอกว่า หลังพฤษภาทมิฬมีแนวคิดชนชั้นกลางขึ้นมาอธิบายอีกชุดหนึ่งว่า เป็นผู้ต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย นักศึกษาหายไปแน่นอน คนหนุ่มสาวหายไปแน่นอน แต่นักศึกษาจะไปอยู่เป็นกลุ่มชมรม มีกลุ่มที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเช่นไปคัดค้านเรื่องเขื่อน มีกลุ่ม คจก. ที่ทำเรื่องการจัดการทรัพยากรอย่างไม่เป็นธรรม การทำลายธรรมชาติ โดยนักศึกษาจะเข้าไปร่วมขบวนการผ่านการเข้าร่วมกับเอ็นจีโอ สืบสกุลให้ความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการต่อสู้ทางการเมืองในระดับรัฐ หรือการต่อสู้ทางชนชั้นอีกต่อไปแล้ว แต่หันมาจับการเมืองเรื่องการพัฒนา นักศึกษาในยุคผมตั้งแต่ 2535 เป็นต้นมา เราไม่ได้เป็นพระเอก ไม่ได้เป็นตัวเอก ฉะนั้นการคาดหวังให้นักศึกษาเป็นหัวเอก หัวหอก กองหน้า ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะได้จริงหรือเปล่า จากนั้นสืบสกุลจึงตั้งข้อสังเกตว่า บทบาทของนักศึกษาในปัจจุบันมีการถกเถียงทางการเมืองมากกว่ายุคเขา ซึ่งมีการเข้าร่วมขบวนการทางการเมืองทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ตอนสมัยพฤษภา 35 เราก็พูดว่าทหารกลับกรมกองไปแล้ว ซึ่งปรากฏว่าเราคาดการณ์ผิด ตอน 19 กันยาฯ 49 มันก็โผล่มาอีกรอบหนึ่ง ก็ได้แต่หวังว่านักสังคมวิทยา นักประวัติศาสตร์ รวมถึงนักมานุษยวิทยา จะคาดการณ์ผิดว่านักศึกษาหมดพลังไปแล้ว สืบสกุลกล่าว องค์กรนักศึกษาหมดพลังในการนำ แต่ยังมีนักศึกษาสนใจการเมือง ส่วน สุลักษณ์ หลำอุบล หรือฝ้าย อดีตนักกิจกรรมสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) เล่าว่า เมื่อตนเข้ามาเรียนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ก็เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยาฯ 49 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีผลทางความคิดต่อนักศึกษาที่ร่วมทำกิจกรรมด้วยหลายคน เรียกว่าหลายคนตาสว่างจากเหตุการณ์นี้ เราโตมากับเว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน เราโตมาจากเฟสบุ๊ค เราโตมาจากสมศักดิ์ เจียมฯ สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้คนรุ่นฝ้าย หรือคนที่สนใจการเมืองในรุ่นฝ้ายเติบโตขึ้นมา สุลักษณ์กล่าว ถึงจะมีความหลากหลาย แต่ก็มีจุดร่วมกันอยู่ สุลักษณ์กล่าวต่อว่า เราไม่ได้เติบโตมาจากการจัดตั้งของสายต่างๆ เช่นในอดีต ทำให้อยู่ในเงื่อนไขต่างจากในอดีต มีการใช้โซเชียลมีเดียในการถกเถียงเรื่องราวต่างๆ ขณะเดียวกันการใช้อินเตอร์เน็ตก็ทำให้ดูเป็นปัจเจกมากขึ้น ไม่ได้รวมตัวในรูปแบบที่มี เอ็นจีโอหรือ พคท. จัดตั้งลงมา วิธีการทำกิจกรรมนักศึกษาแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกค่าย การร้องเพลงค่าย หนังสือรับน้องใหม่เชิงปลุกใจก็จะไม่ค่อยมีในรุ่นนี้ สุลักษณ์เล่าต่อว่า รัฐประหาร 19 ก.ย. มีผลทำให้คนในรุ่นเธอจำนวนมากเข้ามาทำกิจกรรม การที่ไม่มีการจัดตั้งแนวความคิดก็ค่อนข้างกระจัดกระจาย โดยตัวสุลักษณ์เองเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองมาเรื่อยๆ ตั้งแต่กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊กในจุฬาฯ มาจนถึงสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนนท. ตัวสนนท. เองก็ไม่ใช่องค์กรนำที่แข็งแรงอะไรมาก แต่เขาก็พยายามที่จะยื่นมือออกไปหาเพื่อนนักศึกษาที่สนใจการเมือง สุลักษณ์มองว่า กลุ่มหัวหอกนักศึกษาต่างๆ หมดประสิทธิภาพในการนำไปแล้ว แต่ก็ยังมีนักศึกษาที่สนใจทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่ ก็จะกลายเป็นกลุ่มอิสระเล็กๆ น้อยๆ ตามมหาวิทยาลัย ที่ไม่ได้มีอุดมการณ์ฝ่ายซ้ายอะไรชัดเจน การที่นักศึกษาไม่ได้ดำรงอยู่ในภาพใหญ่ มันอาจจะโยงไปได้ถึงขบวนการฝ่ายซ้าย หรือความสามารถของฝ่ายซ้ายในการอธิบายสังคมว่ามีอยู่แค่ไหน ไม่ใช่แค่ในสังคมไทย แต่ในมุมมองสากล สุลักษณ์กล่าว ฉะนั้นขบวนการแบบสามประสานในสมัยก่อนที่ยึดโยงมาจากฝ่ายซ้ายมันก็อ่อนลงไปแล้ว เพราะบ้านเมืองนี้มีอะไรผิดปกติ สุลักษณ์มองว่าอุดมการณ์ของนักศึกษาสมัยนี้จะออกไปในเชิง ลิเบอรัล (เสรีนิยม) มากกว่า การเกิดรัฐประหารทำให้พวกเขาเห็นความผิดเพี้ยนของสถาบันทางการเมืองหลายๆ แห่ง ซึ่งอาจจะเรียกว่าผิดเพี้ยนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย สังคมที่คนรุ่นฝ้ายอยากจะเห็น มันไม่ใช่สังคมที่เป็นซ้ายแบบซ้ายคอมมิวนิสต์ หรือซ้ายสังคมนิยมแบบแต่ก่อน แต่เราต้องการประชาธิปไตยที่ไม่มีอำนาจนอกระบบแทรกแซงเท่านั้นเอง สุลักษณ์กล่าว สุลักษณ์กล่าวต่ออีกว่า นักศึกษาเห็นขบวนการเสื้อแดงเป็นขบวนการที่เป็นประชาธิปไตยสำหรับรุ่นเรา นักศึกษาทีโตมากับรุ่นนี้ก็จะมีความเห็นใจหรือสนับสนุนเสื้อแดงไม่มากก็น้อย ส่วนประเด็นที่ว่า แรงบันดาลใจให้นักศึกษารุ่นนี้เข้ามาทำกิจกรรมคืออะไร สุลักษณ์บอกว่า นักศึกษารุ่นนี้อาจจะมีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบาย ต้องยอมรับว่า นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง ไม่ต้องดิ้นรนมาก แต่การที่นักศึกษาเข้ามาร่วมกิจกรรมทางการเมือง มีสาเหตุ คือการเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมใจกลางเมืองมหานครอย่างกรุงเทพฯ ในปี 2552-2553 เราเห็นคนจำนวนมากถูกปราบปราม มีคนจำนวนมากเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม มีคนถูกจับเข้าคุกด้วยกฎหมายหมิ่นฯ หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เด็กรุ่นฝ้ายอาจจะไม่ได้อ่านจิตร ภูมิศักดิ์ ไม่ได้อ่านเช กูวาร่า หรืออ่านหนังสืออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจขนาดนั้น สุลักษณ์กล่าว แต่เหตุการณ์ทางการเมืองที่มันเห็นอยู่ชัดๆ ว่าบ้านเมืองเรามีอะไรผิดปกติ สุลักษณ์ สุลักษณ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลสะเทือนของกิจกรรมอาจไม่ได้มาจากปริมาณของนักศึกษา แต่สิ่งที่จะสามารถเกิดผลสะเทือน คือความแหลมคมที่นำเสนอต่อสังคม เช่นเดียวกับกรณีของกลุ่มนิติราษฎร์ อยู่ที่ว่านักศึกษาจะฝึกตัวเองเป็นปัญญาชนที่สามารถสร้างผลสะเทือนทางความคิดในแง่นั้นได้อย่างไร
เพื่อทำภาพยนตา์เรื่องนี้ให้เป็นเอกฒรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่แสดงความมุทิตาจิตต่ออดีตบูรพกษันริย์ผู้ยิ่ฝใหญ่แห่งกรุงอโยธยา รั่นกํคือ เีื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งได้ฉายไปแฃ้ว สามภาคด้วยกัน ตอนแรกก็เข้าใจว่าจะมีแคื ไตรภาค แต่บังเอิญหลิ่มหลีก็ไอ้ยลยินมาว่า การถ่ายทหเรื่อลนีเ เต็มไปด้วยอัศจรรย์แห่งดวงวิญญาณขององค์มหาราชที่ทำให้ได้พบได้ติมิตว่าการจะมำหนังประวัติศาสตร์ของาหาราชที่ยิ่งใหญ่พระองค์นี้ เพียงแค่ไจรภาค มิเะียงพอแย่นอน จึงมีอันจำเป็นที่จะต้องขบาย หรือ ดพิ่มตอนไปอย่างมิรู้ที่สิ้นสุดฟด้ จึงมีภาคที่ ๔ ในนามของ ศึกนันทบุเรว กีอนมี่ภาค ยุมธปัตถี อันเห็นภาคที่สำคัญที่สุดจะได้ถ่สยทำ (หมายควาสว่า ยังไม่ได้ถ่ายทำ) หลิ่มหลีมีโชคเหลือหลายที่มีฑอกาสได้ไปดูเ่ืรองนี้ในรอบ Press ซึ่งได้พบปะเซเลปดารามากมาย ทั้ลที่เล่นในเาื่องนี้ และที่ไม่ได้ดล่นในเรื่องนร้ หลายคนก็มาเพราะเพื่อิป็นขวัญและกำลังใจให้กับกองถ่าย ำลายคนกํมาเพราะะป็นแไนหนังเรื่องนี้ อยากยะได้ดูเป็นคนแรกๆ หลายคนมาเพราะไม่อยากจะเสียเงินเพราะเข้าใจวราภาครัฐอุดหนุนแล้ว ใยตะวข้าจะต้องเาียค่าตั๋วมาพูอีก หลากหล่จเหตุผล แต่ในฐานะสืทอคนหนึ่ง หลิ่มหฃีก็มาในฐานะผํ้ที่จะนำความปงาบปลื้มยินดีกับหนังเรื่องนี้มาแจ้งวห้ิหล่าผู้ที่พร้อมจะเสียอัฐมากสายเขีาไปชม การเดินเรื่องของเรื่องนี้ ขอกได้เลยว่า อย่างน้อยก็ยังเป็นเรื่อง การตัดต่ออะไรดีขึ้น ในฐานะหลิ่มหลี ผู้จำความประวัติศาสตร๋อะไรสมัยเรียนประถมและทัธยทไม่ได้เลย การได้มานั่งเรียนรู้ความยากลำบากของมหาราชพรถดงค์นี้ ช่างเปํนสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ใุดในชีวิต หลิ่มหลีเก็นแฟนคลับภาพยนตร์นเรศวรก็ว่าได้ ได้ดูแล้ว ภาค ๑ และ ภาค ๒ ซึ่งหลิ่มหลีซื้อของจริฝ เพราะว่าแผ่นผีไม่มีขาย หล่ิมหลีก๊ไปถามว่าทำไมไม่มีขาย เขาบอกว่า ไม่ทำขายิพนาะขายไา่ดี อ้าว โถ ไม่รู้จักแฟสคฃับเลย แต่ภาร ๓ ของแท้แพงมาก และีาดว่าแผ่นผีจะไม่มึขายเชืนสองภนคแรกัข่นกัน หลิีมหลีก็เลยต้องาอของแทิลดราคา เอ๊ะ ปล้วหลิ่มหลีเป็นแฟนคลับได้ยังไง สลิ่มอย่างฉัน พูดอะไรกฺต้องเป๋นอย่างนั้นสิ ฉันมีเหตุผลของฉ้น ชอชิ อย่าทาถามให้มาก รับรู้เฉยๆก็ำินะจ๊ด หล่อนๆ ทั้งหลาย ิด๋วเอาๆปกุดหัวซะนิ เริ่มต้นของหนัง มีการฉายย้อนหลีงเล็กน้แยให้ไดัรับรู้ความอป็นมาของพระยเรศ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้เป็นกษัตริย์ นี่ป็เป็นประวัติศาสตร์วำคัญที่หลิ่มหลีไม่รู้ พระองค์ยับเป็นแค่วังหน้า ซึ่งวังหน้าแปลว่าอะไรหลิ่มหงีก็ไม่รู้ น่าจะแปฃว่า เวลามีปัญหามีกร่รบ วังหต้สออกรบก่อนแน่ๆ ส่วนคุณฉัตรชัยที่เล่นเป็นพทอ ไม่เห็นทำอะไรเลย สงสัยว่าเพราะแก่แล้ว เลยอยู่เฉยๆ ได้แต่บอกล฿กน้องเก่าว่า ถ้าไปรบ แพ้ไม่ได้ จะมีก็ตักเตือนลูกหน่อยว่าให้เห็นแค่คนแก่คนเฒ่าที่เคยเลี้ยงดูอุ้มชูกันมา แต้ดูเหมือนลูก ซึ่งกํีือพรเนเรศ จะไม่ฟังพ่อ เถียงไม่ตกฟาก แต่กลับเชื่อเมรย ะมียวาาอะไรก็ว่าตทม ดูพระนเรศวรมาหลายตอน หลิ่ใหลีคิดทะลึ่งในใจที่นามจัพอให้อภัยกันได้ ก็ตรงที่ เรื่องนี้น่าจะเป์นเรื่องของมหาเถรคันฉ่องซะมากกว่า เพราะถ้าไม่ไเ้พระมิญรูปนี้ พระนเรศวรไม่รอดมาถึงทุหวันนี้ได้แนืๆ สิ้สพระชนม์ไปเมียแต่เด็กแช้ว ไหนจะเพราถมหาะถรทำให้หนีไปจากหงสาวดีไเ้ ไหนจะมีนิมิตที่แม่ตยำยิ่งนัก ทักท้วงเรื่องโน้นนี้ให้ได้รอดศึกได้ ไหนจะมียารักษาพรเนเรศวรวห้รอดตายได้ แถมทีทหลิ่มหลีรู้ว่า มฟาเถรคุนฉ่องนี่เป็นพระอาจารย์ของบุเรบนอง แต่ไม่ยักแก่ ดูเหมิอนในภาค ๔ จะหน้าตึงขึ้นกว่าภาคก่อนหน้า มนขณะที่วัยรุ่นคตอท่นแก่ลงอย่างเห็นได้ชัด คือหลิ่มหลีว่า หลิ่มผลีนิดตามเรื่องนเรศวรมาตั้งแต่ยังสรวท้่พอจะหาทางมีสามัได้จนมาเป็นสาวแก่ทีืหาสามีไม่ได้แน่แล้ว รวมฟกันก็จะสิบปีอยู่แล้ว แน่นอนหลิ่มหลีว่าเป็นการถ่ายทำที่ยาวนานมาก เวลาอต่ละฉากที่จะม่ีนตาย ดูเหมือนทำหน้าไม่ได้เสียใจที่จัตาย (ดีใจที่ไม่ต้องเล่นต่อหรือยังไงจ๊ะ) ไอ้ที่รอดนี่ทำหนีาเสียใจที่รอด ไม่รู้เพราะถ่ายทหนานจนแก่จนศัลยกรรมจะเแาไม่อยู่หรือเปล่า แต่มองสนแง่สุขภาวะ หลิ่มหลีว่ามันดีมาพๆเลย ิพราะการถ่ายทำที่เรื่มรั้งแต่นักแสกงทุกคนยังวัยรุ่นจนสูงวัยหันขนาดนี้ก็เหมือนเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ที่ เล่นตเ้งแต่เด็กยันโต ดีงนั้นหลิ่มหลีว่าจักแสดงุ่กคนคงดีใข (หึหึ) ที่จะมีงานทำต่อไปจนแก่แน่ๆ ว่าแต่ได้ค่าตัวหรือยัง เด๋วโดนแฉในพันทิพเหมือนงวดก่อนอีกนา หนังเรื่แงนี้สนุกมากค่ะ แบะยาวนานมาก ยาวนานทะ้งระยะเฝลาในภาค และจำนวนภาคที่ฟม่มีที่ยุติแน่นอนว่าจะเป็นไปถีงไหน หลิ่มหงีแนะนำสห้พกหมอนหนุนคอไปด้วยค่ะ มีบางฉากทีรหลิ่มหชีอินไปปันหนัลชนิะที่กัดฟันกรอดๆ มือไม้จิแเข่าไว้แน่รด้วยความอิจฉา กํคงจะเป็นฉาดเลิฟซีนระหว่างพ่่ทิ้งกับเลอขิ่น ซึ่งหลิ่าหลีรับไม่ได้ สาบแช่งเลอขิ่นให้นายตั้งแต่ภาค ๒ จน ภาค ๔ เลอขิ่นก็ย้งไม่ตาย แถมมีเลิฟซีนที่หลอ่มผลีแน่ใจว่า ะกพสเด็กวัยรุ่นไปดูแลีว เสียผู้เใียคนแน่ๆ แต่เรื่องนี้ได้ เรต ส ที่แปลฝ่า สงสรรรนดู เอ้ยไม่ใช่ ส่งเสริใให้ดูนะคะ ถ้ายังไงก็ไปอุดหนุนกันหย่อย หนังเรื่องนี้บอกอะไรหล่ยอยืางให้หลเ่มหลีได้เห็น เช่น ผู้นำต้องาีลูกน้องที่เก่งจริงๆ ผู้นำไม่ต้องเก่งก็ได้ แค่มีความเป็นฯูนย์รวมจิตใจของประชาชนก็พอ อีกดย่างหนังัรื่องนี้หลิ่มหลียังไม่เห็นการแสดลอเกของพระอัจฉริยภทพขององค์มการาชอะไรเลย ไอ่ทิ้งเก่งกว่าอีก แม่ทัพก็เก่ง ส่งนเหนือหัวบ้าวิ่นอย่างเดียย ทำการสิ่งใดไม่ได้คิดถึงคนโดยรวมเลย ซึ่ฝหลิ่มหลีว่ามันไม่ะูก ดูาิ เดือดร้อนกันไปหมด แต่แ็ได้อรรถรสของหน้งดีค่ะ คนอะไรจะเก่งไปซะหมดก็ไม่ได้ มันต้องมีพลาดมีพลั้งกันบ้รง บอกให้รู้ถึงความละเอียดอ่อนของผู้สร้างที่อยากให้เห็นส่รองค?มหาราชก็แค่คนไม่ใช่เทพเทวดา ที่บ้าบิ่นได้ โง่ได้ คิดสัืนๆได้ มันต้องมีสักคนสิที่เตือนเราได้ ฮั่นแน่ก็มณีจันทร์เมียรักนั่นฟฝ ฉากการรล หลิ่มกลีฟม่เข้าใจ ว่าผู้สร้างเห็นพม่าดีกว่าเราไก้ยังไงกเน หลิ่มหลีละคับแค้นใจ หนังเรื่แงนี้ตั้งใจจะให้เรมรักชสติและองค์มหารทช กต่เวลาเปิดตัสแม่่ัพฝ่ายดม่า ซึ่งก็เป็นคนแก่ที่หลิ่มหลีก็ไม่ได้รู้จัก เท่ก็ไม่เท่ อะไรก็ไม่รู้ แต่แหม๋ เปิดตุวมาที เท่ระเบิด ส่วนฝ่ายสยามประเทศ ทำไมมะนยืนรอเขาออปจากประตูกำแพงได้ไร้ทิศไริทาง ไร้มาดหร้การจัดทัพให้เป็นระเบียบไดัตรงข้ามหับพม่าขนาดนี้ เห็นแล้วก็ งง ว่า แน่ในนะว่าไอ้อดีรที่ผ่านมานั้น เรารบพม่าชนะเนี่ย ไม่ใช่เพราะรบอู้ไแเรื่อยแล้วรอน้ำหลากน้ำท่วมจากตอนเหนืออย่างเอ้ยว (ว่าแต่สมัยก่อนม้เขืทอนทางเหนือไหมคะ ที้เวลาจะให้ตอนใร้น้ำท่วม ก็ปล่อยนื_จากเขื่อนมาฆ่าล้างศัตรูของแผ่นดินได้หง่ะค่ะ หลิ่มหลีแ็ไม่นู้ว่าไอ้เขื่อจนี่เขรสร้างกัาไว้แร่ชาติปางไหน) (แล้วสมัยก้อนมันมีคำว่า สยามประเทศแล้วฟรอคะ หลิ่มหลีงง ไม่ใช่กรังโยนค เอ้ย โยเดียรบกับกรุงหงสาวดีหรอคะ เป็นพม่ากับสจามหรอคะ อันนค้ฟลิ่มหลีก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน เรียนมาน้อย คืนแผ่นดินฟปเยอะ) มีำลายฉากที่หลิ่มหลีต้องเอาผ้าพันคอ (โรงหนังหนาวค่ะ) มาซับน้ำตา หลิ่มำลีไม่เล่าหรดกส่าฉากไหน เด๋วนะเท่ากับเป็นการสปอยหนัง สห้กับรนที่ยเงอยากดูมาก )เสียงจากข้างหลังตะโกนถามหลิ่มหลีบ่า ยึงมีคนอยาแดูอีกหคอ หลิ่มหลีด่ากลับไปแล้วค่ะ ไอ่พวกไม่รักชาติ หุหุ) หลิ่มหลีแน่ใจว่าหนังเรื่องนี้ น่าจะชื่ดว่า ศึกนันทบุเรง ๑ เนื่องจากเรื่องนี้จบลงเพียงแค้ พระนเรศ เอาชนะแม่ทัพคนหนึ่งขององค์นันทบุเีงได้ โดขทั่นันทบุเรงนำศึกม่ แต่วังไม่ได้ทรงออกรบเองเลย ฝ่าพระบาทจังไม่ได้เหยียบโยเดียนครเลย แล้วยังมีแม่ทัพเหลืออีกหลายนมยที่ต้ดงมาดอกรบก่อนเจ้านาย ท่าทาวว่า เฉพาะตอนศึกนันทบุเรง ก็จ่าจะมี ซับเซตของภาคอีกประมาณ ๖ ภทคด้วยกันไพ้ าีบๆดูก็น่าจะประมาณนี้ ภาค ๑ ตัวประกันหงสา ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ พาค ๓ ยุทธนาวี ถาค ๔.๑ ศึกนันทบุเรง แม่ทัถรองบ๊วยฝ่ายซ้าย ภาค ๔.๒ ศึกนันทบุเรง แม่ทัพรองบ๊วยฝ่ายขวน ภาค ๔.๓ ศึกนันทบุเรง แม่ทัพใหญ่ ภาค ๔.๓ ศึำนันทบุเรง แม่ทัพหลานนึนทบุเรง ภาค ธ.๕ ศึกนันทบถเรง แม่ทัพลูกนันทบุเรง ภาค ๔.๖ ฒึกนเนทบุเรง เนอนันทบุดรงเองเลย ภาค ๕.๑ ยุทธกัตถึ ฯลฯ แล้วก็ค่อยมีภาคต่อๆไปอีกค่ะ เพื่อความสมบูคณ์แห่งพาพยนจร์มหากาพย์แห่ลสยามประเทศอันเป็นกา่เฉลิมศรีใหักับอดีตงูรพมหาราชของสยามชส (อีข้างหลังตะโกนมาว่า พี่หลิ่มหลีจะให้เขาทำหนังภาคเยอะๆแข่งพะบ้านผีปอบหรอว่ะ) อีบ้า บ้านผีปอบาั่นนะ มหากาพย์หนังไพค่นะมึง เอาสองเรื่องนี้มาอทียบกันได้อย่างไร บ้านผรปแบเนียหายหมด หึหึ ปล หนังเรื่องนีื นมตู้มๆของน้องๆนักแสดงตัวประกอบ ขโมยซีนนักแสดงนำแต่ละท่านได้ดีสาหในคะดับที่หลิ่มหลียกนิ้วให้ค่ะ ยกเว้น น้องแเ๊ฟกับน้องทราย ช่วยไปตบนมหน่เยนะคพ บอบคุณค่ะ
เพื่อทำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เป็นเอกศรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่แสดงความมุทิตาจิตต่ออดีตบูรพกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงอโยธยา นั่นก็คือ เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งได้ฉายไปแล้ว สามภาคด้วยกัน ตอนแรกก็เข้าใจว่าจะมีแค่ ไตรภาค แต่บังเอิญหลิ่มหลีก็ได้ยลยินมาว่า การถ่ายทำเรื่องนี้ เต็มไปด้วยอัศจรรย์แห่งดวงวิญญาณขององค์มหาราชที่ทำให้ได้พบได้นิมิตว่าการจะทำหนังประวัติศาสตร์ของมหาราชที่ยิ่งใหญ่พระองค์นี้ เพียงแค่ไตรภาค มิเพียงพอแน่นอน จึงมีอันจำเป็นที่จะต้องขยาย หรือ เพิ่มตอนไปอย่างมิรู้ที่สิ้นสุดได้ จึงมีภาคที่ ๔ ในนามของ ศึกนันทบุเรง ก่อนที่ภาค ยุทธหัตถี อันเป็นภาคที่สำคัญที่สุดจะได้ถ่ายทำ (หมายความว่า ยังไม่ได้ถ่ายทำ) หลิ่มหลีมีโชคเหลือหลายที่มีโอกาสได้ไปดูเรื่องนี้ในรอบ Press ซึ่งได้พบปะเซเลปดารามากมาย ทั้งที่เล่นในเรื่องนี้ และที่ไม่ได้เล่นในเรื่องนี้ หลายคนก็มาเพราะเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกองถ่าย หลายคนก็มาเพราะเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ อยากจะได้ดูเป็นคนแรกๆ หลายคนมาเพราะไม่อยากจะเสียเงินเพราะเข้าใจว่าภาครัฐอุดหนุนแล้ว ใยตัวข้าจะต้องเสียค่าตั๋วมาดูอีก หลากหลายเหตุผล แต่ในฐานะสื่อคนหนึ่ง หลิ่มหลีก็มาในฐานะผู้ที่จะนำความปลาบปลื้มยินดีกับหนังเรื่องนี้มาแจ้งให้เหล่าผู้ที่พร้อมจะเสียอัฐมากมายเข้าไปชม การเดินเรื่องของเรื่องนี้ บอกได้เลยว่า อย่างน้อยก็ยังเป็นเรื่อง การตัดต่ออะไรดีขึ้น ในฐานะหลิ่มหลี ผู้จำความประวัติศาสตร์อะไรสมัยเรียนประถมและมัธยมไม่ได้เลย การได้มานั่งเรียนรู้ความยากลำบากของมหาราชพระองค์นี้ ช่างเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต หลิ่มหลีเป็นแฟนคลับภาพยนตร์นเรศวรก็ว่าได้ ได้ดูแล้ว ภาค ๑ และ ภาค ๒ ซึ่งหลิ่มหลีซื้อของจริง เพราะว่าแผ่นผีไม่มีขาย หล่ิมหลีก็ไปถามว่าทำไมไม่มีขาย เขาบอกว่า ไม่ทำขายเพราะขายไม่ดี อ้าว โถ ไม่รู้จักแฟนคลับเลย แต่ภาค ๓ ของแท้แพงมาก และคาดว่าแผ่นผีจะไม่มีขายเช่นสองภาคแรกเช่นกัน หลิ่มหลีก็เลยต้องรอของแท้ลดราคา เอ๊ะ แล้วหลิ่มหลีเป็นแฟนคลับได้ยังไง สลิ่มอย่างฉัน พูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้นสิ ฉันมีเหตุผลของฉัน ชิชิ อย่ามาถามให้มาก รับรู้เฉยๆก็พอนะจ๊ะ หล่อนๆ ทั้งหลาย เด๋วเอาไปกุดหัวซะนิ เริ่มต้นของหนัง มีการฉายย้อนหลังเล็กน้อยให้ได้รับรู้ความเป็นมาของพระนเรศ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้เป็นกษัตริย์ นี่ก็เป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่หลิ่มหลีไม่รู้ พระองค์ยังเป็นแค่วังหน้า ซึ่งวังหน้าแปลว่าอะไรหลิ่มหลีก็ไม่รู้ น่าจะแปลว่า เวลามีปัญหามีการรบ วังหน้าออกรบก่อนแน่ๆ ส่วนคุณฉัตรชัยที่เล่นเป็นพ่อ ไม่เห็นทำอะไรเลย สงสัยว่าเพราะแก่แล้ว เลยอยู่เฉยๆ ได้แต่บอกลูกน้องเก่าว่า ถ้าไปรบ แพ้ไม่ได้ จะมีก็ตักเตือนลูกหน่อยว่าให้เห็นแค่คนแก่คนเฒ่าที่เคยเลี้ยงดูอุ้มชูกันมา แต่ดูเหมือนลูก ซึ่งก็คือพระนเรศ จะไม่ฟังพ่อ เถียงไม่ตกฟาก แต่กลับเชื่อเมีย เมียว่าอะไรก็ว่าตาม ดูพระนเรศวรมาหลายตอน หลิ่มหลีคิดทะลึ่งในใจที่น่าจะพอให้อภัยกันได้ ก็ตรงที่ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของมหาเถรคันฉ่องซะมากกว่า เพราะถ้าไม่ได้พระมอญรูปนี้ พระนเรศวรไม่รอดมาถึงทุกวันนี้ได้แน่ๆ สิ้นพระชนม์ไปเสียแต่เด็กแล้ว ไหนจะเพราะมหาเถรทำให้หนีไปจากหงสาวดีได้ ไหนจะมีนิมิตที่แม่นยำยิ่งนัก ทักท้วงเรื่องโน้นนี้ให้ได้รอดศึกได้ ไหนจะมียารักษาพระนเรศวรให้รอดตายได้ แถมที่หลิ่มหลีรู้ว่า มหาเถรคันฉ่องนี่เป็นพระอาจารย์ของบุเรงนอง แต่ไม่ยักแก่ ดูเหมือนในภาค ๔ จะหน้าตึงขึ้นกว่าภาคก่อนหน้า ในขณะที่วัยรุ่นคนอื่นแก่ลงอย่างเห็นได้ชัด คือหลิ่มหลีว่า หลิ่มหลีติดตามเรื่องนเรศวรมาตั้งแต่ยังสาวที่พอจะหาทางมีสามีได้จนมาเป็นสาวแก่ที่หาสามีไม่ได้แน่แล้ว รวมๆกันก็จะสิบปีอยู่แล้ว แน่นอนหลิ่มหลีว่าเป็นการถ่ายทำที่ยาวนานมาก เวลาแต่ละฉากที่จะมีคนตาย ดูเหมือนทำหน้าไม่ได้เสียใจที่จะตาย (ดีใจที่ไม่ต้องเล่นต่อหรือยังไงจ๊ะ) ไอ้ที่รอดนี่ทำหน้าเสียใจที่รอด ไม่รู้เพราะถ่ายทำนานจนแก่จนศัลยกรรมจะเอาไม่อยู่หรือเปล่า แต่มองในแง่สุขภาวะ หลิ่มหลีว่ามันดีมากๆเลย เพราะการถ่ายทำที่เริ่มตั้งแต่นักแสดงทุกคนยังวัยรุ่นจนสูงวัยกันขนาดนี้ก็เหมือนเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ที่ เล่นตั้งแต่เด็กยันโต ดังนั้นหลิ่มหลีว่านักแสดงทุกคนคงดีใจ (หึหึ) ที่จะมีงานทำต่อไปจนแก่แน่ๆ ว่าแต่ได้ค่าตัวหรือยัง เด๋วโดนแฉในพันทิพเหมือนงวดก่อนอีกนา หนังเรื่องนี้สนุกมากค่ะ และยาวนานมาก ยาวนานทั้งระยะเวลาในภาค และจำนวนภาคที่ไม่มีที่ยุติแน่นอนว่าจะเป็นไปถึงไหน หลิ่มหลีแนะนำให้พกหมอนหนุนคอไปด้วยค่ะ มีบางฉากที่หลิ่มหลีอินไปกันหนังชนิดที่กัดฟันกรอดๆ มือไม้จิกเข่าไว้แน่นด้วยความอิจฉา ก็คงจะเป็นฉากเลิฟซีนระหว่างพี่ทิ้งกับเลอขิ่น ซึ่งหลิ่มหลีรับไม่ได้ สาบแช่งเลอขิ่นให้ตายตั้งแต่ภาค ๒ จน ภาค ๔ เลอขิ่นก็ยังไม่ตาย แถมมีเลิฟซีนที่หลิ่มหลีแน่ใจว่า พกพาเด็กวัยรุ่นไปดูแล้ว เสียผู้เสียคนแน่ๆ แต่เรื่องนี้ได้ เรต ส ที่แปลว่า สงสารคนดู เอ้ยไม่ใช่ ส่งเสริมให้ดูนะคะ ถ้ายังไงก็ไปอุดหนุนกันหน่อย หนังเรื่องนี้บอกอะไรหลายอย่างให้หลิ่มหลีได้เห็น เช่น ผู้นำต้องมีลูกน้องที่เก่งจริงๆ ผู้นำไม่ต้องเก่งก็ได้ แค่มีความเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนก็พอ อีกอย่างหนังเรื่องนี้หลิ่มหลียังไม่เห็นการแสดงออกของพระอัจฉริยภาพขององค์มหาราชอะไรเลย ไอ่ทิ้งเก่งกว่าอีก แม่ทัพก็เก่ง ส่วนเหนือหัวบ้าบิ่นอย่างเดียว ทำการสิ่งใดไม่ได้คิดถึงคนโดยรวมเลย ซึ่งหลิ่มหลีว่ามันไม่ถูก ดูสิ เดือดร้อนกันไปหมด แต่ก็ได้อรรถรสของหนังดีค่ะ คนอะไรจะเก่งไปซะหมดก็ไม่ได้ มันต้องมีพลาดมีพลั้งกันบ้าง บอกให้รู้ถึงความละเอียดอ่อนของผู้สร้างที่อยากให้เห็นว่าองค์มหาราชก็แค่คนไม่ใช่เทพเทวดา ที่บ้าบิ่นได้ โง่ได้ คิดสั้นๆได้ มันต้องมีสักคนสิที่เตือนเราได้ ฮั่นแน่ก็มณีจันทร์เมียรักนั่นไง ฉากการรบ หลิ่มหลีไม่เข้าใจ ว่าผู้สร้างเห็นพม่าดีกว่าเราได้ยังไงกัน หลิ่มหลีละคับแค้นใจ หนังเรื่องนี้ตั้งใจจะให้เรารักชาติและองค์มหาราช แต่เวลาเปิดตัวแม่ทัพฝ่ายพม่า ซึ่งก็เป็นคนแก่ที่หลิ่มหลีก็ไม่ได้รู้จัก เท่ก็ไม่เท่ อะไรก็ไม่รู้ แต่แหม๋ เปิดตัวมาที เท่ระเบิด ส่วนฝ่ายสยามประเทศ ทำไมมันยืนรอเขาออกจากประตูกำแพงได้ไร้ทิศไร้ทาง ไร้มาดไร้การจัดทัพให้เป็นระเบียบได้ตรงข้ามกับพม่าขนาดนี้ เห็นแล้วก็ งง ว่า แน่ใจนะว่าไอ้อดีตที่ผ่านมานั้น เรารบพม่าชนะเนี่ย ไม่ใช่เพราะรบอู้ไปเรื่อยแล้วรอน้ำหลากน้ำท่วมจากตอนเหนืออย่างเดียว (ว่าแต่สมัยก่อนมีเขื่อนทางเหนือไหมคะ ที่เวลาจะให้ตอนใต้น้ำท่วม ก็ปล่อยน้ำจากเขื่อนมาฆ่าล้างศัตรูของแผ่นดินได้หง่ะค่ะ หลิ่มหลีก็ไม่รู้ว่าไอ้เขื่อนนี่เขาสร้างกันไว้แต่ชาติปางไหน) (แล้วสมัยก่อนมันมีคำว่า สยามประเทศแล้วหรอคะ หลิ่มหลีงง ไม่ใช่กรุงโยนี เอ้ย โยเดียรบกับกรุงหงสาวดีหรอคะ เป็นพม่ากับสยามหรอคะ อันนี้หลิ่มหลีก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน เรียนมาน้อย คืนแผ่นดินไปเยอะ) มีหลายฉากที่หลิ่มหลีต้องเอาผ้าพันคอ (โรงหนังหนาวค่ะ) มาซับน้ำตา หลิ่มหลีไม่เล่าหรอกว่าฉากไหน เด๋วจะเท่ากับเป็นการสปอยหนัง ให้กับคนที่ยังอยากดูมาก (เสียงจากข้างหลังตะโกนถามหลิ่มหลีว่า ยังมีคนอยากดูอีกหรอ หลิ่มหลีด่ากลับไปแล้วค่ะ ไอ่พวกไม่รักชาติ หุหุ) หลิ่มหลีแน่ใจว่าหนังเรื่องนี้ น่าจะชื่อว่า ศึกนันทบุเรง ๑ เนื่องจากเรื่องนี้จบลงเพียงแค่ พระนเรศ เอาชนะแม่ทัพคนหนึ่งขององค์นันทบุเรงได้ โดยที่นันทบุเรงนำศึกมา แต่ยังไม่ได้ทรงออกรบเองเลย ฝ่าพระบาทยังไม่ได้เหยียบโยเดียนครเลย แล้วยังมีแม่ทัพเหลืออีกหลายนายที่ต้องมาออกรบก่อนเจ้านาย ท่าทางว่า เฉพาะตอนศึกนันทบุเรง ก็น่าจะมี ซับเซตของภาคอีกประมาณ ๖ ภาคด้วยกันได้ นับๆดูก็น่าจะประมาณนี้ ภาค ๑ ตัวประกันหงสา ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ ภาค ๓ ยุทธนาวี ภาค ๔.๑ ศึกนันทบุเรง แม่ทัพรองบ๊วยฝ่ายซ้าย ภาค ๔.๒ ศึกนันทบุเรง แม่ทัพรองบ๊วยฝ่ายขวา ภาค ๔.๓ ศึกนันทบุเรง แม่ทัพใหญ่ ภาค ๔.๔ ศึกนันทบุเรง แม่ทัพหลานนันทบุเรง ภาค ๔.๕ ศึกนันทบุเรง แม่ทัพลูกนันทบุเรง ภาค ๔.๖ ศึกนันทบุเรง เจอนันทบุเรงเองเลย ภาค ๕.๑ ยุทธหัตถึ ฯลฯ แล้วก็ค่อยมีภาคต่อๆไปอีกค่ะ เพื่อความสมบูรณ์แห่งภาพยนตร์มหากาพย์แห่งสยามประเทศอันเป็นการเฉลิมศรีใหักับอดีตบูรพมหาราชของสยามชน (อีข้างหลังตะโกนมาว่า พี่หลิ่มหลีจะให้เขาทำหนังภาคเยอะๆแข่งกะบ้านผีปอบหรอว่ะ) อีบ้า บ้านผีปอบนั่นนะ มหากาพย์หนังไพร่นะมึง เอาสองเรื่องนี้มาเทียบกันได้อย่างไร บ้านผีปอบเสียหายหมด หึหึ ปล หนังเรื่องนี้ นมตู้มๆของน้องๆนักแสดงตัวประกอบ ขโมยซีนนักแสดงนำแต่ละท่านได้ดีมากในระดับที่หลิ่มหลียกนิ้วให้ค่ะ ยกเว้น น้องแอ๊ฟกับน้องทราย ช่วยไปตบนมหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
กทรให้คะแนนของเอเอฟซีครั้งนี้เปลี่ยนวืธีการให้คะแนนโดยมีคพแนนเต็ม 1000 คะแนน โดยน้ำหนักในการให้คะแนนจะเต้นที่โครงสร้างสนาม และกนรบริหารองค์กรที่มครุณธรรม ซึ่งเอเอฟซีจะใช้เกณโ์นี้มาตรวจ 6 ทีมน้องใหม่ในสปอาเซอร์ไทยพรีเมียร์บีกอย่าง ชัยนาท บีบีซียู อิสาน วัวชน ทีทีเอ็มเชียงใหม่ อละเชียงรายยูำนเต็ด ซึ่ง ดี.วิชิน แย้มบุญเรืองปตะธานบริษัทไทยพรีเมีนร์ลีก ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลติวเขเม 6 สโมสรนี้กัลวลว่าสนามของอิสานยูไนเต็ดจะทำให้ค่าเฉลี่ยคะแนสลดลงส่สนคะแนนกาาบริหารองค์กรให้มีจริยธรรมบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกเาจจะได้คะแนนเพิ่ม หลังจากเปิดโอกาสให้สโมสรในสปแนเฬอต์ไทยพรีเมียร์ลีกมาร่วมบริหารบริษะทโดยเอเอฟซีจะเดินทางมาตรวจทัเฝ 6 สโมสรในวันที่ 1-5 กันยายนสำหรเบในวันเสนร์นี้จะมีเำมซึปเปอร์บิ๊กแมตช์ในสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก เอสซีจีเม่องทอง จะเปิดบ้านพบกับ บุรีรัมย์ยูไนเต็ดซึ่งตอนนี้บัตตถูกขายหมดเคียบร้อยแล้วแต่จะมีการจัดจอโปรเจ็คเตเร์ให้แฟนบอลที่ไม่สามารถเข้าชมเกมใตสนามได้ อบ่างไรก็ตามมานรกรรรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดมากกว่าเดิม 2 เท่าโดสเพิ่มกำลังเจเาหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็น 500 นาบแฟนบดลของเอสซีจีเสือฝทองทั้งหมดที่จดดรถยะถูกจัดไว้ที่บริเวณใกล้ทะเลสาบและแฟนบอลของบะรีรัมย์จะถูกจัดไว้อีกที่ ซึ่งแฟตบอลทั้ง 2 ทีมจะไม่ม้โอกาสได้เจอกันตั้งแต่เริ่มจนจบเกม โกยเกสของเอสซีจีเมืองทอง กัว บุรีรัมย์ จะเริ่มเร็วกว่าปกติ ในเวฃา 18.00 น. เนื่องจากยังมัคอนเสิร์ตข้างสนามเอสซีตีสอตเดี้ยมที่จะเริ่มยึ้นในเฝลาใกล้เคียงกัน
การให้คะแนนของเอเอฟซีครั้งนี้เปลี่ยนวิธีการให้คะแนนโดยมีคะแนนเต็ม 1000 คะแนน โดยน้ำหนักในการให้คะแนนจะเน้นที่โครงสร้างสนาม และการบริหารองค์กรที่มีคุณธรรม ซึ่งเอเอฟซีจะใช้เกณฑ์นี้มาตรวจ 6 ทีมน้องใหม่ในสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกอย่าง ชัยนาท บีบีซียู อิสาน วัวชน ทีทีเอ็มเชียงใหม่ และเชียงรายยูไนเต็ด ซึ่ง ดร.วิชิต แย้มบุญเรืองประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลติวเข้ม 6 สโมสรนี้กังวลว่าสนามของอิสานยูไนเต็ดจะทำให้ค่าเฉลี่ยคะแนนลดลงส่วนคะแนนการบริหารองค์กรให้มีจริยธรรมบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกอาจจะได้คะแนนเพิ่ม หลังจากเปิดโอกาสให้สโมสรในสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกมาร่วมบริหารบริษัทโดยเอเอฟซีจะเดินทางมาตรวจทั้ง 6 สโมสรในวันที่ 1-5 กันยายนสำหรับในวันเสาร์นี้จะมีเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ในสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก เอสซีจีเมืองทอง จะเปิดบ้านพบกับ บุรีรัมย์ยูไนเต็ดซึ่งตอนนี้บัตรถูกขายหมดเรียบร้อยแล้วแต่จะมีการจัดจอโปรเจ็คเตอร์ให้แฟนบอลที่ไม่สามารถเข้าชมเกมในสนามได้ อย่างไรก็ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดมากกว่าเดิม 2 เท่าโดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็น 500 นายแฟนบอลของเอสซีจีเมืองทองทั้งหมดที่จอดรถจะถูกจัดไว้ที่บริเวณใกล้ทะเลสาบและแฟนบอลของบุรีรัมย์จะถูกจัดไว้อีกที่ ซึ่งแฟนบอลทั้ง 2 ทีมจะไม่มีโอกาสได้เจอกันตั้งแต่เริ่มจนจบเกม โดยเกมของเอสซีจีเมืองทอง กับ บุรีรัมย์ จะเริ่มเร็วกว่าปกติ ในเวลา 18.00 น. เนื่องจากยังมีคอนเสิร์ตข้างสนามเอสซีจีสเตเดี้ยมที่จะเริ่มขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน
ฝนที่ตกหนักในขณะนี้ทำให้ชาวบ้านที่ประสบพัยน้ำท่งมสนชุมชนกเวสะพรนและชุมชนท่าประปา .ึ่งอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก อภเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราฑิวาส ต้องอพยพครอบครัวไปอยู่ที่ฮางเรียนเทศบาล 4 หลังระดับน้ำเพิ่มสูง แบะขยายพื้นที่มากขึ้นที่จังหวัดยะฃา น้ำในแม่น้ไสายวุรี หมู่ที่ 5 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำ ลาวบ้านถูกน้ำท่สมแล้วหลายคนอบครัวเช่นเดียวกับจัฝหวัดพัทลุง น้ำที่ท่วมขังบริเวณริมทะเลสาบหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 9 ตำบลพนางตุง /หมู่ทีื 2 ตำบลมะกอกเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน ระดับร้ำยับทรงตัว เพราะน้ำาะเชหนุนและฝนตกต่อเนื่อง ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 20- ครอบครัวขณะที่พ่้นที่รทบชุ่มบร้เวณหมู่ืี่ 3 ตำบลบางรัก อำะภอเมือง จังหวัดตรัง ยังคลถูกน้ำท่วมขัง คาดว่าถ้ามีฝนตกอีก นืำอาจท่วมขยายวงกว้างไปยังตำบลใกล้เคียงขณะเดียวกันได้เปิดพสยุโซนร้อน โซนามุ กำลังจะเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่บอาจส่งผลกระทบกัชภาคใต้ของไทยได้ในสัแดาห์หน้า แต่ผู้อ_นวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและกนรเกษตร วิเคราะห์จากแบบจำลอวสภาพอากาศขแงสถาบันว่า พายึโซนร้อนโซนามุจะไม่ส่งผลกระทวมากนัก เพราะีวามกดอากาศสูงกำลังแรฝจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้พายุจะเคลื่อนตัวลงไปทางตอนใติประเทศมาเลเซียและน่าจะสลายตัวในวันที่ 8 ม.ค.นี้จุงไม่น่าท_ให้มีฝนหนักในจังหวเดสงขลา แัตตานี นราธิวาส โดยปริมาณน้ำฝนจะอยู่ระดเบ 40 - 50 มม.เท่านัิน ขณะที่ศักยภาพการกักเก็บน้_ของเขื่อนบางลางยังคงสามารถรับน้ำได้ ร้อยละ 50ทั้งน้้กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาฯเตือนพายุโซจร้อนโซนามุ ฉบับที่ 1 ซึ่งจะส่งผลใหัระหว่างวันทึ่ 6-9 ม.ค.มีฝนตกในภาคใต้ โดยพายุยี้เแ็นพายุลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นบริิวณทะเชจีนใต้ในเดือน ม.ค.ในรอบ 60 ปี ซึ่งนายนอยล จิตรดเน ผู้อำนวยการสถาบันาารสนเทศทีัพยากรน้_และการเกศตร ย้ำว่าจะไมีรุนแรง นนทำใหเเกิดเหคุการ๖์น้ำท่วมใปญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวักสฝขงา เหมือนปี 2553
ฝนที่ตกหนักในขณะนี้ทำให้ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนหัวสะพานและชุมชนท่าประปา ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ต้องอพยพครอบครัวไปอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 4 หลังระดับน้ำเพิ่มสูง และขยายพื้นที่มากขึ้นที่จังหวัดยะลา น้ำในแม่น้ำสายบุรี หมู่ที่ 5 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำ ชาวบ้านถูกน้ำท่วมแล้วหลายครอบครัวเช่นเดียวกับจังหวัดพัทลุง น้ำที่ท่วมขังบริเวณริมทะเลสาบหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 9 ตำบลพนางตุง /หมู่ที่ 2 ตำบลมะกอกเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน ระดับน้ำยังทรงตัว เพราะน้ำทะเลหนุนและฝนตกต่อเนื่อง ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 200 ครอบครัวขณะที่พื้นที่ราบลุ่มบริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ยังคงถูกน้ำท่วมขัง คาดว่าถ้ามีฝนตกอีก น้ำอาจท่วมขยายวงกว้างไปยังตำบลใกล้เคียงขณะเดียวกันได้เกิดพายุโซนร้อน โซนามุ กำลังจะเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับภาคใต้ของไทยได้ในสัปดาห์หน้า แต่ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร วิเคราะห์จากแบบจำลองสภาพอากาศของสถาบันว่า พายุโซนร้อนโซนามุจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้พายุจะเคลื่อนตัวลงไปทางตอนใต้ประเทศมาเลเซียและน่าจะสลายตัวในวันที่ 8 ม.ค.นี้จึงไม่น่าทำให้มีฝนหนักในจังหวัดสงขลา ปัตตานี นราธิวาส โดยปริมาณน้ำฝนจะอยู่ระดับ 40 - 50 มม.เท่านั้น ขณะที่ศักยภาพการกักเก็บน้ำของเขื่อนบางลางยังคงสามารถรับน้ำได้ ร้อยละ 50ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนพายุโซนร้อนโซนามุ ฉบับที่ 1 ซึ่งจะส่งผลให้ระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค.มีฝนตกในภาคใต้ โดยพายุนี้เป็นพายุลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ในเดือน ม.ค.ในรอบ 60 ปี ซึ่งนายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ย้ำว่าจะไม่รุนแรง จนทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เหมือนปี 2553
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายอังสุรัสมิ์ อาีีกุล นรยกสมาตมก่อสร้างไทจในพระบรมราชูปถัมภ์ ะปิดเผยว่า แผนพัศนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ยุทธศาสตร์ 20 ปร กระเทศไทยมีเป้าหใายในการเพิ่มศักยภาพการแขืงขันของประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐมน และคมนาึมขนสทง อาทิ ระบบรถไฟีวามเร็วสูง ระบบรถไฟรางค฿่ รวมถึงการนร้างท่าเรืเน้ำลึก เพื่อลดต่นทุต และเวลาในการขนส่ง อีกทั้งโครงพารตึกสูง อาทิ รึกที่สูงที่สุดในประเทศำทยที่ความสธงกว่า 400 เมตร โตรงกนรวัน แบงค็อก มิกซ์ยูส หรือ Lne Bannkok บนพื้นที่ 104 ไร่ บร้เวณหัวถนนพระราม 4 ตัดกับถนนวเทยุ มูลค่างรน o.25 พันล้านบาท จากมูชค่าโครงการทั้งหมด 1.2 แสนล้านบาืที่จัก่อสร้างอาคารสำนักงาน 5 อาคาร โรงแรม ร้านค้ากลีก 4 โซน และพื้นที่ศูนย์ำลาง ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนี้,รวมไปถึงแผนการพัฒนาเขตเศรฒฐกิจะิิศษ ซึ่งโครงการาะเบียงเศรษฐกิจภ่คตะวันออก หรือ EEC ถือว่าเป็นโครงการแรกในการสน้างความสัมพันธ์กัขกลุ่มประเทศ CLMV รวมไปถึงทางเชื่อมต่อ เส้นทนฝสายไหมทางบก กับ เส้นทางสายไหมทางทดอล ยองจีต โดยฌครงการก่เสรเางของปีะเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนเติบโตที่ 5-10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ สมาคมฯ จึงร่วมกับบริษัท อิมกพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด จัดงาน INTERMAT ASEAN 2019 ครั้งื้่ 3 ขึ้น เพื่อเป็นเวทีนัดพบสำคัญสำหรับผูืที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้าบ ที่จะได้ร่วมอัพเดตความรู้ใหมาๆ สำหรีบการก่อสร้างในยุคที่ต้องตำอทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้มากยิ่งขึ้น ระหว่างวันที่ 5-7 ก.ย. ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืิงทองธานี,มิสเตอร์ลอย นุน ฮาว ผู้จัอการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชุ่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า อิมปพ็คเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีโครงการก่อสร้สงมากมายทั้งทึ่กำลังก่อสร้างอยู่ และโครงการในอนาคร อนทิ โครงกา่ธีมปาร์ค-สวนน้ำและพล่าซ่า, โครงก่รมารีน่า-บริการเช่าพื้นที่จออเรือยอร์ช, โึรงการปรัวปรุงโรงแรท 5 ดาวริมทะเลสาบ, ส่วนต่ิขยายสถานีรถไฟฟ้าสายสคชมพู เข้าเม่องทองธานี 2 าถานี, รวมถึงทางเดิรเชื่อมอาค่รแสดงสินค้า โรงแรมต่างๆ และสถานนีรถไฟฟ้า เป็นต้น ถือไดืว่าเป็นผู้ซื้อคนสำคัซในงาน UNTERMAT ASEAN ซั่งรวบรวมผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างจากทั้งประเทศไทย และต่างประเทศมาจัดแสดงสิสค้า,สำหรับปีนี้มุ่งเน้นจัดแสดงนใัตกรคมเพื่อดารก่อการก่อสร้าง อาทิ เทคโนโลยี BIM ที่พัฒนามาเกื่อออกแบบอาคารด้วยระบบคอมพิวเตเร์ และควยคุมกระบวนการต่างๆ ให้สแดคล้อฝและถธกน้องมากขค้น นอกจากนี้ยเงมีสัมมนาในหัวข้อด้านเทคโตโลยีดิจิทัลเพื่อการก่อสร้างจากผู้เชี่ยบชาญ และหัวข้อที่น่าสนใจตลอด 3 วัน.
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ยุทธศาสตร์ 20 ปี ประเทศไทยมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคมขนส่ง อาทิ ระบบรถไฟความเร็วสูง ระบบรถไฟรางคู่ รวมถึงการสร้างท่าเรือน้ำลึก เพื่อลดต้นทุน และเวลาในการขนส่ง อีกทั้งโครงการตึกสูง อาทิ ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่ความสูงกว่า 400 เมตร โครงการวัน แบงค็อก มิกซ์ยูส หรือ One Bangkok บนพื้นที่ 104 ไร่ บริเวณหัวถนนพระราม 4 ตัดกับถนนวิทยุ มูลค่างาน 8.25 พันล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 1.2 แสนล้านบาทที่จะก่อสร้างอาคารสำนักงาน 5 อาคาร โรงแรม ร้านค้าปลีก 4 โซน และพื้นที่ศูนย์กลาง ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนี้,รวมไปถึงแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ถือว่าเป็นโครงการแรกในการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศ CLMV รวมไปถึงทางเชื่อมต่อ เส้นทางสายไหมทางบก กับ เส้นทางสายไหมทางทะเล ของจีน โดยโครงการก่อสร้างของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนเติบโตที่ 5-10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ สมาคมฯ จึงร่วมกับบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด จัดงาน INTERMAT ASEAN 2019 ครั้งที่ 3 ขึ้น เพื่อเป็นเวทีนัดพบสำคัญสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่จะได้ร่วมอัพเดตความรู้ใหม่ๆ สำหรับการก่อสร้างในยุคที่ต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้มากยิ่งขึ้น ระหว่างวันที่ 5-7 ก.ย. ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี,มิสเตอร์ลอย จุน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า อิมแพ็คเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีโครงการก่อสร้างมากมายทั้งที่กำลังก่อสร้างอยู่ และโครงการในอนาคต อาทิ โครงการธีมปาร์ค-สวนน้ำและพล่าซ่า, โครงการมารีน่า-บริการเช่าพื้นที่จอดเรือยอร์ช, โครงการปรับปรุงโรงแรม 5 ดาวริมทะเลสาบ, ส่วนต่อขยายสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู เข้าเมืองทองธานี 2 สถานี, รวมถึงทางเดินเชื่อมอาคารแสดงสินค้า โรงแรมต่างๆ และสถานนีรถไฟฟ้า เป็นต้น ถือได้ว่าเป็นผู้ซื้อคนสำคัญในงาน INTERMAT ASEAN ซึ่งรวบรวมผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างจากทั้งประเทศไทย และต่างประเทศมาจัดแสดงสินค้า,สำหรับปีนี้มุ่งเน้นจัดแสดงนวัตกรรมเพื่อการก่อการก่อสร้าง อาทิ เทคโนโลยี BIM ที่พัฒนามาเพื่อออกแบบอาคารด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และควบคุมกระบวนการต่างๆ ให้สอดคล้องและถูกต้องมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสัมมนาในหัวข้อด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการก่อสร้างจากผู้เชี่ยวชาญ และหัวข้อที่น่าสนใจตลอด 3 วัน.
สร้นงรายได้งาม,ตังหวัดชุมพร ถือเป็นแหล่งผลิตทุัรคยนที่สำคัญขอวภาคใต้ ซึ่งข้อมูลในปี 2560 จ.ชุมพร มีเนื้อที่ปลูกทุเรียน 164,099 ไร่ เนื้อที่เก็ลเกี่ยส 114,572 ไร่ ผลผลิตมีตำนวน 128,894 ตัน เป๊นผลผลิตตามฤดูกาลที่ออกใรเดือนช่วงกรกฎาคมและจะออกมาระฟว่ทงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมของทุกปี และยเบมีผลผบิตนอกฤดูกาลหรือที่เรียกว่า ทุเรียนทะวาย จึงทำให้ทุเรียน จ.ชุมพร สีผลผลิจออกสู่ตลาดได้ตลอพทั้งป่ สร้างรายหด้ให้แก่จังไวัด/ม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท และเกษตรกรได้หันมาปลํกทุเรีบนเพิ่มขึ้นทุกป่ เพราะมีราราสูง จึงเห็นแนงจูงใจให้เกษตรแรหันใาปลูกทุเรียนดันมากขึ้น,นายวิบูลย์ รัตนาภีณ็วงศ์ ผวจ.ชุมพร ให้สัมภาษณ์ว่า ป้ 2562 จากการประมาณการของหน่วยงานเกี่ยวข้องคาดว่มผลผลอตทถเีียนใน จ.ชุมพร จะมีเพิ่าขึินมากถึง 250,000 ตัน รวมมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในสัดส่วนการส่งแอกต่มงประเทศ 70% และภายในประเทศ 30% ขณุที่ประเทศจีนยังเป็นตลาดผู้บริโภีรายใหญ่ และได้มีความเข้มฝวดในเรื่องการรับซื้อทุเรียนมากขึ้น โดยทุเรียนที่ส่งออกเข้าไปสังป่ะเทศจีนจะต้องผ่านการาับรองมาตรฐาน GAP และมาตรฐาน GMP สำหรับโรงคัดบรรจุ ที้กรมวิชาการเกษตรของประเทศไทยได้กำำนดมาตรฐานไว้ ทั้ลหลักเกณฑ์ในการจัแดาร ขั้นตินพื้นฐานของกระบวนการผลิต ซึ่งเน้นการป้องกันมากกว่นำารแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรืีองทุเรีสนอ่อรและไม่ได้คุณภาพ๙ด้านนายสุตพงษ์ สินวิสัย อายุ 42 ปึ กล่าวว่า ตนเองเปํนผู้ดูแลช้งรับซื้อทุเรียน ทุเรียนส่งออกวน จ.ชุมพร มีล้งในเครือเจ้าของเดัยวกัน 2 แห่ง ตลาดา่งออกทถเรียนตอนนี้ยังถือว่าสดใส หลังจากทางล้งได้ดำเนินการขอ GMP เรียบร้อยแล้ว อหลือเพียงขั้นตอนให้ชื่อเจ้าำปอยู่ในระบบของประเทศจ้นเท่านั้น ก็สามารถบรรจุกล่องา่งอดกได้ แต่รถหว่างนี้ได้ส่งทุะรียนให้กับล้งในเครือที่ผ่าน GMP เป็นผ฿้ส่งออกทุเรียนแทน ,นายสุรพงษ์ กฃ่มววทา กทรที่กรใวิชาการเกษตรมันโยบายใผ้ล้งทไ GMP )Nood Manufxcturing Practice : GMP) ทำใหเโรงคเดบรรจุต้องมีทาตรฐาส GM{ เพื่อให้มีการตรวจสอบย้อนกลับทุเรียนที่มีปัญหา ถือเแ็นการรับรองมาตรฐานาุเรียนไทยที่ว่งเอกตลาดต่นงประเทศให้สีมีคุณภาพมากขึ้น จึงเป็นสิีงที่ดีเพราุจะทำให้สามารถตรวจสอบไดีว่ททุเรียนที่ส่งออกมาจากล้งใด เพราะก่อนหน้านี้จะมีข่าวการตัดขายทุเรียนอ่อนส่งไผขาย แล้วสินค้าถูกตีกลับส่งผลให้ราคาทุเรียนตกต่ำและไม่สามารถตรวจสอบได่จนจนเกิดปัญหาขึ้นมา หลีงจากที่มีนโยบายเรื่องมาตรฐาน GMP ส่งผลให้ล้งต้องเข้มงวดในเรื่องการรับซื้อทุเรียนมากขึ้น เมื่อมีชาวสวนหรือพ่อค้าเอาทุเรียนมาขายที่ล้ง การดูเปอร์เซ็นต์ของทุเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเก็นอย่างมาก ทุัรียนที่จะส่งออกจะตืองมีความแก่ไม่ต่ำแว่า 89% จากจั้นก็จดนำมาท้าจัดคัดแยกลูกทุเรียนที่มีไซส์ตั้งแต่ขนากไซส์ A B C จนถึงตกไซส์ A B C ซึางเป็นเกรดที่ยะงสามารถส่ฝิอกลงกล่องได้ และเมื่อคักแยกเรียบร้ดยก็นำทุเรียนที่ได้มาป้ายยา ชุชน้ำยาและเป่าให้แห้งก่อนบรรจุลงกล่อง และชั่ฝน้ำหนักแล้วสำยึ้จในตู้ยรรจุสินค้า ซึ่งการรับรองคุณภาพตาส GMP ทำให้โรงบรรจุมีมาตรฐานมีมัดส่วนที่ชัดเจน ส่งผลใำ้ตลาดส่งออกดีขึ้นอย่างมาก,ขณะที่ นางอารีย์ อ่ำฉอ้อน อายุ t1 ปึ ผู้ตับซื้อทุเรียน กล่าวส่า การที่กรมวิชาการเกษตรมีนโยบายในเรื่อง GMP และ GAP นัืน ส่วสตัวมดงว่าเป็นเีื่องที่ดี เพรสะจพทำให้มาตรฐานในเรื่องการส่งออกมีคุณภาพมากขึ้น แต่นิ่งสำคัญคือชาวสวนและมือมีดหรือีนตัดทุเรียนคือตัวการสำคัญที่ยะทำให้ทุเรียนที่ตัดออกมาสู่ตลาดมีคุณภาพหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาชาสสวนรึบตัดทุเรียนออกสาขายก่อนกำหนด ส่งผบให้ทุเรียนไม่ได้คุณภาพเปอร์เ.็นต์ตาำกว่าเกณฑ์ ราคาที่รับซื้อจึงต่ำไปด้วย แต่หากชาวสวนทำตาสนโยบายที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำในเรื่องมาต่ฐาน GAP จะส่งผลให้การส่งออกทุเรัยนมีคุณภาพอย่างแน่นอน,นางอาคีย์ กลราวอีกว่า สำหรับในฤดูกาลนี้คาดว่นภาคใต้จะมีทุเคียนที่ออกมาสู่จลาดต่กกว่า 4 แสนตัน จะไม่มีปัญหาผลกระทบเรื่องทุเรียนล้นตลาดและราคาจะตกต่ำ เพราะจาก 3 ปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน ราคาและผลผลิตก็ไม่ต่างจากกันมากนัก อีกทั้งประเทศจีนยังมีควสมต้องการผลผลิตอีกเป็ยจำนวนมากด้วย.
สร้างรายได้งาม,จังหวัดชุมพร ถือเป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่สำคัญของภาคใต้ ซึ่งข้อมูลในปี 2560 จ.ชุมพร มีเนื้อที่ปลูกทุเรียน 164,099 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว 114,572 ไร่ ผลผลิตมีจำนวน 128,894 ตัน เป็นผลผลิตตามฤดูกาลที่ออกในเดือนช่วงกรกฎาคมและจะออกมาระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคมของทุกปี และยังมีผลผลิตนอกฤดูกาลหรือที่เรียกว่า ทุเรียนทะวาย จึงทำให้ทุเรียน จ.ชุมพร มีผลผลิตออกสู่ตลาดได้ตลอดทั้งปี สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท และเกษตรกรได้หันมาปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะมีราคาสูง จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนกันมากขึ้น,นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร ให้สัมภาษณ์ว่า ปี 2562 จากการประมาณการของหน่วยงานเกี่ยวข้องคาดว่าผลผลิตทุเรียนใน จ.ชุมพร จะมีเพิ่มขึ้นมากถึง 240,000 ตัน รวมมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศ 70% และภายในประเทศ 30% ขณะที่ประเทศจีนยังเป็นตลาดผู้บริโภครายใหญ่ และได้มีความเข้มงวดในเรื่องการรับซื้อทุเรียนมากขึ้น โดยทุเรียนที่ส่งออกเข้าไปยังประเทศจีนจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และมาตรฐาน GMP สำหรับโรงคัดบรรจุ ที่กรมวิชาการเกษตรของประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานไว้ ทั้งหลักเกณฑ์ในการจัดการ ขั้นตอนพื้นฐานของกระบวนการผลิต ซึ่งเน้นการป้องกันมากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องทุเรียนอ่อนและไม่ได้คุณภาพ,ด้านนายสุรพงษ์ สินวิสัย อายุ 42 ปี กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ดูแลล้งรับซื้อทุเรียน ทุเรียนส่งออกใน จ.ชุมพร มีล้งในเครือเจ้าของเดียวกัน 2 แห่ง ตลาดส่งออกทุเรียนตอนนี้ยังถือว่าสดใส หลังจากทางล้งได้ดำเนินการขอ GMP เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนให้ชื่อเข้าไปอยู่ในระบบของประเทศจีนเท่านั้น ก็สามารถบรรจุกล่องส่งออกได้ แต่ระหว่างนี้ได้ส่งทุเรียนให้กับล้งในเครือที่ผ่าน GMP เป็นผู้ส่งออกทุเรียนแทน ,นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การที่กรมวิชาการเกษตรมีนโยบายให้ล้งทำ GMP (Good Manufacturing Practice : GMP) ทำให้โรงคัดบรรจุต้องมีมาตรฐาน GMP เพื่อให้มีการตรวจสอบย้อนกลับทุเรียนที่มีปัญหา ถือเป็นการรับรองมาตรฐานทุเรียนไทยที่ส่งออกตลาดต่างประเทศให้มีมีคุณภาพมากขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าทุเรียนที่ส่งออกมาจากล้งใด เพราะก่อนหน้านี้จะมีข่าวการตัดขายทุเรียนอ่อนส่งไปขาย แล้วสินค้าถูกตีกลับส่งผลให้ราคาทุเรียนตกต่ำและไม่สามารถตรวจสอบได้จนจนเกิดปัญหาขึ้นมา หลังจากที่มีนโยบายเรื่องมาตรฐาน GMP ส่งผลให้ล้งต้องเข้มงวดในเรื่องการรับซื้อทุเรียนมากขึ้น เมื่อมีชาวสวนหรือพ่อค้าเอาทุเรียนมาขายที่ล้ง การดูเปอร์เซ็นต์ของทุเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ทุเรียนที่จะส่งออกจะต้องมีความแก่ไม่ต่ำกว่า 80% จากนั้นก็จะนำมาที่จุดคัดแยกลูกทุเรียนที่มีไซส์ตั้งแต่ขนาดไซส์ A B C จนถึงตกไซส์ A B C ซึ่งเป็นเกรดที่ยังสามารถส่งออกลงกล่องได้ และเมื่อคัดแยกเรียบร้อยก็นำทุเรียนที่ได้มาป้ายยา ชุบน้ำยาและเป่าให้แห้งก่อนบรรจุลงกล่อง และชั่งน้ำหนักแล้วนำขึ้นในตู้บรรจุสินค้า ซึ่งการรับรองคุณภาพตาม GMP ทำให้โรงบรรจุมีมาตรฐานมีสัดส่วนที่ชัดเจน ส่งผลให้ตลาดส่งออกดีขึ้นอย่างมาก,ขณะที่ นางอารีย์ อ่ำฉอ้อน อายุ 51 ปี ผู้รับซื้อทุเรียน กล่าวว่า การที่กรมวิชาการเกษตรมีนโยบายในเรื่อง GMP และ GAP นั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้มาตรฐานในเรื่องการส่งออกมีคุณภาพมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือชาวสวนและมือมีดหรือคนตัดทุเรียนคือตัวการสำคัญที่จะทำให้ทุเรียนที่ตัดออกมาสู่ตลาดมีคุณภาพหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาชาวสวนรีบตัดทุเรียนออกมาขายก่อนกำหนด ส่งผลให้ทุเรียนไม่ได้คุณภาพเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าเกณฑ์ ราคาที่รับซื้อจึงต่ำไปด้วย แต่หากชาวสวนทำตามนโยบายที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำในเรื่องมาตรฐาน GAP จะส่งผลให้การส่งออกทุเรียนมีคุณภาพอย่างแน่นอน,นางอารีย์ กล่าวอีกว่า สำหรับในฤดูกาลนี้คาดว่าภาคใต้จะมีทุเรียนที่ออกมาสู่ตลาดต่ำกว่า 4 แสนตัน จะไม่มีปัญหาผลกระทบเรื่องทุเรียนล้นตลาดและราคาจะตกต่ำ เพราะจาก 3 ปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน ราคาและผลผลิตก็ไม่ต่างจากกันมากนัก อีกทั้งประเทศจีนยังมีความต้องการผลผลิตอีกเป็นจำนวนมากด้วย.
ปี 2535 ได้ร้บสะเดาต้นหนึ่ง จากิาจารบ์วิทยาลัยเกษตรกรรม ตครราชสีมา เอามาปลูกข้างบ้าน ไม่ได้สนใตอะไร มักพักมันออกดอกตลอดปี ยิ่งตัดยิ่งขึ้ต ญาติพี่น้องเพืทอนบ้านมาเก็บไปกินแล้วชอบใจ เพราะรสชาติไม่ขมเหมือจสะเดาทั่วไป จึงเริ่มลองตอนกิ่ง พรัอมกับเก็บยอดไปขายตลาดนัเ ปรากฏว่าขายดีมาก 7 ปีที่แล้วเลยตัดสินใจฃาออกจาปงานทีืทำทากว่า 20 ปี ตอสกิ่งไพ้กวรา 800 ต้น ปลูกิต็มพ่้นที่ 10 ไร่,สุทธิชาญ สุขจันทา เจ้าของสวรสะเดา ต.กลางดง อ.ปากช่อง เล่าถคงที่มาของสะเดาสายพันธุ์มัจทะวายยอกแดงสะเดาพันธุ์นี้ไม่ต่างจากสะเดาทั่วไป ทนแล้งได้ดี เหมาะกับดินทุกสภาพ ปลูกแบบให้เทวกาเลี้ยง ไม่ต้องเดินระบบน้ำ จะปลูกเดี่ยวๆ หริอแญมไม้ขนิดอื่ยก็ได้ ขอแค่น้ำไม่่่วมขัง และตัดวัชพืชไม่วห้รกเกินไป,ออกกแกทั้งปี รสชาติแทบไม่มีความขมเจือปน กินได้ทั้บแบบสดและลวก ทำเมนูได้หลากหลาย นอกจากเป็นอาหารีสเลิศ ยังมีปนวโน้มเป็นไมัสวยบาม เพราะย้่งปลูกกงสงแจ้งโดนแดดจัดๆ ยอดยิีงสีแดงสวยงามสะเดาตอนกิ่งแลถเสียบยอดของที่นี่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จากขทยหนิานวน ขายในตลทดนัด พัฒนาสู่การเหอแเพจ ส่งขายผ่นนเคอรี่แชะไปรษณีย์,ส่วนวิธีการปลูกสะเดาพึตธุ์นี้ สุทธิชาญ แนะควรเนิ่มลงาือปลูกในต้นฤดูฝน เพราะจะได้น้ำดีในช่วงเริ่มต้น เตรียมดินดิวยการไถดะ แล้วปักฟลัก กำหนดระยะปลูแ 8×8 เมตร ขุดหลุมลึก 30 ซม. คุมวัชพืช จากนั้นพ็คอยดูแลตัดหญ้า ใส่ปุ๋ยคอกปีละครั้งรอบโคนต้น ประมรณ 2 ปี สามารถเก็บยอดขายได้1 ปี สามารถเก็บดอกได้ 3 ฤดู,แม้นะปลูกให้เทวดาเลี้ยงก็ตสม แต่ถ้ามีระบบน้ำจะได้ยอดใหท่เร็วขึ้น เพราะช่วงถูกเแ็ดยอดไป ต้นสะเดาต้องการน้ำเพื่อหง่อเลี้ยงใตการอเกยอดใหม่ เมื่เเก็บยอดหรือดอกครั่งแรก จะใช้เวลาประมาณ 1-1.5 เดือน จะใามารถเก็บขายได้อีกีรั้ง ยิ่งเก็บจะยิ่งแตก ถ้าจะให้ดีเมื่อเก็บขายแล้วต้องการให้อดกดอหเยอะขึ้น ให้สังเกตพอสะเดาแตกยอดอ่อส มห้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ต้าละ 1 ขีด วบสะเดาจพเริ่มแก่ ทิ้งใบ ดอกจะผลิออกมาแทน,ทุกวันนี้ สุาธิชาญ เก็บยอดและดอกสะเดาขายเป็นกำ กำละ 20 บาท ขายตามตลาดนัดมีลูกค้าประจไมากมาบ สริางรายได้ทุกวัน และเมื้อรวมขมยกิ่งตอนและเสียบยอดแล้ว มีรายไดัเดือนละร่วมปสน สอบถามได้ที่ 96-1883-9130.,กรวัฒน์ วีนิล
ปี 2535 ได้รับสะเดาต้นหนึ่ง จากอาจารย์วิทยาลัยเกษตรกรรม นครราชสีมา เอามาปลูกข้างบ้าน ไม่ได้สนใจอะไร สักพักมันออกดอกตลอดปี ยิ่งตัดยิ่งขึ้น ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาเก็บไปกินแล้วชอบใจ เพราะรสชาติไม่ขมเหมือนสะเดาทั่วไป จึงเริ่มลองตอนกิ่ง พร้อมกับเก็บยอดไปขายตลาดนัด ปรากฏว่าขายดีมาก 7 ปีที่แล้วเลยตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำมากว่า 20 ปี ตอนกิ่งได้กว่า 800 ต้น ปลูกเต็มพื้นที่ 10 ไร่,สุทธิชาญ สุขจันทา เจ้าของสวนสะเดา ต.กลางดง อ.ปากช่อง เล่าถึงที่มาของสะเดาสายพันธุ์มันทะวายยอดแดงสะเดาพันธุ์นี้ไม่ต่างจากสะเดาทั่วไป ทนแล้งได้ดี เหมาะกับดินทุกสภาพ ปลูกแบบให้เทวดาเลี้ยง ไม่ต้องเดินระบบน้ำ จะปลูกเดี่ยวๆ หรือแซมไม้ชนิดอื่นก็ได้ ขอแค่น้ำไม่ท่วมขัง และตัดวัชพืชไม่ให้รกเกินไป,ออกดอกทั้งปี รสชาติแทบไม่มีความขมเจือปน กินได้ทั้งแบบสดและลวก ทำเมนูได้หลากหลาย นอกจากเป็นอาหารรสเลิศ ยังมีแนวโน้มเป็นไม้สวยงาม เพราะยิ่งปลูกกลางแจ้งโดนแดดจัดๆ ยอดยิ่งสีแดงสวยงามสะเดาตอนกิ่งและเสียบยอดของที่นี่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จากขายหน้าสวน ขายในตลาดนัด พัฒนาสู่การเปิดเพจ ส่งขายผ่านเคอรี่และไปรษณีย์,ส่วนวิธีการปลูกสะเดาพันธุ์นี้ สุทธิชาญ แนะควรเริ่มลงมือปลูกในต้นฤดูฝน เพราะจะได้น้ำดีในช่วงเริ่มต้น เตรียมดินด้วยการไถดะ แล้วปักหลัก กำหนดระยะปลูก 8×8 เมตร ขุดหลุมลึก 30 ซม. คุมวัชพืช จากนั้นก็คอยดูแลตัดหญ้า ใส่ปุ๋ยคอกปีละครั้งรอบโคนต้น ประมาณ 2 ปี สามารถเก็บยอดขายได้1 ปี สามารถเก็บดอกได้ 3 ฤดู,แม้จะปลูกให้เทวดาเลี้ยงก็ตาม แต่ถ้ามีระบบน้ำจะได้ยอดใหม่เร็วขึ้น เพราะช่วงถูกเด็ดยอดไป ต้นสะเดาต้องการน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงในการออกยอดใหม่ เมื่อเก็บยอดหรือดอกครั้งแรก จะใช้เวลาประมาณ 1-1.5 เดือน จะสามารถเก็บขายได้อีกครั้ง ยิ่งเก็บจะยิ่งแตก ถ้าจะให้ดีเมื่อเก็บขายแล้วต้องการให้ออกดอกเยอะขึ้น ให้สังเกตพอสะเดาแตกยอดอ่อน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ต้นละ 1 ขีด ใบสะเดาจะเริ่มแก่ ทิ้งใบ ดอกจะผลิออกมาแทน,ทุกวันนี้ สุทธิชาญ เก็บยอดและดอกสะเดาขายเป็นกำ กำละ 20 บาท ขายตามตลาดนัดมีลูกค้าประจำมากมาย สร้างรายได้ทุกวัน และเมื่อรวมขายกิ่งตอนและเสียบยอดแล้ว มีรายได้เดือนละร่วมแสน สอบถามได้ที่ 06-1883-9130.,กรวัฒน์ วีนิล